[จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบ]You're my fav person•คนโปรด•[Special Talk : HNY](01/01/2562)  (อ่าน 69116 ครั้ง)

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
คนนี้ป่าวที่ว่าแฟน

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อิพี่ลุคบางทีก็ดีบางทีก็น่าตบนั ส่วนมิทตี้ก็ดื้อเหมือนเดิม

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ออกนอกลู่นอกทางระวังเด้อ คึคึ!!! //อหหหหหหห.รวดเดียว 19ตอน อ่านทั้งวันจนจะไม่จะมีแรงเม้นท์แล้วค่ะ 555 สนุกกกมากกกกก ลูคัสโหดชิบสมกะSM ตอนยังไม่รู้ใจตัวเองช่วงทดลองคบเด็กนี้หมั่นไส้ ทำให้มิทตี้เสียใจ แต่พอรู้ใจ เขาดันไม่ยอมสยบ เริ่มพยศ ต่อต้าน จนกลัวกลายเป็นอีกคนไปเลยซะงั้น ร้ายปะทะแรง ละมันจะบาลานซ์กันได้ยังไงละเนี้ย ความรักของสองคนนี้จะเป็นแบบไหนว่ะ 5555  คนนึงต้องการกักขัง อีกคนต้องการอิสรภาพ  ก็นะลูคัสต้องยอมลง ทำให้เชื่อว่ารักเขาจริง มิทตี้อาจจะอ่อนลงบ้างก็ได้นะ ไม่พยศเยอะเหมือนเดิม เพราะไม่เคยมีความรักงั้นสิ  เลยไม่รู้วิธีแสดงออก ก็หน๊าคุณพี่มาเฟีย ถึงจะร้าย เขาชอบนะ 5555 ชอบที่แบบยอมให้มิทตี้คนเดียวอ่ะ ทำร้ายก็ทำร้ายด้วยมือตัวเอง แต่เพลาๆบ้างก็ดีนะลูคัสรักเขาชอบเขาก็อย่าทำร้ายอีก คราวนี้อาจจะเตลิดไปไกลนะเว้ย 555 รอดูจะปราบพยศยังไงจะเอาอยู่ไหม มิทตี้จะทำไรบ้างอีก นี้รอดูเลย ชอบบบบบบบ รอตอนต่อไปนะคะ มาต่อๆฮึบๆ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
 :z13: :z13:

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao3:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 19.2

ผมคุยกับปริมต่อ3-4ประโยค จากนั้นจึงส่งสติ๊กเกอร์ฝันดีให้เธอเพื่อเป็นการตัดบทและปริมเองก็คงจะรู้ว่าผมไม่อยากคุยต่อเลยส่งสติกเกอร์ฝันดีคืนมาให้ทั้งๆที่ยังหัวค่ำอยู่เลย ก็นะ...ผมก็ไม่อยากให้ความหวังเธอมากเกินไปนัก

ผมดูทีวีไปได้แปบๆก็ชักง่วง แต่ก่อนที่จะเผลอหลับไปจริงๆลูกน้องของไอ้เหี้ยลุคก็เดินมาสะกิดผมเบาๆ

“อะไร?”ผมถามทั้งๆที่สะลึมสะลืออยู่นิดหน่อย

“นายอยากคุยด้วยครับ”

“ไม่คุย ง่วง”ผมบอกอย่างเอาแต่ใจแล้วซุกหน้าลงกับหมอนอิง

“นายบอกว่าถ้าไม่ยอมคุย กลับมาจะไมให้ออกจากห้องทั้งเดือน”ดูมันขู่ คิดว่ากูจะกลัวนักรึไงวะ

“เอามาสิ!”ผมลุกขึ้นนั่งดีๆแล้วรับโทรศัพท์มาทั้งหน้ามุ่ยๆ มันวิดีโอคอลมาอีกต่างหากเลยเห็นหน้าผมเต็มๆ

(เพิ่งสามทุ่ม ง่วงแล้วเหรอเรา)คิดว่ามันน่าจะได้ยินที่ผมคุยกับลูกน้องมัน

“ก็ได้ยินนี่ แล้วจะกวนกูทำไม”ผมทำหน้าบึ้งใส่กล้อง

(พี่แค่คิดถึง อยากคุยด้วย)มันฉีกยิ้มบางๆ คิดว่าหล่อตายแหละ

“เหรอ?กูนึกว่าโทรมาเช็คว่าอยู่รึเปล่าซะอีก”

(ก็ด้วย)

“เหอะ!”

(อยากได้อะไรรึเปล่า?)

“ที่มาเก๊ามันมีอะไรที่เอามาฝากกูได้บ้างล่ะ?”ผมย้อนถามมันกวนๆ

(อืม...ไม่รู้สิ)มันทำท่านึกสุดท้ายก็บอกไม่รู้ คิดว่ามันคงไปที่นั่นเพื่อทำงานโดยเฉพาะ (แล้วมิทตี้ทานข้าวรึยัง?)

“แดกแล้ว”ผมไม่ได้มองกล้องเพราะมัวแต่กดเปลี่ยนช่องทีวีเลยไม่รู้ว่ามันทำหน้าแบบไหน เพียงแต่ได้ยินเสียงดุๆตอบกลับมา

(พูให้มันเพราะกว่านี้หน่อย)

“กูก็เป็นของกูแบบนี้มึงอย่ามาบังคับนักจะได้ไหม”ผมโต้มันอย่างไม่พอใจทันที

(ที่พี่บังคับเพราะหวังดี)มันพยายามบอกอย่างใจเย็น แต่ผมขึ้นแล้วไง

“มึงเก็บไว้ใช้เองเถอะ เพราะมันเป็นความหวังดีที่กูไม่ต้องการ!” ผมเหวี่ยงโทรศัพท์บนโซฟาแล้วยืนขึ้นเดินเข้าห้องนอนไม่สนใจเสียงที่มันเอ่ยเรียกผมอีก

ผมไม่เคยทำตัวงี่เง่าแบบนี้ใส่ใคร แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาสั่งมาบังคับไง แค่ที่ต้องทนอยู่กับมันผมก็อึดอัดมากพออยู่แล้ว ผมยอมกลับเข้ามาอยู่ในกรงของมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องยอมกลับไปเป็นของเล่นให้มันเหมือนเดิม ผมเป็นรองมันหลายๆเรื่องจนน่าหงุดหงิดจนบางทีก็เผลอทำนิสัยเสียๆออกไปเยอะเลย แต่ที่ผมแสดงออกไปแบบนั้นก็เพื่อให้มันรู้ว่าผมไม่เต็มใจ

แม้ว่ามันยากที่จะขัดขืน แต่ผมก็จะดิ้นรนอย่างสุดกำลัง

หรือสุดท้ายถ้าผมต้องกลับไปเจ็บอีก ผมก็จะลากมันให้ทุกข์ทรมานไปด้วยกัน!

สี่วันแล้ว ไอ้เหี้ยลุคไม่โทรหาผมอีกเลย ซึ่งนั่นก็ดีมากๆ สบายหู สบายตา และสบายใจ ผมออกไปดื่มกับเพื่อนและหิ้วสาวเข้าโรงแรมทุกวัน ใช้ชีวิตตามปกติอย่างที่เคยทำมา ไม่มีลูกน้องมันมาคอยห้ามหรือตามให้ผมกลับห้องมันด้วยซ้ำ ผมคิดว่ามันแปลกๆอยู่นิดหน่อยเพราะก่อนหน้านี้มันไม่ยอมให้ผมได้กระดิกตัวไปไหนเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองนะแต่มันไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องตัวผม ซึ่งผมคิดว่ามันโรคจิต

แต่ที่ไม่ตามก็ดีแล้วแหละ ผมจะได้ลั๊นลาได้อย่างสบายใจ  ผมกลับถึงห้องตัวเองเกือบๆตี5 วันนี้มีเรียนบ่ายยังมีเวลานอนอีกเหลือเฟือ เมื่อเปิดประตูเข้าไปไฟในห้องก็สว่างโร่เหมือนมีคนเปิดไว้(ผมไม่ได้ตั้งค่าเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ) พอเดินเข้าไปถึงในห้องนั่งเล่น ผมหายใจผมก็ติดขัดขึ้นทันที แล้วจังหวะที่มันหันหน้ามาสบตาด้วยผมรู้สึกหายใจไม่ออกชั่วขณะ

ผมไม่แปลกใจหรอกที่มันเข้าห้องผมได้(มันเป็นใครก็รู้ๆกันอยู่) แต่ตอนนี้คือตกใจมากๆเลยครับ มันนิ่งจนผมกลัวเลย

“ไปไหนมา”

“…”ผมเงียบ

“พี่ถามก็ตอบ!”ผมสะดุ้งเมื่อมันขึ้นเสียง

“ข้างนอก”

“ที่ไหน?”

“...”ผมไม่กล้าตอบว่ะ กลัวมันตอนนี้สัสๆ

“ที่ไหนมิทตี้!”

“ร้านเหล้า! โรงแรม!”ผมตะโกนตอบไปตามความจริง หน้าตามันเรียบตึงยิ่งกว่าเดิมอีก

“พี่ห้ามอะไรเคยฟังกันบ้างรึเปล่า? อะไรที่พี่ไม่ชอบทำไมถึงได้ดื้อดึงทำนัก!”

“ชีวิตกู!กูจะทำอะไรก็ได้!”

“แต่ชีวิตนายเป็นของพี่!” ผมแทบจะเถียงอะไรมันไม่ออก ได้แต่กำหมัดแน่นอย่างเจ็บแค้น “เรื่องผู้หญิงอย่าให้มีแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพี่ใจร้ายก็แล้วกัน”มันลุกขึ้นจากโซฟาเดินผ่านหน้าผมออกไปพร้อมลูกน้อง แต่ก่อนที่ร่างมันจะพ้นประตูมันก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค ตอกย้ำความรู้สึกเลวร้ายของผมเข้าไปอีก

“อย่าคิดว่าพี่ไม่ทำอะไรเพราะพี่ทำไม่ได้ แต่เพราะพี่ยังไม่อยากทำต่างหาก”

มันไปแล้วแต่ผมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอยู่หลายนาทีเหมือนทำอะไรไม่ถูก ในหัวมีอยู่สามคำลอยเต็มไปหมด

ผมเกลียดมัน เกลียดมากจริงๆ

++++++++++++++++++++

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบเที่ยงเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ผมโกรธจนนอนแทบไม่หลับ มาหลับอีกทีตอนสายๆเลยรู้สึกนอนไม่พออย่างไรก็ไม่รู้ แต่ก็ต้องฝืนสังขารอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน

ขณะที่รถติดไฟแดง ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คไลน์ซะหน่อย ปรากฏว่ารายชื่อเพื่อนในไลน์ผมเป็นร้อยๆเหลืออยู่แค่ไม่ถึงหนึ่งร้อย รายชื่อเพื่อนสนิทและเพื่อนในคณะยังอยู่ครบ แต่ไอ้ที่หายไปคือบรรดาสาวๆที่ผมคุยด้วยทุกคน! หายสนิทไม่เหลือแม้แต่แชท! ผมปิดไลน์แล้วเปิดเข้าไปดูรายชื่อเบอร์โทรศัพท์ แม่งหายเหมือนกัน!

ผมโกรธจนตัวสั่น รู้เลยล่ะว่าไอ้เหี้ยคนไหนทำ ตอนนี้ได้แต่พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็นเดี๋ยวจะขับรถไม่ถึงมหาลัย

พอถึงที่จอดรถคณะ ผมก็ใส่เบรกมือแล้วรีบกดโทรออกหาโยทันที ต่อสายไม่กี่วินาทีโยก็กดรับ

(ครับ)

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะโย!”

(ครับ?)

“เรื่องเบอร์กับไลน์ ‘เพื่อน’ผมที่หายไปฝีมือเจ้านายคุณใช่ไหม!”

(นายไม่ได้ทำนะครับ เป็นลูกน้องอีกคนหนึ่งทำ)คือเขาจะกวนตีนผมเหรอวะ?

“ก็นั่นแหละ! คำสั่งมันใช่ไหม!”

(ใช่ครับ)

กรอดดด ถ้ามือผมแข็งแรงกว่านี้สักหน่อยโทรศัพท์คงเละคามือผมแล้ว

“มันมากเกินไปแล้วนะ!นี่มันพื้นที่ส่วนตัวของผม!”

(ครับ) ดูเขาตอบผมสิ สำนึกสักนิดก็ไม่มี

“ผมโกรธนะโย”

(แต่นายท่านโกรธกว่า...ผมขออนุญาตแนะนำว่าอย่าทำให้ท่านโกรธมากกว่านี้เลยนะครับ)

“ก็ดีสิ!ผมจะทำให้มันโกรธจนกระอักเลือดตายไปเลย!”

(ผมเตือนแล้วนะครับ อ้อ เย็นนี้นายจะไปรับคุณสมิธนะครับ อย่าเพิ่งกลับก่อน)

“เหอะ!”ติ๊ด! ผมแค่ยเสียงไปคำเดียวแล้วกดวางสายโย อยู่รอให้โง่อ่ะดิ

+++++++++++++++++++++

บ้าเอ้ย!รถผมหาย! หายไปแบบไร้ร่องรอยเลย แล้วรถที่จอดอยู่แทนที่รถผมก็เป็นรถเบนซ์สีขาวคันหรูแทน และคนที่ออกมายืนรอรับก็คือโยนั่นเอง

“รถผมไปไหน!?”ผมถามโยอย่างเอาเรื่อง รถคันนี้ผมรักมากนะกว่าจะสั่งเข้ามาได้

“ที่จอดรถคอนโดฯGครับ”พอได้ยินคำตอบผมก็เตรียมหันหลังกลับไปโบกแท็กซี่ แต่เสียงจากโยก็ดังขึ้นขัดไว้ก่อน

“ขึ้นรถเถอะครับ ถ้ายังอยากได้รถคืน”

“ทำไมพวกคุณชอบขู่ผมนักวะ!”

“ก็ถ้าคุณสมิธยอมดีๆก็คงไม่ต้องขู่กัน”ผมกัดริมฝีปากข่มความโกรธ เลยเดินไปเปิดประตูรถแล้วยัดตัวเองเข้าไปนั่งแทน แม่งโกรธจนไม่รู้จะพูดยังไง ที่สำคัญคือโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยโว้ย!!!

“จะกินอะไร” เสียงทุ้มโมโนโทนเอ่ยถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากมหาวิทยาลัยได้สักพัก

“กูไม่กิน” ผมเอ่ยเสียงห้วนแข็งๆตอบกลับมันไป สายตามองออกไปนอกรถ จราจรในกรุงเทพช่วงเวลาห้าโมงเย็นนี่เป็นอะไรที่ผมโคตรจะเกลียด แต่ก็เกลียดได้ไม่ถึงเสี้ยวของอะไรคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมหรอก

“กัซเซปเปสไหม อาหารอิตาเลี่ยนที่นายชอบ” มันเอ่ยชื่อร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ผมชอบไปกินอย่างไม่สนใจคำปฏิเสธ ผมจิ๊ปากอย่างรำคาญมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่หวังว่ามันจะเลิกพล่ามไปเอง

“ผู้ใหญ่ถามทำไมไม่ตอบ หืม?” มือหนายื่นมาเชยคางผมให้หันไปมองหน้ามัน ผมปัดมือมันออกจากหน้าด้วยความรังเกียจ สายตาตวัดมองมันเหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง

“กูเลือกตอบเฉพาะกับคน สัตว์กูไม่อยากพูดด้วย”ผมพูดเน้นคำใส่หน้ามันเต็มๆ ใบหน้าคมออกหวานเหยียดยิ้มนิดๆอย่างที่ผมรู้คือมันเริ่มหงุดหงิดแล้ว

“ปากนี่มันทำจากอะไร เวลาจูบก็นิ่มดีอยู่หรอก แต่ทำไมเวลาพูดมันถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้” มันเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม สายตาแพรวระยับที่ผมโคตรขยะแขยงจ้องมองริมฝีปากผม ผมกัดฟันกรอด

“ไม่ต้องมาพล่ามมาก กูไม่เคยจูบกับเหี้ย”คิ้วไอ้นรกนี่กระตุกข้างหนึ่ง

“พูดให้มันดีๆกว่านี้สมิธ อย่าทำให้พี่โมโห” มันกดเสียงต่ำลง

“ก็เอาดิ เชิญมึงโมโหได้ตามสบาย แล้วไง? จะฆ่ากูเลยไหมล่ะ” ผมเอ่ยตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวแม้ในใจจะหวั่นมากแค่ไหนก็ตาม

“ก็ไม่ฆ่าหรอก แต่จะทำอย่างอื่นแทน...กลับคอนโดฯ”ท้ายประโยคมันสั่งลูกน้องมันเสียงนิ่ง ลมหายใจผมสะดุดทันที

“มึงคิดจะทำอะไร” ผมขยับตัวชิดกับประตูรถ

“ก็จะทำให้นายเห็นไงว่าเวลาที่พี่โมโหนายจะเป็นยังไง...จำได้ไหม” มันแสยะยิ้มที่ทำให้ขนทั้งตัวผมลุกเกรียว

“มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ ไหนว่าสัญญาแล้วไง” ผมเสียงสั่นโดยไม่รู้ตัว มันน่ากลัวเกินกว่าผมจะรับไหวได้อีกแล้ว ผมทวงสัญญาแม้ว่าจะรู้ว่ามันสิ้นสุดตั้งแต่ผมเดินเข้าไปหามันในวันนั้นแล้ว แต่ผมก็หวังว่ารูปร่างผมเปลี่ยนไปขนาดนี้แล้วมันคงไม่อยากแตะต้องอะไรผมอีก

“ทีตอนนี้ทำมาทวงสัญญา...แต่พี่จะบอกอะไรให้นะ สัญญามันขาดลงตั้งนานแล้ว ที่พี่ยังปล่อยให้นายอิสระก็เพราะพี่อยากตามใจนาย แต่เห็นทีความใจดีของพี่จะไม่เป็นผล ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมนั่นแหละง่ายดี” มันพล่ามยาวเหยียด คำพูดของมันแทบจะไม่เข้าหูผมด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีเมื่อรถเบนซ์เลี้ยวเข้าคอนโดฯที่ถึงเร็วกว่าที่คาด

ผมเหมือนเห็นประตูนรกกำลังจะเปิดออก

ผมจะทำยังไงดี

.

.

.

“ปล่อยกูนะเว้ย!” ผมถูกลากลงจากรถแม้จะดิ้นรนหรือขัดขืนมากแค่ไหนแต่การ์ดสองคนของไอ้สัตว์นรกนั่นก็แข็งแรงกว่าผมมาก ผมแหกปากร้องโวยวายไปตลอดทาง แต่เหมือนสวรรค์จะนึกชังหน้าผมเพราะไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยผมเลยสักคน ไอ้เหี้ยลูคัสเดินนำด้วยฝีเท้ามั่นคงไม่สนใจเสียงร้องโวยวายจากผมเลยสักนิด เป็นไปได้ผมอยากกระโจนไปบีบคอมันให้ตายจริงๆ

“พาไปไว้ในห้องเล็ก...มัดไว้ด้วย” มันเอ่ยเสียงนิ่งทันทีที่พวกเราเดินเข้าไปในห้อง แล้วมันก็ทำท่าจะเดินแยกไปอีกทาง

“ไม่!ลูคัสไม่! ปล่อยกู ขอร้องล่ะ” ผมตะโกนไล่หลัง แต่ปีศาจมันก็คือปีศาจ มันไม่เคยมีความเมตตาให้กับใครอยู่แล้ว

ผมโดนลากมาอีกห้องโดนการ์ดจับแขนกดลงกับเตียง โยฮันเนสเดินตามหลังเข้ามาในห้องแล้วเดินไปหยิบเชือกสีฟ้าจากลิ้นชักมามัดแขนผมไว้กับหัวเตียง  ผมดิ้นจนเจ็บแม้เชือกจะนุ่มและเหนียวแต่ก็ทำแขนผมแดนเป็นปื้นเลยทีเดียว

“โย...ปล่อยผมนะ” ผมเอ่ยขอร้องโยหลังจากที่เขามัดแขนผมเสร็จแล้ว เขามองผมด้วยสีหน้าหนักใจแต่สายตาก็สะท้อนออกมาว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยตามที่ผมขอแน่ๆ

“คุณไม่ควรไปท้าทายนายท่าน ตอนนี้ท่านเริ่มโกรธแล้ว อย่าดื้อเลยนะครับจะได้ไม่เจ็บตัวมาก” คำพูดของโยทำให้ผมชาวาบไปทั้งตัว ความสิ้นหวัง หวาดกลัวคืบคลานกัดกินหัวใจผมอีกครั้ง

“ออกไปให้หมด” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นที่หน้าประตูห้อง ไม่รู้ว่ามันโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ชุดเสื้อคลุมสีกรมที่มันใส่อยู่ตัวเดียวตอนนี้ก็ทำผมสั่นสะท้านไปหมดแล้ว

โยและลูกน้องอีกสองคนรีบเดินก้มหน้าออกจากห้องตามคำสั่งของเจ้านาย มิวายช่วยปิดประตูให้อีกต่างหาก

“ไง ไม่ปากดีแล้วหรอ” มันเดินกอดอกมาหยุดที่ปลายเตียง ริมฝีปากเรียวบางแสยะยิ้ม ผมสีบลอนด์ทองปล่อยยาวแผ่กลางหลัง เครื่องหน้าที่ใครๆก็บอกว่าหล่อออกสวยเหมือนเทพบุตรจากสวรรค์  แต่สำหรับผมมันคือปีศาจจากนรกดีๆนี่เอง

“ปล่อยกูเดี๋ยวนี้!”

“พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือไง”

“แน่จริงมึงมาสู้กับกูอย่างลูกผู้ชาย จับกูมัดแบบนี้มันพวกหน้าตัวเมีย”

“หึ!ก็ได้อยู่หรอก สู้กันตัวต่อตัว เสื้อผ้าไม่ต้อง” พูดจบมันก็ก้าวขึ้นเตียงพร้อมกระชากขาทั้งสองข้างผมเข้าไปใกล้ตัวเองจนแขนผมที่ถูกพันธนาการไว้เหยียดตึงจนเจ็บ

“ไอ้เหี้ย! หยุดทำเรื่องทุเรศวิปริตกับกูสักที เด็กมึงมีเยอะแยะทำไมไม่ไปทำห๊า!!!” ผมตะคอกด่ามันสุดเสียง สองขาก็ทั้งเตะทั้งถีบมันไปมาเมื่อมันพยายามจะปลดตะขอและถอดกางเกงนักศึกษาผมออก จนในที่สุดไอ้สัตว์นรกลูคัสก็กระชากกางเกงและอันเดอร์แวร์หลุดจากขาผมจนได้

“เพราะนายคือคนโปรดที่พี่เล่นได้ด้วยไม่เคยเบื่อ ภูมิใจซะสิเด็กน้อย”มันพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี ตอแหลได้ออสการ์เลยมึง

ภูมิใจพ่อมึงสิไอ้สัตว์!

“เมื่อไหร่มึงจะเบื่อ ช่วยเบื่อกูสักที!ปล่อยกูไปไม่ได้หรอลุค” ผมพูดเสียงอ่อนในท้ายประโยค

“ยังไม่ใช่ตอนนี้” น้ำเสียงเย็นเยียบถูกเปล่งออกมาจากอีกฝ่าย

มันขยับขึ้นมานั่งทับหน้าขาผมไว้ไม่ให้ดิ้น ก่อนจะสอดมือเรียวยาวเข้ามาในเสื้อผมช้าๆ ลากไล้ไปมาเบาๆจนขนลุกไปทั่วทั้งกาย ส่วนมืออีกข้างก็ปลดกระดุมเสื้อผมออกช้าๆอย่างไม่รีบร้อน ในขณะที่ตัวผมดิ้นจะเป็นจะตายกลับขัดขืนอะไรไม่ได้เลยสักนิด

“พอเถอะลุค กะ...ผมขอโทษถ้าพูดอะไรไม่ดีออกไปให้คุณไม่พอใจ แต่ได้โปรดเถอะอย่าลงโทษผมอย่างนี้...คุณเห็นร่างกายผมตอนนี้ไหม แขนขาผมไม่ได้เรียวเล็กเหมือนอย่างแต่ก่อน เอวก็ไม่ได้บางแม้แต่นิดซิกแพ็คเป็นลูกๆ ผมล่ำพอๆกับคุณด้วยซ้ำ คุณไม่ขยะแขยงบ้างหรือไง” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมมันดีๆเลิกถือศักดิ์ศรีและเอ่ยขอร้องมันแทน ผมยอมทุกอย่างเพื่อที่จะได้ไม่ถูกกระทำเหมือนเมื่อก่อน 

สิ่งที่ผมพูดไปเป็นความจริงทุกอย่าง ผมไม่ใช่เด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารักอีกแล้ว ผิวยังขาวสู้มันไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ่งหน้าตาอย่าไปพูดถึง ไม่ใช่สเป็คมันเลยสักนิด ของเล่นของมันถ้าเป็นผู้ชายต้องตัวเล็ก หุ่นบางเหมือนผู้หญิง หน้าตาแต่ละคนก็สวยเด็ดกันทั้งนั้น กับผู้หญิงมีบ้างแต่มันไม่ค่อยเลี้ยงไว้ด้วยเหตุผลไม่ทนไม้ทนมือเหมือนผู้ชายไงล่ะ(รู้มาจากเกรย์)

“ใช่ ไม่เห็นน่ารักเท่าเมื่อก่อนเลย” ผมหลุดยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย่างเข้าคอนโดฯมีความหวังว่ามันคงจะไม่ได้ทำอะไรๆอย่างที่ผมคิด

“แต่...คิดว่ามีแค่ร่างกายหรอที่ทำให้พี่โปรดนายเป็นพิเศษ ถึงตอนนี้จะตัวใหญ่ไปหน่อยแต่ก็น่าลองไปอีกแบบ หึ!” ริมฝีปากผมหุบฉับ หน้าซีดลงเรื่อยๆความหวังที่มีอยู่เลือนรางดับวูบ มารู้ตัวอีกทีมันก็ปลดกระดุมผมออกหมดแล้ว มือเรียวสวยยื่นมาขยี้ยอดอกผมแรงๆทันที

“อ๊ะ...มึงมันชาติสัตว์ สันดานเดรัจฉาน ผิดสัญญากับกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า!!” ผมข่มความรู้สึกแปลกๆของร่างกายแล้วตะคอกด่ามันอย่างสุดจะทน สมองเค้นหาคำด่าที่จะด่ามันให้เจ็บที่สุด ให้ได้สักเศษเสี้ยวที่ผมรู้สึกบ้างก็ยังดี

“พี่ไม่เคยผิดสัญญา นายเป็นคนเดินเข้ามาหาพี่เอง!” มันขึ้นเสียงบ้างแต่ยังรักษาสีหน้าตอแหลไว้ได้อย่างแนบเนียน(?)

“มึงบีบกู หลอกใช้ไอ้รันต์ วางแผนเอาไว้แล้วทุกอย่าง มึงยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกหรอ มึงใช่ลูกผู้ชายไหมลุค มึงยังมีความเป็นคนอยู่ไหม!!!”

“แล้วไง? พี่ไม่ได้อยากเป็นคนดีในสายตาใครอยู่แล้ว แค่ได้สิ่งที่ต้องการจะสนวิธีการไปทำไม” มันเหยียดยิ้มชั่วช้าออกมา นี่แหละสีหน้าจริงๆของมันที่คนอื่นไม่เคยได้เห็น ผมโกรธจนแค่นหัวเราะออกมา

“เหอะ! เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงกูถึงได้เกลียดมึงทุกลมหายใจเข้าออก”

“ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เกลียดเข้าไปเยอะๆให้ในหัวนายมีแต่พี่คนเดียว” มันพูดจบก็กระแทกริมฝีปากใส่ริมฝีปากผมอย่างแรง ย้ำ!นะครับว่ากระแทกจนได้เลือด มันทั้งดูดทั้งขบเม้มปากผมแรงๆจนริมฝีปากบวมเจ่อ ตอนมันสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากผมพยายามจะกัดลิ้นมันจนโดนปลายๆลิ้นมัน เลยโดนมันตบจนเลือดกบปากอีกรอบ ดวงหน้าคมหวานเคลื่อนไปกัดตามลำคอและไหปลาร้าจนแดงช้ำแทบไม่เหลือพื้นที่ผิวปกติ

“อ๊าก!!!เจ็บ!” ผมร้องลั่นห้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อสองนิ้วเรียวยาวแทงพรวดเข้ามาในช่องทางด้านหลังอย่างทื่อๆไร้ตัวช่วย มันขยับเข้าออกแรงๆแล้วเพิ่มนิ้วที่สามเข้ามาอย่างรวดเร็วจากที่เจ็บๆก็ชาไปหมดแล้ว

ผมหลับตายิ้มสมเพชรับความทรมานขั้นแรก ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านไปให้เร็วที่สุดไม่ก็ขาดใจตายๆไปซะ

แล้วอย่าให้ถึงทีผมบ้าง ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ผมจะทำให้มันเจ็บจนมีสภาพแย่ยิ่งกว่าหมาข้างถนนเลย!

(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
[ต่อ]

 . 



.

 “แฮ่กๆ อื้อ!!!”ผมกัดริมฝีปากข่มกลั้นเสียงไว้ทุกครั้งเมื่อมันกระแทกตัวเข้าใส่ช่องทางผมอย่างดุดัน  มือทั้งสองข้างกำผ้าปูที่นอนไว้เพื่อระบายความเจ็บแสบของช่องทางด้านหลังรอบที่เท่าไหร่ของคืนนี้ก็ไม่รู้ มันพรมจูบไปตามแผ่นหลังผมพร้อมขบกัดแรงๆอย่างไม่ปรานี  จมูกโด่งซุกดมไปทั่วทำให้ผมรู้สึกรังเกียจมากกว่ารู้สึกดี

“นายโตขึ้นก็ดีเหมือนกัน เพราะตรงนี้ของนายมันรับตัวตนของพี่ได้พอดี...อ่าห์”มันพูดจาหยาบโลนชิดใบหูผม ริมฝีปากก็พรมจูบไปตามขมับและแก้มผมไม่หยุด พอผมสะบัดหน้าหนี มันก็ใช้มืออีกข้างล็อคหน้าผมไว้แล้วกระแทกจูบใส่แรงๆจนปากแตกเหมือนลงโทษกันมากกว่า ผมแทบไม่มีเสียงจะด่ามันเพราะเหนื่อยจากการถูกใช้ร่างกายหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง

จากนั้นมันก็จับผมนอนหงาย ถอนตัวออกแล้วถ่างขาผมออกกว้างจนน่าอาย ก่อนที่มือเรียวจะจับมังกรของตัวเองกดเข้าใส่ช่องทางผมอีกครั้ง มันแสบมากแต่ผมก็รู้สึกเสียวมากเช่นกัน

ไอ้เหี้ยลุคก้มลงจูบปากผมอีกครั้ง มันดูดเอาๆจนรีฝีปากผมชาหนึบและเลือดออกอีกรอบ ส่วนล่างก็กระแทกย้ำถี่ลงมาดังตั่บๆๆ  ผมตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก เล็บทู่ๆของผมจิกอย่างแรงไปที่แขนกับหลังมันโดยไม่รู้ตัว มันยิ่งกระแทกสะโพกใส่ผมหนังหน่วง ตรงส่วนนั้นของผมทั้งแสบและร้อนผ่าว แต่ทุกครั้งที่มันกระแทกมังกรยักษ์ไปโดนจุดนั้นมันก็มีความรู้สึกเสียวซ่านปะปนมา

ผมรู้สึกเสียวมากเหมือนจะเสร็จแต่มันเหมือนยังไม่ถึงสักที ลูคัสจึงใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้จับเอวผมมาสาวรูดชักแก่นกายให้แรงๆ บวกกับที่มันกระแทกกายใส่ทางด้านหลังผมย้ำๆไม่หยุดทำให้ผมเหมือนเห็นสวรรค์อยู่ปลายทาง ด้านหลังผมบีบรัดนัดจนไอ้เหี้ยลุคซี๊ดปาก ตัวผมเกร็งแล้วกระตุกปลดปล่อยคามือมัน หยาดน้ำคาวสีขุ่นพุ่งเปรอะเปื้อนจนถึงหน้าอกของตัวเอง ผมหอบหายใจแฮ่กๆ

ไม่นานไอ้ชั่วที่ข่มขืนผมอยู่ด้านบนก็จับเอวผมตรึงไว้แน่น มันสอดกระแทกลำตัวยาวใหญ่ของมันเข้ามาแรงเร็วจนผมรู้สึกว่าช่องทางด้านหลังแทบจะชาแล้วด้วยซ้ำ มันโน้มตัวลงมาจูบผมอีกรอบ ผมเปิดปากให้มันสอดลิ้นเข้ามาให้มันทำจนพอใจจะได้จบๆไป ถ้าผมยังขัดขืนมากกว่านี้มีแต่จะเจ็บตัวเพิ่มซะเปล่าๆ

มันย้ำกายใส่อีกแค่ไม่กี่ทีก็กระตุกปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาเต็มช่องทาง มันขยับตัวย้ำอีกสามสี่ครั้งเพื่อฉีดพ่นน้ำออกมาให้หมด

“พอแล้ว”ผมห้ามมันเมื่อมันถอนจูบออกแล้วดูดคอช้ำๆของผมต่อ ไอ้เหี้ยลุคไม่ตอบแต่เคลื่อนริมฝีปากไปจูบที่ยอดอกผมอีกครั้ง มือมันก็ขยับไปรูดแก่นกายผมที่สงบให้ตื่นอีกรอบ มันเล้าโลมผมจนมังกรมันที่แช่คาในช่องทางนั้นขยายใหญ่ขึ้นมาอีกรอบ ผมเริ่มน้ำตาปริ่มเพราะเจ็บร้าวไปทั้งร่าง ทำไมกูไม่สลบไปเลยเหมือนตอนเด็กๆวะ

“ต่อให้ร้องไห้พี่ก็จะไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ มิทตี้ดื้อกับพี่ก่อนเอง ครั้งนี้พี่จะลงโทษ”

“แล้วมึงจะลงโทษอะไรนักหนา จะทำให้กูตายคาคว_มึงเลยไหม!”ผมตะคอกอย่างโมโห เหนื่อย!เจ็บ!ง่วง!

“พี่รู้ลิมิตนายดี ไม่ทำให้ตายง่ายๆหรอกไอ้เด็กดื้อ ฟอด!”เหมือนมันจะอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วเพราะก่อนหน้านี้ที่ทำมันไม่ยอมคุยกับผมดีๆเลย

“กูไม่ไหวแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนด้วย”ผมเสียงอ่อนลงเพราะมันเริ่มขยับสะโพกอีกแล้วไง

“ถ้ามิทตี้เป็นเด็กดี จบรอบนี้จะคิดดูอีกที”มันโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมอีกรอบ แล้วเริ่มขยับกายเนิบๆกระทำชำเราผมต่อทันที! 

+++++++++++++++++

ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาตอนประมาณตีสี่ ปวดเมื่อยตั้งแต่หัวจรดตีนแต่ก็ต้องฝืนสังขารที่หนักอึ้งไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและส่วนที่ตกค้างจากข้างในออกให้หมดไม่อย่างนั้นผมจะปวดท้องมาก ผมอ้วกไปรอบหนึ่ง ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นแล้วลากสังขารเอื่อยๆมาที่เตียง

พอเห็นสภาพที่นอนที่มีแต่คราบน้ำกามและเลือดก็ทำผมอดหันหน้าหนีไม่ได้ ผมผะอืดผะอมขึ้นมาอีกรอบจนสุดท้ายก็วิ่งไปอ้วกอย่างกลั้นไม่ไหว พอกลับมาที่เตียงก็กลั้นใจดึงผ้าปูที่นอนออกเอาไปโยนทิ้งไว้ไกลๆสายตาแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนอีกครั้งทั้งๆที่ตัวสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำ

เป็นปอดบวมตายก็ช่างแม่งเหอะ เจ็บจนจะตายอยู่แล้ว

ผมปิดไฟแล้ว ร่างกายทรมานมากแต่ผมไม่อาจข่มตาหลับได้เลย

จริงอยู่ที่ว่าผมกลัว...แต่ที่มีมากกว่านั้นคือผมขยะแขยงร่างกายตัวเอง ทั้งๆที่โดนมันทำไปตั้งขนาดนั้นไอ้ร่างกายนี่ยังเสือกเสร็จสมไปกับมัน มันน่าเจ็บใจจริงๆ

ผมจึงได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าผมเป็นผู้ชายและมีอารมณ์ทางเพศสูง โดนชักนำไปแบบนั้นมันก็ต้องรู้สึกเป็นธรรมดานั่นแหละ! 



.

 . 

“พรุ่งนี้พี่จะกลับไปดูงานที่ลาสเวกัส”ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยบอกขณะที่ผมกำลังตักเส้นพาสต้าเข้าปากอย่างหิวโหย อ่อลืมบอกว่าตอนนี้เที่ยงกว่าแล้วครับ ผมอยู่ที่ร้านกัซเซปเปซและกำลังโซ้ยพาสต้าครีมซอสที่ผมชื่นชอบเป็นจานที่สาม ผมยิ้มลิงโล้ดอยู่ในใจที่มันจะไปให้พ้นหน้าผมตั้งหนึ่งสัปดาห์ แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะของกินเต็มปากและไม่อยากพูดกับมัน  หิวมากจริงๆครับไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเมื่อวานอ่ะคิดดู อีกอย่างต้องรีบทำเวลาเพราะบ่ายสองมีเรียนวิชาเมเจอร์น่ะสิครับ

ถามว่าทำไมผมถึงลุกมาเรียนไหวบอกได้คำเดียวครับว่า...ผมเก่ง!

เอาเป็นว่าตอนนี้ร่างกายผมแข็งแรงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ถึงโดนทำไปขนาดนั้นก็สาหัสอยู่ดีครับ

“หึ! ดีใจจนออกนอกหน้าเลยนะ พี่ไม่อยู่ไม่ได้หมายความว่าจะเกเรได้หรอกนะ”มันยื่นมือมายีหัวผมเบาๆแต่ผมก็ปัดออกด้วยความรำคาญก่อนจะยกมือขึ้นเรียกบริกรเพื่อจะสั่งเมนูต่อไป มันก็ไม่ได้ว่าอะไรกับท่าทางของผมเพียงแค่ยื่นมือไปหยิบแก้วแชมเปญมาจิบดูผมกินเงียบๆ

เหอะ!คิดว่าห้ามกูได้ก็เชิญ อ้อ...อย่าคิดว่าผมจะกลัว ภารกิจผมคือทำให้มันอยู่ไม่สุขคือเป้าหมาย!

ผมใช้เวลาจัดการอาหารที่เพิ่มมาอีกสี่อย่างภายในเวลายี่สิบนาทีนิดๆเท่านั้น...อิ่มครับ

จากนั้นไอ้สัตว์นรกมันก็พาผมเดินย่อยอาหารโดยการเลือกซื้อของที่อยากได้อะไรก็ได้กี่อย่างก็ไม่ว่าตามต้องการ เหมือนเป็นธรรมเนียมหลังจากมีเซ็กส์แล้วมันก็จะให้ของรางวัลปลอบใจให้ของเล่นเสมอแหละ แต่ก่อนถึงแม้ผมจะไม่ได้ไปเลือกด้วยตัวเองแต่ก็จะมีของส่งตรงถึงห้องตลอด

แล้วผมรับไหมน่ะเหรอ?...แน่นอนว่าจำเป็นต้องรับครับ

ผมเคยหัวแข็งไม่รับเลยโดนทำแบบ...ไปสี่น้ำ หรือว่าเคยรับแล้วโยนใส่หน้ามันก็มี ครั้งนั้นโดนตบจนฟันแทบร่วงแถมยังโดนทำจนสลบอีก

ตั้งแต่นั้นผมก็ไม่กล้าทำแบบนั้นใส่มันอีกเลย

ผมเดินเข้าเดินออกช็อปนั่นนี่เป็นว่าเล่น ผมไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษแต่เลือกซื้อให้คนอื่นๆเพื่อผลาญเงินมันเล่น แม้ว่าจะใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดสักทีก็เถอะ

จนกระทั่งผมเมื่อยขาและปวดตูดจนแทบจะฝืนเดินต่อไม่ไหวแล้วนั่นแหละถึงได้หยุด(ทำอะไรไม่ดูสังขารอีกแล้วกู) หันไปมองด้านหลังก็เห็นโยกับลูกน้องอีกคนหิ้วถุงแบรนด์เนมต่างๆจนล้นมือ 

มีคนมองพวกเราอย่างสนใจที่เห็นฝรั่งร่างใหญ่สี่คนแถมหล่อมาก(ผมเอง)เดินไปเดินมาทั่วห้างดัง นี่ขนาดไอ้พวกนี้ไม่ได้ใส่สูทสีเข้มน่ากลัวอะไรพวกนั้นนะ คนยังสนใจมองขนาดนี้ ผมไหวไหล่นิดๆแล้วเอ่ยขึ้นลอยๆว่าพอแล้วแต่หิวน้ำ

มันก็พาผมไปซื้อโกโก้ปั่นใส่วิปชาเขียวที่ร้านคาเฟ่ชื่อดังในห้าง จนในที่สุดก็ถึงเวลาที่ควรไปเรียนของผมสักทีนั่นแหละถึงได้พากันออกจากห้าง

ดูเหมือนมันจะตามใจผมนะ แต่เชื่อสิ ผมไม่เคยต้องการเลยสักนิด

จนกระทั่งรถจอดสนิทที่หลังตึกคณะ ผมหันไปคว้ากระเป๋าที่วางอยู่กลางเบาะแต่ข้อมือก็ถูกคว้าไว้ก่อน

“ตอนเย็นพี่มารับที่นี่” ไม่ใช่คำบอกเล่าแต่เป็นคำสั่ง ผมชักสีหน้าหงุดหงิด

“กูมีโปรเจ็คกลุ่ม ต้องช่วยเพื่อนทำก่อนเดี๋ยวกลับเอง” ผมโกหก ใครบอกว่ามันตอแหลเป็นคนเดียวล่ะ

“สี่ทุ่มพี่ต้องเห็นหน้านายที่ห้อง ห้ามสายแม้แต่นาทีเดียว” มันพูดเสียงเรียบๆจ้องหน้าผมนิ่งๆจนผมใจกระตุกกลัวมันจับได้

ผมจึงพยักหน้ารับแบบขอไปที แล้วเตรียมจะลงจากรถแต่ก็โดนมันดึงไว้อีก ผมกำลังจะหันไปด่าด้วยความปากไว แต่พอหันไปกลับถูกไอ้เหี้ยลูคัสประกบจูบเข้าเต็มๆ มันบดจูบอ้อยอิ่งวาบหวามแต่ไม่ได้สอดลิ้นเข้ามา

ผมกำสายกระเป๋าแน่น...อดทนไว้สมิธ!

มันจูบผมนานหลายนาทีก่อนจะถอนจูบออก และในจังหวะที่มันถอนริมฝีปากออกไปมันก็ตวัดลิ้นเลียเหนือริมฝีปากผมเบาๆ ผมเห็นวิปปิ้งครีมติดปลายลิ้นเข้าไปในปากมัน

“กินเหมือนเด็ก” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่มันก็ยืดตัวกลับไปนั่งพิงเบาะหลังตรงสายตามองไปอีกทางเหมือนไม่ใคร่จะสนใจผมนัก ผมยกมือเช็ดปากลวกๆ โยลงมาเปิดประตูรถให้ผม การ์ดอีกคนหนึ่งก็ยื่นถุงของมาให้

ผมคว้าถุงมาถือไว้อย่างหงุดหงิดแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวขึ้นตึกทันที

มันก็เป็นซะแบบนี้ ชอบทำเหมือนคนอื่นเป็นแค่ของเล่น

นึกอยากจะใส่ใจก็ทำ นึกจะทิ้งก็ทำได้อย่างเลือดเย็น

ถึงพังก็ซื้อใหม่หรือไม่ก็แค่ซ่อมมัน

แต่มันคงลืมไป ว่าของเล่นก็พังจนซ่อมไม่ได้เป็นเหมือกัน 

+++++++++++++++++++

 แอบหยิบบางส่วนมาจากอีกเรื่องเพิ่มเติมคือnc ที่หายไป เฮียนี่ก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆ คิดจะเลี้ยงเด็กต้องใจเย็นนะคะ อิอิ และแจ้งข่าวร้าย(นิดๆ) สำหรับเดือนนี้(มิ.ย)เปรมมีภารกิจที่ต้องทำหลายอย่างทั้งสอบ(เรียนซัมเมอร์)และปั่นตอนพิเศษของอีกเรื่องส่งสนพ.(เดดไลน์สิ้นเดือนนี้) เปรมอาจจะมาช้ามากแต่จะมาตอนเต็มยาวโดยไม่หั่นตอนนะคะ รู้สึกเห็นใจทุกคนที่รอมาก แต่อยากให้เข้าใจเปรมแล้วอดทนรอกันอีกนิดนะคะ เปรมจะพยายามมาลงให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ ระนะทู้กคนนนน <3

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เลวได้เสมอต้น เสมอปลายได้ดีมาก นังลู  o12

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อิลุคแกควรถนอมๆเมียแกนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
เมือไหร่มันจะยอมรับใจตัวเองซักทีว่ารักมิทตี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: You're my fav person•คนโปรด•(Drama,SM)ตอนที่19.2[22/06/61]
« ตอบ #189 เมื่อ: 22-06-2018 11:54:34 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
รอติดตาม
ตอนต่อไปครับ


        :110011:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
เจ็บปวดแทนสมิธ  อยากเห็นบทลงโทษของลู่ อยากให้ลู่เจ็บปวดเหมือนที่สมิธเจ็บ

และไม่อยากให้สมิธใจอ่อนเลย  ถึงแม้จะชอบนิยายแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
แต่พอเรื่องนี้อยากให้จบแบบแบดเอ็นมาก เกลียดลู่   

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
คนโปรด 20

“โห!นี่มึงหอบอะไรมาเยอะแยะเลยเนี่ย”ไอ้ตี๋ทักขึ้นเสียงดีงเมื่อเห็นผมหอบถุงพะรุงพะรังเข้าห้องเรียน

“เครื่องซักผ้ามั้งสัส ก็เห็นอยู่”ผมก็ตอบมันไปตามนิสัย

“ไอ้เหี้ยนี่ กูถามดีๆเสือกมากวนตีน มึงไม่กวนตีนกูสักวันมันจะตายป่ะ”

“ไม่ตาย แต่เหมือนจะขาดใจ”ผมวางถุงของลงข้างโต๊ะเลคเชอร์ของตัวเองก่อนจะหันไปยักคิ้วกวนตีนไอ้ตี๋น้อย ไอ้เซนท์พุ่งเข้ามาบีบคอผมด้วยความหมั่นไส้เหมือนที่มันชอบทำประจำ แต่คราวนี้ขาผมไม่ค่อยมีแรงบวกกับเจ็บสะโพกด้วยเลยรับแรงไอ้ตี๋ไว้ไม่อยู่ ล้มโครมไปตามๆกันทั้งสองคน

“โอ้ย!”ผมอุทานไอ้คำเดียวเท่านั้นแหละครับ เจ็บจนพูดไม่ออกเลย ที่เจ็บสุดก็ก้นกูนี่แหละสาดดด แถมผมยังเป็นเบาะรองรับไอ้เชี่ยเซนท์อีก

“เฮ้ย!ขอโทษ มึงเป็นไรมากไหมวะ”ไอ้ตี๋ถามลนๆเพราะหน้าผมคงแสดงทุกอย่างออกหมดแล้ว

“เออ เอากูขึ้นก่อน”ไอ้ทศที่นั่งอยู่ใกล้ๆเป็นคนดึงมือผมให้ลุกขึ้นแทน ส่วนไอ้เซนท์มันลุกขึ้นเองได้เพราะไม่ได้เจ็บอะไร

“กูไม่ได้ตั้งใจนะมึง ก็ปกติมึงไม่เคยล้มอ่ะ”วันนี้กูไม่ปกติไงครับ

“เออไม่เป็นไร กูตั้งตัวไม่ทันเฉยๆ”

“แต่เมื่อกี้มึงร้องดังมากเลยนะ อย่างกับควายถูกเชือดคอ”ผมผลักหัวไอ้ตี๋แรงๆไปทีเพราะหมั่นไส้คำพูดของมัน

“ควายมันถูกเชือดคอจะร้องได้ไงไอ้โง่ ว้ายๆๆ”ผมแลบลิ้นล้อเลียนมัน เลยถูกกำปั้น(ไม่เล็ก)ฟาดใส่ตัวไปหลายที

“เมื่อกี้กูน่าจะกระทืบมึงซ้ำอีกที”มันเบะปากให้อย่างงอนๆ

“ฮ่าๆๆ ไม่งอนพี่นะน้องโอ๋ๆ นี่กูอุตส่าห์ซื้อของมาฝาก”

“อะไร?”แหนะ!หูผึ่งเชียว ผมหยิบถุงใบหนึ่งขึ้นมาแล้วยื่นให้ไอ้เซนท์ มันรับไปแล้วเปิดดูก่อนจะทำตาโต(ที่ไม่ค่อยโตเท่าไหร่)มาทางผม

“ของแพงเลยนี่หว่า”มันหยิบกล่องนาฬิกาออกมา พอเห็นว่าเป็นรุ่นที่ตัวเองอยากได้ก็ตาวาวใส่ผมทันที

“ถามจริงมึงไปรวยมาจากไหนวะ ช่วงนี้เปย์เพื่อนบ่อยเกิ๊น”มีคนเปย์กูมาอีกทีไง

“กูไม่ได้รวย แต่มีคนอวดรวยกับกู กูเลยผลาญเล่นแม่ง”ผมยักคิ้วตอบไอ้ตี๋กวนๆ มันหรี่ตามองผมอย่างจับผิด แต่ผมก็เนียนไง มันจับไม่ได้หรอก

“คนที่ให้แบล็คการ์ดมึงคราวก่อนอ่ะนะ?”ผมไม่ตอบแต่ยิ้มแทน ไอ้ตี๋ก็ขี้เกียจเซ้าซี้มันเอ่ยขอบคุณผมแล้วหันไปชื่นชมกับนาฬิกาต่อ คือบ้านมันรวยมากนะครับไอ้เซนท์เนี่ย แต่มันเป็นคนใช้เงินเป็นไงกว่าจะซื้อของได้แต่ละอย่างนี่คิดแล้วคิดอีกไม่ค่อยใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายอย่างผมหรอก ของแพงๆบนตัวมันก็มีแต่ไอ้ดีเปย์ให้ มีอยู่เรื่องเดียวที่ไอ้ตี๋ยอมเสียเงินอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังคือเรื่องแดกครับ มันถึงได้อ้วนไง(แค่อวบเถอะ!)

ผมหยิบถุงของให้ไอ้ทศกับไอ้ดีคนละถุง ก็เป็นพวกเข็มขัด นาฬิกา อะไรเทือกๆนั้น เพราะผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้พวกมันจริงๆอ่ะครับ ที่เหลือก็เป็นของไอ้น้องรันต์3-4ถุง พวกเสื้อผ้ารองเท้า อยากเห็นมันเลิกแต่งตัวเฉิ่มๆสักที- -

ตอนเที่ยงพวกผมก็ไปทานอาหารที่โรงอาหารคณะเพราะไอ้ทศอยากไปหาเมียแล้วผมก็จะเอาของไปให้มันด้วย ตอนแรกไอ้น้องรันต์ทำท่าจะไม่รับของจากผมเพราะเกรงใจแต่ผมก็บังคับมันไงครับ น้องมันเลยรับไปทั้งหน้างอนๆเลยโดนผมล็อคคอไปที

ระหว่างเดินขึ้นตึกไปเรียนช่วงบ่าย เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครโทรมาผมก็ให้เพื่อนเข้าห้องไปก่อนแล้วกดรับสาย

“มีไร?”ผมถามปลายสายกวนๆ

(โห่!พูดแบบนี้มันน่าโทรหาไหมเนี่ย)

“ไม่อยากโทรก็ไม่ต้องโทรดิ”ผมแกล้งพูดเหมือนไม่แยแส ทำเอาอีกคนเกือบงอนทั้งๆที่ตัวโตยิ่งกว่าควายไบซัน(?)

(เหอะ!)

“แล้วมีไรถึงโทรหาผมแต่เช้า”ที่นี่เกือบบ่ายที่นั่นน่าจะเช้าตรู่

(โทรหาเพราะคิดถึงไม่ได้รึไง?)เสียงเขากระเซ้าเย้าหยอกมาเหมือนลืมเรื่องที่งอนก่อนหน้านี้ไปแล้ว

“ไม่เชื่อหรอก”

(จริงจริ๊ง...แล้วอาการเราน่ะเป็นไงบ้าง)

“ก็เรื่อยๆแต่ผมไม่ได้กินยาทุกวันเหมือนตอนแรก”ผมอัพเดตอาการล่าสุดให้หมอประจำตัวฟัง

(เห...ดีนี่ ว่าแต่เสร็จมันรึยัง)เขาถามเสียงเบาเหมือนระมัดระวังปฏิกิริยาจากผม

“...จะเหลือเหรอ”ผมตอบเกรย์ไปตามความจริง

(ฮ้า!กูว่าแล้วไง!แล้วอาการเป็นไงบ้าง)

“ก็กลัวอ่ะดิถามแปลก ตัวสั่นหน่อยๆแต่ไม่มากเท่าเมื่อก่อน ไม่รู้สิเกรย์ผมรู้สึกว่ามันยั้งแรงนิดๆแต่ถ้าโดนแบบนี้บ่อยๆก็ไม่ไหวหรอก”

(มันคงพยายามยั้งอารมณ์สุดๆแล้วมั้ง)เกรย์พึมพำเสียงเบาทำให้ผมได้ยินไม่ชัด

“ห๊ะ!เมื่อกี้พูดอะไรวะเกรย์”

(เปล่าๆ เอาเป็นว่านายก็อย่าไปยั่วโมโหมันบ่อยนักล่ะ)

“ก็มันอดไม่ได้”

(ระวังจะเจ็บตัวหนักกว่าเดิม)เกรย์เอ่ยเตือนเสียงจริงจัง เพราะยังไงก็ไม่มีใครห้ามมันได้อยู่แล้ว

“เฮ้อ...นี่มีวิธีที่จะทำให้มันคลั่งโดยที่ผมไม่เจ็บตัวไหมอ่ะ”ผมโยนหินถามทาง คือโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่ใช่ผมเว้ยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาคืนมันยังไงนี่สิ และถ้าจะให้ผมไปใช้กำลังต่อยตีมันซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีที่ผมไม่ชอบแล้วผมก็ไม่ถนัดด้านนี้สุดๆ ถึงผมไปเรียนมายังไงก็สู้มันไม่ได้อยู่ดีแหละ ขนาดไอ้ทศทักษะการต่อสู้อย่างเทพมันไม่ยังไม่กล้าพูดว่าตัวเองจะล้มพี่มันได้เลย แล้วผมอ่ะเป็นใคร?จะไปล้มมันได้

ผมโตแต่ตัวนะ แต่หัวใจผมบอบบาง(แหวะ!จะอ้วกตัวเอง)

(ไอ้มีก็มีอยู่หรอก แต่นายจะกล้าทำรึเปล่าล่ะ?)เกรย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับทำเรื่องสนุก

“ยังไง?”

+++++++++++++++++
ตอนเย็นหลังเลิกเรียนผมชวนเพื่อนในแก็งค์ไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่ร้านนั่งชิลไม่ไกลจากมหาลัยนัก ผมกะกินข้าวนั่งฟังดนตรีสดพร้อมดื่มเบียร์เย็นๆสัก2-3ทาวเวอร์แล้วค่อยกลับ คงไม่เกินสี่ทุ่มหรอกมั้ง ถึงเกิน...ก็ช่างหัวมันดิ

ผมไม่ได้เอารถมาเรียนเองเลยกะติดรถไปกับไอ้ทศ มันก็โอเคแต่บอกว่าจะไปรับเมียอีกตึกก่อนซึ่งผมก็ตามไปด้วย ส่วนไอ้ดีกับไอ้เซนท์ก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยไปเจอกันที่ร้านทีเดียว

เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่พอไอ้ทศเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนกอดเมียตัวเองเท่านั้นแหละ ความบรรลัยก็บังเกิด!

มันตรงเข้าไปกระชากไอ้รันต์ออกแล้วกอดไว้ พวกมันคุยกันอยู่ไม่กี่ประโยค แต่ที่รู้ๆคือไอ้เวนที่กอดไอ้น้องรันต์กวนตีนมาก สงสัยว้อนจะกินตีนไอ้ทศซะให้ไอ้ แล้วก็จะเป็นอย่างนั้นจริงๆเมื่อไอ้ทศถลาจะพุ่งเข้าไปชกมัน ไอ้รันต์ที่กอดแขนผัวไว้ก็แทบจะเอาไม่อยู่ มันจึงร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครกล้าจับไอ้ทศแล้วไงตอนนี้ ผมที่เพิ่งเดินตามมาทันจึงช่วยมันจับแขนไอ้ทศไว้อีกข้าง แต่ไอ้เหี้ยผมทองที่กอดไอ้รันต์(เปลี่ยนสรรพนามเร็วมาก)ก็ยังยั่วมือยั่วตีนเพื่อนผมไม่หยุด

“เหอะ!ใช้แต่กำลัง คนแบบนี้หรอจะดูแลพี่รันต์ได้”

“หยุดพูดนะริว!”ไอ้น้องรันต์พยายามห้ามปรามไอ้เด็กนั่น แต่เพื่อนกูมันไปแล้วไงครับ และคนที่ซวยตามไปติดๆก็ผมนี่แหละ!

ไอ้ทศปลดแขนไอ้รันต์ออก ส่วนผมมันสะบัดออกอย่างแรง(ไอ้เพื่อนเหี้ยที่โคตรสองมาตรฐาน)มันพุ่งเข้าไปชกไอ้หัวขี้นั่น ส่วนผมล้มก้นกระแทกพื้นเต็มๆเลย

“โอ๊ย!เชี่ยทศ สะโพกกูไปหมดแล้ว คนยิ่งเจ็บๆตูดอยู่”ผมพึมพำโอดครวญอย่างเจ็บปวด ไอ้รันต์ที่เห็นผมล้มลงก็ละล้าละลังไม่รู้ว่าจะเข้ามาช่วยผมก่อนหรือไปห้ามคนชกกันก่อนดี ผมจึงโบกมือให้มันว่าไม่เป็นไร ให้มันไปดูผัวมันเถอะก่อนที่ไอ้เชี่ยทศจะเผลอฆ่าคนตายในมหาลัยแล้วแม่งจะเป็นเรื่องอีก

“ลุกไหวป่ะ?”ไอ้เด็กที่น่าจะเป็นเพื่อนสนิทไอ้รันต์เลิกคิ้วถามผมเหมือนไม่มีตา ก็เห็นๆอยู่ไหมว่ากูเจ็บ!

“ไม่ไหวไอ้สัส ช่วยกูดิ๊”ผมยื่นมือให้มัน มันก็จับมือผมแล้วฉุดให้ลุกขึ้น

“หนัก”มันบ่น

“หุ่นกูนี่เหมือนคนผอมมั้ง”ผมโต้คืน มันจึงไหวไหล่แล้วหันไปสนใจคนชกกันต่อ ไม่สิ…ไอ้ทศชกเขาฝ่ายเดียวต่างหาก

ไม่นานศึกก็สงบลงอย่างรวดเร็วเมื่อไอ้น้องรันต์ยื่นคำขาดห้ามทัพได้ ที่น่าแปลกใจคือไอ้น้องรันต์ทิ้งผัวแล้วไปกับไอ้หัวสีขี้นั่นอ่ะดิ

อารมณ์ไอ้ทศตอนนี้แม่งน่ากลัวมาก เย็นยะเยือกจนกูขนลุกไปหมด ที่สำคัญเลยคือเราไม่มีรถกลับเพราะมันเอารถให้เมียไปส่งคนอื่นแล้ว เจริญล่ะเพื่อนกู

“แล้วกลับไง?”ผมถามเพราะต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดฯกันก่อน

“แท็กซี่มั้ง”มันตอบแบบขอไปที

“ขี้เกียจเดิน หน้ามออยู่ตั้งไกล”

“’งั้นโทรเรียกพี่กูมารับ”มันพูดนิ่งๆ

“หน้ามอก็ไม่ไกลมาก เดินไปแปบเดียวก็ถึงเนอะ” แม่งพาลใส่กูชัดๆ

++++++++++++++++++++

สุดท้ายก็มาจบอยู่ที่ร้านไอ้ดีเพราะมันไม่มีอารมณ์จะไปนั่งชิลกับผม ผมก็ตามใจเพื่อนอ่ะครับ เห็นมันดูซึมๆคงน้อยใจเมีย แต่กูไม่สงสารสารมึงหรอก จะหึงใครไม่หึงเสือกหึงน้องเมียตัวเอง(ผมถามมันทีหลัง) แม่งเป็นไปเยอะแล้วเพื่อนผม

แต่เห็นอาการเพื่อนแล้วก็สงสารครับ สงสัยกามเทพตัวน้อยๆอย่างผม(?)คงต้องแผลงฤทธิ์ซะแล้ว ผมจึงเริ่มปฏิบัติการโทรไปอำไอ้น้องรันต์เล็กๆน้อยๆ

(ครับพี่)
“มึงอยู่ไหนวะ?”
(คอนโดฯครับ)
“มึงว่างไหมอ่ะ”
(ว่างครับ ทำไมหรอพี่)
“มารับผัวมึงหน่อย มันแย่แล้วเนี่ย!”
(...ที่ไหนครับ)

ไม่นานเกินรอไอ้น้องก็มาถึงห้องที่พวกผมดื่มกัน พอมันเห็นไอ้ทศไม่ได้เป็นอะไรสายตามันก็เหมือนเข้าใจบางอย่าง มันเหลือบมองผมนิดๆแล้วก้มหน้าลงเหมือนไม่รู้จะทำอะไรต่อ ผมจึงเอ่ยชวนให้มันมานั่งด้วยกัน

“เอ้า! มาแล้วเสือกยืนเอ๋ออยู่ได้นะมึง ไปนั่งดิ”

“มาๆน้องรันต์ มานั่งกับพี่นี่มา ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”ไอ้เซนท์กวักมือเรียกไอ้น้องรันต์ให้ไปนั่งกับตัวเอง

“น้องรันต์จะดื่มหรืออยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่กดสั่งให้”

“ไม่ล่ะครับ ผมอาบน้ำแปรงฟันแล้ว”

“สักหน่อยเถอะน่า เดี๋ยวกูสั่งให้เอง”ผมกดสั่งของกินและเบียร์ให้น้อง พอพนักงานนำมาเสิร์ฟมันก็ทำท่าไม่ค่อยอยากดื่มแต่ผมก็พยายามคะยั้นคะยอมัน “แดกๆไปเลยมึง กลับไปค่อยแปรงฟัน”

“ผมขับรถมา”

“แก้วเดียวไม่เมาหรอก แสรดดด” สุดท้ายไอ้น้องรันต์ก็ยอมยกเบียร์ขึ้นดื่ม ผมเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกสิบนาทีจะสี่ทุ่ม...ช่างแม่ม

เรานั่งดื่มกินกันไปเรื่อยๆ พอเบียร์ในแก้วไอ้น้องรันต์หมดอยู่ๆมันก็ลุกขึ้นจะออกจากห้องเหมือนเริ่มจะงอนผัว แต่ไอ้เชี่ยทศก็คว้าตัวไว้ได้ก่อน แต่ง้อกันงุ้งงิ้งไปตามประสาแถมยังมาดูดปากกันแบบไม่เกรงใจพวกกูเลย...ระหว่างนั้นผมก็ใช้เท้าสะกอดแขนไอ้เซนท์

“ไอ้เหี้ยสมิธ มึงเรียกกูดีๆก็ได้”มันทำหน้ายุ่งใส่ผม เหอะๆ

“กูกลัวมึงไม่รู้สึกตัว กูว่าตอนนี้พวกเราควรกลับเถอะว่ะ”

“กลับก็กลับ”

“มึงเรียกไอ้สองคนนั้นดิ๊ กูขี้เกียจขัดพวกมันละ กูขัดบ่อยจนไอ้เหี้ยทศจะถวายตีนให้อยู่แล้ว”

“ไม่เอา”ไอ้เซนท์ไม่กล้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงด้วย

“เหอะน่ามันไม่ทำไรมึงหรอก กูขัดพวกมันบ่อยแค่กลัวกรรมตามสนอง”กรรมจากตีนไอ้ทศนั่นแหละ

“เออก็ได้”

“เอ่อคือ...กูว่าเรากลับกันเลยดีไหม”ไอ้เซนท์โพล่งขึ้นแบบโคตรไม่มีเซนท์ ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะไอ้น้องรันต์ดีดตัวออกจากไอ้ทศทันที มันหน้าแดงแต่ไอ้เหี้ยทศที่ตาเขียวอยู่แล้วกลับเรืองเข้มยิ่งกว่าเดิมเพราะความหงุดหงิด

“อย่ามองกูแบบนั้น กูไม่ได้อยากขัด แต่ไอ้สมิธมันบอกให้กูทำอ่า มันว่ามันขัดบ่อยแล้วเดี๋ยวกรรมตามสนองมัน”โหไอ้เพื่อนกตัญญูเอาตัวรอดก่อนเชียว

“อ้าวไอ้เชี่ยเซนท์ โยนขี้มาให้กูเฉยเลย”

“ก็มึงบอกกูจริงๆนี่”

“เหรออออ”

“เอออออ”ผมหมั่นไส้กับท่าทางลอยหน้าลอยตาของมันมากเลยลุกขึ้นไปล็อคคอมันไว้แล้วตบหัวมันเบาๆ เราทะเลาะกันอยู่สักพักโดยที่ไอ้ดีก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่เป็นไอ้เหี้ยทศเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน

“กูกลับแล้วนะ วันนี้ลงบิลกูไว้”แม่งชิ่งก่อนพวกกูอีก แต่ก็โชคดีที่มันเลี้ยงอีกแล้ว(แอบงก)

ไอ้ดีเรียกลูกน้องมาเคลียร์โต๊ะ แล้วก็สั่งงานนิดหน่อยก่อนจะพากันกลับ แต่ผมเพิ่งจะนึกได้ว่าจะขอให้ได้ทศไปส่งผมหน่อย เพราะถ้าให้ไอ้ดีไปส่งที่คอนโดฯไอ้ปีศาจนั่น ไอ้เซนท์คงถามนู่นนี่นั่นไม่หยุดอีก

ผมรีบเดินไปยังลานจอดรถเผื่อพวกมันยังไม่ออกไปก็ ถามเด็กโบกรถมันก็บอกว่าไอ้ทศเดินไปบล็อกนี้ พอผมเดินตามไปก็เห็นมันกับเมียกอดกันอยู่

“นี่พวกมึงมายืนซึ้งกอดอะไรกันอยู่ตรงนี้ กูคิดว่ากลับไปนานแล้วนะเนี่ย”ผมเอ่ยทักขึ้น ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะจริงๆนะครับ พวกมันผละออกจากกันแถมไอ้น้องรันต์ยังตาแดงๆเหมือนคนร้องไห้อีก

“น้องรันต์ร้องไห้หรอ! ทะเลาะอะไรกันอีกอ่ะ”ไอ้เซนท์เป็นคนทักขึ้นแทน

“เปล่าทะเลาะนะครับ เราคุยอะไรกันนิดหน่อย ผมบ่อน้ำตาตื้นเอง”ไอ้น้องรันต์บอกยิ้มๆ

“จริงหรอวะ?”ไอ้ดีถามย้ำไอ้ทศ ลึกๆแล้วมันก็คงเอ็นดูไอ้รันต์เหมือนกัน ไอ้ทศก็พยักหน้ารับ

“เออๆ ไม่มีอะไรก็ดีละ พอดีเลยไอ้ทศกูกลับกลับมึงนะ ไอ้ดีจะได้ไม่ต้องอ้อมไปส่ง”ผมบอกไอ้ทศไปตรงๆ

“ไม่ได้ รันต์ขี่มอเตอร์ไซต์มา”

“อ้าว งั้นมึงไปส่งกูไอ้ดี” ผมหันไปฉีกยิ้มให้ไอ้ดีแทน

“กูคนขับรถมึงหรอสัส”โดนมันด่าไปหนึ่งดอก แต่ยังไงมันก็คงไปส่งผมนั่นแหละ

“ทีไอ้เซนท์มึงยังอ้อมโลกไปส่งได้ อย่ามาสองมาตรฐาน แสรดดด”ผมเหน็บมันหน่อยๆ ในกลุ่มมีแต่คนสองมาตรฐานกับกูตั้งแต่ไอ้เหี้ยทศเมื่อตอนเย็นละ

เอี๊ยด!เสียงจอดรถดังขึ้นไม่เบาหน้าทางเข้าลานจอดรถ รถเมอซิเดสสีขาวที่คุ้นตาจอดอยู่ พร้อมกับโทรศัพท์ผมที่ดังขึ้น...

“เชี่ยสมิธ รับดิโทรศัพท์มึงดังอ่ะ”ไอ้เซนท์บอกเพราะมันจำเสียงริงโทนผมได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ไม่เคยเมมเบอร์ไว้หรอก แต่สมองเสือกจำได้ว่าเป็นเบอร์ใคร ผมหน้าซีดลงเรื่อยๆและไม่กล้ากดรับโทรศัพท์ แม้จะคาดการณ์ไว้ว่ามันน่าจะรู้ว่าผมอยู่ไหน แต่เอาจริงๆก็ยังรู้สึกกลัวๆมันอยู่ดี

มันอารมณ์เหมือนมนุษย์ปกติเขาที่ไหนล่ะ ดีก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่ดีมันก็เลวได้สุดเหวี่ยงเลยล่ะ

“มึงรับสักทีดิ ไม่รับเดี๋ยวกูรับให้เอง มา!”ไอ้เซนท์ทำท่าจะฉวยโทรศัพท์จากมือผมไปรับให้แทนเพราะเห็นมันดังขึ้นและดับลงไปหลายครั้ง แต่ผมก็เบี่ยงตัวหลบมันได้ทันและกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกรอบ

“ไม่ต้อง!! กูรับเอง”ติ๊ด!

(มาขึ้นรถ)มันเอ่ยสั้นๆแต่น้ำเสียงกำลังหงุดหงิดได้ที่เลย

“อืมรู้แล้ว จิ๊!”ผมก็ตอบกลับมันไปอย่างหงุดหงิดเช่นกัน จากนั้นจึงหันไปลาเพื่อน“กูกลับล่ะ”

“ไม่ให้กูไปส่งแล้วหรอ”ไอ้ดีถามด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่

“ไม่อ่ะมีคน(เหี้ย)มารับกูแล้ว ไปล่ะ”ผมหันไปยิ้มให้เพื่อนแล้วเดินตรงไปที่รถมันจอดอยู่ คือถ้ามันมาหงุดหงิดขนาดนี้ไม่รู้ว่าคืนนี้ผมจะโดนหนักมากแค่ไหน พรุ่งนี้จะตื่นไปเรียนไหวไหมวะ มีเช็คชื่อตอนเช้าด้วยนี่สิ คิดได้ดังนั้นผมจึงหันไปบอกเพื่อนเอาไว้ก่อน

“อ่อ ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกูไปเรียน อย่าลืมเซ็นชื่อให้กูด้วยนะ”พูดจบผมก็รีบเดินต่อ กลัวไอ้เหี้ยเซนท์ถามว่าเพราะอะไรแล้วจะหาคำตอบให้มันไม่ได้

+++++++++++++++++
“จะไม่พูดอะไรเลยใช่ไหม?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบกันอยู่นานตั้งแต่ผมขึ้นรถจนเข้ามาในลิฟท์

“...”

“สมิธ” ระดับเสียงเย็นขึ้นทันที บรรยากาศภายในลิฟท์อึดอัดขึ้นทันตา การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหน้าสองคนก้มตัวเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติเพราะน้ำเสียงกดดันจากมัน

“จะให้กูพูดอะไร มึงเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” ผมเหยียดริมฝีปากยิ้มเยาะอย่างกวนตีน คิดว่ามันคงเห็นเพราะลิฟท์เป็นกระจกเงาทั้งตัว

“คำพูดพี่ ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม”

“เหอะ! มึงคิดว่ามึงเป็นใคร อย่ามาสำคัญตัวผะ...อึ่ก!” คอผมถูกมือเรียวบีบเข้าที่คอดันติดกับผนังลิฟท์อย่างแรงจนพูดไม่ออก ผมใช้สองมือแกะมือมันมือเดียวไม่ออก ยิ่งทำมันก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบ มันบีบแรงชนิดที่ว่าลมหายใจผมขาดเป็นช่วงๆ

“อย่า-ปาก-ดี” ดวงตาสีเขียวเข้มต่างจากน้องชายวาวโรจน์ขึ้นอย่างดุดัน

“...” ผมไม่ตอบอะไร แม้จะรู้สึกทรมานแทบตาย แต่สายตาก็มองตอบมันอย่างไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งสายตาผมเริ่มพร่ามัวแทบบังคับสติตัวเองไว้ไม่ไหว เพราะสมองได้รับออกซิเจนน้อยเกินไป แรงบีบรักที่คอจึงคลายออก ผมหมดแรงทรุดฮวบลงกับพื้นทันที

ติ๊ง! ประตูลิฟท์เปิดออกพอดี

“ลากมันไป” พูดจบมันก็ก้าวเดินนำออกจากลิฟท์ การ์ดสองคนรีบเข้ามาหิ้วปีกแขนทั้งสองข้างให้ตามออกไปทันที ผมถูกพาตัวมาไว้ห้องที่ใช้นอนประจำ ไม่ได้ขัดขืนดิ้นรนแต่อย่างใด แม่งรู้สึกไม่ค่อยมีแรง ถึงผมจะไม่เมามากแต่ก็กรึ่มๆไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเชี่ยทศตั้งแต่หัวค่ำ ไอ้ดีไอ้เซนท์น่ะตามมาทีหลัง

“ถอดเสื้อผ้ามันออก” ผมหันควับไปมองต้นเสียงด้วยความตกใจ โยและการ์ดอีกคนหันไปมองมันอย่างไม่เชื่อหูทันที  ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ อย่างที่เคยบอกว่ามันไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องตัวผมโดยไม่จำเป็น อย่าว่าแต่ถอดเสื้อผ้าเลย ตอนเด็กแค่มีการ์ดคนหนึ่งเห็นผมเปลือยท่อนบนโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นผมไม่เห็นหน้าคนนั้นอีกเลย

“นายหมายถึง ถอดแค่เสื้อใช่ไหมครับ”โยเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ

“ถอดทั้งหมด ทุกชิ้น” โยคร่อมหัวรับคำสั่ง แล้วเดินมาหาผมที่เตียง

“ไม่ต้อง! ผมถอดเอง!” กับอีแค่ถอดเสื้อผ้า ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นจะเป็นไร แม้ตามตัวผมจะพร่างไปด้วยรอยสีกุหลาบจากความระยำของมันก็ตาม ผมกระดากเล็กน้อยจากสายตาทั้งสามคู่เมื่อเปลือยไปทั้งตัว

เหอะ! แล้วมาดูกันว่าใครจะทนไม่ได้ก่อน โยและลูกน้องรีบก้มหน้าไม่กล้ามองทันที

“พวกนายเงยหน้าขึ้นแล้วดู...อ้าขาด้วยสิ อ้าออกกว้างๆ” มันมันสั่งเสียงเข้ม ผมกัดฟันจนกรามนูนขึ้นด้วยความโกรธ

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ผมสบถแต่ก็ยอมอ้าขาออก คิดจะทำให้ผมอายเหรอ แผนตื้นๆ ผมยอมเสียศักดิ์ศรีดีกว่าก้มหัวให้มัน

“สอดนิ้วเข้าไป แล้วช่วยตัวเอง”

“ไอ้ระยำ!!!” ผมตะโกนเสียงดังแทบหมดความอดทน เกิดมาผมยังไม่เคยทำเรื่องน่าขยะแขยะแบบนี้มาก่อน  ผมไม่เคยช่วยตัวเองจากด้านหลังและไม่คิดจะทำเลยสักนิด

“หรือจะให้โยทำ” มันฉีกยิ้มอย่างไม่ยี่ระ เหมือนท้าทายผมเป็นนัยๆ

“มึงมันวิปริต สารเลว นรกส่งมาเกิด!” ผมตะคอกอย่างโมโหสุดจะกลั้น กะไว้ว่ายังไงจะไม่เต้นไปตามเกมส์มันแต่สุดท้ายมันก็ทำความอดทนผมขาดได้อยู่ดี

“ก็ไอ้วิปริตสารเลวคนนี้ไงล่ะ ที่ปล่อยน้ำในตัวนายไปเป็นร้อยๆรอบ” มันแสยะยิ้มกอดอก ผมรู้ดีว่าตอนนี้มันกำลังลงโทษผมอยู่ ไม่คิดว่ามันจะใช้วิธีทำลายศักดิ์ศรีผมมากขนาดนี้

ผมเกลียดมัน...โมโหจนตัวสั่น แต่ผมก็เลือกที่จะสอดนิ้วกลางเข้าไปที่ช่องทางบวมช้ำ มันเข้าง่ายแต่เจ็บแปลบไปหมด ก็มันเพิ่งจะผ่านสมรภูมิมานี่ มืออีกข้างผมสาวแก่นกายตัวเองใช้เวลาอยู่นานกว่ามันจะสู้มือเพราะเมื่อวานผมปล่อยไปเป็นสิบน้ำ  นิ้วกลางสอดล้วงเข้าออกเป็นจังหวะรับกับมือที่รูดขึ้นลงแก่นแกน

อาการเจ็บแปลบๆในตอนแรกถูกแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บแปลบปนเสียวซ่าน ผมกัดปากกลั้นเสียง แต่คิดไปคิดมาผมควรจะทำอย่างที่ ‘เขา’ แนะนำมาดีกว่า

“อ๊ะ...อื้อออ แฮ่ก อ๊ะ อ๊า” กูเกลียดเสียงตัวเองจริงๆ ทำไมมันดูกระเส่าอารมณ์ขนาดนี้วะ แต่ช่างแม่งเถอะมันเรื่องธรรมชาตินี่หว่า เป็นผู้ชายจะไปดัดจริตอะไรมากมาย

“อึก!” ไม่รู้ผมคิดไปเองไหม แต่ผมเหมือนได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย เอาเถอะจะใครก็ช่างแต่ผมจะปล่อยท่าไม้ตายแล้วล่ะ

“อ๊า...ลุค อื้อ ลุค มะ...ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ” ผมช้อนสายตามองคนที่ผมเรียกชื่อ ส่งสายตาเยิ้มๆให้มันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มันมองผมอึ้งๆอย่างไม่คาดคิด ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด

“ออกไปให้หมด! ปิดประตูแล้วลืมภาพเมื่อกี้ซะ ใครหน้าไหนกล้าจำผมจะไม่ให้มีตาไว้มองอีก” ลูกน้อยมันก้มหน้ารับคำเสียงเข้มแล้วรีบกุลีกุจอออกจากห้องทันที ผมดึงนิ้วตัวเองออกและหยุดมือช่วยตัวเอง

หึๆ ผมชนะ...คิดจะทำให้ผมอับอายเสียศักดิ์ศรีจะทำให้ผมยอมร้องไห้อ้อนวอนอย่างนั้นหรอ?

รอไปอีกสิบชาติตอนดึกๆเถอะ


(ต่อreply ถัดไป)

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
[ต่อจ้า]

“หึ!กล้าไม่เบา ไปหัดทำแบบนี้มาจากใคร?” มันก้าวขึ้นเตียง สายตาวาวโรจน์ดูน่ากลัว

“จะกับใครแล้วไง?สนใจหรอ?ใครจะดูก็ได้นี่” ผมแสยะยิ้มเหมือนไม่แคร์ ทั้งๆที่ในใจผมก็โคตรแย่ โคตรเสียศักดิ์ศรีเลยว่ะ แต่ที่ยอมทำก็เพราะอยากเอาชนะมันล้วนๆ

พรวด! อึ่ก! ไอ้เหี้ยลุคอาศัยจังหวะที่ผมเผลอ อ้าขาผมออกแล้วใช้เข่ากดไว้แล้วสอดนิ้วยาวแทงพรวดเข้ามาในช่องทางผมพร้อมกันสองนิ้ว

“จะบอกดีๆไหม” มันยิ้มเหี้ยม งอนิ้วแล้วครูดกับผนังนุ่มข้างในขยับนิ้วชักเข้าออกแรงๆที่ทำให้ผมเจ็บจนดิ้นพล่าน

“อ๊ะ!เจ็บบบบ ปล่อยกู!!” ผมปัดป่ายมือไปมาจนมันจับไว้ได้ด้วยมือข้างเดียว

“ก็ตอบมาสิ” มันเร่งความเร็วและแรงขึ้น ผมเจ็บมากๆจนน้ำตาแทบไหลเพราะมันไปซ้ำกับแผลเก่าด้วย

“ไม่มี! ไม่เคยทำกับใคร พอใจรึยัง!!!”ผมตะคอกออกไปอย่างทนไม่ไหว เกลียดมันจริงๆ

“บอกพี่ดีๆตั้งแต่แรกก็จะไม่เจ็บตัวแล้วแท้ๆ มิทตี้” มันโน้มหน้ามาจูบปากผมเบาเหมือนให้รางวัล ผมเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง กัดกรามจนเจ็บไปหมด ได้ยินเสียงมันหัวเราะในลำคอเบาๆ

“มา พี่ช่วยให้เสร็จดีกว่า” มันปล่อยมือที่จับผมไว้แล้วไปจัดการกับน้องชายผมที่หดตัวจากความเจ็บไปแล้วแทน ไม่ถึงนาทีมันก็ตั้งขึ้นสู้มือไอ้สารนี่จนผมอยากจะมุดดินหนีไปซะให้แม่งรู้แล้วรู้รอด ผมพยายามดึงมือมันออกแต่ก็อย่างที่รู้คือผมสู้แรงมันไม่ไหวโว้ย

“ไม่ต้อง! อ๊า...” แม่งเอ้ย กูเกลียดมึงไอ้เหี้ยๆๆๆลูคัส

และเกลียดไอ้ร่างกายไม่รักดีนี่ด้วย!

“เอามือมึงออกไปเดี๋ยวนี้!” ผมผลักอกคนที่กำลังคุกคามส่วนสงวนของตัวเองออกอย่างแรง ไอ้เหี้ยลุคผงะถอยห่างเล็กน้อยตามแรงผลัก มือที่สาวแก่นกายให้อยู่ก็หยุดชะงักแต่สองนิ้วเรียวของมันยังไม่หลุดออกจากช่องทางรัดนุ่ม

“อย่าดื้อน่า แต่ก่อนยังพูดง่ายกว่านี้นี่มิทตี้” มันฉีกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี แล้วขยับตัวไปจูบซับใบหูผมแทน ถึงแม้ผมจะใช้มือทั้งสองข้างยันอกกว้างมันไว้ แต่แรงของผมก็ต้านทานการกระทำมันไม่ได้อยู่ดี

“กูไม่ได้พูดง่ายแต่กูโดนมึงบังคับต่างหาก แล้วก็เลิกเรียกกูด้วยชื่อทุเรศๆแบบนั้นสักที!” ผมทำหน้ายุ่ง เบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากบางที่กำลังขบเม้นไปตามใบหูผมอย่างไม่ลดละ แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ว่าตอนนี้แขนขาผมชักเริ่มอ่อนแรง เสียววูบไปทั่วท้องน้อยไม่หยุด

ไอ้ปีศาจนี่เล่นจู่โจมจุดอ่อนไหวที่สุดของผมน่ะสิ!

“ไม่เลิก น่ารักดีออก...พี่ชอบ” ลูคัสกระซิบเย้าชิดใบหูจนผมขนลุกเกรียวไปทั้งตัว พอมันอารมณ์ดีแล้วก็จะเป็นแบบนี้แหละ ผมล่ะปรับอารมณ์ตามไม่ทัน

“ถ้าอย่างนั้นกูเรียกมึงว่า‘ไอ้นรก’ เพราะ ‘กูชอบ’ ได้ไหมล่ะ” ผมเน้นเสียงชื่อเรียกใหม่ของมันด้วยน้ำเสียงหยัน ผมสบตากับดวงตาสีเขียวเข้มตรงๆแบบท้าทายที่มักจะทำให้มันตบะแตกทนไม่ไหวก่อนเสมอ คิดไว้ว่าน่าจะโดนตบสักทีสองที

“ก็ได้นะ” คำตอบง่ายๆและรอยยิ้มบนหน้าคมหวานของมันทำให้ผมชะงักอย่างไม่น่าเชื่อ คือไม่คิดว่ามันจะยอมรับง่ายๆขนาดนี้แม้ตอนแรกจะเห็นหัวคิ้วเข้มกระตุกแล้วก็ตาม แต่ประโยคต่อมาจากมันก็ทำเอาผมเม้มริมฝีปากแน่นอย่างพยายามเก็บอารมณ์ คิดถูกจริงๆนั่นแหละว่ายอมง่ายๆแบบนี้ไม่ใช่ตัวมันเลย

“เรียกได้ แต่ว่า...หนึ่งคำต่อสิบน้ำนะ เพราะพี่จะถือว่านั่นเป็นคำเรียกแสดงความรักจากนาย” มันฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แลเวก้มลงดูดต้นคอผมอย่างแรงจนต้องซี๊ดปากเพราะเจ็บ

“ฝันไปเถอะ! อึก!...แล้วมึงจะขยับทำเหี้ยไรเนี่ย! เอานิ้วออกไป!” ผมขยับตัวหนีจากการรุกรานของนิ้วมัน แต่แทนที่มันจะทำตามคำพูดขอผม มันกลับสอดนิ้วที่สามเข้ามาอีกนิ้วยิ่งสร้างความเจ็บปวดที่ช่องทางมากขึ้น

นิ้วเรียวยาวทั้งสามขยับเข้าออกช้าๆสลับหมุนควงกระแทกจุดกระสันเป็นระยะสอดรับกับจังหวะการสาวชักแก่นกาย ชั้นเชิงมันโปรมากผมถึงกับหมดเรี่ยวแรงจะต้านทาน แอลกอฮอลล์ในเลือดยิ่งทำให้รู้สึกตื่นตัวเร็วเป็นพิเศษ

“เป็นเด็กดีของพี่ แล้วพี่จะไม่ทำอะไร” จบประโยคลูคัสก็ทาบทับริมฝีปากบางลงสัมผัสกับริมฝีปากของผม ผมเม้มริมฝีปากแน่นไม่อยากให้มันได้เชยชิมง่ายๆ แต่เหมือนมันรู้อยู่แล้วว่าผมต้องไม่ยอมให้ง่ายๆ มือเรียวที่ชักรูดแก่นกายให้อยู่เปลี่ยนไปลูบวนส่วนปลายพร้อมใช้นิ้วโป้งขยี้ตามรอยแยกหยักด้วยน้ำหนักพอดีมือ ผมถึงกับเผลอหลุดร้องครางด้วยความเสียวอย่างทนไม่ไหว

มันอาศัยจังหวะนั้นรีบสอดลิ้นเข้ามาเชยชิมความหวานในริมฝีปากผมทันที ลิ้นร้อนถูกส่งเข้ามากระหวัดเกี่ยวพันลิ้นผมที่กำลังหลีกหนีแต่มันก็ตามไล่ต้อนเกาะเกี่ยวแล้วดูดแรงๆได้ทุกครั้งไป  ริมฝีปากบางขบเม้มอย่างเร่าร้อนหื่นกระหายสลับกับดูดดึงอย่างดูดดื่ม มือทั้งสองข้างยังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมจู่โจมทั้งส่วนหน้าและข้างหลังผมอย่างหนัก ไม่นานสมิธน้อยก็พรั่งพรูหยาดน้ำไปถึงฝั่งฝันคามือมัน

“แฮ่กๆๆ” ผมหอบหนักหลังมันถอนจูบออกจากปากรู้สึกว่าด้านหลังมีของเหลวเหนียวๆซึมออกมา...นี่ขนาดโดนแค่นิ้วนะ ถ้ามันทำจริงๆกูกลายเป็นศพแน่เลยครับ

ชึบ! เสียงมันถอนนิ้วที่เปียกชื้นออกจากช่องทางนุ่มช้าๆ มันยืดตัวแล้วลุกออกจากเตียงส่งเสียงทิ้งท้ายก่อนจะออกจากห้องไป

“พักผ่อนซะ สัปดาห์หน้าเจอกัน”
+++++++++++++++++++++++
สัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์เป็นอะไรที่ผมมีความสุขมาก เพราะไอ้เหี้ยลุคไม่อยู่ ผมกลับไปนอนคอนโดฯตัวเอง ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนบ้างในบางวัน แต่เสียอย่างเดียวคือผมไม่ได้อึ๊บหญิง ไม่ใช่ว่าผมจะกลัวมันจนหัวหดจนไม่กล้ารอกนะ แต่พอผมจะไปต่อทีไรลูกน้องมันเป็นต้องโผล่เข้ามาขวางทุกที เฮ้ออออ ผมพอนอนคนเดียวได้นะอาจจะหลับยากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ฝันร้ายอะไร

คิดไปคิดมาเมื่อไหร่มันจะทิ้งผมสักทีวะ นี่ก็พยายามทำตัวงี่เง่าเอาแต่ใจสุดฤทธิ์ให้มันเอือมสุดๆแล้วนะเว้ย! ถ้าเป็นคนอื่นนี่เผ่นแนบไปนานแล้ว ขนาดผมลองทำตัวเอาแต่ใจใส่ไอ้เซนท์แบบสุดๆแค่ชั่วโมงเดียวมันก็วิ่งหนีไปฟ้องผัวและไม่กล้าเข้าใกล้ผมอีกทั้งวัน(มึงมันโรคจิต//เซนท์)

วันนี้เป็นวันหยุด ผมจึงนอนเน่าๆอยู่ที่ห้องอย่างไม่รู้จะไปไหน ตอนเย็นว่าจะขึ้นไปทานข้าวกับไอ้สองผัวเมียทศรันต์ที่ชั้นบน ส่วนตอนนี้ได้แต่เขี่ยนิ้วดูไอจีสาวๆไปเรื่อย แต่มาสะดุดอยู่ที่รูปๆหนึ่งที่นักบอลคนโปรดที่ผมติดตามโพสต์ลงแล้วทำเอาผมแทบกรี๊ด(เกือบสาวแตกเลยกู)

“ไอ้เชรี่ยยยย”ผมร้องแบบมือไม้สั่น อิจฉาสุดฤทธิ์ มันคือรูปเป็นนักเตะทั้งสโมสรฟุตบอลที่ผมชอบมากๆๆ ผมจะไม่อะไรเลยนะถ้าไม่เห็นไอ้เหี้ยลุคนั่งทานอาหารถ่ายรูปร่วมเฟรมกับพวกเขา

แล้วนักเตะคนที่โพสต์รูปผมชอบมากเขาค่อนข้างเก็บตัวอย่าว่าแต่รูปเลย ลายเซ็นต์กูยังไม่มีทั้งๆที่กูบินไปเชียร์ถึงขอบสนาม ฮื่อ(ชักงอแง)

“เอาไงดีวะ นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะได้ลายเซ็นต์เลยนะ”ผมเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น อยากให้ไอ้เหี้ยลุคขอลายเซ็นให้มากมาย แต่ไม่อยากขอร้องมันเดี๋ยวเสียศักดิ์ศรี แต่ก็อยากได้จจริงๆนะ

“โทรก็โทรวะ”ผมตัดสินใจกดเบอร์โทรหาไอ้ปีศาจลูคัส รอนานมากจนสายเกือบตัดมันถึงรับ

“ว่าไงครับ”เสียงมันไม่ได้ดูงัวเงียอย่างที่คิด ทั้งๆที่ผมคิดว่าที่นั่นน่าจะยังเช้าอยู่

“มึงอยู่ไหน?”

“บนเรือ...ทำไม?”

“มึงไปถ่ายรูปกับโลเวลได้ไงวะ”

“โลเวลไหน?พี่ไม่รู้จัก”เอ้าก็นักเตะที่มึงถ่ายรูปด้วยไงไอ้ฟาย แต่ผมไม่พูดหรอก

“ก็ที่มึงถ่ายรูปกับนักเตะสโมสรGGอ่า”

“อ้อ ที่ถ่ายเมื่อวานนี้รึเปล่า?”

“อือฮึ”ผมพยักหน้า เพราะรูปที่ลงเป็นเมื่อวาน

“แล้วไง?”

“กูอยากได้ลายเซ็นต์พวกเขา”

“ก็ไปขอดิ”ดูมันตอบครับ

“กูขอได้แล้วจะมาบอกมึงไหม!?”

“แล้วทำไมถึงคิดว่าพี่จะขอให้ได้”

“ก็...มึงได้ถ่ายรูปกับเขาอ่ะ”ผมด้นเหตุผลแบบโคตรจะไม่มีเหตุผลเลย

“เขาเป็นลูกค้าพี่นะมิทตี้ ตอนนี้พวกเขามาเที่ยวพักผ่อนบนเรือของพี่ จะให้พี่ไปขอลายเซ็นต์อะไรแบบนั้นให้มันก็ดูไม่ดีเท่าไหร่มั้ง”

“เออ!ไม่ได้ก็ไม่ได้ดิ ทำไมต้องพูดเยอะ!”ผมกระแทกเสียงใส่มันอย่างหงุดหงิด ก็รู้ว่างี่เง่าแต่ไม่สน มันยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อผมก็ชิงวางสายเลย เหอะ!

ตอนเย็นผมก็ขึ้นไปกินข้าวกับไอ้ทศอย่างที่บอก มันเห็นท่าทางผมที่ยังหงุดหงิดไม่หายก็ถาม ผมเลยเล่าให้มันฟังเป็นชุดบวกความหงุดหงิดเข้าไปอีกสิบระดับ สุดท้ายมันก็พูดออกมาแค่ประโยคเดียวพร้อมผลักหัวผมเกือบหงายหลัง

“เอาแต่ใจไปแล้วนะมึงน่ะ”ผมไม่เถียงมันหรอก เพราะมันเป็นเรื่องจริง โดยส่วนตัวทุกคนชอบบอกว่านิสัยผมน่ารำคาญและโคตรเอาแต่ใจตัวเองแต่พวกมันก็ยังพอทนได้เพราะผมยังพอยั้งๆความเอาแต่ใจไว้อยู่ แต่กับไอ้เหี้ยลุคผมปล่อยหมด ทนได้ก็ลองดูดิ

วันต่อมาผมได้มานั่งร้านชิลอย่างที่อยากมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแต่ไม่ได้มาเพราะติดนู่นนี่นั่นหลายอย่าง ผมดื่มเบียร์สดคนเดียวหมดไปหนึ่งทาวเวอร์อ่ะคิดดู เดินเข้าห้องน้ำโคตรจะบ่อย นี่แค่นั่งชิลๆกะไม่เมานะครับ ฮ่า

ห้าทุ่มนิดๆผมก็กลับห้องตัวเอง จากนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเข้านอน แต่เสียงเปิดประตูห้องนอนผมดังขึ้นซะก่อน ผมสะดุ้งนิดๆเพราะคิดว่าเป็นโจร แต่พอเห็นหน้าไอ้คนที่โผล่เข้ามาก็เผลอถอนหายใจโล่งอก

“มาไม?”

“คิดถึงเมีย”

“ใครเมียมึง!”

“มิทตี้นั่นแหละ”

“เหอะ”ผมสะบัดเสียงใส่มันอย่างไม่อยากจะคุยด้วย

“นอนด้วยดิ”ไม่พูดเฉยๆนะ แต่ล้มตัวลงนอนบนเตียงผมเลย

“ไม่!กลับห้องมึงไปเลย”ผมไล่พร้อมกับไปดึงแขนให้มันลุกขึ้น

“พี่เหนื่อย อยากกอด”ผมชะงักแล้วเบ้ปากใส่มัน

“ไปกอดเด็กมึงสิ”

“เด็กพี่ก็อยู่นี่แล้วไง”

“ตกลงมึงจะให้กูเป็นอะไรกันแน่?คำพูดมึงมีอะไรที่เชื่อได้สักอย่างป่ะ!”ผมกอดอกมองมันนิ่งๆ กลับกรอกไปมาที่สุดผมล่ะเกลียด...โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าคำพูดมันจะเป็นกับดักเล่นงานผมทีหลัง

“มิทตี้ก็เมียเด็กของพี่ไง...ว่าแต่ยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นเมียพี่”มันฉีกยิ้มดวงตาพราวระยับขึ้นอย่างสมใจ แต่ผมนี่สิที่พูดไม่ออก

“ไม่ได้ยอมรับอะไรทั้งนั้นแหละ มึงไม่ต้องหลอกให้กูพูดเลย!”ผมทำเสียงเหวี่ยงใส่มัน

“หึๆ เห็นว่ามิทตี้น่ารักพี่ก็มีของฝากจะให้”

“อะไร?”ผมถามอย่างสนใจ มันไม่ตอบแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆแล้วยกหน้าจอให้ผมดู

“อยู่ไหน!?”ผมถามหาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น มันเป็นเสื้อบอลเบอร์ของโรเวลที่มีลายเซ็นเขาอยู่(รู้เพราะเคยเห็น)

“ห้องพี่”

“ป่ะไปเอา”ผมชวนมันทันที ไม่นงไม่นอนมันละ

“พรุ่งนี้ค่อยไปเอา วันนี้นอนก่อน”

“ก็ได้”

“โอเค มานอนสิ”มันล้มตัวนอนบนเตียงผมอีกครั้ง

“เดี๋ยว!นี่มึงอาบน้ำรึยังเนี่ยถึงมานอนเตียงกู”

“ยัง”มันตอบพร้อมกับซุกหน้าซุกลงกับหมอน

“ไปอาบเลย สกปรก!”

“อาบให้หน่อย”

“พิการเหรอ”ผมบอกพร้อมกับดึงมือแขนมันให้ลุกขึ้น ซึ่งมันก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วเสือกกอดเอวกูไว้แทน - -

“อาบให้หน่อยนะครับ”มันซุกหน้าบี้กับท้องผมจนรู้สึกจักจี้นิดๆ ผมจึงผลักหน้ามันออก แต่มันยังไม่ยอมปล่อยแขนที่โอบรอบเอวผมไว้

“ไม่เอา”

“พี่อุตส่าห์ไปขอให้เลยนะ ระดับพี่ต้องไปขออะไรแบบนี้ที่ไหนล่ะ”ดูมันอ้างครับ

“เหอะ!ทวงบุญคุณ?”

“เปล่า แค่อยากได้ค่าเหนื่อยบ้าง”มันเหนื่อยอะไรนักหนากับอีแค่ขอลายเซ็น

“เออๆครั้งนี้ครั้งเดียวนะมึง รำคาญจริง!”

“มิทตี้น่ารักที่สุด”มันปล่อยมือออกจากเอวผมแล้วลุกขึ้น ก่อนจะฉุดแขนผมให้เดินตามเข้าไปในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี

++++++++++++++++++
มิทตี้น่ารัก เฮียยิ่งน่ารัก :D

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รับไม่ได้กับพฤติกรรมการอ้อนของนังลุค  o22

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นึกถึงความน่ารักของพี่ลุค แล้ววว ขนลุกอ่ะ :a5:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :a5: ลุคอ้อนมิทตี้  :mew5: มิทตี้จะมีหวั่นไหวมะ

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เฮียลุคเริ่มน่ารักแล้วววว :hao3:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เมื่อไหร่อิพี่ลุคมันจะรู้ตัวสักทีว่าทำน้องมีอาการทางจิตจนต้องพึ่งยาน่ะหา ต้องให้มิทแตกสลายไปก่อนใช่มะ เกลียดโว้ย

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก ยังไม่รู้สึกว่า ลุคจะมีความรู้สึกเสียใจหรืออะไรก็ตามที่ทำร้ายสมิธ

ตั้งแต่แรกที่เจอกันลุคทำร้ายสมิธมาตลอด ทั้งร่างกายและจิตใจ สมิธรักลุคแน่นอน  แต่ก็เก็บมันเอาไว้เพราะโดนทำร้ายมากเกินไป

แม้สมิธจะดื้อดึงทำตัวน่ารำคาญ แต่เหตุผลของสมิธมีพอ ที่ลุคทำร้ายสมิธจนเกือบตายหลายครั้ง กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกายจิตใจ

ทั้งหมดนี่ก้เพียงพอจะเกลียดเข้าไส้แล้ว

แต่ลูกมีเหตุผลอะไรที่ทำร้ายสมิธล่ะ  แค่ไม่รู้ใจตัวเองว่ารักแต่ทำไมต้องทำร้าย กันขนาดนั้น  ทั้งทำร้ายร่างกายทั้งทำลายศักดิ์ศรี

ลุคต้องได้รับบทเรียนแบบสาหัสมากๆ ถึงจะสาสมกับทุกอย่างที่ทำกับสมิธ  :z6: :beat: :beat: :z6: :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: You're my fav person•คนโปรด•(Drama,SM)ตอนที่20[26/06/61]
« ตอบ #199 เมื่อ: 27-06-2018 08:24:42 »





ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ทำไมตอนท้ายเขาแลดูมุ้งมิ่งๆ มีอาบนงอาบน้ำให้กัน อรั๊ยยยยยย

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อืม การอ้อนแค่นั้น(?) ไม่ได้ลบล้างสิ่งเลวร้ายที่นายทำกับสมิธไปได้หรอกนะ!

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1


คนโปรด 21.1

"นี่จะถอดหมดเหรอ!"ผมท้วงเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะถอดอันเดอร์แวร์ชื่อดังออกจากตัว

"จะอาบน้ำก็ต้องถอดหมดสิ"

"ไม่ต้องถอด อุจาดลูกตา!"

"ทำอย่างกับไม่คยเห็น"มันเลิกคิ้วมองผมนิดๆ

"งั้นมึงอาบเอง"ผมขี้เกียจจะเถรยงกับมันต่อ เลยหมุนตัวหันหลังกลับจะออกไป แต่มันก็ตรงมาคว้าแขนผมไว้ได้ก่อน

"โอเคๆ ไม่ถอดก็ไม่ถอด"

"มึงอาบฝักบัวนะ กว่าน้ำจะเต็มอ่างมันนาน"ผมบอกแกมบังคับมันเพราะง่วงแล้ว ลูคัสก็พยักหน้าแล้วเข้าไปในส่วนของเรนชาวเวอร์ มันกดเปิดน้ำให้ไหลตั้งแต่ศีรษะลงมา พอผมและตัวเปียกได้ที่ก็กระดิกนิ้วเรียกผมเข้าไปหา

"สระผมให้ด้วย"

"เยอะไปละ"ผมบ่น แต่มือก็กดแชมพูใส่มือสองปั๊มเพราะผมมันยาว ลูค้สก้มหัวลงให้นิดๆเพื่อให้ผมยีเส้นผมมันกับแชมพูได้ถนัด ปกติผมสระเองลวกๆรอบเดียวก็จบ แต่ผมไอ้เหี้ยนี่ยาวต้องใช้เวลาสักหน่อย

"โตยิ่งกว่าควายยังให้กูมาอาบน้ำสระผมให้อีก"ผมทำไปบ่นไป มันก็ยืนนิ่งๆให้ผมว่าไม่มีตอบโต้สักนิด

"พี่อยากให้มิทตี้ทำให้"

"เหอะ!เสร็จละ ไปล้างออกดิ"ผมบอกแล้วก้าวออกจากกระจกกั้นไม่ให้ตัวเองโดนน้ำ

"ไม่ถูสบู่ให้พี่ด้วยเลยล่ะ"

"ไม่ล้างแชมพูออกก่อนเหรอ?"ปกติผมชอบล้างแชมพูออกก่อนแล้วค่อยอาบน้ำน่ะ

"ไม่ต้อง" พอมันบอกแบบนั้นผมก็เดินกลับเข้าไปได้ใน มองหาฟองน้ำจะถูตัวให้มันแต่ก็ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ใช้ ผมเลยกดครีมอาบน้ำใส่มือแทน

มือผมที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ถูไปตามหน้าอกกว้างที่ตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของมันลวกๆ ตัวมันขนาดอาบน้ำยังมีอุณหภูมิอุ่นๆส่งผ่านฝ่ามือผม ผมจับมันหันหลังแล้วถูสบู่ให้มันไม่กี่วินาทีก็เสร็จ

"เสร็จแล้ว"ผมบอกและทำท่าจะเดินหนี แต่มันเสือกจับแขนผมไว้(อีกแล้ว)

"ข้างล่างยังไม่ได้ถูเลย"

"มึงก็ถูเองสิวะ!"ผมพยายามดึงแขนออกจากมือมัน แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน

"ทำให้เสร็จ"ทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดมันกำกวมแปลกๆ

"กูง่วงแล้ว"ผมทำหน้าบึ้งๆแกล้วหาวไปอีกที

"หาข้ออ้างตลอด"

"ฮื่อ จะนอน!"ผมเริ่มโวยและเอาแต่ใจตัวเองมากกว่าเดิม

"เฮ้อ ตามใจ"มันถอนหายใจใส่ผมเหมือนปลงๆแล้วปล่อยมือออกจากแขนผม

ผมรีบเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้าแล้วรีบออกจากห้องน้ำทันทีเมื่อได้โอกาสพลางขบคิดในใจไปด้วย

ช่วงนี้ไอ้เหี้ยลุคดูใจดีแปลกๆ ไอ้เรื่องตามใจผมมันก็ทำเป็นปกติผมไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ แต่เรื่องที่มันยอมลงให้ผมนี่สิแปลก...คือมันน่ากลัวกว่าตอนที่มันร้ายใส่อีกนะครับ

ผมล้มตัวลงนอน พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ ที่แปลกไปไม่ใช่แค่มัน แม้แต่ตัวผมก็ยังแปลกใจตัวเอง...ทำไมผมถึงรู้สึกกลัวมันน้อยลงกว่าครั้งแรกที่เจอหน้ากันอีกครั้งมาก และครั้งนี้ผมยังยอมให้มันมานอนในห้องง่ายๆอีก เพราะอะไรกันวะ?

อ้อ! เพราะผมเมาแน่ๆและก็เพราะมันทำความดีความชอบนิดหน่อย ผมเลยยอมใจดีกับมันไง ยังไงผมก็เป็นคนจิตใจดีอยู่แล้ว

ใช่ๆ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ

พอหาเหตุผลให้ตัวเองได้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย ความง่วงก็เริ่มคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อผมใกล้ๆจะหลับเตียงข้างที่ว่างก็ยวบลงเหมือนมีคนนั่ง

"จะหลับแล้วเหรอเรา?"ผมพยักหน้าตอบไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความง่วง สัมผัสได้ว่ามีคนลูบศีรษะเบาๆ...รู้สึกดีสุดๆ

"เวลาไม่ดื้อก็น่ารักไปอีกแบบ"ผมจับใจความไม่ได้เพราะกำลังล่องลอยเข้าสู่นิทรา แต่ก่อนจะเข้าสู่ห้วงความฝันผมก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก มันวาบหวิวและล่องลอยแผ่วเบาอยู่นาน...จนผมหลับไปในที่สุด

+++++++++++++++

ผมตื่นมาอีกทีก็ไม่เจอลูคัสแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ผมยังไม่ได้เสื้อที่มีลายเซ็นต์โรเวลเลยนะ!

ผมเข้าไปทำธุระในห้องน้ำให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็หยิบโทรศัพท์เดินออกจากห้องทั้งหน้าบึ้งๆไม่สบอารมณ์ กะว่าจะโทรไปด่ามันที่ผิดสัญญาสักหลายๆคำ

แต่พอได้ยินเสียงทีวีที่ห้องนั่งเล่น มือที่กำลังจะกดโทรออกเบอร์มันก็ชะงักไป ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ เห็นมันนั่งไขว้ขาก้มลงขีดเขียนอะไรบางอย่างที่แฟ้มงานอยู่

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนรู้(ประสาทสัมผัสมันเทพมาก) มันฉีกยิ้มมุมปากให้ผมแล้วนบโซฟาข้างๆตัวเอง

"อรุณสวัสดิ์"

"ไหนเสื้อ?"ผมเมินคำทักทายมันแล้วถามหาของที่อยากได้แทน

"ที่ห้องพี่ไง"

"ไปเอามา"

"สั่งผัว?"

"ผัวพ่อมึงสิ!"ผมด่าคำหยาบมากออกไปด้วยความลืมตัว มันตวัดสายตาทองดุๆทันที

"มิทตี้!จะด่าอะไรก็ด่าไป แต่อย่าลามปามถึงพ่อพี่ ให้รู้จักกาละเทศะบ้าง"มันดุผมเสียงเข้มเลย แต่ผมไม่ได้ตั้งใจไหมล่ะก็เคยชินเวลาด่ากันกับไอ้เซนท์แล้วมันติดปาก

"..."ผมไม่พูดอะไรเพราะรู้สึกผิด อย่างน้อยพ่อมันก็พ่อไอ้ทศอ่ะ แล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

"ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย"มันว่า...คือกูทำหน้าแบบไหนวะครับ

"ก็ปกติ"ผมพูดเสียงแข็งนิดๆโดยที่ไม่รู้ตัว

"เอาเถอะ ทีหลังอย่าพูดอีก"มันลอบถอนหายใจนิดๆ

"มึงก็อย่าพูดคำนั้นเหมือนกัน กู-ไม่-อยาก-ได้ยิน"ผมเน้นคำในประโยคสุดท้าย

"พี่พูดความจริง"

"มึงเป็นผัวให้กับอีกกี่สิบคนล่ะ อย่าพูดให้กูรู้สึกขยะแขยงไปมากกว่านี้เลย"มันลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าผมตรงๆ

"พี่พูดแค่กับมิทตี้"

"กูไม่เชื่อ...ไม่เชื่ออะไรมึงอีกแล้ว"

"มิทตี้พี่ไม่ได้อยากมาทะเลาะนะ"มันทำหน้าอ่อนใจ เสียงก็ไม่ได้เข้มเหมือนตอนแรกแล้ว

"ไม่อยากมาก็อย่ามะ-อื้อ!"มันล็อคท้ายทอยผมไว้แล้วดันเข้าหาตัวพร้อมกับประกบจูบผมลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว ผมดิ้นและผลักไสมันออก แต่ไอ้เหี้ยลุคกลับล็อคตัวผมไว้แน่นแล้วบดริมฝีปากใส่กันอย่างเผ็ดร้อน ผมพยายามหลีกหนีสัมผัสจากมันแต่ยิ่งหนีมันก็ยิ่งตามมารุกราน สุดท้ายผมก็โต้ตอบมันด้วยการจูบกลับคืนไปอย่างไม่ยอมแพ้

ผมไม่รู้ว่าเราจูบกันนานเท่าไหร่ แต่ลิ้นกับริมฝีปากนี่ชาไปหมด เมื่อยกรามอีกต่างหาก ไปๆมาๆหลังผมก็แนบกับโซฟา ส่วนล่างโล่งเย็นเหมือนกางเกงถูกถอดออก

ก่อนที่ความใหญ่โตบางอย่างจะแทงพรวดเข้ามาที่ตรงนั้นจนผมจุกท้องน้อยไม่เบา มันไม่ได้ทำรุนแรง แต่จังหวะกระแทกกระทั้นลงมาไม่ขาดช่วงให้ผมได้พักหยุดหายใจเลย

ร่างกายผมโยกคลอนไปตามจังหวะกระขยับสะโพกของมัน มันดูดคอผมแรงมากจนผมต้องจิกผมมันหลายทีให้หยุด

แล้วคิดว่ามันจะหยุดไหม?...ถ้าหยุดก็ไม่ใช่มันแล้วล่ะ

หัวมังกรยักษ์ของมันกระแทกโดนจุดกระสันภายในผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมเสียวมากจนกลั้นเสียงครางไว้แทบไม่อยู่ แต่เหมือนมันจะรู้ สะโพกสอบยิ่งขยับรัวย้ำๆใส่ไม่หยุด

มันเสียวมากเหมือนแขนขาจะอ่อนแรงไปเฉยๆ หัวสมองผมว่างเปล่า ความรู้สึกสุดท้ายคือเหมือนไฟฟ้ากำลังอ่อนช็อตไปทั้งร่าง ผมกระตุกปลดปล่อยออกมาโดยที่ไม่ได้ชักน้องชายเลย

ลูคัสก้มลงจูบผมอีกรอบ ผมก็จูบตอบมันไปแบบมึนๆ รู้สึกว่าช่องทางตรงนั้นร้อนผ่าวขึ้นมากกว่าเดิมเหมือนลูคัสจะเร่งจังหวะ ไม่นานของเหลวข้นๆจากมันก็พุ่งอัดเต็มช่องทางนั้นทะลักเข้าถึงท้องน้อยผมด้วยซ้ำ มันขยับอีกสองสามทีแล้วแช่ไว้ก่อนจะค่อยๆถอนกายออก

ใบหน้าคมออกหวานก้มลงมาจูบหน้าผากผมแรงๆไปหลายฟอด ผมมองมันตาขวางแล้วใช้มือ(จริงๆอยากใช้เท้า)ยันหน้ามันไว้ไม่ให้ก้มลงมาจูบอีก

"มึงแตกในอีกแล้ว!"ผมเหวี่ยงเพราะเพลียแล้วก็เหนื่อย

"อืม พี่ตั้งใจ"มีใครยอมรับได้อย่างหน้าด้านๆเท่ามันไหม?

"ไอ้เหี้ย!มึงจะเอาโรคมาติดกูไหมเนี่ย!"ผมด่ามันอย่างโมโห

"โดนไปตั้งหลายน้ำแล้วจะมาบ่นอะไรตอนนี้"

"กูด่า ไม่ได้บ่น"ผมเถียงคืนอย่างไม่ยอมแพ้ มันก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ดึงกางเกงขึ้นแล้วก็หันไปหยิบทิชชู่มาถือไว้ในมือ

"มึงจะทำอะไรอีก!"ผมตาโตร้องออกไปด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆมันก็จับขาผมแยกออกจากกัน

"ก็เห็นบ่น เลยจะเอาออกให้หรือว่าอยากให้ทำต่ออีกรอบ?"มันเลิกคิ้วถามแบบกวนประสาทผมสุดๆ

"ไม่ต้อง!กูจะทำเอง อ๊ะ!"แม่งไม่เคยฟังกูเลย นิ้วเรียวยาวของมันสอดเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็วแล้วคว้านเอาของเหลวออกมาใส่ทิชชู่ที่รองอยู่

"เสร็จแล้ว"มันพูดยิ้มๆแล้วยื่นหน้ามาดูดปากผมแรงๆเหมือนหมั่นเขี้ยว

"ชำนาญขนาดนี้ ทำให้เด็กบ่อยล่ะสิ"ผมเหน็บมันไปพลางหยิบกางเกงมาใส่

"พี่ทำให้มิทตี้คนเดียว"

"หึ!"ผมส่งเสียงในลำคอแบบไม่เชื่อมัน

"ไปอาบน้ำไป สายแล้วเดี๋ยวพี่พาไปทานข้าว"

ผมไม่ปฏิเสธเพราะรู้สึกหิวมากจริงๆจึงลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ผมเซนิดหน่อยเกือบจะล้ม ไอ้เหี้ยลุคทำท่าจะเข้ามาประคองแต่ผมก็ปัดมือมันออกพร้อมตวัดสายตามองมันอย่างไม่ชอบใจ

ไม่ต้องมาทำเหมือนกูอ่อนแอบอบบางหรอก ถ้ามันเข้ามาผมจะต่อยมันจริงๆอ่ะ(แม่จะไม่ชอบทำก็เถอะ)

แต่เหมือนมันจะรู้ความหมายสายตาผม จึงหยุดยืนอยู่กับที่ไม่เข้ามายุ่ง

เมื่อยืนได้อย่างมั่นคงแล้วผมจึงค่อยๆเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ

++++++++++++++

ผมถูกปลุกขณะที่กำลังหลับสบายบนรถเพราะถึงโรงแรมที่จะมาทานข้าวแล้ว รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยพอประมาณ

ระหว่างเดินเข้าโรงแรมก็มีพนักงานมาบริการเทคแคร์เราเป็นอย่างดี ผมรู้สึกคุ้นๆกับโรงแรมนี้มากแต่นึกไม่ออกเพราะมัวแต่ตีกันกับไอ้เหี้ยลุคที่จับมือพาผมเดินเหมือนเป็นเด็ก

จนกระทั่งถึงห้องห้องอาหารไทยชื่อดังผมถึงได้นึกออกจนอยากตบกบาลตัวเองแรงๆสักที(แต่ไม่ทำหรอก กลัวเจ็บ)

ที่นี่มันโรงแรมในเครือธุรกิจบ้านไอ้เซนท์!

ห้องอาหารของโรงแรมในกรุงเทพฯมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ไป เสือกพากูมาโรงแรมนี้ กูจะบ้า!

แล้วช่วงนี้ไอ้เซนท์ก็เริ่มไปช่วยงานที่โรงแรมบ้างแล้วด้วย

หวังว่าโลกคงไม่เสือกกลมเหี้ยๆให้ไอ้เซนท์มาเจอผมกับไอ้เหี้ยลุคที่นี่หรอกนะ

ลูคัสพาผมมานั่งโต๊ะที่วิวดี มองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้อย่างสวยงาม

แต่ตอนนี้กูไม่มีอารมณ์มาเสพสุขอะไรทั้งยั้น มีแต่ความหวาดระแวงล้วนๆ นี่กวาดสายตามองไปทั่วจนตาจะเหล่อยู่แล้ว

"เป็นอะไร?"ไอ้เหี้ยลุคคงสงสัยกับท่าทางของผมที่ดูไม่ปกติ ทั้งๆที่ผมพยายามให้ปกติที่สุดแล้วนะ!ป

"เปล่า"ผมตอบมันไปทื่อๆ แล้วก้มหน้าจิ้มเมนูที่อยากทานไป3-4รายการ

"หลบใครอยู่งั้นเหรอ?"มันเท้าคางถามผมยิ้มๆ

"หลบอะไร?ไม่มี๊"แล้วกูจะเสียงสูงทำไมวะ!

"หึๆ"

รอประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟ พอเห็นกับข้าวตรงหน้าแล้วท้องร้องหนักมาก หิวจนลืมทุกสิ่งก่อนหน้านี้ ผมลงมือทานอย่างรวดเร็ว แม้แต่ไอ้เหี้ยลุคยังทึ่งกับสกิลการกินเร็วของผมแต่มันก็ไม่ได้อะไร

ผมกินไปได้ประมาณครึ่งกระเพาะ แต่เสียงๆหนึ่งที่เอ่ยทักขึ้นกลับทำให้ปลากระพงสามรสแทบพุ่งออกจากปากผม

"ไอ้สมิธ?"ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร

ไอ้เหี้ย!โลกกลมสัสๆเลยโว้ย!!!

"ว่าไงมึง"ผมบังคับตัวเองกลืนเนื้อปลาลงคอ แล้วหันไปส่งยิ้มฝืดๆให้มันที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างๆโต๊ะผมเลย

"มานี่ไม่เห็นบอกกู"ถ้ารู้ว่ามาที่นี่กูคงไม่มาหรอก

"ก็...คิดว่ามึงยุ่งไง"

"เหรอ...อ๊ะ!สวัสดีครับ ผมชื่อเซนท์นะครับเป็นเพื่อนสมิธ ขอโทษที่อยู่ๆก็เสียมารยาทเดินเข้ามา"ไอ้เซนท์พึมพำเหมือนไม่ค่ยเชื่อผม แล้วหันไปพูดกับไอ้เหี้ยลุคแทนเหมือนเพิ่งนึกได้

"สวัสดี ผมลูคัส ยินดีที่ได้รู้จัก"มันยิ้มแล้วยื่นมือไปเชคแฮนด์กับไอ้เซนท์เบาๆ

ไอ้เซนท์ลอบมองสำรวจไอ้เหี้ยลุคแปบเดียวแบบเนียนๆไม่ให้เสียมารยาท ก่อนจะหันมามองผมแปลกๆ

"ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้ว...กูไปแล้วนะ วันจันทร์เจอกัน คงมีเรื่องให้คุยกันเยอะเลย"มันไปพูดลาไอ้ลุค โบกมือให้ผมแล้วเดินจากไป

วันนี้มันใส่สูท คงแวะมาทานข้าวก่อนไปดูงาน จริงๆไอ้เซนท์จะทำอะไรก็เรื่องของมัน เพียงแต่สายแต่เมื่อกี้ของไอ้เชี่ยเซนท์เหมือนมองทะลุเข้ามาในตัวผมได้เลย ยิ่งสายตามันจดๆจ้องๆอยู่ที่คอผมเป็นพิเศษด้วย

มันจะรู้ไหมวะ?

"กลัวเพื่อนรู้เหรอ?"ไอ้คนนั่งตรงๆอยู่ๆก็ถามขึ้น

"ใช่"ผมบอกมันไปตามตรง ตอนนี้เครียดจนแดกอะไรไม่ลงแล้ว

"บอกเพื่อนไปสิ จะกลัวอะไร"

"ไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากบอกไม่ใช่เรื่องที่น่าป่าวประกาศ"ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่มัน

"คบกับพี่ไม่ดีตรงไหน?"มันถามหน้างงเหมือนหาข้อบกพร่องตัวเองไม่เจอ

"ตรงที่เป็นมึงนั่นแหละ"

"มิทตี้"มันปรามเสียงเข้ม

"แล้วจะให้กูบอกเพื่อนว่ายังไง?กูเป็นอะไรกับมึงไม่ทราบ!?"ผมชะงักตกใจตัวเองที่เผลอถามคำถามที่ไม่ควรถามแบบนี้

"..."

"..."มันเงียบผมก็เงียบ ก่อนที่มันจะค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

"จะไปคิดให้มากความทำไม ก็บอกไปสิว่าเป็น...เมียพี่"

++++++++++++++

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตกลงลายเซ็นต์ไม่ได้แล้วใช่ป่ะ  o12

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชอบเรื่องนี้จังครับ
มาลงต่อบ่อยๆนะครับ

           :man1:

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อีพี่ลุคนี่มันซึน หรือทันรู้ใจตัวเองกันแน่ :ling2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แหมมม  จะให้เขาเป็นเมียเคยขอเป็นแฟนเขารึยัง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อิลุคมันน่าจะรู้ได้อล้วนะว่าคำพูดมันสำคัญกว่าการกระทำน่ะ แล้วจะให้มิทบอกเพื่อนว่าเป็นเมียทั้วๆที่แกไม่เคยเคลียร์ตัวเองกับมิทเลยน่ะเหรอ เป็นใครๆจะไปบอกอะ ความรู้สึกของมิทตอนนี้คือมันมีแต่คำว่าเป็นบำเรอให้มิทไปวันๆอะ อยากหนีก็หนีไม่พ้นสักที แกนั่นแหละอิลุคที่ควรจะทำอะไรให้ชัดเจนบ้าง

ออฟไลน์ mundoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ค่าลายเซ็นต์ของอิพี่นี่คุ้มเนาะ! :katai3:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ตะเอง เสื้อพร้อมลายเซนต์อย่าลืมทวงนะ เดี๋ยวที่เสียไปมันจะไม่คุ้ม ฮ่าๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด