ตอนพิเศษ follow forever
(นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนทีอายุสามขวบครึ่ง ฝาแฝดอายุขวบครึ่ง เล่าโดยคุณสา คุณแม่มือใหม่ในเวลานั้น )
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดคุณพ่อของสามีฉัน หรือก็คืออากงของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉันนั่นเอง อาหารทุกอย่างถูกเตรียมไว้รอเรียบร้อยแล้ว จะขาดก็แค่ครอบครัวน้องแอ๋ม น้องสาวของสามีฉันที่แต่งออกเรือนไปนานแล้ว และมีลูกชายถึงสามคนด้วยกัน
ฉันไกวเปลที่เจ้าตัวเล็กงีบหลับไปเรื่อยระหว่างรอ หลังจากได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน คุณเดชก็เดินออกไปเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ฉันรีบเดินตามออกไปต้อนรับ คุณสินธุ์และน้องแอ๋มมาพร้อมกับลูกชายทั้งสามคนในชุดซูเปอร์ฮีโร่ไม่ซ้ำแบบ น้องเฟิร์สใส่ชุดสไปเดอร์แมน ส่วนฝาแฝดแก้มยุ้ยน่ารักที่ใส่ชุดแบทแมนกับซูเปอร์แมนกำลังชะโงกหน้าลงไปในอ่างปลาแล้วใช้มือล้วงลงไปจับปลาหางนกยูงในนั้นอย่างเมามัน
“เดี๋ยวเถอะ! น้องภู น้องคราม ห้ามรังแกน้องปลาของลุงนะครับ มานี่เลยๆ ต้องโดนทำโทษ ” สามีฉันเข้าไปอุ้มฝาแฝดเข้าสะเอวคนละข้างแล้วหมุนรอบตัวเร็วๆ เด็กสองคนร้องกรี๊ดๆ ผสมหัวเราะร่าอย่างชอบอกชอบใจ พอคุณเดชปล่อยลงพื้นก็ยั้งตื๊อกอดเอวไม่ยอมปล่อย จะขอเล่นอีกๆ อยู่อย่างนั้น จนโดนคุณสินธุ์ดุถึงจะยอมเดินเข้าไปในบ้านดีๆ
“หวัดดีครับป้าสา ลุงเดช ” เด็กชายเฟิร์สในวัยเจ็ดขวบหนีบเกมบอยไว้ใต้รักแร้ ยกมือไหว้เร็วๆ แล้วชักเกมออกมาเล่นต่อ
“เฟิร์สอย่าเอาแต่เล่นเกมสิลูก ฝากแม่ไว้ก่อนนะ เดี๋ยวกลับบ้านค่อยมาเอาคืน” แอ๋มว่าพลางดึงเกมบอยจากมือลูกชาย แต่เจ้าเฟิร์สก็เหนียวใช่ย่อย ไม่ยอมปล่อยจนต้องยื้อยุดกันไปมา
“ฮ่าๆ ๆ ปล่อยหลานไปสักวันน่าแอ๋ม เห็นว่าเฟิร์สเรียนพิเศษตั้งหลายอย่าง ให้เด็กมันพักบ้างเถอะ” คุณเดชว่าก่อนจะโอบไหล่น้องแอ๋มเดินเข้ามาในบ้าน ฉันเดินคุยกับคุณสินธุ์ตามเข้ามาทีหลัง แล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
ปั๊กๆ ๆ!!!
“ที!! ตื่นๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ!! ”
“ตื่นนนนนนนนนนนนนนนน”
สองฝาแฝดที่วิ่งนำเข้ามาในบ้านก่อนกระโดดถีบเปลสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่น้องทีกำลังนอนกลางวันอยู่ เปลใหญ่โคลงอย่างแรงจนน้องทีสะดุ้งตื่น
“มาเล่นกัน! มาเล่นกัน!”
สองแฝดพยายามปีนเข้าไปในเปล แต่ด้วยความที่ขอบเปลสูงเกินไปทำให้ตกลงมา น้องทีที่ถูกปลุกขึ้นมายังอยู่ในสภาพสะลึมสะลือและดูเหมือนจะยังอาวรณ์ที่นอนอยู่มากจึงทำเป็นไม่สนใจล้มตัวลงนอนต่อที่มุมเปลด้านตรงข้ามกับมุมที่สองแฝดพยายามปีนเข้ามา
แอ๋มกำลังจะเข้าไปแยกเด็กแฝดออกมา แต่คุณเดชสามีฉันจับไหล่เอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร พลางหยิบกล้องถ่ายวิดีโอที่เตรียมไว้บันทึกภาพเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้นมาถ่ายอย่างขบขัน
“เก็บไว้ให้ลูกดูตอนโต” เขาว่าอย่างนั้น ถ้าภูผาฟ้าครามเล่นเกินเหตุเดี๋ยวเขาก็ไปจับแยกเองแหละ
ฉันมองฮีโร่น้อยสองคนพยายามรังแกลูกชายตัวเองอย่างอ่อนใจ ก่อนจะชวนแอ๋มและคุณสินธุ์ขึ้นไปสวัสดีอากงอาม่าของหลานๆ ปล่อยให้สามีดูแลเด็กๆ อยู่ข้างล่าง
“เฟิร์สดูน้องด้วยนะลูก ” คุณสินธุ์สั่งลูกชายคนโตที่ยึดครองเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ปักหลักเล่นเกมบอยของรางวัลที่เพิ่งได้มาจากผลสอบคราวก่อนอย่างเมามัน บางครั้งก็เอี้ยวตัวไปมาเวลาเลี้ยวรถในเกมด้วยความอินจัด เด็กชายพยักหน้ารับส่งๆ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเกมต่อ
เมื่อร่างในเปลนอนหันหลังให้อย่างไม่สนใจ สองแฝดตัวแสบก็ยิ่งขัดเคือง พวกเขาเลยลุกขึ้นมาเขย่าเปลอย่างบ้าคลั่ง กะว่ายังไงก็ต้องทำให้คนในเปลตื่นขึ้นมาสนใจพวกตนให้จงได้
แต่สองแฝดไม่รู้เลยว่าทีเป็นเด็กที่ต้องไกวเปลแรงๆ ถึงจะนอนหลับ ไกวเบาๆ เคยหลับเสียที่ไหน คุณสายังเคยบ่นขำๆ ด้วยซ้ำว่ากว่าทีจะเลิกนอนเปลเธอคงไกวจนกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ ดังนั้นพอทั้งคู่เขย่าเปลแรงๆ ก็ยิ่งเข้าทาง เด็กชายทวีเดชหลับต่ออย่างสบายอารมณ์พลางส่งเสียงดังแจ๊บๆ
คมเดชกอดอกแอบถ่ายอยู่เงียบๆ เฝ้าดูว่าสองแฝดจะแกล้งอะไรลูกเขาอีก
พอเขย่าเปลและร้องเรียกเสียงดังไม่สำเร็จ ภูผากับฟ้าครามก็กระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ มองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นเก้าอี้อยู่แถวนั้นก็ช่วยกันเข็นมาตั้งข้างๆ เปล
คมเดชอึ้งไปเล็กน้อยกับความฉลาดของเด็กอายุแค่ขวบกว่าๆ อย่างภูผากับฟ้าคราม
แฝดพี่ที่วันนี้ใส่ชุดซูเปอร์แมนปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ พอขึ้นไปได้แล้วก็ชูมือขึ้นร้องเสียงดังอย่างอารมณ์ดี
“ซูเปอร์แมน! บิน บินนนนน” ร้องจบก็กระโดดลงไปในเปลดังโครมใหญ่ คมเดชอ้าปากค้างอย่างตกใจขณะรีบสาวเท้าเข้าไปแฝดน้องในชุดแบทแมนก็กระโดดตามลงไปอย่างรวดเร็วในเวลาไล่เลี่ยกัน!
......ทับลูกชายเขาเสียแบนแต๊ดแต๋
“...อึก ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง๊!!!!! ” น้องทีร้องไห้จ้าเมื่อโดนหมูตอนสองตัวกระโดดลงไปทับ ตอนแรกคมเดชคิดว่าภูผากับฟ้าครามคงแค่จะปีนลงไปเล่นกับที ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าสองคนนี้จะกระโดดลงไปทับลูกชายเขาจนร้องไห้เสียงดังลั่นบ้านแบบนี้!
“มาเล่นกัน ^O^” พอลงไปได้ปุ๊บ ภูผากับฟ้าครามก็คว้าแขนเด็กชายทวีเดชหมับ ยิ้มกว้างจนน้ำลายหก
“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง๊!!! ม่ายยยยยเล่นนนนน!! ฮือๆ ๆ ๆ ปะป๊า ปาาาาาป๊าา แฝดแกล้งที แงงงงงงงงงงงง๊!”
ขณะที่คมเดชปรี่เข้าไปข้างเปลกำลังจะอุ้มน้องทีแยกออกมาเสียงเอะอะพร้อมกับเสียงฝีเท้าก็ดังลงมาจากข้างบน
“เกิดอารายขึ้นอาเดชชช! ทามมายอาตี๋ร้องเสียงดังแบบเน้!?” เสียงคนเป็นอาม่าดังขึ้น จนคมเดชเผลอชะงักมือ ทันใดนั้นในเปลยิ่งอลหม่าน เพราะน้องทีที่ไม่อยากเล่นพยายามวิ่งหนีสองแฝดอยู่ในเปลแคบๆ สองคนนั้นก็ดีใจคิดว่าญาติผู้พี่เล่นด้วยเลยช่วยกันจับช่วยกันต้อนพี่ชายตัวน้อยยกใหญ่ ทีหนีไปอยู่มุมเปลพลางแหกปากร้องไห้ไปด้วยไม่หยุด พอเห็นเป้าหมายกลายเป็นเป้านิ่งเด็กอ้วนทั้งสองคนก็กระโจนเข้าใส่หวังจะชนะการเล่นไล่จับในเปลแบบ2รุม1!
โครมมมมมมมมมม!!!!
(หลังจากนั้นเป็นต้นมา เด็กชายทวีเดชไม่ยอมนอนบนเปลอีกเลย....เพราะฝังใจกับเหตุการณ์เปลล้มในวันนั้น คุณสาเลยไม่ต้องไกวเปลจนกล้ามขึ้นอย่างที่เคยพูดเล่นขำๆ อีกต่อไป )
ฉันรีบปราดเข้าไปอุ้มน้องทีแยกออกมาพลางมองค้อนสามีอย่างเคืองๆ ดูแลประสาอะไรเนี่ยถึงปล่อยให้ลูกเปลล้มร้องไห้จ้าแบบนี้ คุณแม่บอกให้ฉันพาน้องทีไปล้างหน้าล้างตา ฉันจึงอุ้มน้องทีขึ้นไปบนบ้านพลางตบหลังโอ๋ให้ลูกหยุดร้องอย่างยากลำบาก ได้ยินเสียงคุณสินธุ์กับน้องแอ๋มเอ็ดลูกซะยกใหญ่ ก่อนจะได้ยินเสียงคุณแม่ห้ามแล้วบอกให้พอแค่นี้ ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันดีไม่ควรมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกัน
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วฉันเลยจับลูกอาบน้ำซะเลย จะได้สดชื่นขึ้น ขณะถูฟองน้ำไปตามตัวก็สังเกตไปด้วยว่าลูกได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ก่อนจะถอนหายใจเมื่อไม่เห็นรอยฟกชั้นดำเขียวเลือดตกยางออกบนตัวน้องที
น้องทีเป็นเด็กแปลก ไม่ว่าจะร้องไห้หนักแค่ไหน พอจับอาบน้ำก็จะหยุดร้องทันที
หลังจากประแป้งจนหอมฟุ้งแล้ว ฉันก็จับน้องทีใส่เสื้อยืดสีขาวลายก้อนเมฆสีฟ้า กับกางเกงขาสั้นสีดำขอบกางเกงสีเขียวมีรูปเบ็นเท็นสกรีนอยู่ ฉันยิ้มบางๆ อย่างถูกใจความคิดตัวเอง...จะได้เข้าธีมซูเปอร์ฮีโร่
แต่งตัวเสร็จฉันก็จูงลูกลงมาข้างล่าง ทุกคนกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ พอเราสองแม่ลูกปรากฏตัว น้องแอ๋มก็รีบยกเค้กที่ปักเทียนสว่างไสวเข้ามา เหมือนเค้กจะทำให้น้องทีลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้เพิ่งจะโดนญาติผู้น้องแกล้งจนร้องไห้ไปหยกๆ เจ้าตัวร้องเพลงวันเกิดเสียงดังอย่างตื่นเต้นที่จะได้กินเค้ก ส่วนสองแฝดยังพูดหรือร้องเพลงยาวๆ ได้ไม่ชัดเจนจึงได้แต่ดำน้ำร้องมั่วๆ ซั่วๆ แต่เสียงดังไม่แพ้น้องทีประหนึ่งจะประชันความดังก็ไม่ปาน อากงอาม่าหัวเราะเบาๆ ยกมือลูบหัวหลานๆ อย่างเอ็นดู
ทันทีที่เพลงจบ ลูกหลานรบเร้าให้ผู้อาวุโสอธิษฐาน ท่านก็ไม่ขัดศรัทธาพึมพำขอให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุขก่อนจะลืมตาขึ้น
“อากงต้องเป่าทีเดียวให้ดับหมดเลยนะคับ คุณครูบอกว่าถ้าเป่าดับหมดทีเดียว คำขอจะเป็นจริงแหละ” น้องเฟิร์สเล่าอย่างกะตือรือล้น
“โอ๊ย! กงแก่แล้ว เป่าคนเดียวไม่ไหวหรอก มา อาที อาเฟิร์ส อาแฝด มาช่วยอากงเป่าดีกว่า”
“ไม่ได้นะอากง คุณครูบอกต้องเป่าคน...”
ปู๊ดดดดดดด ๆ ๆ ๆ
เฟิร์สพูดยังไม่ทันจบภูผากับฟ้าครามก็อ้าปากกว้างสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วช่วยกันเป่าเทียนบนเค้กอย่างเอาเป็นเอาตายจนน้ำลายกระเด็นออกมาเป็นฝอยๆ อาบหน้าเค้กจนชุ่ม
รอบด้านเงียบกริบไปในบัดดล
“ภูผา! ฟ้าคราม! ... ” คุณสินธุ์เตรียมเอ็ดลูกชายฝาแฝดที่ทำตัวไม่รู้กาลเทศะอย่างยิ่ง
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ” อากงหัวเราะเสียงดังอย่างตลกขบขัน จากที่สินธุ์จะดุลูกชายต่อเลยต้องพับเก็บไปดุต่อที่บ้านแทน ทุกคนหัวเราะตาม ก่อนจะมีการตัดเค้กแจกจ่าย
เมื่อได้รับจานเค้กมาแล้ว ทีก็เดินไปนั่งกินอย่างเรียบร้อยข้างๆ เฟิร์สที่กินไปนั่งเล่นเกมมือเดียวไปอย่างเทพ
ภูผากับฟ้าครามยิ้มแต้ถือจานเดินเตาะแตะจะเข้ามานั่งใกล้ๆ แต่ก็ถูกคนเป็นแม่ลากกลับมานั่งข้างๆ ตัว ไม่ยอมให้ไปกวนพวกพี่ชายอีกเป็นครั้งที่สอง
พอทีกินเสร็จก็ลุกเดินไปเดินมาในบ้าน ส่วนภูผากับฟ้าคราม หลังจากจัดการเค้กชิ้นใหญ่ไปคนละสองชิ้นจนพุงกางแล้วก็อาศัยจังหวะที่พวกผู้ใหญ่เผลอแอบคลานออกมาจากวงเงียบๆ
เด็กชายเฟิร์สเหลือบมองน้องชายแวบหนึ่งก็รู้ทันทีว่าน้องคิดอะไรอยู่
“ไอ้อ้วน! มานี่มา จะให้ยืมเกม อยากเล่นไม่ใช่หรอ” เฟิร์สกำลังเซ็งที่แพ้หลายๆ ตาติดกันรวดเลยคิดจะวางมือสักพัก พอเห็นน้องชายจะไปแกล้งญาติผู้น้องอีกก็นึกสงสารเลยรั้งสองแฝดเอาไว้กับตัว
เฟิร์สแปลกใจเล็กน้อยที่น้องชายสองคนไม่สนใจเกมที่ตนหยิบยื่นให้ ทั้งที่ตอนอยู่บ้านแย่งกันแทบตาย เด็กชายชายยักไหล่ก่อนจะก้มหน้ากดเกมอีกครั้ง
ภูผากับฟ้าครามเดินตามทีขึ้นไปข้างบน
“ตามมาไม?” เด็กชายทวีเดชขมวดคิ้วเมื่อหันมาเจอเด็กแฝดคู่กรณีเดินตามมาต้อยๆ
“ที เล่นกันๆ! ^O^ ” ไม่ว่าเปล่า ฉุดมือเขาอีกต่างหาก
“ไม่ ไม่เล่น” ทีดึงมือออก เดินไปยังห้องของพ่อกับแม่ที่ตนนอนทุกวัน
“เล่นกันน้าาาา ๆ ” สองแฝดยืนล้อมหน้าล้อมหลัง ถึงทีจะตัวสูงกว่าแต่ทั้งคู่อ้วนกว่ามากและมีพละกำลังเหลือเฟือ ไม่มีทางที่เด็กชายทวีเดชจะเอาชนะได้แน่ๆ
“อย่ามายุ่งกะพี่นะ ไม่งั้นจะฟ้องอาแอ๋มจิงๆ ด้วย” ทีขู่ เด็กชายไม่รู้สึกอยากเล่นกับน้องชายฝาแฝดเลยสักนิด สองคนนี้ชอบเล่นแรงๆ ชอบแกล้งปิดไฟเวลาเขาเข้าห้องน้ำแล้วดันประตูไว้ไม่ให้เขาออก ชอบเอาหมอนข้างไล่ตีเขา ชอบโกงเวลาเล่นเกมด้วยกัน ชอบทำของเล่นของเขาพัง คราวที่แล้วทียังจำได้ว่าหนึ่งในสองคนนี้นั่งทับรถบังคับคันโปรดของเขาจนพังคาตูด วิ่งไล่จับกันจนไปชนกระจกแต่งตัวในห้องอากงอาม่าแตกไปครึ่งบาน เขาไม่ทันระวังเผลอไปเหยียบเข้าเลยโดนบาดเท้าเลือดไหลซิบๆ เอาโยโย่ที่เวลาเล่นแล้วจะมีไฟขึ้นของเขาไปจุ่มบ่อปลา แล้วอะไรอีกนะ โอ๊ย เยอะมากจนสมองเล็กๆ ที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ของทีจำได้ไม่หมด
เมื่อก่อนทีเห่อน้องที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบสองคนนี้มากเพราะเห็นว่าเป็นของแปลก แต่เมื่อทั้งคู่โตจนเดินวิ่งได้ ทีก็พบว่าน้องสองคนไม่น่ารักอีกต่อไป เมื่อรู้ว่าสองคนนี้จะมาที่บ้านเมื่อไหร่ เด็กชายทวีเดชมักจะวิ่งไปแอบทุกครั้ง โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพฤติกรรมชอบแอบของเจ้าตัวมันยิ่งไปกระตุ้นให้เด็กแฝดรู้สึกสนุกและอยากจะมาบ่อยๆ เพื่อจะได้เล่น ‘ซ่อนหา’ กับญาติผู้พี่
“ไม่เล่น!” เด็กชายทวีเดชผลักน้องชายฝาแฝด ภูผากับฟ้าครามไม่ทันตั้งตัวเลยเซแท่ดๆ ทีอาศัยจังหวะนั้นวิ่งเข้าห้องพ่อแม่แล้วปิดประตู เด็กแฝดพยายามดันประตูเข้ามา โชคร้ายที่เด็กชายทวีเดชในตอนนั้นไม่รู้วิธีล็อกลูกบิดจึงได้แต่ใช้ตัวดันประตูไว้ไม่ให้แฝดนรกดันเข้ามา
…แต่ในที่สุด ทีก็ต้านแรงหมูตอนสองตัวไม่ไหว ประตูเปิดผางออกในที่สุด
…
…
…
“มาเล่นซูโม่กัน!” เตียงนอนถูกเปลี่ยนเป็นสนามซูโม่ ทีไม่เอาด้วยจะก้าวลงจากเตียง แต่ก็โดนลากขึ้นไปใหม่ แล้วหมูแฝดสองตัวนั่นก็ผลักเขาล้มลงกับเตียงหลายรอบจนเด็กชายทวีเดชชักจะทนไม่ไหว เริ่มมีน้ำโหขึ้นมา จึงรวบรวมแรงผลักคืน สองคนนั้นก็ทำตัวอ่อนยอมล้มลงไปนอนบนฟูกนุ่มๆ แต่โดยดีแล้วหัวเราะชอบใจที่พี่ยอมเล่นด้วย ก่อนจะเด้งตัวขึ้นมาเล่นผลักกับทีใหม่ เด็กชายทวีเดชรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลยที่ตัวเองโดนรุมแบบนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ทีรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากเล่นแล้ว เล่นไปก็แพ้ โดนผลักล้มผลักล้มอยู่นั่นแหละ ใครมันจะไปสนุกด้วย เลยจะเดินหนีออกจากห้องลงไปหาพ่อแม่ แต่เด็กแฝดก็ไม่ยอมเลยกลายเป็นวิ่งไล่จับกันอยู่ในห้อง ทีกระโดดหนีขึ้นไปบนเตียง หยิบหมอนใบใหญ่ปาใส่ภูผากับฟ้าคราม เด็กแฝด หยิบหมอนที่พี่ปาลงมา ปากลับขึ้นไป สุดท้ายก็กลายเป็นการเล่นจระเข้ไปซะงั้น ทีตั้งกฎว่าภูผากับฟ้าครามต้องอยู่ข้างล่าง ห้ามขึ้นมาบนเตียง เพราะเป็นจระเข้ เด็กแฝดก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย เขาสองคนต้องทำยังไงก็ได้ให้ทีตกลงมาในน้ำหรือก็คือที่พื้นถึงจะชนะนั่นเอง
ทีวิ่งหนีวนไปวนมาอยู่บนเตียงในขณะที่เด็กแฝดเอาหมอนบ้าง หมอนข้างบ้างปาใส่เพื่อให้ทีล้มลงใกล้ๆ ขอบเตียง พวกเขาจะได้ฉุดอีกฝ่ายลงมาข้างล่าง
ทีเองก็ไม่ยอมแพ้ หยิบหมอนข้างใบโตไล่ตีหัวเด็กแฝดอยู่บนเตียงเหมือนเล่นเกมตีหัวตัวตุ่น รู้สึกสะใจที่ในที่สุดก็มีโอกาสเอาคืน แต่เด็กแฝดมีหรือจะยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว สองคนนั้นรวมพลังกันยื้อหมอนข้างเอาไว้แล้วกระชากแรงๆ จนทีที่จับหมอนข้างอีกด้านอยู่ตกลงมาบนกองหมอนที่หล่นอยู่รอบๆ เตียง
“แฮ่!! จะกินล่ะนะ !” จระเข้สองตัวหัวเราะชอบใจที่ในที่สุดก็ฉุดเหยื่อลงมาในอาณาเขตของตนได้ ฟ้าครามกระโจนเข้าไปจักจี้อีกฝ่ายส่วนภูผาก็เอาฟันงับๆ แขนของทีจนชุ่มน้ำลายไปหมด ทีได้แต่หัวเราะดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนกองหมอน พยายามกระเสือกกระสนจะปีนหนีกลับขึ้นบกซึ่งเป็นอาณาเขตของตนให้ได้ รอจนสองแฝดเล่นกับเหยื่อจนพอใจแล้วถึงได้ถูกปล่อยตัวขึ้นมาบนบกแล้วเล่นกันใหม่อีกรอบ อีกรอบ และอีกรอบ
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของคุณสาที่แอบย่องขึ้นมาดูเพราะเป็นห่วงว่าทีจะโดนแกล้งอะไรแรงๆ หรือเปล่า แต่เมื่อเห็นว่าสุดท้ายเด็กทั้งสามเข้ากันได้ดีจึงวางใจ เดินกลับลงไปเม้ามอยต่อด้านล่าง
แอ๊ดดดด
“ภูผา ฟ้าคราม กลับบ้านได้แล้วลูก ” คุณแอ๋มเดินขึ้นมาตามลูกชายฝาแฝดกลับบ้านเมื่อเห็นว่าได้เวลากลับเสียที
แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้เธออดที่จะยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้
เด็กสามคนนอนรวมกันอยู่บนเตียงที่หมอนผ้าห่มกระจัดกระจายเต็มไปหมด ทีนอนอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยร่างอ้วนกลมปุ๊กของภูผาและฟ้าครามที่เอาแขนเอาขากอดก่ายคนตรงกลางเอาไว้อย่างแน่นหนาจนเธอรู้สึกอึดอัดแทน พอทีขยับพลิกตัวสองคนนั้นก็จะขยับตามแล้วเอาหน้าไปถูๆ แก้มคนตรงกลาง เป็นภาพที่ดูน่ารักมากจนเธอต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายไว้
“งื้อ! ม่ายอาววว ม่ายกลับบบ ” สองแฝดงอแงเมื่อคุณสินธุ์พยายามจะอุ้มเจ้าตัวขึ้นจากเตียง
“ไม่เอาไม่งอแงนะครับ กลับบ้านเร็วลูก ฮึบ ” คุณสินธุ์พยายามอุ้มหนึ่งในหมูตอนขึ้น แต่ภูผาก็อิดออดพยายามทิ้งตัวลงบนเตียง กอดคนตรงกลางไว้แน่น ไม่ยอมโดนแยกออกมาท่าเดียว คุณสินธุ์จึงหันไปงัดตัวฟ้าครามแทน แต่ผลก็ออกมาเป็นเหมือนเดิม สุดท้ายต้องขอแรงคุณเดชมาช่วยแยก สองแฝดงอแงดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในอ้อมแขนเมื่อจะอุ้มพาลงไปข้างล่าง
“สงสัยจะง่วงเลยงอแง” คุณเดชว่าก่อนอุ้มภูผาเดินตามคุณสินธุ์ลงมาข้างล่าง
“ไม่อาววว ไม่กลับบ้านน จะเล่นกับพี่ที แงๆ ๆ ๆ ๆ ” ภูผากับฟ้าครามร้องไห้จ้าตลอดทางกลับบ้าน มองดูแล้วน่าสงสารจนคุณแอ๋มต้องปลอบใจลูก
“ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็มาอีกเนอะ ”
ได้ผล สองแฝดหยุดร้องไห้ นั่งจ้องผู้ใหญ่ตาแป๋ว
“จริงนะ?”
“…ถ้าทำตัวดี อาทิตย์หน้าจะพามาลอยกระทงกับพี่ที เอาไหม?” คุณสินธุ์ถามยิ้มๆ
สองแฝดมองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มจนแก้มแทบแตก
“เย้!!”
เด็กแฝดหันไปมองบ้านที่เพิ่งจากมาจนลับสายตา
สักวัน…ถ้าได้อยู่ด้วยกันทุกวันไม่ต้องแยกจากกันอีก..ก็คงจะดี
---------------------------------------------------------------------
ติดเเท็ก #เกียร์คู่ (@candleguard) มาหวีดกันเถอะค่า!!><