เกียร์คู่ในตำนาน ( yaoi 3P ) side story : Where R U? อยู่ไหนครับ...ที่รักของผม5[24\3\63]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์คู่ในตำนาน ( yaoi 3P ) side story : Where R U? อยู่ไหนครับ...ที่รักของผม5[24\3\63]  (อ่าน 50468 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คงต้องรวบหัวรวบหางพี่ทีแล้วแหละ

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
side story >>> Where are you ? อยู่ไหนครับ...ที่รักของผม 1 (อ.ปกรณ์)
                                                   
บทพิเศษ

Where are you? อยู่ไหนครับ…ที่รักของผม 1

(ปอ X วา)




วา …มึงอยู่ไหน กูหามึงไม่เจอ

วา…8 ปีแล้วนะที่มึงหายตัวไปไม่ติดต่อใครเลย

พ่อแม่มึงเป็นห่วงมากนะ แม่มึงคิดถึงมึงจนจะตรอมใจอยู่แล้ว

เพื่อนทุกคนก็คิดถึงมึงมาก

รวมถึงกูด้วย

วา…มึงอยู่ไหน กลับมาได้แล้ว

กลับมาสักทีเถอะ มึงก็รู้ไม่ใช่หรอว่าการรอคอยมันทรมานแค่ไหน

มึงเคยบอกกูไม่ใช่หรอว่าไม่ชอบรอใคร

แล้วทำไม…ถึงปล่อยให้กูรอมึง?






ผมกำเฉลวรูปดาวไว้แน่น เงยหน้ามองท้องฟ้ายามราตรีที่แสงดาวแทบจะถูกแสงสีในเมืองหลวงบดบังจนมิด





‘ปอ มึงดูโน่น ดาวนายพราน ’

‘ ไหนวะ ’ ผมชะโงกหน้าไปใกล้ๆ ไอ้วา หนึ่งในรูมเมทของผม

‘นั่นไง เห็นดาวสามดวงที่เรียงกันนั่นป่ะ …อันนั้นเข็มขัดนายพราน ’

‘ สามดวงนั้นหรอ?’

‘ใช่…แล้วสี่ดวงที่เหลือนั่นเป็นแขนกับขา ’

‘มึงดูดาวเป็นด้วย?’

‘เป็นแค่กลุ่มเดียวอ่ะนะ ’ มันยักไหล่ก่อนจะยิ้มให้ผม







‘โอ๊ย! หิวข้าววววว ’ ไอ้วาแหกปาก ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเดินมา

‘ไปล่าเหยื่อดิ ’ ผมแนะนำ (ศัพท์ในห้องเรา ล่าเหยื่อ=หาข้าวกิน)

‘ดึกป่านนี้กูไม่มีอารมณ์ออกไปล่าเหยื่อหรอก ขี้เกียจเดิน ’

‘วา…กินถั่วมั้ย?’ ไอ้ไมค์ชูถั่วเหลืองคั่วในซองพลาสติก

‘เออ ก็ได้วะ กินกันตาย ’

-วันต่อมา-

‘ไมค์มึงกินถั่วอีกแล้วหรอวะ ’ ไอ้วาถามเมื่อเรียนเสร็จแล้วกลับมาที่ห้อง

‘อืม…เราว่ามันอร่อยดีนะ วาเอาด้วยมั้ย ’ ว่าพลางกวักมือเรียก

‘ไม่เป็นไร ขอบใจนะ ’

-หลายวันต่อมา-

‘โอ๊ย! หิวว่ะ ’

‘ กินถั่วมั้ย ’

‘มึงเป็น ask.fm เหรอไมค์ ฮ่าๆ ๆ ๆ ’ ไอ้ต้นหัวเราะ

‘เฮ้ย! อย่ามาว่าไมค์ของกูนะ ’ ไอ้วาปกป้องทั้งที่ตัวเองก็หัวเราะขำ

‘อะไรกัน…เราก็ว่ามันอร่อยดีนะ ดูนี่สิเรามีตั้งหลายถุง อยากกินก็มาหยิบที่โต๊ะเราเลยนะ^^’

‘…ขอบใจนะ แต่มึงเก็บไว้กินเองเถอะ ’ ไอ้ต้นตอบ







‘ปอ หมากตานี้เรามาวางเดิมพันกันดีกว่า ’

‘ อย่างมึงเนี่ยนะจะชนะกู ’ ผมเลิกคิ้ว

‘เออ! หน้าอย่างกูเนี่ยแหละ…กูไปซ้อมเล่นกับไอ้กี้มาแล้วรับรองวันนี้มึงดับแน่ ’ ไอ้กี้เพื่อนคณะมึงที่ชอบแต่งตัวเหมือนคัฟเวอร์วงเกาหลีอ่ะนะ=_=

‘จะเดิมพันอะไร?’

‘ถ้ากูชนะ กูขอเกียร์มึง ’

‘เฮ้ย! นี่มันสัญลักษณ์ความเป็นวิศวะของกูเลยนะ-*-’

‘ฮ่าๆ ๆ เดิมพันยิ่งสูงก็ยิ่งเร้าใจไง ’

‘..งั้นถ้ามึงแพ้กูขอเฉลวมึงละกัน ’ ผมมองไปที่สร้อยรูปดาวที่มันได้มาตอนรับน้องคณะเภสัชฯ

‘เฉลวเนี่ยอ่ะหรอ? ด้ายยยยย ตั้งกระดานเลย กูขอเล่นสีดำนะ ’

‘สีดำมันของกู ’ สีนำโชคผมเองครับ เล่นทีไรไม่เคยแพ้

‘ ไม่ คราวนี้กูจะเล่นสีดำมั่ง มึงไปเล่นสีขาวเลย ’

‘ก็ได้…’

…ท่าทางสีขาวก็น่าจะเป็นสีนำโชคของผมเหมือนกันแฮะ





‘ปอ มีนกมาทำรังที่บานเกล็ดระเบียงฝั่งมึงด้วยแหละ ’ (ขออธิบายตรงนี้นะครับ ห้องพักที่เราอยู่เป็นหอในห้องพัดลม อยู่กันสี่คนเป็นเตียงสองชั้น ฝั่งซ้ายไอ้ต้นจากเศรษฐศาสตร์นอนชั้นบน ไอ้วาจากเภสัชนอนชั้นล่าง เตียงฝั่งขวาผมนายปกรณ์ชื่อเล่นว่าปอจากคณะวิศวะนอนชั้นบน ไอ้ไมค์จากคณะสาธารณสุขอยู่ชั้นล่าง ห้องเรามีสองระเบียงฝั่งไอ้วาหนึ่ง ฝั่งผมอีกหนึ่ง)

‘ไอ้ไมค์ไม่เอาไว้แน่ ’ ไอ้นี่มันรักความสะอาดจะตาย

‘ มึงจะเอารังมันออกหรอ ’ ไอ้วามองหน้าผมเหมือนอยากต่อว่าว่าผมมันคนใจยักษ์ใจมาร ผมยักไหล่

‘ ไม่รู้สิ ’

‘ กูอยากเห็นลูกนกจังว่ะ ’

‘กูก็อยากเห็นมันออกไข่นะ ’ ผมว่า

‘ ให้มันอยู่ได้ไหม?’

‘ไม่รู้สิ ต้องถามไมค์ก่อน ’





‘ปอ ช่วงนี้มึงไม่ค่อยสบายใช่ป่ะ ’

‘อ่าฮะ…ก็นิดหน่อย ’ ช่วงนี้นอนดึกติดต่อกันหลายวันไปหน่อยผมเลยเริ่มเจ็บคอน่ะ

‘กูบอกให้เอามั้ยว่ากินอะไรแล้วจะหายเร็ว ’

‘???’ ผมเลิกคิ้ว เออ มันเรียนเภสัชอาจจะรู้จักยาอะไรดีๆ ก็ได้

ผมมองตามมือที่ชี้ไปทางระเบียง

‘ แดกรังนกดิ กร๊ากกกกก ’ พูดจบไอ้วาก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น ไอ้ไมค์กับไอ้ต้นที่ได้ยินบทสนทนาของผมกับไอ้วาอยู่ตลอดก็หัวเราะกันเสียงดัง

‘ หึหึ กวนว่ะไอ้บ้า ’ ผมเบิ้ดกะโหลกมันไปทีแล้วก็หัวเราะขำไปด้วย ใครมันจะไปกินรังนกที่ทำจากกิ่งไม้กับเศษขนไม้กวาดล่ะวะ





‘ต้น กูคิดถึงบ้านจังเลยว่ะ ’

‘อืม กูก็เหมือนกัน ’

ไอ้วากับไอ้ต้นออกมานั่งซบไหล่กันหน้าห้อง มือก็กดมือถือต่อเน็ตหอไปด้วย (ในห้องสัญญาณมันเข้าไม่ถึง)

‘นี่ๆ จะซบกันก็เข้าไปซบในห้อง เดี๋ยวยามมาเห็นโดนหักแต้ม ’ ผมที่เพิ่งเดินไปกดน้ำร้อนต้มมาม่าเอาตีนเขี่ยพวกมันอย่างเอือมระอา ตอนปฐมนิเทศหอในเขาก็บอกแล้วนะว่าห้ามกอด จูบ ซบ กันในหอทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม …เกิดโดนหักแต้มเกินร้อยเดี๋ยวก็โดนไล่ออกหรอก

ไอ้ต้นกับไอ้วาเงยหน้ามองผม

‘พวกขี้อิจฉา ’ ไอ้ต้นว่า

‘ขาดความอบอุ่น ’ ไอ้วาเสริม

โอเค เชิญพวกมึงซบกันโชว์กล้องวงจรปิดไปให้พอเลย…







‘ปอ มึงดูดิ นกน่ารักจังเลยว่ะ ’

‘มึงนี่โรคจิตเนอะ ตั้งแต่มันมาทำรังก็ส่องมันได้ทุกเช้า ’

‘กูแค่ศึกษาชีวิตสัตว์เฉยๆ หรอก ’

‘…บางทีกูก็คิดนะว่ามึงขอไอ้ไมค์เลี้ยงนกเพราะมีจุดประสงค์อื่นนอกจากสงสาร ’

‘ จุดประสงค์ไรวะ ’

‘มึงกะจะเลี้ยงไว้เอาไข่มันมากินล่ะสิ ’

‘ไอ้หอก! กูไม่ชั่วขนาดขโมยกินไข่นกกระจิบหรอกเฟ้ย ’

‘ขนาดดอกกุหลาบกูมึงยังเอาไปชุบแป้งทอดกินได้ ไข่นกกระจิบจะเหลือเรอะ …เอ๊ะ แล้วที่เดี๋ยวนี้ห้องเราไม่ค่อยมีจิ้งจกอย่าบอกนะว่าฝีมือมึงน่ะ ’

‘ไอ้บ้า! มึงดิกินจิ้งจก ’ แล้วมันก็เอาผ้าห่มมาไล่รัดคอผม แหม ร้อนตัว หึหึ







ว่ากันว่าหอในทุกหอมีผีอยู่ชนิดหนึ่ง…มันจะสิงตู้เย็นและทำให้อาหารหายไปอย่างไร้ร่องรอย

‘ เฮ้ย! ไข่ต้มกูโดนขโมยไปฟองนึงว่ะ เชี่ย! ใครวะ น้องกูอุตส่าห์ต้มมาให้ ’ ไอ้วาโวยวาย

‘ มึงนับดีหรือยัง มึงอาจจะกินเองลืมเองก็ได้ ’

‘ไม่! กูจำได้ว่ามันมี 7 ฟอง แต่ตอนนี้มันเหลือ 5!’

‘เมื่อวานกูเห็นมึงกินไป 1 ฟอง ’

‘ก็เหลือ 6 ไง แต่มันดันเหลือ 5 มีคนขโมยไข่กู !’

‘นั่นมึงจะทำอะไร ?’

‘เขียนด่ามัน !’

‘…’ ชะโงกหน้าเข้าไปดู ‘กรรมของการขโมยกินของชาวบ้าน=เปรต /รู้จักมั้ยเปรตน่ะเปรต’

‘มึงว่ามันจะสำนึกไหม?’

‘ไม่รู้ดิ…แต่กูจำได้ว่าจะเป็นเปรตมันต้องขโมยของพระกินไม่ใช่อ่อ ’

‘เออน่ะ!’

-วันต่อมา-

‘ปอ! กูโดนขโมยไข่อีกแล้ว ทำไมโจรมันไม่สำนึกเลยวะ กูเขียนด่าแม่งแล้วนะ!’

‘อืม ’

‘โจรแม่งชั่ว ! มึงดูดิแค่ไข่ต้มฟองละเจ็ดบาทมันยังขโมย ทำไมมันไม่ไปขโมยของที่มันแพงกว่านี้วะ เสียศักดิ์ศรีว่ะ จะเป็นโจรทั้งที ’

‘ฮ่าๆ ๆ เออนั่นดิ ’







‘วา มึงดูดิ ’ ผมชูถุงในมือให้มันดู

‘อะไรวะ? ไก่ย่าง?’

‘เออ กูโดนขโมย เมื่อวานกูแช่ไว้สองไม้ วันนี้มันเหลือไม้เดียว ทำไมมันไม่เอาไปสองไม้เลยวะทิ้งไว้ให้กูเจ็บใจเล่นไม้นึงทำไม-*-’

‘ฮ่าๆ ๆ โจรแม่งกวนตีนว่ะ ’







‘กบกระโดดๆ ๆ ข้ามรั้วๆ ๆ ๆ ๆ กบกระโดดกี่ครั้ง?’

‘4 ครั้ง ’

‘ ผิด 5’

‘ทำไมวะ เอาใหม่ดิ๊ ’

‘กบกระโดดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ข้ามรั้ว กบกระโดดทั้งหมดกี่ครั้ง ’

‘1’

‘7’

ผมขมวดคิ้ว

‘เอาใหม่ดิ๊…’







‘ปอ ทำไมมดแดงถึงฟันผุ ’

‘ มดแดงกินมะม่วงหวาน ’

‘ไม่ใช่ ’

‘มดกินน้ำตาล ’

‘ ม่ายถูก…ยอมยัง ’

‘ เออยอม ’

‘ก็มดแดง…แปลงร่าง!!’

‘ ทำไมวะ...งง ’

‘เอ๊า! ก็แปรงล่าง ไม่ยอมแปรงบนไง ไอ้โง่ ’

‘…’ อ่อ เก็ทละ มันหมายถึงยอดมนุษย์ไอ้มดแดงสินะ







‘กูโดนขโมยขนมไว้พระจันทร์ที่แม่กูเอามาฝากอ่ะ! แม่ง##$%$R%$TTGD’

-วันต่อมา-

‘ กูไปบ่นเรื่องโดนขโมยขนมไหว้พระจันทร์ให้ไอ้กี้ฟัง มันเลยเอาที่บ้านมันมาให้ว่ะ ’

‘กี้ใจดีเนอะ ’

‘อื้ม!’

‘วันหลังมึงก็บอกไอ้กี้ดิ ว่าเอาตังค์แช่ตู้เย็นแล้วหาย เผื่อมันจะเอามาคืนให้มึง ’

‘ไอ้บ้า มันก็ด่ากูว่าโง่อ่ะสิ=*= ใครเค้าจะเอาเงินไปแช่ตู้เย็นฟระ ’







‘วันนี้ไอ้กี้แม่งฮามากอ่ะ ’

‘ทำไมหรอ ’

‘ก็วันนี้มันใส่กางเกงขาสั้นมาเรียน กูเลยเรียกมันว่าไอ้กางเกงเหี่ยน มันด่ากูใหญ่เลย กรั๊กๆ ๆ ’





‘ปอๆ ๆ กูมีข่าวดีจะบอกแหละ ’

‘ฮะ? อะไรหรอ ’

‘นกออกไข่แล้ว ทายดิ๊ว่ากี่ฟอง ’

‘ เฮ้ย! นกออกไข่แล้วหรอ ’

‘ ทายดิกี่ฟอง ’

‘ สามฟอง ’

‘เฮ้ย เก่งงงง’

ผมรีบถอดรองเท้าเดินไปส่องที่บานเกล็ด พอเห็นไข่ใบเล็กๆ สามฟองผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ …น่ารักดี สมกับที่รอคอย

‘ กูจะจำไว้ว่ามันมีอยู่สามฟอง ’ ผมพูด

‘เออ แล้วไงวะ? ’

‘ก็ถ้ามันหายไปล่ะก็ กูจะสงสัยมึงคนแรกเลย ’

‘ฮ่วย! เมื่อไหร่มึงจะเลิกมองกูเป็นพวกเปิบพิสดารซักทีวะ กูไม่เอาไปตอกใส่มาม่าหรอกน่ะ ’







วานอนอยู่บนเตียง ผมที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำเดินไปนั่งพื้นเอนหลังพิงเตียงมัน

‘…ปอ ’

‘หืม เป็นไงวา ’

‘รู้สึกไม่ค่อยดี…’ วายื่นมือมาแตะแขนผม…ร้อนจัง

‘ กินยายัง ’

‘อือ ’

‘ นอนไป ’ ผมตบหน้าผากมันเบาๆ แล้วนั่งเล่นมือถือเฝ้าไข้มัน

‘ กูคิดถึงแม่จังเลยว่ะ ’

‘ อืม ’

‘ พ่อด้วย ’

‘อืม ’

‘ทำไมเวลาป่วย กูถึงรู้สึกอ่อนแองี้วะ ’

‘…’

‘ปอ กูคิดถึงบ้าน กูอยากกลับบ้านจังเลยว่ะปอ ’

‘ ก็ไปสิ ’

‘ไม่ได้…’

‘ งั้นก็โทรหา ’

‘ไม่เอา เดี๋ยวแม่เป็นห่วง ’

‘เฮ้อ…’

‘ปอ…กูคิดถึงพ่อแม่จังเลย…คิดถึง…คิดถึง ’

ผมจับมือมันที่ตกลงมาข้างเตียง

‘ไม่เป็นไร กูอยู่กับมึง นอนแล้วรีบๆ หายซะ ’

‘อืม ’





-------------------------------------------------------------------------------

- ยังมีต่อเรื่อยๆ ค่ะ เป็นเรื่องรอง (ไม่มีการแยกเป็นเรื่องหลักนะเออ^^) เอาไว้เขียนเล่นแก้เซ็ง ตอนหน้ากลับไปเจอสองแฝดเหมือนเดิมจ้า



- เฉลว เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของคณะเภสัชฯ ลักษณะคล้ายดาวมีหางยาว เอาไว้ปักหม้อยาสมัยก่อนกันคุณไสย และเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าเป็นยา ให้รักษาความสะอาด ประมาณนี้ค่ะ















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2018 22:13:32 โดย candleguard »

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :pig4: รอจ้า สู้ๆน้าาาาาาา

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แล้ววาหายไปไหนล่ะ  :ruready

ปล. จำได้ตอนเด็กไปเที่ยวแม่กลอง เห็นคนสานเข่งใส่ปลาทู เลยถามว่าสานลายอะไรคะ กนกหรือเปล่า เขาบอกไม่ใช่เป็นลายชะเหลว (เป็นภาษาพูดแต่ไม่รู้ว่าเขียนอย่างไร) นี่ถ้าไม่แจงว่าเป็นรูปดาว จะนึกว่าถือเข่งใส่ปลาทูนะเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 รู้เรื่องวัยเรียนของอ.ปกรณ์ด้วย  :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2018 05:24:28 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อาจารย์มีมุมนี้ด้วย

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
รอแฝดกับพี่ทีครับ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
รอค่ะ สนุกมากเลย
พี่มีความไบโพล่านิดๆ
แฝดแสบมากแต่ก็น่ารัก
รออ่านอยู่นะคะ

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1

                                                                ตอนที่ 23  รับน้อง 1



(ฟ้าคราม)



ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียงแสนสบายของพวกเรา ตาก็มองไอ้ภูที่กำลังขนเสื้อผ้าเน่าๆ จากค่ายออกมาเตรียมส่งซัก วันนี้พี่ทีประชุมอะไรที่คณะก็ไม่รู้เห็นว่าจะกลับดึก อยากตามไปนะ แต่พี่เค้าไม่ให้ไปด้วย เซ็งจัง เมื่อไหร่จะเปิดเทอมวะ จะได้ไปเรียนด้วยกันทุกวัน



“คราม”



“หือ?” ผมผงกหัวขึ้นก่อนวัตถุวาวๆ บางอย่างจะถูกโยนขึ้นมาบนเตียง



“เออว่ะ เกือบลืมไปเลยนะเนี่ยว่าเก็บมาด้วย” ผมคลึงวัตถุชิ้นเล็กในมือเล่นไปมา



“เก็บมาทำไมก็ไม่รู้ เดี๋ยวมึงก็ได้” ไอ้ภูบ่น



“ก็เก็บมาเล่นๆ … ข้างหลังสลักอะไรไว้ด้วยว่ะ” ผมยื่นวัตถุในมือให้ไอ้ภูดู แต่มันไม่สนใจ เอาแต่ควักๆ ล้วงๆ กระเป๋ากางเกงแต่ละตัวเพื่อตรวจสอบว่าไม่ลืมอะไรไว้ก่อนจะโยนลงตะกร้า เมื่อเห็นมันไม่สนใจผมก็ไม่ตื๊อต่อ



“…ซีอี 38 วีเอ …แปลว่าไรวะ” ผมอ่านตัวอักษรที่สลักด้านหลัง ยังไม่ทันที่ไอ้ภูจะหันมาตอบผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเปิดประตูเข้ามา พี่ทีคงจะกลับมาแล้วแน่ๆ ได้เวลานัวเนียทำคะแนนแล้วสิ



“กูเอาไปถามพี่ทีดีกว่า” ขณะที่ผมกำลังจะออกจากห้องไอ้ภูก็เรียกผมไว้ซะก่อน



“เฮ้ย! เดี๋ยวพี่ทีก็สงสัยหรอกว่าไปได้มาจากไหน” มันมองตาผมอย่างสื่อความหมายที่รู้กันแค่สองคน



“ก็บอกว่าเก็บได้แถวๆ มหา’ ลัยสิวะ มึงนี่ขี้ระแวงไปได้ พี่เค้าไม่สงสัยหรอกน่า โห่”



“ตอนไดอารี่มึงยังไม่เข็ดใช่ป่ะ …มึงต้องรอบคอบให้มากกว่านี้นะเว้ย…คราวนี้เกิดพี่แกรู้ความจริงเข้าล่ะมึงเอ๊ย…ไม่อยากจะคิด”



“เออๆ ๆ ก็ได้วะ” ถึงผมจะคิดว่าไอ้ภูมันระแวงเกินเหตุแต่เพื่อความสบายใจผมเลยโยนวัตถุชิ้นนั้นใส่ตักมัน

(จบบทฟ้าคราม)





“โอ๊ยยยยย ทำไมกิจกรรมมันเยอะแบบนี้เนี่ยยยยย” เสียงภูผากับฟ้าครามผลัดกันโอดครวญดังมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ เมื่อได้รู้ว่าเสาร์อาทิตย์ก่อนเปิดเทอมจะต้องไปรับน้องและค้างที่คณะหนึ่งคืน



“จะไม่ไปก็ได้นี่ เขาไม่ได้บังคับ” ผมพูดยิ้มๆ ขณะเดินเข้ามายืนมองเจ้าแฝดนรกจัดเสื้อผ้าเตรียมไปค้างที่คณะ



“โห ไม่บังคับเล้ย แค่คนที่ไม่ไปจะไม่ได้รุ่น ไม่ได้เกียร์ ไม่มีพี่รหัส แค่นั้นเอ๊งงงง” แหม่ ยอกย้อนๆ



“เรามีปีหนึ่งกันแค่ครั้งเดียวนะ มีกิจกรรมอะไรก็ทำๆ ไปเหอะ พอขึ้นปีสูงๆ ก็ไม่ได้มาเล่นอะไรแบบนี้แล้ว…”



Rrrrrrrrrrrrrrrrrr



ผมเดินออกมานั่งคุยโทรศัพท์ที่โซนนั่งเล่นเงียบๆ



“อะไรนะ! อาจารย์ให้แก้อีกแล้วหรอวะ” ผมขยี้ศีรษะอย่างหงุดหงิด แก้มาห้าครั้งแล้วนะ ไหนบอกว่าผ่านแล้วไง พรุ่งนี้จะพรีเซนต์แล้วด้วยทำไมเพิ่งเมลล์มาบอกเอาตอนนี้!?



ผมนั่งแก้งานจนไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว



…เตียงไอ้แฝดน่ะนะ



เฮ้ยยยยยยยยยยย แล้วงานผมล่ะ!!



ผมผุดลุกเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นก็พบว่าอาจารย์เมลล์มาบอกว่าเลื่อนวันพรีเซนต์เป็นอาทิตย์หน้า อาทิตย์นี้แกจะไปสัมมนาที่แมนฮัตตัน=_=



ให้มันได้อย่างนี้สิ!!



ใจนึงผมก็รู้สึกโล่งอก อีกใจก็โคตรจะโกรธอาจารย์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ งั้นวันนี้อาจารย์ก็ยกคลาสน่ะสิ ก็ยังดีไหนๆ วันนี้ก็ว่างแล้วนอนแก้งานที่ห้องก็แล้วกัน



ผมมองนาฬิกา ตั้งแต่ย้ายมาอยู่คอนโดกับเจ้าฝาแฝดผมแทบไม่เคยตื่นเช้าเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วลงไปใส่บาตรพระดีไหมนะ



ผมอาบน้ำอย่างไม่รีบร้อน หยิบเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวมิ้นท์มาสวมคู่กับกางเกงสามส่วนสีครีม กดลิฟต์ลงไปด้านล่าง เข้าเซเว่นซื้อบิ๊กเปาหมูสับ น้ำดื่ม นม ขนมสองสามอย่างแล้วออกมายืนรอใส่บาตรบริเวณสวนหย่อมหน้าคอนโด



“พี่ที!” ผมหันไปตามเสียงเรียก เห็นไอ้ยูโรโบกไม้โบกมือมาให้แต่ไกล



“ขยันจ๊อกกิ้งแต่เช้าเลยนะ” ผมชวนคุยยิ้มๆ



“แถวนี้เช้าๆ อากาศดีน่ะครับ… แล้วนี่พี่ลงมาทำอะไรแต่เช้า ใส่บาตรหรอ?” ยูโรชวนผมคุยด้วยหน้ามึนๆ เหมือนคนยังไม่ตื่นดีเช่นเคย ก่อนจะเหลือบมองของในมือผมแล้วมองไปรอบๆ



“ไอ้แฝดล่ะพี่?” ผมพยักพเยิดไปทางคอนโดเป็นการบอกว่ายังไม่ตื่น ผมชวนยูโรตักบาตรพระเสร็จแล้วว่าจะไปหาอะไรกินด้วยกันเสียเลย



“เสาร์อาทิตย์นี้พี่จะไปด้วยมั้ยครับ” ยูโรชวนคุยขณะยืนรอพระ



“คงโผล่ไปดูเป็นพักๆ มั้ง ยังไงงานนี้ก็ไม่อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ …”



บทสนทนาของเราหยุดลงเมื่อพระสงฆ์สองรูปเดินมา เมื่อรับพรเสร็จผมกับยูโรก็ไปนั่งกินกวยจั๊บเจ้าเด็ดแถวหน้ามอด้วยกัน ทำไมวันนี้รู้สึกชิวจัง ดูเรื่อยๆ เอื่อยๆ ยังไงไม่รู้อารมณ์สโลว์ไลฟ์มากครับ



“พี่ทีแยกสองคนนั้นยังไงอ่ะ ดูตรงไหนหรอพี่ ผมอยู่กับพวกมันมาเกือบเดือนแล้วยังแยกไม่ออกเลย” ยูโรถามผมด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ พลางตักซุปรสเข้มข้นขึ้นมาซดเสียงดัง



“ภูผามีปานเล็กๆ ที่ข้อมือซ้ายนะถ้าจำไม่ผิด”



“เวลาพี่จะเรียกชื่อมันพี่ก็มองมือก่อนอ่ะนะ?”



“เมื่อก่อนก็ทำงั้นแหละ แต่เดี๋ยวนี้ ไม่มองก็พอแยกออกว่ะ”



ผมนั่งซดกวยจั๊บเงียบๆ ตาก็มองข่าวในทีวีไปด้วย จู่ๆ ไอ้ยูโรก็พูดขึ้นมาอีก



“สองคนนั้นมันชอบพี่อ่ะ รู้ตัวปะ”



“พรวดดดดดดดด!!! แค่กๆ ๆ …” น้ำซุปปนกับเส้นกวยจั๊บพุ่งออกจากปากผมไปอยู่บนหน้าเจ้าของประโยคเมื่อครู่ด้วยความตกใจ



“เย้ยยยย! พี่ทำไรเนี่ย แหยะะะะะ” ไอ้ยูโรกระโดดตัวลอยด้วยความตกใจเลยครับ ไอ้ห่า ก็เมื่อกี้มึงพูดอะไรออกมาล่ะ กูก็ตกใจสิวะ!



“ก็มึงพูดอะไรชวนอ้วกทำไมล่ะ ไอ้พวกนั้นมันยังเด็กก็คงปลื้มกูเหมือนที่ปลื้มพวกดาราเกาหลีอ่ะเเหละ …ฮ่าๆ ๆ เออๆ โทษทีๆ นะ” ผมอดจะขำท่าทางมันไม่ได้ ดูไม่จืดเลยว่ะ หน้าเน่อเสื้อผ้าเลอะหมด ทำไมผมถึงมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นได้ลงคอนะหึๆ



“มื้อนี้พี่เลี้ยงผมเลยนะ” มันเบ้ปากทำหน้าหยะแหยง



“เออๆ เลี้ยงก็เลี้ยง หึๆ ๆ ” ผมหัวเราะขำในลำคอก่อนจะจ่ายเงินและพามันกลับมาล้างเนื้อล้างตัวที่คอนโดด้วย









“พี่ทีออกไปไหนมะ…” พอผมเปิดประตูเสียงภูผาก็ดังออกมา ก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้กลับมาคนเดียว



“โย่ว” ไอ้ยูโรทักอย่างกวนตีนก่อนจะมองหาห้องน้ำแล้วเดินตรงไปทันที



“ภูครามยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่มั้ย อ่ะ พี่ซื้อกวยจั๊บมาฝาก เจ้านี้อร่อยนะหมดแต่เช้าเลย” ผมวางถุงอาหารไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปหยิบชามในครัว ได้ยินเสียงสองแฝดคุยกับไอ้ยูโรดังมาแว่วๆ



“มึงมาทำเหี้ยไรวะ”



“พี่ทีพ่นน้ำกวยจั๊บใส่กู เขาเลยพากูมาล้างไง”



“มึงไปเจอพี่เค้าที่ไหน?”



“มึงจะอยากรู้ไปทำไมวะไอ้คราม”



“เฮ้ยยยยย มึงรู้ได้ไงว่ากูคราม”



“กูเก่ง”



“พี่ทีบอกมึงใช่มั้ย”



“ป๊าวววว เอาเสื้อมาให้ยืมตัวดิ๊ภู เสื้อกูเลอะ”



“เฮ้ยนั่นมันห้องพี่ที”



“มึงหลอกกูไม่ได้หรอก พี่ทีไม่มีทางเอาโปสเตอร์ต๊องๆ แบบนี้มาติดหน้าประตูหรอก แบร่”



ผมว่าไอ้แฝดนรกเจอสหายที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้วล่ะครับ







(บทคราม)

วันนี้แทนที่พวกเราจะได้สวีวี่วีกับพี่ทีในโอกาสที่นานๆ พี่ทีจะไม่มีเรียน ไอ้ยูโรก็แม่งทำลายโอกาสผมพังไม่มีชิ้นดีด้วยการสิงสถิตอยู่ในห้องโดยอ้างว่ามันไม่มีอะไรทำ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอนั่งเล่นด้วยคนที่นี่แล้วกันดูคึกคักดี= = อยากจะเอาตีนยันออกนอกห้องจริงๆ พับผ่า



“ไอ้ขวด มึงจัดกระเป๋าเสร็จแล้วหรอวะถึงมานั่งกระดิกตีนที่ห้องกูเนี่ย” ไอ้ภูเหน็บแนมเมื่อสบโอกาสพี่ทีลงไปเข้าเล่มรายงานที่ร้านข้างล่าง



“ถ้ากูยังจัดไม่เสร็จมึงจะไปช่วยกูจัดหรือไง” โอ๊ย! ไอ้ขวดนี่มันกวนตีนชิบเป๋งเลยว่ะ



“ช่วยตัวเองเหอะมึง!!”



“ก็ทำอยู่ทุกเช้านะ ซี๊ดอ๊า ซี๊ดโอ๊วววว” มีการเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงประกอบคำอธิบายด้วยนะครับ ยี๊แหวะ!! อุจาดตาเป็นบ้าเลยโว้ย บัดสีๆ ถ้าเป็นพี่ทีทำกูจะไม่ว่าเลย (เอ๊ะ ยังไง)



“เห้ยหยุด! เดี๋ยวเกงกูเปื้อน!” ไอ้ภูร้องเสียงหลง ไอ้ขวดหัวเราะอย่างสะใจก่อนจะทำท่าเช็ดไม้เช็ดมือบนเสื้อรด.ของไอ้ภู



= [] =! << นี่คือหน้าไอ้ภู เจ้าของเสื้อและกางเกงที่อยู่บนตัวไอ้ขวดครับ



“มึงเอาไปเลยนะ มึงเอาไปเลย กูไม่ใส่ต่อมึงแล้ว” ไอ้ภูทำหน้ารับไม่ได้อย่างรุนแรง พวกเราเป็นคนรักสะอาดน่ะครับ มาเจอท่าล้วงเป้าแล้วเอามาป้ายเสื้อแบบนี้น้องแฝดรับไม่ได้จีๆ ถึงจะรู้ว่าไอ้ขวดมันแกล้งทำก็เถอะ



“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูซักมาคืน”



“ไม่ต้องคืน เดี๋ยวปั๊ดเผาทิ้งแม่ง”



พวกผมกัดๆ หยอกๆ กันไปเป็นพักๆ เพลินดีไปอีกแบบ ไปๆ มาๆ ไอ้ขวดก็มาช่วยพวกผมจัดกระเป๋าด้วย เลยเสร็จเร็วกว่าที่คิด พอจัดเสร็จแล้วพวกเราก็นอนแผ่ตากแอร์กันในห้องพวกผมอย่างไม่รู้จะทำอะไร



“มองหน้ากูไมวะ” ผมถามเมื่อหันไปเห็นไอ้ขวดมองมาที่ผมนิ่งๆ ด้วยตาปรือๆ มึนๆ ตามฉบับมัน



“เมื่อเช้ากูออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งแล้วเจอพี่ทียืนรอใส่บาตรอยู่หน้าคอนโด…” ไอ้ภูละสายตาจากจอไอโฟนหันมามองไอ้ขวดเงียบๆ



“แล้วไงต่อ” ไอ้ภูเร่ง ไอ้ขวดมองหน้าพวกผมพลางทำหน้าจริงจัง



“กูไม่รู้ว่ากูควรบอกพวกมึงดีมั้ย” พูดมาขนาดนี้แล้วยังจะมาถามอีกนะว่าควรบอกมั้ยไอ้นี่! แต่พอเห็นหน้าตาดูลังเลของมันพวกผมก็อดไม่ได้ที่จะกังวล มันต้องเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับพี่ทีแน่ๆ



“ก็บอกมาเร็วๆ สิวะ พี่ทีพูดอะไรกับมึง”



“พี่เค้าพูดว่า…”



“ว่า?”



“ว่า…”



“ว่า!!???”



ก๊อกๆ ๆ



“ภู คราม ยูโร กินข้าว! พี่ซื้อข้าวกลางวันมาแล้ว”



ไอ้ขวดทำหน้าลำบากใจ



“ไว้กินข้าวเสร็จกูค่อยบอกแล้วกัน ตอนนี้หิวว่ะ”



สาดดดดดดดดดดดดดด!!!! กรูเกลียดเมิง!!!





พอกินข้าวล้างจานเสร็จปุ๊บพวกผมก็ไม่รอช้ารีบลากไอ้ห่ายูโรเข้าห้องทันที



…อย่าเข้าใจผิด พวกผมไม่ได้นึกพิศวาสมันขึ้นมา นายเอกของเรื่องยังคงต้องเป็นพี่ทีเท่านั้นไม่งั้นกูยอมเอาจวยทิ่มดินดีกว่ายอมทิ่มไอ้ยูโร



“รีบๆ บอกว่าสักทีสิวะ เมื่อเช้ามึงคุยไรกับพี่ที เกี่ยวกับพวกกูป่ะ” ผมเขย่าตัวมันเป็นการเร่ง



“เออ ก็เมื่อเช้ากูออกมาจ๊อก…”



“โอ๊ย!! ไม่ต้องย้อน ไม่อยากรู้!”



“เออๆ ๆ เมื่อเช้ากูเจอพี่ที่ยืนรอใส่บาตรอยู่ใช่ป่ะ แล้วทีนี้…” ไอ้ขวดขมวดคิ้ว พวกผมเลยพลอยขมวดตาม



“ทีนี้?”



ไอ้ขวดถอนหายใจ ก่อนจะมองหน้าพวกผมนิ่งๆ



“พวกมึงตั้งสติดีๆ นะ”



“เออ!! เลิกลีลาได้แล้ว!” พวกกูลุ้นกันจนขี้จะหักในแล้วไอ้สัสสสส



“พี่ทีก็บอกกูว่า……………มาตักบาตรด้วยกันมั้ยยยย~~*:,* ” ประโยคแรกมันพูดเสียงเรียบๆ หน้านิ่งๆ ครับ ส่วนประโยคหลังมันใส่ทำนองFrozen



“ไอ้ขวดดดดด มึงตายยยยยยย!!) (*&^%F#$F&^%” แล้วผมกับไอ้ภูก็ช่วยกันเอาหมอนฟาดมัน ไอ้ขวดนอนหัวเราะจนตัวงอได้แต่เอามือปัดๆ หมอนที่ฟาดเข้าใส่



“ย๊ากกกก!!” ไอ้ภูหยิบผ้าห่มขึ้นมากางแล้วกระโดดทับไอ้ขวดจนที่มันนอนหัวเราะอยู่ต้องร้องอ๊อกด้วยความจุก พอไอ้ภูกลิ้งออกมาผมก็รีบเอาหมอนวางทับก้อนผ้าห่มที่คลุมตัวมันไว้ ไอ้ภูช่วยผมเอาหมอนบนเตียงมาวางซ้อนๆ บนตัวไอ้ขวดซึ่งก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาอยู่ได้ผ้าห่ม



พอตั้งหมอนบนเตียงถูกใช้หมดไปแล้วพวกผมก็ทำสิ่งสุดท้าย



กระโจนขึ้นไปทับชั้นบนสุด!



“แอร่กกกก ยอมแล้วๆ ” ไอ้ขวดร้องเสียงอู้อี้ดังมาจากใต้ผ้าห่ม ผมรื้อหมอนออกขึ้นไปทับหลังไอ้ขวดที่นอนหอบแฮ่กๆ อยู่ใต้กองผ้าห่ม



“ยอมมั้ย!”



“ยอมๆ ๆ ฮ่าๆ ๆ ” ไอ้ขวดแม่งยังขำไม่เลิก แต่ก็ยอมยกไม้ยกมือทำท่ายอมแพ้แต่โดยดี อันที่จริงถ้าเป็นคนอื่นมากวนตีนมากๆ พวกผมอาจจะต่อยปากแตกไปแล้ว แต่กับไอ้ขวดมันทำไม่ลงอ่ะครับ ผู้ชายตัวผอมๆ โย่งๆ หน้าตาปรือๆ แต่มองแล้วโคตรฮาอย่างมันใครจะไปต่อยลง…ยังไงมันก็เพื่อนคนแรกของพวกผม



ไอ้ขวดลุกขึ้นมานั่งหายใจหายคออยู่ครู่หนึ่งก่อนมันจะยอมพูดยอมจาดีๆ สักที



“เมื่อเช้ากูบอกพี่ทีว่าพวกมึงอ่ะชอบพี่เขา…” ผมกับไอ้ภูชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเร่งให้มันพูดต่อ



“เออ พวกกูก็เคยบอกพี่ทีไปแล้วเหมือนกัน… แล้วพี่ทีว่าไงบ้างล่ะ”



ไอ้ขวดยักไหล่ทำหน้าจนใจ



“พี่เค้าไม่เอาพวกมึงเลยว่ะ”



“หมายความว่าไงวะ”



“พี่แกพูดเหมือนว่าพวกมึงรักเค้าไม่จริง รักแนวๆ ปลื้มดาราเกาหลีไรงี้อ่ะ ดูท่าคำว่าชอบของพวกมึงนี่ดูจะไม่มีน้ำหนักในสายตาพี่เค้าเลยนะ”



“พวกกูพูดจริงทุกคำนะเว้ย!” โอ๊ย! ฟังแล้วเฮิร์ทว่ะ นี่ขนาดบอกไปตรงๆ แล้วนะยังจะทำซื่อบื้ออีกหรอพี่ที



“นั่นมึงจะวิ่งไปบอกรักพี่เค้าอีกรอบหรือไงไอ้คราม”



“เออ! กูจะไปอธิบายให้เค้าฟังว่ากูชอบเค้าในความหมายไหน”



“พี่ทีไม่เชื่อมึงหรอก” ไอ้ขวดพูดเรียบๆ ด้วยหน้ามึนๆ มันเดินมาลากผมกลับมานั่งบนเตียงอีกครั้ง



“แล้วกูต้องทำยังไงเขาถึงจะเชื่อ” ผมถามอย่างสงสัย



“เอางี้ กูจะช่วย…แต่มีข้อแม้ว่าพวกมึงต้องทำตามที่กูขออย่างนึง”



“มึงจะเอาอะไร ประเภทบ้านที่ดินไม่มีให้นะเว้ย” ไอ้ภูทำหน้าระแวง



“เออหน่า กูมั่นใจว่าพวกมึงให้กูได้แน่ๆ ตกลงสนใจมั้ยล่ะ เร็วๆ ก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ กูไม่ค่อยช่วยอะไรใครง่ายๆ นะเว้ย”



“เออๆ ๆ พวกกูตกลง”







(วันเข้าค่าย)

อยู่บ้านน ดีๆ ไม่ชอบ เสือกมารับน้อง คราวนี้เสร็จล่ะมรึง



เสร็จล่ะมรึงคราวนี้เสร็จล่ะมรึง ~~

เสร็จล่ะมรึงคราวนี้เสร็จล่ะมรึง ~~

เสร็จล่ะมรึงคราวนี้เสร็จล่ะมรึง ~~







(บทภู)



ใครว่าอยู่บ้านดีๆ กูไม่ชอบวะ กูชอบอยู่บ้านนะ แต่มึงต่างหากไอ้รุ่นพี่ เสือกบังคับกูมารับน้อง!



“ไงไอ้แฝด” ไอ้นี่เด็กวัสดุ



“ดีเว้ยไอ้เป้ง”



“หวัดดีครับเพื่อนแฝด” ไอ้นี่เด็กเคมี



“หวัดดีครับเพื่อนนี๊ด”



“ไอ้ภู ไอ้คราม” ไอ้นี่เด็กไฟฟ้า



“มาเช้านะมึงไอ้ชิ”



“โย่ บีหนึ่งบีสอง” อ้าว พี่ประธานปีสามก็มาดูแฮะ



“หวัดดีครับพี่พีท”



“เสร็จแน่มรึง อยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ ฮ่าๆ ๆ ” พี่พีทพยักหน้ารับไหว้ก่อนจะเดินหัวเราะจากไป



“ไอ้แฝดมานี่! มาลงทะเบียนก่อน เอาแต่คุยกับเพื่อนอยู่นั่นแหละ” พี่ปีใหม่ถือโทรโข่งกวักมือเรียกหยอยๆ



“คนไหนจารุวัฒน์?” พี่เอิ้บเงยหน้าขึ้นมาถาม



“ผมๆ ” ไอ้ครามยกมือ



“ตอแหล มึงชื่อจารุวิทย์ไม่ใช่หรอไอ้คราม” ไอ้ขวดปรากฏตัวในชุดนักเรียนยับๆ ยืนต่อแถวอยู่ข้างหลัง



“แน่ะ! หลอกพี่เหรอจ๊ะตัวแสบ” ดีนะที่พี่เอิ้บแกใจดีก็เลยไม่ได้ว่าอะไรแค่ยิ้มขำกับวีรกรรมของรุ่นน้องตั้งแต่ตอนไปค่ายอาสา



หลังจากเอาปากกาตีหัวผมกับไอ้ครามคนละทีด้วยท่าทางน่ารักน่าชังแล้วพี่แกก็ยื่นป้ายห้อยคอพร้อมกับผ้าผืนหนึ่งขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าขนาดใหญ่



“น้องภูอยู่กลุ่ม ‘สีเหียว’ ส่วนน้องครามอยู่ ‘สีเหียบ’ นะ”



อะไรวะ สีเหียว? ....เสียว…โอเค กูเก็ตละ รุ่นพี่แม่งก็คิดได้เนอะ!



“อ้าว คิกๆ น้องยูโรนี่เอง ชื่อภานุชิตใช่มั้ย เราอยู่ ‘สีหิบ’ นะ” ผมกับไอ้ครามกลั้นหัวเราะกันจนตัวสั่น สีหิบ…สิบ… ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ



“วันนี้มีกี่สีเนี่ยพี่” ผมอดถามไม่ได้



“7สี สีเหียบ สีเหียว สีแหบ สีหิบ สีหับ สีเหย สีหิง รู้แล้วก็ไปเข้าแถว คนอื่นเค้ารอคิวอยู่ไอ้พวกนี้หนิ” พี่ปีใหม่ตอบแทนก่อนจะไล่พวกเราไปเข้าแถวตามสี



ตอนนี้ถึงจะไม่ได้อยู่สีเดียวกับไอ้ขวดไอ้ครามก็ไม่มีปัญหาเพราะผมรู้จักเพื่อนกับรุ่นพี่เกือบทั้งค่ายตั้งแต่ตอนไปค่ายอาสาด้วยกันแล้ว เพียงแค่หย่อนตูดลงนั่งในแถวผมก็มีคนเม้ามอยด้วยทันที



หลังจากคณบดีขึ้นมากล่าวเปิดงานไม่นานรุ่นพี่ก็พาพวกเราไปยังห้องที่ใหญ่เหมือนฮอลล์และที่สำคัญ การจัดเรียงโต๊ะเหมือนห้องที่เอาไว้สอบไม่มีผิด



“ทำความเคารพพี่ปีสี่ ปฏิบัติ!”



อ่อ ที่แท้พวกที่ใส่ช็อปทำหน้าหยิ่งๆ ยืนล้อมรอบห้องนี่คือพี่ปีสี่สินะ



“สวัสดีนักศึกษาปีหนึ่งทุกคน ผมนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ วันชนะ เมธาจุติ ประธานชั้นปีที่สี่ วันนี้จะมาเป็นหัวหน้าคณะกรรมการคุมสอบ pre-test engineer”



กล่าวจบเสียงฮือฮาอย่างตกใจก็ดังกระหึ่มฮอลล์ ไม่เห็นรู้เลยว่าเขามีจัดสอบกันด้วยo_O



“เงียบ!!! ห้ามใช้เสียงในห้องสอบ มิเช่นนั้นจะถือว่ากระทำการทุจริต”



ทุกคนพากันเงียบโดยมิได้นัดหมายทันที



“ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดการสอบ…ข้อสอบฉบับนี้มีทั้งหมดสองตอน ตอนที่หนึ่งปรนัย 20 ข้อ ห้าตัวเลือก ข้อละหนึ่งคะแนน เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานวิศวะทั่วไป ออกโดยอาจารย์ดอกเตอร์ปกรณ์ ศิลป์ฉาย ตอนที่สองอัตนัย 20 ข้อ คะแนนตามที่ระบุแต่ละข้อ เต็ม 80 คะแนน รวมทั้งหมดร้อยคะแนน หารสิบ เก็บเป็นคะแนนในส่วนภาควิชาฟิสิกส์เบื้องต้น ให้เวลาทำข้อสอบสองชั่วโมง จะเริ่มทำการสอบตอนเก้าโมงตรง เก็บกระดาษคำตอบสิบเอ็ดโมงตรง…”



พี่ประธานปีสี่เงียบไปอึดใจ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ ห้องด้วยสายตาเย็นเยียบ ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนขี้ร้อนแต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าแอร์มันเย็นผิดปกติ



คะแนนเก็บสิบคะแนนเลยนะ ถ้าพลาดนี่คงเสียดายแย่ พี่ทีจะรู้มาก่อนมั้ยว่ามันมีสอบพรีเทสต์ด้วย? อ้าว แต่ถ้ารู้พี่เค้าก็ต้องบอกให้เตรียมตัวมาดีๆ ก่อนแล้วน่ะสิ หรือว่าพี่เค้าจะลืม…แต่อย่าพี่ทีเนี่ยนะจะลืม



“ขอย้ำอีกครั้ง ห้ามกระทำการทุจริตใดๆ เด็ดขาด ไม่ว่าจะแอบมอง แอบบอก แอบส่งซิก หันมองรอบข้าง ทำตัวหลุกหลิกก็ไม่ได้ทั้งนั้น หากจับได้จะไม่มีการปราณีใดๆ ทั้งสิ้นต้องถูกลงโทษตามระเบียบนักศึกษาทันที ในที่นี้ขั้นหนักสุดคือพักการเรียนหนึ่งเทอม หากทำไม่ได้ก็จงยอมรับว่าทำไม่ได้ อย่าพยายาม อย่าฝืน เพราะไม่มีทางที่พวกคุณจะรอดพ้นสายตากรรมการคุมสอบ…เข้าใจตรงกันนะครับ”



ผมสะดุ้งเบาๆ เมื่อกี้ผมยังแอบส่งสายตาคุยกับไอ้ครามที่นั่งเฉียงไปทางด้านหลังอยู่เลย





“ขณะนี้เวลา เก้านาฬิกา เริ่มทำการสอบครับ”


------------------------------------------------------------------------
ร่วมพูดคุยกันได้ที่#เกียร์คู่ (@candleguard)



ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอิ่มมมม........เป็นประเพณีแล้ว
ที่รับน้องทุกมอ ละม้างงงง ต้องการเอาคำผวนมาใช้
ให้เป็นที่สะเทือนรูหู เวลาพูดก็กลัวพูดตำจริงออกมาอีก
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หึๆๆๆ
เอางี้เลยดิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะสอบผ่านไหมเนี่ยเด็ก ๆ  :z3:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ปกติพรีเทสต์แบบนี้ไม่นับจริงจังหรอก ขู่มากกว่า เขาน่าจะดูพื้นฐานเดิมกัน

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1

                                                                  ตอนที่ 24 รับน้อง 2
 


(ฟ้าคราม)



อื้อหือ เห็นแค่ปกข้อสอบก็ไม่อยากทำแล้ว



ผมกลั้นใจพลิกไปอ่านข้อสอบหน้าแรกแล้วก็พบว่าข้อสอบมัน….ยากเหี้ยๆ!!!



โอ้ มาย กอชชชชช ข้อสอบอะไรวะเนี่ยยยย แน่ใจนะว่าของปีหนึ่ง นึกว่าของปีสี่ ข้อนึงแม่งยาวครึ่งหน้าแถมข้อสอบยังเป็นภาษาอังกฤษล้วนอีกต่างหาก ผมคงต้องใช้สุดยอดวิชาที่สืบทอดกันมายาวนานในตระกูลเพื่อคว้าสิบคะแนนในครั้งนี้ให้ได้แล้วล่ะ !



“ข่อถูกยู่ไหน่ ข่อถูกยู่ไหน่ …อยู่นี่จ๊ะ อยู่นี่จ๊ะ” (โปรดใส่ทำนองเพลงนิ้วโป้งอยู่ไหนประกอบ) ได้ข้อเอหรอ…งั้นกา



ผมเปลี่ยนเพลงไปเรื่อยๆ แอบเหลือบมองไอ้ภูที่นั่งเยื้องไปทางด้านหน้า มันกำลังใช้สุดยอดวิชาเดียวกับผมเลย



เหลือบมองไปข้างๆ ก็ต้องตกใจไอ้ขวดแม่งทำไปถึงอัตนัยแล้วอ่ะ! เฮ้ย เพิ่งผ่านไปห้านาทีมึงทำช้อยเสร็จหมดแล้วเรอะ!



“ห้ามแอบมองกันนะคะ” เสียงพี่ผู้หญิงที่หน้าโหดๆ ดังขึ้นใกล้ตัวจนผมตรงแกล้งทำเป็นตั้งใจทำข้อสอบของตัวเอง



ไอ้ขวดมันต้องทำไม่ได้เหมือนกูแน่ๆ เออ ข้ามไปทำอัตนัยก่อนดีกว่า อาจจะง่ายก็ได้ ว่าแล้วผมก็พลิกไปหน้าหลังๆ ทันที



ข้อที่ 1 นาฬิกาตี 13 ครั้ง เวลานั้นเป็นเวลาอะไร



เห้ยยยยย แล้วกูจะใช้สูตรไหนคำนวณอ่ะ สูตรนิวตัน หรือ ไอสไตน์-*-



ข้อที่ 2 ปีอะไร มีหลายสี



เอ๊ะ นี่มันเรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ป่าววะ?



ข้อที่ 3 ต้นอะไรออกลูกเป็นแมว



ก็ต้นตระกูลแมวไง…เฮ้ย! เดี๋ยวนะ นี่มันคำถามกวนteenไม่ใช่หรอวะ!



แล้วผมก็ถึงบางอ้อ!! มิน่าล่ะไอ้ยูโรมันถึงข้ามมาทำด้านหลังเลย เพราะแบบนี้นี่เอง!!



โอ๊ยยยย รุ่นพี่แม่งแสบจริงๆ หลอกกันได้นะ บิ้วซะกูเครียดเลย



พอผมตอบคำถามกวนโอ๊ยถึงข้อสิบ ข้อสิบเอ็ดก็ทำให้ผมต้องยิ้มออกมา



ข้อที่ 11 จงเลือกวาดภาพต่อไปนี้ ถุงยางอนามัย (1คะแนน) , ถุงยางอนามัยใช้แล้ว (10คะแนน) ,ถุงยางอนามัยขณะกำลังใช้ (100 คะแนน)



แหม ผมมันคนอยากได้คะแนนเยอะๆ ด้วยสิ งั้นกูวาดสามอย่างเลยละกัน!



ข้อที่ 12 ลอกรูปที่อยู่บนข้อสอบหน้า13ของเพื่อนให้ได้มากที่สุด (รูปละ1คะแนน)



ผมมองรูปต้นไม้ที่อยู่บนหัวข้อสอบมุมขวาหน้าที่ผมกำลังทำอยู่ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง …ผมเหลือบมองโต๊ะข้างๆ แล้วก็พบว่าไอ้ขวดเหลือบมาทางผมอยู่ก่อนแล้ว มันเอามือปิดรูปของมันไว้ในขณะที่ลงมือวาดรูปต้นไม้ลงในข้อสอบตัวเอง แม่งโคตรงก!!



“น้องครับ ห้ามหันซ้ายหันขวานะครับ” ไอ้พี่ปีสี่ที่คุมสอบนี่ก็ตีบทแตกกระจาย รู้ทั้งรู้ว่ากูต้องหันไปมองรอบๆ เพราะข้อสอบมันบอกให้ทำอะไร!



ผมพยายามจะเหลือบมองเพื่อนรอบข้างก็พบว่าทุกคนยังนั่งงมช้อยภาษาอังกฤษกันอยู่เลย เฮ้อ กูเร็วไปสินะ ข้ามไปทำข้ออื่นก่อนก็ได้วะ





(ภูผา)



โอ๊ย ทำไมข้อสอบมันยากงี้วะ แค่นั่งแปลก็จะตายอยู่แล้วนะขนาดพรีเทสต์ยังทำไม่ได้ กูจะมีชีวิตรอดในมหา’ ลัยจนจบสี่ปีได้มั้ยเนี่ย



“ง่าย – จัง - โว๊ยยยยยยย! ” ผมสะดุ้งสุดตัว หันไปมองด้านหลังทันที ไม่ใช่แค่ผมหรอก เพื่อนๆ กว่าสามร้อยคนก็หันไปมองไอ้ขวดที่อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นตะโกนเสียงดังลั่นวิ่งถือกระดาษข้อสอบออกไปหน้าฮอลล์



“เงียบๆ หน่อยครับ! เพื่อนทำข้อสอบอยู่!” พี่วันชนะที่ยืนคุมอยู่ด้านหน้าสุดว่าเสียงเคร่ง ไอ้ขวดส่งกระดาษข้อสอบก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา ชูสองนิ้ว…



“แคปเจอรรรรรรรรร์ ” แล้วมันก็เปิดประตูเดินออกจากฮอลล์ไปเลยท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน



มันทำข้อสอบจนเพี้ยนไปแล้วหรือไงวะ!!???



หลังจากหายตะลึง ทุกคนก็หันกลับไปทำข้อสอบอย่างคร่ำเคร่งพลางคิดในใจว่า ง่ายตรงไหน!



“ฮา – จัง - โว๊ยยยยยย!!! ” ทุกคนสะดุ้งหันมามองอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง ไอ้ครามมึงก็ติดเชื้อบ้าไอ้ขวดไปอีกคนหรอวะ-*- แล้วข้อสอบมันมีตรงไหนให้ฮา ถามหน่อย



“ใครหันไปมองถือว่าทุจริตข้อสอบนะครับ!!”



ผมรีบหันหน้ากลับไปทันที ไอ้ครามเดินเฉิดฉายไปส่งกระดาษข้อสอบ ก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมา…



“แคปปปเชอรรรรร์! ” สำเนียงเป๊ะเว่อร์! ก่อนที่มันจะเปิดประตูตามหลังไอ้ขวดออกไปอีกคน



ผมชักรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ แล้วแฮะ เมื่อเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเพื่อนรอบๆ ตัว ผมเลยเปิดไปดูข้อสอบอัตนัยหน้าหลังๆ



ข้อที่ 1 นาฬิกาตี 13 ครั้ง เวลานั้นเป็นเวลาอะไร



ข้อที่ 2 ปีอะไร มีหลายสี



ข้อที่ 3 ต้นอะไรออกลูกเป็นแมว



ข้อที่ 4 ขนอะไรเกิดในที่ลับ



….



ข้อที่ 19 ตะโกนสามคำที่อยากบอกกับคนออกข้อสอบให้เพื่อนได้ยินทั้งห้อง (ไม่เช่นนั้นกรรมการคุมสอบจะไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบ)



ข้อที่ 20 เดินไปส่งกระดาษคำตอบหน้าห้อง เซลฟี่ตัวเองและพูดว่า ‘capture’ ด้วยสำเนียงที่เป๊ะที่สุดก่อนจึงจะออกจากห้องสอบได้



ผมว่า สำหรับผมแค่สามคำคงบรรยายความรู้สึกที่มีต่อข้อสอบฉบับนี้ไม่พอ…



มึง – หลอก – กรูววววววววววว!!!









หลังจากทำข้อสอบมหาประลัยจบไปพวกรุ่นพี่ก็พาพวกเราไปเก็บสัมภาระและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องประชุม เฮ้อ ต้องนอนพื้นแข็งๆ รวมกับพวกตีนเหม็นๆ อีกแล้วหรอวะ เศร้าแปบTT



พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพวกเราก็ถูกจับเข้าฐานต่างๆ โดนสีหนึ่งจะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อยเช่นของผมอยู่สีเหียวA เวลาเข้าฐานจะไปกันเป็นกลุ่มย่อย ต้องสะสมคะแนนแต่ละฐานให้มากที่สุด จากนั้นจะเอามารวมกันเป็นคะแนนของสี



ผมจะขอเล่าคร่าวๆ ละกันว่ารุ่นพี่แม่งทำอะไรกับพวกเราบ้าง



ตั้งแต่ตอนกินข้าวเลย ให้ท่องบทข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างอย่ากินทิ้งขว้างจากหลังมาหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน กว่าจะได้กินข้าว ผมเกือบจะก่องข้าวน้อยฆ่ารุ่นพี่หลายครั้งละ



หลังจากนั้นพวกผมก็ไปเข้าฐานแต่งตัว ซึ่งดั๊นบังเอิญโคจรไปเจอกลุ่มไอ้ครามเข้าพอดี พวกเราเลยถูกส่งเป็นตัวแทนกลุ่มให้มาปะทะกันเอง กติกาคือพี่เขาจะให้ดูรูปสามสิบวิคนในกลุ่มต้องช่วยกันจำรายละเอียดให้มากที่สุด เสร็จแล้วต้องแต่งพวกผมออกมาให้เหมือนรูปภายในสามนาที ต้องโพสต์ท่าให้เหมือนด้วยนะ ผมอยากจะร้องไห้เมื่อต้องถูกจับใส่ผ้าถุง ทาลิปสติก ยัดลูกโป่งที่นม เอายกทรงครอบศีรษะ มือซ้ายถือปลัดขิก มือขวาอุ้มครก ใส่ถุงเท้าข้างละสี โพสท่าชูมือสองข้างยกขาซ้ายขึ้นข้างนึง



ผมว่าของผมอุบาทว์แล้วนะ แต่ไอ้ครามนี่ดูไม่ได้เลย ก๊ากๆ ๆ ๆ ก็มันถูกจับนุ่งผ้าแถบ พาดสไบสีเขียวสะท้อนแสง ใส่กระโปรงลายจุดหญิงป้า พันผ้าพันคอสีม่วง ถือกระเป๋าน้ำเงิน ตรงหน้าอกต้องเอาทิชชูยัด แถมยังต้องเอาไฟฉายใส่ไว้ที่ร่องอก ใส่ถุงน่องตาข่ายกับวิกผมสีเขียว ทาปากสีเหลือง โพสต์ท่าพับเพียบสยามครับ โอ๊ย ฮาแปบ



แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือ กลุ่มไอ้ขวดแม่งเดินเปลี่ยนฐานพอดีเลยเห็นสภาพผมกับไอ้ครามเข้า มันกลั้นยิ้มจนปากเบี้ยวส่วนพวกผมได้แต่กัดฟันกรอดๆ



ถัดมาก็เป็นพวกฐานเหยียบลูกโป่ง วิ่งวิบาก วิ่งสามขา ปิดตาแต่งหน้า ประมาณค่าตัวเลข วอลเล่ย์ลูกโป่งน้ำ ใบ้คำ ส่งหนังยางด้วยปาก แข่งช้อนน้ำไปเติมขวด ตอบคำถาม



ไอ้เกมตอบคำถามนี่แสบมากครับ ใครตอบผิดเจอสาดน้ำ บางทีตอบถูกแม่งก็ยังโดนสาด เพราะรุ่นพี่มันให้เหตุผลว่าอยากสาด=.= นอกจากนี้ยังมีฐานที่ไม่คิดคะแนนแต่ต้องเข้าอย่างฐานบูชาเจ้าแม่ครวยใหญ่ ทุกคนจะถูกต้อนเข้าไปในฐานที่เอาผ้าใบกั้นบังตาจากภายนอก พวกเราต้องแสดงบทบาทเป็นคณะทูตจากแดนไกลมากราบเจ้าแม่ครวยใหญ่เพื่อขอฝน ต้องท่องคาถาบูชาเจ้าแม่ที่ฮามากๆ แต่ห้ามหลุดหัวเราะเป็นอันขาด ใครหลุดหัวเราะก็จะโดนรุ่นพี่ที่แสดงเป็นเหล่าสาวกด่าว่าลบหลู่เจ้าแม่แล้วก็โดนสาดน้ำกับเอาขันตบหัว กว่าพวกเราจะได้ออกจากฐานนี้ก็แทบตายเพราะคนนั้นคนนี้ผลัดกันหัวเราะเลยต้องท่องคาถาบูชากันใหม่ แถมปิดท้ายพวกเรายังต้องเต้นระบำบูชาเจ้าแม่ด้วย



ตอนนี้ความอายของผมมันบินหายไปหมดแล้วล่ะครับ เหอๆ ๆ



ช่วงเย็นหลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่ก็พาพวกเรามาล้อมวงกันกินข้าวที่สนามฟุตบอลของมหา’ ลัยพลางฉายวีดิทัศน์ให้ดูครับ



มันเป็นภาพตั้งแต่วันแรกที่พวกเรามาสัมภาษณ์กันเลยทีเดียว ผม ไอ้ขวด และ ไอ้ครามมานั่งกินข้าวใกล้ๆ กันพลางช่วยกันมองไปด้วยว่ามีรูปตัวเองถ่ายติดบ้างมั้ย



“เฮ้ย รูปพวกมึงอ่ะ” ไอ้ขวดกระทุ้งศอกใส่พวกผมที่ก้มลงไปตักข้าวกิน มันเป็นรูปที่พี่ทีเดินอยู่ตรงกลางแล้วมีพวกเราถือแฟ้มพอร์ตเดินขนาบข้าง พี่ทีเบนหน้าไปมองด้านข้างส่วนสายตาพวกเราทั้งคู่จับจ้องอยู่ที่พี่ที เห็นภาพนี้แล้วก็อดคิดถึงไม่ได้ มันเป็นภาพวันที่พี่ทีเดินพาพวกเราไปห้องสัมภาษณ์นี่เอง



ถัดจากภาพวันสัมภาษณ์ก็เป็นงานปฐมนิเทศ ภาพบรรยากาศในค่ายอาสา ภาพที่ทุกคนนั่งคอพับคออ่อนหลับเป็นตายในรถ ภาพทุกคนล้อมวงกันกินข้าวที่ลานวัด กิจกรรมละลายพฤติกรรม ภาพที่ทุกคนช่วยกันแบกไม้ ตอกตะปู ทาสี ภาพเพื่อนผู้หญิงช่วยกันทำกับข้าว เสิร์ฟน้ำ ผมชอบภาพนึงมาก เป็นภาพที่ผมกับไอ้ครามนอนหนุนตักพี่ที กับอีกภาพที่พี่มิ้นท์เช็ดเหงื่อให้พี่ปีใหม่ ภาพอันอัปยศที่เพื่อนๆ พี่ๆ พากันฮาครืนอย่างภาพที่พวกผมโดนผูกเชือกกางเกงเลติดกับพี่โซล ภาพที่ถ่ายตอนจบโครงการร่วมกับเด็กๆ ชาวเขา ภาพการเข้าฐานต่างๆ ในวันนี้ เป็นพันๆ ภาพ เยอะมากจริงๆ



พอกินข้าวเสร็จก็มีการจัดการแสดงของพวกรุ่นพี่จากกลุ่มต่างๆ ของคณะไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงประสานเสียง การแสดงดนตรีไทยดนตรีสากล (พี่ต้นเล่นไวโอลินเพราะมาก) กลุ่มเต้นบีบอย กลุ่มการแสดง กองสันทนาการที่เต้นได้รั่วมั่วและเสื่อมสุดๆ การแสดงคอนเสิร์ตของวงประจำคณะ



“ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับการแสดงของทุกกลุ่มในคณะเรา นอกจากกลุ่มกิจกรรมแล้วก็ยังมีคณะกรรมการสโมสรวิศวกรรมศาสตร์ กับกีฬาต่างๆ ด้วยนะครับ วันนี้พี่ก็อยากให้น้องๆ ดูแล้วตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกลุ่มไหนแล้วพรุ่งนี้พี่จะให้น้องกรอกใบสมัครนะ…ต่อไปเราจะให้แต่ละกลุ่มมาแนะนำตัวเองนะครับ”



“สวัสดีครับพี่มาจากกลุ่มสันทนาการ เรื่องอธิบายพี่ไม่ค่อยเก่ง งั้นขอเชิญหัวหน้ากลุ่มสันทนาการขึ้นมาพูดเองละกันเนอะ เอ้า …” พอพูดจบอยู่ดีๆ คนที่ยืนอยู่บนเวทีก็โยนไม้กลองมาทางกลุ่มปีหนึ่งอย่างที่ไม่ทันให้ตั้งตัว พวกผมเลยแตกฮือกันอย่างตกใจ



หมับบบ



ไอ้ยูโรเป็นคนเดียวที่ดูนิ่งกว่าใคร มันไม่หลบไม้กลองที่โยนลงมาแต่กลับรับไว้ได้อย่างแม่นยำ มันลุกขึ้นยืนท่ามกลางความเงียบของทุกคนที่มองมาอย่างงุนงง รุ่นพี่ไปเตี๊ยมเล่นอะไรกับมันหรือเปล่าวะ งง อะไร ยังไงเนี่ย???



มันเดินขึ้นไปบนเวทีโดยมีสมาชิกบางส่วนของกองสันยืนเป็นแบ็คกราวน์ ก่อนจะคว้าไมโครโฟนขึ้นมา



“โย่ว ทุกคนกูเองนะ”







“กูมีอะไรจะบอกพวกมึงแหละ …” มันเงียบไปอึดใจก่อนจะหันมองมาที่พวกผม



….



“กูเป็นหัวหน้าฝ่ายสันทนาการปีสอง”



!!!!!



“และกูก็ไม่ได้ชื่อยูโร…กูชื่อไก่…แต่เรียกกูยูโรต่อไปเหอะนะกูชอบชื่อนี้”



!!!!!!



“กูเป็นพี่เนียน อันที่จริงก็ไม่เชิงหรอก กูแค่ซิ่วเปลี่ยนสาขาไปเรียนปีหนึ่งใหม่ พวกเพื่อนๆ ที่อยู่ปีสองแม่งก็เลยบังคับให้กูเป็นพี่เนียน ทั้งที่จริงกูอยากจะแอ๊บเป็นเด็กเข้าใหม่ไปเลย…กูอาจจะทำให้พวกมึงบางคนรู้สึกไม่ดี รู้สึกเหมือนถูกหลอก กูก็ขอโทษและหวังว่าพวกมึงจะยกโทษให้ กูไม่มีเจตนาจะหลอกใครเพื่อความสนุก พี่เนียนทุกคนก็เหมือนกัน พวกกูแฝงตัวอยู่ในกลุ่มพวกมึงก็เพราะอยากจะดูแลให้ครบในส่วนที่พี่กลุ่มดูแลได้ไม่ทั่วถึง บางเรื่องพวกมึงอาจจะไม่กล้าบอกพี่กลุ่มแต่กล้าบอกเพื่อน นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พวกกูต้องไปอยู่ในจุดๆ นั้นเพื่อพวกมึง”



“ถ้าสังเกตให้ดีพวกมึงจะรู้สึกว่ามีเพื่อนบางคนอาบน้ำรั้งท้ายเสมอ บอกได้เลยว่าพวกนั้นคือพี่เนียน แล้วถ้าสังเกตให้ดีๆ ใครที่ตอนแรกนั่งคนเดียวไม่มีเพื่อนคุยจะมีใครบางคนเข้าไปชวนมึงคุยและพยายามดึงเข้าไปในกลุ่มเพื่อนให้ได้ บอกได้เลยว่านั่นก็พี่เนียนอีกเหมือนกัน หรือบางคนอาจจะแพ้โน่นนี่ เจ็บขา ปวดแขน เป็นไข้ แต่เกรงใจรุ่นพี่ เพื่อนคนแรกสุดที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนวิ่งเต้นขอยาให้มึงก็คือพี่เนียนอีกเหมือนกัน…กูไม่พูดต่อแล้วเดี๋ยวกูร้องไห้…เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยละกัน..ตอนที่กูอยู่ในค่ายก็คงพอพิสูจน์ได้ใช่ป่ะ ว่ากูเต้นเก่ง ตอนปีหนึ่งกูก็เต้นไม่ค่อยเก่งหรอกนะ แต่อยู่ไปอยู่มามันก็ได้เองว่ะ เพราะงั้นใครจะสมัครกองสันก็มานะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย แค่มีแขนมีขาก็เต้นได้ทุกคน เชื่อกู”



เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วทั้งบริเวณทันทีที่ไอ้ขวดพูดจบ มันเดินลงจากเวที แต่แทนที่จะเดินไปรวมกับพวกปีสองมันกลับเดินมาหาพวกผม



“ที่พวกมึงสัญญาว่าจะทำตามคำขอของกูข้อนึงน่ะ…”



“…”





“กูขอให้พวกมึงยกโทษให้กูได้ป่าววะ?”





--------------------------------------------------------

ในที่สุดก็ได้เปิดตัว ตัวละครลับคนนี้ซะที คนเขียนดีใจมว๊ากกกกกก > (++++) < ถ้าย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าเราใบ้ไว้หลายจุดนานแล้วนะ …เจ้าหมอนี่แหละที่พี่ทีฝากฝังให้ช่วยดูแลเจ้าแฝด เเละเจ้าหมอนี่เเหละที่จะขาดไม่ได้ในเรื่องนี้ หึๆ ๆ ๆ




ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เนียนมาก ยูโร

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็คิดอยู่ว่าต้องเป็นพี่เรียนแน่ๆ เพราะหลายๆครั้งดูกล้าเกินเด็กปีหนึ่ง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูขวดของคนแก่ เนียนจริง ๆ เลย  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ยกนิ้ว ให้พี่เนียน

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
อืม อืม อืม

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อ่านแล้วชอบนะเรื่องนี้ี้   :L2: :L2: :L2:



 

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เนียนสุดเลยพี่

ออฟไลน์ airry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1:รอจร้าาาาาาาาาาาาา

อยากเป้นพี่เนียนอ่ะ

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
แฝดดดดด

ออฟไลน์ candleguard

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1

                                                                ตอนที่ 25    ผู้ชายใจเย็น


(บทภู)



“กูขอให้พวกมึงยกโทษให้กูได้ป่าววะ?”



“…งั้นกูถามหน่อย...ที่มึงมาตีซี้พวกกู มันเพราะความบังเอิญ…หรือเพราะพี่ทีสั่งให้ทำ?” ผมอดระแวงมันไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าการที่เรารู้จักกันมันเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นรึเปล่า และยิ่งถ้าหากมันเป็นฝีมือพี่ทีล่ะก็…ผมคงจะโกรธพี่เค้ามากๆ ที่รวมหัวกันหลอกแบบนี้ ถึงจะรู้ว่าทำไปเพราะหวังดีก็เถอะ แต่แบบนี้มันยิ่งกว่าหลอกซะอีก เหมือนพี่เค้าไม่ไว้ใจพวกผมเลยถึงต้องส่งคนมาคอยคุมอีกทีเวลาไม่อยู่ในสายตา



“มะ…”



“อย่าโกหกอีกเชียวนะมึง ” ไอ้ครามพูดเสียงเรียบ ไอ้ยูโรทำสีหน้าคิดหนักก่อนจะถอนหายใจ การจะเป็นเพื่อนกันมันต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจสินะ



“……ใช่...พี่ทีเป็นคนบอกให้กูเข้าไปตีซี้พวกมึงเอง...วันแรกพบนั่น...ไม่ใช่ความบังเอิญ..กูจงใจแพ้จะได้โดนทำโทษไปพร้อมกับมึง ”



“...!!!” ผมรู้สึกเหมือนโดนต่อยเข้าที่ลิ้นปี่ มันจุกมาก เจ็บมาก ขณะที่รอบด้านมีเสียงพูดคุย เสียงร่ำไห้เมื่อรู้ว่าเพื่อนที่ตนสนิทเป็นพี่เนียน เสียงโหวกเหวกโวยวายเหล่านั้นไม่ได้เข้าหูผมเลยราวกับว่าที่ตรงนี้มีพวกเราอยู่แค่สามคน



“ไปห้องน้ำกัน ” ไอ้ครามกัดฟันกรอด พรวดพราดจ้ำอ้าวออกไปจากสนามบอล ผมรีบตามมันไปในขณะที่รุ่นพี่สต๊าฟตะโกนถามโหวกเหวกว่าจะไปไหน



“ เดี๋ยวกูคุมน้องไปเอง !” ไอ้ขวด ไม่สิ ควรจะเรียกว่าพี่ไก่ใช่ไหม…ตะโกนบอกเพื่อนสต๊าฟแล้ววิ่งตามพวกผมมาที่ห้องน้ำข้างฮอลล์ใหญ่ที่ไม่ค่อยมีคนมาใช้



“สนุกมั้ย รวมหัวกันหลอกพวกกู สนุกมากมั้ย ” ไอ้ครามพูดเสียงเรียบแต่ผมดูออกว่ามันโกรธ...โกรธมากด้วย



“ ...กูพูดความจริงแล้วพวกมึงก็ยังโกรธกู ” ไอ้ขวดพูดด้วยหน้ามึนๆ แต่เสียงดูเครียดขึ้นไม่มีสำเนียงกวนตีนเหมือนเคย



“ก็ลองสลับกันดูสิจะได้รู้ว่าพวกกูรู้สึกยังไงที่โดนเพื่อนที่คบมาเดือนกว่าหลอกมาตลอด แถมคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดยังเป็นคนที่พวกกูรักพวกกูไว้ใจอีกต่างหาก ” ผมว่า



“นี่อ่ะนะความคิดของพวกมึง? เด็กว่ะ! พวกมึงก็มองแต่มุมแคบๆ ของตัวเองแล้วก็โกรธไม่เข้าเรื่อง โอเค เรื่องที่กูหลอกกูยอมรับ พวกมึงจะโกรธกู กูก็ไม่ว่า แต่พวกมึงไม่ควรไปโกรธพี่ที ..พี่เค้าแค่เห็นกูซิ่วไปเรียนสาขาเดียวกับพวกมึงก็เลยฝากให้กูช่วยดูแล ถามจริงเหอะ ถ้าไม่ห่วงพี่เค้าจะทำแบบนี้มั้ยวะ ”



“ก็คงคิดว่าพวกกูเป็นตัวปัญหา ถ้าไม่มีคนคอยจับตาก็คงไปเที่ยวก่อเรื่องใช่มั้ยล่ะ คงคิดล่ะสิว่าพวกกูดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องมีผู้ปกครองตลอดเวลา ”



ยูโรคิดในใจ...อ้าว ก็รู้ตัวนี่หว่า



“ที่ขอไว้น่ะ พวกกูไม่โกรธมึงก็ได้…”



“จริงอ่ะ เออ ขอบจะ... ”



“...เพราะคนที่สมควรจะถูกพวกกูโกรธน่ะคือพี่ทีต่างหาก!”



“อ้าวเฮ้ย! ไอ้บ้า ไหงงั้นล่ะ! …”



“แล้วมึงไม่ต้องเข้ามาเสือกเรื่องพวกกูอีกแล้วนะไอ้ขวด ไอ้ที่จะช่วยอะไรนั่นด้วยพวกกูไม่ต้องการ กูมีวิธีของกู...อยากแกล้งซื่อบื้อดีนัก กลับไปคราวนี้จะเอาให้แม่งหายซื่อบื้อไปเลย ”



“อย่างที่มึงบอกจริงๆ นั่นแหละ แค่ลมปากคนอย่างพวกกูมันจะไปมีน้ำหนักอะไร ” ไอ้ครามยิ้มมุมปากอย่างชั่วๆ พลางตบไหล่ไอ้ขวดที่ยืนอึ้งอยู่เบาๆ



“เดี๋ยวพวกกูจะแสดงออกด้วยการกระทำบ้างแล้วกัน ขอบใจนะเพื่อนสำหรับคำปรึกษาดีๆ เห็นแก่ความดีอันนี้พวกกูจะยกโทษให้สักครั้งก็แล้วกัน ”



“พวกมึงฟังกูกะ...”



ฟึ่บ ฟึ่บ



ผมกับไอ้ครามถอดป้ายชื่อกับผ้าพันคอออก ยัดใส่มือไอ้ขวด



“พวกกูไม่มีอารมณ์อยู่ต่อแล้ว ที่เหลือฝากด้วยละกัน ”



พูดจบพวกเราก็หันหลังออกวิ่งทันที



“เฮ้ยยยยยย ไอ้ภู ไอ้คราม กลับมาเดี๋ยวนี้นะโว้ย มึงจะโดดกลับก่อนแบบนี้ไม่ได้นะ!!” ไอ้ขวดวิ่งไล่กวดพวกเราอย่างไม่ลดละ ให้ตายเถอะ! ทำไมมันวิ่งเร็วจังวะ



“พรุ่งนี้มีมอบเกียร์ พวกมึงอยากได้ไม่ใช่หรืองายยยย! ”



“ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว!”



“เฮ้ย ไม่อยู่พี่รหัสไม่รับนะเว้ยยยย ”



“ก็ช่างหัวมันสิ!”



ผมรู้ว่าไอ้ขวดพยายามจะพูดเพื่อรั้งพวกเราไว้ แต่ตอนนี้ความโกรธมันมีมากจนพวกผมไม่สนอะไรแล้ว รู้แต่ว่าอยากรีบกลับไปกระชากคอเสื้อพี่ทีเขย่าๆ จับทุ่มลงเตียงแรงๆ ให้สากับความโกรธในตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย!



พี่เค้าคิดว่าตัวเองฉลาดมากนักหรือไง คิดว่าพวกเราโง่มาก ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างถึงได้วางแผนส่งคนมาตามดูพวกผมแบบนี้ นี่ไม่เคยไว้ใจกันเลยใช่มั้ยวะ คงแอบหัวเราะอยู่ในใจล่ะสิที่ควบคุมพวกเราได้โดยที่เราไม่รู้ แล้วไหนจะเรื่องที่ชอบทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาเวลาที่พวกเราบอกรักอีก พี่แกจะรู้บ้างมั้ยว่ามันต้องใช้ความกล้าสักเท่าไหร่กว่าจะพูดออกไปได้ พี่ทีก็แค่หลอกให้พวกเราตายใจด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง...รอยยิ้มของคนที่ไม่ได้คิดอะไรเลย…



ผมกับไอ้ครามวิ่งอ้อมตึกวิศวะ น่าเจ็บใจที่ต้องวิ่งผ่านสนามบอลถ้าจะออกไปหน้ามอ ผมกับไอ้ครามเลยตัดสินใจวิ่งเลี้ยวไปทางประตูคณะแพทย์ที่แม้จะอ้อมกว่าแต่ก็ไม่ต้องวิ่งผ่านสนามบอลที่มีรุ่นพี่กับพวกเพื่อนๆ นั่งซึ้งผูกข้อไม้ข้อมือกันอยู่



“ใครก็ได้ครับ ช่วยจับสองคนนั้นไว้ที มันขโมยกระเป๋าตังค์ผมมมมม!!! ” ไอ้ขวดตะโกนใส่ไคล้พวกเรา ทำให้พี่ยามสองสามคนที่เดินตรวจอยู่แถวนั้นวิ่งมาแจมด้วย



ผมเหลียวกลับไปมองด้านหลัง เห็นไอ้ขวดควักมือถือขึ้นมาโทรแบบเอาเป็นเอาตาย เออ ก็วิ่งตามมาได้ตั้งนานเพิ่งจะคิดได้นะมึงว่าควรเรียกคนมาช่วย-*-



“ไอ้ภู ! ไอ้คราม! จะไปไหนนนนน ”



“น้องภู น้องคราม ! มีอะไรบอกพวกพี่สิครับบบบ !!”



“เฮ้ย มีอะไรก็มาคุยกันดีๆ สิน้อง พวกพี่ช่วยได้นะะะะะ !!”



“เฮ้ย! ไอ้ภู รุ่นพี่วิ่งตามมาเป็นโขยงเลยมึง!!” ผมหันกลับไปมองตามที่ไอ้ครามมันบอกแล้วก็ต้องตกใจกับมหกรรมวิ่งการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ของชาววิศวะ ( ไม่ใช่ละ=_=’ ’) ไอ้คราม..มันไม่ได้มาแค่รุ่นพี่นะเว้ย รุ่นเพื่อนก็มาเหอะ! ทำไมตามมาเร็วจังวะ เมื่อกี้ยังเห็นทำซึ้งกันอยู่ไกลๆ เผลอแป๊บเดียวแม่งวิ่งตามมาอย่างกับฝูงซอมบี้ รุ่นพี่บางคนถือม้วนสายสิญจน์ เพื่อนหลายคนก็วิ่งถือเทียนมาด้วย นี่พวกมึงจะจับพวกกูมัดด้วยสายสิญจน์แล้วเอาเทียนหยดหรือไง



“เฮ้ย! ไอ้สองคนนั้นใช่ฝาแฝดที่โดนผีเข้าตอนค่ายอาสารึเปล่าวะ! ผียังไม่ออกอีกหรอ??” ปีสามบางคนเริ่มโยงใยเรื่องเอาเอง



“เฮ้ย! สองคนนั้นโดนผีเข้าหรอพี่!? ”



“ปีหนึ่งสองคนนั้น! แฮ่กๆ ผม-ขอ-สั่ง-ให้-คุณ-หยุด !!”



เล่นวิ่งกันมาเป็นกองทัพแบบนี้ใครไม่หนีก็บ้าแล้วเฟ้ย!



“ไอ้แฝดนรก!!! หยุดเดี๋ยวนี้นะโว้ยยยยย !” พี่ปีใหม่ที่โกรธจนหน้าเบี้ยวกับพี่พีทประธานปีสามวิ่งมาดักหน้าพวกเราหน้าประตูคณะแพทย์พร้อมโทรโข่งอันใหญ่เปิดสัญญาณหวอน่าหนวกหู



“ไอ้ใหม่! ระวังกิ่ง…”



ผัลวะะะ!!



ท่าทางพี่แกจะโกรธมากเกินไปจนไม่ทันสังเกตว่าตรงหน้าตัวเองมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่โค้งต่ำลงมาอยู่ บวกกับแถวนี้มันก็มืด พี่แกคงไม่ทันสังเกตเลยเอาวิ่งเอาหน้าไปฟาดกิ่งไม้อย่างแรงจนลงไปนอนนับดาวกับพื้น



พี่พีทมัวแต่วิ่งกลับไปพยุง พวกเราเลยอาศัยจังหวะนั้นวิ่งผ่านสองคนนั้นออกไป



ดีที่หน้าประตูคณะแพทย์มีวินมอเตอร์ไซค์วิ่งตลอดทั้งคืน พอออกไปได้ปุ๊บพวกเราก็กระโดดซ้อนท้ายวินสองคันที่ใกล้ที่สุด



“ไปกรีนเพลส พวกผมให้คนละร้อย ซิ่งเลยพี่!!!”









Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrr



ดึกดื่นป่านนี้ ใครโทรมาวะ



ผมละสายตาจากสารคดีหนีตายจากภัยพิบัติที่กำลังนอนดูอย่างเพลิดเพลิน คิดในใจว่าจะทำเป็นไม่ได้ยินดีไหมนะ ขี้เกียจเดินไปรับสาย



Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrr

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrr

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrr



โอเค กูยอม



ผมเดินไปหยิบมือถือที่ชาร์ตอยู่ตรงมุมห้องขึ้นมาดูอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย นานๆ จะได้นอนดูหนังคนเดียวสบายๆ ทั้งทีก็ยังมีคนโทรมากวนจนได้



..CHICKEN IS CALLING…



ผมชักสังหรณ์ใจแปลกๆ ...ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ไม่งั้นไอ้ไก่ไม่โทรมาเวลาใกล้เที่ยงคืนแบบนี้หรอก



“ว่าไงไก่...ไอ้ภูไอ้ครามมันก่อเรื่องอะไรรึเปล่า? ”



‘พี่ที ! ไอ้สองคนนั้นมันหนีค่ายอ่ะพี่ !’



“ฮะ? อะไรนะ พูดใหม่ซิ ” เมื่อกี้ผมเผลอมองภูเขาไฟระเบิดในทีวีเลยไม่ทันฟังที่ไอ้ไก่มันพูด



‘ภูผา-กับ-ฟ้าคราม-หนี-ค่าย-ครับเพ่!! มันจะกลับไปหาพี่...เดี๋ยวผมค่อยอธิบายให้ฟังทีหลังนะ เอาเป็นว่าตอนนี้พี่รีบออกมาจากคอนโดเดี๋ยวนี้เลย! ออกมา ณ บัด นาว !! ‘



“ห๊ะ !? ไอ้แฝดมันหนีกลับมาหรอ เกิดอะไรขึ้น ?”



‘พี่ที เดี๋ยวผมค่อยอธิบายให้ฟัง อย่าเพิ่งถาม ! ออกมาก่อนพี่! สองคนนั้นมันกำลังเดือดมาก ขืนมันเจอพี่ พี่-เละ-แน่ !’



ทำไมกูต้องหนีวะ เกี่ยวไรกับกูเนี่ย? แล้วพวกมันจะหนีค่ายทำด๋อยอะไร คืนเดียวทนนอนไม่ได้หรือไงต้องกลับมานอนคอนโดเนี่ยฮะ



“ทำไมพี่ต้องออกไปด้วย? เดี๋ยวมันมาเมื่อไหร่กูจะเทศน์ให้หูชาเลย อะไรหนิ แค่คืนเดียวก็ทนนอนกันไม่ได้ ทีตอนไปค่ายอาสายัง…”



‘โว้ยยยย! พี่ ! ผมกราบตีนล่ะ ออกมาก๊อนนนน พลีสสสสส !’ เสียงไอ้ไก่แทบจะเปลี่ยนเป็นโหยหวนอยู่แล้ว ในที่สุดแม้จะยังงงๆ แต่ผมก็เดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมทับเสื้อกล้าม แล้วคว้ากระเป๋าตังค์มาถือไว้



‘ออกมายังเนี่ย ’ เสียงไอ้ไก่ดูร้อนรนมาก ลนลานอะไรของมันนักหนาวะ-_-?



“จะรีบไปไหน กูใส่รองเท้าอยู่ ” ผมชักรำคาญ คนกำลังนอนทีวีสบายๆ ... อ้าว ลืมปิดทีวีกับพัดลมนี่หว่า



ผมถอดรองเท้าเดินกลับเข้าไปปิดทุกอย่างอีกรอบ



ฝ่ายคนโทรมาได้แต่มองนาฬิกาอย่างร้อนรน เขารู้ดีว่าเดินจากมอถึงคอนโดกรีนเพลสใช้เวลาแค่10-15 นาที ถ้านั่งมอไซค์ไปรับรองว่าต้องไปถึงใน3-4นาทีแน่ๆ สองคนนั้นตัวใหญ่อย่างกับหมี แถมตอนนี้ยังคลั่งอย่างกับกระทิง ขืนให้พี่ทีอยู่ชนด้วยสิ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะปลิว ไหนจะคำพูดที่สองคนนั้นทิ้งท้ายไว้อีก มันทำให้เขานึกเป็นห่วงสวัสดิภาพรุ่นพี่คนนี้แทบบ้า



ทีเดินกลับมาสวมรองเท้าอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากุญแจที่แขวนอยู่บนผนัง



‘เร็วดิพี่ ! เร็วๆ เข้า !’



ไก่มองนาฬิกาอย่างกระวนกระวาย ห้านาทีเข้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ทีเยื้องกรายออกจากห้องตามคำเตือนของเขารึยัง ทำไมเป็นคนใจเย็นผิดเวลาแบบนี้วะพี่ โว้ย !



‘เร็วๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !’



ตอนแรกทีก็ยังใจเย็นอยู่หรอกนะ แต่พอโดนเร่งมากๆ เข้าก็ชักจะเริ่มลนตามไปด้วย มือที่ป่ายไปคว้ากุญแจถึงได้สั่นจนทำมันตกพื้น







แกร๊งงงงงง !!




ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หึๆไม่รอดสินะ แอร๊ยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด