[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 199159 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อึมครึมมาก
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มันหน่วงๆ   :katai1: :mew4:



ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คนแก่ใกล้วัยทองยังคงอารมณ์แปรปรวนเหมือนเดิม
ช่วยเอ็นดูน้องมีนจนจบตอนหน่อยเถอะจ้าา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ครบรอบวันแห่งเศร้าของครอบครัวนี้เลย

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮือออ สงสารคุณเชษฐ์

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
จะดราม่าอะไรเยี่ยงนี้คนเรามันจะมีแบบนี้จริงๆเหรอประเภทไม่พูดไม่จากันไม่บอกอะไรเลยปล่อยชีวิตดำเนินไปอยากจะเข้าใจแบบไหนอะไรก็ชั่งมัน

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 27: วันครบรอบ (2)

ป้าแต้วเปิดประตูบ้านให้ภรัณยูโดยไม่แม้แต่จะซักถามสาเหตุที่เขามาในวันนี้ หญิงชราในชุดไว้ทุกข์สีดำสนิทดูมีอายุเพิ่มขึ้นหลายปีภายในเวลาไม่กี่วันที่ไม่ได้เจอกัน ร่างโปร่งก้าวขึ้นบันไดอย่างเงียบเชียบ ในบ้านที่ไม่มีแม้แต่เสียงโทรทัศน์เปิดทำให้เสียงฝีเท้าของเขาฟังดูดังกว่าความเป็นจริงเสมอ ขาของภรัณยูมาหยุดลงที่หน้าประตูห้องที่เขาคุ้นเคย ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู



“ซัน…”




ประตูห้องของทินกรถูกเปิดออก แต่คนที่อยู่หน้าประตูกลับไม่ใช่เด็กหนุ่มที่ภรัณยูต้องการจะเจอ




ร่างโปร่งที่ดูจะอายุไม่ห่างจากทินกรมากนักอยู่ในชุดสูทเข้ารูปสั่งตัดสีดำสนิท เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นตามสมัยนิยม ดวงตาสีอัลมอนด์เรียวรีและริมฝีปากเรียวบางที่ขยับยิ้มมุมปากอยู่ตลอด ผิวขาวเนียนละเอียดตัดกับสีชุด ภรัณยูชะงักค้าง ไม่คาดคิดว่าตนจะเจอใครนอกจากทินกรในห้องของร่างสูง



“เอ่อ..คือ...ผม..”



“มาหาซันเหรอครับ?” ร่างโปร่งเอียงคอถามด้วยสีหน้าใคร่รู้ ใบหน้าสวยหวานราวกับไม่ใช่ผู้ชายนั้นมีแต่จะทำให้คนตรงหน้าดูใสซื่อบริสุทธิ์มากขึ้น



“...” ภรัณยูอึกอัก สมองสั่งให้เขาถามออกไปว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และมีสิทธิอะไรมายืนอยู่ในห้องของคนรักของเขา แต่ปากของเขาทำได้เพียงอ้าปากและหุบโดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา



“ซันอยู่ในห้องน้ำครับ เดี๋ยวผมไปเรียกให้นะครับ” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นภรัณยูไม่ตอบคำถามเสียที



“พี่อุ่น คุยกับใครอยู่เหรอครับ?”



อุ่น...



ภรัณยูรู้สึกเหมือนหินที่ถ่วงอยู่ในอกถูกยกขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินชื่อของลูกชายคนรองของบ้านดังมาจากในห้อง เขายังไม่เคยเจอธารธารา แต่หากภรัณยูเดินสวนกับอีกฝ่ายตามท้องถนน เขาคงเดาไม่ออกว่าคนตรงหน้ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับคนในบ้าน ในเมื่อร่างโปร่งไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความเป็นลูกครึ่งรัสเซียอยู่อย่างพี่น้องของตัวเองเลย




“แฟนซันรึเปล่า? เขาไม่พูดอะไรกับพี่ พี่เลยไม่แน่ใจ” ธารธาราหันกลับไปตอบน้องชาย ผลลัพธ์ที่ได้คือร่างสูงใหญ่ของทินกรที่โผล่พรวดออกมาจากด้านหลังของพี่ชายราวกับตัวเองตัวเล็กเสียเต็มประดา




“พี่ภัทร? มาทำอะไรที่นี่ครับ?”



ธารธาราขยับถอยห่างจากคนทั้งคู่อย่างรู้งาน ภรัณยูรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ เพราะการคุยกับทินกรนั้นยากพออยู่แล้วโดยไม่มีพี่ชายคนใดก็ตามของเด็กหนุ่มมายืนคุมอยู่ข้างๆ




“พี่รู้ว่าซันขออยู่กับตัวเองซักพัก...” ภรัณยูกัดริมฝีปากอย่างประหม่า ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ที่เขารู้ว่ากำลังมองตรงมาที่เขา “แต่พี่แค่ไม่อยากให้ซันอยู่คนเดียวในวันแบบนี้..พี่... พี่โง่เองแหละ ยังไงซันก็ต้องอยู่กับพี่ๆอยู่แล้วนี่นะ พี่ไปก่อนนะ...”




“เดี๋ยวก่อนสิครับพี่ภัทร” มือใหญ่คว้าข้อมือคนที่พ่นคำพูดออกมารัวๆผิดวิสัยไว้ก่อนที่ภรัณยูจะได้เดินหนีไป “ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่ภัทร”



อะไรก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยประโยคนั้นไม่เคยจบด้วยเรื่องดีๆ หากความสัมพันธ์ก่อนหน้าของภรัณยูจะสอนอะไรสักอย่างกับเขา คงจะไม่พ้นเรื่องนี้



“…พี่ภัทรทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว” สายตาของทินกรหม่นลงเมื่อเห็นสีหน้าของคนรัก ซึ่งภรัณยูไม่มั่นใจว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร “อยู่กับผมแล้วพี่ภัทรอึดอัดใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”



“ไม่ใช่นะซัน..”



“ผมไม่ใช่คนแบบผู้ชายคนนั้น” ทินกรตัดบทด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมไม่มีวันเป็นแบบผู้ชายคนนั้น ผมรักพี่ภัทร แล้วถ้ามันขึ้นอยู่กับผม ผมจะประกาศในอีเมลล์บริษัทให้ทุกคนรู้ว่าพี่ภัทรเป็นแฟนผม ผมจะบอกทุกคนที่ผมรู้จักว่าผมรักพี่ภัทรแค่ไหน แล้วผมก็จะไม่มีวันทิ้งพี่ภัทรไปแต่งงานกับผู้หญิงแค่เพราะหน้าตาในสังคม เพราะพ่อผมตั้งบรรทัดซานไว้ต่ำจนผมไม่ทำอะไรก็ดูเป็นคนดีกว่าอยู่แล้ว”



เออ...มันก็จริงอยู่หรอกนะ



“แต่ผมรู้ว่าถึงพูดอะไรไป ถ้าพี่ภัทรไม่เชื่อใจผม...คำพูดของผมก็พิสูจน์อะไรไม่ได้อยู่ดี” ทินกรว่า “ผมไม่อยากอยู่ในความสัมพันธ์ที่รอวันหมดอายุ ถ้าพี่ภัทรคิดว่าไม่ว่าผมจะพยายามแค่ไหนพี่ก็มองไม่เห็นอนาคตของพี่ที่มีผมอยู่ในนั้น พี่ภัทรก็ไปเถอะครับ”



เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยสีหน้าเจ็บปวด



“เพราะในทุกอนาคตของผม ผมเห็นพี่ภัทรอยู่ในนั้น”



“….” นี่เด็กคนนี้รู้ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเองทำอะไรกับหัวใจเขาบ้าง



ทินกรยังคงยืนนิ่งรอคำตอบจากเขา ศีรษะหดเกร็งราวกับกำลังเตรียมรับแรงกระแทกที่มองไม่เห็น แม้ใจหนึ่งภรัณยูจะนึกอยากบอกให้อีกฝ่ายหนีไปให้ไกล ให้อีกฝ่ายหาคนที่ดีกว่าเขา คนที่คู่ควรกับความรักและความอดทนของทินกรมากกว่าเขามายืนเคียงข้าง




แทนคำตอบ ภรัณยูก้าวเข้ามาประชิดตัวร่างสูงในชุดสูทไว้ทุกข์สีดำ แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของอีกฝ่ายแล้วรั้งให้คนตัวสูงกว่าโน้มลงมา ก่อนที่ริมฝีปากเรียวจะประทับลงบนริมฝากได้รูปของเด็กหนุ่ม มอบจุมพิตหวานล้ำที่ทำให้ทุกสิ่งนอกเหนือจากพวกเขาทั้งคู่กลายเป็นเพียงธาตุอากาศ



“พี่ขอโทษ ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ” ภรัณยูกระซิบเสียงพร่าหลังจากที่ทินกรยอมให้เขาผละออกมาแม้จะเพียงเล็กน้อย ร่างกายอ่อนยวบจนต้องใช้คนตัวใหญ่กว่าเป็นแหล่งพักพิงชั่วคราว



“จะอีกกี่ครั้งผมก็ให้ครับ” อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดร่างของภรัณยูไว้ให้แน่นขึ้น ทินกรประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของคนรัก เรียกรอยยิ้มจากคนอายุมากกว่าได้เป็นอย่างดี



….เพราะเขาก็เห็นทินกรอยู่ในทุกความเป็นไปได้ของอนาคตตัวเองเช่นกัน



“อะแฮ่ม”



เสียงกระแอมกระไอจากภายในห้องทำให้ภรัณยูรีบผละออกจากเด็กหนุ่มในทันที ทินกรมีสีหน้ารำคาญใจ หันไปหาพี่ชายของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์



“พี่อุ่น ไม่มีห้องให้กลับเหรอครับ”



จากคำพูดของคนรักทำให้ภรัณยูเพิ่งสังเกตว่านอกจากเสียงของธารธารา ยังมีเสียงของพี่ชายคนโตของบ้านอยู่ในห้องด้วย



“พี่ไม่ออกอ่ะ ก็ซันเป็นคนขอให้พี่อยู่ด้วยเองนี่นา” ธารธาราเสริมพร้อมรอยยิ้ม



 “ตามสบายครับ ผมไปนอนห้องพ่อก็ได้ แบร่” ทินกรแลบลิ้นใส่พี่ชายคนรอง ท่าทางเด็กๆนั้นทำให้ภรัณยูอมยิ้มอย่างเอ็นดู เขาไม่ค่อยได้เห็นมุมเด็กๆของทินกรมากนักนอกจากเวลาที่เด็กหนุ่มอยู่กับพี่ชาย ต่อให้เป็นกับเขาการออดอ้อนของร่างสูงก็มักจะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์เท่าไหร่นัก “พี่ภัทรรอนี่นะครับ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจจากป้าแต้วก่อน”




“อ้าว...เอ่อ...”




คนที่จู่ๆก็ถูกทิ้งให้อยู่กับพี่ชายของคนรักตามลำพังยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก ธารธาราที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงของน้องชายเอียงคอมองเขาพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งมาถึงตอนนี้ภรัณยูเริ่มจะคิดแล้วว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าอื่นไม่เป็น




“ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยดูแลซันแทนพวกผม” นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ภรัณยูคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดกับเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมากับสิ่งที่กำลังจะพูดต่อจากนี้




รอยยิ้มของธารธาราหุบลงเล็กน้อยพร้อมกับแววตาฉงนเมื่อเห็นภรัณยูเอื้อมไปผลักบานประตูปิดแล้วกดล็อก



“ซันเขายังจำได้นะครับ...” ภรัณยูเอ่ยขึ้น ธารธาราขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดไป “ที่คุณพูดกับคุณเมฆาตอนเด็กๆว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณเกศราเสียชีวิต เขายังจำได้นะครับ”




เขารู้ว่ามันไม่ใช่กงการของเขาแต่ภรัณยูไม่อยากให้ทินกรต้องทนอยู่กับความทรงจำที่เจ็บปวดไปนานกว่านี้




“พี่ภัทร? พี่อุ่น?” เสียงเรียกของทินกรจากหน้าห้องเจือไปด้วยความสับสนเมื่อเห็นประตูห้องของตัวเองถูกล็อคไว้ ภรัณยูกำลังจะหันไปเปิดประตูให้เด็กหนุ่มเมื่อพี่ชายของทินกรพุ่งตัวตัดหน้าเขาไปยังประตู



“ทำอะไรกันอยู่เหรอครั...พี่อุ่น?” ทินกรกระพริบตาปริบๆอย่างประหลาดใจเมื่อถูกพี่ชายสวมกอดไว้แน่นพร้อมน้ำตานองหน้า ก่อนจะโอบกอดร่างโปร่งตอบอย่างเก้ๆกังๆ



“พี่รักซันนะ พี่กับพี่เมฆรักซันที่สุดในโลกเลยรู้มั้ย” ธารธาราเอ่ยเสียงปนสะอื้น ซุกหน้าเข้ากับไหล่ของน้องชาย ภรัณย
ทินกรหันมาหาเขาด้วยสีหน้าสับสน ภรัณยูยิ้ม กดจมูกลองบนแก้มของคนรักเบาๆก่อนเอ่ยลา




“วันนี้พี่กลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้พี่มารับนะ”




เขากับทินกรยังคงมีอีกหลายวันที่จะสร้างความทรงจำให้ย้อนกลับมามองในความสัมพันธ์ แต่วันนี้เป็นวันของธารธารา



ภรัณยูได้แต่หวังว่าหลังจากวันนี้ สายสัมพันธ์ของสองพี่น้องจะไม่มีความทรงจำนั้นเป็นหนามที่ยังคงทิ่มแทงใจของทินกรดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา









“นี่ๆ กูซื้อมาฝาก กินเยอะๆเลย” แทนไทยวางถุงจากมินิมาร์ทข้างๆโต๊ะหินอ่อนที่พวกเขานั่งลงกลางโต๊ะ ภายในบรรจุด้วย
ขนมขบเคี้ยวจำนวนมาก มีนาพยักหน้าขอบคุณขณะที่แว่นแบมือตรงหน้าร่างสูง เด็กหนุ่มลูกครึ่งหยิบสแตมป์ส่งให้เพื่อนรักพร้อมเสียงหัวเราะ



"มึงนี่ ตกถังข้าวสารแล้วยังงกไม่เปลี่ยนเลยนะ"



"เขาเรียกรู้จักค่าของเงิน" เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบ



มีนายังคงง่วนอยู่กับการทำสไลด์พรีเซ้นต์รายงานกลุ่มที่เพื่อนในคณะทั้งสองใจดีพอจะให้เขาเข้ากลุ่มด้วยไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมรอบกายมากนักจนกระทั่งได้ยินเสียงแสตมป์สะสมแต้มถูกฉีกแบ่งเป็นครึ่งแผงแล้วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา



"..." มีนาเงยหน้าขึ้นมองของในมือเขา กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ


"ขอบใจที่ให้คูปองนะ" แม้น้ำเสียงของแว่นจะเรียบเฉย แต่มีนาพอจะเดาได้จากท่าทางว่าอีกฝ่ายอยากขอบคุณเขาเรื่องคูปองที่มีนาเคยให้ไปก่อนหน้านี้



"ไม่เป็นไรหรอก เราเต็มใจ" มีนารีบปฎิเสธ



"รับไปเถอะ ยังไงก็เพื่อนกัน” เด็กหนุ่มร่างเล็กยังคงดื้อดึง แต่สิ่งที่ทำให้มีนารู้สึกจุกอยู่ในอกคือคำว่าเพื่อนที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างง่ายดายราวกับเป็นเรื่องที่เขาควรรู้อยู่แล้ว



เพื่อน...



คำที่เขาไม่ได้ยินมานานแสนนานหากไม่ใช่จากทินกรและพายุ คำที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินจากคนในคณะหลังจากเรื่องของธารธาราและข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วเกี่ยวกับตัวเขา



ข่าวลือที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่เป็นความจริง



และนั่นทำให้ขอบตาของมีนาร้อนผ่าว



"ขอบ...ขอบใจนะ" มีนารับแสตมป์มาด้วยมืออันสั่นเทา กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หยดน้ำใสๆที่ร่วงเผาะลงบนแผงแสตมป์ที่แว่นให้มาก็ทำให้คนทั้งวงแตกตื่น



"เฮ้ย! เชี่ยแว่น มึงแกล้งไรเพื่อนเนี่ย" แทนไทยรีบโอบเพื่อนร่วมกลุ่มไว้ มือใหญ่ถูต้นแขนขาวขึ้นลงเชิงปลอบโยน



"อ้าว ทำไมกูผิดล่ะ" แว่นโวยวาย



"ก็มึงทำมีนร้องอ่ะ โอ๋ๆ" แทนไทยกอดเด็กหนุ่มโยกไปโยกมาเหมือนเก้าอี้โยกตัวใหญ่




"เปล่า..เรา...เราแค่ดีใจที่มีเพื่อน.." มีนาพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นเครือ “ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ"




เขารู้ว่ามันน่าสมเพช แต่เขาไม่สามารถควบคุมเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาได้ ความเจ็บปวดที่สั่งสมมาตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับธีรเชษฐ์ ถูกปลดปล่อยออกมาจนมีนายังรู้สึกตกใจตัวเอง




"เฮ้ย คิดมาก เราก็เพื่อนกันหมดนั่นแหละ" แทนไทยขยี้ผมเขาอย่างเอ็นดู ส่วนแว่นก็พยักหน้าสมทบหงึกหงัก



"ทำอะไรกันอยู่เหรอ" มีนารู้สึกถึงขนอ่อนทั่วร่างที่ลุกชันเมื่อได้ยินเสียงเนิบนาบที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ธารธาราที่เดินมาจากทางไหนก็ไม่รู้เอียงคอถามพร้อมกับรอยยิ้ม มีนารีบผละออกจากอ้อมกอดของแทนไทยแล้วยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างหวาด
กลัว



แค่อยู่เฉยๆโดยไม่มีคนรักของธารธาราเป็นตัวประกอบฉากยังถูกเกลียดขนาดนั้น เขาไม่อยากคิดเลยว่าในตอนนี้อีกฝ่ายจะโกรธเขาขนาดไหน



"สะ..สวัสดีครับ"



ธารธาราเพียงแต่เหลือบมอง ไม่คิดจะรับไหว้เด็กหนุ่ม ร่างโปร่งเดินไปนั่งที่อีกข้างของแทนไทย คล้องแขนและเอาคางเกยไหล่คนรักของตัวเองอย่างสนิทสนม



"กินขนมกันอยู่เหรอ?"



"ครับ พี่อุ่นกินมั้ย?" แทนไทยที่ไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุหยิบซองขนมขึ้นมาฉีกให้



"ขอบใจนะ" คนสวยยิ้ม หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วนำไปจ่อที่ปากของเด็กหนุ่ม



"อ้าว พี่อุ่นไม่กินเหรอครับ?" แทนไทยถามงงๆ



"กิน แต่ให้แทนกินก่อน เดี๋ยวพี่กินแทนต่อ" คนหน้าเป็นยังคงยิ้มน่ารัก ขัดกับคำพูดสิบแปดบวกของตนเช่นเคย มีนาลอบถอนหายใจที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจตนเท่าไหร่นัก "แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่เหรอ?"



"รายงานครับ เรื่องการค้าประเวณีในนักศึกษามหาวิทยาลัย พรีเซ้นต์วันศุกร์" แทนไทยตอบ



"เหรอ.." ธารธาราพยักหน้า "มีนเป็นคนขึ้นพรีเซนต์เหรอ?"


เจ้าของชื่อสะดุ้งที่จู่ๆก็ถูกอีกฝ่ายพูดด้วย เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืดแทนคำตอบแล้วก้มหน้าพิมพ์งานต่อ ในใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวทุกคำพูดของลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์



"เงียบขนาดนี้จะพรีเซนต์ได้ยังไงครับ ผมต่างหากที่พรี" แทนไทยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม ธารธาราเอียงคอมองมีนาที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับคีย์บอร์ดแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อ



"เหรอ... นึกว่าจะขึ้นไปเป็นกรณีศึกษา"



ความเงียบปกคลุมรอบวงสนทนา มีนาตัดสินใจที่จะไม่เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ด้วยกลัวว่าหากทำอะไรผิดไปเพียงเล็กน้อย อีกฝ่ายจะทำให้เขาเสียเพื่อนทั้งสองที่ตัวเองเพิ่งได้มาไปในวันเดียวกัน



แต่แทนไทยไม่คิดเช่นนั้น



"พี่อุ่นพูดว่าอะไรนะครับ?"


"พี่บอกว่า นึกว่าจะพรีเซนต์เรื่องกรณีศึกษา" ธารธาราว่าเสียงใสซื่อ "รู้มั้ยวิชานี้เขาเน้นการนำเสนอตัวอย่างมากเลยนะ ถ้า
เพิ่มเติมไปหน่อยพี่ว่าน่าจะช่วยดึงคะแนนได้ดีเลยล่ะ"



"อ๋อ.." เด็กหนุ่มลูกครึ่งพยักหน้าอย่างไม่ติดใจสงสัย ซึ่งมีนาก็เข้าใจดี หากไม่เคยเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์ของธารธาราโดยตรง ก็ยากที่จะเชื่อว่านนางฟ้าของปีสี่คนนี้จะจงใจหาเรื่องเขา



"เรา...ไปห้องน้ำก่อนนะ"



มีนาลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างอึดอัด เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้นานไปกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดระยะห่างน่าจะทำให้จิตใจที่ปั่นป่วนของเขาสงบลงมากพอที่จะไม่เต้นตามเกมของธารธาราจนเกินไป



มีนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา เบอร์โทรในเครื่องของเขาเริ่มมีชื่อของคนอื่นอยู่ในรายชื่อติดต่อบ้างแล้วถึงแม้ว่าจะยังมีไม่ถึงสิบคน แต่ถึงอย่างไรรายชื่อเดียวที่ขึ้นเป็นรายการโทรด่วนของเขาก็ยังคงเป็นชื่อคนที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาให้เขา
มือไปไวกว่าความคิด กว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป มือเรียวก็กดโทรออกหาคนที่เขาควรจะโทรหาแค่ไหนยามฉุกเฉินเสียแล้ว



“มีน? เป็นอะไรรึเปล่า?” แน่นอนว่าผลลัพธ์คือเสียงทุ้มจากปลายสายที่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“ผม…ขอโทษครับ...” เสียงหวานยังคงแหบพร่าจากการร้องไห้ก่อนหน้านี้ “ผมแค่อยากได้ยินเสียงคุณเชษฐ์...”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ธีรเชษฐ์จะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง



“ฉันติดงานอยู่ เสร็จแล้วจะรีบไปหา”



“มะ..ไม่เป็นไรครับ ผม...ผม...ไม่อยากรบกวน” มีนาละล่ำละลัก เช็ดน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีของตัวเองราวกับกลัวว่าคนที่อยู่ปลายสายจะมองเห็น



“อีกไม่เกินสองชั่วโมง”



อีกฝ่ายพูดแค่นั้นก่อนจะตัดสายไป มีนาก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง แม้ดวงตาจะยังแดงก่ำจากการร้องไห้ แต่ริมฝีปากรูปกระจับกลับมีรอยยิ้มแต่งแต้มจากความใส่ใจที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับจากร่างสูง



มีนาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังทางที่ตนจากมา ได้แต่หวังว่าธารธาราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วตอนเขากลับไป









ธีรเชษฐ์กดตัดสายโทรศัพท์จากมีนา ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มชาวอิตาลีที่นั่งเท้าคางมองเขาด้วยรอยยิ้มกริ่ม



“อา…ความรัก สวยงามเสมอนะครับ คุณว่าไหม?”



“เรื่องที่คุณให้ผมทำเรียบร้อยแล้ว พวกผมจะไปงานแฟชั่นโชว์นั่นตามที่คุณต้องการ” ธีรเชษฐ์เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้คน
ตรงหน้าให้ความสนใจเรื่องของเขากับมีนาไปมากกว่าที่ควรจะเป็น “ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องการให้ผมพาหมอกไปด้วย เด็กคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้”



เลขาของเขาเป็นจุดสนใจของนิโคไลตั้งแต่วันแรก ธีรเชษฐ์รักมธุวันไม่ต่างจากลูกในไส้ หากจะให้พูดกันตรงๆ เขาคิดว่าสายสัมพันธ์ของเขากับมธุวันนั้นหยั่งลึกเกินกว่าเขากับลูกชายทั้งสามเสียด้วยซ้ำ และความคิดที่ว่ามาเฟียหนุ่มตรงหน้าจะทำอะไรเลขาของเขาทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงสัญชาตญาณของตนที่ต้องการจะปกป้องชายหนุ่มอายุน้อยกว่า



“ผมบอกแล้วไงครับ ว่าคุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้น” นิโคไลยิ้ม แต่ดวงตาสีมรกตบ่งบอกว่าตนไม่ต้องการตอบคำถามอะไรไปมากกว่านี้



“ถ้าหมอกเป็นอะไร...”



“ผมให้สัญญากับคุณไว้ตรงนี้ คุณธีรเชษฐ์” นิโคไลเอ่ยขัด ความอบอุ่นจอมปลอมในน้ำเสียงของชายหนุ่มผมบลอนด์อันตรธานหายไปครู่หนึ่ง “ผมจะปกป้องมธุวันด้วยชีวิตของผม พอใจรึยังครับ”



“….”



ธีรเชษฐ์ทำได้เพียงพยักหน้า เขาไม่ใช่คนที่รู้สึกกลัวอะไรง่ายๆ แต่อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนตรงหน้าทำให้เขาเลือกที่ปิดปากเงียบแม้จะไม่อยากเชื่อคำสัญญาของคนที่มีธุรกิจผิดกฎหมายในมือมากมายนับไม่ถ้วนก็ตาม



ชายหนุ่มก้มลงมองโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้




หากทุกอย่างกำลังจะมาถึงจุดจบ เขาก็อยากจะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดในตอนนี้กับคนที่มอบชีวิตใหม่ให้กับเขา



“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระสำคัญ”




------------------

ฮึบๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
คือถ้าในเรื่องนี้นี่คือรำคาญอุ่นมากอ่ะ นิสัยไม่ดีอ่ะอุ่น สงสารน้องมีน ฮืออออออออ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มีนก็ยังน่าสงสารอยู่เช่นเคย  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอาใจช่วยน้องมีน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อยากรู้ความจริงแล้ว~

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องมีนของแม่ กอดปลอบบ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อุ่น เรื่องนี้นิสัยหนูน่าจะโดนดักตบมาก ๆ เลยนะ  :beat:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มีนไม่ได้ผิดอะไรเล้ยยยยยย  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มีนน่าสงสารอ่ะ แต่ก็โทษธารมากไม่ได้ด้วย ธีรเชษฐ์ก็ทำตัวไม่ดีไว้ เฮ้อ เรื่องมันหน่วงมาก

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สงสารรร น้องมีนหรือดาวพระศุกร์เนี่ย รันทดเหลือเกิน
 :ling1: :ling3: :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เอาใจช่วยมีน   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 28: คนใจดี


มีนาวักน้ำขึ้นทำความสะอาดใบหน้าและหวังว่ามันจะช่วยให้ดวงตาที่แดงก่ำดูสดชื่นขึ้นก่อนที่ธีรเชษฐ์จะมาถึง เขาส่งข้อความไปบอกร่างสูงว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและขอกลับมาที่คอนโดด้วยตัวเองเพราะไม่อยากอยู่ที่มหาวิทยาลัยนานเกินความจำเป็น แต่เขาเพิ่งมาฉุกคิดได้ทีหลังว่าการทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้ร่างสูงรู้สึกสงสัยมากขึ้น



มาคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว



มีนาตบหน้าของตัวเองเบาๆให้กลับมามีสีเลือดฝาดเมื่อได้ยินเสียงประตูหน้าห้องเปิดออก แล้วก้าวออกไปเพื่อเผชิญหน้ากับเจ้าของห้อง...



…ที่ยัดตุ๊กตากระต่ายขนฟูสีชมพูขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ใส่ในมือเขาด้วยสีหน้าที่มีนาอ่านไม่ออก



“อะไรเหรอครับ”



“ลูกค้าที่บริษัทให้มา” ชายหนุ่มโกหกหน้าตาย มีนาก้มลงมองตุ๊กตาในอ้อมกอดด้วยสีหน้าไม่เชื่อ แต่เลือกที่จะไม่ถามแล้วกอดกระชับเจ้าเพื่อนสนิทตัวใหม่ให้แน่นขึ้นพร้อมกับซุกหน้าลงกับขนปุยนุ่มเพื่อซ่อนรอยยิ้มดีใจของตัวเองจากคนตรงหน้า



“วันนี้ฉันซื้อข้าวมาให้ ไม่ต้องทำข้าวเย็นนะ” มือใหญ่วางปุลงบนศีรษะกลมแล้วแช่ไว้อย่างนั้น



ทั้งที่ธีรเชษฐ์ไม่ได้ลูบศีรษะเขาด้วยซ้ำ แต่อุณภูมิที่ถ่ายทอดผ่านมือของอีกฝ่ายก็มากพอที่จะทำให้ขอบตาของมีนาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง



“เจอเจ้าธารมาล่ะสิ” ร่างสูงเดา มีนาพยักหน้า ยังคงไม่กล้าส่งเสียงออกไปด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ไปอาบน้ำอาบท่าซะไป เดี๋ยวฉันจัดจานให้”



“….” มีนาเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบก้มหน้ากลับลงไปอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้ว่าขอบตาแดงๆของตัวเองไม่มีทางรอดพ้นสายตาของอีกฝ่ายไปได้



น่าแปลกที่ธีรเชษฐ์เพียงแต่ตบศีรษะเขาเบาๆสองสามปุแล้วเดินเข้าไปในครัวพร้อมถุงกับข้าวในมือ ความปกติที่ไม่ปกตินี้ทำให้มีนาเริ่มเป็นฝ่ายเป็นกังวลขึ้นมาเสียเอง แต่เขาไม่อยากทำให้ธีรเชษฐ์อารมณ์เสียด้วยการขัดคำสั่ง เด็กหนุ่มจึงอุ้มเจ้ากระต่ายน้อยสีชมพูกลับเขาไปในห้องนอนแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำอีกครั้ง







พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันระหว่างมื้ออาหาร ทั้งห้องมีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกับจานและเสียงลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำหน้าที่ของมันในการทำให้มีนาต้องหดขาขึ้นนั่งขัดสามธิเพื่อให้ความอบอุ่นท่อนขาเรียวที่โผล่พ้นขากางเกงตัวจิ๋วได้เป็นอย่างดี แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกผ่อนคลายกับท่าทีของคนตรงหน้าอย่างที่ไม่ได้รู้สึกเป็นเวลานาน



“เย็นนี้มีงานอะไรต้องทำรึเปล่า?”



ธีรเชษฐ์ถามขึ้นทำลายความเงียบ มีนานิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีครับ”


“ดี ฉันซื้อดีวีดีมา ไปเลือกดูสิว่าอยากดูเรื่องไหน”



มีนาชะงัก เงยหน้ามองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าประหลาดใจอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ธีรเชษฐ์รวบช้อนส้อมแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบจานของตัวเองกับของมีนา ด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นคว้าจานอาหารที่ว่างเปล่าของตัวเองไว้



“คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์จะทำอะไรครับ?”



“ล้างจานไง ไม่รู้จักเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม มีนาอยากจะตอบเหลือเกินว่าไม่ เขาไม่คิดว่าตัวเองรู้จักคำนั้นเมื่อมีธีรเชษฐ์อยู่ในรูปประโยค “ไปเลือกหนังไป เอาผ้าห่มออกมาจากห้องนอนด้วย”



แม้จะยังสับสนกับมิติใหม่ของชายหนุ่มตรงหน้า แต่มีนาก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปยังถุงสกรีนลายร้านขายดีวีดีกถุงใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโทรทัศน์จอแบนขนาดยักษ์ที่ต่อกับเครื่องโฮมเธียร์เตอร์รอบทิศ เด็กหนุ่มเปิดถุงออกแล้วหยิบดีวีดีนับสิบแผ่นออกมา พบว่าทั้งหมดในนั้นเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสีสันสดใสแบบที่มีนาเลือกดูในวันที่ธีรเชษฐ์พาเขาไปดูหนังเป็นครั้งแรก บางเรื่องดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เพิ่งออกมาจากลายเส้นที่ดูใหม่กว่า และบางเรื่องที่เขาเคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ดูจริงๆ ไม่มีเรื่องใดที่ดูจะเป็นเรื่องที่ธีรเชษฐ์อยากจะดูด้วยตัวเองสักเรื่อง



มีนาไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกที แก้มของเขาก็เริ่มจะเจ็บจากรอยยิ้มที่ฉีกจนเกือบจะถึงรูหูแล้ว



ร่างเล็กขนเอาผ้าห่มผืนหนาและตุ๊กตากระต่ายของตนออกมาถึงโซฟาพอดีกับที่ธีรเชษฐ์ก้าวออกมาจากห้องครัว มีนาวางข้าวของลงบนโซฟาแล้วหันไปหยิบแผ่นดีวีดีใส่เครื่องเล่น



มีนาหันกลับมาพบธีรเชษฐ์ผลุบนั่งลงบนโซฟาพร้อมคลี่ผ้าห่มรอ กระต่ายสีชมพูวางอยู่บนตักของร่างสูง มีนาเดินกลับมานั่งข้างๆอีกฝ่าย ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนรอยยิ้มกว้างของตัวเองเมื่อธีรเชษฐ์ห่มผ้าห่มผืนหนานั้นให้ตนพร้อมกับวางเจ้ากระต่ายน้อย
บนตักเล็ก



มีนากอดตุ๊กตาขนปุยไว้แน่น ดวงตากลมโตจดจ่ออยู่กับภาพการ์ตูนสีสันสดใส เขาสังเกตว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้หรี่ไฟในห้องลงเพื่อให้จอโทรทัศน์ดูสว่างขึ้น ราวกับว่าอีกฝ่ายจำเรื่องสิ่งที่เขาไม่ชอบในโรงภาพยนตร์ได้



มีนาไม่ชอบความมืด ตั้งแต่เล็กความมืดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับเด็กชายตัวเล็กที่อาศัยอยู่ในเพิงไม้ผุพังในที่ดินรกร้าง สิ่งที่มองไม่เห็นทำให้จินตนาการของเขาโลดแล่นขึ้นมาโดยไม่ถามความสมัครใจ เสียงลมพายุที่ตีกระทบสังกะสีเก่าๆที่เขาใช้มุงบ้านในวันพายุฝนฟ้าคะนองก็เป็นอีกสิ่งที่มีนาไม่ถูกจริตด้วยอย่างสิ้นเชิง



นอกจากจะไม่ได้หรี่ไฟแล้ว ร่างสูงยังไม่ได้บังคับให้เขาขยับเข้าใกล้ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือภาษากาย ซึ่งแม้มีนาจะคิดว่าเขาควรรู้สึกขอบคุณกับระยะห่างเล็กๆนั้น แต่เด็กหนุ่มกลับพบว่าสิ่งที่เขากำลังรู้สึกกลับกลายเป็นความผิดหวังเสียอย่างนั้น
เพราะหากธีรเชษฐ์ไม่บังคับ ถึงแม้มีนาจะอยากเอนซบแผงอกแกร่งแล้วถูไถใบหน้ากับผ้าเนื้อดีราวกับลูกแมวเหมียวเพียงใด เขาก็ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นด้วยตัวเอง



แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้เขาทั้งหมดในวันนี้ มีนาก็นึกอยากจะลองทำอะไรตามใจตัวเองขึ้นมาสักครั้ง



“…?”



ธีรเชษฐ์ชะงักเมื่อรู้สึกถึงร่างเล็กๆที่เขาอุตส่าห์เว้นระยะห่างให้อีกฝ่ายไม่อึดอัดเป็นฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ เอนศีรษะพิงแขนของเขาเบาๆอย่างลองเชิงราวกับกลัวจะถูกสะบัดออก มีนาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ใบหูที่แดงก่ำของเด็กหนุ่มบ่งบอกว่าร่างเล็กรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนกับการกระทำง่ายๆนั้น



ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงให้คนข้างๆขยับเข้ามาชิดจนนั่งเกยอยู่บนตักตัวเอง ประทับริมฝีปากลงบนขมับและหลังใบหูของเด็กหนุ่มอย่างอดไม่ไหว ธีรเชษฐ์หัวเราะเสียงทุ้มต่ำในลำคอเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่าขนลุกซู่ ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่นสะกดกลั้นเสียงน่าอายในลำคอ



“นั่งดูดีๆ มีนา ถ้าเธอยุกยิกมากๆระวังจะได้ทำอย่างอื่นแทนนะ”



ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบร่างเล็กที่ถูกห่ออยู่ในผ้าห่มผืนยักษ์ไว้แน่น แล้วปล่อยให้เด็กหนุ่มดื่มด่ำกับภาพยนตร์ตรงหน้าโดยไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น



เขาู้สึกถึงร่างที่แข็งเกร็งก่อนหน้านี้ค่อยๆผ่อนคลายลงเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวในจอโทรทัศน์ดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องเมื่อมีนาทิ้งน้ำหนักทั้งตัวเอนพิงร่างของเขาราวกับเป็นโซฟาส่วนตัวของตัวเอง



ซึ่งธีรเชษฐ์พบว่าเขาค่อนข้างชอบความรู้สึกนี้มากทีเดียว




“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์...”



เจ้าของชื่อก้มลงมองคนพูดอย่างประหลาดใจ แต่เด็กหนุ่มบนตักของเขาหลับปุ๋ยไปเรียบร้อยหลังจากพึมพำคำขอบคุณนั้นออกมา แขนเรียวกอดตุ๊กตากระต่ายที่เขาซื้อให้ไว้แน่น ร่างสูงยิ้มขำ นึกขอบคุณคำแนะนำของจอมทัพ ญาติฝ่ายมารดาที่มีศักดิ์เป็นหลานชายและผู้บริหารในบริษัทของเขาที่มักจะเดินไปไหนมาไหนพร้อมกับดอกไม้ ตุ๊กตา ขนมหวาน ตั้งแต่สมัยที่มาขายขนมจีบให้เลขาของเขาไปจนถึงตอนนี้ที่เจ้าตัวกำลังตามเทียวไล้เทียวขื่อเลขาของตัวเองแทนที่เป็นเหมือนตำราเดินได้ในการทำให้คนที่กำลังทุกข์ใจยิ้มออก



ธีรเชษฐ์เล็กน้อยเพื่อให้ร่างเล็กบนตัวเขาสามารถนอนหลับได้สบายที่สุด แม้จะรู้ดีว่าพรุ่งนี้เช้า ตัวเขาเองนี่แหละที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับกล้ามเนื้อที่ปวดระบม แต่เมื่อเห็นใบหน้าสงบสุขของคนที่หลับสนิท เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะขยับตัวไปไหนเท่าไหร่นัก








มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาบนที่นอนแข็งๆที่หลังจากย้ายเข้ามาอยู่กับธีรเชษฐ์เขาไม่เคยได้สัมผัส แต่ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากสิ่งที่อยู่ใต้ร่างของเขาตัดกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้มีนาขยับซุกเข้าหามันอย่างมีความสุข



…ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นอย่างตกใจเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ร้อนกว่าส่วนอื่นนาบกับสะโพกมนอย่างเรียกร้องความสนใจ



“ขะ..ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากด้วยสีหน้าสำนึกผิด ธีรเชษฐ์ชันตัวขึ้นนั่งตัวตรงแล้วหันไปมองนาฬิกาซึ่งบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า



“ตื่นมาทำไมเช้าขนาดนี้ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?”



“ผม…ผมจะทำอาหารเช้าน่ะครับ คุณเชษฐ์ไปนอนในห้องนอนต่อดีกว่านะครับ”



“ไม่ล่ะ ฉันตื่นแล้ว” ธีรเชษฐ์ขยับหมุนหัวไหล่ของตัวเองอย่างเมื่อยขบ ด้วยตาสีควันบุหรี่เหลือบมองร่างเล็กที่แม้จะตกใจแค่ไหนก็ยังคงไม่ปล่อยตุ๊กตากระต่ายที่กอดไว้แน่นอย่างพึงพอใจ “ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ?”



มีนาซุกหน้ากับตุ๊กตาในอ้อมแขน พยักหน้ารับด้วยสีหน้าเอียงอาย



“ผม…ไม่เคยมีของพวกนี้”



โตมาในบ้านที่ปัจจัยสี่เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน มีนาไม่เคยมีของเล่นเป็นของตัวเองไม่ว่าจะราคาถูกแค่ไหน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พวกเขาได้มาไม่เคยเหลือถึงขั้นเป็นเงินเก็บ มีนาไม่เคยแม้แต่จะหยุดยืนมองตุ๊กตาที่วางโชว์ตามร้านค้าในวัยเด็ก เพราะรู้ดีว่าพวกตนไม่มีทางมีเงินมากพอสำหรับของฟุ่มเฟือยพวกนั้น



เด็กหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่าคำสารภาพนั้นทำให้คนฟังนึกอยากจะเหมาร้านขายตุ๊กตามาถมห้องเพียงเพื่อจะได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของคนตรงหน้าอีกครั้ง



“เมื่อวานมีพัสดุมาส่งให้เธอ ฉันลืมบอก อยู่บนเคาท์เตอร์ในครัว” ธีรเชษฐ์เปลี่ยนเรื่องพร้อมเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้ร่างเล็กรู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองมีอิทธิพลต่อเขามากแค่ไหน มีนาเอียงคออย่างประหลาดใจแล้วเดินเข้าไปในครัว ในมือยังคงไม่ปล่อยกระต่ายน้อยไปไหนโดยง่าย ธีรเชษฐ์ลุกตามไปอย่างสงสัยเช่นกัน เด็กหนุ่มไม่ใช่คนที่จะสั่งซื้ออะไรโดยไม่บอกเขา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเด็กหนุ่มยังคงไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเงินของเขาหลังจากถูกธีรเชษฐ์ยึดกระเป๋าเงินครั้งก่อน และอีกส่วนเป็นเพราะมีนาเป็นคนแบบนั้น ร่างเล็กไม่เคยใช้จ่ายอะไรโดยไม่บอกเขาแม้ว่าเขาจะบอกหลายครั้งหลายคราว่าเขาไม่ได้สนใจ



“อ๋อ ชุดงานเทศกาลน่ะครับ เขาบังคับซื้อต่อให้ไม่ได้ไป ผมเลยต้องซื้อมา” มีนาถอนหายใจ วางตุ๊กตาของตนเอนพิงเอาท์เตอร์ครัว หยิบกรรไกรมากรีดเทปใสที่ปิดกล่องกระดาษไว้อย่างแน่นหนา



“ชุดอะไร?” ธีรเชษฐ์ก้าวมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังระหว่างรอร่างเล็กแปะพัสดุ มีนาชะงัก แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของร่างสูงแล้วแกะต่อไป “มีน ชุดอะไร?”



“คือ….”



ชายหนุ่มตัดปัญหาด้วยการเอื้อมไปหยิบกล่องกระดาษขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาจากมีนาแล้วเปิดมันออกด้วยตัวเอง



ผ้าเงาวาวสีสันสดใสซึ่งถูกห่อในซองพลาสติดใสภายในกล่องทำให้ร่างสูงชะงัก ธีรเชษฐ์ดึงเอาซองภายในออกมาแล้วฉีกมันออกอย่างไม่รีรอ ชุดเดรสสีแดง ขาว น้ำเงิน และเหลืองพร้อมกระโปรงฟูฟ่องที่เขาคุ้นเคยจากเทพนิยายที่เด็กทั่วโลกรู้จักดี



“สโนวไวท์? นี่มันงานอะไรเนี่ย?”



“คาเฟ่เทพนิยายน่ะครับ” มีนาตอบ สีหน้าที่เด็กหนุ่มมองชุดในมือของเขาทำให้ร่างสูงหลุดขำออกมา ธีรเชษฐ์ควานเจอที่คาดผมและถุงน่องยาวสีขาวในกล่องที่ทำให้เขารู้สึกอยากส่งดอกไม้ช่อโตไปให้ใครก็ตามที่เสนอไอเดียนี้ขึ้นมา “ผมเอาไปทิ้งดีกว่าครับ จะได้ไม่รกห้อง”



“ไม่เอาน่า ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่งสอนราวกับคนตรงหน้าไม่รู้ค่าของเงิน “ถ้าไม่ใส่ซักครั้งก็เสียดายเงินแย่”



“…” แม้จะไม่อยากทำ แต่มีนารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปฎิเสธ



“คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจกับการเปลี่ยนใจกระทันหันของร่างสูง  ธีรเชษฐ์ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาที่มองตรงมาที่ร่างเล็กเต็มไปด้วยความต้องการอย่างไม่ปิดบัง “เอาไว้อีกซักสองอาทิตย์ค่อยว่ากัน”



“ทำไมต้องอีกสองอาทิตย์เหรอครั....” เสียงของมีนาถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเด็กหนุ่มตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกใน
เดือนเกิดของตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้ในอีกสองสัปดาห์ เขาจะมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์...



…และทำให้คำสัญญาที่จะไม่แตะต้องเขาของธีรเชษฐ์หมดไป พร้อมกับทางเลือกที่เขาต้องเลือกสองทางที่แม้ก่อนหน้านี้มีนาจะมั่นใจว่าตนไม่มีทางเลือกที่จะขายร่างกายของตัวเองหากมีทางเลือก แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่ธีรเชษฐ์ต้องการจากเขาจริงๆไม่
เคยเป็นเงิน



“คิดมากอีกแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กเลิกขมวดคิ้วได้แล้วรู้มั้ย” นิ้วชี้ของธีรเชษฐ์จิ้มบนหว่างคิ้วของเด็กหนุ่มแล้วคลึงเบาๆ ความอ่อนโยนที่มีนาได้รับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานเริ่มจะทำให้สมองของร่างเล็กไม่ยอมสั่งการขึ้นมา



ครืดดด



เสียงข้อความเข้าในโทรศัพท์ของธีรเชษฐ์ทำให้ร่างสูงละมือจากเด็กหนุ่มไปหยิบอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง ดวงตาสีควันบุหรี่ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้จะอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ร่างสูงแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา แต่มีนาไม่กล้าเอ่ยถาม ร่างเล็กนิ่วหน้ากับความรู้สึกเจ็บแปลบในอกที่เขาเกลียดแสนเกลียด



“หึ…เหมือนแม่เข้าไปทุกวัน” ธีรเชษฐ์พึมพำพร้อมรอยยิ้มแล้วหันหน้าจอมาให้มีนาดูบ้าง ภาพที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือของชายหนุ่มนั้นเป็นรูปของทินกรซึ่งเปลือยท่อนบนตามคอนเซปท์ร้านเครปหนุ่มบริหารที่เขาเคยได้ยินเพื่อนทั้งสองคุยกัน เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้บิดากำลังกอดเอวของเด็กสาวในชุดคอสตูมอลิซจากเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์พร้อมรอยยิ้มกว้าง ซึ่งนั่นทำให้มีนารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กหนุ่มร่างสูงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าหลงแฟนหนุ่มอายุ
มากกว่าของตัวเองจนโงหัวไม่ขึ้น



แต่เมื่อสังเกตดูใกล้ๆ มีนาก็ค้นพบว่าคนที่ทินกรอิงแอบแนบชิดอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่ชายคนรองของทินกรที่จงเกลียดจงชังบิดาของตัวเองเข้าไส้ และเผื่อแผ่อานิสงค์นั้นมาถึงมีนาด้วย



“คุณธาร...สวยเหมือนผู้หญิงมากจริงๆนะครับ”



มีนาไม่เคยเกลียดใคร แต่นั่นเป็นคำชมเดียวที่เขาสามารถเค้นออกมาจากปากได้โดยไม่ฝืนความรู้สึกตัวเอง



“เหมือนแม่เขานั่นแหละ” ธีรเชษฐ์ยิ้ม แววตาที่มองรูปของลูกชายคนรองนั้นมีความเศร้าหมองเจือปนอยู่อย่างปิดไม่มิด
“สมัยก่อนเขาถูกยายจับแต่งเป็นผู้หญิงอยู่ตลอดเพราะซินแสทักว่าจะช่วยให้เกศราหาย ฉันเคยพยายามพูดให้ยายแก่นั่นเลิกวุ่นวายกับเขา แต่เกศขออย่าให้ฉันเขาไปยุ่ง”



ในตอนนั้นธีรเชษฐ์เข้าใจว่าภรรยาไม่ต้องการให้มารดาขาดที่พึ่งทางจิตใจ แต่เมื่อย้อนมองกลับไป เขารู้สึกว่านั่นคือบทเรียนราคาแพงที่เกศราจงใจให้ลูกชายคนรองได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเองในวันที่ไม่มีเธอ



ซึ่งนั่นทำให้ธารธาราเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่น่ากลัวที่สุดภายใต้ใบหน้าสวยหวานและการวางตัวที่ไม่ต่างจากเด็กสาวซึ่งถูกอบรมมาในตระกูลชั้นสูงคนหนึ่ง



“คุณเชษฐ์ครับ...”



“ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร” ธีรเชษฐ์หยุดคำพูดของมีนาไว้ตรงนั้น “แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของฉันกับเขา เข้าใจมั้ยมีนา”



“ครับ” มีนาพยักหน้ารับคำเสียงอ่อย



ธีรเชษฐ์วางมือลงบนศีรษะกลมอีกครั้งแล้วตบเบาๆก่อนจะเดินผ่านเด็กหนุ่มไปที่ห้องนอน มีนาอมยิ้มแล้วยกมือขึ้นแตะบริเวณที่มือใหญ่เคยวางอยู่ ก่อนจะก้มลงหยิบกระทะออกมาตั้งไฟเตรียมทำอาหารเช้า



------------

มือใหม่หัดมุ้งมิ้งก็จะเป็นแบบคุณเชษฐ์นี่แล55555
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮืออออ ตอนนี้น่ารักมาก
คุณเชษฐ์ใจดีขึ้นมากจริงๆ ดีใจกะน้องมีน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อยากเหมาตุ๊กตาให้มีนา  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คนแก่หัดหวานน

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แดดดี้ มีมุมน่ารักด้วย :hao7:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มือใหม่หัดมุ้งมิ้งว่างั้นเถอะ 5555555

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
โง้ยยยยยยยยย คุณเชษมุ้งมิ้ง วาปไปวันเกิดน้องเลยได้ไหมคะ555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พฤติกรรมแบบนี้ ทำให้ตลอดนะ คุณท่าน  o18

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มามามารออ่านนน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณเชษฐ์เริ่มเข้าใจมีนา แค่นี้มีนาก็สุขแล้ว   :impress2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณเชษฐ์มีมุมใจดีด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด