' ม่านหมอกสีฟ้า ' update : ตอนที่ 23 (จบแล้ว) -- หน้า 7 --27/04/2018--
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ' ม่านหมอกสีฟ้า ' update : ตอนที่ 23 (จบแล้ว) -- หน้า 7 --27/04/2018--  (อ่าน 118895 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




ม่านหมอกสีฟ้า

เธอหมุนรอบฉัน
ฉันหมุนรอบเธอ
และสองดาวยังคงหมุนรอบตัวเอง


twitter : @Dearblisss
Fanpage : https://www.facebook.com/Dearblisss/


--------------------------------------


สารบัญ


ตอนที่ 1 : ความพยายาม
ตอนที่ 2 : ยินดีที่ได้รู้จัก
ตอนที่ 3 : ไม่ทันได้เตรียมใจ
ตอนที่ 4 : #หมอกบลู vs #เพลิงบลู
ตอนที่ 5 : หมอกและควัน
ตอนพิเศษ : สุขสันต์วันแห่งความรัก
ตอนที่ 6 : ดอกกุหลาบสีแดง 12 ดอก
ตอนที่ 7 : เพื่อนไม่สนิท คิด(ไม่)ซื่อ
ตอนที่ 8 : ไม่ได้อยากเป็นเพื่อน
ตอนที่ 9 : งอนแล้วต้องง้อยังไง
ตอนที่ 10 : โกหกไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่
ตอนที่ 11 : วันหยุดของดาวเดือน
ตอนที่ 12 : สรุปแล้วเราเป็นอะไรกัน
ตอนที่ 13 : แฟนกันวันแรก
ตอนที่ 14 : หึงก็บอกว่าหึง
ตอนที่ 15 : นายแบบจำเป็น
ตอนที่ 16 : เซอร์ไพร์สในเซอร์ไพร์ส
ตอนที่ 17 : ความลับไม่มีในโลก
ตอนที่ 18 : พ่อบ้านใจกล้า
ตอนที่ 19 : ม่านหมอกกลางใจ
ตอนที่ 20 : ลูกแมวเชื่องกับเจ้าของสุดหล่อ
ตอนที่ 21 : ของขวัญในความทรงจำ
ตอนที่ 22 : พี่สาวขี้หวง
ตอนที่ 23 : วาเลนไทน์นี้ไม่โสดแล้ว (จบ)




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2018 20:17:56 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 1
ความพยายาม




“อะไรถึงทำให้คุณอยากเป็นเดือนคณะเราครับ”


คำถามของรุ่นพี่กรรมการถามขึ้นท่ามกลางห้องประชุมที่เงียบสนิท ทุกสายตาของเพื่อนๆร่วมคณะต่างมองมาที่ผมเป็นตาเดียว รอคอยเหตุผลของผมเหมือนกับที่ทุกๆคนโดนถาม

นั่นสิ...ทำไมผมถึงอยากเป็นเดือนคณะกันนะ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าได้เป็นงานมันจะหนักขนาดไหน แต่ผมกลับเป็นคนที่เดียวที่ลงสมัครเป็นเดือนคณะวิทยาศาสตร์ด้วยความเต็มใจ ในขณะที่หลายๆคนอาจถูกรุ่นพี่สาขาบังคับให้ลงเพราะไม่มีตัวแทนส่งมา

“เพราะผม...”

ผมนิ่งคิดอีกนิด เพราะเหตุผลที่ทำให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้มันบ้าบอมาก


“ผมแค่อยากโดดเด่น อยากมีพื้นที่ยืนในสังคมมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เผื่อว่าวันหนึ่งคนที่ผมรอคอยเขาจะหันมาเห็นผมบ้าง...”


ผมพูดมันออกไปแล้ว เหตุผลจริงๆที่ทำให้ผมเลือกที่จะลงประกวดดาว-เดือน ผมรู้ว่ามันบ้ามาก ถ้ารุ่นพี่ไม่รับผมก็ไม่เป็นไร เพราะผมถือว่าผมได้พยายามอย่างสุดความสามารถของผมแล้ว



.
..




“เชื่ยบลูแม่งได้เป็นเดือนคณะว่ะ”


เสียงโหวกเหวกโวยวายของว่านดังขึ้นในห้องสโลป เลื่อนดูภาพที่ผมไปถ่ายมาพร้อมกับแป้ง ดาวคณะวิทยาศาสตร์จากสาขาชีววิทยาเมื่อสามวันก่อน ทุกคนดูตื่นเต้นมากเพราะเรื่องการคัดตัวดาว-เดือนจากสาขาต่างๆนั้นเป็นความลับสุดๆ และทางสโมสรคณะจะเปิดตัวดาว-เดือนคณะครั้งเดียวผ่านทางเพจของสโมสร ไม่มีใครรู้เรื่องนี้จนเมื่อว่านพูดลั่นห้องสโลปนั้นแหละ ทุกคนถึงได้กรูกันเข้ามาดูรูปผมในไอแพดของไอ้ว่าน

“เกิดมาชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนเป็นเดือนคณะกับเขา มึงนี่แม่งสานฝันวันของกูจริงๆว่ะบลู”

ว่านยิ้มร่า เข้ามากอดผมจนแน่นด้วยอาการดี๊ด๊า ผมส่ายหน้าเบาๆอย่างหน่ายใจ ก่อนจะหยิบชีทเรียนขึ้นมารออาจารย์ที่ยังไม่เข้ามาในห้อง

“ตอนกูแข่งก็อย่าลืมไปเชียร์ด้วยก็แล้วกัน”

“ได้จ้า เดี๋ยวพี่ว่านและผองเพื่อนจะเกณฑ์คนทั้งคณะไปเชียร์มึงเลย เอาให้ได้เป็นเดือนมหา’ลัย แม่งจะได้ฮอต! ฮอต! ฮอตจนปรอทแตก”

ผมมองเพื่อนสนิทที่ดูจะตื่นเต้นเกินหน้าเกินตาผมไปมาก ดิ้นไปสักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี เพื่อนทั้งหมดจึงรีบสลายตัวและนั่งประจำที่ตัวเองทันทีก่อนจะโดนอาจารย์เทศนาตั้งแต่เช้า



.
..




“น้องบลูมาแล้ว พี่กำลังรออยู่เลย”

“ขอโทษทีครับ พอดีอาจารย์ปล่อยเลทนิดหน่อย”

“ไม่เป็นไรจ้า ยังพอมีเวลาอยู่ งั้นเราไปที่ตึก A กันเลยเถอะ เดี๋ยวคนอื่นๆจะรอ”

พี่ปูเป้เป็นพี่เลี้ยงดาว-เดือนของผมและแป้ง พวกเราพยักหน้าก่อนจะเก็บของและเดินตามพี่ปูเป้มาถึงรถเก๋งของเธอ หลังจากนั้นไม่นานพวกผมก็มาถึงอาคาร A อาคารที่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บตัวและทำกิจกรรมของดาว-เดือนจากทุกคณะ

“มากันแล้วเหรอจ๊ะเด็กๆ ปีนี้ทำไมคณะวิทย์งานดีอย่างนี้!”

พี่สาวประเภทสองเดินมาต้อนรับพวกผมกับพี่ปู้เป้ ผมและแป้งรีบยกมือไหว้ก่อนเลยแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนเพราะคณะผมเคร่งเรื่องระบบรุ่นพี่-รุ่นน้อง และมารยาทมาก ถ้าไม่ไหว้นี่อาจโดนตำหนิยาวไปถึงคณะแน่ๆ

“นี่พี่เจตน์นะน้องบลู น้องแป้ง” พี่ปูเป้แนะนำ แต่พี่เจตน์กลับทำตาขวางใส่

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกชื่อนี้ เรียกพี่ว่าเจสสิก้านะจ๊ะ”

“ครับพี่เจสสิก้า”

พอเห็นว่าผมตอบรับอย่างนั้น พี่เจตน์ก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะลากผมและแป้งเข้าไปรวมกลุ่มกับดาว-เดือนคณะอื่นที่มารออยู่ก่อนแล้ว ผมกับแป้งถูกจับแยกกัน ผมที่เดินเข้าไปนั่งกับกลุ่มเดือนเลยเลือกที่จะนั่งลงข้างผู้ชายที่กำลังเล่น RoV อยู่ แอบมองเขาเล่นสักพักก็จบเกม คนข้างๆจึงเงยหน้าขึ้นมา

“อ้าว สวัสดี มานั่งอยู่ตรงนี้นานแล้วเหรอ”

“อืม เราชื่อบลูนะ จากคณะวิทย์”

“เพลิง จากนิติ”

นิติงั้นเหรอ? คนๆนี้เหรอที่เป็นเดือนจากคณะนิติศาสตร์...หัวใจผมหล่นวูบอย่างน่าใจหาย ในหัวมีแต่คำว่าเสียดายเต็มไปหมด

“จ้องหน้าเราขนาดนี้ทำไมอ่ะ มีอะไรติดหน้างั้นเหรอ” เพลิงถามและเอามือแตะใบหน้าตัวเองเบาๆ

“เปล่า ไม่มีอะไร”

ผมยิ้มบางๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับพี่เจตน์ที่จับไมค์และเริ่มพูดต้อนรับดาว-เดือนจากทุกคณะที่มากันจนครบสักที เพลิงเอาโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋าแล้ว พวกเราจึงเริ่มตั้งใจทำกิจกรรมตามที่ทีมงานทุกคนจัดขึ้น





เวลาผ่านไปนานจนพระอาทิตย์ตกดิน วันนี้พวกเราทั้งหมดถูกละลายพฤติกรรม ผมได้รู้จักเพื่อนๆจากหลายคณะ ไม่ว่าจะเป็นเพลิงจากคณะนิติศาสตร์ มาร์ชจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือเจ๋งจากคณะรัฐศาสตร์

“เอาล่ะค่ะทุกคน วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนเนอะ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ เวลาเดิมนะค๊า แยกย้ายค่า”

พี่เจตน์ปล่อยพวกเรากลับแล้ว ทุกคนลุกขึ้นและรีบออกจากห้องประชุมใหญ่ มาร์ชก็ทักขึ้น

“หิวว่ะ ไปหาไรกินกันเถอะพวกเรา”

“กูไปๆ” เจ๋งรีบบอกทันที

“เออ กูไปด้วย บลูไปด้วยกันป่ะ” เพลิงตอบตกลงอีกคนก่อนจะหันมาถามผม

“ไปด้วยก็ได้ แต่ขอไปบอกพี่ปูเป้ก่อนนะ” ผมตอบตกลงก่อนจะรีบขอตัวออกมาบอกพี่ปูเป้ที่ยังรอผมอยู่กับแป้ง ผมขออนุญาตเสร็จก็เดินกลับมาหาเพื่อนใหม่ที่ยืนรออยู่

“เรียบร้อยแล้ว แล้วจะไปกินกันที่ไหนอ่ะ”

“พวกกูตกลงกันว่าจะไปกินชาบู”

“งั้นก็ไปก็เลยดิ”

ผมว่า และทุกคนก็รีบเดินออกจากห้องประชุมทันที เราเดินกันมาจนถึงลานจอดรถ ผมก็เห็นเพลิงกดรีโมตปลดล็อกรถยนต์ BMW สีดำส่งเสียงปลดล็อก ทุกคนก็ร้องว้าว

“รวยโคตรเลยนี่หว่า อย่างนี้ต้องเรียกว่าเสี่ยเพลิงป่ะครับ”

เพลิงเพียงแค่ยิ้มบางๆ มาร์ชถามแซวๆแล้วรีบไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับเจ๋ง ผมเลยนั่งที่เบาะด้านหน้าข้างเพลิงอย่างไม่มีทางเลือก พวกเรามาถึงร้านชาบูในเวลาต่อมา พอนั่งลงที่โต๊ะ ทุกสายตาในร้านก็มองมาโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะทุกคณะเปิดตัวดาว-เดือนแล้ว คงมีหลายคนที่เริ่มจะคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเราอยู่บ้างแหละมั้ง

กินกันจนอิ่ม หลังจากคิดเงินเสร็จเพลิงก็ขับไปส่งมาร์ชและเจ๋งที่หอของพวกมัน เหลือแต่ผมที่ยังอยู่บนรถเป็นคนสุดท้าย

“อยู่หอไหนอ่ะ จะได้ไปส่งถูก” เพลิงถามเมื่อเจ๋งลงจากรถไปแล้ว

“คอนโด X รู้จักทางป่ะ”

“คอนโดเดียวกัน งั้นเดี๋ยวกูขอแวะไปทำธุระที่คณะแป๊บนึงนะ แล้วเราค่อยกลับพร้อมกัน”

“เอางั้นก็ได้” ผมตอบตกลง เพราะยังไงวันนี้ก็คงไม่มีอีเว้นท์ที่ไหนอีกแล้ว ดีซะอีก ถ้าไปที่คณะนิติศาสตร์เผื่อจะบังเอิญเห็นใครบางคน...

รถของเพลิงแล่นมาถึงที่คณะนิติศาสตร์ในเวลาต่อมา จอดรถใกล้กับตึกเรียนที่ยังเปิดไฟอยู่ แม้ว่าจะดึกแล้วแต่ก็ยังมีคนเรียนอยู่เลย ผมเดินตามเพลิงเข้ามาในคณะเงียบๆ เพลิงนำผมไปยังห้องพักนักศึกษาที่ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังอยู่เนืองๆ

“รออยู่ข้างนอกแป๊บนึงนะ เดี๋ยวไปเอางานก่อน”

“อืม” ผมรับคำเพลิงและยืนอยู่กับที่ เพลิงเดินเข้าไปในห้องและผมก็ได้ยินเสียงทักทายของเพื่อนๆเพลิง จนกระทั่งได้ยินเสียงที่กล่าวถึงใครสักคน

“เชี่ยหมอกมันนอนรอมึงนานแล้วเนี่ยไอ้เพลิง”

ชื่อที่ผมได้ยินทำเอาหูผึ่ง และเผลอเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเพลิงเดินออกมาจากห้องพร้อมผู้ชายตัวสูงใหญ่ ดวงตาเรียวนั้นดูง่วงนอน ผมดูยุ่งไม่ได้ทรง ชุดนักศึกษาที่ใส่อยู่นั้นไร้ความเป็นระเบียบโดยสิ้นเชิง ผมยืนนิ่งเหมือนโดนสาป จนเพลิงที่เดินออกมาต้องกระตุกแขน

“เป็นอะไรไปอ่ะบลู”

“ปะ...เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไร”

ผมรีบพูด ดวงตายังมองที่หมอกที่มองมายังผมด้วยแววตาสงสัยอยู่

“อ้อ นี่หมอก เพื่อนสนิทกูเอง ส่วนนี่บลูจากคณะวิทย์”

“เพื่อนเดือนมึงอ่ะเหรอ” หมอกถาม และเพลิงก็พยักหน้าตอบ

“เออ บลูอยู่หอเดียวกับกูเลยแวะมาเอาการบ้านแล้วค่อยกลับพร้อมกัน”

หมอกพยักหน้าเบาๆ แล้วยังคงมองผมด้วยความสงสัย ผมเผลอกลืนน้ำลายอย่างเกร็งๆ เพลิงที่ไม่ได้สังเกตอะไรก็เดินนำหน้าพวกเราไปยังลานจอดรถ หมอกขึ้นไปนั่งข้างเพลิงแทนที่ผม ผมจึงมานั่งที่เบาะหลังแทนอย่างเงียบๆ

ตลอดทางผมได้แต่เงียบฟังหมอกและเพลิงคุยกันด้วยเรื่องที่ผมไม่เข้าใจ จนกระทั่งรถมาจอดอยู่หน้าคอนโดหนึ่งที่ไม่ใช่คอนโดของผม หมอกก็เปิดประตูรถออกไป ผมยังนิ่งอยู่อย่างนั้นจนเพลิงหันมามองผม

“มานั่งข้างหน้าด้วยกันดิ ไอ้หมอกมันออกไปแล้ว”

“อ้อ...อืม”

ผมรับคำและเปลี่ยนไปนั่งด้านหน้าแทน ยังรับรู้ได้ถึงความอุ่นที่อยู่บนเบาะอยู่เลย แค่คิดว่าคนที่นั่งก่อนหน้าเป็นหมอกผมก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาอย่างนั้น ดีที่ในรถมันมืด ไม่งั้นเพลิงคงได้เห็นอาการแปลกๆของผมแน่

“มึงเห็นไอ้หมอกแล้วใช่ป่ะบลู...”

เสียงของเพลิงดังขึ้นขัดใจผมที่ลอยไปไกลแล้ว ผมเลยหันมามองเพลิงที่ยังคงขับรถอยู่

“ความจริงแล้วพวกรุ่นพี่อยากได้ไอ้หมอกไปแข่งดาว-เดือน ก็ดูสิมันหล่อซะขนาดนั้น ใครที่ไหนจะไม่อยากได้มันไป”

“เพลิงก็หล่อเหมือนกันนี่”

“อย่าชมกันเลย กูก็รู้อยู่หรอกว่ามันหล่อ ไอ้หมอกมันเป็นตัวเต็งตั้งแต่เข้ามาที่คณะวันแรกแล้วอ่ะ แต่พอรุ่นพี่ขอให้มันไปประกวดมันก็ไม่ยอม ทำยังไงก็ไม่ยอม สุดท้ายหวยเลยมาลงที่กู”



.
..




ผมกลับมาถึงห้อง เปิดไฟจนห้องทั้งห้องสว่าง ใจยังคงเต้นแรงจนตอนนี้เลยได้แต่กุมหัวใจไว้และเดินไปถอดคอนแทคเลนส์ที่ใส่มาตั้งแต่เช้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแว่นสายตา ในหัวยังคงนึกถึงแต่ใบหน้าที่ไม่ได้พบเกือบครึ่งปี หลังจากจบมัธยมที่โรงเรียนรัฐบาลชื่อดังของประเทศ ผมก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลยจนกระทั่งวันนี้...








6 เดือนก่อน



“กรี๊ดดดดดดด นี่แกๆ วันนี้ฉันเห็นหมอกกับควันด้วย บุญตาเหลือเกิน”

เสียงซุบซิบของผู้หญิงโต๊ะด้านหน้าทำให้ผมต้องลดหนังสือการ์ตูนที่อ่านลงนิดนึง แอบมองด้านหลังของเธอที่กำลังคุยกันอย่างออกรส

“จริงป่ะ นี่ไม่ได้เห็นมาเป็นอาทิตย์แล้ว เห็นว่าซุ่มอ่านหนังสืออยู่บ้าน ทำไมวันนี้ถึงได้มาโรงเรียนล่ะเนี่ย”

“เห็นว่าห้อง 1 มีสอบย่อยวิชาฟิสิกส์อ่ะ คงจะมาสอบกันมั้ง”

“คงใช่แหละ แล้วผลสอบรับตรงมหา’ลัย T ออกยังอ่ะ นี่ฉันรีเฟรชหน้าเว็บรอทุกวันเลยนะ รอลุ้นให้หมอกกับควันด้วยว่าจะติดรึเปล่า”

“เอ้า สองแฝดนั้นก็สมัครมหา’ลัยนี่เหรอ”

“ใช่ ตามมาจากเพจ Foggy & Smoky ถ้าจำไม่ผิดควันยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ ส่วนหมอกยื่นคะแนนเข้าคณะนิติ”

“เชรดดดด เลือกแต่คณะดังๆ ถ้าติดทั้งคู่นี่แม่งต้องเป็นตำนาน”

“นี่แหละ ฉันก็ลุ้นอยู่ ถ้าฉันติดที่มอนี้พร้อมกับหมอกและควันคงฟินกับความหล่อไปอีกสี่ปี”

ผมไม่ได้สนใจที่พวกเธอคุยกันอีก มือขวาแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากใต้โต๊ะ ถ้าได้ยินไม่ผิดผมว่าผมได้ยินว่ามีเพจ Foggy & Smoky ผมเลยลองพิมพ์ชื่อเพจดู และก็พบจริงๆว่ามีเพจนี้อยู่ ภาพของหมอกและควันปรากฏสู่สายตา ยอดไลค์เพจเกือบห้าหมื่น ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีคนติดตามมากขนาดนี้ และผมก็ไม่ลังเลที่จะกดติดตามเพจทันที

“บลู ทำไรวะ” ว่านที่โผล่มาจากด้านหลังทำให้ผมสะดุ้งตกใจ และรีบกดล็อกโทรศัพท์มือถือทันที ว่านที่ชะโงกหน้ามาดูว่าผมทำอะไรอยู่มองอย่างงงๆกับท่าทีแปลกๆของผม

“เปล่าๆ กูอ่านโคนันอยู่นี่ไง” ผมชูการ์ตูนที่ถืออยู่ให้ดู ว่านเลยไม่ได้เอะใจอะไร

“ตื่นเต้นว่ะมึง”

“ตื่นเต้นอะไรวะ” ผมถามว่านที่มานั่งข้างๆ สีหน้าดูซีดๆ

“ก็มหา’ลัย T จะประกาศผลแล้วอ่ะดิ กูนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เหมือนมึงหรอก สอบติดมหา’ลัย K ไปแล้วหนิ”

“กูยังไม่ได้ยืนยันสิทธิ์เลยเหอะ”

“อ่าว แล้วรออะไรอยู่วะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมพึมพำ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารออะไรอยู่ จนกระทั่งเสียงกรี๊ดจากเพื่อนหน้าห้องดังขึ้น ผมและว่านเลยหันไปมองพวกเธอด้วยสายตางุนงง

“ผลออกแล้ว กรี๊ดดดดดด ฉันติดบัญชี” เหมี่ยวกระโดดโลดเต้นใหญ่ ว่านที่นั่งข้างผมถึงกับซีด มือสั่นรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเช็คผลดูบ้าง

“เป็นไงมึง” ผมถามเมื่อว่านเลื่อนรายชื่อดูพลางกัดเล็บไปด้วย

“ติดเว้ย! กูมีที่เรียนแล้วเว้ยยยยยยย” ว่านแหกปากร้องลั่นไม่แพ้เหมียว ผมมองชื่อของมันที่โชว์หราอยู่ก็อดยิ้มดีใจกับมันด้วยไม่ได้

“เหมี่ยว! หมอกกับควันก็ติดอ่ะแก” เสียงของนุ่นที่ร้องอย่างดีใจ ทำให้ผมชะงัก มองพวกเธอที่ร้องดีใจพร้อมกับเสียงเฮร้องของห้องด้านข้าง

“เชี่ยหมอก คณะนิติ มอT เลยนะเว้ย เชี่ยยยย มึงเอาเลยมั้ย”

“เอาดิวะ ไม่อยากสอบอีกรอบแล้ว” ผมได้ยินเสียงเฮลั่นพร้อมตะโกนอย่างมีความสุขของทุกคน ผมยินดีไปกับเพื่อนๆและเริ่มคิดแล้วว่าควรจะสละสิทธิ์มหา’ลัย K ดีรึเปล่า

“ถึงจะเสียใจที่มึงไปอยู่มอ K ส่วนกูอยู่มอ T แต่ไม่เป็นไร อยู่ในกรุงเทพฯเหมือนกัน” เสียงว่านดังขึ้น ผมที่ใจลอยไปถึงห้อง 1 หันมามองว่านที่ยังมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าอยู่

“กูคิดๆดูแล้วนะ...กูว่ากูจะสละสิทธิ์ว่ะ” ผมตัดสินใจและบอกว่านไป ว่านตกใจก่อนจะยิ้มออกมา

“แล้วมึงจะสอบเข้าที่ไหนวะ”

“กูจะยื่นรอบแอดฯใหม่ มหา’ลัยเดียวกับมึง”

“จริงมั้ย” ว่านถามย้ำ

“อืม”

“ไอ้บลูแม่งเพื่อนรักสัสๆ มากอดทีหนึ่งดิ เก่งอย่างมึงสอบเข้ามอ T ได้สบายมาก”



.
..
...



ผมถอนหายใจออกมาเบาๆขณะเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ นึกไปถึงสมัยมัธยมก็แปลกใจดี ไม่คิดว่าเพราะคนๆนึงถึงทำให้ผมเปลี่ยนใจที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันและเข้ามาอยู่ที่นี่ ตอนแรกพ่อแม่ค้านแทบตายที่ผมบอกว่าจะสละสิทธิ์แต่สุดท้ายท่านก็ตามใจผมอยู่ดี


ติ้ง~


เสียงแจ้งเตือนเฟสบุ๊คดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นการแจ้งเตือนจากเพจ Foggy & Smoky ผมเลยรีบกดเข้าไปดูทันที วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา แอดมินเพจ(ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร)อัพรูปของควันที่ห้องแลปของคณะวิทยาศาสตร์


Foggy & Smoky : ว่าที่คุณหมอกวินกำลังตั้งใจทำแลปเลย ขอบคุณรูปจากทางบ้านที่ส่งมาให้แอดเผยแพร่ต่อนะคะ เป็นบุญต่อลูกตาแอดเหลือเกิน ว่าแล้วก็มาเสพความหล่อของหนุ่มควันกันเถอะค่า~~~~


ถ้าถามผมว่าจะแยกหมอกกับควันออกได้ยังไงน่ะเหรอ แยกไม่ยากหรอก ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะสูงราวๆ 185 ซม. เหมือนกันทั้งคู่ รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว และหน้าตาดี แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันชัดเจนเลยก็คือดวงตา หมอกจะดวงตาเรียวคม ตาสองชั้นหลบใน ส่วนควันจะมีตาสองชั้นชัดเจน ที่หน้าจะมีรอยบากเล็กๆเนื่องจากว่าตอนเด็กวิ่งหกล้มจนหน้าเป็นแผลมาจนถึงตอนนี้ แถมยังเจาะที่หูด้านซ้ายอีก

คนที่ตามสองคนนี้มาตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างผม แค่เห็นด้านหลังผมก็รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่คนที่ตรึงสายตาของผมไว้อยู่หมัดไม่ใช่ควันที่สาวๆกรี๊ดในความแบด แต่เป็นหมอกที่เงียบๆนิ่งๆ มีรอยยิ้มที่อบอุ่นราวกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า และวันนี้ผมก็เข้าใกล้หมอกไปอีกขั้นแล้ว ถึงแม้ว่าหมอกจะจำไม่ได้ก็ตามว่าผมคือไอ้แว่นหน้าเฉิ่มดัดฟันที่อยู่ห้อง 2 ที่มองตามเขามาตั้งแต่ม.4 แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะในตอนนี้ความพยายามของผมสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว
 


คนที่ผมพยายามสอบเข้ามหา’ลัยแห่งนี้ทั้งๆที่ผมสอบติดมหา’ลัยอื่นแล้ว

คนที่ผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เผื่อว่าวันหนึ่งเขาจะหันมาเห็นผมบ้าง

คนที่ผมพยายามสมัครเป็นเดือนคณะ เผื่อว่าเขาจะได้รับเลือกให้เป็นเดือนคณะเช่นกัน

คนที่ผมพยายามทำทุกทางเพื่อไปอยู่ในวงโคจรของเขา




tbc.
เอ็นดูน้องบลูกันเยอะๆนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2018 13:53:18 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ติดตามค่ะ  o13

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้่ามาเป็นกำลังใจให้น้องบลูค่าาา :กอด1:

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ชอบมากค่ะ ฮือออ พยายามนะลูกกก

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ตามมมมมม สู้เขาน้องบลู

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 2
ยินดีที่ได้รู้จัก






“อยู่กองประกวดเป็นไงบ้างวะบลู”

เสียงว่านขัดขึ้นขณะที่ผมกำลังทำโจทย์แคลคูลัสอยู่ เงยหน้ามองหน้ามันที่ทำตาปริบๆ ดูอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

“ก็ดี ทำไมเหรอ”

“ดาวคณะไหนแซ่บสุด กูเห็นรูปของพรีม เภสัช แม่งอย่างน่ารัก ตัวจริงเหมือนในรูปเลยป่ะ” ว่านมันหางกระดิกไปมา ผมมองแล้วก็ส่ายหัวเบาๆอย่างเอือมระอา

“เหมือนเลย ตัวเล็กๆขาวๆ”

“โอ๊ยยยย อิจฉามึง ได้อยู่ในดงคนหน้าตาดี”

“แล้วกูไม่หน้าตาดีเหรอ” ผมถามขำๆ ไอ้ว่านกับผมเราสนิทกันมาตั้งแต่ม.1 จนตอนนี้ขึ้นปี 1 ผมกับมันก็ยังคงนั่งทำการบ้านอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เห็นผมมาตั้งแต่ตอนนั้นมันคงคิดว่าผมหล่อหรอก

“เอาจริงๆกูไม่คิดว่าระยะเวลาปิดเทอมช่วงสั้นๆมึงจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้จริงๆนะ พอถอดเหล็ก เลิกใส่แว่น ผมสั้นเกรียนยาวได้ทรงแล้วมึงก็หล่อสะบัดไม่แพ้เดือนคณะอื่นเลยแหละ”

“ขอบใจที่อุตส่าห์ชมกู” ผมพูดยิ้มๆ รู้หรอกว่ามันคงพูดเอาใจผม

“เห้ย กูพูดจริงๆ ตอนอยู่โรงเรียนต้องโทษแว่น ทรงผม แล้วก็เหล็กจัดฟันของมึงเลย บดบังความหล่อของเพื่อนกูหมด ฮ่าฮ่า”

ผมส่ายหน้าและเริ่มทำโจทย์ต่อ ต้องรีบปั่นการบ้านให้เสร็จก่อนเย็นนี้ ผมจะได้ทำกิจกรรมกับกองประกวดได้อย่างหายห่วง ส่วนว่านก็บ่นไปเรื่อยในขณะที่รอการบ้านของผมเพื่อเอาไปลอกต่อ ผมทำจนเสร็จและฝากให้ว่านเอาไปส่งให้ด้วย ก่อนจะผละออกมาและไปยังกองประกวด




ระหว่างทางก็มีคนมองๆมาที่ผมอยู่เรื่อยๆ ผมเลยเลือกที่จะเสียบหูฟังและนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆ เฟชบุ๊คของผมมีหลายคนแอดมามากขึ้นหลังจากที่เปิดตัวดาว-เดือน ผมกดรับทุกคนจนตอนนี้เพื่อนจะเต็มแล้ว ส่วนยอดติดตามก็ตามมาติดๆ ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าจะมีคนมากมายมองเห็นผมขนาดไหน ผมสนใจเพียงแค่คนๆเดียวเท่านั้น


ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะมองเห็นผมตอนไหน...


จนมาถึงอาคาร A ที่ใช้เป็นสถานที่ไว้สำหรับทำกิจกรรมของดาว-เดือน มหาวิทยาลัยในปีนี้ ผมเดินเข้าไปในอาคารอย่างคุ้นเคย ยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนก่อนจะเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนๆที่มาถึงก่อนแล้ว

“วันนี้มาช้าจังวะ”

เพลิงถามเมื่อผมนั่งลงด้านข้างเหมือนทุกวัน ผมหันไปมองเจ้าตัวที่ดูหงุดหงิดนิดหน่อย

“พึ่งปั่นงานเสร็จน่ะ ขอโทษที แล้วนี่ทำไมหน้าบูดงี้วะ”

“ทะเลาะกับแฟนนิดหน่อย” เพลิงบ่นอุบอิบ พวกเราไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพราะพี่เจตน์เรียกรวมพอดี

การทำกิจกรรมในวันนี้ก็ไม่ต่างจากทุกวันที่ผ่านมา แต่วันนี้กิจกรรมที่ทำนั้นเลทไปจนเกือบสี่ทุ่ม ทุกคนล้ากันหมดและในที่สุดพวกพี่ๆก็ยอมปล่อยให้พวกเรากลับ ผมที่ปกติจะกลับกับเพลิงทุกวันที่ทำกิจกรรม วันนี้ผมก็เดินตามเพลิงมาที่ลานจอดรถเช่นเดิม แต่แปลกไปที่วันนี้ไม่เห็น BMW สีดำของเพลิงจอดเหมือนทุกวัน

เพลิงเดินนำผมไปยังรถเบนซ์สีขาวคันสวยที่จอดติดเครื่องไว้อยู่ ผมเลยดึงแขนเสื้อเพลิงไว้ก่อน

“รถใครอ่ะ นี่ไม่ใช่รถมึงหนิ”

“รถไอ้หมอก วันนี้กูจะไปแฮงค์กับพวกมัน มึงก็ไปด้วยกันดิ”

คำว่าหมอกทำเอาใจผมหล่นวูบทันที ตั้งแต่วันนั้นที่เจอหมอก ผมก็ไม่ได้เจอกกับหมอกอีกจนผ่านมาถึงหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นไปนั่งบนรถของหมอกอย่างนั้นเหรอ

“เออ...เพื่อนมึงเขาอยากให้กูไปรึเปล่าล่ะ กูเกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก กูนี่แหละเป็นคนชวน พวกไอ้มาร์ชไอ้เจ๋งก็ไป แต่มันกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน มึงก็ไปด้วยกันเลยดิ”

“เออ แล้วทำไมมึงไม่เอารถมึงมาล่ะ หมอกเขายอมให้กูไปด้วยเหรอ”

“พ่อเอารถกูไปใช้อยู่ กูบอกมันแล้วว่ามึงจะมาด้วย มันโอเคแล้วหน่า ไปเหอะ” พูดจบก็เปิดประตูด้านหลังและยัดผมใส่ในรถทันทีก่อนที่เพลิงจะไปนั่งด้านหน้าข้างหมอก ผมเผลอนั่งตัวเกร็ง หลังตรงโดยอัตโนมัติทันที

หมอกหันมามองผมเล็กน้อย ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัว เสียงดนตรีสากลคลอเบาๆในรถทำให้ผมได้รู้แนวเพลงที่หมอกชอบ ตอนนี้ผมจำมันจนขึ้นใจเลยแหละ

“มึงกับเพื่อนมึงจะไม่ไปเปลี่ยนชุดใช่มั้ย” หมอกถามเมื่อรถขับออกมานอกมอแล้ว ผมนั่งเงียบรอให้เพลิงเป็นคนตอบ แต่เพลิงดันหันหน้ามาหาผมซะงั้น

“มึงอยากอาบน้ำก่อนป่ะบลู”

“เออ...ไม่อาบก็ได้ ไปที่ร้านเลยก็ได้”

ความจริงแล้วผมโคตรเหนียวตัวเลยแหละ วันนี้เต้นทั้งวันจนเหงื่อออกเต็มหลังไปหมด แต่ถ้าจะให้บอกว่าอยากอาบน้ำเต็มแก่ ผมก็เกรงใจหมอกที่กำลังขับรถอยู่น่ะสิ

“ถ้าอยากอาบน้ำก็บอกตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจ” เสียงนิ่งๆของหมอกพูดขึ้น ผมเผลอมองไปที่หมอกแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่

“เออ...”

“ไม่ต้องมาองมาเออ กูเห็นว่าวันนี้มึงเต้นทั้งวัน ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ...ไอ้หมอกไปคอนโดกูก่อน”

เพลิงตัดบทและตอบแทนผม ผมเลยได้แต่นั่งนิ่งๆ ส่วนหมอกก็หักพวงมาลัยไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางไปคอนโดของผมแทนที่จะเลี้ยวขวาไปทางร้านเหล้า

เมื่อมาถึงคอนโดพวกเราทั้งสามคนก็เดินเข้ามาพร้อมกัน ผมแยกกับหมอกและเพลิงมาที่ห้องของตัวเอง รีบอาบน้ำและเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว สวมคอนแทคเลนส์อีกครั้งแม้ว่าจะเริ่มระคายเคืองแล้ว ใช้เวลาไม่นานผมก็จัดการตัวเองเสร็จ เลยเดินไปเคาะห้องของเพลิงซึ่งอยู่อีกฝั่งของชั้น



ก๊อก ก๊อก ก๊อก



รออยู่เพียงอึดใจเดียว ประตูห้องก็เปิดออก แต่คนที่เปิดให้ไม่ใช่เจ้าของห้อง แต่เป็นหมอกที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“เข้ามาก่อนสิ”

หมอกว่าอย่างนั้นและหลบทางให้ผมเดินเข้ามา และเขาก็ปิดประตูลง ผมเดินเก้ๆกังๆเข้ามาในห้องและไม่พบเพลิง เลยเลือกที่จะนั่งลงบนโซฟา

“มันพึ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังแต่งตัวอยู่”

หมอกพูดอย่างนั้นก่อนจะนั่งลงข้างผมเพราะโซฟามีแค่ตัวเดียว ผมเลยต้องเขยิบจนติดโซฟาอีกฝั่ง

“ชื่อบลูใช่มั้ย”

หมอกเริ่มบทสนทนาเพราะคงเห็นว่าระหว่างเราเงียบใส่กันอยู่นานแล้ว ผมพยักหน้าแทนคำตอบ หมอกเลยถอนหายใจเบาๆ

“เป็นใบ้เหรอ”

“ฮะ?” ผมตกใจเมื่อหมอกถามประโยคนั้นออกมา ดวงตาเรียวที่มองมาที่ผมยังคงนิ่งสงบขัดกับคำพูดเมื่อครู่

“ฉันถามว่าเป็นใบ้เหรอ”

“ปะ...เปล่า...ทำไมถามงั้นล่ะ” ใจผมหล่นวูบไปกองอยู่แทบเท้า น้ำเสียงของหมอกติดจะหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ ผมเลยไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง

“ก็ไม่เห็นพูด ถามอะไรก็เอาแต่พยักหน้า ไม่ก็ทำท่าอ้ำๆอึ้งๆตลอด”

“ขอโทษ”

ผมก้มหน้าลงอย่างหงอยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงนี่นา ลองมาอยู่ใกล้คนที่ชอบมากๆอย่างนี้บ้างสิ จะหายใจยังรู้สึกตื่นเต้นเลย

“กูเสร็จล่ะ รอนานมั้ย”

เพลิงที่เข้ามาได้จังหวะพอดีทำให้ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองเพลิงที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ ส่วนหมอกนั้นใส่เชิ้ตสีดำสนิท ช่างเป็นความแตกต่างที่โคตรจะลงตัว ในขณะที่ผมนั้นใส่เสื้อยืดสกรีนลายเท่ห์ๆเท่านั้น

“มาได้จังหวะพอดีนะมึง ไปกันเถอะ”

หมอกพูดจบก็คว้ากุญแจรถบนโต๊ะกระจกก่อนจะเดินนำออกไป เพลิงทำหน้างงที่หมอกพูดอะไรแปลกๆ หันมามองผมเพื่อขอคำอธิบายแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินออกไปจากห้องบ้าง เพลิงเลยรีบปิดห้องและตามออกมา




พวกเรามาถึงที่ร้าน ‘เหล้าสู่กันฟัง’ ในเวลาต่อมา ร้านนี้เป็นร้านยอดนิยมอันดับต้นๆของเด็กมอเรา ผมพึ่งเคยมาครั้งแรกเพราะตั้งแต่เข้ามหา’ลัยมาก็ยุ่งกับการประกวดลากยาวจนมาถึงตอนนี้ ผมเดินตามเพลิงและหมอกเข้าไปที่โต๊ะด้านในซึ่งเป็นโซฟาที่มีกลุ่มผู้ชายนั่งกันอยู่ประมาณสี่คน เหลือโซฟาอีกฝั่งที่ยังว่าง พวกเราทั้งสามคนเลยนั่งเราโดยเพลิงนั่งคั่นระหว่างผมและหมอกเอาไว้

“มาแดกเหล้าต้องหล่อขนาดนี้เลยเปล่าครับคุณหมอก คุณเพลิง”

ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามพวกเราเอ่ยแซว แต่ว่าเขาก็หล่อไม่แพ้เพลิงกับหมอกเลยเหอะ โต๊ะนี้นี่มันรวมคนหน้าตาดีรึไงวะ

“มึงก็ไม่แพ้พวกกูหรอกไอ้มาร์ค ตกไปได้กี่คนแล้วล่ะ”

“2 คนเอง” มาร์คชูนิ้วขึ้นสองนิ้วก่อนจะยิ้มแฉ่ง ผมแอบทึ้งในใจเบาๆกับสกิลการตกผู้หญิงของเพื่อนกลุ่มนี้

“เออ กูลืมแนะนำ นี่บลู เพื่อนกูเอง ส่วนนี้มาร์ค” เพลิงแนะนำให้ผมกับมาร์ครู้จักกัน มาร์คยิ้มให้ผมก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นมา ผมเลยต้องยกแก้วของผมขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เดือนคณะวิทย์ใช่เปล่า เห็นไอ้เพลิงมันพูดมาก่อนหน้านั้น”

“ครับ”

“น่ารักกว่าที่คิดไว้อีก”

ผมแอบสำลักเบียร์ที่กำลังดื่ม เพลิงที่นั่งด้านข้างหัวเราะก่อนจะลูบหลังผมเบาๆ แอบเห็นมาร์คยิ้มขำก่อนจะดื่มเบียร์จนหมดแก้วและบอกขอโทษ

“โทษทีที่ทำเอาสำลักเบียร์เลย”

“ไม่เป็นไรครับ”

ผมไม่คิดอะไร และจิบเบียร์ช้าๆ นั่งอยู่สักพักมาร์ชและเจ๋งก็เดินเข้ามา ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดในดงผู้ชายนิติเท่าไรแล้ว

“อ้าวเฮ้ยไอ้เจ๋ง เป็นไงบ้างวะ ไม่ได้เจอกันนานเลย”

เมื่อเจ๋งนั่งลง มาร์คก็ยิ้มทักทายเหมือนรู้จักกันมานาน เจ๋งยิ้มให้ก่อนยกกำปั้นชกกับมาร์คเบาๆ พวกผมมองตาปริบๆ ก่อนที่เพลิงจะถามขึ้น

“พวกมึงรู้จักกันมาก่อนเหรอ”

“เออ จบจากโรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกันด้วย” มาร์คว่าอย่างนั้น พวกผมเลยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนที่เพลิงที่นั่งด้านข้างจะสะกิดผม ผมเลยหันไปทางเพลิง

“แล้วนี่พวกมึงรู้จักกันมาก่อนเหมือนไอ้มาร์คกับไอ้เจ๋งมั้ยอ่ะ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าพวกมึงจะจบจากโรงเรียนเดียวกันนี่”
 
“เออ...” ผมอ้ำอึ้งเมื่อเพลิงถามผมและหมอก ผมไม่รู้ว่าเขารู้จักผมรึเปล่า แต่ผมรู้จักเขา...รู้จักดีมากด้วย

หมอกที่นั่งนิ่งเงียบมาตั้งแต่แรก มองผมนิ่งๆ ในความมืดนั้น หมอกจะจำได้รึเปล่านะว่าผมเป็นเพื่อนห้อง 2 จู่ๆผมก็ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมอ่านสายตาของเขาไม่ออก ผมไม่รู้ว่าหมอกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่น้ำเสียงราบเรียบที่พูดขึ้นก็ทำให้หัวใจของผมเต้นช้าลงตามเดิม

“ไม่รู้ ไม่เคยเห็นหน้า จำไม่ได้”

“ก็ไม่แปลกหรอก โรงเรียนพวกมึงใหญ่ขนาดนั้น จำหน้าคนในห้องได้หมดก็ดีแค่ไหนแล้ว”

เพลิงพูดและยกแก้วเบียร์ขึ้นมาชนกับทั้งผมและหมอก ผมเลยนั่งจิบเบียร์เงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก แอบมองผ่านเพลิงไปก็เห็นว่าหมอกยังคงมองมาทางผมอยู่ ผมเลยรีบหันหน้ากลับมาทางเดิม โชคดีที่มาร์ชชวนผมคุยเรื่องการประกวด ผมเลยทำเป็นไม่สนใจหมอก และลืมความเสียใจไปชั่วคราวได้



เขาไม่รู้จักเรา แล้วจะเสียใจไปทำไมวะไอ้บลูเอ้ย



จนเวลาผ่านไปได้สักระยะ หลายคนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ยกเบียร์ขึ้นดื่มราวกับน้ำเปล่า ผมก็เริ่มมึนๆบ้างแล้วแต่สติยังคงครบ 100% มองดูมาร์คกับเจ๋งที่ยืนขึ้นเต้นไปตามเพลงอย่างสนุกสนาน ก่อนจะได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงที่ด้านหลังผมเลยหันไปมอง และพบว่าเพลิงกำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่

“โต๊ะตรงไหนนะ? อ่อ เดี๋ยวไปชน แล้วเจอกัน”

เพลิงบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนที่เธอจะเดินจากไป และหันมาคีบน้ำแข็งใส่แก้วตัวเอง เลยเห็นว่าผมกำลังมองอยู่ด้วยความสงสัย

“สวยป่ะล่ะ แคท เพื่อนกูเอง” เพลิงว่าอย่างนั้น

“ก็สวยดี” ผมพึมพำ และยกแก้วขึ้นจิบเบียร์

“ไปหาพวกเธอกับกูป่ะ ถ้าชอบเดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก” เพลิงเสนอให้ ผมเลยส่ายหน้าแทนคำตอบ

“ไม่เอาหรอก มึงไปเหอะ”

พอผมปฏิเสธ เพลิงเลยยกแก้วตัวเองและเดินออกไป ผมมองตามก่อนจะหันกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง โซฟาสีขาวนั้นเหลือเพียงแค่ผมกับหมอกเท่านั้น เว้นตรงกลางไว้ซึ่งเป็นที่ของเพลิง ผมแอบมองหมอกอีกครั้งก็เห็นหมอกเอาแต่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เงียบๆคนเดียว...อยากรู้จังว่ากำลังคุยกับใครอยู่

“ไอ้บลู เขยิบให้เจ๋งมันนั่งด้วยหน่อย มันแม่งไม่ไหวแล้วว่ะ”

เสียงของมาร์ชทำให้ผมหันไปมอง ก่อนจะรีบเขยิบไปทางด้านขวาเพื่อให้เจ๋งที่เริ่มทรงตัวไม่ได้นั่งลงและพิงพนักโซฟาหลับไปทันที ผมกับมาร์ชช่วยกันดูเจ๋งจนเห็นว่าเจ๋งไม่น่าจะไหวแล้ว เลยให้นอนอยู่อย่างนั้น พอเจ๋งสงบลงแล้ว พวกเราก็กลับมานั่งจิบเบียร์กันเช่นเดิม แต่คนที่ไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นผม



พึ่งนึกได้ว่าตอนนี้กำลังนั่งข้างหมอก...


แถมนั่งเบียดกันด้วย


โอ๊ยยยยย ผมจะร้องไห้ หัวใจจะวายแล้วววววว T_______T



หมอกหยุดเล่นโทรศัพท์และเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ผมที่พึ่งนึกได้ว่ากำลังนั่งเบียดหมอกอยู่ พยายามจะเขยิบออกห่างเพื่อไม่ให้หมอกอึดอัด แต่เจ๋งที่นอนอยู่เต็มพื้นที่ก็ทำให้ผมขยับตัวได้ยาก

ใจจริงก็ไม่ค่อยอยากเขยิบเท่าไร นั่งอยู่ตรงนี้แล้วก็ได้กลิ่นน้ำหอมของหมอกชัดเจน หอมมากจนผมนึกว่ากำลังฝันอยู่ T___T

“โทษทีนะที่เบียดพื้นที่นายขนาดนี้”

ผมพยายามเริ่มบทสนทนาโดยเอ่ยประโยคขอโทษก่อนเป็นอันดับแรก หมอกหันมามองผมด้วยสายตานิ่งๆ และก็ไม่ได้บ่นอะไร

“ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้อึดอัดมากนักหรอก” หมอกพูดอย่างนั้น ส่วนสมองผมก็ประมวลอย่างรวดเร็วว่าควรจะต่อบทสนทนาไปทางไหน

“แล้วก็ขอโทษด้วยนะ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยพูด เออ...บางทีเวลาอยู่กับคนแปลกหน้าเราก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไร”

ผมยิ้มให้หมอกก่อน หมอกยังคงจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมไม่รู้จะทำอย่างไร เลยหุบยิ้มลงก่อนจะหยิบแก้วเบียร์มาจิบแก้เก้อ

“นายก็อยู่โรงเรียน W งั้นเหรอ” หมอกถามผมขึ้น ผมหันไปมองก่อนจะพยักหน้าตอบ

“อืม เรียนมาตั้งแต่ม.1 แล้วล่ะ แต่นายคงไม่รู้จักฉันหรอก”

“ก็โรงเรียนใหญ่ซะขนาดนั้น” หมอกพึมพำ ก่อนจะยกแก้วเบียร์มาทางผม “ยังไงก็รู้จักกันแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก”

ผมมองแก้วเบียร์ตรงหน้าอย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่าหมอกจะเป็นคนเอ่ยประโยคนี้ ผมยกแก้วเบียร์ขึ้นชนกับหมอกเบาๆ แล้วพวกเราก็ดื่มเบียร์ในแก้วจนหมด ผมสะบัดหัวเบาๆไล่ความมึนที่ค่อยๆเพิ่มตามปริมาณเบียร์ที่ดื่มเข้าไป แอบเห็นหมอกอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยปากถาม

“แค่นี้ก็เมาแล้วเหรอ”

“ไม่ได้เมาสักหน่อย แค่มึนๆ”

“งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว เดี๋ยวเมามาแล้วไปอ้วกใส่รถ” หมอกดึงแก้วที่อยู่ในมือผมลง เป็นอีกครั้งที่ผมตกใจ เฮ้ยยย คราวนี้มือเราสัมผัสกันด้วย โอ๊ยยยย หัวใจผมเต้นผิดจังหวะไปกี่รอบแล้วเนี่ย

“อ่าว แล้วเป็นอะไร ทำไมนิ่งอีกแล้ว” หมอกมองผมด้วยสายตาสงสัย ผมรีบควานหาเสียงก่อนจะโดนหมอกด่าอีก

“เปล่าๆ ไม่ได้เป็นอะไร...แล้วนี่เพลิงไปไหนแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาอีก”

ผมหันไปมองทางที่เพลิงเดินไป นี่ก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เพลิงหายไปและยังไม่กลับมา

“มันไม่กลับมาแล้วล่ะ บอกจะไปต่ออีกร้านกับเพื่อน”

หมอกโชว์ห้องแชทที่พึ่งคุยกับเพลิงเมื่อครู่ให้ผมดู ผมเผลออ้าปากค้างด้วยความตกใจ เห้ยยย ไอ้เพลิงทำไมมึงกล้าทิ้งกูอย่างนี้



Plerng : กูไปต่อกับแคทนะมึง

Foggy : อ่าว มึงทิ้งกู?

Plerng : เออ ฝากไปส่งบลูด้วย



“หมอกจะไปส่งเรางั้นเหรอ”

ผมถามอย่างไม่แน่ใจ เพลิงฝากให้ไปส่ง แต่ถ้าหมอกไม่ไปส่ง ผมคงกลับกับมาร์ชและเจ๋งก็ได้ ไม่ได้หวังหรอกว่าหมอกจะไปส่งคนอย่างผม

“เดี๋ยวไปส่ง ไม่ต้องกลัวว่าจะทิ้งให้เดินกลับหรอก”

หมอกว่าอย่างนั้นผมก็เบาใจ พวกเรานั่งกันต่ออีกสักพักร้านก็ปิด ผมและมาร์ชช่วยกันพยุงเจ๋งออกจากร้าน ส่วนหมอกก็หิ้วมาร์คตามมาติดๆ จนเมื่อผมจับเจ๋งยัดเข้าไปในรถของมาร์ชได้สำเร็จก็หันมาดูหมอกที่กำลังหิ้วปีกมาร์คไว้อยู่

“มึงจะกลับกับหมอกใช่มั้ย” มาร์ชถามเพื่อความแน่ใจ

“อืม”

“โอเค งั้นกูไปส่งไอ้เจ๋งก่อนล่ะ”

“ขับกลับดีๆล่ะ”

ผมยืนส่งจนมาร์ชขับรถออกไปแล้ว เลยหันมาช่วยหมอกที่หิ้วปีกมาร์คไว้

“เดี๋ยวไปส่งไอ้มาร์คก่อนแล้วกัน ไปเปิดประตูรถให้หน่อย” หมอกว่า และส่งกุญแจรถให้ผม ผมรีบไปเปิดและดันมาร์คให้นอนเหยียดที่เบาะด้านหลัง เมื่อจัดการกับคนเมาเสร็จผมก็ยื่นกุญแจคืนให้หมอก

“หนักเป็นบ้า” หมอกพึมพำ

จากนั้นผมก็ย้ายมานั่งด้านหน้าข้างคนขับ หมอกขับรถจนมาถึงคอนโดที่น่าจะเป็นของมาร์ค ผมช่วยหมอกพยุงมาร์คจนมาถึงห้อง พาคนเมาขึ้นเตียงนอนเสร็จ ก็ต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยกันทั้งคู่

“กินเหล้าทีไร ฉันก็ต้องเป็นคนเก็บศพทุกที”

“นายคงจะคอแข็งที่สุดในกลุ่มล่ะสิ” ผมถามแหย่ๆ

“ก็มีฉันกับไอ้เพลิง แต่คราวนี้มันชิ่งหนีก่อน ถ้าไม่ได้นาย ก็คงทิ้งมันไว้ที่ร้านนั้นแหละ” หมอกมองมาร์คที่นอนหลับอยู่ก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ลวกๆก่อนจะหันมาทางผม

“เรากลับกันเถอะ”

“อืม”

ผมรับคำและเดินตามหมอกมาจนถึงรถ ขับออกมาจากคอนโดของมาร์คและมาถึงคอนโดของผมในเวลาต่อมา รถของหมอกจอดลงเทียบฟุตบาท ผมที่เตรียมจะลงจากรถลังเลใจอยู่สักพัก แอบหันมองเจ้าของรถที่ก็มองมาที่ผมอยู่แล้ว

“มีอะไรรึเปล่า” หมอกถามผมที่ยังไม่ยอมปลดเบลท์สักที

“เออ...ไหนๆเราก็เป็นเพื่อนกันแล้วใช่มั้ย”

“...”


“ขอเฟสหน่อยได้เปล่า”


ผมยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กับหมอก ไม่รู้หรอกว่าหมอกจะตอบยังไง รู้แต่ว่าเฟสบุ๊คของหมอกเป็นอะไรที่แรร์ไอเท็มมาก คนที่หล่อขนาดนี้ มีคนชอบมากขนาดนี้ ทุกเพจคิ้วท์บอยในประเทศไทยต้องมีรูปของหมอกและควัน แต่เฟสบุ๊คของหมอกกลับมีเพื่อนอยู่เพียงพันกว่าคน ไม่รับคนที่ไม่รู้จัก โพสต์อะไรก็ไม่เคยแชร์ให้เห็นแบบสาธารณะ ถึงคนติดตามเป็นหมื่นๆก็ไม่เคยเห็นอะไร



แล้วผมเป็นใครเนี่ย จู่ๆมาขอแอดเฟสบุ๊คหมอกอย่างนี้ ._.



“เอามาสิ”

หมอกว่าอย่างนั้น ผมนึกว่าหูฟาด เงยหน้ามองหมอกที่หยิบโทรศัพท์ผมไปพิมพ์ชื่อเฟสของหมอกและกดเพิ่มเพื่อนให้ด้วย ก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้ผม

“เดี๋ยวถึงห้องแล้วจะรับแอดนะ”

หมอกว่าอย่างนั้น ผมยังตกใจไม่หาย แต่ก็ลงมาจากรถอย่างงงๆ เดินเข้ามาในคอนโดอย่างเลื่อนลอย และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วหัวใจก็เต้นแรงอีกรอบ




Kavi Worakul รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว เขียนบนไทม์ไลน์ของ Kavi




ไหนบอกว่าถึงห้องแล้วจะรับแอดไง นี่พึ่งออกมาจากรถก็รับแล้ว คนโกหกเอ๊ย T___T




tbc.

ตอนที่ 2 มาแล้วค่ะ เป็นกำลังให้ทั้งเราและน้องบลูกันต่อไปนะคะ
พูดคุยเม้าท์มอยหอยสังข์หอยกาบกันได้ที่

twitter : @Dearbliss
Fanpage : Dear bliss

ติด #ม่านหมอกสีฟ้า กันได้นะคะ เราอยากตามไปส่อง

ปล.
หมอก - กวี วรกุล
ควัน - กวิน วรกุล




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2018 10:22:57 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณหมอกก็นิ่งซะ แอบสนใจน้องบลูบ้างมั้ยน้อ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อื้อหืออ เดาใจหมอกไม่ถูกเลย นิ่งเกินไปนะลูกนะ

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามค่าาาาารอตอนต่อไปเลยยย :hao7:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
หมอกยังไม่มีปฏิกิริยา รอต่อไปปปปปปปปปป :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 3
ไม่ทันได้เตรียมใจ



Foggy & Smoky : มีข่าวมาอัพเดทยามตี 1 ค่ะทุกค๊นนนนนนนนนนนนน  มีใครเห็นความเคลื่อนไหวในเฟสบุ๊คของหมอกกันบ้างคะ ถึงแอดจะพยายามกดขอเป็นเพื่อนหมอกมานานแค่ไหนแต่แอดก็ไม่สามารถเข้าไปเผือกในเฟสบุ๊คของหมอกได้สักที แต่วันนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงค่ะทุกคน เพื่อนในเฟสบุ๊คของหมอกจากตอนแรกมี 1,060 คน ตอนนี้มันขยับเป็น 1,061 คนแล้วค่ะ!! และจากที่แอดตามเผือกไปพร้อมๆกับลูกเพจที่อินบ็อกซ์มาเม้าท์มอย ได้ความมาว่าเพื่อนใหม่ของหมอกเป็นหนุ่มบลู เดือนคณะวิทย์ปีนี้แหละค่ะทุกคน ไม่รู้ว่าเขาไปรู้จักกันได้ยังไง แต่วันนี้แอดประสบความสำเร็จในการเผือกแล้วค่ะ คืนนี้ขอให้หลับฝันดี หมอกและควันมาเข้าฝันกันถ้วนหน้า กู๊ดไนท์ค่า~~~



ผมนอนมองหน้าเฟสบุ๊คที่จ้องมาแล้วเป็นชั่วโมง หลังจากที่หมอกรับแอดแล้ว จากที่ง่วงและมึนจากฤทธิ์น้ำเมาที่ดื่มเข้าไป กลายเป็นว่าตาสว่างจนถึงตี 3 ไม่ได้สนเลยว่าพรุ่งนี้มีเรียนตั้งแต่เช้า มือยังคงเลื่อนขึ้นเลื่อนลงดูสเตตัสของหมอกอยู่ และก็อดใจไม่ได้ที่จะกดถูกใจรัวๆ ฮือออ มือมันไปเองครับ T__T


หลังจากที่กระหน่ำรัวไลค์ไปแล้ว จุดเขียวๆก็ปรากฏขึ้นที่ชื่อเฟสบุ๊คของหมอก แล้วข้อความแชทผมก็เด้งขึ้นมา ทำหัวใจผมกระตุกอีกแล้ว


Kavi Worakul : ยังไม่นอนอีก

แงงงงงงงง ผมไปรัวไลค์ให้เขารำคาญรึเปล่าเนี่ย

Punnawit thanawatchai : เราไปไลค์ให้รำคาญรึเปล่า

Punnawit thanawatchai : ขอโทษ

Kavi Worakul : ทำไมชอบขอโทษจัง ไม่ได้รำคาญสักหน่อย

Kavi Worakul : เห็นว่าตีสามแล้ว ยังมากดไลค์เฟสเรา พรุ่งนี้ไม่มีเรียนเช้ารึไง

Punnawit thanawatchai : ก็มีอยู่ เรียนแปดโมงเช้าด้วย

Kavi Worakul : งั้นก็ไปนอนได้แล้ว วางโทรศัพท์แล้วนอนเลย

Punnawit thanawatchai : อ่า...ไปนอนก็ได้ ฝันดีนะ

Kavi Worakul : ฝันดี


หน้าผมแดงไปหมดแล้ว นั่งจ้องคำว่า ‘ฝันดี’ ที่หมอกส่งมาให้แล้วก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างมีความสุข ถึงพรุ่งนี้จะมีเรียนตอนแปดโมงเช้า ผมก็มั่นใจว่าผมจะต้องสดชื่นแน่นอน

ก็ได้รับพลังงานบวกขนาดนี้อ่ะนะ~





.
..
...





“หน้าตามึงดูมีความสุขจังนะเชี่ยบลู กินยาผิดขวดรึไง”

ว่านทักผมขึ้นหลังจากที่เราเรียนวิชาไบโอเสร็จ ผมหันมามองมัน ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรแต่ยิ้มให้เพื่อนสนิทอย่างน่าหมั่นไส้

“ไม่ได้กินยาผิดขวด คนมีความสุขมันผิดตรงไหนวะ”

“ก็ไม่ได้ผิด แต่มึงเลิกยิ้มสักที กูกลัวคนอื่นจะมองว่ามึงเป็นบ้า” ว่านบอกก่อนจะชี้ให้ผมดู ผมเลยมองตามไปก็เห็นผู้หญิงหลายคนมองมาที่ผมแล้วก็ยิ้มเขินๆกัน

“มองว่ากูเป็นบ้ายังไงวะ เห็นแต่คนเขินกู”

“จ้า พ่อคนหล่อ หล่อระดับเดือนคณะ” ว่านมันทำหน้าหมั่นไส้ ผมเลยหัวเราะไปที และพวกเราก็รีบวิ่งเข้าคลาสแคลคูลัสกันต่อ เมื่อเห็นว่าอาจารย์เดินเข้าห้องแล้ว






จนเวลาวนกลับมาถึงตอนเย็นอีกครั้ง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคิดได้ว่าต้องไปที่กองประกวดอีกแล้ว เรียนเหนื่อยๆมาทั้งวัน อยากกลับไปนอนเล่นที่ห้องเหมือนเพื่อนคนอื่นบ้าง แต่เพราะมีตำแหน่งเดือนคณะวิทยาศาสตร์อยู่ เลยได้แต่มองพวกไอ้ว่านที่กระโดดขึ้นรถขับออกไปจากคณะแล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาเพราะกว่าจะถึงเวลานัดของกองประกวดก็อีกสองชั่วโมง นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนคณะไปพลางๆขณะเลื่อนหน้าฟีดในเฟสบุ๊คดูไปด้วย และอัพสเตตัสความรู้สึกในตอนนี้


Punnawit thanawatchai
Just now


เหนื่อยจัง อยากกลับไปนอนนนนนนนนนนนน


ยอดไลค์ค่อยๆเพิ่มขึ้นพร้อมกับคอมเมนต์ของทั้งเพื่อนและคนที่ผมไม่รู้จัก ผมไม่ได้สนใจและก้มหน้าลง เอาหน้าแนบกับโต๊ะ พร้อมกับหลับตาลง กะจะงีบเอาแรงสักหน่อย

ติ้ง~

เสียงข้อความแชทดังขึ้น ผมเลยเงยหน้าขึ้นมองโทรศัพท์ว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

Kavi Worakul : ง่วงก็ไปนอนสิ

Punnawit thanawatchai : นอนไม่ได้ ต้องรอไปกองประกวด

หมอกทักผมมาอีกแล้ว ผมรีบตอบแล้วเข้าไปดูสเตตัสที่ผมพึ่งอัพไปทันที คนกดไลค์ไปร้อยกว่าคน คอมเมนต์อีกสามสิบ ผมรีบไล่ดูอย่างรวดเร็ว ไม่เห็นว่าหมอกจะมาคอมเมนต์หรือไลค์เลย แต่หมอกกลับทักแชทส่วนตัวมาหาผมซะอย่างนั้น

Kavi Worakul : ไปกองประกวดตอนไหนล่ะ

Punnawit thanawatchai : ไปตอนหกโมงเย็น เราไม่มีรถกลับคอนโด เลยนั่งรอที่คณะดีกว่า

Kavi Worakul : อีกสองชั่วโมงเลยกว่าจะถึงเวลานัด ไปกินขนมก่อนมั้ย

Kavi Worakul : เดี๋ยวพาไป




เดี๋ยวพาไป เดี๋ยวพาไป เดี๋ยวพาไป


หมอกจะพาผมไปกินขนมงั้นเหรอ เห้ยยยย ผมตาฝาดรึเปล่าเนี่ยยยยย T______T




Punnawit thanawatchai : จะพาไปกินขนมเหรอ ไม่ได้โกหกใช่มั้ย

Kavi Worakul : เราดูเหมือนคนโกหกมากรึไง ไปรึเปล่า จะได้ไปรับ

Punnawit thanawatchai : ไปสิ รออยู่ที่ใต้ถุนคณะวิทย์นะ



ใครปฏิเสธก็บ้าแล้วครับ หมอกส่งสติกเกอร์กลับมา ผมเลยวางโทรศัพท์ลงแล้วได้แต่ยกมือกุมหัวใจตัวเองที่มันเต้นแรงจนผมรู้สึกได้ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งคนที่ผมชอบมากๆจะเข้ามาในวงโคจรของผมได้ แค่พยายามทำตัวเองให้เข้าไปอยู่ในวงโคจรของเขาได้ผมก็พอใจแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเหนือกว่าสิ่งที่ผมคิดไว้มาก


นั่งรออยู่ไม่ถึง 15 นาที รถเบนซ์สีขาวคันเดิมก็มาจอดอยู่ที่หน้าใต้ถุนตึกคณะ ผมเก็บชีทเรียนที่เอามาอ่านรอฆ่าเวลาใส่กระเป๋า เดินไปถึงหน้ารถ หมอกก็ปลดล็อกรถให้ ผมเลยถือวิสาสะเปิดเข้าไปนั่งด้านหน้าซะเลย

“รอนานรึเปล่า” หมอกถามเมื่อผมเข้ามานั่งในรถแล้ว ผมรีบส่ายหน้าทันที

“ไม่นานเลย พึ่งเรียนเสร็จเหรอ”

ผมมองคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาสีขาว ผมที่ปรกลงมาเกือบถึงตาไม่ได้เซ็ตแต่ทำเอาใจสั่นแปลกๆ เครื่องหน้าที่หล่อเหลารับกับทุกอย่างบนตัวหมอกในตอนนี้ นี่มันมนุษย์หรือเทวดาวะ ผมอิจฉาความหล่อแบบร้ายกาจของเขาจริงๆนะครับ

“พึ่งเรียนเสร็จ อยากหาอะไรกินพอดีเลยชวนไปด้วยกัน”

“แค่เราสองคนเหรอ?” ผมถามด้วยความสงสัย ตอนแรกเข้าใจว่าเพลิงจะมาด้วย แต่ผิดคาดที่มีหมอกเพียงคนเดียว

“ใช่ ทำไมเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

ผมรีบบอก หมอกเลยไม่ได้พูดอะไรอีก รถยนต์คันหรูขับออกจากคณะวิทยาศาสตร์ช้าๆ จนเมื่อมาถึงที่ร้าน Chill ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่มีคนมากประมาณหนึ่ง พวกเราเดินเข้ามาในร้าน กลิ่นคั่วกาแฟหอมอบอวล พร้อมกับเสียงเพลงดังคลอเบาๆ หมอกพาผมไปที่หน้าเค้าท์เตอร์เพื่อสั่งเมนู แอบเห็นหลายคนในร้านที่เริ่มมองมาที่เราก็รู้สึกเกร็งแปลกๆ แต่ผมก็ทำเป็นมองไม่เห็นเหมือนกับหมอกที่ไม่สะทกสะท้านต่อสายตาใดๆที่มองมาทั้งสิ้น

“อเมริกาโน่แก้วนึงครับ แล้วก็ช็อคโกแลตลาวา” หมอกสั่งเมนูของหมอกเสร็จก็ยื่นเมนูให้ผมรับไปดู ผมที่ไม่ค่อยชอบกินกาแฟเท่าไรเลยหาอะไรที่พอกินได้แทน

“เออ...เอาบลูเบอร์รี่สมูตตี้ครับ”

“อย่างเดียวนะคะ” พนักงานทวนเมนูผม

“ครับ”

“ไม่สั่งของหวานด้วยล่ะ” หมอกถาม ผมลังเลสักพัก ก็เลยเลือกเค้กที่อยู่ในตู้โชว์ไปหนึ่งชิ้น

“เป็นอเมริกาโน่ 1 แก้ว บลูเบอร์รี่สมูตตี้ 1 แก้ว ช็อคโกแลตลาวา 1 ชิ้น กับเค้กส้ม 1 ชิ้นนะคะ ทั้งหมด 270 บาทค่ะ”

ผมควักกระเป๋าเงินออกมาเตรียมจ่ายในส่วนของผม แต่ก็แพ้หมอกที่ยื่นธนบัตรสีเทาให้พนักงานทันที เธอทอนเงินให้หมอกก่อนที่เราจะไปนั่งที่โต๊ะว่างมุมด้านในสุดของร้าน

“นี่ส่วนของเรา” ผมยื่นเงินค่าน้ำกับเค้กของผมให้หมอก แต่หมอกกลับไม่สนใจเงินของผม

“ไม่ต้องจ่ายหรอก ฉันเลี้ยงเอง”

“เห้ยยย ไม่ได้หรอก เอาเงินไปเถอะ เกรงใจ” ผมยังดึงดันที่จะจ่าย หมอกมองผมแล้วก็ยกยิ้มที่มุมปากเล็กๆ


ยิ้มทำไมอ่ะ เขินนะเว้ย


“ไม่ต้องจ่ายหรอก ครั้งหน้าค่อยเลี้ยงฉันคืน”

พอหมอกพูดอย่างนั้นก็ห้ามให้หัวใจเต้นเร็วอีกครั้งไม่ได้ หมายความว่าผมกับหมอกอาจจะไปกินขนมด้วยกันอย่างนี้อีกงั้นเหรอ คิดได้ดังนั้นผมก็เลยเก็บเงินเข้ากระเป๋า พึมพำเสียงเบา

“เอางั้นก็ได้”

ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของหมอก พร้อมกับขนมเค้กและน้ำที่เราสั่งมาพอดี เมื่อของทุกอย่างมาถึง ผมก็ตาลุกวาว หยิบซ้อมขึ้นมาเตรียมจิ้มเค้กส้มของผมทันที

“ดูน่าอร่อยจัง” หมอกพูดขึ้นเมื่อผมจิ้มเค้กส้มเข้าปาก รู้สึกว่ามันนุ่มละลายในปากจนเหมือนจะขึ้นสวรรค์ให้ได้ ผมเลยเลื่อนจานเค้กไปตรงหน้าหมอก

“ลองชิมดูสิ อร่อยสุดๆ”

“งั้นลองชิมหน่อยแล้วก่อน” ผมมองหมอกที่ตักเค้กเข้าปาก ลุ้นว่าจะถูกปากหมอกเหมือนผมรึเปล่า และใบหน้าหล่อนั้นก็ผ่อนคลายลงก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“อร่อยใช้ได้เลย...ลองช็อคโกแลตลาวาสิ ของขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ” หมอกแบ่งเค้กมาให้บ้างทั้งๆที่หมอกก็ยังไม่ได้แตะ

“หมอกกินก่อนดิ ให้เจ้าของเค้กเปิดก่อน”

“เอางั้นก็ได้”

หมอกพูดจบก็จิ้มลงไปที่เนื้อเค้ก ไส้ลาวาค่อยๆไหลเยิ้มออกมา ผมมองหมอกที่กินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย แล้วเนื้อช็อตโกแลตก็เลอะที่มุมปาก ผมเลยส่งทิชชู่ให้คนที่กำลังเคี้ยวขนมเค้กอยู่

“ช็อตโกแลตเลอะปาก เช็ดสิ” ผมถือทิชชู่ค้างไว้ แต่หมอกก็ไม่ยอมรับทิชชู่ที่ผมส่งให้ เคี้ยวเค้กจนหมด คนตรงหน้าก็พูดประโยคที่ทำเอาหัวใจผมจะวายอีกรอบ

“เช็ดให้หน่อย”

ผมเบิกตากว้าง หมอกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกนิด แต่ไม่ยอมรับกระดาษทิชชู่ของผม ผมเลยไม่มีทางเลือกนอกจากจะค่อยๆเช็ดที่มุมปากของหมอก เมื่อเช็ดจนไม่เหลือคราบช็อคโกแลตแล้ว หมอกก็กลับไปนั่งที่เดิม



ส่วนคนที่ไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นผม


หน้าร้อนไปหมดแล้ววววววววววววววววววววววว



กินเสร็จ มองนาฬิกาก็พบว่าเหลืออีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดของกองประกวด เราทั้งคู่ออกจากร้านขนมด้วยกัน และหมอกก็ไปส่งผมที่อาคาร A เมื่อมาถึงแล้วผมก็ปลดเบลท์เตรียมจะลงจากรถ แต่เสียงทุ้มหนาก็ทำให้ผมหันกลับไปมองอีกคนก่อน

“เลิกกี่โมง”

“น่าจะประมาณ 3 ทุ่ม ถ้าไม่เลทอ่ะนะ ทำไมเหรอ”

“เดี๋ยวมารับ” หมอกพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ผมกลับไม่นิ่งตาม มือไม้รีบยกไปยกมารีบปฏิเสธ

“เห้ยๆๆ ไม่ต้อง เดี๋ยวกลับพร้อมเพลิงก็ได้ เกรงใจ”

“เดี๋ยวมารับ ลงไปได้แล้ว”

พอหมอกยืนยันอีกครั้ง ผมเลยหุบปากฉับ ลงจากรถและยืนรอจนกระทั่งหมอกขับออกไปแล้ว ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม กุมหัวใจดวงเดิมที่ยังเต้นแรงไม่หยุด บอกผมทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ผมไม่ได้กำลังฝันไป




.
..
...





“ตั้งใจซ้อมกันหน่อยน๊า พี่รู้ว่าทุกคนเหนื่อยแต่ว่างานก็ใกล้เข้ามาแล้วนะจ๊ะ”

เสียงของพี่เจตน์ที่เดินให้กำลังใจพวกเรา วันนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนทุกวัน เล่นเกม ทำกิจกรรม และซ้อมเดินแบบ ซ้อมเต้นกันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้ว

“ปวดขาไม่ไหวแล้วโว๊ย”

เพลิงบ่นอุบอิบ ผมหันไปมองมันที่ทรุดนั่งลงบนพื้นทันทีที่เสียงเพลงจบ เลยไปกดน้ำเย็นมาสองแก้วให้มันและผม เดินกลับมาและยื่นน้ำเย็นไปตรงหน้าเพลิง

“ขอบคุณ”

ว่าแล้วก็ดื่มน้ำจนหมดแก้ว ก่อนจะสะบัดเสื้อนักศึกษาที่มีเหงื่อออกเต็มหลัง ท่าทางมันคงจะเหนื่อยมากจริงๆ

“อดเอามึง เหลืออีกแค่ 3 สัปดาห์จะเป็นไทแล้ว”

ผมพูดอย่างให้กำลังใจ เพลิงบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนที่มือใหญ่จะวางแปะลงที่หัวของผมและขยี้เบาๆ แต่นั่นก็ทำเอาทรงผมของผมมันเสียทรงหมด

“อย่าทำดิวะ กว่าจะเซ็ทให้หล่อได้ขนาดนี้”

“หึ หล่อได้แค่นี้น่ะเหรอ”

“เออ!”

ผมเบิกตาโตใส่ไอ้คนขี้แกล้ง เพลิงยิ้มขำออกมา แล้วหนิงกับพลอย ดาวคณะบริหารและคณะเกษตรฯ ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็ทำท่าดีดๆดิ้นๆพร้อมใบหน้าฟินๆของพวกเธอ ไม่คิดว่าในกองประกวดจะมีสาววายหลบซ่อนตัวกันมากขนาดนี้

ตั้งแต่เราเริ่มทำกิจกรรมวันแรกและผมสนิทกับเพลิงที่สุดทำให้พวกเธอแอบจิ้นผมกับเพลิงก่อนมันจะลามไปทั้งกองประกวด ส่วนไอ้เพลิงพอรู้กระแสของเรามันก็ยิ่งเอาใหญ่ เดี๋ยวจับแขน เดี๋ยวกอดแขน เดี๋ยวมานอนที่ตัก แล้วทุกวันที่ทำกิจกรรมผมและมันก็กลับพร้อมกันตลอดเลยกลายเป็นว่าหลังๆมานี้กระแสของผมกับเพลิงมันยิ่งจะแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากเลยตามเลยไปกับมันอ่ะ

“วันนี้ก่อนกลับพากูไปหาไรกินก่อนนอนด้วยนะ”

เสียงของเพลิงเรียกสติของผมกลับมา ผมหันมองเพลิงและนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีคนมารับแล้ว เลยรีบบอกเพลิง

“วันนี้กูไม่กลับด้วยนะ”

“อ่าว แล้วจะกลับยังไง” เพลิงทำหน้าสงสัย

“เดี๋ยวมีคนมารับ มึงกลับเลย”

“งั้นเหรอ ว่าจะชวนไปกินบะหมี่เกี๊ยวสักหน่อย ไปกินคนเดียวก็ได้” เพลิงว่าอย่างนั้น ผมได้แต่ยิ้ม และพวกเราก็เริ่มซ้อมเต้นกันต่ออีก





ผมมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แปะอยู่ที่ฝาผนัง บอกหมอกไว้ว่าสามทุ่มถึงจะเลิก แต่นี่มันสามทุ่มครึ่งแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะเลิกง่ายๆเลย โทรศัพท์ของผมก็ถูกยึดไว้กับพี่ปูเป้เลยไม่สามารถเอามาเล่นได้ ไม่รู้ว่าหมอกจะมารอรึยัง หรือว่ามารอจนกลับไปแล้วผมก็ไม่รู้

“วันนี้เลิกเลทหน่อยน๊า แต่ไม่เกินสี่ทุ่มแน่นอน ซ้อมอีกรอบหนึ่งก่อน รอบสุดท้ายของวันนี้แล้ว”

พี่เจตน์พูดให้กำลังใจพวกเรา ไม่ใช่แค่ผมที่เหนื่อย แต่ทุกคนในห้องก็เหนื่อยล้ากันหมดแล้ว หน้าทุกคนอิดโรยเพราะต้องซ้อมกันอย่างหนักหน่วง เสียงบ่นงึมงำดังให้ผมได้ยินอยู่เรื่อยๆ แต่แล้วเสียงบ่นก็กลายเป็นเสียงกรี๊ดเบาๆที่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองที่มาของเสียงกรี๊ดนั้น

“แอร๊ยยยยยยย สวัสดีค่าน้องหมอกกก เอ๊ะ! หรือน้องควัน?”

พี่เจตน์แทบจะทำไมค์ตกลงบนพื้นเมื่อประตูห้องประชุมถูกเปิดออกเบาๆ ผมมองคนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษา กวาดสายตามองรอบๆก่อนที่สายตาของเขาจะล็อกที่ผม...

“หมอกครับ”

“อ่อออ น้องหมอกกก มาหาใครจ๊ะ มาหาน้องเพลิงรึเปล่า” พี่เจตน์ยังชวนคุยต่อ

“มารอรับเพื่อนกลับครับ”

“อ่อ มารอรับเพื่อนนนนน งั้นน้องหมอกนั่งรอก่อนนะจ๊ะ เอ้า! ใครว่างก็หาน้ำหาท่ามาเสิร์ฟน้องหมอกกันหน่อย ส่วนดาว-เดือนทั้งหลาย อย่าพึ่งตกตะลึงกับความหล่อของน้องหมอกค่า รีบซ้อมกัน ไม่งั้นวันนี้พี่จะปล่อยกลับห้าทุ่มนะคะ”

พอพี่เจตน์พูดอย่างนั้น ทุกคนก็รีบลุกขึ้นยืนไร้เสียงโอดครวญทันที รีบๆซ้อม จะได้กลับไปพักสักที เหนื่อยจนร่างจะพังอยู่แล้ว ซ้อมเต้นรอบสุดท้ายเสร็จในที่สุดพวกเราก็เป็นอิสระ พี่เจตน์ปล่อยพวกเราแล้ว ผมรีบวิ่งไปขอกระเป๋าคืนจากพี่ปูเป้และเดินมาทางหมอกซึ่งยืนคุยอยู่กับเพลิงอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง

“นี่อ่ะหรอ คนที่มารับกลับอ่ะ”

เพลิงทำหน้าล้อๆตอนที่ผมเดินมาถึง และเราทั้งสามคนก็เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยกัน ผมไม่รู้จะตอบเพลิงยังไง เลยหันมองหมอกอย่างขอความช่วยเหลือ แต่หมอกก็ยังคงเงียบ ไม่พูดอะไรเลยว้อย

“เออ จะไปกินบะหมี่ไม่ใช่รึไง รีบไปเลยไป” ผมพูดก่อนแสร้งตีหน้ายุ่งที่ยังเห็นเพลิงล้อไม่หยุด

“พอมีคนมารับแล้วถึงกับไล่กูเลยอ่ะ เออๆ ไปแล้ว” พูดจบเพลิงก็เดินแยกออกไปอีกทางทันที ทั้งทางเดินเลยเหลือแต่ผมและหมอก นั้นแหละคนตัวสูงเลยเริ่มปริปากพูดแล้ว

“ซ้อมเหนื่อยรึเปล่า”

“เหนื่อยสิ อยากกลับไปอาบน้ำเย็นๆแล้วก็นอนสักที”

ผมว่าและเดินตามหมอกมาถึงรถ เข้าไปนั่งด้านในอย่างเคยและหมอกก็ค่อยๆเคลื่อนรถออกจากลานจอดรถ ใช้เวลาเดินทางมาถึงคอนโดของผมไม่ถึง 15 นาที เมื่อมาถึงผมก็ปลดเบลท์ก่อนจะบอกขอบคุณสารถีในวันนี้

“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ ทั้งค่าขนมและที่มาส่งถึงที่นี่”

“อืม กลับไปก็รีบนอนล่ะ ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าหมดแล้ว”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมเผลอจับรอบดวงตาตัวเอง ใจเสียไปหมดแล้ว นี่ผมตาคล้ำขนาดนั้นเลยรึไง

“ล้อเล่นหน่า ไปได้แล้ว”

พูดจบก็เอามือมายีผมของผมทีหนึ่ง น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจเหมือนที่เพลิงทำ กลับกันผมอยากจะให้หมอกจับให้นานกว่านี้ด้วยซ้ำ เราทั้งคู่อยู่ในความเงียบ และหมอกก็ค่อยๆเอามือออกจากหัวของผม

“ฝันดีนะ”

“อะ...อืม”

ผมว่าอย่างนั้นก่อนจะลงจากรถ หมอกขับรถออกไปแล้ว ผมได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด...



ถ้าหมอกทำผมหัวใจวายตายขึ้นมาจริงๆ จะมาหลอกหมอกคนแรกเลยคอยดูเถอะ T____T



tbc.

พระเอกของเรามีความเคลื่อนไหวแล้วนะเออ
ตอนนี้น้องบลูของเรากุมใจไปแล้วกี่รอบคะก็ไม่รู้
คุณหมอกรุกแรงมาก555555555555

มาคุยและอัพเดตข่าวสารต่างๆกันได้ที่เพจหรือทวิตเตอร์นะคะ
ใครผ่านไปผ่านมาแวะอ่านแล้วคอมเมนต์ให้ชื่นใจสักนิดก็ขอบคุณมากๆค่า

twitter : @dearblisss
fabpage : https://www.facebook.com/Dearblisss/   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2018 10:22:06 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ใจละะลายตามบลูเลย

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินแทนบลูเลย หมอกก็ชอบบลูป่ะเนี่ย  :katai2-1:

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่ารักจัง น้องบลู  :-[ 
ชอบมากเลยจ้า อ่านไปก็เอาใจช่วยน้องบลูไปด้วย
น้องน่ารัก มีความพยายามมาก ๆ น่าเอ็นดูด้วย > <
หมอกก็นิ่ง ๆ ขรึม ๆ แต่มีแอบเจ้าเล่ห์นิด ๆ หรือเปล่านะ 555
หลัง ๆ เริ่มรุกแรง จนน้องตั้งตัวไม่ทันแล้ว แต่ก็ดี เราชอบ
นี่ยังสงสัย ว่าหมอกรู้จักน้องบลูตอนใส่แว่นดัดฟันหรือเปล่านะ
ถ้าจำได้ขึ้นมา หวังว่าจะไม่ดราม่าน้า กลัวดราม่า T^T
ติดตามตอนต่อไปน้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า ชอบมากเลย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เขินเลยยย หมอกไม่ค่อยพูดถนัดทางการกระทำสินะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
นิยายน่ารักมากกกกก ติดตามค่ะ
เเต่งดีมากเลย

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
นี่ใครจีบใคร 55555555

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณหมอกเนียนได้อีกกก :z1:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
หมอกมีความอ้อยว่ะ55  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0



บทที่ 4
#หมอกบลู vs #เพลิงบลู







วันนี้ผมตื่นนอนมาก็เกือบแปดโมงแล้ว รีบกระโดดลงจากที่นอน วิ่งผ่านน้ำ ใส่ชุดนักศึกษาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดขึ้นรถบัสคันล่าสุดที่ผ่านสายตาเพื่อไปยังมหาวิทยาลัย



เกือบไม่ทันแล้ว

มัวแต่ฝันถึงหมอกอยู่นั้น...



“เชี่ยบลู ทำไมวันนี้มาสายวะ”

ว่านทักเมื่อเห็นผมวิ่งเข้าห้องได้ทันก่อนอาจารย์จะเข้ามาในห้อง ผมปาดเหงื่อที่เกาะพราวทั่วใบหน้า เสื้อนักศึกษายังคงลอยชาย พออาจารย์เห็นก็เลยรีบยัดเข้าในกางเกงทันทีก่อนจะหันมาตอบคำถามว่าน

“ตื่นสายน่ะสิ เมื่อคืนซ้อมหนัก ถึงห้องกูก็สลบเป็นตาย”

“แสดงว่ามึงยังไม่เช็คเฟสเลยใช่มั้ย” ว่านถาม ผมเลยหันไปมองด้วยความสงสัย

“ทำไมเหรอ”

“มึงลองเปิดดูเองดิ แล้วกูค่อยจะถามมึง”

ว่านพูดอย่างนั้น ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ตั้งแต่ผมได้เป็นเดือนคณะวิทยาศาสตร์ แถบแสดงการแจ้งเตือนมันก็เยอะมากอยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้ใส่ใจเท่าไรว่าจะมีอะไรอัพเดทรึเปล่า แต่พอเปิดแอพลิเคชั่นเข้าไป หน้าฟีดแรกที่เห็นก็เป็นของเพจ Foggy & Smoky


Foggy & Smoky
Yesterday at 23:58

วันนี้มีลูกเพจแจ้งข่าวแอดมาอีกแล้วค่า
วันนี้เป็นเรื่องของหนุ่มหมอกอีกแล้ววว รู้สึกว่าช่วงนี้จะปรากฏตัวบ่อยกว่าควันซะอีกนะคะ
ลูกเพจเราไปเจอหนุ่มหมอกที่ร้าน Chill สั่งอเมริกาโน่เมนูโปรดปราน พร้อมกับเค้กช็อคโกแลตลาวา
มันจะไม่มีอะไรน่าแปลกใจหรอกนะคะ ถ้าหนุ่มหมอกไม่มาพร้อมกับบลู บลูไหน ก็บลูเดือนคณะวิทย์ เพื่อนใหม่ล่าสุดนั้นไงละค้า
มีความกระหนุงกระหนิงสุดๆ ช็อตเด็ดที่แอดแทบทำมือถือหล่นตอนเห็นภาพครั้งแรกนั้นก็คือเขาเช็ดปากให้กันค่าทุกคนนน
เท่านั้นยังไม่พอ ลูกเพจยังเม้าท์มอยมาอีกว่าหมอกของพวกเราไปส่งน้องบลูถึงกองประกวด แถมยังมารับกลับด้วยนะเออ
อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะสงสัยเหมือนๆกันใช่มั้ยคะ ว่าเขาไปสนิทกันตอนไหน
ใช่ค่ะ แอดก็สงสัย จะมีอะไรในกอไผ่อ่ะเปล่า เราต้องโบกป้ายเชียร์ #หมอกบลู รึเปล่าคะงานนี้

BBeam beam : วันนี้เราก็เห็นว่าหมอกมารับบลูที่คณะนะคะแอด หมอกตัวจริงโคตรหล่อเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีบุญได้เห็นคนหล่อขนาดนี้ T__T

GiGi Geeranun : ที่เพจกองประกวดดาวเดือนปีนี้ เขาโบกป้ายไฟ #เพลิงบลู กันนะคะแอด แต่ถ้าจะ #หมอกบลู หนูก็ไม่ขัดสนค่า

Dream dararat : มาแบบเหนือเมฆมากค่ะ วันก่อนพึ่งเป็นเพื่อน วันนี้จะเป็นแฟนแล้วอ่อคะ #ใช่ค่ะดิฉันขี้ชิป #ลงเรือหมอกบลู


และอีกหลากหลายคอมเมนต์ที่ผมอ่านไม่หมด ตาผมพร่าเบลอไปหมดเมื่อเห็นรูปของผมกับหมอกเมื่อวานนี้ แถมรูปที่ผมกำลังเช็ดคราบช็อคโกแลตให้หมอกนั้นยิ่งทำให้ผมนึกถึงเมื่อวานแล้วก็รู้สึกเขินขึ้นมาอีกรอบ มิน่าล่ะทำไมแจ้งเตือนของผมถึงเยอะขนาดนี้ ตอนนี้มีคนขอแอดเป็นเพื่อนผมมามากขึ้นอีกเท่าตัว หน้าเฟสบุ๊คมีแต่คนถามว่าผมกับหมอกเป็นอะไรกัน



ไม่รู้เหมือนกันเว้ย นี่ก็ยังตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน T________T



“กูถามมึงเรื่องเมื่อวานได้ยัง” ว่านกระซิบถามผมด้วยใบหน้าที่อยากรู้เต็มที

“เรื่องอะไร”

“อย่ามาแอ๊บโง่ ก็เมื่อวานแอบไปเต๊าะใครมาล่ะมึง ข่าวดังไปทั้งมอแล้วตอนนี้”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“เออ ทำไมจู่ๆมึงถึงไปกินเค้กกับหมอกได้วะ มันจำได้เหรอว่ามึงกับมันมาจากโรงเรียนเดียวกัน” ว่านเข้าประเด็น ผมที่ตั้งตัวไม่ทันก็ขอเวลาเรียบเรียงความคิดสักนิด แถมอาจารย์ก็มองมาที่พวกเราบ่อยๆด้วย จะโดนด่ามั้ยล่ะเนี่ย

“กูว่าเราค่อยพูดเรื่องนี้ทีหลังเหอะ อยากให้ป้าสมศรีด่ารึไง ดูดิ มองอีกแล้ว”






ถึงจะหาเรื่องเบี่ยงประเด็นมาได้แล้ว แต่ว่านมันก็ไม่ยอมปล่อยผมให้หลุดมืออีกครั้ง พวกเราเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน ว่านมันก็ยังถามผมยิกๆ จนเมื่อหาซื้อข้าวและได้โต๊ะแล้ว มันก็ถามผมขึ้นอีกครั้ง

“เล่ามาเลยมึง เลิกเฉไฉได้แล้ว ต่อมเผือกกูสั่นไปหมดแล้วเนี่ย”

“ให้เริ่มตรงไหนล่ะ”

ผมถามว่านอย่างขอความเห็น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน

“เริ่มตรงที่ว่ามึงไปรู้จักกับหมอกยังไงก่อนแล้วกัน” ว่านเกริ่นให้ ผมเลยนึกย้อนกลับไปถึงครั้งแรกที่เจอกัน

“ตอนนั้น...วันแรกที่กูไปกองประกวด กูรู้จักกับเพลิง...เดือนนิติอ่ะมึง...แล้วเราบังเอิญอยู่คอนโดเดียวกัน กูเลยติดรถกลับกับเพลิง แล้วเพลิงก็แวะไปที่คณะ กูก็เลยได้เจอหมอก...”

“แล้วเขาจำมึงได้รึเปล่าว่ามึงเป็นเพื่อนห้อง 2”

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวไปด้วย

“หลังจากนั้นผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ เพลิงก็ชวนกูไปกินเหล้ากับเพื่อนเขา กูเลยได้คุยกับหมอกมากขึ้น...แล้วกูก็ขอเฟสหมอก”

“แล้วเขาก็รับแอดมึง?”

“อืม”

“รับแอดเฟสแล้วไงต่อ ทำไมถึงได้ไปกินเค้กด้วยกัน” ว่านยังซักต่อไม่หยุด ผมมองหน้ามันที่กำลังทำหน้าสงสัยขั้นสุด

“ก็ตอนที่กูอัพตัสว่าเหนื่อย อยากกลับไปนอน เขาก็ทักกูมาว่าให้ไปนอน แต่กูบอกว่าต้องไปกองประกวดต่อ เขาเลยชวนกูไปกินเค้กฆ่าเวลา”

“แค่นี้?”

“อืม”

“แต่ภาพที่ออกมาแม่งหวานสัสๆ กูเห็นแล้วขนลุกเกรียวเลย มึงดูอีกทีสิ ผู้ชายที่ไหนเขาเช็ดปากให้กัน แถมมึงเป็นคนเช็ดให้ด้วย”

ว่านโชว์ภาพต้นเหตุให้ผมดูอีกครั้ง ไม่อยากบอกหรอกว่าแอบเซฟเก็บไว้แล้ว ผมจิบน้ำมะพร้าวแก้เก้อช้าๆ ก่อนจะแก้ข่าวให้ว่านเข้าใจ

“ก็ช็อคโกแลตเลอะปากหมอก กูยื่นทิชชู่ให้เขา แต่หมอกบอกให้กูเช็ดให้”

“เหรอ” ว่านมองอย่างไม่เชื่อสายตา

“ก็ใช่น่ะสิ”


“เขาชอบมึงป่ะวะบลู”


คำพูดของว่านทำเอาผมที่กำลังกินน้ำมะพร้าวอยู่ถึงกับสำลักออกมา ผมไอเสียงดังจนคนหันมามองทั้งโรงอาหาร แต่ตอนนี้ผมแสบคอจนน้ำหูน้ำตาไหลแล้ว ว่านตกใจและรีบลูบหลังให้ผมเป็นการใหญ่ จนผมอาการดีขึ้นแล้วมันก็ส่งกระดาษทิชชู่ให้ผมเช็ดปากอีกที

“แค่กูถามว่าเขาชอบมึงรึเปล่า สำลักจนเกือบตายเลยนะ”

“ก็คนมันตกใจป่ะวะ มึงนั้นแหละ พูดอะไรก็ไม่รู้” ผมใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปากจนสะอาดแล้วก็มองมันอย่างเคืองๆที่เกือบฆาตกรรมผมกลางโรงอาหารแล้ว

“ก็จริงนี่นา ฟังจากที่มึงพูดแล้วคิดตามภาพที่กูเห็นอ่ะนะ ผู้ชายหล่อระดับนั้นเขาจะมายุ่งวุ่นวายกับมึงทำไมถ้าเขาไม่ได้สนใจมึงอยู่”

“มึงคิดอย่างนั้นเหรอวะ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ ผมไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยนะ

“ก็เออสิวะ กูเอาหัวกูเป็นประกันเลย เขาชอบมึงแน่นอนไอ้บลู”





.
..
...





คำพูดของว่านยังคงติดอยู่ในหัวของผมแม้ว่าตอนนี้จะซ้อมเต้นอยู่ วันนี้ผมโดนดุไปหลายรอบมากเพราะไม่มีสมาธิเลย แต่ผมก็ไม่โกรธใคร ก็ผมไม่มีสมาธิจริงๆนั้นแหละ

“พักก่อนแล้วกันนะคะน้องๆ ใครอยากจะไปหาอะไรกินก็ไปได้น๊า พี่ให้เวลา 30 นาทีนะค๊า”

พี่เจตน์ประกาศผ่านไมค์ ทุกคนร้องเฮแล้วก็รีบสลายตัวอย่างรวดเร็ว ผมนอนแผ่ลงกับพื้นห้อง เพลิงเดินมาหาแล้วใช้เท้าสะกิดขาผมเบาๆ ผมเลยเหลือบตามองมัน แอบเห็นพี่บูมที่เป็นตากล้องรีบยกกล้องโปรขึ้นมาถ่ายภาพเราไว้เอาไปลงในเพจด้วย ผมรู้หรอกว่าพี่เขาคงจะเอาไปเรียกกระแสกันต่อ แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร

“ไปแดกข้าวป่ะ วันนี้กูว่ายาว”

“กินก็ได้ ดึงขึ้นหน่อย” ผมชูมือขึ้นให้เพลิงดึงผมจนลุกได้

เราเดินออกจากอาคารไปจนถึงตลาดอาหารยามดึก เพลิงลูบท้องวนไปวนมา สูดจมูกดมกลิ่นอาหารที่ลอยมาแต่ไกล จนสุดท้ายก็ไปจบที่ร้านข้าวผัดปู ส่วนผมก็สั่งคะน้าหมูกรอบ เมื่อได้อาหารมาแล้วก็รีบนั่งโกยอาหารเข้าปากเพราะใกล้จะหมดเวลาพักแล้ว

“น้องเพลิงกับน้องบลูใช่รึเปล่าค๊า”

ผมที่กำลังจิ้มหมูกรอบชิ้นสุดท้ายในจานเข้าปาก และเพลิงที่กำลังตักพริกน้ำปลาใส่ข้าวผัดปูเงยหน้าขึ้นตามเสียงบีบเล็กๆที่ยืนอยู่ที่โต๊ะของเรา

“ครับ?” เพลิงขานรับ ส่วนผมก็เคี้ยวหมูกรอบขณะรอฟังว่าพี่สาวประเภทสองตรงหน้าจะพูดอะไร

“พี่ชื่อพี่พอลล่านะคะ คือพี่เป็นแอดมินเพจคิ้วท์บอยของมอเรา พี่อยากให้น้องๆพูดอะไรถึงแฟนเพจเราหน่อยนะคะ”

เธอว่าอย่างนั้นแล้วชูไอโฟน 8+ สีชมพูเครื่องใหญ่มาตรงหน้าพวกเรา ผมและเพลิงที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่หันมองหน้ากันก่อนที่เพลิงจะหันกลับไปหาพี่พอลล่า แล้วยิ้มแห้งๆให้พี่แก

“เออ...ให้พวกผมพูดอะไรอ่ะครับ” ผมถามบ้าง เพราะให้เพลิงรับมือคนเดียวก็สงสารมัน

“ก็พูดอะไรก็ได้ค่ะ แนะนำตัว ฝากโหวตดาว-เดือนก็ได้เลยจ้า ตามสบายเลย”

“อ้อ”

ผมพยักหน้าเข้าใจ เลยส่งซิกให้เพลิงเป็นคนพูดก่อน ส่วนเพลิงมันก็ส่งซิกให้ผมพูดก่อนเหมือนกัน เหมือนพี่พอลล่าจะรู้ว่าเราไม่ยอมพูดก่อน เธอเลยพูดกลางโต๊ะ

“ไม่ต้องเกี่ยงกันค่ะ พูดกันทั้งสองคนนั้นแหละค่ะ พูดเลยนะคะ เอ้า สาม สี่”

ว่าแล้วเธอก็ตั้งกล้องอัดวีดิโอทันที ผมกับเพลิงเลยต้องมองไปที่กล้องอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนที่พวกเราจะด้นสดใส่กล้องอย่างงงๆ

“สวัสดีครับ ผมเพลิงจากคณะนิติศาสตร์”

“ผมบลูจากคณะวิทยาศาสตร์ครับ”

“งานประกวดดาว-เดือนปีนี้จะจัดขึ้นวันไหนครับบลู” อ้าว เวร โยนขี้มาให้กูเฉยไอ้เพลิง

“เออ...วันที่...วันที่ 25 เดือนนี้ครับผม” ต้องขอบคุณพี่พอลล่ามากๆนะครับที่ส่งซิกหลังกล้องให้ผมยิกๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานจัดวันไหน

“ครับ ในงานนี้พวกเรามีโชว์เซอร์ไพร์สรอทุกๆคนอยู่ อย่าลืมมางานกันเยอะๆครับ” เพลิงพูดจบ เหมือนจะปิดคลิปด้วยดี แต่พี่พอลล่าก็ส่งเสียงมาจากหลังกล้อง

“น้องบลูฝากอะไรนิดนึงสิคะ”

“อย่าลืมมาเชียร์พวกเราด้วยนะครับ ทั้งผมแล้วก็เพลิงด้วย งานนี้พวกเราเต็มที่กันมาก” ผมพูดจบก็หันมองเพลิงว่าควรจะเอาไงกันต่อดี สุดท้ายเพลิงก็หันกลับไปมองกล้อง

“ครับ วันนี้ก็พอแค่นี้แหละครับ ขอบคุณนะครับ”

ตัดจบทันที ผมเลยรีบยกมือไหว้ผ่านกล้อง พี่พอลล่าลดโทรศัพท์ลง หน้าชื่นตาบานสุดๆก่อนจะขอถ่ายรูปผมและเพลิงไปอีกนิดหน่อย แล้วเธอก็จากไป พวกเราเลยรีบกินข้าวให้หมดและรีบออกจากตลาดเพื่อไปซ้อมต่อทันที

ผมซ้อมต่อจนกระทั่งเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลข 12 เที่ยงคืนแล้วแต่พี่ๆยังคงให้เราซ้อมไม่หยุด ก็มันเหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียว แถมผมก็ยังลืมท่าลืมทางอยู่เลย แต่เพราะพวกเรานั้นมีตารางเรียนไม่เหมือนกัน เวลาซ้อมจึงเลทสุดได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น พี่เจตน์เลยยอมปล่อยพวกเรากลับไปพักผ่อนได้

“กลับกันเลยป่ะ”

เพลิงว่า ผมเลยเดินตามเพลิงออกมาจนถึงลานจอดรถ น่าแปลกที่คราวนี้ลานจอดรถที่มักมีเพียงแค่ BMW ของเพลิงจอดอยู่ ตอนนี้กลับมีรถเบนซ์สีขาวมุกจอดเทียบอยู่ข้างกัน มองป้ายทะเบียนแล้วผมก็ต้องใจกระตุก และหัวใจผมก็เต้นเร็วขึ้นเมื่อคนด้านในรถเปิดประตูออกมา

“คิดถึงผมเหรอครับคุณหมอก~~~~”

เพลิงทำหน้าล้อเลียน วิ่งไปกอดแขนหมอกพร้อมกับใช้เสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อถูไปตามแขนของหมอกด้วย

“เออ...หมอกมาทำไมเหรอ” ผมถามขึ้น หมอกมองผมนิ่งๆ เสียงทุ้มนั้นก็เปล่งขึ้น

“มารับไง”

“มารับเค้าเหรอตะเอง” เพลิงยังคงใช้เสียงที่หน้าตบให้หายแรดสักที ส่วนหมอกยังคงหน้าตาย มองเพลิงที่ยังเกาะแขนอยู่ก่อนจะดันมันออกเบาๆ

“มึงมายังไงก็กลับไปอย่างนั้นแหละ” หมอกพูดนิ่งๆ แล้วชี้ไปที่ BMW สีดำที่จอดอยู่

“ง่า...พี่หมอกอ่ะ” เพลิงแสร้งทำหน้าบูด เห็นหมอกยกกำปั้นขึ้นพร้อมต่อยเพลิงเต็มที เพลิงก็รีบสลัดโหมดสาวน้อยออกจากร่างทันที

“เอาเถอะ กูไม่แกล้งพวกมึงแล้วครับ ไปส่งเพื่อนกูดีๆล่ะ”

เพลิงพูดจบก็ขึ้นไปนั่งในรถของตัวเอง ผมยืนมองตาปริบๆ รู้ตัวอีกทีเพลิงก็ขับรถออกไปแล้ว ทั้งลานจอดรถมีเพียงผมและหมอกที่ยืนอยู่ ได้ยินเสียงพูดคุยของพวกรุ่นพี่ในกองประกวดที่ดังอยู่ไกลๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจนอกจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ทำไมไม่บอกว่าจะมารับ” ผมถามหมอกขณะที่เข้ามานั่งในรถแล้ว

“บังเอิญขับผ่านมาทางนี้แล้วเห็นว่ารถไอ้เพลิงยังจอดอยู่ นึกได้ว่ามันเคยบอกไว้ว่าช่วงนี้จะกลับไปนอนที่บ้าน เลยคิดว่าคงไม่มีใครจะไปส่ง”

“ถ้าเพลิงไม่ไปส่ง เดี๋ยวให้คนอื่นไปส่งก็ได้”

ผมว่าอย่างนั้น หมอกเลยหันมามองหน้าผมในความมืด ผมไม่รู้หรอกว่าเขาทำหน้ายังไง แต่เดาเอาว่าหมอกคงจะอารมณ์เสียไม่น้อย

“เออ...แล้วมารอนานรึยังอ่ะ” ผมถามอีกเพราะหมอกไม่ยอมคุยกับผมต่อ น้ำเสียงทุ้มเลยตอบกลับมา

“ก็ไม่นานหรอก”

“งั้นเหรอ”

ผมพึมพำและทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ระหว่างพวกเราไม่มีบทสนทนาใดๆอีก จนกระทั่งเมื่อรถของหมอกมาจอดที่หน้าคอนโดของผมแล้ว

“ขอบคุณที่มาส่งนะ ไปล่ะ”

ผมกล่าวขอบคุณเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่คราวนี้ความอบอุ่นรอบข้อมือทำให้ผมต้องชะงัก ผมหันกลับไปมองข้อมือของผมที่ถูกหมอกกุมเอาไว้

“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง”

“เก้าโมงเช้า...ทำไมเหรอ”

“เดี๋ยวมารับ รอด้วยล่ะ” หมอกพูดอย่างนั้น ผมก็รีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ

“ไม่ต้องลำบากมารับก็ได้ แค่มาส่งอย่างนี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว”

“ฉันบอกเหรอว่าลำบาก” หมอกถาม ผมเลยส่ายหน้าช้าๆแทนคำตอบ

“ก็รู้อยู่นี่ พรุ่งนี้เจอกัน ไปนอนได้ล่ะ” พูดจบก็คลายมือที่จับข้อมือผมไว้แล้วผลักหัวผมเบาๆ ผมลูบผมให้เป็นทรงเหมือนเดิมก่อนจะโบกมือลาเจ้าของรถ

“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ”

ผมว่าอย่างนั้นและยืนส่งจนหมอกขับรถออกไปถึงเดินขึ้นห้องของตัวเอง ความเหนื่อยล้าของวันนี้หายเป็นปลิดทิ้งเพราะคนที่มาส่งถึงคอนโดเมื่อครู่ ผมอาบน้ำ ถอดคอนแทคเลนส์เสร็จก็เปลี่ยนมาใส่แว่นตา และสวมรีเทนเนอร์ ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงและคว้าโทรศัพท์มาเช็คข่าวสารก่อนนอน

ผมเลื่อนสเตตัสของเพื่อนร่วมคณะไป อัพเดทความเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลไปสักพัก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำเอาผมหลุดขำออกมา มันเป็นภาพของผมกับเพลิงที่ตลาดที่พี่พอลล่าเป็นคนมาขอถ่ายนั้นแหละ ดูคลิปแล้วผมก็ตลกความอิหลักอิเหลื่อของเราทั้งคู่ที่จู่ๆก็โดนจู่โจมกระทันหันด้วยแอดมินเพจคิ้วท์บอย พอเลื่อนอ่านคอมเมนต์แล้วผมก็เผลอขมวดคิ้วขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

Eing Eing : แอร๊ยยยยย ลงเรือ #เพลิงบลู เต็มตัวค่า ดูสายตาที่เขามองกันสิ หวานเฟร้อ

Nucknick : ฉันรักคู่เน้!! ดูรูปในเพจนี้ว่าฟินแล้ว ไปดูที่เพจกองประกวดด้วยค่า ฟินx100

ผมอ่านคอมเมนต์แล้วก็ต้องเข้าไปดูรูปในกองประกวดบ้าง ภาพผมกับเพลิงตอนที่ผมนอนแผ่ที่พื้นแล้วเพลิงดึงผมขึ้นนั้นมีคนกดไลค์ไปราวๆพันกว่าคน คนแชร์ไปอีกเป็นร้อย ก็พอรู้ว่ากระแสของผมและเพลิงเป็นยังไง แต่ไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนี้เลย

Miko mikakokukakiko : พูดตามตรงนะว่า #เพลิงบลู ก็จัดว่าฟินอยู่ แต่นี่คิดว่า #หมอกบลู อ่ะของจริง ไปเชื่อตามไปส่องที่เพจ Foggy & Smoky เลยค่า


ผมสะดุดคอมเมนต์ล่าสุดที่พึ่งเด้งขึ้นมา มือรีบค้นเพจ Foggy & Smoky อย่างรวดเร็ว พอเห็นกระทู้ที่พึ่งอัพเดทไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนผมก็ต้องกุมหัวใจที่จู่ๆก็หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่



Foggy & Smoky
30 min ago

สวัสดีค่าลูกเพจทุกคนนนน วันนี้แอดมาดึกขนาดนี้เพราะหมอกของพวกเราปรากฏตัวอีกแล้วค่า
น้ำตาแอดจะไหลกับเรื่องที่จะเม้าท์มอยในวันนี้ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ชิปแล้วนะคะ แต่พอได้ลงเรือแล้วมือมันก็พายไม่หยุดเลยค่ะทุกคน
อ่ะๆ เข้าเรื่องกันเถอะ วันนี้แอดไปเห็นด้วยตาตัวเองค่ะ ในขณะที่หาอะไรกินยามดึก แอดก็ไปเจอกับรถคันคุ้นตา
ใช่แล้วค่า รถของหนุ่มหมอกเรานั้นเอง แบบว่าไปเจอรถของหมอกจอดอยู่ที่หน้าอาคาร A ที่ใช้ทำกิจกรรมของดาว-เดือนปีนี้ตั้งแต่สามทุ่ม
ย้ำนะคะว่าสามทุ่ม! แล้วแอดก็ได้ข่าวมาจากมิตรสหายท่านหนึ่งว่าพวกดาว-เดือนทั้งหลายเลิกกิจกรรมตอนเที่ยงคืน
แต่ก็ยังเห็นรถของหมอกจอดอยู่ค่า จอดรอใครล่ะคะ ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก~~~~~~~
ไม่ต้องเดากันยากเลย ก็น้องบลูจากคณะวิทยาศาสตร์คนดีคนเดิมนั้นไง ฝ่ายนั้นก็ออกมาจากอาคารพร้อมกับหนุ่มเพลิง
ปลุกกระแส #เพลิงบลู ไปอี๊กกกก นั่นแหละค่ะ หมอกของพวกเราเลยไม่ยอมน้อยหน้าพาน้องบลูไปส่งถึงคอนโดเลยสิคะ
โอยยยหัวใจชิปเปอร์อย่างแอดถึงกับต้องหลั่งน้ำตา ความเรียลที่แท้ทรูต้อง #หมอกบลู สิคะ
สำหรับวันนี้แอดก็มีเรื่องมาอัพเดทเพียงเท่านี้ ฝันดี หมอกและควันเข้าฝันกันถ้วนหน้าค่า



ผมมองภาพที่แอบถ่ายรถเบนซ์ที่ลานจอดรถ รูปที่มีผม หมอก และเพลิงคุยกันอยู่ จนกระทั่งรูปที่ผมพึ่งลงจากรถหมอกที่หน้าคอนโดเมื่อ 30 นาทีก่อน

ไม่รู้ว่าใครจะทีม #เพลิงบลู แต่ใครจะทีม #หมอกบลู

แต่ผมน่ะ....

ลงเรือ #หมอกบลู มานานแล้วล่ะครับ





tbc.

แล้วทุกคนล่ะคะ ทีมไหนกันบ้าง
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ทุกคนมากๆเลยนะคะ
เริ่มมีคนเมนต์ จำนวนยอดวิวค่อยๆเพิ่ม เห็นอย่างนี้แล้วปลื้มค่ะT_T
ค่อยมีแรงปั่นนิยายต่ออีกหน่อย 55555

แวะไปทักทายกันได้ทั้งทวิตและเฟสนะคะ มีอะไรก็จะอัพเดททั้งสองช่องทางนี้ค่ะ

twitter : @dearblisss
fabpage : https://www.facebook.com/Dearblisss/   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2018 16:23:38 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เราก็#ทีมหมอกบลู
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เจ้าตัวเขาก็ชวนลงเรือซะขนาดนี้ ไปค่ะ ลงเรื่องหมอกบลูกันนนนน

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
#หมอกบลู ฉันรักพวกเขาาาาา ถ้าพี่หมอกมาหลอกอะไรน้องบลูแม่จะตบคว่ำ

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ลงเรือหมอกบูลด้วยคนนะคะ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด