' ม่านหมอกสีฟ้า ' update : ตอนที่ 23 (จบแล้ว) -- หน้า 7 --27/04/2018--
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ' ม่านหมอกสีฟ้า ' update : ตอนที่ 23 (จบแล้ว) -- หน้า 7 --27/04/2018--  (อ่าน 118916 ครั้ง)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
หมอกบลูซิค่ะ
รอตอนต่อไป มาเร็วๆน้าาาา

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมอกบลูแน่นอนนน   :-[ :-[

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมอกบลูสิคะกัปตัน :z1:

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพลิงบลูน่ารักนะ แต่เกาะเรือ หมอกบลู แน่นเลยค่า ฟินสุด ๆ ฮื่อออ   :m3:
คุณหมอก ขี้หึงใช่ไหมเนี่ย เจอ#เพลิงบลู เข้าไป ต้องรีบมาแสดงความเป็นเจ้าของเชียว
ไหนว่าขับผ่านมาไง แหม สามทุ่มเนี่ยนะ คนปากแข็ง 555
หมอก แสดงออกชัดขนาดนี้ ก็ขอจีบน้องบลูไปตรง ๆ เลยเถอะจ้า
แล้วเมื่อไหร่คุณหมอควันจะปรากฎกายน้อ ชอบคุณหมอสายแบด
สงสัยเรื่องแฟนของเพลิงด้วย อยากรู้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย > <
ชอบเรื่องนี้มากค่า คนเขียนสู้ ๆ เรารออยู่น้า

ออฟไลน์ rebon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบบ รอติดตามนะคะ :-[

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะคะ
แวะเอาสปอยตอนที่ 5 มาแปะในเล้าด้วย
แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ หมอกวินจะมาแล้ววววว



“ใครโทรมา”

“Smoky...ควันรึเปล่า”

“อืม รับให้หน่อย แล้วก็เปิดสปีกเกอร์ด้วยนะ”


.

.

.


“มีอะไร”
 
[อยู่ไหนวะหมอก]

“กำลังขับรถ ว่าจะไปหาอะไรกิน”

[งั้นเหรอ กูกลับมาถึงห้องแล้วไม่เหลืออะไรให้กินเลย มารับไปกินด้วยดิ เดี๋ยวอาบน้ำรอ]

“แต่กูมากับเพื่อนนะ”

[เพื่อนมึงก็เหมือนเพื่อนกูนั้นแหละ รีบๆมาเลย หิวจนจะกินหมีได้ทั้งตัวแล้วโว้ย]


ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0



บทที่ 5
หมอกและควัน




วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าที่นาฬิกาปลุกตั้งไว้ซะอีก  แค่คิดว่าหมอกจะมารับ ร่างกายมันก็ตื่นตัวโดยอัตโนมัติทันที ผมอาบน้ำ แต่งตัวจนเรียบร้อยก็นั่งรอเวลา จนกระทั่งเสียงข้อความแชทดังขึ้นตอนแปดโมงตรงพอดี

Kavi Worakul : มาถึงแล้ว รออยู่ด้านล่างนะ

ผมรีบตอบกลับข้อความของหมอกทันที แล้วคว้ากระเป๋า ล็อกห้องจนเรียบร้อยก็รีบลงไปที่ด้านล่าง เห็นรถเบนซ์สีขาวคันเดิมจอดอยู่ ผมก็เดินเข้าไปหาและเปิดประตูเข้าไปนั่งเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

วันนี้หมอกดูหล่อกว่าทุกวันที่ผ่านมา ถึงจะใส่ชุดนักศึกษาเหมือนเดิม แต่ว่าวันนี้กลับดูเนี๊ยบกว่าทุกวัน ผมที่ไม่ค่อยยุ่งกับมัน วันนี้ก็เซ็ทเปิดด้านข้าง ได้กลิ่นน้ำหอมสปอร์ตๆลอยมาถึงที่นั่งของผม ทำไมต้องดูดีขนาดนี้ด้วยวะ ไม่ยุติธรรมกับใจผมเลยสักนิด : (

“รอนานรึเปล่า” หมอกเป็นคนถามขึ้นมาก่อน ผมเลยรีบส่ายหน้า

“ไม่นานหรอก”

“เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง ไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วกัน”

“ก็ได้ เริ่มหิวพอดี” ผมลูบท้องไปมา พอพูดถึงอาหารแล้วน้ำย่อยก็เริ่มหลั่งเลยนะ

“แถวนี้มีอะไรแนะนำรึเปล่า”

“ก็...น่าจะก๋วยจั๊บญวนล่ะมั้ง เห็นคนกินเยอะมาก อีกร้านก็โจ๊กลุงเฮง” ผมบอกเท่าที่จะนึกออกว่าแถวคอนโดผมมีอะไรน่ากินบ้าง หมอกนิ่งคิดสักพักก็ตอบผม

“งั้นลองก๋วยจั๊บญวนแล้วกัน”

หมอกว่าอย่างนั้นผมเลยบอกทางไปร้าน จนเมื่อมาถึงร้านและหาที่จอดรถได้ เราก็สั่งก๋วยจั๊บญวนคนละถ้วย หาโต๊ะว่างแล้วผมก็ตักน้ำมาสองแก้วให้ผมและหมอก

“ขอบคุณ”

หมอกว่า ผมยิ้มบางๆและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพลางๆ จะได้เลิกสนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของสาวๆโต๊ะข้างๆ หรือเสียงกรี๊ดพร้อมซุบซิบที่โต๊ะด้านหลังสักที



“นั้นหมอกหรือควันอ่ะแก”

“ฉันคิดว่าน่าจะหมอกนะ ไม่ได้เจาะหู แถมมากับบลูด้วยอ่ะ”

“เออ แล้วสรุปว่าคู่นี้เขาคบกันเหรอวะ”

“ไม่รู้สิ เพื่อนเฉยๆแหละมั้ง แค่เคมีแม่งโคตรได้ ตามกันต่อไปค่ะ”



ผมขยับตัวอย่างอึดอัด รู้สึกทำตัวไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้ ต่างจากหมอกที่นิ่งสยบความเคลื่อนไหวทุกอย่าง จนเมื่อถ้วยก๋วยจั๊บมาวางอยู่ตรงหน้า พวกเราก็เริ่มกินทันที และผมก็รีบชิ่งจ่ายเงินก่อนที่หมอกจะจ่าย ไม่งั้นเขาคงจะเลี้ยงผมแน่ๆ

“ขอบคุณสำหรับค่าก๋วยจั๊บนะ”

“ถือว่าหายกันกับค่าเค้กครั้งก่อนแล้วกัน” ผมว่าอย่างนั้น หมอกเลยพยักหน้าเบาๆ

ใช้เวลาไม่นานจากร้านก็เข้ามาสู่เขตรั้วมหา’ลัย เหลือเวลาอีกสิบนาทีจะถึงเวลาเข้าเรียน รถเลยเริ่มเยอะเป็นพิเศษ เหล่านักศึกษาเดินอยู่ข้างทางกับเป็นแถบ ผมเลยบอกให้หมอกจอดลงที่ริมฟุตบาทที่ห่างจากตึกเรียนเกือบ 500 เมตร

“จอดตรงนี้แหละหมอก”

“ตรงนี้เหรอ...ไม่ไปจอดด้านหน้าตึกเลยล่ะ”

“เอาตรงนี้แหละ หมอกจะได้ยูเทิร์นออกจากคณะเราไปง่ายๆ”

“เอางั้นก็ได้”

หมอกค่อยๆชะลอความเร็วและจอดรถในที่สุด ผมรีบบอกลาและเตรียมลงจากรถ แต่เจ้าของรถก็ไม่ยอมปลดล็อกให้ผม ผมเลยหันกลับไปมองหมอกที่ยังคงนิ่ง

“เปิดประตูให้หน่อย”

“วันนี้ต้องไปซ้อมรึเปล่า” แต่หมอกกลับถามอีกคำถามขึ้นมา แทนที่จะปลดล็อกประตูรถให้ผม

“วันนี้ไม่ได้ไป แต่ต้องมาซ้อมการแสดงที่คณะ ทำไมเหรอ”

“แล้วเลิกกี่โมง”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงไม่เกินสองทุ่มมั้ง”

“เดี๋ยวมารับ ลงไปได้แล้ว” พอได้คำตอบที่ต้องการ หมอกก็ปลดล็อกประตูให้ผม

ผมลงจากรถและยืนรอจนกระทั่งหมอกขับออกไปแล้ว ผมถึงได้เดินเข้าตึกเรียนไป เดินเข้าห้องเรียนก็เจอว่านที่ยืนจังก้ารออยู่หน้าห้อง ผมมองมันด้วยสายตาสงสัย แล้วก็วางกระเป๋าลงที่โต๊ะเรียนพร้อมกับเสียงว่านที่ดังตามมา

“เมื่อกี้นี้อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะว่ามึงลงมาจากรถใคร”

“เห็นด้วยเหรอ” ผมถาม แปลกใจนิดนึงเพราะคิดว่าจอดห่างจากตึกเรียนขนาดนั้นแล้วว่านยังเห็นเหรอว่าผมมากับหมอก

“ก็เออสิ เห็นตั้งแต่ที่ร้านก๋วยจั๊บญวนแล้วนะว่ามึงไปกินกับใคร เห็นคนเต็มร้านกูเลยย้ายไปกินโจ๊กลุงเฮงแทน” ว่านทำหน้าเหนือ อมยิ้มล้อเลียน ผมเลยได้แต่อึกอักเพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

“จากที่กูตามเผือกในเพจต่างๆนี่สรุปแล้วตัวจริงของมึงคือหมอกไม่ใช่เพลิงใช่มั้ย” ว่านยังคงถามด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็น ผมเลยสั่นศีรษะอย่างรวดเร็ว

“ตัวจงตัวจริงอะไร ไม่มีหรอก”

“จ้า ตอนนี้ไม่มีอะไร แต่ในอนาคตนี่กูมั่นใจว่าเพื่อนกูต้อง sold out แน่นอน”



.
..
...




“การแสดงของคณะเราจะเอายังไงดี น้องบลูมีความสามารถพิเศษอะไรมั้ยเอ่ย”

พี่ๆในสโมสรกำลังช่วยกันคิดการแสดงช่วยผมกับแป้งอยู่ แป้งนั้นเธอจะเต้นโคฟเวอร์เพลงเกาหลี และทุกคนก็เห็นดีเห็นงามด้วย และพอคิดการแสดงฝั่งดาวเสร็จ ทุกคนก็หันมารุมทึ้งผมที่นั่งเงียบๆมานานทันที

“เออ...ผมพอจะเล่นกีต้าร์เป็นนิดหน่อยครับ”

“ร้องเพลงได้ด้วยรึเปล่า” พี่ปูเป้ถาม

“ก็พอได้ครับ”

“งั้นเอาเป็นโคฟเวอร์เพลงเป็นแนวอะคูสติกดีมั้ย” แป้งเสนอขึ้น ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันมามองผมเป็นตาเดียว

“ว่าไงน้องบลู”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ”

และสุดท้ายผมมานั่งเลือกเพลงอยู่หน้าคอม พี่ๆให้เวลาหาเพลงมาเสนอ 1 ชั่วโมง แล้วคนอื่นก็ไปช่วยกันเลือกเพลงและดูท่าเต้นช่วยแป้งกันหมด

ผมนั่งเลื่อนเม้าท์ไปมา เข้าออกยูทูปสลับกับเปิดหาโน้ตเพลงเป็นว่าเล่น อยากจะลองร้องเพลงสากลดสักครั้ง แต่พอลองแล้วก็รู้สึกลิ้นเปลี้ย ร้องตามไม่ทันอีก เลยหันกลับมาซบอกที่เพลงไทยจนได้


เอาเพลงอะไรดีหว่า?


“หืมมม”

ผมเผลอร้องออกมาเมื่อสายตาหันไปเจอเพลงด้านข้างของยูทูป แค่เห็นชื่อเพลงก็สะดุดตาแล้ว พอฟังแล้วก็นึกได้ว่าสมัยก่อนเพลงนี้มันฮิตมากๆ และเนื้อร้องมันช่างเข้ากับตัวผมในตอนนี้เหลือเกิน

“น้องบลูได้เพลงที่อยากร้องรึยัง” พี่ปูเป้เดินมาถาม ผมพยักหน้าก่อนจะชี้ที่หน้าจอให้พี่ปูเป้ดู

“ผมจะร้องเพลงนี้ครับ”

“อ๋อ เพลงนี้เหรอ น่ารักดีนะ ว่าแต่เล่นได้ใช่มั้ย” พี่ปูเป้ถามเพื่อความแน่ใจ

“ได้ครับ เดี๋ยวคืนนี้ผมจะกลับไปแกะคอร์ดและเริ่มฝึกเลยครับ”

ผมให้คำสัญญา พวกพี่ๆจะได้ไม่ต้องห่วงในส่วนของผมและไปดูแลฝั่งของแป้งที่น่าจะต้องซ้อมหนักกว่าผมเยอะเลย

“โอเคจ้า งั้นถ้าบลูมั่นใจว่าซ้อมเองได้งั้นกลับก่อนเลยก็ได้นะ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมาดูกัน”

“ได้ครับ”

ผมยิ้มตอบพี่ปูเป้และลาทุกคน ตอนนี้เกือบจะสองทุ่มแล้ว ดีนะที่ผมบอกว่าจะกลับไปซ้อมที่ห้อง ไม่งั้นคงจะต้องซ้อมยาวๆที่คณะเหมือนกับแป้งแน่ๆ


ติ้ง~


เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเมื่อผมเดินออกมาจากห้องสโมสรแล้ว เมื่อเห็นชื่อที่ทักเข้ามา ผมก็รีบเข้าไปตอบแชททันที

Kavi Worakul : ซ้อมเสร็จรึยัง กำลังจะออกไปรับแล้ว

Punnawit thanawatchai : เสร็จพอดีเลย เดี๋ยวเราไปรอที่เดิมเมื่อเช้านะ

หมอกส่งสติกเกอร์กลับมา ผมเลยเดินไปรอที่หน้าคณะที่หมอกมาส่งผมเมื่อเช้า ระหว่างทางผมก็คิดไปด้วยว่าระหว่างผมกับหมอกเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง เราสนิทกันถึงขั้นที่หมอกมารับมาส่งผมแล้วงั้นเหรอ ระยะเวลายังไม่ถึงเดือนที่ผมตัดสินใจลงสมัครเป็นเดือนคณะวิทยาศาสตร์ มันทำให้หมอกหันมาเห็นผมแล้วจริงๆด้วย


ผมสามารถเข้าไปอยู่ในวงโคจรของหมอกได้สำเร็จแล้ว


ยินยิ้มอยู่เพียงลำพังจนเมื่อไฟรถส่องเข้ามากระทบตา ผมก็หันไปมองรถต้นเหตุ เมื่อเห็นว่าเป็นรถคันคุ้นตาผมก็ยิ้มออกมาและเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างในทันทีเมื่อหมอกปลดล็อกรถให้

“กินอะไรมารึยัง” เสียงทุ้มถามเมื่อค่อยๆเคลื่อนออกจากคณะ

“ยังเลย หมอกกินแล้วเหรอ”

“ยังไม่ได้กินเหมือนกัน ไปกินสุกี้ดีมั้ย” หมอกถาม และผมก็รีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เราจะไปถึงห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดในย่านนี้ เสียงโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของผมก็ดังขึ้น

“ใครโทรมา” หมอกถาม ผมเลยถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ของหมอกที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมาดู

“Smoky...ควันรึเปล่า” ผมอ่านชื่อที่เมมเอาไว้ แล้วเงยหน้าถามหมอก

“อืม รับให้หน่อย แล้วก็เปิดสปีกเกอร์ด้วยนะ”

ผมทำตามที่หมอกสั่ง แล้วยื่นโทรศัพท์ไปใกล้หมอกที่กำลังขับรถอยู่ นั่งนิ่งเงียบรอฟังบทสนทนาของทั้งคู่

“มีอะไร” หมอกกรอกเสียงไปยังอีกปลายทางหนึ่ง

[อยู่ไหนวะหมอก] เสียงที่ดังมาทางปลายสายนั้นช่างเหมือนกับคนที่นั่งอยู่ด้านข้างผมตอนนี้เหรอเกิน

“กำลังขับรถ ว่าจะไปหาอะไรกิน”

[งั้นเหรอ กูกลับมาถึงห้องแล้วไม่เหลืออะไรให้กินเลย มารับไปกินด้วยดิ เดี๋ยวอาบน้ำรอ]

“แต่กูมากับเพื่อนนะ”

[เพื่อนมึงก็เหมือนเพื่อนกูนั้นแหละ รีบๆมาเลย หิวจนจะกินหมีได้ทั้งตัวแล้วโว้ย]

ว่าแล้วควันก็ตัดสายไปทันที ผมเลยลดโทรศัพท์ลงแล้ววางไว้ที่เดิม ไม่รู้จะพูดอะไรกับหมอกเหมือนกัน ถ้าหมอกจะพาควันไปกินด้วยคงจะไม่เป็นไรมั้ง

“ถ้าพาควันไปกินด้วยจะโอเครึเปล่า”

หมอกถามเมื่อใกล้จะถึงทางแยกแล้ว ผมเกาหัวเก้อๆ แล้วทำไมเขาต้องถามความเห็นจากผมล่ะเนี่ย รถก็รถของเขา ควรจะเป็นผมมากกว่าที่ต้องเกรงใจทั้งหมอกแล้วก็ควัน

“โอเคสิ ทำไมถึงจะไม่โอเคล่ะ ไปรับควันก่อนเถอะ”

พอผมพูดอย่างนั้นหมอกก็ตีไฟเลี้ยวขวาและยูเทิร์นกลับไปทางเดิมที่เราพึ่งจากมา ผมรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆเมื่อคิดได้ว่าครั้งนี้ผมต้องไปที่คอนโดของหมอก และเผลอๆอาจจะได้ขึ้นไปที่ห้องของหมอกและควันด้วย

คิดเรื่อยเปื่อย จนในที่สุดหมอกก็ขับเข้ามาในคอนโดและจอดรถ ผมมองหมอกที่ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ปลดตามก่อนจะออกมาจากรถพร้อมกับหมอก

“ขึ้นไปข้างบนก่อนเถอะ”

“อืม” ผมรับคำและเดินตามหมอกเข้าไปในคอนโดเงียบๆ ถึงจะตื่นเต้นขนาดไหนแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้

หมอกพาผมขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นที่ 9 และมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหมายเลข 1 หมอกใช้บัตรสแกนเข้าที่หน้าประตูแล้วกดรหัสผ่าน ประตูห้องก็เปิดออกมา

ห้องของหมอกและควันมันกว้างกว่าที่ผมคิดเอาไว้อยู่พอสมควร ทั้งห้องเป็นโทนสีขาวดำ มีโซนนั่งเล่นที่มีจอทีวีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เยื้องไปด้านข้างเป็นมุมครัวที่ผมแอบเห็นว่ายังมีกองจานที่ยังไม่ล้างอยู่ 3-4 ใบ ถัดไปก็น่าจะเป็นห้องน้ำ และมีอีกสองห้องที่ซ่อนอยู่หลังบานประตู ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นนอนของหมอกและควันนั้นแหละ

“มาแล้วเหรอ แป๊บนะหาเสื้อใส่ก่อน”

ควันชะโงกหน้าออกมาจากห้องทางด้านซ้าย ใบหน้านั้นยังมีหยดน้ำเกาะพราว เส้นผมลู่ลงแนบกับใบหน้าขาว พอควันเห็นว่าผมยืนอยู่ด้านหลังหมอกก็ยิ้มให้ผม ผมเลยยิ้มตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้ แล้วควันก็ปิดประตูห้องกลับไปเช่นเดิม ผมแอบเหลือบมองหมอกที่ส่ายหัวน้อยๆแล้วนั่งลงบนโซฟา ผมเลยนั่งตาม

“อยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด เลยรู้นิสัยมันดีว่าอาบน้ำนานขนาดไหน” หมอกว่า แล้วหันไปทางห้องนอนของควัน

“แล้วหมอกอาบน้ำนานเหมือนกันรึเปล่า” ผมถาม อย่างน้อยถามเก็บเป็นข้อมูลไว้ก็ดี

“ฉันเหรอ...ไม่นานหรอก แล้วนี่หิวรึยัง”

“ไม่เท่าไร พอทนได้” ผมยิ้มให้หมอกไม่ต้องกังวล เราคุยกันอยู่ไม่นานประตูห้องนอนก็เปิดออก ควันขยี้ผมที่ยังชื้นอยู่ไปด้วยแล้วคว้ากระเป๋าเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมกับหมอกเลยลุกขึ้นเก็บของด้วย

“ไปกันเถอะ หิวสุดๆ” ควันว่าก่อนจะหันมาทางผมที่ยืนอยู่เงียบๆ รู้สึกทำตัวไม่ถูกเท่าไรแหะ

“ชื่อบลูใช่ป่ะ เราควันนะ แยกกับไอ้หมอกออกรึเปล่า” ควันชี้ระหว่างตัวเองและหมอกที่เดินนำหน้าพวกเราอยู่ ผมไม่อยากจะบอกหรอกว่าแยกมาได้ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วเหอะ

“เนี่ย ไอ้หมอกมันจะติ๋มๆหน่อย ตามันสองชั้นหลบใน แล้วก็จะชอบขี้เก๊ก ไม่รู้จะเก๊กไปไหน แล้วก็ถ้ามองดีๆนะ เราอ่ะหล่อกว่ามันเยอะ”

ควันยักคิ้วให้ผม ทำหน้าภูมิใจที่สุด ผมหลุดหัวเราะออกมาเพราะคิดไม่ถึงว่าควันจะเป็นคนอย่างนี้ นิสัยที่กวนๆพูดมากขนาดนี้มันค่อนข้างจะขัดกับลุคภายนอกไปอยู่มากพอสมควร

“หน้าก็เหมือนกัน ยังมาบอกว่าหล่อกว่ากู”

หมอกหันมาตบหัวควันทีเล่นทีจริง นั้นเลยทำให้ผมหัวเราะออกมาจริงๆ ขำสองแฝดที่ยืนตีกันอยู่ขณะรอลิฟต์ สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนห้ามก่อนที่จะตีกันจริงจังเสียก่อน

ระหว่างทางจากคอนโดของหมอกมาถึงที่ห้างสรรพสินค้าหมอกก็ยังคงขับรถเงียบๆ ส่วนควันก็พูดไปเรื่อย บ่นเรื่องเรียนบ้าง เรื่องเพื่อนบ้าง บางทีก็หันมาคุยกับผมที่นั่งอยู่ด้านหลัง การกระทำของควันช่วยลดช่องว่างของพวกเราไปได้เยอะจนผมเริ่มคุยได้อย่างสนิทใจกับทั้งคู่แล้ว

เมื่อมาถึงที่ร้านสุกี้ ควันที่บอกว่าตัวเองหิวจนจะกินหมีได้ทั้งตัวก็ไม่ทำให้ผมและหมอกผิดหวัง เพราะควันเล่นสั่งเกือบทุกอย่างที่อยู่ในเมนูจนพนักงานจิ้มเมนูตามแทบไม่ทัน เมื่ออาหารวางเต็มโต๊ะ เราก็จัดการโยนทุกอย่างลงใส่หม้อสุกี้อย่างรวดเร็ว เร่งไฟจนสุดแล้วก็กินติ่มซำรอ

“กินเป็ดย่างมั้ย”

หมอกที่นั่งอยู่ข้างผมถาม ผมเลยพยักหน้าตอบตกลง แล้วเนื้อเป็ดก็มาวางอยู่ที่จานของผมทันที

“ป้อนด้วยเลยสิครับคุณหมอก” ควันที่นั่งตรงข้ามพวกเราส่งเสียง และคีบเนื้อเป็ดในจานขึ้นมาบ้าง “ถ้าไม่ป้อน เดี๋ยวกูป้อนเองน๊า”

“แดกเงียบๆไปเลยมึง”

หมอกพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆอย่างเคย ส่วนควันก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และกินเนื้อเป็ดชิ้นนั้นที่ยกขึ้นมาแกล้งผม



ส่วนผมน่ะเหรอ...หน้าแดงลามไปถึงหูแล้วมั้งตอนนี้อ่ะ T_______T







หลังจากเรากินสุกี้ด้วยกันเสร็จ ควันที่บ่นว่าของใช้ในห้องหมดแล้วก็ลากหมอกไปซื้อด้วยกัน ผมที่ติดสอยห้อยตามมาตั้งแรกก็ได้แต่เดินตามทั้งสองคนไปยังโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย

“ยาสีฟันที่ห้องมึงหมดยังอ่ะ จะได้ซื้อไปเผื่อ” ควันหันไปถามหมอกที่ยืนเฝ้ารถเข็นไว้

“ซื้อๆมาเถอะ”

“เออ เดี๋ยวพี่ควันจัดให้”

พูดพร้อมกับชูแพคยาสีฟันใส่หน้าหมอกที่ยืนอยู่นิ่งๆด้วยจากนั้นก็โยนของที่หยิบมาใส่รถเข็น แล้วเดินตัวปลิวไปซื้อสบู่เหลว ยาสระผม กระดาษทิชชู่ ผงซักฟอก และอีกหลายอย่างที่ผมสาธยายไม่หมด รู้ตัวอีกทีของก็พูนจนเกือบล้นรถเข็น

พอเข็นไปจ่ายเงิน พนักงานที่คิดเงินเธอก็ทำหน้าฟินเหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง ยิ้มหน้าบานขณะที่คิดเงิน ส่วนสองแฝดที่ยืนอยู่ข้างๆผมเหมือนจะไม่ได้สนใจเท่าไรว่าคนรอบกายจะปลื้มปริ่มกับความหล่อแพคคู่ขนาดไหน จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตเสร็จเราทั้งสามคนก็เดินกลับมาที่รถ ผมยืนมองดูหมอกและควันช่วยกันโยนของทั้งหมดใส่หลังรถเสร็จแล้ว เราถึงกลับจากห้างสรรพสินค้าได้ตอนที่ห้างเกือบจะปิดพอดี

“บลูรู้จักไอติมรึเปล่า...เดือนคณะแพทย์อ่ะ”

“รู้จักสิ...ดังจะตาย”

ควันชวนผมคุยเมื่อนั่งอยู่ในรถมาได้สักระยะ ผมนึกไปถึงคนที่ควันถาม ไอติม...เดือนคณะแพทยศาสตร์ ผมไม่ค่อยสนิทเท่าพวกเพลิง มาร์ช หรือเจ๋ง แต่ไอติมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ป๊อบมากๆในกองประกวด ผู้ชายอะไรทำไมถึงได้ดูนุ่มนิ่มไปทั้งตัวขนาดนั้น ไอติมตัวไม่สูงมากแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าตัวเล็ก เจ้าตัวมีใบหน้าเล็ก ดวงตากลม จมูกโด่งเป็นสัน ปากเป็นกระจับ ทุกอย่างบนใบหน้านั้นมันรับกันหมด พูดตามตรงว่าถึงผมจะชอบหมอกมาก แต่ไอติมนี่ผมก็ปลื้มไม่น้อยเลยทีเดียว

“เพื่อนสนิทเราเองแหละ อยู่ในกองประกวดก็ฝากดูแลมันหน่อยนะ มันยิ่งดูเปลี้ยๆอยู่ โชคร้ายที่ปีนี้พวกรุ่นพี่อยากได้เดือนแนวเกาหลีไปลงแข่งกับคณะอื่น หวยเลยตกไปอยู่ที่มัน”

ควันพูดขำๆ ผมฟังแล้วก็นึกถึงเพลิง รายนั้นก็โดนจับเป็นเดือนเพราะหมอกไม่ยอมประกวด ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง น่าจะซ้อมการแสดงที่คณะมันนั้นแหละ เก็บเป็นความลับขนาดนี้

เราคุยกันมาตลอดทางจนในที่สุดรถของหมอกก็จอดเทียบฟุตบาทเหมือนทุกครั้งที่เคยมาส่ง ผมบอกลาทั้งสองคนและลงมาจากรถ ยืนส่งเหมือนทุกครั้งที่มาด้วยกันจนเมื่อรถของหมอกหายไปจากกรอบสายตาผมถึงได้ขึ้นห้อง

เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ผมอาบน้ำและใส่แว่นตา สวมรีเทนเนอร์แล้วนั่งลงที่หน้าคอมพิวเตอร์ แต่วันนี้มีสิ่งที่พิเศษกว่าทุกวัน ผมหยิบกระเป๋ากีต้าร์มา เช็คกีต้าร์ลูกรักที่ใช้เงินเก็บซื้อมาหัดเล่นสมัยมัธยม ปรับสายนิดหน่อยแล้วผมก็เข้ายูทูป ดูเพลงที่ผมเลือกใช้ในการแสดง และเริ่มเล่นคอร์ดแรกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ระหว่างนั้นผมก็เปิดหน้าเฟสบุ๊คไว้ด้วย ดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนในโลกโซเชียลไปพลางๆ แล้วก็เห็นแจ้งเตือนล่าสุดเป็นของเพลิง มันทักมาในหน้าเฟสบุ๊คของผม คงจะสร้างกระแสอะไรอีกแล้วรึเปล่าเนี่ย



Plerng Palapol > Punnawit thanawatchai
Just now


ซ้อมที่คณะเหนื่อยมั้ยคะคนดี? อยู่ทางนี้เหนื่อยมากๆเลย


56 คนถูกใจ 10 คอมเมนต์ 3 แชร์

หืม? แล้วทำไมคนอื่นมากดไลค์ ถูกใจเร็วกันขนาดนี้ ติดดาวพวกผมสองคนไว้รึไง ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วพิมพ์ตอบมัน

Punnawit thanawatchai : ซ้อมหนักจนเป็นบ้าเหรอ?

Plerng Palapol
: หยอกให้บางคนมันหึงเล่น อิอิ




ใครกัน?



ผมไม่ได้สนใจคอมเมนต์ของคนอื่นที่เข้ามาแซวผมและเพลิง ในหัวยังคงคิดว่าใครกันที่กำลังหึงผมอยู่ ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลย คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดหรอกมั้ง


อย่างหมอกน่ะเหรอ จะหึงผม...



อย่าสำคัญตัวเองเกินไปดิวะไอ้บลูเอ๊ยยยยย





tbc.

พี่ควันมารับเชิญเล็กๆน้อยๆพอกรุบๆ
อาจจะพูดมากผิดคาแรคเตอร์ไปนิด เดี๋ยวเรื่องตัวเองล่ะจะฮาไม่ออก5555
คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้กันหน่อยนะคะ
ตอนต่อไปมีสเปเชียลวันวาเลนไทน์มาเสิร์ฟแน่นอนค่าาา



ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ควันน่ารักอ่ะ พูดมาก ร่าเริง อัธยาศัยดีเหลือเกิน คิดว่าจะแบด ๆ กวน ๆ เสียอีก
ตัวละครเพิ่มอีกหนึ่งละ ไอติม น้องบลูบรรยายซะรู้สึกได้ถึงความเด่นเลยอ่ะ จะมามีบทบาทยังไงน้อ
ว่าแต่ ควันจะมีเรื่องของตัวเองเหรอเนี่ย แล้วทำไมจะฮาไม่ออกล่ะ จะดราม่าเหรอ แง T^T
หมอกจ๋า คิดยังไงกับบลูก็บอกชัด ๆ ก็ดีน้า น้องบลูจะได้ไม่คิดว่า คิดเข้าข้างตัวเอง
สงสัยต้องให้เพลิงคอยกระตุ้นมากกว่านี้ซะแล้ว 555

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ควันกับไอติมใช่หรือไม่

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ควันนี่ดูเฮฮาไม่นิ่งเหมือนหมอก
เชียร์ให้หมอกสารภาพรักกะบลูสักที   
#ทีมหมอกบลู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
ชอบควันอ่ะ พูดมากดี คู่กับไอติมหรือเปล่า
อันนี้ชิปเอง ใครจะขึ้นเรือไปกับเราบ้าง55

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ควันพูดมากอ่ะ5555 ดูอัธยาศัยดี แตกต่างจากหมอกเลย

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ควันน่ารักกกกกกก
ดูสดใส ร่าเริงต่างจสกหมอกมากกก :laugh: :laugh:
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0



ตอนพิเศษ
สุขสันต์วันแห่งความรัก




“สุขสันต์วันแห่งความรัก ให้ใครต่อใครเขา

สุขสันต์วันแห่งความเหงา ให้เราที่ต้องเดียวดาย

วันนี้เป็นอีกปีแล้ว Bad Valentineeeeeeee”



เสียงของเพื่อนในห้องเรียนที่ร้องเพลงฮิตของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เหมือนทุกๆปีทำให้ร่างโปร่งในชุดนักเรียนที่นั่งอยู่หลังห้องมองยิ้มๆ

บลูหยิบหนังสือการ์ตูนโคนันขึ้นมาอ่านเล่น เพราะคาบนี้อาจารย์ทุกคนติดประชุมด่วน ทั้งโรงเรียนเลยไม่มีการเรียนการสอน เพื่อนๆหลายคนเลยใช้โอกาสนี้ในการหยิบดอกกุหลาบที่ซื้อมาจากหน้าโรงเรียนเอาไปให้คนที่แอบชอบ...หรือคนที่รัก

บลูมองเพื่อนผู้หญิงกลุ่มหนึ่งหน้าห้องที่ผลัดกันติดสติกเกอร์รูปหัวใจให้กันจนเริ่มเต็มเสื้อนักเรียน บางคนที่ดราม่าหน่อยก็เปิดเพลงเศร้าๆในวันแห่งความรักประชดชีวิตที่ยังไม่มีแฟนเหมือนคนอื่นเขา


ดูๆไปก็สนุกดี



บลูคิดอย่างนั้น


“บลู เอาเสื้อมา” เสียงแหบๆเรียกเขาที่กำลังนั่งมองเพื่อนๆอยู่ บลูหันไปมองก็พบว่าว่านกำลังถือแผ่นสติกเกอร์อยู่ตรงหน้า ร่างโปร่งไม่ได้พูดอะไร แล้วยื่นเสื้อให้ว่านที่แกะสติกเกอร์รูปหัวใจดวงที่ใหญ่ที่สุดแปะลงบนหน้าอกเขา

“ไม่มีแฟนก็ไม่เป็นไรนะมึง กูติดให้มึงแล้ว” ว่านพูดยิ้มๆ ก่อนจะตบที่อกเขาเบาๆ

“ขอบคุณที่ตอกย้ำกู” บลูว่า และทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แล้วนี่มึงไม่มีดอกกุหลาบเหมือนคนอื่นเหรอวะ ลงไปซื้อที่โรงอาหารมั้ย” ว่านชวน เพราะมองไปรอบโต๊ะก็ไม่เห็นว่าบลูจะมีดอกกุหลาบเหมือนคนอื่น แต่คนที่ถูกชวนก็รีบส่ายหน้า

“ไม่ซื้อหรอก เปลืองเงิน กูเอาเงินค่าดอกไม้ไปกินข้าวได้ตั้งมื้อนึง”

“คนไม่อินอย่างมึง ก็ไม่อินจริงๆสินะ”

ว่านพูดพร้อมกับผลักศีรษะเพื่อนด้านข้างเบาๆ บลูได้แต่ลูบผมแล้วคิดในใจคนเดียว


...ใครว่าเราไม่อินล่ะ...นี่อินสุดเลยเหอะ...




“ไปกินข้าวกันเถอะ”

ว่านดึงแขนบลูที่ยังคงเก็บของบนโต๊ะไม่เสร็จ แอบสงสัยว่าทำไมวันนี้บลูดูเฉื่อยมากผิดปกติ ทั้งๆที่เวลาพักเที่ยงทีไรพวกเขาทั้งสองคนจะวิ่งออกจากห้องเพื่อให้ไปถึงโรงอาหารเป็นคนแรกๆเสมอ แต่คราวนี้เพื่อนทั้งห้องเริ่มไปที่โรงอาหารกันแล้ว บลูก็ยังเก็บของไม่เสร็จสักที

“มึงไปกับพวกแดนก่อนเลยเถอะ เดี๋ยวตามไป” บลูบอกคนที่ยังยืนรออยู่ด้านข้าง

“อ่าว แล้วมึงไม่กินข้าวเหรอ” ว่านถามด้วยสีหน้างุนงง

“จะไปกินอยู่ แต่อาจารย์นพดลเรียกไปพบก่อนน่ะ”

“เอ้า! ก็ไม่บอกกูก่อน งั้นเดี๋ยวไปจองที่ไว้รอนะ รีบตามมาล่ะ” ว่าแล้วว่านก็รีบวิ่งออกไปจากห้องเรียนทันที

บลูมองจนว่านออกไปแล้วก็เผลอถอนลมหายใจเบาๆ รอจนกระทั่งห้องเรียนของเขาไม่เหลือใคร ฟังเสียงแล้ว ทั้งชั้นนี้ก็คงไม่มีใครอยู่แล้วเช่นกัน บลูถึงได้ลุกขึ้นแล้วเปิดกระเป๋าเป้ หยิบเอากล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีฟ้าออกมา เช็คความเรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ห้องเรียนม.4/1 ซึ่งเป็นห้องของใครบางคน…

บลูเดินผ่านห้องม.4/1 อยู่ทุกวันและรู้ว่าโต๊ะตัวไหนเป็นของคนที่เขาแอบมองมาโดยตลอด บลูเดินไปอย่างไม่ลังเล แอบมองไปรอบๆโต๊ะก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีของขวัญหรือดอกกุหลาบวางอยู่บนโต๊ะเลย

หรือเขาจะเป็นคนแรกงั้นเหรอ...

คิดได้ดังนั้นบลูก็แอบยิ้มเพียงคนเดียว และวางกล่องของขวัญที่เขาตั้งใจทำตั้งแต่เมื่อคืนลงบนโต๊ะนักเรียนตรงหน้า


สุขสันต์วันแห่งความรักนะหมอก...

   





.

..

...




“อ้าว หมอกจะไปไหนวะ”

เสียงของกลุ่มเพื่อนเรียกร่างสูงที่กำลังจะเดินถึงโรงอาหารแล้ว แต่ก็ชะงักไปเมื่อจับกระเป๋ากางเกงแล้วพบว่าไม่มีอะไรติดตัวเลย ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมาหาเพื่อนที่ยืนรออยู่หน้าโรงอาหารแล้วบอกให้เพื่อนเข้าใจ

“เข้าไปก่อนเลย กูลืมกระเป๋าเงินว่ะ เดี๋ยววิ่งไปเอาแป๊บ”

“เออๆ รีบไปรีบมา เดี๋ยวพวกกูจองโต๊ะไว้รอ”

พยักหน้าเสร็จก็รีบวิ่งไปที่อาคารเรียนอย่างรวดเร็ว สวนทางกับนักเรียนอีกหลายร้อยคนที่มุ่งหน้ามาโรงอาหาร สาวๆบางคนก็ตกใจ พยายามจะหยิบสติกเกอร์รูปหัวใจมาแปะเสื้อคนหล่อของโรงเรียน แต่หมอกก็ยกมือปฏิเสธเสียก่อน

“เดี๋ยวขอไปเอากระเป๋าเงินก่อนนะ เดี๋ยวค่อยไปติดที่โรงอาหาร”

พอพูดอย่างนั้นพวกเธอก็เหมือนต้องมนต์ รีบพยักหน้าและแหวกทางให้คนหล่อไปถึงที่หมาย หมอกวิ่งมาถึงชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นห้องเรียนของนักเรียนม.4 เดินมาด้วยความเหนื่อยแต่แล้วก็ต้องชะงักปลายเท้าที่หน้าห้อง เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำอะไรลับๆล่อที่โต๊ะของเขาอยู่

ถ้ามาขโมยกระเป๋าเงินเขา หมอกจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย คอยดูสิ

ร่างสูงไม่ได้เดินเข้าไปในห้องให้โจรตกใจ รอจนผู้ชายที่หันหลังให้เขาอยู่เดินจากไป หมอกก็รีบเดินไปที่โต๊ะ มองหากระเป๋าเงินเป็นอย่างแรกแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อพบว่ามันยังนอนแอ้งแม้งอยู่ใต้โต๊ะของเขา

หมอกรีบยัดกระเป๋าเงินใส่กระเป๋ากางเกง แล้วดวงตาเรียวก็มองกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีฟ้าอยู่บนโต๊ะของเขา หัวคิ้วเผลอขมวดโดนไม่รู้ตัวแล้วก็ยกกล่องของขวัญขึ้นมาดูด้วยความงงๆ


ของขวัญวันวาเลนไทน์งั้นเหรอ...


แปลก...ทำไมแหวกแนว เทศกาลนี้มันต้องสีชมพูไม่ใช่เหรอ...


หมอกไม่ได้คิดอะไรมาก โยนของขวัญใส่กระเป๋าเป้แล้วก็วิ่งกลับไปโรงอาหารอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าเพื่อนๆคงจะรอเขาอยู่




ด้านบลูที่ไปกินข้าวแล้ว และกลับขึ้นห้องเรียนตอนเกือบบ่ายโมง ขณะที่เดินผ่านห้องม.4/1 ใจดวงน้อยก็กระตุกเมื่อเห็นว่าโต๊ะที่พึ่งแอบไปวางของขวัญที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำมาทั้งคืน บัดนี้เต็มไปด้วยกองดอกไม้และของขวัญเต็มโต๊ะ ดวงตากลมสอดส่องด้วยความรวดเร็ว และก็ไม่พบของขวัญของตัวเองเลยว่าอยู่ตรงไหนของกองของขวัญบนโต๊ะหมอก

“มีอะไรวะบลู” เสียงของว่านดังด้านหลัง ร่างโปร่งที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องม.4/1 สะดุ้งเบาๆก่อนจะรีบส่ายหัวเร็วๆ

“ไม่มีอะไรๆ เข้าห้องเถอะ”

ว่านไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร เดินกอดคอเพื่อนรักเข้าห้องเรียนของตัวเอง บลูแอบถอนหายใจพรืด การเรียนการสอนในช่วงบ่ายดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งเมื่อคาบสุดท้ายหมดลง ทุกคนก็รีบเก็บของและกลับบ้าน

บลูก็เช่นกัน...ร่างโปร่งเก็บของใส่กระเป๋าและเดินตามว่านออกจากห้องเรียน ในจังหวะที่ผ่านหน้าห้องม.4/1 ร่างโปร่งก็เผลอมองเข้าไปในห้องและพบว่ากองดอกไม้ที่เขาจำได้ว่าเป็นของหมอกแน่ๆนั้นวางอยู่ที่หลังห้องโดยที่ไม่มีใครสนใจ

จู่ๆหัวใจดวงน้อยรู้สึกเสียใจขึ้นมาดื้อๆ แค่คิดว่าของขวัญที่ให้หมอกไปแล้วอยู่ในกองดอกไม้ราวกับของไร้ค่าก็รู้สึกร้อนรอบดวงตาขึ้นมาซะงั้น เลยรีบก้มหน้าและเดินกลับบ้านให้เร็วที่สุด


แค่ให้ได้เขาก็พอแล้วไอ้บลู เขาจะเอาไปหรือไม่มันก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว อย่าไปหวังมากดิ





ด้านหมอกที่กลับมาถึงบ้านพร้อมกับควัน รายนั้นรีบเปลี่ยนชุดจนหล่อแล้วก็ไปดูหนังกับแฟนคนล่าสุดเรียบร้อย ส่วนหมอกก็วางกระเป๋าลงและเปลี่ยนชุดออกไปเล่นบาสเกตบอลเหมือนทุกวัน ไม่ได้รู้สึกว่าวันนี้มันพิเศษกว่าทุกวัน ดอกไม้และของขวัญที่เขาได้ หมอกก็แค่วางมันไว้ที่หลังห้องเรียนเพราะขี้เกียจหอบกลับบ้านให้ปวดแขน

พอเล่นบาสกับเพื่อนจนเสร็จ กลับมาถึงบ้านก็เป็นลูกมือช่วยแม่ทำอาหารเย็น เมื่อกินข้าวเสร็จหมอกก็ขึ้นห้องนอน อาบน้ำให้สดชื่นก็หยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นมาเปิดเอาการบ้านขึ้นมาทำ แต่มือหนาก็ชะงักเมื่อพบว่าใต้หนังสือเรียนมีอะไรบางอย่างที่แปลกเกินกว่าจะเป็นหนังสือ

พอเห็นว่ามันคือกล่องของขวัญสีฟ้า ที่มันเรียบและบางจนคล้ายหนังสือ หมอกเลยเผลอหอบติดกระเป๋ากลับมาด้วย...พอนึกว่ามันเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ชิ้นเดียวที่เขาเอากลับมา หมอกเลยลองแกะดู

กรอบรูปลายไม้สีน้ำตาลปรากฏสู่สายตา ข้างในเป็นภาพของเขาที่ถ้ามองดีๆจะพบว่ามันมีภาพเล็กๆซึ่งเป็นภาพของเขาจากที่ต่างๆประกอบกันขึ้นเป็นใบหน้าของเขา

นึกทึ้งว่าคนๆนี้ต้องมีความพยายามขนาดไหนถึงสามารถทำอะไรที่มันละเอียดขนาดนี้ได้กันนะ

พอพลิกดูด้านหลังก็พบตัวหนังสือเล็กๆเขียนไว้ที่มุมกรอบรูป



‘ Happy Valentine’s Day for you
Foggy ’



หมอกอมยิ้มนิดๆ ไม่รู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงคือใคร จำได้แค่ว่าเป็นผู้ชาย หน้าตาเป็นยังไงเขาก็ไม่รู้ ร่างสูงไม่ได้พยายามคิดว่าเขาคนนั้นเป็นใคร เพียงแค่ขอบคุณในใจสำหรับของขวัญชิ้นนี้และตั้งกรอบรูปไว้ที่หัวนอน มองอยู่อย่างนั้นสักพักก็หันไปสนใจการบ้านที่กองอยู่บนที่นอนแทน



วันวาเลนไทน์สำหรับหมอก...มันก็มีแค่นี้แหละ





tbc.

แน่นอนว่าเราไม่พลาดสำหรับวันนี้
ตอนนี้ย้อนเวลากลับไปตอนม.4 ตอนนั้นหมอกยังไม่รู้จักบลูเเลย (หรือว่ารู้จักแล้วน๊า)
คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ง่าาาา น่ารักกก ถ้าบลูรู้ว่าหมอกเก็บของขวัญกลับมาต้องดีใจแน่ๆเลย

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
บลูน่ารักกกกกกกกก แอบรักมาตั้งแต่ม.4เลยลูกกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โธ่ ตกใจนึกว่าหมอกจะรู้แล้วจับได้ตั้งนานแล้วว่าเป็นบลู

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 6
ดอกกุหลาบสีแดง 12 ดอก




หลังจากวันนั้นที่ผมไปกินสุกี้กับหมอกและควัน ผมก็ไม่ได้เจอกับหมอกอีกเลย เพราะตอนนี้ผมกำลังยุ่งกับการประกวดดาว-เดือนที่กำลังใกล้เข้ามามากถึงมากที่สุด แต่ละวันผมต้องตื่นไปเรียน เสร็จแล้วก็ซ้อม ซ้อมที่กองประกวดเสร็จก็เที่ยงคืน แล้วต้องแบกร่างพังๆมาซ้อมการแสดงต่อที่คณะ ฝึกซ้อมตอบคำถาม กว่าจะเสร็จแต่ละวันก็ปาเข้าไปเกือบเช้า แล้วก็กลับไปอาบน้ำและมาเรียนต่อ


ชีวิตผมวนลูปอย่างนี้มาได้จะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วครับ


ตาคล้ำยิ่งกว่าหมีแพนด้าซะอีก...

แต่ถึงผมจะไม่ได้เจอหมอก แต่เราก็ยังแชทคุยกันบ้างประปราย เขาส่งข้อความมาให้กำลังใจผมอยู่ทุกวัน ราวกับเป็นน้ำหล่อเลี้ยงร่างกายชนิดเยี่ยมเลยทีเดียว

“มึง กูไม่ไหวแล้วว่ะ”

เพลิงหันมาร้องโอดครวญหลังจากที่เราซ้อมเดินแบบเสร็จ ผมตบหลังมันปุๆให้กำลังใจ ทั้งๆที่สภาพร่างกายผมก็ไม่ต่างจากมัน

“อดทนเอามึง พรุ่งนี้เราก็จะเป็นไทแล้ว”

ใช่ครับ พรุ่งนี้ก็ถึงวันงานแล้ว วันนี้เราเลยยิ่งซ้อมกันอย่างหนักหน่วง ดาว-เดือนจากทุกคณะมาซ้อมที่เวทีจริงที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้ เราซ้อมเดินและฟิกซ์ตำแหน่งเอาไว้บนเวทีใหญ่ ตอนนี้พวกพี่ๆกำลังลองเช็คเสียงลำโพง และพวกแสงสีไฟบนเวทีอยู่ พวกผมถึงได้นั่งพักกันสักที

“พรุ่งนี้กูขออย่างเดียวว่าอย่าให้กูได้ตำแหน่งอะไรเลย กูไม่อยากทำอะไรแล้ววว พอแล้วววว”

เพลิงว่าแล้วก็นอนแผ่ลงบนพื้นโดยไม่สนว่ามันจะสกปรกขนาดไหน หัวของมันพาดลงที่ต้นขาของผมและใช้แทนหมอน ผมมองอย่าเอือมๆและก็ภาวนาให้ผมไม่ได้ตำแหน่งอะไรเช่นกัน เพราะถ้าได้ตำแหน่งปุ๊บ งานทุกอย่างของมหา’ลัย ก็จะต้องมากองอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธที่จะทำก็ไม่ได้อีก


Rrrrrrrrrrr


เสียงร้องโทรศัพท์ที่ไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น เพลิงขยับตัวนิดหน่อย แล้วหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมาสไลด์รับโทรศัพท์

“ฮัลโหล...เออ ซ้อมอยู่ที่เวทีจริง...ใช่...ถามทำไม...คิดถึงหรา...มันอยู่กับกูเนี่ย...อยากคุยหรอครับเพื่อนนนนน”

ผมมองเพลิงด้วยสายตางุนงงเมื่อเพลิงยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้ผม แล้วมันก็ทำหน้าเป็นเชิงว่าให้ผมรับไปคุย

“อะไร” ผมถาม

“รับไปคุยเหอะหน่า เพื่อนกูอยากคุยด้วย”

ผมรับโทรศัพท์ที่เพลิงแทบจะยัดใส่มือผม แนบโทรศัพท์กับหูแล้วกรอกเสียงลงไป

“เออ...สวัสดีครับ”

[เป็นไงบ้าง]

น้ำเสียงทุ้มที่คุ้นเคยตอบกลับมา ทำให้หัวใจของผมมันเต้นรัวเร็วอย่างช่วยไม่ได้

“มะ...หมอก...หมอกเหรอ”

[อืม...ซ้อมหนักรึเปล่า]

“ก็หนักอยู่” ผมว่า กลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะไม่เคยคุยกันผ่านโทรศัพท์แบบนี้เลย

[สู้ๆแล้วกันนะ]

“ขอบคุณ...เออ...พรุ่งนี้จะมาดูมั้ย” ผมถามเสียงแผ่วเบา ไม่สนสายตาเพลิงที่กำลังทำหน้าล้อเลียนอยู่

[ไปสิ หาฉันให้เจอก็แล้วกัน]

“อืม...แล้วจะรอนะ”

ผมว่า และหมอกก็ตอบรับ เราคุยกันอีกนิดหน่อย หมอกก็วางสาย ผมเลยคืนโทรศัพท์ให้เพลิงที่ยิ้มล้อเลียนผมสุดๆ

“พรุ่งนี้จะมาดูมั้ย...แล้วจะรอนะ” เพลิงแกล้งบิดเสียงเล็กๆแล้วก็อปประโยคที่ผมพึ่งพูดเมื่อครู่ ผมเลยอดไม่ไหวบิดแขนมันอย่างแรงจนมันร้องโอดโอย วิ่งเหยงๆไปหามาร์ชกับเจ๋งแทน แต่ไม่วายยังแลบลิ้นปลิ้นตาให้ผม

“เหม็นความรัก!”

มันว่าอย่างนั้นแล้วหัวเราะดังลั่น ทิ้งผมที่นั่งหน้าแดงไว้ที่เดิม อย่างให้ถึงตาผมเอาคืนบ้างนะ จะล้อจนไปไหนไม่ได้เลย หื้ม!




.
..






และแล้ววันที่พวกผมรอคอยก็มาถึง วันนี้ตอนเช้าพวกเราทั้งหมดก็มาซ้อมเดินแบบ และรันคิวทุกอย่างอีกครั้ง เมื่อซ้อมเสร็จ พี่ปูเป้ก็พาผมและแป้งไปแต่งหน้า แต่งตัวยกใหญ่ เปลี่ยนหมีแพนด้าสองตัวให้กลับสภาพมาเป็นคนได้ในที่สุด ชุดแรกที่ใส่คือชุดนักศึกษา เลยแต่งไม่ยากมากนัก พอแต่งตัวเสร็จผมเลยของีบสักพัก เพราะเหลือเวลาอีกสองชั่วโมง งานทุกอย่างถึงจะเริ่ม


“เป็นไงบ้างแป้ง สวยจังเลย”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ผมลืมตาก็เห็นว่าเป็นว่านที่กำลังดูแป้งแต่งหน้าอยู่ ก่อนที่มันจะเห็นผมและเดินเข้ามาหา

“เพื่อนบลู วันนี้มึงหล่อสุดๆไปเลยนะสัส”

“ขอบคุณที่อุตส่าห์ชมกู” ว่าแล้วก็รับขนมปังที่ฝากว่านซื้อมา แล้วก็ฉีกซองเพื่อกิน

“เออ...กูกับเพื่อนในสาขารวบรวมเงินซื้อดอกกุหลาบมาแล้วนะ เห็นตอนแรกนี่กูถึงกับทำตัวไม่ถูก กองประกวดแม่งเล่นใหญ่สุด”

“ทำไมเหรอ” ผมถามอย่างสนใจ ก็พอจะรู้มาบ้างว่ารางวัลป๊อบปูล่าร์ต้องซื้อดอกกุหลาบให้ แต่ก็อยากรู้ว่ากองประกวดเล่นใหญ่อย่างไร

“ตอนพวกกูไปซื้ออ่ะมึง แม่งมีดอกกุหลาบใส่ถังใหญ่ๆวางเรียงอยู่ห้าสี มีสีแดง ชมพู เหลือง ขาว แล้วก็ส้ม มีความหมายของดอกแต่ละสีแปะไว้ด้วยนะ ยังไม่พอ มีบริการห่อเป็นช่อให้อีกถ้าซื้อมากกว่าหนึ่งดอก”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามทึ่งๆ

“ก็เออน่ะสิ กูนึกว่าวันวาเลนไทน์ซะอีก แต่ขายดอกล่ะ 50 บาท ผู้ชายที่ไหนจะซื้อไปให้คนที่ชอบกัน ขูดเลือดขูดเนื้อชิบหาย”

“เอาน่า อย่าไปบ่นเลย เขาก็หารายได้เข้ากองประกวดนั้นแหละ”

ผมว่าอย่างนั้นก่อนจะลุกขึ้นเพราะพี่หมิวที่เป็นช่างแต่งหน้าเรียกให้ผมไปเติมแป้ง และเตรียมตัวได้แล้ว เพราะต้องไปรวมตัวกับคณะอื่นแล้วตอนนี้



ตอนนี้งานเริ่มแล้ว ผมที่ยืนอยู่หลังเวทีได้แต่ถูมือไปมาอย่างตื่นเต้น ได้ยินเสียงกรี๊ดดังอยู่ตลอด จนเมื่อพิธีกรแนะนำผู้เข้าแข่งขันแต่ละคณะ ผมก็ถูกทีมงานพาไปยังที่บันได สูดลมหายใจเข้าลึกๆและฟังเสียงพิธีกรไปด้วย

“หมายเลข M06 นาย พลพล  เพลิงพานิชย์ จากคณะนิติศาสตร์”

ผมแอบมองเพลิงที่เดินขึ้นไปบนเวที เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มต้อนรับมันอย่างอบอุ่น แล้วไอ้เพลิงก็โปรยรอยยิ้มอยู่เรื่อยๆ ผมบอกได้เลยว่าสาวๆหน้าเวทีต้องละลายอ่ะ

“หมายเลข M07 นาย เหมันต์  วัฒนาวุฒศกุล จากคณะแพทยศาสตร์”

ไอติม...ขวัญใจหลายๆคนทั้งในกองประกวดและคนทั้งมหาวิทยาลัย ผมมองเดือนคณะแพทย์ที่เดินออกไปด้วยท่าทางคล่องแคล่วมั่นใจ เสียงกรี๊ดดังอย่างต่อเนื่อง รอยยิ้มของไอติมมันสว่างไสวมาก ผมยังชอบเลย...

“หมายเลข M08 นาย ปุณณวิช  ธนาวัฒน์ชัย จากคณะวิทยาศาสตร์”

ในขณะที่กำลังหลงใหลกับรอยยิ้มของไอติม ผมก็โดนเรียกชื่อให้เดินออกไป เมื่อได้สติผมก็สูดลมหายใจและเดินออกไปกลางเวทีตามที่ซ้อมมามากกว่าร้อยรอบ พอได้มายืนอยู่กลางเวที แสงไฟ สปอร์ตไลท์ก็ส่องเข้ามายังผม เสียงกรี๊ดของผู้คนรอบเวทีทำให้ผมไม่ได้ยินเสียงดนตรี แต่ผมก็ตั้งสติและเดินไปเรื่อยๆตามที่ซ้อม ไม่ลืมที่จะยิ้มให้ดูหล่อที่สุดเท่าที่จะหล่อได้ จนเมื่อเดินมายืนข้างไอติมแล้วผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พิธีกรก็ประกาศหมายเลขต่อจากผม

รอจนประกาศทั้งดาวและเดือนเสร็จ ผมก็ได้กลับไปหลังเวที รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดที่ใช้สำหรับทำการแสดง ผมได้แสดงลำดับที่ 8 ตามหมายเลขของผม เลยไม่ค่อยเร่งรีบเท่าไร ผมเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแลคสีดำ มีผ้าพันคอเล็กๆเป็นกิมมิค พี่ช่างทำผมมาเซ็ทผมให้เปิดหน้าผาก โชว์กรอบหน้าเต็มๆ เติมแป้ง เติมลิปจนเสร็จ ก็เอากำไลผ้าที่ตกแต่งด้วยดอกไม้มาใส่ที่ข้อมือด้านขวาผม

“เหมือนเจ้าชายน้อยมากๆเลยน้องบลู” พี่ปูเป้ยิ้มกว้าง ถ่ายรูปผมรัวๆ

“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“ขนาดนั้นเลยจ๊ะ ไปกันเถอะ จะถึงคิวเราแล้ว”

ผมเลยหยิบกีต้าร์ลูกรักขึ้นมา ถือมันออกมาจากห้องแต่งตัว ตอนนี้ไอติมกำลังทำการแสดงอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้ดูว่าไอติมกำลังแสดงอะไรเพราะพี่ปูเป้นั้นเช็คความเรียบร้อยของผมจนนาทีสุดท้าย ได้ยินเสียงปรบมือเกรียวกราว ไอติมคงจะแสดงเสร็จแล้วแน่ๆ

“พร้อมมั้ยน้องบลู” พี่ปูเป้ถามอีกรอบ ตอนนี้ผมได้ยินเสียงพิธีกรประกาศชื่อการแสดงของผมแล้ว

“พร้อมครับ”

ผมหายใจเข้าลึกและถือกีต้าร์เดินขึ้นเวทีไปในความมืด นั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดเอาไว้ก่อนที่ไฟสีฟ้าจะสว่างวาบขึ้นเมื่อผมเริ่มดีดกีต้าร์คอร์ดแรก


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”


เสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอล ผมยิ้มให้กำลังใจตัวเอง มองขาตั้งไมค์ที่มีดอกไม้ประดับประดา แท่นที่ผมนั่งก็มีดอกไม้ตกแต่งเอาไว้ ผมยิ้มแล้วดีดกีต้าร์ช้าๆ ทุกคนก็เริ่มเงียบลงรอผมเริ่มทำการแสดง

“ใครร้องได้ก็ช่วยผมร้องด้วยนะครับ” ผมพูดผ่านไมค์แล้วเริ่มเล่นทำนองเพลงที่ฝึกซ้อมมาตลอดหนึ่งอาทิตย์



เช้าแล้ววันนี้ยังไม่สาย

ตื่นมาก็ร้องเพลงถึงเธอ

ท่องเอาไว้ตัวโน๊ตอย่าให้หาย

กลั่นมาจากหัวใจ

ขอให้เธอโปรดฟังนะคนดี



ผมกวาดสายตามองไปรอบๆฮอล มองหาคนที่สัญญากับผมไว้ว่าจะมาดู และผมก็เห็นเขาแล้ว...ท่ามกลางผู้คนมากมาย ผมเห็นเขาคนนั้นใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ยืนมองผมอยู่ไกลๆ ผมยิ้มออกมาและร้องเพลงต่อไปตามที่ซ้อมมา



ไม่รู้ตอนนี้เธออยู่ไหน

ไม่รู้ว่าหัวใจของเธอคิดถึงใคร

รู้ไหมว่าฉันก็หวั่นไหวก็ภายในหัวใจ

ฉันคิดถึงแต่เธอนะคนดี



สายตาของผมยังคงมีเพียงแต่เขา เพลงที่ผมพยายามจะสื่อสารไปถึงเขาคนนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้ได้รึเปล่า แต่ผมก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว...



ในความจริงฉันไม่อาจรู้เลย

แม้ว่าเธอนั้นไม่รู้จักฉันสักหน่อย

แต่ฉันก็แอบชอบเธอไม่ใช่น้อย

หัวใจฉันยังเฝ้ารอ และเฝ้าคอย

เฝ้าคอยให้เธอหันมา


ตลอดเวลาสามปีสมัยมัธยม เพลงนี้คงจะแทนความรู้สึกผมได้ดีที่สุด คนที่ได้แต่อยู่ในมุมมืด มองเขาเงียบๆโดยไม่ทำอะไร จนถึงตอนนี้ที่ผมเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเขาได้ทีละนิดๆ ผมก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา



บอกกับฉันสักนิดได้ไหม

ว่าเธอก็คิดอยู่หน่อยหน่อย

ว่าเธอก็แอบชอบฉันไม่ใช่น้อย

ให้ใจฉันได้ชื่นฉ่ำ เมื่อเฝ้าคอย

เฝ้าคอยให้เธอหันมา

มองฉันสักที



เพลงจบลงแล้ว ได้ยินเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือดังทั่วฮอลผมก็ดีใจ ผมยิ้มกว้างและโค้งขอบคุณทุกคนที่ช่วยผมร้องจนจบเพลง พี่ๆที่คอยลุ้นอยู่ด้านหลังกอดผมแน่นที่ทำการแสดงผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นผมก็ได้พักระหว่างรอให้ทุกคนแสดงเสร็จ และผมก็แต่งด้วยชุดเป็นทางการเพื่อเดินโชว์ตัวอีกครั้ง คราวนี้ผมได้รับเสียงกรี๊ดที่ดังมากกว่าเดิม แล้วก็ถึงช่วงที่ให้ดอกกุหลาบเพื่อวัดความป๊อบปูล่าร์

ทุกคณะยืนเรียงหน้ากระดาน มีสตาฟรอเก็บดอกไม้อยู่ด้านหลัง พอพิธีกรประกาศว่าเริ่มให้ดอกไม้ได้ ทุกคนก็ค่อยๆทยอยให้ดอกไม้ดาว-เดือนที่ตัวเองชื่นชอบ

ผมยิ้มกว้างและรับดอกไม้จากทุกคนที่เอามาให้ผม เพื่อนๆในคณะและในสาขาถือมาให้ผมกันคนละดอกสองดอก ผมขอบคุณทุกคน และรับดอกไม้จากว่านที่มันพยายามจะเอามาให้ผมให้ได้ แม้ว่ามันจะถูกเบียดเป็นปลากระป๋องขนาดไหน

“ขอบคุณมึงมาก”

ผมมองช่อดอกไม้ในมือที่ว่านมันคงลงทุนไปซื้อเป็นช่อใหญ่ทั้งๆที่มันพึ่งบ่นกับผมเมื่อตอนเย็นว่ามันแพงขนาดไหนแต่มันก็ยังซื้อให้ผม

“มึงแม่งโคตรฮอตไอ้บลู ร้องเพลงเมื่อกี้ตกสาวๆไปเยอะเลยสัส”

ว่านรีบพูดและออกไปเพราะมีอีกหลายคนที่รอยื่นดอกไม้ให้กับมือ ผมรับดอกไม้และขอบคุณทุกๆคนไม่หยุด

“เหลือเวลาอีก 1 นาทีสุดท้ายแล้ว รีบๆกันหน่อยนะคะ” พิธีกรประกาศ แต่แถวของผมยังคงไม่ลดลงเลยสักนิด

“30 วินาทีสุดท้ายแล้วค่ะ”

ผมได้ยินเสียงประกาศ พยายามรับดอกไม้ให้ได้มากที่สุด แล้วจู่ๆแถวของผมก็โดนแหวก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่กำลังต่อคิวให้ดอกไม้ผมอยู่แหวกทางออกให้คนคนหนึ่งที่เดินเข้ามาใกล้

ผมมองผู้ชายในเชิ้ตสีขาวที่ผมมองตลอดการแสดง เขายื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงให้ผม เหมือนนาฬิกาหยุดหมุน และผมมองเห็นเพียงแค่คนที่ยืนยิ้มให้ผมที่ด้านล่างเวที ผมไม่สนว่าจะมีใครมองมาที่พวกเราสองคนและยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป แม้แต่เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่รอบๆก็ไม่สามารถดึงความสนใจของผมไปได้

“ยินดีด้วยนะ” เขาพูด...

“ขอบคุณนะหมอก”

“หมดเวลาแล้วค่ะ!”

ผมรับช่อดอกกุหลาบมา และเสียงพิธีกรก็ประกาศหมดเวลาให้ดอกไม้พอดิบพอดี ผมถือช่อกุหลาบของหมอกไว้เอง ไม่ได้ส่งให้พี่สตาฟเอาไปเก็บ พิธีกรยังคงพูดต่อไป แต่สายตาของผมยังมองอยู่แค่เพียงหมอกที่กลับไปยืนอยู่ด้านหลังเช่นเดิม จนท้ายที่สุดผมก็ลงจากเวทีเพื่อกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษาอีกครั้งเพื่อมารอประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย

“ไม่วางช่อดอกไม้หน่อยเหรอจ๊ะ” พี่ปูเป้ถามยิ้มๆ ผมเลยวางช่อกุหลาบของหมอกไว้ข้างกีต้าร์ของผม

“ไปสแตนบายด์รอที่ข้างเวทีก่อนเถอะ เดี๋ยวกุหลาบช่อนี้พี่จะดูแลให้อย่างดีเลยจ๊ะ”

พี่ปูเป้ว่าอย่างนั้น ผมเลยพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปรอข้างเวทีพร้อมแป้ง และพิธีกรก็ประกาศให้เราขึ้นไปยืนที่เวทีเพื่อประกาศรางวัลต่างๆ

“คนที่ได้รับดอกกุหลาบมากที่สุดและคนที่ทำการแสดงได้ดีที่สุดจะได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัตินะคะ และก็มาถึงรางวัลป๊อบปูล่าร์ในค่ำคืนนี้ มาเดากันสิคะทุกคน”

พิธีกรพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ผมก็พลอยตื่นเต้นตามไปด้วยเลย

“เราจะประกาศดาวก่อนแล้วกัน ฝั่งดาวที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุดในคืนนี้ ได้ไปถึง 257 ดอกเลยทีเดียว...และคนที่ได้รับรางวัลนี้ก็คือ...น้องน้ำหวานจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ค่า”

โหหหห ตัวเก็งดาวปีนี้เลยอ่ะ เธอสวยมากจริงๆนะครับ ผมปรบมือเปาะแปะ มองเธอที่เดินไปรับสายสะพายและถ่ายรูป ก่อนจะไปยืนที่จุดสำหรับ 5 คนสุดท้าย

“มาต่อกันที่เดือนบ้างค่ะ ปีนี้เดือนของเราฮอตมากๆ สตาฟแบกดอกไม้กันแทบจะไม่ไหวเลยทีเดียว และคนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุดได้ไปถึง 303 ดอกเลยค่ะ”

“โหหหหหหหหหห” เสียงคนในฮอลก็ตกใจไม่แพ้กัน 303 ดอก ดอกละ 50 บาท คิดเป็นเงินที่กองประกวดได้ก็ 15150 บาทเลยอ่ะ

“และเดือนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุดในปีนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...น้องบลู จากคณะวิทยาศาสตร์ค่า”

เสียงพิธีกรเรียกชื่อผมพร้อมกับเสียงกรี๊ด ผมเดินงงๆไปที่กลางเวที ยกมือไหว้ทุกคนและสวัสดีอาจารย์ที่มามอบรางวัล ใส่สายสะพายเสร็จผมก็เดินขาสั่นๆไปยืนข้างน้ำหวาน

การประกาศรางวัลยังคงดำเนินต่อไป ในส่วนของการแสดง แป้งก็ได้ที่ 1 ฝ่ายดาว ส่วนฝ่ายเดือนเป็นของเพลิงที่แสดงรำมวยไทย โชว์ซิกแพคจนคนกรี๊ดฮอลเกือบร้าว จนเมื่อประกาศครบทุกคนที่ผ่านเข้ารอบแล้ว พวกผมก็ลงไปเตรียมตัวหลังเวทีเพื่อกลับมาเตรียมตอบคำถาม

ผมได้ตอบเป็นคนแรก ด้วยความตื่นเต้นมาก คำถามที่พิธีกรถามนั้นโชคดีที่มันเหมือนกับที่เตี๊ยมมา เลยทำให้ผมตอบผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด ยืนรอจนตอบคำถามกันครบทุกคน พิธีกรก็ให้เราลงไปพักอีกครั้ง เพื่อที่จะได้รวบรวมคะแนน

“กูว่ามึงได้แน่เลยไอ้เพลิง ตอบแม่งโคตรดี” ผมทักมันขณะที่พวกเรารอกลับไปบนเวทีอีกครั้ง

“ไม่ว่ะ กูว่าไอติมน่าจะได้ ตอบแบบมันเอามงไปเหอะ” เพลิงมันมองไอติมที่ยืนอยู่เงียบๆ ไอติมก็ตอบดีเช่นเดียวกัน ผมว่างั้นนะ

“แล้วดอกไม้ช่อนั้นอยู่ในเหรอครับ แกรนด์โอเพนนิ่งเหี้ยๆ” เพลิงถามแซวๆ ผมขมวดคิ้วนิดนึง

“ดอกไม้อะไร”

“เอ้า! ก็ดอกไม้ไอ้หมอกไง กับเพื่อนกับฝูงมันเอามาให้กูแค่ดอกเดียว ยัดใส่มือกูเสร็จมันก็หายไปเลย รู้ตัวอีกทีคนก็กรี๊ดทั้งฮอล กูเลยเห็นว่ามันกำลังยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ให้มึงอยู่ไง”

“ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นสักหน่อย” ผมเกาแก้มแก้เขินเบาๆ พูดไม่ออกเลยอ่ะ

“ไม่ได้ใหญ่ห่าอะไร ใหญ่สุดในงานแล้วเหอะ”

เพลิงมันว่า ก่อนที่ผมจะได้ตอบ พี่ๆก็เรียกเราขึ้นไปบนเวที ผมสูดลมหายใจลึก เดินขึ้นไปตามหมายเลขของเรา ยืนรอประกาศผลเรื่อยๆ และผลสุดท้ายในคืนนี้ก็คือผมได้รองชนะเลิศอันดับสอง ไอติมได้รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ส่วนเดือนมหา’ลัยในปีนี้ ก็กำลังยืนหน้ายิ้มอกตรมอยู่

ก็ไอ้เพลิงมันเคยบ่นเอาไว้ว่าไม่อยากได้ตำแหน่ง เพราะไม่อยากรับงานอีกแล้ว เป็นไงล่ะ สมพรปากมึงเลย ได้ตำแหน่งใหญ่สุดในคืนนี้เลยนะ


หลังจากเลิกงาน ผมก็ถูกพี่ๆและเพื่อนๆบูมให้ รู้สึกได้เติมเต็มพลังหลังจากที่ซ้อมอย่างเหน็ดเหนื่อยมาร่วมเดือน ต้องขอบคุณทุกๆคนที่เคี่ยวเข็ญจนผมมายืนถึงจุดนี้ ขอบคุณเพื่อนๆที่ให้กำลังใจผมมาตลอด ถ้าไม่มีพวกมันผมก็คงไม่มีกำลังใจมากขนาดนี้ แสดงความยินดีกันเสร็จผมก็หอบร่างพังๆของตัวเองกลับห้องได้สำเร็จ

ผมกลับมาถึงห้องเป็นเวลาตีสาม แทบจะสลบไปแล้วถ้าไม่ติดว่าต้องเช็ดเครื่องสำอางทั้งหมดออก ผมอาบน้ำเสร็จก็เอากีต้าร์เก็บเข้าที่เดิม และสายตาก็มองเห็นช่อดอกกุหลาบที่ผมถือติดมือกลับมาด้วย

ความจริงผมจะเอากลับมาทั้งหมด 303 ดอกเลยก็ได้ แต่เอามาทั้งหมดผมก็คงไม่มีที่นอน เลยเอามาเพียงแค่ช่อเดียวเท่านั้น...ช่อที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดอกกุหลาบทั้งหมด


ผมมองช่อดอกกุหลาบสีแดงที่หมอกให้ นับดูก็พบว่ามันมีทั้งหมด 12 ดอก มันมีความหมายว่าอะไรหว่า?


คิดได้ดังนั้นเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเข้ากูเกิ้ลและค้นหาความหมายของสีกุหลาบและจำนวนดอกที่ได้

“ดอกกุหลาบสีแดง...”

ผมพึมพำและคลิกอ่านความหมายของมัน และมันก็ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ



ดอกกุหลาบสีแดง ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลังแอบปลื้มอยู่



“จำนวน 12 ดอก...”

พอได้อ่านความหมายของจำนวนดอกกุหลาบที่ผมได้แล้ว ผมก็คิดว่าผมคงจะตัวระเบิดในไม่ช้าแน่ๆ



ดอกกุหลาบ 12 ดอก หมายถึง ฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เรารักกัน






tbc.

ตอนนี้บอกเลยว่าตายยยยยยยย
เพลงที่บลูร้องคือเพลง แอบชอบ - ละอองฟอง นะคะ เปิดคลอวนไปปป

วันนี้เรามีเรื่องจะมาแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายนะคะ อ่านกันหน่อยน๊า
ต่อไปเราจะอัพนิยายช้าลงนะคะ จะขอปรับเป็นลงนิยายเต็มตอนทุกวันจันทร์และวันศุกร์
ในเด็กดีอาจจะทยอยอัพแบบ 50% ไรงี้นะคะ แต่ในเล้าจะอัพทีเดียวเต็มตอนเลยเน้อ
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาเราอัพถี่มาก แทบจะวันเว้นวันจนตอนนี้นิยายกำลังจะหมดสต็อก
ตอนนี้เราก็พยายามจะปั่นนิยายเรื่อยๆ บวกกับเราต้องอ่านหนังสือด้วย
เลยต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือบ้างเลยทำให้แต่งนิยายได้ช้าลง ;---;
เข้าใจกันด้วยน๊าาาาาาาาา ขอบคุณที่ติดตาม แล้วก็อย่าพึ่งเทกันนะคะ5555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2018 21:23:01 โดย Dearbliss »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ตายไปแล้วจ้าาาา หมอกคิดอย่างนี้จริงๆใช่มั้ยยนน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ฮื่อออ เพิ่งเห็นตอนพิเศษวันวาเลนไทน์ โถ น้องบลูของพี่ คิดว่าของขวัญโดนทิ้งไปแล้ว
ถ้าได้มารู้ว่าหมอกวางไว้บนหัวนอนจะดีใจขนาดไหนเนาะ อยากให้น้องได้รู้จัง
หลงรักมายาวนานมาก ม.4 เลย อยากรู้จังว่าอะไรที่ทำให้น้องบลูมาหลงรักหมอกได้
ส่วนตอนปัจจุบันเนี่ย แหมมมม  :m1:  ขอเหม็นความรักด้วยคนนะเพลิง 555
นึกภาพตาม ตอนคนเปิดทางให้หมอกเข้ามามอบช่อกุหลาบให้น้องบลูแล้ว อยากจะกรี๊ด ฮื่อเขิน >////<
แถมความหมาย กุหลาบแดง 12 ดอก โหยยยย  เหมือนหมอกรู้ว่าน้องบลูคือเจ้าของของขวัญเลยอ่ะ
รอได้เสมอจ้า ไม่เทหรอก หมอกบลูน่ารักขนาดนี้ > <

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คนอ่านก็ฟินไปสิ  :hao7:  :hao7: :กอด1:

ออฟไลน์ Zeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยเขินนนนนน หมอกคิดมาอย่างดีแล้วใช่มั้ยเนี่ยยย ฟินแทนบลู :o8:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
  :call: เพี้ยง...ขอให้จริงเหมือนความหมาย  :call:

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 7
เพื่อนไม่สนิท คิด(ไม่)ซื่อ



Foggy & Smoky : มีข่าวมาอัพเดทกันอีกแล้วค่าทุกคนนนนนนนนนนนนนน
คราวนี้แบบไม่ต้องพึ่งลูกเพจ หรือมิตรสหายใดๆทั้งสิ้น แอดไปเห็นด้วยตาตัวเองแบบเน้นๆ
ก็งานประกวดดาว-เดือนที่ผ่านมา พวกเราคงทราบผลกันไปแล้วว่าใครได้ตำแหน่งอะไรไป จุดนี้แอดไม่ขอโฟกัส
สิ่งที่โฟกัสก็คือที่จะมาเม้าท์มอยในวันนี้ เรื่องที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งมอนั้นแหละค่ะคุณผู้โชมมมมมม
ตอนนั้นแอดกำลังต่อแถวเพื่อให้ดอกไม้น้องบลูเลย แถวยาวเป็นหางว่าว เวลาให้ดอกไม้ก็มีแค่นิดเดียว
ตอนนั้นแอดก็สอดส่องอยู่นะคะว่าพระเอกของเราอยู่ไหน มองไกลๆก็เห็นหมอกเอาดอกไม้ไปให้เพลิง
ส่วนควันก็เอาดอกไม้ไปให้ไอติม ตอนแรกก็ท้อใจแล้วล่ะค่ะว่าสองแฝดคงไม่มีใครเอาดอกไม้มาให้น้องบลู
แต่แล้วพระเอกขี่ม้าขาวของเราก็เดินเข้ามาอย่างหล่อๆ ทุกคนมีอันต้องแหวกเพราะสู้รัศมีความหล่อของหมอกมั่ยดั้ย!!
แอดแทบจะควักโทรศัพท์ออกไม่ถ่ายไม่ทัน ดูในภาพสิคะ เขามองกันตาหวานเยิ้มเลย ฟินค่ะ แอดฟิน!!
อ้ออออ แล้วในงานนั้นขายดอกกุหลาบดอกล่ะ 50 บาท แถมยังมีให้เลือกตั้ง 5 สี หมอกของเรานั้นเลือกสีแดงสดให้น้องบลู
แล้วจากที่แอดซูมดูจำนวนดอกแล้ว พบว่ามี 12 ดอกค่ะ เดาความหมายกันได้รึเปล่า ถ้าเดาไม่ได้ก็จะเฉลยตรงนี้เลยแล้วกัน

ดอกกุหลาบสีแดง : ดอกกุหลาบสีแดง ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลังแอบปลื้มอยู่

จำนวน 12 ดอก : ฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เรารักกัน

ณ จุดๆนี้บอกเลยค่ะว่าตาย! ชิปเปอร์หมอกบลูบนเรือยื่นใบลาออกกันหมดแล้วค่ะ ว่างงาน ไม่มีอะไรจะชง!





ผมตื่นนอนก็ราวๆบ่ายสองแล้ว บอกเลยว่าหลังจากเสร็จการประกวดผมก็ปิดการสื่อสารทุกอย่าง และนอนเอาแรงจนอิ่ม หยีตาสู้แสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง พอเดินกลับมาที่เตียง สายตาก็มองเห็นช่อดอกกุหลาบที่ยังวางอยู่บนโต๊ะหนังสือ แล้วพอเห็นก็นึกถึงความหมายของดอกกุหลาบช่อนี้ หน้าก็ร้อนขึ้นมาดื้อๆซะงั้นอ่ะ

ผมสะบัดศีรษะเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ที่เปิดโหมดเครื่องบินไว้มาดู พอปิดโหมดเครื่องบินเท่านั้นแหละ เสียงแจ้งเตือนก็ดังรัวๆ ผมรอจนโทรศัพท์สงบลงแล้วเลยเข้าไปดูที่แอพแมสเซนเจอร์ก่อนเป็นอันดับแรก และชื่อที่อยู่บนสุดก็ทำเอาผมเบิกตากว้าง


Kavi Worakul : ฟื้นยัง            


หมอกทักมาตั้งแต่เก้งโมงเช้า ตอนนี้จะบ่ายสามแล้ว โอ้ชิททททททททททททททททททททท


Punnawit thanawatchai
: พึ่งตื่น ;-;

Punnawit thanawatchai : หมอกมีอะไรรึเปล่า

พอตอบปุ๊บ เจ้าตัวก็เข้ามาอ่านปั๊บ โหหหห ทำไมเร็วขนาดนี้ แล้วจุด 3 จุดก็ขึ้นมาบอกว่าอีกฝั่งกำลังพิมพ์อยู่ ผมเผลอกัดเล็บไปโดยที่ไม่รู้ตัว จนเมื่อข้อความของหมอกส่งมา ผมก็รีบวางโทรศัพท์แล้วลงไปด้านล่างคอนโดทันที

Kavi Worakul : นั่งอยู่หน้าล็อบบี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว ลงมารับหน่อย


ผมวิ่งออกมาจากห้องด้วยสภาพรองเท้าแตะ ชุดนอนตัวเก่าๆ ทรงผมที่ยังไม่เซ็ท แว่นตายังค้างอยู่บนใบหน้าพร้อมกับรีเทนเนอร์ที่ยังไม่ได้ถอด แต่ด้วยอารามตกใจเลยทำให้ลืมทุกอย่าง รู้ตัวอีกทีผมก็เอาร่างพังๆมาเจอหมอกที่ตอนนี้แต่งตัวแบบดูดีสุดๆ รู้สึกอยากจะเอาหัวจุ่มบ่อน้ำพุหน้าล็อบบี้เลย T___T

“ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะมา”

ผมถามเมื่อเราเข้ามาอยู่ในลิฟต์แล้ว เอามือลูบผมที่มันชี้ไม่เป็นทรงให้ดูเรียบที่สุดแต่มันก็ยังชี้อยู่ดี พอหันไปมองหมอก เขาก็ยิ้มขำซะงั้น

“ก็ถ้าบอกว่าจะมา จะเจอแบบนี้มั้ยล่ะ”

ผมรีบส่ายหน้าทันที ไม่มีทางที่ผมจะให้หมอกเห็นสภาพแย่ๆของผมแน่ แต่ตอนนี้ก็แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว ผมเลยเดินนำไปที่ห้องแล้วเปิดประตูให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

“ห้องรกนิดหนึ่งนะ ไม่ได้เก็บของเลย”

ผมว่าแล้วหอบหนังสือที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นไปวางบนโต๊ะลวกๆ หมอกนั่งลงแล้วก็หันไปมองโต๊ะหนังสือ...ที่มีช่อดอกไม้ของหมอกวางไว้อยู่

“เออ...แล้วนี่มาทำไมเหรอ แต่งตัวหล่อเชียว” ผมดึงความสนใจของหมอกมาที่ผม ยิ้มแห้งๆให้หมอกที่กำลังนั่งอย่างสบายอารมณ์

“มาชวนไปเที่ยว ไปอาบน้ำสิ”

“หืม? เที่ยวที่ไหน”

“อยากไปไหนล่ะ ตามใจคนที่ได้รางวัลป๊อบปูล่าร์”

ความจริงแล้วถ้าถามว่าอยากไปไหน บอกเลยว่าอยากนอนโง่ๆอยู่ที่ห้องเฉยๆ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร คิดว่าผมจะตอบอย่างนั้นเหรออออออออ

“งั้นไปกินข้าวแล้วก็ดูหนังก็ได้ หมอกเลือกหนังรอเลยนะ เราขอไปอาบน้ำแป๊บนึง”

ว่าแล้วผมก็คว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที ทริปกระทันหันสุดอะไรสุด ผมอาบน้ำด้วยความเร็วเป็นสถิติใหม่ แต่งตัวและเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้มาเร็วๆ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีผมก็มายืนอยู่ตรงหน้าหมอกที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่

“อาบน้ำเร็วจัง” หมอกว่า มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ใส่เสื้อสเว็ตเตอร์สีดำกับกางเกงยีนส์นี่มันไม่เข้ากันเหรอ”

เห็นหมอกมองด้วยสายตาเหมือนกำลังประเมินอะไรสักอย่าง ผมเลยถามด้วยความไม่แน่ใจ วินาทีนั้นเห็นอะไรอยู่ตรงหน้าผมก็เอามาใส่หมดนั้นแหละ

“เปล่า แต่งแบบนี้ก็น่ารักดี” หมอกพูดเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่ผมนี่เบิกตากว้างกับคำพูดนั้นแล้ว

“...”

พูดไม่ออก บออกไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็โดนหมอกจูงมือออกมาจากห้อง ล็อกประตูห้องให้ผมจนเรียบร้อยแล้วก็จูงมือผมออกจากคอนโดแล้วพาไปที่รถอีก ผมรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างจนกระทั่งถูกเขาจับยัดเข้าไปในรถนั้นแหละถึงพึ่งรู้ตัว

“แล้วสรุปเราจะไปไหนกันอ่ะ” ผมถามคนที่ชวนออกมาในวันนี้

“กินข้าวแล้วก็ดูหนังไง ไม่ต้องห่วง ไม่ได้ลวงไปฆ่า”

“อย่าแกล้งกันงี้ดิ” ผมตีหน้ายุ่ง หมอกแค่หัวเราะเบาๆก่อนจะออกรถ

พวกเรามาถึงใจกลางเมืองในอีก 1 ชั่วโมงถัดมา หมอกพาผมลัดเลาะไปรอบๆสยาม ดีที่ตอนนี้แดดเริ่มไม่แรงเท่าไรแล้ว เลยไม่รู้สึกร้อนเท่าไร พวกเราเดินหาร้านอาหารที่อยากกินอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็มาจบที่ร้านหมูย่างเกาหลี

พอเข้าไปในร้านพนักงานก็ต้อนรับอย่างดี พนักงานเอาหมูหลากหลายแบบมาวางจนเต็มโต๊ะพร้อมกับเครื่องเคียง ตั้งเตาจนพร้อมแล้ว ผมและหมอกก็เริ่มลงมือย่างหมู พึ่งรู้ว่าหิวมากๆก็ตอนที่วางเนื้อหมูลงบนเตาแล้วควันหอมฉุยก็แตะจมูกนั้นแหละ

“ลองอันนี้มั้ย อร่อย”

หมอกคีบเนื้อหมูที่สุกแล้วใส่ในจานผม ผมที่ง่วนอยู่กับการพลิกหมูในเตาเลยวางที่คีบลงและลองชิมเนื้อหมูที่หมอกยื่นให้ อร่อยสมคำคุยจริงๆครับ มันหวานละลายในปากโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยด้วยซ้ำ

“อร่อยจริงๆด้วย เอาซี่โครงเปล่า จะได้ย่างให้” ผมถามคนที่นั่งตรงข้าม หมอกพยักหน้าแล้วคีบหมูย่างพร้อมเครื่องเคียงกินทีละอย่าง แต่ไม่ยอมแตะผักที่วางอยู่เลยสักนิด

“ไม่ชอบกินผักเหรอ” ผมถาม และหมอกก็รีบส่ายหน้าทันที

“ไม่ชอบ เหม็นเขียว กินไปก็ไม่อร่อย”

“แต่มันแก้เลี่ยนได้นะ ลองสักหน่อยมั้ย” ผมว่า และหยิบสลัดมา คีบหมูและเครื่องเคียงใส่ลงไปแล้วห่อเป็นคำ ยื่นไปตรงหน้า

“ลองหน่อย มันเข้ากันอยู่นะ”

หมอกทำหน้าไม่ยอมรับสุดๆ แต่ผมก็ยังคะยั้นคะยอให้หมอกได้ลอง คนตรงหน้าเลยทำหน้าลังเลนิดนึง

“ลองชิมดูหน่อย ถ้าไม่ชอบก็คายทิ้งเลย”

ผมยังไม่หยุดความพยายามที่จะทำให้หมอกกินผักให้ได้ และเหมือนหมอกจะกลั้นใจอ้าปากรับห่อผักที่ผมถือไว้ไป ผมที่โดนแอคแทคอีกรอบ ไม่คิดว่าเขาจะใช้ปากรับไปอย่างนั้นก็รีบเก็บมือทันที เห็นคนตรงหน้าที่ทำหน้าทะแม่งๆ แล้วสุดท้ายก็กลืนลงไป แล้วรีบดื่มน้ำตาม

“เป็นไง โอเครึเปล่า”

ผมถามอย่างลุ้นๆ หมอกมองมาที่ผมแล้วก็พูดขึ้น

“ก็พอกินได้”

“ดีแล้ว กินผักด้วยจะได้ไม่เลี่ยนเกินไป”

“แต่ถ้าอยากให้กินอีกก็ห่อแล้วป้อนด้วยนะ ถ้าให้กินเองบอกเลยว่าไม่มีทาง”

แล้วหมอกก็คีบเนื้อหมูที่อยู่ในเตาขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มเข้าปากทันที ผมมองคนตรงหน้า ไม่คิดว่าจะดื้อเงียบอย่างนี้เลยจริงๆ แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากทำผักห่อเป็นคำๆแล้วป้อนเขาล่ะครับ...





หลังจากกินหมูย่างเสร็จ โดยที่คราวนี้ผมไม่ยอมให้เขาเลี้ยง เราเลยหารค่าอาหารกันและเดินไปสยามพารากอน ไปถึงชั้นโรงหนังก็เลือกหนังที่หมอกบอกว่าอยากดู ผมก็เลยตามเลย ระหว่างรอเราก็ซื้อป๊อบคอร์นกับน้ำโค้กคนละแก้ว พอเดินออกมาจากเค้าท์เตอร์แล้ว ก็เจอน้องผู้หญิงในชุดนักเรียนสองคนยืนอยู่ตรงหน้า

“พี่ๆ...ใช่พี่หมอกกับพี่บลูรึเปล่าคะ”

“ครับ?” ผมถามอย่างงุนงง เธอเตรียมยกมือถือขึ้นมาจะจ่อหน้าพวกเราอยู่แล้ว

“ใช่ครับ ทำไมเหรอ” หมอกเป็นคนตอบแทนผมที่ยังคงเอ๋ออยู่ พวกเธอดีดดิ้นแล้วก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา

“พวกพี่มาดูหนังกันเหรอคะ”

เออ...น้องครับ เจออยู่หน้าโรงหนัง พวกพี่คงมาร้องคาราโอเกะมั้งครับน้อง

“ครับ พวกพี่มาดูหนัง...” หมอกเป็นคนตอบอีกแล้ว พอบอกชื่อหนังที่พวกเรากำลังจะดู เธอก็รีบชูตั๋วหนังของเธอให้ดูบ้าง

“พวกหนูก็กำลังจะไปดูหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ”

“ครับ ขอให้ดูให้สนุกนะ” หมอกว่า กำลังจะลากผมออกไปจากพวกเธอทั้งสองคนแล้ว แต่หนึ่งในสองคนนั้นก็จับแขนผมไว้เสียก่อน

“พวกหนูขอถ่ายรูปพวกพี่ๆหน่อยได้มั้ยคะ”

ขอมาอย่างนี้ ถ้าปฏิเสธก็คงใจร้ายไปสินะ ทั้งผมและหมอกยอมให้ถ่ายรูปได้ เราถ่ายอยู่ประมาณ 2-3 รูป หลังจากนั้นก็ขอตัวจากพวกเธอแล้วเดินเข้าไปในโรงหนังด้วยกัน


ตื่นเต้นแหะ...

ดูหนังกับหมอกครั้งแรก...ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะมีวันนี้


ผมนั่งนิ่ง มองหน้าจอที่กำลังฉายโฆษณาอย่างตั้งใจ ได้ยินเสียงคนข้างๆที่เอาแต่เคี้ยวป๊อบคอร์นจนหมดไปเกือบครึ่งถังทั้งๆที่หนังยังไม่เริ่ม ผมเลยหันไปมอง แล้วหมอกก็มองมาที่ผมเช่นกัน

“กินมั้ย” ว่าแล้วก็ยื่นถังป๊อบคอร์นมาให้ผม

“เก็บไว้กินตอนหนังเล่นด้วยเถอะหมอก”

พอผมพูดอย่างนั้นหมอกก็ทำตามที่ผมบอกทันที ด้วยการส่งถังป๊อบคอร์นมาให้ผมถือไว้ ไม่งั้นเขาก็จะเผลอกินอีก ผมเลยกลายเป็นนักคุมถังป๊อบคอร์นไปโดยปริยาย จนเมื่อหนังเริ่มผมเลยยอมให้หมอกกินได้ มือยาวนั้นก็ล่วงเข้ามาในถังป๊อบคอร์นที่ผมถือไว้ทันที มันจะไม่รู้สึกอะไรหรอกถ้าเขาไม่เอาแขนมาพาดกับแขนผมไว้อีกที บางทีก็กระซิบให้ผมป้อนเขา


นี่สาบานเลยว่าตอนนี้ผมดูหนังไม่รู้เรื่องแล้ว ;----------;


ออกมาจากโรงหนังก็ค่ำพอดี ระหว่างทางพวกเราก็คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังที่พึ่งดูมา หมอกมาส่งผมถึงคอนโดก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว แม้จะรู้สึกว่าวันนี้ผมใช้เวลากับหมอกไปยังไม่ค่อยพอ แต่มันก็ถึงเวลาที่เราต้องลากันแล้ว

“ไปแล้วนะ” ผมบอกแล้วปลดเบลท์ออก แต่เสียงของหมอกก็ทำให้ผมหยุดทุกการกระทำ

“เดี๋ยว”

“หืม?” ผมหันไปมองหมอก ใบหน้าหล่อๆนั้นหันมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว แล้วยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ผม

“เอาเบอร์โทรศัพท์กับไอดีไลน์มาหน่อย”

“...” ผมพูดไม่ออกเลย ขณะที่ผมกำลังนิ่งเหมือนถูกสาป หมอกก็จัดการยัดโทรศัพท์ใส่มือผมด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม เห้ยยยย คนหล่อเขาขอไลน์คนอื่นกันอย่างนี้เหรอ

ผมพูดไม่ออก แต่มือกลับพิมพ์ไอดีไลน์และเบอร์โทรให้หมอกแล้ว หมอกรับไปก่อนจะโทรเข้ามาหาผม เสียงริงโทนดังขึ้นก่อนจะถูกตัดสายไป

“เบอร์ฉัน เซฟไว้ด้วยล่ะ”

“อะ...อืม”

ผมรับคำก่อนจะออกมาจากรถ ดีที่ตอนนี้มันมืดแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นหมอกต้องเห็นแน่ๆ


ว่าหน้าผมมันแดงมากขนาดไหน





กลับขึ้นมาถึงห้องด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ หยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็พบว่าหมอกส่งไลน์เข้ามาทักทาย ผมเลยส่งสติกเกอร์ตอบกลับไป เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีก

ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินมานั่งหน้าคอม วันนี้ทั้งวันไม่ได้เข้าโซเชี่ยลเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีอะไรอัพเดทบ้าง และเมื่อเข้าไปในเฟสบุ๊ค ผมก็นั่งเท้าคางเลื่อนเม้าท์ไปอย่างเรื่อยเปื่อย จนเมื่อเห็นเพจดังสักเพจที่ไม่ใช่เพจของหมอกและควันอัพภาพที่เป็นภาพของผมและหมอกที่ไปดูหนังในวันนี้ คนแชร์และกดถูกใจไปร่วมพันกว่าคน คงต้องเป็นน้องมัธยมสองคนนั้นส่งรูปไปให้แน่ๆ หรือไม่พวกเธอก็คงจะเป็นแอดมินเองนั้นแหละ

แล้วเพจ Foggy & Smoky ก็แชร์ภาพต่อพร้อมกับแคปชั่นยาวเหยียด และคนก็แชร์กันต่อไปเรื่อยๆจนเหมือนไฟลามทุ่ง ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแจ้งเตือนผมถึงเยอะมากขนาดนี้ มีหลายคนที่ทักแชทมาหาผมเพื่อถามว่าผมเป็นอะไรกับหมอก แต่ผมก็ไม่ได้ตอบกลับสักคน


เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างเราคืออะไร...


ผมแค่คิดว่าที่เป็นอย่างทุกวันนี้มันก็เหนือความคาดหมายของผมไปมากแล้ว จากที่เมื่อก่อนแค่มองตามในมุมมืดๆ แค่หวังว่าการประกวดดาว-เดือนจะทำให้ผมเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเขาได้ ได้เป็นเพื่อนห่างๆก็ยังดี แต่พอได้รับความรู้สึกดีๆที่หมอกมอบให้ขนาดนี้ ผมคิดว่าผมก็พอใจในสิ่งที่ได้รับมากแล้ว


ไม่กล้าคาดหวังไปมากกว่านี้ เพราะผมกลัว...

กลัวว่าถ้าวันหนึ่งที่ผมผิดหวังขึ้นมา แล้วผมจะเจ็บเกินกว่าจะทนไหว



ติ้ง~



เสียงแชทที่ดังขึ้นมาก็ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ น้ำหวาน...ดาวมหา’ลัยในปีนี้เธอทักผมมา ด้วยประโยคที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว


Namwhan Thitinan : บลู เราถามอะไรหน่อยสิ

Punnawit thanawatchai
: อะไรเหรอ

Namwhan Thitinan : บลูเป็นอะไรกับหมอกเหรอ


คำถามนี้อีกแล้ว...ถ้าผมไม่ตอบเธอจะเป็นอะไรรึเปล่า...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างผมกับเขา เราเป็นอะไรกัน


Punnawit thanawatchai : เป็นแค่เพื่อนเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้นเลย

Punnawit thanawatchai : น้ำหวานถามทำไมเหรอ

Namwhan Thitinan : อ้อจ้า คือเราถามเพื่อความสบายใจน่ะ คือเราชอบหมอก

Namwhan Thitinan
: ถ้าหมอกยังไม่มีใคร เราก็สบายใจ

Punnawit thanawatchai : อ๋อ


แค่น้ำหวานบอกว่าชอบหมอก แล้วทำไมใจผมถึงได้รู้สึกหวิวๆก็ไม่รู้


Namwhan Thitinan
: เราขอแคปที่บลูบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกับหมอกไปแก้ข่าวให้คนอื่นรู้ด้วยนะ

Punnawit thanawatchai : อืม ตามสบาย


แล้วน้ำหวานเธอก็จากไป ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ทำไมจู่ๆก็รู้สึกจุกในอกยังไงก็ไม่รู้ เลยปิดคอมแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง คว้าคุณบราวน์...ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลที่ได้จากการจับของขวัญสมัยมัธยมขึ้นมากอดเอาไว้จนแน่น

ถ้าหมอกเห็นข้อความนั้นจะโกรธผมรึเปล่านะที่ตอบออกไปแบบนั้น...

แต่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่นา


เป็นแค่เพื่อน


ก็ถูกแล้ว...






tbc.

วันนี้มาดึกเลย งานเยอะค่าา เยอะจนลืมว่ายังไม่อัพนิยาย
นิยายเรื่องนี้ไม่ดราม่านานแน่นอน อาจจะมีพอกรุบๆพอหอมปากหอมคอ
อยากให้ฟีลแบบใสๆวัยรุ่นชอบ อ่านง่ายย่อยง่าย5555



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2018 23:03:38 โดย Dearbliss »

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
รอตอนต่อไป ชะนีเริ่มมีบทบาทละ  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ไม่ว่าน้องบลูนะ ที่ตอบน้ำหวานไปแบบนั้น ก็หมอกยังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่นา
จะให้น้องบลูตอบว่าไงล่ะ ถ้าไม่ใช่แค่เพื่อนกัน ฮือออ
แต่หมอกต้องน้อยใจแน่ ๆ อ่ะ แล้วน้องบลูก็ต้องเสียใจอีก
ยังไงก็อย่าดราม่านาน คุยกันให้เข้าใจเร็ว ๆ น้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด