KING ที่ 29 ราชินีแห่งสีเพลิง หลังจากที่ไอ้ธีร์กลับมาเรียน โรงเรียนก็ดูสดใสขึ้น เหล่าครูบาอาจารย์และนักเรียนต่างพากันเป็นห่วงเป็นใยมันจนน่าหมั่นไส้ ผมมองมันที่ขึ้นมากล่าวหน้าเสาธงเหมือนทุกที และบอกว่ามันหายดีแล้ว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีแล้ว กูขี้เกียจรบกับมึงตอนป่วย ไอ้ดื้อเอ้ย
ผมฟังมันที่พูดถึงงานกีฬาสีที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า จริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับไอ้งานนี้หรอก แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่า ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างทิ้งท้ายก่อนจะจบจากที่นี่ไป ผมชอบโรงเรียนนี้ ผมมีเพื่อนดีๆ หลายคน ผมถึงจะไม่ชอบเรียน แต่ก็ชอบที่จะมาโรงเรียน ก็เพราะแบบนี้นั่นแหละ
ผมมองดูน้ำที่กำลังหันมามองผมเช่นกัน พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานมาก และผมก็คิดว่า ผมรู้แล้วว่าผมจะทำอะไร ผมอยากให้เราเป็นเหมือนเดิม ผมจะต้องบอกน้ำ ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินไป ถ้ามันอยากเจอแฟนธีร์ละก็ ผมจะให้มันได้เจอ และบอกให้มันตัดใจซะ
ในช่วงกลางวันของวันนี้ ผมเดินมากลับไอ้เนมเหมือนเดิมและไปเจอกับไอ้นนที่โรงอาหาร และผมที่เดินไปถึงโต๊ะนั้น ก็มองไปรอบๆ ทันที เพราะไม่เห็นคนที่ควรจะอยู่ที่นี่
" มองหาใครอยู่เหรอ " ไอ้นนพูดถามผมและทำหน้ายิ้มกริ่ม
" เพื่อนมึงไปไหน " ผมพูดถามและนั่งลงที่โต๊ะ ปกติมันไม่มาช้านี่นา
" เวลาผ่านไปอะไรๆ ก็ดูเปลี่ยนแปลง โอ้ยย " ผมกระทืบตีนมันทันที พูดมากไปละมึง
" ยังไม่บอกกูอีก ลีลา " ผมพูดถามอย่างอารมณ์เสีย
" นั่นไง มาโน้นแล้ว " ไอ้เนมชี้ให้ผมมองดูไอ้คนที่เพิ่งเดินเข้ามากับ...
ผมมองไอ้ธีร์ที่หน้ามุ่ย ยับยู่ยี่ และมองน้ำที่เดินมาคู่กับมัน ผมเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ และมองหน้าไอ้ธีร์ที่จ้องมองผมเช่นกัน มึงมีเรื่องต้องคุยกับกูใช่ไหมแบบนี้
" ไปซื้อข้าวกันสิ " น้ำพูดและเดินแยกตัวออกไป ผมยังคงจ้องหน้าไอ้ธีร์อย่างสงสัย และนั่งอยู่ที่เดิม
" เอาอะไร เดี๋ยวไปซื้อ " มันถามผม
" ยังไม่หิว " ผมพูดและเริ่มกดมือถือในมือ
ผมเหลือบมองมันที่ถอนหายใจและเดินไปซื้อข้าวกับไอ้นนไอ้เนม จริงๆ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่หงุดหงิดนิดหน่อยกับภาพเมื่อกี้
ไม่นานนักมันก็เดินกลับมาพร้อมข้าวสองจานในมือ มึงนี่เสืิอกจริงๆ
" แหม ต้องให้ป้อนด้วยไหมแบบนี้ " ผมตวัดสายตามองไอ้หอกนนทันที แซวๆ เดี๋ยวมึงจมตีน เดี๋ยวก่อน
" เป็นง่อยไงวะ มึงอย่าไปตามใจมันมาก " ไอ้เนมพูดบอกไอ้ธีร์และนั่งลงข้างๆ ผม เดี๋ยวนี้รู้สึกมึงจะเข้าข้างมันมากกว่ากูแล้วนะ
" มันเสือกซื้อมาเอง " ผมพูดและจ้วงแดกทันที ของฟรีมีหรือจะพลาด
" เออ เมื่อกี้มึงไปไหนมา " ไอ้นนพูดถามไอ้ธีร์ ดีมากกก กูอยากจะถามแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันจะดูเหมือนเมียสอบสวนผัวเกินไป
" ประชุมเรื่องงานกีฬา " ไอ้ธีร์ตอบไอ้นนแต่มองผมเขม็ง
" แล้วว่าไงมั่งวะ " ไอ้นนถามต่อไป
" ก็เป็นพิธีกรเหมือนเดิม...คู่กับน้ำ " ผมวางช้อนทันทีที่ได้ยินแบบนั้น กูว่าแล้วไง เดาไว้ไม่มีผิด
" ว่าจะขอถอนตัว " ไอ้ธีร์พูดต่อและมองผมแบบหงอยๆ
" ไม่ต้อง " ผมเริ่มกินข้าวต่อไปและไม่ได้มองหน้ามัน
" มึงเป็นนั่นแหละดีแล้ว " ผมว่าแค่เพราะคู่กับน้ำ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ผมไม่อยากให้มันถอนตัวเพราะเรื่องแค่นี้ จะหาคนที่พูดดีเท่ามันคงไม่มีแล้ว
และเมื่อผมพูดแบบนั้น ไอ้ธีร์ก็เริ่มจ้องมองผมด้วยสีหน้าไม่พอใจอีกแล้ว นี่มึงกำลังคิดอะไรอีก จะหาเรื่องกูอีกแล้วใช่ไหม
" ได้ " มันพูดและก้มลงกินข้าว เออเอาเข้าไป เฮ้อ พอเป็นเรื่องนี้มึงก็เป็นงี้ตลอด ผมว่ามันไม่เข้าใจผมแน่ๆ แล้วพอจะอธิบายมันก็ไม่ฟังผมแน่นอน ลองดูก็ได้
" ที่กูอยากให้มึงเป็น เพราะมึง... "
" อืม รู้แล้ว " นั่นไง ผมมองมันที่เหมือนกำลังโกรธผม ไอ้งี่เง่า ไอ้...กูอยากโบกกบาลมึงจริงๆ โมโหว่ะ
" เฮ้ยๆ อะไรกันวะ " ไอ้นนพูดพลางมองผมสลับกับไอ้ธีร์ นี่มันเรื่องี่เง่าแท้ๆ มึงคิดว่ากูจับคู่มึงกับน้ำเหรอ กูจะทำแบบนั้นทำไม กูไม่อยากให้มึงอยู่ใกล้มัน มึงได้ยินไหม
ผมคิดในใจและจิกตาสู้มัน ฮึ่มมม อึดอัดโว้ยยย อยากทำร้ายยย อยากทำลายข้าวของ ดีกันนานๆ จะตายไหมวะ
" มึงผิดประเด็นอะไรกันหรือเปล่า กูว่าไอ้ธีร์ไม่เหมาะหรอก กูอยากฟังพวกที่พูดแบบเอ็นเตอร์เทรนคน ไม่ใช่แบบที่มึงพูดหน้าเสาธง " ไอ้เนมออกความเห็นแทรกสงครามเย็นบนโต๊ะ
" ประเด็นคือทุกคนไม่ได้อยากได้ความเอ็นเตอร์เทรน แต่อยากให้มันยืนเด่นอยู่ในงาน กูรู้เลย และเป็นแบบนี้ทุกปี " ไอ้นนพูดขึ้นบ้าง และผมก็คิดว่าเป็นแบบนั้น ไม่มีใครสนว่ามันพูดสนุกไหม ขอแค่มันเป็นคนพูดเท่านั้นพอ
ผมมองไอ้ธีร์ที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ แต่ผมก็อยากให้มันเป็นพิธีกร เพราะผมรู้แล้วว่าผมจะเป็นอะไร
" ฟา แล้วตกลงมึงจะเป็นสวัสดิการจริงๆ เหรอ " ไอ้เนมพูดถามผม
" เดี๋ยวก็รู้ " ผมพูดและมองไอ้ธีร์ที่ยังคงก้มหน้าก้มตา มึงจะต้องตกใจแน่ไอ้ธีร์ และกูจะอยู่ข้างๆ มึง ถึงกูจะไม่ได้เป็นพิธีกรคู่กับมึงก็เถอะ
ในทุกๆ วันหลังจากนั้น ในคาบเรียนสุดท้าย ทุกๆ ห้องก็จะมาซ้อมกีฬากัน ห้องของผมนั้นจับฉลากได้สีแดง และห้องไอ้ธีร์นั้นสีฟ้า ผมไม่ได้ลงกีฬาอะไรทั้งสิ้น และไม่ได้เป็นสวัสดิการด้วยซ้ำ ผมจะทำมากกว่านั้น และผมรู้ ว่าใครจะช่วยผมได้
" ฟา พี่ดีใจนะที่ฟาตัดสินใจแบบนั้น " ในเย็นวันหนึ่งหลังเรียนพิเศษ ผมก็เข้าไปหาพี่เรียวเพื่อขอความช่วยเหลือ
ช่วงนี้ไอ้ธีร์นั้นยุ่งมาก ทั้งประชุมงาน กำหนดการต่างๆ จัดการแต่ละสี จัดสรรงบประมาณ แถมมันยังเรียนพิเศษดึกอีกทุกวัน ผมเลยไม่ค่อยได้คุยกับมัน
ผมบอกมันว่า ช่วงนี้ให้มันงดมาช่วยผมติวตอนดึก ผมสงสารมันที่ทำงานหนัก ผมอยากให้มันได้พักบ้าง แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม หลังจากมื้อกลางวันวันนั้น มันก็ยังคงบึ้งตึงใส่ผม และพอผมบอกไม่ให้มันมาติวให้ มันก็เหมือนจะยิ่งไปกันใหญ่ ไอ้ธีร์ในตอนนี้เหมือนลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ ผมว่ามันเครียดและคิดมากเกินไปแล้ว ผมไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี
" ผมไม่อยากเสียเพื่อนไป และผมก็รู้แล้วว่าผมรู้สึกยังไง " ผมบอกพี่เรียว พี่เรียวเป็นเหมือนพี่ชายของผม ที่ผมสามารถพูดคุยและบอกทุกอย่างได้
" แล้วทำไมเราไม่บอกธีร์ไปเลยล่ะ " พี่เรียวถามผม
" ผมอยากให้มันพูดก่อน ผมอยากฟังสิ่งที่มันจะบอก "
" พี่ตลกที่เรารอกันไปรอกันมา สงสัยพี่จะแก่เกินไปที่จะเข้าใจ " พี่เรียวพูดและหัวเราะน้อยๆ
" จุดเริ่มต้นมันเป็นคนบอกให้ผมเป็นแฟนมัน เพราะงั้นมันต้องรับผิดชอบ "
" เฮ้อ แต่เราชอบธีร์ใช่ไหม " พี่เรียวถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง
" ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงรับไม่ได้มากๆ กับความรู้สึกของตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยนึกฝันมาก่อน มันแปลกมาก ถ้าไม่ใช่มัน ถ้าไม่ใช่ไอ้ธีร์ ผมก็ไม่มีวันลงเอยแบบนี้หรอกครับ "
" ความรักมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ว่าจะเพศไหน ไม่ว่าจะเป็นใคร มันอธิบายยาก "
" ผมไม่รู้ว่าผมรักมันไหม แต่ผมชอบมัน ผมชอบเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน " ผมพูดและเหม่อมองออกไปนอกกระจกบานใหญ่ ผมรู้ว่ามันก็คิดเหมือนผมเช่นกัน อาจจะคิดมาก่อนผมด้วยซ้ำ แล้วทำไมกันนะ ทำไมมึงถึงไม่บอกกูสักที
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมในตอนนี้ก็ยังคงมาโรงเรียนกับไอ้ธีร์เหมือนเก่า มันยังคงทำเหมือนเดิม มาหาผมตอนเช้า ทำอาหารให้ และมาโรงเรียนด้วยกัน ผมคุยกับมันปกติ แต่ก็สังเกตได้ว่ามันเหมือนมีเรื่องกวนใจอยู่ตลอดเวลา มันดูไม่ค่อยมีความสุข และเครียดกับทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ
" ช่วงนี้มึงนอนดึกเหรอ " ผมมองมันและสังเกตว่าสีหน้ามันไม่ค่อยดีมาหลายวันแล้ว
" เหนื่อย " มันพูดเบาๆ และไม่ได้หันมามองผม
" ทนอีกนิดก็จบแล้ว แค่ 3 วัน " ผมพูดบอกมัน พรุ่งนี้เป็นวันแรกที่งานจะเริ่มขึ้น ซึ่งมันต้องหัวหมุนมากกว่านี้แน่
" ผู้หญิงคนนั้น หาเรื่องมาทุกคาบเรียน บอกว่าลืมบทที่ต้องพูด ลืมนั่น ไม่เข้าใจนี่ " มันพูดและหันมามองผม
ผมก็คิดว่ามันคงจะเป็นแบบนั้น น้ำคงทำทุกอย่างเผื่อจะเปลี่ยนใจไอ้ธีร์ได้บ้าง ซึ่งผมต้องยกนิ้วกับความพยายามนี้จริงๆ
" มันคงชอบมึงมาก มากจนเป็นบ้าไปแล้ว " ผมพูดอย่างที่คิด ผมรู้สึกสงสารมัน สงสารไอ้ธีร์ และสงสารตัวเองด้วย แต่ผมก็คิดจะจบมันแล้วล่ะ ผมจะขอโทษน้ำ ผมจะบอกน้ำเรื่องของผมทุกอย่าง พวกเรากำลังจะเรียนจบแล้ว และมันถึงเวลาแล้วที่จะต้องเครียทุกอย่างสักที
" คนที่กำลังจะบ้าก็คือนี่ต่างหาก " ผมมองมันที่ดูหม่นเศร้าลง ผมคงพูดอะไรให้มันไม่สบายใจอีกแล้ว
ในรุ่งเช้าของวันถัดไป วันนี้เป็นวันแรกของงานกีฬาสี ผมไม่ได้มาเรียนพร้อมไอ้ธีร์ เพราะวันนี้มันต้องไปโรงเรียนแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมงานและแต่งหน้าแต่งตัว
ผมใส่ชุดวอร์มงานกีฬา สีดำสลับแดง และโบกแท็กซี่มาโรงเรียนแต่เช้าเช่นกัน ผมอยากเห็นหน้ามัน ผมอยากบอกให้มันทำเต็มที่ ผมจะคอยมองดูมันอยู่เสมอ ผมมองสร้อยข้อมือเล็กๆ ที่ข้อมือของผม ผมไม่เคยลืมที่จะใส่มัน และผมก็เห็นไอ้ธีร์ใส่แหวนวงนั้นตลอดเวลาเช่นกัน
ผมเดินมาในโรงเรียนที่ประดับประดาด้วยป้ายต่างๆ และซุ้มกิจกรรมมากมาย มีตารางบอกว่าวันนี้จะมีการแข่งอะไรบ้าง ที่ไหนเมื่อไหร่ ผมมองเหล่านักเรียนที่กำลังรวมตัวกันเดินไปยังสถานที่จัดงานในโรงยิมขนาดใหญ่เพื่อร่วมกันเปิดงาน
ผมมองหาไอ้เนมและไอ้นน แต่คนที่จำนวนเยอะมาก ก็ทำให้หาไม่เจอ โทรไปก็ไม่รับ เฮ้อ ไปคนเดียวก็ได้ฟะ ผมเดินตามฝูงชนไปที่โรงยิม และนั่งลงบนอัฒจันทร์ที่สามารถมองเห็นแท่นพิธีกรที่อยู่ใกล้ๆ ที่นั่งผอ.ให้มากที่สุด ตอนนี้ทุกคนเพิ่งทยอยกันเข้ามา ผมนั่งอยู่กับใครบ้างก็ไม่รู้ แต่ผมไม่ได้สนใจ สายตาของผมนั้นจับจ้องอยู่แค่ที่เดียว ผมเฝ้ารอคนคนนั้น
" พวกเรากำลังรอท่านผอ.เพื่อเป็นประธานในการเปิดพิธี นักเรียนทุกคน ผมขอความกรุณาช่วยงดเสียงลงหน่อย " ผมหัวใจเต้นรัว เสียงที่ดังก้องกังวาลไปทั้งโรงยิมนั้น ทำให้ผู้คนที่ควรเงียบเสียง กลับเริ่มกรี๊ดกร๊าดกันอย่างตื่นเต้นไปใหญ่
ผมมองแฟนของผมที่ค่อยๆ เดินเข้ามาที่แท่นพิธีกรด้วยชุดสูทสีเทา แต่งหน้าและประดับกากเพชรสีฟ้าบนใบหน้าและทรงผมที่จัดตกแต่งให้ดูเท่ห์มาก มันที่เป็นคนที่หล่อสุดๆ อยู่แล้ว เมื่อแต่งตัวเสริมเข้าไปอีกนั้น ก็แทบจะทำให้คนที่พบเห็นละลายระเหยเป็นไอน้ำเลยทีเดียว
' กรี๊ดดดดดดด! '
เสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั้งโรงยิม ผมยกมือขึ้นปิดหูตัวเองที่กำลังดังวิ๊งๆ ก็เล่นกรี๊ดกันคอแทบแหกขนาดนี้ อะไรจะขนาดนั้น
" ยินดีต้อนรับสู่งานประเพณีกีฬาของโรงเรียนเรา ครั้งที่ 44 ผมนายธีรดล ประธานนักเรียนรุ่นล่าสุด... " ผมยิ้มและมองมันที่กำลังพูดด้วยท่าทีสบายๆ และไม่ได้สังเกตเห็นผู้หญิงสวยที่กำลังเดินขึ้นไปที่แท่นนั้นข้างๆ มัน
" ใช่แล้วค่ะ วันนี้มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภทเลยทีเดียว และการชนะแต่ละประเภทนั้น แต่ละสีจะมีการรวมคะแนนเพื่อหาผู้ชนะหนึ่งเดียวเพื่อรับรางวัลใหญ่จาก ท่านประธาน ซึ่ง ในเวลานี้ ท่านประธานได้เดินทางมาถึงแล้วค่ะ... " ผมมองน้ำที่ใส่ชุดกระโปรงสีขาวมีประกายสีฟ้าที่สวยงาม ทรงผมลอนยาวและแต่งหน้าเข้มอย่างสวยงาม ทั้งคู่นั้นดูเข้ากันดีมาก ช่างเหมาะกันอย่างกับอะไร แต่ก็นะ มันก็แค่ภายนอกเท่านั้น ผมมั่นใจว่าข้างในหัวใจของไอ้ธีร์ มันมีแต่ผมอยู่ในนั้น
ผมนั่งอยู่ในฝูงชน ผมไม่รู้ว่ามันจะมองเห็นผมไหม ผมยิ้มให้มันจากที่ไกลๆ ผมภูมิใจในตัวมันนะ มันเป็นคนที่เก่งมาก ผมไม่มีอะไรที่จะเทียบมันได้เลยสักอย่าง ทำไมมันถึงสนใจคนแบบผมกันนะ ถ้ามันพูดออกมาเมื่อไหร่ ผมคงจะถามมันอย่างละเอียด ในหลายสิ่งที่ผมสงสัยเสมอมา
Rrrr Rrrr
ผมมองมือถือของผมที่กำลังสั่นและส่งเสียงดัง พี่เรียวงั้นเหรอ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยเล่า ผมช่างใจว่าจะรับหรือไม่รับดี ผมไม่อยากพลาดโอกาสจ้องมองไอ้หอกธีร์ที่กำลังเป็นพิธีกรอยู่ แต่เสียงโทรศัพท์ก็ยังคงดังอยู่อย่างนั้น ผมเลยตัดใจเดินออกจากอัฒจันทร์และลงมารับโทรศัพท์ที่ห้องน้ำ
" ฮัลโหลครับพี่เรียว " ผมสงสัยว่าทำไมพี่เรียวถึงโทรมาตอนนีี้
" รีบออกมาเลย มาแต่งตัว พี่จอดรถตู้ไว้หน้าโรงเรียน รีบมาด่วน " ผมตาโตทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
" เดี๋ยวๆ ครับพี่ ผมได้รับเชิญวันสุดท้ายไม่ใช่เหรอ ตอนประกาศรางวัล " ผมงงแดกทันที จริงๆ ผมรับงานเป็นผู้ถือถ้วยรางวัลครับ พี่เรียวแกเส้นสายเยอะ ก็จัดการให้ผมเป็นดารารับเชิญเข้าไปในงานตอนปิดท้าย
" หลีดสีแดงพี่เป็นคนออกแบบชุดนะอย่าลืม เขาอยากได้นางพญาถือธง "
" เดี๋ยวๆ พี่ครับผมไม่ได้ซ้อมกับหลีดเลย ผมทำไม่ได้หรอก " ผมรีบปฏิเสธทันทีอยู่ดีๆ อะไรฟะนั่น
" แค่เป็นไม้ประดับยืนโชว์ตัวเฉยๆ เน็ตไอดอลคนดังใครๆ ก็รู้จักน่า " พี่เรียวพูดและหัวเราะร่าเริง นี่อย่าบอกนะว่าไปออกไอเดียให้เขาน่ะ
" ไม่อยากให้สีตัวเองชนะเหรอ " หึ ทำไมจะไม่อยากล่ะ อยากเอาชนะไอ้สีฟ้าโหล่ยโท่ยจะตาย
" จะทันเหรอครับ หลีดนี่แข่งก่อนใครเลยนะ " ผมพูดอย่างร้อนใจ
" พี่ขอแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแหละ " ผมรู้เลยอีแบบนี้ ตอนนี้ในรถตู้คันใหญ่ของพี่เรียวคงมีช่างทำผมแต่งหน้าพร้อมรบ
" โอเคครับ ผมจะรีบไป " ผมพูดและวิ่งลงจากอัฒจันทร์ทันที โอ้ยย ทำอะไรไม่ปรึกษาเลยโว้ย
ผมวิ่งสู้ฟัดไปที่หน้าโรงเรียนและถูกลากขึ้นรถตู้ภายในเวลาไม่นาน และก็เป็นไปตามคาด ทันทีที่ผมขึ้นไปนั้น ผมก็ถูกลุมถูกทึ้งอยู่พักใหญ่
ผมรู้สึกเหมือนตัวผมจะขาดออกจากกัน ผมที่ถูกหวีดึงเซ็ต ใบหน้าที่ถูกลงรองพื้นอย่างรวดเร็ว โอ้ยยย เบาๆ เฟ้ย ผมมองพี่เรียวที่ยืนกอดอกหัวเราะ คงจะสนุกมากสินะ ไอ้พี่บ้านี่
" พี่ ทำอีท่าไหน เขาถึงให้ผมไปถือธงได้ " ผมพูดอย่างทุลักทุเล ขณะถูกกรีดตาแปะขนตาปลอม
" แค่บอกว่า อยากชนะไหม แค่นั้น " หนอยยย ร้ายนักนะ
" ถึงมีผมก็ใช่ว่าจะชนะนะครับ ผมไม่ได้ดังขนาดนั้น พี่ก็รู้นี่ " ผมพูดอย่างสงสัย
" อ่าว ไม่รู้หรอกเหรอ พี่เอารูปเราไปลงเป็นพรีเซ็นต์เตอร์ เครื่องสำอางค์แบรนดังนะ ติดป้ายมหึมาบนทางด่วน ตั้งหลายอัน " ห๊าาา ตอนไหนว้า อ๋อ ไอ้ที่หลอกให้ถือวันนั้นนี่แบบนี้เองเหรอ อ้ากกก ไอ้พี่บ้านี่
" แถมเมื่อวานมีคนติดต่อมาให้ถ่ายโฆษณาด้วยนะ หลังเรียนจบเรางานเข้าแน่ๆ ฟาเอ๋ย " ผมหน้าเจื่อนทันที จริงๆ ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจขนาดนั้นหรอก นี่พี่เอาผมไปขายแค่ไหนกันเนี่ย
" พี่คะ ฟ้ามาหรือยัง... " ผมที่กำลังถูกจับแต่งตัวเกือบจะเสร็จแล้ว ก็มีหลีดสีแดงโผล่ยื่นหน้าเข้ามาถามหาผม
" ตัวจริงเหรอคะเนี่ย ขอลายเซ็นต์หน่อยค่ะ " ผมมองผู้หญิงหลีดสีแดงคนหนึ่งที่รีบพุ่งพรวดเข้ามา บอกตามตรงนะ แต่ละคนแต่งหน้าจัดเต็มมาก ผมมองไม่ออกเลยว่าเป็นใครห้องไหน และที่มองไม่ออกแน่ๆ เลยก็คือหน้าผมเองนี่แหละ
" เดี๋ยวครับๆ กำลังจะเสร็จแล้ว รอข้างนอกก่อนนะ " พี่เรียวยื่นแขนกันเอาไว้และบอกสาวๆ พวกนั้น ผมยิ้มให้สาวๆ และจัดการยัดขาตัวเองลงไปในถุงน่องตาข่ายต่อด้วยรองเท้าบูทสูงส้นแหลมเปรี๊ยะ
" ชุดนี่มันธีมอะไรเนี่ย " ผมมองตัวเองในกระจกบานใหญ่แบบมึนๆ มันเป็นชุดสีแดงสลับดำที่อลังการและดูเซ็กซี่เหลือเกิน ถุงมือยาวตาข่ายสีดำ ชุดกระโปรงแดงเกาะอกที่ประดับตกแต่งไปด้วยขนนกและเกร็ดเพชรสีดำ และอะไรอีกมากมาย ด้านหน้าสั้นเน้นช่วงเอว เปิดหลังและกระโปรงด้านข้างก็เว๊าเห็นต้นขา ชายกระโปรงด้านหลังปล่อยหางยาวสวยราวราชินี ทรงผมทำลอนจัดแต่งมัดขึ้นสูงตกแต่งด้วยอะไรต่อมิอะไรมากมายและปล่อยลงมาบนบ่าด้านข้าง สร้อยคอสีดำดอกกุหลาบแดงดอกใหญ่ และที่พีคที่สุด หน้ากากตาข่ายสีดำที่ปกปิดดวงตาของผมให้พร่าเลือนอ้ากกก แบบนี้เดินลำบากชิบ แต่เอ๊ะ ก็ดีนะ เผื่อใครแม่งตาดีมองออกว่าผมเป็นใคร แต่ไม่มีทางหรอก บอกเลย
" ปากสีแดงเข้ม " พี่คนแต่งหน้าดึงผมไปเติมลิปสติกปิดท้าย เป็นอันจบพิธี
" ไอ้กากเพชรบนหน้านี่เอาออกไม่ได้เหรอ " ผมถามพี่ช่างแต่งหน้า เพราะผมรู้สึกรำคาญเหลือเกิน
" ไม่ได้เคอะ เดี๋ยวไม่เริศ " เหอะๆ ก็ว่างั้นแหละ
" พี่เรียวแล้วยังไงต่อ ผมไม่รู้อะไรเลยนะ ทำงานเขาพังทำไง " ผมหันไปหาพี่เรียวและทำหน้าบูด
" เดี๋ยวคนในทีมจะบอกเอง " พี่เรียวพูดและเปิดประตูรถออก
" สวยมากกกกกก! " ผมมองสาวๆ ที่ใส่ชุดหลีดสีแดงแบบผม แต่ชุดดูตกแต่งน้อยกว่าเยอะ กำลังยืนจับกลุ่มกันอยู่ข้างรถ
ผมยิ้มให้สาวๆ และค่อยๆ จับหางชุดตัวเองเดินลงมาจากรถ
" ไม่ต้องห่วงเรื่องซ้อมนะคะ แข่งตอนบ่าย เราสีสุดท้าย " ผมถอนหายใจทันที แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
ผมจิกตามองพี่เรียวเป็นครั้งสุดท้ายและเดินตามพวกสาวๆ เข้าไปในโรงเรียน ผมปิดหน้าปิดตาหวาดเสียวเดินตามไปติดๆ และผู้คนก็ดูสนใจผมมากกว่าคนอื่นๆ ก็เพราะชุดนั่นแหละครับ ดูยังไงผมก็เด่นกว่าคนอื่นไปหมด
" สวยมาก ขาวจั๊วะ สาวห้องไหนวะ " ผมได้ยินเสียงเคลิ้มฝันดังมากจากพวกผู้ชายที่นั่งอยู่ โอ้ยย ด้านหลังชุดนั้นมีแค่เชือกเล็กๆ ไขว้สลับผูกกันไว้ เปิดโล่งจนเย็นวาปๆ จะถึงร่องตูดอยู่แล้ว
ผมรีบเดินต่อไปและในที่สุดก็ถึงห้องเรียนห้องหนึ่งสักที ซึ่งตอนนี้รวมทีมหลีดสีแดงอยู่เต็มห้อง และเดี๋ยวนะ ไอ้ไรอัน มึงอยู่สีแดงหรอกเรอะ
ผมรีบหันหน้าหลบไอ้ไรอันที่อยู่ในชุดหลีดผู้ชาย ซึ่งมันก็กำลังมองผมตาเป็นประกายเช่นกัน
" แบบนี้ชนะแน่ "
" เพิ่งเห็นตัวจริง สวยจริงๆ "
" ได้ดารามารับเชิญแบบนี้ไม่โกงเหรอวะ "
" เขาไม่ได้ห้ามคนนอกร่วมเต้นนี่ "
ผมยืนยิ้มแหยอยู่มุมห้อง คือ ไม่ใช่คนนอกหรอกนะ ถ้ากรรมการมีปัญหาละก็ จัดให้ได้ และอีกอย่าง ผมไม่ใช่ดาราสักหน่อย ไม่ดังขนาดน้าน
" พี่ฟ้า... "
" ฟ้าเฉยๆ " ผมพูดบอก เพราะพวกเราน่าจะม.6 เหมือนกันเกือบค่อนห้อง
" ค่ะ ฟ้า ไม่ต้องกลัวนะ คือแค่ยืนเฉยๆ จริงๆ แต่พวกผู้ชายจะอุ้มออกมา ปล่อยตัวตามสบาย และเมื่อยื่นธงให้ก็โพสท่าและถือเอาไว้แค่นั้นเอง " ผมยิ้มและพยักหน้าหงึกๆ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เหมือนได้ยินคำแสลงหู
" คุณซวยม๊ากมากเลย " ผมมองไอ้ไรอันที่เดินเข้ามาชวนคุย กูก็ว่างั้นแหละไรอัน กูนี่ซวยจริงๆ
" แต่ไม่ต้องห่วงโผมไม่ชอบผู้หญิง " แล้วมึงจะมาบอกกูทำม๊ายย ผมมองไอ้ไรอันที่ยิ้มหวาน อะไรของมึงฟะ
ผมยื่นมือไปเขย่ามือกับมันที่ยื่นมาให้ ปกติกูก็เห็นมึงยกมือไหว้เป็นนิ หรือมึงจะเป็นเสือไบอีกตัว กูปวดหัว
ช่วงพักกลางวันนั้น พวกหลีดจะมีคนซื้อข้าวเข้ามาให้ และผมก็ได้อนิสงส์ไปด้วย
" ลิปสติกสีแดงสวยมากเลย กินก็ยังไงก็ไม่เลอะด้วย " ผมยิ้มให้พวกสาวๆ ก็แหง๋สิ ของแพงอ่ะ
" ฟ้ามีแฟนหรือยัง สวยขนาดนี้บอกโสดคงเชื่อไม่ได้หรอก " ผมมองหนุ่มหลีดคนหนึ่งที่พูดถามผมตาหวานเยิ้ม ผมพยักหน้าหงึกหงักทันที และยิ้มน้อยๆ
" ว่าแล้วไง "
" ใครเหรอ " ผมมองไอ้คนถามที่โดนเพื่อนอีกคนโบกกบาลข้อหาเสือกเกินไป
" เขาบอกมึงไป มึงจะรู้จักไหม " ไอ้เพื่อนอีกคนบอกคนถาม
" ธีร์ " ผมพูดบอก และทุกคนก็นิ่งเงียบทันที
" ว่าไงนะ! " แต่ละคนดูตื่นตะลึงเหลือเกิน
" ประธานนักเรียนน่ะเหรอ " ผมพยักหน้าหงึกหงัก ไม่มีเหตุผลที่จะบอกไม่ได้
" ว่าแล้วว่าทำไมมาร่วมง่ายๆ แต่ทำไมไม่ไปช่วยสีฟ้าล่ะ ธีร์อยู่สีฟ้านี่ " อ่าว เวรกรรม ไม่น่าเลยกู
ผมได้แต่ส่งยิ้ม และเริ่มคิดว่าผมไม่น่าพูดออกไปเลย เพราะพวกสาวๆ ที่ตอนแรกก็เป็นมิตรกับผม ตอนนี้กลับเริ่มทำหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่ทุกคนหรอก ผมลืมไปว่าพวกผู้หญิงน่ะ แอบชอบไอ้ธีร์กันทั้งนั้น
" เป็นแฟนธีร์จริงเหรอ อิจฉาอ่าา ธีร์หล่อมากก สุภาพบุรุษสุดๆ " มีสาวนางหนึ่งวิ่งฉิวมากินข้าวข้างผมด้วยความตื่นเต้นที่ได้ยิน
สุภาพบุรุษเหรอ ถุยยย ตั้งแต่อยู่ใกล้ๆ มันมา แม่งเนียนตลอดไอ้หอกนั่น ตอนมานอนห้องผมก็แอบดอดขึ้นเตียงประจำ เห็นมันนิ่งๆ มันร้ายลึกเลยล่ะ
พอนึกถึงไอ้ธีร์ ผมก็รู้สึกเป็นห่วงมันขึ้นมา ไม่รู้มันจะกินข้าวหรือยังช่วงนี้ยิ่งกินน้อยๆ อยู่ ว่าแล้วผมก็ทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา อ่าว ชิบหายลืมไว้ในรถพี่เรียว จบกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็เริ่มที่จะตื่นเต้นสุดๆ ซะแล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังทยอยกันเข้าไปในโรงยิมของโรงเรียน เพื่อเตรียมตัวเข้าแสดง
" เธอเป็นเกิร์ลเฟรนด์ของธีร์จริงเหรอ " ผมสะดุ้งทันทีที่อยู่ดีๆ ไอ้ไรอันก็มาจับแขนผม
" เป็นปายไม่ด้าย " ผมเพิ่งนึกได้ทันทีที่ได้ยินไรอันพูด เวรอีกแล้ว ลืมไปว่าไรอันมันรู้เรื่องผมกับธีร์
" ค..คือ " เอาไงดีวะ ผมมองหน้าไอ้ไรอันที่ดูไม่เหมือนปกติ มันดูโกรธมาก และคงไม่ได้โกรธผม แต่คงเป็นไอ้ธีร์ เดี๋ยวๆ มึงเข้าใจผิดแล้ว
" Whxx The Fuxx " ผมมองมันที่สบถเบาๆ และเดินออกไป เวรแต๊ๆ หวังว่ามึงจะไม่ทำอะไรวู่วามนะไรอัน
" เอาละค่ะ การแสดงหลีดและสแตนด์เชียร์ที่ผ่านไปนั้นก็คือสีฟ้า อลังการสวยงามมาก แบบนี้รางวัลชนะเลิศคงไม่ไปไหนเสีย "
" ยังฟันธงแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะสีต่อไปที่เราจะได้รับชมนั้นคือสีแดงที่เป็นแชมป์เก่า... "
ผมฟังเสียงพิธีกรสองคนที่กำลังพูดถึงการแสดงก่อนหน้า ถึงไอ้ธีร์จะไม่ชอบน้ำแต่เวลาที่มันต้องทำงานร่วมกับน้ำ มันก็ยังคงทำได้ดี อดทนหน่อยนะมึง เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว ผมพูด และแอบมองไอ้ธีร์จากช่องว่างที่มองเห็นได้
" ตอนนี้สีแดงพร้อมแล้วนะครับ ขอเชิญสีแดงได้เลยครับ "
ผมใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้ ผมมองหลีดสีแดงที่ต่อแถวยาวและวิ่งออกไปพร้อมเสียงกรี๊ดดังลั่นสนั่นที่จัดงาน ผมเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ต้องวิ่งออกไป แต่ทำแค่เพียงเดินตามออกไปทีหลังด้วยผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ที่คลุมผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนี้ในโรงยิมนั้นมืดนัก มีเพียงไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่หลายตัวฉายส่องหลีดประจำสีและสแตนด์เชียร์ เสียงโห่ร้องฮือยังคงดังตลอดการแสดงที่ผ่านไปราวๆ 5 นาที
ผมยังคงยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ หน้าสแตนด์และหลังหลีดที่กำลังแสดง แสงไฟยังคงไม่ได้ส่องมาที่ผม ทุกคนถึงไม่ได้สังเกต ว่ายังมีคนอยู่อีกคนในทีม
และในช่วงเวลาที่แสนสำคัญก็มาถึง เสียงดนตรีตอนนี้เป็นซาวด์ที่ดูอลังการ เหมือนกำลังเปิดตัวอะไรบางอย่างที่สำคัญ ผมรู้สึกว่าผ้าคลุมรอบๆ ตัวผมกำลังร่วงหล่นลงไป และตัวผมก็เริ่มถูกยกตัวสูงขึ้นจากหลีดชาย 4 คน
ผมปล่อยตัวตามสบายๆ ตามที่ได้ตกลงไว้ ผมตื่นเต้นมาก แต่ก็ต้องทำให้ดูสมกับเป็นมืออาชีพหน่อย ผมถูกยกตัวขึ้น เด่นหราราวราชินีแห่งสีเพลิง จะนิ่งเกินไปก็คงไม่ได้ ผมกรีดกรายมือให้เข้ากับการแสดงด้านหน้า ที่เหล่าหลีดสาวกำลังเต้นรำอยู่
และทันทีที่ไฟฉายส่องมาที่ผม ทุกคนในโรงยิมก็ต่างกรีดร้องกันอย่างสนั่นหวั่นไหว เสียงกรี๊ดที่ดึงอื้ออึงทำให้ผมไม่อายอีกต่อไป ผมโพสท่าแบบเซ็กซี่หยอกเย้ากับหลีดหนุ่มที่กำลังโอบอุ้มตัวผมและคนพวกนี้ที่ไหวพริบดี ก็เล่นด้วยกับผมเช่นกัน
และทันทีที่ผมเลื่อนสายตาไปหาพีธีกรชายบนแท่นนั้น ผมก็รู้ได้เลยว่า คนคนนั้นกำลังทำสีหน้าแบบไหน ผมมองไอ้ธีร์ที่ลดไมค์ลงและมองผมด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจสุดๆ
และแน่นอนว่าโกรธสุดๆ ด้วย ฮือ