KING ที่ 36 ถ้อยคำที่เฝ้ารอ " อ้าว ทั้งสองคนอยู่นี่เอง " ผมเดินออกมาจากป่า และพบว่าพวกพี่ๆ และทุกๆ คนในกลุ่มกำลังรออยู่ ไอ้ธีร์ผละมือออกจากผมแล้ว พวกเราไม่ได้จับมือกันอีกแล้ว
" ใจหายหมดเลย คิดว่าหลงป่าไปซะแล้ว " ผมมองไอ้คนที่พูดด้วยแววตาเคียดแค้น ไอ้ปี 4 นั่นเองสินะ ผมจำเสียงมันได้
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะผมไม่มีหลักฐานอะไรเลย ผมเดินมานั่งลงในกลุ่มข้างๆ เพื่อน ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้รุ่นพี่เวร
" ฟา ขอโทษนะ พอรู้ตัวทุกคนก็หายไปหมดเลย " ไอ้จุ่นรีบพูดทันทีที่ผมนั่งลง หนอยมึง ผมมองไฟฉายของผมที่อยู่ในมือของมัน วิ่งหนีกูไม่พอ เสือกเอาไฟฉายกูไปด้วย
" ทุกคนแยกย้ายไปอาบน้ำได้ หลังอาบน้ำจับคู่กันมานะ พวกพี่ๆ จะรอที่เต้นท์ " ผมหน้าหมองลงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จะทำยังไงเรื่องที่นอนดีนะ
" ไปอาบน้ำกันฟา แต่รอจูแปบนึง " ผมพยักหน้าและเดินตามเพื่อนไปที่กองกระเป๋าของพวกเรา ผมเหลือบมองไอ้ธีร์ที่เดินตามมาด้านหลัง
ผมนั้นยังคงโกรธมัน พวกเราไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มันบอกเลิกผม มันตัดผมออกจากชีวิตมัน ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วจะให้ผมหันไปหามันแล้วบอกว่านอนด้วยกันไหมน่ะเหรอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ถึงผมจะใจอ่อนแค่ไหน แต่พวกเราก็จบกันแล้ว แต่ถ้าหากมันขอโทษผมละก็ ผมอาจจะยอมยกโทษให้มันก็ได้ ผมคิดอย่างนั้น
ผมยืนรอจูน้องของไอ้จุ่นและเดินไปที่พร้อมๆ กัน ห้องอาบน้ำนั้นเป็นห้องรวมที่มีห้องน้ำห้องเล็กๆ อยู่ด้านข้าง และมีอ่างน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ให้มันได้อย่างนี้สิ
ผมหาที่แขวนเสื้อผ้าดีๆ และเดินมาชิดอ่างน้ำ ผมวางสบู่ ยาสระผมและอะไรต่อมิอะไรของผมที่ขอบอ่าง ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ ผมรู้สึกถึงสายตาของหลายๆ คนในห้องที่กำลังเหลือบมองผม แม่งจะสนใจกันทำไมนักหนาวะ ก็มีเหมือนๆ กันนั่นแหละ
" ฟา จุนว่าฟาไปอาบในห้องก็ได้มั้ง รู้สึกจะมีห้องที่มีฝักบัวอยู่นะ " ไอ้จุ่นพูดบอกผมเบาๆ
" แต่จูอยากดูนี่นา " ผมเลิกคิ้วมองไอ้จูที่กำลังโดนพี่ชายฟาดเบาๆ
ผมไม่สนใจ ถ้าผมมัวแต่อายหรือหนีละก็ คงเข้าทางพวกมัน ไอ้พวกนี้มันคงคิดว่าผมเหนียมอายแบบผู้หญิง รังแกง่ายสินะ มันไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ยอมใครง่ายๆ เหมือนกัน แต่ถ้ามาเยอะก็อีกเรื่องหนึ่ง
ผมเริ่มถอดเสื้อออกช้าๆ และรู้สึกว่าเสียงน้ำในห้องอาบน้ำนั้นดูเงียบไป ผมรู้ว่าทุกคนกำลังหยุดนิ่งและจ้องมองผม แม่งเกลียดชะมัด แต่ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่แคร์
ผมก้มลงจ้องมองอ่างน้ำ และตักน้ำราดตัวเองทันที อย่าสนใจไอ้ฟา อย่าสนใจ
" น้องฟา ไม่ถอดกางเกงด้วยละจ๊ะ " ผมชะงักมือทันทีที่ได้ยินเสียงกวนประสาท
" เสือก " ผมพูดและตักน้ำต่ออย่างไม่ใส่ใจ
แต่ผมที่ยืนอาบน้ำอยู่นั้นก็ต้องตกใจทันที ผมถูกดึงและผลักให้เข้าไปในห้องอาบน้ำเล็กๆ ผมหันกลับมามองไอ้คนที่ทำแบบนี้กับผม ซึ่งไม่มีใครอื่น ไอ้ธีร์เข้ามาในห้องน้ำเล็กๆ นี้ด้วย พลางปิดประตูเสียงดังและจ้องมองผมแบบไม่พอใจ
" อย่ายุ่งได้ไหม " ผมพูดและผลักไอ้ตัวยุ่งทันที และพยายามเอื้อมมือไปเปิดกลอนเพื่อจะเปิดประตูออกไป
" อาบในนี้ " ไอ้ธีร์สั่งผมเสียงเครียด และยืนขวาง กันไม่ให้ผมออกไป
' ตึ้งๆๆ! '
" ฟา เป็นไรเปล่า! " ผมได้ยินเสียงไอ้จุ่นดังมาจากด้านนอก
" ห้าม ออก มา " ไอ้ธีร์พูดเน้นคำ และเปิดประตูเดินออกไป
ผมนั้นรู้สึกเหนื่อยมาก ผมไม่อยากจะต้องมาเถียงเรื่องไร้สาระแบบนี้กับมัน แต่ผมก็รู้สึกดีใจเล็กๆ ที่มันยังคงเป็นเหมือนเดิม ถึงมันจะทิ้งผม แต่มันก็ยังคงปกป้องผมเสมอ ทำไมกันนะ มึงไม่ต้องการกูแล้วไม่ใช่เหรอ
' มึงชื่อไรนะ ธีร์ใช่ไหม '
ผมแนบหูลงที่ประตูเพื่อฟังเสียงด้านนอก
' เป็นอะไรกับฟา เห็นชอบเข้ามาเสือก '
' ไม่ได้เป็นอะไร '
ผมเลิกแอบฟังทันที นั่นสินะ ก็ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นั่นแหละ
' นึกว่ากูกลัวพี่มึงเหรอ '
' ไม่จำเป็นต้องถึงมือพี่ธีม '
ตอนนี้ผมได้ยินการสนทนาโดยไม่ต้องแอบฟังเลยสักนิด ผมเป็นห่วงไอ้ธีร์ มันจะโดนอัดไหมนะ แต่คงไม่เป็นไร ดูแล้วพี่ชายมันคงไม่ยอมหรอก
ผมเลิกสนใจและทำท่าจะอาบน้ำต่อ แต่อ่าว ชิบหายสบู่อยู่ข้างนอก
ผมค่อยๆ บิดลูกบิดประตูและแอบมองข้างนอก ผมมองเห็นหลังไอ้ธีร์ที่ยืนกันท่าอยู่หน้าห้องผม และไอ้รุ่นพี่สองคนที่กำลังหาเรื่องอยู่
' อย่าคิดว่าพี่มึงจะช่วยได้ตลอด '
' ไม่เคยให้พี่ช่วยอยู่แล้ว '
' เหอะ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง '
ผมมองรุ่นพี่ที่เดินออกไป ฟู่วว รอดแล้วสินะ
" โผล่ออกมาทำไม " ผมโดนด่าทันทีที่มันหันมา มึงนี่มันเหมือนเดิมเลยนะ
" กูไม่มีสบู่ เอาให้หน่อย " ผมพูดและชี้บอกมัน
ผมมองมันที่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ผ้าเช็ดตัวพาดบนบ่า มันเดินไปหยิบของๆ ผมทั้งหมดและเดินกลับมาหาผม
" ไม่ได้รู้ตัวเองเลย งี่เง่า " ผมหน้าบูดทันทีที่ได้ยินแบบนั้น และรับของๆ ผมมา และปิดประตูใส่หน้ามันทันที
ผมรีบอาบน้ำโดยเร็วด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็คงไม่เป็นไร ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีมันอยู่ข้างนอก ผมจะเป็นยังไงกันนะถ้าไม่มีมัน ผมไม่อยากคิดเลย
ผมที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตัวใหม่ของผมนั้น ไอ้ธีร์ไม่ได้หยิบมาด้วย ผมบิดลูกบิดประตูอีกครั้ง เพื่อจะเรียกให้มันหยิบให้
ผมเปิดประตูเล็กน้อย และมองออกไป มองไปรอบๆ ห้องน้ำพลางขมวดคิ้วมุ่น มันไปไหนกันนะ
" ธีร์ " ผมลองเรียกออกไปเบาๆ ผมว่ามันไม่ได้ไปไหนไกลหรอก และทันทีที่ผมเรียกนั้น ผู้ชายคนหนึ่งที่หันหลังอาบน้ำอยู่ตรงอ่างน้ำก็หันมา
" อะไร " ผมชะงักนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น และมองมันที่ไม่ได้ใส่เสื้อ มันค่อยๆ เดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าสงสัย
ผมมองมัน มองร่างกายของมันที่...
" ถุงผ้า ตรงราวนั้น " ผมพูดและชี้ไปที่ราวข้างๆ และมองมันที่ค่อยๆ เดินไปหยิบมาให้
ผมรับถุงเสื้อผ้าของผม และรีบปิดประตู ผมยืนนิ่งอยู่ใต้ฝักบัว ฟุบหน้าลงกับถุงผ้าของผม ไอ้ธีร์นั้นเป็นคนที่ผมชื่อชมในร่างกายของมันเสมอ มันเป็นคนที่ดูแลตัวเอง และดูแข็งแรงเสมอมา แต่มันไม่ใช่ตอนนี้
ไอ้ธีร์นั้นซูบผอมลงมาก มากจนผมตกใจ คนอื่นอาจไม่ทันสังเกตุแต่ผมที่อยู่กับมันเสมอนั้น มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน มันได้กินข้าวครบทุกมื้อไหม มันกำลังป่วยอยู่หรือเปล่า ผมทนไม่ได้ที่เห็นมันเป็นแบบนี้ มันเป็นเพราะผม และผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา ผมจะทำยังไงดี
หลังอาบน้ำนั้น ผมล้างหน้าอีกหลายครั้งและออกมาจากห้องน้ำ ผมพบไอ้ธีร์ที่แต่งตัวแล้ว ก็ออกมายืนรอผมที่หน้าห้องน้ำเช่นกัน ผมมองมันที่ยืนมองท้องฟ้า ผมไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ มันกำลัง คิดถึงผมหรือเปล่านะ
" ไอ้ฟา ตกลงเอาไง จะนอนกับใคร " ผมมองไอ้จุ่นที่วิ่งพรวดเข้ามา
" ไม่รู้สิ " ผมส่ายหน้าอย่างเศร้าใจ พลางเดินต่อไปเพื่อหยิบสัมภาระของผม
ผมเดินลากขาไปที่ลานด้านนอก ที่ที่มีเต้นท์มากมายกางอยู่ในลานหญ้า
" น้องฟา ศิลปกรรมใช่ไหม คู่ของเราล่ะ " รุ่นพี่สาวถามผมทันทีที่ผมมาลงชื่อหน้าลาน
" ผมไม่... "
" ธีร์ครับ แพทย์ " ผมมองคนที่เสนอหน้ามายืนข้างๆ ผม นี่เอาจริงเหรอเนี่ย
" โอเค เต้นท์ริมนั้นนะ ใต้ต้นไม้จ๊ะ " ผมมองไอ้ธีร์ที่เดินไปที่เต้นท์นั้น
ผมค่อยๆ เดินตามไป คือแบบนี้จะว่าดีไหม มันก็ดีกว่าให้ผมนอนคนเดียวแล้วโดนรุมโทรม หรือนอนกับไอ้สองแฝดนรกนั่น เพราะมันเป็นคนที่ผมคุ้นเคยดี แต่พวกเราเลิกกันแล้วนะ เลิกกันแล้วน่ะ แล้วมึงไม่คิดจะถามกูสักคำเลยเหรอ เอาแต่ใจเหมือนเดิมนั่นแหละ
" ทำอะไรของมึง " ผมเดินตามมันที่เต้นท์ และชะโงกหน้าด่ามันที่กำลังมุดเข้าไป
" อยากมีผัวหลายคน หรืออยากมีผัวแฝด " มันพูดและทำหน้านิ่งๆ
" กูบอกแล้วไง ว่าดีกว่าเป็นเมียมึง " ผมหน้ามุ่ย พลางมุดเข้าไปบ้าง
ในนี้นั้นก็กว้างพอสำหรับสองคนจริงๆ นั่นแหละ แบบแทบจะขี่กันเลยทีเดียว ผมวางของข้างๆ และพยายามขุดคุ้ยดึงผ้าออกมาปูให้มากที่สุด
" ถ้าจะทำคงทำนานแล้ว " ผมหยุดมือทันทีที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น
" แต่มึง ก็เคยเกือบทำนิ ใช้กำลังด้วย " ผมพูดเบาๆ และเหลือบมองมันที่ชะงักไปเหมือนกัน
" ขอโทษ " ผมหันไปมองหน้ามันทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ผมมองตามันที่กำลังจ้องมองผมอย่างเศร้าๆ ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะพูดออกมาง่ายๆ
" แล้วทำไมมึงถึงทำ... "
" น้องๆ จ๋าไปกินข้าวต้มกัน " ผมมองพี่คนหนึ่งที่โผล่หน้าเข้ามาเรียกเรา ผมพยักหน้าให้พี่ และคลานออกไปจากเต้นท์
ผมรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยมันก็ขอโทษผมเรื่องคืนนั้นแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ว่า ทำไมมันถึงบอกเลิกผม
ผมออกมาจากเต้นท์ และมองหาเพื่อนที่กำลังเดินมาหาผมเช่นกัน
" อะไรเนี่ย ไหนบอกไม่มีคู่ไง " ไอ้จุ่นถามผมพลางเหลือบๆ มองไอ้ธีร์ที่เดินตามมา
" จุนอุตส่าห์ไปขอรุ่นพี่มาแล้วนะเขาบอก 3 คนถ้ายัดไหวก็โอเค " ผมมองไอ้จุ่นที่ใบหน้ามีความหวัง
" แค่สองคนก็ปลากระป๋องแล้ว "
" ไม่เป็นไร ฟานอนตรงกลาง เบียดๆ กันอุ่นดี " ผมยิ้มแหยๆ มองมัน และมองน้องมันที่เดินตามมาอีกที จ้างให้กูก็ไม่หลงกลหรอก เข้าเต้นท์พวกมึงกูคงได้คลานออกมาแน่ๆ
" ไม่เป็นไร ขอบใจมาก " เชิญพวกมึงสองพี่น้องนอนกอดกันให้สบายเถอะ หึ ผมพูดในใจพลางดึงแขนเพื่อน และเหลือบมองไอ้ธีร์ที่เดินตามมาห่างๆ ถ้าเป็นมันเมื่อก่อนคงระเบิดและเดือดสุดๆ เพราะมันเป็นคนขี้หึงมาก แต่ตอนนี้มันกลับหันไปมองทางอื่น เหมือนกับไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า
พวกเราต่อแถวกันเพื่อรับชามข้าวต้มร้อนๆ รอบดึก ผมรับถ้วยมาและเดินมานั่งลงที่โต๊ะไม้ตัวยาวด้านนอกอาคาร ผมมองนักศึกษาปีหนึ่งแต่ละคนที่จับกลุ่มกัน ทุกคนล้วนมาจากคนละที่ แต่ก็เข้ากันได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้ผมคิดถึงเพื่อนของผม ป่านนี้พวกมันจะเป็นยังไงกันบ้างนะ
ผมเหลือบมองคนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งใกล้ๆ ผม ตอนนี้รอบตัวมันนั้นมีแต่คนเข้ามานั่งด้วยและชวนมันคุยไม่ขาด แต่มันก็ยังคงนิ่งเฉย เหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา ผิดกับพี่ชายของมันที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลและกำลังเม้าท์มอยกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ สองพี่น้องนี่มันคนละขั้วกันจริงๆ สินะ
" ตกลงฟาไม่รู้จักไอ้ธีร์นั่นจริงเหรอ แต่เห็นเหมือนมันชอบยุ่งกับฟานะ " ผมมองไอ้จุ่นที่ถามอย่างสงสัย
" เคยอยู่โรงเรียนเดียวกัน " ผมพูดเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ
" ว่าแล้วไง แต่เป็นแค่เพื่อนจริงๆ ใช่ไหม " ผมมองไอ้ เอ่อ คนไหนจูคนไหนจุ่นฟะ
" ถามแปลก ก็เพื่อนดิ แต่ตอนนี้เลิกคบไปแล้ว "
" เลิกคบ ? ดูยังไงก็สนิทกันนี่ ทะเลาะกันเหรอ " ไอ้พวกนี้นี่เสือกไม่เข้าเรื่องจริงๆ
" ช่างมันเถอะน่า " ผมพูดและเขี่ยผักชีออกจากถ้วย
" เออ แล้วหอในอ่ะ พวกมึงอยู่ครบ 4 คนหรือยัง " ผมคิดว่าผมชวนมันเปลี่ยนเรื่องคุยน่าจะดีกว่า
" ครบแล้ว อีก 2 คนเป็นเพื่อนจูอยู่ต่างคณะ ฟาล่ะ อย่าบอกนะว่ายังไม่มีรูมเมทน่ะ "
" อืม ไม่รู้จักใครเลย " ผมพูดพลางหน้ามุ่ย
ผมมองมันสองคนพี่น้องที่ทำหน้าเศร้าสลด เหอะ ถึงมันชวนผมไปอยู่ด้วยผมก็คิดหนักนะ
" เดี๋ยวเขาก็สุ่มจับให้ครบ 4 นั่นแหละ เสียดายอ่ะ ถ้าเจอฟาก่อน จุนจะให้ฟาอยู่ด้วย "
" ไม่เป็นไร กูอยู่ไม่นานหรอก แค่ช่วงกิจกรรมเดือนแรกๆ นี่แหละ " ผมพูดจริงจัง ผมจะรีบย้ายออกทันทีที่หมดกิจกรรม เพราะการอยู่หอในนั้น มันทำให้ผมครอสเดรสไม่ได้ ทำงานลำบากจะตาย
" น้องๆ คนไหนที่ทานเสร็จแล้วแยกย้ายไปเข้านอนได้เลยน้า " ผมมองพวกพี่ๆ ที่ประกาศเสียงดัง และพวกน้องๆ ก็ค่อยๆ ทยอยกันกลับเข้าเต้นท์ เอาล่ะ
ผมมองไอ้ธีร์ที่นั่งทำหน้าบูดอยู่กลางกลุ่มสาวๆ และลุกขึ้นเตรียมตัวไปล้างหน้าแปรงฟันและเข้านอน
ผมเดินกลับเข้าไปในเต้นท์ หยิบขวดน้ำและแปรงสีฟันมานั่งยองๆ ใต้ต้นไม้ห่างออกไปนิดหนึ่ง ผมไม่อยากไปที่ห้องน้ำ ผมไม่อยากเจอไอ้พวกรุ่นพี่โรคจิตนั่น และสักพักที่ผมนั่งอยู่นั้น ไอ้ตัวปากแมวมันก็เดินตามผมมา และนั่งลงแปรงฟันด้วยเช่นกัน
ผมเหลือบมองมัน ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับมันดี แรกๆ ผมคิดว่ามันเปลี่ยนไปนะ เปลี่ยนกลับไปกวนตีนปากหมาเหมือนเก่า แต่ตอนนี้ผมว่ามันไม่ใช่ มันยังคงเป็นไอ้ธีร์คนเดิมที่คอยช่วยเหลือผม แต่คงไม่ใช่ไอ้ธีร์ที่รักผมเหมือนเดิมอีกแล้ว
" เดือนที่ผ่านมา มึงทำอะไรบ้าง " ผมพูดถามมันเบาๆ เผื่อมันจะอยากบอกผมบ้าง ว่าทำไมมันถึงไม่ยอมกลับมาหาผม
" ยุงมันเยอะ เสร็จแล้วก็นอนได้แล้ว " ผมมองมันที่รีบแปรงฟันล้างหน้าและเดินหนีผมไปเหมือนไม่อยากตอบ
ผมที่แปรงฟันเสร็จแล้วก็เดินตามมันและมุดเข้าไปในเต้นท์ ผมเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นว่าตรงที่นอนของผมมีหมอนวางอยู่
" เอาของมึงคืนไป " ผมหยิบหมอนและโยนคืนให้มัน
" พี่ธีมเอามาให้ " ผมยังคงดันหมอนคืนมัน เรื่องอะไรผมต้องรับล่ะ มันก็ไม่มีหมอนสักหน่อย
" ของพี่มึงนิ กูไม่เอา " ผมพูดพลางรีบนอนหันหลัง เอากระเป๋าหนุนแทนหมอน
ผมนั้นไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยสักนิด การนอนกลางแจ้งไม่ใช่เรื่องที่ผมควรทำเลยจริงๆ ผิวผมมันน่ารำคาญมาก มันอ่อนแอบอบบางแบบผู้หญิง ผมมองรอยใบไม้บาดเล็กๆ บนแขนตอนที่วิ่งหนี เฮ้อ เจ็บอ่ะ
แต่ผมที่กำลังยกแขนตัวเองเพื่อมองดูแผลนั้น ก็ต้องสะดุ้งทันทีที่แขนของผมถูกดึงขึ้นไป
ผมมองไอ้ธีร์ที่ถือสำลีในมือและกำลังชุบแอลกอฮอล์ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง มองมันที่กำลังตั้งใจเช็ดแผลให้
" ข่วนเบาๆ แต่ก็กันไว้ก่อน " ผมมองมันที่กำลังจับแขนผมเอาไว้ ทำไมมึงถึงยังทำแบบนี้อีกนะ ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ
หลังจากทำแผลเสร็จแล้ว ผมมองมันที่กำลังนอนลงไปและหันหลังให้ผม แบบนี้ดีแล้วจริงๆ เหรอ พวกเราอยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เหมือนยังดูห่างไกลนัก ผมปวดใจหนึบๆ เลยทีเดียว
ผมค่อยๆ นอนลงและมองแผ่นหลังของมัน มึงหลับแล้วเหรอ กูอยากคุยกับมึงนะ กูคิดถึงมึงมากเลยรู้ไหม มึงจะไม่บอกกูหน่อยเหรอ ว่าทำไมมึงถึงทิ้งกูไป
ผมยังคงนอนไม่หลับ ผมมองคนตรงหน้า ที่ขาของมันยาวมาก ยาวจนมันต้องนอนงอขา ผมมองผ้าห่มที่มันเอามาหนุนต่างหมอน พอผมไม่ใช้หมอนนั้น มันก็ไม่ใช้ด้วยอีก
" ห่มผ้าซะ กลางแจ้งน้ำค้างมันลง " ผมมองมันที่กำลังพูดบอกผม แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา
" ไม่มี ไม่ได้เอามา " ผมพูดเบาๆ บอกมัน
ผมมองมันที่ลุกขึ้นนั่งอีกครั้งและเอาผ้าห่มที่มันหนุนมากางออกและส่งให้ผม
" เอามาให้กู แล้วมึงจะหนุนอะไร " ผมดันมือมันออก มึงนี่มันเสือกดีจริงๆ
" แขน " มันพูดและนอนลงเหมือนเดิมแต่เอาแขนหนุนต่างหมอน
ผมหงุดหงิดรำคาญใจ มึงจะสบายกว่านี้ไหม ถ้ากูไม่ได้อยู่ในนี้กับมึง ผมลุกขึ้นดึงหมอนที่วางพิงอยู่ด้านบน หมอนใบนี้ลูกใหญ่เลยทีเดียว พี่มึงเอามาให้กูหรือมึงกันแน่นะ
ผมวางหมอนลงกลางๆ และนอนด้านริมของหมอนด้านหนึ่ง ผมยังคงมองแผ่นหลังของมันที่ไม่ได้หันมา ฝันดีนะ ไอ้ธีร์ คนเลว
ผมหลับตาลงหนุนหมอนที่นุ่มนิ่มและพยายามที่จะหลับ ผมขยับตัวไปมาเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยสบายตัว แต่ก็ไม่กล้าขยับมาก เพราะกลัวจะไปรบกวนมันเข้า
แต่ผมที่กำลังนอนนิ่งนั้นก็รู้สึกว่าตัวผมกำลังถูกคลุมด้วยผ้าห่ม ผมนอนแข็งทื่อ ผมไม่อยากให้มันรู้ว่าผมยังตื่นอยู่
กลิ่นของมัน ผมคิดถึงจัง ผมคิดถึงยามเช้าที่มีมันอยู่ข้างๆ คืนนี้มึงจะแอบนอนกอดกูหรือเปล่า อย่างที่มึงชอบทำ
ผมอดใจไม่ไหว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เพื่อมองว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แต่ผมที่ลืมตาขึ้นมานั้นก็ต้องหัวใจเต้นโครมครามทันที เพราะว่ามันในตอนนี้ กำลังนอนหนุนหมอนอีกข้าง และหันมาจ้องมองผมเช่นกัน
พวกเราจ้องตากันในความมืด มันเหมือนทุกสิ่งยังคงเป็นเหมือนดั่งวันวาน วันที่เรามีกันและกันอยู่ ผมอยากจะเอื้อมมือไปหามัน ดึงมันมากอดเอาไว้ แต่ผมไม่มีสิทธ์นั้นอีกแล้ว จะให้ผมทำยังไง
" ทำไม มึงถึงยังสวมแหวนนั่นไว้ " ผมพูดเบาๆ ในความมืด มองแหวนของมันทีี่อยู่บนนิ้วมือที่กำลังสะท้อนแสง
" เพราะไม่เคยลืม " ผมแววตาสั่นระริก ผมไม่เข้าใจเลย แล้วถ้าเป็นแบบนั้นทำไมเราถึง...
" ทำไมมึงถึงบอกเลิกกู " ทำไมมึงถึงทิ้งกูไป
ผมเฝ้ารอคำตอบด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน แต่คำตอบที่ได้ ก็มีแต่ความเงียบเท่านั้น
ในรุ่งเช้า ผมตื่นขึ้นและมองด้านข้างที่ว่างเปล่า ผมเจ็บปวดในหัวใจลึกๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้น ผมคงจะตื่นขึ้นมาแล้วโวยวายทันทีที่รู้ว่าผมโดนกอดอยู่ทั้งคืน แต่มันคงไม่มีอีกแล้ว
วันเวลาในค่ายรับน้องก็ยังคงเป็นแบบเดิม กิจกรรมมากมาย ผมทำทุกอย่างเหมือนอยากให้มันผ่านพ้นไปเร็วๆ ผมเหนื่อยล้า ผมรู้สึกอ้างว้าง ผมและไอ้ธีร์นั้นถึงจะคุยกัน แต่ก็ไม่เหมือนเดิม พวกเราเหมือนถูกกระจกใสกั้นกลางเอาไว้ ได้มองเห็นกัน ใกล้กันมากขนาดนี้ แต่กลับแตะต้องกันไม่ได้
ถ้าผมรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ ผมคงจะกอดมันเอาไว้ให้มากที่สุด ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน
" ฟาเป็นไรป่ะ ซึมกระทือสุดๆ " ผมไม่สนใจไอ้จุ่นที่กำลังโบกมือไปมาตรงหน้าผม
" ไม่สบายหรือเปล่า บอกพี่ได้นะ " ผมมองพี่ธีมที่เดินเข้ามาสมทบด้วยอีกคน พี่ธีมนั่งลงข้างๆ ผมและเท้าคางส่งยิ้มอย่างใจดี
ผมมองพี่ธีมที่จ้องมองผม จะดีแค่ไหนนะถ้าตอนนี้คนที่ส่งยิ้มให้ผมนั้นเป็นคนที่ผมรัก พี่ธีมนั้นถึงจะคล้าย แต่ก็ไม่เหมือน ไม่ใช่ ไม่มีใครแทนมันได้
" พี่ชอบผมจริงๆ เหรอ " ผมเหม่อลอยและถามออกไป ผมมีดีอะไร คนอย่างพี่ถึงสนใจผมนัก
" อย่าไปหลงคารมมันเชียวนะน้องฟา ไม่งั้นโดนมันเล่นทั้งคืนแน่ " ผมมองไอ้พวกเพื่อนๆ ของพี่ธีมที่รีบเดินเข้ามาแซว
" อย่าไปฟังพวกมัน พี่รักใครรักจริงนะ " เชื่อตายล่ะ ยังจำได้นะ ที่สวนน้ำอ่ะ
" ผม...มีคนที่ชอบอยู่แล้ว " ผมพูด และมองพี่ธีมที่หน้าเจื่อนลง
" ใครกัน ผู้ชายหรือผู้หญิง " พี่ธีมถามด้วยสีหน้าจริงจัง
" อย่าถามผมอีกเลยครับ ไม่งั้นผมคงร้องไห้แน่ๆ " ผมพูดและยิ้มอย่างเศร้าๆ
ตลอดเวลาช่วงบ่าย ผมก็ยังคงรู้สึกเงียบเหงา ทำกิจกรรมโดยไม่มีใจอยู่ตรงนี้เลยสักนิด วันนี้นั้นเป็นคืนสุดท้ายแล้ว ผมจะได้กลับไป พวกเราจะได้ห่างกันไปสักที ผมทรมาน อยากลืมแต่ก็ทำไม่ได้ ผมอ่อนล้าเหลือเกิน กับรักที่ไม่สมหวังครั้งนี้
" ที่พูดกับพี่ธีม หมายถึงใคร " ผมนั่งอยู่ที่รอบกองไฟในยามค่ำคืน ดูพวกพี่ๆ ที่กำลังร้องเพลงและเต้นกันอย่างสนุกสนาน ผมทำเป็นไม่สนใจคนที่มานั่งข้างๆ ผม และถามด้วยความสงสัย
" กูจะรักใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง " ผมพูดและเหม่อมองไปข้างหน้า ผมคงทำให้มันหงุดหงิดน่าดู
" ฟา " ผมมองมันที่กำลังทำเสียงแข็งเรียกผม
" มึงจะสนใจอะไร พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันอีกแล้ว " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ มองมัน
ผมก็ยังคงนิสัยเสียเหมือนเดิม ผมกวนมัน มองมันที่ดูร้อนลนในแววตา มึงสนใจจริงๆ เหรอว่ากูรู้สึกยังไง แล้วทำไมมึงถึงไม่ยอมบอกกู ว่าทำไมมึงถึงทิ้งกูไป
" กูรักมึง " ผมชะงักและหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น นี่ผมกำลังฝันไปงั้นเหรอ
" ไม่ว่ามึงจะรักใคร กูแค่อยากให้รู้เอาไว้ ถึงมันจะไม่สำคัญแล้วก็เถอะ " ผมมองมันที่กำลังยิ้มอย่างเศร้าๆ และลุกเดินจากไป
ผมน้ำตาไหลออกมาช้าๆ มันจะดีแค่ไหนกันนะ ถ้าในวันนั้น คำที่ผมได้ยิน เป็นคำๆ นี้ ไม่ใช่คำว่าเราเลิกกัน
ในคืนนั้น ผมนอนจ้องมองมันที่นอนหันหลังทั้งคืน มันไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากนั้น ผมอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าผมก็รักมันเช่นกัน
พวกเราไม่เลิกกันได้ไหม เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้ไหม