KING ที่ 26 ข้าวกล่องสื่อหัวใจ ขากลับจากดูหนังนั้น พวกเราก็กลับมาที่คอนโดของผม ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ กินกัน วันนี้ผมอยากโชว์ฝีมือบ้าง ก็เลยจัดการทำกับข้าวเองง่ายๆ เอาจริงๆ ผมนั้นก็ทำได้อยู่ครับ และผมไม่กลัวที่จะต้องให้ไอ้หอกนี่กิน ต่อให้ไหม้จนดำติดกระทะ มึงก็ต้องกิน หึหึ
" เคยทำอะไรกินเองบ้าง " มันที่อยู่ไม่สุขก็มาเดินด้อมๆ มองผมอยู่นั่นแหละ
" เกะกะว่ะ " ผมรวบผมขึ้นและตั้งใจทอดไข่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ผมนั้นยังอยู่ในชุดเดรสขาวน่ารักๆ เหมือนเดิม ขี้เกียจเปลี่ยนอ่ะ
" ไฟแรงแบบนั้นจะไหม้แล้ว " ผมหน้ามุ่ยและเหลือบมองมันที่ยืนซ้อนหลังผม นี่มึงอยากเข้าด้านหลังกูมากใช่ไหม
" กูรู้น่า " ผมพูดและเร่งไฟขึ้นอีก ผมเป็นพวกแบบนี้ล่ะ ยิ่งว่ายิ่งยุ
และในที่สุด อาหารที่ดูแล้วอาหารหมายังน่าแดกกว่าก็เสร็จ ผมรู้สึกสงสารตัวเองแต่สมน้ำหน้าไอ้คนที่ต้องกิน หึหึ มึงขี้แตกตายแน่ไอ้หล่อ
" นี่อาหารคนแน่เหรอ " ไอ้หล่อมองซากไข่ในจานพลางถอนหายใจถี่
" ปากดี แดกได้ก็แดก แดกไม่ได้ก็โยนทิ้ง... " แต่ผมที่กำลังพูดบ่นอยู่นั้น ก็พบว่ามันตักเข้าปากจริงๆ ซะด้วย
" เอ่อ กูว่าสั่งอะไรมากินเถอะ " ผมมองมันที่ยังคงกินต่อไป นั่นน่ะกูเทเกลือลงไปแทบหมดกระปุกเลยนะ
" อร่อยดี " ผมมองมันที่ยิ้มน้อยๆ ให้ผม
" ไอ้ตอแหล " ผมอมยิ้มมองมัน มึงนี่มันจริงๆ เลยนะ
พวกเราช่วยกันเก็บกวาดล้างจานและผมก็โทรสั่งขนมจากข้างล่างมากินอีกที หลังจากนั้นพวกเราก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ นั่งอ่านหนังสือกัน เพราะว่าไอ้ธีร์บอกว่าถ้าผมจะติว ก็ควรจะเริ่มเลยห้ามอิดออด
" ธีร์ " ผมเรียกมันที่กำลังตรวจคำตอบของผมอยู่
" ว่าไง " มันเงยหน้าจากสมุดมามองผม
" มึงอยากเรียนอะไร " ผมถามมันด้วยความอยากรู้จริงๆ
" ถามทำไม " มันไม่ยอมตอบ หนอยย
" กูอยากเรียนออกแบบเหมือนพี่เรียว แต่บ้านกูอยากให้กูเรียนดนตรี " ผมพูดบอกมัน เอาจริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องบอกมันด้วย
" ออกแบบเสื้อผ้าน่ะเหรอ " ผมพยักหน้าน้อยๆ
" งั้นก็ศิลปกรรมศาสตร์ " ไอ้ธีร์พูดและยิ้มน้อยๆ
" มึงคิดว่าไงวะ " ผมถามแบบไม่ค่อยแน่ใจ เอาจริงๆ ผมไม่เคยบอกใครเลย มีมันเป็นคนแรก
" เหมาะดี " ผมยิ้มให้คำพูดของมัน
" แล้ว กูจะทำได้ไหมวะ " ผมถามอย่างละเหี่ยใจ
" ทำได้อยู่แล้ว " ผมยิ้ม มึงมันปากดี
" แล้วตกลงมึงจะเรียนอะไร " ผมถามมันอีกครั้ง
" อยากเรียนกฎหมาย " มันพูดและดูทำสีหน้าไม่ดีนัก
" ก็ดีนี่ เหมาะกับมึงดี " ผมพูดและคิดว่ามันน่าจะตรงกับตัวมันที่สุดแล้ว
" คุณพ่ออยากให้เรียนหมอ " มันพูดและยิ้มเศร้าๆ
" มึงไม่ชอบหมอเหรอ " ผมรู้สึกว่า ผมกับมันนั้นช่างคล้ายกันเรื่องนี้ ถึงพวกเราจะอยากเรียนอะไร แต่ความหวังของพ่อแม่ กลับไม่เป็นอย่างนั้น
" ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่อาจจะเรียนหนักจน... " ผมมองมันที่จ้องมองผมแบบหงอยๆ
" มึงคิดอะไรแบบนั้น คณะไหนก็เรียนหนักทั้งนั้นแหละ อีกอย่าง กูว่ามึงใส่ชุดกาวน์ก็คงเหมาะดี กูชอบชุดกาวน์ " ผมเท้าคางและจ้องมองมัน
" ชอบผู้ชายในเครื่องแบบเหรอ " มันถามและยิ้มกวน
" ชอบผู้ชายหอกอะไรล่ะ " ผมรีบพูดปฏิเสธ และสังเกตเห็นมันที่ดูหม่นเศร้าลง
" คือ กูถามจริงๆ นะ มึงไม่ใช่เกย์จริงๆ เหรอ ทำไมอ่ะ " ผมไม่เข้าใจเลย เพราะว่าถ้ามันชอบผม มันก็ต้องเป็นเกย์สิ ทำไมมันถึงปฏิเสธเรื่องนั้น
" เกย์ที่ไหนเขาชอบผู้หญิงกันล่ะ " ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็ทำหน้าประหลาดใจทันที
" มึง...ชอบผู้หญิงเหรอ " ผมขยับตัวนั่งอย่างตั้งใจ ไม่รู้ทำไม ผมถึงรู้สึกกลัวคำตอบนี้เหลือเกิน
" ชอบ...ทั้งสองนั่นแหละ " มันพูดและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผม ผมรู้สึกโล่งใจ แบบนี้นี่เองสินะ ที่ผมสงสัยมาตลอด ตายตาหลับแล้วแบบนี้
" ไอ้เสือไบ " ผมพูดอุบอิบและรู้สึกเขินกับสายตาที่มันจ้องมองผม ถ้ามึงแดกกูเข้าไปได้ก็คงทำสินะ
" แต่กู ไม่เคยเห็นมึงชอบผู้หญิงเลย ผู้ชายยิ่งแล้ว " ผมพูดถามมันอย่างสงสัย
" ใครว่าล่ะ " มันพูดและปิดหนังสือลง ทำเอาผมยิ่งเกร็งไปใหญ่
" แล้ว มึงชอบผู้หญิงหรือผู้ชายแบบไหนอ่ะ " ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมถามต่อไปแบบนั้น แต่เมื่อผมมองมัน ก็พบว่ามันกำลังจ้องผมแบบจริงๆ จังๆ อีกแล้ว ผมว่าผมไม่น่าถามเลย อ้ากกก
" เอ่อ ชีวะ หนังสือชีวะอยู่ไหนน้า " ผมอึกอักและรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างเร็วไว โอ้ย ใจฝ่อไปได้ไอ้ฟา อีกนิดนึงมันอาจจะสารภาพก็ได้นะ
ผมที่ควานมือไปตามกองหนังสือก็เจอหนังสือชีวะเข้าพอดี เอาอันนี้แหละ
' หมับ! '
ผมมองมือของมันที่เอื้อมมาจับมือผมเอาไว้ ผมตัวแข็งทื่อ ทันที นี่มึง...อย่าบอกนะว่า
' ก็อกๆๆ '
ผมผละออกจากมือมันและรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว อ้ากกก มาอะไรตอนนี้วะ เอ้ย มาตอนนี้แหละดีแล้ว
" น้ำและขนมที่สั่งคร้าบบ " ผมที่เปิดประตูก็เจอไอ้หนุ่มเดลิเวอร์รี่ข้างล่างทันที ผมชอบสั่งขนมขึ้นมากินบ่อยๆ ครับ และร้านนี้เขาก็คิดว่าผมมีพี่น้องฝาแฝดสลับกันมาอยู่ เลยไม่สงสัยที่ผมเป็นหญิงทีชายที กร๊ากก
" ขอบคุณค่ะ " ผมพูดและยื่นเงินให้
" วันนี้น้องฟ้ามาอยู่เหรอครับ " ผมพยักหน้าน้อยๆ
" วันนี้ก็น่ารักจังเลยนะครับ " ผมมองหน้าไอ้หนุ่มร้านกาแฟใต้คอนโด และเปิดประตูกว้างขึ้นอีกนิด ให้เห็นข้างในห้อง ซึ่งมีไอ้บ้าขี้หึงที่กำลังนั่งอยู่ด้วยสีหน้าแบบเริ่มใกล้จะระเบิดเต็มที
" เอ่อ ขอโทษที่รบกวนนะครับ " ผมยิ้มหวานให้พ่อหนุ่มผู้น่าสงสาร ปิดประตู และกลับมานั่งที่เดิม
" ทีหลังจะกินอะไรก็บอก จะลงไปซื้อให้ " มันพูดและทำหน้ามุ่ย โถๆ พ่อคุณ ทำเหมือนกูเรียกหนุ่มขึ้นมากินตับงั้นแหละ
" มันเป็นบริการเขา " ผมพูดและหัวเราะน้อยๆ
" บริการจีบลูกค้าหรือไง เลิกซื้อ ถ้าวันไหนมันบุกเข้ามาไม่ต้องเป็นเมียมันเหรอ " ผมกลั้นขำมองมันที่ปากก็บ่นแต่ก็ดื่มกาแฟที่ผมยื่นให้
" มึงลืมอะไรไปป่ะ กูผู้ชายนะ กูก็แค่กระทืบมัน แค่นั้นแหละ " ผมพูดและยังคงยิ้มกวน
" ปากเก่ง ทำได้แน่หรือเปล่า " หนอยย ดูถูกกก แต่ก็ถูกจริงๆ แหละ ร่างกายแบบนี้ผมนั้นเสียเปรียบนัก
" ธีร์ " ผมยังคงเท้าคางและยิ้มกวนมัน
" อะไร " มันตอบรับผมเสียงแข็ง คงจะอารมณ์เสียมาก ผมจ้องมองมันและหัวเราะชอบใจ มึงนี่มันขี้หึงเวอร์จริงๆ
แล้ว เมื่อกี้ถึงไหนแล้วน้า อ๋อ ไอ้บ้านี่อยู่ดีๆ ก็จับมือกันซะงั้น แล้วไงต่ออ่ะ จับทำไมอ่ะ อะไร ยังไง ต่อดิ๊ ผมนั่งจ้องมองมันแบบรอให้มันทำเหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้สนใจผมซะแล้ว ชิ
Trrr Trrr
ผมสะดุ้งทันทีที่มีเสียงสั่นแทรกขึ้นมา ผมมองมือถือของไอ้ธีร์ที่กำลังสั่นกระเทือนไปทั้งโต๊ะ
" มึงรับเถอะ " ผมพูดและกลับมาทำเหมือนสนใจหนังสือต่อ เรื่องส่วนตัวมัน ผมว่าผมไม่ควรไปยุ่งมากหรอก
แต่ผมที่เหลือบมองไอ้ธีร์นั้น กลับพบว่ามันได้แต่จ้องหน้าจอมือถือ แต่กลับไม่ยอมกดรับสาย
" อะไรเหรอ " ผมถามมัน
" ผู้หญิงคนนั้น " มันพูดและมองหน้าผม ผู้หญิงงั้นเหรอ หมายถึง...น้ำใช่ไหม
ผมก้มลงมองหน้าจอมือถือของไอ้ธีร์และก็พบว่าเป็นเบอร์น้ำจริงๆ ด้วย ทำไมยังโทรหามันอีกนะ
" มึงก็รับสิ " ผมพูดบอกมัน แต่ผมที่พูดแบบนั้น ก็กลับพบว่ามันกำลังทำหน้าเศร้าอีกแล้ว เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ
" เปิดเสียงให้ได้ยินด้วย " ผมพูดและพยักหน้าให้มันรับสาย ผมอยากรู้ ว่าทำไมน้ำถึงยังโทรหามันอีก
ผมมองมันที่ดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็กดรับสายนั้น
" ธีร์ " ผมได้ยินเสียงน้ำทันทีที่ไอ้ธีร์กดรับสาย
" โทรมามีอะไรหรือเปล่า " ไอ้ธีร์ตอบกลับไปด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก
" คือ ขอโทษนะธีร์ แต่อดไม่ได้ที่จะโทรมา " ผมรู้สึกแย่ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น และไอ้ธีร์ก็จ้องมองผมตลอดเวลาที่กำลังฟัง
" ธีร์ อยู่ไหนเหรอ " ผมเหลือบมองคนตรงหน้าที่กำลังขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียดตอนนี้
" อยู่กับแฟน "
" เหรอ ขอโทษนะที่รบกวน " ผมได้ยินเสียงน้ำพูดเบาลง
" ขอโทษนะ แต่ต้องวางแล้ว " ผมมองไอ้ธีร์ที่กดวางสายและจ้องมองผมต่อไป
" โทรมาบ่อยไหม " ผมถามมัน
" หลังจากงานวันเกิด วันนี้ก็เป็นครั้งแรก " มันบอกผมและเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง
Rrrr Rrrr
คราวนี้เป็นมือถือของผมบ้าง ผมหันไปมองตามเสียง และหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างโต๊ะขึ้นมาดู
และทันทีที่ผมเห็นว่าใคร ผมก็รู้สึกไม่ดีเอาซะเลย ผมมองหน้าไอ้ธีร์ที่กำลังจ้องมองผม ทำไมน้ำถึงโทรหาผมหลังจากโทรหาไอ้ธีร์กันนะ
" ฮัลโหล " ผมกดรับสายและทำเสียงปกติ
" ฟา " ผมได้ยินเสียงน้ำที่กำลังพูดเรียกผม แต่น้ำเสียงนั้นกลับแปลกออกไป
" อื้อ มีไรหรือเปล่า เป็นไงมั่ง " ผมไม่ได้เปิดลำโพงและหลบตาไอ้ธีร์ที่จ้องมองอยู่
" ฟาอยู่ที่ไหนเหรอ " ผมขมวดคิ้วมุ่น
" อยู่บ้านสิ ทำไมเหรอ "
" อยู่กับใครล่ะ " ผมหัวใจเต้นรัวทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น ทำไมถึงได้ถามแบบนี้กันนะ
" มีอะไรหรือเปล่า " ผมเริ่มที่จะคุมเสียงไม่ได้ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย
" เออ ไม่มีอะไรหรอก คือเหงาๆ อยากเจอ " ผมถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินว่าน้ำก็พูดเหมือนปกติแล้ว
" พรุ่งนี้ กลางวันก็มากินข้าวด้วยกันดิ " ผมพูดบอกเพื่อน
" อือๆ มีเรื่องอยากปรึกษาด้วย ค่อยคุยกันนะ ฝันดีมึง "
" ฝันดี " ผมพูดและกดวางสายทันที
ผมที่ตอนแรกก็รู้สึกดีๆ นั้น ตอนนี้กลับรู้สึกแย่ซะเหลือเกิน ผมจะทำยังไงดีนะ ผมจะบอกน้ำว่ายังไง ทุกอย่างถึงจะเหมือนเดิม ผมไม่อยากเสียเพื่อนไป ไม่ว่าจะคนไหนก็ตาม
ผมมองไอ้ธีร์ที่นั่งจ้องมองผมนิ่งๆ ไอ้ธีร์ มันไม่ได้ทำอะไรผิด มันพูดความจริงเสมอ มีแต่ผมที่โกหกเรื่อยมา โกหกเพื่อน โกหกแม้กระทั่งตัวเอง
ผมอยากบอกมัน บอกให้มันสบายใจว่าผมจะไม่ยุ่งเรื่องน้ำอีกแล้ว ผมจะไม่ช่วยน้ำ ผมจะหยุดทุกอย่าง ผมอยากให้มันเป็นคนตัดสินใจเอง ผมอยากให้มันรู้ ว่าผมก็แคร์มันเหมือนกัน
" คือ เรื่องน้ำ มึง... "
" อย่า " มันห้ามผมก่อนที่ผมจะพูดด้วยซ้ำ ทำไมเรื่องน้ำ มึงถึงไม่ฟังกูเลย
" ไอ้ธีร์ กูไม่ได้... "
" ดึกแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน " มันก้มเก็บของ ลุกขึ้น และเดินออกไปจากห้องผมทันที ทำไมทีแบบนี้มึงถึงไม่ยอมฟังกูบ้างนะ
ผมมองประตูที่ยังเปิดค้างไว้แบบหงอยๆ ไอ้คนนิสัยเสีย หึ่ย ผมก้มลงเก็บโต๊ะพับเล็กๆ และเก็บหนังสือบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ แต่ผมที่ก้มเก็บของอยู่นั้น ก็เจออะไรบางอย่างหล่นอยู่
ผมหรี่ตามอง และเก็บสิ่งของประหลาดๆ ขึ้นจากพื้น มันดูคล้ายๆ ไม้เซลฟี่ ที่สามารถดึงเข้าออกปรับความยาวได้ แต่ก็ไม่ใช่แฮะ เพราะมันเป็นรูปมือสีขาวๆ เล็กๆ ที่เป็นเหมือนมือโครงกระดูก...
มือของผมที่ถือของเล่นนั้นสั่นน้อยๆ ทันที หนอยยยย กูรู้แล้วตัวอะไรจับข้อเท้ากู ไอ้ธีร์ มื๊งงง อ้ากกก
ผมตื่นแต่เช้าและนั่งรอมันที่จะมารับผมไปโรงเรียนเหมือนทุกที แต่เช้านี้มันกลับโทรมาบอกว่า มันต้องไปส่งน้องแทนพี่ชายอีกคนของมัน ให้มันได้อย่างนี้สิ กูอยากเฉ่งมึงแย่แล้ว ฮึ่มม
ผมลงมาโบกแท็กซี่ด้วยใบหน้าที่หงิกงอยิ่งกว่าอะไร ยิ่งตอนนี้ที่โรงเรียนนั้นเพื่อนทั้งสองคนของผมก็เข้าหน้ากันไม่ติด มันอะไรกันนักกันหนาฟะ ผมจะต้องทำยังไงให้เพื่อนกลับมาดีกันละเนี่ย
ผมที่มาถึงโรงเรียนแล้วก็รีบเดินไปที่หน้าโรงเรียนที่ประจำของผม พลางกินหมูปิ้งที่ผมไม่ได้กินมาพักใหญ่ เพราะไอ้ธีร์มันไม่ให้ผมกิน ทำเอาป้าเจ้าของร้านงอนผมไปเลยทีเดียว
' หงับๆๆ '
และผมที่ยืนอยู่สักพัก ก็รู้สึกถึงสัมภเวสีที่มาแย่งแดกเหมือนทุกที ผมมองไอ้เนมที่เดินเป็นผีตายซากเข้ามากัดกินของฟรีจากมือผม ต่อให้มันอารมณ์ไม่ดีแค่ไหน แต่ความชอบแย่งแดกก็ยังคงเดิม เชื่อเขาเลย
" ไอ้นนอ่ะ " ผมลองแกล้งๆ ถามถึงไอ้นนเพื่อดูปฏิกิริยาต่อต้านของมัน
" อย่าพูดชื่อไอ้เหี้ยนั่นให้กูได้ยิน " ผมถอนหายใจมองเพื่อนที่กำลังหน้าบูดและแดกต่อไป
" มึงก็เวอร์ไปเปล่าวะ "
" ฟา ถ้ามึงจะพูดเรื่องนี้อีก กูจะ... "
" ทำไม มึงจะตัดเพื่อนกูอีกคนเหรอ " ผมพูดและมองมันด้วยสีหน้าจริงจัง
" กู...จะแย่งมึงแดกเบิ้ลเฉยๆ " มันพูดและดึงแก้มย้วยๆ ของผม
" นึกว่าจะแน่ " ผมพูดพลางดึงแก้มมันคืน
" กินอีกแล้วนะ " ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงที่สาม หึ ทำมะ แล้วไง มึงอยากไม่มารับกู ไม่ทำกับข้าวให้กูเอง กูหิวอ่ะ ผมกัดหมูปิ้งในมืออย่างท้าทายคนที่กำลังยืนทำหน้าถมึงทึงจ้องผมอยู่ เดี๋ยวเถอะมึง มีเรื่องต้องเครียกันนะไอ้หล่อ
" ไปเข้าแถวกันเถอะ " ผมมองไอ้นนที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยังช้ำน้อยๆ ผมสังเกตว่ามันมองไอ้เนมตลอดเวลา แต่ไอ้เนมก็ทำเป็นไม่สนใจมัน เฮ้อ ถ้ามันสุดๆ จริงๆ มึงก็ฉุดเลยเพื่อน กูหนับหนุน
พวกเราเดินมาเข้าแถวเหมือนทุกวัน และผมก็มองไอ้ธีร์ที่กำลังขึ้นพูดออกไมค์กับบรรดานักเรียนเหมือนทุกที ช่างเป็นคนที่พูดมาก และดูจริงจังกับทุกสิ่งตลอดเวลา จนดูเหมือนจะขี้เก็กไปโดยปริยาย เชอะ
ผมเบะปากและพะงาบๆ เลียนแบบมันที่กำลังพูดอยู่ แต่ขนาดยืนอยู่ไกลขนาดนี้ ผมยังเห็นมันเด่นชัดมาก ผิวขาว ร่างกายสูงใหญ่ ผมยุ่งนิดๆ ดวงตาคม และที่ผมชอบมองที่สุดก็คือปากรูปปีกนกหยักสวยของมันที่มีสีแดงธรรมชาติ...
" ไอ้ฟา " ผมที่กำลังเผยอปากน้อยๆ ก็รีบหันไปมึนๆ มองไอ้คนเรียกทันที
" ห..ห๊ะ " ผมตอบรับไอ้เนมที่หน้าบึ้งอยู่
" มึงมีอะไรกับน้ำเปล่าวะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วทันที
" มีอะไร กูเปล่านะ กูยังไม่เคยมีไรกับใครเลย "
" ไม่ใช่เฟ้ย " ผมถูกไอ้เนมโบกเข้าไปหนึ่งที หนอยมึง ผมล็อคคอมันและกระซิบอย่างอยากรู้
" มึงถามทำไมวะ " ผมถามมันเบาๆ
" เมื่อกี้กูหันไปเจอมันพอดี กูว่ามันมองมึงแปลกๆ มึงทะเลาะกันเหรอ กูว่ามึงสนิทกับมันนิ " ผมมองหน้าไอ้เนมและหันไปมองไปทางห้องห้า และทันทีที่ผมมองเห็นน้ำนั้น ผมก็พบว่ามันกำลังยิ้มและโบกมือไปมาให้ผมแบบปกติ
ไม่นานหลังจากตากแดดตากลมหน้าเสาธงเสร็จสิ้น ผมที่เดินเหงื่อซกมาตามทางเดินเพื่อกลับเข้าห้องเรียนนั้น ก็แวะล้างหน้าล้างตาที่ก็อกน้ำซะหน่อย ฟู่วว
" ฟา~ " แต่ผมที่กำลังจะหันหลังกลับ ก็ถูกดักไว้ทันทีโดยคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
" เออ ว่าไง " ผมยิ้มให้เพื่อนของผม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดตอนนี้
" คาบแรกเรียนอะไรเหรอ " ไอ้น้ำเดินมาหาผมและยิ้มหวาน
" จะมีอะไร สำอรไง " ผมพูดพลางถอนหายใจ
" โดดมะ กูอยากคุยด้วย " ผมมองมันที่ชวนผมโดดตั้งแต่คาบแรก ปกติมันไม่เคยชวนผมโดดเลยสักครั้ง
" อืม ไม่อยากเข้าอยู่แล้ว " ผมพูดและทำหน้านิ่งๆ แบบปกติ
ผมบอกไอ้เนมให้แหลสดกับอาจารย์ว่าผมท้องเสียนอนอยู่ห้องพยาบาลและเดินไปกับน้ำที่หลังตึกเรียนหลังหนึ่ง โรงเรียนของพวกเรานั้นกว้างมาก กว้างจนถ้าโดดเรียนอาจารย์ก็หาไม่เจอหรอก ถึงจะอยู่ในโรงเรียนก็เถอะ
ผมนั่งมองน้ำที่จ้องมองผม กลายเป็นว่าพวกเราต่างคนต่างเงียบรออีกฝ่ายพูดก่อน
" ฟา มึงก็รู้ว่ากูชอบธีร์ใช่ไหม " ผมมองน้ำที่อยู่ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาทันที
" มีใครไม่รู้บ้างตอนนี้ " ผมยังคงพูดกวนๆ แบบปกติ
" แล้วมึง...รู้จักแฟนธีร์ไหม " มันถามผมด้วยสีหน้านิ่งๆ
" อยากรู้เพื่ออะไรเหรอน้ำ ทำไมต้องทำให้ตัวเองเจ็บอีก กูว่าที่ไอ้ธีร์พูดในงานวันเกิดก็ชัดเจนแล้วนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตัวมึงไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ยังมีคนอีกเยอะที่... "
" อืม กูเข้าใจแล้ว กูจะไม่ยุ่งกับธีร์อีก " ผมเลิกคิ้วขึ้นแบบงงๆ บทจะง่ายก็ง่ายขนาดนี้เลยเหรอวะ
" แต่มึงช่วยกูได้ไหม ครั้งสุดท้าย กูจะไม่ขอให้มึงช่วยเรื่องธีร์อีก " มาอีกแล้ว คำพูดแบบนี้ คำพูดที่บีบคั้นผม
" ขอโทษ แต่ว่าไม่ได้ " ผมพูดหนักแน่นและมองมันที่กำลังยิ้มน้อยๆ
" ฟา มึงจะเครียดทำไม ทำเหมือนมึงเป็นแฟนธีร์ซะเอง " มันพูดเน้นประโยคหลังและยิ้มน้อยๆ มองผม ผมไม่ได้ตอบคำถาม และไม่ได้ปฏิเสธอะไร
" ไม่ต้องห่วง กูก็แค่ อยากเจอแฟนธีร์สักครั้ง กูอยากรู้ ว่า 'ผู้หญิง' แบบกู มีอะไรที่สู้ไม่ได้ " มันยิ้มให้ผม และเน้นคำว่าผู้หญิงชัดเจน
ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่น้ำอาจจะรู้เรื่องของผมกับไอ้ธีร์แล้ว แต่ว่าถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมมันถึงไม่ถามผมตรงๆ เลยล่ะ คิดจะทำอะไรกันแน่นะ
น้ำเดินไปแล้ว แต่ผมก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ผมไม่เข้าใจน้ำเลย ถ้าเจอแฟนไอ้ธีร์แล้วยังไง ทำไมถึงไม่ตัดใจนะ จริงๆ แล้วผมไม่อยากเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้เลย
" มาทำอะไรตรงนี้ " ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกจากไอ้ตัวปัญหาของผม
" ไม่มีอะไร กูกำลังจะไปเรียน " ผมพูดและลุกขึ้นยืน โรงเรียนก็ตั้งกว้าง มึงก็ยังจะมาเจอกูอี๊ก
" เดี๋ยว " ผมมองแขนของผมที่ถูกจับไว้ และผมก็เหมือนเดิม รีบดึงมือมันออกเพราะกลัวคนจะเห็น เฮ้อ ไอ้แบบนี้ไง คนอื่นเขาถึงรู้ว่ามึงกับกูทำอะไรกัน
" มึงอย่า... " แต่ผมที่กำลังจะด่ามันนั้นก็พบว่าตรงหน้าผมมีถุงๆ หนึ่งยื่นมาให้
" อะไร " ผมถามมันและยังคงหน้าบูดเหมือนเดิม
" ว่าจะให้ตั้งแต่เมื่อเช้า แต่ไม่มีโอกาส " มันพูดและทำหน้าหมาหงอย ผมยืนชั่งใจอยู่สักพัก และยื่นมือไปรับถุงนั่นมาเปิดออกดูข้างใน
" เมื่อเช้าขอโทษนะ เมื่อคืนก็ด้วย " มันยังคงพูดต่อ ผมล้วงมือเข้าไปในถุง หยิบกล่องอะไรสักอย่างที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นมา
และเมื่อผมจ้องมองดูดีๆ แล้วก็ต้องตาลุกวาวทันที ในมือของผม มันคือกล่องข้าวกล่องใหญ่ ที่มีข้าวและกับข้าวที่ทำอย่างปราณีตสวยงามจัดเรียงอย่างหรูหราอยู่ในนั้น นี่มึงมารับกูไม่ได้ เลยทำมาจากบ้านงั้นเหรอ
ผมที่ตอนแรกก็หน้าบึ้ง แต่ตอนนี้เริ่มจะ งือออ ไม่ได้การซะแล้ว ผมพยายามบังคับสีหน้าไม่ให้ยิ้มออกมา แต่ในใจนี่เริงร่าไปแล้ว อ้ากกกก
" ใจละกัน ไหนๆ ก็ทำมาแล้ว จะกินก็ได้ " ผมพูดและรีบหันหน้าหนีมัน โอ้ยยย ไอ้เชี่ยเอ้ย น่ารักนะเราอ่ะ หึ่ยย
" กู ไปแล้วนะ " ผมหันไปทำหน้านิ่งๆ และเดินหนีออกมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มยิ่งกว่าเดิม สงสัยไอ้ข้าวกล่องบ้านี่ต้องใส่กัญชาไว้แน่ๆ
เพราะมันทำเอาผมยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว ให้ตายสิ