KING ที่ 27 ร่วมเรียงเคียงหมอน ในช่วงกลางวันนั้น ผมที่ยังไม่ได้แตะต้องข้าวกล่องก็หิ้วเอามากินที่โรงอาหารด้วย และน้ำที่ขอมานั่งกับกลุ่มผม และไอ้เนมที่ย้ายที่ไปนั่งตรงข้ามไอ้ธีร์เพราะไม่อยากมองหน้าไอ้นน เฮ้อ
" วันนี้เอาข้าวมากินเหรอ แปลกนะ " น้ำที่นั่งข้างๆ ผมถามขึ้นและยิ้มน้อยๆ
" อืม "
" น่ากินว่ะ ใครทำให้วะ " ไอ้เนมถามอีกคนพลางจ้องมองตาเป็นมัน
" แหม่ ระดับฝีมือกู... "
" อย่ามาแหล กูจำได้นะ ไข่เจียวปรโลกของมึงอ่ะ วิญญาณกูแทบลอยกลับสวรรค์ " ไอ้เนมพูดพลางหรี่ตามองอย่างจับผิด
" เออน่า กูจะเอามาจากไหนก็เรื่องของกู๊ " ผมพูดและเหลือบมองไอ้ธีร์เสี้ยววิ เพราะมีคนนั่งจับผิดอยู่
" ใครแม่งตาบอดเอามาให้มึงเปล่าวะ ระวังนะ ใส่ยาอะไรแปลกๆ เปล่า " ไอ้เนมไม่พูดเปล่าแต่ยื่นตะเกือบมากะจะขโมยปลาแซลม่อนผม อ้ากกกก ไม่ได้กูหวง
" อยากแดกก็บอก ทำเนียนนะมึง " ผมโบกกบาลมันพลางกอดข้าวกล่องไว้อย่างหวงแหน
" หวงอย่างกับผัวให้ " ไอ้เนมทำหน้าหมั่นไส้
" อยากกินเหรอ เดี๋ยวเย็นนี้ไปกินไหม " ผมมองไอ้นนที่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาด้วยใบหน้ามีความหวัง
" ใครคุยกับมึง เสือก! " ไอ้เนมขู่ฟ่อขึ้นทันที กูว่าแล้ว สู้เขานะไอ้นน
" อ่ะๆ กูให้มึงลองชิม " ผมที่เห็นแบบนั้นก็แกล้งไอ้เนม ผมคีบปลาแซลม่อนชิ้นใหญ่ให้ไอ้นน หึหึ แต่เอาจริงๆ การกลั่นแกล้งครั้งนี้ได้ผลสองต่อ เอาละไง ไอ้หล่อแฟนผมตอนนี้หน้ามุ่ยขึ้นทันตาเลยเชียว ฮ่าๆ
" ไอ้ฟาา ไอ้คนทรยศ " ไอ้เนมที่เห็นแบบนั้นก็งอแงทันที ฮ่าๆ เรื่องของกู๊
" ใจฟา แต่กูไม่ค่อยชอบกิน " ผมมองไอ้นนที่คีบปลาชิ้นนั้นวางในจานของไอ้เนม หึหึ ทำดีมาก กูรู้ว่ามึงต้องทำแบบนี้เลยให้มึงไง
ผมมองไอ้เนมที่นั่งนิ่งมองไอ้นนและมองชิ้นปลาในจาน ตอนนี้มันคงต่อสู้กับจิตใต้สำนึกของมันอย่างหนักหน่วง ฮ่าๆ และในที่สุด ไอ้เนมก็ไม่อาจต้านทานความอยากได้ มันจ้วงแดกแซลม่อนชิ้นนั้นและเชิดหน้าใส่ไอ้นนตามเดิม
" เชี่ย!!! " ผมสะดุ้งทันทีที่ไอ้เนมร้องออกมา
" อร่อยสัด! ใครให้มึงวะ กูจะไปจีบ " ไอ้เนมเขย่าตัวผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด
" แดกไปเงียบๆ " ผมโบกกบาลมันและหัวเราะชอบใจ
ผมมองน้ำที่กำลังหันไปคุยกับเพื่อนที่เดินสวนมา และเหลือบมองไอ้ธีร์ที่กำลังหน้างอและจ้องมองผมเป็นระยะ งอนๆ ตัวอย่างกับควายทำใจน้อยไปได้ หึหึ
" ธีร์ ตกลงเรื่องงานกีฬาสีที่เลื่อนมาจนปลายเทอมน่ะ ผอ. เขาจะเอายังไงแน่เหรอ " ผมเหลือบมองน้ำที่กำลังถามไอ้ธีร์ข้ามหัวผมเลยทีเดียว
" ประชุมแล้ว คงเป็นเดือนหน้า " ไอ้ธีร์ตอบแบบที่ไม่มองหน้าคนถามเลย
" อะไรวะ เรียนพิเศษก็ต้องเรียน ยังต้องมาซ้อมกีฬาอีก " ไอ้เนมพูดอย่างหัวเสีย และผมก็คิดว่าจริงตามนั้น มาจัดอะไรตอนช่วงๆ ติวสอบแบบนี้ฟะ
" ม.6 ไม่ค่อยอะไรมากหรอก ให้เด็กๆ เขาจัดไป " ไอ้นนพูดออกความคิดเห็น
" ไม่ได้หรอก ยิ่งปีสุดท้ายก็ยิ่งต้องทิ้งท้าย " ไอ้น้ำพูดกลับ
" ฟา มึงจะลงอะไร " ไอ้เนมถามผม
" สวัสดิการละมั้ง ชิ่งง่ายดี " ผมไม่ค่อยยอมทำอะไรเหมือนคนอื่นเขาหรอก น่าเบื่อจะตาย
" กูคงบาสเหมือนเดิม เนอะไอ้ธีร์ " ไอ้นนพูดพลางหันไปถามไอ้หล่อเพื่อนมัน
" ปีนี้ไม่แน่ใจว่าจะลงไหม ต้องเป็นพิธีกรด้วย " ไอ้ธีร์พูดและเหลือบมองผม มึงก็เป็นทุกปีนี่ ไม่มีใครเหมาะกว่ามึงแล้ว แถมตอนมันลงแข่งบาสนั้น โรงยิมแทบแตก ไม่รู้ว่าคนนอกเข้ามาได้ยังไง พวกสาวๆ โรงเรียนใกล้ๆ ก็แอบหนีเข้ามาด้วย
" ไอ้เนม แล้วมึงว่าไงวะ " ผมหันไปถามเพื่อนรักผม ที่ยังคงแอบขโมยกับข้าวผมอยู่
" ปีนี้กูอยากลงอะไรที่มันเท่ห์ๆ บ้าง " ผมมองมันที่กำลังทำท่านึก
" อะไรวะ " ผมขมวดคิ้วสงสัย ทุกคนตั้งใจฟังสิ่งที่มันจะพูด
" กินวิบาก "
" ถุยย " ผมพูดพลางผลักหัวเพื่อน
" กูแชมป์ทุกปีนะเฟ้ย " ไอ้เนมพูดอย่างภูมิใจ เหอะๆ เอาที่มึงสบายใจละกันนะ
" รู้ไหมว่าสาวๆ เขาอยากให้ธีร์เป็นหลีดด้วยนะ " ผมนั่งนิ่งๆ ฟังน้ำที่กำลังพูดต่อไป
" คงไม่ไหวหรอก ต้องทำหลายอย่าง แล้วก็เต้นไม่เป็นด้วย " ผมอมยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ผมมองมันและลองจินตนาการว่าไอ้ธีร์มาเต้นอะไรแบบนั้นคงฮาน่าดู
ในเย็นวันนั้น ผมที่โดดเรียนพิเศษจนเคยตัวก็ต้องไปเรียนบ้างจนได้ ผมนั่งเหม่อลอยตั้งแต่ต้นคาบยันท้ายคาบ ที่ที่ผมเรียนนั้นอยู่แค่หลังโรงเรียนนี่เอง ไม่ได้ไกลเหมือนไอ้ธีร์ที่ไปโรงเรียนกวดวิชาสุดโหด หรือไอ้นนกับไอ้เนมที่เรียนใกล้บ้าน
ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมายนัก เพราะเดี๋ยวตอนดึกๆ ก็มีติวเตอร์มาติวให้อีกนั่นแหละ หึหึ ไว้รอตั้งใจเรียนตอนนั้นก็ได้ เด็กดีห้ามลอกเลียนแบบน้า
หลังจากกลับมาจากเรียนพิเศษ ผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบสบายๆ และกางโต๊ะนั่งอ่านหนังสือ(การ์ตูน)ไปเรื่อย รอไอ้คนที่บอกว่าจะมาสอน มึงนี่พยายามดีจริงๆ แถมมันยังสอนเข้าใจง่ายสุดๆ แบบนี้ผมมีลุ้นติดคณะที่อยากเข้านะเนี่ย
' ก็อกๆๆ '
ผมได้ยินเสียงเคาะประตูตอน 4 ทุ่มนิดๆ พอดี นี่มึงรีบบึ่งมาแค่ไหนฟะ
ผมลุกขึ้น ดึงเสื้อและกางเกงขาสั้นออกจากก้นที่มันหิวเล็กน้อย และเดินไปเปิดประตูด้วยใบหน้านิ่งๆ
" มาช้า " ผมพูดพลางยื่นหน้าออกไป
" ขอโทษ " มันพูดพลางชูถุงน้ำเต้าหู้และขนมอีกเยอะแยะให้ดู หึ่ยย หน้าตึงไว้ไอ้ฟา ตึงไว้ อ้ากกก
ผมกลับมานั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ ที่กางไว้และมองมันที่กำลังเข้าไปที่ครัวเพื่อหาแก้วหาชามใส่ขนมที่หิ้วมา มันเป็นแบบนี้เสมอ ดูแลผมจนผมง่อยจะแดกอยู่แล้ว
" อ่านไปบ้างแล้วหรือเปล่า " มันถามพลางนั่งลงที่โต๊ะ
" อ่านแล้ว " ผมพูดพลางแอบเอาเท้าเขี่ยๆ หนังสือการ์ตูนให้เข้าไปใต้เตียง
" โอเค งั้นวันนี้ก็ทำโจทย์นี้นะ " ผมมองมันที่เตรียมพร้อมเอาชีทมากางสอนผมถึงพื้นฐานอะไรที่มันสำคัญ
ผมเท้าคางจ้องมองมันที่ถึงอยู่ในห้องแอร์ก็ยังคงมีเหงือผุดซึมเล็กๆ ที่ไรผมและหน้าผาก นี่มึงวิ่งสู้ฟัดในตลาดมาสินะ
" ทีหลังไม่ต้องซื้ออะไรมาหรอก ไม่ต้องรีบมาก กูรอได้ " ผมเท้าคางและจ้องมองมัน
" ไม่เป็นไร " มันพูดและก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป
" ไปเอาน้ำลูบหน้าลูบตัวหน่อยก็ได้นะ " ผมพูดและแย่งหนังสือมาจากมือมัน
" ถ้างั้นก็แปบนึงนะ " มันพูดพลางลุกขึ้นยืน เปิดตู้เสื้อผ้าของผม เพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวที่พับเก็บไว้ หนอยย เดี๋ยวนี้มันทำแบบนี้แหละครับ มันรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนหมด
ผมนั่งฟังเสียงน้ำในห้องน้ำ นี่มึงอาบน้ำเลยเหรอ นึกว่าจะแค่ลูบเนื้อลูบตัว ผมนั่งยุกยิกอยู่ไม่สุข สมาธิช่างสั้นเหลือเกิน ผมตัดสินใจลุกขึ้น ย่องเบาๆ ไปที่ประตูห้องน้ำ ถ้ามึงจะอาบน้ำขนาดนี้ ก็ขอแอบดูสักหน่อยเถอะ หึหึ
ผมยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ พลางคลืบคลานไปที่ร่องประตูที่ไม่น่าจะมีช่องอะไรให้ส่องได้ แล้วกูมาทำอะไรตรงนี้ ทำเหมือนคนโรคจิตไปได้ จับก็แล้ว ขยำก็แล้ว ยังจะอยากดูของเขาอีก อ้ากกก
' แกร่ก '
" ฟา... "
อ้ากกกก ผมสะดุ้งโหยงทันที เพราะอยู่ดีๆ ประตูก็เปิดออก และไอ้ธีร์ที่หัวเปียกปอนก็โผล่ออกมา
ผมทำทีเดินผ่านเฉียดๆ ไปที่ตู้เสื้อผ้าใกล้ๆ และเปิดออกทำเป็นจับนั่นจับนี่ไปมา
" อ..เออ ว่าไง " ผมทำหน้านิ่งๆ และยังคงสาววิกผมปลอมต่อไป อะไรกูก็ทำหมดอ่ะตอนนี้
" แชมพูหมด " ผมมองมันแบบผ่านๆ และก็เห็นว่ามันกำลังกลั้นขำอยู่ แม่งไม่เนียนเหรอวะ
" หมดที่ไหน กูเพิ่งซื้อมาใหม่ อยู่ในชั้นนั่นแหละ น่าจะชั้น 2 ริมๆ ผนัง " ห้องน้ำผมนั้น ข้าวของและเครื่องประทินผิวเยอะมาก ไม่แปลกที่มันจะหาไม่เจอ
" ไม่เห็นมีเลย " มันยังคงยื่นคอออกมา และไปๆ มาๆ ตัวมันเริ่มจะออกมาด้วยแล้ว มึงมันน่าไม่อายจริงๆ หึ่ย
" ขวดไหนแน่ มันมีหลายภาษาเหลือเกินแต่ละขวด " โอ้ยย มึงเก่งไม่ใช่เหรอวะ ทำไมไม่อ่าน
ผมเริ่มหน้ามุ่ยด้วยความรำคาญ อย่าให้กูเจอน้า ผมที่คิดแบบนั้นก็ผลักมันเข้าไป และยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ แบบไม่ได้มองเข้าไป แค่จะพูดบอกมันเฉยๆ
" นั่นไง ตรงนั้นแหละ " ผมยื่นแขนเข้าไปและชี้ให้มันดูมุมนั้นแหละ ผมว่าผมชี้ถูกนะ
" เป็นอะไร เข้ามาสิ ใจไม่ดีหรือไง " มันพูดและยื่นหน้ามากวนผมอีก คำนี้แม่งคุ้นๆ นะ หนอยย เลียนแบบคำพูดกู เดี๋ยวมึงจะโดน
" เหอะ ก็มีเหมือนๆ กัน ใจไม่ดีห่าอะไร " ผมที่โดนดูถูกก็ปลุกความกล้าบ้าบิ่นซะเหลือเกิน
ผมผลักประตูห้องน้ำเข้าไปและเดินดุ่ยๆ เข้าไปหยิบขวดแชมพูให้มัน หึ อย่ามาท้ากู มึงรู้จักกูน้อยไปซะแล้ว
" เอ้า นี่ไง มึงตาบอดเหรอ " ผมพูดและหันไปจ้องหน้ามัน ต้องบอกว่าผมจ้องหน้ามันจริงๆ ครับ แบบที่เงยหน้าแบบจะตั้งฉากเลยทีเดียว โอ้ยยย ถ้ามองต่ำก็ต้องหัวใจวายตายแน่ เอาจริงๆ ก็เห็นของเพื่อนมาก็เยอะนะ แต่นี่มันไม่ใช่อ่ะ เพราะว่ามันคิดไม่ซื่อกับผม ในใจมันต้องอยากทำอะไรผมบ้างแหละ และนั่นที่ทำให้มันไม่เหมือนคนอื่น
ผมพยายามทำหน้าปกติและยัดขวดแชมพูใส่มือมัน และตั้งท่าจะออกไปลูกเดียว เดี๋ยวแม่งมันอดใจไม่ไหวทำไง ผมยิ่งหล่อๆ อยู่
" ฟา " ผมชะงักทันทีที่มันเรียกผมเอาไว้
" อ..อะไร " ผมพยายามสะกดใจไว้และเงยหน้าคุยกับมันอีกแล้ว
" ไม่ได้ทำนานหรือยัง " มันพูดถามผม พลางขยับตัวเดินเข้ามาใกล้
ผมกลืนน้ำลายลงคอและยังคงเงยหน้าสูง ทำ ทำอะไรวะ ผมมองไหล่หนา และหน้าอกของมันที่เปียกละอองน้ำ มันกำลังขยับเข้ามาหาผมด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่แฝงไปด้วยแววตาเสน่หา อ้ากกกก มึงอย่าบอกนะว่า ไอ้ที่ทำน่ะ หมายถึงที่ผู้ชายเขาทำกันบ่อยๆ
ผมตัวแข็งทื่อพลางส่ายหน้ารัวๆ จนแก้มสั่น มึงถามอาร๊ายย มึงอยากทำก็ทำไปคนเดียวสิโว้ยย กูชอบลุยเดี่ยว ไม่ขอยืมมือมึงหรอก
มันค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้มากขึ้น จนผมได้กลิ่นสบู่หอมๆ ของผมจากตัวมัน ปอยผมที่เปียกลู่ใกล้เข้ามาที่แก้มของผม ผมหลับตาลงและข่มใจไม่ให้สั่นไหว นี่มึงกำลังเชิญชวนกูอยู่เหรอ เอาจริงเหรอวะ
" ตกลงไม่ได้ทำนานแล้วใช่ไหม... " ผมกลืนน้ำลายลงคอ มึงยังไม่สารภาพรักกูเลยนะ มึงจะทำเรื่องบัดสีเลยเหรอ
" ห้องน้ำเนี่ย " ผมลืมตาขึ้นทันทีที่มันพูดจบ เดี๋ยวนะ ห้องน้ำ ห้องน้ำอะไรวะ
" ห้องน้ำตะไคร่จะขึ้นอยู่แล้ว ได้ทำความสะอาดมั่งไหม " ผมชะงักตาโตมองมัน นี่มึง ไม่ได้แบบว่า อ้ากกกก กูคิดไปเองอีกแล้วสินะ แล้วทำไมเวลาถามมึงต้องทำเสียงกระเส่าด้วยฟะ ฮึ่มมม
" ไม่ทำ กูขี้เกียจ " ผมหน้ามุ่ย หนอยย อารมณ์เสียโว้ยยย
" วันไหนล้มขึ้นมาจะเจ็บตัวเอา ขอบอ่างเอย ขอบผนัง เอาแปรงสีฟันเก่าๆ มาขัด... "
" เออ รู้แล้ว " ผมกระแทกเสียงพูดขัดมันพลางเดินหน้างอออกจากห้องน้ำ
แต่เมื่อผมจะเดินออกไปจริงๆ แขนของผมก็กลับถูกจับเอาไว้อีก มึงต้องการอะไรอีกฟะ ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ก็แค่ยืนอยู่เฉยๆ ผมรู้สึกว่ามันกำลังหัวเราะเบาๆ อยู่ด้านหลัง และรู้สึกถึงลมหายใจของมันที่เป่ารดหลังคอของผมอยู่
" หอมมาก...สบู่น่ะ " มันก้มลงพูดเบาๆ ที่ใบหูเล็กๆ ของผม อ้ากกก ขนลุกขนชัน
ผมพยายามปรับเลือดที่สูบฉีดบนหน้าผม อย่ามาใกล้กูมากได้ไหม เดี๋ยวลูกมึง เอ้ยจมูกมาทิ่มท้ายกูพอดี
" อ.อยู่แล้ว กูเลือกแต่ของดีๆ " ผมพูดอุบอิบ แล้วกูจะเขินทำซากอาร๊ายย
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วอ่ะ อุตส่าห์เข้ามา ถ้ามองแว๊บๆ ก็คงไม่เป็นไรมั้ง เสียดายอ่ะ จะได้เอาไปโม้ทีหลังได้ ผมที่คิดแบบนั้นก็เหลือบตาต่ำมองไปด้านหลังเล็กน้อย แล้วก็...
อ้ากกกกก แม่งเอ้ยนุ่งผ้าเช็ดตัวเหรอฟะ กูก็เกร็งจนคอเคร็ดแทบตาย หึ่ยย
ผมรีบเดินดุ่ยๆ ออกจากห้องน้ำไปนั่งแหมะที่โต๊ะตามเดิม เชอะ เสียเวลาชีวิตโว้ยย
และไม่นานไอ้หอกธีร์ก็ออกมา และแน่นอน เสื้อผ้ามันไม่มี มันเลยใส่ผ้าเช็ดตัวออกมาซะอย่างนั้น หึ่ยย มึงเกรงใจเจ้าของห้องเขาบ้างไหม
" ชุดเดิมมันเหนียว " มันพูดและนั่งลงที่เดิม นั่งดีๆ นะมึง ไม่งั้นกูมองต่ำจริงๆ นะเอ้า
" อุจาตลูกกะตา " ผมพูดพลางลุกขึ้นรื้อเสื้อผ้าในตู้ และความคิดหนึ่งก็แว๊บเข้ามา คิคิคิ มึงเสร็จกู
ผมรื้อเสื้อผ้าที่คิดว่าตัวใหญ่ที่สุดของผม และก็เจอแล้ว เสื้อเชิ๊ตผ้านิ่มๆ สีชมพูหวานแหววลายกระต่าย มันเป็นเสื้อนอนที่ตัวใหญ่และค่อนข้างยาว กูว่าน่าจะได้อยู่มั้ง ฮ่าๆ
" อะไร " มันถามผมที่ถือเสื้อและเดินดุ่ยๆ ไปหามันทันที ซึ่งมันก็ทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
" ใส่หน่อยยย " ผมเดินมาข้างหลังมันและจับยัดแขนล่ำๆ ของมันเข้าไปในเสื้อเชิ๊ตนอนของผม
' แคว่กกก! '
อ้ากกกกก แม่งเอ้ย ว่าใหญ่แล้วเชียว ผมมองเสื้อที่ปริออกจนขาดเป็นทางยาว นี่มึงแดกอะไรเป็นอาหารฟะ แม่งตัวใหญ่ชิบหาย
" ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง " มันบ่นผมแต่ก็ยอมให้ผมแต่งตัวให้ แต่มันไม่พอดีตัวเลยอ่า เซ็งวุ๊ย
ผมยังคงไม่ยอมแพ้ เดินไปมาเลือกเสื้อผ้าในตู้ให้มันใส่ จนกลายเป็นว่าไม่ได้ติวกันแล้วซะงั้น
" ตัวนี้น่าจะได้อยู่มั้ง สีนี้สวยกว่า " ผมรื้อค้นจนเสื้อผ้ากระจายเต็มพื้น นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบ ผมอยากจับคนอื่นแต่งตัวบ้าง แต่งเองมันเริ่มจะเบื่อแล้วอ่ะ
" อันนี้น่ารัก น่าจะยืดได้อีก " ผมดึงเสื้อน่ารักๆ ออกมาและหันไปทาบกับตัวไอ้ธีร์ในอากาศ แต่เมื่อหันไปนั้น ก็พบว่าไอ้ตัวดีฟุบหน้าลงกับโต๊ะไปซะแล้ว
ผมค่อยๆ เดินไปหามันและนั่งเท้าคาง จ้องมองดูไอ้คนที่กำลังหลับอยู่ หนอยย พอสบายตัวแล้วก็หลับเลยนะ ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันนอน เวลาที่มันหลับแบบนี้ก็ดูไร้พิษภัยดีนะ ขนตาหนาขนาดนี้เลยเหรอ พอได้มองใกล้ๆ ถึงจะรู้ ผมมันหนามาก เหมือนกับคิ้วมันเลย ผิวพรรณก็ดี จมูกโด่งสวย และปากที่เป็นเสน่ห์อย่างนึงของมันเลยทีเดียว
ผมจ้องมองมันและยื่นมือไปจิ้มหน้าผากมันเบาๆ ไอ้ตัวขี้บ่น ชอบสั่ง ชอบวุ่นวาย ผมยิ้มน้อยๆ และเดินไปดึงผ้าห่มผืนหนาบนเตียงผมลงมา และคลุมตัวมันเอาไว้ แก้ผ้าแบบนี้เดี๋ยวป่วยแล้วมาโทษกูอีก
ผมนั่งมองมันสักพัก และก็เริ่มรู้สึกว่าผมเองก็ง่วงเหมือนกัน ผมเดินไปปิดไฟ แกะผ้าห่มสำรองที่เก็บไว้ และกลับมานอนลงทีเตียงพลางห่มผ้า หันหน้ามองดูคนที่ยังคงนอนฟุบอยู่
เดี๋ยวมันเมื่อยก็คงตื่นนั่นแหละ แต่ผมยังไม่อยากปลุกมัน มันเหนื่อยเพื่อผมมาเยอะ ผมอยากให้มันได้พักบ้าง ฝันดีนะ ไอ้ธีร์
แสงสว่างในยามเช้าทำให้ผมขยับดวงตาและดิ้นไปมาเล็กน้อย ไม่อยากตื่นเลยอ่ะ ทำไมวันนี้รู้สึกสบายจัง ผ้าห่มก็อุ๊นอุ่น ขออีกสัก 5 นาทีละกัน
ผมที่คิดแบบนั้นก็กระชับหมอนข้างเข้ามาอีกนิดและกอดไว้จนแน่น แต่เดี๋ยวนะ หมอนข้าง คือกูไม่มีหมอนข๊างง
ผมลืมตาโพรงและเด้งตัวเหมือนติดสปริง พลางมองไปยังเตียงนอนด้านข้าง และก็เป็นไปตามคาด อ้ากกก
ผมมองไอ้ธีร์ที่นอนลืมตามองผมเงียบๆ นี่มึงเนียนมากกกก มึงขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่าบอกนะว่ามึงนอนบนนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
" นั่งหลับมันเมื่อย " มันพูดพลางลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไปมา หนอยย
ผมได้แต่ทำหน้าถมึงทึงใส่มัน ไม่รู้จะสรรหาคำด่าไหนมาด่ามันให้เจ็บแสบได้ ผมลูบตัวไปมาและพบว่าทุกอย่างยังปกติ ฟู่วว กูรอด
" อะไร นอนกรนแถมน้ำลายยืด มันน่าพิศวาสตรงไหน " มันทำหน้ากวนตีนพลางลุกขึ้นจากที่นอน ผมมองมันที่ใส่กางเกงชั้นในแบบบ็อกเซอร์เอาไว้ หนอยย นี่มึงเปลือยกอดกูยังกล้ามาวิจารณ์การนอนกูอีก อีโต้อยู่ไหน กูอยากฆ่ามึงจริงๆ
ผมยังคงทำหน้างอมองมันที่ลุกขึ้นมาก็เดินไปเข้าครัวอย่างรวดเร็ว ทำไมมึงไม่ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่นี่เลยฟะ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง ตื่นแล้วไม่กลับบ้านก็ไม่ว่าหรอก แต่เสือกแอบย่องขึ้นเตียงกู เดี๋ยวหนอนมึงได้หลุดออกจากตัวแน่ เดี๋ยวเถอะ
" อยากกินอะไร " มันชะโงกหน้ามาถามผม หนอยย แต่มันที่เห็นผมหน้างอก็ทำหน้าหงอยทันที คราวนี้กูไม่สงสารมึงหรอก ทำดีด้วยแล้วได้ใจนะมึง
" ขอโทษ แต่รู้สึกไม่ค่อยดี กลัวจะขับรถไม่ไหว " มันพูดและเดินออกจากครัว หยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำไป
ผมนั่งรอมันสักพักไม่นานมันก็ออกมา ผมเดินดุ่ยๆ เข้าไปหามันและเอามือแนะแตะที่คอของมัน
และทันทีที่ผมแตะตัวมันนั้น ก็พบว่ามันตัวร้อนมาก และเสียงก็ฟังดูแปลกๆ จริงๆ ด้วย
" มึงป่วยแล้ว เป็นไงล่ะ เสือกนอนแก้ผ้า " ผมพูดพลางเดินไปที่ครัว หากล่องยาที่ผมหมกไว้แถวตู้เย็น
เอาไงดีนะ ผมจะส่งมันขึ้นแท็กซี่กลับบ้านดีไหม เพราะห้องผมไม่มีเสื้อผ้ามันเลยนอกจากชุดนักเรียน แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็ตัดสินใจโทรหาน้องธัญมากกว่าที่จะส่งมันกลับบ้าน ให้มันพักอยู่นี่ก่อนน่าจะดีกว่า
ผมมีเบอร์น้องธัญอยู่ เพราะน้องธัญเคยขอเบอร์ผมไป และผมก็เมมเบอร์น้องไว้เผื่อฉุกเฉิน แต่เวลาน้องธัญโทรมาผมก็ไม่ค่อยจะรับเท่าไหร่ แต่จะแชทไลน์แทน เพราะเสียงผมมันใหญ่นิดนึงน่ะสิ ถ้าไม่ได้เห็นตัวแล้วพาลจะนึกได้ว่าเป็นผู้ชาย
" น้องธัญ นี่พี่ฟ้า " ผมดัดเสียงลงหลายโทนเลยทีเดียว เจ็บคอวุ๊ย
" ค่ะพี่ฟ้า ว่าไงคะ คิดถึงจังเลย " ผมได้ยินเสียงใสแจ๋วของน้องธัญมาแต่ไกล
" พี่ธีร์ไม่สบาย อยู่กับพี่นี่แหละ น้องธัญพอจะแวะเอาเสื้อผ้ามันมาให้พี่ได้ไหม "
" ก็ถึงว่าพี่ธีร์ไม่กลับบ้าน แบบนี้นี่เอง ฮิฮิ ได้ค่ะ น้องจะไปกับพี่ธีม เดี๋ยวเอาไปให้นะคะ " ผมทำหน้าเจื่อนๆ ฟังเสียงของน้องธัญ สงสัยจะคิดไปไกลอีกแล้วนะอีหนู
" ถ้าเอามาแล้วรบกวนฝากไว้ข้างล่างให้พี่นะ ขอบใจมากจ้า " ผมที่คุยกับน้องธัญเรียบร้อยก็กดวางสายและหันไปพบว่าไอ้ธีร์กำลังพิงกรอบประตูมองผมอยู่
" ทำอะไร " มันถามเสียงเรียบๆ
" วันนี้มึงลาละกัน นอนอยู่นี่แหละ " ผมพูดบอกมันและหยิบยา หาน้ำไม่เย็นเทใส่แก้ว
" ไม่ได้ วันนี้มีประชุมสภานักเรียน " มันพูดพลางเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า มันเคยเอาชุดนักเรียนมาทิ้งไว้หนีให้ผมซัก มันน่านัก
" เรื่องของมึง ตายห่าไปกูก็ไม่สนหรอก " ผมเดินไปยัดยากับน้ำใส่มือมันและหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ หนอย คนอุตส่าห์เป็นห่วง ตายไปเลยมึง ทำอวดดี
ผมอาบน้ำด้วยความรู้สึกรำคาญใจ หงุดหงิดอารมณ์เสีย โครมครามในห้องน้ำเสียงดัง และไม่นานก็เช็ดตัวนุ่งผ้าออกมา กะจะด่ามันอีกสักยก ตัวร้อนอย่างกับไฟทำอวดเก่ง คอยดูนะ ถ้ากูจับมึงมัดไว้ที่นี่ได้กูก็จะทำ
แต่เมื่อผมออกจากห้องน้ำ ภาพที่ผมเห็นก็ทำให้ผมหายหงุดหงิดเลยทีเดียว
" ก่อนกินยา เขาก็ต้องกินข้าวก่อน ทำให้หน่อย " ผมมองมันที่ลงในนอนบนเตียง คลุมผ้าห่มและสั่งผมฉอดๆ หนอย
ผมยิ้มในใจเล็กๆ และเดินไปกดโทรศัพท์ลงไปร้านอาหารข้างล่างเพื่อสั่งข้าวต้ม และหลังจากวางสายนั้น ผมก็พบว่ามันกำลังทำหน้าบูดอยู่
" อยากกินที่ฟาทำ " ห๊ะ มึงว่าไงนะ ไอ้หอกนี่มันกำลังงอแงสินะ คิดว่าป่วยแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ
" ขืนกูทำ มึงคงท้องร่วงเพิ่มแน่ๆ นอนอยู่นิ่งๆ หุบปาก " ผมชี้หน้าดุมัน มึงยังไม่เข็ดกับไข่เจียวกูอีกเหรอ
" เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ " มันพูดทันทีที่เห็นผมยังไม่ใส่ชุดนักเรียนและเดินไปเดินมารอบห้อง
" ใครบอกกูจะไป " ผมพูดและสวมเสื้อยืดและใส่กางเกงขาสั้นอยู่บ้าน แต่งตัวจะลงไปเอาของข้างล่างและก็เอาข้าวต้มให้มันด้วย
" ไปโรงเรียนซะ อย่าขาดเรียน " มันพูดพลางลุกขึ้นนั่งและทำหน้ายักษ์ใส่ผม หนอย กูว่าแล้วว่ามันต้องไม่ชอบที่ผมจะโดดเรียน
" อะไรของมึง กูจะไปไม่ไปก็เรื่องของกู " ผมพูดและเดินปึงปังลงไปข้างล่าง ถ้ายังอยู่ในห้องผมว่าได้ทะเลาะกันแน่ๆ
ผมเดินลงมาข้างล่างอย่างหัวเสีย จริงๆ ผมน่าจะส่งมันกลับบ้านไป แม่งน่ารำคาญฉิบหาย นึกว่าจะดีใจที่ผมจะดูแลมัน ยังไงไอ้ธีร์ก็คือไอ้ธีร์ ไอ้งี่เง่า
ผมมานั่งรอข้าวต้มข้างล่าง ซึ่งก็รอไม่นานเท่าไหร่ผมก็ได้มันตามที่สั่งไว้ แต่ผมที่กำลังจะเดินขึ้นห้องนั้น ก็พบว่ามีคนคนหนึ่งยืนดักผมอยู่
" เอ้าๆ หน้ายับแล้วนะ " ผมชะงักทันทีที่เห็นว่าใครยืนขวางผม
ผมใจเต้น ตื่นตกใจอย่างควบคุมไม่ได้ แบบนี้ผมจะซวยไหมนะ เพราะว่าคนตรงหน้าผมนั้นก็คือไอ้พี่ธีม พี่ชายที่ดูร้ายกาจของไอ้ธีร์
ทำไมวันนี้มันถึงวุ่นวายแบบนี้นะ