KING ที่ 32 สัญญาใจที่มอบให้ หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านพ้นไป ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ก็ผ่านเข้ามา พวกเราเริ่มเข้าสู่ช่วงการสอบ ทุกๆ คนต่างเรียนกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีคะแนนสูงที่สุดเพื่อที่จะก้าวเข้าสู่มหา'ลัยที่ตัวเองใฝ่ฝัน
ตัวผมที่คอยแต่ขี้เกียจมาตลอด ก็เริ่มตั้งใจมากขึ้น ผมมีเป้าหมาย ผมอยากจะได้คะแนนที่สูงพอจะเรียนต่อในมหา'ลัยที่คนคนนั้นจะไป ผมไม่อยากนึกภาพของพวกเราที่จะต้องอยู่ห่างกัน ผมจะไม่ได้เห็นว่ามันใช้ชีวิตยังไงในมหา'ลัย มันจะมีคนมาสนใจไหม มันจะไปไหนกับใครหรือเปล่า ผมอยากรู้ ผมอยากเห็นทุกๆ เรื่องที่มันทำ ผมไม่อยากให้พวกเราแยกจากกัน ผมจะต้องทำได้ พวกเราจะต้องอยู่ด้วยกัน
" ปรบมือให้กับนายธีรดล ที่สอบได้คะแนนสูงสุดทุกวิชา และตอนนี้ติดคณะแพทย์ศาสตร์ของมหา'ลัยที่ดีที่สุด "
ผมมองดูแฟนของผมที่หน้าเสาธง เป็นคนที่สุดยอดเสมอไม่ว่าจะทำอะไร มันเหมือนกับพวกเราอยู่กันคนละโลก ตัวผมนั้นมันงี่เง่า ที่เพิ่งมาคิดได้ก็เมื่อสายไปแล้ว ผมไม่ได้คะแนนดีเลยสักนิด ผมยังไม่รู้เลยว่าผมจะต้องไปที่ไหน
ผมหัวเราะเยาะตัวเอง สมน้ำหน้าที่ไม่ตั้งใจเรียนตั้งแต่แรก คงไม่แคล้วต้องยัดเงินเยอะ ไม่ก็ไปเรียนต่อต่างประเทศและถูกกักบริเวณ เรื่องของผมมันก็คงได้แค่นี้แหละ
" ไอ้ฟา มึงไม่ต้องเศร้าไป กูก็เหมือนกัน ขนาดเรียนแทบตายแล้วนะ " ไอ้เนมพูดบอกผมและทำหน้าเศร้าสร้อย
ไอ้นนนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้ธีร์เช่นกัน มันสอบติดรับตรงคณะทันตแพทย์ศาสตร์ แต่ก็สละสิทธิ์เพราะต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
หลังจากแยกแถว ผมนั้นก็เดินอย่างสลดหดหู่กลับไปที่ตึกเรียนของผม ผมมองดูเพื่อนๆ ที่กำลังดีใจกับคณะที่ตัวเองสอบได้ แล้วผมล่ะ เฮ้อ จะทำยังไงดีนะ
" มหา'ลัยไหนก็ไม่สำคัญ มันอยู่ที่เราต่างหาก " ผมมองไอ้นักเรียนดีเด่นที่เดินตามผมมา และจับไหล่ผมเอาไว้ ไม่ว่ามึงจะพูดยังไงกูก็เสียใจอยู่ดี ใครไม่มาเป็นกูไม่รู้หรอก
" มึงก็พูดได้สิ สมใจมึงแล้วนี่ " ผมพูดและทำหน้าบึ้งเดินหนีมัน
" ยังมีทางอื่นอีก เชื่อสิ ว่าต้องได้ " มันดักหน้าผมและเดินเข้ามาใกล้
" ถ้ามันจะไม่ได้จริงๆ เช่าหอนอกอยู่ด้วยกัน เลิกเรียนก็เจอกัน " ผมชะงักตาโตมองมันทันที จ..จะให้อยู่ด้วยกันฉันผัวเมียอ่านะ ไอ้บ้า พูดอะไรน่ะ
" กลับห้องมึงไปเลย ไอ้นักศึกษาแพศยา " ผมดันหลังมันแรงๆ และเดินเข้าห้องไปนั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะเรียน เฮ้ออ ไอ้ฟาหัวขี้เลื่อยเอ๋ย
" ฟา " ผมมองคนอีกคนที่กำลังเรียกผมอยู่ที่หน้าประตู ผมแอบถอนหายใจเล็กๆ และลุกขึ้นเดินไปหาคนคนนั้น
" ยินดีด้วยนะ นิเทศใช่ไหม " ผมถามและยิ้มให้เพื่อน
" ขอบใจนะ มึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมึงก็ได้สักที่นั่นแหละ " น้ำพูดและจับไหล่ผม
" แล้วมึงรู้หรือยัง คืนก่อนวันปัจฉิมน่ะ มีกินเลี้ยงนะ " น้ำพูดบอกผมและสีหน้าดูมีความหวัง
" อืม " ผมหัวใจสั่นไหว ผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีนะ
" อย่าลืมนะฟา กูขอแค่ครั้งนี้ ครั้งสุดท้ายก่อนกูจะไป "
" คือน้ำ... " ผมเรียกน้ำไว้ ก่อนที่น้ำจะเดินออกไป
" ว่าไง " น้ำมองหน้าผม และตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูด
" ได้เคยลองเข้าไปคุยกับมันตรงๆ หรือยัง " ผมถามสิ่งที่ผมสงสัย ทำไมเธอจะต้องให้ผมช่วยอยู่เรื่อย ถ้าเธอเองก็ทำได้
" คิดว่าไม่เคยลองเหรอ แต่ธีร์ ไม่เคยยอมฟังที่จะพูดเลย " น้ำพูดและทำหน้าเจ็บปวด แบบนี้นี่เอง ถ้างั้นก็เหมือนกับเวลาผมจะพูดกับมันเรื่องน้ำนั่นแหละ
" กูไม่ได้จะทำอะไรหรอก แค่อยากบอกลา อยากพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจ " ผมพยักหน้าน้อยๆ แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ
" เข้าใจแล้ว " ผมก็เข้าใจความรู้สึกมันนะ และถ้าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ละก็ ผมก็อยากให้มันจบลงสักที
" ขอบใจนะฟา " น้ำพูดและเดินออกไปจากหน้าห้องเรียน
ผมกลับเข้ามานั่งที่เดิม พลางคิดถึงเรื่องของผมกับไอ้ธีร์ตอนนี้ พวกเรานั้นดีต่อกันมาก ถึงจะมีบางครั้งที่เราไม่เข้าใจกัน แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา
ผมเคยได้ลองพยายามพูดกับมันเรื่องน้ำแล้ว ผมอยากให้มันเข้าใจความคิดของผม แต่ก็เหมือนเดิม มันไม่เคยยอมฟังผม และพาลจะโกรธผม ผมไม่เข้าใจมันเลย ว่ามันกำลังกลัวอะไร มันกลัวว่าผมจะยกมันให้น้ำงั้นเหรอ ทำไมมันถึงยังคิดแบบนั้น มันไม่รู้เลยเหรอ ว่าผมชอบมันมากแค่ไหน ผมน้อยใจมันเหมือนกันที่มันยังคงไม่เชื่อใจผม และดูหวาดระแวงเรื่อยมา
ในช่วงกลางวัน ผมมองไอ้นักเรียนดีเด่นที่กำลังเดินมาพร้อมไอ้นน อีกไม่กี่วัน ช่วงเวลาเหล่านี้ก็จะจบลงแล้ว พวกเราจะต้องแยกจากกันไปคนละทิศคนละทาง พวกเราจะไม่ได้มากินข้าวร่วมกันที่นี่อีกแล้ว ผมรู้สึกใจหาย ผมชอบที่นี่ ผมอยากจะหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้ ช่วงเวลาที่พวกเรา 4 คนได้อยู่ด้วยกัน
" เป็นอะไร " ไอ้ธีร์ที่นั่งลงตรงข้ามผมนั้นก็พูดถามทันทีที่เห็นสีหน้าของผม
" จะจากกันแล้ว " ผมพูดเบาๆ และมองหน้าเพื่อนๆ
" ไม่ได้จะไปตายกันนะเฟ้ย " ไอ้นนพูดพลางหัวเราะชอบใจ แต่คนที่ไม่ได้หัวเราะตามและสีหน้าหม่นลงมากกว่าผมก็คือคนที่นั่งข้างๆ ผม
ไอ้เนมนั้นดูซึมลงไปมาก มันพูดน้อยลงกว่าเก่าเพราะคิดเรื่องนี้แน่ๆ
" มึงอยากไปตายที่ไหนก็ไป " ผมมองไอ้เนมที่พูดเบาๆ และกินข้าวต่อไป
" กูไม่ยอมตายหรอก " ไอ้นนพูดและจ้องมองไอ้เนมด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ
" เฮ้ยๆ คุยกันดีๆ จะไม่เจอกันอีกแล้วนะ " ผมมองมันสองคนที่เริ่มจะทะเลาะกันอีกแล้ว
" กูจะกลับมาบ่อยๆ นั่นแหละ " ไอ้นนหันมาพูดบอกผมด้วยรอยยิ้ม
" แล้วพวกมึงสองคน เอาไง " ไอ้นนพูดถามต่อ มึงมาถามอะไรกูตอนนี้ กูนี่มืดแปดด้านไปหมด
" จะให้คุณพ่อพาเข้าให้ " ผมตาโตมองไอ้ธีร์ที่พูดแบบนั้น นี่มันหมายถึงผมงั้นเหรอ
" ไม่เอา กูจะเข้าเอง ไม่ต้องเสือกเลยมึง " ผมพูดพลางทำหน้ามุ่ย ใจจริงก็อยากเข้าด้วยกันหรอก แต่ให้ทำแบบนั้นก็เกินไป รู้สึกไม่ดีเลย
" กูอยากทำได้อย่างมึง กูไม่อยากไปเลย แต่พ่อกูคงเอาตายแน่ " ผมขมวดคิ้วมองไอ้นนที่กำลังพูดกับไอ้ธีร์
" เรื่องอะไรเหรอ " ผมถามไอ้นนด้วยความสงสัย
" อ่าว นี่มึงไม่เคยบอกมันหรอกเหรอ " ไอ้นนพูดถามไอ้ธีร์ที่กำลังส่ายหน้าและจ้องมองผมเขม็ง นี่มึงอย่าบอกนะว่า ไอ้ข่าวลือที่มึงจะไปเรียนเมืองนอกน่ะเรื่องจริง
" ไม่ไปแล้ว อยากอยู่ที่ไทย แต่ต้องเรียนหมอ " ไอ้ธีร์พูดและยิ้มน้อยๆ นี่มึงต่อรองกับที่บ้านได้สินะ
" จริงๆ มึงจะไปก็ได้ " ผมพูดและไอ้ธีร์ก็หุบยิ้มทันที
" กูแค่อยากให้มึงเรียนอะไรที่ชอบ " ผมรีบพูดต่อ ก่อนที่มันจะเข้าใจผิดซะก่อน
" หมอก็โอเค เคยบอกแล้วนี่ " ไอ้ธีร์พูดบอกผม
" ฟา แล้วตกลงมึงจะเอาไง " ไอ้นนถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมมองไอ้เนมที่ดูกราดเกรี้ยวกับไอ้นนที่เดินตามไปไม่ห่าง เวลานั้นเหลือน้อยเต็มทีแล้ว จะพูดอะไรก็รีบพูดออกไปเถอะไอ้เนม ผมเป็นห่วงเพื่อน ผมอยากให้มันสองคนเข้าใจกันสักที
ผมเดินแยกมากับไอ้ธีร์ เพราะตอนนี้ชั้นม.6 ไม่มีเรียนอีกแล้ว มีแต่เรื่องการสอบต่างๆ ซึ่งทำให้พวกเรามีอิสระมากขึ้น ผมและมันเดินกันมาที่ลานโต๊ะม้าหินหลังอาคารเรียน ที่ที่มีต้นไม้ออกดอกสีชมพูสะพรั่ง ที่ที่ผมเคยมานั่งกับมันเมื่อนานมาแล้ว
" ทำไมมึงถึงไม่อยากไปเรียนเมืองนอก " ผมนั่งลงกับมันและถามมันตรงๆ ตอนนี้มีนักเรียนหลายคนก็นั่งอยู่รอบๆ เช่นกัน แต่ผมไม่ได้กลัวอะไรอีกแล้ว เพราะพวกเราจะต้องจากที่นี่ไปแล้ว
" นี่ไม่รู้จริงๆ เหรอ " มันถามผมด้วยสีหน้านิ่งๆ
" กูนึกว่ามันเป็นแค่ข่าวลือจริงๆ "
" แล้ว อยากให้ไปนักหรือไง " ผมมองหน้ามัน คำนี้มันเคยถามผมมาแล้ว ซึ่ง ณ ตอนนั้น ผมแทบไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่ ผมไม่อยากให้มันไป ผมพูดได้เต็มปากเลยทีเดียว
" แล้ว...มึงอยากไปไหมล่ะ " โอ้ยยย ทำไมไม่พูดละ ไอ้ฟาเอ้ย ว่าไม่อยากให้ไป
" ไม่อยากไป ไม่อยากอยู่ห่างกัน " ผมเริ่มรู้สึกว่าไม่ควรถามใช่ไหมเนี่ย อ้ากกก เขินนะเนี่ย
" ทำใจไว้เถอะ มึงได้ห่างแน่ " ผมพูดแหย่มัน เพราะผมยังไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
" ฟา " มันเรียกผมเสียงอ่อนเสียงหวานอีกแล้ว ทำเอาขนลุกทุกที หึ่ย
" อะไร " ผมตอบรับมันและพยายามอย่างหนักที่จะไม่ยิ้มออกมา
" วันปัจฉิม อย่าลืมนะ " มันพูดและยิ้มให้ผม
ผมจ้องมองมัน วันปัจฉิมนั้นก็อาทิตย์หน้านี้เอง ผมคิด ว่าถ้าหากพวกเราเป็นแฟนกันจริงๆ แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเรา จะเปลี่ยนไปหรือเปล่านะ
" อือ " ผมตอบรับและยิ้มให้มันเช่นกัน
แต่ผมที่กำลังจ้องมองมันนั้น ก็เหลือบเห็นคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ห่างออกไป และกำลังทำหน้าเศร้าใจอยู่
ผมหุบยิ้มลง และมองน้ำที่นั่งอยู่คนเดียว แววตาจ้องมองพวกผม และก็เหมือนเธอจะรู้ว่าผมมองอยู่ เธอยกมือโบกไปมาให้ผม และส่งยิ้มให้ผมเหมือนที่ผ่านๆ มา
ผมละสายตาจากเพื่อน กลับมามองแฟนของผมที่ยังคงส่งยิ้มให้ผมอยู่ ผมจะต้องทำยังไงดีนะ ถ้าผมพูดออกไป เรื่องของน้ำจะจบลงหรือเปล่า ผมอยากให้มันจบลงสักที
" คือ... " ผมจ้องมองคนตรงหน้า ผมต้องลองดู แต่ก็ไม่อยากเลยจริงๆ
ผมส่ายหัวไปมา ผมจะพูดยังไงให้มันยอมฟังดีนะ หรือจะไม่พูดออกไปดี ผมอึกอักไม่กล้าพูด แต่พอมองเห็นเพื่อน ผมก็รู้สึกว่า ผมควรจะลองดู แค่ครั้งนี้ิ ครั้งสุดท้าย
" เป็นอะไร " ไอ้ธีร์เลิกคิ้วขึ้นทันทีที่สังเกตว่าผมเปลี่ยนไป
" กูพูดได้ไหม...เรื่องน้ำ " ผมค่อยๆ พูดและมองมันที่ค่อยๆ หุบยิ้มลง
" ทำไม " ผมมองมันที่พูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก แต่ดีขึ้นหน่อยตรงที่คราวนี้ มันฟังผมนานขึ้น และไม่ได้หนีผมไป
" คือ พวกเราก็จะแยกย้ายกันไปเรียนแล้ว " ผมพูดต่อ และมองปฏิกิริยาของมันที่นิ่งเงียบมองผม
" แล้วยังไง " เสียงของไอ้ธีร์ดูแข็งขึ้น และจ้องมองผมเขม็งอย่างไม่พอใจ
" มันอยากเจอมึง อยากคุยกับมึงเป็นครั้งสุดท้าย " ผมรีบพูดให้จบและมองมันที่จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่บอกว่าผิดหวังเหลือเกิน
" ก็ยังเป็นเหมือนเดิม " ไอ้ธีร์พูดเบาๆ และเริ่มหัวเราะน้อยๆ ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังพูด
" คือ แค่ครั้งสุดท้าย... "
" จะให้ทำอะไร ให้จูบส่งท้ายเลยไหม! " ผมชะงักทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ไอ้ธีร์พูดเสียงดังด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว ก็นั่นสินะ สมควรแล้วที่มันจะโกรธ
" ไอ้ธีร์... "
" ขอเถอะ พอสักที " ผมมองมันที่มองผมด้วยแววตาแสนเศร้า และเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น และค่อยๆ นั่งลงช้าๆ อย่างอ่อนแรง
" ขอโทษนะ ที่ทำให้ทะเลาะกัน " ผมรู้ว่าใครกำลังนั่งลงข้างๆ ผม ตอนนี้ผมไม่อยากจะมองหน้าเธอเลยจริงๆ
" กูลองพูดให้แล้วนะ แต่ก็อย่างที่เห็น "
" ธีร์ เป็นแบบนี้บ่อยเหรอ " น้ำพูดถามต่อ
" มันเป็นคนคิดมาก แต่เดี๋ยวก็หาย ช่างเถอะ " ผมพูดและลุกขึ้น ผมอยากไปหามัน ไม่รู้ไปไหนแล้ว
" ขอบใจนะ " ผมมองน้ำที่ลุกขึ้นตามผม
" อืม กูไปแล้วนะ " ผมพูดและทำท่าจะเดินออกมา
" ฟา " ผมหันไปอีกครั้งตามเสียงเรียก
" กินเลี้ยงก่อนวันปัจฉิม อย่าลืมมานะ " ผมพยักหน้าให้เพื่อน และเดินออกมาจากตรงนั้น
ผมเดินตามหาไอ้ธีร์ไปทั่วโรงเรียน แต่ก็ไม่เจอมันเลย ไม่รู้หายไปไหน ผมกดมือถือและโทรหามัน หนอย ปิดเครื่อง มันเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาโกรธ ผมคงต้องให้เวลามันสักพัก ถ้ามันใจเย็นลงเมื่อไหร่ มันก็จะติดต่อหาผมเอง
หลังโรงเรียนเลิกวันนี้ ผมมีงานถ่ายแบบเล็กๆ ที่สตูดิโอของพี่เรียว ผมหน้ามุ่ย ผมเฝ้าแต่มองหน้าจอมือถือและถอนหายใจถี่ หงุดหงิด ไม่สบายใจ ผมเป็นห่วงมันจริงๆ
" ทำหน้าแบบนั้นจะถ่ายได้ไงฟา " พี่เรียวเดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆ ผม
วันนี้ผมใส่ชุดเดรสสีขาวยาวถึงข้อเท้า ทำผมลอนแบบเทพนิยาย และมีมงกุฎดอกไม้อยู่ด้านบน ดูสวยหวานแบบนางฟ้า แต่หน้าตาผมวันนี้กลับเป็นนางมารซะได้
" ผมไม่ถ่ายได้ไหม " ผมงอแงอยู่หน้าฉาก บนเก้าอี้ไม้สวยๆ ที่เข้ากับชุดผมเหลือเกิน
" ทะเลาะกันหรือไง " พี่เรียวถามและจ้องมองผม
" ผมอยากขอโทษมัน แต่มันไม่ยอมรับสายผมเลย " ผมพูดอย่างเศร้าสร้อย
" จริงเหรอ แต่ ในนี้พี่ก็เห็นธีร์เขาพูดปกตินะ " ผมมองพี่เรียวที่ชูมือถือไปมา
" จริงเหรอครับ ขอผมดูหน่อย! " ผมลุกลี้ลุกลนรีบโดดคว้ามือถือพี่เรียวมากดดู ผมใจเต้นระทึก ผมอยากคุยกับมัน ผมอยากเจอมันตอนนี้
[ ฟาอยู่กับพี่ใช่ไหมครับ ]
[ ผมฝากด้วยนะ วันนี้ผมไม่ว่างเข้าไป ]
[ ฟาเป็นไงบ้างครับ ]
[ ฟาโอเคดีไหม รบกวนถ่ายรูปฟาส่งให้ผมหน่อย ]
ผมมองข้อความหลายข้อความที่มันส่งหาพี่เรียว ทุกๆ ข้อความนั้นล้วนแต่ถามถึงผม หนอย แล้วทำไมมึงไม่ยอมตอบไลน์กู มึงไม่ยอมรับโทรศัพท์กู
ผมมองข้อความมันและคิดอะไรอย่างหนึ่งได้
" พี่เรียว ถ่ายรูปให้ผมหน่อย " ผมยื่นมือถือคืนให้พี่เรียวที่รับไปแบบงงๆ
ผมถอยหลังออกมาเล็กน้อย และทำท่าโพสค้างไว้เหมือนเด็กน้อยกำลังเช็ดน้ำตา
" ถ่ายเลยๆ ท่านี้แหละ " ผมบอกพี่เรียวและยังคงตั้งท่าอยู่
" ร้ายนะเรา " พี่เรียวเล็งกล้อง และกดถ่ายรูปให้ผมพลางหัวเราะชอบใจ
" ไหนๆ " ผมรีบไปแย่งมือถือพี่เรียว และกดส่งรูปนั้นให้ไอ้ธีร์
" แบบนี้เตรียมนับถอยหลังได้เลยมั้ง " พี่เรียวพูดพลางยิ้มกวน นี่พี่คิดว่ามันจะมาหาผมเพราะแค่รูปหลอกๆ ใบเดียวเหรอ
" คราวนี้ท่าจะหนักครับ มันหนีผมไปตั้งแต่บ่ายแล้ว " ผมพูดอย่างเศร้าใจ
" เหรอ พนันกันไหมล่ะ " พี่เรียวพูดและโบกแบงค์สีเทาไปมา
" หมดตูดแน่พี่... "
' ตึ้ง! '
แต่ผมที่กำลังพูดนั้น ก็หันไปทางเสียงตึงตังทันที
ผม พี่เรียว และพี่ๆ ช่างภาพต่างจ้องมองไปทางประตูที่ถูกผลักเปิดออกอย่างแรงจนประตูแทบหลุดออกมา
ผมมองไอ้คนที่รีบร้อนวิ่งพรวดเข้ามาด้วยใบหน้าที่ดูร้อนรน ตัวมันนั้นยังคงใส่ชุดนักเรียนขายาว และเหงื่อท่วมร่าง
ผมมองมันที่กำลังเดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าเป็นห่วงชัดเจน นี่มึง เพราะรูปนั่น มึงมาจริงๆ เหรอ ผมทำหน้าไม่ถูก ในหัวใจของผมมันพองโตจนเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยความดีใจ
" เลี้ยงด้วยนะ " พี่เรียวยิ้มและเดินหนีไปนั่งห่างๆ ด้วยใบหน้าผู้ชนะ หึ่ยยย
" เป็นอะไร " ผมอมยิ้มมองไอ้ธีร์ที่ยืนตรงหน้าผม
" อะไร มึงพูดเรื่องอะไร " ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับภาพร้องไห้หลอกๆ นั่น
" ขอโทษนะ ไม่เป็นไรใช่ไหม " ผมรู้สึกอยากร้องไห้ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น คนที่ควรขอโทษมันคือผมต่างหาก ทำไมมึงถึงได้ เป็นแบบนี้ตลอดเลย
" มึงหายไปไหนมา " ผมพูดถามมัน
" ขอโทษ " ผมกำมือตัวเองเบาๆ ผมอยากกอดมันชะมัด อยากบอกว่าผมขอโทษจริงๆ ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก แต่ผมก็อายเกินไป ทีไอ้เรื่องที่ควรจะอายแม่งเสือกไม่อายนะไอ้ฟา
" พูดอะไรน่ะ กูต่างหากที่ต้องขอโทษ แต่ช่างมันเหอะ " ผมอยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ผมไม่อยากให้เราสองคนเป็นแบบนี้
อ่าวๆ แบบนี้นางแบบ เอ้ย นายแบบของเราก็พร้อมถ่ายแล้วใช่ไหม " ผมจิกตามองไอ้พี่เรียวที่เดินเข้ามากวน และร่าเริงเหลือเกิน
" มีอะไรกันเหรอครับ " ไอ้ธีร์ถามพี่เรียว
" ก็นายแบบเราน่ะสิ งอแง โอ้ยย " ผมฟาดแขนไอ้พี่เรียวทันที หนอยย พูดมากเฟ้ย
" พูดเรื่องจริงทำหน้าบางนะเรา " ผมทำตาขวางมองไอ้พี่เรียว อ้ากกก อย่ามาเผานะเฟ้ย
" ถ่ายได้แล้วววว " มาพูดพลางลากแขนไอ้พี่เรียวออกมาจากไอ้ธีร์ และนั่งลงที่เก้าอี้เพื่อถ่ายภาพ
ผมนั่งลงและโพสท่าต่างๆ ตามที่ช่างกล้องสั่ง นั่งบ้าง ยืนบ้าง จริงๆ วันนี้แค่ถ่ายเล็กน้อยเท่านั้น เพราะจริงๆ ผมต้องไปถ่ายที่ทุ่งดอกไม้ งานถ่ายโฆษณาถึงจะดูง่ายดี แต่ลำบากตอนไปสถานที่จริงนี่ล่ะ
ผมถ่ายรูป และเหลือบๆ มองแฟนของผมที่จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ยังคงเศร้าหมองเล็กๆ ผมไม่รู้ว่าผมควรพูดอะไรกับมันดี เพราะถ้าผมพูดเรื่องน้ำอีกครั้ง คราวนี้มันคงฟิวขาดแน่ๆ เอาเป็นว่า ผมจะทำตัวดีๆ ไม่ให้มันเครียด ไม่กี่วันทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
" มาพักก่อนฟา " ผมเดินลากเท้ามาหาพี่เรียวที่กำลังกวักมือเรียกผม และนั่งอยู่กับไอ้แฟนของผม
การยืนถ่ายรูปนานๆ นั้นทำเอาปวดขาไปเลย ไม่รู้จะถ่ายอะไรเยอะแยะ จริงๆ ทุกรูปนั่นก็สวยหมดแหละ หึ่ยย น่าเบื่อจัง
" นั่งกันไปก่อนนะ พี่ไปคุยงานกับช่างกล้องก่อน " พี่เรียวพูดพลางลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่วายหันมายิ้มกวนผมอีก พ่อสื่อพ่อชักชัดเจนอ่ะ เดี๋ยวเถอะ
" ไม่ใส่รองเท้าแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ " ไอ้ธีร์ถามผมทันทีที่เห็นเท้าอันเปลือยเปล่าของผม
" ไม่เป็นไรหรอก " ผมพูดและหยิบน้ำหวานขึ้นดื่ม
ผมเหลือบมองมันที่จ้องมองผมตลอดเวลา แบบนี้มันแปลกๆ อ่ะ คือจริงๆ มันก็เป็นแบบนี้แหละ แต่วันนี้รู้สึกจะมากเป็นพิเศษ
" ชุดนี้เป็นไงมั่ง " ผมพูดและจับชายประโปรงแบบเขินๆ
แต่ผมที่ถามมันออกไปนั้น ก็พบว่ามันยังคงนิ่งอยู่ เหมือนกับอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง ผมยกมือขึ้นและโบกไปมาตรงหน้ามันเบาๆ
" ธีร์ " ผมเรียกมันและดีดนิ้วตรงหน้า
" อ.อืม ว่าไงนะ " ผมยิ้มและมองมันที่ทำท่าเหมือนเพิ่งหลุดออกจากห้วงมิติส่วนตัว มึงเนี่ย น่ารักดีนะ
" ถามว่าชุดนี้เป็นไงมั่ง " ผมพูดและลุกขึ้นหมุนตัวไปมาให้มันดู
" เหมือน... " ผมขมวดคิ้วมองมันที่กำลังจ้องมองผมอยู่
" อะไร " ผมถามมันและนั่งลงตามเดิม
" นางฟ้า " ผมชะงัก และตาโตมองมันทันที เมื่อกี้มึงว่าไงนะ ผมรู้สึกว่าตอนนี้เลือดทุกส่วนกำลังลำเลียงกันมาบนหน้าผม
" ว..เวอร์ " ผมพูดเบาๆ และหันหน้าหนีมัน โอ้ยยยย เขินโว้ย ไอ้บ้าเอ้ยยย
" อะแฮ่ม " ผมหันขวับไปมองไอ้พี่เรียวที่กำลังทำหน้ายิ้มกริ่มอยู่ด้านหลังผม
" ถ่ายต่อได้แล้ว เดี๋ยวค่อยมาเชยชมกันต่อนะ แม่นางฟ้า " อ้ากกกก ผมลุกพรวดและเดินชนไหล่พี่เรียวทันที อย่ามาแซวนะเฟ้ยย เขินโว้ยยยย
หลังจากถ่ายแบบเสร็จสิ้น ผมรีบหนีพี่เรียวออกมาจากสตูดิโอโดยลากไอ้ธีร์มาด้วย แถมยังใส่ชุดที่ถ่ายแบบมาทั้งชุด เดี๋ยวค่อยไปคืนทีหลังละกัน
" ไม่ต้องรีบขนาดนั้น เดี๋ยวก็หกล้ม " ไอ้ธีร์ที่ถูกดึงก็เป็นฝ่ายดึงผมให้หยุดเดินบ้าง
" วันนี้ ขอโทษนะ " ผมที่ยืนตรงหน้ามันนั้น ก็พูดขึ้นทันทีที่มีโอกาส ผมมองหน้ามันที่ยังคงดูหม่นเศร้า ผมจะต้องทำยังไงให้มันยิ้มกัน
" ขอให้ครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม " มันพูดเบาๆ บอกผมดวงแววตาแสนเศร้า
" สัญญาเลย " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ให้คนตรงหน้า ถึงแม้หากมันจะไม่ได้ถามผมแบบนี้ แต่ผมก็ได้ให้สัญญากับตัวเองไว้แล้ว ว่าต่อไปนี้ ผมจะไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดอีก ผมจะซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองให้มากกว่านี้
และทำสิ่งที่จะไม่ทำให้คนที่ผมรัก ต้องผิดหวังแน่นอน