In The Shadows' เงาหลอน ซ่อนรัก '[YAOI][#47 ปีกสีขาวที่หวนคืน][END](12/8/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: In The Shadows' เงาหลอน ซ่อนรัก '[YAOI][#47 ปีกสีขาวที่หวนคืน][END](12/8/63)  (อ่าน 22387 ครั้ง)

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ซินนี่มาแนวไหนเนี่ย แลไม่น่าไว้ใจเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คิด  ๆ แล้ว ที่น่ากลัวที่สุดคงเป็น ซิน ซินะ  :ling3:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 14 เพื่อนคนใหม่


ผมเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆ ก้มหน้าหลบเสียงซุบซิบก่นด่าที่ดังขึ้นตลอดเวลาที่ผมเดินผ่าน ผมชินแล้วกับอะไรแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างผมรู้ดีอยู่แก่ใจ ผมไม่จำเป็นต้องตอบโต้อะไร เพราะผมบริสุทธิ์

ซิน นายอยู่ไหนกันนะ ผมอยากให้นายอยู่ข้างๆ ผมตอนนี้เหลือเกิน

"เธอ"

ผมเงยหน้าขึ้นอีกครั้งตามเสียงเรียก และก็พบว่าคนที่ขวางผมอยู่นั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นอาจารย์นาธัส

"สวัสดีครับอาจารย์ คราวก่อนต้องขอโทษจริงๆ ที่ต้องรีบกลับ" ผมยิ้มให้อาจารย์ ผมลืมไปได้ยังไงกัน ว่านอกจากซินแล้ว ก็ยังมีอีกคนที่ผมสามารถพูดคุยได้

"ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ" อาจารย์เดินเข้ามาใกล้ผมอีกนิด วันนี้อาจารย์ก็ยังคงเท่เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนพวกคุณหมอมากกว่าจริงๆ นะ

"ครับ เรื่องอะไรเหรอครับ" ผมเลิกคิ้วสงสัย

"ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก เธอพอจะแวะมาช่วยฉันที่ห้องทำงานได้ไหม ไม่นานหรอก ฉันมีค่าจ้างให้" ผมยิ้มให้อาจารย์

"พูดอะไรกันครับ ผมจะไปช่วยแน่นอน ไม่ต้องจ้างหรอกครับ" ผมยิ้มกว้างขึ้นไปอีก เป็นคนแปลกๆ ที่ใจดีจริงๆ สินะ

"งั้นเหรอ ขอบใจนะ" อาจารย์จ้องมองผมด้วยสีหน้าเรียบๆ

"แต่ว่าวันนี้ไม่ได้นะครับ ผมต้องไปธุระ"

"พรุ่งนี้ก็ได้" ผมพยักหน้าตอบรับอาจารย์

"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะเข้าเรียนสาย" ผมพูดและทำท่าจะเดินออกมา

"ไวท์" ผมหันไปมองอาจารย์ที่เรียกผมเอาไว้อีกครั้งด้วยความสงสัย

"หนังสือนั่น เป็นของเธอหรือเปล่า" ผมขมวดคิ้วและมองไปตามสายตาของอาจารย์ และก็พบว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งตกอยู่ใกล้ๆ ขาของผมจริงๆ

ผมจ้องมองหนังสือเล่มนั้น พลางก้มลงหยิบมันขึ้นมา มันเป็นหนังสือปกสีดำที่มีสภาพเก่าและกระดาษเป็นสีเหลือง

"คือ ไม่ใช่ของผมนะครับ" ผมพลิกหนังสือไปมาและพลิกดูด้านในลวกๆ มันแปลกมากขึ้นไปอีก เพราะว่ามันไม่ใช่ภาษาที่ผมเคยเห็น และทุกหน้าก็เหมือนกับถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆ ทั้งเล่ม

"งั้นเหรอ งั้นก็เก็บเอาไว้ก่อน แล้วค่อยคืนเจ้าของละกัน"  อาจารย์พูดบอกผม และก่อนที่ผมจะทันได้ปฏิเสธ อาจารย์ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ผมเดินต่อมายังห้องเรียนของผม และก็ต้องมองหาซินไปทั่วด้วยความแปลกใจ ซินหายไปไหนกันนะ นี่ก็ถึงเวลาเรียนแล้ว หรือจะไม่สบายกัน

วันนี้ก็ยังคงเป็นห้องสโลบขนาดใหญ่ แต่คนละห้องกับที่แล้วๆ มา ที่นี่เป็นเหมือนกับห้องฉายภาพยนต์ที่มีเบาะนั่งสบายและค่อนข้างมืด

ผมเลือกที่นั่งกลางๆ ที่ไม่ห่างจากคนอื่นเท่าไหร่นัก ถึงจะต้องอดทนกับคำนินทาแต่ก็ดีกว่านั่งอยู่คนเดียวและถูกผีหลอก

แต่ผมที่นั่งอยู่นั้นก็ถูกกลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องบอกว่าใครมายุ่งวุ่นวายอีกแล้ว และดูเหมือนจะหนักขึ้นทุกที

"วันนี้ก็ดูดีจังเลยนะ" เต้ยเดินมานั่งข้างๆ ผมและเท้าคางจ้องมองผมตาเยิ้ม

"เมียมึงสงสัยโดนแกล้งมาว่ะ ที่คอมีรอยแดงๆ ด้วย" แมนที่นั่งลงอีกด้านของผมกำลังยื่นหน้าเข้ามาเพ่งดูคอผมใกล้ๆ ผมรีบเอามือลูบที่คอตัวเองและก็พบว่ารู้สึกเจ็บนิดๆ น่าจะเพราะก้อนหิน

"มึงก็ทายาให้มันดิ" ต้องที่นั่งข้างหลังผมก็ชะโงกหน้ามาแกล้งผมด้วย

"อย่าแกล้งนักสิวะ กูอยากจีบไวท์ดีๆ นะโว้ย" เต้ยพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ทำเอาทั้งสองคนหัวเราะลั่น

"แล้วเพื่อนตุ๊ดของมึงไปไหนวะ"

"ผมไม่รู้" ผมพูดเสียงเบาอย่างเศร้าสร้อย

"ปล่อยมันไปดีแล้ว ดูสภาพมันก็คิดแล้วว่าไม่น่าจะจริงใจหรอก ป่านนี้ไปกกสาวไหนแล้วมั้ง" ต้องพูดและทั้งสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

ผมอยากจะหายไปจากที่นี่ตอนนี้ ยิ่งได้ยินแบบนั้น ผมก็เริ่มที่จะคิดเหมือนกัน ว่าซินคงจะเบื่อที่จะเล่นเป็นเพื่อนของผมแล้ว

หลังจากชั่วโมงเรียนจบลง ซินนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาเลยสักนิด ผมรู้สึกว่าผมควรจะหาเงินซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง เพื่อติดต่อหาซินในเวลาที่ผมต้องการ

ผมมองดูคนสามคนที่กำลังคุยกันโดยมีผมนั่งอยู่ตรงกลาง แบบนี้ก็คงจะดีมั้ง ถึงพวกนี้จะชอบแกล้งผม แต่ก็ยอมเข้ามาคุยกับผมดีๆ บ้างเหมือนกัน

"ตอนบ่ายไม่มีเรียนแล้ว เราไปเที่ยวกันไหม" เต้ยพูดถามผมเบาๆ ด้วยหน้าเปื้อนยิ้ม ผมมองหน้าคนที่จ้องมองผม เป็นคนที่ขาวและตาตี่มากๆ ถ้านายไม่ชอบแกล้งผม ผมก็อยากจะชมว่านายก็ดูดีเหมือนกัน

"ผมต้องไปช่วยงานอาจารย์" ผมพูดและทำท่าเก็บกระเป๋า วันนี้คาบบ่ายอาจารย์ที่สอนขอยกเลิกคลาส ทำให้ผมมีเวลาว่างก่อนที่จะไปงานศพตอนเย็น

"โธ่ เสียดายจัง" เต้ยพูดและทำหน้าเศร้า

"ขอโทษนะ แต่เอาไว้วันหลังละกัน" ถ้าพวกนายเลิกแกล้งผมละก็นะ

ผมพูดและเดินออกมาจากห้อง เดินไปยังทางเดินเล็กๆ ทางเดิมที่ผมเคยมา ผมชอบบรรยากาศร่มรื่นของที่นี่ ลมเย็นๆ ที่พัดโชยมาทำให้รู้สึกดีและชื่นใจ

ไม่นานนัก ผมก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของอาจารย์นาธัส ตอนนี้อาจารย์จะอยู่ไหมนะ

"เข้ามา"

ผมที่ไม่ทันจะเคาะประตู อาจารย์ก็ส่งเสียงออกมาให้ได้ยินก่อนซะงั้น หรือว่าจะมีกล้องวงจรปิดกันนะ ผมมองไปรอบๆ บันไดแคบๆ และก็พบว่ามันว่างเปล่า

ผมเปิดประตู และเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม อาจารย์นาธัสกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา พลางยกชาขึ้นจิบด้วยท่าทีสบายๆ

"นั่งสิ" อาจารย์วางแก้วชาลงและเรียกผมเข้าไปหา

ผมค่อยๆ เดินมาและนั่งลงใกล้ๆ อาจารย์พลางมองไปรอบๆ ห้องทำงานที่อบอวนไปด้วยกลิ่นไม้หอมๆ และหนังสือเก่าๆ

"อาจารย์มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ พอดีตอนบ่ายผมว่าง" ผมรับถ้วยชาจากอาจารย์มาจิบ มันหอมและทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย

"เธอ ช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" อาจารย์ถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ผมวางถ้วยชาลงพลางคิด ว่าผมควรจะปรึกษาอาจารย์ดีไหม

"คือ อาจารย์ได้ยินที่เขาพูดกันไหมครับ เรื่อง..."

"ที่มีคนตายน่ะเหรอ" ผมพยักหน้าและลูบถ้วยชาอย่างเหม่อลอย

"ผมไม่เข้าใจเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปกติคนเราเวลาฆ่าตัวตาย เราจะกลัวความตายไหมครับ ทำไมพี่เขาถึงทำท่าเหมือนไม่อยากตาย ทำไมถึงเลือกวิธีที่โหดร้ายแบบนั้น" ผมพูดด้วยความเศร้าสร้อย "ผมอยู่ตรงนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่นั่งมองความตายตรงหน้า"

"เธอไม่ได้ทำอะไรผิด" ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยชาและมองอาจารย์ที่กำลังจ้องมองผมเช่นกัน

"เธอก็แค่ อยู่ผิดที่ ผิดเวลา" ผมยิ้มให้อาจารย์ อาจารย์ก็พูดเหมือนกับซิน ที่บอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งผมดีใจมาก

"แต่ผมสงสัยอยู่อย่าง ก่อนพี่เขาจะฆ่าตัวตาย พี่เขาพูดอะไรแปลกๆ บอกผมว่า นอกจากพวกวิญญาณแล้ว ยังมีสิ่งที่เหนือกว่า" ผมมองหน้าอาจารย์ที่กำลังเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ

"ที่เขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา อาจารย์คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกันไหมครับ และอะไรกันที่มีอำนาจ และน่ากลัวกว่าผีพวกนั้น" ผมพูดเบาๆ และคิดไม่ตกกับเรื่องนี้

"ไวท์ เธอเชื่อเรื่อง โลกหลังความตายหรือเปล่า" อาจารย์พูดด้วยเสียงแผ่วเบา และผมรู้สึกขนลุกขึ้นทันที

"อาจารย์หมายถึง สวรรค์ และนรกเหรอครับ"

"ใช่ และเธอรู้หรือเปล่าว่า มีอะไรอยู่ในสถานที่แห่งนั้น" ผมส่ายหน้าน้อยๆ

"ยมทูต กับเทวดา พวกนั้นหรือเปล่าครับ" ผมพูดด้วยความไม่แน่ใจ แต่ทำเอาอาจารย์หัวเราะเบาๆ ออกมา

"ถ้าเป็นตามความเชื่อของประเทศนี้ละก็ อาจจะเรียกได้แบบนั้น แต่ความจริงน่ะ ไม่ใช่หรอก" ผมยิ่งขมวดคิ้วไปใหญ่ด้วยความสงสัย

"ไวท์ เธออยากมีทุกสิ่งทุกอย่าง อยากจะได้ทุกสิ่งที่ปรารถนาไหม" อาจารย์ถามผมด้วยใบหน้าจริงจัง

"ทุกคนก็ต้องอยากได้สิ่งเหล่านั้น แน่นอนอยู่แล้วครับ" ผมพูดตอบ

"แล้วถ้าต้องแลก กับวิญญาณของเธอล่ะ" ผมเริ่มมีสีหน้าที่ตกใจกับคำพูดนั้น

"ไม่ครับ" ผมตอบทันทีอย่างไม่ต้องคิด

"หึหึ ดีมาก" อาจารย์ยิ้มและยกชาขึ้นจิบ

"อาจารย์ อยากจะบอกผมว่า ที่พี่เจ้าของคลับต้องตาย เพราะเรื่องนี้ อย่างนั้นเหรอครับ" ผมเริ่มจะกลัวคำตอบนั้นเสียแล้ว

"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกัน" ผมคลายคิ้วที่ขมวดออก นั่นสินะ อาจารย์จะรู้ได้ยังไงกันล่ะ แต่ผมที่มองหน้าอาจารย์นั้นกลับเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอาจารย์รู้หรือไม่รู้กันแน่

"ไม่รู้แหละครับ แต่ผมไม่มีวันยกวิญญาณของผมให้ภูตผีปิศาจหรืออะไรทำนองนั้นแน่ๆ" ผมพูดอย่างหนักแน่น

"บางที ถึงเธอจะไม่คิดยกให้แต่มันก็มีวิธีที่จะได้มันมา" อาจารย์พูดและยิ้มน้อยๆ มองผม

"ได้ยังไงกันครับ" ผมถามด้วยความตกใจ

"แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ" อาจารย์พูดและส่งยิ้มกวนๆ ให้ผม โธ่ แล้วพูดเหมือนรู้ทำไมกันละครับ

"ถ้าผมมีเรื่องสงสัย ผมจะถามอาจารย์ได้ไหมครับ เรื่องพวกนี้ผมไม่กล้าคุยกับใครเลย" ผมพูดอย่างหงอยๆ

"ด้วยความยินดี" ผมยิ้มให้อาจารย์ที่ยิ้มน้อยๆ กลับมาเช่นกัน

"มีอีกเรื่องนึงที่ผมสงสัย" ผมพูดขึ้นทันทีที่นึกได้

"อาจารย์ รู้จักซินได้ยังเหรอครับ ทำไมคราวที่แล้วที่มา ผมรู้สึกเหมือนกับว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน" ผมมองอาจารย์ที่ทำหน้าเคร่งขึ้นทันทีที่ผมพูดถึงซิน

"อย่าไว้ใจหมอนั่น" อาจารย์พูดขึ้นเบาๆ แต่กลับดูเคร่งเครียด

"ทำไมละครับ ซินดีกับผม"

"หมอนั่นดีกับเธอจริงๆ งั้นเหรอ" อาจารย์ถามผม ซึ่งมันทำให้ผมคิดจริงๆ ว่า ซินนั้นทำดีอะไรกับผมบ้างนะ

ซินไม่เคยช่วยผมเวลาที่ผมถูกรังแก ซินชอบหายไปบ่อยๆ โดยไม่บอกผม ซินอยากให้ผมแก้แค้นพวกที่แกล้งผม ซินจูบผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าผม ซินกอดผม และพยายามจะจูบผม...

เอ่อ พอคิดมาถึงช่วงหลังๆ ทำไมมันถึงดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ จริงๆ แล้ว ซินก็ไม่ได้ดีกับผมมากมาย แต่ผมกลับ หยุดคิดถึงซินไม่ได้... ผมคิดถึงซินอีกแล้ว

"ซิน...เป็นเพื่อนคนแรกของผม" ผมพูดและทำหน้าหงอยตามเดิม

"งั้น ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอด้วยดีไหม มีสองน่าจะดีกว่าหนึ่ง" ผมตาโตทันทีที่อาจารย์พูดแบบนั้น

"อาจารย์!" ผมยิ้มกว้าง คว้ามืออาจารย์และจับไว้อย่างรวดเร็ว

"พูดจริงๆ เหรอครับ" ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ

"มีเพื่อนเป็นคนแก่นี่ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ" อาจารย์หัวเราะน้อยๆ อย่างใจดี ผมรู้สึกว่าอาจารย์ยิ้มบ่อยเวลาคุยกับผม ทั้งๆ ที่ภายนอกนั้นดูเคร่งขรึมและเจ้าระเบียบมาก

"ไม่แก่สักหน่อย อาจารย์ดูหนุ่มและหล่อมากๆ ครับ" ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น ฉันกับซินของเธอ ใครหล่อกว่ากัน" หลังจากได้ยินคำถามนั้นแล้ว ผมถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว

"คือ..." ผมไม่กล้าตอบอ่ะ

"ผมหล่อที่สุดละกันครับ" ผมพูดตอบพลางยิ้มกว้าง ทำให้อาจารย์หัวเราะออกมาอย่างจริงจัง

พวกเราหัวเราะและคุยกันอีกหลายเรื่อง ผมว่า วันนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นะ ผมได้เพื่อนเพิ่มอีกคนแล้ว

ผมคงจะไม่ต้อง โดดเดี่ยวอีกแล้วใช่ไหมนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:20:46 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่าเปรียบซินเป็นซาตาน  อาจารย์คงเป็นเทวดาซินะ  :hao4:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 15 ลูกแกะที่หลงรักอสรพิษ


เมื่อเริ่มตกเย็นแล้ว ผมก็ขออนุญาตอาจารย์เพื่อกลับและตรงดิ่งไปที่ไนท์คลับที่ผมเคยทำงานอยู่ ผมนั้นไม่รู้ว่างานศพของพี่โก้อยู่ที่วัดไหน เพราะผมไม่ค่อยสุงสิงหรือรู้จักเพื่อนร่วมงานมากนัก พวกเขาคงจะนัดกันไป แต่ก็ไม่ได้บอกหรือชวนผม

เมื่อผมมาถึงที่ร้าน ผมก็พบว่าที่นี่นั้นปิดอยู่ตามคาด แล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงดีนะ

"พ่อหนุ่ม" ผมหันไปมองตามเสียงเรียกและก็พบว่าคนที่เรียกผมนั้นก็คือคุณป้าที่ทำงานในครัวกับผมนั่นเอง

"สวัสดีครับ ผมกะว่าจะมาถาม ว่าเอ่อ พี่โก้เขาอยู่วัดไหนเหรอครับ" ผมที่เจอคนรู้จักแล้วก็รีบถามทันที

"อ๋อ ป้ากำลังจะไปงานเจ้านายพอดี ไปกับป้าก็ได้" ป้าบอกผมและชวนให้ไปด้วยกัน

"ขอบคุณครับ แต่ผมคงขอตามไปทีหลังดีกว่าครับ" ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ถ้าไปกับผม คุณป้าอาจจะโดนด่าไปด้วยก็ได้

เมื่อถามชื่อวัดและทางไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอตัวคุณป้า และกลับไปที่ห้องก่อน เพื่อไปช่วยคุณยายเก็บร้านไวขึ้น และบอกท่านว่าผมจะกลับดึก และเผื่อว่าซินจะมารอผมที่ห้อง

ผมไม่รู้ว่าทำไม ถึงผมจะสามารถคุยกับอาจารย์นาธัสได้ แต่ใจก็ผมก็ยังคงนึกถึงซินอยู่ ซินนั้นเป็นคนแปลกๆ ที่ดูน่ากลัวหน่อยๆ แต่ผมก็รู้สึกว่าพอมีซินอยู่ใกล้ๆ แล้ว หัวใจของผมมันสงบลง รู้สึกว่าถ้าพวกเราได้พูดคุยกัน เข้าใจกันมากขึ้นอีกสักนิด ก็คงจะดีไม่น้อย

ผมไม่ได้เปลี่ยนชุดและยังคงใส่ชุดนักศึกษาเดินทางไปยังงานศพเพียงลำพัง ผมเลือกที่จะถอดแว่นเก็บใส่กล่องไว้และไปแบบที่มองเห็นทุกอย่างด้วยความเลือนลาง

ใจของผมนั้นกำลังสั่นกลัว ผมไม่ได้กลัวสายตาของทุกคนที่จะจ้องมองผม แต่ผมกลัว ในสิ่งที่ทุกคนมองไม่เห็นมันต่างหาก

ไม่นานนัก ผมก็มายืนอยู่ที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง เป็นที่ที่กำลังมีงานศพที่แสนโศกเศร้า ผมมองบรรดาผู้คนในชุดดำที่กำลังทยอยเดินเข้าไปในงานอย่างช้าๆ ด้วยความสงบ

วันนี้บรรยากาศรอบๆ นั้นช่างเย็นนัก ผมมองต้นไม้ใหญ่ที่กำลังปลิวพริ้วตามแรงลม และความมืดที่กำลังโรยตัวลงมาปกคลุมรอบๆ ตัววัด

ผมค่อยๆ เดินเข้าไปช้าๆ ก้มมองลงที่พื้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว ผมไม่น่าจะต้องมาที่นี่เลย พี่ไม่น่าที่จะต้องตายจากไป มันเรื่องอะไรกันนะ แต่ผมก็กลัวที่จะรู้คำตอบนั้น ผมกลัวสิ่งที่ทำให้พี่ตัดสินใจแบบนั้น

"มันนั่นไง"

"ยังหน้าด้านมาอีก"

"ให้มันมาแหละดีแล้ว"

"ทำหน้าซื่อตาใส"

ผมเงี่ยหูฟังเสียงก่นด่าตลอดทางเดิน และยกมือไหว้ทุกคนที่อยู่ในสายตา ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่ค่อยเห็นก็เถอะ ผมค่อยๆ เดินมาข้างหน้าที่ตั้งโรงศพ และเข้าไปกราบลงที่ตรงด้านหน้านั้น

ผมหรี่ตามองและอธิษฐานขอให้พี่ไปสู่สุขคติ ผมทำได้เพียงเท่านั้น ผมค่อยๆ หันไปรอบๆ บริเวณและก็ต้องถอนหายใจ เพราะทุกสิ่งนั้นยังคงปกติ ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกคุกคามใดๆ พี่คงไปที่ที่ดีแล้วจริงๆ

"ไงล่ะ เห็นผัวฉันไหม"

ผมลุกขึ้นและสวัสดีแฟนของพี่โก้ คนที่ตบผมที่มหา'ลัย เธอกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งซับน้ำตา และจ้องมองผมเหมือนอยากจะฆ่าให้ตาย

"ขออภัยที่มาช้าครับ" ผมพูดและก้มหัวลงต่ำ

"อีกไม่นานคนแบบแกก็คงจะหนีไม่พ้นสิ่งที่แกทำหรอก"

"ขอโทษครับ ที่ทำให้คิดแบบนั้น" ผมกล่าวอย่างสุภาพ และค่อยๆ ถอยออกมาจากตรงนั้น หาที่นั่งที่อยู่หลังๆ และนั่งลงด้วยความหมองเศร้า

ผมนั้นไม่ได้โทษใครที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เหนือความคิด เหนือการควบคุม ไม่มีใครหรอกที่จะเชื่อคำพูดของผม นอกจากพวกเขาจะรู้จะเห็นด้วยตาตัวเอง

ว่ากันว่าต่อให้อยากจะพบเจอมากแค่ไหน แต่ถ้าคนคนนั้นไม่มีสัมผัส หรือไม่มีทางเชื่อมต่อกับโลกทางนั้นได้ ไม่ว่ายังไง คนคนนั้นก็จะไม่มีวันมองเห็นมัน

ผมนั่งเหม่อฟังเสียงดนตรีไทยที่คลอเบาๆ ไปทั่วงาน และมองพระท่านที่ค่อยๆ ทยอยเข้ามาในที่ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อสวดให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

ผมยกมือขึ้นพนมตามมารยาท ความจริงแล้วผมนั้นไม่ได้นับถือศาสนาอะไร ผมเลิกที่จะพึ่งพิงสิ่งเหล่านั้น เพราะผมได้เคยลองมาหมดแล้วทุกอย่าง เพื่อที่จะทำให้ความกลัวของผมนั้นหายไป แต่มันก็ไม่เคยได้ผลเลย ผมจึงไม่ได้นับถือศาสนา แต่เลือกที่จะปฏิบัติตามคำสอนที่ดีเท่านั้น ถ้าไม่ทำตัวเบียดเบียนผู้อื่น และมีจิตใจที่สะอาดคิดดีทำดีอยู่เสมอ นั่นก็เพียงพอแล้ว

"พี่ครับ" ผมสะดุ้งตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงคนเรียกอยู่ใกล้ๆ ทำเอาผมแทบจะลุกพรวดออกจากเก้าอี้เลยทีเดียว

"ค.ครับ" ผมมองเด็กคนหนึ่ง ที่กำลังถือถาดน้ำอยู่ในมือที่ดูไร้เรี่ยวแรง

"รับน้ำไหมครับ" ผมถอนหายใจและพยายามควบคุมอาการสั่นของมือผม

"ไม่ครับ ขอบคุณนะครับ ให้พี่ช่วยไหม" ผมพูดและลุกยืนขึ้น

ตึกๆ

ผมมองขวดน้ำขวดหนึ่งที่ค่อยๆ ไหลลงจากถาดและตกลงพื้น ทำให้เด็กคนนั้นก้มลงมอง แต่ก็คงจะหยิบลำบาก

"เดี๋ยวพี่เก็บให้เอง" ผมพูดและก้มลงเก็บขวดน้ำนั้น

"นี่ครับ..." ผมเงยหน้าขึ้นและยื่นขวดน้ำกลับคืนให้กับ...

ผมยืนอยู่ตรงนั้น มองไปข้างหน้าที่มีแต่ความว่างเปล่า เสียงสวดมนต์และดนตรีไทยเบาๆ ยังคงดังอยู่ แต่ผมที่ค่อยๆ หมุนตัวไปมารอบๆ กลับมีแต่ความว่างเปล่า ผู้คนมากมายได้หายไป มีแต่เพียงเก้าอี้นับร้อย ที่เคยมีคนนั่งอยู่ตรงนั้น

ผมเริ่มสั่นอย่างหวาดกลัว แสงไฟที่ดูสว่างจ้าในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับกระพริบ และดับลงช้าๆ ทีละจุด แต่เหมือนกับเสียงสวดมนต์นั้นกลับดังขึ้นเรื่อยๆ

ผมเริ่มน้ำตาไหล และเดินไปรอบๆ ด้วยความกลัว ทุกคนหายไปไหน นี่ผมกำลังถูกดึงเข้าสู่ความน่ากลัวอีกแล้วใช่ไหม ผมมองไปที่ที่ตั้งโรงศพที่ยังคงอยู่ที่เดิม มองรูปถ่ายของพี่โก้ที่อยู่ในกรอบรูปนั้น ไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้เลย ผมไม่เคยคิดร้ายกับพี่

"ช..ชชช.ช่ช่วย" ผมชะงักค้างทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังแทรกขึ้นมาจากเสียงสวดมนต์ ผมกุมหัวผมไว้และหลับตาแน่น

พรึ่บๆ

ผมรู้สึกว่าตอนนี้แสงไฟในศาลาได้ดับมืดลงแล้ว เพราะผมที่หรี่ตานิดๆ นั้นไม่ได้เห็นแสงไฟจากที่ใด มีเพียงที่โรงศพ ที่ยังคงมีไฟเล็กๆ เป็นสีๆ ติดอยู่ และเสียงทุกอย่างก็ค่อยๆ เงียบลง

"มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมพี่ถึง..." ผมพูดงึมงำและยังคงกุมหัวตัวเองไว้ ด้วยความกลัว

"อย่าได้ ขอ.ให้มันช่วย" ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเบาๆ ลอยมาตามบรรยากาศที่เงียบสงัด

"เป็นท.าสตลอดไป" ผมลืมตาและกวาดตาไปรอบๆ เสียงนี้ไม่ผิดแน่

"พี่ครับ พี่เป็นอะไรไป ทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น" ผมค่อยๆ พูดออกไป นี่เป็นทางเดียวที่ผมจะรู้ได้

ผมมองไปรอบๆ งานศพที่ไร้ผู้คนและมืดสลัว แต่กลับไม่เห็นสิ่งใดในสายตา

"ใครเป็นคนทำพี่" ผมเดินไปรอบๆ และถามออกไป

"ซ...ซา อ้ากกกก" ผมสะดุ้งตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน

"พี่ครับ พี่เป็นอะไร" ผมเดินไปที่หน้าโรงศพอย่างร้อนรน

หมับ!

แต่ผมที่ยืนอยู่นั้นก็รู้สึกถึงแรงบีบที่แขนของผม

"อย่า ปล่อยนะ!!" ผมตกใจล้มลงกับพื้น แต่ก็รู้สึกเหมือนกับความเจ็บปวดนั้นไม่ได้ลดลง แต่มันแปลก เพราะผมไม่ได้เห็นสิ่งใดตรงหน้า แต่ที่แขนกลับมีรอยข่วนสีแดงเป็นแนวยาวปรากฎอยู่

"อย่าาา!!!" ผมกรีดร้องและหลับตาปิดกั้นตัวเองกับสิ่งที่เห็น

"เห็นไหม ว่าเวรกรรมกำลังตามมัน"

"โดนผีที่มันเลี้ยงเล่นงานเอาล่ะสิ"

"บอกแล้วว่ามันบ้า น่ากลัว"

ผมตกใจลนลานตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้น หนีผู้คนที่กำลังมุงผม ไปที่มุมเล็กๆ ที่ผนัง

ทุกอย่างรอบๆ ตัวของผมนั้นกลับมาปกติแล้ว ไฟที่ส่องสว่าง ผู้คนมากมายที่รายล้อมอยู่ และ...

"ซิน" ผมค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินไปหาซินที่ยืนอยู่ตรงหน้า

"ไปไหนมา ทำไมไม่เห็นบอกอะไรผมเลย" ผมร้องไห้ เพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้สึกโล่งอกที่เห็นซินอยู่ตรงหน้า

"ซิน" ผมเกาะเสื้อสูทสีดำของซินไว้ แต่ซินกับจ้องมองผมเงียบๆ สีหน้าเหมือนกับไม่พอใจ

"เลือดออกนะ" ซินพูดและจับแขนผมขึ้นมาดู

ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองเห็นแขนของตัวเองนั้นก็ต้องตกใจอีกรอบ รอยแผลและรอยเล็บนั้นยังคงอยู่ เรื่องเมื่อกี้ มันคือเรื่องจริงสินะ

"กลับกันเถอะ"  ซินพูดและเริ่มดึงผมให้ออกจากงาน

ผมเดินผ่านผู้คนมากมายที่ตะโกนด่าผม และปาสิ่งของใส่ผม ผมไม่รู้ว่าผมทำสิ่งใดให้คนพวกนี้โกรธ ผมในตอนนี้นั้น เจ็บไปทั้งตัวและหัวใจ

ผมนั่งอยู่บนรถของซิน และพิงตัวเอนนอนอย่างหมดเรี่ยวแรง ผมว่า ผมคงใกล้จะเป็นบ้าไปจริงๆ แล้วล่ะ อีกไม่นานนักหรอก

"ยื่นแขนมา" ซินพูดและดึงแขนของผมไป ผมรู้สึกถึงความเปียกและความแสบที่เกิดขึ้น ซินกำลังใส่ยาให้ผม และพันแผลด้วยความเบามือ

"ซินอยู่ที่นั่นได้ยังไง" ผมหันไปมองซินที่ยังคงง่วนอยู่กับแขนของผม

"รู้จักเจ้าของคลับนั้น"

นั่นสินะ ผมลืมไปได้ยังไง เพราะว่าสถานที่แรกที่ผมพบซิน ก็คือที่นั่น

ผมมองมือสีขาวของซินที่กำลังพันแผลให้ผม มือที่เย็นแต่กลับอบอุ่นเสมอเพื่อผมได้สัมผัส แต่ผมที่จ้องมองมือของซินนั้นก็ต้องขมวดคิ้วทันที

รอยสัก เพิ่มขึ้นอีกแล้ว...

ผมมองรอยสักรูปงูสีขาวที่อยู่บนหลังมือข้างหนึ่งของซิน และมองรอยสักรูปไม้กางเขนกลับหัวที่อยู่ข้างๆ คอของซิน ทั้งสองอันมันดู เข้ากันอย่างประหลาด

"แล้ว...วันนี้ไปไหนมาเหรอ" ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย

"ก็อยู่ช่วยงานศพนั่นแหละ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก ไม่รู้จะติดต่อไวท์ยังไง" ซินพูดและเริ่มขับรถออกไป "แล้วไวท์ล่ะ วันนี้เป็นไง ไปไหนมา" ซินถามผมต่อ ผมสังเกตว่าซินที่ถามคำถามนี้ เสียงกลับดูเย็นชาและเยือกเย็นกว่าปกติ

"ก็ไปเรียน แล้วก็..." ผมลืมไปเลยว่า ซินไม่ชอบอาจารย์นาธัส แต่ผมก็ไม่อยากโกหกเลย ผมควรจะบอกซิน

"ไปหามันมาใช่ไหม" ซินพูดเสียงเข้มและใบหน้าเริ่มเย็นชาขึ้นอีกครั้ง

"ซิน เขาเป็นอาจารย์นะ พูดแบบนี้ได้ไง" ผมพูดดุซินที่พูดจาไม่สุภาพ

"เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าอย่าไป ห้ามไปที่นั่น" ซินเริ่มพูดเสียงดังและเหยียบคันเร่งไวขึ้น

"ไม่มีเหตุผลเลย บอกผมสิ ว่าทำไม" ผมถามซินเสียงเครียด

ซินไม่ตอบคำถามผมและยังคงทำสีหน้าไม่พอใจผมอยู่

"ถ้าเป็นแบบนี้ผมขอไม่ทำตามนะ ซินไม่มีเหตุผล" ผมหันหน้าหนีซิน ผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องห้าม ไม่รู้ล่ะ อาจารย์เป็นเพื่อนผม

ผมรู้ว่าซินในตอนนี้โกรธผมมาก ผมดูออกตั้งแต่ที่งานศพแล้วล่ะ แววตาของซินดูเย็นชาและน่ากลัว แต่ซินก็ยังช่วยพาผมออกมาจากที่นั่น

ผมหันกลับไปมองซินที่ยังคงดูเกรี้ยวกราดขับรถเช่นเดิม ผมไม่ชอบแบบนี้เลย ผมไม่อยากให้เราสองคนมีความรู้สึกไม่ดีแบบนี้ต่อกัน

"เอาอย่างนี้ไหม ถ้าคราวหน้าผมจะไปหาอาจารย์ ผมจะพาซินไปด้วยนะ ถ้าซินไม่อยากให้ผมไปคนเดียว ซินก็ต้องอยู่กับผม ห้ามไปไหน" ผมลองยื่นข้อเสนอดู ซึ่งข้อเสนอนี้มันดีกับผมเหลือเกิน

ผมมองดูซินที่ยังคงทำสีหน้าน่ากลัว และไม่ยอมตอบคำถามเหมือนเดิม

"ซิน เกลียดผมแล้วเหรอ เบื่อผมแล้วใช่หรือเปล่า" ผมถามเบาๆ ด้วยความเศร้าใจ และพยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา

ผมนั้นทำใจไว้เสมออยู่แล้ว เมื่อมีพบก็ต้องมีพราก มีแต่คนอยากจะจากผมไป เข้ามาและหายไปจนเป็นเรื่องธรรมดา

"หิวหรือเปล่า ไปหาอะไรกินกันไหม" ซินเริ่มมีสีหน้าอ่อนลงและพูดด้วยเสียงที่เหมือนกับกำลังปลอบโยนผม

ผมจ้องมองใบหน้าด้านข้างของซินและยิ้มออกมาอย่างดีใจ

"อื้อ" ผมตอบรับคำชวนนั้นด้วยหัวใจที่เริ่มมีกำลังใจอีกครั้ง

ผมที่ไม่เคยมีใครเข้ามาในชีวิต ไม่เคยมีใครให้ผูกพัน มันยากมากที่จะพบเจอใครสักคน และรักษาคนคนนั้นให้อยู่ข้างๆ เราไปนานๆ ผมไม่อยากจะต้องพรากจาก ไม่อยากใช้ชีวิตโดยไร้ความหมายอีกแล้ว โดยเฉพาะกับซิน

ผมไม่อยากจะอยู่ห่างคนคนนี้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:21:26 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ซาตานสินะ เคยมีคนพูด ถ้าหากอยากได้ทุกอย่างให้ขายวิญญาณกับซาตาน

เมื่อถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ ซาตาน จะขอรับสิ่งแลกเปลี่ยนไป

ซิน ความหมายของชื่อที่แปลว่า บาป รึป่าว ? รอลุ้น เรื่องน่าสนใจมาก

อยากรู้ไวท์จะเลือกอย่างไร จะขายวิญญาณให้ซาตานหรือจะอยู่แบบเดิม



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เมื่อไหร่จะมีเพื่อนจริง ๆ เข้ามาให้ชีวิตไวท์นะ สงสารจริง ๆ เลย  :impress3:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 16 หนังสือต้องสาป


ซินพาผมมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมแม่น้ำในยามค่ำคืน ผมรู้สึกเขินเล็กน้อย ขณะที่เดินเข้ามาในร้าน เพราะว่าส่วนใหญ่คนที่เข้ามาที่นี่นั้น ล้วนแต่เป็นคู่รัก ผมยังไม่เห็นใครที่เป็นผู้ชายสองคนนั่งด้วยกันเลย

"ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า" ผมนั่งลงที่โต๊ะวิวสวยข้างระเบียงที่มีดอกไม้สวยๆ ตั้งอยู่ และมองออกไปเห็นแม่น้ำสวยที่ฝั่งตรงข้ามประดับประดาด้วยไฟหลากสี

"ไม่ค่อยแล้วล่ะ" ผมพูดและมองดูซินถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เผยให้เห็นเสื้อเชิ๊ตตัวสีดำข้างในอีกที ซินน่าจะชอบ สีดำสินะ

"สั่งอาหารเถอะ" ซินพูดและเรียกบริกรให้เข้ามารับออเดอร์

"วันนี้ซินจะพาผมไปทำงานที่บาร์นั้นอีกไหม" ผมถามด้วยความสงสัย จริงๆ ผมอยากรู้ว่าที่นั่นมันอยู่ที่ไหนกันแน่ ผมจะได้ไม่ต้องรบกวนให้ซินพาไปส่ง

"จริงๆ ไม่ต้องไปทุกวันก็ได้ วันไหนที่ซินอยากให้ไป ซินจะพาไป" ผมขมวดคิ้วน้อยๆ แบบนั้นจะเรียกว่าทำงานได้ยังไง

"บอกที่อยู่มาแล้วผมไปเองก็ได้นะ" ผมพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจ

"ไม่ได้ ซินต้องไปด้วย"

"ทำไมล่ะ ผมไม่เข้าใจเลย" ผมหน้าบูดขึ้นเล็กน้อย แบบนี้ผมก็อดตายกันพอดี

"ต้องการใช้เงินเหรอ"

"ผมอยากได้มือถือ เอาไว้ เผื่อติดต่อซินน่ะ" ผมยิ้มให้ซินที่เลิกคิ้วขึ้น

"เดี๋ยวหาให้ แล้วค่อยมาใช้หนี้ทีหลัง โอเคไหม" ซินเริ่มตักข้าวให้ผม

"ไม่เอาหรอก ผมเกรงใจ ผมจะเก็บเงินจากที่ทำงาน" ผมพูดและแย่งทัพพีตักข้าวให้ซินบ้าง

"อีกนานแค่ไหนล่ะกว่าจะซื้อได้"

"พูดยังไงก็ไม่" ผมยิ้มและมองซินที่เริ่มเขี่ยข้าวไปมาอีกแล้ว อาหารที่ผมสั่งนั้นมีไม่กี่อย่าง แต่ผมแปลกใจมากที่ตอนนี้มันเต็มโต๊ะเหลือเกิน

"ซินไม่ชอบกินข้าวเหรอ" ผมมองซินที่ดูไม่อยากจะกินเท่าไหร่นัก

"ชอบดื่มมากกว่า" ซินพูดและทำท่าจะวางช้อน

"ไม่ได้นะ ผมเห็นซินดื่มเหล้ามากไปแล้ว กินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ" ผมพูดพลางตักกับข้าวให้ซิน

ผมมองซินที่ดูลังเลแต่ก็ยอมกินเข้าไปแต่โดยดี บางทีเวลาซินไม่ดื้อก็น่ารักดีนะ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คือ ซินไม่ได้มีความน่ารักเลยสักนิด พูดว่าหล่อถึงจะถูก

"อร่อยไหม" ผมถามพลางอมยิ้ม

"แปลกๆ" ผมขมวดคิ้วมองซิน แปลกงั้นเหรอ ไข่เจียวทรงเครื่องเนี่ยนะ

"ผมชอบที่นี่นะ บรรยากาศดี" ผมพูดพลางมองไปรอบๆ "เคยพาสาวมาที่นี่งั้นเหรอ เข้าใจเลือกนะ" ผมพูดต่อพลางตักอาหารกินไปด้วย ความจริงผมไม่อยากถามอะไรแบบนี้เลย รู้สึกเหมือนไม่อยากได้ยินคำตอบ

"ไม่ เคยแต่มาคนเดียว"

"เหรอ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ" ผมว่าคนแบบซินคงมีเพื่อนเยอะน่าดู

"เพื่อนไม่ค่อยมีหรอก แต่อย่างอื่นน่ะ เยอะ" ซินพูดพลางยิ้มน้อยๆ อย่างอื่นนั่นหมายถึงอะไรกันนะ

"หมายถึงสาวๆ ใช่ไหม ที่บาร์นั่นก็ตั้งสองคน" ผมพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง

"ดูเหมือนไวท์ไม่พอใจเวลาพูดถึงสองคนนั่นนะ" ซินถามและจ้องมองมา ผมไม่ควรพูดแบบนั้นเลย ผมทำตัวแย่อีกแล้ว

"ป.เปล่า คือ ผมอิจฉาน่ะ ผมไม่เคยมีแฟนหรือใครมาชอบเลย"

"แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นล่ะ" ผมชะงักทันทีที่ซินพูดแบบนั้น หมายถึงเต้ยสินะ

"ผมไม่ได้ชอบเต้ย" ผมพูดด้วยความมั่นใจ

"ไวท์เคยชอบใครหรือเปล่า" ซินถามและดูรอฟังคำตอบอย่างจริงจัง

"คือ..." ผมจ้องเข้าไปในแววตาของคนตรงหน้า จริงๆ ผมก็คิดว่าผมเริ่มที่จะรู้ แต่ไม่อยากพูดออกไปมากกว่า

"ไวท์ยังไม่เคยมีเซ็กส์ใช่ไหม" ผมสำลักน้ำทันทีที่ซินพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ผมหน้าขึ้นสีเล็กน้อย ถึงแม้ซินจะเป็นผู้ชาย แต่ผมก็รู้สึกแปลกๆ ถ้าจะต้องพูดเรื่องแบบนี้

"แค่จะเข้าไปคุยยังยากเลย" ผมพูดพลางก้มหน้าจ้องผักกาดตรงหน้า

"กับพวกผู้หญิงน่ะเหรอ"

"กับทุกคนนั่นแหละ" ผมพูดพลางถอนหายใจเบาๆ "ผมก็เป็นมนุษย์คนนึง มีความรู้สึก มีความต้องการ ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์หรอกนะ แต่ผมก็คิดว่า ผมจะไม่ทำเป็นเล่นๆ กับใครหรอก ผมจริงจัง ต้องไม่ทำให้ใครเสียหาย" ผมอยากจะเปลี่ยนเรื่องคุยเหลือเกินตอนนี้

"หึ ตลกดีนะ" ผมมองซินที่กำลังหัวเราะเบาๆ

"ตลกยังไงกัน"

"ไวท์น่ะเหรอจะไปทำใครเสียหาย บางที ตัวไวท์เองนั่นแหละ ที่จะเสีย" ซินเท้าคางจ้องมองผมด้วยแววตาแปลกๆ ทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว

"ซิน คนบ้า" ผมพูดเบาๆ ผมไม่เคยพูดแบบนี้กับใครเลยนอกจากซิน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า กับซินนั้น พิเศษยิ่งกว่าใคร

ผมมองซินที่กำลังค่อยๆ กินอาหารที่ผมตักให้ ผมยิ้มน้อยๆ และจ้องมองซินไม่วางตา เหมือนเด็กๆ หัดกินข้าวยังไงยังงั้น แปลกดีแฮะ

แต่สายตาของผมนั้นก็เหลือบไปเห็นรอยสักบนมือของซิน รอยสักรูปงูสีขาว บนมือที่ขาวซีด

"รอยสักนั่น..." ผมพูดและจ้องมองมันอย่างตั้งใจ

แต่ซินที่ได้ยินแบบนั้นกลับชะงักนิ่ง และจ้องมองผมแบบแปลกๆ ทันที

"มองเห็นมันด้วยเหรอ" ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ก็ต้องเห็นสิ แต่ตอนแรกซินไม่มีนี่นา ไปสักมาเพิ่มเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย เอาจริงๆ ที่คอนั่น ตอนแรกก็ไม่มีเหมือนกัน

แต่แทนที่จะตอบคำถาม ซินกลับยื่นมือมาหาผมและจับมือผมเอาไว้แน่น แน่นจนผมยังแปลกใจ

"ไวท์เป็นคนพิเศษ" ผมชะงักทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ซ.ซิน พูดว่าอะไรนะ" ผมหัวใจเต้นรัว ที่พูดนั่นน่ะ เรื่องจริงงั้นเหรอ ในความหมายแบบไหนกัน

"ไม่เคยเจอใครเหมือนไวท์เลย ซินชอบไวท์มาก ชอบมากจน..." ผมมองซินที่ยิ้ม พลางกำมือผมแน่นขึ้นอีก จนผมเริ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

"ขอบคุณนะ ผมดีใจมากเลย" ผมพูดพลางยิ้มให้ซิน และค่อยๆ แกะมือซินออกจากมือผม เพราะกลัวมือผมจะแหลกซะก่อน ผมจ้องมองซิน ผมอยากจะบอกซินเหลือเกินว่า ผมก็ชอบซินเหมือนกัน แต่ความหมายของคำว่าชอบของเราสองคนนั้น มันอาจจะไม่เหมือนกัน

หลังจากนั้นไม่นานผมก็กลับมาที่ห้อง ผมต้องใช้ความพยายามอยู่นานเพื่อไล่ซินที่พยายามจะเข้ามาในห้องผมกลับไป จริงๆ แล้วผมก็อยากให้ซินอยู่กับผมนะ แต่ก็คิดอีกทีว่า ผมไม่อยากให้ซินอึดอัดกับที่นี่เลย ห้องผมมันเล็กนิดเดียว

ผมคิดถึงคำที่ซินบอกผม ผมเป็นคนพิเศษจริงๆ เหรอ พิเศษแบบไหนกัน ผมว่าผมเป็นพวกประหลาดๆ ที่ดูน่าเบื่อ และน่ากลัวจริงๆ นั่นแหละ เหมือนคนบ้าจริงๆ เลยแฮะ ผมจะทำยังไงดี

ผมที่เข้าไปอาบน้ำและออกมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนฝูก ผมนอนไม่หลับเลย อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตผมมันทำให้ผมต้องตื่นตัวอยู่เสมอ เฮ้อ อยากมีชีวิตสงบๆ บ้างจะได้ไหมนะ

แต่ผมที่กำลังกลิ้งไปมานั้นก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋าสะพายของผม

ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง และเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา ผมมองหนังสือปกสีดำเข้มในมือ พลางลูบมันไปมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ดังอยู่ในความเงียบสงัด รู้สึกเหมือนขนในตัวผมกำลังลุกชัน

ผมกลืนน้ำลายและค่อยๆ เปิดมันออกช้าๆ ด้วยความสงสัย ไล่มือไปตามตัวอักษรประหลาดๆ ที่เขียนอยู่ในหน้ากระดาษสีเหลืองที่ดูเก่าแก่ ผมค่อยๆ เปิดมันออกทีละหน้า ทีละหน้า ทีละหน้า ทีละหน้า ด้วยแววตาสีดำ

ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นสีแดงอย่างไม่รู้ตัว...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:24:29 โดย Gloomy Sunday »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสัยจะอ่านหนังสือมากไปหน่อย ตาคงจะล้า  คิดในแง่ที่ดีนะ  :hao4:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 17 สัญลักษณ์แห่งความมืด


"ไวท์"

ผมสะดุ้งตื่นขึ้น แสงแดดในยามเช้าส่องกระทบดวงตาของผม ทำให้ผมต้องหรี่ตามองไปรอบๆ อย่างงัวเงีย

ผมลุกขึ้นและมองหาเจ้าของเสียงที่ร้องเรียกผมอยู่ แต่ก็น่าแปลก เพราะว่ารอบๆ ตัวผมนั้นกลับว่างเปล่า

ผมค่อยๆ ลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวล้างหน้าอาบน้ำ และลงไปช่วยคุณยายเปิดร้านเหมือนทุกวัน ผมยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้า และเปิดน้ำ วักน้ำขึ้นมาล้างหน้า มองไปในกระจกที่...

ผมที่มองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองนั้นก็ต้องถอยหลัง ไปชนกับผนังด้านหลังอย่างแรง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ และก็พบว่าใบหน้าของผมนั้น มีแต่เลือดสีแดงติดกรังอยู่

ผมมือสั่น และรีบลุกขึ้น วิ่งไปยังด้านล่างของห้อง วิ่งไปหาคุณยายที่ตอนนี้น่าจะตื่นแล้ว ตัวผมนั้นไม่มีบาดแผลอะไร นอกจากรอยข่วนที่ผมโดนเมื่อคืนจากงานศพ แต่เลือดที่ติดอยู่ตามตัวผมตอนนี้นั้น มันเหมือนกับว่า ถ้าใครเป็นเจ้าของเลือดนี่ คนนั้นอาจจะต้องตายก็ได้ และผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ใครล่ะ จะเป็นใครกัน ใครที่อยู่ใกล้ๆ ผม

ผมเดินเข้าไปและเลื่อนประตูเหล็กหน้าร้านขึ้น ภายในร้านเงียบสงัด ตอนนี้นั้นเช้าตรู่แล้ว คุณยายที่น่าจะตื่นแล้ว หายไปไหน ผมเริ่มตัวสั่นน้อยๆ และน้ำตาไหลออกมา ไม่นะ จะเป็นแบบนี้ไม่ได้

"ไวท์ลูก ไปโดนอะไรมา" ผมหันไปตามเสียงเรียก และก็พบว่าคุณยายกำลังเดินมาหาผมด้วยใบหน้าตื่นตกใจ

ผมคุกเข่าลงกับพื้น โล่งใจจนเผลอร้องไห้ออกมาอีกยกใหญ่ ผมกลัวมาก เลือดนี่มันมาจากไหนกัน ผมไม่เข้าใจเลย

ผมเดินทางไปมหา'ลัยด้วยความรู้สึกสับสน เมื่อก่อนนั้นผมได้พบเจอกับพวกวิญญาณ พวกนั้นชอบที่จะหลอกให้ผมกลัว แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะทำให้ผมเจ็บตัว แต่รู้สึกหลังๆ มานี้ มันเหมือนกับไม่ใช่ เรื่องน่ากลัวมากมายเกิดขึ้นและมันน่ากลัวกว่าพวกวิญญาณที่ไร้ตัวตน พวกมันทำให้ผมเจ็บได้ และรู้สึกเหมือนผมไม่อาจต้านทานได้เลย

ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์นาธัส สิ่งที่เหนือกว่า วิญญาณ งั้นเหรอ ผมกำลังเผชิญกับสิ่งที่พี่โก้เคยเผชิญสินะ ถ้าไม่ใช่ความเชื่อเรื่องยมทูตแล้วละก็ ถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะมีอย่างไหนอีกกันนะ

ผมมองดูนาฬิกาข้อมือเรือนเก่าของผมและพบว่าผมยังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย ผมเปลี่ยนทิศทางจากตึกเรียน เลี้ยวไปยังห้องสมุดเก่าที่ผมชอบไป ผมอยากหาข้อมูลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมจะต้องป้องกันตัวเองจากสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ให้ได้ มันจะต้องมีสักทาง

"ไวท์" ผมเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ใต้ต้นไม้ แต่ก็ถูกเรียกเอาไว้ซะก่อน และเมื่อพอผมหันไปมองตามเสียงเรียกนั้นผมก็ต้องยิ้มกว้างอย่างดีใจจริงๆ

"เจ" ผมยิ้มให้เจอย่างอ่อนโยน นานแค่ไหนแล้วที่นายทิ้งผมไป แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่เคยโกรธใครอยู่แล้ว

ผมมองเจที่ยิ้มแบบหงอยๆ มองผม แบบนี้จะดีเหรอ ถ้าเพื่อนเจอยู่แถวนี้ เจอาจจะโดนดุอีกได้

"ไม่เป็นไรหรอกนะ แค่ทักผมก็ดีใจแล้ว" ผมถอยหลังออกห่างเจที่เดินเข้ามาและแต่เจก็เร่งฝีเท้าเข้ามาเกาะแขนผมเอาไว้

"ไม่เป็นไรหรอกไวท์ ผมอยากคุยด้วย" เจพูดและดึงมือผมให้ออกห่างจากตึกห้องสมุดนั้น

ผมเดินตามเจที่ตัวเล็กกว่าผมมาก ผมมีความสุขจัง ถึงเช้านี้จะมีเรื่องร้ายๆ แต่แบบนี้ก็ถือว่าหายกันไป เพื่อนเก่าของผมอุตส่าห์มาคุยกับผม นี่แหละดีสุดๆ ไปเลย

ผมเดินตามเจมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในมหา'ลัย ที่นี่ดูเงียบสงบและจัดแต่งอย่างสวยงาม ถึงเจ้าของร้านจะมองผมแบบแปลกๆ บ้าง แต่เขาก็ยิ้มแย้มอย่างใจดี และแถมขนมฟรีให้เรา ที่นี่ผมนั้นจะจำเอาไว้ ดูเป็นที่ที่ดีจริงๆ

พวกเราเลือกที่นั่งที่โต๊ะในสุด ลึกสุดและมองไม่เห็นจากด้านนอก ผมมองดูเจที่หน้าซีดๆ และมองไปมองมารอบๆ ตัวอย่างหวาดระแวง

"เจมีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอ" ผมถามเจเบาๆ ทันทีที่เจก้มลงมองมือตัวเอง

"เจขอโทษเรื่องที่ผ่านมานะ เจไม่อยากทำแบบนั้นเลย แต่ว่า ไม่มีทางเลือก" เจพูดเบาๆ และเงยหน้ามองผม

"อย่าคิดแบบนั้นเลย ผมไม่เป็นไร ตอนนี้ผมก็มีเพื่อนแล้วด้วย เจก็น่าจะเคยเห็น" ผมพูดพลางยิ้มน้อยๆ

"คนตัวสูงๆ หน้าตาดีๆ คนนั้นน่ะเหรอ" เจถามผมเบาๆ

"ใช่ เขาชื่อซิน" ผมอดภูมิใจไม่ได้ที่ผมได้เพื่อนแบบซิน ที่ทั้งเด่นทั้งหล่อ แต่ เอ่อ ผมไม่ได้ชอบซินเพราะซินหล่อสักหน่อย

"เจ...มีเรื่องอยากถาม เพราะว่า ไวท์ มองเห็นพวก ผี ใช่ไหม" ผมหุบยิ้มทันทีที่เจพูดแบบนั้นออกมาด้วยเสียงที่สั่นกลัว

"เจก็เห็นงั้นเหรอ" ผมรีบถามเจด้วยหัวใจที่เต้นรัว เจกำลังลำบากสินะ

"ก็ ไม่เชิง เจกลัว คือเพื่อนของเจ ชวนเจ ให้เข้าลัทธิแปลกๆ" เจพูดและมองไปรอบๆ อย่างหวาดผวา

"ลัทธิอะไรงั้นเหรอ" ผมถามเบาๆ ด้วยความสงสัย นี่จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

"ไวท์ เคยได้ยินไหม เรื่องเกี่ยวกับ ซ.ซานตาน" ซาตาน งั้นเหรอ... คล้ายๆ ยมฑูตหรือเปล่านะ

"ไวท์เคยได้ยิน แต่ไม่รู้รายละเอียดเลย เจช่วยเล่าให้ฟังได้ไหม" ผมถามและมองเจที่พยักหน้าตอบช้าๆ

"เพื่อนเจบอกว่า พวกมันไม่ใช่วิญญาณคนตาย แต่เกิดจากความชั่วร้ายที่ก่อตัวขึ้น แต่ก็มีอีกจำพวกหนึ่งที่แตกต่างออกไป พวกนี้จะเข้มแข็งกว่า และมีอำนาจมากกว่าเพราะถูกเนรเทศลงมาจากสวรรค์และลงมาด้านล่าง พวกมันมีตัวตนอยู่เพื่อล่อลวงมนุษย์ ดึงผู้คนเข้าสู่ด้านมืดของจิตใจ พวกวิชาอาคมต่างๆ ก็อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากพวกมัน หากเราร้องขอ และตั้งมันให้เป็นใหญ่ในชีวิต พวกเราก็จะต้องแลกบางสิ่ง หรือสูญเสียทุกๆ อย่างหลังจากที่ได้สิ่งที่ปรารถนา"

ผมที่ได้ฟังดังนั้นก็ชะงักทันที ล่อลวง มอบสิ่งที่ปรารถนา แลกกับบางสิ่ง

"แลกกับวิญญาณงั้นเหรอ" ผมพูดออกมาเบาๆ และเจก็พยักหน้าตอบ นี่มันเหมือนกับที่อาจารย์นาธัสเคยพูด เหนือกว่าวิญญาณงั้นเหรอ มีพลังอำนาจ เรื่องนี้พี่โก้เคยบอกผมก่อนที่จะตาย ทั้งหมดนี่ หมายถึงซาตานงั้นสินะ

"เจเคยเจอพวกมันงั้นเหรอ" ผมคว้ามือเจมาจับไว้และถามอย่างตั้งใจ

"เจไม่รู้ แต่ว่า เผลอลองเข้าร่วมพิธีพร้อมเพื่อนๆ เจ อยากยกเลิก ไม่อยากยุ่งกับพวกมันแล้ว เจจะทำยังไงดี"

"พิธีนั่น ทำยังไงงั้นเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย

"ตอนแรกเจก็ไม่เชื่อ เจเข้าไปในห้องสีแดง เพื่อนๆ กำลังสวดมนต์อะไรสักอย่าง มีสัญลักษณ์แปลกๆ ที่พื้น ที่ผนัง อยู่ทั่วไปหมด"

"สัญญลักษณ์เหรอ" ผมถามพลางมองเจด้วยความเป็นห่วง

เจไม่ได้พูดอะไร แต่กลับค่อยๆ เลิกเสื้อขึ้นช้าๆ เพื่อให้ผมได้มองเห็น ร่องรอยที่เหมือนกับถูกปลายมีดแหลมกรีดลงไปมาจนเกิดรอย สัญญลักษณ์นั้นที่...

ผมเบิกตากว้างด้วยความหวาดหวั่น ผมมองดูสัญญลักษณ์รูปดาวที่มีดวงตาอยู่ด้านใน สัญญลักษณ์ที่ถูกวาดอย่างลวกๆ ทำให้มองออกได้ยาก แต่ผมกลับจำมันได้ขึ้นใจ มันคือสัญญลักษณ์ที่ปรากฎอยู่บนประตูของผม และแขนของผมในคืนที่น่ากลัวนั่น

นี่มันเป็นไปได้ยังไงกันนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:25:08 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีสัญลักษณ์กันแล้วทั้งคู่ แล้วทั้งคู่จะรอดปลอดภัยไหมเนี่ย  :ling3:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 18 บาดแผลที่ถูกซ่อนไว้


ผมออกมาจากร้านกาแฟนั้น เพราะว่าเพื่อนของเจบังเอิญเข้ามาพอดี ผมบอกเจว่าพวกเราจะคุยกันอีก และแยกย้ายจากกัน ผมมองเจที่ดูหวาดระแวง แต่ก็ยังคงไปกับเพื่อนที่มองผมเหมือนไม่ชอบใจผม

นี่มันเรื่องอะไรกันนะ สัญลักษณ์นั่นที่ผมเห็นบนตัวเจ มันเหมือนสัญลักษณ์ที่ผมเคยมี แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมไม่เคยเข้าร่วมพิธีบ้าๆ นั่น และไม่เคยคิดจะขายวิญญาณให้ใคร ทำไมมันถึงมาทำแบบนี้บนตัวผมได้

ผมยื่นแขนออกมาและพลิกดูตรงที่ที่เคยมีรอยสัญลักษณ์นั้นอยู่ แต่บัดนี้ได้หายไปแล้ว แปลว่ามันมีทางทำให้หายไปสินะ ผมจะต้องช่วยเจ ไม่อย่างนั้นเจจะต้องตายแบบพี่โก้แน่ๆ

"ไวท์"

ผมสะดุ้งน้อยๆ และมองตามเสียงเรียกนั้น

"ซิน" ผมยิ้มกว้างทันทีที่มองเห็นว่าใครเรียกผมอยู่ ผมรู้สึกดีมากที่วันนี้ซินก็อยู่กับผม นึกว่าจะหายไปไหนซะแล้ว

ผมรีบเดินไปหาซินที่ยืนอยู่ไกลๆ แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ผมก็ยิ่งเห็นชัดว่าซินดูแปลกๆ เหมือนกำลังอ่อนแรง และหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

"ซิน เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ" ผมรีบเข้าไปจับแขนซินที่ร้อนดั่งไฟ

"ทำไมถึงหน้าซีดแบบนี้ล่ะ" ผมเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่แก้มของซิน แต่ซินก็จับมือผมเอาไว้

"ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ"

"วันนี้ลาเถอะ ซินไม่ไหวหรอก" ผมพูดและดึงยื้อแขนซินไว้

"เมื่อคืน ปกติดีไหม" ซินพูดถามผมเบาๆ

"เมื่อคืน ทำไมเหรอ" ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่ซินถาม แต่ผมก็นึกขึ้นได้

"คือ ตอนเช้า ผมตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเลือดเต็มไปหมด" ผมจับมือซินและเล่าให้ฟังอย่างร้อนรน

"แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ซินถามและจ้องมองผม

"ผมไม่เป็นไร"

"ขอซินไปห้องไวท์ได้ไหม ซินอยากนอนที่นั่น" ซินพูดเหมือนคนกำลังจะหมดแรง ผมสังเกตว่าซินเหมือนกำลังบาดเจ็บตรงไหนสักที่ แต่ไม่ยอมบอกผม

"ห้องไวท์มันแคบ ไปห้องซินดีกว่าไหม"

"ห้องไวท์นั่นแหละ เถอะนะ" ซินทำแววตาขอร้องผม ซึ่งจะให้ปฏิเสธก็คงไม่ได้

ไม่นานผมก็พาซินนั่งแท็กซี่กลับมาที่ห้องของผม และทันทีที่มาถึง ซินก็ลงจากรถด้วยความรวดเร็ว และเดินขึ้นไปยังห้องนอนของผมโดยที่ไม่รอผมเลย

ผมจ่ายเงินให้แท็กซี่และรีบวิ่งตามซินขึ้นไปด้านบน ซินจะรีบร้อนไปไหนกันนะ ร่างกายก็ดูไม่ค่อยปกติดีซะด้วย

"ซิน เป็นอะไร..." แต่ผมที่เดินขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ผมมองซินที่กำลังยืนมองดูกองไฟเล็กๆ ที่กำลังลุกไหม้

"ไฟไหม้นี่ ซิน ออกมาก่อน!" ผมรีบวิ่งเข้าไปดึงซินที่ยืนนิ่งให้ถอยออกมา และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อตักน้ำออกมาเพื่อจะดับไฟ แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่ากองไฟนั้นได้มอดดับไปแล้ว

ผมมองดูสิ่งที่ถูกไฟเผาใกล้ๆ และก็ต้องพบว่า มันคือหนังสือปกสีดำแปลกๆ เล่มนั้นนั่นเอง

"ซินเป็นอะไรหรือเปล่า" ผมมองดูซินที่ยังคงจ้องมองหนังสือนั่นเขม็ง

"เอามันไปทิ้งซะ" ซินพูดและนอนลงบนฟูกของผม

"อย่าเพิ่งนอนสิ ผมขอปัดที่นอนก่อน" ผมนั่งลงข้างๆ และเก็บของที่เกะกะ เก็บซากหนังสือใส่ถุงขยะ

"ไม่เป็นไร แบบนี้สบายดี" ผมมองดูซินที่นอนนิ่งๆ หัวและปลายเท้าแทบจะชนผนังห้อง แบบนี้จะสบายจริงๆ เหรอ

"จะบอกผมได้หรือยังว่าโดนอะไรมา" ผมนั่งลงข้างๆ ซินและพยายามสังเกตร่างกายที่ซินซ่อนเอาไว้

"ถ้ารู้แล้วจะทำอะไรล่ะ" ซินนอนตะแคงและจ้องมองผม

"ผมเป็นห่วง" ผมพูดเบาๆ และทำหน้าจริงจัง

ผมมองดูซินที่ทำคิ้วขมวดมุ่น และทำหน้าเหมือนกำลังสับสนอะไรสักอย่าง ผมค่อยๆ นอนลงช้าๆ ข้างๆ ซิน ผมไม่รู้ว่าซินคิดอะไร แต่ผมรู้แค่ว่า ผมอยากอยู่ใกล้ๆ

ผมนอนจ้องมองซิน และเริ่มที่จะรู้สึกง่วงแทน ผมบังคับดวงตาให้เปิด แต่มันก็ไม่อาจต้านทานได้เลย

"จะไม่มีใครแย่งไวท์ไปได้"

"คนที่จะฆ่านายได้ มีแค่ฉันเท่านั้น"

"ไวท์ พร้อมจะตายหรือยัง"

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ในความมืด นี่ผมนอนไปนานแค่ไหนกันนะ แต่ความรู้สึกนี้มัน อบอุ่น...

แต่ผมที่กำลังงัวเงียนั้นก็ตื่นเต็มตาทันทีที่รู้ว่าผมกำลังนอนอยู่ท่าไหน ผมมองแขนของซินที่กอดรัดผมอยู่ และไม่ว่าผมจะดิ้นแค่ไหน ก็รู้สึกว่ามันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี

ผมเงยหน้ามองซิน ที่ยังคงนอนนิ่งและหายใจสม่ำเสมอ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นซินกำลังนอนหลับอยู่จริงๆ ผมยิ้มน้อยๆ และตัดสินใจอยู่นิ่งๆ แบบนี้ต่อไป นี่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นผมคงสู้ขาดใจเลยทีเดียว แต่แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วสินะ ว่าผมน่ะชอบซิน ในความหมายแบบนั้นจริงๆ

"ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ" ผมที่ไม่รู้เลยว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับซินก็สะดุ้งสุดตัว และผละออกจากอ้อมแขนซินอย่างง่ายดายด้วยความตกใจ แต่ผมที่หันไปมองซินก็พบว่าซินยังคงไม่ตื่น และหลับสนิทตามเดิม

"หลับสนิทในรอบร้อยปี" เสียงผู้ชายคนนั้นยังคงดังในความมืด

"พี่ไวลี่?"

"ช่าย ฉันเอง ขอโทษที่แอบเข้ามา หึหึ"

"ผมเปิดไฟให้ดีไหมครับ" ผมถามเพราะรู้สึกเกรงใจ แต่ก็กลัวแสงจะแยงตาซิน

"ไม่เป็นไร พวกเราชินกับความมืดอยู่แล้ว" ผมขมวดคิ้วงงๆ ความมืด งั้นเหรอ

"พี่รู้หรือเปล่าครับ ว่าทำไมซินถึงเป็นแบบนี้" ผมได้ทีก็ถามสิ่งที่สงสัยออกไป

"เราน่ะ ชอบซินงั้นเหรอ" ผมที่ถามคำถามออกไป กลับถูกถามกลับด้วยคำถามที่ผมไม่คาดคิดซะงั้น

"คือ...เอ่อ" ผมอ้ำอึ้ง ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง

"ฮ่ะๆ เป็นคนที่แปลกดีจริงๆ" พี่ไวลี่หัวเราะต่อไป จนทำให้ผมรู้สึกอายมากๆ

"เพราะชอบผู้ชายใช่ไหมครับ ถึงแปลก" ผมรู้ว่าผมเป็นผู้ชาย การจะชอบผู้ชายด้วยกัน ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อน มันแปลกมากๆ สำหรับผมเช่นกัน

"ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่อยากจะแนะนำไว้อย่าง อย่าคิดชอบไปมากกว่านี้เลย เธอจะต้องเจ็บปวดแสนสาหัส" อยู่ดีๆ พี่เขาก็หยุดหัวเราะและทำเสียงจริงจัง หัวใจของผมถึงกับเต้นผิดจังหวะ

"ทำไมเหรอครับ เพราะอะไรกัน" ผมรู้สึกเศร้าหมอง หรือเพราะว่าผมเป็นผู้ชาย ทำไมการจะรักใครสักคน ถึงต้องเจ็บปวดขนาดนั้น

"ซินน่ะ ถูกสาป จากคนด้านบน..."

"หุบปากซะ" ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงซินแทรกขึ้นมา

ซินลุกขึ้นนั่ง และจ้องมองพี่ไวลี่เขม็งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่พี่ไวลี่กลับหัวเราะลั่นซะงั้น

"อ้าว ตื่นซะแล้ว โธ่ ไม่พูดหรอกน่า ฮ่าๆ" ผมรู้สึกเสียดายเล็กๆ ที่ไม่ทันได้ฟังเรื่องของซิน แต่ว่าถูกสาปงั้นเหรอ พี่ไวลี่กำลังล้อผมเล่นใช่ไหม

"อย่าไปสนใจเลย พูดแต่เรื่องไร้สาระ"

"ผมอยากรู้เรื่องของซิน" ผมพูดเบาๆ และยิ้มให้ซิน

"ทำไม" ซินจ้องมองผมและถามด้วยสีหน้าเรียบๆ

"ก็ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับซินเลยนี่นา"

"ไม่จำเป็นหรอก" ซินพูดและลุกขึ้นยืน

"โอนเนอร์อยากเจอซิน" พี่ไวลี่พูดขึ้นและผมก็หูผึ่งทันที

"โอนเนอร์เหรอครับ พาผมไปด้วยนะ" ผมรีบลุกขึ้นและไปเกาะแขนพี่ไวลี่

"ไวท์ด้วยนั่นแหละ" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจทันที

"วันนี้ให้ผมเริ่มทำงานเลยนะ ผมอยากทำ" ผมย้ายไปเกาะซินที่กำลังจ้องมองผม

"ก็ได้ ไปกันเถอะ"

"แต่ผมยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย" ผมมองชุดนักศึกษายับๆ ของผม ไปแบบนี้จะโดนบ่นไหมนะ

"ไม่เป็นไร มาเถอะ" พี่ไวลี่พูดและเดินนำพวกเราออกไป

ผมเดินตามซินและจ้องมองมือสีขาวของซินที่กุมมือผมเอาไว้ ตอนนี้ซินก็ยังคงไม่รู้สินะ ว่าผมคิดยังไง แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ผมไม่ต้องการอะไรมาก

ขอแค่ยังมีมือคู่นี้เกาะกุมมือของผมเอาไว้ก็พอแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:25:47 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ส....

อะไรน้า....

สมาคม,  สมาพันธ์,  สมาชิก  หรือ  สวรรค์?

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ซิน เป็นใครนะ อยากรู้ๆ  :katai1:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 19 รังของซาตาน


ผมนั่งอยู่ในรถเพื่อเดินทางไปที่บาร์ที่ผมเคยไปกับซินครั้งก่อน ผมเหลือบมองซินที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ซินนั้นตอนนี้ใบหน้าขาวซีดยิ่งกว่าเดิม ผมเป็นห่วงซินมาก ผมอยากรู้ว่าซินเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงไม่บอกอะไรผมบ้างเลย

ไม่นานพวกเราก็มาถึงบาร์แปลกๆ ในซอยเปลี่ยวใกล้ท่าน้ำ ผมเดินเข้าไปตามทางเดินมุ่งสู่โถงตรงกลางที่โอนเนอร์ยืนอยู่ ทุกอย่างนั้นยังคงเหมือนเดิม ผู้คนที่อยู่ที่นี่ ดูลึกลับ และจ้องมองผมไม่วางตา แต่จริงๆ ผมอาจชินแล้วก็ได้กับสายตาแบบนี้ เพราะที่มหา'ลัย ทุกคนก็ชอบจ้องมองผมแบบนี้เช่นกัน

"ไวท์" โอนเนอร์เรียกผมทันทีที่เห็นผม

"สวัสดีครั..." แต่ผมที่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกดึงตัวเข้าไป มือของโอนเนอร์แตะลงที่หน้าผากของผม

ผมลืมตาจ้องมองโอนเนอร์และเหลือบมองซินและพี่ไวลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ

"คำสาปครอบงำโดยสมบูรณ์ มีแค่คนคนนั้นที่ทำได้ขนาดนี้" ผมขมวดคิ้วงงๆ มองโอนเนอร์ที่กำลังพูดอะไรแปลกๆ

"ดื่มนี่ซะ" โอนเนอร์ปล่อยตัวผมและยื่นของเหลวสีแดงแก้วหนึ่งให้

"คือ เรื่องอะไรเหรอครับ ผมดื่มไม่เป็นนะ" ผมพูดและมองของเหลวสีแดงอย่างหวาดระแวง

"ดื่มซะ" ผมมองซินที่หยิบแก้วใบนั้นจากมือโอนเนอร์และยื่นให้ผม ถ้าซินบอกแบบนั้น ผมว่าก็คิดว่าคงจะไม่เป็นไร

ผมเอื้อมมือออกไปจับแก้วนั้นไว้ และยกดื่มขึ้นรวดเดียวด้วยใบหน้าเหย๋เก แต่เอ๊ะ ผมคิดว่ามันจะเป็นเหล้าแรงๆ อะไรแบบนั้นซะอีก แต่รสชาติกลับหวานและอร่อยมาก ผมรู้สึกสดชื่อขึ้นอย่างบอกไม่ถูก และนี่มันเรื่องอะไรกัน ผมมองไปรอบๆ ร้านและรู้สึกว่าสายตาที่พร่าเลือนของผมมันแจ่มชัดขึ้นเอง

"มันจะช่วยเธอหลายๆ อย่าง ยิ่งเป็นเธอ ยิ่งช่วยได้มาก" โอนเนอร์ยิ้มให้ผมอย่างใจดี

"ไวท์ ขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนก่อนเถอะ" ผมมองพี่ไวลี่ที่อยู่ๆ ก็ดันหลังผมให้เดินไปหลังร้าน แต่ผมอยากอยู่กับซินนี่นา ผมเดินไปตามแรงดันและเหลียวไปมองซินที่ยังคงจ้องมองผมอยู่

"ซินเป็นอะไรเหรอครับ" ผมถามพี่ไวลี่เสียงเบา

"เหอะ ไม่รู้ตัวจริงๆ สินะ เล่นเอาซินแทบตาย" ผมหยุดเดินทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ซิน...จะตาย เพราะผมงั้นเหรอ

"ไม่มีอะไรต้องคิดแล้ว นิ่งไว้แล้วจะดีเอง โอนเนอร์จะช่วยซินให้ดีขึ้น" ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ยังคงสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

"ทำไม ทุกคนถึงเลี่ยงที่จะบอกผมตรงๆ" ผมที่มาถึงที่นั่งด้านบนแล้วก็เริ่มถามคำถามอีก ผมมองดูพี่ไวลี่ที่ตัวโต และดูเป็นผู้ใหญ่ หน้าตายิ้มแย้มทั้งๆ ที่ภายนอกน่าเกรงขาม

"ไม่รู้สึกตัวจริงๆ เหรอ ว่าตั้งแต่ที่เธอเจอซิน อะไรๆ ก็ดูจะเปลี่ยนไป"

ตั้งแต่พบซิน ผมก็เจอแต่เรื่องราวแปลกประหลาดที่ผมไม่เข้าใจ เหตุการณ์น่ากลัวเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเช่นกัน การที่ผมพบซินนั้น ทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

"ครับ แต่มันก็ดีกว่าที่จะต้องโดดเดี่ยว ผมควบคุมความกลัวของตัวเองไม่ได้ ถึงจะย้ายไปที่ไหน ทุกคนก็จะคิดว่าผมเป็นตัวประหลาด "

"ต่อไปทุกอย่างอาจจะเลวร้ายลง แต่เธอ ก็เลือกที่จะอยู่ข้างๆ ซินงั้นเหรอ" พี่ไวลี่ถามผมด้วยใบหน้าจริงจัง

"ผมชอบซินมาก ผมอยากรู้จักซินมากกว่านี้"

"ได้ยินแล้วนะซิน" ผมสะดุ้งทันทีที่พี่ไวลี่พูดแบบนั้น

ผมค่อยๆ หันไปมองด้านหลัง และภาวนาไม่ให้มีใครอยู่ตรงนั้น แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว ผมมองซินที่กำลังทำหน้านิ่งๆ จ้องมองผม และสักพักก็คลี่ยิ้มออกและเดินลงมานั่งลงข้างๆ

ผมหลบตาซินและมองพี่ไวลี่ที่กำลังหัวเราะชอบใจเสียงดัง พี่ไวลี่ ทำแบบนี้ได้ไง ทำไมไม่บอกกันก่อน

"ที่บอกว่าชอบนี่ ชอบแบบไหนเหรอ" ผมรู้สึกว่าซินที่นั่งข้างๆ นั้นเขยิบเข้ามาใกล้มากขึ้นขณะที่ถาม

"เอ่อ คือ..." ผมก้มหน้าก้มตา ถามกันแบบนี้จะให้ตอบยังไงดีล่ะ

"วันนี้ให้ผมทำงานนะ ผมอยากทำงาน" ผมพูดและลุกพรวดขึ้นจากโซฟา รีบเปลี่ยนเรื่องไปเลยน่าจะดีกว่า

แต่เมื่อผมมองเห็นซินชัดๆ จากแสงไฟ ผมก็ต้องรู้สึกโล่งใจมาก สีหน้าของซินตอนนี้ดูดีขึ้น ไม่ซีดเซียวไร้เลือดเหมือนตอนแรก

"ไปสิ โอนเนอร์รออยู่" ซินพูดบอกผมและยิ้มให้ผม

ผมรู้สึกว่าสายตาและรอยยิ้มของซินดูเปลี่ยนไป เป็นเพราะซินรู้ว่าผมชอบหรือเปล่านะ และแบบนี้จะดีจริงๆ เหรอ

ผมลงบันไดมาที่โถงด้านล่างและเข้าไปหาโอนเนอร์ที่บาร์ ผมมองไปรอบๆ ซึ่งตอนนี้มีคนอยู่เยอะทีเดียว ผมไม่ต้องใช้แว่นอีกแล้ว ผมมองเห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนมากขึ้น มันเหมือนกับเวทมนต์ผมคิดว่านั่นใกล้เคียงที่สุดแล้ว

"ไวท์" ผมยิ้มให้โอนเนอร์ที่เรียกผมเข้าไปใกล้ๆ

"ครับ วันนี้ผมขอทำงานนะครับ"

"ยินดีอย่างยิ่ง" โอนเนอร์พูดและยิ้มอย่างใจดี

"น้ำนั่นที่ผมดื่ม มันคือน้ำอะไรเหรอครับ" ผมถามด้วยความสงสัย

"มันคือทุกสิ่งที่เธออยากให้มันเป็น ถ้าเธอมีความเชื่อมากพอ" ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

"ได้ยังไงกันครับ" ผมทำหน้าประหลาดใจมากๆ

"เหมือนเวทมนต์เลยใช่ไหมล่ะ มันทำให้เธอดีขึ้น นั่นก็เพียงพอแล้ว" โอนเนอร์พูดและยังคงทำงานต่อไป โดยมีผมช่วยหยิบจับ และผมคิดว่าคำตอบนั้นหมายความว่า ผมไม่ควรถามอะไรออกไปอีก

หลังจากเวลาผ่านไปนานพอสมควร ผมคิดว่าตอนนี้น่าจะดึกมากแล้ว ผมจึงขอตัวจากโอนเนอร์ไปยังข้างบนเพื่อบอกซินว่าพวกเราควรจะกลับแล้ว แต่เมื่อผมเดินมาถึงโซฟาตัวเดิม ผมก็ต้องรู้สึกแย่ๆ อีกตามเคย เพราะว่าข้างๆ ซินนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่อีกแล้ว และทัั้งสองคนนั่นก็ยังคงเป็นคนเดิมที่ผมเจอครั้งก่อน

ผมค่อยๆ เดินมานั่งลงตรงข้ามซินและมองสาวสองคนที่กำลังยิ้มให้ผม

"วันนี้ดื่มไหม" สาวผมยาวที่กำลังกอดแขนซินยื่นแก้วมาให้

"วันนี้ก็คงไม่ครับ ผมไม่อยากดื่มเท่าไหร่" ผมพูดตอบอย่างสุภาพ

ผมมองซินที่จ้องมองผมพลางยกแก้วสีอำพันขึ้นดื่ม ที่ผมคิดก่อนหน้านี่มันผิดสินะ นายนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม คำว่าชอบของผมมันคงไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ซึ่งผมว่านั่นก็ดีเหมือนกัน

"พี่ไวลี่ไปไหนแล้วเหรอ" ผมถามซินที่กำลังรินเหล้าให้สาวผมสั้น

"ถามทำไม" ซินไม่ตอบแต่ถามผมกลับ ผมว่าผมไปอยู่กับพี่ไวลี่ดีกว่า

"ขอโทษนะ แต่ผมว่าผมไปรอที่รถดีกว่า" ผมลุกขึ้น ก้มหัวบอกลาทั้งสองคนและเดินลงไปด้านล่าง ซินอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมไม่ยุ่งหรอก

ผมเดินมาตามทางเดินเพื่อออกมาที่หน้าประตู ไม่รู้ทำไม เมื่อผมออกมาด้านนอกแล้ว ผมกลับรู้สึกสดชื่นยิ่งกว่าเดิม  ด้านในนั้นบรรยากาศและกลิ่นไอต่างๆ ทำให้ผมเคร่งเครียด และกดดัน ถ้าผมจะต้องอยู่ที่นั่นนานๆ ผมคงเป็นบ้าตายแน่ๆ

"เป็นอะไรไป เป็นแบบนี้ทุกทีที่มาที่นี่" แต่ผมที่มาถึงรถนั้นก็พบว่าซินเดินตามผมมาตลอด

"ไม่ใช่หรอก" ผมพูดปฏิเสธ เพราะผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ

"คืนนี้นอนด้วยได้ไหม" ซินพูดถามผมเสียงเบา แต่ทำเอาผมตกใจมาก

"ห้องผมมันเล็กมาก อย่าลำบากเลย" ผมรีบปฏิเสธ

"วันนี้ก็นอนที่นั่นทั้งวัน ไม่เห็นเป็นไรเลย" ซินพูดและเดินเข้ามาใกล้ผม

"แล้วปกติซินไปนอนที่ไหนล่ะ" แบบนี้ขี้โกงนี่นา ซินไม่เคยพาผมไปห้องซินบ้างเลย ผมมองซินที่นิ่งเงียบไป และก็ค่อยๆ ฉีกยิ้มออกมา

"อยากไปเหรอ" ผมรีบพยักหน้าทันที มีหรือผมจะพลาด

"ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนนะ" ซินพูดและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"อะไร" ผมถามเบาๆ

"ไปถึงก็จะรู้เอง"

ไม่นานพวกเราก็ขับรถออกมาจากซอยนั้น ผมสังเกตว่าพอพวกเราขึ้นมาบนรถ ไอน้ำแปลกๆ ก็จะเริ่มเกาะที่กระจกจนไม่สามารถมองออกไปด้านนอกรถได้ ผมเริ่มกอดตัวเองด้วยความหนาวเย็น มันเป็นแบบนี้เสมอเวลาเดินทางกับซิน

"พี่ไวลี่ล่ะ" ผมถามอย่างสงสัย เพราะว่าปกติพี่เขาจะชอบขับรถให้

"ถามอีกแล้วนะ" ซินถามผมกลับ

"ก็ขามาเขามากับเรานี่นา" ผมก็แค่สงสัย

"หมอนั่นก็ไปเรื่อยแหละ ไม่ต้องไปสนใจ" ซินพูดและทำหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

ผมนั่งนิ่งๆ มองดูซินที่ยังคงขับรถต่อไป ผมดีใจมากที่จะได้ไปห้องของซินบ้าง ที่นั่นจะเป็นยังไงกันนะ ผมอยากรู้ ทุกๆ อย่างเกี่ยวกับซิน

"บนนั้น โอนเนอร์ฝากมาให้ วันนี้ทำได้ดีมาก" ผมมองซินที่อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา และเพยิดหน้าไปที่ซองสีดำที่วางไว้บนคอนโซลรถ

ผมหันไปตามสายตาของซิน จ้องมองซองสีดำตรงหน้า และค่อยๆ ยื่นมือไป เปิดซองที่ถูกปิดผนึกนั้นออก และทันทีที่ผมเห็นจำนวนเงินในซองนั้น ผมก็แทบจะขอคืนทันที ผมว่ามันมากเกินไปสำหรับงานที่ทำแค่วันเดียว แถมไม่กี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ

"เยอะขนาดนี้ผมรับไว้ไม่ได้หรอก" ผมปิดซองและวางคืนที่เดิม

"เอาไว้ซะ อยากได้มือถือไม่ใช่เหรอ" ซินพูดและยิ้มให้ผม

"แต่ว่า..." ผมยังคงลังเลอยู่

"รับไว้ซะ" ซินเริ่มสั่งผมอีกแล้ว

"ถ้างั้นเดือนนี้ผมไม่รับแล้วนะ ครั้งนี้ครั้งเดียวพอ ฝากขอบคุณโอนเนอร์ด้วยนะซิน" แบบนี้ผมต้องขยันขึ้นแล้วสิ แต่จะติดก็ตรงที่ซินไม่ค่อยจะยอมพาไปนี่ล่ะ

ผมนั่งมากับซินอีกสักพัก และในที่สุดรถก็จอดลง แต่ผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันคือที่ไหน เพราะว่าหมอกที่ปกคลุมกระจกรถยังคงครอบคลุมอยู่

"ลงมาสิ" ผมมองซินที่เปิดประตูให้ผมและเรียกให้ผมลงไป

ผมลงจากรถด้วยความตื่นเต้น ที่นี่เป็นที่ที่ซินอาศัยอยู่งั้นเหรอ มันจะเป็นยังไงกันนะ

แต่ทันทีที่ผมลงมาจากรถและมองไปรอบๆ ก็ต้องแปลกใจ ที่นี่เป็นเหมือนลานจอดรถชั้นใต้ดินของที่ไหนสักแห่ง แต่ทั้งลานนั้นกลับว่างเปล่า มีเพียงรถของซินคันเดียวที่จอดอยู่

"ตามมา" ซินพูดบอกผมและเดินนำหน้าไป ผมเดินตามซินเข้าไปในลิฟต์ตัวหนึ่ง ผนังของลิฟต์เป็นกระจกเงาสีดำที่ส่องสะท้อนเราสองคน ผมมองซินที่ยังคงยืนนิ่ง และกดลิฟต์ไปยังปุ่มที่มีเพียงปุ่มเดียวบนผนัง นี่มันแปลกมาก ผมไม่เคยเห็นลิฟท์ที่มีแค่ชั้นเดียวให้กด แต่ระยะเวลาที่พวกเรายืนรอให้ถึงจุดหมายนั้น กลับยาวนานเหลือเกิน

ในที่สุดลิฟต์ก็เปิดออกอย่างช้าๆ ผมก้มลงมองดูพื้นสีดำสนิทและเดินตามซินออกไปยังโถงทางเดินที่เป็นสีดำอีกนั่นแหละ บรรยากาศที่นี่ดูมืดมนยังไงชอบกล เป็นทางเดินยาวๆ ที่ตามผนังติดไฟไว้เป็นจุดๆ ไม่มีห้องอื่น ไม่มีใครเลย ที่นี่มันใช่ที่ที่คนจะอาศัยอยู่แน่เหรอ

ผมมองดูซินที่เดินไปหยุดอยู่ที่ประตูบานหนึ่ง และเปิดเข้าไปทันทีโดยไม่มีกุญแจหรือคีย์การ์ดใดๆ

ผมเดินตามซินเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง ทันทีที่ผมก้าวเข้าไป ผมก็ต้องตาลุกวาวทันที ที่นี่มันแปลกมาก ทุกสิ่งล้วนเป็นสีดำสนิท และกว้างใหญ่เกินไปที่จะอยู่คนเดียว โถงรับแขกที่กว้างใหญ่ ไร้ทีวีหรือสิ่งของที่ปกติสมควรจะมี ผมมองโคมไฟรูปร่างแปลกๆ ตามผนังที่ส่องแสงสีนวลและวูบไหวไปมาทำให้สะท้อนเงาแปลกๆ ลงบนพื้น มองขึ้นไปยังบันไดสีดำที่ทอดขึ้นไปยังชั้นลอยด้านบนที่มืดสนิท ผมเดินต่อไปยังกระจกบานใหญ่ที่เป็นผนังห้อง มันเหมือนกับคอนโดหรูที่สามารถมองออกไปดูวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้ แต่ที่นี่กลับมีแต่เมฆหมอกไอน้ำ ทำให้ผมไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

"เป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า" ผมสะดุ้งทันทีที่ซินเดินมาชิดด้านหลังของผมพลางยื่นแก้วน้ำให้

"มันแปลก แต่ผมก็คิดว่ามันเข้ากับซิน" ผมพูดและเอื้อมมือไปแตะที่กระจกบานใหญ่ที่มืดขมุกขมัว

"ไปอาบน้ำสิ เสื้อผ้าจัดไว้ให้แล้ว" ผมดื่มน้ำหวานในแก้วและมองซินที่ทำมือบอกว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน

ผมเดินไปตามที่ซินบอกอย่างว่าง่าย ดันประตูสีดำเรียบสนิทเข้าไป และก็พบว่าห้องน้ำนั้นก็กว้างใหญ่เช่นกัน ผมมองดูเสื้อสีเชิ๊ตสีขาวที่วางอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ ในนั้น และกางเกงขายาวสีดำ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมเห็นว่ามันเป็นสีขาว  มันเด่นชัดยิ่งกว่าทุกสิ่งที่อยู่ที่นี่

ไม่นานนักผมก็อาบน้ำ จัดการตัวเองเรียบร้อย ผมว่าผมแช่น้ำนานเกินไปหน่อย แต่ที่นี่มันช่างแปลกแต่ก็สวยดีจริงๆ น้ำอุ่นและสิ่งของแปลกๆ ในห้องน้ำ ทำให้ผมเสียเวลามากเลยทีเดียว ซินชอบเก็บของแปลกๆ แบบนี้สินะ หลายๆ สิ่งล้วนเป็นเครื่องเงินแวววาว ที่เข้ากับสีดำเหลือเกิน ซินใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นเหรอ ช่างดูลึกลับ เหมือนกับตัวของซินเองนั่นแหละ

ผมใส่เสื้อผ้าและออกมาจากห้องน้ำ พลางเดินไปรอบๆ ห้องของซินอย่างสนใจ ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเหมือนกับมีคนคอยดูแลอยู่ ความรู้สึกแปลกๆ เข้าถาโถมตัวผม ผมรู้สึกถึงเสียงกระซิบแผ่วเบา และรู้สึกเหมือนกับถูกจ้องมองอยู่ไกลๆ มันคืออะไรกันนะ ตอนแรกยังไม่รู้สึกแบบนี้เลย

"ไวท์" ผมหันไปตามเสียงเรียก และเดินไปตามทางเดินที่มืดสลัว ผ่านโถงรับแขกไปยังทางเดินเล็กๆ ผ่านแนวกระจกที่มืดมัว และในที่สุด ผมก็พบซินกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวข้างกระจกด้านใน มันเป็นเหมือนกับห้องอาหาร ซึ่งมีเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่อยู่ข้างๆ

"หิวไหม ซินให้คนเตรียมไว้ให้" ผมมองไปบนโต๊ะและก็พบว่ามีอาหารจัดเตรียมไว้อยู่ มันดูสวยงามหรูหรา และปราณีตจนผมจ้องมองด้วยความสนใจ

ท่ามกลางแสงจากโคมไฟที่พริ้วไหว ผมมองใบหน้าซีกหนึ่งของซินที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ที่นี่มันมืดเกินไปหรือเปล่านะ

"ซินไม่ชอบเปิดไฟเหรอ ผมเห็นที่นี่มีแต่โคมไฟแปลกๆ" ผมถามซินและมองไปรอบๆ อย่างสนใจ

"แบบนี้มันสบายตากว่าน่ะ ไม่ชอบเหรอ เปิดไฟให้ก็ได้นะ"

"ไม่ต้องหรอก ผมแค่อยากรู้เฉยๆ น่ะ" ผมพูดและเริ่มลงมือกินอาหารบนโต๊ะ และมองซินที่กำลังจิบไวน์ในมือ

"บ้านซิน ทำธุรกิจอะไรงั้นเหรอ ผมว่าที่นี่ดูแปลกมากเลย คงแพงมากแน่ๆ"

"ไม่มีอะไรพิเศษหรอก อย่าใส่ใจเลย" ซินตอบเลี่ยงคำถามของผม

"อร่อยมากเลย" ผมที่ชิมเนื้อสเต็กในจานก็รู้สึกประทับใจมาก

"งั้นเหรอ ทำดีมาก ลิน" ผมเงยหน้าขึ้นจากจานและมองซินด้วยความแปลกใจ

"เอ่อ ลิน คืออะไรเหรอ" แต่คำตอบของผมนั้นก็กระจ่างในแววตา ผมมองซินที่ดีดนิ้ว และก็มีเด็กชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา ผมตกใจมาก ผมลุกขึ้นยืนทันที ผมไม่รู้เลยว่าในมุมมืดนั้นมีคนยืนอยู่ด้วย

"ขอบคุณครับ" ผมมองเด็กชายที่น่าจะอายุไม่เกินสิบสองปี กำลังก้มลงโค้งให้ผม

"ไม่ต้องตกใจไป นี่คนของซินเอง" ซินพูดและจับบ่าเด็กคนนั้นเอาไว้

ผมค่อยๆ นั่งลงที่เดิม ตอนนี้หัวใจของผมกำลังสั่นไหว เด็กขนาดนั้น ทำงานให้ซินงั้นเหรอ

"เอ่อ ลิน มานี่หน่อย" ผมเรียกเด็กคนนั้นให้เดินเข้ามา ผมมองเด็กคนนั้นที่หันไปมองซิน และค่อยๆ เดินเข้ามาหาผม เป็นเด็กที่แต่งตัวเรียบร้อยใส่สูทตัวเล็ก ใบหน้าซีดและดูนิ่งเฉย ไม่ยิ้มแย้มสมวัย

"ฝีมือดีมากเลยนะ ใครหัดให้งั้นเหรอ" ผมยิ้มให้ลินและมองลินที่ดูหวาดระแวงแปลกๆ

"คุณพ่อเป็นคนสอนครับ"

"แล้วตอนนี้คุณพ่อ..."

"ลิน ไปเตรียมของหวานซะ" ผมที่กำลังจะคุยกับเด็กน้อยต่อ ก็ถูกซินขัดซะก่อน

ผมมองดูลินที่สะดุ้งตกใจและรีบเดินออกไปจากโต๊ะทันที

"เขายังเด็กอยู่นะ ทำไมต้องดุด้วยล่ะ" ผมพูดขึ้นทันทีที่เด็กน้อยเดินหายไป

"ทุกคนมีงาน มีหน้าที่ของตัวเอง" ซินพูดและยิ้มให้ผม

"งานอะไรเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย

"ไวท์ก็มีเหมือนกัน" ซินพูดต่อไปด้วยใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในเงาเช่นเคย

"ที่ซินพูดว่า ข้อแลกเปลี่ยน คืออะไรงั้นเหรอ" ที่ผมได้มาที่นี่ ผมจะต้องให้อะไรซินกันนะ

"ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก" ซินพูดและยิ้มน้อยๆ ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ซะแล้ว

หลังจากอาหารจานหลัก ของหวานที่หนุ่มน้อยลินนำมาเสิร์ฟให้ผมนั้น เป็นเค้กช็อคโกแลตลาวาที่อร่อยสุดๆ ผมประทับใจเด็กน้อยนี่มาก ช่างเป็นคนที่เก่งเกินอายุจริงๆ

"ลิน มากินด้วยกันไหม" ผมเรียกเด็กน้อย ลินดูตกใจที่ผมชวนแบบนั้น

"ม.ไม่ได้หรอกครับ" ผมมองลินที่ตัวสั่นเป็นลูกนก นายกำลังกลัวอะไรงั้นเหรอ

ผมมองดูซินที่นั่งอยู่ในเงามืด ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย แต่เมื่อเห็นว่าผมมองอยู่ ก็ค่อยๆ ยิ้มให้ผม เป็นนายสินะที่ทำให้เด็กน้อยกลัวขนาดนี้

"ไปนั่งเล่นตรงโน้นกันเถอะ" ผมลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและจูงมือลินให้เดินตามผมมา โดยไม่สนใจคนที่ยังนั่งอยู่ หนอย ชอบรังแกเด็กสินะ นิสัยแบบนี้ต้องแก้ให้หาย

"ลินทำงานอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว" ผมนั่งลงที่โซฟาและดึงให้ลินขึ้นมานั่งด้วย

"ได้โปรดอย่าถามอะไรเลยครับ" ผมขมวดคิ้วมองลินที่มองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง

"ซินใจร้ายกับเรามากเลยเหรอ" ผมถามเสียงเบา แต่ชื่อที่ผมพูดออกมานั้นก็ทำให้เด็กน้อยยิ่งผวาเลยทีเดียว

"ท.ท่านเป็น..." แต่ผมที่มองเด็กน้อยนั้นก็ต้องแปลกใจ เพราะว่าลินเหมือนกำลังพูดอยู่ แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมา

"หมดหน้าที่แล้วก็ไปซะ" ผมมองซินที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าน่ากลัว และลินก็รีบลนลานหนีหายไปในความมืด

"ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ" ผมไม่พอใจซินที่ดุเด็กน้อยแบบนั้น

"ไม่ทำแบบนี้น่ะไม่ได้หรอก" ซินพูดและนั่งลงข้างๆ ผม

"ผมไม่ชอบแบบนี้เลย" ผมพูดบอกซินที่กำลังจ้องมองผม

"แต่ชอบซินใช่ไหม" ผมชะงักทันทีที่ซินพูดแบบนั้น

"ถึงชอบก็เกลียดได้นะ" ผมพูดและหลบสายตาซิน

"ไม่ได้"

"ทำไม" ผมถามซิน

"เพราะว่าไวท์เป็นของซิน" ผมหน้าขึ้นสีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ที่พูดนั่นน่ะ หมายถึงอะไรกัน

และในทันทีทันใดนั้น ผมรู้สึกถึงความร้อนที่ประกบแนบลงที่ริมฝีปาก ผมลืมตาโพรงอย่างตกใจ คนตรงหน้ารุกจูบผมอย่างรวดเร็ว จับหลังคอของผมไม่ให้ผมได้เคลื่อนไหว และบดริมฝีปากร้อนเข้ามาอย่างไม่ลดละ

ผมตัวแข็งทื่อ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนและยิ่งไม่ได้ตั้งตัวด้วยแล้ว มันทำให้ผมแทบลืมหายใจเลยทีเดียว

"อ..อื้อ" ผมพยายามดันซินออกไป แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ผมเริ่มหลับตาลง ปล่อยให้คนตรงหน้าตักตวงความต้องการ แทรกเรียวลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากของผมที่เผยอน้อยๆ สัมผัสกับความนุ่มนิ่มที่กำลังแตะรับกัน มันทำให้ผมเริ่มอ่อนลง ผมปล่อยตัวไปตามความต้องการนั้น กลายเป็นเราสองคนจูบกันไปมาบนโซฟาในห้องมืดที่แสนหนาวเย็น ความตกใจแปรเปลี่ยนไปเป็นความต้องการ ผมตอบรับจุมพิตนั้น

จาก เพื่อนคนแรกของผม ผู้ชายที่ผมหลงรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:26:31 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

White = สีขาว = บริสุทธิ์

Sin = บาป

ยังคงลึกลับเหมือนเดิม

นี่อาจจะเป็น...เกมที่ฝ่ายด้านมืดจะทำให้ผู้บริสุทธิ์มัวหมอง

มโนล้วน ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
งูคือสัญลักษณ์อะไรเปล่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ซิน นายลึกลับมากเลย   :ling3:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13  o13  o13 พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ.... ตอนนี้ติดมากกกก  :hao7: รอค่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 20 หนทางแห่งการช่วยเหลือ


เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วผมไม่สามารถบอกได้ แต่พวกเราสองคนนั้นก็ยังคงแลกเปลี่ยนความหวาน ความต้องการของกันและกัน ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง บนเตียงขนาดใหญ่สีดำสนิท ถูกกดทับอยู่กับผืนผ้าห่มหนา ผมกำเสื้อคนด้านบนไว้และตอบรับรสจูบที่ไม่มีที่ท่าว่าจะจืดจางลง ผมมาทำอะไรที่นี่กันนะ มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน

"อึก..อย่า" ผมสะดุ้งตัวน้อยๆ ทันทีที่รู้สึกถึงมือที่กำลังลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของผมมากขึ้น ผมชอบซินมากก็จริง แต่ผมก็คิดว่าพวกเราควรจะหยุดลงตรงนี้ดีกว่า

"ซิน" ผมหันหน้าหนีริมฝีปากนั้น และดันซินไว้เบาๆ

"ทำไมล่ะ" ซินดูทำหน้าไม่พอใจผม แต่ว่า ผมไม่อยากให้พวกเราทำอะไรไปมากกว่านี้ ตอนนี้มันยังไม่เหมาะเท่าไหร่

"คือ ผมต้องกลับบ้าน" ผมพูดและผลักซินออก นั่งลงที่ขอบเตียงและลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ และทันทีที่ทำแบบนั้น ซินก็ลุกขึ้นมาและกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง

"เดี๋ยวสิ พอเถอะ" ผมจับแขนซินที่โอบรอบตัวผม

"คืนนี้ อยู่ที่นี่" ซินซบหน้าลงที่คอผมดูอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับเหมือนเป็นคำสั่ง

"ผมเป็นห่วงคุณยาย" ผมพูดและผละออกจากอ้อมกอดนั้น

"ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก" ซินเริ่มทำหน้ารำคาญใจแบบเดิมอีกแล้ว

"ผมกังวล" ผมดีใจมากที่ซินดูต้องการผม แต่ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ซินกำลังทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงสองคนนั่น

"ที่บอกว่าชอบนั่น โกหกงั้นเหรอ" ผมมองซินที่ทำหน้าสงสัย

"มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำเรื่องแบบนี้"  ผมไม่อยากให้ซินเข้าใจผมผิดไปเลยจริงๆ

"ไม่เข้าใจ" ซินพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ เป็นคนที่ดื้อดึงจริงๆ

"ซิน ผมขอเถอะ นี่ก็น่าจะดึกมากๆ แล้ว พรุ่งนี้ก็มีเรียนนะ" ผมพยายามโน้มน้าวคนตรงหน้าที่กำลังทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

"กลัวที่นี่งั้นเหรอ" ซินถามผมและเดินเข้ามาหา ผมมองแววตาสีดำสนิทของซิน ริมฝีปากแดงที่ตัดกับใบหน้าที่ขาวซีด ริมฝีปากที่สัมผัสกับผมเนิ่นนาน ผมไม่ได้อยากจากซินไป แต่ผมกลัว ผมอาจจะกลัวจริงๆ นั่นแหละ

"ผมชอบทุกที่ที่มีซินอยู่" ผมตอบตามตรง และมันทำให้คนตรงหน้าเริ่มยิ้มอีกครั้ง

"อีกไม่นาน พวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน ซินเฝ้ารอวันนั้น" ซินเดินเข้ามาหาผมใกล้มากขึ้นอีกนิด และก้มลงประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา

ผมก็เฝ้ารอวันนั้นเช่นกัน..

ไม่นานผมก็กลับมาที่ห้องนอนเล็กๆ ของผม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผมต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อบอกให้ซินกลับไปพักซะ ผมว่าพอซินรู้ว่าผมชอบตัวเอง ซินก็เริ่มที่จะปฏิบัติกับผมเปลี่ยนไปมากๆ

ผมยังคงไม่แน่ใจว่าซินคิดยังไงกับผมกันแน่ ซินไม่ได้พูดมันออกมา แต่ก็ทำเหมือนผมเป็นคนสำคัญ ผมไม่อยากคิดไปเอง แต่คำพูดนั้นของซินก็ทำให้ผมรู้สึกดีเหลือเกิน คำพูดที่ว่า อยากจะอยู่กับผม อยากให้เราสองคนอยู่ด้วยกัน



รุ่งเช้านั้นก็ยังคงเหมือนเคย ผมลงมาช่วยคุณยายเปิดร้านและนั่งรถเพื่อไปที่มหา'ลัยในตอนสายๆ ผมมองสองข้างทางระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ สายตาของผมในตอนนี้นั้นยังคงมองเห็นทุกสิ่งชัดเจนอย่างน่าประหลาด มันเป็นไปได้ยังไงกัน ผมคงจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่งซะแล้ว

ผมนั่งมาบนรถกระบะสองแถวสักพัก อีกไม่ไกลเท่าไหร่ ก็จะถึงแล้ว ผมพอจะมองเห็นรั้วของมหาวิทยาลัยที่อยู่ไม่ไกล แต่เมื่อผมมองไล่สายตาไปยังที่นั่งที่อยู่ชิดด้านในสุดนั้น ผมก็ต้องรู้สึกแปลกๆ เพราะว่าไม่ใช่มีเพียงแค่ผมที่นั่งอยู่ แต่บนรถก็กลับมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ด้วย

ผมเริ่มขยับตัวกระสับกระส่าย ผมรู้สึกไม่ดีเลย ยิ่งเห็นทุกอย่างได้ชัดแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกว่ามันอันตรายเกินไปสำหรับผม ผมเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นที่ก้มหน้าและโยกตัวไปตามแรงที่รถเคลื่อนไป แขนของเธอขาวซีด เส้นผมยาวปกปิดใบหน้า และเส้นผมนั้นก็ดูมันเงา เหมือนกับเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำ

ผมเริ่มค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ และเกาะราวจับเอาไว้ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมควรจะกดกริ่งและลงจากรถได้แล้ว แต่ทันทีที่ผมเงยหน้าและเอื้อมแขนไปที่กริ่ง มือที่ขาวซีดนั้นก็กำอยู่ที่แขนของผมแล้ว ใบหน้าของเธอที่อยู่ใต้เรือนผมนั้นขยับเข้ามาใกล้ และจ้องมองผมด้วยแววตาสีแดงอาฆาต

ผมตกใจกลัวและกระชากแขนตัวเองออก แต่ก็กดกริ่งได้ทัน แต่เมื่อรถหยุดลงนั้น ผมที่ยืนอยู่ก็รู้สึกว่าตัวผมกำลังลอยหวือหลุดจากตัวรถ เพราะแรงผลักจากวิญญาณสาวตนนั้น

พลั่ก!

ผมตกลงจากรถหลังกระแทกพื้น แขนของผมชาและเจ็บแสบไปหมด ได้ยังไงกัน พวกมันแตะต้องผม ผมมองดูวิญญาณนั้นที่กำลังจางหายไป

"ไวท์ เป็นอะไรหรือเปล่า" ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง และมองดูผู้คนที่กำลังล้อมรอบตัวผม

"ไม่เป็นไรๆ" ผมลุกขึ้นยืนและเดินไปจ่ายเงินค่ารถสองแถว และปัดแขนขาและเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นของผม

"หวัดดีเจ" ผมรู้สึกว่ามีมืออีกมือหนึ่งกำลังช่วยปัดฝุ่นให้ผม นั่นก็คือเจนั่นเอง

"พวกมันทำเหรอ" เจถามผมด้วยใบหน้าตื่นกลัว

"ผมเห็นไวท์ลอยหวือขึ้นจากพื้น และอยู่ดีๆ ก็ตกลงมา" เจยังคงพูดต่อไป และผมก็พยักหน้าตอบน้อยๆ

"แบบนี้อันตรายนะ ถ้าเป็นตอนรถวิ่งไวท์จะเป็นยังไง" เจพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง ผมว่ามันแปลกๆ จริงๆ ผมไม่เคยถูกทำร้ายกลางวันแสกๆ แบบนี้ ปกติวิญญาณจะทำร้ายเราไม่ได้ นี่่มันอะไรกัน

"แล้วรอยสัญลักษณ์นั่น ยังอยู่ไหม" ผมถามเจ และเจก็พยักหน้าน้อยๆ อย่างเศร้าสร้อย

"ไม่ต้องห่วง ผมจะหาทางเอง" ผมบอกเจที่สีหน้าเริ่มดีขึ้นอีกครั้ง

"ไปเรียนเถอะ" เจบอกผมและเดินตามผมมาข้างๆ ผมเลิกคิ้วมองเจและมองไปรอบๆ ทันที

"แบบนี้จะดีเหรอ แล้วเพื่อนๆ เจล่ะ" ผมกลัวเจจะถูกเพื่อนๆ ต่อว่าอีก ถ้ามาอยู่ใกล้ๆ ผม

"ช่างมันแล้วล่ะ ผมไม่สนแล้ว" ผมหยุดเดินและมองเจอย่างตั้งใจ

"แบบนั้นจะดีจริงๆ เหรอ" ผมถามเจอีกครั้ง

"ดีสิ จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะ" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างทันที ถึงผมจะรู้สึกอยากให้เจมีเพื่อนเยอะๆ ก็เถอะ แต่แบบนี้ผมก็เหมือนได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคน ผมได้เจกลับคืนมาแล้ว นี่มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

ผมเดินมากับเจ เพราะพวกเราจะต้องเรียนวิชาเดียวกันพอดี ผมมองหาซินไปทั่ว ยังไม่มาอีกเหรอ ไปไหนกันนะ

"ไวท์ นั่นใช่ซินหรือเปล่า" เจดึงแขนผมและชี้ให้มองดูผู้ชายตรงหน้าที่กำลังยืนนิ่งๆ อ่านป้ายประชาสัมพันธ์ของมหา'ลัย

และก็พบว่าเป็นซินจริงๆ ด้วย ผมรีบเดินเข้าไปหาซินและยิ้มกว้างทันที

"มานานหรือยัง" ผมพูดถามซิน แต่ซินก็ไม่ได้ตอบผม แต่กำลังหันมาจ้องมองเจเขม็ง

"เอ่อ ซิน..." ผมเขย่าแขนซินที่กำลังทำตัวแปลกๆ อีกแล้ว ซินจ้องมองเจเขม็งอย่างน่ากลัว จนเจต้องเดินหลบมาซ่อนด้านหลังผม

"ซิน!" ผมเรียกซินอีกครั้งอย่างเคืองๆ ซินกำลังทำเพื่อนกลัวนะ

"ยินดีที่ได้พบ" ซินสีหน้าอ่อนลง และยื่นมือไปหาเจที่กำลังหลบซ่อนอยู่

ผมขมวดคิ้วมองซินอย่างสงสัย นายเป็นคนต่างชาติหรือไง ทำไมต้องจับมือด้วยล่ะ

"เจ ไม่เป็นไรหรอก ยื่นมือมาสิ" ผมที่เห็นแบบนั้น ก็จับมือเจ และจับมือซินให้มือทั้งสองจับกันไว้

จริงๆ ผมไม่ค่อยกล้าสบตาของซินเลย เรื่องเมื่อคืนมันยังคงติดตาฝังอยู่ในสมองอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้พวกเรายังเป็นเพื่อนกันหรือเปล่านะ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าตอนนี้ซินคิดยังไงกับผมกันแน่

พวกเราเข้าเรียนด้วยกันในคาบเช้า ผมสังเกตว่าเจดูเงียบไปแบบแปลกๆ ตั้งแต่เดินมา และดูหวาดระแวงอะไรสักอย่างตลอดเวลาที่นั่งเรียน

"เดี๋ยวผมมานะ ไปเข้าห้องน้ำ" ผมพูดบอกซิน และดึงแขนเจให้เดินตามมาด้วย ผมพาเจออกมาจากห้องเรียน และหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ ประตูนั้น

"เจมีอะไรหรือเปล่า" ผมถามเจทันทีที่พ้นสายตาของซิน ผมเป็นห่วงเจ ดูเจไม่ค่อยปกตินัก

"ไวท์เจอซินได้ยังไงเหรอ" เจถามผมและเหลือบมองเข้าไปในห้องอย่างตื่นกลัว

"ที่ไนท์คลับน่ะ" ผมบอกเจ และนึกถึงค่ำคืนนั้นที่ผมพบซินครั้งแรก ซินในชุดสีดำสนิท และวิญญาณร้ายที่อยู่ข้างๆ ซินตอนนั้น

"เมื่อกี้ ตอนที่ซินยื่นมือมา" เจพูดและตัวสั่นน้อยๆ "ผมจับมือซิน และผมรู้สึกแปลกๆ" ผมที่ได้ยินแบบนั้น ก็ดึงแขนเจและพามาให้ห่างจากห้องเรียนมากขึ้นไปอีก

"แปลกยังไงเหรอ" ผมถามด้วยความอยากรู้

"ผมเจ็บปวดที่ตรามาก" เจพูดและเอามือกุมบริเวณที่มีตราสัญลักษณ์ไว้ "เหมือนไฟจะลุกขึ้นมาเลย" ผมนิ่งชะงักไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ไวท์ว่าซินจะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า" เจถามผมด้วยสีหน้าลำบากใจ

ผมมองเจ และนึกถึงคำพูดนั้นอย่างจริงจัง ผมที่สัมผัสกับสิ่งเหนือธรรมชาติมาตลอดเวลายาวนาน มันทำให้ความรู้สึกของผมสับสน ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยระแวงซิน ผมยังคงจำฝันร้ายในคืนนั้นได้ ซินที่มีดวงตาสีแดง และร่างกายที่กำลังลุกไหม้

ซินไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ทำตัวแปลก ใช้ชีวิตแปลกๆ นิสัยแปลก แต่ผมก็มั่นใจว่าซินไม่ใช่วิญญาณของคนตาย เวลาที่ผมสัมผัสซินนั้น มันเหมือนกับซินมีตัวตนจริงๆ เวลาที่ผมได้กอดซิน มันทำให้ผมอบอุ่นไปทั้งตัวและหัวใจ

"ไวท์ชอบซิน" ผมพูดบอกเจที่ตาโตขึ้นทันที

"ชอบ...แบบไหนกัน" เจถามผมแบบไม่อยากจะเชื่อ

"ความรัก" ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ให้เจ

"ไวท์ ผมไม่ได้รังเกียจเรื่องแบบนี้หรอกนะ แต่ผมว่าซินอันตราย บรรยากาศรอบๆ ตัวซิน มันทำให้ผม..กลัว" เจพูดและเดินถอยห่างออกไป

"ไวท์เชื่อใจซิน" ผมพูดบอกเจ และพาเจกลับไปที่ห้องเรียนอีกครั้ง

แต่เมื่อผมกลับมาที่ตรงที่นั่งของพวกเรา ผมกลับพบว่า ซินได้หายไปแล้ว

ผมรู้สึกหดหู่และเงียบเหงาทันทีที่ไม่มีซินอยู่ข้างๆ นายหายไปไหนอีกแล้วกันนะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกผม ทำไมถึงชอบหนีผมไปอยู่เรื่อย ผมถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย

ผมมานั่งอยู่ที่โรงอาหารกับเจในช่วงพักกลางวัน ผมเหม่อลอยและคิดถึงซินอยู่เสมอ ถ้ารู้แบบนี้ผมจะไม่ยอมอยู่ห่างซินเลยแม้แต่ก้าวเดียว

"พวกเธอ" ผมสะดุ้งน้อยๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มลึกของคนที่คุ้นเคย

"อาจารย์ สวัสดีครับ" ผมยิ้มกว้างทันทีที่ได้เจอเพื่อนอีกคนของผม ทำเอาลืมความเศร้าเมื่อกี้ไปเลย

"วันนี้หนุ่มหล่อคู่เธอไม่อยู่เหรอ" อาจารย์เดินเข้ามาชิดที่โต๊ะและยิ้มน้อยๆ อย่างใจดี

"ไม่อยู่ครับ แต่มีคนนี้แทน" ผมพูดและยิ้มให้เจที่จ้องมองอาจารย์อยู่เหมือนกัน

"สวัสดีครับอาจารย์" เจทักอาจารย์บ้าง

"ช่วงนี้ไม่เห็นที่ห้องสมุดนะ หายไปไหนงั้นเหรอ" อาจารย์นาธัสพูดถามเจ

"ผม มีเรื่องไม่ดีนิดหน่อย" เจใบหน้าหม่นเศร้าลงทันทีที่ถูกถาม

"อาจารย์นั่งลงก่อนเถอะครับ" ผมลุกขึ้นและเดินไปดึงแขนอาจารย์ให้นั่งลง ตั้งแต่ที่ได้คุยกับอาจารย์ในวันนั้น ผมรู้สึกว่าอาจารย์ใจดีมาก และเป็นคนที่พวกเราปรึกษาได้

"ที่เธอว่ามีเรื่องไม่ดี เรื่องอะไรงั้นเหรอ" อาจารย์ที่นั่งข้างๆ ผมนั้น ก็พูดถามเจทันที

ผมมองเจที่ดูหวาดๆ และไม่ยอมพูดอะไร เจคงจะกลัว และไม่กล้าพูดบอกใครแน่ๆ

"เจ ไม่ต้องกลัวอาจารย์หรอก ผมเคยปรึกษาเรื่องพวกนี้กับอาจารย์" ผมพูดบอกเจ ที่สีหน้าดูคลายความกังวลมากขึ้น

เจเล่าเรื่องที่เคยบอกผมให้อาจารย์ฟัง ผมมองอาจารย์ที่นั่งเงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่เจกำลังเล่า ผมนั้นยังคงติดค้างความสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง อาจารย์นาธัสกับซินนั้นต้องรู้จักกันแน่ๆ ทำไมทั้งสองคนถึงดูไม่ชอบกันขนาดนั้นนะ

"สัญลักษณ์ของซาตาน" อาจารย์พูดทันทีหลังจากที่เจพูดจบ และเจก็พยักหน้าแรงๆ หลายที

"ผมก็คิดว่าใช่ครับ ผมไม่เคยรู้เลยว่ามันจะมีจริงๆ" เจพูดอย่างทุกข์ใจ

"แล้วแบบนี้เจจะอันตรายไหมครับ" ผมถามอาจารย์ที่กำลังจ้องมองเจอยู่

"อันตรายมาก เธออาจตายได้ทุกเมื่อถ้าไม่ระวัง" เจตัวสั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"แล้วเราจะทำยังไงดีครับ" ผมถามอาจารย์ด้วยความร้อนใจ

"เธอก็เคยมีมันไม่ใช่เหรอ" อาจารย์ละสายตาจากเจ หันมามองผม และเจก็ดูตื่นตกใจทันที

"ไวท์เคยมีงั้นเหรอ แล้วตอนนี้ล่ะ เป็นยังไงบ้าง" เจลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งและเดินมาหาผม

"มันหายไป ได้ยังไงก็ไม่รู้" ผมพูดเบาๆ อย่างไม่เข้าใจ

"ได้ยังไงกัน ช่วยผมด้วยนะ ทำให้มันหายไปที" เจจับมือผมแน่นและเขย่าเบาๆ

"ไวท์กำลังหาวิธีอยู่" ผมพูดบอกเจให้ใจเย็นลง

"ฉันอาจจะช่วยพวกเธอได้" อาจารย์พูดและยิ้มน้อยๆ

"จริงเหรอครับ ช่วยพวกเราด้วยนะ" ผมกับเจยิ้มให้กันอย่างดีใจ

"คืนนี้ไปที่ห้องสมุดหลังเที่ยงคืน" ผมหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ค..คือ ทำไมต้องเป็นเวลานั้นเหรอครับ" ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องไปที่แบบนั้นในเวลากลางคืน

"ตรานั่น ฉันอาจช่วยได้ แต่ต้องเป็นเวลานั้นเท่านั้น"

"ครับ ผมจะไป" เจพูดและพยักหน้าตอบรับอาจารย์

ผมรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้ ผมนั้นเคารพและเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ก็จริง แต่ผมก็กลัวเกินกว่าที่จะออกไปข้างนอกตอนดึกขนาดนั้น

แล้วถ้ามีซินไปด้วยล่ะ...นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมมั่นใจเลยว่าซินจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ผมจะลองขอดูดีไหมนะ

ซินอาจจะเห็นใจและเปลี่ยนใจยอมมากับผมก็ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:27:24 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เจจะรอดไหมเนี่ย สาธุ รอดเถอะนะ  :m5:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 21 บุคคลที่พิเศษ


หลังจากที่ผมและเจแยกกับอาจารย์นาธัส ในคาบบ่ายนั้นผมก็ยังคงมีเรียนอยู่ และผมก็ไม่เจอซินอีกเลย ผมรู้สึกแย่มาก ผมอยากติดต่อซิน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมยังไม่ได้ซื้อมือถือเลย ถ้าอย่างนั้นผมจะชวนเจไปด้วยกันดีไหมนะหลังเลิกเรียน

แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็อยากจะเขกหัวตัวเอง ก็ผมน่ะไม่มีเบอร์เจน่ะสิ แล้วจะติดต่อเจได้ยังไงเพราะเราอยู่คนละคณะกัน

หลังเลิกเรียนนั้น ผมมองหาเจไปทั่วในที่ที่อาจจะเจอ แต่ก็ไม่พบว่าเจอยู่ที่ไหนเลย พวกเราไม่ได้เรียนด้วยกันทุกวิชา แบบนี้ก็แย่หน่อย แถมซินยังมาทิ้งผมไปอีก ผมเคืองจริงๆ

ผมเดินไปเรื่อยๆ ไปตามทางที่คุ้นเคยเพื่อไปที่ห้องสมุดเก่า ที่ซึ่งเจอาจจะไปก็ได้ ผมเดินขึ้นไปตามบันได และเดินหาเจทั่วทั้งซอกชั้นหนังสือ แต่ก็ไม่พบอยู่ดี

"หาเพื่อนเหรอ" ผมตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงจากด้านหลัง และเมื่อหันไป ก็ไม่มีใครอื่น นอกจากอาจารย์นาธัส

"ครับ อาจารย์เห็นบ้างไหม พอแยกกันตอนกลางวันก็ไม่เจอเลย" ผมถามด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ

"มีอะไรหรือเปล่า" ผมส่ายหน้าน้อยๆ และยิ้มให้อาจารย์

"เปล่าครับ ผมแค่จะชวนเพื่อนไปซื้อของ"

"จะติดรถฉันไปไหม ฉันก็กำลังจะไปซื้อของเหมือนกัน" ผมเลิกคิ้วขึ้นทันที และมองดูอาจารย์ที่รอฟังคำตอบ

"ผมเกรงใจ..."

"ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอหรือไง" อาจารย์พูดและยิ้มน้อยๆ ให้ผม

"ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ"

"งั้นก็ไปกันเถอะ มีหลายเรื่องที่เธออยากรู้ใช่ไหมล่ะ" ผมคิดในใจ นั่นเป็นเรื่องจริงที่ผมอยากถามอาจารย์ มีหลายสิ่งที่ผมสงสัย และอาจารย์ก็เหมือนจะไม่ค่อยยอมบอกผมตรงๆ

"ครับ" ผมตอบรับ และเดินตามอาจารย์ที่นำหน้าไป

พวกเราเดินมาที่หลังอาคารห้องสมุด ผมเพิ่งรู้นะว่าตรงนี้มีลานจอดรถอยู่ด้วย และรถก็มีจอดอยู่แค่คันเดียว เป็นรถสีดำรุ่นเก่า แต่ไม่ใช่เก่าแบบธรรมดา มันเหมือนรถรุ่นเก่าๆ ที่ดูสวยมาก คันนี้คงหายากและแพงน่าดู

"ขึ้นรถสิ" อาจารย์พูดและเรียกผมที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่ ผมพยักหน้ารับและขึ้นไปนั่งข้างๆ อาจารย์และคาดเข็มขัดเรียบร้อย

ผมมองอาจารย์ที่เอื้อมมือไปเปิดเพลงเบาๆ ภายในรถนั้นดูมืดอึมครึม และก็แปลกดี ต่างกับรถซินที่เป็นสไตล์ใหม่ๆ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ผมมองด้านนอกกระจกรถที่ดูเหมือนกำลังมีเมฆฝนก่อตัว ให้ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนอยู่กับซินเลยนะ

"เธอคงสงสัย ว่าฉันเป็นใคร" ผมหันไปมองอาจารย์ทันที ใช่แล้วล่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากรู้ ผมว่าอาจารย์รู้เรื่องพวกนี้มากสุดๆ และอาจารย์ก็ดูเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้

รถเคลื่อนออกจากลานจอดช้าๆ ไปตามถนนที่ผมไม่คุ้นชินนัก มันเหมือนทางลัด ทางที่มีแต่ต้นไม้ทั้งสองข้างทาง

"แน่นอนว่าฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าเธอ มองเห็นวิญญาณ และฉันก็รู้ว่าเธอเคยมีสัญลักษณ์ของซาตาน แต่ตอนนั้นฉันยังไม่รู้จักเธอ ฉันไม่รู้ว่าเธอตั้งใจมีมันหรือแค่เรื่องบังเอิญ"

"อาจารย์มองเห็นพวกมันไหมครับ พวกวิญญาน" ผมถามด้วยความสงสัย และมีความหวัง

"อย่างตัวที่นั่งอยู่ตรงนั้นใช่ไหม" ผมมองตามนิ้วมือของอาจารย์และก็ต้องสะดุ้งทันทีที่มองไปด้านข้างกระจกรถ

ผมขยับตัวด้วยความกลัว และพยายามไม่จ้องมองวิญญาณตนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ที่ข้างทาง

"อาจารย์ มองเห็น?" ผมหันมามองอาจาย์ ผมรู้สึกทั้งแปลกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอคนที่รับรู้เรื่องพวกนี้เหมือนกันกับผม มองโลกที่แสนน่ากลัวนี้ด้วยกัน

"ฉันศึกษาเกี่ยวกับด้านนี้"

"อาจารย์ เป็นหมอผีเหรอครับ" ผมถามในสิ่งที่คิดว่าใกล้เคียงที่สุด

"เรียกแบบนั้นแปลกๆ นะ แต่ก็ไม่เชิงละมั้ง" ผมยิ้มออกมาทันที เจอสักทีสินะ คนที่จะช่วยผมได้

"ผมอยากหายครับ ผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้" ผมพูดและทำหน้าเศร้า

"มันไม่ใช่โรคติดต่อหรอกนะ เธอเกิดมาเพื่อติดต่อกับสิ่งเหล่านั้น" ผมมองอาจารย์อย่างไม่เข้าใจ

"พวกมันมีแต่จะทำร้ายผม มันไม่เคยคุยกับผม" ผมพูดอย่างเศร้าใจ

"เธอเคยลองแล้วเหรอ" ผมส่ายหน้าไปมา

"ผมไม่ไหวหรอกครับ" ผมพูดและกอดตัวเองไว้

"งั้นเหรอ งั้นดูนี่" ผมมองอาจารย์ที่จอดรถข้างทาง ตอนนี้นั่นเริ่มมืดแล้ว และสองข้างทางก็มีเพียงแสงไฟสีส้มที่ส่องสว่างแก่รถที่กำลังวิ่งไปมา

ผมมองอาจารย์ที่นั่งนิ่งด้วยหัวใจที่สั่นไหว ผมรู้สึกว่ากระจกรอบๆ ตัวรถนั้นกำลังมีฝ้าทึบมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ผมขยับตัวด้วยความรู้สึกหวาดระแวง ขนบนร่างกายของผมค่อยๆ ตั้งชันขึ้นเหมือนรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะมา

"อ.อาจารย์" ผมเสียงสั่นและมองอาจารย์ที่ยังคงนั่งนิ่งๆ ตอนนี้ผมมองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว นอกจากไอน้ำที่เกาะอยู่บนกระจก

ตึ้ง! ครืดดด

ผมสะดุ้งสุดตัวทันที ปลดเข็มขัดและขยับตัวไปกอดแขนอาจารย์ไว้ ผมมองกระจกด้านข้างตัวผมที่มีรอยมือลากยาวไปบนไอน้ำนั้น

ผมตัวสั่น และมองรอยเล็บที่ค่อยๆ ปรากฎอยู่บนกระจก รอบๆ รถทั้งคัน

"อาจารย์" ผมเรียกอาจารย์อีกครั้ง แต่อาจารย์ก็ยังคงนั่งนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"แกต้องการอะไร" อาจารย์นาธัสเริ่มพูดออกมา ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ นี่อาจารย์กำลังถามใครงั้นเหรอ

"ฆ่าาา" ผมได้ยินเสียงตอบรับแหลมสลับต่ำ เหมือนดั่งคลื่นวิทยุที่ถูกสัญญาณแทรก

ผมก้มตัวลงและเริ่มกอดอาจารย์มากขึ้นไปอีก ผมกลัวมาก ผมไม่เคยชินกับเรื่องพวกนี้สักที ผมอยากออกไปจากตรงนี้

ผมสะดุ้งอีกครั้ง ผมในตอนนี้หลับตาแน่น และรู้สึกว่าผมได้ยินเสียงเหมือนกับภาษาอะไรสักอย่างที่แปลกๆ ลอยมาตามลม ผมเหลือบมองอาจารย์ที่นิ่งเงียบ แล้วเสียงเหล่านั้นมันมาจากไหนกันนะ

เสียงดีดนิ้วดังขึ้น พร้อมๆ กับเสียงเหล่านั้นที่ค่อยๆ จางหายไป และผมรู้สึกหายใจสะดวกขึ้นมากกว่าเดิม ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ และมองไปรอบๆ ตัวรถที่กระจกใส มองเห็นด้านนอกที่กำลังมีรถผ่าน และเสาไฟสีส้มตั้งตระหง่าน

"อย่ากลัว เธอแข็งแกร่งกว่ามันเยอะ" ผมมองอาจารย์ที่กำลังลูบหัวผมเบาๆ และส่งยิ้มให้

ผมรีบขยับตัวกลับมานั่งที่เดิม เพราะตอนแรกนั้นผมกอดอาจารย์แน่นจนคาดว่าอาจารย์น่าจะเกือบขาดอากาศหายใจ

"พูดง่ายแต่ทำยากครับ คลื่นที่พวกมันส่งเข้าสมองของผมมันทำให้ผมกลัว" ผมจ้องมองมือตัวเองที่กำลังสั่นน้อยๆ

"อาจารย์ ทำได้ยังไงกันครับ ไล่มัน" ผมหันไปมองอาจารย์ที่เริ่มขับรถไปต่อ

"ถ้าเธอตั้งสมาธิ และจิตใจไม่หวั่นไหว" ผมมองอาจารย์ที่กำลังยิ้มน้อยๆ

"ผมจะทำได้จริงๆ เหรอครับ" ผมถามด้วยความไม่มั่นใจ

"เธอเป็นคนพิเศษ" ผมจ้องมองอาจารย์ ผมเคยได้ยินคำๆ นี้มาแล้ว ซินบอกผม ว่าผมเป็นคนพิเศษเช่นกัน

"ผมเป็นแค่คนธรรมดา" ผมพูดและหลบสายตาของอาจารย์

"ในสายตาฉัน เธอไม่ใช่แบบนั้น" ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก อาจารย์พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ

"ขอบคุณครับ" ผมพูดและยิ้มให้อาจารย์

"คือ ผมถามได้ไหม" ผมพูดถามอาจารย์ต่อ

"ว่ามาสิ"

"คืนนี้ อาจารย์จะทำอะไรกับเจเหรอครับ ทำไมต้องเที่ยงคืน" ผมถามอาจารย์ด้วยความสงสัย

"ฉันพูดไม่ได้ แต่ถ้าเธออยากจะรู้ เธอก็ต้องมา" อาจารย์พูดและหันกลับไปขับรถตามเดิม

"อาจารย์ ควบคุมพวกผีได้ ใช่ไหมครับ" ผมถามอาจารย์อีก ในหัวของผมมีแต่ความสงสัย

"ก็คิดว่าได้"

"แล้วซาตานละครับ อาจารย์ทำได้ไหม"

"พวกมันไม่ใช่วิญญาณทั่วไป"

"มันมีพลังอำนาจ ผมรู้ครับ" ผมพูดตอบแทนอาจารย์

"พูดได้เลยว่าไม่อาจต่อต้านได้ ถ้าเธอไม่แข็งแกร่งจริงๆ" ผมตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์พูด

"ร่างกาย แข็งแกร่งเหรอครับ" ผมถามต่อ

" จิตใจ จิตวิญญาณและความเชื่อมั่น แต่ต่อให้มีสิ่งนั้น เธอก็อาจลุ่มหลงในรูปลักษณ์ของมัน ความเสแสร้ง เสน่หา หรือสิ่งต่างๆ ที่ถูกมันล่อลวง" ผมมองอาจารย์ที่ยิ้มมุมปากเล็กๆ

"สิ่งที่รออยู่ มีแต่ความตายเท่านั้นเหรอครับ"

"เธอจะติดกับดัก และอยู่กับความมืดชั่วนิรันดร์"

ผมจ้องมองออกไปยังข้างทางที่กำลังเคลื่อนผ่าน อยู่กับความมืดชั่วนิรันดร์งั้นเหรอ อยู่ด้วยกันตลอดไป งั้นสินะ

ผมมองนาฬิกาที่บอกเวลาค่ำแล้ว ผมแวะหาคุณยายและขอโทษที่กลับมาช้า ผมเดินขึ้นไปยังห้องนอนของผม

ผมเปิดประตู และเปิดไฟที่ด้านข้าง วันนี้ผมไปซื้อมือถือมาแล้ว ถ้าได้เจอซินอีก ผมจะต้องเอาเบอร์โทรซินมาให้ได้

แต่ผมที่เปิดไฟขึ้นนั้น ก็ต้องถอยหลังทันทีด้วยความตกใจ

"ซิน ทำไมนั่งอยู่มืดๆ แบบนี้ ผมตกใจนะ" ผมมองซินที่นั่งอยู่บนฟูกนอนของผมด้วยสีหน้านิ่งเฉย และมองตรงไปข้างหน้า

"ไปไหนมา" ผมวางกระเป๋าและเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ซินทันที

"ผมไปซื้อมือถือมา ดูสิ" ผมพูดพลางหยิบกล่องมือถือใหม่เอี่ยมออกมาชูให้ซินดู

"ไปกับมัน" ซินหันมาช้าๆ จ้องหน้าผมด้วยใบหน้าน่ากลัว ผมลืมนึกไปเลยว่าซินไม่ชอบอาจารย์

"คือ ผมแค่ติดรถอาจารย์ไป..." ผมจ้องมองซินที่ยังคงทำหน้าโกรธผมอยู่ "ซินนั่นแหละไปไหนมา ทำไมถึงทิ้งผมเอาไว้" ผมทำหน้าเคืองเล็กๆ และทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกซินดึงเอาไว้

"ห้ามไปเจอมันอีก" ผมดึงแขนตัวเองออก และส่ายหน้าไปมา

"เรื่องนี้เราเคยคุยกันแล้ว" ผมจ้องมองซินที่กำลังจ้องมองผมเขม็งเช่นกัน "อาจารย์เป็นเพื่อนผม อ.อื้ออ" ผมตัวแข็งทื่อทันทีที่ซินดึงผมเข้าไปและบดเบียดริมฝีปากเข้ามา ผมดันอกซินไว้แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น

ผมหลับตาลงและปล่อยให้คนตรงหน้าแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่ม มือผมกำเสื้อผ้าของซินไว้แน่น และเริ่มตอบรับรสสัมผัสนั้น

ผมไม่อาจต้านทานความรู้สึกนี้ได้เลย ผมชอบซินมาก ผมอยากสัมผัสคนคนนี้ ผมหลับตาพริ้ม รู้สึกถึงร่างกายของพวกเราที่กำลังสัมผัสแนบชิดกันละกัน

ผมค่อยๆ เอนตัวลงช้าๆ ไปตามแรงดัน ซินผละริมฝีปากออกและเริ่มจูบเบาๆ ไปตามซอกคอของผม ไล่ลงและขบเม้มมันจนผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

พวกเรากอดก่ายกันไปมาเหมือนกับไม่อยากพรากจากกัน  มือสอดประสานลูบไล้ไปมาทั่วร่าง ผมกอดคนเบื้องบนไว้และดึงขึ้นมาจูบสัมผัสริมฝีปากร้อนนั้นอีกครั้ง ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ นี่คือความลุ่มหลง หรือความรักกันแน่นะ

"ไม่ได้นะ" ผมจับแก้มซินเอาไว้ทันทีที่รู้สึกว่ากางเกงของผมกำลังรุ่ยลง ซินมองผมอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น

"คุณยายอยู่ข้างล่าง" ผมพูดบอกและดันตัวซินเบาๆ

"คืนนี้ไปที่ห้องของซิน" ผมหน้าแดงขึ้นเล็กๆ ที่ได้ยินแบบนั้น

"ผมไม่ไปหรอก" ผมพูดและขยับตัวออกจากซินที่ยังคงค่อมตัวผมอยู่

"ทำไม" ซินบางทีก็เหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจตัวเองมาก สีหน้าของซินนั้นเป็นสีหน้าของคนสงสัย มากกว่าไม่พอใจ

"คืนนี้ผม..." ใช่แล้ว ผมต้องบอกซิน ผมต้องบอกให้ซินมากับผม

"ซิน ผมขอร้องได้ไหม คืนนี้ไปที่ห้องสมุดที่มหา'ลัย..." ผมพูดและจับแขนซินไว้

"ห้ามไปหามัน ได้ยินไหม" ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่าซินคงพูดแบบนี้

"แต่ว่าเจกำลังจะไป ผมต้องไปกับเพื่อน" ผมพูดและลุกออกจากซิน เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว

"อยากตายหรือไง" ผมหันไปมองซินทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ตอนนี้ซินกำลังทำหน้าโกรธผมอีกแล้ว

"ซินจะฆ่าผมเหรอ" ผมมองซินและไม่ได้กลัวคำพูดนั้นเลยสักนิด ผมเดินมาอยู่ตรงหน้าซินด้วยสีหน้าจริงจัง

"ฆ่าผมสิ แต่ช่วยเบามือหน่อยนะ ผมไม่อยากเจ็บ" ผมพูดและยิ้มให้ซินที่กำลังทำคิ้วขมวดมุ่น พอเห็นซินเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่กลัวซินเลยสักนิด

"ผมชอบซิน" ผมพูดบอกซินเบาๆ และกุมมือซินเอาไว้ ซินไม่ได้พูดอะไร แต่ทำแค่เพียงจ้องมองผมเท่านั้น

"ถ้าซินไม่ให้ผมไป ผมก็จะไม่ไป แต่ผมขอร้องอะไรอย่างได้ไหม ผมเป็นห่วงเพื่อนมาก ผมไม่อยากให้เพื่อนไปคนเดียว" ผมพูดบอกซิน

"หมอนั่นไม่ได้เป็นอะไรอีกแล้ว" ผมขมวดคิ้วทันที่ที่ได้ยินแบบนั้น

"หมายความว่ายังไง"

"บอกหมอนั่นว่าอย่าไป แค่นั้น" ซินพูดเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจจะพูด

"ผมบอกไม่ได้ ผมไม่รู้จะติดต่อเจยังไง" ผมพูดบอกซินด้วยสีหน้าจริงจัง

"จะไปด้วยก็ได้" ผมยิ้มให้ซินทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดซินก็ยอมผมแล้ว

"แต่คืนนี้ไวท์ต้องไปกลับไปที่ห้องของซิน" ผมเลิกคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"มีข้อต่อรองซะด้วย" ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ให้ซิน

"ก็ได้ ขอบคุณนะ" ผมยิ้มและลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ห้องของซินงั้นเหรอ ผมรู้สึกยังไงก็ไม่แน่ใจ ผมนั้นอยากไปแน่นอนอยู่แล้ว ผมอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับซิน แต่ผมที่ไปคราวที่แล้วนั้น ก็แทบจะแบบว่า...

ผมหน้าแดงขึ้นน้อยๆ แล้วคราวนี้ ผมจะรอดกลับมาแบบที่เป็นตัวผมตอนนี้หรือเปล่านะ

นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่มั่นใจเอาซะเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:28:03 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปริศนาก็ยังคงเป็นปริศนา

รอเวลาที่ปริศนาจะกระจ่าง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาล่ะซิ ชักเป็นห่วงเจแล้วซิ  :hao5:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกกกกกกกค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด