In The Shadows' เงาหลอน ซ่อนรัก '[YAOI][#47 ปีกสีขาวที่หวนคืน][END](12/8/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: In The Shadows' เงาหลอน ซ่อนรัก '[YAOI][#47 ปีกสีขาวที่หวนคืน][END](12/8/63)  (อ่าน 22357 ครั้ง)

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 6 ขอแค่อยู่เคียงข้าง


ผมยังคงยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองซินที่จ้องผมเขม็งกลับมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่ยังไงก็เถอะ ผมดีใจมากจริงๆ หวังว่าซินจะไม่ได้มาหลอกเป็นเพื่อนกับผมใช่ไหม แต่ถึงจะทำแบบนั้น แล้วซินจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ ก็ผมน่ะ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง

"เอ่อคือ งั้นไว้เจอกันนะ ผมขอตัวก่อน" ผมพูดบอกซินและชี้เข้าไปยังห้องนอนของผม เพื่อจะบอกซินว่าผมจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว ให้เขากลับบ้านไปได้แล้ว ซินคงเข้าใจใช่ไหม

ผมค่อยๆ ไขกุญแจ และเปิดประตูออกพลางเดินเข้าไปข้างใน

"แคบ" ผมสะดุ้งทันที่ที่ได้ยินเสียงซิน เป็นอันชัดเจนว่าซินไม่ได้เข้าใจที่ผมจะสื่อแม้แต่น้อย ผมมองซินที่เดินตามผมเข้ามา เดินไปรอบๆ และมองดูทุกสิ่งในห้องด้วยใบหน้านิ่งๆ

"ซิน พักอยู่ที่ไหนเหรอ" ผมวางกระเป๋าและนั่งลงบนฟูกนอน เอาเถอะ ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ผมคงไม่กล้าไล่ซินหรอก

"ไกลจากที่นี่" ซินไม่พูดเปล่าแต่กำลังเปิดตู้และรื้อเสื้อผ้าของผม

"ซิน แล้วซินไม่กลับบ้านหรอ ดึกแล้วนะ" ผมคว้าแขนซินและดึงให้มานั่งลงข้างๆ ทำไมถึงซนแบบนี้ แล้วนี่คงไม่คิดจะนอนนี่จริงๆ ใช่ไหม

"ไม่มี" ผมขมวดคิ้วมองซินที่ตอบไม่ตรงคำถาม แต่กำลังงึมงำอะไรแปลกๆ

"ซิน พูดอะไรเหรอ"

"อยู่คนเดียว ไม่กลัวหรือไง" ซินเริ่มยิ้มน้อยๆ อีกครั้งพลางจ้องมองผม

"ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก คือ ถ้ามีผมจะรู้น่ะ" ผมพูดเบาๆ ด้วยความมั่นใจ เพราะผมไม่เคยเจอผีหรืออะไรแปลกๆ ภายในห้องนี้

"งั้นเหรอ งั้นก็ ไปก่อนนะ" อยู่ๆ ซินก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู อะไรของเขากันนะ เหมือนอยู่ๆ ก็อยากจะเข้ามา แล้วตอนนี้ก็รีบหนีออกไป

"งั้น เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะ" ผมทำท่าจะลุกขึ้นตามซิน

"ไม่ต้อง แล้วเจอกัน" ซินหันมาพูดบอกผมและปิดประตูเมื่อเดินออกไปจากห้องแล้ว

ภายในใจลึกๆ ของผมรู้สึกกลัว ผมไม่แน่ใจเลยว่า ผมจะได้พบกับซินอีกไหม ที่ซินบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับผม

นั่นเป็น...เรื่องจริงหรือเปล่า

ผมค่อยๆ ลุกขึ้น และตัดสินใจว่าจะออกไปหาซิน และขอเบอร์มือถือไว้น่าจะดีกว่า

ผมหยิบกระดาษและปากกา พลางเดินไปที่หน้าประตู ผมนั้นไม่มีมือถือ เพราะผมไม่ค่อยมีเงิน และคงไม่มีใครอยากโทรหา ผมเลยไม่ได้เก็บเงินซื้อมัน

ก็อกๆๆ

ผมหยุดชะงักค้างทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู สงสัยซินคงจะลืมอะไรแล้วกลับมาใช่ไหม ผมที่คิดแบบนั้น ก็เอื้อมมือออกไปเปิดประตูทันที

"ซิน..." แต่ผมที่คิดว่าจะพบซินอยู่หน้าประตูนั้น กลับมีเพียงความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้า



ผมตื่นนอนในตอนเช้าด้วยความอ่อนเพลีย ผมเฝ้าแต่หวาดระแวงทั้งคืนเรื่องเสียงเคาะประตูนั่น มันชัดเจนมาก นี่ผมถูกผีหลอกอีกแล้วสินะ

ผมลงมาช่วยคุณยายเปิดร้านเหมือนทุกทีและเดินทางไปยังมหา'ลัยเพราะมีเรียนเช้า วันนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเมื่อวาน วิชาที่ผมต้องเจอกับพวกที่ชอบแกล้งผม มันทำให้ผมไม่อยากที่จะมาเรียน แต่ผมก็ต้องอดทน เพราะว่าผมอยากที่จะเรียนให้จบ เพื่อที่จะได้ทำงานดีๆ สามารถดูแลตัวเองและคุณยายได้

ผมมาถึงห้องเรียน และขึ้นไปนั่งตรงที่ประจำของผม เปิดประเป๋าหยิบหนังสือออกมาเพื่อเตรียมเรียนเหมือนเช่นเคย

"วันนี้ก็หอมเหมือนเดิม" ผมสะดุ้งทันทีที่รู้สึกว่ามีคนเอาหน้ามาใกล้ๆ คอของผม และผมรู้ได้ในทันทีว่าใคร

"เมื่อไหร่จะมาหอเต้ยล่ะ" เต้ยเกาะเก้าอี้ด้านหลังผม และชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมรู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

"ทำเป็นเล่นตัวฉิบหาย อยากมีเพื่อนไม่ใช่เหรอ เพื่อนกูนี่เสนอตัวเป็นยิ่งกว่าเพื่อนเลยนะโว้ย คิดดีๆ" แมนนั่งลงข้างๆ และถีบเก้าอี้ที่ผมนั่ง

"ผมมีเพื่อนแล้ว" ผมพูดเบาๆ และพยายามไม่สนใจพวกเขา

"ถรุยยย ฮ่าๆ ใครจะอยากเป็นเพื่อนมึงว่ะ นอกจาก...ผี" ต้องนั่งลงอีกข้างของผม และกระซิบคำว่าผีข้างๆ หูผม

"ผมมีแล้วจริงๆ" ผมพูดและเก็บหนังสือพยายามจะลุกหนี แต่ก็ถูกจับไหล่เอาไว้

"คนแก่นั่นน่ะ ยายของมึงเหรอ เป็นปอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าๆ" ผมตกใจทันทีที่ได้ยินแมนพูดแบบนั้น พวกนี้รู้ได้ยังไงกัน

ผมรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก ไม่เพียงแต่ผมที่ถูกคุกคาม แบบนี้คุณยายก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วยก็ได้

"คุณยายท่านแก่แล้ว อย่าไปยุ่งเลยนะ" ผมพูดกับแมนกึ่งขอร้อง

"งั้นแปลว่า คืนนี้จะมาหาเต้ยที่ห้องเหรอ" เต้ยพูดขึ้นทันทีพลางหัวเราะขำ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมไปก็มีแต่ไปตาย

"หลบไป" เสียงของผู้ที่มาใหม่ทำให้ทุกคนตกใจ ผมนั้นถึงกับลุกขึ้นยืน หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เป็นส่ำ ทำไม ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ผมดีใจเหลือเกิน ดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา

"มึงมาจากไหนวะ" ต้องลุกขึ้นหันไปหาซินที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าหาเรื่อง

"ตรงนั้นน่ะ จะเรียนไหมคะนักศึกษา อย่าให้อาจารย์เหลืออดนะ" อาจารย์ประจำวิชาพูดขึ้นทันทีที่เห็นเหมือนนักศึกษากำลังจะมีเรื่องกัน

"เดี๋ยวมึงเจอกูแน่" ต้องพูดกับซินและดึงเพื่อนให้เดินออกไป

ผมยังคงยืนอึ้งตาโตมองซินที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ผม

"ม.มาได้ยังไงกัน" ผมยิ้มกว้างมองซินที่ใส่ชุดนักศึกษา กางเกงยีนสีดำ พอมองแบบนี้แล้วก็ดูอายุพอๆ กันจริงๆ

"ก็มาเรียนไง" ซินพูดและยกยิ้มมุมปาก

"ซินย้ายมาเหรอ คณะอะไร" ผมถามด้วยความดีใจ

"เหมือนไวท์นั่นแหละ" ซินเท้าคางจ้องมองผมแบบสบายๆ

"กลางเทอมแบบนี้ แปลกจัง" ผมพูดด้วยความไม่เข้าใจ แต่ว่า ผมดีใจจัง ดีใจที่สุด

"ไม่ดีเหรอ"

"ดีสิ ดีมากเลย" ผมยิ้มกว้าง ผมจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว ผมมีความสุขมากจริงๆ

ผมเหลือบมองเก้าอี้แถวถัดไปที่มีสามคนนั้นนั่งอยู่ ทั้งสามคนดูโกรธแค้นซินมาก ผมจะทำยังไงดีนะ ผมกลัวซินเจ็บตัว

"สามตัวนั่น เพื่อนเหรอ" ซินถามและยังคงจ้องมองผมเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

"เปล่า พวกนั้นชอบแกล้งผมน่ะ" ผมพูดและทำหน้าหงอยๆ

"งั้นก็แกล้งมันกลับสิ" ซินยื่นหน้ามาใกล้ผมและพูดเบาๆ

"เขาเป็นคนไม่ดี ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นคนไม่ดีตามนี่นา" ผมพูดตอบซินและเอียงตัวหลบจมูกโด่งของซินที่มาใกล้แก้มผมเหลือเกิน มันทำให้ผมรู้สึกร้อนแปลกๆ

"คิดแบบนี้สิ มันทำให้ไวท์เจ็บปวดไม่ใช่เหรอ เพราะงั้น ต้องสั่งสอนมัน ให้มันรู้ว่าถ้ามันทำอะไรที่ไม่ดี มันจะต้องเจอกับอะไร" ซินยังคงพูดต่อไปข้างๆ หูผม

"เรียนเถอะ" ผมยิ้มและจับหน้าซินให้หันไปมองข้างหน้าที่อาจารย์กำลังสอน ซึ่งซินก็จ้องมองไปข้างหน้าสักพัก และไม่นานก็หันกลับมาจ้องผมอีกครั้งตลอดเวลา ทำตัวแบบนี้ตลอดเลย ทำให้ผมรู้สึกประหม่านิดๆ ไม่เข้าใจว่าจะเขินอะไร

ผมมองไปรอบๆ ห้องและสังเกตได้ว่า ผู้คนมากมายภายในห้องเรียนตอนนี้ ต่างแอบเหลือบมองมาที่ผมกับซินอย่างสนใจใคร่รู้ ก็ไม่แปลกหรอกมั้ง เพราะซินน่ะหน้าตาดีสุดๆ ไปเลยนี่นา

ผมกลับมามองคนข้างๆ ผม ซินที่ใส่เสื้อนักศึกษา แต่รองเท้ากลับเป็นบูธสีดำ กำไลข้อมือสีดำเยอะเต็มแขน และเจาะหูอีกด้วย ผมว่าถ้าเดินสวนอาจารย์ใกล้ๆ คงต้องโดนสวดกันมั่งแหละงานนี้ แต่ก็แบบว่า เท่จริงๆ นะ ผมอยากดูดีและมีความมั่นใจแบบนี้บ้างจัง

ไม่นานเมื่อชั่วโมงเรียนสิ้นสุดลง ผมเก็บหนังสือใส่กระเป๋า และมองดูซินที่ยืนบิดขี้เกียจไปมาด้วยท่าทีเบื่อๆ ซินไม่มีกระเป๋าหรือถืออะไรมาสักอย่าง นี่นายมาเรียนแน่หรือเปล่าเนี่ย

"มึงเป็นใคร" ผมที่กำลังจะเดินออกจากเก้าอี้ก็ต้องชะงัก และจ้องมองซินที่ถูกต้องกระชากเสื้ออยู่

"อย่านะ" ผมตกใจและรีบเข้าไปดึงซินออกมาจากมือนั้น ตอนนี้ผู้คนออกไปจากห้องเกือบหมดแล้ว ทำให้คนพวกนี้กล้าเข้ามาหาเรื่องต่ออีก

"ผัวมึงเหรอ" แมนพูดและจ้องหน้าซินเอาเรื่อง

"เปล่า นี่เพื่อนผม" ผมมองซินที่ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด ซินยังคงทำสีหน้าเบื่อๆ และมองไปรอบๆ อย่างไม่สนใจคนสามคนนี้

"กวนตีนมากเหรอมึง" เต้ยไม่พอใจท่าทีของซิน เดินเข้ามาหา พลางง้างหมัดมาแต่ไกล

ผั๊วะ!

ผมที่เห็นท่าไม่ดีก็เข้าไปขวางข้างหน้าซินเอาไว้ และก็โดนชกเข้าเต็มๆ ตามคาด ผมกุมแก้มตัวเองไว้หันหน้าตามแรงที่ถูกชก

"เข้ามาขวางทำไมวะ" เต้ยพูดและดึงผมเข้าไปหาเพื่อมองหน้าผมใกล้ๆ แต่ผมก็ยื้อตัวเอาไว้

"ผมไม่เป็นไร พอใจหรือยัง" ผมผลักอกเต้ยออกไป

ซินยืนมองมาที่ผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้พูดอะไร หรือคิดจะเข้ามาช่วย

"ไปเหอะ ก็แค่ไอ้หมาขี้แพ้ ถุย" แมนดูถูกซินก่อนจะกอดคอเพื่อนเดินออกไป และต้องที่ยืนจ้องหน้าซินสักพัก ถ่มน้ำลายลงพื้นและเดินตามเพื่อนไป

"เจ็บไหม"

"ผมชินแล้ว" ผมยิ้มให้ซินเพื่อบอกว่าผมไม่เป็นไร

"ทำไมถึงยังยิ้มได้ ไม่อยากเอาคืนบ้างเหรอ" ซินเดินเข้ามาหาผม เข้ามาใกล้และกระซิบที่หูของผม "ถ้าไวท์บอกว่าจะเอาคืน ซินจะช่วย เล่นพวกมันให้หนัก" ไม่รู้ทำไม แต่เสียงของซินราวกับดังกังวานอยู่ในหู และผมก็ไม่ค่อยชอบรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวของซินเลย

"ถ้ามัวแต่จองเวรกัน มันก็จะไม่จบสิ้นสักที" ผมไล่เสียงสะท้อนนั้นออกจากหัว และเดินออกมาจากที่นั่ง เดินลงบันไดเพื่อไปยังประตูทางออก

"โกรธเหรอ" ซินถามขึ้นพลางเดินตามมาข้างๆ ผม

"โกรธใครเหรอ คนที่ต่อยผมเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย

"ไม่ใช่" ผมหยุดเดินและขมวดคิ้วมองซิน

"โกรธซินหรือเปล่า" ซินพูดต่อไปด้วยใบหน้านิ่งๆ ผมยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ทำไมจะต้องโกรธด้วยล่ะ ซินเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องช่วยผม ไม่ต้องพยายามทำอะไรเพื่อผมทั้งนั้น ขอแค่ไม่ทิ้งผม ขอแค่อยู่ข้างๆ ผมแบบนี้ก็พอ ซินทำได้ไหม" ผมบอกซินด้วยความจริงใจ ผมไม่กลัวเลยที่จะต้องเจ็บปวด ขอแค่ ไม่ทิ้งผมไปไหน อยู่กับผม ขอแค่เพียงอยู่เคียงข้างผมเท่านั้น

"งั้นเหรอ" ผมพยักหน้ายิ้มให้ซินและเดินต่อไป แต่เมื่อเดินห่างมาสักพักนั้น ผมก็พบว่าซินไม่ได้เดินตามมา แต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

"ซิน มาเถอะ หาข้าวกินกัน" ผมเดินกลับไปหาซินและดึงแขนให้ซินเดินตามมา

ผมไม่ได้รู้สึกแย่เลยสักนิดที่ถูกต่อยหรือถูกทำร้าย เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ เป็นวันที่ผมรู้สึกไม่เหงา ทุกอย่างรอบตัวผมนั้นดูสดใสไปหมด เพราะตอนนี้ผมมีคนอยู่ข้างๆ แล้ว

และผมจะไม่ต้องเดินคนเดียวอีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:15:12 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อย่างไง ก็คงคิดเหมือนเดิมว่าซินแปลก ๆ อ่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ลึกลับจริง ๆ

ทั้ง อาจารย์นาธัส  และห้องสมุดเก่า

รวมไปถึง ซิน ช่างให้ความรู้สึกประมาณ ยมทูต ยมบาล ไรเทือกนั้น

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 7 สิ่งที่ต้องตอบแทน


ผมพาซินเดินมายังโรงอาหารของคณะ ปกติแล้วตัวผมนั้นก็ค่อนข้างเป็นจุดสนใจของทุกคนอยู่แล้วในฐานะตัวซวยหรือคนบ้าประจำมหาวิทยาลัย แต่เมื่อมีซินอยู่ข้างๆ พวกเราก็ยิ่งเป็นจุดเด่นไปใหญ่

ผมเหลือบมองคนที่เดินผ่าน คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ และคนที่กำลังซื้อข้าว ทุกคนต่างหันมามองพวกเราและส่งเสียงซุบซิบกันไม่ขาดสาย บางทีการตัดสินใจพาซินมากินข้าวที่นี่อาจจะผิดสินะ

"คือ ไปกินที่อื่นกันไหม" ผมที่กลัวซินจะอึดอัดก็ถามซินด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อผมมองซินแล้ว ผมก็คิดว่าผมนั้นคิดมากไปเอง เพราะดูซินจะทำตัวสบายๆ มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"ทำไมล่ะ" ซินที่เมื่อกี้ทำสีหน้าเรียบๆ นั้นก็หันมามองผมด้วยรอยยิ้มที่ซินชอบทำ ผมค่อนข้างแปลกใจเล็กๆ แต่ก็เรื่มจะชินแล้ว ซินดูเป็นคนที่เข้าใจยาก ผมอยากรู้จริงๆ ว่าซินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

"ไม่มีอะไร กินนี่แหละ"

"ใครวะ คนหรือเปล่าเนี่ย หล่อโคตร"

"หล่อคนนึง หล่อแต่บ้าอีกคนนึง ฮ่าๆ"

"มึงไปเตือนเขาดิ เขาอาจไม่รู้"

ผมนั่งลงที่โต๊ะว่างๆ ตัวหนึ่งและยิ้มให้คนที่กำลังนินทาพวกเราอยู่

"สวัสดีครับ" ผมพูดทักทายคนที่มองผมอยู่ ผมอยากเป็นมิตรกับทุกคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากเป็นมิตรกับผมเลยก็ตาม

"ทำไมถึงพูดดีกับคนที่ไม่ดีกับเราล่ะ" ซินถามและจ้องหน้าผมแบบทุกที

"เพราะว่าเขาก็แค่เข้าใจผิดน่ะสิ ถ้าพวกเราปรับความเข้าใจกันได้ ต่อไปเราก็อาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้" ผมพูดและยิ้มให้ซินอย่างเศร้าๆ

"ทำไมไม่ลองใช้ความเข้าใจผิดนั้น ทำให้ทุกคนกลัวดูล่ะ บางคนอาจจะชอบความสามารถของไวท์ก็ได้" ผมขมวดคิ้วงงๆ

"ความสามารถอะไรเหรอ"

"ไวท์มองเห็นพวกผีไม่ใช่เหรอ ลองใช้ประโยชน์จากพวกมันดูสิ" ผมตกใจทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"แค่เห็นก็เข่าอ่อนแล้วล่ะ ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้น พวกมันมีแต่หลอกให้ผมกลัว อย่าหวังว่าจะคุยกันรู้เรื่องเลย"

"ก็ลองดูสิ ถ้าเราข่มมันได้ มันก็ทำอะไรไม่ได้" ซินยังคงพูดต่อไป และยื่นหน้าเข้ามาจ้องผมใกล้ๆ เหมือนที่ชอบทำ

"ซินก็เห็นพวกมันเหรอ"

"ไม่" คำพูดและสีหน้าของซินดูไม่เข้ากันสักนิด เหมือนกำลังโกหกแบบให้รู้ว่าโกหก แต่ถ้าซินว่าแบบนั้น ผมก็ไม่ควรเซ้าซี้ถาม

"ถ้าซินมองไม่เห็นก็พูดได้สิ ผมเจอมาขนาดนี้ยังทำใจให้ชินไม่ได้เลย"

ผมยิ้มน้อยๆ ทันทีที่พูดจบ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมสามารถพูดเรื่องอะไรแบบนี้กับคนอื่นได้อย่างสบายใจ ผมรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ แต่ก็กลัวเหลือเกิน ว่าความสุขนี้จะจางหายไปเหมือนดั่งที่ผ่านมา

"ขอบคุณนะ" ซินดูประหลาดใจที่อยู่ๆ ผมก็พูดว่าขอบคุณ แต่ผมก็ไม่สนหรอก ผมเอื้อมมือไปจับมือซินเอาไว้ และจ้องเข้าไปในแววตาของคนตรงหน้า

"คือ ขอโทษนะคะ ตรงนี้มีคนนั่งไหม" ผมตกใจทันทีที่มีผู้หญิงเข้ามาทัก และแน่นอนว่าไม่ได้ทักผม แต่เป็นซิน

ผมมองเธอและมองซินที่ไม่ได้สนใจคนที่มาใหม่แต่ยังคงจ้องมองมือของผม ทำให้ผมนึกได้ว่า ผมควรจะปล่อยมือซินได้แล้ว แต่ผมที่กำลังจะดึงมือออกก็รู้สึกว่าทำไม่ได้ เพราะซินนั้นกำลังกำมือผมกลับ และแน่นมาก

"ซิน" ผมเรียกซินเบาๆ จนซินละสายตาจากมือมามองหน้าผม "เขาถามน่ะ" ผมบอกและชี้ไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ซิน

"มีคนนั่งไหมคะ" ผู้หญิงคนนั้นถามอีกครั้งด้วยรอยยิ้มหวาน

"ไม่" ซินพูดและหันมามองผมตามเดิม

"คือ เขาเป็นแบบนี้แหละครับ เชิญครับ" ผมยิ้มให้สาวคนนั้น แต่เธอก็แค่เหลือบมองผมและทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด

"พอดีเอมมารอเพื่อนค่ะ โต๊ะอื่นเต็มหมดเลย รบกวนด้วยนะคะ" ผมมองไปรอบๆ โรงอาหารทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น และก็พบว่ายังมีหลายโต๊ะที่ยังว่างอยู่

"ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะคะ อยู่คณะไหนเหรอ" เธอยังคงพยายามพูดกับซินต่อไป

"พวกเราอยู่คณะมนุษย์ครับ" ผมพูดแทนซินที่ยังคงจ้องมองผมอยู่

"เหรอ" เธอหันมาหาผมและหุบยิ้มทันทีที่มองหน้าผม

จริงๆ ผมนั้นก็รู้ดีว่าทำไมเธอถึงเข้ามาคุยกับซิน เธอคงจะคิดว่าซินหล่อดีสินะ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก แบบนี้ผมจะได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้นไปด้วย พวกเธออาจจะกล้าเข้ามาหาผมมากขึ้นก็ได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว

"ชื่ออะไรเหรอคะ เราชื่อเอมนะ อยู่มนุษย์เหมือนกัน" เธอหันไปคุยกับซินอีกครั้ง ผมว่าเธอพยายามดีนะ และผมไม่เข้าใจซินที่นั่งเงียบเฉยๆ อยู่ได้ทั้งๆ ที่มีคนมาพูดอยู่ใกล้ๆ หูแบบนั้น

"ซิน คุยกับเพื่อนสิ" ผมบอกซิน ที่ยังคงนั่งนิ่งๆ จ้องผมตลอดเวลา

ซินเริ่มหันไปมองผู้หญิงข้างๆ ทันทีที่ผมบอก

"ชื่อซิน เป็นเพื่อนไวท์" ผมยิ้มออกมาทันทีที่ซินพูดจบ รู้สึกดีจังเลยนะ

"ซินเพิ่งย้ายมาใหม่สินะ เลยไม่รู้" เธอพูดกับซินและเหลือบมองผมด้วยหางตา

"เราไปนั่งตรงนั้นกันไหมคะ เดี๋ยวเพื่อนๆ เอมก็มา" เธอพูดชวนซินต่อไปโดยไม่สนว่าผมจะรู้สึกอย่างไรเลยสักนิด

ผมยิ้มอย่างเศร้าๆ ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด นั่นสินะ ผมมันคิดง่ายเกินไป คนที่เข้ามาไม่ใช่ว่าจะยอมรับผม และอยู่ตรงนี้กับผมได้ แต่พวกเขาก็แค่อยากจะพาซิน ออกไปจากผมเท่านั้นเอง

"ซิน จะไปก็ได้นะ ผมไม่เป็นไร" ผมพูดและยิ้มให้ซิน พยายามเก็บซ่อนความเสียใจไว้ ผมจะไม่ฉุดรั้งใคร ผมอยากให้ทุกคน มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง

"ทำไมถึงต้องไป" ซินพูดเสียงเย็นด้วยสีหน้าเรียบๆ และหันไปมองเอมเองเป็นครั้งแรก "ตัวเธอกลิ่นเหมือนหนอนไชศพเลย" ซินพูดต่อไปและหันไปยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นเหมือนว่าคำพูดของเขาที่พูดออกไปเป็นคำชม

"ซิน!" ผมตกใจแทบจะรีบตะครุบปากซินไว้

"ไอ้บ้า คนบ้าสองคนอยู่ด้วยกันได้" เอมร้องแหวและรีบเก็บของเดินหนีไปทันที ผมรู้สึกแย่แทนเธอแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง

"ซิน พูดแบบนั้นไม่ดีเลยนะ" ผมตีมือซินเบาๆ แทนเพราะไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น

"ทำไม ก็แค่อยากอยู่กับไวท์" ผมหน้าเหวอแต่ก็แอบยิ้มออกมาอย่างดีใจ อารมณ์ตอนนี้มันตีกันมั่วไปหมด

"โอเค รู้แล้ว แต่ว่าต่อไปห้ามพูดแบบนั้นอีกนะ เดี๋ยวผมไปซื้อข้าวให้" ผมพูดพลางลุกขึ้น ดีใจออกนอกหน้าเกินไปหรือเปล่านะ

"ไม่กินหรอก"

"อ่าวงั้นผมไม่กินก็ได้"

"งั้นกิน" ซินพูดและลุกขึ้นจับมือผมเดินไปยังร้านข้าวที่อยู่ใกล้ๆ บางทีผมก็ไม่เข้าใจการกระทำของซินเลย แต่ว่า ไม่เป็นไร ต่อจากนี้เราก็จะค่อยๆ เรียนรู้กันและกัน ผมมีความสุขจัง

แต่ดูหมือนความสุขจะอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อถึงหน้าร้านข้าว ผมล้วงเงินในกระเป๋าด้วยความห่อเหี่ยวในใจ นี่ผมจะอยู่ได้อีกกี่วันกันนะ สงสัยต้องหางานเพิ่มแล้ว

"จะกินอะไรก็กิน จะจ่ายให้" ผมมองซินด้วยความประหลาดใจ นี่ผมถูกอ่านใจอีกแล้วเหรอ

"คือ ไม่ต้องหรอก ผมยังพอมี"

"มีเท่าไหร่" ซินพูดและยิ้มน้อยๆ มองผม

"เอ่องั้น เดี๋ยวคืนให้นะ" ผมรู้สึกผิดลึกๆ บางทีนี่ก็เป็นอีกอุปสรรคของผม ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมคงมีแต่จะเอาเปรียบซิน

"ที่บอกว่าจะคืน ไม่ต้องคืนด้วยเงินก็ได้นะ" ผมที่กำลังซึมๆ ก็ถึงกับตื่นทันที

"ถ้าไม่ใช่เงิน แล้วคืนด้วยอะไรเหรอ" ผมถามซินที่กำลังเริ่มยิ้มแบบที่ผมไม่ชอบอีกแล้ว

"วิญญาณ"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:15:56 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
จะใช่อย่างที่คิดไหมน้อ?

รอตอนต่อไป

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งั้นซินก็ยิ่งกว่าผีนะซินะ เป็นท่านยมฯ หรือเปล่านะ  :hao4:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 8 ความมืดที่เริ่มก่อตัว


พวกเรายังคงอยู่ที่โรงอาหารของคณะ ผมมองซินที่ไม่ค่อยจะแตะข้าวสักเท่าไหร่ แปลกดีนะ เพราะซินนั้นดูไม่ใช่คนรูปร่างผอม แต่ออกแนวนักกีฬาด้วยซ้ำ สงสัยตอนนี้จะอิ่มละมั้ง

ผมนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ที่ซินล้อเล่นกับผม จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดมากเท่าไหร่ แต่ผมแค่กลัว เพราะเรื่องแบบนี้สำหรับผมค่อนข้างจะซีเรียสมาก ผมมองดูซิน สังเกตทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ ซินนั้นไม่ใช่ผีแน่นอน เพราะทุกคนมองเห็นและพยายามเข้ามาทักซินไม่ขาดสาย หรือว่า จะมีสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากผี ที่ผมไม่รู้อีกนะ

"เดี๋ยวกินข้าวแล้ว เราไปห้องสมุดกันนะ" ผมมองดูซินที่กำลังเขี่ยข้าวในจานไปมา "ไม่ค่อยหิวเหรอ"

"ไม่ค่อยอยากกินน่ะ" ซินพูดและรวบช้อนส้อมวางในจาน

"งั้นเราไปกันเถอะ ก่อนจะเข้าเรียนต่อ"

"คืนนี้ต้องไปทำงานที่คลับนั้นอีกหรือเปล่า"

"ใช่ ทำไมหรอ" พวกเราคุยกันไปและเริ่มเดินออกไปจากโต๊ะ เพื่อไปยังห้องสมุด

"มีที่อื่นอยากแนะนำ เงินดีกว่านะ"

"จริงเหรอ แต่ว่า ผมเกรงใจพี่เจ้าของร้านน่ะ เค้าอุตส่าห์รับผมทำงาน" ผมคิดมาก เพราะว่าพี่เจ้าของร้านเดิมนั้นใจดีรับผมเข้าทำงาน ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมมีชื่อเสียแค่ไหน ผมซาบซึ้งใจมาก และอยากทำงานให้พี่เขาต่อไปถึงเงินจะน้อยนิดก็ตาม

"เหรอ งั้นก็ตามใจ แต่คงได้แค่คืนนี้แหละ" ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ผมมองหน้าซินที่ยิ้มแปลกๆ และเดินเข้ามาหาผมใกล้ๆ

"ข้าวติดแก้ม" ซินยื่นมือมาลูบแก้มผมเบาๆ ผมมองซินที่ยื่นหน้ามาใกล้ๆ พลางเอี้ยวตัวหลบนิดๆ แบบนี้มันแปลกนะมีผู้ชายด้วยกันที่ไหนเขาทำแบบนี้กันล่ะ

"เอ่อคือ ขอบคุณนะ" ผมดึงมือซินออกจากแก้มผมด้วยใบหน้าร้อนผ่าว แล้วทำไมผมต้องเขินด้วยนะ

"ไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน" ผมดึงมือซินให้เดินตามผมไป ผมอยากพาซินไปอวดอาจารย์ ว่าผมนั้นก็มีเพื่อนแล้วนะ ผมอยากรู้ว่าอาจารย์จะพูด จะทำหน้ายังไง

ผมพาซินเดินมาตามทางเดินเล็กๆ ที่ทอดผ่านสวนร่มรื่น วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส สายลมพัดโชยอ่อนๆ ทำให้รู้สึกเย็นชื่นใจ

ผมมองตรงไปข้างหน้า ผมเกือบจะถึงแล้ว แค่ผ่านประตูรั้วนั้นเข้าไปก็จะเห็นตัวตึกไม้หลังเก่าแล้วล่ะ

"ไวท์" ผมสะดุ้งน้อยๆ และหยุดเท้าทันทีที่ซินส่งเสียงเรียกมาจากด้านหลัง เพราะเสียงของซินนั้นไม่เหมือนปกติ มันทำให้ผมตกใจไม่น้อย

"มีอะไรเหรอ" ผมหันไปมองซินที่กำลังมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ซินดูเคร่งเครียด ผมไม่เคยเห็นซินเป็นแบบนี้มาก่อน

"อย่าเข้าไปในนั้น" ซินหันมามองหน้าผม และพูดด้วยน้ำเสียงบังคับ ผมขมวดคิ้วมองซินอย่างไม่เข้าใจ และเดินเข้าไปหาซินที่ยืนอยู่

"ทำไมล่ะ ซินไม่สบาย..."

"ห้ามเข้าไปในนั้น เข้าใจไหม!" แต่ผมที่ยังพูดไม่ทันจะจบก็ต้องตกใจทันที เพราะว่าซินนั้นอยู่ดีๆ ก็คว้ากำแขนของผมทั้งสองข้างจนแน่น และกำลังทำหน้าตาน่ากลัวมองผม

ครืนน!

ผมมองขึ้นไปบนฟ้าที่กำลังมืดลง ลมที่เคยพัดโชยอ่อนๆ บัดนี้กลับกลายเป็นลมพายุที่พัดแรงจนผมแทบจะยืนไม่อยู่ นี่มันอะไรกันนะ

"ผมเจ็บนะ ซินเป็นอะไรไป" ผมนิ่วหน้าตะโกนผ่านลมพายุ และจ้องมองซินที่เหมือนกำลังโมโหอะไรสักอย่าง

แต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบ ผมมองซินที่กำลังมองตรงไปข้างหน้า ด้วยแววตาที่แน่วแน่ไม่รู้สึกถึงลมที่พัดแรง เหมือนกำลังมองข่มอะไรสักอย่างที่ผมก็มองไม่เห็น

"เหอะ ช่างมันเถอะ" เวลาผ่านไปสักพัก ซินก็พูดออกมาและค่อยๆ ปล่อยแขนผม

ผมมองไปรอบๆ อีกครั้ง เพราะว่าอยู่ดีๆ ลมพายุและท้องฟ้าก็เริ่มแจ่มใสเช่นเคยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ซิน" ผมเรียกซินเบาๆ ด้วยความหวาดหวั่น ผมรู้สึกว่านี่มันไม่เหมือนเรื่องธรรมชาติเลยสักนิด

"ไปกันเถอะ อยากเข้าไปไม่ใช่เหรอไง" ซินจับมือผม และดึงให้เดินตามตัวเองไป ผมมองแผ่นหลังของซินที่กำลังเดินนำหน้า ซินมีอะไรอยู่ในใจกันนะ นายจะบอกผมได้หรือเปล่า แบบนี้มันทำให้ผมกลัว

พวกเราเดินมาถึงอาคารไม้หลังเก่า เดินขึ้นบันไดและเข้ามาในห้องสมุด ผมมองไปรอบๆ ทุกๆ อย่างนั้นยังคงเหมือนเดิม ตามมุมและชั้นหนังสือ ยังมีคนกำลังอ่านหนังสืออยู่ทั่วไปหมด แต่ทุกคนก็หยุดทำสิ่งที่ตัวเองกำลังทำทันทีเมื่อเห็นผมกับซินเดินเข้ามา

ผมค่อยๆ ดึงมือตัวเองออกจากมือซินทันทีที่คิดได้ แบบนี้มันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ ผู้ชายเขาไม่เดินจับมือกันหรอกนะ

ผมยังคงเดินตามซินที่เดินเงียบๆ นำหน้าผม ซินกำลังเดินไปยังทางขึ้นบันไดที่ทอดนำไปสู่ห้องอาจารย์นาธัส เดี๋ยวนะ ซินรู้ด้วยเหรอว่าอาจารย์อยู่ที่นั่น

ผมเดินตามซินขึ้นมาจนหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้ห้องทำงานของอาจารย์ แต่เมื่อผมกำลังจะยื่นมือออกไปเคาะนั้น

ปึง!!!

ผมสะดุ้งสุดตัวทันที ผมยังไม่ทันจะได้เคาะประตู แต่ประตูก็กลับถูกเปิดออกอย่างแรงจนผมกลัวว่ามันอาจจะพังไปแล้ว

ผมมองอาจารย์ที่วันนี้ไม่ได้ยืนอยู่ที่ชั้นหนังสือเหมือนเก่า แต่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ด้วยใบหน้าที่ เอ่อ ผมเงยหน้ามองซินที่กำลังทำหน้านิ่งๆ นั่นล่ะ ใบหน้าสองคนนี้ กำลังนิ่งเฉยเหมือนกันไม่มีผิด แต่บรรยากาศรอบตัวนั้นผมรู้สึกถึงรังสีอะไรสักอย่าง ทำให้ผมอึดอัดและเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก

"ขออนุญาตครับอาจารย์" ผมพูดและค่อยๆ เดินเข้าไปข้างใน แต่เมื่อมองหันกลับไปหาซิน ก็ยังเห็นว่าซินยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมจึงเดินกลับมาลากซินให้เดินเข้าไปด้วย

"ผมพาเพื่อนมาแนะนำครับ" ผมพูดด้วยใบหน้ามีความสุข พอคิดว่ามีซินอยู่ด้วยผมก็รู้สึกดีจริงๆ

"งั้นเหรอ เพื่อน งั้นเหรอ" ผมคิดไปเองหรือเปล่านะว่าอาจารย์เน้นคำว่าเพื่อนมากๆ เวลาพูด

อาจารย์ค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆ พร้อมเรียกพวกเราให้เดินตามไปนั่งด้วย ผมจูงมือซินให้เดินตามมา และนั่งลงข้างๆผม ตรงข้ามอาจารย์

"ซิน นี่อาจารย์..."

"นาธัส" ผมตกใจทันทีที่พูดยังไม่ทันจบซินก็พูดแทรกขึ้นมา แล้วทำไมถึงเรียกอาจารย์ห้วนๆ แบบนั้นนะ

"เอ่อ ซินรู้จักด้วยเหรอ" พูดและหันไปมองซินที่กำลังจ้องอาจารย์เขม็งด้วยแววตาไม่เป็นมิตร สองคนนี้ เขาไปรู้จักกันตอนไหนนะ

"หึ รสนิยมยังโคตรห่วยเหมือนเดิม" ซินพูดพลางมองไปรอบๆ ไม่สนใจสายตาของอาจารย์ที่ดูไม่พอใจมากขึ้น

"ซิน" ผมดึงมือซินให้หันมามองและส่ายหน้าน้อยๆ ให้เห็นว่าไม่ควรทำ ผมไม่ชอบใจเลยที่ซินทำตัวแบบนี้

"ก็อย่างที่เห็น ไวท์เป็นคนของฉัน" ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อซินพูดต่อและจับมือผมไว้แน่น นี่มันเรื่องอะไรกัน หมายถึง ซินกำลังหมายถึงพวกเราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม

ผมมองซินที่อยู่ๆ ก็เริ่มยิ้มอย่างที่ชอบทำพลางกอดคอผมอย่างสนิทสนม ผมเริ่มรู้สึกโล่งอกและดีใจที่ได้ยินแบบนั้น

"มันก็ไม่แน่หรอก ไวท์ไม่ใช่คนโง่" ผมมองอาจารย์ที่ยกยิ้มมุมปาก แบบที่หาได้ยาก พวกเขา ตกลงแล้วกำลังพูดถึงอะไรกัน

"เอ่อ..." ผมเหมือนกับใบ้กิน ผมไม่รู้จะพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ ผมมองคนทั้งสองคนที่เงียบสงบ แต่รังสีที่แผ่ออกมาราวกับจะฆ่าฟัน

"กลับกันเถอะ เดี๋ยวต้องไปเรียนอีกนี่" ผมตกใจทันทีเพราะอยู่ดีๆ ก็ถูกซินดึงให้ลุกขึ้น

"เดี๋ยวสิ พวกเราเพิ่งมาเองนะ" ผมยื้อแขนของตัวเองไว้ แต่ก็สู้แรงซินไม่ได้เลยสักนิด

"ขอโทษนะครับอาจารย์ แล้วผมจะมาใหม่นะครับ"

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกลากออกมาอย่างรวดเร็ว ผมไม่เข้าใจเลย ทั้งสองคนรู้จักกันและไม่ชอบกันสินะ

"ซิน มันเจ็บนะ" ผมดึงแขนตัวเองออกทันทีที่ทำได้

"ไปที่นั่นบ่อยหรือเปล่า" ซินหันมาหาผมและพูดถามเสียงเข้ม

"ก็ไม่กี่รอบเอง ซินมีอะไรเหรอ รู้จักอาจารย์ได้ยังไง" ผมพูดถามด้วยความสงสัย

"ไม่ต้องถาม แค่จำไว้ว่าอย่าไปที่นั่นอีก"

"ไม่ได้หรอก อาจารย์เป็นคนดีนะซิน อาจารย์เคยช่วยผม..." ผมพูดเถียงซินที่เอาแต่ใจเหลือเกิน

หมับ!

แต่ผมก็ต้องตกใจทันที เพราะอยู่ดีๆ ซินก็ยื่นมือออกมาจับที่คอผมอย่างรวดเร็ว

"ซ.ซิน" ผมเรียกซินด้วยความตื่นตระหนกตกใจ มือที่เย็นเฉียบและสีหน้าที่นิ่งเฉยของซินนั้น ทำให้ผมกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะเปร่งเสียงออกมา

ซินจับล็อกคอผมด้วยมือเพียงข้างเดียว และใช้นิ้วไล่ไปตามสันกราม คาง พลิกหน้าผมเหมือนกำลังหาร่องรอยอะไรสักอย่าง

"ขอโทษนะ เจ็บหรือเปล่า เมื่อกี้เหมือนเห็นอะไรมาเกาะน่ะ" ซินเปลี่ยนสีหน้าจากน่ากลัวกลายเป็นยิ้มน้อยๆ และปล่อยมือจากคอผมทันที ผมใจเต้นรัว มองซินที่ยิ้มให้ผมด้วยความไม่เข้าใจ

"ทำให้กลัวหรอ กลัวมากไหม" ซินพูดและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เหมือนกำลังล้อเล่น

"ม.ไม่เป็นไร" ผมพูดและลูบคอตัวเองไปมา ผมยังไม่หายตกใจเลย ทำอะไรของเขากันนะ

ผมมองนาฬิกา ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ผมเดินมาเรื่อยๆ มายังตึกเรียน พวกเราสองคนเดินมาเงียบๆ ผมไม่รู้ว่าควรจะถามซินถึงเรื่องของอาจารย์นาธัสอีกไหม เพราะผมกลัวซินจะโกรธผมอีก

"คือซิน..." แต่ผมที่พูดและหันไปมองซินด้านหลัง

ก็พบว่าซินไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:16:48 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
รอความจริงกระจ่าง  ต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ลึกลับไปหมดเลย ทั้งินทั้งอาจารย์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อาจารย์เป็นผี ส่วนซินเป็นท่านยมฯ หรือป่าวนะ  :ruready

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 9 ความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ


ผมเดินมาตามทางเพื่อเข้าเรียนในช่วงบ่ายเพียงลำพัง มันอะไรกันนะ ซินหายไปไหนกัน ทำไมถึงไม่พูดอะไรกับผมเลย ผมรู้สึกเสียใจและกลัวอยู่ลึกๆ ในหัวใจ หรือว่าซินจะโกรธผม และไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้วนะ แต่ผมไม่เข้าใจเลย อาจารย์นาธัสทำให้ซินไม่ชอบใจงั้นเหรอ ผมจะทำยังไงดี

ผมเดินมาสักพัก และไม่นานก็ถึงห้องเรียนในวิชาคาบบ่าย ผมนั่งอยู่ในห้องสโลบจดบันทึกและฟังสิ่งที่อาจารย์ประจำวิชากำลังสอน ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ ผมฟังสิ่งที่อาจารย์กำลังพูดไม่รู้เรื่องเลยสักนิด เพราะใจของผมมันไม่ได้อยู่กับการเรียนเลยแม้แต่น้อย ซินอยู่ไหนกันนะ ทำไมถึงทิ้งผมไป

ผมที่สวมแว่นเพื่อเรียนนั้นก็รู้สึกอยากพักสายตาจึงถอดแว่นออกและหลับตาลง ผมรู้สึกโดดเดี่ยวอีกแล้ว นี่มันแค่วันแรกเองนะที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็ทำมันพังซะแล้ว ถ้าเจอซินอีก ผมจะขอโทษซิน ผมไม่อยากให้ซินหายไปเหมือนคนอื่นๆ

ผมลืมตาขึ้นและมองไปหน้าห้องด้วยดวงตาพร่ามัว บนจอมอนิเตอร์กำลังฉายสิ่งต่างๆ ที่ผมกำลังเรียนอยู่ ห้องเรียนรอบๆ จึงปิดไฟมืดสลัวๆ เพื่อให้เห็นได้ชัดขึ้น

แกร่ก

ผมมองแว่นตาของผมที่ร่วงหล่นไปบนพื้น ผมคงเผลอไปปัดมันเข้า ผมขยับตัวทำท่าจะก้มลงเก็บแว่น แต่ผมที่ทำแบบนั้นก็ต้องชะงัก เพราะสายตาของผมดันเผลอไปมองเก้าอี้ริมสุดที่กำลังมีคนนั่งอยู่ ผมมองรอบๆ ตัวผมที่มีคนนั่งอยู่ประปราย ส่วนมากจะนั่งที่หน้าห้องเป็นส่วนใหญ่ และแถวที่ผมนั่งอยู่นั้น มีเพียงผมคนเดียว

ผมหรี่ตามองอีกครั้ง ตรงนั้นมีคนนั่งด้วยเหรอ คงจะเข้ามาทีหลัง ผมขยับตัว มือควานหาแว่นตาที่หล่นอยู่ให้เห็นใกล้ๆ เอาล่ะ ได้แล้ว

ผมจับแว่นเอาไว้ และเงยหน้าขึ้นมาเหมือนเดิม

พรึ่บๆ

"สักครู่นะคะนักศึกษา สงสัยไฟจะตก"

ผมมองไปรอบๆ ทันทีด้วยความตกใจ เพราะว่าทุกอย่างตอนนี้มันมืดไปหมด ผมเช็ดแว่นตาเพื่อจะสวมกลับไปใหม่อีกครั้ง

แต่ผมที่กำลังเช็ดแว่นนั้นก็ต้องตัวแข็งทื่อทันที เพราะว่าข้างๆ ผมตอนแรกที่ว่างเปล่านั้น ตอนนี้กลับมีเงาของคนนั่งอยู่ติดกับผม เมื่อไหร่กันนะ เป็นแบบนี้อีกแล้ว ไม่เอานะ ผมกลัว

ผมตัวสั่นน้อยๆ กำแว่นไว้ในมือ ตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันไปมอง

"ซ.ซิน ซินอยู่ที่ไหน" ผมพูดเสียงสั่น เรียกเพื่อนเพียงคนเดียวของผม เวลาที่มีซินอยู่ผมก็จะมองแต่ซิน ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว ทำให้ผมเจอสิ่งน่ากลัวน้อยลง แต่พอไม่มีซินอยู่ใกล้ๆ ผมก็จะเป็นแบบนี้อีกแล้ว ไม่เอาแล้ว ผมไม่อยากอยู่คนเดียว

ผมฟุบหน้าก้มลงกับโต๊ะด้วยความกลัว ผมเอามือกุมหัวตัวเองไว้ และอยู่กับความหวาดหวั่น ผมกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว และผมคงจะเป็นแบบนี้ไปจนตาย

พรึ่บๆ

"เอาล่ะ ไฟมาแล้ว เราจะมาเรียนกันต่อนะคะ นักศึกษาตรงนั้น นอนในห้องไม่ได้นะคะ เพื่อนช่วยปลุกหน่อย" ผมยังคงฟุบอยู่กับโต๊ะ แสงสว่างรอบๆ ก็ทำให้รู้ว่าไฟติดแล้ว แต่ผมก็ยังไม่กล้าเงยหน้าอยู่ดี

"ไวท์ หลับหรือไง" ผมได้ยินเสียงเรียกเบาๆ จากข้างๆ ผม เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยดี เดี๋ยวนะ นี่มันเสียง...

"ซิน" ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ สวมแว่นตาและมองให้ชัดๆ อีกที เป็นซินจริงๆ แปลว่าคนที่นั่งข้างๆ ผมตั้งแต่ไฟดับคือซินงั้นเหรอ

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" ผมพูดด้วยความโล่งใจ ผมดีใจมากจนเผลอจับมือซินเอาไว้

"ก็เรียกหาซินไม่ใช่เหรอ" ซินพูดและยิ้มน้อยๆ เหมือนที่ชอบทำ ผมหน้าขึ้นสีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น มันแปลกๆ หรือเปล่านะ แปลว่าซินได้ยินที่ผมเรียกงั้นเหรอ

"ซิน แกล้งผมเหรอ ใจร้ายจัง" ผมพูดงอนๆ และมองซินที่กำลังหัวเราะน้อยๆ

"เห็นอะไรอีกแล้วหรือไง"

"ไม่มีอะไรแล้วล่ะ แล้วเมื่อกลางวันหายไปไหนเหรอ" ผมถามซินด้วยใบหน้าหมองเศร้า ผมไม่อยากให้ซินหายไปแบบนี้เลย

"มีเรื่องด่วนที่ต้องไปทำน่ะ"

"คราวหน้าอย่าหายไปแบบนี้ได้ไหม ถ้าจะไปไหนบอกผมหน่อยนะ" ผมอุ่นใจที่มีซินอยู่ข้างๆ ผมชอบเวลาที่ได้มองเห็นซิน แบบนี้ ปกติหรือเปล่านะ

"ไม่ไปไหนหรอก ไม่ต้องห่วง ไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอก" ซินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและยิ้มแบบที่ซินชอบทำ ผมยิ้มให้ซิน คำพูดถึงจะแปลกๆ แต่ว่า ผมก็รู้สึกดีใจเหลือเกิน

หลังเลิกเรียน ผมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับซิน และเตรียมตัวที่จะกลับ ผมมองซินที่เดินนำหน้าผม ทุกย่างก้าวที่ได้เคียงข้างกันแบบนี้ มันทำให้ผมมีความสุขจริงๆ การได้มีใครสักคนในชีวิต ก็คงรู้สึกแบบนี้สินะ ขอให้ความรู้สึกนี้คงอยู่ตลอดไปด้วยเถอะ

"ซินเลิกเรียนแล้วจะไปไหนเหรอ"

"อยู่กับไวท์นั่นแหละ" ผมขมวดคิ้วมองซิน หมายความว่าไงกันนะ

"แต่ผมจะกลับห้องนะ เดี๋ยวตอนมืดต้องไปทำงานอีก"

"อยู่ด้วยไม่ได้เหรอ" ซินหยุดเดินและจ้องหน้าผม

"ได้สิ แต่ว่าห้องผมไม่มีอะไรหรอกนะ กลัวซินจะเบื่อเอา"

"ไม่เบื่อหรอก" ผมยิ้มน้อยๆ ถึงจะอายห้องก็เถอะ แต่ถ้าซินว่าแบบนั้นก็คงไม่เป็นไร

พวกเรากลับมาถึงหน้าร้านของคุณยาย ซึ่งตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ผมพาซินเข้ามาในร้านเพื่อที่จะบอกคุณยายว่าผมกลับมาแล้ว

แต่ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าก็ทำให้ผมต้องตกใจ เพราะว่าคุณยายนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มีคนสามคนอยู่ในร้านด้วย

"อ้าวไวท์กลับมาแล้วเหรอลูก ทำไมไม่มาพร้อมเพื่อนล่ะ"  คุณยายนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้และทักผมทันทีที่เห็น

"มาช้านะไวท์ พวกเรามารอไวท์นานแล้ว" ผมหน้าเสียทันทีที่เห็นแมน ต้องและเต้ยกำลังกินขนมและนั่งอยู่รอบๆ ตัวคุณยาย

"พวกนายมาทำไม" ผมพูดและเดินเข้าไปหาคุณยายทันที พวกมันทำร้ายคุณยายหรือเปล่านะ แต่เมื่อผมมองดูคุณยายใกล้ๆ ก็พบว่าปกติดี

"คุยกันไปนะ เดี๋ยวยายไปดูขนมในครัวก่อน" คุณยายค่อยๆ ลุกขึ้นโดยมีต้องทำท่าประคองคุณยายและพาไปส่งหลังครัว

"นี่มึงคบกับมันจริงๆ เหรอ ถึงพามาที่บ้านขนาดนี้" แมนพูดหยาบทันทีที่คุณยายเข้าไปหลังครัวแล้ว

"ซินเป็นเพื่อนผม"

"เพื่อน? อย่าพูดให้ขำ ใครจะอยากเป็นเพื่อนมึง กูว่ามันต้องจ้องจะแดกมึงด้วยแน่ๆ" แมนพูดพลางหัวเราะขำๆ และจ้องมองซินที่กำลังยืนทำหน้าเฉยเมยเหมือนเคย

"พูดเรื่องอะไรน่ะ" ผมพูดอย่างเหลืออด ทำไมผมถึงจะต้องมาโดนเรื่องแบบนี้ด้วย เพราะผมอ่อนแองั้นเหรอ แล้วแบบไหนผมถึงจะปลอดภัยล่ะ

"มึงน่ะ เข้าหามันเพราะอะไรวะ มันไม่มีพิษมีภัยดีใช่ไหม ก็แค่เป็นโรคประสาท เผลอๆ ถ้าข่มขืนมัน ถึงมันจะไปบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อมันหรอกใช่ไหม" ต้องพูดถามซิน ผมตัวสั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ข่มขืนเหรอ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

"ไอ้ต้อง มึงหุบปากไป" ผมมองเต้ยที่เดินเข้ามาหาผม

"อย่าไปฟังพวกมันมากเลย แต่ถ้าเป็นไปได้ สมยอมจะดีกว่านะ เต้ยไม่ค่อยชอบใช้กำลัง" เต้ยมองหน้าผมด้วยแววตาหวานเยิ้ม มันทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ

"ไวท์เป็นของฉัน" ผมมองซินที่อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา ทำให้สามคนนั้นทำท่าไม่พอใจและลุกขึ้นเดินเข้าไปล้อมซินไว้

"มึงพูดอะไรของมึง" เต้ยเข้าไปกระชากคอซินทันทีที่พูดจบ

"อย่า" ผมผลักเต้ยและยืนบังซินไว้เหมือนเดิม ผมไม่ยอมให้ซินเจ็บตัวแน่ๆ

"จะปกป้องไอ้ตุ๊ดนี่ไปถึงไหนวะ มึงจะทำอะไรพวกกูได้" แมนพูดและเดินมากระชากคอเสื้อผมแทน

"ไอ้แมน อย่านะโว้ย" เต้ยเดินมาแกะมือเพืิ่อนออกจากตัวผม

"กูไม่ทำเมียมึงหรอกน่า แต่แม่งหมั่นไส้ฉิบหาย" แมนพูดและมองหน้าผมสลับกับซิน

ผมมองซินที่ยังคงทำหน้าเบื่อๆ ที่ต้องอยู่ตรงนี้เหมือนเช่นเคย ดูซินจะไม่กลัวหรือไม่สนใจอะไรเลยมากกว่า

"ก็ดีแล้วมั้ง เมียมึงมีเพื่อนเป็นตุ๊ด มันคงไม่ทำอะไรหรอก" การที่ซินไม่มีปากเสียงหรือไม่สู้กับคนพวกนี้ มันทำให้ซินถูกดูถูกดูแคลนสารพัด แต่ก็เหมือนซินจะไม่แคร์อะไรเลย แบบนี้ก็ดีแล้ว ผมไม่อยากให้ซินเจ็บตัว หรือลดตัวลงไปแปดเปื้อน

"พวกนายกลับไปเถอะ" ผมพูดขอร้อง ผมไม่อยากให้คุณยายมีเรื่องทุกข์ใจ

"อย่าบอกนะว่าชอบมัน" เต้ยพูดและจับต้นแขนผมเอาไว้

"พูดเรื่องอะไรกัน" ผมถามเต้ยด้วยความไม่เข้าใจ

"มันเป็นใคร มันเพิ่งเจอไวท์ไม่กี่วันเองนะ พวกเราเรียนด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนี่" ผมอยากนะพูดเหลือเกินว่าถูกแกล้งตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วต่างหาก

"ผมไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ พอสักทีเถอะ" ผมพูดและดึงมือเต้ยออกจากแขน

"งั้นก็แล้วไป"

"อ้าวเด็กๆ มาเร็ว เอาขนมไปกินกันลูก" ทันทีที่เต้ยพูดจบ คุณยายก็ค่อยๆ เดินกลับมาที่หน้าร้านพอดี

ผมเดินไปหาคุณยายและช่วยประคองคุณยายที่เดินเข้ามา และพามานั่งลงที่เก้าอี้

"ขอบคุณครับคุณยาย แต่เพื่อนผมกำลังจะกลับแล้วครับ" ผมยิ้มให้คุณยาย ปกปิดสีหน้าทุกข์ใจไว้

"งั้นก็เอาไปแบ่งๆ กันนะลูก" ผมรับขนมจากคุณยายและยื่นให้พวกคนนิสัยไม่ดีสามคนเพื่อคุณยาย

"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ แล้วจะมาหาใหม่"

"ไวท์ เจอกันที่มอนะ" ผมหลบสายตาเต้ยและมองซินที่จ้องมองผมอยู่

หลังจากนั้น ผมช่วยคุณยายปิดร้านโดยมีซินที่ยืนเฉยๆ ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ข้างๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมก็พาซินขึ้นมาบนห้องของผม

ผมสังเกตเห็นว่าซินจ้องมองประตูของผมด้วยความสนใจอยู่อีกเป็นพัก ก่อนจะยอมเดินตามผมเข้ามาในห้อง

"แคบ" ซินพูดทันทีที่เดินเข้ามา ซินพูดแบบนี้มาสองรอบแล้ว ผมจะงอนแล้วนะ

"ก็แคบไง เคยบอกแล้วนี่" ผมทำหน้าหงอยและนั่งลงกับฟูกด้วยความเหนื่อยอ่อน

"ชอบไอ้คนตัวขาวหน้าตี๋นั่นเหรอ" ผมตกใจเงยหน้ามองซินทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หมายถึงเต้ยสินะ

"ไม่" ผมรีบปฏิเสธทันที "ทำไมถึงได้ถามแบบนั้น" ผมพูดต่อด้วยความไม่เข้าใจ

"มันชอบไวท์นี่ใช่ไหม แล้วไวท์ก็ไม่เห็นจะทำอะไรพวกมันที่ชอบแกล้งเลยนี่" ซินนั่งอยู่อีกมุมพิงผนังด้วยท่าทีสบายๆ

"ผมไม่ได้ชอบ ผมแค่ไม่อยากยุ่งด้วย" ผมพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด ผมไม่ชอบเลยที่ซินคิดอะไรแบบนี้

"เกลียดผู้ชายด้วยกันเหรอ" ซินทำหน้าเจ้าเล่ห์ยิ้มน้อยๆ เหมือนทุกที

"เปล่า แต่ว่าผม...ไม่รู้" ผมไม่รู้ ขนาดจะมีเพื่อนสักคนยังยากเลย ผมไม่เคยมีความรัก ผมไม่รู้หรอกว่าผมคิดอย่างไรกับผู้ชายด้วยกัน

"อยากลองดูไหม" ผมตกใจทันทีที่ซินลุกขึ้นมาและเดินมานั่งลงตรงหน้าผม

ไอ้ที่บอกว่าลองนี่คือยังไง ผมไม่เข้าใจ ผมถอยหลังชิดผนังทันทีที่ซินยื่นหน้ามาใกล้ๆ ใกล้มากจนผมได้ยินเสียงลมหายใจ

"ค.คือว่า" ผมลนลานทำตัวไม่ถูก ผมจ้องมองซินที่กำลังหัวเราะในลำคอ ใบหน้าขาวสะอาด คิ้วเข้มๆ ที่ตัดกับผิวขาวนั้น ริมฝีปากสีชาดที่หยักสวย ขนาดผมเป็นผู้ชายยังแอบหวั่นไหวเลยล่ะ

"ซ.ซิน ชอบผู้ชายเหรอ" ผมเอียงหน้าหลบซิน และทำตัวลีบติดผนังมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

"ฉันชอบมนุษย์" ผมหันหน้ามามองซินทันที ผมได้ยินเสียงเหมือนซินพูดแต่เบาเหมือนเสียงกระซิบ

"เมื่อกี้ ว่ายังไงนะ" ผมขมวดคิ้วถาม แต่ซินก็ไม่ได้ตอบคำถามของผม และเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นไปอีก

ผมวางมือทั้งสองข้างดันอกของซินไว้ เป็นคนที่ตัวใหญ่มาก ผมไม่รู้สึกว่าผมจะดันคนคนนี้ออกไปได้เลย นี่เอาจริงเหรอเนี่ย

"ซิน ไม่เอานะ" ผมก้มหน้างุด รู้สึกถึงผมหายใจร้อนที่เป่ารดข้างคอของผม ผมหน้าร้อนผ่าวทันที และหัวใจเต้นรัว ผมไม่เคยได้ใกล้ใครขนาดนี้เลย มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน

"ผ.ผม หยุดเถอะ" ผมพูดเบาๆ และเกร็งตัวหลับตาแน่น มันแปลกมากที่ผมไม่ได้รู้สึกต่อต้านมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นซินสินะ ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงทำทุกทางเพื่อหนีออกไปแล้ว

"ฮ่ะๆ ไวท์ตลกดี" ผมลืมตาขึ้น และมองเห็นซินนั่งพิงผนังอยู่ไกลๆ จ้องมองผมพลางหัวเราะชอบใจ นี่ไปอยู่ตรงนั้นเมื่อไหร่กันเนี่ย ผมก็คิดว่าซินจะ...ผมอายจัง

"ชอบแกล้งผม" ผมพูดและทำหน้าบูด

แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว ผมรู้สึกเหมือนว่าเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ ซึ่งมันทำให้ผมมีความสุขมาก แต่ไอ้ความรู้สึกลึกๆ ในหัวใจของผมมันคืออะไรกันนะ ตอนที่ซินหายไป ทำไมผมถึงรู้สึกแย่กว่าทุกๆ ครั้งที่ผมต้องเสียเพื่อนไป ถ้าพวกเรายังคงอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไป

ผมจะได้รู้หรือเปล่านะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:17:23 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ถ้าไม่ใช่ท่านยม  ก็อาจเป็นพวกปีศาจที่บำเพ็ญตบะแก่กล้าก็เป็นได้  555  มโนไปเรื่อย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่านยมซิน ช่วยจัดการไอ้ 3 ตัวนั้นด้วยนะ  :3125:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :ling1: ซินขี้แกล้งนะเนี่ย

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 10 สิ่งที่อยู่เหนือความมืดทั้งปวง


ผมยังคงอยู่ในห้องของผม เตรียมตัวที่จะออกไปทำงานที่คลับอีกครั้ง ผมที่เข้าห้องน้ำมาเพื่ออาบน้ำและออกไปเมื่ออาบเสร็จ ก็พบว่าซินนั้นได้หายไปแล้ว โดยที่ไม่บอกผมอีกครั้ง

ผมเดินทางไปยังคลับด้วยความสงสัยในใจ ซินไปไหนของเขาอีกแล้วนะ แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ซินก็ต้องมีที่ที่ต้องกลับไปเหมือนกัน จะให้มาตัวติดกับผมทั้งวันทั้งคืนมันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่าทำตัวให้ซินต้องรำคาญจะดีกว่า

"อ้าว มาแล้วเหรอ วันนี้ช่วยเสิร์ฟหน่อยนะ" ทันทีที่เข้ามาที่คลับ ผมก็ถูกรุ่นพี่พนักงานเรียกตัวทันที

"มีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมมองสีหน้าของแต่ละคนที่ทำหน้าแปลกๆ เหมือนกำลังมีเรื่องเครียดๆ อะไรสักอย่าง

"ก็พี่โก้น่ะสิ ไม่รู้เป็นอะไร นั่งอยู่ข้างบนชั้นลอยตั้งแต่ก่อนเปิดร้านแล้ว ไม่ยอมพูดยอมจา สงสัยจะไม่สบาย" ผมมองขึ้นไปบนชั้นลอยมืดๆ พี่โก้ก็คือพี่เจ้าของคลับแห่งนี้ ถ้าพี่เขาจะไม่สบายจริงๆ ผมควรจะไปดูพี่เขาสักหน่อย

ผมค่อยๆ เดินขึ้นไปยังบันไดวนที่ทอดขึ้นไปสู่ชั้นสอง มันแปลกมากที่พี่เขาจะมาทำอะไรเงียบๆ คนเดียวแบบนี้ ปกติพี่โก้จะชอบเดินไปมาทั่วร้านเพื่อบริการลูกค้า เพราะพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดี คุยเก่ง และเป็นกันเองกับทุกคน

ผมเดินขึ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงชั้นบนจนได้ ผมมองไปด้านหน้า ไปยังโซฟาสีแดงที่มีคนนั่งอยู่ตรงนั้น แต่เดี๋ยวนะ

ผมขยี้ตาน้อยๆ ภายใต้กรอบแว่นหนาเพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น เพราะว่าตอนแรกนั้นมันเหมือนกับว่า มีคนสองคนนั่งอยู่ตรงนั้น แต่พอมองดูดีๆ อีกที ก็พบว่ามีเพียงคนคนเดียวที่นั่งอยู่ กำลังยกแก้วสีอำพันขึ้นดื่ม และมองตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย

"พี่ครับ" ผมค่อยๆ เดินตรงไปหาพี่เจ้าของคลับ ที่ยังคงไม่ได้หันมามองผมแต่อย่างใด

"ทำไมถึงมานั่งอยู่คนเดียวละครับ พี่ไม่สบายหรือเปล่า" ผมเดินช้าๆ และเข้าไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้น มองดูพี่เขาที่ยังคงไม่สนใจผมอีก

"พี่ครับ" ผมเรียกต่อไป และเหมือนว่าพี่เขาจะได้ยินผมแล้ว

พี่โก้ค่อยๆ หันหน้ามาหาผมช้าๆ ด้วยใบหน้าที่ทำให้ผมต้องตกใจ เพราะว่ามันเป็นใบหน้าของคนที่เหมือนกับไม่ได้นอน ตาดำลึกโหล และดูอิดโรย

"พ..พี่ครับ" ผมค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นด้วยความตกใจ แต่ก็แค่ยืนออกห่างจากโซฟาเล็กน้อยเท่านั้น

"ไวท์" ผมมองพี่โก้ที่ค่อยๆ วางแก้วเหล้าลงด้วยมืออันสั่นเทา

"ค.ครับ" ผมตอบรับพี่โก้ที่เรียกชื่อผม

"เป็นยังไงบ้าง หายดีแล้วเหรอ" ผมค่อยๆ เดินกลับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด ผมนั้นคิดมากไปเองจริงๆ เพราะว่าพี่เขาก็ยังพูดจาปกติดี แต่คงจะเครียดอะไรอยู่เท่านั้น

"ครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ"

"เหรอ ก็ดีแล้วนะ"

"พี่ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ" ผมพูดด้วยความเป็นห่วง พี่เจ้าของคลับนั้นมีบุญคุณกับผม ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ ผมก็อยากจะทำเต็มที่

"ไวท์ เรา เชื่อเรื่องผีหรือเปล่า" ผมชะงักทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"หมายความว่ายังไงเหรอครับ ทำไมอยู่ๆ ถึงพูดเรื่องนี้" ผมถามด้วยความสงสัย พี่โก้เริ่มตัวสั่นอีกทั้งๆ ที่อากาศก็ไม่ได้เย็นมากนัก

"ขอโทษนะที่ทำเหมือนไม่เคยเชื่อ แต่จริงๆ แล้ว ฉันรู้ ว่ามันมีอยู่จริง" ผมขยับตัวเข้าไปใกล้พี่โก้อีกนิด ผมอยากรู้ว่าทำไมพี่เขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา พี่อยากจะบอกอะไรผมกันแน่

"มันยังมี สิ่งที่อยู่เหนือกว่าวิญญาณหรือผีสางพวกนั้นอีก มันมีพลังอำนาจ คอยล่อลวงเรา ให้เข้าไปสู่ความมืดมิดของจิตใจ ให้...ทุกอย่างที่เราต้องการ เพื่อ แลกกับ..." ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยหนักขึ้นไปอีก

"แลกกับอะไร มันคือ อะไรเหรอครับ" ผมถามและตั้งใจฟังสิ่งที่พี่โก้กำลังจะพูด

"มัน..." แต่ผมที่ตั้งใจฟังอยู่นั้น อยู่ๆ พี่โก้ก็เหมือนกำลังจะพูดอะไร แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา ผมมองดูพี่โก้ที่กำลังลืมตาโพรงและทำปากพะงาบๆ ด้วยท่าทางน่ากลัว

"พี่ครับ พี่เป็นอะไรไป" ผมตกใจและรีบเข้าไปเขย่าแขนของพี่เขาทันทีที่เห็นแบบนั้น

"อย่า..เพิ่ง เอาผ.มไป" ผมตกใจมองพี่โก้ ที่อยู่ดีๆ ก็ก้มหน้างุดลงกับอก และเงียบไป

ผมอกสั่นขวัญแขวน ค่อยๆ เอื้อมมือเข้าไปแตะที่ไหล่ของพี่โก้เบาๆ

ครืดดด

ผมได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ มันเป็นเสียงเหมือนกับโลหะที่กำลังครูดลากไปกับพื้น

ผมมองหาที่มาของเสียงนั้น และก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ผมมองมือขวาของพี่โก้ที่กำลังกำมีดเล่มหนึ่งอยู่ มันมาจากไหนกันนะ เมื่อกี้ผมยังไม่เห็นเลย

ผมตกใจและค่อยๆ เลื่อนตัวถอยออกจากตรงนั้น พี่โก้ค่อยๆ เงยหน้าที่ก้มลงต่ำขึ้นมาช้าๆ ด้วยแววตาที่แดงก่ำดั่งสีเลือด

ฉึก!

มันเหมือนกับผมกำลังฝันร้าย ของเหลวสีแดงฉานสาดกระเด็นใส่หน้าผมทันทีที่ปลายแหลมของมีดนั้น ปักลงที่ลำคอของคนตรงหน้า มีดที่กระชากออกจากลำคอ ทำให้เลือดพุ่งออกมาสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

ผมตัวชาด้วยความช็อค จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว

ฉึก! อ่อกก ฉึก!!!

ผมน้ำตาไหลออกมาช้าๆ ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังเปียกอยู่บนใบหน้าของผมนั้นมันคือเลือดหรือหยาดน้ำตากันแน่ ผมจ้องมองคนตรงหน้าที่กำลังแทงปลายมีดลงที่ลำคอของตัวเองหลายครั้งจนเลือดพุ่งไหลนองเต็มไปหมด

มือทั้งสองข้างยังคงกำมีดจนแน่น และแทงอยู่อย่างนั้นจนดวงตาเลื่อนลอยและปากที่กระอักของเหลวสีแดงออกมาอีกมากมายด้วยความทุกข์ทรมาน

ผมกลัวจนตัวสั่นและไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากนั่งนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันช่างหนักหนาเกินกว่าที่ผมจะรับได้ ผมลูบหน้าตัวเองที่ไหลย้อยเหม็นคาวไปด้วยเลือด และรู้สึกว่าทุกสิ่ง กำลังดับวูบลง

"ไวท์"

ผมกระพริบตาน้อยๆ สู้แสงจ้าที่สาดส่องมาจากนอกหน้าต่าง นี่ผม อยู่ที่ไหนกันนะ ผมหันไปมองตามเสียงเรียกนั้นและก็พบว่าซินกำลังจับมือผมเอาไว้ และนั่งอยู่ข้างๆ เตียงของผม

ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ก็ลุกพรวดขึ้นทันทีด้วยความหวาดกลัว ผมเริ่มร้องไห้อีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ผมเสียใจที่ไม่สามารถช่วยพี่โก้ไว้ได้ และรู้สึกพะอืดพะอมกับกลิ่นคาวเลือดจนแทบอยากจะอ้วกออกมา

นี่มันเรื่ิองอะไรกัน คนแบบพี่โก้นั้น มันเป็นไปไม่ได้ มันดูไม่ปกติ และสิ่งที่พี่เขาพูดก่อนที่จะตาย มันคืออะไรกันแน่ พี่อยากจะบอกอะไรผมกัน

"ไม่เป็นไรแล้วนะ" ผมมองหน้าซินและโผเข้ากอดซินเอาไว้แน่น ผมนั้นกลัวเหลือเกิน เป็นใครก็คงรับไม่ไหวหรอกแบบนี้

"ไม่ต้องกลัว ซินอยู่นี่แล้ว" ซินพูดเบาๆ และลูบหลังผมอย่างปลอบประโลม

ผมหลับตาอยู่ในอ้อมกอดนั้น รู้สึกอบอุ่นไปทั้งร่างกายและหัวใจ ผมรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ ที่มีซินอยู่ข้างๆ

"เมื่อคืนไปไหนมาเหรอ" ผมถามซินเบาๆ

"ไปทำธุระน่ะ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก" ผมพนักหน้าน้อยๆ เพื่อบอกว่าไม่เป็นไร

"ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมอยู่ดีๆ พี่เขาถึง..." ผมพูดและเหมือนจะร้องไห้อีกครั้งอย่างปวดใจ

"พี่เขาป่วยน่ะ เดี๋ยวถ้าตำรวจเข้ามาถาม ก็บอกความจริงไปนะ แต่ไม่ต้องห่วง ไวท์จะไม่ถูกสงสัยหรอก เพราะลายนิ้วมือบนมีด มีแต่ของเขาเท่านั้น" ซินพูดและลูบเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ

"พวกเขาคงจะคิดว่าผมทำ" ผมพูดเบาๆ บอกซิน

"ซินเชื่อไวท์อยู่แล้ว ไวท์ไม่ได้ทำอะไรผิด" ผมจับมือซินแน่นขึ้น ขอบคุณนะ ผมรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ

หลังจากถูกสอบปากคำอยู่นาน ตำรวจก็เหมือนจะจนด้วยหลักฐาน ผมจึงไม่ได้ถูกเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงติดตาและหลอกหลอนผม ทำให้ผมรู้สึกผิด และเศร้าเสียใจตลอดเวลา

ผมที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็ขอกลับบ้านเพื่อกลับมานอนพักที่ห้อง วันนี้ผมคงไม่ได้ไปเรียน และผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียว ผมขอให้ซินพาผมกลับ และขอให้อยู่เป็นเพื่อนผม จนกว่าผมจะนอนหลับไป

"ซิน" ผมที่นอนอยู่บนฟูกนั้นก็จับมือซินที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ว่าไง" ซินก้มลงพูดกับผมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

"อย่าทิ้งผมไปนะ" ผมพูดและกำมือซินแน่นขึ้นอีกนิด ผมทำแบบนี้มันแปลกหรือเปล่านะ พวกเราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม ผมคงไม่ได้ทำอะไรผิดไปนะ

ผมมองซินที่ส่ายหน้าน้อยๆ และค่อยๆ นอนลงข้างๆ ผม

"พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่ต้องกลัว ไม่ให้หนีไปไหนหรอก" ผมขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจ ที่ซินพูดคงหมายถึง ซินจะไม่ทิ้งผมไปสินะ

พวกเรานอนจ้องตากันสักพัก ผมรู้สึกว่า เพื่อนกันเขาก็ทำแบบนี้กันสินะ ห่วงใย และอยู่ด้วยกันเสมอ เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ

"นอนเถอะ" ซินพูดเบาๆ และเกลี่ยไรผมที่แก้มของผม

"ถ้าผมตื่นขึ้นมา ผมจะเจอซินใช่ไหม" ผมพูดเบาๆ ด้วยดวงตาที่หรี่ลง

"แน่นอน"

ผมที่ได้ยินคำตอบนั้นก็อมยิ้มและหลับตาลงอย่างเป็นสุข
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:18:17 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อะไรทำให้ตอนทำถึงขั้นแทงตัวเองจนตาย ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะตาย  :really2:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 11 อ้อมกอดแห่งฝันร้าย


ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ภายในห้องนอนเล็กๆ ของผม นี่ผมหลับไปนานแค่ไหนกันนะ ผมรู้สึกว่า ตัวผมเริ่มจะอาการดีขึ้นแล้ว การได้พักผ่อนสมองและร่างกายทำให้ผมเริ่มที่จะกลับไปเป็นปกติ

แต่ผมที่นอนมองเพดานอยู่นั้น ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ซินล่ะ ซินอยู่ที่ไหน ผมลุกขึ้นนั่ง พลางหรี่ตามองไปรอบๆ ห้องที่มืดสลัว เพื่อมองหาคนที่ผมอยากจะพบเมื่อยามตื่นนอน

"มองหาใครอยู่เหรอ" ผมหันหน้าไปตามเสียงที่ดังขึ้นด้านหลัง และก็พบว่าซินนั้นไม่ได้ไปไหนจริงๆ แต่นั่งอยู่ที่มุมห้องข้างฟูกที่นอน

ผมยิ้มน้อยๆ ให้ซิน ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อนผมตามที่ผมร้องขอ ผมรู้สึกดีใจที่ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว

"ขอบคุณนะที่..อึ่กก!" ผมตกใจทันทีที่อยู่ดีๆ ซินก็เคลื่อนตัวเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าแววตาที่เปลี่ยนไปฉับพลัน และยื่นท่อนแขนสีขาวซีดมาบีบที่คอผมอย่างแรงจนผมร้องออกมา

ผมจับมือของซินที่แข็งราวกับคีมเหล็กและพยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดออกจากการจับกุมนี้

"ซ.ซิน ท.ทำไม" ผมพยายามเปร่งเสียงและหายใจอย่างสุดกำลัง ทำไมกัน ทำไมถึงทำร้ายผม

"รีบมา อยู่ด้วยกันนะ ไวท์" เสียงของคนตรงหน้าเริ่มแปลกไป กลายเป็นเสียงที่เหมือนดั่งเสียงคำรามที่น่ากลัว  ผมมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่แทบหยุดเต้น

ใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของซินนั้น ค่อยๆ กลายเป็นสีดำที่เหมือนดั่งมีเปรวเพลิงกำลังลุกไหม้ และดวงตาที่กำลังแปรเปลี่ยนไปเป็นสีแดงฉานที่แสนน่ากลัว

"อย่า!!!" ผมร้องตะโกนออกมาด้วยความกลัว ทันทีที่สิ่งน่ากลัวตรงหน้าเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ร่างกายของผมก็ร้อนราวกับอยู่ในกองเพลิงของนรกโลกันต์

"ไวท์!"

ผมสะดุ้งสุดตัว ลืมตาขึ้นและผลักคนที่กำลังชะโงกมองผมด้วยความตกใจ ผมคลานไปที่มุมห้อง และกอดตัวเองไว้ด้วยแขนที่สั่นเทา

"ไวท์ เป็นอะไรไป ฝันร้ายเหรอ" ผมค่อยๆ มองไปตามเสียงเรียก และก็พบว่าคนที่เรียกผมอยู่ก็คือซินนั่นเอง

"ซ.ซิน" ผมมองซินด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็พบว่าซินกำลังจ้องมองผมและยิ้มน้อยๆ

"เสียใจนะ ฝันร้ายแล้วมาทำร้ายกันซะได้" ซินพูดและค่อยๆ ขยับตัวมาใกล้ผมอีกนิด

ผมมองซินที่ใส่เสื้อเชิ๊ตสีดำตัวเดิม และกำลังหัวเราะขำท่าทางของผม นี่ผมตื่นแล้วจริงๆ ใช่ไหม สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันคือความฝันอย่างนั้นเหรอ แต่ว่ามันน่ากลัวและเหมือนจริงมาก มากจนผมเผลอกลัวซินจริงๆ

"ซินจริงๆ เหรอ" ผมพูดถามซินเบาๆ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ซินหัวเราะไปใหญ่

"ไวท์นี่ตลกดีนะ ก็ต้องซินสิ พิสูจน์ก็ได้นะ" ซินพูดและค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหาผมช้าๆ ภาพในความฝันที่ทับซ้อน มันทำให้ผมเกร็งตัวทันทีที่ซินเข้ามาใกล้

ซินขยับตัวเข้ามาช้าๆ และค่อยๆ ดึงตัวผมให้ออกมาจากมุมห้อง พลางอ้าแขนโอบกอดผมเอาไว้

ผมชะงัก และทำตัวแข็งทื่อต่อไปด้วยความตกใจผสมแปลกใจ ไอ้เรื่องแบบนี้น่ะ มันแปลกจริงๆ และผมก็เริ่มที่จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน

ผมที่อยู่ในอ้อมกอดของคนตรงหน้านั้น ก็เริ่มที่จะหายกลัวแล้ว ผมแตะเบาๆ ที่ลำตัวของซินที่กำลังกอดผมอยู่

สัมผัสของซิน กลิ่นของซิน นี่เป็นตัวของซิน เป็นสิ่งที่ผมสัมผัสได้ ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวที่ผมเห็น ผมแค่เครียดและคิดมากไปเองเท่านั้น

ผมเริ่มหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ หน้าขึ้นสีน้อยๆ และคิดว่าผมควรจะบอกให้ซินปล่อยตัวผมได้แล้ว แต่ผมที่คิดแบบนั้น ก็เลือกที่จะไม่พูดมันออกไป และอยากจะอยู่ในอ้อมกอดนี้ ให้นานขึ้นอีกสักนิดยังดี

แต่ผมที่อยู่ในอ้อมกอดของซินนั้น ก็ต้องขมวดคิ้วน้อยๆ มองดูรอยสักที่คอของซิน จะว่าไปผมก็เพิ่งเห็นมันเป็นครั้งแรก ซินก่อนหน้านี้ มีรอยสักแบบนี้ด้วยเหรอ

ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะที่รอยสัก ด้านข้างลำคอของซินเบาๆ มันเป็นรูปที่ผมเหมือนจะเคยเห็นมันมาก่อน มันเหมือนกับเป็นรูปตัวบวก ไม่สิ ไม้กางเขน แต่มันกลับ กลับหัวลง

"จักจี้นะ" ซินพูดและก้มมองผม ยื่นหน้ามาใกล้จนผมต้องขืนตัวไว้

"ปล่อยได้แล้ว" ผมพูดเบาๆ และพยายามทำหน้าเรียบๆ ทั้งที่ในใจเต้นรัว

"เชื่อหรือยัง" ผมพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย

"ไอ้วิธีพิสูจน์แบบนี้น่ะ เก็บไว้ใช้กับสาวๆ เถอะ" ผมพูดและดันตัวซินออกเบาๆ

ซินไม่ได้พูดอะไรแต่กำลังยิ้มและจ้องมองผมเหมือนทุกที

"คืนนี้ ไปกับซินนะ"

"ไปไหนเหรอ" ผมขมวดคิ้วมองซินด้วยความสงสัย

"หางานให้ไวท์ไง" ผมมองซินที่พูด และยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่ค่อยชอบเอาซะเลย

ผมเข้ามาอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวก่อนที่จะเตรียมตัวออกไปข้างนอก ผมในตอนนี้นั้นควรจะทำอะไรต่อไปดีนะ ผมรู้สึกเหมือนชีวิตผมได้เจออะไรแปลกๆ มากขึ้นทุกที การตายของพี่โก้นั้นมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ผมสัมผัสได้ถึงความกลัวของพี่เขา ก่อนที่จะตาย ผมกำลังเผชิญอะไรอยู่กันแน่นะ

ผมฟอกสบู่เบาๆ ไปตามร่างกายของผม พลางมองดูเงาตัวเองในกระจก ตอนนี้ร่างกายของผมนั้นผอมเหลือเกิน อาจเป็นเพราะผมเครียดบ่อยและกินข้าวน้อยมาก ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะต้องล้มป่วยแน่ๆ

ผมฟอกสบู่ไปเรื่อยๆ ไปตามท่อนแขนของผม ผมไม่ค่อยได้สังเกตตัวเองมากนัก แต่เมื่อครั้งที่ไปหาอาจารย์นาธัส ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าบนตัวผมมีตราประหลาดๆ ประทับอยู่ มันอยู่ที่ตรงท้องแขน ผมต้องพลิกดูดีๆ ถึงจะเห็น...

เดี๋ยวก่อน...ไม่ ไม่มี...มันหายไปแล้ว

ผมล้างสบู่และพลิกแขนไปมาดูอีกหลายรอบ และก็พบว่า มันได้หายไปแล้วจริงๆ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แบบนี้ถือเป็นเรื่องดีสินะ

"อาบนานเกินไปแล้วนะ" ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงซินอยู่ใกล้ๆ ซินน่าจะกำลังพิงประตูห้องน้ำของผม

"จะเสร็จแล้วล่ะ" ผมรีบล้างตัวและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะนุ่งผ้าเช็ดตัวออกไป

ผมออกจากห้องน้ำ เดินเลี่ยงซินที่ยืนขวางหน้าประตู และเลือกหาเสื้อผ้าที่แทบจะมีไม่กี่ตัว

"ที่ที่เราจะไป เป็นที่แบบไหนเหรอ" ผมถามเพื่อที่ผมจะได้แต่งตัวให้เหมาะสม

"ก็แนวๆ บาร์กลางคืนนั่นแหละ ใส่เชิ๊ตสีขาวตัวนี้สิ เหมาะกับไวท์ดีนะ"  ซินพูดและเดินมาเลือกเสื้อให้กับผม

"อีกแล้วเหรอ ผมไม่ค่อยถูกกับที่แบบนั้นเลย" ผมทำหน้าหงอยๆ

"ไม่ต้องกลัว ที่นั่นน่ะ รู้จักซินกันทั้งนั้น ไวท์จะได้ทำงาน และผลตอบแทนก็ดีสุดๆ เลยล่ะ" ผมถอนหายใจ และก็คิดว่า เวลาแบบนี้ผมคงเลือกไม่ได้เท่าไหร่นัก

"แล้วเราจะไปยังไงกันเหรอ" ผมถามพลางสวมเสื้อและซินก็จับมือผมให้ผมยืนนิ่งๆ เพื่อติดกระดุมให้ผม

"เดี๋ยวแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปข้างล่าง ซินจะออกไปโทรให้เพื่อนมารับ" ซินพูดและเดินออกไปจากห้อง

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าจะอยู่ช่วยผมใส่กางเกงซะแล้ว

ไม่นานผมที่ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เดินลงไปเพื่อไปหาซิน และผมที่ลงมาถึงถนนหน้าร้านนั้นก็พบว่าซินกำลังยืนพิงรถคันหนึ่งที่จอดดับเครื่องอยู่

ฟืดดดดด!

ผมสะดุ้งตกใจทันทีที่รู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ที่ข้างคอของผม และก็ต้องพบว่า มีคนคนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านหลังและกำลังดมตัวผมอยู่

"ใครน่ะ!" ผมก้าวถอยหลังหนีจากคนแปลกๆ ทันทีด้วยความตกใจ

"ว้าววว สุดยอด ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย" ผมรีบเดินไปหลบหลังซิน คนที่อยู่ตรงหน้านี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เขาเป็นเพื่อนซินงั้นเหรอ แต่ความสูงและตัวใหญ่ของเขาก็ทำเอาผมกลัวไปเลย

"สวัสดีหนุ่มน้อย ไม่ต้องกลัว ฉันเป็นเพื่อนของซิน" ผมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ หนุ่มน้อยอย่างนั้นเหรอ

"อย่าแกล้งไวท์สิ ไวท์น่ะขี้กลัวจะตาย" ซินพูดและยิ้มให้ผม หนอย ใช่สิ ผมมันขี้ขลาดนี่

"ไปกันเถอะ" ผู้ชายคนนั้นหัวเราะน้อยๆ และขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งคนขับ

ผมดึงมือซินที่ทำท่าจะไปนั่งด้านหน้า ให้มานั่งกับผมด้านหลังแทน และซินก็ตามใจผม ยอมขึ้นมาที่ด้านหลัง

"แหม ถูกทำเหมือนเป็นคนขับรถซะแล้ว ใจร้ายจัง" คนน่ากลัวคนนั้นตัดพ้อพลางหัวเราะต่อไป

"ขับไปเถอะ" ผมมองซินที่ออกคำสั่งกับเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบๆ

"ซิน แน่ใจแล้วเหรอ" แต่อยู่ดีๆ เพื่อนของซินก็หยุดหัวเราะและถามซินด้วยเสียงเครียดๆ

"อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง" ซินพูดตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม

ผมมองเพื่อนของซิน สลับกับซินด้วยความรู้สึกแปลกๆ และไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดเลยสักนิด

ไอ้ที่ที่ผมกำลังจะไปนั้น มันมีอะไรกันแน่นะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:18:49 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao7:
ยิ่งอ่าน ยิ่งหลอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยังมิอาจคาดเดาได้ 

จะปีศาจที่บำเพ็ญตบะมานานตามแนวนิยายจีน

หรือจะอะไรที่เกี่ยวกับนรกสวรรค์

ก็มิอาจมั่นใจ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พิสูจน์เรื่องอะไรหว่า  :confuse:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 12 วังวนแห่งความมืด


ผมยังคงนั่งอยู่ภายในรถ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ซินบอกว่าผมจะสามารถทำงานได้ ผมมองซินที่นั่งนิ่งๆ ข้างๆ ผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย และมองไปยังกระจกรถที่ตอนนี้มีไอน้ำเกาะอยู่จนฝ้ามัว ไม่สามารถมองเห็นภายนอกได้ ภายในรถคันนี้ มันทำให้ผมรู้สึกหนาวเย็นยะเยือกไปทั้งร่างกายและจิตใจอย่างบอกไม่ถูก

"ซิน ที่ที่พวกเรากำลังไป มันอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ" ผมถามซินด้วยเสียงแผ่วเบา

"เราใกล้จะถึงแล้ว" ผมขมวดคิ้วมองซิน นั่นไม่ใช่คำตอบที่ผมอยากรู้สักหน่อย

และไม่นานนัก รถที่วิ่งมาเงียบๆ ก็หยุดลงและประตูที่เปิดออกทันทีก็ทำให้ผมตกใจ ผมลงมาจากรถเงียบๆ มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าที่ปิดไม่มิดถึงความสงสัย

ที่นี่มันแปลก...

ผมมองไปรอบๆ สถานที่ที่เหมือนกับเป็นซอยเปลี่ยวติดกับท่าเรือ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ในสายตาของผม มีแต่เพียงแสงไฟจากโคมไฟที่ส่องสว่างสีนวลอยู่ในความมืดที่เงียบสงัด ผมค่อยๆ ถอดแว่นออกและเช็ดด้วยชายเสื้อของผม และสวมมันอีกทีด้วยความแปลกใจ ที่นี่มันที่ไหนกันนะ

"มาสิ" ผมเดินตามซินและเก็บทุกสิ่งที่สงสัยไว้ในหัวใจก่อน ผมไม่คิดว่าสถานที่แบบนี้จะมีคนเข้ามาใช้บริการหรอกนะ

ผมเงยหน้ามองตึกเก่าๆ ตรงหน้า ตึกที่ดูเหมือนไม่มีอะไร และมีประตูไม้สีแดงปิดอยู่ ผมเดินตามซินที่เปิดประตูเข้าไปช้าๆ

และทันทีที่เข้ามาด้านใน ผมมองทางเดินสีดำที่มีแสงจากเชิงเทียนน้อยๆ ตามทาง ทอดนำไปสู่โถงภายในที่ตบแต่งด้วยสีเลือดหมูและสีดำสลับกัน มีผ้าม่านเก่าๆ ตบแต่งตามผนัง มีบาร์และโต๊ะนั่งดื่มวางเป็นจุดๆ ตะเกียงเล็กๆ บนโต๊ะนั้นกำลังสั่นไหวน้อยๆ ทันทีที่พวกเราเดินผ่าน

ผมตอนแรกที่มองไปรอบๆ บาร์อย่างสนใจตอนนี้กลับต้องก้มหน้าลงกับพื้น เพราะว่าเสียงของคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ตอนนี้นั้นอยู่ดีๆ ก็เงียบสงัด และทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างกำลังจับจ้องมายังผม จนทำให้รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว

"ไวท์" ผมเงยหน้าขึ้นน้อยๆ จ้องมองซินที่กำลังเรียกผมเบาๆ

"ไปที่บาร์กันเถอะ มีคนที่อยากแนะนำให้รู้จัก" ผมพยักหน้าน้อยๆ และเดินตามซินอย่างว่าง่าย หลบสายตาคนในชุดดำหลายคนที่กำลังมองมาเงียบๆ อย่างน่ากลัว

"สวัสดีโอนเนอร์ พาเพื่อนมาฝาก ช่วยหางานให้เขาหน่อยสิ" ผมค่อยๆ เงยหน้ามองคนตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองผมอย่างพินิจพิจารณา เป็นชายวัยกลางคนที่มีหนวดสีดำ และมีแววตาแข็งกร้าวที่น่ากลัว

แต่อยู่ดีๆ คนที่กำลังทำสายตาดุดันนั้นก็หัวเราะออกมาเหมือนกับคนแก่ใจดีธรรมดาๆ ทำเอาผมตกใจหมด

"ฮ่าๆ ยอดเยี่ยม ดีเลย กำลังขาดคน" ผมยิ้มออกมาน้อยๆ และมองซินที่กำลังยิ้มให้ผมเช่นกัน

"ตีตราแล้วหรือ"

"น่าเสียดาย"

ผมขมวดคิ้วมองผู้ชายสองคนที่กำลังซุบซิบกันเบาๆ และจ้องมองผมไม่วางตา

"ไวท์" ผมหันมองซินที่กำลังยกแก้วสีอำพันขึ้นจิบ

"วันนี้ก็ดูๆ งานไปก่อนนะ อยู่กับโอนเนอร์ไม่เป็นไร"

"ซิน จะไปไหนงั้นเหรอ" ผมยื่นมือไปจับมือของซินไว้และทำสีหน้าลำบากใจ มันเป็นสถานที่แปลกๆ ที่ผมกลัวเหลือเกินถ้าต้องอยู่คนเดียว

"ไม่ได้ไปไหนหรอก ซินแค่จะไปคุยกับเพื่อนๆ" ซินพูดและยิ้มน้อยๆ มองผม

ผมค่อยๆ ปล่อยมือซินและมองซินที่เดินหายไปด้านหลังเงียบๆ

"เธอ ชื่อไวท์งั้นเหรอ" โอนเนอร์หนวดครึ้มถามผมด้วยรอยยิ้มใจดี

"ครับ" ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

"ไม่ต้องเกร็งไป ที่นี่คนกันเองทั้งนั้น" โอนเนอร์พูดบอกผม และเรียกให้ผมเข้าไปด้านหลังเคาน์เตอร์

"ที่นี่ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงิน เธอแค่รินสิ่งที่พวกเขาต้องการดื่มก็พอ" โอนเนอร์บีบไหล่ผมเบาๆ และสอนผม

"ถ้าไม่ต้องจ่ายเงิน แล้วร้านจะได้อะไรเหรอครับ" ผมพูดถามด้วยความสงสัย

"ที่นี่ไม่ได้อยู่ได้เพราะเงินหรอกหนุ่มน้อย"

"เป็นองค์กรหรือสวัสดิการบางอย่างแบบนั้นหรือเปล่าครับ" ผมถามสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้

"หัวไวมาก" โอนเนอร์ยิ้มน้อยๆ และตบบ่าผมเบาๆ

"พวกเรามีหน้าที่แค่ให้บริการเท่านั้น อย่าลืมซะล่ะ"

"ครับ" ผมพยักหน้าและมองไปรอบๆ ด้วยความโล่งใจ ทุกอย่างคงไม่ยากเกินกว่าที่ผมจะทำหรอก

"เธอ"

ผมมองตามเสียงเรียกและเดินมาหาคนที่นั่งลงที่เคาน์เตอร์บาร์และประสานมือเท้าคางมองผม เป็นผู้หญิงผมหยิกที่ดูสวยแต่แต่งหน้าประหลาด ริมฝีปากสีแดงของเธอช่างทำให้รอยยิ้มดูน่ากลัว

"เธอเป็นคนของซินงั้นเหรอ" ผมขมวดคิ้วน้อยๆ ให้คำถามนั้น

"ผมเป็นเพื่อนของซินครับ" ผมพูดตอบทันที แต่หลังจากสิ้นเสียงของผมนั้น ทั่วทั้งบาร์ก็มีแต่เสียงหัวเราะดังขึ้น

ทุกคนต่างจ้องมองผม และหัวเราะอย่างขบขันจนทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

"เขาดีกับเธองั้นเหรอ" ผู้หญิงคนเดิมพูดกับผมและยังคงหัวเราะน้อยๆ อย่างชอบใจ

"ครับ เขาดีกับผมมากๆ" ผมพูดด้วยเสียงแน่วแน่ มีเรื่องอะไรน่าขำกันนะ

"แปลก" หญิงสาวคนนั้นพูดต่อ

"แปลกยังไงเหรอครับ" ผมถามด้วยความสงสัย

"ไม่สิ เธอต่างหากที่แปลก มันเหลือเชื่อจริงๆ" หญิงสาวคนนั้นยื่นมือเข้ามาแตะเบาๆ ที่คางของผม ด้วยเล็บสีแดงที่ยาวจนน่ากลัวของเธอ

"ถ้าเป็นคนอื่น คงตายไปแล้ว" ผมขมวดคิ้วและถอยหลังหนีเล็บมือของเธอ

"ผมไม่เข้าใจ" ผมพูดและมองโอนเนอร์ที่กำลังกระแอมไอเสียงดังอยู่ข้างหลังผม

อะแฮ่ม!

"วันนี้รับอะไรดีมาดาม" ผมหลบทางให้โอนเนอร์ที่เดินมารับหน้าแทนผม

"เหมือนเดิมค่ะ แล้วก็ ยินดีที่ได้รู้จักนะ พ่อหนุ่ม" หญิงสาวคนนั้นยิ้มให้ผม และไม่ได้พูดอะไรต่อ

ผมยืนอยู่ที่นั่นสักพักเพื่อหัดทำงานและรับลูกค้า ผมนั้นเริ่มที่จะทำได้แล้ว เพราะโอนเนอร์ใจดีและสอนผมหลายๆ อย่าง แต่พวกคนที่เข้ามาดื่มนั้น ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคนพวกนั้นถึงจ้องมองผมด้วยความสนใจขนาดนั้น บางคนก็ทำหน้าตาตกตะลึง บางคนก็ทำหน้าตาน่ากลัว แต่คนส่วนมากก็ยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร

แต่ผมที่ยืนทำงานอยู่นั้นก็เริ่มมองหาซินที่หายไปนานเหลือเกิน ผมรู้สึกเหงาทุกครั้งที่ไม่มีซินอยู่ข้างๆ การที่ได้มีซินเข้ามาในชีวิตนั้น มันทำให้ผมมีความรู้สึกหลากหลาย  ผมอยากรู้จักซินให้มากกว่านี้ และเมื่อคิดถึงซินมากขึ้น ผมก็จะเผลอคิดถึงอ้อมกอดของซินในวันนี้ และมันทำให้ผมรู้สึกดีและหัวใจเต้นผิดจังหวะเลยทีเดียว

ผมมองดูโอนเนอร์ที่กำลังพูดคุยกับลูกค้าและค่อยๆ เดินลัดเลอะออกมาจากเคาน์เตอร์ เดินไปยังด้านหลังที่ซินนั้นหายไป

ผมเปิดผ้าม่านสีแดงเลือดหมูที่ปิดบังประตูไว้ มันเป็นทางเดินยาวลึกที่ช่างมืดเหลือเกิน ด้านหลังนั้นน่าจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำสินะ แต่มืดแบบนี้ใครจะกล้าเดินไปกัน

ผมมองไปยังขวามือของประตู และก็เพิ่งเห็นว่ามันมีบันไดทอดขึ้นไปด้านบน คล้ายๆ กับคลับที่ผมเคยทำงานนั่นเอง

ผมเดินขึ้นไปยังบันไดสีดำ มองหยากไย่ที่ปกคลุมเชิงเทียน ทำให้ทางเดินยิ่งดูน่ากลัวเมื่อเปรวเทียนพลิ้วปลิวขยับน้อยๆ และในที่สุด ผมก็เดินขึ้นมาถึงด้านบนจนได้

ผมมองไปตามโซฟาสีดำที่มีกลุ่มคนหลายกลุ่มกำลังนั่งอยู่ แต่มันแปลกตรงที่พวกเขากำลังพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบ แทนที่จะพูดออกมาปกติ นี่มันที่ชุมนุมอะไรกันนะ

ผมมองไปรอบๆ เพื่อมองหาซิน เผื่อว่าซินจะอยู่บนนี้ด้วย และเมื่อผมเห็นคนที่ผมคุ้นตาแล้ว แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้ผมต้องหยุดชะงัก

ผมค่อยๆ ขยับเท้าเดินผ่านผู้คนที่กำลังพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบ ไปยังที่นั่งด้านในที่มีเพื่อนของผมนั่งอยู่ เพื่อนเพียงคนเดียวของผมที่ตอนนี้กำลังโอบกอดผู้หญิงผมยาวสีดำ และอีกด้านก็ยังมีผู้หญิงผมสั้นผิวขาวซีดนั่งอยู่ และกำลังกอดซินเอาไว้พลางจูบซินที่คอที่มีรอยสักนั้น ทั้งสามคนกำลังคลอเครียกันอย่างไม่สนอะไรหรือใครที่อยู่แถวนี้เลย

"อ่าว ไวท์ งานเป็นไงบ้าง" ซินพูดพลางโอบผู้หญิงคนนั้นและหอมแก้มเธออย่างรักใคร่

"ก็ดี" ผมพูดและค่อยๆ เดินมานั่งตรงที่นั่งว่างๆ ตรงหน้าซิน

ผมจ้องมองซินด้วยความไม่เข้าใจ แต่จริงๆ ผมก็เคยคิดอยู่ว่าคนหน้าตาดีแบบซิน ก็คงจะนิสัยแนวๆ นี้สินะ แต่ว่าทำไมกันนะ ผมรู้สึกไม่ชอบใจกับสิ่งที่เห็นเลยสักนิด มันทำให้ผมรู้สึกอ่อนแรงลงอย่างน่าประหลาด

"เธอ หล่อจังเลยนะ" ผู้หญิงผมยาวที่ซินกำลังกอดอยู่นั้น ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากซินและนั่งลงข้างๆ ผม พลางยื่นมือเขามาลูบที่แก้มผมเบาๆ

ผมมองซินที่กำลังยิ้มน้อยๆ และยกเหล้าขึ้นดื่ม นายชอบอะไรแบบนี้งั้นเหรอ

"ผมก็แค่ คนธรรมดา" ผมพูดและจับมือหล่อนเอาไว้ ไม่ให้แตะตัวผมไปมากกว่านี้

"ใครบอกกัน เธอน่ะ ไม่ใช่อะไรแบบนั้น" ผู้หญิงตรงหน้าเคลื่อนตัวเข้ามาหาผมอีกนิด และยื่นหน้าเข้ามาจนจมูกของเธอนั้นอยู่ใกล้กับแก้มของผมจนรู้สึกแปลกๆ

"ฉันอยากได้เขา ยกให้ฉันเถอะ" หล่อนพูดและหันไปหาซินที่กำลังยิ้มน้อยๆ มองผมเช่นเคย

"เขาเป็นของฉัน" ผมมองซินที่พูดและจ้องมองผมด้วยแววตาที่เหมือนกำลังหัวเราะ

ผมเริ่มรู้สึกขุ่นมัวมากขึ้น ผมไม่ชอบใจ และไม่ชอบคำพูดแนวๆ นี้เลย ผมไม่ใช่ตัวตลกนะซิน

"ผมไม่ใช่ของของใครทั้งนั้น" ผมพูดออกมาอย่างหนักแน่น ด้วยแววตาที่เริ่มแข็งกร้าว จนทำให้คิ้วของซินชิดกันอย่างแปลกใจ

"ไวท์ เป็นอะไรไป" ซินวางแก้วลงและลุกขึ้นมานั่งอีกด้านหนึ่งของผม

"พาผมกลับ ผมอยากกลับ" ผมพูดและลุกขึ้นทันที ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมไม่ชอบ ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่ออีกสักวินาทีเดียว

"ไวท์ โกรธอะไรกัน" ผมเบือนหน้าหนีคนตรงหน้า

"ผมไม่ได้โกรธ" ผมพูดเบาๆ

"ไวท์ อย่าใจร้ายนักสิ พวกเราเป็นเพื่อนซิน เราก็อยากเป็นเพื่อนไวท์ด้วย" ผู้หญิงผมสั้นลุกขึ้นและดึงผมให้นั่งลงตามเดิม

"ซินเล่าว่าเธอไม่เคยมีเพื่อน น่าสงสารจังเลยนะ ให้พวกเราเป็นเพื่อนเธอเถอะ"

ตอนนี้ซินกลับไปนั่งที่เดิมแล้ว และผู้หญิงทั้งสองคนก็มานั่งข้างๆ ผมแทน

ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในแววตาของพวกเธอ มันทำให้ผมไม่เชื่อ ว่าพวกเธอจะคิดแบบนั้นจริงๆ

"ผมไม่เป็นไร" ผมพูดและเริ่มทำใจให้สงบลง

"ไวท์ ดื่มสิ มันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น" ผมมองแก้วที่มีของเหลวสีอำพันอยู่ด้านในที่ถูกหยิบยื่นให้ สิ่งนี้น่ะเหรอที่จะทำให้ผมรู้สึกดี

"ผมไม่ดื่มหรอก" ผมพูดและวางแก้วนั้นลงตามเดิม

"เป็นอย่างที่บอกใช่ไหมล่ะ" ซินพูดและส่งสายตาให้ผู้หญิงทั้งสองคนที่กำลังทำสีหน้าขบขัน หมายถึงอะไรกันนะ

"ไวท์นี่ล่ะก็ คิดมากไปได้ คนกินเหล้าใช่จะเป็นคนไม่ดีซะเมื่อไหร่ คนที่ไม่กินเหล้า เป็นคนเลวก็ถมไป" เธอพูดและชูแก้วไปมาตรงหน้าผม

"เธอพูดถูกแล้ว อย่าตัดสินใครด้วยเรื่องนี้เลย แต่ผมก็คิดว่าถ้าเลี่ยงได้ก็ดีนะ มันก็ไม่ได้มีผลดีกับร่างกายเท่าไหร่" ผมพูดและจ้องมองซินที่กำลังจ้องมองผมเช่นกัน

"ไวท์ตลกดี" ผู้หญิงผมยาวเอาคางวางบนไหล่ผมและกอดแขนผมเอาไว้แน่น

"ใช่ไหมล่ะ" ซินพูดพลางหัวเราะน้อยๆ

"อยากได้จริงๆ เลยนะ" ผู้หญิงผมยาวพูดเบาๆ และจ้องมองผมเขม็งจนผมต้องเลื่อนตัวหนี

"อย่าแม้แต่จะคิด" เสียงพูดของซินเหมือนเสียงคำรามขู่

"ล้อเล่นหรอกน่า ฉันคงสู้รบตบมือด้วยไม่ไหวหรอก" ผู้หญิงคนนั้นปล่อยตัวผมและกลับไปนั่งข้างๆ ซินตามเดิม ผมได้แต่ขมวดคิ้วจ้องมองอย่างไม่เข้าใจ พูดเรื่องอะไรกันนะ

และผมก็ต้องเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสนข้างในหัวใจ ผู้หญิงผมยาวคนนั้นกำลังโน้มคอซินเข้ามาและบรรจงจูบลงที่ริมฝีปากนั้น

"อยากทำแบบนั้นบ้างไหมล่ะ รู้สึกดีนะ" ผมมองผู้หญิงผมสั้นที่ยังคงนั่งเท้าคางจ้องมองผมด้วยความสนใจ

"ไม่ล่ะ ขอโทษนะ" ผมพูดและเหลือบมองซินด้วยความรู้สึกเศร้าหมองในหัวใจ ทำไมกันนะ

ทำไมผมถึงต้องเศร้าขนาดนี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:19:24 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่าทางซินคงไม่ใช่ท่านยมฯ แล้วละ ถ้าจะเป็นปิศาจ หรือไม่ก็ซาตานที่หลอกให้คนลุ่มหลงในตัณหาโดยแลกกับวิญญาณหรือเปล่านะ  :confuse:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
Shadows ที่ 13 ลวงหลอกและล่อลวง


ผมนั้นไม่สมควรที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป ผมลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินลงไปยังชั้นล่าง ไปยังเคาน์เตอร์ที่ผมทิ้งงานมา ผมไม่อยากอยู่ตรงนั้นต่ออีกแล้ว ผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนั้นอีกแล้ว

"ขอโทษที่หายไปนานครับ" ผมพูดขอโทษโอนเนอร์ที่ยืนนิ่งๆ มองลูกค้า หัวใจของผมมันยังคงเต้นอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ แต่ถึงแม้ซินจะทำแบบนั้น ผมก็ยัง...

"ผม...ขอถามได้ไหมครับ...เรื่องของซิน" ผมพูดเบาๆ และไปยืนข้างๆ โอนเนอร์

"ได้สิิ" โอนเนอร์พูดและจ้องมองผม

"ซิน เป็นคนยังไงเหรอครับ" ผมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"เธอคิดว่าเขาเป็นยังไงล่ะ" แทนที่จะตอบ แต่โอนเนอร์กลับถามผมแทน

"ผมไม่รู้ว่าจริงๆ ซินเป็นคนแบบไหน ผมเคยคิดว่ามันไม่สำคัญอะไร ขอแค่ซินอยู่ข้างๆ ผมก็พอ และซินก็ทำแบบนั้น ซินอยู่กับผมเสมอเวลาที่ผมต้องการเขา" ผมพูดและยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ

"ตอนนี้คนที่เธออยากให้อยู่เคียงข้าง กำลังร้อนรนมากเชียวล่ะ" ผมจ้องหน้าโอนเนอร์ด้วยสีหน้าสงสัย

"ซินน่ะเหรอครับ ร้อนรนเรื่องอะไรกัน"

"เหมือนจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สีขาว ที่ขาวที่สุดนั้นแปดเปื้อนไปด้วยโคลนที่โสมม" ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

"อะไรที่เป็นสีขาว ก็ต้องเปื้อนง่ายไม่ใช่เหรอครับ" ผมพูดด้วยความฉงน

"ฮ่ะๆ นั่นไม่ใช่กับทุกอย่างที่เป็นสีขาวหรอกนะ...ไวท์ และไม่แน่ว่า สีที่ดำสนิทนั้นเอง อาจค่อยๆ กลายเป็นสีที่สว่างขึ้น" ผมยิ้มน้อยๆ ให้โอนเนอร์ที่กำลังลูบหัวผมเบาๆ ผม ไม่เข้าใจที่โอนเนอร์พูดเลยสักนิด แต่ว่า ก็คงเป็นเรื่องดีใช่ไหม

"ไปกันเถอะ ไวท์" ผมมองซินที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กำลังจ้องมองหน้าผมสลับกับโอนเนอร์ด้วยสีบึ้งตึงน้อยๆ

"แล้วเจอกันนะครับ ขอบคุณที่สอนผม" ผมบอกลาโอนเนอร์และเดินตามซินที่เดินอย่างรวดเร็วไปยังทางออก

ภายนอกตัวบาร์แห่งนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม มันเหมือนกับท่าเรือมืดๆ และเงียบสงบ ผมเดินไปที่รถที่พวกเรานั่งมาและก็ต้องสงสัยว่าพี่คนตัวสูงที่ขับรถให้พวกเราตอนแรกนั้นหายไปไหนซะแล้ว

ผมขึ้นมานั่งที่เบาะหลังเงียบๆ เช่นเดิม ผมรู้สึกไม่อยากมองหน้าซินตอนนี้

"ไวท์ มานั่งข้างหน้าสิ" ซินที่นั่งลงตรงที่นั่งฝั่งคนขับนั้นก็หันมามองผม

"ขอโทษนะ แต่ผมอยากเอนนอนสักหน่อย" ผมพูดและเอนตัวลงนอนเงียบๆ ไม่ยอมไปตามที่ซินบอก

แต่ผมที่นอนอยู่สักพักนั้น ก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังค่อยๆ กดน้ำหนักลงบนตัวผมช้าๆ ผมตกใจมองซินที่กำลังขยับตัวมาค่อมตัวผม

"คือ..." ผมตกใจดันอกซินไว้และถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว

"ตั้งแต่ในร้านแล้ว ไวท์ดูไม่ร่าเริงเลย" ซินยื่นมือมาลูบแก้มผมเบาๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวล

"ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย สงสัยจะยังไม่หาย" ผมหันหน้าหนีมือของซิน หลบสายตาไม่ยอมมองคนตรงหน้า

"หรือไวท์จะไม่ชอบที่นั่น" ซินพูดและทำหน้าเคร่งขรึม

"เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น"

"หรือจะไม่ชอบเพื่อนของซิน" ซินพูดต่อและทำสีหน้าสงสัย

"แค่เพื่อนจริงๆ เหรอ ผมมองยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนแฟนซินมากกว่า" ผมพูดเบาๆ และรู้สึกเกลียดตัวเองที่พูดอะไรแบบนั้น

"แฟน งั้นเหรอ" ซินทวนคำพูดผมและหัวเราะน้อยๆ

"ก็ซิน กับผู้หญิงคนนั้น.จ.จูบกัน" ผมรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนกับผมกำลังทำตัวงี่เง่าอยู่ แล้วทำไมผมถึงทำแบบนี้ ทำไมถึงพูดแบบนี้

"งั้นเหรอ แต่ว่าไม่ใช่หรอกนะ" ผมหันมองซินด้วยความแปลกใจ

"ไม่ใช่แล้วทำไมถึง..." ผมถามเสียงเบา

"งั้น...ถ้าซินจูบไวท์ตอนนี้ จะได้ไหม" ซินไม่พูดเปล่าแต่กำลังค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น กดน้ำหนักลงบนตัวผม จนผมตกใจ

ก็อกๆๆ

ผมสะดุ้งตกใจและผลักซินออกจากตัวทันทีที่เห็นคนยืนเกาะกระจกและเคาะเสียงดัง

"เอ่อ คงไม่ได้มารบกวนอะไรใช่ไหม" ผมมองพี่คนที่ขับรถมาให้พวกเราตอนแรก

"ไวลี่" ซินพูดและจ้องมองคนตัวสูงผมตั้งที่ยังคงหัวเราะชอบใจอยู่ เขาชื่อไวลี่งั้นเหรอ คงเป็นคนต่างชาติสินะ

"คือ..ว่า..." ผมขยับตัวนั่งดีๆ และรู้สึกอายมาก แต่ถึงพี่คนนี้จะไม่ได้โผล่มาละก็ ผมก็คิดจะปฏิเสธจูบนี่อยู่แล้ว

"อย่าถือสาเลยไวท์ ซินก็เป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว ฮ่าๆ" ผมชะงักเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินแบบนั้น นั่นสินะ เพราะว่าซินก็คงทำแบบนี้กับคนอื่นไปทั่ว

"พูดมากน่า มาแล้วก็ขับไปส่งที" ซินหันออกไปนอกหน้าต่างอย่างอารมณ์เสีย

ในที่สุดผมก็กลับมาถึงห้องของผม และซินก็ขอตัวกลับไปพร้อมพี่ไวลี่เช่นกัน ผมที่อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ก็นั่งลงอย่างอ่อนแรง พลางคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดไปได้ไม่นาน

ผมนั้นรู้สึกสงสัยในตัวเองมากๆ ว่าผมคิดยังไงกับซินกันแน่ ผมยังไม่ค่อยแน่ใจ อาจจะเป็นเพราะซินนั้นเป็นเพื่อนคนแรกของผม เป็นคนที่ใกล้ชิดผมที่สุดในตอนนี้ จึงอาจทำให้ผมหวั่นไหวลึกๆ ในหัวใจ

แต่ทำไมกันนะ เวลาที่ผมเห็นซินกอดคนอื่นนั้น ผมรู้สึกกลัวเหลือเกินว่าซินจะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าผม แบบนี้แปลว่าผมชอบซินใช่ไหม หรือแค่กลัวที่จะต้องโดดเดี่ยวอีกครั้ง กลัวที่จะเสียซินไป



ในวันต่อมา ผมที่ลงจากรถก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนเช่นเดิมทุกวัน ไม่รู้ว่าซินจะมาหรือยังนะ แต่เดี๋ยวก็คงเจอกันที่ห้องเรียนนั่นแหละ ผมเดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่คุ้นเคย มีรถไม่เยอะนักที่กำลังแล่นผ่านไปมา และผู้คนที่กำลังเดินสวนกัน...

"แก" ผมตกใจทันทีที่อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายืนขวางหน้าผม

"ครับ" ผมพูดตอบด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

"ไม่คิดจะไปงานศพผัวฉันหน่อยเหรอ" ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยแววตาที่เหมือนกับผ่านการร้องไห้มาเป็นเวลานานจนบวมช้ำ และผมรู้ได้ในทันทีจากคำพูดนั้นว่าเธอคือใคร

"ขอโทษครับ แต่ผมจะไปแน่นอน ผมกำลังหาทางจะติดต่อพี่ๆ ที่ทำงานที่ร้านเพื่อถามเขาอยู่เหมือนกัน" ผมรีบตอบด้วยความรู้สึกผิด แต่ผมไม่ได้โกหกหรอกนะ เพราะผมคิดแต่แรกแล้วว่าผมควรจะไป แต่ก็กลัวเหลือเกินถ้าหากจะต้องไปคนเดียว วันนี้จึงคิดว่าจะชวนซินไปถามหาข้อมูล และไปงานศพด้วยกันตอนมืด

ผมมองแววตาที่ดูเกลียดชังผมและเหมือนกับกำลังคิดแค้นเคืองอยู่ในใจ แต่ผมคงจะว่าอะไรพี่เขาไม่ได้ เพราะว่าผมนั้นเป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายนั้น

"แกมันปิศาจ แกเป็นคนฆ่าเขา" เธอพูดและน้ำตาไหลออกมาช้าๆ

ผมหัวใจสั่นไหว นั่นสินะ ใครๆ เขาก็คงคิดแบบนั้น ตอนนี้ข่าวความเป็นตัวซวยของผมคงแพร่สะพัดไปมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

"ผมขอโทษที่ช่วยพี่เขาไว้ไม่ได้" ผมพูดและยื่นมือเข้าไปหาหวังเพื่อจะปลอบประโลมคนตรงหน้า

เพี๊ยะ!

หน้าของผมหันน้อยๆ ไปตามแรงที่ถูกตบ ผมตัวสั่นด้วยความเสียใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องเจ็บปวด ชีวิตของผม มีแต่ต้องทนรับสิ่งเหล่านี้ไว้

"ถึงตำรวจจะเอาผิดแกไม่ได้ แต่จำเอาไว้ ฉันรู้ว่าแกทำ แกกับพวกภูติผีปิศาจที่แกเลี้ยงเอาไว้ แก ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน" เธอพูดและจ้องมองผมด้วยความโกรธแค้น

"คืนนี้ ฉันต้องเห็นแกในงาน ไอ้สารเลว" เธอถ่มน้ำลายลงพื้นและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ผมยืนอยู่ตรงนั้นด้วยหัวใจที่หมองหม่น ก้าวเดินต่อไปเงียบๆ ไปตามทางเดินที่ดูเคว้งคว้างว่างเปล่า

"ได้ยินข่าวไหม เจ้าของร้านที่มันไปทำงานตายสยองเลยนะเว้ย"

"ใครอยู่ใกล้ๆ มันไม่มีใครตายดีสักคน"

"ตัวซวย"

"อย่าไปสบตามัน"

ผมข่มหัวใจให้หยุดสั่น และกำมือแน่นก้าวขาต่อไปด้วยความอ่อนแรง แต่ผมที่เดินอยู่นั้นก็รู้สึกว่าด้านหลังของผมนั้นมันเจ็บ และหัวของผมก็เช่นกัน

ผมมองกลับไปยังทางที่ผมเดินมา และก็พบว่ามีหลายคนกำลังแกล้งปาก้อนหินใส่ผม

ผมสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ความจริงนั้นผมไม่ได้เจ็บกายเลยสักนิด แต่หัวใจของผมมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

ผมก้มตัวลงช้าๆ หยิบก้อนหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่ตรงปลายเท้าของผมขึ้นมา

'ขว้างออกไปสิ ขว้างใส่พวกมัน'

ผมขมวดคิ้วจ้องมองก้อนหินในมือ เสียงกระซิบที่แผ่วเบา ดังก้องไปมาอยู่ในโสตประสาทของผม ราวกับเสียงสะท้อนที่บอกให้ผมทำสิ่งที่ควรทำ

'ทำให้พวกมัน เจ็บปวด เหมือนที่นายต้องเจ็บปวด'

ผมมองก้อนหินในมืออย่างเลื่อนลอย และค่อยๆ กำมันเอาไว้แน่น พลางหันไปมองพวกที่แอบตามเสา พวกที่แกล้งผม

'ใช่ มองพวกมัน โกรธแค้นพวกมัน และทำร้ายมัน ทำให้มันเจ็บ'

ผมค่อยๆ ก้าวเดินย้อนกลับไป และกำหินในมือไว้จนแน่น แววตาของผมสั่นน้อยๆ เมื่อหยุดยืนตรงหน้ากลุ่มคนที่ทำให้ผมเจ็บปวด พวกเขายิ้มและเดินออกมาหาผมอย่างหาเรื่องและไม่เกรงกลัวผม

"ทำไม หรือมึงอยากได้ก้อนใหญ่กว่านี้" ผู้ชายผิวคล้ำผลักอกผม และเดินเข้ามาใกล้อย่างหาเรื่อง

'ผลักมันกลับสิ แล้วต่อยมันซะ ทำให้มันรู้ว่านาย ไม่ใช่คนที่จะยอมให้มันรังแก'

มือของผมสั่นน้อยๆ และยังคงจ้องหน้าอันตพาลตรงหน้า ผมกำมือแน่นและเดินไปหาผู้ชายคนนั้นใกล้ขึ้นอีกนิด คนที่ผลักอกผม

"เดี๋ยวนี้มึงกล้า..."

ผมค่อยๆ ยกมือที่กำแน่นขึ้นช้าๆ และ

"อย่าเล่นอะไรอันตรายแบบนี้อีก ผมเจ็บนะ ถ้าโดนแรงๆ อาจจะเลือดออกได้" ผมวางมือลงบนไหล่ของผู้ชายตรงหน้า ที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วมองผมด้วยความงงงวย

ผมกลับหลังและเดินออกมาจากตรงนั้น มองก้อนหินในมือและโยนมันทิ้งไป

โดยที่ผมไม่ได้รับรู้เลยว่า การกระทำของผมนั้น มันกลับทำให้ใครบางคน

เดือดดาลจนแทบอยากจะลงมือฆ่าผมเลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2020 16:20:00 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
"ขาวที่สุด" ที่โอนเนอร์กล่าวไว้  ก็คงหมาถึง  "ไวท์"  สินะ

ส่วน "ซิน"  น่าจะเป็นพวก "ปีศาจ" ที่กำลังพยายามทำให้  "ขาวที่สุด"  แปดเปื้อนไปด้วย  "กิเลส" หลาย ๆ อย่าง

งั้นมั้ง

 :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด