Chapter 30
กันต์'s Partเช็ดตาม่อน!!!!!!!!!!!!!!!!!
พี่กิจแม่งโครตเทพเลยครับ ที่เกร็งข้อสอบแคลไว้ มันออกหมดเลย... งานนี้พวกผมเลยออกห้องสอบมากันหน้าบานทุกคน
จากนั้นพวกเราก็ไปฉลองกันที่ร้านกาแฟข้างมหาลัยฯ กินขนมกันก่อนกลับครับ เพราะยังต้องอ่านหนังสือสอบกันต่ออีก...
เฮ้อ....
...............................
ที่คอนโด ช่วงหัวค่ำ...
“ นี่กันต์! อ่านหนังสือได้แล้ว “
พี่กิจที่นั่งอ่านชีทเรียนอยู่ที่โซฟา จี้ให้ผมอ่านหนังสือเป็นรอบที่ 3 แล้วครับ
“ คร้าบๆๆ “
“ ครับก็วางมันลงแล้วหยิบชีทขึ้นมาอ่านได้แล้ว เคมีปี 1 มันเนื้อหาเยอะนะ แถมยากกว่ามอปลายอีก “
“ คร้าบๆๆ “
ขี้บ่นจริง... คนอะไร ขอพักเล่นกับไทเกอร์มันหน่อยก็ไม่ได้
“ โอ้ย!! “
จู่ๆ พี่กิจก็เอาชีทที่อ่านอยู่ ม้วนๆ มาตีหัวผมครับ
“ บอกให้อ่านหนังสือ... เอามานี่ “
พี่กิจทำเสียงเข้ม ก่อนจะอุ้มไอ้ไทเกอร์กลับไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวของแก แล้วอ่านหนังสือต่อ โดยไม่สนใจผมที่ทำหน้ามุ่ยมองอยู่ตรงนี้เลย
อ่านไปได้สักพักก็เหมือนจะไม่รู้เรื่องครับ ทั้งๆ ที่เป็นเนื้อหาที่เรียนมาแล้วตั้งแต่ตอนมอปลายทั้งนั้น แถมอาจารย์ก็สอนเหมือนจะง่ายๆ เข้าใจได้ไม่ยาก แต่พอลองทำโจทย์ดูเท่านั้นแหละ.. หึๆๆ
ผมมองไปยังตัวช่วยที่นั่งไขว่ห้าง มือนึงถือชีท อีกมือก็ลูบหัวแมวไปด้วย มาดคุณชายชัดๆ ( แต่ก็เป็นคุณชายจริงๆ นั่นแหละ ) แถมดูจะชิลๆ ไม่หัวฟูเหมือนผมเลยสักนิด
พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย สร้างคนมา ไหงความสามารถมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ว้า!!!!
“ พี่กิจ... “
“ หือ... “
“ ไม่เข้าใจอะ ติวให้หน่อยน้า... “
พี่กิจละสายตาจากชีทแล้วหันมามองผมด้วยสายตาเนือยๆ แต่ไม่ทันที่พี่เขาจะว่าอะไร เสียงโทรศัพท์พี่เขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
เท่าที่ฟังดู... ก็พอจะจับใจความได้ว่า เพื่อนๆ พี่เขากำลังรอให้พี่เขาไปช่วยติวให้อยู่ ซึ่งพี่กิจก็ตอบตกลงไปอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ
………………………….
ที่ตึกภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์
อ่านหนังสืออยู่ในห้องดีๆ ก็โดนลากออกมาอ่านที่คณะครับ พี่กิจบอกว่าปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้ไทเกอร์มันแบบนั้น ผมไม่ได้อ่านหนังสือแน่ๆ เลยลากผมออกมาอ่านหนังสือกับพวกพี่ๆ เขาด้วย ซึ่งผมก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อเสบียงติดไม้ติดมือมาด้วยนะครับ และก็ไม่พ้นพวกช็อคโกแลตกับน้ำอัดลมเหมือนเดิม
.........................
ที่ห้องเรียนห้องหนึ่งภายในตึก..
ที่นี่มีกลุ่มรุ่นพี่ที่ผมคุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นหน้าบ้างอยู่สิบกว่าคนครับ แต่แก๊งพี่กิจนี่มากันครบเลย พอพี่กิจเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ พี่คิมก็ร้องทักขึ้นมาทันที
“ มาช้าเลยนะมึง เร็ว! พวกกูจะไม่รอดกันอยู่แล้วเนี่ย “
“ ก็มัวรอกันต์มันซื้อของอยู่ อีกอย่าง...ไอ้บิวก็อยู่ มึงก็ให้มันติวให้ดิวะ “
“ ถ้าไอ้บิวมันอธิบายได้ง่ายๆ เหมือนมึง กูก็คงไม่เรียกมึงมาหรอก เร็วๆ เดี๋ยวดึก “
“ อ้าว! น้องกันต์มาด้วยเหรอครับ “
เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งทักขึ้นมาครับ จากนั้นผมก็ถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มรุ่นพี่ ทั้งแซวทั้งชวนมานั่งด้วย แถมยังเอาขนมของพวกพี่ๆ เขามาแบ่งให้ผมอีกตั้งเยอะ
รู้อย่างนี้ไม่น่าเสียตังซื้อมาก็ดี..... ประหยัดเงินตั้งเยอะ...
“ พอๆ พวกมึง จะติวกันไม่ใช่เหรอ ปล่อยกันต์มันอ่านหนังสือได้แล้ว “
แล้วพี่กิจก็ทำเสียงเข้มบอกเพื่อนๆ มาครับ จากนั้นพวกพี่ๆ เขาก็กลับไปนั่งที่โต๊ะกันหมด เหลือเพียงแค่พี่พีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ตรงนี้กับผมทางด้านหลังห้อง
“ สอบอะไรอะเรา... พรุ่งนี้ “
“ เคมีอะพี่ โครตยากเลย... “
“ พี่ติวให้มั้ย “
“ จริงอะ ดีเลย พี่กิจไม่ยอมติวให้ผมอะ “
“ ไหนๆ จะสอบเรื่องไหนบ้าง “
แล้วผมก็ส่งเลคเชอร์กับชีทเนื้อหาที่เรียนไปให้พี่เขาเปิดดูผ่านๆ ครับ พอผมเหลือบไปมองทางด้านพี่กิจ ก็เห็นพี่เขากำลังจ้องมาตาเขียวปั๊ดเลย ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจผมแล้วเริ่มติวต่อให้เพื่อน
.....................
ผมนั่งทำโจทย์ที่พี่เขาเกร็งไว้ให้สักพักก็เริ่มมึนครับ เลยขอพักสักแปบ ซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เหมือนพี่กิจเลยสักนิด โครตจะใจดีอะ เพราะถ้าเป็นพี่กิจนะ... ถ้าไม่ดุ ก็เขกหัวผมไปนานละ
“ นี่พี่พี แมวผม.. น่ารักมั้ย “
ผมเปิดรูปไอ้ไทเกอร์ที่ถ่ายไว้ในมือถือให้พี่เขาดูครับ อยากอวดอะครับ ไม่มีอะไรมาก อิอิ
“ น่ารัก ไปเอามากจากไหนอะ ว่าแต่... ไอ้กิจมันยอมให้เลี้ยงได้ยังไงเนี่ย “
“ เจอมันข้างทางอะพี่ มันป่วยอยู่เลยพาไปหาหมอ แล้วก็เอามาพักฟื้นที่ห้อง เนี่ย... กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำไงให้พี่กิจยอมให้เลี้ยงได้ “
“ แค่มันให้เอาสัตว์เข้าห้องได้นี่ก็แปลกมากแล้วนะ จะให้เลี้ยงเลยนี่คงต้องคิดหนัก “
“ นั่นดิพี่... พี่พีช่วยคิดหน่อยนะ “
ผมทำหน้าอ้อนๆ ขอพี่เขาไปครับ แล้วพี่เขาก็อมยิ้มมองผมมาขำๆ
“ ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองหรอก.. พี่ไม่ให้เลี้ยงแน่นอน “
แล้วจู่ๆ น้ำเสียงเรียบๆ ของคนหัวใจเย็นชาก็ดังขึ้น พร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาถึงยังหลังห้อง ซึ่งผมกับพี่พีกำลังนั่งกันอยู่
“ เห็นมั้ยพี่พี เพื่อนพี่อะ... โครตใจร้ายเลย ไม่สงสารสัตว์ตัวน้อยๆ ตาดำๆ เลยสักนิด “
ผมมองพี่กิจไปแบบค้อนๆ ซึ่งพี่เขาก็ได้แต่กระตุกยิ้มดุๆ ที่มุมปากส่งมาให้เท่านั้น
“ ถ้ากิจมันไม่ให้เลี้ยง กันต์ก็เอามาให้พี่เลี้ยงแทนก็ได้นะ แต่เราต้องมาเยี่ยมมันบ่อยๆ ด้วยล่ะ “
“ ได้จริงอะพี่ “
“ จริงดิ “
“ แฮ่ม!! “
แล้วพี่กิจก็กระแอมขึ้นมาขัดจังหวะพอดี
“ อ่านหนังจบแล้วเหรอ... แล้วมึงก็ด้วยไอ้พี เรียกกูมา...ไม่ติวรึไง “
ขัดจังหวะจริงๆ คนเรา ผมกำลังจะหาบ้านให้แมวผมแท้ๆ แถมยังมองมาซะตาเขียวปั๊ดเลย แค่ไม่อ่านหนังสือเนี่ยนะ เคี่ยวเป็นบ้าเลยคนเรา...
“ กูอ่านจบแล้ว อีกอย่าง Work study คะแนนเก็บกูก็ดีอยู่แล้ว มึงไม่ต้องห่วงหรอก “ พี่พีหันไปตอบพี่กิจครับ
“ แล้วเราล่ะ คิดว่าจะรอดรึไง... เคมีวันพรุ่งนี้น่ะ “
เอากับพี่พีไม่ได้ ก็หันมาลงที่ผมซะงั้น
“ ก็พี่พีติวให้อยู่เนี่ย “
“ ติวอะไร... เห็นนั่งคุยกันอย่างเดียว “
แหม...ติวอยู่ไม่ใช่เหรอคร้าบ.... แล้วรู้ได้ไงว่าผมนั่งคุยเล่นอยู่กับพี่พี
“ ป่าวสักหน่อย แค่พักนิดเดียวเอง ถามพี่พีก็ได้ “
ว่าแล้วผมก็หันไปขอกำลังเสริมครับ
“ อื้ม.... มึงไม่ต้องห่วงหรอก กูติวให้น้องมันเอง ส่วนมึงไปช่วยไอ้พวกนั้นต่อเหอะ “
พี่พีพูดจบ พี่กิจก็เหลือบมามองผมตาขวางเลยครับ รู้สึกกลัวๆ ขึ้นมาแล้วสิครับเนี่ย...
ว่าแต่... นี่ผมทำอะไรผิดตรงไหนหว่า นึกไม่ออกเลยครับ แต่ที่แน่ๆ สายตาพี่กิจแบบนี้ ชักไม่ค่อยน่าไว้วางใจเลยครับ
จากนั้นพี่กิจก็เดินกลับเข้าไปยังกลุ่มเพื่อนๆ แถวหน้าห้องเรียนครับ ส่วนผมก็กลับมานั่งมึนกับโจทย์เคมีต่อ เพราะถึงจะมีพี่พีมาอธิบายให้ แต่มันก็ไม่ได้เข้าใจง่ายๆ เหมือนตอนที่พี่กิจอธิบายให้ฟังอยู่ดี... แล้วแบบนี้ วันพรุ่งนี้ผมจะรอดมั้ยเนี่ย.. คิดแล้วก็ชักกลุ้มขึ้นมาบ้างแล้วละครับ
เกือบๆ เที่ยงคืนผมกับพี่กิจก็เตรียมตัวกันกลับครับ ซึ่งจริงๆ แล้วผมเผลอหลับไปตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่าแล้วด้วยซ้ำ จนพี่กิจมาสะกิดให้ตื่นนั่นแหละ ถึงได้เดินงัวเงียตามพี่เขามาต้อยๆ จนถึงรถ ซึ่งพี่เขาก็เดินเอาๆ ไม่รอผมเลยสักนิด ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา
…..
ภายในรถ
ในเมื่อเงียบไม่อยากพูดกับผม ผมก็ไม่พูดบ้าง นอนเลยละกัน ยิ่งง่วงๆ อยู่ด้วย
ว่าแล้วผมก็หลับตานอนพิงพนักทันที จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงไออุ่นและการขยับเขยื้อนตรงหน้านั่นแหละ ถึงได้ผงะตัวลืมตาขึ้นมามอง
“ เห้ย!.. “
ใบหน้าพี่กิจอยู่ห่างกับผมไม่ถึงคืบ ดวงตานิ่งๆ แต่ทรงเสน่ห์มองผมนิ่ง
“ ทะ..ทำอะไรพี่ “
“ ก็คาดเบลให้ไง “
พี่เขาตอบมาเสียงเรียบๆ แต่ก็ยังคงไม่ยอมขยับตัวออกห่างไปจากผม
หายใจไม่ทั่วท้องเลยครับ ไออุ่น กลิ่นกายและสายพี่เขา ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับตอนนี้
ไม่นานพี่กิจก็ขยับตัวกลับไปนั่งยังตำแหน่งคนขับตามเดิม ผมถึงได้หายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังคงรู้สึกเขินๆ ไม่กล้าหันไปมองหน้าพี่เขาอยู่ดี
“ เป็นไง... ให้ไอ้พีติวให้... ดีกว่าที่พี่ติวให้มั้ยล่ะ “
ก็นึกว่าจะไม่พูดกับผมแล้วซะอีก
“ ก็ดีครับ พี่พีเขาไม่ดุผมเลยสักนิด “
“ แล้วพี่ไปดุเราตอนไหน “
ถึงตรงนี้ผมก็หันหน้าไปสู้กับพี่เขาก่อนจะเริ่มเถียงต่อครับ
“ ไม่ดุเล้ยยยยย “
ประชดครับ ก่อนจะยู่หน้าและพ่นลมออกจมูกให้ไป แล้วหันหน้าออกไปมองยังนอกหน้าต่างรถแทน
“ คิดว่าพี่ดุจริงๆ เหรอ ? “
น้ำเสียงพี่เขาดูอ่อนลงมาครับ แต่ผมก็ยังคงไม่หันหน้าไปมองพี่เขาอยู่ดี
จริงๆ ฟังจากน้ำเสียงแล้วผมก็แอบรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ นะครับ เพราะที่พี่เขาเข้มงวดกับผมก็เพื่อตัวผมเองทั้งนั้นแหละ ลองไม่เข้มงวดนะ บอกเลย.. อ่านไม่จบแบบนี้หรอก
“ กันต์... “
“ …… “
“ ถ้างั้นต่อไป.. “
“ เปล่า!! “
ผมรีบตัดบทขึ้นทันที ก่อนที่พี่กิจเขาจะพูดต่อ
เพราะผมกลัวว่าพี่เขาจะไม่สนใจผมอีกเหมือนตอนนั้น...
ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นครับ....
“ คือ... แบบนี้ก็ดีแล้ว.. “
พี่กิจมองผมแบบงงๆ ผมเองก็งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ก็แค่ไม่อยากให้พี่เขาเลิกสนใจผมไปก็เท่านั้นเอง....
“ แล้วเรื่องแมวนี่.. จะให้ไอ้พีมันเลี้ยงจริงๆ เหรอ “
ผมหันมามองพี่เขาก่อนจะทำสายตาละห้อยขอร้อง
“ เลี้ยงมันไม่ได้เหรอ.. พี่กิจ... “
“ ไม่... “
ไอ้คนเลือดเย็น!....
..............................
ผ่านไป 1 สัปดาห์ การสอบกลางภาคก็ผ่านพ้นไป...
จากนี้ไปผมคงจะได้นอนหลับเต็มอิ่มเสียที ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนอ่านหนังสือกันวันต่อวัน วิชาต่อวิชาแบบนี้อีกแล้ว...
คือที่ผมต้องอ่านหนังสือหนักเป็นพิเศษอย่างนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวคะแนนจะแย่อะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ แต่เพราะพี่กิจขู่เอาไว้แล้วว่า ถ้าผมตกมีนแค่สักวิชาเดียว... ผมโดนดีแน่... ก็อย่างที่รู้ๆ ว่าพี่กิจเวลาเอาจริงน่ากลัวขนาดไหน..
กลืนน้ำลายแปบ...
เย็นนี้ที่ชมรมแบดมินตันเริ่มกลับมาซ้อมกันตามปกติแล้วครับ ขณะที่ผมกับไอ้ธันกำลังเอาของไปเก็บและเปลี่ยนชุดกันอยู่ที่ล็อคเกอร์ จู่ๆ ไอ้เคมันก็เดินเข้ามาหาพวกผมครับ
“ เฮ้ย....นาย! “
สรรพนามแม่งแปลกๆ
นายเหรอ... ปกติมันเรียกพวกผมแต่มึงๆๆ...แค่นั้น วันนี้มาแปลกแฮะ
ผมที่กำลังนั่งบนเก้าอี้ยาวมัดเชือกรองเท้าอยู่ เงยหน้ามองมันอย่างแปลกใจ เพราะปกตินอกจากมันจะเขม่นพวกผมแล้ว มันไม่เคยเข้ามาพูดคุยกับพวกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ แมวที่นายถ่ายลง IG นั่น.. นายเอามาจากไหน “
มันคงจะหมายถึงไอ้ไทเกอร์อะครับ เพราะช่วงนี้มันอ้วนขึ้นมากและผมก็ชอบอวดชาวบ้านโดยการถ่ายรูปลง IG อยู่บ่อยๆ ว่าแต่.... มันไปรู้ IG ผมได้ยังไงกันละเนี่ย...
“ ทำไม... “ ผมถามมันกลับไปสั้นๆ ครับ
“ ก็อยากรู้.. นายเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ เลยเหรอ “
“ เปล่าอะ พึ่งเจอมันหลงทางมา แล้ว.. มันทำไม “
“ ก็เปล่า.. พอดีกูเห็น... เอ่อ... ภาพมึงในเพจคิ้วบอยของมหาลัยฯ ที่ถ่ายรูปกับแมวน่ะ ก็เลยถามดู “
อ่อ.. ที่แท้มันก็เห็นจากเพจคิ้วบอยของมหาลัยฯ นั่นเอง เพจที่รวมเอาคนหล่อๆ สวยๆ ของมหาลัยฯ ผมอะครับ..
ซึ่งจะว่าไปการที่ผมได้ลงในนั้นก็แปลว่า ผมนี่ก็หล่อใช่ย่อยเลยนะเนี่ย...อิอิ
“ แล้ว... “
“ ก็เผื่อมันจะเป็น... แมวของกู “
จบประโยคที่มันว่ามา ก็ทำเอาผมชะงักมือที่กำลังจะใส่รองเท้าอีกข้างขึ้นทันที
ลึกๆ แล้ว ผมกลัวว่าสิ่งที่มันพูดมาอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว... ผมอาจจะต้องเสียไอ้ไทเกอร์ไปก็เป็นได้
แต่มันคงจะไม่โลกกลมขนาดนั้นหรอกมั้งครับ ว่ามั้ย...
“ แล้ว.. ใช่มั้ยล่ะ “
ผมลองเสี่ยงถามดูครับ พร้อมกับอดหวั่นใจในคำตอบของมันอยู่ไม่ได้เหมือนกัน
มันอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมา...
“ ใช่... “
สั้นๆ แค่นั้น แต่ทำเอาผมท้องไส้ปั่นป่วนไปเลยทีเดียว....
ผมรีบใส่รองเท้าให้เสร็จทันที และสะกิดบอกไอ้ธันให้ออกไปจากห้องล็อคเกอร์ให้เร็วที่สุด โดยไม่หันไปมองยังไอ้เคมันเลยแม้แต่น้อย
“ กูขอคืนได้มั้ย!! “
เสียงมันตระโกนตามหลังมา ขณะที่พวกผมกำลังจะก้าวออกไปจากห้องล็อคเกอร์ ผมชะงักเท้าอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หันไปตอบหรือแม้แต่มองมันเลยสักนิด...
ผมยังสับสนกับสิ่งที่ได้ยินอยู่ในตอนนี้....
............................................