Chapter 24
กิจ ‘s Partผมกำลังค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนหัวเล็กๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้น
ผมรีบหันไปมองรอบๆ ทันที ซึ่งก็พบไอ้กานต์น้องชายผม มันกำลังนอนหลับอยู่ที่โซฟาไม่ไกลจากเตียงที่ผมกำลังนอนอยู่
ผมค่อยๆ นึกและลำดับเรื่องราวในทันที...
ใช่แล้ว... ผมรถล้มนี่นา ถ้าอย่างนั้น... ตอนนี้ผมก็คงกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแน่ๆ....
แต่ว่า...
ตอนนั้น... ที่ไปกับผมด้วย... ก็มีกันต์นี่... แล้วตอนนี้... น้องมันอยู่ที่ไหนกันนะ...
ว่าแล้วผมก็ผงะตัวขึ้นมา ตะโกนเรียกไอ้กานต์ที่นอนอยู่ใกล้ๆ เพื่อซักถามทันที มันงัวเงียทำหน้ายุ่งๆ มองมาทางผม
“ กานต์! กันต์ล่ะ... อยู่ไหน ปลอดภัยรึเปล่า “
“ พี่กันต์ปลอดภัยดีพี่ ตอนนี้กลับไปที่คอนโดแล้ว แต่ว่า... “
“ แต่อะไร! “
“ ถึงจะปลอดภัยดี แต่พี่เขาก็เจ็บเอาการอยู่นะพี่ แผลเต็มตัวไปหมดเลย ผมเห็นละเจ็บแทน แต่ว่า... พี่เขาไม่ยอมนอนโรงพยาบาลอะ “
ได้ยินอย่างนี้แล้ว ผมนี่โครตรู้สึกผิดเลยครับ ที่น้องมันต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ ก็เพราะผมแท้ๆ เลยครับ
“ แล้วกลับไปยังไง ใครไปส่ง แล้วพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้รึเปล่า “ ผมถามต่อครับ
จากนั้นกานต์มันก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่มันรู้ให้ฟังคร่าวๆ ว่า... กันต์มันเป็นคนโทรไปบอกให้ที่บ้านผมทราบเรื่อง ส่วนอาการของผมก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก ในขณะที่กันต์มันมีแผลถลอกตามตัวและก็หัวแตก ซึ่งทำแผลไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกลับคอนโดไปโดยมีเพื่อนไปส่ง ซึ่งผมคาดว่าน่าจะเป็นไอ้เรย์ ว่าแล้วผมก็รีบขอโทรศัพท์ผม ก่อนจะกดโทรออกไปหาไอ้เรย์มันทันทีครับ
--- ฮัลโหลครับ ---
“ เรย์ เมื่อคืนมึงไปส่งกันต์มาใช่มั้ย “
--- ฟื้นแล้วเหรอครับพี่ ใช่ๆ ผมไปส่งมันเองครับ ---
“ แล้ว... มันเป็นยังไงบ้าง เจ็บหนักมั้ย “
--- ก็เอาการอยู่พี่ ถึงปากมันจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่จากที่เห็น... มันก็คงจะเจ็บน่าดู ที่สำคัญ –
“ ที่สำคัญอะไร... “
--- มันโครตเป็นห่วงพี่เลยรู้ป่าว ---
ถึงตรงนี้... ผมก็พูดอะไรไม่ออกเลยครับ ได้แต่เงียบรอฟังมันพูดต่อมาเท่านั้น
--- ตอนที่เกิดเรื่อง... มันโทรมาหาผม... ให้ผมไปช่วย แต่แบตมันเสือกหมดไปก่อน กว่าที่ผมจะขับรถตามหามันจนเจอ ก็กว่าครึ่งชั่วโมงเลย แล้วพี่รู้มั้ย.... ว่ามันทำยังไง... ---
“ แล้ว.. กันต์มันทำยังไง “
--- มันกลัวว่าพี่จะเป็นอะไร และกลัวว่าจะไม่มีใครมาช่วย... มันเลยแบกพี่เดินไปตามทางเรื่อยๆ เผื่อว่าจะเจอใครที่พอจะช่วยได้... แม่ง.. แผลก็เต็มตัว หัวก็แตกจน... เสื้อที่มันโพกหัวไว้... ชุ่มไปหมดด้วยเลือด... เห็นสภาพมันตอนนั้นแล้ว... ---
ถึงตรงนี้... ไอ้เรย์ที่น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือก็เงียบไปครับ... มันคงพยายามกลั้นน้ำตาอยู่แน่ๆ
ส่วนผมที่ได้แต่อ้าปากค้าง พอนึกถึงภาพที่ไอ้เรย์มันเล่ามาให้ฟัง ผมก็ยิ่งรู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
น้องมันจะรู้สึกยังไงบ้างนะ เวลานั้น..
มันจะกลัวขนาดไหนกันนะ..
มันจะเหนื่อยแค่ไหนกัน..
มัน.. จะเจ็บมากแค่ไหน...
ความอดทนและความพยายามเท่าไหร่... ถึงจะทำได้ขนาดนั้น...
ถึงจุดนี้... น้ำตาที่มันไม่เคยไหลออกมาจากตาผมเป็นเวลานานแล้ว ก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตา ซึ่งผมก็ต้องพยายามข่มมันเอาไว้...
--- พี่กิจรู้อะไรมั้ย.... เชี่ยกันต์มันโครตเป็นห่วงพี่เลยนะ... ตลอดทางบนรถ มันเอาแต่หันไปดูพี่ตลอด... พูดซ้ำๆ ว่า ขอให้พี่ปลอดภัย ทั้งๆ ที่ตัวมันเองก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว เสียเลือดซะขนาดนั้น จนร่างกายมันอ่อนเพลียและแทบจะไม่มีแรงแล้ว... พอถึงโรงพยาบาล มันก็เอาแต่บอกให้คนเข้าไปดูพี่ก่อน พาพี่ไปก่อน มันนี่แม่ง... ไม่เคยห่วงตัวมันเองเลย... ผมละนับถือใจมันจริงๆ ---
ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาที่มันไม่เคยไหลมานานแล้ว จู่ๆ มันก็ร่วงหล่นผ่านแก้มผมไป โดยที่ผมไม่สามารถจะควบคุมมันได้ ก่อนที่ผมจะปาดมันออกไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น
“ แล้ว... ตอนนี้กันต์มันอยู่ที่ห้องใช่มั้ย “
--- ครับพี่ เมื่อคืนผมไปส่งมันเองที่ห้อง นี่ก็กะว่าวันนี้จะเข้าไปเยี่ยมมันสักหน่อย... อีกอย่าง.. เมื่อวานเป็นวันเกิดมันนะพี่ ทีแรกผมกะว่าจะเซอร์ไพส์มันสักหน่อย แต่แม่ง... กลับถูกเซอร์ไพส์เองซะงั้น... ---
วันนี้อยากกินอะไร...
เค้กครับพี่....
“ เฮ้ยเรย์... นั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ว่าจะกลับห้องไปดูกันต์มันแล้ว “
--- ครับพี่... ผมฝากมันด้วยนะครับ แล้วยังไง... วันนี้ผมขอเข้าไปเยี่ยมมันหน่อยนะครับ ---
“ อืม.. มาถึงก็บอกแล้วกัน “
จากนั้นผมก็วางสายจากไอ้เรย์ไป ก่อนจะเลิกผ้าห่มออก แล้วทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียง ก็พอดีกับที่พ่อและแม่เดินเข้าห้องมาพอดี
“ อ้าวฟื้นแล้วเหรอตากิจ แล้วนี่จะไปไหน ร่างกายเรายังไม่แข็งแรงเลยนะ แล้วอะไรเจ้ากานต์... เอาแต่นอนไม่ดูแลพี่ตัวเองเลยนะ “
แม่ผมร่ายยาวขึ้นมาทันทีที่เห็นผมกำลังจะลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเดินเลยไปยังโซฟาปลุกไอ้กานต์ที่นอนหลับไปอีกรอบระหว่างที่ผมกำลังโทรศัพท์อยู่
“ กิจไม่เป็นไรแล้วแม่ ว่าจะกลับห้องแล้ว จะได้ไปดูกันต์มันด้วย... เพราะที่มันต้องเจ็บแบบนี้ก็เพราะกิจเองนะ “
ผมบอกไปตามจริงครับ เพราะยิ่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาทุกที
“ แต่เรายังไม่แข็งแรงเลยนะ “ แม่ยังยังคงดึงดันจะไม่ให้ผมกลับครับ
“ กิจรู้ตัวเองดีน่าแม่ อีกอย่าง... หมอก็บอกแล้วนี่ว่าไม่เป็นอะไรมาก ยังไงกิจก็จะกลับ “
“ แต่... “
“ เอาน่าคุณ ก็ลูกมันอยากจะกลับก็ปล่อยมันไปเถอะ อีกอย่าง เราก็ไปคุยกับหมอมาแล้ว เขาก็รับรองว่าตรวจให้ละเอียดแล้วว่าเจ้ากิจไม่เป็นอะไรมาก “
พ่อเอามือมาตบไหล่แม่เบาๆ ซึ่งแม่ก็ดูจะมีท่าทีอ่อนลงมาบ้างแล้วนะครับตอนนี้
“ ส่วนรถ พ่อให้คนไปเอากลับมาเข้าอู่ให้แล้วนะ “
“ ขอบคุณครับพ่อ “
“ แล้วแม่ก็ขอสั่งห้ามเราขับมอเตอร์ไซต์อีกนะ “
แม่ผมบอกเสียงเข้ม ท่าทางเอาจริงครับ ก็รู้นะครับว่าแกเป็นห่วง แต่บิ๊กไบต์มันเป็นความชอบส่วนตัวของผมนี่นา
แต่ว่า... หลังจากนี้ก็คงจะใช้ให้น้อยลงแล้วละครับ
“ คร้าบ.... แต่จะให้เลิกขับเลยก็คงจะไม่นะแม่ แต่จะพยายามใช้ให้น้อยที่สุดก็แล้วกัน “
จากนั้นผมก็เปลี่ยนชุดที่พ่อกับแม่เตรียมมาให้จากที่บ้าน ก่อนที่จะให้คนขับรถขับไปส่งผมที่คอนโด ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งให้ผมดูแลกันต์มันดีๆ ด้วย ถ้ามีอะไรก็ให้รีบพามาที่โรงพยาบาลทันทีเลย แต่ถึงพ่อกับแม่จะไม่สั่ง ผมก็จะทำมันอยู่แล้วล่ะครับ
...........................
ที่คอนโด
ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องที่เงียบสนิทราวกับว่าไม่มีใครอยู่ สงสัยกันต์มันคงจะยังไม่ตื่นอะครับ
ผมเลือกที่จะไม่เคาะประตูห้อง เผื่อมันจะยังหลับอยู่ จะได้พักผ่อนยาวๆ ผมเลยตัดสินใจถือวิสาซะเปิดประตูห้องเข้าไป
ภายในห้องเงียบมาก จะมีก็เพียงแค่เสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่เท่านั้น
กันต์มันกำลังหลับอยู่จริงๆ ครับ....
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียง ก่อนจะนั่งลงมองดูมันที่กำลังหลับตาพริ้มและหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
ผมเอามือไปแตะที่แก้มมันอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม ก่อนจะสะดุ้งมือขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมันตัวร้อนจี๋เลยครับ ท่าทางจะมีไข้จากแผลที่อักเสบ
อยากจะปลุกและพามันไปโรงพยาบาลนะครับ แต่มันก็คงจะไม่ยอมไปแน่ๆ
ผมนิ่งคิดอยู่เล็กน้อยว่าสถานการณ์แบบนี้ ควรจะทำยังไงดีถึงจะช่วยลดไข้มันได้ ก่อนจะนึกถึงตอนที่ผมป่วย ซึ่งกันต์มันก็ใช้วิธีเช็ดตัวให้ เพื่อลดไข้ผม...
ทันทีที่คิดได้ ผมก็รีบรุดออกไปหาผ้าขนหนู และน้ำอุณหภูมิปกติเข้ามาในห้องทันที
ผมค่อยๆ จุ่มผ้าลงไปในน้ำและบิดมันให้พอหมาดๆ ก่อนจะค่อยๆ สัมผัสลงบนแก้มมันอย่างเบามือ
ไม่อยากให้มันตื่นครับ....
ผมไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน ก็มีมันเนี่ยแหละครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกอยากทะนุถนอมได้ขนาดนี้
เช็ดไปได้ไม่นาน มันก็ปรือตาขึ้นมา ท่าทางมันดูจะเบลอๆ อยู่นะครับ ก่อนจะพูดเสียงอู้อี้อะไรไม่รู้อยู่ในลำคอ ซึ่งเบามากจนผมฟังไม่ได้ศัพท์...
“ นอนต่อเถอะ เรามีไข้อยู่นะ เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้... “
ผมบอกไปเท่านั้น ไม่นานมันก็ผล็อยหลับไปต่อ มันคงจะเพลียและเบลอจากอาการเหนื่อยล้าและพิษไข้ละมั้งครับ ถึงได้หลับต่อไปอย่างง่ายดายขนาดนี้...
ผมค่อยๆ เช็ดหน้า ลำคอ แขน ขา และตามข้อพับต่างๆ อย่างเบามือ... ไม่อยากให้มันตื่นมาอีกรอบ อยากให้ได้พักผ่อนสบายๆ ไปก่อน เพราะต่อจากนี้... ผมเป็นคนจะจัดการเรื่องต่างๆ ให้มันเอง...
ถึงเวลาที่ผมต้องดูแลมันบ้างแล้วละครับ...
พอเช็ดตัวเสร็จ ผมเอามือไปแตะที่หน้าผ้ามันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าตัวจะเย็นลงมาบ้างแล้วนะครับ แต่ก็ยังคงมีไข้อยู่
ผมมองดูมันต่ออีกเล็กน้อย รู้สึกปวดใจแปลกๆ... ไม่รู้ทำไม ผมถึงไม่อยากเห็นคนๆ นี้ ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เลยครับ
ที่สำคัญ.... ยิ่งรู้ว่าการที่มันมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะพยายามที่จะปกป้องผมด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บไปมากกว่าเดิม...
ผมลุกขึ้นจากเตียงพร้อมอุปกรณ์เช็ดตัว เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปจากห้อง ตั้งใจว่าจะไปหาอะไรมาให้มันกินกลางวันนี้ครับ จะได้ให้มันกินยาต่อ
ก่อนออกจากห้อง ผมมองไปยังโต๊ะเขียนหนังสือ เผื่อว่ามันจะมียาจากโรงพยาบาลให้มาบ้าง ซึ่งก็จริงครับ มันมีถุงยาวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินเข้าไปดูว่ามียาอะไรบ้างและต้องกินก่อนหรือหลังอาหารยังไง ซึ่งเท่าที่ดูก็มีแค่ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบเท่านั้น
นอกจากนี้ บนโต๊ะก็ยังมีขนมเค้กที่มันกินไปได้แค่คำสองคำเท่านั้นเหลือทิ้งไว้ มองเลยขึ้นไปมีรูปพ่อกับแม่ของมันวางอยู่ตรงหน้า....
กันต์.. มันคงเหงาน่าดูนะครับ ในวันเกิดของตัวเองแบบนี้....
จะรู้สึกยังไงกันนะที่วันเกิดปีนี้ เราจะไม่มีใครเลย... ต้องอยู่ตามลำพัง แถมยังมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้อีก
ผมมองกลับไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกตื้อๆ ที่เบ้าตา...
ผมเข้าใจแล้วครับ ที่ไอ้เรย์มันบอกว่ากันต์มันพยายามทำตัวเองให้เข้มแข็ง และได้แต่บอกว่าตัวเองไม่เป็นไร...
แต่เชื่อผมสิ...
มัน... เป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ ครับ
ก่อนออกจากห้อง สายตาผมก็ไปสะดุดอยู่ที่ตะกร้าผ้า ผมเห็นเสื้อที่ถูกโยนทิ้งไว้ด้านบน มันเป็นเสื้อตัวเมื่อวานที่กันต์มันใส่ ซึ่งผมจำได้ดี แต่ว่าสภาพมันต่างไปจากเมื่อวานมาก จนแทบจะไม่เหลือเคล้าเดิมเลยแม้แต่น้อย เพราะมันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานเต็มไปหมด
ถึงจุดนี้.. จากที่แค่ตื้อๆ ที่เบ้าตา จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น...
คนที่จิตใจเข้มแข็งอย่างผม กลับมามีหัวใจที่บอบบางได้เพราะคนๆ นี้
มันเป็นไปได้ยังไงกันนะ....
ผม... ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ...
..................................................