My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147390 ครั้ง)

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อิกจหน้าด้านมาก.. :angry2:
น้องอย่าพึ่งกลัวนะลูกสีคล้ำหน่อยเพราะอืพี่มันใช้งานบ่อย  o18

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
นี่ขนาดพี่กิจยังไม่ตื่นนะเนี่ย ยังตกใจเลย 555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อย่าบอกนะว่าพี่กิจจำได้ว่าน้ำห้องไหนไม่ไหล  :m12:

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :-[ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เอาอีกๆ

สนุกมากๆ


ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
โอ้โหวววว ข้ามขั้นแบบสุดดด ยังไม่ทันจีบกันเลย อาบน้ำด้วยกันและ 5555555 สนุกมากเลยค่าาา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ยู้ววฮู

สบายดีไหม

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 22




กันต์'s  Part




และแล้ววันคัดตัวก็มาถึง....

รู้สึกตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้สิครับ  พี่กิจยังคงขับรถมาส่งผมที่ตึกเรียนเหมือนเดิม  แถมวันนี้ยังใจดีให้ผมใช้ไม้แบดของพี่เขาด้วย...  กับเหตุผลที่ว่า  ไม้เทพยังไงก็ชนะ...

ก็ดีครับ...  เพราะไม้ของพี่เขาถึงจะยี่ห้อเดียวกันกับผม  แต่ก็เป็นรุ่น Top ที่ดีกว่าของผมมาก

“ อย่าเครียดนะ  ตอนแข่งอะ  เล่นสบายๆ ตามสไตล์ของเรานั่นแหละ  พี่เชื่อว่าเราทำได้อยู่แล้ว “ 

พี่กิจยิ้มบอกมาขณะที่เรายังอยู่กันในรถครับ

“ แล้ว...  พี่จะมาดูผมมั้ย... “

“ อื้ม..  มาสิ  เดี๋ยวจะฝากชมรมให้ไอ้คิมมันดูน้องซ้อมบาสแทน “

“ แบบนี้จะดีเหรอพี่ “

“ วันเดียวไม่เป็นไรหรอกน่า “

ผมยิ้มรับก่อนจะปลดเบลออก  เพื่อเตรียมตัวลงไปจากรถ

“ กันต์...  สู้ๆ นะ  แล้วพี่จะไปเชียร์ “

พี่กิจลูบหัวผมเบาๆ  แต่ผมนี่สิครับ...  ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย

ตกลงผมชอบพี่เขาจริงๆ เหรอเนี่ย...   เป็นไปได้ไง  เมื่อไหร่กัน  หรือผมออาจจะคิดมากไปเองนะ  มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้...

โอ้ยยยย....  สับสนโว้ยยยย!!!


..........................


ผมเดินเข้ามาในห้องเรียน  ไอ้เรย์มันก็ทักผมขึ้นมาทันที  เมื่อเห็นว่าผมทำหน้าเครียดๆ เดินเข้ามา  ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เครียดนั้นเพราะเรื่องอะไร  ระหว่างเรื่องคัดตัว  หรือว่า...  เรื่องพี่กิจกันแน่...

“ เรื่องคัดตัวเหรอวะ “

ไอ้เรย์มันถามมา  ผมเลยได้แค่พยักหน้าส่งๆ ให้ไปเท่านั้น

“ แล้วมึงกับแพร  ตกลงยังไงกันเนี่ย  กูไม่เห็นมึงจะทำอะไรเลย “

ผมเปลี่ยนเรื่องถามมันไปบ้างครับ  ซึ่งไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ก็ดูจะสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกันกับหัวข้อนี้ 

“ ใครว่ากูไม่ทำ  กูแค่ไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อก็เท่านั้นเอง  ที่สำคัญ...  ช่วงนี้กูคุยไลน์กับเขาอยู่ “


“ เชร็ด!!!!!!! “


พวกผมสามคนถึงกับอุทานขึ้นมาพร้อมกันทันที  กับการซุ่มเงียบของมัน 

“ เออเรย์..  กูถามมึงอย่างนึงดิวะ...  ไอ้เวลาที่เราอยู่ใกล้ใครสักคน  แล้ว...  ใจเรามันเต้นแรงๆ เนี่ย..  มันคือการชอบป่าววะ “

ผมแอบถามมันต่อครับ  อยากรู้จากปากผู้มีประสบการณ์มากๆ อย่างมันเสียหน่อย

“ ส่วนมากก็ใช่นะ  เพราะถ้ามึงไม่คิดอะไร  มึงก็จะไม่ใจเต้นหรอก “

ชิบหายละไง...

นี่ผมชอบพี่เขาจริงๆ เหรอเนี่ย

ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น  ไอ้เรย์มันก็เข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ ว่า...

“ ตกลงใครวะ  พี่กิจ  พี่พี  หรือว่าไอ้ธัน “

“ พ่องมึงสิ “

“ เอาเหอะ...  มึงจะชอบใครก็อยู่ที่ใจมึงละกัน  แต่ส่วนตัวแล้ว...  กูเชียร์พี่กิจ  ไอดอลของกูเว้ย “

สาดนี่...  เสือกเชียร์ถูกคนด้วยสิครับ

เห้อ...  แล้วจากนี้ไปผมจะทำตัวยังไงดีเนี่ย  ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้  พี่เขาก็โครตจะดีกับผมเลย...



.....................



เย็นนี้พวกรุ่นพี่นัดเราที่ลงชื่อคัดตัวไปที่คอร์ดแบดของมหาลัยฯครับ  โดยพวกรุ่นพี่เขาจองคอร์ดเอาไว้  2  คอร์ดคือคอร์ด 7 กับ 8  ซึ่งมีคนมากันเยอะอยู่พอสมควร  ทั้งคนมาคัดและคนที่ตามมาเชียร์


.................


ในช่วงแรกจะเป็นการคัดตัวแบบชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวก่อน  ซึ่งไอ้ธันก็ทำได้สำเร็จครับ  ได้เป็นตัวแทนคณะ  ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ มากมายทั้งในและนอกคณะที่คอยเชียร์มันอยู่

“ ไหวมั้ยเนี่ย “

ผมถามขึ้นเมื่อมันเดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ ผม  ในสภาพชุ่มเหงื่อไปทั่วทั้งตัวแบบนี้

“ ไหวสิ  ยิ่งคู่กับกันต์ด้วยแล้ว  เรายิ่งต้องพลาดไม่ได้เลย  ยังไงเราสองคนก็ต้องได้เป็นตัวแทน “

 มันยิ้มบอกมาครับ  จากนั้นแพรก็ส่งน้ำเย็นๆ ให้มันต่อ  ส่วนไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คนี่เป็นแบล็คอัพคอยพัดวีให้มันอยู่เนืองๆ

สำหรับการคัดตัวประเภทคู่  ฝ่ายชายจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 คู่ครับ  เท่ากับว่าถ้าผมจะผ่านการคัดตัวก็ต้องแข่งให้ชนะถึงสามเกมเลยทีเดียว

แต่ว่า...

จนป่านนี้ผมก็ยังไม่เห็นวี่แววของพี่กิจเลยครับ...  ไหนบอกว่าจะมาเชียร์ผมไง...


....................


แล้วการแข่งขันรอบแรกของพวกผมก็มาถึง….

ผมเดินเข้าสนามไปพร้อมกับไอ้ธันด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจอยู่เล็กน้อย

ไอ้ธันเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบาๆ  เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย  ซึ่งมันก็ช่วยได้บ้างนะครับ  แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่หรอก...

เมื่อการแข่งเริ่มขึ้น  ไอ้ธันซึ่งสูงกว่าผมเลยทำหน้าที่คุมหลัง  ส่วนด้านหน้าเป็นหน้าที่ของผมเองครับ

เกมดำเนินไปค่อนข้างสบาย  เพราะอีกฝ่ายฝีมือยังไม่สูงมาก  พวกเราจึงเอาชนะกันได้ไม่ยาก  และใช้เวลาไม่นาน  ด้วยผลคะแนน  15 ต่อ 8

ผมกลับเข้ามานั่งพักที่ข้างสนาม  ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่หรอกครับ  แล้วแบล็คอัพดีๆ จากเพื่อนๆ  ทั้งน้ำ   ทั้งพัดก็เข้ามาทันที

“ ไง...  คัดตัวไปยัง “

เสียงพี่พีกับพี่บิวที่เดินเข้ามาถามขึ้นครับ

“ ลงแข่งรอบแรกไปแล้วพี่  พึ่งจบมะกี้นี้เองครับ “  ผมตอบไป

“ แล้วผลเป็นไง “

“ ก็ต้องชนะอยู่แล้ว  เพราะคู่ผมเก่งครับ  ฮ่าๆๆ “

ผมพูดจบก็เอามือไปกอดคอไอ้ธันมันครับ  มันมองผมยิ้มๆ  ในขณะที่พี่พีหันไปมองไอ้ธันด้วยสายตาแปลกๆ

“ อะ..  พวกพี่ซื้อมาให้ “

พี่บิวยื่นถุงขนมและน้ำดื่มหลายอย่างส่งมาให้ครับ  ลาภปากพวกผมเลยครับงานนี้  แต่คาดว่ามันคงหมดเพราะไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์  ระหว่างที่รอพวกผมลงแข่งอยู่แน่ๆ

“ แล้ว...  พี่คิมกับพี่กิจไม่มาด้วยเหรอครับ “  ผมแอบถามถึงพี่กิจครับ

“ จะได้มารึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย  มันติดรอพรีเซ็นต์ Pre – Project อยู่น่ะ  ท่าทางจะอีกนานกว่าจะเสร็จ “  พี่บิวว่ามาครับ

ได้ยินแบบนี้แล้ว  ผมก็เลยรู้สึกผิดหวังขึ้นมายังไงไม่รู้สิครับ  แต่พี่เขาก็มีเหตุผลของเขานี่นะ  ถึงมาไม่ได้แบบนี้....

แต่ลึกๆ แล้ว  ผมก็ยังอยากจะได้กำลังใจจากพี่เขามากกว่าใครเพื่อนเลยนะ

“ เอาน่า  พวกพี่มาเชียร์แบบนี้แล้ว  ก็สู้ๆนะ  พี่ว่าเราต้องทำได้อยู่แล้ว “ 

พี่พีตบไหล่ให้กำลังใจครับ  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปเล็กๆ


พักต่ออีกไม่นาน  รอบสองก็มาถึง...

คู่แข่งดูน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยครับ  แค่ชุดกับไม้ก็บ่งบอกแล้วว่าไม่น่าจะใช่มือสมัครเล่นเหมือนคู่แรกเลย

การแข่งดำเนินไปอย่างสูสีครับที่ผลคะแนน 8 ต่อ 7

ถึงผมจะนำอยู่แต่ก็เหนื่อยเอาการเลย  ยิ่งไอ้ธันด้วยแล้ว  มันเริ่มมีอาการหายใจถี่มากขึ้น  ก็ไม่แปลกใจหรอกครับ  เพราะมันเล่นมาตั้งกี่เซตแล้ววันนี้....  ทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าอึดมากแล้ว

ระหว่างการแข่ง  เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ดังขึ้นทุกครั้งที่ไอ้ธันมันตบ  ในขณะที่แรงตบมันกลับดูเริ่มจะอ่อนแรงลง  และทำให้อีกฝ่ายรับลูกได้อย่างไม่ยากนัก

ผมเลยพยายามเล่นหน้าเน็ตให้มาก  และพยายามงัดลูกไปยังท้ายคอร์ด  เพื่อไม่ให้มันต้องเหนื่อยมากครับ

จนเกือบจะท้ายเกมสถานการณ์กลับมาเลวร้ายลงไปอีก  เมื่อแต้มตอนนี้เรากลับมาตามหลังคู่แข่งอยู่ที่ 12 ต่อ 13

“ ไหวมั้ยวะมึง “ 

ผมถามไอ้ธันมันครับ  ซึ่งมันก็ยังคงฝืนยิ้มตอบผมกลับมาว่าไหว  แต่ดูจากสภาพแล้ว  ผมว่ามันควรจะพักได้แล้วนะครับตอนนี้

“ กันต์... “

มันเรียกผมก่อนที่จะทำการเสริฟลูก

“ ว่า.. “

“ ถ้าเราผ่านการคัดตัวได้...  เย็นนี้ไปกินข้าวกันนะ “

“ อื้ม... “

ผมพยักหน้าตอบรับไป  เพราะถึงจะแพ้...  ยังไงก็ต้องไปกินข้าวด้วยกันอยู่ดี  เชื่อสิครับ...  แบล็คอัพด้านหลังผม  มันรอกันอยู่แล้ว

แต่ไอ้ธันกลับยิ้มกว้างออกมาให้กับคำตอบของผม  ดูมันจะฮึกเหิมขึ้นมากเลยทีเดียว...

และก็จริงอย่างที่คิด  ไม่รู้ว่ามันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน  เพราะ 3 แต้มที่เหลือนี่ฝีมือมันล้วนๆ เลยครับ  ซึ่งทำให้พวกเราผ่านรอบสองกันไปได้...

นี่มึงเป็นซุปเปอร์แมนรึป่าววะเนี่ย  ไอ้ธัน...

เรากลับมานั่งยังที่พักข้างสนาม  บรรดาเหล่าแบล็คอัพทั้งหลายก็เข้ามาให้น้ำพร้อมกับพัดโบกให้เป็นอย่างดี  ซึ่งไอ้แน๊คถึงกลับเข้าไปนวดไหล่ให้ไอ้ธันมันเลยครับ

“ รอบหน้าไม่รู้จะเป็นยังไงนะ.. “

ไอ้ธันมันพูดพลางหลิ่วตาให้ดูอีกคู่ในสนามที่กำลังแข่งกันอยู่  ฝีมือไม่ธรรมดาเลยครับ  เก่งกว่าที่ผมเจอเมื่อสักครู่นี้อีก  ซึ่งถ้าไอ้ธันแข็งแรงดีก็อาจจะพอมีลุ้น  แต่ถ้าสภาพนี้ละก็  บอกตรงๆ...  ค่อนข้างยากเลยครับ

“ เอาน่า...  ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น..  อย่าเครียด “  ผมยิ้มบอกไปครับ

“ แต่เราไม่อยากทำให้กันต์ผิดหวังอะดิ  และที่สำคัญเราอยากแข่งคู่กับกันต์ในงานด้วย “

“ ถ้างั้น..  รอบหน้าเปลี่ยนตำแหน่งกันนะ  เดี๋ยวกูเล่นหลังเอง “

“ ไหวเหรอ...  ไม่ต้องหรอก  เรายังไหว  อีกอย่าง...  หน้าเน็ตกันต์ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว “

“ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันไง  มึงอะแข่งติดต่อกันมาตั้งหลายเซตแล้ว  ถ้าทีมเราอยากจะชนะก็ต้องลองเสี่ยงดู “

“ อืม...  ถ้าอย่างนั้นก็ได้ “

เราพักกันต่ออีก 20 นาที  ก็มาถึงเวลาตัดสินแล้วละครับ  ซึ่งก็เหลือแค่เซตนี้เซตเดียวเท่านั้น  เพราะคู่หญิงนี่ได้ผลการคัดเลือกไปแล้ว ( คนลงสมัครน้อย )

เมื่อพี่ๆ เรียกให้ลงสนาม  ไอ้ธันก็ลุกเดินนำผมออกไปก่อน  ขณะที่ผมกำลังจะเดินตามหลังมันไปติดๆ  จู่ๆ  มือนึงก็เอื้อมเข้ามาจับไหล่ผมเอาไว้ก่อน.... 

พอผมหันหน้าไปมอง....

ใบหน้าและน้ำเสียงที่คุ้นเคย  ซึ่งผมเฝ้ารอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา  ก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วในตอนนี้

“ สู้ๆ นะ  พี่มาเชียร์แล้ว  ขอโทษนะที่พี่มาช้า “

พี่กิจในสภาพที่หายใจหอบ  ท่าทางเหมือนจะรีบมา  พยายามพูดขึ้นเสียงนุ่ม  จนผมนี่แทบจะร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจเลยทีเดียว  แต่ก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าป้อยๆ ไปเท่านั้น  ก่อนจะเดินเข้าสนามไป


การแข่งรอบนี้หินกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้มากครับ  ผ่านไปได้ไม่นานผมก็เริ่มหอบ  อาจจะเพราะผมต้องวิ่งและใช้แรงเยอะกว่าในรอบที่ผ่านๆ มา  และอีกฝ่ายก็เก่งมากจนทำให้เราเริ่มรวนกันเลยทีเดียว

และตอนนี้ก็เข้าใกล้ช่วงท้ายของเกมแล้ว  ซึ่งแต้มของพวกเราก็ตามคู่แข่งกันอยู่ที่ 10 ต่อ 13

บางที..  พวกผมอาจจะมากันได้แค่นี้ก็ได้นะครับ....

ผมหันกลับไปมองยังด้านหลัง  พวกเพื่อนๆ พี่ๆ  กำลังเชียร์ผมอยู่อย่างไม่ลดละ  ทั้งๆ ที่ดูจากแต้มแล้ว  พวกผมกำลังจะแพ้ในอีกไม่นานนี้แท้ๆ  แต่พวกเขาก็ยังไม่เลิกหวัง....

แล้วอย่างนี้...  พวกผมจะหมดหวังไปได้ยังไงกันละครับ...

จากนั้นสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่พี่กิจ...  พี่เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ผมถึงสองนิ้ว

ไม่รู้จะพูดยังไงดีครับ  แต่ผมโครตจะรู้สึกดีเลย...  รู้สึกมีกำลังใจ  และแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกเป็นกองเลย

“ ธัน...  พวกเรายังไม่ได้แพ้นะ  ดูดิ  พวกเพื่อนๆ เรายังไม่หมดหวังกับเราเลย  แถมยังเชียร์เราซะขนาดนั้น..   เราเองก็ต้องไม่ยอมแพ้นะ  ไม่ว่าผลจะเป็นไง  ขอแค่เราทำมันให้เต็มที่ก็พอ “

“ อื้ม...  มีกันต์อยู่ด้วย  ธันไม่เคยยอมแพ้อยู่แล้วล่ะ “


มีคนเคยพูดไว้ว่า....

หากเราเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว...  จงอย่ากลัวเขา....  แต่ให้เปลี่ยนมันเป็นความยินดีที่ได้เจอ  เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปได้อีก...


ผมจะไม่กลัว...

ผมฝึกหนักมาก็เพื่อวันนี้...

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เชียร์ผม...

11 ต่อ 13

ขอบคุณพี่ๆ ที่ตามมาเชียร์... (แฮ่กๆ )

12 ต่อ 13

ขอบคุณไอ้ธัน...  ที่อดทนเพื่อผมมาจนถึงรอบนี้...  ( แฮ่กๆๆ )

13 ต่อ 13

และ..

ขอบคุณทุกๆ อย่าง  ที่พี่ทำให้ผมครับ...  พี่กิจ ( แฮ่กๆๆๆๆๆ )

14  ต่อ 13

ลูกตบสุดท้าย  และแรงเฮือกสุดท้ายของผม... 

หวังว่า.. 

มันจะทำให้ทุกคนมีความสุขกันนะครับ

“ ปัง!! “

จุดบอดมุมสามเหลี่ยมท้ายคอร์ดที่ผมเล็งไว้...  ถ้าโชคดี...  มันคงจะลงและไม่ออกนอกเส้นไปนะ... 

เพราะตอนนี้...  ผมไม่มีแรงพอที่จะไปต่ออีกแล้ว...


“ ตุ๊บ! “



.........

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
15 ต่อ 13  !!!


“ เฮ้!!!!!!!!!!!! “


เสียงเฮดังขึ้นทั่วทั้งโรงยิม  จนอื้ออึงไปหมด  ส่วนผมยังคงมึนๆ อยู่เลยครับ 

นี่ผมตบลงใช่มั้ย...


ไอ้ธันเดินเข้ามากอดผมทันที  เหมือนมันกำลังพูดอะไรสักอย่าง  แต่พอจับใจความได้ว่า  พวกเราทำสำเร็จแล้วนะ... 

แต่ผมก็ยังงงๆ อยู่เลย...  นี่พวกเราชนะจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย...

จากนั้นไอ้ธันมันก็ประคองไหล่ผมเดินกลับเข้ามายังข้างสนาม  เพื่อนๆ และพี่ๆ ยกนิ้วโป้งให้พวกเรามากมาย

พอมาถึงผมก็นั่งลงอย่างหมดแรงแทบจะในทันที  พี่พียื่นน้ำเย็นๆ ส่งมาให้  ในขณะที่ไอ้เจมส์ก็พัดให้ผมอย่างแรง  จากนั้นพี่พีก็มาขยี้หัวผมอีกครั้งอย่างเอ็นดู...

แล้วพี่กิจล่ะ....

ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหา  ไม่นานก็เห็นพี่เขาโทรศัพท์อยู่ไกลๆ  ก่อนจะวางสายและเดินกลับเข้ามาหาพวกผมอีกครั้ง

“ เก่งมากนะ “

พี่กิจขยี้หัวผมเบาๆ บอกมา  ถึงตอนนี้จู่ๆ ผมก็ยิ้มกว้างออกมาได้

ก็นึกว่าพี่เขาจะไม่เข้ามายินดีด้วยกับผมซะแล้ว....

“ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดร้านข้างมอเอง  พี่โทรไปจองไว้ละ “

“ แล้ว..  เพื่อนๆ ผมอะ “

“ ก็พี่หมายถึงพวกเราทั้งหมดเนี่ยแหละ “

พี่กิจพูดจบ  พวกผมก็เฮกันลั่นเลยครับ...


จากนั้นพี่ๆ ฝ่ายคัดตัวนักกีฬา  ก็เรียกพวกเราที่ลงคัดตัวไปรวมกัน  เพื่อประกาศผลการคัดตัวให้ทุกคนทราบ

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเราผ่านกันไปได้เปราะหนึ่งแล้ว  แต่ถ้าอยากจะชนะไอ้หน้าหล่อที่ตอนนี้มันกำลังจ้องผมตาเขม็งจากคอร์ดของชมรม  ผมคงต้องฝึกกันอีกมากครับ... 

แต่เรายังพอมีเวลานี่...   ขอแค่มีความพยายาม  บางทีสิ่งที่คิดว่าเราทำไม่ได้  มันก็อาจจะทำได้ก็ได้นะครับ...



.....................



ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ด

พวกผมและพี่ๆ พากันมาที่ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล  ซึ่งพี่คิมกับไอ้เรย์ก็ได้ตามมาสมทบกันทีหลังด้วย

กุ้ง  หอย  และปูตัวใหญ่มากมาย  ถูกขนมาเผาที่โต๊ะยาวที่ต่อเรียงกันถึงสามตัวของพวกเรา

ผมนั่งข้างๆ พี่กิจกับไอ้เรย์  โดยมีพี่พีกับไอ้ธันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ

“ ตอนแข่งพี่ก็ลุ้นอยู่แทบตาย  นึกว่าเราจะไม่รอดซะแล้ว  แต่ 5 แต้มสุดท้ายนี่ทำเอาพี่ทึ่งจริงๆ “ 

พี่พีพูดขึ้นพลางกลับตัวกุ้งเผาตรงหน้าไปด้วย

“ นั่นดิ  สุดยอดเลยนะกันต์  คนเดียว 5 แต้มรวดในสถานการณ์แบบนั้น “ 

ไอ้ธันชมผมต่อครับ  จนผมอดอมยิ้มแก้มปริขึ้นมาไม่ได้เลย  กับการที่มีคนมาชมผมเยอะขนาดนี้

“ ไม่หรอก  ถ้าไม่มีธันช่วยเราก็ทำไม่ได้หรอก “ 

ผมบอกไปตามจริงครับ  ส่วนไอ้เรย์ก็บ่นอุบเลยว่าเสียดายที่ไม่ได้มาดูเพราะต้องซ้อมบาส  เห็นมีแต่คนพูดถึงว่าสนุกมาก

“ อะ..กันต์ “ 

ไอ้ธันมันตักกุ้งที่มันแกะไว้แล้วส่งมาให้ผมครับ

“ ปูก็อร่อยนะ...  “ 

แล้วพี่พีก็เอากรรเชียงปูที่แกะไว้เป็นอย่างดีส่งมาให้ผมอีก

“ ขอบคุณครับ “  ผมยิ้มรับไป

“ เอาหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์มั้ย  เนี่ยตัวโตมาก  เราพึ่งไปตักมาตอนเชฟเขาย่างเสร็จมาใหม่ๆ เลย “ 

ไอ้ธันถามต่อครับ  แล้วพี่พีก็หันไปมองหน้ามัน  ก่อนจะหันมาถามผมต่อ

“ ปลาหมึกมั้ยกันต์  เดี๋ยวพี่หั่นให้  สุกพอดี “

เอ่อ...  จริงๆ ผมก็ทำเองได้นะครับ...

จากนั้นไอ้เรย์มันก็เข้ามากระซิบที่ข้างหูผมว่า  “ กูบอกมึงแล้ว “

หรือว่าที่ไอ้เรย์มันมโนไว้จะเป็นจริงนะ...  ชักเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วซิครับ....

ผมตักปูสีแดงตัวโตจากจานที่สุกแล้วมาไว้ที่จานของตัวเองเพื่อเตรียมแกะครับ  แต่ก็แกะแบบไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่หรอก 

จริงๆ แล้วผมชอบกินปูนะครับ  แต่ไม่ค่อยซื้อมากินหรอก  เพราะว่าเรื่องการแกะเนี่ยแหละ  คือผมแกะไม่ค่อยเป็นอะครับ  เสียเนื้อไปเยอะเลยเวลาผมแกะทีไร

“ แกะเป็นมั้ยเนี่ย...  ดูนี่นะ  ต่อไปจะได้ทำเอง  ไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้ “

พี่กิจพูดมาเสียงเรียบๆ  ก่อนจะหยิบปูมาสอนผมแกะทีละขั้นตอน...  ผมมองพี่เขาแกะสลับกับหน้าพี่เขาไป  เพลินดีนะครับ       นี่ถ้าผมจะโง่ไปซะทุกเรื่อง  แล้วมีพี่กิจมาคอยสอนให้แบบนี้อยู่ตลอดเวลา  ผมก็ยอมนะครับ...

จากนั้นโต๊ะอาหารก็ครึกครื้นไปด้วยเสียงหัวเราะ...  โดยมีพี่คิมและไอ้เรย์เป็นตัวนำ  ส่วนตอนนี้ผมอิ่มแปล้เลยครับ  ยัดอะไรลงท้องไม่ไหวอีกแล้ว  แถมตาก็ยังปรือๆ แล้วด้วย... 



ไม่นานมากพวกเราก็แยกย้ายกันกลับครับ  ผมหลับมาตลอดทางที่อยู่บนรถพี่กิจเลย...

มารู้สึกตัวอีกที  ก็ตอนที่พี่กิจเรียกผมพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาหาซะใกล้มาก  เรียกได้ว่าห่างกันไม่ถึงคืบ   พอลืมตามาก็เลยเห็นหน้าพี่เขาเต็มๆ เลยครับ... 

ผมสบตากับพี่กิจอยู่ครู่หนึ่ง  แต่ราวกับว่าเหมือนจะโดนมนต์สะกด  จนผมไม่อยากจะละสายตาออกไปจากสายตาคู่นี้เลยครับ...

“ ถึงแล้ว... “ 

พี่กิจขยับตัวออกไปก่อนจะว่ามา  ผมเลยขยี้ตามองไปนอกกระจกรถ  ถึงได้รู้ว่านี่คือลานจอดรถใต้คอนโดนั่นเอง...

ผมรู้สึกเหมือนว่าวันนี้ผ่านอะไรมาเยอะเลยครับ  ล้าไปหมดทั้งตัวเลย  ได้เรียนรู้อะไรมากมาย  ทั้งประสบการณ์ในการแข่ง  กำลังใจที่สำคัญจากเพื่อนๆ พี่ๆ  และที่สำคัญ...


บางที..  ผมอาจจะได้เข้าใจหัวใจตัวเองมากขึ้นแล้วก็เป็นได้...




TBC.



------------------------------------------------------

ขอโทษครับ  มะวานป่วยกินยาแล้วไม่อยากฝืนตัวเอง  เลยนอนหลับไปเลยอะครับ  วันนี้กลับมาเลยรีบกรองประโยคแล้วโพสเลย  ช้าหน่อยขอโทษนะครับ

ขอบคุณครับคุณ Billie ที่เป็นห่วง  วันนี้สบายดีขึ้นละครับ  แต่คงต้องพักผ่อนเยอะๆครับผม

ตอนหน้า....  ง่า.....  มีตัวอย่าง (แบบยังไม่ได้กรองประโยคระครับ)

ตัวอย่างตอนต่อไป

////////////////////////////////////////
วันนี้พี่กิจพาผมไปซ้อมแบดที่คอร์ดแถวชานเมืองเหมือนเดิม  แต่วันนี้พี่กิจขับบิ๊กไบต์ไปแทน  แกบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศขับกินลมบ้างอะครับ
“ อยากกินไรวันนี้ “  พี่กิจถามขึ้นขณะกำลังเดินมายังรถที่จอดไว้
“ เค้ก... “  ผมตอบไปแค่นั้นครับ  ผมไม่ได้บอกใครหรอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม จะมีก็คงเป็นไอ้เรย์ที่มันจำได้ทุกปีเท่านั้น  แต่วันนี้มันก็เงียบครับ...  ไม่เห็นโทรหรือไลน์มาอวยพรผมเลย  สงสัยมัวแต่คุยกับแพรละมั้งเลยลืมเพื่อนคนนี้  ชิส์
“ ข้าวสิไม่ใช่ขนม “  พี่เขามองผมเอือมๆ  เหมือนผมไปกวนประสาทพี่เขาอย่างนั้นอะ
“ อะไรก็ได้  แล้วแต่พี่เลย “  ผมบอกไปเสียงอ่อยครับ

////////////////////////////////

ทุกอย่างในวันเกิดปีนี้ของผมก็ดูเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ
แต่คุณเชื่อผมเหอะ  โลกเรามันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ  จงเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกวันดีที่สุดเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียใจในทุกๆวันหลังจากนี้...

////////////////////////////////

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะกดหาเบอร์โทรไอ้เรย์ด้วยอาการรนและมือไม้สั่น 
“ ฮัลโหล...  ไงมึง  อยู่ไหนวะเนี่ย  กูว่าจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย “
“ ไอ้เรย์..  ฮึกๆๆ..  มึงมาช่วยกูทีนะ  กูไม่รู้จะทำไงแล้ว ฮือๆๆ.. “
“ เห้ย!!!  เกิดอะไรขึ้นไอ้กันต์  ใครทำไรมึง  แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน “

//////////////////////////////

 :mew2: :mew5: :katai1:

แต่นิยายผมอย่างที่บอกครับ  ว่ายังไงก็จะต้องจบแบบมีความสุข 

ผมอยากให้ทุกคนมีความสุขกับนิยายของผมนะครับ (หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น)

ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับกำลังใจและการติดตามนะครับผม

ปล. CH ล่าสุดที่เขียนอยู่  โหย... :katai1: :z3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เกิดไรขึ้นกับตอนหน้าเนี่ย?

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :ling1: อ้าว อ้าว  ทำไมเอาระเบิดมาปล่อย

 :L2: :pig4: :L1:

ดูแลตัวเองดีดีนะ

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
พี่กิจดีมากๆ สอนอะไรน้องหลายๆอย่าง
อ่านตอนท้ายหิวบุฟเฟ่ซีฟู๊ดบ้างเลย ฮ่าๆๆ

ตอนหน้าเกิดไรขึ้นเนี้ย อยากอ่านแล้วววว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาาส เกิดไรนะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
แล้วก็อ่านจบไปอีกตอน

รอๆตอนต่อไป

อ่านสนุกมากๆ


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มาทิ้งให้อยากแล้วจากไป  :hao5:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
3 ต่อ1 จะเลือกใครดี  รัก 3 เศร้า เรา 4 คน 55 

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะเกิดอะไรขึ้นกับกันต์ในตอนหน้านะ อยากรู้คะ อยากรู้

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หื้ออออตอนหน้ามันทำไมคะ นี่อยากให้เขาเปิดใจกันแล้ว55555

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
เกิดอะไรขึ้นในตอนหน้า
รอๆๆครับ

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 23



กันต์'s  Part




เสาร์นี้เป็นวันเกิดผมครับ...

แต่ที่ต่างไปจากทุกปีก็คือ...  มันคงเป็นวันเกิด...ปีที่ผมดูจะไม่มีใครเลย...  ทั้งพ่อ  และแม่...

แต่...  ไม่เป็นไรหรอกครับ  จากนี้ไป  ผมจะต้องเข้มแข็งและยืนยัดด้วยตัวเองให้ได้...


....................


วันนี้พี่กิจพาผมไปซ้อมแบดที่คอร์ดแถวชานเมืองเหมือนเดิม  แต่วันนี้พี่เขาขับบิ๊กไบต์ไปแทน  แกบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศขับรถกินลมบ้างอะครับ

“ อยากกินไรวันนี้ “
 
พี่กิจถามขึ้นขณะกำลังเดินมายังรถที่จอดไว้  หลังจากเลิกซ้อมกันแล้ว

“ เค้ก... “ 

ผมตอบไปแค่นั้นครับ  ผมไม่ได้บอกใครหรอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม จะมีก็คงเป็นไอ้เรย์ที่รู้และจำได้ทุกปีเท่านั้น  แต่ไหงวันนี้มันเงียบไปเลยครับ...  ไม่เห็นโทรหรือไลน์มาอวยพรผมเลย  สงสัยมัวแต่คุยกับแพรอยู่ล่ะมั้ง  เลยลืมเพื่อนคนนี้ไปได้  ชิส์

“ ข้าวสิไม่ใช่ขนม “ 

พี่เขามองผมเอือมๆ  เหมือนผมไปกวนประสาทพี่เขาอย่างไงอย่างงั้นอะ

“ อะไรก็ได้  แล้วแต่พี่เลย “  ผมบอกไปเสียงอ่อยครับ

“ โอเค..  แต่ว่าเดี๋ยวพี่ไปเอาชีทเรียนกับไอ้บิวที่โรงพยาบาลก่อนนะ “

“ อ้าว...  พี่บิวไม่สบายเหรอครับ “

“ เปล่า...  มันไปช่วยงานพ่อแม่มันอะ “

“ โรงพยาบาลเนี่ยนะ “

“ อื้ม...  ก็กิจการของที่บ้านมันนี่  อีกหน่อยมันจบมา  ก็อาจจะต้องไปบริหารที่นั่น  คงไม่ได้ทำอาชีพตามที่ตัวเองอยากทำหรอก “

“ แย่เลยเนอะ  แบบนี้อะ “

“ ไม่หรอก....  เนื้อหาภาควิชาเรา  ส่วนหนึ่งมันก็เป็นเรื่องของการบริหารจัดการอยู่แล้ว  อีกอย่าง... มันก็เป็นหน้าที่ด้วยแหละ...  แต่ไอ้บิวมันเป็นคนง่ายๆ  ยังไงก็ได้กับชีวิตอะ “

พี่กิจพูดมาอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ  แต่ผมก็เข้าใจกับเหตุผลที่พี่เขาบอกมานะครับ 

พอพวกเราเดินมาถึงที่รถแล้ว  พี่กิจก็คว้าหมวกกันน็อคมาเตรียมใส่ไว้  แต่ก่อนจะใส่มันลงไปบนหัว  พี่เขาก็หันมาพูดกับผมก่อนว่า..

“ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วพี่จะพาไปซื้อเค้กให้นะ  แล้ววันหลังเดี๋ยวพี่จะหาหมวกกันน็อคน่ารักๆ ที่เหมาะกับเราไว้ให้ “

พี่เขาพูดจบก็สวมหมวกกันน็อคสีดำไป  ส่วนผมก็เผลอยิ้มเล็กๆ ออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัวเมื่อได้ยิน 


…………………..

ถึงพี่เขาจะไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม  แต่การที่พี่เขาทำดีกับผมแบบนี้  มันก็เพียงพอแล้วสำหรับผม...

...............................


ทุกอย่างในวันเกิดปีนี้ของผม  ดูเหมือนว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ



แต่คุณเชื่อผมเหอะ  โลกเรามันไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอกครับ  จงเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกวันนี้ดีที่สุด  เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในทุกๆ วัน  หลังจากนี้...



มันเป็นช่วงหัวค่ำที่พี่กิจกำลังขับบิ๊กไบต์  ซึ่งมีผมซ้อนท้ายอยู่เหมือนเช่นทุกที  ตามทางเบี่ยงด้านนอกของถนนใหญ่  ซึ่งมันค่อนข้างโล่ง  และมืดพอสมควรแถวย่านชานเมือง  เพื่อมุ่งหน้าเข้าเมืองไปหาพี่บิวที่โรงพยาบาล

รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูงเพราะถนนโล่ง  มีแค่ไฟหน้ารถเท่านั้นที่สาดส่องลงมาบนพื้น  เพื่อให้เห็นเส้นทางเบื้องหน้า  ใครเลยจะคาดคิดกันละครับว่า  จู่ๆ จะมีสุนัขสีขาวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถมาจากข้างทาง 


“ เห้ย !!!! “


พี่กิจอุทานเสียงดังลั่น  พร้อมกับเบรครถจนเสียงดังสนั่น  และด้วยความเร็วรถที่ขับมา  มันเลยทำให้รถปัดในทันที  ก่อนจะพาให้ทั้งคนขับและคนซ้อนล้มลงไปกระแทรกพื้น  แล้วไถลไปตามถนน  ก่อนจะไปหยุดลงบนพื้นหญ้าข้างทาง

ตัวผมกระเด็นออกมาจากรถก่อนพี่กิจ  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก  จนผมตั้งตัวไม่ทัน  พอเริ่มได้สติ  ผมก็พยายามยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น รับรู้ได้ถึงอาการแสบบริเวณแขนละขา  ก่อนจะรู้สึกเจ็บเสียวบริเวณหัว  จากนั้นก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกอุ่นๆ ที่ไหลลงมาผ่านแก้ม 

ใช่ครับผมหัวแตก...  ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมถึงได้หัวแตกบ่อยจัง  แต่ก็ช่างมันเถอะ....

ผมมองไปยังพี่กิจที่นอนอยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตร  ใกล้ๆ กับรถ  พี่เขานอนนิ่งไม่ขยับเลยครับ  ผมพยายามประคองร่างเดินเข้าไปหาพี่เขา  ก่อนจะถอดหมวกกันน็อคหนาสีดำของพี่เขาออก  พี่กิจยังคงไม่มีสติ  นั่นยิ่งทำให้ผมใจเสียมากขึ้นไปอีก

“ พี่กิจ... พี่กิจ... “

ผมพยายามเขย่าตัวพี่เขา  แต่พี่เขาก็ยังคงไม่ได้สติ  ถึงจุดนี้น้ำตาผมก็ไหลออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  ผมควรจะทำอย่างไรดี....  แถมที่นี่ก็เปลี่ยว  ไม่มีรถผ่านไปมาอีกต่างหาก  ทางด้านถนนใหญ่ก็มีแต่รถใหญ่ที่ขับกันเร็วซะจนไม่มีใครจะทันสนใจถนนเลี่ยงข้างทางแบบนี้เลย  ยิ่งแท็กซี่นี่คงไม่ต้องพูดถึง  บริเวณนี้ไม่มีแน่นอน...  แล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงดีละครับ

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะกดหาเบอร์โทรไอ้เรย์ด้วยอาการรนและมือไม้สั่น 


-- ฮัลโหล...  ไงมึง  อยู่ไหนวะเนี่ย  กูว่าจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย --

“ ไอ้เรย์..  ฮึกๆๆ..  มึงมาช่วยกูทีนะ  กูไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว ฮือๆๆ.. “

-- เห้ย!!!  เกิดอะไรขึ้นวะไอ้กันต์ !!  ใครทำไรมึง  แล้วตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน --

“ กูไม่รู้อะ...  พี่กิจรถล้ม  แล้วตอนนี้พี่เขาสลบไป  กู...  ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเป็นอะไรรึเปล่าอะ  ไอ้เรย์..  กู..กูกลัวอะ  ฮือๆ.. “

-- ใจเย็นๆ นะมึง  ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน --

“ กูไม่รู้อะ  แต่น่าจะแถวๆ เส้นนอกมอเตอร์เวย์  แถวลาดกระบังอะ  แต่กูไม่แน่ใจนะ  กูไม่ค่อยรู้เส้นทาง “

-- มึงใจเย็นๆ นะ  รออยู่ที่นั่นเดี๋ยวกูจะรีบไปหา  มึงแชร์.. --


แล้วทุกอย่างก็เงียบไป  ผมเอาโทรศัพท์ที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยเลือดมาดู  ก็พบว่าแบตมันหมด  ทำไมคนเราเวลาเจอเรื่องร้ายๆมันถึงได้มาพร้อมกันทีเดียวหลายๆ เรื่องแบบนี้กันนะ

ผมพยายามตั้งสติ  ปาดน้ำตาป้อยๆ  ก่อนจะค้นเอาผ้าขนหนูในกระเป๋ามากดซับเลือดที่หัวไว้  แล้วเอาเสื้อกีฬาตัวบางมาพันทับไว้อีกชั้น  เพื่อห้ามเลือด...

ผมจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้ครับ....

ผมไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยหรือจะมีใครผ่านมาแถวนี้บ้าง...

แต่ผมไม่ควรรออยู่เฉยๆ แบบนี้  ตัวผมเองไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่หรอกครับ  แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่  ก็เพราะคนตรงหน้าที่ไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้

ผมต้องพาพี่กิจไปโรงพยาบาลให้ได้...

ผมประคองพี่กิจที่ไม่ได้สติขึ้นหลัง  ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  ทั้งหนัก  ทั้งเจ็บไปทั่วตัว...

แต่ผมจะมาอ่อนแอและท้อแท้ตอนนี้ไม่ได้  อย่างน้อยก็ควรลองไปข้างหน้า  เผื่อจะเจอคนหรือรถสักคันที่พอจะช่วยพวกเราได้
มันก็ยังดีกว่าการนั่งรออย่างไม่มีจุดหมายอยู่แบบนี้...


.......................


“ แฮ่กๆๆ “

ผมที่กำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาได้เกือบจะ 100 เมตรแล้ว  บนทางที่ดูจะไม่มีจุดหมายอะไรเลย  ก็เริ่มเหนื่อยและหอบขึ้นมา  เหงื่อที่ไหลหยดลงมาอย่างกับน้ำ  เสียงหอบหายใจที่ดังขึ้น  มันทำให้ผมรู้ว่า  ตอนนี้ร่างกายผมมันกำลังฝืนตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว...

ถึงกระนั้น...  ทางเบื้องหน้าก็ยังคงดูไม่มีจุดหมายปลายทางอยู่ดี...


“ แฮ่กๆๆ “


ขาผมมันดูจะไม่มีแรงแล้วในตอนนี้  อยากจะร้องไห้  อยากจะหยุดและรอคนมาช่วย...  แต่ผมก็ทำไม่ได้  ผมคาดหวังอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ได้เลย

ถ้าผมท้อ  ถ้าผมหยุด  แล้วพี่กิจละ...  จะเป็นยังไง...

คิดได้เพียงเท่านี้  ขาที่เหมือนจะไม่มีแรงแล้ว  ก็เริ่มฝืนวิ่งต่อ...

วิ่งต่อไปอีกสักพัก  แสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งก็สาดส่องผ่านด้านหลังผมมา  ผมหยุดฝีเท้าก่อนจะหันไปโบกมือขอความช่วยเหลือ  รถคันนั้นชะลอความเร็วลงเล็กน้อย...  แต่แล้วก็ผ่านเลยไป

ผมไม่รู้ว่าเพราะสังคมทำให้คนเกิดความระแวง  หรือเพราะน้ำใจที่เริ่มเหือดแห้งลงไปในสังคม  มันเลยทำให้ผู้คนเดี๋ยวนี้ต่างคนต่างอยู่กันมากขึ้น

ผมได้แต่ยืนอ้าปากค้าง  มองจนไฟท้ายรถคันนั้นเลยผ่านไป  ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินต่อไปตามทางเบื้องหน้าที่มืดมิด...

ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหล  มันไหลมาเพราะความน้อยใจ  หรือเพราะความอ่อนแอของตัวเองกันแน่  แต่มันก็ไหลลงมาอย่างไม่หยุด  และผมเองก็ไม่มีเวลาพอที่จะหาคำตอบ  สิ่งที่ต้องทำก็คือวิ่ง...  วิ่ง...  และก็วิ่งต่อไปเท่านั้น

วิ่งต่อไปได้ไม่นานผมก็ต้องเปลี่ยนเป็นเดิน  เพราะมันไม่ไหวแล้วจริงๆ  แต่ผมก็ไม่หยุดที่ก้าวไปข้างหน้านะครับ..

เพราะผมมีคนที่อยากดูแลอยู่...  ผมจะมายอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้...


......................


เวลาผ่านไปอีกเกือบ 20 นาที  ผมเริ่มที่จะไม่ไหวแล้ว...  ทั้งเจ็บและมึนหัวจนดูเหมือนจะเป็นลมเสียให้ได้  ทว่ามันก็ยังไม่มีวี่แววว่าผมจะพบอะไรเลย  แม้จะมีรถขับผ่านมา 2 – 3 คัน  แต่เขาก็ขับเลยผ่านไปเหมือนเคย...  จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังแล้วในตอนนี้


“ ปริ้นๆ!!! “


แต่แล้วเสียงแตรรถคันหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง  ผมหันกลับไปมองยัง CIVIC สีดำทะเบียนที่ผมคุ้นเคย...  ก่อนที่เจ้าของรถคันดังกล่าวจะเปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งตรงเข้ามาหาผม

“ ไอ้เรย์... “

ผมร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ  พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมามากกว่าเดิม

“ ไม่ต้องพูดไรแล้ว  รีบขึ้นรถมาเร็ว !!! “

ผมพยักหน้าป้อยๆ  ขณะที่น้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง

ไอ้เรย์ช่วยประครองพี่กิจไปยังเบาะหลัง  จากนั้นเราก็รีบกลับขึ้นมาบนรถ  เพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกไปในทันที 

ไอ้เรย์หันมามองผมรอบหนึ่งก่อนจะอ้าปากค้าง  ผมเหมือนจะเห็นน้ำตามันปริ่มๆ ที่ขอบตา  อาจจะเพราะสภาพผมที่ดูน่าสมเพชเอามากๆ ละมั้งครับ

“มึงนะมึง... “ 

มันพูดมาแค่นั้น...  ก่อนจะปาดน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาออกไป  แล้วรีบสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว



........................................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ที่โรงพยาบาล...

ผมกับพี่กิจถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว  ผมถูกพี่ๆ พยาบาลช่วยกันทำแผล  ในขณะที่พี่กิจนั้นมีหมอเข้ามาดูอาการก่อนจะพาตัวแยกออกไปจากห้องฉุกเฉิน  แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพี่เขาอีกเลย  จนกระทั่งผมถูกทำแผลเสร็จ  มีหมอเวรเข้ามาสักถามอาการต่ออีกเล็กน้อย  แต่เท่าที่ฟังดู  ผมก็ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากนะครับ 

ตอนนี้ที่ผมห่วงก็แค่...  พี่กิจเท่านั้นแหละครับ...

ผมนอนพักอยู่ในห้องฉุกเฉินได้สักพักหนึ่ง  เมื่อเห็นว่าร่างกายเริ่มพอไหว  ก็ขอพี่พยาบาลออกไปหาเพื่อนด้านนอก

ผมเห็นไอ้เรย์มันนั่งรออย่างกระวนกระวายใจอยู่  แต่พอมันเห็นผมเดินออกมาเท่านั้น  มันก็ยิ้มขึ้นมาได้ในทันที 

ผมลงไปนั่งข้างๆ มัน  ถึงได้รู้ว่าไอ้เรย์มันจัดการเรื่องต่างๆ ให้บ้างแล้ว  ก่อนจะยื่นถุงใส่ของใช้ของพี่กิจส่งมาให้  ซึ่งก็เป็นพพวกกระเป๋าตัง มือถือ นาฬิกา และของมีค่าบางอย่างส่งมาให้

มันบอกว่าหมอตรวจอย่างละเอียดแล้ว  พี่เขาแค่สลบไป  โชคดีที่พี่เขาใส่หมวกกันน็อค  สมองเลยไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรมาก  ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องแล้ว  มันเลยมานั่งรอผมอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินแบบนี้...

ผมหยิบมือถือพี่กิจออกมา  บางทีผมควรจะโทรไปบอกคุณลุงคุณป้าให้ทราบเรื่อง  แต่ผมก็ปลดล็อคหน้าจอของพี่เขาไม่ได้  เลยต้องลำบากไอ้เรย์มันช่วยติดต่อพี่คิม  ซึ่งมันมีเบอร์พี่เขาอยู่  เพราะว่าเป็นพี่ชมรม  จนในที่สุดก็ได้เบอร์ที่บ้านพี่กิจมา...

ผมใช้โทรศัพท์ไอ้เรย์โทรไปแจ้งข่าว  ไม่นานคุณลุง คุณป้า รวมถึงน้องกานต์ก็พากันมาที่โรงพยาบาลทันที

ผมเล่าอาการคร่าวๆ ของพี่กิจจากที่ฟังมาจากไอ้เรย์ให้พวกท่านฟัง  ก็ดูท่านจะสบายใจขึ้นมาบ้าง  จากนั้นท่านก็เข้ามาซักถามอาการและเรื่องราวจากผมต่อ  คุณป้าร้องไห้เพราะสงสารผมออกมา  ก่อนจะลูบหัวผมมาเบาๆ 

จากนั้นพวกเราก็ไปยังห้องพักที่พี่กิจนอนอยู่  คุณลุงคุณป้าสอบถามอาการกับหมอที่ดูแลอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ  ส่วนผมก็ได้แต่นั่งมองพี่เขาตาละห้อยอยู่ที่โซฟากับไอ้เรย์และน้องกานต์

เพลียจังเลยครับ...  รู้สึกเหมือนว่าผ่านอะไรมาเยอะมากเลยวันนี้  แต่ก็ดีที่ทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดีแบบนี้...

“ ไหวมั้ยวะมึง  ตามึงจะปิดอยู่แล้วเนี่ย... “

ไอ้เรย์มันถามขึ้นมาครับ

“ เพลียๆ ว่ะ  แต่ก็ยังไหวอยู่...  ไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอก “

“ มึงก็พูดแบบนี้ตลอดอะ  มึงควรจะรู้จักห่วงตัวเองบ้างนะเว้ย...  ยิ่งเห็นมึงเป็นแบบนี้  กูนี่แม่ง... “

แล้วมันก็หยุดพูดลง  ราวกับว่าถ้าพูดต่อแล้วจะทำให้มันร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น  แม่งอ่อนแอไม่สมกับร่างกายมันเลย  แต่ผมก็รู้นะครับว่ามันเป็นห่วงผมจริงๆ  ยิ่งตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว  และต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้  มันเลยยิ่งเป็นห่วงผมมากกว่าเดิม

“ กันต์จะนอนพักที่โรงพยาบาลก่อนมั้ยลูก  เดี๋ยวป้าจะจัดการเรื่องห้องพักให้ “ 

คุณที่เดินเข้ามาพร้อมคุณลุงถามขึ้นมาครับ

“ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า  กันต์ไม่ได้เป็นอะไรมาก  เดี๋ยวคงให้เพื่อนไปส่งที่คอนโดอะครับ  เพราะทางนี้ก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงเป็นแล้วใช่มั้ยครับ “

“ จะเอาอย่างนั้นเหรอ  แต่ป้าอยากให้เราอยู่ใกล้ๆ หมอก่อนนะ “

“ ขอบคุณครับคุณป้า  แต่กันต์ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ  อีกอย่าง...  กันต์ก็ไม่ค่อยชอบนอนโรงพยาบาลสักเท่าไหร่ “ 

ผมตอบกลับไปอย่างเกรงใจครับ  ซึ่งคุณลุงกับคุณป้าก็พยักหน้าเข้าใจเล็กๆ  และก็ไม่ได้ว่าอะไร

ไม่นานผมก็ขอตัวกลับไปพร้อมกับไอ้เรย์  ส่วนพี่กิจถูกย้ายไปที่ห้องพิเศษ  และมีครอบครัวพี่เขาดูแลอยู่  ผมเลยไม่จำเป็นจะต้องอยู่ต่อ....

กลับไปพักผ่อนที่ห้องก็ดีครับ  รู้สึกตาจะปิดอยู่แล้วตอนนี้  แถมร่างกายก็เหมือนจะแหลกอยู่แล้วด้วย

“ มึง...  แวะซื้อของเซเว่นแปบดิ “ 

ผมบอกไอ้เรย์ก่อนที่จะถึงคอนโด



หลังจากที่แยกกับไอ้เรย์เสร็จ  ผมก็เดินขึ้นมาบนห้องตามลำพัง....

ตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว  ภายในห้องมันช่างมืดและเงียบจริงๆ

ผมเปิดประตูเข้ามาด้วยความรู้สึกไม่ชินที่จะต้องอยู่คนเดียว  เพราะรู้ว่าคืนนี้ยังไงก็จะไม่มีพี่กิจอยู่ด้วยแน่ๆ

ผมเดินเข้ามาในห้องนอนตัวเอง  วางถุงข้าวของที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ  ก่อนจะนั่งลงไป 

ผมมองรูปพ่อแม่ที่อยู่บนโต๊ะ  รู้สึกเหงาๆ พิกลครับ  อยากจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนที่สัญญาไว้กับพวกท่าน  แต่มันก็อดที่จะอ่อนแอขึ้นมาไม่ได้ในบางเวลา...

เพราะเอาเข้าจริง...  ถึงผมจะบอกว่าไม่เป็นไร...  แต่ความจริงแล้ว...  ผมก็อยากจะมีครอบครัวอยู่ดูแลผมบ้างในเวลาแบบนี้...
แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วใช่มั้ย....

ผมพยายามเงยหน้าขึ้น  เพื่อไม่ให้น้ำตาที่มันเอ่อล้นขึ้นมาไหลอออกมาจากดวงตา  เพราะวันนี้มันไหลมามากแล้ว 

ที่สำคัญ...  ผมไม่อยากร้องไห้ต่อหน้ารูปของพ่อกับแม่แบบนี้  เพราะผมสัญญากับพวกท่านไว้แล้วนี่นา

ผมหยิบขนมเค้กชิ้นเล็กที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ  ก่อนจะใช้ช้อนพลาสติกตักมันเข้าปากไป...

มันเป็นวันเกิดปีที่ผมไม่มีใคร  อยู่เพียงลำพังกับรูปของพ่อและแม่เท่านั้น...

มันช่าง.... 


เหงาจังเลยครับ....


TBC.



--------------------------------------------------------------

ตอนนี้ CH ที่ผมกำลังเขียนอยู่  เป็นดราม่าสุดท้ายของ SS1  ตามที่วางโครงเรื่องไว้  แต่เป็น Combo ดราม่าเลยครับ  คร่าวๆ คงยาวไปกว่า 20 ตอนแน่
ส่วนที่ถามว่า  เมื่อไหร่จะบอกชอบกัน...   เนี่ยแหละครับ ><
การบอกชอบกันว่ายากแล้ว  แต่การยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง...  กลับยากกว่า...
เพลินเลยครับคนเขียน  เขียนไปก็สงสารไป  เห้อ.....
..............................................
ที่ตั้งไว้  ผมจะมี 3  Seasons
วางแผนไว้แบบนี้อะครับ  จบ SS1    ตอนพิเศษ 4 ตอน   SS2
เว้นช่วง SS1 กับ SS2  1 เดือนเพื่อที่จะได้เขียนล่วงหน้าไปเยอะๆ  จะได้ลงแบบต่อเนื่องเหมือนตอนนี้อะครับ ( แต่ระหว่าง 1 เดือนจะมีตอนพิเศษลง )
................................................
หลายๆ เรื่องที่ผมเขียน  ผมหยิบเอามาจากหนังสือที่อ่านบ้าง ( ส่วนมากจะเป็นการ์ตูน )  บางทีมันมีข้อคิดดีๆแฝงไว้  แต่บางคนอาจจะไม่เคยอ่านมัน  ผมเลยถือโอกาสแบ่งปันมันมาบ้างอะครับ
อย่างเช่น....
ข้อความที่ว่า.... “ การไม่แก้ไขความผิดพลาด...  คือความผิดพลาดที่แท้จริง “
อันนี้ยังไม่ได้เขียนลงไป  แต่ผมจำได้มาจากการ์ตูนเรื่อง  เคียว ( Kyo )
และอีกหลายๆอย่างที่ผมอยากแบ่งปัน...
แต่มีอันนึงที่ผมเข้าใจแต่เขียนให้คนเข้าใจได้ยากมากๆ  คือยังไม่รู้จะอธิบายมันยังไงดี...

บางเรื่อง..  ต่อหน้าคนที่เราอยากจะบอกที่สุด  แต่เรากลับเลือกที่จะไม่พูดมันออกไป  เพราะถ้าพูดไปแล้วมันจะกลายเป็นแค่เรื่องธรรมดา...  ถ้าอย่างนั้น...  ไม่บอกจะดีกว่า....  เพื่อให้อยู่โดยไม่ลืม...

คนเขียนเริ่มเวิ่นเว้อละ555+
............................................
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย  เผื่อบางคนที่อยากเข้าเรียน IE
IE เป็นวิศวะที่กว้างพอสมควร...  คือนอกจากความรู้เชิงวิศวกรรมแล้ว  เรายังต้องเรียนพวกการบริหารจัดการอีก 
แต่ว่า...  เราจะไม่ลงลึกอะไรมากอะครับ  เป็นความรู้แบบกว้างๆเพื่อหยิบเอามาใช้งาน
เหมือนเป็ดอะครับ  บินก็ได้  แต่ก็ไม่เท่านก  ว่ายน้ำก็ได้  แต่ก็ไม่เท่าปลา คือทำได้หลายอย่าง  แบบแนวกว้างแต่ไม่ได้ลงลึก
และนอกจากความรู้เชิงวิศวกรรมแล้ว  เรายังต้องเจอพวกเศรษฐศาสตร์ (ผมได้ A แฮ่) การจัดการ และอื่นๆในเชิงบริหารด้วย
ส่วนงานที่ทำก็มีหลายด้านนะครับ  เช่น
QC  งานด้านตรวจอบคุณภาพ 
QA  ประกันคุณภาพ
Production  งานด้านฝ่ายผลิต  ซึ่งไม่ได้ไปประกอบหรือซ่อมเครื่องจักรนะครับ  แต่ IE เราจะสนใจไปที่  การลดขั้นตอนการทำงาน   การลดเวลาการผลิต   การทำ Work study   ปรับปรุง Lineการผลิต หรือ process ต่างๆ   ให้คุ้มค่าและลดต้นทุนมากที่สุดอะไรทำนองนี้อะครับ
Production Planning  (ช่วงที่ผมทำงานอยู่ในฐานะวิศวกรจะทำในส่วนนี้ครับ)  ง่ายๆเลยคือ...  ลูกค้าสั่งของเท่าไหร่  ก็วางแผนผลิตไปตามนั้น...  แต่detail เยอะมากครับ  เพราะมันต้องคำนึงหลายอย่าง  ตั้งแต่  วัสดุที่ใช้ประกอบ  ที่เราต้อง order มา ( งานส่วนนี้จะเหมือนพี่อาทิตย์ ใน SOTUS S )  inventory  ยาวไปจนถึง ระบบ logistic เลย  ให้อธิบายคงจะยาวมาก  เพราะแผนการผลิตที่เราทำจะไม่ใช่ออก plan มาแค่เดือนเดียว  แต่เราต้องวางยาวแบบ forecast ไปกว่า 12 เดือนเลย  แต่ก็สนุกดีนะครับ  ถ้าไม่เจอคนอย่างพี่จอร์นใน Sotus  55+  (คือเข้าใจอารมณ์เลยตอนดูซีรี่ย์  แต่ของจริงหนักกว่านั้นอีก )
และยังมีงานด้านอื่นๆ อีกเยอะ ไม่ว่าจะงานด้านออกแบบ  หรืออื่นๆ  ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่
.......................
เล่ามายาวเลยกลัวคนรำคาญจัง แฮ่  แค่เผื่อมีน้องๆ  อยากรู้ว่า  เรียน IE มันเป็นวิวะแบบไหน  เผื่อสนใจอยากเรียนอะครับ ^ ^
ก็เลยเอาเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟัง  เผื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับปม
...........................
เริ่มโม้มายาวละ  พอแค่นี้ดีกว่าเนอะ  555+
วันมะรืนจะมาลงตอนหน้าให้นะครับผม
ขอบคุณทุกๆกำลังใจและการติดตามมากๆนะครับ  บอกเลยว่ามันเป็นแรงกระตุ้นให้ผมเขียนหัวฟูเลย ^ ^
แง่มๆ
^___________________________________________________^


ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สงสารพีกิจน้องกันต์
เจ็บตัวทั้งคู่ 

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด