My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147499 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

อนาคต มีมาม่าหม้อใหญ่

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีกันไม่เท่าไรจะดราม่าอีกแล้วหรอคะ ฮื่ออออออแ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :a5:  อนาคตมันเกิดอะไรขึ้น  :ling1:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ดีใจแทนน้อง ต่อไปนี้ก็มีพี่กิจคอยดูแลอยู่ข้างๆแล้วเนอะ
ซึ้งมากๆตอนนี้

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Nick_June

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงจังหายไปไหนเอ่ย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องกันต์จะต้องเสียใจเพราะพี่กิจอีกเหรอครับ? สงสารน้องอ่ะ T^T

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 26



กันต์'s  Part




และแล้ววันงานกีฬาเฟรชชี่ก็มาถึงครับ

ตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงกว่าแล้ว  ซึ่งผมกำลังนั่งอยู่ที่คอร์ดแบด  สำหรับการเตรียมตัวแข่งในรอบสุดท้าย  เพื่อชิงเหรียญทองกับคณะเภสัชตามที่ได้คาดไว้ก่อนหน้านั้น


.........................


หลังจากวันเกิดของผมที่ผ่านมา  ผมก็ต้องพักฟื้นร่างกายและงดซ้อมแบดอยู่หลายวันเลยครับ  จากนั้นก็กลับมาซ้อมต่อได้ตามปกติ  ส่วนพี่กิจก็มาช่วยเทรนให้บ้างในบางครั้งที่พี่เขาว่าง  เพราะที่ชมรมบาสเองก็ต้องซ้อมกันหนักอยู่เหมือนกัน  แต่สำหรับในวันหยุด  พี่เขาก็ยังคงพาผมไปซ้อมตามปกติครับ

ผมใช้ไม้แบดและที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตลอดเลย  จนพี่เขาบอกว่าผมน่ะขี้เห่อ... 

ก็คนมันชอบนี่นา...


……………....


การแข่งตลอดช่วงเช้าวันนี้ก็หนักเอาการเลยครับ  รอบรองนี่เล่นเอาซะเส้นยาแดงผ่าแปดเลย  แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีนะครับ

สำหรับชายเดี่ยวนั้นรู้ผลกันตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว  ซึ่งไอ้ธันก็คว้าเหรียญทองแดงมาได้  แต่จริงๆ แล้วผมว่ามันมีสิทธิ์ที่จะได้เหรียญเงินเลยด้วยซ้ำ  ถ้ารอบรองมันไม่ได้ไปเจอกับไอ้เคคณะเภสัทนั่นเสียก่อน  แต่ถึงแพ้..  ก็แพ้แบบไม่ห่างมากนะครับ 

จบจากชายเดี๋ยวพวกผมก็รีบพากันไปที่สนามบาสกันทันที ( คือยังพอมีเวลาก่อนที่จะแข่งประเภทคู่ )  เพราะพวกไอ้เรย์มันกำลังจะแข่งบาสนัดชิงกับคณะเกษตรอยู่  ซึ่งปีนี้คณะเราก็คว้าเอาเหรียญทองมาได้กันตามคาด  แถมไอ้เรย์มันยังดีใจจนออกนอกหน้า  วิ่งเข้ามาหาพวกผม  แต่เสือกไปกอดแพรซะงั้น  ทำเอาผมกับไอ้ธันมองหน้ากันเอ๋อแดกไปตามๆ กัน

ชักอยากรู้แล้วสิครับว่าสองคนนี้คืบหน้ากันไปถึงขั้นไหนแล้ว...  เพราะนี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะเนี่ย...


....................................


จบจากบาส  ผมกับไอ้ธันก็รีบพากันกลับมายังคอร์ดแบดทันทีเลยครับ

“ ตื่นเต้นเหรอกันต์ “ 

ไอ้ธันมันถามขึ้นมา  ขณะที่เรากำลังนั่งกันอยู่ข้างสนาม  เพื่อรอที่จะแข่งในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

“ อืม... “

“ เอาน่า  แค่ทำเต็มที่ก็พอแล้ว  ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่เป็นไร  ถือว่าเราได้ทำมันเต็มที่แล้วก็พอ “ 

มันยิ้มบอกมาครับ  ผมเลยยิ้มตอบกลับไปให้เจื่อนๆ  คือจะบอกว่ารู้สึกดีขึ้นมั้ย...  มันก็ใช่อยู่หรอกนะ  แต่จะให้หายตื่นเต้นไปเลย  มันก็คงไม่ใช่ 

จากนั้นไม่นาน  กรรมการก็ประกาศให้พวกเราลงสนาม  สำหรับการแข่งรอบชิงชนะเลิศประเภทชายคู่  ระหว่างคณะวิศวะฯ กับ คณะเภสัชฯ

ไอ้เคมันคู่กับเพื่อนของมันครับ  ก็คนที่มาซ้อมด้วยกับมันที่คอร์ดอยู่บ่อยๆ  ซึ่งฝีมือก็ไม่ใช่ย่อยเลยนะครับ  แต่ก็ไม่ถึงขนาดไอ้เคมันหรอกนะ  ซึ่งจะว่าไป  ไอ้ธันของเราดูจะมีฝีมือดีกว่าบัดดี้ของมันเสียด้วยซ้ำ

ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม  ไอ้เคมันมองมาทางพวกผมพร้อมกับยิ้มเยาะเล็กๆ ส่งมาให้  ราวกับว่ามันมั่นใจมาก  ว่ายังไงพวกผมก็ไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้หรอก 

เห็นอย่างนี้แล้ว  โครตหมันไส้มันเลยครับ...

การแข่งเริ่มต้นที่ฝั่งเราเป็นฝ่ายเสริฟก่อน  ผมยังคงเล่นหน้าเน็ตและให้ไอ้ธันที่ตัวสูงกว่าเล่นหลัง

แข่งไปได้ไม่นาน  ความกดดันก็เริ่มก่อตัวขึ้นครับ  เมื่อแต้มเริ่มห่างกันมากขึ้น  และยังไปไวกว่าที่พวกผมคาดเอาไว้อีก  ซึ่งแต้มตอนนี้ก็คือ 3 ต่อ 8 ครับ

“ สู้ๆ นะกันต์ “ 

เสียงไอ้ธันมันดังมาจากทางด้านหลัง  ผมเลยหันไปยิ้มให้  พร้อมทั้งยกนิวโป้งตาม 

แค่นี้ใครจะไปยอมแพ้กันละครับ  เกมนี้ยังอีกยาวไกล....


............................


เวลาผ่านไปอีกเกือบ 10 นาที 

ทั้งๆ ที่ผมและไอ้ธันพยายามยื้อเอาไว้อย่างเต็มที่  และก็ทำอย่างเต็มกำลังแล้วแท้ๆ  แต่มันก็ยังคงให้ผลลัพธ์เหมือนเดิมอยู่ดี  ซึ่งแต้มตอนนี้ก็โดนนำไปจนถึง 5 ต่อ 12 แล้วละครับ

เกมมัน...  กำลังจะปิดฉากลงแล้วล่ะครับตอนนี้....

เราเริ่มเล่นกันต่อไปโดยการเสริฟของอีกฝั่ง  ผมพยายามตั้งสติและเล่นให้เป็นธรรมชาติที่สุด  แต่เพราะคู่แข่งมีฝีมือมาก  และแต้มที่ห่างออกไปเรื่อยๆ จนใกล้จะจบเกมขึ้นมาทุกขณะ  มันเลยทำให้ผมเริ่มรนและขาดสติขึ้นมาบ้างแล้ว  จนดูเหมือนว่าผมกำลังจะสูญเสียความเป็นตัวเองในการเล่นไป

“ ปึ้ง!! “

เสียงตบอันทรงพลังที่ไอ้เคมันตบมาจากท้ายคอร์ด  มุ่งตรงมายังบริเวณโซนหน้าเน็ตที่ผมรับผิดชอบอยู่  แต่เพราะการโต้กันไปมาเมื่อสักครู่  มันเลยทำให้ผมหลุดออกจากตำแหน่งและเปิดช่องโหว่เอาไว้  ซึ่งไกลเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมมือไปถึง

ผมถลาตัวออกไปรับอย่างเร่งรีบ  จนพลาดสะดุดล้มลงพื้นก่อนที่จะไปถึงลูกแบด  ผมไถลไปตามพื้นเล็กน้อย...  ทั้งเจ็บ  ทั้งอาย  แถมยังเสียแต้มอีก...  นี่เราคงไม่มีทางเอาชนะได้จริงๆ แล้วใช่มั้ยครับ...

“ กันต์  เป็นยังไงบ้าง  ไหวมั้ย...  “ 

ไอ้ธันรีบเข้ามาประคองผมและถามไถ่อย่างเป็นห่วง  ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ส่ายหน้าส่งให้ไปเท่านั้น

“ ขอโทษนะเว้ย...  เสียแต้มเพราะกูอีกแล้ว “ 

ผมบอกไปอย่างอดที่จะรู้สึกโทษตัวเองขึ้นมาไม่ได้  เพราะหลายต่อหลายลูกที่ฝั่งผมเสียแต้มไปก็เพราะผม 

บางที...  ถ้าไอ้ธันไปคู่กับคนอื่น...  มันก็อาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็ได้นะครับ

“ พูดอะไรอย่างนั้น  กันต์เองก็ทำเต็มที่แล้ว  ดูสิ..  เจ็บไปหมดแล้วเนี่ย “

ถึงจะได้ยินอย่างนี้  แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่า  เราไม่มีทางเอาชนะคู่แข่งตรงหน้านี้ได้เลย  ไม่ว่าจะพยายามเต็มที่แค่ไหนก็ตาม....

ผมก้มมองดูที่รัดข้อมือที่พี่กิจให้เป็นของขวัญวันเกิด  ผมคงคว้าเหรียญทองมาให้พี่ไม่ได้นะครับพี่กิจ  ทั้งๆ ที่พี่พยายามทุ่มเทให้ผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแท้ๆ  แต่คู่แข่งมันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ครับ....  ผมไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้เลย  ไม่มีทางเลยจริงๆ....




............................................................................................


“ กันต์ !  “

แล้วจู่ๆ ก็เหมือนได้ยินเสียงพี่กิจแว่วเข้ามาในหัว... 

ความทรงจำครั้งหนึ่งที่พี่กิจเคยพูดไว้กับผม  ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับตอนนี้เลย  ที่ผมแพ้แล้วก็แพ้อีก  ไม่มีทางที่จะชนะพี่กิจได้เลยแม้แต่น้อย....

“ กันต์...  ถ้าแข่งขันกับใครสักคน  ถึงจะแพ้แล้วแพ้อีก  มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ...  เพราะถ้าแพ้ก็เรียนรู้เพื่อแก้ไข  ความอายความขายหน้าเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เราเอาชนะไปได้  อย่ารีบร้อน...  ค่อยๆ เป็น  ค่อยๆ ไป  แล้วประสบการณ์จะสอนให้เราเรียนรู้ที่จะผ่านมันไปได้...  นอกจากนั้น  อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน  หรือบางทีอาจจะสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำไป  ก็คืออะไรรู้มั้ย...  “

“ ไม่รู้อะครับ “

“ กำลังใจไง...  หากมีกำลังใจ  เราก็จะมีพลังในการเอาชนะไปได้... “

“ แล้ว... วันนั้น  พี่กิจจะมาเป็นกำลังใจให้ผมมั้ย “

“ มาสิ...  ต้องมาแน่นอน... “

................................................................................................



ผมดึงสติกลับเข้ามาในการแข่งอีกครั้ง  ในขณะที่ไอ้ธันถอยหลังเยื้องไปทางด้านหลังของผมแล้วในตอนนี้

และก่อนที่ไอ้เคจะเสริฟลูกต่อไปมา  จู่ๆ ความวุ่นวายที่ประตูทางเข้าโรงยิมก็ดังขึ้น  จนทุกคนต้องหยุดและหันไปมองยังที่มาของความวุ่นวายนั้น

“ ถอยหน่อยคร้าบๆ !!!  กองเชียร์คณะวิศวะมาแล้วคร้าบ  ของทางหน่อยๆ!!! “

เสียงพี่คิมดังมาแต่ไกล  พร้อมด้วยกลุ่มผู้คนมากมายที่เบียดเสียดกองเชียร์คณะเภสัทเข้ามา 

ในนั้นมีทั้งกลุ่มจตุรเทพคนดังของมหาลัยฯ  ชมรมบาสที่มีไอ้เรย์ห้อยเหรียญทองนำเข้ามายกทีม  เพื่อนๆ ปีหนึ่ง  และพี่ปีสูงๆ อีกหลายคน... 

มันเยอะมาก  เยอะมากจริงๆ ครับ 

จนตอนนี้ที่ยืนในโรงยิมแทบจะไม่มีแล้ว  หลายคนต้องเบียดเสียดกัน  ทว่าทุกคนกลับส่งเสียงเชียร์พวกผมกันยกใหญ่  และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  พวกเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะแพ้หรือว่าชนะ  แต่ก็ยังเชียร์และให้กำลังใจพวกเราไม่ขาด...

“ อ้าวๆๆ  พวกกูมาช้ากันนิดเดียว  ถึงกลับแต้มตามขนาดนี้เลยเหรอวะ  สู้ๆ หน่อยเว้ยมึง  กูรู้ว่ามึงทำได้ “

 เสียงไอ้เรย์มันตระโกนมาครับ

“ สู้ๆ นะคะ  สุดหล่อทั้งสองคนของพวกพี่ๆ “

นี่เป็นกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงที่ตระโกนมาครับ

“ ธัน!!  คนอ่อนแอเท่านั้นนะถึงจะแพ้ “

อันนี้แพรว่ามาครับ  เล่นเอาซะไอ้ธันทำหน้าแหยๆ เกาหัวยิกๆ เลย

“ กันต์  สู้ๆ นะพี่เชื่อว่าเราทำได้ “

นี่พี่พีครับ  ตระโกนเสียงเข้มมาเชียว

“ สู้ๆ นะไอ้น้อง  ถ้าชนะเดี๋ยว...  ไอ้กิจเลี้ยงชุดใหญ่ให้เลย  ฮ่าๆๆๆ “

พี่คิมตระโกนบอกมาบ้างครับ

ผมเหลือบไปมองยังพี่กิจที่ยืมยิ้มส่งมาให้อยู่ไกลๆ  และเหมือนพี่เขาจะเห็น  เขาเลยเอานิ้วมาชี้ย้ำที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง  ผมเลยก้มมองดูที่รัดข้อมือที่พี่เขาให้มา... 

นั่นสินะ..  ผมมีพี่เขาเป็นกำลังใจอยู่ด้วยตลอดเวลานี่นา..

ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มออก  แล้วความรู้สึกฮึกเหิมมันก็หลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้มากมาย  ผมหันไปมองไอ้ธันที่ยิ้มและพยักหน้าส่งมาให้ผม

ผมเข้าใจแล้วละครับพี่กิจ...  ว่ากำลังใจมันมีพลังให้กับเรามากแค่ไหน....

พวกเราพร้อมที่จะสู้แล้วครับ  ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงก็ช่าง  ผมรับรองว่า..  เราจะทำมันเต็มที่แน่นอน...

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “

“ สู้ๆ น้องกันต์!!!  สู้ๆน้องธัน!!!  สู้ๆวิศวะฯ!!! “



.......................................

เกมจบลง  และการมอบเหรียญก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว

ผมเดินเหนื่อยๆ กลับมาหาพวกเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่เชียร์ผมอยู่ข้างสนาม

ไม่รู้ว่าอะไรทำให้น้ำตาผมมันไหลออกมา.... 

แต่พวกเราทำมันเต็มที่แล้วจริงๆ นะครับ...

เพราะอย่างนั้น...


.....


....



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
เราจึงคว้าเหรียญทองมาให้กับคณะได้แบบนี้ยังไงล่ะ....


....


“ เป็นอะไรวะ  ร้องไห้ทำไมมึง “  ไอ้เรย์มันถามมาครับ

“ ก็กูดีใจนี่นา “  ผมตอบไปพลาง  ปาดน้ำตาไปพลาง

“ กิจ..  น้องมึงร้องใหญ่แล้วเนี่ย “ 

พี่คิมว่ามาพลางกระทุ้งสีข้างพี่กิจที่ยืนอยู่ข้างๆ  แล้วพี่กิจก็เดินเข้ามาขยี้หัวผมเหมือนเดิม  ก่อนจะพูดขึ้นว่า...

“ ทำตัวเป็นเด็กอีกแล้วนะเรา...  ค่ำนี้อยากกินอะไร  เดี๋ยวพวกพี่ๆ จัดให้ชุดใหญ่เลย “ 

พี่กิจพูดจบก็หันไปขอแนวร่วมกับพี่ๆ ในกลุ่มอีก 3 คนด้านหลัง  พี่คิมเอานิ้วชี้เข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามว่า   นี่กูต้องหารด้วยใช่มั้ยเนี่ย  แล้วพี่พีก็ตบหัวพี่คิมไปเบาๆ แทนคำตอบครับ

“ เออ...  ก็ได้ๆ  เพื่อน้องๆ เลยนะเนี่ย  อยากกินอะไรบอกมาได้  มื้อนี้ไม่อั้น “ 

จากนั้นรอบๆ บริเวณก็พากันส่งเสียงโห่ร้องอย่างดีใจขึ้นมา

“ เห้ยๆๆ  เลี้ยงเฉพาะรุ่นน้องนะ  พวกรุ่นพี่จะกินออกเองนะเว้ย! “

พี่คิมรีบเบรคขึ้นมาทันที  ก่อนจะถูกโห่และตามมาด้วยเสียงหัวเราะ

มันดูจะเป็นความอิ่มเอมใจที่เกิดขึ้นที่นี่  ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง  มันทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความกลมเกลียว... 

มันช่าง...อบอุ่นดีครับ...



.............................................



จบทุกการแข่งขัน  พวกเราก็พากันมาที่ร้านบุพเฟ่ปิ้งย่างใกล้ๆ มอเหมือนเดิม 

เท่าที่ได้ข่าวมาจากนักข่าวประจำกลุ่มพวกผมอย่างไอ้แน๊คก็รู้ว่า  ปีนี้วิศวะเราครองแชมป์เหรียญทองเยอะที่สุดอีกตามเคย  มิหนำซ้ำประกวดดาวเดือนมหาลัยในช่วงเย็นที่ผ่านมา  ไอ้ธัน กับ แพรก็ได้ตำแหน่งไปด้วยทั้งสองคน

ที่ร้านตอนนี้ก็เต็มไปด้วยกลุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องคณะวิศวะฯ เกือบจะทั้งร้านเลยครับ  ทุกคนดูมีความสุข  สนุกสนานเฮฮา  จนร้านดูครึกครื้นมากถึงมากที่สุด  ในขณะที่ไอ้ธันและแพรก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย  นอกจากถ่ายรูปกับพวกรุ่นพี่  และเพื่อนๆที่เข้ามาขอถ่ายรูปดาวและเดือนมหาลัยปีนี้  ส่วนผมนี่ก็มีเข้ามาบ้างประปรายครับ

ซึ่งในมือถือผมนั้น  นอกจากจะมีรูปที่ถ่ายกับเพื่อนๆ แล้ว  อีกรูปหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ  รูปที่ผมถ่ายคู่กับพี่กิจ  พร้อมกับชูเหรียญทองที่คว้ามาได้....


และแล้ว...  ช่วงเวลาแห่งการฝึกมหาโหดก็ผ่านพ้นไป  พร้อมกับความสำเร็จที่คาดไม่ถึง

มีความสุขมากมายเกิดขึ้นมาในวันนี้  ถึงจะเหนื่อยมากก็เถอะ  แต่มันก็คุ้มค่าสุดๆ เลยว่ามั้ยครับ

ส่วนวันนี้...  คงต้องพอเท่านี้แล้วล่ะครับ... 

ผมขอตัวไปหาอะไรกินก่อนนะ  เพราะกุ้งที่ผมย่างไว้  ไอ้เรย์กับไอ้แน๊ค  มันขโมยไปหมดเลย  หนำซ้ำวันนี้พวกผมยังแยกมานั่งกันเองในกลุ่มอีก  เพราะพวกพี่กิจนั่งอยู่กับกลุ่มรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่โต๊ะข้างๆ  งานนี้เลยต้องช่วยตัวเองครับ  ยิ่งไอ้พวกนี้ไม่รู้มันไปตายอดตายอยากที่ไหนกันมา  ทั้งกินจุและมือไวกันสุดๆ เลย...

แต่ก็สนุกดีนะครับ  ฮ่าๆๆๆ...

“ ไอ้สาด!  นั่นกุ้งตัวสุดท้ายของกู  มึงไปตักมาใหม่เลยนะไอ้เรย์ !!! “





TBC.


--------------------------------------------
 ขอโทษครับ  หายไป2-3วัน  อินเตอร์เนตเจ๊งครับ   :z3:  ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์  พึ่งใช้ได้เกือบๆเที่ยงวันนี้อะครับ

ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมลงตอนต่อไปให้เลยนะครับ

ตอนนี้ผมเคยลงแล้วบางส่วน(ที่ยังไม่ไม่กรองประโยค) ในช่วงแรกๆ อาจจะพอคุ้นๆ กันบ้างเนอะ  (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นช่วงที่เปิดตัวละคร ธัน )

ตอนต่อๆไปช่วงนี้จะชิลๆครับอยู่ครับ  แฮ่ๆ

แต่ผมอาจจะลง  ตอนสั้นพิเศษเล็กๆต่อท้ายนิดนะครับ เป็นเรื่องของ X-C  พอดีว่ามันจะเข้าใจความรู้สึก X ชัดขึ้น  เพราะปลายๆซีซั่นมันมีความจำเป็นนิดหน่อยอะครับ

ดังนั้นพรุ่งนี้จะลง CH-27 + ตอนสั้นพิเศษ 1 ตอนนะครับ

ขอบคุณนะครับที่ติดตามและให้กำลังใจดีๆ  :pig4:

ทำงานต่อแระคร้าบบบบบบ  ชะแว่บ!!!!

^___________________________________________^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอให้มีความสุข  สุขภาพแข็งแรงนะ ผู้เขียนรอให้กำลังใจนะคับ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ในที่สุดก็ชนะ ได้กำลังใจดีเนอะ 
ชอบบรรยากาศตอนท้ายดูอบอุ่นมากๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชนะจนได้........................ ได้กินกุ้ง  :a2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 27



กันต์'s  Part




การแข่งกีฬาเฟรชชี่พึ่งผ่านพ้นไปเมื่อวานนี้เองครับ  บ่ายนี้พี่กิจพาผมออกมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เพราะว่าค่ำนี้เราต้องไปงานเลี้ยงกันครับ  ซึ่งคุณป้าเป็นคนบอกให้พี่เขาพาผมไปเอง  เพราะแกไม่ได้เจอผมมาหลายวันแล้ว

พี่กิจเลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าลื่นๆ ให้ผม  พร้อมกับกางเกงสแลคสีดำ  ถึงจะดูธรรมดาแต่เพราะแบร์นที่ใส่  มันเลยทำให้ราคาแพงขึ้นหูฉี่เลยครับ  ชนิดที่ว่าถึงผมมีเงินมากๆ ผมก็คงไม่กล้าซื้อมันหรอก

สำหรับงานเลี้ยง  เห็นพี่กิจบอกว่ามันเป็นแค่งานเลี้ยงขอบคุณพนักงานที่ช่วยกันทำงานและฉลองที่คอนโดหรูระดับไฮเอนโครงการใหม่ที่พัทยาถูกขายไปได้จนหมด 

ซึ่งสำหรับผม  ฟังๆ ดูแล้ว  ผมว่ามันเป็นทางการมากเลยนะครับ  แต่พี่กิจบอกว่าไม่ต้องไปเครียดอะไรมาก  มันก็แค่งานเลี้ยงธรรมดาๆ 

เพียงแต่....

นั่นมันสำหรับพี่...  ไม่ใช่ผมนะคร้าบ.....

กลับมาจากซื้อของก็เกือบเย็นแล้วละครับ  พี่กิจเลยให้ผมไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปงานตอนค่ำนี้

ผมอาบน้ำเสร็จก็แต่งชุดใหม่ที่พี่เขาพึ่งซื้อให้  เซตผมที่ตอนนี้เริ่มดูจะยาวขึ้นมากแล้ว  ก่อนจะฉีดน้ำหอมบางๆ ตบท้ายไป

วันนี้พี่กิจใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแกมชมพูบางๆ  กางเกงและเข็มขัดสีขาว  เหมือนจะดูหวานนะครับ  แต่พอพี่เขาใส่แล้วกลับดูเป็นผู้ชายอบอุ่นโครตๆ เลย

คนบ้าอะไร...  ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด


.................................


พี่กิจขับรถเข้ามายังโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน  ที่นี่หรูมากครับ  ดูจากแขกที่มาพัก  และการแต่งตัวของพนักงานแล้ว  ผมว่าค่าห้องคืนหนึ่งคงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

พี่กิจเดินพาผมไปยังห้องจัดงาน  ที่ตอนนี้ผู้คนก็เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว  ซึ่งเท่าที่ดู  ผู้ที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็จะมีอายุอยู่ในช่วง 20 ปลายๆ ถึง  40 ต้นๆ ซะส่วนมาก  เห็นพี่กิจบอกว่าจะเป็นพนักงานในส่วนของฝ่ายขาย  วิศวกร  สถาปนิก อินทีเรีย บลาๆๆ  ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนรุ่นใหม่เสียมากกว่า

มาถึงจุดนี้  ผมถึงได้รู้ว่าพี่กิจนอกจากจะเรียนที่มหาลัยฯ แล้ว  ก็ยังต้องมาเริ่มเรียนรู้งานธุรกิจของที่บ้านอีกด้วย  เพื่อที่จบมาแล้วจะได้เห็นภาพรวมและเริ่มทำงานได้ทันที

ฟังๆ ดูแล้ว  รู้สึกว่าความรับผิดชอบของผมกับพี่เขาดูจะต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยนะครับ  เพราะแค่ที่มหาลัยฯ  พี่เขาก็ยังทำกิจกรรมมากกว่าผมเลย  ไม่รู้ว่าไปเอาเวลาที่ไหนมากันมากมายขนาดนี้

เดินเข้ามาในงานพี่กิจก็เล่าโน่นเล่านี่ให้ฟังไปเรื่อยครับ  ผมเองก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง  เพราะมันค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับสถานที่  และโดยเฉพาะของกินที่ทำให้ผมเริ่มหิวขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้

ในขณะที่ผมกวาดสายตาไปรอบๆ งานอย่างสนใจ  ก็พบว่ามีสายตาหลายต่อหลายคู่จับจ้องมากันที่ตัวพี่กิจไม่ใช่น้อยเลย  ซึ่งจุดนี้ผมเองก็เริ่มจะชินแล้วล่ะครับกับการเดินกับพี่เขาแบบนี้

โต๊ะกลมหรูด้านหน้าใกล้เวที  ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า V.I.P อยู่ที่กลางโต๊ะ  เป็นจุดหมายปลายทางของพวกเรา   ทุกอย่างบนโต๊ะดูหรูมากครับ  ซึ่งมันต่างจากที่พี่เขาบอกไว้ว่านี่เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดาๆ เท่านั้นเอง....

“ ไอ้กานต์ไลน์มาบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว  เดี๋ยวกันต์นั่งรอตรงนี้แปบนะ  พี่ไปเข้าห้องน้ำแปบ “

ผมพยักหน้ารับก่อนที่พี่กิจจะลุกออกจากโต๊ะไป  ตอนนี้ทั้งโต๊ะก็มีแค่ผมอยู่คนเดียว  รู้สึกแปลกๆ  ยังไงก็ไม่รู้สิครับ  เกร็งไปหมดเลย  มองไปทางไหนก็มีแต่คนที่ไม่รู้จักทั้งนั้น  ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างพากันพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

หันซ้ายหันขวาไปได้สักแปบ  จู่ๆ ก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามาสะกิดผม

“ นี่เธอ!  พนักงานใหม่ใช่มั้ยเนี่ย “

“ เอ่อ..  “

“ ตรงนี้เป็นที่นั่ง V.I.P นะ  สำหรับผู้บริหารระดับสูงและครอบครัว  เธอต้องไปหาที่นั่งตรงอื่นนะ “

“ คือว่า... “

“ ยังจะเถียงอีก!!  แผนกไหนเนี่ย !! “ 

คุณป้าแกทำเสียงดุขึ้น  ผมเลยไม่กล้าที่จะอธิบายอะไรต่อ  สุดท้ายก็เลยต้องรีบลุกออกไปจากที่นั่งแทบจะในทันที

ผมเดินเก้ๆกังๆ ไปยังมุมเครื่องดื่ม  ก่อนจะหยิบคอกเทลสีแดงน่ากินมาไว้ในมือแก้วนึง

ไม่มีพี่กิจอยู่ด้วยทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ว่าแต่... ตอนนี้ผมควรจะไปอยู่จุดไหนของงานดี  เพราะไม่ว่าจะที่ไหน  ก็ไม่มีใครที่ผมพอจะรู้จักทั้งนั้น

จากนั้นผมก็เดินเข้าไปดูยังโซนอาหาร  เนื่องจากงานเป็นลักษณะบุพเฟ่  แต่หรูตรงที่มีของสดและเชฟมาทำให้ถึงที่เลย  อย่างกับบุพเฟ่หรูๆ ที่หัวละแพงๆ อะครับ

ผมเดินดูเรื่อยๆ ยังไม่ได้เลือกว่าจะกินอะไรดี  แต่ก็เล็งๆ เอาไว้บ้างแล้ว  อย่างผักโขมอบชีต  หอยแมลงภู่อบเนย  และคงเอาเนื้อปลาแซลมอลไปให้เชฟทำสเต๊กให้


“ โอ๊ย!! “


ขณะที่ผมถอยหลังออกจากบริเวณของกินเล่น  ก็ดันไปเหยียบเข้ากับเท้าของพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้า  ประมาณจากสายตาแล้วก็น่าจะอายุประมาณ 20 ปลายๆ แต่ไม่น่าจะเกิน 30 อะครับ

“ ขอโทษครับ “

ผมรีบพูดขึ้นทันทีอย่างรู้สึกผิด  แต่สีหน้าเธอดูจะโกรธเอามากๆ เลยครับ  จากหน้าสวยๆ ตอนนี้เปลี่ยนไปดูซะน่ากลัวเลย

“ หัดดูคนซะบ้างสิ !!  ไม่ใช่มัวแต่มองขนม  ทำอย่างกับที่บ้านไม่มีอะไรจะกิน “

อูย....  แรงครับ 

แต่ผมก็เถียงอะไรไม่ได้หรอก  เพราะผมก็ผิดเองจริงๆ นั่นแหละ

“ ขอโทษจริงๆ ครับพี่ “

พี่เขาจิ๊ปาก  พลางก้มลงดูรองเท้า  พร้อมทั้งพลิกไปมาดูว่ามีอะไรที่เสียหายหรือเปรอะเปื้อนรึเปล่า  ผมเลยได้แต่มองไปหน้าตาเจื่อนๆ อย่างรู้สึกผิดให้เท่านั้นเอง

“ จะอะไรกับเด็กมากคุณ  น้องเขาก็ขอโทษไปแล้ว  ก็ให้มันจบๆ ไปเหอะ “ 

จู่ๆ ก็มีพี่ผู้ชายวัยประมาณเดียวกันกับพี่ผู้หญิงคนนี้  มาช่วยพูดให้ครับ

“ วันหลังก็หัดเดินดูตาม้าตาเรือซะบ้างนะ ! “

พี่สาวคนนั้นพูดจบ  ก็สะบัดผมแล้วเดินเชิดจากไปททันที

น่ากลัวเป็นบ้าเลยครับ...คนอะไร...

“ อย่างนี้แหละน้อง  ยัยนี่น่ะ  ถือว่าเป็นหลานของผู้จัดการแผนก HR ก็เลยไม่ค่อยเห็นหัวใครเท่าไหร่ “
 
พี่ผู้หญิงอีกคนที่ยืนข้างๆ พี่ผู้ชายที่เข้ามาช่วยผมไว้  พูดขึ้นครับ

“ แล้วนี่เราอยู่แผนกไหนเหรอ  เหมือนพี่จะไม่เคยเห็นหน้าเราเลยนะ “  พี่ผู้ชายถามต่อ

“ อ๋อ... เอ่อ... คือผมไม่ได้ทำงานที่นี่หรอกครับ  ผมยังเรียนอยู่เลย  พอดีมากับพี่น่ะครับ “

ผมบอกไป  พวกพี่ๆ เขาก็พยักหน้าเข้าใจเล็กๆ

“ นี่ก็พึ่งโดนคุณป้าคนนึงไล่มาอยู่เลย  เขาว่าผมไปนั่งผิดที่อะครับ  ฮะๆๆ “ 

ผมพูดติดตลกเล่าให้ฟังต่อ

“ ใช่ป้าที่มีไฝที่มุมปากรึป่าว “ 

พี่ผู้หญิงถามขึ้นต่อทันที  ผมเลยพยักหน้ารับ  เพราะไฝเม็ดนั้นมันเตะตาผมให้จำป้าแกได้ดีเลยทีเดียว

“ นั่นแหละ...  ป้าของยัยคนเมื่อกี้นี้อะ  ผู้จัดการแผนก HR จู้จี้ขี้จับผิดสุดๆ “ 

พอพี่เขาขยายความมาให้ฟัง  ผมเลยพอจะเข้าใจแล้วละครับว่าทำไมแกถึงดูดุขนาดนั้น

“ แล้วนี่พี่เราชื่ออะไร  อยู่แผนกไหนเหรอ...  ว่าแต่จริงๆ แล้ว  งานนี้เขาไม่ได้ให้พาครอบครัวมาได้นะ  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าไม่มีใครรู้  น้องก็เนียนๆ ไปเลยละกัน “

พี่ผู้หญิงว่ามาแบบนี้  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไปครับ... 

รู้สึกเหมือนผมเป็นส่วนเกินของงานยังไงไม่รู้แฮะ

พี่กิจนะพี่กิจ...  ทิ้งผม  ไม่ดูแลกันเลยนะ  ชิส์!!!!

“ ชื่อพี่กิจครับ  แต่ผมไม่รู้ว่าพี่เขาทำแผนกไหน  แล้วตอนนี้เขาก็ไม่อยู่  ผมเลยไม่รู้ว่าจะไปไหนดี  ที่นั่งเดิมก็โดนไล่ออกมาแบบนี้ “

“ นั้นไปนั่งกับพวกพี่ก่อนละกัน  รอพี่เรามาแล้วค่อยกลับไปเนอะ “ 

พี่ผู้หญิงชวนมาครับ  ใจดีจัง.... 


พอมาถึงที่โต๊ะพวกพี่เขา  ก็มีพี่ผู้หญิงและพี่ผู้ชายอีก 3 – 4 คน  นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว

“ แหมๆๆ...  บอกจะไปหาของกินเล่น  ไหงได้หนุ่มหล่อมาแบบนี้จ๊ะ... “ 

พี่ผู้หญิงคนหนึ่งแซวขึ้นมาครับ  ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ไปเท่านั้น

“ น้องเขาโดนยัยแนนนี่ฝ่ายขายเล่นเอาน่ะสิ  ฉันเลยเข้าไปช่วย “

“ ยัยแนนนี่อีกแล้วเหรอ...   แต่จะว่าไป  ฉันได้ข่าวมานะ  ว่าวันนี้หล่อนทุ่มเงินเป็นหมื่นซื้อชุดใหม่มาเพื่องานนี้เลยนะเธอ “

และแล้วการเม้าส์มอยตามประสาผู้หญิงแท้และผู้หญิงเทียมที่โต๊ะก็เริ่มขึ้นครับ  แถมดูจะออกรสออกชาติมากเลยทีเดียว 

“ ก็อย่างที่รู้อะ  คุณเธอจ้องน้องกิจลูกท่านประธานตั้งนานแล้วนี่  เห็นว่างานวันนี้ก็จะมาด้วยนะ “

“ แต่น้องกิจนี่หล่อทำลายล้างจริงๆ เลยนะเธอ ใครได้เป็นแฟนนี่ยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งชุดใหญ่ซะอีก “

“ น้อยไปย่ะ  ระดับนี้เป็นหมื่นล้านเลยนะขอบอก “

“ ตายแล้ว!  ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากได้  ผู้ชายอะไร  ทั้งหล่อ  ทั้งรวย  แถมเก่งอีกต่างหาก  เทพบุตรชัดๆ “

“ แบบนี้ไง  ยัยแนนนี่ถึงได้จ้องตาเป็นมัน “

ผมได้แต่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ครับ  ดูพี่ๆ เขาคุยกันสนุกดีนะครับ  ในขณะที่พวกพี่ผู้ชายก็ตั้งหน้าตั้งตากินกันอย่างเดียว  ปล่อยให้สาวๆ เม้าส์มอยกันจนลืมกิน

“ ว่าแต่นั่งคุยมาตั้งนานแล้ว  น้องเขาชื่ออะไรอะยัยมิ้น “ 

พี่คนหนึ่งถามขึ้นมาครับ  แล้วพี่ผู้หญิงคนที่พาผมมาด้วยก็หันมามองหน้าผมอย่างกับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย

“ ชื่อกันต์ครับ “ 

ผมตอบไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้พี่เขาถาม  จากนั้นพี่ๆ เขาก็แนะนำตัวเองให้ผมได้รู้จัก  ถึงจุดนี้ผมถึงได้รู้ว่า  พี่ๆ เขาเป็นทีมสถาปนิกของบริษัท 

มิน่าล่ะ  การแต่งตัวและทัศนะคติ  อินดี้กันมิใช่น้อย 

แต่ส่วนตัวผมชอบนะ...  ไม่น่าเบื่อดี

จากนั้นโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น  พี่กิจนั่นเองที่โทรมาครับ....



-- อยู่ไหนเนี่ย –

-- พอดีมีคนบอกว่ากันต์นั่งตรงนั้นไม่ได้อะพี่  ก็เลยเดินออกมาหาอะไรดื่ม  แล้วพอดีพี่ๆ สถาปนิกเขาชวนมานั่งด้วย  ผมก็เลยมานั่งกับพวกพี่ๆ เขา --

-- กลับมาด่วนเลย...  ใครให้เราไปนั่งกับเขา  รู้จักกันเหรอ  หือ..?  แล้วนี่ใครเป็นคนมาไล่เรา... –

-- ทีละคำถามก็ได้พี่  ผมตอบไม่ทัน  โอเคๆ นั้นเดี๋ยวผมจะรีบกลับไปแล้วละคร้าบ...



ผมพูดไปพลางถอยเก้าอี้ออกเพื่อลุกขึ้นยืน  คงต้องรีบกลับแล้วละครับ  เพราะพี่กิจบ่นใหญ่เลย  แต่ไม่ทันที่จะได้กดวางสายและลาพวกพี่ๆ ที่โต๊ะ  เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ


“ ว้าย!!! “


เสียงคุ้นหูที่ผมพึ่งได้ยินไปเมื่อสักครู่ดังขึ้นมาอีกแล้ว  แถมคราวนี้หนักกว่าตอนที่ผมเดินไปเหยียบเท้าพี่เขาเสียอีก  เพราะระหว่างที่ผมเลื่อนเก้าอี้ออกและลุกขึ้นยืนนั้น  ดันไปชนมือที่ถือแก้วคอกเทลสีแดงสดแบบเดียวกันกับที่ผมพึ่งดื่มไปเมื่อสักครู่นี้  จนหกหมดและรดลงมาใส่บ่าผมไปเต็มๆ  แต่ที่ซวยที่สุดก็คือมันมีบางส่วนกระเด็นไปโดนชุดสวยสีขาวของพี่เขาด้วยน่ะสิครับ


งานนี้ไอ้กันต์มึงตายแน่ๆ.... 

ลาก่อนนะครับทุกคน... 

เรื่องคงต้องจบลงแค่นี้แล้วละครับ....





...............




วินาทีนี้ผมแทบไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลยครับ  พี่เขาทำตาดุและสีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างสุดๆ  ท่าทางพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อเลยตอนนี้

“ เธออีกแล้วนะ!!  รู้มั้ยว่าทำอะไร!!  ชุดฉันเปื้อนไปหมดเลยเนี่ย...เห็นมั้ย!!!  แล้วรู้มั้ยว่ามันราคาเท่าไหร่!!!  เด็กอย่างเธอจะมีปัญญาชดใช้ให้ฉันมั้ย !!! “

“ ขอโทษครับ...คือผมไม่... “

“ ห๊ะ !!  ว่าไง...  จะชดใช้ให้ยังไง !!! “

“ คือผมคง... “

“ นี่เธอ..!  เธอเองก็เดินไม่ดูทางเหมือนกันนะ  มัวแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ไม่ใช่เหรอ  ฉันเห็นนะ “ 

พี่มิ้นพูดขึ้นช่วยผมครับ  แล้วพี่ๆ ที่โต๊ะก็ออกเสียงเห็นด้วยตามที่พี่มิ้นพูด  จนดูเหมือนว่าพี่แนนนี่จะอึ้งๆ ไปเล็กน้อย  แต่สุดท้ายๆ ก็หันมาทำหน้าดุใส่ผมอีกครั้ง

“ ยังไงก็ช่าง...  ถ้าเธอจะระวังสักหน่อย  มันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก...  ตกลงว่าไง...  จะรับผิดชอบให้ฉันยังไง “

“ นี่หล่อน...  จะเอาอะไรกับน้องเขานักหนาห๊ะ  เป็นผู้ใหญ่แท้ๆ “ 

พี่โอเอ สาวสองฝีปากกล้า (แต่ใจดี)  พูดสวนขึ้นมาบ้างครับ

“ นี่ชุดฉันเปื้อนนะ...  เห็นมั้ย !!  มีตาหัดดูซะบ้าง “

“ แล้วน้องเขาไม่เปื้อนรึไง  แถมยังเปื้อนเยอะกว่าหล่อนอีก...  ถ้ามีตาก็หัดดูซะบ้าง! “ 

พี่โอเอเถียงต่ออย่างไม่ยอมแพ้ครับ

“นี่…!!   มีอะไรกัน !!!   เสียงดังโหวกเหวกโวยวายไปหมด !! “


แล้วทุกอย่างก็เงียบลง...  เมื่อเสียงคุณป้าคนที่บอกให้ผมลุกออกจากที่นั่งดังขึ้น  พร้อมกับเดินเข้ามาในวงแห่งความวุ่นวายตอนนี้

“ ก็คุณป้าดูซิคะ  เด็กนี่มันทำน้ำหกใส่ชุดแนนนี่  เลอะไปหมดแล้วเนี่ย “

คุณป้าหน้าดุขยับแว่นมองดูรอยแดงบนชุดพี่แนนนี่  ก่อนจะหันมามองทางผมด้วยสายตาตำหนิในทันที

“ นี่เธอ...  คนที่ฉันเจอเมื่อกี้นี่...  สร้างปัญหาอีกแล้วนะ “


อึ้งแปบ....  ทำอะไรไม่ถูกเลยครับตอนนี้....


“ แผนกไหนเนี่ย..!!!  แต่เอ๊ะ....  เหมือนฉันจะไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยนะ  แถมยังดูเด็กอยู่ด้วย  ยังไงกัน...ฮึ!! “

งานเข้าแล้วล่ะครับผม...

“ เอ่อ...  คือผมไม่ได้ทำงานที่นี่หรอกครับ พอดีมากับพี่... “

“ แล้วมาได้ไง!!  เขาให้แต่เฉพาะพนักงานบริษัทนี้เท่านั้นนะ  พี่เธอชื่ออะไร!!  แผนกไหน!!  เดี่ยวฉันจะจัดการ... “

คุณป้าทำน้ำเสียงดุจนผมกลัว  ในขณะที่พี่คนอื่นๆ ก็เงียบลงทันที  มีก็แต่พี่แนนนี่เท่านั้นที่ดูจะยิ้มชอบใจอยู่ข้างๆ แก
…..



“ กันต์มากับผมครับ  มีใครมีปัญหามั้ย..  แล้วนี่มีเรื่องอะไรกันครับ “

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ในที่สุด...  พระเจ้าก็ส่งคนมาช่วยผมครับ...  ดีใจจนน้ำตาแทบไหลเลย 

น้ำเสียงเรียบๆ แต่หนักแน่นของพี่กิจดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม  ก่อนที่พี่เขาจะมายืนอยู่ข้างๆ  และเอามือมาโอบไหล่ผมไว้

รู้สึกใจชื้นและปลอดภัยขึ้นมาเลยครับ...

“ คุณกิจ! “

ทั้งคุณป้าและพี่แนนนี่พูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยสีหน้าประหลาดใจอย่างสุดๆ

“ นี่น้องเขามากับคุณกิจเหรอคะ “  คุณป้าถามต่อครับ

“ ใช่ครับ..  น้องเขามากับผม  ว่าแต่...  มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ “ 

พูดจบพี่เขาก็หันมามองผม  ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มๆ เมื่อเห็นเสื้อขาวตัวใหม่ที่พึ่งซื้อให้ผมเปื้อนรอยแดงบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายยาวลงไปจนถึงขอบกางเกง

“ อะไรเนี่ย...!  ทำไมเปื้อนอย่างนี้ห๊ะกันต์.. “
 
พี่กิจถามขึ้น  ก่อนจะล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงมาเช็ดให้ผม  ซึ่งมันก็ได้แค่จางลงไปบ้างเท่านั้น

“ คือ... “

ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี  ในขณะที่ทุกคนในบริเวณนี้ดูจะยังอึ้งและเงียบกันไปหมด

“ ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะเรา  พี่ไม่อยู่แปบเดียวเอง  เรานี่นะ... “

“ บ่นผมอีกแล้วนะ “

“ หรือมันไม่จริง “

“ ก็ไม่จริงดิ  ใครให้พี่ทิ้งผมไว้ล่ะ “ 

ผมเงยหน้าไปมองพี่เขาแบบสู้ๆ ครับ  กลัวซะที่ไหน...  แต่แล้วพี่เขาก็มาตีหัวผมเบาๆ ซะงั้น  อายเลยครับ... ชิส์


“ พี่กันต์!!! “

เสียงน้องกานต์ดังขึ้น  พร้อมกับวิ่งเข้ามาเกาะแขนผมไว้ครับ  โดยมีคุณลุงกับคุณป้าเดินตามเข้ามาติดๆ

“ ช่วงนี้ไม่เห็นไปเล่นเกมกับกานต์ที่บ้านเลย “

“ ช่วงก่อนพี่ซ้อมกีฬาน่ะ  แต่ตอนนี้ว่างละ  น่าจะไปได้บ่อยขึ้น “

“ ดีเลย  กานต์จะได้มีเพื่อนเล่นเกมด้วย “

น้องกานต์ยิ้มน่ารักบอกมา  สองพี่น้องนี่หล่อไม่ทิ้งลายกันเลยนะครับ

“ น้อยๆ หน่อยเรา  มัวแต่เล่นเกม  เดี๋ยวก็สอบเข้ามหาลัยฯไม่ได้หรอก “

แล้วพี่กิจก็แขวะน้องชายตัวเองขึ้นมาครับ  จากนั้นน้องกานต์ก็หันไปมองพี่ชายอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตอบกลับไปในทันที

“ ทำอย่างกับตัวเองเคยอ่านหนังสือเตรียมสอบนักนี่ “

นั่นไง...  สองคนนี้ไม่เคยยอมกันจริงๆ  แต่ผมก็ชินแล้วครับ  ปกติไปกินข้าวที่บ้านคุณป้าทีไร  ก็ไม่เคยสักครั้งเลยที่สองคนนี้จะไม่ต่อปากต่อคำกัน 

“ มีอะไรกัน... “ 

เสียงคุณป้าที่เดินตามน้องกานต์เข้ามาดังขึ้น  ทำให้ทุกคนหันไปมอง  ก่อนจะหน้าถอดสีกันไปตามๆ กัน

“ หวัดดีครับคุณลุง คุณป้า “

ผมยกมือไว้คุณลุงกับคุณป้า  ซึ่งทั้งสองก็รับไหว้และยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดูเหมือนเช่นทุกที

“ ช่วงนี้ไม่เห็นไปหาป้าบ้างเลยนะ...  ป้าคิดถึง “

“ พี่กิจเลยครับคุณป้า.... “

ผมโบ้ยไปทางพี่กิจทันทีครับ  มีคนหนุนหลังแล้วผมไม่กลัวหรอก  อิอิ

“ อ้าว...ไหงงั้นล่ะ “

“ ไม่ต้องมาอ้าวเลยเรา  นี่แม่ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่พาน้องไปรถล้มคราวก่อนเลยนะ “

คุณป้าส่งสายตาคาดโทษไปให้ลูกชายคนโต  ในขณะที่ผมกับกานต์ก็มองหน้ากันยิ้มๆ อย่างเข้าใจ  อิอิ

“ แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน “ คุณป้าพูดต่อพลางมองไปรอบๆ

“ ตายแล้ว...!  กันต์ลูก..!  ทำไมเสื้อเป็นแบบนี้ล่ะ “ 

ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีครับ  พอมองไปที่พี่แนนนี่  เธอก็ถึงกับหน้าถอดสี  ต่างจากพี่ๆ สถาปนิกที่โต๊ะ  ที่ต่างพากันอมยิ้มชอบใจกันอยู่มิใช่น้อย

“ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณป้า  อุบัติเหตุน่ะครับ “ 

ผมบอกไปอย่างนี้  จะได้ไม่ต้องกระทบกับใคร

“ อ๋อใช่ค่ะ...  คือน้องเขาเลื่อนเก้าอี้มาชนหนู  น้ำที่หนูถือมาเลยหกใส่น้องเขา “ 

พี่แนนนี่ว่ามาครับ 

“ แล้วทำไมถึงมีเสียงโหวกเหวกโวยวายกัน “ 

คุณป้าถามต่อ

“ คือ... “  พี่แนนนี่อ้ำอึ้งที่จะตอบ

“ พอดีแนนนี่เขาพยายามจะให้น้องกันต์รับผิดชอบเรื่องชุดเขาน่ะค่ะ “ 

ได้ทีพี่มิ้นก็จัดเลยครับ  พี่แนนนี่ถึงกับหันไปมองตาดุใส่

“ คือหนูแค่แหย่น้องเขาเล่นๆ เท่านั้นน่ะค่ะ  เผื่อครั้งต่อไปน้องเขาจะได้ระวังมากขึ้น “ 

“ แต่จริงๆ แล้ว  เธอเองก็มัวแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ดูน้องเขาเหมือนกันนะ  ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ “ 

พี่มิ้นแย้งต่อครับ  เมื่อเห็นว่าความจริงมันเริ่มจะผิดเพี้ยนไป

“ ใช่ที่ไหน!!! “ 


พอพี่แนนนี่เริ่มขึ้นเสียง  ทุกคนก็หันไปมองเธอแทบจะตาเดียวกันทันทีเลยครับ  จนพี่เขาถึงกับพูดต่อไม่ออกเลยตอนนี้

“ เอาล่ะๆ  พอได้แล้ว “ 

คุณป้าพูดขึ้นเพื่อหยุดสถานการณ์ลง  ก่อนจะหันไปทางพี่แนนนี่

“ เอาเป็นว่าชุดของเธอ  ค่าเสียหายเท่าไหร่ก็ให้ไปแจ้งไว้ที่เลขาของคุณเกียรติก็แล้วกัน “  คุณป้าหมายถึงคุณลุงน่ะครับ

“ คือไม่เป็นไรหรอกค่ะ  แค่นี้เอง  ไม่ได้เสียหายอะไรมากหรอกค่ะ “ 

พี่แนนนี่บอกไป  แต่น้ำเสียงต่างไปจากตอนที่คาดคั้นผมเมื่อกี้นี้แบบสุดๆ

“ ไม่ได้หรอก  กันต์เป็นหลานคนพิเศษของฉัน  ฉันไม่ต้องการให้ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าทำอะไรแล้วไม่รับผิดชอบ “

“ แต่.... “ 

พี่แนนนี่พูดต่อได้แค่นั้น  เมื่อถูกคุณป้ามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ  หากแต่เต็มไปด้วยอำนาจที่ทรงพลัง  จนเธอถึงกับพูดต่อไม่ออก

“ ว่าแต่ตากิจ  ทำไมปล่อยให้น้องมานั่งตรงนี้ห๊ะ “ 

คุณป้าหันไปถามพี่กิจต่อครับ

“ ผมก็ว่าจะถามกันต์อยู่พอดี  ว่าใครไล่ออกมาจากโต๊ะ “ 

พี่กิจตอบไป  ก่อนจะหันมาถามผมต่อ

“ อะไรนะ..!  ใครที่ไหนกล้าไล่หลานฉันแบบนี้! “

“ เอ่อ..  คือดิฉันไม่รู้ค่ะว่าน้องเขาเป็นหลานคุณอร “ 

คุณป้าหน้าดุผู้จัดการฝ่าย HR อธิบายมาเสียงอ่อย  ก่อนจะถูกสายตาตำหนิจากคุณป้าเข้าให้

“ ต่อไปก็รู้ไว้ด้วยนะ  นอกจากตากิจ ตากานต์แล้ว  กันต์ก็ถือเป็นคนในครอบครัวของฉันเหมือนกัน “ 

ได้ยินอย่างนี้คุณป้าหน้าดุ (ที่ตอนนี้หน้าจ๋อยไปแล้ว) ก็ได้แต่พยักหน้ารับป้อยๆ  ขณะที่ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อยู่ตอนนี้

“ ไหนดูซิ...  เปื้อนหมดเลยลูก “ 

คุณป้าเข้ามาจับเสื้อผมพลิกดูไปมา

“ พี่มีสูทอยู่หลังรถน่ะ  เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะ “  พี่กิจว่ามาครับ

“ ไม่เป็นไรพี่  แค่นี้เอง “

“ ไม่เป็นไรได้ไง  อย่าดื้อดิ...  เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้ “ 

พี่กิจพูดจบก็เดินแยกตัวออกไปเลยครับ

“ ปะลูก  ไปนั่งกับป้า...  เนี่ยเห็นตากิจเล่าให้ฟังว่าเราได้เหรียญทองกีฬาเฟรชชี่ด้วยเหรอ  แม่เราดีใจมากเลยนะ  เห็นว่าจะส่งของขวัญมาให้ด้วย  ป้ากับคุณลุงเองก็เตรียมของขวัญไว้ให้ด้วยนะ “ 

คุณป้าว่ามา  ก่อนจะจับมือผมเดินไปที่โต๊ะกับแกครับ  ผมหันไปผงกหัวและลาพวกพี่ๆ สถาปนิกที่โต๊ะ  ก่อนจะเดินไปพร้อมกับคุณป้า


สักพักพี่กิจก็กลับเข้าเข้ามาในงานอีกครั้ง  พร้อมกับสูทเข้ารูปสีดำส่งมาให้ผมสวมทับ  พอใส่แล้วก็ดูหล่อขึ้นนิดนึงเลยครับ  แต่มันไม่ใช่แนวผมสักเท่าไหร่  เพราะดูมันจะเป็นทางการไปนิด  แต่มันก็ยังดีกว่าใส่เสื้อเปื้อนๆ ไปตลอดทั้งงานอะครับ 



………………………..



กว่า 4 ทุ่มแล้วที่คุณลุงกับคุณป้าพากันกลับ  และผมกับพี่กิจเองก็เช่นกัน 

ระหว่างที่ลงมาบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม  ผมก็เจอกับกลุ่มพี่ๆ สถาปนิกกำลังยืนออกันอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าโรงแรม  ผมเลยบอกพี่กิจว่าจะขอไปลาพวกพี่ๆ เขาแปบนึง

“ พี่ๆจะกลับกันแล้วเหรอครับ “ 

ผมพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึง 

“ อ้าวนึกว่าใคร  น้องกันต์สุดหล่อนี่เอง “ 

พี่มิ้นทักขึ้นครับ  ผมก็เลยได้แต่ยิ้มอายๆ  ตอบไป...  คือเวลามีผู้หญิงมาชมว่าหล่อแบบนี้  มันก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้อะครับ

“ กันต์กำลังจะกลับอะครับ  เลยว่าจะมาลาพวกพี่ๆ “

“ อ๋อ...  แล้วนี่กลับยังไง  ให้พี่ไปส่งมั้ย “  พี่มิ้นว่ามาต่อ

“ ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมกลับกับพี่กิจอะครับ “
 
ว่าจบผมก็ชี้ไม้ชี้มือไปทางด้านหลัง  เพื่อให้รู้ว่าพี่กิจกำลังรออยู่ไม่ไกลมาก  แต่พอผมหันตามไปมอง  ก็เห็นพี่กิจกำลังคุยอยู่กับพี่แนนนี่ครับ

ถึงแม้ว่าพี่แนนนี่เขาจะนิสัยไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่  แต่หน้าตาพี่เขาก็ถือว่าสวยเลยนะครับ  แถมพี่กิจเท่าที่ผมรู้มา  ก็เจ้าชู้ไม่ใช่ย่อยเลยด้วย 

พอเห็นแบบนี้แล้ว  จู่ๆ ผมก็รู้สึก...  หวั่นใจขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิครับ....

ผมคงจะไม่โดนทิ้งไว้ใช่มั้ย... 

พี่จะไม่ไปไหนต่อกับพี่แนนนี่ใช่มั้ย...

“ นี่แกดูสิ  อ่อยน้องกิจไม่เลิกเลย “ พี่โอเอสาวสองแอบเหน็บขึ้นมาครับ

“ แต่ฉันว่าน้องกิจเขาไม่สนหรอก “

“ มันก็ไม่แน่นะ  หนุ่มๆ บริษัทเราโดนชีงาบไปหลายรายแล้วนะจ๊ะ “

“ ไอ้พวกนั้นมันหน้ามืด  อย่าเอาไปเทียบกับน้องกิจเลย “

ผมได้ยินพวกพี่ๆ เขาพูดกันไปเรื่อยๆ  ในใจก็แอบหวั่นไม่ได้อยู่ดี  แต่ก็ยังหวังนะครับว่าพี่กิจจะใจแข็งมากพอ

มองดูไปได้สักแปบ  พี่เขาก็เดินเข้ามาหาผมและพวกพี่ๆ

คงไม่ใช่มาบอกให้ผมกลับคอนโดเองนะ... 

ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย...






“ กลับได้ยัง.... “

พี่กิจถามมาครับ  ซึ่งคำถามนี้ก็ทำเอาผมใจชื้นขึ้นมาทันทีเลย  ในขณะที่ผมก็พอจะได้ยินเสียงพี่ๆ เขากระซิบกันเบาๆ ว่า   เห็นมั้ยฉันว่าแล้ว  ระดับน้องกิจเขาไม่สนใจยัยนี่หรอก

“ ครับ “ 

ผมตอบไปแค่นั้น  ก่อนจะยกมือไหว้พวกพี่ๆ สถาปนิกทุกคน  ซึ่งพี่กิจเองก็ยิ้มผงกหัวลาให้ด้วยเช่นกัน  ก่อนจะเดินออกมาหน้าโรงแรม  รถพี่กิจจอดอยู่ไม่ไกลมาก  ซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า  เฉพาะ V.I.P. เท่านั้น  กั้นอยู่  พอเดินมาถึงรถ  พนักงานโรงแรมก็ผงกหัวรับก่อนจะขยับป้ายออกให้  ผมรู้สึกไม่ชินเลยครับ  ในขณะที่พี่กิจดูจะเห็นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว


พี่กิจขับรถออกมาได้สักแปบ  จู่ๆ ผมก็ถามพี่เขาขึ้นมาด้วยความอยากรู้ 

ก็เรื่องที่พี่แนนนี่เข้ามาคุยกับพี่กิจนั่นแหละครับ....

แบบนี้เขาเรียกว่าอาการหวงรึป่าวนะ...  หวงทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์…

“ เมื่อกี้...  ที่พี่แนนนี่เข้ามาคุยกับพี่อะ  ผมก็นึกว่าจะถูกปล่อยเกาะแล้วซะอีก “

“ ปล่อยเกาะอะไร “ 

พี่เขาหันมาถามทันที

“ ก็เห็นพี่ๆ สถาปนิกเขาบอกว่า...  พี่แนนนี่เขาชอบพี่อะ...  แล้วเข้ามาคุยแบบนั้น...  ผมก็นึกว่า... “

“ นึกว่าอะไร “

“ ก็...  นึกว่า...  พี่จะเล่นด้วย “

“ ฮะๆ...  คิดไปขนาดนั้นเลยนะ  นี่เราเห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย “

“ ก็ไม่รู้ดิ  ได้ข่าวว่าพี่เจ้าชู้จะตาย “

“ ก็เคยนะ...  แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วล่ะ “

“ ทำไมอะ “

“ ไม่รู้สิ..  เพราะโตขึ้นมั้ง.. “

“ อืม... “

พอได้ยินว่าพี่เขาเลิกเจ้าชู้แล้ว....  มันรู้สึกดีจังแฮะ

“ แล้วถ้าพี่ปล่อยเกาะเราขึ้นมาจริงๆ  เราจะทำไงอะ “

“ จะทำไงได้ล่ะ....  ก็ถ้าพี่จะทิ้ง...  ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร “ 

ผมทำหน้าและน้ำเสียงนอยๆ ตอบไปครับ  แต่พี่เขากลับขำในลำคอขึ้นมาเสียอย่างนั้น

มันน่าตลกตรงไหนห๊ะ...  ไอ้พี่กิจ!!

“ โห... มีงอนๆ  พี่ไม่ทำอย่างนั้นกับเราหรอก “ 

พี่เขาพูดจบก็เอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ ครับ

ว่าแต่...  ผมจะเชื่อพี่ได้แค่ไหนกันนะ  และอีกอย่าง...

ทำไม... พี่เขาถึงบอกกับผมแบบนี้นะ ?

ทำไมกัน....?





TBC.



------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นเลย  ต้องขอโษทีนะครับที่เมื่อวานลงไม่ทัน  ไม่คิดว่าจะยาวแบบนี้  มันกรองประโยคไม่ทันอะครับ  พอมาตอนเช้าวันนี้ต้องไป รพ.(ตามนัดหมอ)  เลยมานั่งทำได้ก็เย็นเลย  ขอโทษน้าคร้าบปม  :mew2:

ตอนนี้  ตอนหน้า  และต่อไปก็ยังชิลๆอยู่ครับ
ส่วนตอนที่ผมเขียนอยู่  ดราม่าเลย  แต่ไม่หนักเวอร์นะครับ  มันยาวแต่ออกแนว  หึงแต่ไม่กล้าแสดงออกอะไรทำนองนี้  และมีอะไรเข้ามาอีกเยอะเลย  ยังไงฝากติดตามต่อนะครับผม

วันนี้คุยกับหมอ...  รู้สึกเหงาๆอยู่บ้างเหมือนกันครับ  เพราะผมเลือกที่จะไม่เปิดใจกับคนอีกแล้ว  เพียงเพราะไม่อยากทำร้ายใคร...
คือชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยาย...  มันจะมีสักกี่คนที่เข้าใจเราและรับเราได้...  ที่สำคัญ  ผมกลัวว่าตัวเองจะให้ความสุขเขาได้ไม่มากพอ....
อาจจะเหงาสักหน่อย  แต่มันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีมั้งครับ...
(มองขำๆ  มันคงเป็นกรรมเก่าที่ทำกับเขาไว้เยอะ  ทั้งแฟนคนแรก(ผู้หญิงนะ)  หรือผู้ชายบางคนที่มาชอบผม  แต่ผมทำร้ายเขาไปเยอะ  ปล. ผมไม่เคยเจ้าชู้  ไม่เคยนอกใจ  แต่ถ้ามันไม่ใช่ผมก็ไม่ฝืนต่อ(เลว))
แต่ถึงจะต้องอยู่คนเดียว  แต่ถ้าเราเลือกที่จะทำอะไรที่มันมีความสุข  มันก็คงเป็นทางออกที่ดีอีกทางละมั้ง(ยังหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับตัวเองไม่ได้)
แต่ว่า...  การเขียนนิยายแล้วมันทำให้คนที่อ่านมีความสุข  ผมมีความสุขมากนะครับ  อย่างที่เคยบอกว่ามันคือสสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำ...
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความห่วงใยนะครับผม  แง่มๆ...

เอ้อ...เกือบลืม  ติดตอนพิเศษไว้ก่อนนะครับ  กรองประโยคไม่ทันอะครับ  :mew2:

^______________________________________________________^

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เท่าที่ลงก็บ่อยแล้วนะ อย่าหักโหม

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สู้ สู้ค่ะ  ไรท์เตอร์   

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อึ้งไปเลยสิคุณป้าหัวหน้าแผนกกับยายแนนนี่
กันต์นี่หลานท่านประธานเชียวนะ  ฮ่าๆ

พี่กิจคงไม่ทิ้งกันต์หรอกเนอะ ใส่ใจขนาดนี้ อิอิ

ปล. เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
ตอนนี้ยาวมากๆ ชอบๆ อ่านเพลินเลย ยังไงอย่าคิดมากนะ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนแต่งที่ยังจะอยู่คนเดียว (หมายถึงชีวิตโสด) ผมก็ยังอยู่คนเดียวและคนอื่นๆอีก เรื่องความรักถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้รู้สึกไรแบบนั้น
อาจจะไม่เปิดใจแบบคุณผู้แต่งมั้ง แต่จะบอกไงดี
คงจะเรียกว่ารักฝังใจมั้ง คือถ้าไม่ใช่คนนั้น ผมก็ไม่รู้สึกรักใคร เหมือนกับว่ารอถึงแม้ไม่มีหวัง ถึงต้องอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไรอะไรประมาณนั้น

ดีใจนะที่คนแต่งชอบงานเขียนนิยาย
ผมก็ชอบอ่าน เป็นคนชอบอ่าน อ่านนิยาย
เล่นเกม เดินหาของกินอร่อยๆ คืองานยามว่าง
มันคือความสุขเล็กๆ เนอะ ยังไงก็สู้ๆ
ถือว่าเล่าแชร์ประสบการณ์เนอะ รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ก็ถึงผู้เขียนนะ .....  บางทีการได้ละบายออดมาให้คนที่ไม่รู้จักมันก็ดีนะคับ เพราะชีวิตจริงกับนิยายมันส่วนทางผู้อ่านอย่างผมชอบจะอ่านนิยายแล้วเราก็มีความสุขกับการจินตนากาล ถึงชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นเหมือนในนิยาย  ให้กำลังใจคุณผู้เขียนนะ ดูแลรักษาสุขภาพนะ รอติดตามผลงานนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :hao6: :hao6: :hao6:  สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ ยังมีคนเข้าใจอยู่นะครับ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่กิจไม่ทิ้งกันต์แน่นอน มั่นใจได้น้องกันต์  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด