Chapter 20
กันต์'s Partช่วงนี้พี่กิจดีกับผมมากเลยครับ ขนาดเช้าวันเปิดเรียนวันนี้ จากที่เมื่อก่อนถ้าพี่เขาจะไปส่ง เขาก็จะให้เวลาผม แล้วลงไปรออยู่ด้านล่างคอนโด แต่วันนี้กลับรอออกจากห้องไปพร้อมกัน
ผมยังไม่ค่อยหายดีหรอกครับ ยังระบมๆ อยู่เลย แต่ก็ดีขึ้นมากกว่าวันแรกแล้วครับ
“ เล่นแบดด้วยเหรอ “
พี่กิจถามขึ้น เมื่อเห็นผมถือซองใส่ไม้แบดยี่ห้อดังที่ผมเก็บเงินซื้อได้เมื่อปีที่แล้ว พร้อมกับถุงใส่รองเท้าพื้นยางสำหรับเล่นแบดมินตันโดยเฉพาะ
“ ครับพี่ ผมเข้าชมรมแบดมินตันอะ “
“ แล้วนี่เราลงชมรมอะไรไปบ้าง “
“ ก็มีแบดมินตันกับจิตอาสาแค่นี้อะครับ “
พี่กิจพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ ก่อนจะปิดประตูห้องและเดินไปยังลิฟท์พร้อมกันกับผม
...........................
ที่คณะ
“ เย็นนี้จะไปรอรับที่คอร์ดแบดนะ อย่าไปไหนซะล่ะ “
พี่กิจกำชับมาอย่างนี้ ผมก็ได้แต่ทำหน้าเหวอๆ ตอบกลับไปครับ
รู้สึกพี่เขาจะใจดีกับผมมากไปมั้ยเนี่ยช่วงนี้....
ลงจากรถพี่กิจมา ผมก็รีบตรงเข้าไปยังอาคารเรียนรวม เพื่อไปยังห้องสโลปสำหรับเรียนวิชาแคลคูลัสในช่วงเช้า
คนมองกันเพียบเลยครับระหว่างทาง อายเป็นบ้าเลย.... ก็สภาพผมที่มีผ้าพันแผลที่หัวกับหน้าตาช้ำๆ ผมก็เลยรีบเดินก้มหน้าก้มตาเร่งฝีเท้าขึ้นไปยังห้องเรียนเท่านั้นครับ
เข้ามาห้องเรียน เพื่อนๆกลุ่มผมก็มากับครบแล้ว ยังที่นั่งประจำหลังห้อง...
“ เป็นไงบ้างวะมึง... ดีขึ้นป่าววะ “
ไอ้เรย์ถามขึ้นเสียงอ่อย นี่มันยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิดอยู่เหรอเนี่ย เห้อ....
“ แม่งเอ้ย ถ้าพวกกูอยู่ด้วยนะ “
ไอ้แน๊คพูดมาถึงแค่ตรงนี้ ไอ้เจมส์มันก็แทรกขึ้นมาทันทีครับ
“ ก็จะมีสภาพแบบพวกมันใช่มั้ย “
“ สัดเจมส์ ! แต่ก็จริงว่ะ แต่อย่างน้อย... ก็ช่วยหารตีนพวกมึงได้นะ “
ผมได้แต่ยิ้มขำ ก่อนจะวางกระเป๋าและเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ข้างๆไอ้เรย์
“ แล้วพวกมึงรู้ป่าววะว่าใครทำ “ ไอ้เจมส์ถามต่อ
“ ไม่รู้ว่ะ... แต่น่าจะเป็นรุ่นๆ เดียวกับพวกเรานะ “ ไอ้เรย์ตอบไป
“ ให้กูสืบให้มั้ย “ ไอ้แน๊คนักข่าวหัวเห็ดประจำกลุ่มอาสาขึ้นครับ
“ ไม่ต้องหรอก พี่กิจจัดการให้แล้ว “
ผมบอกไปเท่านี้ พวกนั้นมันก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกันเลยครับ
“ จัดการยังไงวะ “ ไอ้แน๊คถามขึ้นทันที
“ จัดการตอนไหน แล้วพี่เขารู้เหรอว่าเป็นพวกไหน “ ไอ้เรย์ถามต่อ
“ ก็ไม่รู้นะ ว่าพี่เขาจัดการยังไง แต่น่าจะมีเรื่องชกต่อยกันอะ เพราะพี่เขาก็ได้แผลกลับมาด้วย ส่วนอย่างอื่นนี่กูไม่รู้เลย พี่เขาไม่ยอมเล่าต่อ “
ผมบอกไปตามจริงครับ เพราะผมถามรายละเอียดต่อยังไง พี่เขาก็ไม่ยอมบอกเลย บอกแค่เพียงว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว และพวกนั้นก็จะไม่กล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกผมอีก
“ แล้ว... พี่เขารู้ได้ไงวะ ว่ามึงโดนทำร้าย... “
ไอ้เจมส์ตั้งคำถามน่าคิดขึ้นมาทันที แล้วผมจะตอบยังไงล่ะเนี่ยว่าพักอยู่กับพี่เขาอะ
“ อาจารย์มาแล้ว.... “
ไอ้เรย์ผู้ไม่สนใจการเรียนรีบเปลี่ยนเรื่องให้ผมทันทีครับ เมื่อเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง...
รอดไปที... ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ไม่อยากโกหกใครหรอกครับ...
แต่พี่เขาสั่งไว้ว่าห้ามบอกใครนี่.... ไม่งั้นเดี่ยวผมได้ระเห็จไปหาที่อยู่ใหม่แน่ๆ
...................................
ที่โรงอาหารคณะ
พวกผมมาถึงก็เห็นแพรกับไอ้ธันกำลังโบกมือไหวๆ เรียกพวกผมให้ไปนั่งด้วยกันอยู่ตอนนี้ เห็นหน้าไอ้ธันแล้วก็อดขำขึ้นมาเสียไม่ได้นะครับ ก็เดือนคณะต้องมามีสภาพยับเยินซะขนาดนี้
“ ขำไรอะกันต์ “ มันถามผมครับ
“ เปล่า... แค่ตลกๆ อะ ว่านี่เหรอเดือนคณะเรา “
“ โหย... กันต์เองก็ไม่ต่างกับเรานะ “
“ ว่าแต่ซื้ออะไรมากันเยอะแยะเนี่ย กินกันสองคนจะหมดเหรอ “
ผมถามต่อเมื่อเห็นกับข้าวหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาหารอิสาน ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก เต็มโต๊ะไปหมด
“ วันนี้เราเลี้ยง... ขอบคุณที่ช่วยเราวันนั้นอะ “
แพรยิ้มบอกมาครับ ลาภปากพวกผมเลย น่ากินทั้งนั้นเลยครับ ไม่รอช้าพวกตละกะอย่างพวกผมก็รีบนั่งลงกันทันที
แต่ไม่ทันจะได้กินกันหรอกครับ พวกพี่ๆ กลุ่มพี่กิจที่พึ่งเข้ามายังโรงอาหาร ก็เร่งฝีเท้าเดินเข้ามาหาพวกผมกันทันที
“ เชี่ยเอ้ย!! แม่งหนักกว่าที่กูคิดไว้อีก “
พี่พีสบถขึ้นมาด้วยความโกรธครับ พวกผมก็ได้แต่มองหน้ากันหวั่นๆในท่าที ไม่รู้ว่าพวกพี่เขามีเรื่องอะไรกัน
“ มีอะไรกันเหรอครับพี่ๆ “
ผมถามขึ้นมาอย่างประหม่า ท่าทางพี่พีเขาดูจะอารมณ์เสียสุดๆ เลยครับตอนนี้
“ ก็เห็นไอ้กิจบอกว่าพวกน้องๆโดนรุมตีมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พวกพี่ก็เลยเป็นห่วง “ พี่คิมว่ามาครับ
“ ไปล่อมันแม่งตอนนี้เลยมั้ย “
พี่พีที่ยังคงฉุนเฉียวอยู่ ทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็ถูกพี่บิวดึงแขนเอาไว้เสียก่อน
“ อย่าเลยมึง ไอ้กิจจัดการแล้ว เชื่อดิ...พวกนั้นมันโดนไม่ใช่น้อยหรอก มึงก็รู้นี่ว่าถ้าไอ้กิจมันลงมือแล้วจะเป็นยังไง “
พี่บิวพูดห้ามทัพไว้ ว่าแต่พี่กิจนี่โหดขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมว่าไม่นะ... กับผมก็เห็นดีจะตาย ถึงจะโกรธก็ไม่เคยทำร้ายหรือทำอะไรแรงๆ กับผมเลยสักที
และไม่ทันที่สถานการณ์จะเบาบางลง เรื่องน่าปวดหัวก็โผล่ขึ้นมาอีกครับ เมื่อจู่ๆ กลุ่มนักศึกษาต่างคณะเดินเข้ามาภายในโรงอาหาร ที่สำคัญผมจำได้แม่นเลยครับว่าพวกนั้นเป็นใคร..
ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็ไอ้กลุ่มพวกที่มันรุมทำร้ายพวกผมเมื่อวันก่อนไง
นี่มันยังไม่ยอมจบ จะมาหาเรื่องกันต่อถึงในคณะเลยเหรอเนี่ย
“ เชี่ย... เรย์มึงดูโน่น “
ผมบอกไอ้เรย์ให้หันไปมองยังกลุ่มพวกนั้นที่กำลังมองซ้ายมองขวา ท่าทางกำลังจะมองหาพวกผมอยู่แน่ๆ ซึ่งไม่นานมันก็เห็นและเดินตรงเข้ามากันทั้งกลุ่มเลยครับ
แต่เอ๊ะ..... สภาพแต่ละคน.. ยับเยินยิ่งกว่าพวกผมเสียอีก เรียกได้ว่าถ้าผมอยู่ในสภาพแบบนี้ ผมคงนอนพักอยู่ที่ห้องมาเรียนไม่ไหวแน่ๆ
“ ยังไม่จบ... มึงจะเอาต่อที่นี่ใช่มั้ย!!! “
ไอ้เรย์อารมณ์ขึ้นทันที พร้อมกับเลิกแขนเสื้อขึ้นและลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ เปล่าๆๆ... พวกกูไม่กล้าแล้ว กูแค่จะมาขอโทษพวกมึงเฉยๆ เท่านั้น “ หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาครับ
“ ไอ้พวกนี้เหรอกันต์ ที่มันรุมทำร้ายเราอะ “
พี่พีถามขึ้นต่อเสียงเข้ม ผมเลยได้แต่พยักหน้าตอบไปเท่านั้น และไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ พี่พีก็ถีบไปยังหนึ่งในนั้นทันทีจนมันเซถลาล้มกันไปพร้อมกับเพื่อนข้างๆ อีกสองสามคน ก่อนที่พี่พีจะถูกพี่คิมกับพี่บิวล็อคตัวเอาไว้
“ พอเหอะมึง ดูสภาพพวกนี้มันก่อน เดี๋ยวแม่งก็ตายคาโรงอาหารหรอก “
พี่คิมรีบพูดห้ามไว้ครับ
“ พอเถอะครับพี่ๆ พวกผมยอมแล้ว แค่พี่กิจคนเดียวพวกผมก็จะตายกันอยู่แล้ว ผมแค่จะมาขอโทษจริงๆครับ “
พวกนั้นบอกพลางยกมือไหว้ขอโทษกันทั้งกลุ่ม เห็นสภาพนี้แล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้นะครับ เพราะแต่ละคนท่าทางจะโดนหนักกันเลยทีเดียว...
แต่ถ้าโดนขนาดนี้... ไหงพี่กิจถึงมีแผลแค่นั้นเองอะ ? น่าแปลกสุดๆ...
“ แล้วไอ้โล้นตัวต้นเรื่องมันไม่มาด้วยเหรอวะ “
ไอ้ธันถามขึ้นมาบ้างครับ ตอนนี้คนทั้งโรงอาหารต่างก็ตกใจและให้ความสนใจมาที่พวกผมกันหมด
“ มันนอนหยอดข้าวต้มอยู่โรงพยาบาลโน่น... อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์คาดว่ามันคงมาเรียนไม่ไหว แต่ถ้ามันหายดีแล้ว พวกกูจะให้มันมาขอโทษพวกมึงนะ “
“ ไม่ต้อง.. แค่อย่ามายุ่งกับพวกกูอีกก็พอ ที่สำคัญอย่าไปทำเรื่องแบบนั้นกับใครอีกล่ะ “
ผมบอกไปครับ จะได้จบๆกันไป แค่นี้สภาพพวกมันก็จะตายกันอยู่แล้ว ขืนมีเรื่องอีก สงสัยจะได้เป็นผีเฝ้าโรงอาหารตามที่พี่คิมบอกไว้แน่ๆ
“ ได้ๆ พวกกูสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว นั้นพวกกูไปก่อนนะ “
มันพูดจบก็มองมาทางพี่พีอย่างหวาดๆ ก่อนจะรีบพากันออกไปจากโรงอาหาร
“ มึงอะใจดีเกินไป “
ไอ้เรย์หันมาว่าผม ก่อนจะนั่งลงที่เดิมครับ
“ เออน่า.... จะได้จบๆกันไป มึงไม่เห็นสภาพพวกนั้นเหรอ แม่งโดนหนักกว่าพวกเราซะอีก “
“ ปล่อยกูได้ละ.. “
พี่พีพูดขึ้น พี่คิมกับพี่บิวเลยปล่อยแขนพี่เขาทันที ท่าทางอารมณ์จะเย็นลงมาหน่อยๆ แล้วละครับตอนนี้
“ นี่ถ้าไอ้กิจโทรมาบอกนะ พวกแม่งได้ตายคาตีนแน่ “ พี่พีพูดขึ้น
“ เออน่ามึง แค่นี้มันก็จะตายกันอยู่แล้ว มึงไม่เห็นเหรอ “ พี่คิมพูดต่อ
“ เออ... “
“ เอ่อ... พวกพี่ๆ กินข้าวกันยังครับ กินกับพวกผมมั้ย “
ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง เพื่อให้พวกพี่ๆ เขาได้อารมณ์เย็นลง
“ ยังดีกว่าน้อง เดี่ยวพวกพี่ต้องไปทำธุระกันข้างนอกต่ออะ เดี๋ยวก็ไปแล้ว “
พี่บิวว่ามาครับ จากนั้นพวกพี่ๆ เขาก็เดินออกไป โดยที่พี่พีทิ้งท้ายไว้ว่า ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรกันอีก ก็ให้เรียกพวกพี่เขาได้เลยทันที ผมก็เลยได้แต่พยักหน้ารับไปเท่านั้น
“ เชี่ย... กูแม่งอยากรู้ชิบหายว่ะ ว่าพี่กิจทำไรพวกนั้นวะ สภาพถึงได้แย่ขนาดนี้ “
ไอ้แน๊คพูดขึ้นมาขณะที่จิ้มไก่ย่างเข้ามาไว้ในจานเปล่า
“ นั่นดิ “
ไอ้เรย์เห็นด้วย จากนั้นทุกสายตาบนโต๊ะก็หันมามองที่ผมเป็นตาเดียว
เห้ย!! ผมไม่รู้ ถามพี่เขายังไง เขาก็ไม่ยอมบอก
“ มองกูทำไม กูไม่รู้ “
ผมบอกไปครับ แต่หลายๆ สายตายังมองเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อผมเลย...
นี่กูพูดจริงๆ นะเห้ย... เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน...
“ เออแพรกับธัน วันนี้มีนัดประชุมที่ชมรมแบดด้วยนี่ “ ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเลยครับ
“ ใช่ๆ แต่พวกเราคงต้องไปหลังเลิกเชียร์อะ คงเข้าประชุมสายแน่ๆ “ ไอ้ธันว่ามาครับ
“ พูดถึงเชียร์ ถ้าวันนี้พี่กิจเล่นหนัก... กูว่าพวกเราอ่วมแน่เลยมึงเอ้ย... “
ไอ้เรย์พูดขึ้นมา ผมก็นึกภาพตามทันที พร้อมกับทำหน้าเหนื่อยๆ ท่าทางจะแย่แน่ๆ เลยครับ เย็นนี้
“ โดดเชียร์มั้ย เดี๋ยวเราโดดเป็นเพื่อน “
แพรเสนอครับ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะมาจากปากของดาวคณะแบบนี้
“ ไม่ไหวดิ เดี๋ยวโดนซ่อมมาจะหนักกว่าเดิม “ ผมบอกไป
แล้วพวกเราก็ถอนหายใจขึ้นมาพร้อมกันอย่างรู้ชะตากรรม
...................................