{End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}  (อ่าน 85355 ครั้ง)

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
**********************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
                                                     

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*********************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2019 11:14:41 โดย เขียนสือ »

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


*** เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ***



#พอร์ชโซ่

 



พอร์ช

หัวโจกแถบ(สี)ชมพู #ช่างยนต์

เป็นพวกทะเล้นเล่นไปเรื่อย กวนประสาท แต่โคตรจริงใจ

 



โซ่

ไอ้นิ่งแถบ(สี)ฟ้า #ช่างไฟ

เพราะมีโลกส่วนตัวที่สูงมากถึงมากที่สุดจึงไม่ชอบความวุ่นวาย

 

 

คำเตือน

- นิยายเรื่องนี้เป็นแนวชายรักชาย

- อาจมีความรุนแรงทางเพศและภาษาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

- ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้บุคคลดังภาพข้างต้นเสื่อมเสีย #มีไว้เพื่อจิ้นเท่านั้น


ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :pig2:

ติดตามจ้า  :L2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตาม    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 o13 รอจ้า

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
รอค่าา

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
รอนะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
รอเลยค่าาาา

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ

เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{01}







            เสียงตุ๊บตับของการต่อสู้ด้วยมือและเท้าดั่งสนั่นไปทั่วทั้งซอยคับแคบ จะว่าคุ้นเคยก็ไม่ใช่ ชินตาก็ไม่เชิง ในเมื่อได้เด็กแถบสองสีนี้มันพากันมาตีรับน้องใหม่ตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกโน้นแล้ว จนตอนนี้ทางวิลัยเขาสอบกลางภาคผ่านไปแล้วพวกมันยังไม่เลิกตีกันเลย



            เสื้อสีเดียวกัน อยู่สถาบันเดียวกัน จะมีก็แต่แถบสีที่แปะติดอยู่ตรงปากกระเป๋าเสื้อช็อปบนหน้าอกด้านซ้ายเท่านั้นเองที่ต่างกัน



            สีฟ้า…ช่างไฟ



            สีชมพู…ช่างยนต์



            ในขณะที่เด็กหนุ่มกว่าสิบคนกำลังตะลุมบอลกันอย่างเอาเป็นเอาตายกันอยู่นั้น สายตาคมของเด็กหนุ่มแถบสีชมพูที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกินก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเข้า จังหวะเดียวกันกับที่บุคคลลึกลับภายใต้เสื้อฮูดหันมาประจันหน้ากันพอดี



            ‘อารมณ์สุนทรีจังนะมึง พวกแม่งจะตีกันตายอยู่แล้ว ยังเสือกนั่งไขว้ห้างฟังเพลงได้อีก’ ร่างสูงแอบด่าในใจเมื่อเห็นว่าใครคนนั้นมีหูฟังเข้มสีน้ำเงินขนาดใหญ่คลอบหูไว้ยามที่เจ้าตัวเบือนหน้าหนีสายตาของเขา กลุ่มเขาตีกันกับกลุ่มมันมาเป็นสิบยี่สิบรอบแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีใครได้สัมผัสหรือได้รู้จักมันเลยสักคน เพราะนัดมากันกี่ครั้งไอ้แห้งนี่ก็เอาแต่นั่งไขว่ห้างฟังเพลงอย่างสบายอยู่บนเบาะรถเหมือนมานั่งกินลม ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่บนชายหาดก็ไม่ปาน ทั้งที่เพื่อนเขากับเพื่อนของมันจะตีกันตายอยู่แล้ว



            ในขณะเดียวกัน…โซ่เด็กหนุ่มแถบสีฟ้าที่นั่งเปิดเพลงอัดใส่หูตัวเอง เพื่อกลบเสียงตุ๊บตั๊บน่ารำคาญตรงหน้าอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนรักก็เริ่มเบื่อเต็มทนที่จะต้องมานั่งรอจนกว่าพวกมันจะตีกันเสร็จ แทนที่จะได้กลับไปนอนตีพุงอย่างที่ตั้งใจ



            ปิ๊ด! ปิ๊ด! ปรี๊ดดด…



            “เฮ้ย! แยกย้ายกันก่อนโว้ย! พ่อมึงยกกันมาเป็นฝูงเลย!” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นแทรกเสียงนกหวีดและเสียงหวอของตำรวจที่กำลังขับรถใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จึงเป็นเหตุให้กลุ่มเด็กช่างวัยโจ๋พากันแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรังไปคนละทิศละทาง



            “แล้วเจอกันที่บ้านกูนะเว้ย!” พอร์ชพยักหน้าบอกกับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ก่อนที่จะบิดคันเร่งขี่รถคู่ใจออกไปเป็นคนแรก อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหาไอ้คนลึกลับเมื่อครู่แต่ก็ไม่เจอ

..

..

..

            “ป๋าหวัดดี!”



            “อีกแล้วนะไอ้พอร์ช! ไอ้ลูกเวร! หัวแบะกลับบ้านมาอีกแล้ว!” ก้าวเท้าเข้าบ้านได้พอร์ชเจอกับพ่อบังเกิดเกล้าทันที และแน่นอนว่าเจ้าตัวนั้นก็โดนด่าอย่างทุกครั้งที่ไปมีเรื่องกลับมาเช่นกัน



            “แหม…ป๋าก็! นิดๆหน่อย อย่าเครียดสิ หนุกหนานนะหนุกหนาน” นอกจากจะไม่สลดแล้ว เจ้าตัวยังคงยักคิ้วหลิ่วตาใส่คนเป็นพ่ออย่างกวนบาทา ก่อนที่จะร้องซี้ดออกมาเพราะรู้สึกเจ็บที่บริเวณแผลตรงมุมปากที่ไม่รู้ว่าเอาไปฟาดกับมือหรือเท้าของใครมาเสียตั้งแต่เมื่อไหร่



            “แล้วไม่ใช่เพราะไอ้ความหนุกหนานของแกรึไงที่พาเอาแม่แกมาพาลบ่นฉันอยู่ทุกวันเนี่ย! ไปๆ ขึ้นไปอาบน้ำทำแผลแล้วอย่าให้แม่แกเห็นเลยเชียว เดี๋ยวฉันจะพาลซวยไปด้วย” คุณพ่อที่พาลโดนคุณแม่บ้านบ่นกับลูกไปด้วยส่ายหน้าบอกอย่างระอา เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาเองก็ไม่เคยทำเกินกว่าการอมรมสั่งสอนตักเตือนไปอย่างที่ควรจะเป็น



            “ขำๆน่าป๋า ผมไปล่ะ! ถ้าพวกไอ้เป้มาแล้วให้มันขึ้นไปหาผมข้างบนเลยนะ”



            “เดี๋ยวตอนกินข้าวเย็นก็เจออยู่ดี แกหนีแม่แกไม่พ้นหรอก”



            “วันนี้งด! ผมไม่โผล่หน้าลงมาให้แม่ด่าแบบโง่ๆหรอกนะป๋า” พูดจบก็รีบวิ่งไต่บันไดหนีขึ้นชั้นบนไปทัน เมื่อเห็นคุณแม่บังเกิดเกล้าเดินตรงมาจากอีกทางหนึ่ง

..

..

..

            “กูไปก่อนนะ ขืนอยู่รอให้พ่อครูออกมาเห็นแผลบนหน้านี่ กูได้โดนพ่อครูกระทืบซ้ำแน่ๆ” พอโซ่ลงรถได้ ไอ้ยศเพื่อนรักก็รีบชิ่ง บึ่งมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที ไม่ได้เข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นอย่างทุกที



            “พ่อหวัดดี” โซ่ส่ายหน้าให้กับความกลัวแบบไร้สาระของเพื่อนรักเสร็จก็เดินเข้าไปยกมือไหว้สวัสดีทักทายรายงานตัวกับคุณตาของตัวเองที่กำลังนอนฟังเพลงจากวิทยุธานินรุ่นเก่าอยู่บนแคร่ไม้ตรงสวนข้างบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากประตูรั้ว ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากเขาไม่ได้นอนหลับไป เขาก็จะสามารถเห็นทุกอย่างที่ผ่านหน้า ไม่ว่าจะหมา แมวหรือแม้แต่คน



            “นั่นเจ้ายศมันจะรีบไปไหนของมัน” เขาเอ่ยถามหลานชาย



            “วันนี้มันไปตีกับเขามา มันเลยกลัวพ่อจะเตะซ้ำมันให้อีก” พูดบอกออกไปตามความจริงอย่างไม่มีความเกรงกลัวเหมือนอย่างที่เพื่อนเป็น



            “เฮ้อ…เอาอีกแล้วนะมัน เราน่ะอย่าไปทำอย่างเพื่อนเชียวนะเจ้าโซ่ พ่อไม่ชอบ จะจับจอบแบกปูนเรียนช่างอะไรก็ได้ แต่พ่อขออย่างเดียวว่าอย่าเอาวิชาที่พ่อสอนไปใช้ในแบบผิดๆ มวยน่ะเขาเรียนเพื่อป้องกันตัวแล้วก็สืบสานศิลปะการต่อสู้ของไทยให้ดำรงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน ถ้าไม่จวนตัวไม่โดนใครเขาทำร้าย เราก็อย่าไปรังแกเขา” พอได้ทีชายสูงวัยก็พูดสอนหลานชายขึ้นทันที ซ้ำเตือนถึงสิ่งที่พยายามพร่ำสอนมาตั้งแต่เจ้าตัวยังแบเบาะ เพราะอยากให้หลานชายคนเดียวคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างงดงาม และมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเพื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมโลกทุกสรรพสิ่ง ไม่ให้เป็นเหมือนอย่างที่แม่มันเป็น แต่จะไปโทษใครก็ไม่ได้ นอกจากตัวเขากับภรรยาที่สั่งสอนลูกในไส้ไม่ดีพอ จึงได้แต่นำเอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นครูในการอบรมดูแลเลี้ยงดูหลานชายคนนี้ให้ดีกว่าที่เคยเลี้ยงลูกมา



            “พ่อก็รู้ผมไม่ชอบวุ่นวายกับใคร” ทิ้งตัวลงนอนบนแคร่ข้างๆกันกับคุณตา



            “ไม่ชอบความวุ่นวายมันก็ดี แต่อย่าเก็บตัวเงียบจนกลายเป็นตายด้านไปเลยนะโซ่เอ้ย มนุษย์เราน่ะเป็นสัตว์สังคม มีเลือดเนื้อ มีหัวใจจะอยู่ด้วยตัวคนเดียวไปจนตายก็ไม่ได้” เพราะรู้ดีว่าเหตุใดหลานชายจึงเป็นเช่นนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดซ้ำอยู่บ่อยๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้



            “ผมไปขอข้าวแม่กินก่อนนะ” แล้วก็เป็นอย่างทุกทีที่เจ้าตัวจะทำฮึดฮัดเดินหนีไป

..

..

..

            “ท่านโซ่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมถึงได้ทำหน้าบอกบุญไม่รับเสียอย่างนั้น” บุญล้อมหนึ่งในสองเพื่อนรักสุดของโซ่เอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นว่าโซ่เดินหน้าตึงเข้ามาในห้องเรียน ถ้าเป็นคนอื่นก็จะไม่รู้หรอกว่าโซ่กำลังอารมณ์ไม่ดี เพียงแต่…อย่างที่บอกนั่นแหละว่าบุญล้อมคนนี้บังเอิญเป็นเพื่อนรักสุดซี้ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กยันโต จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะรับรู้ถึงสภาวะอารมณ์ของโซ่ที่มักจะส่งผ่านออกมาทางดวงตาอยู่เสมอ แม้ว่าสีหน้าจะยังเรียบนิ่งคงเดิมก็ตาม



            “ไม่มีอะไร แค่หมามันเห่า” ทิ้งตัวลงนั่งแล้วตอบปัดไปอย่างไร้อารมณ์



            “ใครหรือขอรับ?” ก็แหม…นานๆทีจะมีคนสะกิดต่อมอารมณ์ของเพื่อนรักได้สักที บุญล้อมคนนี้ก็ต้องอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา



            “กูไม่รู้จัก”



            “ก็แน่ละครับท่านโซ่ ถ้าวันไหนท่านโซ่รู้จักใครนอกเหนือจากกระผมกับท่านยศวันนั้นฟ้าคงได้ถล่มลงมา แต่ที่ผมอยากจะรู้คือเขาคนนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นยังไงครับ เผื่อกระผมรู้จัก จะได้ไปตักเตือนเขาว่าอย่ามายุ่งกับคุณโซ่อีก” บุญล้อมพูดบอกด้วยสีหน้าเนือยๆ เพราะนอกจากเขากับยศแล้วโซ่ก็ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครอีกเลย แม้กับเพื่อนร่วมชั้นก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรืออะไรหรอกนะ เพียงเจ้าตัวมันเป็นพวกจำหน้าคนไม่ค่อยได้และก็ไม่ใช่คนช่างพูดก็เท่านั้นเอง ต่างจากเด็กวัดอย่างบุญล้อมที่เป็นมิตรและพูดคุยกับคนได้ทั่วทั้งโลก  ถึงแม้ว่าใครคนนั้นจะเป็นคนแปลกหน้าหรือศัตรูของเพื่อนก็ตาม



            “หน้าเหมือนหมา หุ่นเหมือนควาย แปะแถบชมพู” โซ่บอก



            “ช่วยบอกผมทีเถอะว่าที่ท่านโซ่กำลังพูดถึงนั้นเป็นคนจริงๆ” บุญล้อมว่า



            “กูก็บอกอยู่ว่ามันเป็นหมา!” พูดจบก็ยกหูฟังขึ้นมาใส่ เป็นอันสิ้นสุดการสนทนา

..

..

..

ย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีก่อน…



            เพราะว่าน้องสาวของทรงยศโดนรถเฉี่ยวชนที่ตลาดเจ้าตัวจึงต้องพาน้องไปโรงพยาบาลก่อน  จึงทำให้ตารางชีวิตของโซ่แปรปรวนไปด้วย เพราะปกติแล้วยศจะเป็นคนคอยรับส่งอยู่ทุกวัน วันนี้โซ่เลยรู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ เพราะมาสายก็เลยเข้าแถวไม่ทัน โดยเช็คขาดกิจกรรมเข้าแถวในช่วงเช้าไปตามระเบียบ เพราะเขาไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวเหมือนเพื่อนและกว่าจะหาคนมาส่งได้ก็เกือบแปดโมงแล้ว และที่สำคัญเลยคือวิทยาลัยของเขาเข้าแถวตั้งแต่เจ็ดโมงสี่สิบ!



            “ว่าไงน้องสาว~ ไหวรึเปล่าเบเบ้!! baby~” ในขณะที่เดินอยู่บนลานกิจกรรมที่อยู่ทางด้านหลังองค์พ่อวิษณุนั้นใครบางคนก็ตะโกนร้องเพลงออกมาดังลั่น นักศึกษาทั้งหญิงชายที่ยังคงนั่งเล่นอยู่แถวนั้นต่างพากันมองไปที่เจ้าตัวที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะกันเป็นตาเดียว ในขณะที่เพื่อนๆของเจ้าตัวที่นั่งล้อมรอบอยู่บนเก้าอี้ด้านล่างต่างก็หัวเราะคิดคักอย่างสนุกสนาน จะมีก็แต่โซ่เท่านั้นที่ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่สนใจใคร แม้ว่าจะไม่ได้สวมหูฟังอัดเพลงใส่หูอย่างทุกวันก็ตาม



            ส่วนทางด้านของพอร์ชที่เห็นว่าเหยื่อที่ตนเล็งไว้ไม่ได้หันมาสนใจอย่างที่ควรจะเป็น เจ้าตัวก็รีบกระโดดลงจากโต๊ะและวิ่งเข้าไปกระชากแขนของอีกคนไว้ทันที



            “เรารู้จักกันหรอ?” โซ่ยกคิ้วถามด้วยเสียงเนือยๆ ถึงแม้ว่าอารมณ์จะคุกรุ่นมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวแล้วก็ตาม

            “ไม่…แต่กูอยากรู้จักมึง” ตอบออกมาเสียงดังฟังชัดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ



            “…..” โซ่สะบัดแขนตนออกจากมือของคนแปลกหน้า ก่อนที่จะหันหลังทำท่าจะเดินหนีไปโดยที่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมา แต่พอร์ชไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น คราวนี้เขาจึงคว้ามือของโซ่บีบล็อคไว้แน่น ซึ่งแน่นอนว่าโซ่เองก็ไม่เฉยเหมือนตอนแรกอีกแล้ว เจ้าตัวจึงสะบัดมือออกแล้วผลักอกคนตรงหน้าออกไปอย่างแรง ทำเอาบรรดานักศึกษาที่มุงดูอยู่เริ่มแตกฮือไปคนละทาง เพราะรู้ดีว่า ไอ้เด็กแสบแถบสองสีนี้ลองได้เผชิญหน้ากันแล้ว…บรรลัยทุกที!



            “แรงดีนี่หว่า…เห็นตัวเล็กๆไม่คิดว่าจะแรงเยอะขนาดนี้” พอร์ชยกมือขึ้นปัดตรงบริเวณที่โดนโซ่ผลักเบาๆ ทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งที่จริงแล้วก็เจ็บอยู่เบาๆ ไม่คิดว่าคนตัวผอมโคร่งเหมือนศพเดินได้(ในสายตาของตัวเอง)จะมีแรงเยอะขนาดนี้



            “มีปัญหา?” ในที่สุดโซ่ก็ยอมเปิดปากถามออกมา เพราะเริ่มหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นทุกที



            “โนว…ใครจะกล้ามีปัญหากับคนสวยได้” แสร้งทำตกใจตาโตในคำถามของโซ่ พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธอย่างกวนๆ



            “กูสวย?” โซ่ถาม



            “Yes!!!” พยักหน้าทำตาปริบๆเหมือนแมวน้อย แต่ถ้าใครไม่ตาบอดหรือสมองฟั่นเฟืองก็คงรู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังกวนตีน!



            “ถามอะไรอย่างสิ” โซ่บอก



            “ว่ามาน้องสาว~” พอร์ชตอบรับเป็นทำนองเพลงที่ใช้ร้องแซวโซ่ในตอนแรก



            “มึงใช้ตาหรือใช่ตีนมอง?” โซ่ถาม



            “ก็ต้องเป็นตาอยู่แล้วล่ะจ้ะน้องสาว~” พอร์ชยังคงกวนต่อด้วยการตอบตามทำนองเพลง



            “ถ้าอย่างนั้นกูขอลามึงด้วยส้นตีนก็แล้วกัน!!” ว่าจบโซ่ก็ยกเท้าถีบเข้าไปเต็มๆที่กลางอกของพอร์ช ก่อนที่จะหันหลังเดินหนี แต่ติดตรงที่พวกเพื่อนของพอร์ชวิ่งมาล้อมวงดักไว้นี่แหละ



            “เฮ้ยอย่า! พวกมึงอย่าทำอะไรมันนะ” พอร์ชร้องห้ามกลุ่มเพื่อนของตนที่ทำท่าจะพุ่งกระโจนเข้าใส่โซ่เหมือนกับฝูงหมาป่าตอนเห็นลูกแกะ



            “แต่มัน…” ใครคนหนึ่งทำท่าจะแย้งขึ้นมา แต่พอร์ชที่ลุกขึ้นมาได้ก็ยกมือห้ามไว้ก่อน



            “มึงคงไม่อยากมีปัญหากับกูหรอกนะไอ้พีช…ส่วนมึงน่ะระวังหลังเอาไว้ให้ดีเถอะ มือหนักตีนหนักแบบนี้กูโคตรชอบ” พอร์ชจ้องเพื่อนด้วยสายตากดดัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของโซ่เบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน และมันคงจะไม่เกิดเรื่อง ถ้าหากว่าเจ้าตัวไม่เลื้อยมือไปขยำก้นของโซ่เข้าให้ โซ่ตวัดแขนศอกกลับใส่เข้าที่ขมับของพอร์ชเต็มแรง จึงเป็นเหตุให้เจ้าตัวไปนอนนับดาวอยู่บนพื้นโดยมีเพื่อนๆพากันเข้าไปดูอาการ



            โซ่เดินแหวกกลุ่มเพื่อนของพอร์ชเข้าไปหาพอร์ชอย่างช้าๆ ก่อนที่จะไปหยุดยืนอยู่บริเวณข้างลำตัวและใช้เท้าสะกิดที่สีข้างของพอร์ชเบาๆสองที



            แล้วถามพอร์ชว่า…



            “ไหวรึเปล่า…baby? หึ!” กระตุกยิ้มหล่อเยาะเย้ยทิ้งท้ายไว้หนึ่งที ก่อนที่จะยกกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นพลาดบ่าแล้วเดินจากไปแบบช้าๆไม่รีบร้อน แต่ก็ไม่ยักจะมีเพื่อนของคนไหนของพอร์ชมาขวางอย่างตอนแรกสักคน









TBC.

บางคนอาจจะเคยเห็นนิยายเรื่องนี้ผ่านตามาแล้วบ้าง(ในเว็บอื่น)
แต่อยากจะบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นนี้เลยว่า เด็กช่างของเรา ไม่ดราม่า ไม่เน้นต่อยตี แต่ละมุน(?)ไปเรื่อย
ปล.อัพรูปไม่ขึ้น ลงรูปไม่เป็น แต่อิมเมจที่เราตั้งไว้คือ ลีโอกับลูคัส
ใครไม่รู้จักก็ลองเอาชื่อนิยายของเราไปค้นหากับปู่ Google ได้เลยจ้า เดี๋ยวก็เจอ #ยังไงก็ฝากด้วยน้า

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตามจ้า  o13 o13 o13

บวกเป็ดรอ  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไรหว่า อยู่โรงเรียนเดียวกัน กัดกันซะงั้น  :hao4:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
จะยังไหวอยู่อ่ะเปล่าา5554

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชื่อคล้องจองกันดีจริงๆ
แต่ตงิดๆ ตรงเขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ จริงหรอ o18
เหมือนจะสลับกัน  :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ติดตามๆ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{02}







            “พี่โซ่คร้าบ…รอจุกด้วย” เด็กชายหัวเกรียนวัยแปดขวบตะโกนเรียกโซ่จากทางด้านหลัง ซึ่งโซ่ที่สวมหัวฟังอัดเพลงใส่หูเป็นที่เรียบร้อยแล้วย่อมไม่ได้ยินเสียงของจุกอย่างแน่นอน



            จึ๊ก! / ผัวะ!



            “โอ้ยพี่โซ่! ต่อยจุกทำไมอ้า…” เด็กชายจับมุมปากร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกโซ่ศอกกลับใส่ หลังจากที่ลืมตัวเผลอไปจับไหล่โซ่จากทางด้านหลัง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรทำ เพราะโซ่เป็นคนบ้าจี้ที่สัมผัสไวเป็นพิเศษ หากใครลองได้จับเจ้าตัวจากทางด้านหลังแบบไม่รู้ตัว รับรองได้เลยว่าต้องมีการเจ็บตัว ไม่มากก็น้อย ดั่งเช่นที่จุกโดนนี่แหละ ซึ่งอาการบ้าจี้อย่างรุนแรงของโซ่นี้คนรอบข้างและเพื่อนสนิทต่างก็รู้ดี และพยายามที่จะไม่ลืมตัว ไปทักทายหรือโดนตัวของโซ่ในยามที่เจ้าตัวกำลังปล่อยความรู้สึกให้จมดิ่งกำเสียงเพลงอย่างแน่นอน เพราะไม่อยากจะเสี่ยงกับมือและเท้าจากหลานชายเพียงคนเดียวของเจ้าของค่ายมวยที่เป็นอดีตแชมป์โลกมวยไทยเมื่อสามสิบปีที่แล้วหรอก



            “แล้วใครใช้ให้เอ็งมาเงียบๆอย่างนี้ล่ะไอ้จุก” โซ่ว่า



            “ไม่ได้มาเงียบๆสักหน่อย จุกนะตะโกนเรียกอย่างดังเลย แต่พี่โซ่อ่ะไม่ได้ยินเอง” จุกเถียงอย่างไม่ยอมแพ้



            “เออๆ ว่าแต่เรียกพี่ทำไม”



            “วันนี้จุกตื่นไม่ทันพวกพี่ไผ่ เลยจะขอวิ่งไปกับพี่ด้วย”



            “แล้วจะมามัวคุยอยู่ทำไม…ไปดิ!” ว่าแล้วโซ่ก็วิ่งนำไปตามทางที่วิ่งเป็นประจำคนเดียว โดยที่ไม่ได้สนใจจุกที่วิ่งตามหลังมาสักเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วเขาจะวิ่งคนเดียว ส่วนจุกจะไปรวมกลุ่มกับพวกเด็กฝึกและนักมวยคนอื่นๆที่อยู่ในค่าย



            กิจวัตรในแต่ละวันของโซ่นั้นไม่มีอะไรมาก ออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ เพราะตื่นเช้ามาเขาก็แค่ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ออกมาวิ่งออกกำลังกาย เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำกินข้าวไปวิทยาลัย หลังเลิกเรียน ถ้าไม่ไปนั่งรอทรงยศต่อยตีกับชาวบ้าน ก็ไปกวาดลานธรรม ถูโบสถ์ แล้วก็สวดมนต์ทำวัดเย็นกับบุญล้อมที่วัด แต่ถ้าไม่ได้ไปไหนเลยก็แค่กลับมานอนที่บ้านเป็นอันหมดวัน ต่างจากเพื่อนรุ่นเดียวกันคนอื่นที่หลังเลิกเรียน ถ้าไม่ไปกินข้าวดูหนังร้องคาราโอเกะที่ห้างก็จะพากันไปขี่รถเหล่หญิงตาสวนสาธารณะไม่ก็ตามแลนด์มาร์คจุดสำคัญของจังหวัดแทน



            “แฮ่กๆ จุกกลับก่อนนะพี่โซ่ จุกวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว” จุกวิ่งแซงขึ้นมาบอกโซ่ทางด้านหน้า เพราะไม่อยากเจ็บตัวเพราะสะกิดเรียกจากทางด้านหลังอีก ปกติแล้วถ้ามาวิ่งกับนักมวยหรือเด็กฝึกด้วยกันในค่ายก็จะไปอีกทาง ซึ่งนั่นจุกก็ว่าไกลแล้วนะ แต่พอมาวิ่งกับพี่โซ่ จุกแทบจะคลานกลับบ้านเลย ทั้งที่มาไกลมากแล้ว แต่พี่โซ่กลับไม่มีท่าทีเหนื่อยหอบเหมือนอย่างจุกเลย อีกทั้งยังไม่มีท่าว่าจะหยุดวิ่งหรือย้อนกลับบ้านเลยสักนิด…จุกยอมแพ้



            “อ่ะฝากแวะซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่หน้าปากซอยเข้าไปให้พ่อแม่พี่ด้วย เงินที่เหลือเอ็งอยากกินอะไรก็ซื้อไปเลย” โซ่ยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้จุกไป ก่อนที่จะเริ่มออกวิ่งต่ออีกครั้ง เมื่อจุกหันหลังวิ่งย้อนกลับไปทางเดิม



            “เมื่อกี้เจ้ายศมันมาบอกให้เราไปโรงเรียนเองอีกสักสองสามวันนะโซ่ พ่อแม่มันยังกลับมาไม่ได้มันเลยต้องอยู่ดูเจ้าหยกต่อ” ยายของโซ่ร้องบอกกับโซ่ที่เพิ่งกลับเข้าบ้านมา หลังจากที่เจ้าตัวออกไปวิ่งตั้งแต่ตีห้าครึ่ง จนตอนนี้จะเจ็ดโมงอยู่แล้ว



            “ครับ” พยักหน้ารับรู้แล้วก็ผลุบหายขึ้นห้องไป



            “ให้เจ้าไผ่ไปส่งไหมล่ะโซ่ แม่จะได้ให้พี่เขารอ” ยายของโซ่ตะโกนถามตรงหัวบันได



            “เดี๋ยวผมหารถไปเอง” โซ่ตะโกนกลับมา



            “แล้วมันจะไปยังไงของมัน” ยายขอโซ่บ่นพึมพำอยู่ที่เดิม เพราะจังหวัดของเขาไม่มีรถวิ่งรอบเมืองเหมือนอย่างในกุรงเทพหรือตามเมืองใหญ่อื่นๆที่หารถรับจ้างได้ง่ายๆ ถ้าไม่ใช่สถานีรถไฟ ขนส่งรถยนต์ หรือสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ



            “ปล่อยมันไปเถอะ ลองได้พูดแบบนั้น เดี๋ยวมันก็หาทางไปเองจนได้แหละน่า” คุณตาที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวพูดบอก เพราะไม่อยากจะให้ภรรยาเอาความห่วงใยของตัวเองเข้าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของหลานนัก



            “คุณก็เป็นเสียอย่างนี้! ไม่เคยเป็นห่วงลูกมันเลย” คุณยายว่าเสียงเขียว ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินหนีเข้าครัวไป



            “อย่าไปใส่ใจเลย แม่เขาแค่เป็นห่วง” เขาหันไปบอกกับหลานชายที่กำลังเดินลงบันไดบ้านมาด้วยกางเกงยีนส์ทรงกระบอกพับขาสีดำเสื้อคอกลมแขนสั้นสีขาว กระเป๋าสะพายพาดขวางอยู่กางหลัง หูฟังสีน้ำเงินอันโปรดเตรียมพร้อมคล้องไว้ที่คอ มือขวาถือเสื้อช็อปสีน้ำกรมท่าแปะแถบสีฟ้าสดใสตามชื่อแผนกช่างไฟของเจ้าตัว และแน่นอนว่ามือซ้ายที่ว่างอยู่นั้นจะต้องมีไอพอดนาโนสีฟ้าเพื่อนเก่ารอให้เจ้าตัวเปิดอยู่



            “ผมไปนะ” สวัสดีบอกลาเสร็จก็รีบชิ่งออกจากบ้านทันที เพราะขืนอยู่ต่อแม่หรือแท้ที่จริงแล้วคือยายของเขานั้นจะต้องให้คนในค่ายไปส่งเขาที่วิทยาลัยอย่างแน่นอน ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ที่จะต้องไปกับคนที่ไม่สนิทแบบนั้น ถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นลูกศิษย์ในค่ายที่เห็นหน้าคาดตากันอยู่ทุกวันก็ตาม



            โซ่เดินไต่ไปตามกำแพงข้างบ้าน เพื่อที่ไปขึ้นรถรับจ้างที่ประจำอยู่ด้านหน้าอำเภอที่อยู่ติดกับหลังบ้านของตนเอง ซึ่งถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ต้องเดินย้อนตามถนนที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของบ้านขึ้นไปอีกหลายร้อยเมตร…โคตรเสียเวลา



            “หืม…ไอ้นิ่ง? มันคิดบ้าอะไรอยู่ว่ะน่ะถึงได้เดินเล่นบนกำแพงอำเภออย่างน้ำ” พอร์ชที่กำลังจะขี่รถไปวิทยาลัยบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นว่าคนที่ตนเล็งอยู่นั้นกำลังเดินไต่อยู่บนกำแพงที่ว่าการอำเภอด้วยท่าทางสุนทรีมีหูฟังคลอบหูเหมือนอย่างทุกครั้งที่ได้เห็น ซึ่งถ้าจะให้เขาเดา เจ้าตัวคงจะเสพติดการฟังเพลงน่าดู เพราะลองได้เจอเจ้าตัวที่ไหน ก็ต้องเห็นหูฟังทุกทีถ้าไม่คลอบหูไว้ก็ต้องคล้องอยู่ที่คอ เหมือนกับเป็นอวัยวะชิ้นที่สามสิบสามของเจ้าตัวไปเสียแล้ว



            พอร์ชชะลอรถจอดอยู่ริมฟุตบาทตรงตำแหน่งที่คิดว่าโซ่จะลงจากกำแพง เพราะตรงบริเวณอื่นมันเต็มไปด้วยไม้ประดอกไม้ประดับหมดแล้ว ก็หวังว่าโซ่จะไม่ใจกล้าบ้าบิ่นเดินต่อไปตรงส่วนที่เป็นเหล็กแหลม หรือกระโดดลงตรงน้ำตกจำลองที่ประดับเต็มไปด้วยพุ่มดอกเข็มที่ขึ้นหนาแน่นจนไร้ช่องว่างหรอกนะ



            พรึบ! ตุบ!



            เป็นไปตามที่พอร์ชคาดการณ์ไว้ เพราะโซ่กระโดดลงบนพื้นฟุตบาทตรงที่เจ้าตัวคิดไว้ตั้งแต่แรก ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไป เพราะจุดจอดรถรับจ้างอยู่ห่างออกไปอีกประมาณร้อยเมตร และด้วยพอร์ชสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบอยู่ โซ่จึงไม่รู้ตัวว่าความวุ่นวายที่เขาสุดแสนจะเกลียดชังนั้นกำลังจะคืบคลานเข้ามา



            จึกๆ /ผัวะ!



            เหมือนกับเปิดเทปวนซ้ำเหตุการณ์เมื่อเช้าที่จุกสะกิดโซ่จากทางด้านหลังแล้วก็โดนโซ่ศอกกลับเข้าที่ขมับ แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นกำปั้นไม่มีรูที่เสยเข้าปลายคางของพอร์ชไปเต็มๆ เพราะส่วนสูงที่ต่างกันพอสมควร



            “โอ้ย…มึงต่อยกูทำไมเนี่ย ซี้ด…ชอบความรุนแรงรึไง เจอกันทีไรกูเจ็บตัวทุกที!” พอร์ชถ่มน้ำลายเปื้อนเลือดลงบนพื้นด้วยความเจ็บแสบเพราะปากแตก ด้วยกำปั้นไม่เต็มแรงของโซ่ แต่ก็อย่าลืมนะว่าโซ่นั้นเป็นหลานเจ้าของค่ายมวย ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้เป็นนักมวยมืออาชีพ แต่ก็ฝึกฝนวิชามวยไทยมาตั้งแต่จำความได้ มีหรือที่หมัดจะเบาเหมือนคนทั่วไป



            “มึง!” ขมวดคิ้วขุ่นอย่างไม่ชอบใจ ที่ได้เห็นหน้าของชมพูโรคจิตแต่เช้า



            “เออกูเอง ก็พอรู้อยู่นะว่าเป็นพวกติสแตก แต่มึงจะอินดี้เกินไปไหมถึงได้มาปีนกำแพงที่ว่าการอำเภอเล่นแต่เช้าอย่างนี้ เดี๋ยวพ่อมึงที่อยู่ขวามือโน่นก็จับส่งไปให้อยู่กับแม่มึงที่ซ้ายมือนี่หรอก” พอร์ชว่าพลางพยักเพยิดหน้าไปทางขวามือที่เป็นสถานีตำรวจ ส่วนซ้ายมือที่ว่าก็คือเรือนจำประจำจังหวัด โดยมีที่ว่าการอำเภออยู่คั่นกลาง และตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอก็เป็นวัดหลวงประจำจังหวัด เรียกได้ว่าบริเวณที่พวกเขายืนคุย(?)กันอยู่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ราชการสำคัญๆทั้งนั้น



            “เสือก” ว่าเสร็จก็หันหลังหนี เตรียมที่จะชิ่งไปขึ้นรถรับจ้างที่อยู่ไม่ไกล แต่ก็ถูกพอร์ชรั้งด้วยการดึงสายกระเป๋าสะพายไว้เสียก่อน



            “มึงจะไปวิลัยรึยัง?” พอร์ชถาม เมื่อโซ่หันมาตีหน้ายักษ์ใส่ เพราะเจ้าตัวเริ่มที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว



            “เสือก” โซ่ยังคงใช้คำด่าเดิมเป็นคำตอบ



            “แล้วจะไปยังไง?” พอร์ชถามต่อแบบไม่สนใจสีหน้าและท่าทางของโซ่แม้แต่น้อย



            “เสือก” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่โซ่พูดคำนี้ออกมา



            “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกับกู” ไม่ว่าเปล่า ทันทีที่พูดจบพอร์ชก็ดึง(สายกระเป๋าสะพายของ)โซ่ไปทางที่รถของตนจอดอยู่ทันที ส่วนคนหวงของอย่างโซ่เองจะขืนตัวมากก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่ากระเป๋าจะขาด



            “ปล่อย! จะไปตายที่ไหนก็เรื่องของมึง แต่อย่ามาเสือกกับชีวิตกู!” โซ่พยายามที่จะสะบัดตัวออกจากการจับกุมของพอร์ช ทั้งยังลืมตัวตะโกนเสียงดังจนกลายเป็นจุดสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น



            “กูอยากเสือก!” สามคำสั้นๆที่พอร์ชพูดออกมาทำเอาโซ่ชะงักนิ่ง จังหวะนั้นเองพอร์ชที่หูตาไวก็อาศัยความเร็วไปกระชากเอาไอพอดในมือของโซ่จนเครื่องหลุดออกจากหูฟัง



            “อย่ายุ่งกับของกู!” โซ่คำรามลั่นเมื่ออีกคนกระชากของรักของหวงของตนออกไปสุดแรง ทั้งที่ตัวเขาเองถนอมมันแทบตาย



            “อะไรวะเนี่ย? เพลงจันทร์เจ้า เพลงช้าง นกกาเหว่า นกขมิ้น เป็ดอาบน้ำ! นี่มึงอยู่อนุบาลไหนครับไอ้นิ่ง? ถึงได้ยังฟังเพลงแบบนี้อยู่อีก” นอกจากจะไม่ฟังเสียงร้องห้ามของโซ่แล้ว พอร์ชยังเสียวิสาสะค้นดูลิสต์เพลงในไอพอดของโซ่อย่างไร้มารยาทอีกด้วย



            “เอาของกูคืนมา!” โซ่ไม่เก็บเอาท่าทางล้อเลียนของพอร์ชมาใส่ใจ เขาเพียงแค่อยากได้ของเขาคืนเท่านั้น



            “ไม่! จนกว่ามึงจำทำตามที่กูบอก” พอร์ชบอกอย่างเป็นต่อ



            “มึงต้องการอะไร” โซ่ถาม



            “ถึงวิลัยเมื่อไหร่กูจะบอก” พอร์ชเดินไปขึ้นค่อมรออยู่เบาะบนรถของตน พลางส่งสายตาเป็นเชิงบอกให้โซ่เดินตามมานั่งซ้อนท้ายอีกที



            “กูไม่ไปกับมึงแน่” โซ่ตอบปฏิเสธในทันที



            “ถ้างั้นกูยึด” ยกไอพอดของโซ่แกว่งไปมากลางอากาศของสองสามที ก่อนที่จะริบเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองไป



            “ถ้าของกูพัง…มึงเจ็บตัวแน่” ทิ้งตัวกระแทกนั่งบนเบาะหลังอย่างแรงจนรถกระเทือน



            “คร้าบๆ เดี๋ยวพี่พอร์ชจะดูแลรักษาอย่างดีเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นไอพอดหรือเจ้าของมัน” เอี้ยวตัวเอาหมวกกันน็อคของตัวเองมาสวมให้กับโซ่ ซึ่งตอนแรกโซ่ก็ขืนตัวอยู่หรอกเพราะไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวนัก แต่พอเจอสายตาจริงจังของพอร์ชเข้าไปเจ้าตัวก็เลยยอมอยู่เฉย เพราะไม่อยากจะฟังเสียงกวนประสาทจากปากหมาๆของพอร์ชอีก



            “เอาของกูคืนมา” พอลงรถได้ โซ่ก็ถอดหมวกกันน็อคโยนใส่พอร์ช พร้อมกับเอ่ยทวงไอพอดของตัวเองจากพอร์ชในทันที



            “มาเจอกูที่โรงอาหารตอนเที่ยงก็แล้วกัน” พอร์ชบอก



            “มันเป็นของกู และกูจะเอาตอนนี้…เดี๋ยวนี้” โซ่กดเสียงต่ำแบบสั่นๆ เพราะเริ่มที่จะควบคุมอารมณ์โมโหของตัวเองไม่ได้ มันเป็นใคร? ทำไมเขาต้องทำตามที่มันสั่งด้วย!



            “แต่ตอนนี้มันอยู่ที่กู และกูก็บอกแล้วว่าให้มาเจอกันที่โรงอาหารตอนเที่ยง…เข้าใจนะ” ล็อครถเสร็จพอร์ชก็หิ้วหมวกกันน็อคเดินหนีไปทันที ไม่รอฟังคำทักท้วงจากเจ้าของไอพอดอย่างโซ่อีกต่อไป



            “แม่งเอ้ย!” สบถออกมาเสียงดังลั่นอย่างไม่เกรงใจใคร เมื่อได้ยินเสียงเพลงมาร์ชประจำวิทยาลัยที่เป็นสัญลักษณ์เรียกเข้าแถวดังขึ้นมาเสียก่อนที่จะได้ตามพอร์ชไป ความจริงจะไม่เข้าแถวก็ได้ ไม่มีใครบังคับ เพียงแต่ พอสิ้นเดือนถ้าหากว่าคำนวนค่าเฉลี่ยแล้วจำนวนเวลาเข้าแถวของใครไม่ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นคนนั้นก็ต้องลงทำเบียนแก้ด้วยการบำเพ็ญประโยชน์จำนวนวันที่ขาดไป ซึ่งแน่นอนว่าการบำเพ็ญประโยชน์ที่ว่านั้นมันไม่ใช่แค่การเก็บขยะธรรมดา แต่หากรวมไปถึงการถางหญ้า ขัดห้องน้ำ ขนโต๊ะเก้าอี้ และลอกคลองน้ำสที่อยู่ทางด้านหลังโรงยิมอีกด้วย



            “ไงมึง…ได้ข่าวว่าวันนี้มีเด็กซ้อนท้ายมาด้วย…ใครวะ?” เป้กระซิบถามพอร์ชในขณะที่รอปล่อยแถว หลังจากเคารพธงชาติและสวดมนต์เรียบร้อยแล้ว



            “ไอ้นิ่ง” ยักคิ้วบอกด้วยท่าทางภาคภูมิใจเป็นถึงที่สุด



            “คนที่ทำมึงน็อควันนั้นอะนะ?” เป้ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เพราะติดธุระเลยมาสาย แต่เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่อยู่กับพอร์ชในวันนั้นก็มาเล่าให้เขาฟังอย่างออกรสออกชาติประหนึ่งย้อนภาพให้ดู



            “ก็เพราะมันเห็นออร่าความหล่อของกูตอนนั้นนั่นแหละ วันนี้มันถึงได้ยอมนั่งซ้อนรถมาวิลัยพร้อมกับกูอย่างนี้” เสยผมพูดโม้ออกมาอย่างหน้าไม่อาย



            “แต่กูว่าเพราะด้วยรักของมึงและส้นตีนของมันที่ประทับเป็นรอยแตกอยู่ตรงมุมปากของมึงนี่มากกว่ามั้ง” เป้พูดขัดอย่างรู้ทัน อีกทั้งยังกดซ้ำไปบนรอยแผลที่โซ่ฝากไว้เมื่อก่อนหน้านี้



            “เออจะอะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าเพราะกูหล่อมากมันเลยยอมมากับกู…จบนะ!” สะบัดเสียงใส่เพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกทำลายความฝันเฟื่องในภวังค์ด้วยความเป็นจริง



            ตุบ!



            “มาหล่อกับส้นตีนกูนี่!” โซ่ที่นั่งฟังอยู่ในแถวถัดไปตั้งแต่แรกเริ่ม ถีบเข้าเต็มๆที่กลางหลังของพอร์ชอย่างแรงเมื่อแถวของเขาถูกปล่อยก่อนแถวของพอร์ช



            มันก็จริงอยู่ที่แผนกพวกเขาไม่ถูกกัน แต่เวลาเข้าแถวทีไรช่างยนต์กับช่างไฟจะถูกจับคู่กันทุกที แล้วก็เรียงตามลำดับห้อง ตามเลขประจำตัวเป็นแถวตอนลึกลงไปตั้งแต่ ปวช.1 จนสิ้นสุดที่ปวส.2 ห้องสุดท้าย แล้วก็บังเอิ๊ญบังเอิญที่เขานั้นอยู่ห้องสองเหมือนกับไอ้หน้ามึนอีกทั้งเลขของเขายังอยู่ถัดจากมันมาแค่ลำดับเดียว จึงได้ยินทุกสิ่งอย่างที่เจ้าตัวพูดโม้ไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ก็เลยอดรนทนไม่ได้ที่จะประทับฝากรอยรองเท้าเบอร์สี่สิบสองคู่เก่งของตัวเองไว้บนหลังเสื้อช็อปของมัน ข้อหากวนตีน เพราะตอนปล่อยแถวนั้นช่างไฟจะถูกปล่อยก่อนช่างยนต์ที่อยู่แถวริมสุด ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์นั่นย่อมประจักษ์แก่สายตาของนักศึกษาและคณะครูอาจารย์ทุกท่าน เพียงแต่พอเจ้าตัวเห็นว่าเป็นเขาที่ถีบมัน มันเลยไม่โวยวาย เขาก็เลยรอดตัวไป






TBC.

คนอ่านเข้าใจคำว่า 'เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์' ของคนเขียนมากน้อยแค่ไหนคะ?

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ยังตีความไม่ออกว่าใครจะรุกจะรับ  :hao4:

น้องนิ่งช่างไฟน่าจะเป็นรับนะ ตามชื่อเรื่อง สะใภ้(ของ)ช่างยนต์ แต่มือตีนหนักเหลือรับทานเลยชักไม่แน่ใจ  :mew5:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


ยำหมัดสลัดตรีน มีครบ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กว่าจะไเ้กันเลือดคงหมดตัว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่าทางฝ่ายเขยเนี่ย คงเคารพเมีย (ในอนาคต) น่าดู  :hao3:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นสะใภ้ใจต้องใหญ่อย่างนี้สิลูก มือตีนต้องหนัก?เข้าไว้

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
น้องโซ่หนูเป็นสะไภ้ที่
มือหนัก ตีนหนักจริงๆลูก

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{03}






            “เฮ้ยไอ้โซ่ได้ข่าวว่าเบื่อMSXไอ้ยศแล้วหันไปซ้อนดูคาติไอ้พอร์ชช่างไฟมาหรอวะ?” เพียงแค่เดินเข้าห้องเรียนในชั่วโมงแรก โซ่ก็ต้องมาเจอกับเสียงเห่าหอนไปทางดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อนร่วมห้องที่ต้องกลายเป็นศัตรูกันตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน เพียงเพราะเขาไม่ได้เข้าไปเลียแข้งเลียขามันเหมือนหมาจรจัดอย่างที่หลายคนทำ และตั้งแต่นั้นมาแผนกช่างไฟก็ถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายโดยอัตโนมัติ แบบที่มันคิดไปเองว่าเขาหาเรื่องมัน ทั้งที่เขาก็อยู่ของเขาเฉยๆ มีแค่ไอ้ยศกับไอ้มหาล้อมเป็นเพื่อนอย่างเคย เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังจำหน้าเพื่อนคนอื่นไม่ได้อยู่ดี



            “ผมว่าคุณต้นเงียบไว้จะดีกว่านะครับ” และก็เป็นบุญล้อมที่เอ่ยเตือนต้นขึ้นมาด้วยความหวังดีจากใจจริง เพราะนอกจากตนกับยศแล้วก็ไม่มีใครรู้เลยว่าโซ่คือหลานชายเจ้าของค่ายมวยที่ถูกฝึกมาตั้งแต่จำความได้ และที่สำคัญเลย เห็นท่าทางสุขุมเยือกเย็นแบบนี้ แต่ความจริงแล้วเจ้าตัวนั้นใจร้อนยิ่งกว่าไฟ พร้อมที่จะเผาผลาญทำลายทุกอย่าง ถ้าหากว่าตบะแตกขึ้นมาละก็ คำว่านรกแตกยังน้อยไป โดยเฉพาะกับพวกที่ปากมากชอบพูดจากสอดเสียดไปทางดูถูกเหยียดหยามเจ้าตัวแบบนี้ เขาเคยเห็นมาแล้วกับตา และจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้



            บุญล้อมคนนี้ก็แค่ไม่อยากให้เพื่อนทำบาปด้วยการกระทืบปากหมาเท่านั้นเองครับ



            “ทำไมวะ? หรือว่ารับความจริงไม่ได้? เห็นไม่เล่นกับเพื่อนกูก็คิดว่าไม่ใช่แนวนี้ ที่ไหนได้ ไปคว้าเอาลูกเสี่ยตัวท็อปไอ้เหี้ยพอร์ชโน่น…นิ่งๆอย่างนี้เลือกเหยื่อเก่งนะมึง” ต้นยังคงดูแคลนโซ่อย่างสนุกปาก เพราะก่อนหน้านี้โซ่เพิ่งจะปฏิเสธเพื่อนซี้ต่างแผนกของต้นที่เข้ามาจีบตัวเองด้วยฝ่าเท้าไปหมาดๆ



            “หยุดเถอะนะครับคุณต้น ถ้าไม่ชอบหน้ากันก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะครับ” บุญล้อมเริ่มอยู่ไม่ติดที่ ก้าวขึ้นมายืนขวางหน้าต้นไว้ เมื่อเห็นแววตาของโซ่เริ่มประกายความแข็งกร้าวขึ้นมา



            “ไงวะ? ที่มาด้วยกันน่ะ เพราะมันรวยหรือมึงลีลาดีจนมันติดใจกันแน่วะ…กูโคตรอยากรู้เลย…เผื่อจะขอแจมด้วยสักคน”



            ปึก! โครม!



            สิ้นสุดคำพูดที่แสนดูหมิ่นนั้น ร่างสูงใหญ่ของต้นก็ถูกถีบกระเด็นไปติดชิดติดผนังห้องด้วยฝ่าเท้าหนักๆของโซ่ แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะดูเหมือนว่าไฟในตัวโซ่จะถูกจุดจนติดแล้ว เขาเดินเข้าไปกระทืบซ้ำๆตรงกลางอกของต้นอย่างที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งรับ ทั้งเตะทั้งถีบไปที่สีข้าง ประหนึ่งว่าต้นนั้นเป็นเพียงลูกบอลหรือไม่ก็กระสอบทรายไร้ชีวิตที่ไม่ต้องสนว่าจะเป็นหรือจะตาย ขอแต่เอาเลือดชั่วๆออกจากปากหมาๆของมันให้ได้ก็พอ ให้สมกับที่มันดูถูกเขาไว้



            “อย่ารุมนะครับ ไม่อย่างนั้นจะหาว่าบุญล้อมคนนี้ไม่เตือน” บุญล้อมตะโกนห้ามออกมาเมื่อเพื่อนๆในกลุ่มของต้นทำท่าจะกรูกันเข้าไปช่วยเจ้าตัวรุมทำร้ายโซ่ โดยที่มีเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่เข้าพวกกับต้นเพราะเกลียดความกร่างของเจ้าตัวช่วยมายืนเป็นโล่ป้องกันให้อีกแรง ทำให้ช่างไฟปีหนึ่งห้องสองนั้นถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งนั้นยังซื่อตรงกับต้นไม่เปลี่ยนแปลง แต่อีกฝ่ายกลับยืนหยัดที่จะปกป้องโซ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะปกติแล้วคนที่เหลือจะเป็นพวกต่างคนต่างอยู่ ภายใต้กฎเกณฑ์เพื่อนร่วมห้องที่ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันมากกว่า เหมือนกับให้รู้ว่าไอ้นี่คือเพื่อนเรา รุ่นเรา ห้องเราประมาณนั้น ต่างจากพวกของต้นที่เหนียวแน่นหนึบ เฮไหนเฮนั้น เกาะกลุ่มกันกร่างเก๋าไปทั่ว



            ปี๊ด~ ปี๊ด~



            “หยุด! หยุด~”



            ในขณะที่โซ่กำลังจมปักอยู่กับการกระทืบปากของต้นอยู่นั้น อาจารย์ฝ่ายปกครองที่มีนกหวีดเป็นอาวุธประจำตัวก็โผล่เข้ามาห้ามอย่างที่ไม่มีใครรู้ว่าแกนั้นมาได้ยังไง แต่ถ้าจะให้เดาก็คงจะมีใครสักคนที่ผ่านมาเห็นแล้วก็วิ่งแจ้นไปบอกแกนั้นแหละ เพราะตึกนี้เป็นตึกสามัญที่มีนักศึกษาทุกแผนกหมุนเวียนเปลี่ยนกันเข้ามาเรียนวิชาพื้นฐานอย่างเช่นอังกฤษ วิทย์ คณิต ไทย อะไรประมาณนั้น



            “หยุด! ผมบอกให้คุณหยุดไม่ได้ยินหรือไงนักศึกษา!” ครั้งนี้อาจารย์ฝ่ายปกครองตะเบ็งสุดเสียง และก็เหมือนจะได้ผล เมื่อโซ่ชะงักเท้าถอยกลับออกมายืนนิ่งอยู่ข้างร่างไร้สติของต้น



            “กรุณาตามผมไปที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้เลยคุณไอศูรย์ ส่วนพวกคุณที่เหลือก็พาเพื่อนที่เจ็บไปห้องพยาบาลด้วย” อาจารย์เรียกชื่อจริงของโซ่ตามรอยปักบนเสื้อช็อปที่โชว์เด่นหราอยู่บนอกด้านขวา



            “แต่เพื่อนผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนนะครับอาจารย์” บุญล้อมเดินตามมาแก้ต่างให้กับโซ่ ต่างจากเจ้าตัวที่ทำเพียงแต่เดินตามอาจารย์ฝ่ายปกครองไปเงียบๆ



            “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ในการสอบถามและพิจารณาของผมก็แล้วกันคุณบุญล้อม ส่วนคุณน่ะกลับไปเรียนได้แล้ว” อาจารย์ฝ่ายปกครองตอบกลับบุญล้อมด้วยท่าทางสงบนิ่ง ก่อนที่จะเอ่ยไล่ และเดินนำโซ่ไปที่ห้องฝ่ายปกครอง

..

..

..

            “ข่าวใหญ่โว้ยข่าวใหญ่!” ในขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มหัวเกรียนจอมทะเล้นที่เปรียบเสมือนสำนักข่าวเคลื่อนที่ประจำแผนกช่างไฟ ก็ร้องตะโกนหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องภูมิศาสตร์ที่เป็นวิชาแรกของวัน



            “น้องขิมแฟนมึงเขาหนีไปตีฉิ่งรึไงไอ้แว่นมึงถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้” พอร์ชตะโกนแหย่เพื่อนอย่างที่ชอบทำ เพราะแฟนสาวของแว่นเป็นนักเรียนโรงเรียนนาฏศิลป์ที่เรียบร้อยที่สุดเท่าเขาเคยเจอมาเลย



            “ทำเป็นปากดีไปไอ้พอร์ช เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับมึงโดยตรงเลย” แว่นแหวกฝูงเพื่อนเดินเข้ามานั่งเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้าพอร์ช เพราะรีบวิ่งหนีไอ้พวกช่างไฟที่อยู่ฝั่งโน้นมา หลังจากไปซุ่มแอบดูอยู่นาน เพราะตึกที่พวกเขาเรียนอยู่มันเป็นตึกแฝดที่เชื่อมอยู่กับตึกที่ไอ้พวกช่างเรียนอยู่ แล้วถ้าไม่นับทางเชื่อมนะสามเมตรที่กั้นกลางเนี่ยนะ ก็ถือว่าอยู่ห้องติดกันเลยล่ะ



            “เกี่ยวอะไรกับกูวะ?” พอร์ชถามอย่างไม่เข้าใจ



            “ก็เมื่อเช้ามึงมาวิลัยกลับใครล่ะ” แว่นถามกลับ



            “ไอ้นิ่ง? เกี่ยวอะไรกับมันว่ะ” เอาจริงๆตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกมาจนถึงตอนเขายังไม่รู้เลยว่าไอ้หน้านิ่งที่เขาไปยึดไอพอดมันมาชื่ออะไร รู้แต่ว่ามันอยู่ห้องสองช่างไฟ เลขที่เจ็ด เพราะตอนเข้าแถวมันอยู่ถัดจากเขาที่อยู่ในตำแหน่งเลขที่หก จะให้คนไปถามชื่อมันก็ไม่ได้ เพราะช่างยนต์กับช่างไฟ แค่เดินสวนกันก็แทบจะกระโดดกัดคอกันตายอยู่แล้ว อีกทั้งไอ้นิ่งมันยังเป็นคนเก็บตัวมาก จนเขาไม่สามารถไหว้วานเพื่อนที่อยู่ต่างแผนกให้ไปสืบหาได้เลย ถามใครก็ไม่มีใครรู้จักสักคน



            “ก็นั่นแหละ…เพราะมึงนั่นแหละไอ้พอร์ชที่ทำให้ไอ้โซ่โดนวิชัยลากเข้าห้องเย็นไป” แว่นบอก



            “โซ่?” พอร์ชยังไม่แน่ใจนักว่าไอ้โซ่ที่ไอ้แว่นพูดถึงนี้ใช่ไอ้นิ่งอย่างที่เขาคิดหรือเปล่า



            “ก็ไอ้นิ่งมึงนั่นแหละมันชื่อโซ่…จะจีบเขาแล้วยังไม่รู้จักชื่อเขาอีกเนาะเพื่อนกู” แว่นว่า



            “แล้วไงวะ ทำไมมันถึงโดนวิชัยลากเข้าห้องเย็นได้ล่ะ” พอร์ชถามต่อนิ่งๆ เพราะเป็นเรื่องปกติมากสำหรับเด็กช่างที่จะโดนเรียกไปฝ่ายปกครองหรือที่พวกเขาเรียกติดปากว่าห้องเย็น แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องทรงผมและแต่งตัวผิดระเบียบเสียมากกว่า น้อยครั้งที่จะเป็นเรื่องทะเลาะวิวาท เพราะเด็กเทคนิคที่นี่ไม่นิยมตีกันที่วิลัย แต่นัดเจอกันข้างนอกได้ทุกเวลา



            “ก็ไอ้เหี้ยต้นน่ะมันไปแซวไอ้โซ่เรื่องที่ซ้อนรถมากับมึงเมื่อเช้า แต่มึงก็รู้ว่าปากหมาๆอย่างไอ้ต้นมันไม่ได้แซวบ้าบอเหมือนอย่างที่พวกเราเล่นกัน แต่ไอ้เหี้ยนั่นมันพูดประมาณว่าเพราะมึงเป็นลูกป๋า ไอ้โซ่มันก็เลยทิ้งใครสักคนมาเกาะมึงอะไรอย่างนี้ไง ก็เลยโดนส้นตีนเข้าให้ แล้วกว่าวิชัยจะมา…ไอ้เหี้ยต้นก็สลบคาตีนไอ้โซ่ไปตั้งนานแล้ว” แว่นพูดเล่าออกมาเป็นฉากๆ จากตอนแรกที่พอร์ชว่าจะไม่สนใจเพราะคิดว่าคงเป็นเรื่องซุบซิบเหมือนอย่างทุกที แต่กลับกลายว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มากโข



            จากนั้นทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเข้ามาสอน แต่หากพอร์ชไม่อาจปล่อยวางความคิดออกจากเจ้าของไอพอดที่อยู่ในมือได้เลย



            “เป้ๆ กูขอยืมหูฟังหน่อยดิ” สะกิดเรียกเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆกัน เพราะเป้เป็นพวกชอบเล่นเกมส์จึงมักจะมีหูฟังโทรศัพท์ติดตัวมาเป็นประจำ



            พอได้หูฟังมา พอร์ชก็เลิกสนใจสิ่งรอบข้างไปในทันที ไม่สนแม้กระทั่งอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง ปล่อยอารมณ์จมไปกับสารพัดเพลงกล่อมเด็กในไอพอดของโซ่



            จนกระทั่ง…



ถ้าฉันหายไปจากชีวิตเธอ จะเสียใจบ้างรึเปล่า จะถามหาใจฉันคืนมาไหม อยากรู้

อยากลองถามใจเธอดูว่ามีฉันอยู่ ยังแคร์ฉันอยู่ บ้างไหม

หลายครั้งฉันมองแววตาของเธอ ฉันเห็นแค่ความว่างเปล่า ไม่เหมือนสายตาของคนเคยรัก เคยห่วงใย

บางอย่างที่ซ่อนในใจ ถึงเธอไม่บอก ฉันก็รู้สึก อยู่ในใจ

∗ มองตาก็รู้ว่าเธอไม่เหลือเยื่อใย ใจเธอนั้นพร้อมเดินไป กับใครอีกคนที่เข้ามา

บทเธออยากทิ้ง เธอทำได้อย่างเฉยชา สักคำเธอยังไม่พูดมา เธอบอกลาด้วยการที่เงียบไป

สมมุติฉันเองหมดลมหายใจ จากไปไม่ย้อนคืนมา จะมีน้ำตาให้กันบ้างไหม อยากรู้

อยากลองถามใจเธอดูว่ามีฉันอยู่ ยังแคร์ฉันอยู่ สักแค่ไหน

( ∗ ) ( ∗ )

บทเธออยากทิ้งเธอทำได้อย่างเฉยชา สักคำเธอยังไม่พูดมา เธอบอกลาด้วยการที่เงียบไป

ถ้าวันหนึ่งฉันต้องหายไป ไม่แปลกใจถ้าเธอ ไม่มีน้ำตา

(ถ้าฉันหายไป – ธัญญ์ วรดิษฐ์)


            “หืม…มันฟังเพลงปกติเหมือนคนอื่นก็ได้หรอวะเนี่ย” เพราะเสียงร้องทำนองดนตรีคุ้นหูที่ดังขึ้นมาทำให้พอร์ชรู้สึกแปลกใจ เพราะตั้งแต่แรกที่ฟังมา ดูเหมือนว่าในเครื่องของโซ่นั้นจะมีแต่เพลงกล่อมเด็กที่เขารู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างคละเคล้ากันไป จนกระทั้งเพลงนี้ดังขึ้นมานี่แหละเขาถึงรู้สึกประหลาดใจ แต่พอลองค้นดูแล้ว ก็เหมือนว่าในคลังเพลงทั้งหมดจะมีแค่เพลงนี้เพลงเดียวที่ไม่ใช่เพลงกล่อมเด็กของเจ้าตัว



            มันเพราะอะไรกันนะ? จู่ๆพอร์ชก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยบุคลิกท่าทางหรือการวางตัว จากที่ที่เห็นและสัมผัสมาไม่กี่ครั้ง ดูเหมือนว่าโซ่จะแตกต่างจากคนทั่วไปที่เขารู้จักอยู่มาก มันมีบางอย่างในตัวของโซ่ที่ดึงดูดและร้องเรียกให้เขาเข้าไปค้นหา เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร

..

..

..

            “เป็นยังไงบ้างครับคุณโซ่ อาจารย์วิชัยเขาว่ายังไงบ้างครับ” บุญล้อมที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอกับโซ่ในตอนพักกลางวันก็รีบตรงดิ่งเข้ามาถามทันที เพราะตลอดสี่ชั่วโมงที่เรียนอยู่เขาแทบจะนั่งไม่ติดที่เพราะรู้สึกเป็นห่วงไปหมด อีกทั้งโซ่เองก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองอีกด้วย เขาก็เลยไม่รู้จะติดต่อถามข่าวจากเพื่อนยังไง เพราะปกติแล้วโซ่จะตัวติดอยู่กับยศ มีอะไรเขาก็โทรถามหรือโทรตามโซ่ผ่านยศได้ แต่พอยศไม่มานี่เขารู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ในยุคโลเทคไร้เทคโนโลยีอย่างไงอย่างงั้นเลย



            “พักการเรียนสองอาทิตย์” เพราะเคยโดนทำทัณฑ์บนไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อตอนเปิดเทอมที่เดินหลงเข้าไปตรงที่เขากำลังตีกันก็เลยโดนหางเลขไปด้วย ครั้งนี้จึงโดนลงโทษด้วยการพักการเรียนสองสัปดาห์พร้อมเรียกผู้ปกครองมารับทราบความผิดของเขา และตาของเขาก็รีบมาทันทีเมื่อถูกทางวิลัยโทรตาม ก่อนที่จะกลับบ้านไปเมื่อพูดคุยกันเสร็จ ซึ่งตอนแรกตาก็จะลากเขากลับไปด้วยเลยนั่นแหละ เพียงเขาอ้างว่าจะอยู่คุยธุระกับเพื่อน แต่ความจริงแล้วเขารอที่จะเอาของของเขากลับคืนเท่านั้นเอง



            “สองอาทิตย์เลยหรอครับ!” บุญล้อมครางเสียงหลง เพราะสำหรับเด็กช่างแล้วแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงที่ขาดเรียนไปก็ทำให้เสียความรู้ไปมากมายทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติที่มีอะไรให้ฝึกฝนและเรียนรู้อีกนับไม่ถ้วน



            “อืม…มีงานอะไรก็เก็บไว้ให้กูด้วยล่ะ” โซ่บอกไว้เพียงแค่นั้นก่อนที่จะลุกเดินออกไป เมื่อเห็นคนที่ตนรอคอยอยู่กำลังเดินตรงเข้ามา



            “ไง~ คิดถึงกันหรอถึงได้รีบเดินมาหาอย่างนี้” พอร์ชยักคิ้วถามอย่างกวนๆ ทำเอาเพื่อนอีกสามสี่คนของเจ้าตัวหัวเราะลั่นเมื่อโซ่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมขยับปากด่าออกมาแบบไม่มีเสียงว่า…ส้นตีน!



            “เอาของกูมา” แบมือกระดิกนิ้วทวงของตัวเองคืน แบบพยายามที่จะไม่สนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเห่าหอนตรงหน้า



            หมับ!



            “ป่ะ! ไปกินข้าวกัน” พอร์ชจับหมับ จูงมือโซ่เดินกลับเข้าไปภายในโรงอาหาร ท่ามกลางสายตาความตกใจของผู้คน โดยเฉพาะแถบสีเสื้อของทั้งคู่ที่เป็นเหมือนสัญญาลักษณ์เตือนให้ทุกคนได้รับรู้ว่าควรถอยห่างให้ไกลที่สุด เพราะพวกมันอยู่ด้วยกันที่ไหนที่นั่น…บรรลัยทุกที!



            ปึก! ผัวะ!



            “ปล่อยกู” เสียงขู่รอดไรฟันของโซ่ที่มาพร้อมกับเสียงลั่นบนร่างกายของพอร์ชที่ถูกโซ่ประทุษร้ายด้วยการตบ ต่อย ทุบ ตี ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการหยอกล้อกันเสียมากกว่า เพราะพอร์ชยังคงตีหน้าเรียบเฉย แต่หากใครได้สังเกตเห็นสันกรามที่เจ้าขบกัดจนขึ้นรูป จะรู้ได้ทันทีเลยว่าเจ้าตัวนั้นต้องทนเก็บกลั้นความเจ็บไว้มากแค่ไหน เพราะน้ำหนักมือที่โซ่ซัดลงไปมันไม่ใช่เบาๆเลย



            “อยู่กินข้าวกับกูหมดกูคืนให้แน่…เอากระเพาหมูปนตับสองป้า” พูดบอกกับโซ่ก่อนที่จะหันไปสั่งข้าวร้านประจำของตัวเอง โดยไม่ได้รู้เลยว่าปกติแล้วโซ่ก็สั่งเมนูนี้ที่ร้านนี้เหมือนกัน



            “มึงเอาโค้กเหมือนเดิมนะไอ้พอร์ช” เป้ที่ได้ข้าวแล้วก็จะไปซื้อน้ำต่อก็ไม่ลืมที่จะถามเผื่อเพื่อนอย่างทุกวัน

            “สองเลย เผื่อมันด้วย” ใช้มือที่ว่างหยิบเงินส่งไปให้เพื่อน โดยไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อโซ่อีกคน



ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ล็อคแขนโซ่ไว้แน่น ซึ่งต้องใช้แรงมากพอสมควร เพราะโซ่นั้นพยายามที่จะดึงแขนออกอยู่ตลอดเวลา



            “…..” จากที่เคยทุบตีพอร์ช แต่พอเข้ามาในโรงอาหารที่เต็มไปด้วยนักศึกษาและอาจารย์ชายหญิง โซ่ที่ไม่ชอบเป็นจุดสนใจก็เปลี่ยนมาใช้การหยิกบิดเนื้อข้างเอวของพอร์ชเป็นการระบายความหงุดหงิดแทน



            “อยากหยิกก็หยิกไปเลยนะ แล้วก็อย่าหยุดล่ะ มีแรงเท่าไหร่ก็ใส่ไปให้หมด จะได้รู้สักทีว่ากู ‘อึด’ กว่าที่มึงคิดเยอะ” ถ้าเป็นผู้หญิงหรือเคะน้อยๆคงจะเขินตัวบิดเพราะคำพูดสองแย่สองง่ามที่มาพร้อมสายตาเจ้าชู้วิววับของพอร์ชเป็นแน่แท้ แต่หากคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือโซ่ผู้ซึ่งไม่เคยหลงใหลได้ปลื้มไปกับคารมคมคายของชายใด เจ้าตัวถึงได้ลงแรงบิดลงไปอีกเท่าตัวทำให้พอร์ชหลุดร้องออกมาเสียงดังหลง หมดมาดพี่พอร์ชคนหล่อโคตรเท่ห์ไปโดยปริยาย 





TBC.

ไม่ได้จีบเพื่อครอบครอง หวังจับจองเป็นครอบครัว #คำคมเด็กช่าง #ด้วยรัก

Ps. คนเขียนจะลงวันละตอนอย่างนี้ไปจนกว่าจะตามที่ลงไว้อีกเว็บนึงนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นี่เริ่มจีบโซ่แล้วใช่ป่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao4:



ใจเย็น เย๊นนนนนนนนนย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กว่าจะเป็นแฟนกันพอร์ชไม่ตายเป็นสิบรอบเลยเหรอ?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด