เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์
{19}
“กูกลับไปนอนรอที่บ้านได้ไหม” โซ่ที่นั่งอยู่เบาะหลังบ่นออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสภาพ
การจราจรบริเวณทางเข้าหน้างาน
“ใจเย็นครับที่รัก เดี๋ยวพี่พาซิ่ง” พูดจบพอร์ชก็เร่งเครื่องลัดเลาะไปตามช่องว่างระหว่าง
รถยนต์คันใหญ่ที่จอดติดยาวเป็นขบวน จนไปถึงจุดฝากรถที่ใกล้ประตูทางเข้างานที่สุด
จึก จึก
“หืม…ว่าไงครับ?” พอร์ชที่เล่นเกมระหว่างยืนต่อแถวเข้างาน เอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ได้หัน
กลับมามองเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสะกิดจากด้านหลัง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากโซ่
“เมื่อย” เพราะยืนต่อแถวรอเข้างานมายาวนานเกือบสามชั่วโมง จึงทำให้ขายาวๆของ
โซ่เริ่มล้า จะนั่งก็ไม่ได้ในเมื่อคนอื่นเข้ายืนกันหมด
“ขึ้นมา” ย่อตัวตบหลังเป็นเชิงบอกให้โซ่ขึ้นขี่ทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากเกมในมือ
“ทำกูตกมึงโดนแน่” ปกติโซ่ก็เป็นพวกไม่แคร์อะไรอยู่แล้ว ยิ่งมาต้องมาตกอยู่ใน
สถานการณ์ที่ร่างกายมันเรียกร้องอย่างนี้ก็อย่าหวังว่าเขาจะสนใจใคร กระโดดขึ้นหลังคนรัก
ทันทีที่อีกฝ่ายชี้ทางให้ มาถึงตอนนี้อะไรก็ได้ทั้งนั้นเพราะเมื่อยสะสมมาตั้งแต่ต้องนั่งซ้อน
สองล้อคู่ใจของพอร์ชติดต่อกันมานานเกือบสี่ห้าชั่วโมงแล้ว สำหรับพวกพอร์ชคงไม่เป็นไร
เพราะชินจากพากที่ออกทริปตระเวนเที่ยวกันอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับเขาที่นั่งยิงยาวเป็น
ครั้งแรกบอกได้คำเดียวเลยว่า…เส้นยึด!
“น่า…เชื่อใจกันหน่อย” ขยับตัวตบก้นโซ่ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก้มลงเล่นเกมต่อแบบ
ไม่สนสายตาชาวประชาที่พากันจ้องมายังพวกเขาเป็นจุดเดียว
“เชี่ย! ตายห่าอีกละ!” พอร์ชสบถเสียงขุ่น เมื่อตัวละครในเกมตายเป็นครั้งที่สามภาย
ในสองนาที จะเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่นก็ไม่ได้อีกในเมื่อแถวนนี้สัญญาณไม่ดี อย่าว่าแต่เปิดใช้
อินเตอร์เน็ตเลย ลำพังแค่จะโทรหาใครยังไม่โทรไม่อยากจะติด
“พอเลย เดี๋ยวเหรียญกูหมด” เพราะการที่จะกลับมาเล่นต่อในจุดเดิมที่ตายจะต้อง
ใช้เหรียญที่สะสมมาตลอดตั้งแต่เริ่มเล่นเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าของเกมที่ตั้งใจเก็บสะสมเหรียญ
มาตั้งแต่แรกเริ่มจึงไม่ยอมให้คนรักกดเล่นต่อเป็นครั้งที่สี่ ถึงแม้ว่าโทรศัพท์จะเป็นของพอร์ชก็ตาม
“งกหรอ?” ไม่ใช่แค่ถามปากเปล่า แต่พอร์ชยังแกล้งโยกตัวไปมา แล้วใช้สองมือตบก้น
โซ่เล่นอย่างสนุกสนานอีกต่างหาก อีกได้ว่าใครจะมองยังไง ก็ช่างแม่ม…กูไม่สน!
โป๊ก!
“โอ้ย!” พอร์ชร้องเสียงหลงเมื่อถูกเคาะกะโหลกด้วยกำปั้นไม่มีรูของคนรักแบบจังๆ
“สม! เดินไปเลย” ใช้สองมือจิกผม แทนคันบังคับ สั่งให้พอร์ชออกเดินเข้างาน หลัง
จากที่ต่อคิวเข้าแถวมาเกือบสามชั่วโมงเต็ม
“เดี๋ยวนี้ชอบใช้กำลังกับกูจังนะ ชอบความรุนแรงงะ? ซาดิสม์หรอ?” แม้ว่าจะผ่าน
ประตูเข้างานมาแล้วแต่พอร์ชก็ยังไม่ยอมปล่อยให้โซ่เดินด้วยตัวเอง ทำเหมือนว่าคนรักได้
รับบาดเจ็บที่ขาจนเดินไม่ได้ซะอย่างนั้น
“เปล่า…ไม่ได้ซาดิสม์ ก็แค่เป็นพวก ‘มาโซคิสม์’ เต็มตัวก็เท่านั้นเอง” กระซิบบอก
ข้างหูพอร์ชด้วยเสียงชวนสยิว ก่อนที่จะกระโดดลงไปเดินกอดคอเพื่อนอย่างสบายใจ
ต่างจากพอร์ชที่ยังคงยืนเอ๋อ จับคลึงติ่งหูตัวเองอยู่ที่เดิม เพราะยังรู้สึกถึงคมเขี้ยวที่
คนรักตั้งใจฝากไว้อย่างชัดเจน
เข้างานมาได้แก๊งแว้นเขาก็พากันไปซื้อของที่ระลึกตามความชอบของใครของมัน
แต่สิ่งหนึ่งคือ ‘เสื้อ’ พวกเขาทั้งหกคนตกลงซื้อเสื้อลายสีดำลายวัวสวมแว่นกวนๆเปลี่ยน
พร้อมกันที่ตรงนั้น เรียกว่าซื้อเสร็จก็แกะถุงใส่กันทันที
“มาถ่ายรูปกันหน่อยโว้ย!” แวนยืนโบกมือหวอยๆเรียกเพื่อนอยู่หน้าโลโก้รูปวัวตัวใหญ่
“เอ้า! ยิ้ม~” ใส่สักคนในแก๊งแว้นตะโกนบอก ก่อนที่เสียงชัตเตอร์จากกล้องของแวน
ที่อยู่ในมือบุคคลปริศาทว่าใจดีจะดังขึ้นรัวๆอีกกว่าสิบครั้ง
“กูจะดู Jetset'er” แวนเอ่ยขึ้นมาก่อนเป็นคนแรก
“เมียกูจะดู DJ” เป้เพยิดหน้าไปทางซีที่กำลังกอดอกทำหน้างออยู่ข้างๆ
“ส่วนกูพี่ปั๊บแน่นอน” พอร์ชเองก็ยืนยันหนักแน่น เพราะเล็งมาตั้งแต่ที่บ้านแล้วว่า
จะอยู่หน้าเวทีศิลปินคนโปรดตั้งแต่แรกเริ่มยันจบงาน
“สรุปแล้ว?” บุญล้อมที่ยืนเงียบมานานก็อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะแก๊งแว้นยืนเถียง
กันอยู่อย่างนี้มาพักใหญ่แล้ว
“ต่างคนต่างไปก็จบ” โซ่พูดบอกออกมาอย่างเนือยๆ
“เออ ก็ดี ต่างคนต่างไป จบเมื่อไหร่ไปเจอกันที่บ้าน” พอร์ชสรุป ก่อนที่ทุกคน
จะพยักหน้าเห็นด้วย เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปตามที่มา คือโซ่อยู่กับพอร์ช เป้ไปกับซี
บุญล้อมต้องไปกับแวน เพราะแวนเป็นคนเดียวในแก๊งแว้นที่ไม่มีรถ ส่วนบุญล้อมเป็น
เด็กวัดที่มีดูคาติ จึงทำให้ทั้งสองคนจำเป็นต้องทำตัวผูกติดกันตั้งแต่ออกเดินทางมา
จากพิจิตร ตามความต้องการของพ่อมหาเจ้าเล่ห์ที่แอบวางแผนไว้เป็นขั้นเป็นตอนคนเดียวเงียบๆ
“เบื่อเปล่า” เพราะยังไม่ถึงเวลาที่ศิลปินนักร้องคนใดจะขึ้นแสดง คนดูอย่าง
พอร์ชกับโซ่จึงต้องมานั่งจองที่อยู่หน้าเวทีเพื่อรอเวลา
“เรื่อง?”
“ก็ที่โดนกูลากไปไหนมาไหนแบบนี้ไง” จากที่นั่งข้างกันก็เปลี่ยนไปนั่งพิงหลัง
แล้วหันหน้าไปคนละทางแทน
“ได้ข่าวว่ากูเป็นคนหาบัตร” โซ่แย้ง เพราะดูเหมือนว่าพอร์ชจะลืมไปแล้วว่า
ตนเป็นคนจ่ายเงินและชี้ช่องทางการหาบัตรให้กับเป้ ซึ่งอาจจะไม่ได้เอ่ยปากชวนคนรัก
ออกมาเที่ยวตรงๆ แต่ก็เป็นตัวตั้งตัวตีในการออกทริปครั้งนี้
“แต่มึงไม่ชอบความวุ่นวาย แล้วการมาเที่ยวอย่างนี้ก็โคตรจะวุ่นวาย มึงไม่รำคาญหรอ?”
ไม่รู้ว่าพอร์ชต้องการคำตอบอย่างไร แต่เขายังคงตั้งคำถามต่อไปเรื่อยๆเหมือนไม่มีจุดหมาย
“ก็ไม่เห็นวุ่นวายตรงไหน” โซ่บอก
“ห้ะ? การที่มีคนอยู่รอบตัวเป็นพันคนนี่มึงบอกไม่วุ่นวาย?” คว้าศีรษะของคนรักจาก
ทางด้านหลัง ร้องถามอย่างหยอกล้อ
“เออ”
“บ้าไปแล้ว” ใช้สองมือเขย่าศีรษะคนรักอย่างเมามัน จนโซ่เริ่มรำคาญ คว้าหมับ
เข้าที่ผมปอยหน้าของพอร์ชเสียจนเจ้าตัวร้องลั่น
“ถ้าการที่มีมึงอยู่ในสายตาตลอดเวลาแล้วบอกว่าบ้า ก็ช่างแม่ง…กูสนแค่มึง” คำตอบ
จากปากของโซ่ทำเอาพอร์ชถึงกลับต้องรีบกระโดดหมุนตัวหันมาประจันหน้ากับโซ่ จ้องหน้า
คนรักอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“น่ารักฉิบหาย” แอบจุ๊บลงไปบนริมฝีปากด้วยความรวดเร็ว เพราะคงจะไม่ดีนัก
ถ้าหากว่ามีใครมาเห็นผู้ชายสองคนนั่งจูบกันอยู่กลางลานกว้างอย่างนี้
..
..
..
ปึง!
“นอนแล้วหรอ?” พอร์ชที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามคนรักเบาๆอย่างไม่แน่ใจ เมื่อเห็นว่า
ร่างโปร่งภายใต้ผ้านวมผืนหนาเงียบไป หลังจากที่เจ้าตัวอาบน้ำเสร็จตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“ยัง” โซ่ตอบกลับมาเบาๆ
“ทำอะไร” กระโดดขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างคนรัก พยายามที่จะเปิดผ้าห่มออก
แต่โซ่ก็ไม่ยอม ยังคงมุดหน้านอนอยู่อย่างนั้น
“กำลังคิดอยู่ว่าจะอ่อยมึงยังไงดี” คำตอบที่ได้จากปากคนรักทำเอาพอร์ชอ้าเหวอ
ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาตรงๆ
“อยากหรอ?” แกล้งก้มลงไปกระซิบถามเบาๆที่ข้างหู
“อือ” พอร์ชหัวเราะลั่นออกมาอย่างชอบใจเมื่อคนรักยอมสารภาพออกมา
ตามความต้องการของร่างกายแบบไม่มีปิดบังเหมือนก่อนหน้าที่พอร์ชชอบถามเวลา
อยู่บ้านที่เจ้าตัวมักจะทำซึนปฏิเสธอยู่ล่ำไป แม้ว่าบางครั้งเขาจะช่วยตัวเองแบบอ้าซ่า
ท้าลมอยู่ต่อหน้าเจ้าตัวก็ตาม
“ก็แค่นั้น อยากก็บอกว่าอยาก ไม่เห็นต้องอายเลย” เปิดผ้าห่มมุดเข้าไปค่อมทับคนรักไว้
“เปล่า แค่กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้แผนไหนหลอกจิ้มมึงดี”
ป้าบ!
“เลิกคิดไปเลยครับเมีย กูไม่ยอมให้มึงเป็นผัวกูแน่นอน” ตบแปะเข้าไปที่กลาง
หน้าผากคนรักเบาๆ เตือนสติให้เจ้าตัวเลิกคิดเพ้อเจ้อในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้สักที
“ถ้าอย่างนั้น…ก็สนองกูหน่อย เพราะถ้ามึงไม่เจ๋งจริงอย่างที่เคยโม้ไว้…โดนกูจิ้มแน่”
ยกสองแขนขึ้นคล้องคอคนรัก ฉุดรั้งให้คนตัวโตโน้มตัวต่ำลงมา กดจูบเปิดฉาก เริ่มเกมรักครั้งแรก
ที่จะเป็นของกันและกันอย่างเต็มตัว สำหรับโซ่แล้วเขาไม่คิดมากเรื่องใครจะรุกหรือใครจะรับหรอก
เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่การสนองความต้องการของร่างกาย เป็นกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์
ระหว่างคนรักกันก็เท่านั้นเอง เพียงแต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีความคิดที่จะให้ใครล่วงล้ำภายในร่างกาย
จนได้มาเจอพอร์ชนี่แหละ ที่คิดจะยอมให้เจ้าตัว เพราะทำใจเอาหมียักษ์มาเป็นเมียไม่ได้จริงๆ แต่เหนือ
สิ่งอื่นใดคือ ระหว่างพอร์ชกับเขามีเรื่องของหัวใจ ความรัก และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่แค่
พบเพื่อเพียงผ่านแล้วก็จากไปอย่างที่แล้วมา
“ถึงเวลานั้นอย่าขอให้หยุดก็แล้วกันครับ…เมีย” พูดจบก็ก้มลงฉีกกระชากเสื้อนอนของ
คนรักจนขาดกระจาย สนองความต้องการส่วนลึกในใจของตนและคนรัก บอกตามตรงเลยว่าแอบ
ดีใจที่ได้ยินโซ่บอกว่าเป็นมาโซคิสม์เพราะเขาเองถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พวกซาดิสม์เต็มตัว แต่ก็ชอบ
สัมผัสที่ร้อนแรงมากกว่านุ่มนวล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครสามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนี้
ของเขาได้เลย จะเรียกว่าเจอมวยถูกคู่แล้วก็ย่อมได้ ถ้าวัดจากสัมผัสที่โซ่ตอบสนองเขาผ่านรอย
เล็บยามที่ฝ่ามือเรียวของเจ้าตัวเคลื่อนผ่านร่างกายเขาละนะ
“อืม” พลิกตัวกลับเอาร่างใหญ่ยักษ์ของคนรักลงใต้ร่าง แสดงให้เห็นว่าตนเองก็ไม่ได้
ด้อยไปกว่ากัน อย่าลืมนะว่าก่อนที่จะมายอมศิโรราบทิ้งกายบนเตียงให้พอร์ชอย่างนี้ โซ่เองก็เคย
อยู่ตำแหน่งเดียวกับที่พอร์ชเป็น ไล่พรมจูบตั้งแต่หน้าผาก ปลายคาง สันจมูก เปลือกตาทั้งสองข้าง
แล้ววกกลับมาหาริมฝีปากได้รูป จูบซับตามปลายนิ้วที่เลื่อนผ่าน ขบกัดจนหน้าท้องของพอร์ชเกร็ง
ขึ้นรูปสัดส่วนกล้ามเนื้อที่สวยงามอย่างชัดเจน
มือเรียวเลื้อยซนลงไปต่ำไปเรื่อย ลูบหัวปลอบลูกรักติดตัวของคนรักอย่างแผ่วเบา หวังจะ
ช่วยบรรเทาความตื่นเต้นให้ แต่เหมือนเจ้าพอร์ชน้อยจะเข้าใจผิด คิดว่าป๋าโซ่แกล้ง ถึงได้พองตัวขู่
สู้จนเต็มกำมือ
“โซ่จ๋าหันมาหาเฮียหน่อย” เอ่ยปาเรียกขาน แต่มือหนานั้นไปคว้าเอาท่อนขาคนรักขึ้นมาแนบอก
ทั้งบีบทั้งตีจนซาลาเปาเด้งดึ่งที่นาบขนาบร่องรักของโซ่นั้นแดงก่ำ ฟ้องให้เห็นว่าโดนทารุณหนักขนาดไหน
“อือ…อา~” โซ่ครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าตัวน้อยที่ไม่เล็กของตัวเองถูกพอร์ชล็อคคอไว้แน่น บีบนวด
อย่างมันมือ เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย แต่ในขณะเดียวกันมือที่ว่างอีกข้างของเจ้าตัวกลับมาลูบไล้ปลอบโยน
อยู่หน้าปากถ้ำอย่างเอาใจ จนโซ่เริ่มตามไม่ทัน คว้าหมับเข้าที่เจ้าตัวดีที่กำลังพองตัวชี้หน้าตนอย่างเอาเรื่อง
แกล้งขยับขึ้นลงแรงๆ จนน้องตาแดงเริ่มร้องไห้ ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน กดจูบลงไปเบาที่หัวกลมมนหวังที่จะ
ซับน้ำตาให้ แต่ไอ้ตัวพ่อมันที่อยู่ข้างหลังกลับแก้แค้นเขาด้วยการส่งนิ้วสากๆเข้าไปสำรวจถ้าของเขาอย่างซุกซน
โซ่ก็เลยจัดการอ้างับหัวไอ้เด็กตาแดงจนสุดลำ ตวัดลิ้นเลียให้มันทรมานจนขาดใจ
“อืม~ เก่งมากครับที่รัก แต่เหลือพี่ขอจัดการเอง” ลุกขึ้นมาอุ้มร่างคนรักขว้างลงเตียงแบบไม่มีการถนอม
ผละเดินออกไปหยิบเครื่องป้องกันกับเจลหล่อลื่นที่ซ่อนเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ที่เอาติดมาเผื่อ (ตั้งใจ) ฉุกเฉิน
“กะล่อกูเต็มที่เลยสิมึงนะ” โซ่ที่มองตามคนรักไปตลอดทางก็อดไม่ได้ที่จะค่อนแขวะออกมาตรงๆ
กับไอ้คนที่ดูเหมือนว่าจะยั่วไม่ขึ้นเมื่อช่วงบ่าย แต่ไหงเจ้าตัวกลับพกเครื่องป้องกันมาพร้อมขนาดนี้
“แน่นอน…บรรยากาศดีๆอย่างนี้เหมาะที่จะ ‘รักเมีย’ ที่สุดแล้ว” ใส่หมวกกันน็อคพร้อมรบเสร็จก็
กระโจนลงเตียง กลับไปฟัดโซ่ต่อ
“ไม่เอา…ครั้งแรกกูอยากได้แบบสุดๆ” โซ่ขืนตัวออกห่างเมื่อพอร์ชจะช่วยขยายช่องทางการเดินรัก
พร้อมทั้งบอกถึงความต้องการสุดโต่งของตนเอง
“อย่าดื้อ! เดี๋ยวเจ็บ พรุ่งนี้ต้องนั่งรถอีกไกล” เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพร่างกายของคนรักหลังเสร็จกิจ
พอร์ชเลยไม่ยอมทำตามคำขอของโซ่ เปิดหลอดบีบเจลหล่อลื่นใส่มือเตรียมพร้อม
“ลงมานอน…เดี๋ยวกูจัดให้เอง” ยกฝ่าเท้ายันอกแกร่งของคนรักไว้ เสนอถึงทางออกที่ทำให้พอร์ช
ยอมทิ้งเจลหล่อลื่นบนฝ่ามือในที่สุด เพราะที่เจ้าตัวพูดนั่นไม่ใช่ว่าจะใจดียอมขึ้นบนให้หรอกนะ แต่โซ่กำลัง
สงสารบอกกับพอร์ชผ่านสายตาว่า ถ้ามึงอ่อน…กูจิ้มมึงแน่
“ถ้าร้องเจ็บกูจะซ้ำให้!” เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบอกอย่างระอา เมื่อคนรักดื้อดึง ไม่ยอมรับความหวังดี
ที่ตนมอบให้
โซ่เองที่มีนิสัยขี้รำคาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ไม่รอให้คนรักพูดจบหรอก ใช้ขาแข็งแรงทั้งสองข้าง
หนีบเอวสอบของคนรักเข้ามาจนพอร์ชเสียหลักทาบทับลงบนตัว สายตาร้อนแรงทั้งสองคู่มองกันอย่างท้าทาย
พอร์ชที่หงุดหงิดกับความดื้อดึงของคนรักเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ก้มลงไปกัดริมฝีปากอิ่มของโซ่อย่างแรง
ไม่มีการถนอมเช่นก่อนหน้า โซ่เองก็ไม่ยอมแพ้ใช้สองแขนคล้องคอหนาของคนรัก อ้อมไปจิกเส้นผมจาก
ทางด้านหลัง จนหน้าพอร์ชเชิดสูงขึ้น เหมือนจะเจ็บแสบอยู่ไม่น้อย ทว่าริมฝีปากของเขาทั้งคู่กลับไม่หลุดออกจากกัน
“อื้อ~” โซ่จิกหลังพอร์ชแน่นจนขึ้นรอยเล็บ เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่สอดแทรกผ่านร่างกายช่วงล่าง
เข้ามาทีละน้อยเหมือนว่าพอร์ชจะใจเย็น ก่อนที่จะร้องลั่นอีกครั้งเมื่อคนขี้แกล้งข้างบนตัดสินใจกดตัวลงมาจน
แนบชิดสนิทกัน ไม่เหลือช่องว่างให้อากาศผ่านได้
“สม! อยากดื้อดีนัก” ถอนตัวออกมาครึ่งหนึ่งแล้วสอดซ้ำกลับไป ทำอย่างนั้นอยู่สักพัก จนโซ่เริ่ม
ปรับตัวได้ วัดจากเสียงครางและสะโพกที่ตอบรับกับจังหวะที่เขาส่งให้
“อะ…อะ…อื้อ~” มาถึงตอนนี้โซ่รู้แล้วว่าทำไมเกย์ต้นตำหรับถึงมีฝ่ายรับมากกว่าฝ่ายรุก เหวี่ยงมือฟาด
ระบายอารมณ์บนหน้าอกและลำหนาคอของพอร์ชมั่วไปหมด เมื่อเจ้าตัวยื่นมือลงมาช่วยชักจูงลูกชายเขาสู่สวรรค์
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลูกชายของมันกำลังบุกรุกช่องทางของเขาอย่างระรัว ด้วยแรงส่งที่ทวีคูณความเร็วและ
ความแรงขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“อื้อ~” โซ่ผวาตัวขึ้นกอดคนรักไว้แน่นเมื่อถึงขีดสุดของอารมณ์
“อืม…” ส่วนพอร์ชเองก็ทิ้งตัวลงทับร่างอันปวกเปียกของคนรักที่พึ่งผ่านสมรภูมิร่วมรักด้วยกัน
มาหมาดๆ จูบซับซอกคอ สูดกลิ่นหอมประจำกายของโซ่เข้าปอดเฮือกใหญ่ ตั้งแต่แรกเริ่มริรักจนมาถึงวันนี้
สารภาพตรงๆแบบลูกผู้ชายเลยว่า โซ่คือที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะทางด้านร่างกายหรือจิตใจ โซ่สามารถเติมเต็ม
ให้เขาได้มากกว่าคนอื่น แบบชนะขาดลอยไปเลย
..
..
..
“หนาวฉิบ!” โซ่เดินตัวสั่นออกมาจากห้องน้ำ โดยมีพอร์ชเดินตามมาติดๆ หลังจากที่ทั้ง
สองคนพากันไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอีกรอบ
“กินยาเสร็จแล้วนอนเลย เดี๋ยวไม่สบาย” ยื่นยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดพร้อมขวดน้ำให้
คนรักที่นั่งปากซีดอยู่บนเตียง เพราะตอนอาบน้ำพอร์ชจับโซ่สำรวจร่างกายมาเรียบร้อยแล้วว่า
เจ้าตัวบอบช้ำที่จุดไหนบ้าง เช่นเดียวกับที่ตัวเขาเองมีรอยเล็บของคนรักประดับไปทั่วทั้งร่างกาย
“บ่นเพื่อ? เบื่อหรอ?” พูดไปแล้วก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ที่อยู่ดีๆก็คิดกลัว ว่าพอร์ชจ
ะเบื่อในความเอาแต่ใจของตนเองขึ้นมา
“ไม่ได้บ่น ก็แค่เป็นห่วงเท่านั้นเองครับ” พอร์ชรีบแก้ต่างให้ตนเองเพราะดูเหมือนว่าคนรัก
จะเข้าใจเจตนาเขาผิดไป ยิ้มหยอกส่งคำหวานเอาใจสักหน่อย เพื่อความบึ้งตึงนั้นจะหายไปจากใบ
หน้านวลของน้องนายสุดที่รัก
“ปากดี!” ขว้างขวดน้ำในมือคืนให้คนตัวโตที่ยืนรออยู่ แต่เหมือนว่าจะกะแรงผิดไปนิด
ขวดน้ำนั้นถึงได้กระเด็นไปโดนหน้าท้องแกร่งภายใต้เสื้อกล้ามสีเทาตัวเก่งของพอร์ชดังปึก
ทำเอาจุกไปตามระเบียบ
“เขินรุนแรงตลอด…นอน!” กระโดดลงเตียง มุดเข้าผ้าห่ม คว้าตัวคนรักเข้ามากอด
ระดมจูบแก้มซ้ายขวาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ห้วงแห่งนิทราจะเข้ามาเยือน แล้วพากันหลับไปในที่สุด
TBC.