{End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}  (อ่าน 85372 ครั้ง)

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{16}





            เพล้ง!



            ‘ฉันบอกให้แกระวังไงไอ้โซ่! ของฉันเสียหายหมดแล้ว…ไอ้เด็กเวรนี่!’
เสียงเอ็ดตะโรที่ดังตามเสียงแก้วไวน์ในมือตกแตกทำเอาเด็กชายหวาดกลัวหัวหด
เกรงว่าตนเองจะเจ็บตัวในอีกไม่ช้านี้…เหมือนอย่างทุกที



            เด็กชายนั่งลงเก็บเศษแก้วอย่างระวัง เท่าที่วัยห้าขวบปีของตนจะเอื้ออำนวย



            ‘เก็บเศษแก้วให้หมดนะไอ้โซ่! ถ้ายังเหลือให้บาดเท้าลูกสาวฉันแกโดนแน่’



            สองมือน้อยสั่นเทาเพราะไม่อาจควบคุมได้ เช่นเดียวกับหยาดน้ำตาที่หลั่ง
รดกระทบพื้น ความหวาดกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจ เหมือนโดนคำสาปแม่มดร้ายใน
ยามที่ได้ยินเสียงตวาดแว้ดขอมารดาผู้ให้กำเนิด



            ‘พี่จ๋า…ป๊ะป๋า…มารับน้องโซ่หน่อย’ ในยามที่หัวใจอ่อนแอและเต็มไปด้วย
ความทุกข์เฉกเช่นนี้ เด็กน้อยก็ได้แต่พร่ำเพ้อหาที่พึ่งทางใจทั้งสอง คนที่เคยให้
สัญญาไว้ว่าจะกลับมารับ แต่นับจากวันที่ทั้งสองจากไป ก็ไม่มีใครหวนคืนกลับ
มาหาเขาดั่งคำสัญญาที่ว่าไว้แม้แต่คนเดียว



            ‘น้องโซ่อยากกินไข่พะโล้บ้าง’ ก้มลงมองในจานข้าวของตัวเองที่มี
เจิ่งนองไปด้วยน้ำพะโล้กับเต้าหู้ทอดชิ้นเล็กๆ แล้วลองพูดบอกความต้อง
การออกไปบ้าง เผื่อจะได้อย่างที่ขอ



            ‘มีให้กินก็กินเข้าไปอย่าเรื่องมาก! ก่อนที่จะอด!’ ได้ยินคำตอบแล้วก็ต้องหัวหด
หวนคิดถึงวันวาน ก่อนที่จะเป็นอย่างวันนี้ ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นคนนั้น คนที่เธอเคยให้
ความสำคัญ คนที่เคยคอยป้อนข้าวเอาใจ



            เหลือบตามองจานข้าวเป็ดน้อยของน้องสาวที่เต็มไปด้วยไข่พะโล้กับหมูปิ้ง
แล้วได้แต่อิจฉา ว่าทำไมของที่ตนอยากทานถึงได้ไปถมอยู่ในจานใบเล็กนั้นเสียหมด
ทั้งที่สุดท้ายแล้วเด็กผมเปียคนนั้นก็ทานไม่เคยหมดสักที แล้วก็เป็นเขาเสียทุกครั้งที่
ต้องแอบเก็บกินเพราะเสียดาย



            เพล้ง!



            ‘ฉันบอกให้แกทำดีๆไม่ใช่รึไงไอ้โซ่ ของฉันเสียหายหมดแล้วไอ้เด็กเวรเอ้ย!
อยากตายรึไง!’ คราวนี้ไม่ใช่แค่คำด่าทอ แต่ข้าวของที่อยู่ใกล้ฝ่ามือของหญิงสาวนั้น
ถูกหยิบขว้างใส่เด็กชายอย่างต่อเนื่อง โดนหน้าบ้างหัวบ้างไม่ว่ากัน ขอแค่ให้มันเจ็บ
สมกับที่ทำน้ำหอมฝรั่งเศษของเขาตกแตกก็พอ



            ปึก!



            ‘ฮึก! แง้!!!!!’ เด็กชายร้องจ้า เมื่อโดนแก้วเขี่ยบุหรี่กระแทกจังๆกลาง
หน้าผากจนได้เลือด แต่คำพูดเดียวที่ได้ยินจากปากคนเป็นแม่นั้นคือ…



            ‘สมน้ำหน้า’



            “เจ็บ…แม่จ๋าน้องโซ่เจ็บ...ฮึก!”



            “นิ่ง…โซ่…โซ่!” พอร์ชที่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องโวยวายของคนรัก
พยายามเขย่าตัว เรียกให้โซ่รู้สึกตัว แต่ไม่ว่าจะเสียงดังแค่ไหน ก็เหมือนกับว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ยินเขาเลย



            “พี่จ๋า~ ป๋าจ๋า~ ช่วยน้องโซ่…น้องโซ่เจ็บ” ยกมือขึ้นกุมหน้าผาก
พร่ำบอกถึงความเจ็บปวดที่มีของตนเองให้ใครฟังก็ไม่รู้ แต่ทำเอาคนที่นอน
ข้างกันทุกคืนอย่างพอร์ชแทบบ้า เพราะหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมา
ให้เห็นนั้นมันเป็นของจริง!



            เจ้าชายน้ำแข็งอย่างไอ้นิ่งคนรักของเขาเนี่ยนะร้องไห้? พูดไปใครเขาจะเชื่อ



            แต่ถ้า…คำ ‘เจ็บ’ ที่เจ้าตัวเอาแต่พูดซ้ำไปมานี้ ถ้าไม่ได้เกิดจากร่างกาย
ก็คงเป็นที่…จิตใจ ซึ่งพอร์ชเองก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า หลังจากที่
พยายามหารอยช้ำหรือบาดแผลจากร่างกายของคนรักแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไรที่ตรงไหน
รวมถึงหน้าผากที่เจ้าใช้มือตัวกุมปิดไว้



            “โซ่…โซ่…ตื่นเถอะ…โซ่ตื่น!” ไม่ว่าพอร์ชจะเรียกด้วยน้ำเสียงแบบไหนก็
ไม่เกิดผล เพราะโซ่ยังคงเอาแต่ร้องไห้ พูดอ้อนวอนซ้ำๆด้วยคำเดิม



            “ป๋าจ๋า…ช่วยโซ่…ช่วยน้องโซ่ด้วย  น้องโซ่เจ็บ…เจ็บมากเลย” ยกสองมือ
ขึ้นไขว่คว้าอากาศ หวังว่าจะเจอคนที่ตนรอคอย ยิ่งได้ยินโซ่บอกว่าเจ็บด้วยสีหน้า
และท่าทางที่ทรมานมากแค่ไหน พอร์ชก็ยิ่งรู้สึกสะเทือนใจมากขึ้นเท่านั้น



            “ชู่ว…โซ่…น้องโซ่ครับ ไม่ร้องน้า~ พี่พอร์ชอยู่ตรงนี้แล้ว”



            พูดไปใครจะเชื่อ ว่าคนห่ามโคตรเกรียนอย่างไอ้พอร์ช หัวโจกประจำ
แผนกช่างยนต์มันมีมุมอ่อนโยน วาดแขนโอบเอาร่างคนรักเข้ามากกกอด กระซิบ
เสียงอ่อนปลอบประโลม หวังว่าคนรักจะบรรเทา หายจากความหวาดกลัวต่ออะไร
ก็ตามที่เจ้าตัวกำลังเผชิญอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เขาคนนี้จะปกป้องคนรักจาก
ความเลวร้ายเหล่านั้นเอง



            ‘วันนี้ฉันจะตีแกให้ตายเลยไอ้โซ่! ให้ทำอะไรก็ไม่เคยได้เรื่อง…เลี้ยงเสียข้าวสุก!’



            “ไม่…ไม่เอา…ไม่ตีนะ…โซ่กลัว”



            ยิ่งเสียงในห้วงแห่งความทรงจำดังก้องมากเท่าใด ความบอบช้ำยิ่งทวีคูณ
กัดกินจิตใจ ย้ำเตือนถึงความเดิมที่เคยพบ



            ‘คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรอไอ้โซ่! ออกมานะ…ออกมา!’



            “อย่า…อย่าทำโซ่…แม่อย่าตีโซ่นะ…โซ่เจ็บ”



            ตัวสั่นงันงกเหมือนลูกนกไร้รัง ยกสองมือขึ้นไขว่คว้า หาที่พึ่ง

            “ชู่ว…นิ่งน้า~ ไม่ร้องน้า~ ซุปเปอร์พอร์ชอยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำอะไรน้อง
โซ่ได้อีกแล้วนะครับ” จะเรียกว่าบ้าก็ไม่ผิดที่มานอนคุยกับคนละเมอเป็นเรื่องเป็นราว
ยาวนานหลายนาทีขนาดนี้ แต่สำหรับพอร์ชแล้ว เขาถือว่าเป็น ‘สัญญา’ แม้ว่าเจ้าตัวจะ
ไม่รู้เรื่องก็ตาม แต่นับจากนี้ไป เขาจะไม่ให้อะไรมาทำร้ายจิตใจ ทำให้คนรักต้องจมอยู่
กับความทุกข์ทรมานอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว



            จุ๊บ

            “ฝันดีครับน้องโซ่ของพี่พอร์ช” กดจูบเบาๆลงบนหน้าผากมน หวังว่าจะให้คน
ละเมอหลับสบาย ปราศจากสิ่งที่รบกวนเจ้าตัวมากว่าค่อนคืน ก่อนที่จะเข้านิทราไปอีกคน
โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า คนที่ตนเฝ้าปลอบประโลมมาหลายชั่วโมง ได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว
หลังจากที่รับรู้ถึงสัมผัสบางเบาบนหน้าผากของตนเอง



            “ฝันดีครับ…พี่พอร์ช” คนที่เพิ่งผ่านฝันร้ายลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด
ฉีกยิ้มหวานส่งให้กับเงาเลือนรางตรงหน้า พลิกตัว โผเข้ากอดเจ้าของวงแขนอันอบอุ่นที่
แม้จะมองไม่เห็นใบหน้ายามฝันหวานของเจ้าตัว แต่ก็ชัดเจนพอที่จะทำให้หัวใจพองโตได้ตลอดคืน



            ปึก…ตุบ!



            ไม่ว่าเมื่อคืนพวกเขาจะหวานใส่กันมากเท่าใดก็ตาม แต่ตื่นเช้ามาพอร์ชก็จะโดน
คนรักปลุกด้วยฝ่าเท้าจนตกเตียงเหมือนอย่างทุกวัน…ไม่มีการเปลี่ยนแปลง



            “โอ้ย…มึงถีบกูทำไมเนี่ยน้องโซ่คิตตี้!” ใช้มือนวดตูดตรงจุดที่เจ็บ เสร็จแล้ว
ก็ใช้มือข้างเดียวกันนั้นเองลูบหน้า จัดแต่งทรงผมรังนกของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง



            “รีบจัดการก่อนที่กูจะหักคอมันทิ้ง…เดี๋ยวนี้” ชี้นิ้วไปตรงกลางเป้ากางเกง
นอนของคนรัก กัดฟันพูดสั่งเสียงเข้ม



            “อะโด่ว…นึกว่าอะไรที่แท้ก็กลัวหัวเรือรบขนาดพิเศษรุ่นซุปเปอร์พอร์ชตีประตู
เมืองแตกนี่เอง” นอกจากจะไม่สลดแล้ว เจ้าตัวยังจะแอ่นเป้า เอามือเท้าสะเอว ร่อน ‘เจ้าสิ่งนั้น’
อวดให้โซ่ดูต่ออีกต่างหาก



            “ถ้าไม่อยากนั่งเยี่ยวเพราะ…ขาด มึงรีบเข้าไปจัดการตัวเองต่อในห้องน้ำเลยไอ้พอร์ช!”
สุดแล้วที่จะทน หยิบมีดคัตเตอร์เล่มใหญ่ที่เจ้าตัวมันเอามาทำงานประดิษฐ์เมื่อคืนก่อนขึ้นมาชี้
หน้าขู่เสียงแข็ง ไม่รู้จะเขินอาย หรือจะโมโหดีที่ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับแรงเสียดสีบริเวณ
บั้นท้ายที่เต็มไปด้วยความกำนัดของคนรักยามในเช้า

..

..

..

            “อารมณ์ไม่ดีหรอครับ” บุญล้อมเอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเพื่อนรักที่แสดง
อาการออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน



            “คนมัน ‘ค้าง’ ก็งี้ บอกให้เอาออกก็ไม่เชื่อ…ทำเป็นเล่นตัว” แต่เป็นพอร์ชบอกด้วย
น้ำเสียงและท่าทางกวนบาทา ก่อนที่ขวดน้ำในมือโซ่จะลอยละลิ่วมาลงตรงกลางหัว สุดท้ายก็เจ็บไปตามระเบียบ



            เฟี้ยว…ปึก!



            “ค้างพ่องมึงสิไอ้หมาพอร์ช หุบปากไปเลยนะ!” ยิ่งคิดยิ่งโมโหไอ้คนตรงหน้าที่มัน
ทำเอาเขาแทบบ้า กว่าจะมาวิ’ลัยได้



            ย้อนไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว…



            พออีกฝ่ายขู่ฆ่าลูกรักกลางลำตัว พอร์ชก็จำต้องเดินคอตกเข้าห้องน้ำไปอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะกลัวว่าโซ่จะบ้าจี้ ‘ตัด’ หัวเรือรบขนาดพิเศษรุ่นซุปเปอร์พอร์ชของตัวเองไปจริงๆ



            “เฮ้อ…” โซ่ถอนหายใจ ทิ้งตัวนั่งลงบนปลายเตียง รอที่จะอาบน้ำต่อ



            แต่พอร์ชก็คือพอร์ช ทำสลดให้โซ่วางใจได้ไม่นาน ก็กลับมาเกรียนต่อ



            “โซ่!” เสียงเรียกจากคนรักทำให้โซ่ที่กำลังสนใจข่าวฆาตกรรมในโทรทัศน์
หันกลับไปมอง เพราะคิดว่าเจ้าตัวจะไหว้วานให้หยิบผ้าเช็ดตัวให้อย่างทุกทีที่ลืมเอาเข้าไป



            “มีอะ…ไอ้เหี้ยพอร์ช!” คำรามเสียงสั่น ดังไปทั่วชั้นสี่ที่เป็นอาณาจักรส่วนตัว
ของพอร์ช เมื่อหันไปเห็นคนรักอยู่ในสภาพชีเปลือย ยืนแอ่นโชว์ความเป็นชายของตัวเอง
ที่กำลังขยายเต็มอัตราส่วน เต้นเพลงไก่ย่างถูกเผา เย้ยฟ้าท้าดินอยู่กลางอากาศแบบที่
ไม่กลัวฟ้าผ่ากันเลยทีเดียว



            “น้องโซ่ถูกเผา น้องโซ่ถูกเผา...มันจะถูกพี่พอร์ชเสียบ อ๊า~ มันจะถูกพี่พอร์ชเสียบ
…เสียบตูดซ้าย อ๊า~ เสียบตูดขวา อ๊า~ ร้อนจริง ๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ” ดูเหมือนว่า(ไอ้)พี่พอร์ช
เขาจะอินมาก หลังจากที่ได้เห็นท่าเต้นของหลีดสีชมพูของตัวเองที่ใช้ริมสนามฟุตบอลเป็นที่
ซ้อมเต้นเชียร์ ถึงได้จำขึ้นใจขนาดนี้ เรื่องท่าทางไม่ต้องห่วง ดูจากเสียงร้อง ‘อ๊า~’ ที่มาพร้อม
กับท่าเต้นเด้งหน้า เด้งหลัง ควงเอวโชว์เนื้อแบบเน้นๆ ก็รู้แล้วว่าพี่พอร์ชคนนี้…เป๊ะทุกท่วงท่า

..

..

..

            “เย็นนี้มึงว่างไหมล้อม?” โซ่เลิกสนใจพอร์ชที่ยังคงกวนไม่เลิก แล้วหันมาคุยกับ
เพื่อนของตนเองที่นั่งอยู่ข้างๆ



            “ทำไมหรอครับ” บุญล้อมถาม



            “ไปไล่ ‘เปรต’ ให้กูที เมื่อเช้ากูเจอ…เปรต!” หันไปสะบัดเสียง เน้นคำพูดสุดท้าย
ใส่พอร์ช เป็นการเฉลยให้คนอื่นๆที่นั่งล้อมวงอยู่ด้วยได้รับรู้ไปพร้อมกันว่า เปรตที่ว่านั้น
ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้คนที่นั่งเสนอหน้าอยู่ตรงข้ามเขานี่เอง



            “ถ้าเปรตตัวที่ว่านี้คือตัวเดียวกันกับที่ผมเข้าใจ ผมว่าไล่ธรรมดามันคงไม่
ไปหรอกครับ มันต้องใช้มีดแร่เนื้อเอาเกลือทาเสร็จแล้วก็เอาไปตากแห้งไว้ให้หมากิน
 ได้บุญดีนะครับ” บุญล้อมเสนอความคิดกำจัดเปรต เพื่อต่อบุญให้เพื่อน แต่โซ่ส่ายหน้า
เพราะไม่เห็นด้วย พอร์ชเลยอดที่จะยิ้มไม่ได้ เมื่อคิดว่าคนรักเข้าข้าง แต่ดีใจได้ไม่นาน
เจ้าตัวก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อโซ่พูดต่อว่า…



            “แต่กูว่า ‘สับ’ ให้ ‘เละ’ โดนให้เป็ดกินไปเลยดีกว่า ‘มัน’ จะได้คืนร่างไม่ได้อีก
…ชอบร่อนดีนัก!” พอร์ชถึงกลับใจหายแว๊บ เมื่อได้ยินคำพูดของคนรัก แจงวิธีการ
ทารุณกรรมหัวรบซุปเปอร์พอร์ชของตนเองออกมาเป็นฉากๆ ก็รีบยกสองมือขึ้นกุมเป้า
ปิดไว้อย่างแน่นหนา ทำเหมือนว่ามันจะหายไปในอีกไม่ช้า



            “พวกมึงเป็นฆาตกรโรคจิตยกแก๊งเลยใช่ไหม…ฮึ่ย!” ว่าแค่นั้นก่อนที่จะวิ่งกุม
เป้าออกหนีจากไปจากตรงนี้ด้วยความเร็วแสง โดยมีคู่ซี้เป้กับแวนวิ่งตามเข้าไปหัวเราะเยาะอยู่ไม่ห่างกาย



            “มึงนั่นแหละที่โรคจิต…ไอ้เปรตพอร์ช!” โซ่เองก็ลุกเดินออกไปอีกทาง เมื่อเห็น
เวลาบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือของบุญล้อมมันบอกว่าถึงเวลาที่ตนควรจะเข้าเรียนวิชาแรกของวันได้แล้ว

..

..

..

            “เอาไง…จะออกไปหาอะไรเข้ามานั่งกินรองท้องก่อนหรือแวะซื้อขากลับทีเดียว?”
 พอร์ชถามคนรักในขณะที่กำลังจะเดินผ่านโรงจอดรถ เพราะเดี๋ยวเขาจะต้องซ้อมบอลต่อ
ส่วนคนที่ได้รับเลือกให้เป็นนักมวยประจำสีฟ้าอย่างโซ่ไม่เคยคิดที่จะซ้อมมือ ไม่ใช่เพราะว่า
เก่งหรือมั่นใจในฝีมือของตัวเองหรอกนะ เพียงแต่เจ้าตัวไม่ชอบที่จะฝึกซ้อมมวยภายใต้การ
ควบคุมของใครที่ไม่คุณตาทวดของตนเองก็เท่านั้น



            “ยังไม่หิว” โซ่บอกแค่นั้น…เป็นอันรู้กันสองคนว่าเจ้าตัวจะรอให้เขาซ้อมบอลเสร็จ
ก่อนแล้วค่อยแวะซื้อของกินตอนกลับบ้านทีเดียวเลย จะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปย้อนมาให้เสียเวลา



            “โซ่!” ในขณะที่คู่รักฮาร์ดคอร์กำลังเดินลัดเลาะข้างสนามฟุตบอลเพื่อไปยังที่นั่ง
ประจำของโซ่ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีเสียงแหลมเล็กที่น่าจะเป็นเพศชายของใคร
บางคนตะโกนแหวกอากาศเรียกหาโซ่ พอหันไปมองก็เห็นร่างเล็กผิวขาว(มาก)ในชุดนัก
เรียนมัธยมปลาย เสื้อขาวกางเกงดำขาสั้น(แค่คืบ)โบกมือหวอยๆอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสนาม



            “ใครวะ?” พอร์ชหันมาถามหาคำตอบจากคนรักที่ยืนอยู่ข้างกัน



            แต่…



            “ซี” โซ่ไม่ได้ตอบพอร์ช…เขาขยับตัว ก้าวขา ออกเดิน ซึ่งจุดหมายปลายทาง
ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล แต่เป็นจุดเดียวกันกับที่คนแปลกหน้า แต่ชื่อ(โคตร)คุ้นหูสำหรับพอร์ชยืนอยู่นั้นเอง









TBC.

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ซี  อดีต-ปัจจุบัน

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
อ๊ากกกก พี่โซ่ไม่ธรรมดาแล้วนะคะ  :a5: จัดว่าโชกโชนพอตัว น้องพอร์ชยังจะข่มได้อยู่อีกไหม  :ruready ขอพื้นที่ให้พระเอกเลาด้วย  :sad4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แหม.... อยากเห็นกับตาตัวเองจัง ท่าน้องโซ่ถูกเผาที่พี่พอร์ชเต็นเนี่ย  :m22:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่โซ่ของเราไม่ธรรมดาเลย พอร์ชจะไหวหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
เรื่อยๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ซีเป็นผู้ชายเหรอ?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พอร์ชของเรางานนี้มีคิดไปไกลแน่ไม่ เราเชื่อใจโซ่ว่าโซ่รักและซื่อสัตย์กับพอร์ช  คู่รักสายมาโซ 555
ปริ่มมากกับเรื่องนี้ ยิงมุกได้ตลกมาก ตัวละครอีกตัวที่น่าหมั่นไส้ คือ มหาปลอม 5555

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{17}







            “มาทำไม?” จากที่เคยจินตนาการถึงฉากรักในหนังหวานแหวว
ถึงตอนที่พระเอกและนางเอกกลับมาพบเจอกันหลังจากผ่านพ้นเรื่องราว
มากมายมาจนถึงตอนจบที่คนทั้งคู่จะได้กลับมาครองรักกันไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย
หายไปในพริบตา เมื่อพอร์ชที่เดินตามโซ่ไปติดๆได้ยินและได้เห็นกับสองหูสองตาตัวเองว่า
คนรักมีสีหน้าแบบไหนในยามที่เอ่ยทักกับคนชื่อซี



            “ก็โซ่อ่ะ! ไม่ไปหาซีเลย…ซีคิดถึง” อีกฝ่ายกระโดดเข้ามาออดอ้อนคลอเคลีย
ประหนึ่งว่าเป็นลูกแมวตัวเล็กน่ารัก ซึ่งพอร์ชเองก็อยากจะเอ่ยปากออกชมอยู่หรอกนะ
ถ้าคนที่มันกอดอยู่ไม่ใช่คนรักของเขาอย่างนี้



            “ไม่รู้จะไปทำไม” โซ่ดันตัวซีออกห่าง สำรวจมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว
ถึงกลับต้องถอนหายใจออกมา แต่ตัวล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนี้ มันผ่านแผนกก่อสร้างมาได้ไง?



            “เอ้า! ก็ไปทำอย่างที่เคยทำไง…ทำไมโซ่แปลกไป หรือโซ่มีคนอื่น?” คนตัวเล็กหรี่ตาจับผิด
 เมื่อรับรู้ถึงอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปของโซ่ ที่ไม่ใช่แค่การนิ่งเงียบเหมือนทุกที แต่ดูเหมือนว่าโซ่นั้น
กำลังวางตัวเหินห่างอย่างตั้งใจ



            “อือ” พยักหน้ายอมรับความจริงแบบตรงๆไม่มีการอ้อมค้อม



            “ได้ไงอ่ะ! ไหนโซ่บอกว่าจะไม่สนใจใครไง” เขาดีดดิ้น สะบัดเสียงโวยวายใส่โซ่
อย่างไม่พอใจ เมื่อคนตัวโตตรงหน้ายอมรับความจริงในสิ่งที่เขาหวาดระแวงมาเกือบปี
แม้ว่าแท้จริงแล้ว เขากับโซ่จะเป็นแค่เพื่อน คู่นอน ไม่ใช่คู่รัก จึงไม่มีสิทธิ์ แต่ใครจะรู้ล่ะ
ว่าเพื่อนคู่กายคนนี้เคยแอบหวังไว้ว่าตนจะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นตัวจริงเคียงคู่ใจของเจ้าตัวได้ในสักวัน



            “กูไม่เคยพูด” ไม่ได้จะแก้ตัว แต่เขากำลังพูดความจริง ว่าไม่มีสักครั้งเลยที่ถ้อย
คำสัญญาเหล่านั้นจะหลุดออกมาจากปากเขา ต่อให้โดนเค้นคอจากคู่นอนคนใดก็ตาม
เพราะรู้ดีแก่ใจว่าบุคคลเหล่านั้น ไม่สามารถทำให้หัวใจเต้นแรงได้ในยามที่ไร้เซ็กส์
โซ่จึงไม่คิดที่จะให้ความหวังหรือหลอกลวงเพื่อที่จะเอาใจใครทั้งนั้น…สักครั้งเดียวก็ไม่เคย



            “แล้วเรื่องของเราล่ะโซ่” คนตัวเล็กเจ้าของใบหน้าสวยงามเกินความเป็นชายไปมากโข
เอ่ยถามด้วยน้ำตา ทำให้โซ่เริ่มลำบากใจ เพราะถึงเขาจะไม่ได้รักคนตรงหน้า แต่ก็ใช่ว่าจะต้องร้ายใส่
เพราะตลอดเวลาที่สานสัมพันธ์กันมา ซีเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด เพราะเจ้าตัวไม่
ก่อปัญหาหรือทำให้เขาไม่สบายใจเลยสักครั้ง มีแต่ตัวเขาเองที่พลั้งเผลอทำร้ายจิตใจเจ้าตัว
อยู่หลายครั้ง แต่ซีก็ไม่เคยเก็บไปใส่ใจหรือคิดที่จะปล่อยมือจากเขาเลย



            “เรื่องระหว่างมึงกับไอ้โซ่มันไม่ได้มีมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรอ…จะถามหาอะไร?”
เมื่อโซ่ไม่คิดที่จะพูดอะไร พอร์ชจึงเป็นฝ่ายพูดแทน ทำตัวไร้มารยาท แทรกการสนทนาของ
คนอื่นอย่างหน้าตาเฉย เพื่อที่จะปกป้องความรักของตัวเอง โดยใช้สิทธิ์ของการเป็นแฟนตัวจริงของโซ่



            “นายเป็นใคร? เกี่ยวไรด้วยไม่ทราบ” พอไม่ใช่คนที่ตนเองรักแล้ว ซีก็พร้อมที่จะวีนใส่ทุกเมื่อ
หันมาทำตาขวาง ตวาดเสียงใส่พอร์ชอย่างไม่ความเกรงกลัว ทั้งที่อีกฝ่ายตัวใหญ่กว่าตนเองเกือบครึ่ง



            “เป็นแฟนมันนี่ไง หรือมึงจะมีปัญหากับกูห้ะไอ้เตี้ย” ว่าจะไม่อะไรแล้วนะ แต่พอเห็นท่าทาง
ขู่ฟ่อเหมือนลูกแมวแล้วอดไม่ได้จริงๆ เลยกวนตีนใส่แม่งเลย



            “ทำไม! คิดว่าตัวใหญ่แล้วจะกลัวหรอ? แน่จริงก็เข้ามาเลย…ไอ้ควายเผือกเอ้ย!” ทำเป็นยก
แขนเสื้อเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับศัตรูหัวใจตัวใหญ่ยักษ์เต็มที่



            โซ่รีบเดินเข้าแทรกกลางระหว่างคนทั้งสอง เพราะดูจากท่าทางแล้ว ถ้าไม่มีใครห้ามคงได้
ปะทะกันจริงๆ ให้หลับตาเดาก็รู้ว่า ถ้าสู้กับยักษ์อย่างพอร์ชแล้วลูกแมวอย่างซีเละแน่นอน



            “อีแรด!” ยังไม่ทันที่จะได้มีใครตีกับใคร เสียงร้องตะโกนของเป้เพื่อนซี้ของพอร์ชก็ดังแทรก
เข้ามาเสียก่อนที่จะได้ร่างกายสูงใหญ่ไม่แพ้เพื่อนของเจ้าตัวโผล่ออกมาให้เห็น



            “มึงเรียกใครวะ?” พอร์ชหันไปถามเพื่อน ในขณะที่ซีทำตัวลีบหลบอยู่ข้างหลังโซ่



            “แรด!” เป้กระแทกเสียงตอบพอร์ชแล้วหันไปจ้องมองโซ่ด้วยสายตาเอาเรื่อง…ไม่สิ…
ถ้าจะพูดให้ถูก เขากำลังมองคนที่ใช้โซ่เป็นที่กำบังอยู่ต่างหากล่ะ



            “มีปัญหา?” เพราะโดนจ้องมองด้วยสายตาแข็งขืนแบบนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่โซ่
จะเข้าใจแบบนี้ ในเมื่อเป้ไม่คิดที่จะอธิบาย



            “ไม่…มึงขยับยืนข้างไอ้พอร์ชหน่อยซิไอ้โซ่” เป้ชี้นิ้วบอกให้โซ่เดินออกจากตรงที่ยืน
อยู่ไปทางด้านซ้ายมือที่พอร์ชยืนอยู่ แม้จะยังไม่เข้าใจอะไร แต่โซ่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
เมื่อเป้ใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม



            “มึงจะหนีไปไหนห้ะอีแรด!” เขาเดินตรงเข้าไปกระชากแขนซีไว้ เมื่อเจ้าตัวทำท่า
จะเดินไปแอบอยู่หลังโซ่เหมือนก่อนหน้า



            “โอ้ย! กูเจ็บนะ! โซ่ช่วยซีด้วย! ไอ้บ้านี่มันจะฆ่าซี” สะบัดตัวหนี ร้องขอให้โซ่ช่วย



            แต่พอร์ชรั้งแขนปรามโซ่ไว้เสียก่อน เมื่อเจ้าตัวทำท่าว่าจะเดินเข้าไปช่วยซีตามคำขอ
ส่ายหน้า ส่งสายตาบอกเป็นนัยๆ ว่าให้รอดูอยู่เฉยๆก่อน อย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่า



            “ก็ทำให้เจ็บไง! ตอแหลดีนัก หลอกกูว่าไม่สบายแต่เสือกร่อนตูดมาหาผู้ชายถึงที่นี่
คืออะไรห้ะ!” เป้ตวาดเสียงดังลั่นด้วยสีหน้าดุดันอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น เพราะปกติแล้วเจ้าตัว
จะเป็นคนอารมณ์ดีที่โคตรใจเย็น ทำมาดกวนชวนทะเล้นไปเรื่อย น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นเจ้า
ตัวโกรธใครเป็นฝืนเป็นไฟแบบนี้…หรือนี่จะเป็นครั้งแรก?



            พอร์ชรั้งแขนโซ่ไว้ เมื่อเจ้าตัวทำท่าว่าจะเดินเข้าไปช่วยซี ส่งสายตาบอกเป็นนัยๆ
ว่าให้คนรักรอดูอยู่เฉยๆก่อน อย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่า



            “ปล่อย…ปล่อยนะ! โซ่…ช่วยซีด้วย!” เป็นอีกครั้งที่ซีพยายามร้องเรียกให้โซ่ช่วย



            “กลับไปคุยกันดีๆที่บ้านเถอะครับคุณซี อย่าทำให้คุณโซ่ลำบากใจอีกเลยครับ เพราะ
ทั้งคุณและคุณโซ่ต่างก็มีชีวิตใหม่เป็นของตัวเองกันหมดแล้ว” บุญล้อมที่เดินตามมาสมทบที่
หลังอย่างปกติ เข้ามาเห็นเหตุการณ์เข้าก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอร้องเอง เพราะคิดว่านอกจากตนแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นโซ่หรือซีคงจะไม่มีทางไหนเอ่ยปากพูดอะไรออกมาก่อนอย่างแน่นอน



            “มึงพูดอะไรวะมหา” พอร์ชถาม บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้เขาสับสนไปหมดแล้วว่า
ระหว่างโซ่กับซี หรือซีกับเป้ สามคนนี้เกี่ยวข้องอะไร ยังไง…เขาโคตรงงเลย



            “จะให้ผมบอกคุณโซ่รึเปล่าครับคุณซี” บุญล้อมไม่ได้ตอบคำถามพอร์ช แต่เขาหันไปกดดันซีแทน



            “กลับก็ได้!” แล้วก็ได้ผล เมื่อซีหยุดดิ้นแล้วยอมหันหลังเดินจากไปเองแบบเงียบๆ
 ไม่มีการบอกลาใคร โดยมีเป้เดินตามไปติดๆ



            “จบเรื่องแล้วนะครับ” บุญล้อมหันมายิ้มให้กับทุกคนที่ยืนอยู่



            “ใช่แบบที่กูคิดรึเปล่า?” โซ่ถาม



            “ครับ” บุญล้อมพยักหน้าตอบแค่นั้นแล้วต่างคนก็แยกย้ายไปคนละทาง เมื่อรุ่นพี่ที่
คุมฟุตบอลสีชมพูของพอร์ชสั่งเลิกซ้อม หลังจากที่ได้รับคำสั่งมาจากกองอำนวยการว่าอนุญาต
ให้สีแดงและสีเขียวใช้สนามซ้อมบอลได้ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำเอานักฟุตบอลสีชมพูตะโกนแจก
ของลับให้กับฝ่ายประสานงาน พร้อมกับปล่อยสัตว์เลื้อยคลานออกมาเดินเล่นกันทั้งสนามด้วย
ความไม่พอใจ ที่อีกมาบอกตอนจวนแจแบบนี้…อารมณ์เสียไม่พอยังต้องมาเสียทั้งเวลาอีก!



            “โทรหาเพื่อนมึงให้กูหน่อยสิ” โซ่บอกกับพอร์ชในขณะที่เจ้าตัวกำลังนั่งทำการบ้าน
อยู่บนพื้นห้อง ส่วนโต๊ะญี่ปุ่นที่ถูกกางออกมาใช้งานนั้นเต็มไปด้วยเศษกระดาษมากมาย ที่โซ่
ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะมันเป็นวิชาเอกของช่างยนต์ที่โซ่พอจะเข้าใจ แต่ไม่ทั้งหมด



            “ใคร?” ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าโซ่หมายถึงใคร เลยกวนออกไปอย่างนั้น เพราะไม่
อยากให้คุย หงุดหงิดที่คนไม่สนโลกอย่างโซ่เกินอยากจะรู้เรื่องอดีตคู่นอนของตัวเองขึ้นมา



            “ไอ้เป้”

            “มึงจะคุยเรื่องไอ้เตี้ยนั่นใช่ไหม? กูไม่ให้คุย!” คำตอบของพอร์ชไม่ได้ทำให้โซ่
แปลกใจเท่ากับน้ำเสียงดุดันที่เจ้าตัวใช้ ทำเอาโซ่หน้าตึก เพราะนี่คือครั้งแรกที่โดนคนรักขึ้นเสียงใส่



            “ลุกมานี่พอร์ช” โซ่ที่นั่งดูหนังอยู่บนเตียงกระดิกนิ้วเรียกเสียงนิ่ง



            “ทำไม?” แต่กลับถูกพอร์ชสะบัดเสียงใส่ เพียงเท่านั้นบรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไป



            “กูบอกให้มาก็มา…เดี๋ยวนี้!” ทั้งที่พยายามจะใจเย็นแล้ว แต่โซ่ก็อดไม่ได้ที่จะ
เหวี่ยงกลับไปบ้าง เมื่อพอร์ชยังคงทำตัวโวยวายเป็นเด็ก ไม่คิดที่จะถามหาเหตุผลจากเขา
เลยสักนิดว่า เพราะอะไรเขาถึงอยากคุยกับเป้



            “มึงรักมันมากเลยหรอ…แคร์มันมากกว่ากูว่างั้นสิ?” จากที่ขึ้นเสียงชวนทะเลาะ
พอร์ชก็เดินลุกขึ้นเดิน แล้วมาหยุดยืนทำหน้าจ๋อยใส่โซ่ ประชดถามเสียงอ่อย



            โซ่วาดขาลงพื้น ยืดตัวนั่งขอบเตียง จ้องตา เผชิญหน้ากับคนเจ้าเรื่องอย่างพอร์ช



            “มีตรงไหนที่กูยังไม่ชัดเจนอีกพอร์ช มึงถึงได้งี่เง่าขนาดนี้” กระชากคอเสื้อ
คนรักเข้ามาถาม ทำเอาคนตัวโตอย่างพอร์ชปลิวตามเสื้อ



            “มึงสนใจมัน มึงจะโทรหามัน ตั้งแต่กลับมาจากวิ’ลัยมึงก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของมัน!”
พอร์ชบอกเสียงแข็ง ทว่าดวงตาคมกลับหมองหม่น เพราะสังเกตท่าทีของคนรักตั้งแต่กลับมา
บ้านแล้ว โซ่ดูไม่เป็นตัวเอง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา



            “โอ้ย…ไอ้ควายพอร์ช!” โซ่ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วกับความบ้าบอของคนรักที่นับวันจะ
มีมากขึ้นทุกที นี่ถ้ามันตัวเล็กกว่านี้สักหน่อย เขาคงจับปล้ำทำเมียไปนานแล้ว…งอแงฉิบหาย



            “มึงด่ากูทำไมเนี่ย”



            “โทรเลย มึงเลิกทำตัวปัญญาอ่อนแล้วโทรหาไอ้เป้ให้กูเดี๋ยวนี้เลย โทรแล้วก็อยู่
เงียบๆอย่าเสือกพูดอะไรจนกว่ากูจะคุยกับเพื่อนมึงเสร็จ” ไม่เพียงแค่ชี้นิ้วสั่ง แต่คราวนี้โซ่
เป็นฝ่ายลุกไปหยิบโทรศัพท์ของพอร์ชมาให้เจ้าตัวต่อสายถึงเป้ให้เองเลย เพราะเริ่มจะรู้
สึกหงุดหงิดกับนิสัยตีโพยตีพายของพอร์ชเต็มทน



            ‘ว่าไง’ เป้กรอกเสียงรับสายเหมือนปกติไม่มีท่าทีดุดันเหมือนก่อนหน้า



            “กูเอง” โซ่ตอบกลับไปบ้าง



            ‘อ่อ…จะโทรมาถามเรื่องนั้นใช่ไหม’ เป้ถามออกมาทันทีเหมือนจะรู้ถึงจุดประสงค์
ส่วนพอร์ชเริ่มออกอาการ จนโซ่ต้องใช้แขนขาหนีบตัวใหญ่ยักษ์ของคนใจมดไว้แน่น



            “เออ…ได้เรื่องไหม”



            ‘ระดับพี่เป้แล้วไม่มีพลาด งานนี้ได้ไปกันครบยกทั้งแก๊งแน่นอน’ เป้บอกเสียงระรื่น
ทำเอาโซ่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบที่ถูกใจ หลังจากที่รอลุ้นมาหลายวัน



            “มึงคุยเรื่องเหี้ยอะไรกันเนี่ย บอกให้กูรู้ทีเถอะ! กูอยากเสือกจะแย่แล้ว” พอร์ชไม่
สามารถเก็บความอยากรู้ของตัวเองไปได้นานกว่านี้อีกแล้ว จึงตะโกนแทรกขึ้นมา จากที่เป็น
ฝ่ายโดนล็อค พอดิ้นไปดิ้นมาสักพัก เขาก็สามารถลุกขึ้นมาเป็นฝ่ายค่อมทับโซ่ไว้ได้ด้วยแรงที่มีมากกว่า



            ‘ฮ่าๆ ไอ้พอร์มึงแม่ง…ชอบทำตัวเหมือนหมาบ้าอย่างที่ไอ้โซ่บอกจริงๆด้วยว่ะ’



            “เลิกพูดมากแล้วบอกกูสักทีว่าพวกมึงคุยอะไรกันไอ้เหี้ยเป้!” แม้ว่าเสียงหัวเราะของ
เพื่อนจะดังออกมาสักแค่ไหน แต่พอร์ชไม่ขำด้วยเลยสักนิด จากที่คิดว่าโซ่จะคุยเรื่องคู่นอนเก่า
อย่างซี กลับกลายเป็นว่าโซ่กับเป้มีความลับต่อเขา…หรือมันจะเป็นชู้กัน?



            ‘กูจะบอกอะไรให้นะไอ้พอร์ชว่ากับไอ้โซ่นะ กูได้…’ เป้ทิ้งปริศนาไว้แค่นั้นก่อนที่จะ
เงียบหายไป พอร์ชตวัดสายตามองโซ่อย่างดุดัน ในหัวของเขาตอนนี้มันคิดไปไกลแล้ว



            “อย่าคิดอะไรปัญญาอ่อน” โซ่ที่พอจะมองออกว่าคนรักกำลังคิดอะไรอยู่ก็รีบพูดออกมา



            ‘กูได้…ค่าบัตรเข้างาน Big Mountain ที่เขาใหญ่ของมึงกับมันมาแล้วโว้ย~’



            “เฮ้ย…จริงดิ!” คำตอบจากเป้ทำเอาพอร์ชร้องเสียงหลง เพราะรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
จากที่รู้สึกผิดหวังมาสามเดือนเต็ม หลังจากที่พลาดเพราะจองบัตรไม่ทัน จะขอซื้อต่อจากใครก็
ไม่มีใครขายให้เลยสักคน



            ‘เออ…ฉะนั้นก็เลิกงี่เง่าแล้วกราบขอบคุณงามๆบนตักเมียมึงซะไอ้ห่าพอร์ช เพราะเสาร์นี้
เราจะไปเขาใหญ่กันโว้ย~’ ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าคนพูดนั้นซะใจขนาดไหนที่แกล้งเพื่อนได้ แต่เหนือ
สิ่งอื่นใดคือความภูมิใจ หลังจากที่ใช้เวลารวบรวมบัตรอยู่หลายวันกว่าที่จะได้ครบหกใบ แม้ว่าจะ
ได้มาด้วยราคาที่แพงกว่าเท่าตัวก็ตาม



            “เอ่อ…” เป้วางสายไปนานแล้ว แต่พอร์ชไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี



            “ไง?” โซ่เลิกคิ้วถาม หลังจากที่ต้องทนมองพอร์ชทำหน้าเอ๋อยืนโง่อยู่พักใหญ่



            ก่อนที่จะ…



            “ขอโทษคร้าบ~”  ทรุดตัวนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้น ซบหน้าลงบนตักโซ่
ออดอ้อนเสียงหวาน อย่างรู้สึกผิด กลัวว่าโซ่จะโกรธที่ตนทำตัวงี่เง่าเอาใจอยู่พักใหญ่



            “อย่าหยุด” โซ่พูดบอกออกมาเมื่อพอร์ชทำท่าจะหยุดมือที่กำลังนวดให้ตนเอง
ขยับขาเปลี่ยนท่านั่งเป็นเชิงบอกให้พอร์ชนวดต่ออีกข้าง



            “แล้วแต่เจ้านายจะบัญชาเลยขอรับ!”







TBC.

แหม...ตอนที่แล้วมีแต่คนกลัวซดมาม่านะตัว ไม่มีใครมั่นใจในตัวน้องโซ่คิตตี้เลยหรอว่า
เจ้าตัวเขาวิชาแกร่งกล้าพอที่จะควบคุมอีพี่พอร์ชได้อยู่หมัด แบบที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอดอะไรอย่างงี้

ไม่ต้องกลัวน้า~ คนเขียนเป็นคนไม่กินเส้น เพราะฉะนั้นไม่มาม่าแน่นวลจ้า~

มีแต่จะบ้าบอไปตามประสาของอีพี่พอร์ชมัน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่คนอ่านต้องรับให้ได้นะจ้ะ
ว่านอกจากจะเป็นคนเกรียนที่โคตรกวนตีนแล้วพระเอกของเรามันยังมีความติ๊งต๊องสูงมาก
ในขณะที่นายเอกก็โคตรจะแมน

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
นายเอกแมนมาก อิพี่พอร์ชนี่คือบั่บ งุ้งงิ้งเว่อร์ อยากยกให้เป็นเมียน้องโซ่คิตตี้แทน  :laugh: เอิ่ม พูดเล่นนะไรท์ เอาจริงขึ้นมานี่เงิบนะ 555555555555
คือก็จะมีความคบคู่ ได้กันอยู่แถวๆกลุ่มเพื่อนนี่ล่ะช้ะ  :z2:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
รักมากก็เลยหวงมากเนอะพอร์ช

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
5555พี่พอร์ชคนแมน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แห๋ม..... น่าจะเพิ่มบทพอร์ช ก่อนจะซบหน้าลงกับตักโซ่ ให้ก้มกราบเมียสวย ๆ ซักที สองทีที่ตักนะ จะแสดงให้เห็นถึงความเคารพรักเมียมาก ๆ เลยล่ะ  o18

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อ้าว สมาคมกลัวเมียนี่หว่า555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วันนี้ไม่มาเหรอ.

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
น้องโซ่เคลียร์ได้เนอะ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{18}









            “ถึงแล้วครับแม่…ครับ…ครับ…พรุ่งนี้จะโทรหาอีกทีนะครับ”



            อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าโซ่กลับไปญาติดีกับมารดาผู้ให้กำเนิดเลยเชียว
เพราะที่เห็นโทรรายงานตัวกันเป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้ ก็แม่พอร์ชทั้งนั้นที่คอยโทร
เช็คลูกชายคนโปรดของตัวเองอย่างโซ่มาตลอดทาง เพราะการเดินทางมาเที่ยวงาน
เทศกาลดนตรีที่คราวนี้ เดอะแก๊งเขาพากันควบสองล้อคู่ใจจากพิจิตรถิ่นชาละวันมา
ถึงเขาใหญ่กันเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คุณนายเขาห่วงได้ยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
การสนทนากลับผูกขาดอยู่ระหว่างโซ่กับคุณนายแม่ของพอร์ชเท่านั้น ไม่มีสักครั้งที่
เธอจะขอสายลูกชายแท้ๆอย่างพอร์ช



            “ไง…ตกลงมึงยึดแม่กูไปแล้วใช่ไหม?” พอร์ชเอ่ยแซวคนรักที่ยื่นโทรศัพท์
กลับคืนมาให้หลังจากคุณนายแม่ของพอร์ชวางสายไป



            “ช่วยไม่ได้…ตอนเย็นเจอกัน” โซ่ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจสีหน้าที่เต็มไปด้วย
ความหมั่นไส้ของพอร์ช แล้วหันไปพูดบอกกับเพื่อนตัวเองต่อ เมื่อตกลงกันเรื่องห้องพัก
ได้ลงตัว หลังจากที่ถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ เพราะแวนไม่อยากนอนห้องเดียวกับบุญล้อม
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เมื่อเป้พาซีมาด้วย เพื่อนๆจึงรับรู้กันเองไปโดยปริยายว่าทั้งสองคนอยู่
ในสถานะอะไรกัน ในเมื่อรอบคอของซีประดับเต็มไปด้วยรอยช้ำสีแดงเป็นจ้ำๆ



            ต้องขอบคุณคุณทนายของโซ่ที่จัดบ้านพักหลังนี้ไว้ให้ตามคำขอของโซ่ที่มีไม่กี่
ครั้งหรอกที่เจ้าตัวจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอความช่วยเหลือไปก่อนแบบนี้ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ
ในเมื่อที่พักแถวนี้ถูกจับจองไปหมดแล้วไม่เหลือสักแห่ง จะขอซื้อสิทธิ์ต่อโดยให้ราคาเพิ่ม
เหมือนบัตรเข้างานก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครใจดียอมเสียสละที่นอนที่มีค่ายิ่งกว่าทองคำในเวลา
มีงานเทศกาลดนตรีส่งท้ายปลายปีครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้ให้ใครได้



            หมับ



            โซ่เลิกคิ้วมองคนตัวโตที่เดินเข้ามากอดตนเองจากทางด้านหลัง



            “อ้อน” คำพูดแสนสั้นที่มาพร้อมการคลอเคลียทำเอาโซ่หลุดขำออกมาเบาๆ



            “เป็นอะไรดี…ระหว่างหมีกับควาย?” โซ่ถามเสียงนิ่ง พยามควบคุมตัวเองไว้ ไม่ให้
หลุดมาดไปกับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูในแบบแปลกๆอย่างนั้น เดี๋ยวคนแถวนี้มันจะเคยตัว



            “เป็น…คนที่มึงรักก็พอแล้ว” กระซิบบอกเบาๆที่ข้างหู



            “มั่นใจ?” น่า…ขอแหย่อีกนิด



            “รึไม่จริง?” รู้ตัวอีกทีโซ่ก็ถูกพอร์ชดันลงเตียงเสียแล้ว สายตาสอดประสาน สื่อถึง
ความนัยบางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ในหัวใจมาแสนนาน เพราะความรักความใส่ใจทั้งหมดที่มีมาก
จนไม่กล้าเรียกร้องให้คนรักต้องฝืนใจทำตามแรงอารมณ์ของตนเหมือนคนเห็นแก่ตัว แต่พอมา
ถึงวันนี้ความอดทนที่มีถึงกลับพังทลาย เมื่อเจอสายตาหวานเชื่อมของเจ้าชายน้ำแข็งที่โต้ตอบกลับมา



            “อือ…โคตรรักเลย” โซ่กระตุกยิ้มหล่อ กระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู พลิกตัวขึ้นข้างบน
ใช้คางหนุนหน้าอกแกร่งแทนหมอน มือเรียวเลื้อยต่ำลงล่าง คว้าหมับเข้ากลางลำเรือรบที่
เจ้าตัวภูมิใจเป็นหนักหนา



            “อา…เล่นไม่รู้เรื่องแล้วไหมล่ะ” ถึงปากจะว่าแต่มือนุ่มๆของน้องโซ่คิตตี้นี่แหละ
ถูกใจพี่พอร์ชมากที่สุด



            “รู้สิ…ถ้าไม่รู้คงไม่เล่น” ปลดกระดุมกางเกงยีนของคนรักออกจนหมด สอดมือเข้า
ไปสัมผัสแนบเนื้อเรือรบใต้ Boxer ขยำเบาๆจนมันเริ่มตื่นขึ้นมาทักทาย ใช้ปลายนิ้วลูบไล้สุด
ความยาว ทำเอาพอร์ชขนลุกที่ได้เจอกับโซ่ในโหมดนี้ อย่างไม่ทันตั้งตัว



            “เดี๋ยวยาว” พอร์ชขู่ เพราะเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว



            ปึก!



            “หึ! โคตรอ่อน!” ชักมือออก ง้างขึ้นสุด ทุบลงไปกลางเป้า บริเวณเดียวกันกับ
ที่เอ็นดูมันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะลุกเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้พอร์ชนอนหน้าเขียวอยู่ที่เดิม



            “ไอ้พอร์ชอ่ะ?” แวนถามโซ่ที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนที่เป็นส่วนของห้องนอน



            “กำลังลงมา” พูดบอกแค่นั้นแล้วเดินไปนั่งแทรกกลางระหว่างบุญล้อมกับแวน
ทำเอามหามองแรง เจ้าตัวกระตุกยิ้มออกมาอย่างสะใจเมื่อแกล้งเพื่อนได้ ดูก็รู้ว่างานนี้
มหามันหวังเคลมเพื่อนรักไอ้หมาพอร์ช



            “คุณโซ่อยากเป็นศัตรูกับผมสินะครับ” บุญล้อมขู่เสียงนิ่ง เพราะกว่าที่จะฉุด
กระชากลากถูให้แวนมานั่งด้วยกันได้ก็แสนจะยากเย็น ยังจะมาโดนโซ่แกล้งอีก แต่มี
หรอที่โซ่จะกลัว เจ้าตัวยังคงลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งอยู่ที่เดิม



            “มึงก็ไปแกล้งมันไอ้ห่าโซ่” เป้ว่าเสียงขัน เหมือนจะซ้ำมากกว่าช่วย เมื่อเห็น
บุญล้อมทำหน้าเซ็ง ต่างจากแวนที่ยิ้มร่า ส่วนโซ่เองก็แค่ยักไหล่าทำเหมือนไม่มีอะไร



            “ออกไปหาอะไรกินกันเหอะ” พอร์ชที่ลงมาเป็นคนสุดท้าย เอ่ยปากออกชวน
จ้องมองไปที่คนรักอย่างอาฆาต มีอย่างที่ไหนมาทำให้อยากแล้วก็จากไป มิหนำซ้ำยัง
กล้าทำร้ายกันอย่างทารุณ ดีนะที่หัวรบซุปเปอร์พอร์ชของเขายังอยู่ดี ไม่บุบสลายที่ตรงไหน
 ไม่อย่างนั้น คนที่จะต้องเสียใจก็เป็นโซ่เองนั่นแหละ ที่ได้สัมผัสแค่ผิวเผิน ยังไม่ได้แนบแน่นเท่าที่ควร



            “ในงาน?” เป้ถามถึงสถานที่ที่จะฝากท้องในมื้อนี้



            “หาอะไรกินกันข้างนอกก่อนแล้วค่อยเข้าไป” พอร์ชบอกจากประสบการณ์
ครั้งก่อนหน้าของตนเองว่าไม่ควรไปฝากความหวังกับอาหารในงาน โดยเฉพาะคนที่อยู่ง่าย
 กินได้ทุกอย่าง แต่จะเลือกกินเฉพาะของอร่อยที่ถูกปากอย่างโซ่ ไม่มีทางที่จะปลื้มกับร้าน
อาหารที่ตั้งขายอยู่ในงานอย่างแน่นอน



            “ที่ไหนดีล่ะ” เป้ถามต่อ



            “เอ้า…อยากไปที่ไหนจิ้มเอาเลย งานนี้คุณแม่สุดที่รักของมึงเขาบอกว่าจัดเต็ม”
พอร์ชหยิบไอแพดของใครสักคนที่วางอยู่แถวนั้นค้นหาร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
ส่งให้คนรักเป็นเลือก เพราะงานนี้คุณนายแม่ของเขาขอเป็นเจ้ามือออกค่าอาหารการกิน
ในทริปนี้ เพราะเกรงว่าไอ้หมาพอร์ชคนนี้จะพาคุณหนูโซ่ลูกชายสุดที่รักของคุณเธอมา
อดอยากลำบากลำบน ด้วยการส่งบัตรเดบิตสำรองซึ่งมีเงินนอนอยู่จำนวนไม่น้อยมาเป็นตัวแทน



            “ไปซื้อของมาทำกินเองดีกว่า มีงานอย่างนี้ร้านอาหารคงเต็มหมด…วุ่นวาย” โซ่ผลัก
ไอแพดคืนให้พอร์ชพร้อมเหตุผล ก่อนที่คนอื่นจะพยักหน้าเห็นพร้องต้องกัน โดยเฉพาะเป้และ
แวนที่มากับพอร์ชเมื่อครั้งก่อนแล้วเจอกับสถานการณ์ที่เรียกว่าแย่งกันกินแย่งกันใช้ก็ว่าได้
เพราะไม่ว่าจะไปตรงไหนก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยผู้คนที่พากันมาท่องเที่ยว



            “ใครทำ?” พอร์ชเลิกคิ้วถาม เพราะรู้อยู่ว่าโซ่ทำอาหารไม่เป็น



            “มึง” โอเค…ชัดเจน! ลองได้ชี้นิ้วสั่งออกมาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่เขาทำอย่างที่ต้อง
การคุณชายเขาคงไม่กินอย่างแน่นอน เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มันทำให้เขาได้รับรู้
อีกอย่างหนึ่งว่า โซ่เป็นคนที่เหมือนจะเลี้ยงง่าย แต่ก็โคตรเอาแต่ใจเลย



            “งั้นก็ลุกมา…ไปซื้อของกับกู” ว่าพลางฉุดดึงให้โซ่ลุกออกจากที่นั่ง แต่โซ่ก็ขืนตัวไว้สุดแรงเกิด



            “ทำไมต้องกู?” โซ่ถาม



            “ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่ทำ” คำตอบจากพอร์ชเรียกเสียงโห่แซวจากเพื่อนๆได้ดี



            “ฮิ้ว~”



            ปึก!



            “ปาก!” ฮุกหมัดซ้ายเข้าชายโครงข้างขวาของคนรักแก้เขิน ก่อนที่จะเดินนำออกไป
ยืนรออยู่ข้างรถของพอร์ชที่จอดอยู่หน้าบ้าน



            “ใครจะเอาอะไรก็ส่งเข้าไลน์กลุ่มนะมึง กูจะได้ซื้อมาทีเดียวเลย” บอกเพื่อนเสร็จ
พอร์ชก็เดินตามโซ่ออกไปอีกคน



            พอร์ชพาโซ่มาซื้อของในซุปเปอร์ขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักนัก ถึงจะเล็ก
ไปหน่อย แต่ก็มีของกินของใช้และของสดให้เลือกสรรมากพอ



            “อยากกินอะไร” พอร์ชหันไปถามคนรักที่ยืนกินลูกชิ้นปิ้งอยู่ข้างๆอย่างสบายอารมณ์



            “…..” โซ่ไม่ตอบแต่หันไปมองเครื่องปรุงพะโล้ทั้งแบบผงและแบบไม้ที่วางเรียงอยู่
ในระดับเดียวกันกับสายตา เท่านั้นพอร์ชก็รู้แล้วว่าคนรักต้องการอะไร



            “อันนั้นไม่ได้ ใช้เวลาทำนานเกินไป กลับบ้านไปค่อยกินนะ แม่ทำอร่อย” พอร์ชพูดดัก
ทางอย่างรู้ทัน แล้วรีบบอกถึงเหตุผลที่ตนทำให้ไม่ได้ เพราะเกรงว่าคนรักจะอาละวาดขึ้นมาอีก



            “ข้าวผัดก็ได้ง่ายดี แต่ขอแกงจืดเต้าหู้หมูสับกับไก่ทอดด้วยนะ” จ้ะ! พอร์ชเกือบหลุดปาก
ตอบไปแล้วว่าง่ายมาก ลำพังข้าวพัดกับแกงจืดไม่มีปัญหาหรอก แต่ไก่ทอดนี่สิ ทำทีไรไม่เคยถูกใจ
เจ้าตัวสักที เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โซ่บอกให้เขาทำไก่ทอด เพราะเจ้าตัวเป็นโรคคลั่งไก่ เรียกได้
ว่ามื้อไหนมีเมนูไก่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร พี่โซ่เหมาหมด เจริญอาหารขึ้นอีกเท่าตัว



            “เปิดไลน์ดูสิว่าไอ้พวกนั้นสั่งซื้ออะไรบ้าง” พอร์ชบอกให้โซ่เปิดดูในไลน์กลุ่ม เพราะ
โทรศัพท์อยู่ที่โซ่ ส่วนตัวเขาเองก็ไม่ว่าง กำลังเลือกไก่สดไปทำไก่ทอดให้พี่ท่านอยู่



            “อะไรก็ได้แต่ไอ้เป้ฝากซื้อยาแก้อักเสบกับยาฆ่าเชื้อให้ซีด้วย มันลืมเอามา” โซ่พูดบอก
ตามที่เห็นในข้อความที่เพื่อนๆฝากไว้ในไลน์กลุ่ม แต่พอร์ชกลับออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจ เพราะ
ชื่อของใครบางคนที่ต้องการโผล่เข้ามา แม้จะรู้แน่ชัดแล้วว่าซีกับเป้เพื่อนรักของตนอยู่ในฐานะอะไร
 แต่มันอดไม่ได้จริงๆ เมื่อเผลอคิดไปถึงตอนที่ซียังคงเป็นคู่นอนคนโปรดของโซ่



            “มันน่าปล่อยให้ตายห่าไปเลย” ขอให้ได้ประชดออกมาสักนิดก็ยังดี ไม่อย่างนั้นคง
ได้มีคนอกแตกตายกันไปข้าง



            “ไร้สาระ” โซ่ส่ายหน้าให้กับนิสัยเด็กๆของคนรัก ก่อนที่จะเดินหนีออกไปหาขนมแทน



            “รับถุงยางอนามัยเพิ่มอีกหนึ่งกล่องนะครับ” พนักงานคิดเงินพูดบอกออกมาเสียงดัง
ชัดเจน เมื่อจู่ๆโซ่ก็หยิบกล่องถุงยากอนามัยวางบนเคาน์เตอร์คิดเงินทำเอาพอร์ชตกใจตาโต



            “ไม่ครับ” พอร์ชรีบหยิบกล่องที่โซ่เลือกไปวางเก็บไว้ที่เดิม



            “ไม่เอา?” แสร้งทำเป็นเลิกคิ้วถามเหมือนหาเรื่อง ทั้งที่ความจริงแล้วอยาก
จะหัวเราะออกมาให้ฟันร่วงที่แกล้งเจ้าตัวได้ แต่ต้องเก๊กไว้ก่อน



            “ไม่เอา…อันนั้นไซส์เล็ก กูใส่ไม่ได้ สำหรับกูต้องอันนี้” ทำเหมือนว่าจะปฏิเสธ
แต่แท้จริงแล้วแค่ต้องการที่จะเปลี่ยนไซส์ เพราะกล่องที่โซ่หยิบมาตอนแรกมันเล็กกว่า
ขนาดปกติที่เขาเคยใช้อยู่ประจำ



            “อ๋อ…จะบอกว่าใหญ่งั้นหรอ?” เหมือนว่าโซ่จะลืมไปแล้วว่าไม่ได้อยู่กับคนรัก
ตามลำพัง แต่ยังมีพนักงานหนุ่มร่วมฟังเหตุการณ์อีกคน



            “ก็เห็นมากับสองตาตัวเองแล้วไม่ใช่หรอ?” พอร์ชเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ เหมือนว่า
จะภูมิใจในขนาดเรือรบซุปเปอร์พอร์ชของตัวเองอยู่มาก



            “เพราะเห็นมาแล้วไง ถึงได้คิดว่า…เล็ก” ไม่พูดเปล่า แต่โซ่ยังส่งสายตาดูแคลน
ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน



            “เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะครับน้องโซ่คิตตี้” พอร์ชขู่



            “อยาก…โดน…เหมือนกัน” กระซิบบอกเสียงเบา แกล้งเป่าลมหูให้คนรักขนลุกเล่น
ก่อนที่จะเดินผิวปากหนีออกจากห้างไปอย่างสบายใจ ทำเอาพอร์ชถึงกลับอ้าปากค้างไม่
คิดว่าคนรักจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนไม่รู้จัก หรือว่า…มันจะเปลี่ยววะ?



            “เอ่อ…ถ้าคุณลูกค้าไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว ผมขอรวมยอดค่าสินค้าเลยนะครับ”
แม้ว่าคุณลูกค้าจะไม่รู้สึกอะไรที่กล้าคุยพูดเรื่องลับเฉพาะตามประสาคู่รักออกมาได้อย่าง
หน้าตาเฉย แต่คนฟังอย่างเขาบอกเลยทั้งเขินทั้งเซ็ง! สรุปแล้ว…เป็นแฟนกันสินะ! อุตส่าห์
เล็งคนตัวขาวไว้ตั้งนานสองนาน…เสียเวลาชะมัด!



            “ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะครับ นานๆทีจะได้ออกมาเที่ยวไกลอย่างนี้ ‘แฟนผม’
เลยตื่นเต้นไปนิด ถึงได้หยิบผิดๆถูกๆ” จ่ายเงิน หยิบของ รับตังค์ทอนใส่กระเป๋า เอ่ยขอโทษ
ไปเหมือนจะเกรงใจ แต่ถ้าพนักงานคิดเงินฉลาดพอ ก็คงจะรู้ตัวแล้วว่าโดนเกทับเข้าให้



            ‘เหอะ! รู้จักคนอย่างพี่พอร์ชน้อยไปแล้วไอ้หน้าอ่อน! คิดว่ารู้ตัวหรอที่มึงมองไอ้นิ่ง
ของกูอย่างกับจะจับแดกลงท้องไปทั้งตัวแบบนั้น…เห็นนะโว้ย!’

..

..

..

            “เอาไก่ก้อนนะ” โซ่พูดขัดไว้ก่อน เมื่อเห็นว่าพอร์ชกำลังจะหมักไก่ทั้งน่อง
แบบนั้นหลังจากที่ล้างทำความสะอาดเสร็จ



            “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก กูจะได้ซื้อไก่บดมาเลย” พอร์ชบอก



            “แม่มึงบอกว่าสับเองอร่อยกว่า สะอาดกว่า แล้วก็ปลอดภัยกว่า” หยิบยกเอาคำสอน
ของแม่พอร์ชขึ้นมาเถียงเจ้าตัว เพื่อให้รู้ว่าตนนั้นไม่ผิดที่บอกช้า แม้ว่าความจริงแล้วตัวโซ่เอง
ก็เพิ่งนึกอยากจะกินไก่ก้อนขึ้นมาตอนถึงบ้านนี่แหละ แต่ก็ทำเนียนๆไป ไอ้หมาพอร์ชมันไม่รู้หรอก



            “เรื่องเถียงนี่ขอให้บอก เวลาชวนคุยปกติละทำอย่างกับดอกพิกุลจะร่วง” นานทีขอจัด
สักหน่อยเถอะ เพราะปกติแล้วเจ้าตัวจะเป็นประเภทถามคำตอบคำ ประหยัดคำพูดเหลือเกิน
จะพูดเยอะก็ตอนหลอกด่าเขานี่แหละ…ประจำ



            “ล้อม…กินเนื้อดิบไหม?” เรียกเพื่อนเหมือนว่าจะถามเรื่องสำคัญ แต่ความจริงแล้ว
กำลังหาเรื่องแล่เนื้อคนรักอยู่ต่างหากล่ะ ถ้าดูจากปลายมีในมือชี้มันชี้ไปทางพอร์ชอะนะ



            “ผมทำในส่วนของผมเสร็จแล้ว ขอก่อนนะครับ” นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว บุญล้อมยัง
ชิ่งหนีอีกต่างหาก เพราะงานล้างและหั่นผักของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว



            “รึจะเปลี่ยนไปกินลาบ ‘เลือด’ กันดีครับ…ที่รัก” คราวนี้หันไปถามพอร์ชพร้อม
รอยยิ้มหวานที่สุดแสนจะเลือดเย็นในสายตาของพอร์ช ดูจากสีหน้าและแววตาแล้ว
พี่พอร์ชบอกได้คำเดียวว่างานนี้ น้องโซ่คิตตี้เขาเอาจริง…หนาวไปถึงสันหลังเลยกู



            “แหม่…ตัวเองก็! เค้าแค่ล้อเล่นเองน้า~ ขอแค่ตัวเองบัญชา เค้าก็พร้อมที่จะ
พลีกายทำให้ทุกเมนู” สุดท้ายแล้วพี่พอร์ชคนจริงก็จำต้องวางของในมือทิ้ง แล้วค่อยๆ
ก้าวเดินเข้าไปกระแซะ ใช้หัวถูกไหล่มนของคนรักอย่างออดอ้อน ก่อนที่จะเอื้อมไปปลด
อาวุธในมือของเจ้าตัวทิ้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต









TBC.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่พอร์ชคนแมน555

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
5555 ตลกพี่พอร์ช

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
คีพลุกคีพคูลไม่เหลือสักอย่างเลยพอร์ชเอ้ย 555

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
รอตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ้อนกันซะขนาดเนี่ย ตอนหน้าจะได้ทำ ได้ทานไหมเนี่ย  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด