(ต่อนะคะ)
สาม
ระหว่างที่สู้ก็นึกได้ว่าไม่เห็นสามดวงตาสีเงินของผมจึงหันไปมองโดยรอบเพื่อหาร่างของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวในสถานที่แห่งนี้ สามในตอนนี้ใช้มือข้างหนึ่งจับเขาของแอลเบอร์โตซอรัสไว้แน่นเพื่อไม่ให้กระเด็นหลุดเพราะแอลเบอร์โตซอรัสสะบัดหัวไปมาแรงๆ
ผ่านไปไม่กี่วิสามก็กระโดดขึ้นเหนือหัวแอลเบอร์โตซอรัสทำให้มันหยุดขยับเพราะคิดว่าสามล่วงลงไปแล้ว นั่นสร้างโอกาสให้สามใช้อาวุธในมือจัดการแอลเบอร์โตซอรัสได้สำเร็จ
“ลูก้า...ด้านหลัง”เสียงตะโกนของสามทำให้ผมหันกลับไปมองทว่าการโจมดีจากคมเขี้ยวของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกลับมาถึงก่อน
งี๊ดดดด
ผมร้องเสียงสูงเมื่อถูกฟันอันแหลมคมขย้ำเข้าที่คอ ส่วนที่ถือเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของผม ในร่างนี้ผมไม่มีกรงเล็บไว้ในการต่อสู้ ครีบอ่อนๆแทบทำอะไรไม่ได้เลยในสถานการณ์นี้
แต่ใครจะยอมแพ้กัน
ขนาดสามยังพยายามขนาดนั้นแล้วจะให้ผมมายอมแพ้งั้นเหรอ
ไม่มีทาง
กรรรรร
เสียงคำรามของผมดังขึ้นก่อนจะใช้แรงสะบัดหางโจมตีคาร์คาโรดอนโทซอรัสโดยการใช้ส่วนหางนั่นรัดคอจนคาร์คาโรดอนโทซอรัสปล่อยฟันที่กัดคอผมไว้
แม้ในร่างนี้จะไม่มีแรงมากเท่าอยู่ในน้ำแต่ก็ยังสามารถใช้การทิ้งน้ำหนักตัวกดทับร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ การกระทำนี้เรียกแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสรอบๆวิ่งกรูเข้ามาโจมตีผมเลยม้วนส่วนหัวและหดส่วนครีบเข้าไปใต้ท้องปล่อยให้ฝูงไดโนเสาร์โจมตีเข้ายังเกราะบนหลังเคลือบพิษแทน
จำนวนมันเยอกเกินไปที่จะสู้ด้วยสองคน
ถ้าในน้ำคงจะไม่ยากแต่บนบกนี่เคลื่อนไหวลำบากชะมัด
ถึงจะมีน้ำมาช่วยแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
“ลูก้า!”เสียงตะโกนเรียกของสามดังขึ้น
กรรรร
ผมก็อยากจะไปหาสามอยู่หรอกแต่การจะออกจากการโดนรุมกัดนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หื้ม?...กลิ่นนั่น
อยู่ๆจมูกผมมันก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
กลิ่นแบบนั้นมัน...
กรรรรรร
กรรรรรร
เสียงขู่คำรามของไดโนเสาร์ที่ไม่ใชทั้งของแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัสดังขึ้นก่อนคมเขี้ยวที่ระดมกัดหลังผมจะทยอยหายไป นั่นทำให้ผมเอาหัวออกมามองดูสถานการณ์โดยมีร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกำลังดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างผมที่ทับไว้
สภาพตอนนี้ต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ตรงหน้ามีไดโนเสาร์สองเท้าไม่ทราบสายพันธุ์แน่ชัด2ตัวกับไดโนเสาร์สี่เท้าอีกตัววิ่งเข้าไปโจมตีแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัสจนกระจายกันไปคนละทาง
ไม่ใช่แค่ไดโนเสาร์ที่เข้ามาร่วมวงแต่ก็ยังมีมนุษย์อีกสมคนเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย
ถึงไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นใคร
หน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศไทย
กรรรรร
กรรรรร
สาม
ผมคำรามพร้อมใช้แรงทั้งหมดกระโดดพุ่งไปยังคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่หมายจะโจมตีสามจากด้านหลัง ฟันอันแหลมคมของผมขย้ำเข้ายังบริเวณคอและยังคงกดลึกเข้าไปเรื่อยเมื่อร่างนั้นยังคงพยายามขืนดิ้นให้หลุด
คิดว่าผมจะยอมให้หลุดไปทำร้ายสามรึไงกัน
“ลูก้า”สามกระโดดลงมาจากร่างของแอลเบอร์โตซอรัสที่ล้มลงแน่นิ่งแล้วเดินมาหาผมที่ยังคงกดเขี้ยวลึกลงไปยังคอสีขาวนั่นมากขึ้น
“ปล่อยได้แล้วลูก้า”
ไม่รู้ว่าสามทำอะไรแต่ร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่ดิ้นไปมาเมื่อครู่กลับสงบลงอย่างง่ายดายผมเลยค่อยๆวางว่างนั้นให้นอนลงกับพื้น
งี๊ดดด
ผมรีบเข้าไปคลอเคลียพลางมองดูว่าสามได้รับบาดเจ็บอะไรไหมโดยไม่สนว่ารอบข้างจะเป็นยังไง ที่ผมสนตอนนี้คือสามปลอดภัยรึเปล่า
ตลอดการต่อสู้ผมไม่ได้มีโอกาสให้เข้าไปช่วยสามนักเลยไม่แน่ใจว่าสามเป็นอะไรไหม
อย่างน้อยๆผมก็เบาใจที่ไม่ได้กลิ่นเลือดมากมายของสาม
“ผมไม่เป็นไรลูก้า...ไม่ต้องห่วง”
งี๊ดดดด
จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง
“คนที่น่าห่วงคือนายนั่นแหละ...แผลนี่ลึกเหมือนกันนะ”ผมพูดพลางลูบยังแผลบริเวณคอผมเบาๆ
งี๊ดดดด
ไม่เป็นไร
“เอ่อ...ขอโทษนะครับ”บทสนทนาของผมกับสามถูกขัดเมื่อมีคนเรียก
พอหันไปมองก็พอกับมนุษย์สามคนและไดโนเสาร์อีกสามตัวที่เดินเข้ามาหาโดยมีฉากหลังเป็นร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกับแอลเบอร์โตซอรัสนอนกองอยู่กับพื้น
“พวกคุณเป็นคนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษสินะ”สามถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ใช่ครับ...ผมแบ็งค์เป็นหัวหน้าของหน่วยปฏิบัติการที่ประเทศไทย ส่วนนี่ไข่ต้มไดโนเสาร์กลายพันธุ์ของผม”ชายผมดำแนะนำตัวเองก่อนจะแนะนำคู่หูสี่เท้าด้านหลังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รูปร่างของเขาดูสูงกว่าสามเล็กน้อยแต่นั่นก็มากพอให้ผมแปลกใจกับคำว่าหัวหน้าที่หลุดออกมาจากปาก ขนาดตัวแค่นั้นเป็นหัวหน้างั้นเหรอ
“...คุณตั้งชื่อไดโนเสาร์กลายพันธุ์ซะน่ารักเลยนะ”ผมเองก็เห็นด้วยกับคำพูดสามนะ
ชื่อไข่ต้มมันดูน่ารักเกินไปหน่อย
อีกอย่างการจะตั้งชื่อให้ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ได้แปลว่าเป็นคนที่ได้รับการคัดเลือกจากหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่โดยตรงเมื่อหลายปีก่อนที่พึ่งเริ่มก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษอย่างเป็นทางการ
เรื่องนี้คุณเซโครเคยเล่าให้ฟังตอนอยู่บนเกาะ
“พอดีผมชอบพวกอะไรน่ารักๆน่ะ...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ พวกคุณเป็นใคร...ไม่สิ...ต้องถามว่าทำไมถึงได้มีไดโนเสาร์กลายพันธุ์ได้”สายตาที่จับจ้องมายังสามดูแตกต่างจากน้ำเสียงแสนสุภาพซะเหลือเกิน
กรรร
ผมส่งเสียงขู่เบาๆเพื่อบอกให้อีกฝ่ายเลิกจ้องสามด้วยสายตาเหมือนทำอะไรผิดซะ
“ไม่เอาลูก้า...ใจเย็นๆนะ”สามยกมือขึ้นมาลูบเรียวปากผมไปมาเบาๆทำเอาเคลิ้มไป
งี๊ดดด
“ผมเองก็เป็นเหมือนพวกคุณแหละ เป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษเหมือนกัน”พอทั้งสามได้ฟังก็หันหน้ามองกันอย่างงงๆ
“หมายความว่าไงกัน ถ้าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษเหมือนกันผมก็ต้องรู้จักคุณสิ”คนชื่อแบ็งค์ถามกลับด้วยใบหน้าสงสัย
“ผมไม่ได้เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศหรอก เรียกว่าเป็นคู่หูพิเศษจะถูกกว่า...อย่างที่เห็นว่าคู่หูผมมีร่างแบบนี้ทำให้งานส่วนใหญ่ของพวกเราอยู่ในทะเลและจะรับภารกิจจากไทรแอสซิก เบนซ์ ฟ่งเซ่เท่านั้น”สามอธิบายไปตามตรง
“...ก็เคยได้ยินว่ามีคู่หูพิเศษอยู่ที่นี่ก็จริงแต่...”สายตาของแบ็งค์มองมายังสามเหมือนจะไม่เชื่อว่าด้วยรูปร่างแบบนั้นจะสามารถต่อสู้กับไดโนเสาร์ได้ ยังไงถ้าเทียบรูปร่างพวกแบ็งค์กับอีกสองคนก็กำยำกว่าสามมาก
“ผมดูอ่อนแอสินะ”สามพูดพร้อมยกยิ้มขึ้น
“ก็ใช่อยู่...แต่พอดูแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่ถูกจัดการก็รู้ว่าคุณไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ”
“อย่าพูดเหมือนเจอผีน่า...ผมก็แค่คนธรรมดาเท่านั้นเอง”
“คนธรรมดาที่ไหนจัดการกับไดโนเสาร์ได้ง่ายๆขนาดนั้น...แต่ก็สมกับเป็นที่หัวหน้าเลือกให้เป็นคู่หูกับเขาละนะ”แบ็งค์พูดต่อโดยที่ประโยคสุดท้ายมองมาทางผม
“ก็ไม่ขนาดนั้น...ผมนาทีธาร เรียกสามก็ได้...ส่วนนี่คู่หูผมชื่อลูก้า”สามแนะนำทั้งตัวเองและผม
“งั้นฉันขอแนะนำตัวบ้างละกัน...ฉันเกล้า และนี่สาวสวยของฉันชื่อเกรซ”ชายผมคล้ำแดดร่างกายบึกบึนแนะนำทั้งตัวเองและไดโนเสาร์สองเท้ารูปร่างปราดเปรียวด้านหลังที่เชิดคอขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกพูดถึง
“ผมชื่อไม้ ส่วนนี่วินคู่หูผม”คนสุดท้ายในหน่วยปฏิบัติการพิเศษแนะนำตัว
“ยินดีที่รู้จักนะ...ว่าแต่นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”สามถามพลางมองไปยังร่างของแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัส
“รถขนย้ายพังจนพวกมันออกมาน่ะสิ...เห็นว่าง่วงเลยเหม่อระหว่างขับจนเกิดอุบัติเหตุจนพวกมันหลุดออกมาเพ่นพ่านอย่างที่เห็น”เกล้าอธิบาย
“พวกคุณมาช้ากันไปหน่อยรึเปล่า รู้ไหมว่ามีคนโดนลูกหลงไปเยอะน่ะ”
“พวกเราก็มาเร็วที่สุดแล้ว...บ้านเราพอเกิดเรื่องการจราจรก็ติดกันอย่างงี้ตลอด อีกอย่างพวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณ15นาทีหลังได้รับแจ้งซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ช้าแต่มันก็ทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนไม่น้อย โชคดีที่ได้พวกคุณมาช่วยไม่งั้นกว่าพวกเราจะมาถึงคงเกิดการสูญเสียมากกว่านี้เป็นแน่น ขอบคุณมากครับ”พูดจบแบ็งค์ก็ก้มหัวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร...ผมกับลูก้ายินดีช่วย งั้นพวกเราขอตัวเลยละกัน”
“อ่า...ได้ครับ พวกเราเองก็ต้องไปจัดการพาแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสไปส่งที่เดิมด้วย”
“ให้ช่วยไหม?”
“ไม่ป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว ไว้เจอกัน”
“ครับ ลูก้า...กลับร่างมนุษย์ได้แล้ว อ้อ นี่เสื้อผ้า”สามพูดก่อนจะหยิบเสื้อตัวตออกมาจากกระเป๋า
ผมในร่างไดโนเสาร์พยักหน้าไปมาก่อนจะเปลี่ยนร่างให้กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ตามเดิม เสื้อตัวโตถูกผมคว้ามาสวม อีกฝั่งร่างของไดโนเสาร์ทั้งสามตัวก็เปลี่ยนมาอยู่ในร่างมนุษย์เช่นกัน
เส้นผมสีแปลกตาของพวกเราพอมาอยู่รวมกันดูเหมือเป็นเรื่องปกติไปเลย
ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ทั้งสามคนมองมาทางผมนิ่งๆซึ่งผมก็สบสายตากลับไป ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไรมากมายเพียงแค่ได้กลิ่นพวกเราต่างก็รับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกันได้ทันที
ไม่เหมือนมนุษย์ที่ต้องมาทำความรู้จักกันหรอก
หลังจากเหตุการณ์ไดโนเสาร์หลุดใจกลางเมื่อผมก็ถูกสามลากไปทำแผลบริเวณคอที่ปรากฏรอยเขี้ยวถึงสี่คู่ตามลำคอ สายตาห่วงๆของสามทำให้ผมรู้สึกดีกับบาดแผลนี้มากขึ้น
ปกติสามเป็นคนชอบห่วงอยู่แล้วแต่พอผมเจ็บกลับยิ่งห่วงมากกว่าเดิมหลายเท่า
อย่างตอนอาบน้ำก็คอยเตือนว่าห้ามน้ำโดนแผลนะ
ตอนกินข้าวเองก็จะบอกว่าให้กินนี่แผลจะได้สมานกัน
แม้แต่ตอนนอนก็ยังบอกว่าห้ามพลิกไปทางแผลเดี๋ยวจะเจ็บ
สามคอยเป็นห่วงผมตลอดจนไม่อยากหายเร็วเลยล่ะ
แต่ถึงจะอยากหายช้าขนาดไหนร่างกายที่มีเลือดของไดโนเสาร์ไหลเวียนอยู่ก็ไม่สามารถฝืนการรักษาตัวเองอย่างรวดเร็วได้ ภายในไม่กี่วันบาดแผลซึ่งลึกพอสมควรกลับหายเกือบสนิทแล้ว
ภายในห้องน้ำผมนอนแช่น้ำอยู่ภายในอ่างสีขาวพลางยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกัดเบาๆ บาดแผลเมื่อวันวานกลับหายเร็วจนน่าตกใจ
วันนี้เป็นอีกวันของการเริ่มต้นวันใหม่ซึ่งผมมักจะอาบน้ำก่อนสามเสมอด้วยเหตุผลที่ว่าสามจะได้นอนต่ออีกหน่อยระหว่างรอผมอาบเสร็จ เคยมีหลายครั้งที่ผมแกล้งอาบช้าจนสามไปทำงานสาย
แน่นอนว่าผมถูกดุ แต่การถูกสามดุไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวสักนิด
ดวงตาสีน้ำตาลที่หรี่ลง ริมฝีปากที่พ่นคำดุ ท่าทางเอาเรื่องราวกับไม่ยอมใคร
นั่นคือสามเวลาดุผม
ไม่รู้ว่าคนอื่นมองยังไงแต่ผมคิดว่าน่ารักมากๆเลย
น่ารักจนเผลอรักไปโดยไม่รู้ตัว จนตอนนี้ก็รักมากจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
สามเองก็คงรักผมเหมือนกันเพียงแต่เขายังไม่ยอมรับความรู้สึกนั้น
ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจหรอกแต่พอได้เห็นใบหน้าแดงๆ น้ำเสียงเขินๆ ท่าทางอายๆพวกนั้นผมก็รู้ทันทีว่าตัวเองมีความหวังที่สามจะคิดเหมือนกัน
“สาม...”ผมเรียกเมื่อเปิดปรระตูออกมาจากห้องน้ำทว่าสามที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะหาทั้งห้องก็ยังไม่เจอ
สามไม่เคยไปไหนโดยไม่บอกผม
อาจจะมีที่ไปก่อนแต่ก็จะเขียนโน้ตบอกไว้ไม่ใช่หายไปแบบนี้
“สาม...”ยิ่งไม่เห็นตัวยิ่งว้าวุ่นจนเกิดความกังวลขึ้นมา
นี่ผมนอนแช่น้ำเพลินเกินไปสินะถึงไม่รู้ว่าสามออกไปจากห้องแล้ว
การจะหาสามเป็นสิ่งที่ไม่อยากเกินความสามารถผม เพียงแค่ใช้กลิ่นในการตามหาผมก็สามารถตามสามมาจนถึงลานจอดรถด้านข้างศูนย์วิจัย
ภาพของสามที่ถูกชายคนหนึ่งที่ลงจากรถคว้าตัวไปกอดแน่นนั่นทำเอาความหวงแล่นเข้ามาในหัว ยิ่งเห็นว่าสามไม่ขัดขืนแถมยังใช้มือชกอีกฝ่ายเป็นเชิงเล่นก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผมมากขึ้น
ปกติสามไม่ใช่คนชอบเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัว ขนาดผมที่ชอบแอบกอดตอนนอนยังโดนขยับหนีแต่หมอนั่นเป็นใครสามถึงเข้าไปกอดแน่แบบนั้น
อิจฉา
อยู่ๆความรู้สึกนี้ก็แผ่เข้ามาภายในหัวใจ
ไม่ชอบให้สามไปกอดคนอื่นด้วยรอยยิ้มมีความสุขแบบนั้น
“สาม”เหมือนร่างกายจะทำงานโดยไม่ผ่านสมองรู้ตัวอีกทีผมก็เดินเข้าไปคว้าแขนสามดึงออกมาจากอ้อมกอดนั่นแล้วเปลี่ยนมาเป็นผมที่สวมกอดสามจากด้านหลังแทน
“ลูก้า?”สามเงยหน้าขึ้นมามองงงๆเมื่อเห็นผมตามมาถูก
“นั่นใครสาม”
“ใครน่ะสาม”
ทั้งผมและชายผิวเข้มตรงหน้าพูดออกมาด้วยรูปประโยคที่แทบจะเหมอนกัน ดวงตาสีเงินของผมกับดวงตาสีน้ำตาลของชายตรงหน้าจ้องกันด้วยความไม่ยอมใคร คนปกติถ้าเห็นผมจ้องคงละสายตาไปนานแล้วแต่คนๆนี้กลับไม่ใช่
ไม่มีวี่แววว่าจะกลัวเลยสักนิด
คนคนนี้เป็นใครกัน
“เอ่อ...ลูก้า”
“สามนั่นใคร”ผมก้มลงไปถามพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก
“คือว่า...”
“แล้วนายล่ะเป็นอะไรกับสาม”ยังไม่ทันที่สามจะตอบชายผิวเข้มก็เดินมาเผชิญหน้าพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
แววตาและท่าทางนั่นเหมือนกำลังจะบอกให้ผมพูดความจริงออกไป
แน่นอนว่าต่อให้ไม่ถูกสายตานี่จ้องผมก็ไม่คิดจะปิดบังหรือโกหกอยู่แล้ว
ผมเป็นอะไรกับสามน่ะเหรอ
คำตอบนั่น...
ไม่ต้องคิดสักนิด
“สามเป็นคู่ของผม”
.......................................................................
เอาล่ะสิ
ตัวละครใหม่โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้จะเป็นใครกัน
จะมีมาม่าไหม ขอตอบเองเลยว่าไม่มีหรอกค่ะ 555
ถ้าให้ทายคิดว่าทุกคนน่าจะทายถูกกันเกือบหมด
เราชอบการแต่งฉากต่อสู้มากเลย เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากลองเรียนศิลปะการต่อสู้แต่คงไม่ไหว งั้นก็ให้ตัวละครสู้แทยเราไปละกันเนอะ อิอิ
ไว้เจอกันในตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจที่มีให้เสมอนค่ะ
บ๊ายบาย
-----มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์-----
วันนี้ขอเสนอ...คาร์คาโรดอนโทซอรัส
คาร์คาโรดอนโทซอรัส นักฆ่าขนาดมหึมานี้น่าดูมากทีเดียว มันมีน้ำหนัก 7 ตันและวัดความยาวได้ 13 เมตร ถือว่าตัวใหญ่มฬาร ฟันคืออาวุธหลักของมัน แต่ละซี่ยาว 16 เซนติเมตร เป็นฟันเลื่อยรูปโค้ง ไม่มีอะไรที่มันกัดไม่ขาย ฟันของคาร์คาโรดอนโทซอรัสคล้ายคลึงกับฉลามขาวเป็นอย่างมาก และเราต่างรู้ดีว่าฟันของฉลามขาวสร้างความเสียหายได้มากแค่ไหน เป็นไดโนเสาร์มีสมองเล็กและประสาทสัมผัสเชื่องช้าเมื่อเทียบกับมาตรฐานของมนุษย์ แต่เชื่อกันว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสสมองเห็นเป็นสามมิติ หมายความว่ามันกะระยะลึกตื้นเพื่อหาระยะห่างระหว่างตัวมันกับเหยื่อได้อย่างแม่นยำ
เครดิต : รูปภาพจากเด็กดี.คอม ข้อมูลจากหนังสือไดโนเสาร์ประจัญบานของสนพ.อมรินทร์
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪