◈Jurassic Foster◈ กลายพันธุ์รัก ใต้ธารา <♦◈ธาราส่งท้าย◈♦> 25/03/62 P.17 -จบ-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◈Jurassic Foster◈ กลายพันธุ์รัก ใต้ธารา <♦◈ธาราส่งท้าย◈♦> 25/03/62 P.17 -จบ-  (อ่าน 112328 ครั้ง)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◈ธาราที่10◈



บนท้องฟ้ายามค่ำคืนมองเห็นดวงดาวส่องประกายประปายบนท้องฟ้าไม่เหมือนกับบนเกาะที่ผมเคยอยู่ ที่นั่นพอตกกลางคืนก็จะมีกลุ่มดาวนับล้านทอประกายอย่างน่ามอง ยิ่งนอนแช่น้ำแล้วแหงนหน้าขึ้นไปยิ่งทวีความรู้สึกสุดยอดเข้าไปอีก


ถึงผมจะชอบเกาะนั่นแต่ก็ไม่เท่ากับความโหยหาที่มีต่อคนคนหนึ่งเลยสักนิดเดียว


ตลอดเวลาหนึ่งปีสองเดือนผมพยายามเรียนรู้และทำทุกอย่างเพื่อวันหนึ่งที่ได้กลับมาเจอกัน และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาได้


“สาม”ผมเรียกชื่อคนที่ก้าวมาหาผมยังริมระเบียงโดยไม่หันกลับไปมอง


กลิ่นของสามเป็นหนึ่งในกลิ่นแรกๆที่ผมสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ


“ออกมายืนแบบนี้เดี๋ยวไม่สบายนะ ฝนพึ่งหยุดตกไปเอง”เสียงทุ้มออกนุ่มเอ่ยเตือนระหว่างเดินมายืนข้างๆ


“แค่อยากรู้ว่าที่นี่จะเห็นดาวไหม”


“ก็พอจะเห็นอยู่...ถ้าให้เดาที่เกาะคงมีดาวเยอะกว่าแน่”ระหว่างพูดสามกเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าบ้าง


“ใช่...ที่นั่นมีเยอะมาก”


“ลูก้าชอบที่นั่นสินะ”


“อืม”


“อยู่นี่ไม่รู้สึกคิดถึงที่นั่นบ้างเหรอ”สามถามต่อ


“คิดถึงเหรอ...ไม่นี่”แต่ถ้าเป็นตอนอยู่ที่นั่นสิ่งที่ผมคิดถึงก็มีนะ


คิดถึงสามไง


“...เข้าห้องเถอะเดี๋ยวจะป่วยจริงๆ”พูดจบสามก็เดินกลับเข้าไปในห้องโดยมีผมเดินตามเข้าไปติดๆ


เตียง5ฟุตภายในห้องถูกเปลี่ยนเป็น6ฟุตเมื่ออาทิตย์ก่อนตามคำแนะนำของผมที่ไม่ยอมไปอยู่อีกห้อง กว่าจะเปลี่ยนได้ผมก็นอนอยู่มาเกือบเดือนแล้ว


“มีงานเหรอ”ผมถามเมื่อเห็นสามยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู


“ก็ไม่เชิง...วุธไลน์มาว่ารวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว”สายตาของสามยังคงอยู่ที่เครื่องมือสื่อสารระหว่างพูด


“พรุ่งนี้จะไปเช้าสินะ”เวลามีงานสามมักจะตื่นเช้าเสมอ


“อืม...แต่ไม่ต้องเช้ามากหรอกกว่าคนอื่นจะมาก็เวลาเดิมแหละ”


“ครั้งนี้เรื่องอะไร”ผมถามถึงงานที่อีกฝ่ายต้องทำ


เรื่องการวิจัยผมไม่ค่อยสนใจเลยไม่รู้เรื่องนักว่าต้องทำอะไรบ้าง


สามถึงจะดูเหนื่อยเวลาทำงานแต่พอทำสำเร็จรอยยิ้มนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาชอบงานที่ทำอย่นี่จริงๆ


“ครั้งนี้เป็นการเพาะพันธ์สาหร่ายเคลป์ในทะเลน้ำอุ่นน่ะ”


“สาหร่ายเคลป์?”สาหร่ายนี่มันมีแยกชื่อด้วยเหรอ


“สาหร่ายเคลป์ปกติจะเติบโตในทะเลน้ำเย็นที่มีแสงแดดส่งถึง เมื่อก่อนที่อุณหภูมิบ้านเราไม่สูงขนาดนี้สาหร่ายเคลป์ก็ยังสามารถขึ้นได้แต่พออุณหภูมิสูงขึ้นจำนวนของสาหร่ายเคลป์ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว”สามอธิบายให้ฟัง


“สาหร่ายนั่นเป็นอาหารของสัตว์สินะ”


“ใช่...มีสัตว์หลายชนิดที่กินสาหร่ายเคลป์ แต่ลูก้าไม่ใช่พวกกินพืชนี่นะ”สามหันมาบอกยิ้มๆ


“ก็ไม่เคยลองกินนะ ถ้าลองอาจกินได้ก็ได้”


“ในร่างมนุษย์น่ะกินได้แต่ถ้าในร่างไดโนเสาร์อย่างกินดีกว่า ระบบการย่อยของสัตว์กินพืชกับสัตว์กินเนื้อมันไม่เหมือนกัน ขืนฝืนกินไปจะปวดท้องเอานะ”


“เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงห่วงๆนั่นทำให้ผมยิ้มออก


การมีคนห่วงมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ


ยิ่งคนคนนั้นเป็นสามยิ่งทำให้รู้สึกดีเข้าไปใหญ่


“เรานอนกันดีกว่า”


“ผมไปปิดไฟให้”พูดจบผมก็เดินไปปิดไฟแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างๆสาม


“นี่ลูก้า”สามเรียกพร้อมกับพลิกตัวหันมาทางผม


“อะไร”


“ในความมืดแบบนี้มองเห็นสินะ”ดวงตาสีน้ำตาลของสามหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังพยายามมองผมในความมืด


“อืม...มองเห็น”


“ชัดไหม?”


“ชัดสิ...สามกำลังหรี่ตาและขมวดคิ้วด้วย”ผมบอกสิ่งที่เห็นออกไป


“มืดขนาดนี้ยังเห็นอีกนะ...แบบนี้ใต้ทะเลจะมองเห็นรึเปล่า”คำถามนั่นทำเอาผมต้องขมวดคิ้วเพราะไม่เคยดำลงไปลึกๆช่วงกลางคืน ส่วนมากก็จะลอยเล่นอยู่แถวชายหาด


“ไม่แน่ใจเหมือนกัน”


“ไว้ไปลองกันไหม”


“เอาสิ”ผมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม


จะได้ดำน้ำตอนกลางคืน แถมยังมีสามไปด้วยอีก


“ไว้ผมหาเวลาว่างได้เราไปกัน”


“อืม...อยากไปเร็วๆ”แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว


“แต่ตอนกลางคืนก็อันตรายอยู่...ถ้าจะดำคงต้องแถวชายฝั่งก่อน”


“ได้...ลองแถวชายหาดก่อนถ้าผมมองเห็นก็ค่อยไปลึกขึ้น”ผมบอก


“ผมว่าลูก้ามองเห็นอยู่แล้ว...เพียงแต่ว่าจะมองเห็นในระดับลึกเท่าไหร่”


“หมายถึงยังไง”ระดับมองเห็นที่ว่าไม่เห็นเข้าใจเลย


“ยิ่งดำลงไปลึกแสงจากดวงอาทิตย์ก็จะส่องลงไปไม่ถึง ในระดับน้ำทะเลตั้งแต่1000เมตรไปก็ถือว่าลึกมาก สัตว์น้ำปกติยังไม่สามารถอาศัยในระดับความลึกขนาดนั้นได้เพราะแรงดันที่มีมากขึ้น”


“แปลว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตสินะ”


“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก...ในระดับน้ำที่ลึกกว่า1000เมตรยังมีสัตว์ที่สามารถอาศัยอยู่ได้เพียงแต่พวกมันจะมีวิวัฒนาการอย่างดวงตาที่สามารถมองเห็นในความมืดมิดหรือสามารถเปล่งแสงเพื่อล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ”สามอธิบายต่อ


“ถ้าเจอคงต้องระวังตัวสินะ”


“ยิ่งกว่าต้องระวังอีกลูก้า...รู้ไหมว่าปลาที่อาศัยอยู่ในระดับความลึกนั้นได้มีแต่พวกนักล่าที่นอกจากหน้าตาจะน่ากลัวแล้วยังมีฟันแสนคมกริบอีก บางตัวถึงกับมีพิษเลยนะ...ทางที่ดีถ้าเจอต้องรีบจัดการไม่ก็ต้องหลีกเลี่ยง”


“สามคิดว่าผมจะแพ้เหรอ”


“มันไม่เกี่ยวว่าจะแพ้หรือชนะ บางทีการหลีกเลี่ยงก็ถือเป็นทางออกที่ดีกว่าการสู้ตรงๆ...ผมไม่อยากให้ลูก้าต้องเจ็บเพราะงั้นถ้าเข้าไปสู้กับอะไรที่เสี่ยงๆ เข้าใจนะ”น้ำเสียงห่วงๆกับสายตาที่จับจ้องมานั่นทำให้หัวใจรู้สึกอุ่นวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ


“อืม...เข้าใจแล้ว”


“ดีมาก...นอนกันได้แล้ว”


“ไม่ชมว่าเด็กดีเหรอ”ผมพึมพำเสียงเบาพร้อมกับดวงตาสีเงินที่ค่อยๆหลับลง


“อยากให้ชมเหรอ”


“อืม”สัมผัสของฝ่ามือพร้อมน้ำเสียงที่พูดว่าเด็กดียังติดอยู่ในความทรงจำอยู่เลย


รู้สึกดีจริงๆ


อยากได้รับสัมผัสแบบนั้นอีกสักครั้ง


“...เด็กดีลูก้า”น้ำเสียงที่อยู่ในความทรงจำกลับปรากฏขึ้นพร้อมฝ่ามืออุ่นๆที่สัมผัสใบหน้าผมอย่างอ่อนโยนจนเผลอขยับหน้าเพื่อรับสัมผัสนั้นมากขึ้นอีก


รู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกสัมผัส


“นี่สาม”


“...ฮืม”


“คำตอบของคำถามเมื่อวันก่อนผมยังไม่ได้เลย”ไหนๆก็นึกขึ้นได้ก็อยากจะได้คำตอบ


“...คำถาม...อะไร”น้ำเสียงแบบนั้นแปลว่าสามจำได้แต่เหมือนอยากเลี่ยงทำเป็นจำไม่ได้มากกว่า


“สามมาเป็นของผมได้ไหม”คำถามเดียวกันกับวันก่อนถูกเอ่ยถึงอีกรอบ


“...ที่พูดมาน่ะ เข้าใจความหมายของมันรึเปล่า”สามนิ่งไปสักพักก่อนจะถามกลับมา


“เข้าใจสิ”เข้าใจดีด้วย


อยากให้สามมาเป็นของผม


เป็นของผมเพียงคนเดียว


ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เกิดความรู้สึกนี่ขึ้น


ช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะทุกๆวันผ่านไปโดยไม่มีสาม ผมกล้าพูดเลยว่ามันเป็นชีวิตที่น่าเบื่อมาก


ทุกๆวันในหัวก็มีแต่เรื่องของสาม


มีแต่ภาพใบหน้านั้นยามยิ้มและหัวเราะ


“ลูก้า...”


“ผมน่ะ...ชอบสามนะ”ผมบอกพร้อมขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น


“ผมก็ชอบลูก้า...เพียงแต่คำว่าชอบมันไม่พอที่จะทำให้ผมเป็นของลูก้าหรอกนะ”


“หมายความว่ายังไง”


“ถึงร่างกายจะโตแต่ประสบการณ์การใช้ชีวิตเหมือนจะยังไม่มากพอนะ...เรื่องพวกนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง อีกอย่างผมยังไม่คิดจะเป็นของใครด้วย”


“สาม...”


“ลูก้ายังมีเวลาอีกมากที่จะพบเจอกับหลายๆสิ่ง...ตอนอยู่เกาะไม่ได้เจอสาวที่สนใจเลยเหรอ”สามถามพลางพลิกตัวนอนหงายมองดูเพดานด้านบน


“สาวน่ะเจอ...แต่ไม่ได้สนใจ”


“สาวที่เจอเป็นมนุษย์หรือไดโนเสาร์กลายพันธุ์ล่ะ”


“ก็ทั้งคู่”


“เหรอ...ไม่มีใครที่รู้สึกสนใจเลยสินะ”


“มีสิ”ถ้าเป็นคนที่สนใจล่ะก็


“ใคร?”


“สามไง”คนคนเดียวที่ไม่ว่าจะทำไรก็เรียกความสนใจได้เสมอ


ทุกท่าทาง ทุกการกระทำ ทุกอย่างของสามทำให้ผมสนใจ


“กลับมาที่ผมจนได้นะ”


“...ก็สนใจแค่สามนี่”


“รู้แล้วๆ...เอางี้นะลูก้า เรื่องนี้ปล่อยให้เวลามันตัดสินเถอะ...จากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือที่ไหน ความสนใจที่มีมันอาจเปลี่ยนไปก็ได้...ไม่แน่ใจอาจเจอคนอื่นที่ลูก้าสนใจกว่า”


“แล้วถ้าไม่เจอล่ะ...ถ้าคนที่ผมสนใจยังเป็นสามอยู่จะทำยังไง”ผมถามกลับ


“ถึงตอนนั้น...ค่อยว่ากัน”


“ว่าอะไร?”


“ก็...เอาเป็นว่าตอนนั้นค่อยคิดละกัน นอนได้แล้วลูก้า”พูดจบสามก็พลิกตัวไปอีกข้างปล่อยให้ผมนอนจ้องแผ่นหลังนั่นเรื่อยๆก่อนจะหลับไปทั้งๆแบบนั้น



สติที่หายไปพร้อมกับการหลับใหลกลับเข้าร่างเมื่อความร้อนอยู่ๆก็เกิดปะทุขึ้น ดวงตาสีเงินของผมเบิกขึ้นก่อนจะเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงด้วยเสียงหายใจหอบเบาๆ


ร้อน


ทั้งร่างมันร้อนไปหมด


ความรู้สึกนี่มัน...


“สาม...”ผมหันไปมองร่างข้างกายที่หลับสนิทอย่างข่มอารมณ์ มือทั้งสองข้างขย้ำผ้าปูที่นอนแน่นจนยับยู่ยี่ไปหมด


ผมจำมันได้ความรู้สึกแบบนี้


นี่เป็นครั้งที่3ที่รู้สึกถึงมัน


ครั้งแรกและครั้งที่2เกิดขึ้นบนเกาะ จำได้เลยว่าวันแรกที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาแบบนี้ขึ้นคือสามเดือนแรกหลังจากกับสาม อาการของมันเหมือนถูกอารมณ์ครอบงำจนไม่เป็นอันทำอะไร...ตอนนั้นเซโครกับยูทาร์เข้ามาพอดีและพอดูอาการของผมไม่นานเซโครก็ถามคำถามเพียงข้อเดียวเท่านั้น


คนที่อยู่ในหัวตอนนี้คือใคร


คำถามนั่นผมแทบไม่ต้องคิดคำตอบเลย


ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนคนที่อยู่ในหัวผมก็มีแค่คนเดียว...


สาม


คำตอบของผมดูเหมือนจะสร้างความตกใจให้ทั้งคู่มากพอดู เซโครบอกกับผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ทุกคนล้วนมีอารมณ์แบบนี้เพียงแต่สายเลือดของไดโนเสาร์ทำให้ความต้องการเข้มข้นขึ้นในช่วงนั้น


จากที่ฟังอธิบายดูเหมือนไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีอาการแบบนี้จะเป็นพวกที่มีคู่


แต่ว่าผมไม่มีเลยไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้


หลังจากผ่านครั้งแรกไปได้อย่างอยากลำบากผมก็ศึกษาหาข้อมูลก่อนจะรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี่คืออารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงของการผสมพันธ์ เป็นอย่างที่เซโครพูดว่ามันเป็นธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นแต่สิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้คือทำไมผมถึงมีอารมณ์แบบนี้ทั้งที่ไม่มีคู่


ครั้งต่อมาที่เกิดอารมณ์ผมก็เข้าใจ ภายในหัวมันมีแต่ภาพของสามอยู่เต็มไปหมด ความทรงจำตอนอยู่กับสามมันวนไปมาพร้อมกับร่างกายที่ร้อนขึ้นจนแทบทนไม่ได้


ตอนนั้นผมก็ได้รู้


รู้ว่าคู่ของตัวเองก็คือสาม


“...สาม...”ผมเอ่ยเสียงเบาพลางข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี่ซะ


กลิ่นของสาม...


น่ากิน


“อึก...”บ้าจริง


ไม่ชอบเลยความรู้สึกนี่ เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเอง


ครั้งก่อนๆยังพอควบคุมตัวเองได้แต่ครั้งนี้พอมรสามอยู่ใกล้ๆความร้อนของร่างกายที่กำลังจะปะทุนี่มันมีมากกว่าทุกครั้งอีก
อยากสัมผัสจนแทบทนไม่ไหว


“ไม่...”ไม่ได้


ยังไม่ได้


สามบอกว่าตอนนี้ยังไม่อยากเป็นของใคร


เพราะงั้นไม่ได้


ตลอดทั้งคืนผมกลั้นใจข่มทั้งอารมณ์และความรู้สึกจนไม่ได้นอน พอถึงช่วงเช้าดูเหมือนอารมณ์ที่มีจะพอควบคุมได้มากกว่าช่วงกลางคืนผมเลยรีบก้าวยาวๆเดินเข้าห้องน้ำไป การแช่น้ำเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยผมให้สงบลงได้


น้ำในอ่างไหลนองไปตามพื้นกระเบื้องเมื่อผมทิ้งตัวลงใต้น้ำเย็นๆนี่ แม้ว่าอ่างนี้จะแคบกว่าตอนที่ผมอยู่บนเกาะก็ตามที บนเกาะผมได้ห้องที่มีอ่างขนาดใหญ่สามารถมุดลงไปใต้น้ำแล้วเหยียดทั้งร่างได้โดยเท้าไม่ติดขอบอ่าง


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“ลูก้า”


พรึ่บ


ผมรีบดันตัวโผล่ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงของสาม ส่วนกลางลำตัวที่สงบนิ่งกลับตื่นขึ้นเพียงแค่ได้ยินเสียงเรียกเท่านั้น


อุตส่าห์สงบแล้วแท้ๆ


“มีอะไร”ผมตะโกนกลับไป


“แช่นานไปแล้วนะ...ออกมาเร็วผมจะได้อาบต่อ”


“รู้แล้ว”ผมตะโกนตอบก่อนจะลุกขึ้นจากน้ำ สภาพตอนนี้อยากจะเอาออกเพื่อให้สบายตัวแต่สามยืนรออยู่หน้าประตูถ้านานคงได้ตะโกนเรียกอีกแน่


สามนะสาม


ผมรีบจัดการแต่งตัวก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกไป หน้าห้องน้ำมีร่างของสามยืนกอดอกหันหลังพิงผนังห้องอยู่ พอเห็นผมเดินออกมาสามก็ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้


กลิ่นของสามปกติจะหอมอ่อนๆอยู่แล้วตอนนี้กลับยิ่งหอมจนอยากคว้าอีกฝ่ายมาฟัดแรงๆสักทีสองที ความคิดนั่นทำให้ผมก้าวถอยหลังเว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายมากกว่าเดิม


“ถอยหนีทำไม”สามถามโดยที่ก้าวตามผมใกล้มากขึ้นอีก


“เปล่าสักหน่อย”ใครจะบอกได้ล่ะว่ากำลังมีอารมณ์แถมยังค้างอยู่เพราะเสียงเรียกของคนตรงหน้าอีก


“ไม่เชื่อ...แล้วทำไมขอบตาคล้ำ นอนไม่พอเหรอ”ไม่ใส่แค่เสียงที่ดังขึ้นแต่ยังมีฝ่ามืออุ่นที่ทาบลงหน้าผมพร้อมให้นิ้วเกลี่ยใต้ตาผมไปมา


“อึก...”ไม่คิดว่าพออยู่ใกล้กันสามจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้


ตอนอยู่ไกลกันว่าข่มอารมณ์ยากแล้ว พูดเลยว่าตอนนี้ยากกว่าหลายสิบเท่า


แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าทำให้ผมต้องข่มอารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน


“ลูก้า?”


“ไปอาบน้ำเถอะ จะสายแล้วนะ”ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามแล้วเดินหนีสัมผัสของฝ่ามือไปนั่งรออยู่บนโซฟาริมห้อง


การกระทำของผมทำให้สามจ้องมาอย่าจับสังเกตสักพักก่อนจะเข้าห้องน้ำไป เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวของผมที่ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก


“สงบซะ...สงบซะ”ผมพร่ำบอกตัวเองอยู่ตลอดจนสามเปิดประตูออกมาหลังอาบน้ำเสร็จ


หลังจากนั้นพวกเราก็ลงไปยังชั้น1เพื่อกินข้าวยังโรงอาหาร ตลอดระยะทางตั้งแต่ออกจากถึงห้องอาหารผมพยายามอย่างหนักที่จะเดินตามสามไปโดยไม่ให้ผิดสังเกตว่าตอนนี้ผมกำลังข่มอารมณ์อยู่


“พี่ครับ...ขอต้มเลือดหมูกับข้าวสวยร้อนๆด้วยครับ ลูก้ากินอะไรดี”สามตะโกนสั่งก่อนจะหันกลับมาถามผมที่เดินตามมา


“ต้มเลือดหมูเหรอ”เหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่ออาหารชนิดนี้มาก่อนเลย


ได้ชื่อว่าเป็นเลือดหมูแปลว่าต้องเป็นน้ำแดงๆรึเปล่านะ


หรือจะกินสด


ถ้ากินสดๆคงไม่เรียกต้มหรอกมั้ง


“ลูก้าไม่เคยกินสินะ”


“อืม...ไม่เคย”


“อร่อยนะ ลองดูไหม”


“อืม”ผมพยักหน้าตอบไป


“ได้เลย พี่ครับขอเพิ่มอีกที่แต่ขอแบบพิเศษสุดๆเลยนะครับ”


“ไม่ต้องพิเศษขนาดนั้นก็ได้”ช่วงเวลานี้ผมไม่รู้สึกอยากอาหารสักนิด


ที่ต้องการมันไม่ใช่อาหาร


“ถ้าไม่พิเศษเดี๋ยวก็ไม่อิ่มหรอก”


“...อืม”ผมพยักหน้าเบาก่อนจะเดินตามสามไปนั่งโต๊ะติดกับกระจกใส บรรยากาศของเทศด้านนอกทำให้อารมณ์ที่มีสงบลงเยอะ


ใช้เวลาสักพักชามต้มเลือดหมูควันฉุยก็วางเสิร์ฟลงตรงหน้า ภาพของต้มเลือดหมูที่คิดไว้กับความเป็นจริงดูจะแตกต่างกันมากพอควร ในชามมีก้อนเลือดสีเลือดหมูกับพวกตับและหมูสับใส่ไว้โดยมีผักใบเขียวที่ไม่เคยเห็นใส่ไว้ด้วย


“ทำหน้าแบบนั้นแปลว่าคิดภาพไว้ว่าน้ำต้องเป็นสีแดงเหมือนเลือดสินะ”เสียงของสามดังพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้น


“...นี่ใบอะไร”ผมถามหลังจากที่ใช้ช้อนตักผักใบเขียวขึ้น


“นั่นคือตำลึง...อร่อยนะ เป็นผักโปรดของผมเลย”


“สามชอบตำลึง”


“ใช่...อร่อยมาก”


“...”ผมตักผักใบเขียวเข้าปากเขี้ยวตุ้ยๆกลืนลงคอไป รสชาติของมันทำให้ผมนิ่งไป


ถ้าถามความเห็นผมก็พูดได้เลยว่าไม่เห็นจะต่างกับผักชนิดอื่นตรงไหน


รสชาติของผักถ้าเป็นใบสีเขียวสำหรับผมรสชาติมันเหมือนกันหมดแหละ


แต่ถ้าเป็นเนื้อผมรับรู้ถึงความแตกต่างของแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน


“เป็นไง...ไม่ชอบเหรอ”สามมองมาเหมือนรอคำตอบ


“...เปล่า ก็เฉยๆ”


“คิก”


“ขำอะไร”ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายขำ


“เฉยๆอีกแล้ว...ตำลึงเฉยๆแต่กับผมคือชอบสินะ”สามพูดโดยที่ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ


“อืม...ชอบสาม”


“...”คำพูดผมทำให้เสียงหัวเราะนั่นหายไปแทนที่ด้วยใบหน้าสีน้ำผึ้งที่แดงขึ้นเล็กน้อย สามเม้มปากแน่นสักพักก่อนจะเปลี่ยนเป็นก้มลงไปกินต้มเลือดหมูของตัวเองต่อเงียบๆ


“สาม”ทำไมเงียบล่ะ


“...กินต่อเถอะ”เสียงอู้อี้ตอบกลับมา


“หน้าแดง...”


“อย่าพูดนะ”สามเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูดเสียงดัง ใบหน้านั่นแดงกว่าเมื่อครู่อีก


“...”ใบหน้าแดงๆนั่น


น่ามอง


“...เงียบทำไม”สามที่เห็นผมเงียบอยู่ๆก็พูดขึ้น


“ก็สามบอกว่าอย่าพูดนี่”


“...พูดยังดีกว่าเงียบแบบนี้”


“สาม...น่ารัก”


“จะ...จะกวนกันรึไง”น้ำเสียงติดขัดนั่นยิ่งทำให้น่ามองเข้าไปใหญ่


“เปล่า...น่ารักจริงๆ”


“หยุดพูดเลยนะ”


“ก็สามบอกว่าให้พูด...”สรุปจะให้พูดหรือไม่พูดเนี่ย


งงแล้วนะ


“ถ้าจะพูดก็อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ”


“แบบไหนล่ะ”


“ก็...น่ารักอะไรแบบนั้น”


“ผมแค่พูดจริง”


“ลูก้า!”


“ครับ”ตะโกนเสียงดังๆนั่นไม่ได้ทำให้ผมกลัวสักนิด


“...กินข้าวกันต่อเถอะ”สามทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เปลี่ยนเป็นแบบนี้แทน


“ผมอิ่มแล้ว”ผมพึมพำแล้ววางช้อนลง


“อิ่ม?...นายยังกินไม่ถึงครึ่งเลยนะ”สายตาของสามมองลงมายังชามของต้มเลือดหมูสลับกับถ้วยใส่ข้าวที่ยังเหลือเกินครึ่งด้วยความตกใจ


“ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”ช่วงนี้ความอยากอาหารไม่มีหรอก


“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าลูก้า...ปวดหัว ตัวร้อนหรือว่าเป็นอะไร”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาบางๆ


“ไม่เป็นไร”สิ่งที่เป็นมันไม่ใช่อาการป่วย


“ถ้าไม่ป่วยแล้วทำไมถึงได้กินน้อยล่ะ”


“...สายแล้วนะ ไม่ไปทำงานเหรอ”ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง


“จริงด้วย...ไม่สิ อย่าเปลี่ยนเรื่องลูก้า”ดวงตาสีน้ำตาลนั่นจ้องมาอย่างคาดคั้นซึ่งใช้กับผมไม่ได้


“ผมไม่เป็นไรจริงๆ”


“แน่ใจนะ”


“อืม”ผมย้ำอีกรอบ


“งั้นไปห้องวิจัยกับผมนะ”


“วันนี้ผมอยากแช่น้ำอยู่ในห้อง...สามไปเถอะ”ผมบอกไปตามตรง


ขืนให้ไปอยู่โดยที่อารมณ์ยังเป็นแบบนี้เดี๋ยวจะแย่เอาเปล่าๆ


“แน่ใจนะว่าไม่ไปด้วย”


“อืม...เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”


“ลูก้า...”


“สามกินเสร็จแล้วใช่ไหม ไปกันเถอะ”ผมไม่เปิดโอกาสให้สามได้ถามอะไรจัดการพาอีกฝ่ายตรงไปยังห้องทดลองก่อนจะกลับขึ้นมาแช่น้ำในอ่างบนห้องอีกครั้ง



(มีต่อนะคะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)


การกลับมาอยู่ห้องช่วยให้ผมไม่ต้องเผชิญหน้ากับสามโดยตรงแต่การมาอยู่นี่ก็มีกลิ่นของสามลอยอยู่แทบทุกที่ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำหรือแม้แต่บนเตียงที่ผมทิ้งตัวคว่ำหน้าลงอยู่ตอนนี้


“สาม...”กลิ่นของสามเต็มเตียงไปหมด


ถึงไม่เห็นตัวแต่กลิ่นพวกนี้ทำให้อารมณ์ที่เริ่มสงบกลับมาปะทุอีกครั้ง


หรือผมคิดผิดที่ขึ้นมาบนห้องกัน


“อึก...ร้อน...”ร่างกายมันเหมือนจะระเบิด


“สาม...สาม...สาม...”


ผมไม่หวังว่าเขาจะมาตามเสียงเรียก ถ้ามาจริงผมคงทนไม่ไหวแล้วคว้าตัวอีกฝ่ายกดลงบนเตียงแน่


“สาม...”


“ลูก้า...เป็นอะไร”เสียงที่คุ้นเคยทำเอาผมที่คว่ำหน้าอยู่กับเตียงเงยขึ้นไปมอง ดวงตาตอนนี้เหมือพล่าไปหมด นอกจากจะได้ยินเสียงสามแล้วยังเห็นสามมายืนอยู่ข้างๆอีก


ละเมอเหรอ หรือเป็นความฝันกัน


สามตอนนี้อยู่ที่ห้องวิจัย


ไม่ใช่ที่นี่


“สาม...สาม...”ผมไม่สนว่าภาพตรงหน้าจะเป็นฝันหรือละเมอ เพียงแค่รู้ว่าเป็นสามผมก็ดึงร่างนั้นจนล้มลงมานอนแผ่บนเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วซุกไซ้ตามลำคออย่างมัวเมา


ความนุ่มของต้นคอกับกลิ่นของสามยิ่งทำให้สติที่มีขาดหายไป


“อื้อ...ลูก้า...ทำอะไร...หยุด...”


“สาม...สาม...”อยากครอบครอง


อยากจนแทบทนไม่ไหว


“บอกให้หยุดก่อนไงลูก้า”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมเข่าที่ลอยมาโดยหน้าท้อง


“อึก...”ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอย่างฉับพลันจนผมล้มไปนอนขดอยู่บนเตียง


สติที่พล่าเลือนตอนนี้ชัดเจนขึ้นทันตา


“เกิดอะไรขึ้นลูก้า”สามที่อยู่ด้านข้างจ้องมาด้วยสายตาโกรธๆ


“สาม...”ตัวจริงนี่


ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้


ไม่สิ ทำไมผมถึงไม่ได้ยินตอนเปิดประตูหรือแม้แต่กลิ่น


จะบอกว่าสติมันหายไปขนาดนั้นเลยเหรอ


“ดีนะที่สังหรณ์ไม่ได้เลยขอลางาน...เกิดอะไรขึ้น ถ้าป่วยก็บอกกันสิ”อีกฝ่าบ่นก่อนจะใช้มือสัมผัสกับหน้าผากผมเบาๆ


“ผมไม่เป็น...”


“ห้ามพูดว่าไม่เป็นไร เป็นถึงขนาดนี้จะไม่เป็นไรได้ยังไง”


“...สาม”


“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อย บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น”


“ผม...”จะต้องอธิบายยังไงให้สามเข้าใจ


“เฮ้อ...ผมไม่ใช่หมอคงไม่รู้อะไรมาก ถ้ายังไงเรียกหมอมาดีไหม”


“ไม่ต้อง...ถึงเรียกมาก็ไม่ช่วย”ไม่ช่วยอะไรหรอก


“หมายความว่าไง”สามถามกลับ


“...เหมือนช่วงนี้เป็นฤดูติดสัด”ผมคิดว่าสิ่งที่พูดไปนั่นสามสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่ามานั่งอธิบาย


“วะ...ว่าไงนะ...ฤดูติดสัดเหรอ”ดวงตาสีน้ำตาลของสามเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยิน


“...อืม”


“เอ่อ...ผมควรไปพาผู้หญิง...”


“ผมไม่ต้องการผู้หญิง”ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็สวนกลับทันที


“หา?”


“ผมต้องการสาม...ต้องการแค่สาม”สิ่งที่คิดอยู่ถูกพูดออกไปอย่างไม่ทันคิดเพียงแค่ได้ยินว่าอีกฝ่ายคิดจะหาผู้หญิงมาให้


“ละ...ลูก้า...พูดอะไรน่ะ...”


“ต้องการสาม...”ผมบอกพร้อมเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาที่กำลังสั่นระริกเพราะกำลังประมวลสิ่งที่ได้ยินอยู่


“...ไม่ๆๆ...เดี๋ยวก่อน...เอ่อ ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว”


“อะไรที่ว่าไม่ใช่”


“คือผมกับลูก้าเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ”


“ผมรู้...เซโครกับยูทาร์เองก็ผู้ชายเหมือนกันนี่”


“...”คำพูดผมทำให้สามนิ่งไป


“ผมไม่คิดจะบังคับสาม...ผมอยากบอกแค่ว่าถ้าไม่ใช่สามผมก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้น”ต่อให้ต้องทรมานมากเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่สามผมก็ไม่ต้องการ


ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นได้ขนาดนี้


“ลูก้า...”


“ช่วงนี้ผมไม่ควรอยู่ใกล้สาม”ถึงจะอยากอยู่ใกล้แต่มันไม่เหมาะ


อารมณ์ที่ปะทุกับสติที่มีเพียงน้อยนิดไม่รู้ว่าจะจับสามทำอย่างก่อนหน้านี้อีกเมื่อไหร่


ครั้งนี้สติอาจกลับมาแต่ถ้าครั้งหน้าสติไม่กลับมาคนที่จะแย่คือสาม


สามเก่งและแข็งแรงกว่าที่เห็นมาก ผมยอมรับแต่ถึงจะแข็งแรงก็ไม่อาจเทียบผมได้


สายเลือดของไดโนเสาร์มันไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดจะถูกมนุษย์เอาชนะได้โดยง่าย


“คิดจะไปไหนน่ะ”สามรั้งแขนผมไว้เมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นจากเตียง


“ห้องข้างๆสามเคยบอกว่าเป็นของผมสินะ...ขอผมอยู่ที่นั่นจนกว่าจะหมดฤดู”


“แต่นายจะทรมาน...เอ่อ อย่างน้อยถ้าเอาออกเอง...”


“ผมทำแล้ว...แต่สามก็รู้ว่าสัตว์ในฤดูติดสัดเป็นยังไง...แค่นั้นมันไม่พอ”ไม่พอเลยสักนิด


แค่ทำด้วยตัวเองมันไม่พอ


“...งั้น...ถ้าผมทำให้จะพอรึเปล่า”


“...”เสียงเบาๆของสามทำให้ผมถึงกับนิ่งไป


ที่ว่าทำนี่...


“ลูก้า...”


“หมายถึงอะไร”ที่ว่าสามจะทำให้คืออะไร


“ก็...ฮึ้ย อย่าให้ต้องพูดเรื่องน่าอายสิ มานั่งดีๆ”สามบอกแล้วพยายามดึงผมให้ขึ้นไปนั่งบนเตียงดีๆซึ่งผมก็ทำตามอย่างไม่เข้าใจนัก


เมื่อผมนั่งเรียบร้อยสามก็หลับตาพร้อมหายใจเข้าออกหลายต่อหลายครั้งก่อนจะขยับตัวมานั่งอยู่บนหน้าขาผม กางเกงที่ใส่อยู่ถูกปลดซิปเร็วๆจนดวงตาสีเงินของผมเบิกกว้างขึ้น


“สาม...”


“อยู่เฉยๆลูก้า”สามบอกด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้ผิวจะไม่ขาวแต่ผมก็เห็นใบหน้าแดงๆนั่นได้อย่างชัดเจน


ฝ่ามืออุ่นๆลูบคลำพลางกอบกุมส่วนกลางลำตัวที่แข็งขืนขึ้นด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วนพอสมควร แรงขยับของมือทำเอาภายในหัวขาวโพลนไปหมด


ความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจนต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นไม่ให้เผลอคว้าตัวอีกฝ่ายกดลงกับเตียง


“สาม...”ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกดีได้ขนาดนี้


มันดีมากจนเทียบกับมือตัวเองไม่ติด


“โอเคไหม...ดีรึเปล่า คือผมไม่ค่อยทำพวกนี้ก็เลยไม่ค่อย...”


หมับ


แม้จะบอกตัวเองไม่ให้กดอีกฝ่ายลงกับเตียงแต่คำพูดนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวคว้าตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นพร้อมกดจมูกลงสูดดมกลิ่นของอีกฝ่ายในระยะประชิด


“รู้สึกดี...รู้สึกดีมากเลยสาม”ผมกระซิบบอกไป อารมณ์ตอนนี้กำลังพุ่งขึ้นถึงขีดสุด


“อย่าทำเสียงแบบนั้น...”น้ำเสียงของสามดูสั่นเล็กน้อย ไม่ใช่เสียงแต่มือที่สัมผัสกับส่วนกลางของผมก็สั่นเล็กน้อยด้วย แต่ถึงสั่นสามก็ยังขยับมืออยู่ไม่หยุด


“...สาม...สาม”จะไม่ไหวแล้ว


“ลูก้า”


ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น ทั้งสัมผัส


ทุกอย่างมันทำให้รู้สึกดีจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้


“อึก...”ลำคอสีน้ำผึ้งตรงหน้าช่างยั่วยวนผมเลยขบเม้มแรงๆก่อนที่อารมณ์ภายในร่างจะปะทุออกมา


น่าแปลกที่พอสามทำให้อารมณ์กลับสงบลงไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ไม่ยอมสงบลงสักทีไม่ว่าจะทำยังไง


“ลูก้า...นาย...เอ่อ...โอเคแล้วนะ”สามถามพลางยกมือข้างที่ไม่ได้สัมผัสผมขึ้นมาแตะหลังเบาๆ


“อืม...ดีขึ้นเยอะเลย...”หรือเพราะมีสามช่วยอารมณ์ถึงได้สงบลงเร็วขนาดนี้


“งั้น...ผมก็ขอตัว...”


“สาม”ผมกดสะโพกอีกฝ่ายไม่ให้สามารถลุกขึ้นได้


“อะ...อะไร”สามถามเสียงสั่น


“ขออีกรอบได้ไหม”


“ห๊ะ?”


“มันเหมือนไม่พอ”ถึงจะสงบลงแต่ความอยากยังมีอยู่


“เดี๋ยวๆๆ...ผมว่าผมไม่...”


“สาม...ช่วยผมที”


“...บอกแล้วไงว่าอยู่พูดด้วยเสียงแบบนั้น”


“สาม...”


“ระ...รู้แล้วน่า รอเดี๋ยวไม่ได้รึไง”พูดจบไม่นานฝ่ามืออุ่นๆก็กอบกุมส่วนกลางของผมอีกรอบ


ไม่รู้หรอกว่าผมให้สามทำให้กี่รอบ


รู้แค่ว่าแค่รอบสองรอบมันไม่พอหรอก


กับสาม...ผมไม่มีวันพอ

...............................................................

สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ตอนนี้มากช้ามากกก

เราว่าทุกคนคงจะยกโทษให้เราแล้วหลังอ่านตอนนี้จบ 55

หลายคนเรียกร้องฤดูนี้กันมาก ประจวบเหมาะกับหลายๆอย่างเลยแต่งตอนนี้ออกมาค่ะ

อาจดูเหมือนยังไม่สุด...ซึ่งเราอยากให้สามรับรู้ถึงความรู้สึกตัวเองที่มีต่อลูก้าก่อนซึ่งคงอีกนาน

เนื้อหาของวันนี้ก็ยังไม่มีฉากบู๊ ไม่ต้องห่วงนะคะอีกไม่นานได้อ่านฉากบู๊กันแบบเต็มอิ่มแน่นอนค่ะ

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและคอยให้กำลังใจอยู่เสมอนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า

บ๊ายบายค่ะ

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ว้ากกกก ลูก้าโตแล้วจริงๆด้วยย คึคึ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
กรี้ดดดดดด ลูก้าาา เป็นหนุ่มแล้วว
สามก้ไม่เบานะ ไปเสนอตัวช่วยเฉยเลยยยอะ
อยากให้สามรู้ใจตัวเองเร็วๆค่ะ
ลูก้าจะได้ไม่ต้องอดทนอีกต่อไปปปปป
รอค่าาา
ปล. อย่าลืมเปลี่ยนหัวเรื่องนะคะ คนจะไม่รู้ว่าอัพแล้วอะค่ะ
นี่กดเข้ามาเพราเห็นจากเฟสเลย ไม่งั้นก้ไม่รู้เหมือนกันว่ามาแล้ว

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
สามจะรู้ใจตัวเองมะไหร่น้ออออ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เริ่มขยับไปอีกขั้นละ สู้ๆ นะค่ะ ลูก้า  :mew1:
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ วาย ร้าย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สวัสดีค่าาาาาา ขอออกตัวแบบเบรกแดนซ์เลยว่าเราเอฟซีคุณ nicedog ค่ะ ฮิ้ววววววววววว~
คือเราตามอ่านมาตั้งแต่กลายพันธ์แรกแล้วค่ะแต่ว่าพึ่งจะมาทันได้เม้นตอนกลายพันธ์นี้ แบบว่าลืมรหัสผ่านเล้า 5555555555
อะแฮ่มๆ คือตอนนี้เราอ่านมาเป็นคู่ที่สามแล้วใช่ไหมคะ เราเห็นอะไรนิดหน่อยคือ เราเคยได้ยินมาว่า ถ้าเราเอายีนส์ของสัตว์สองชนิดมาผสมกันแล้วลูกที่คลอดออกมาจะเป็นหมันแต่กำเนิด แต่อันนี้เรารู้สึกว่าตัวละครในนิยายของ nicedog จะชอบเพศเดียวกันหมดทุกคน เลยมีความติ้งขึ้นมานิดนึงว่า เอ.... หรือว่านี่จะเป็นสัญชาตญาณของสัตว์เลือดผสมที่ไม่ได้เป็นหมันแต่กำเนิดแต่ว่าไม่มีความรู้สึกกับเพศตรงข้ามไปเลย จะได้ลดปัญหาการมีประชากรล้นโลกอะไรแบบนี้หรือเปล่า
แต่เราคิดว่าเราอาจคิดไปเอง 5555555555
แค่ทฤษฎีที่เราคิดเล่นๆเฉยๆนะคะ ถ้ายังไงก็สู้ๆนะคะ
เรายังรออยู่เสมอ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
แหมะ เห็นอนาคตสามอยู่รำไร...ดวงเด็กกินนะเรานิ ฮ่าๆ :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ลูก้าโตเป็นหนุ่มล่ะเด้อ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
รอบนี้แค่มือนะ.. สาม... รอบ หน้า.. หุหุหุ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
รู้สึกเหมือนลูกชายโตเป็นหนุ่ม o18

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่รอดดดดด สาม สาม สาม
เพ้อ ละเมอเป็นหน้าสาม กลิ่นสาม ไปหมด
ลูก้าจะเป็นแบบนี้กี่วัน
สามเมื่อยมือไหม 55555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถถถถถถถ......ลูก้า     :mew2:
สามใจอ่อนไวๆนะ
ก็ชอบลูก้าแท้ๆ ทำไมยังใจแข็งอีก  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เขามีพัฒนาการ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
◈ธาราที่11◈



ช่วงเช้าของประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรมักจะมีแสงแดดส่องสว่างลงมายิ่งอยู่ติดทะเลกลิ่นไอร้อนจะน้ำเค็มก็มักจะลอยตามลมมา นักท่องเที่ยวหลายคนต่างก็ชื่นชอบเพราะการได้มารับลมกับดูวิวทะเลในยามเช้าช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมมา


ทว่าต่อให้ยืนมองวิวอันสวยงามติดขอบทะเลไปอีกสักสามวันก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้หรอก


ผมไม่มีทางผ่อนคลายในสถานการณ์แบบนี้แน่นอน


ใครมันจะกล้าผ่อนคลายในฤดูติดสัดกันล่ะ!


ถ้าเป็นฤดูติดสัดปกติผมคงไม่ต้องมานั่งกลุ้มแต่ตอนนี้ลูก้าซึ่งมีสายเลือดของไดโนเสาร์อยู่ทำให้ช่วงนี้มักจะมี...เอ่อ ความต้องการมากเป็นพิเศษ


แน่นอนว่าถ้าแค่นั้นผมคงไม่ต้องมายืนมองวิวทะเลหรอกถ้าความต้องการนั่นไม่ได้เกี่ยวกับผมน่ะ


เล่นบอกว่าถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้น


แบบนั้นใครจะยืนอยู่เฉยๆได้เล่า


พอบอกว่าจะช่วยกลายเป็นว่าครั้งเดียวไม่พออีก


แค่ต้องมาเห็นของผู้ชายด้วยกันก็อายจนแทบจะมุดหนีแล้วแต่นี่ยังต้องมาช่วย...ถึงจะแค่มือมันก็อายนะ


เกิดมาก็พึ่งรู้ว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์มีความต้องการมากขนาดนี้


ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกันรึเปล่า


เพราะความอยากรู้ผมเลยอาศัยช่วงที่ลูก้าเข้าห้องน้ำออกมายืนโทรศัพท์หาคนที่สามารถไขข้อสงสัยทุกอย่างได้อย่างหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่หรือเซโครเพื่อนสนิทสมัยเรียนปริญญาเอกของผม


“เซโคร...”


(โทรมาช่วงนี้แปลว่าเกี่ยวกับเรื่องฤดูติดสัดสินะ)ไม่ต้องรอผมพูดจบปลายสายก็พูดขึ้นราวกับรู้ถึงสาเหตุที่ผมโทรมาอยู่แล้ว


“ใช่...นี่คือสิ่งที่นายเตือนเมื่อครั้งที่แล้วสินะ”ผมจำได้ว่าเมื่อเดือนก่อนเซโครก็เตือนให้ผมระวังตัวไว้


ผมก็นึกว่าจะเรื่องอะไรสักอีก สำหรับเรื่องนี้แค่ระวังมันไม่พอมั้ง


(อืม...ตอนอยู่เกาะเขาก็เป็นนะอาการติดสัดน่ะ)


“แปลว่าช่วงนี้ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ทุกคนเป็นหมดเลยสินะ”


(ไม่ใช่หรอก)


“ไม่ใช่?...หมายความว่าไง”ผมรีบถามกลับ


(จริงอยู่ที่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์มียีนของไดโนเสาร์อยู่ในร่างครึ่งหนึ่งทำให้ช่วงฤดูติดสัดมีอิทธิพลค่อนข้างมากแต่อย่าลืมสิว่านอกจากยีนของไดโนเสาร์ยังมียีนของมนุษย์อยู่อีก...)


“จะบอกว่าด้วยอิทธิพลของยีนจากมนุษย์ทำให้ความต้องการช่วงสืบพันธุ์ถูกระงับสินะ”ผมพูดต่อ


(ใช่...นั่นทำให้ถึงอยู่ในฤดูติดสัดก็ไม่ถูกความต้องการควบคุม)


“จะบอกว่าที่ลูก้าเป็นมันผิดปกติเหรอ”ผมถามกลับไปตามตรง


ถ้าพูดว่ายีนของมนุษย์ช่วยระงับความต้องการในช่วงนี้นั่นแปลว่าลูก้าที่มียีนทั้งสองก็น่าจะไม่ถูกความต้องการครอบงำแต่ในความจริงลูก้ากลับดูต้องการมากกว่ามนุษย์ปกติซะอีก


หรือว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น


(เปล่า...เขาปกติดี)


“...ผมเริ่มงงแล้วนะเซโคร สรุปว่ายังไงกันแน่”คำพูดของปลายสายทำให้ผมขมวดคิ้วมากกว่าเดิม


อาการแบบที่เป็นอยู่มันเรียกว่าปกติงั้นเหรอ


(เขาถือว่าปกติถ้าเทียบกับไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีคู่)


“..มีคู่?...หมายถึงมีคนรักอย่างนายกับยูทาร์?”


(ใช่...ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีคู่จะมีความต้องการในช่วงนี้มากกว่าปกติต่างจากไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นที่ไม่มีคนรักหรือคู่)


“ลูก้ามีคู่เหรอ?”ผมถามกลับไป เสี้ยวหนึ่งของน้ำเสียงผมสัมผัสได้ว่ามันแฝงไปด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ไม่รู้ว่าคืออะไร


(ถ้าไม่มีเขาคงไม่ต้องการขนาดนั้น...ตอนที่อยู่เกาะเขาก็เป็นแบบนั้นสองครั้ง)


“สองครั้ง?...แล้วคู่ของลูก้า”


(คู่ของเขาไม่ได้อยู่ด้วย)


“ห๊ะ?...แล้วอยู่ไหน”


(...พูดขนาดนี้นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าคู่ของลูก้าคือใครน่ะ)ปลายสายดูจะเอือมเต็มทีที่ผมไม่สามารถเดาถูกสักที


“ก็ไม่...”


(คิดหน่อยทรี...นายฉลาดจะตาย เรื่องยากกว่านี้ก็คิดได้ไม่รู้เท่าไหร่)คำพูดนั้นเหมือนโดนหาว่าโง่อยู่กลายๆเลย


ตามคำพูดของเซโครคู่ของลูก้าต้องอยู่ไกลจากเกาะ


ถ้าไม่ใช่เกาะก็มีแค่ที่นี่เพราะตั้งแต่ที่ลูก้าเกิดก็อยู่ที่นี่กับผมและบนเกาะนั้นเท่านั้น


ที่นี่เหรอ


พูดถึงคนที่มีโอกาสเป็นคู่มากที่สุดก็ต้องเป็นคนที่คลุกคลีและใช้เวลาอยู่ด้วยมากกว่าคนอื่น


คนคนนั้น...


...ไม่จริงน่า


ไม่ใช่หรอก


“...”ไม่มีทาง


(เงียบแบบนั้นเดาได้แล้วใช่ไหมว่าใคร)


“...ไม่จริง...”


(ทำไมไม่ถามเจ้าตัวเองล่ะ...ลองถามดูสิว่าคู่ของเขาคือใคร)


“เซโคร...”


(ยังไม่ต้องเชื่อในสิ่งที่คิดก็ได้ คำตอบนั้นฟังจากปากของเขาเถอะ เซโคร มาทำอะไรตรงนี้)ระหว่างที่คุยเสียงของยูทาร์ก็ดังแทรกเข้ามาในระยะใกล้


(โทษทีผมคุยกับทรีอยู่น่ะ...งั้นไว้ค่อยคุยกันนะทรี)


“เดี๋ยวสิ...”ยังไม่ทันได้อ้าปากถามต่อปลายสายก็วางไปแล้ว


โอ้ย...แล้วผมจะทำยังไงดี


ไม่ไม่ไม่


ตั้งสติสิสาม


ยังไม่แน่ว่าจะจริงสักหน่อย


มันไม่ทางเป็นผมไปได้หรอก


“สาม”


เฮือก


“...ลูก้า”ผมสะดุ้งตัวโหยงทันทีที่เสียงของลูก้าดังขึ้นจากด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายเดินตรงมาให้ในชุดลำลองดูสบายตา


“ทำอะไรอยู่”


“เอ่อ...พึ่งคุยกับเซโครเสร็จ”ในเมื่อไม่รู้จะโกหกอะไรผมก็เลือกที่จะบอกความจริงไป


“คุย?...เรื่องอะไร”


“ก็หลายๆอย่าง...วันนี้แช่น้ำเร็วนะ”ผมพยายามเลี่ยงโดยการเปลี่ยนเรื่อง


“เร็วที่ไหน...ผมก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่สามจะมาตะโกนบอกให้พอ”


“...เหรอ...โทษทีนะ”นี่ผมคุยกับเซโครนานขนาดนั้นเชียว


“สรุปว่าคุยอะไรกับเซโคร”


“บอกให้เรียกคุณด้วยไง”


“ก็ได้...งั้นสรุปว่าคุยอะไรกับคุณเซโครที่เป็นหัวหน้าของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ”


“ไม่เรียกชื่อจริงด้วยเลยล่ะ”เล่นเรียกซะขนาดนั้นแล้ว


“อย่าเปลี่ยนเรื่องสาม”ดวงตาสีเงินนั่นจ้องมาราวกับจะบอกให้ผมเลิกเลี่ยงไปมาได้แล้ว


ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้แฮะ


“เฮ้อ...คุยเกี่ยวกับฤดูติดสัดว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นเป็นเหมือนกันไหม”


“คำตอบนั่นคงได้แล้วสินะ”


“ใช่...ได้แล้ว ลูก้า...นายมีคู่แล้วเหรอ”ผมกลั้นใจถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุดออกไป


“อืม แต่ยังเรียกว่าคู่ไม่ได้”อีกฝ่าบตอบพลางมองผมด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าเมื่อครู่


“ยังเรียกไม่ได้...”หมายความว่าไง


“เขายังไม่พร้อมจะเป็นของใคร...”


“...ลูก้า”


“เขาบอกว่าให้รอก่อนซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันจะนานแค่ไหน”


“...แล้วยังจะรอตามที่เขาพูดรึเปล่าล่ะ”ผมพยายามอย่างมากไม่ให้เสียงที่ดังออกไปสั่น


คำพูดพวกนั้นผมรู้ดีว่าใครเป็นคนพูด


รู้ดียิ่งกว่าใครเพราะผมเป็นคนพูดมันออกมาเอง


“รอสิ”


“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ”


“คู่ของผมมีแค่คนเดียว”


“...”เจอประโยคนั้นเข้าไปผมถึงกับพูดไม่ออกเลย รู้สึกดีที่ตัวเองมีผิวสีน้ำผึ้งก็วันนี้ถ้าผิวขาวอีกฝ่ายคงเห็นหมดแล้วว่าใบหน้าผมมันแดงขนาดไหน แม้ไม่ส่องกระจกยังรู้เลยว่าแก้มทั้งสองข้างมันร้อนจนแทบสุกแล้วทั้งที่ในประโยคไม่ได้มีชื่อผมอยู่สักนิด


“สามหน้าแดง...”


“หยุดพูดเลยนะ”ผมรีบเอ่ยห้าม


ทำไมถึงรู้ได้กัน คิดว่าผิวสีนี้ไม่น่ามองออกได้ง่ายๆแล้วเชียว


“สามน่ารัก”


“บอกให้หยุดไง”


“...”อีกฝ่ายยอมหยุดตามที่บอกแต่รอยยิ้มมุมปากทำเอาผมอยากกระโดดลงทะเลไปให้รู้แล้วรู้รอด


“หุบยิ้มด้วย”


“ใจร้าย”ลูก้าบ่นโดยที่ยกยิ้มอยู่


“ใครกันแน่”คำนี้ผมสิควรจะพูด


ใครกันแน่ที่ใจร้าย


เล่นทำหัวใจผมเต้นแรงขนาดนี้รับผิดชอบเลยนะ


ไดโนเสาร์บ้านี่


หลังจากจบการพูดคุยที่ทำเอาหน้าแทบไหม้ในช่วงเช้าผมกับลูก้าก็ลงมายังโรงอาหารชั้น1และไปต่อยังห้องวิจัยเหมือนปกติ ลูก้าตอนแรกที่มานั่งในห้องวิจัยดูจะสนใจพวกอุปกรณ์แปลกแต่พอเข้าสัปดาห์ที่สองความสนใจนั่นก็กลายเป็นเฉยๆจนตอนนี้อีกฝ่ายมักจะนั่งเฉยๆรอผมเลิกงาน


บางครั้งผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีที่เห็นลูก้าต้องมานั่งรอแบบนั้นเลยให้ลูก้าเล่นแท็บเล็ตในสัปดาห์ที่สามจนถึงตอนนี้ลูก้าดูเหมือนจะยังไม่เบื่อ ในแท็บเล็ตนั่นผมใส่พวกเกมฝึกสมองกับเกมคลายเครียดไว้เต็มไปหมด


เล่นทั้งเดือนคงยังไม่ครบเลยมั้ง


“ยุ...ตรงนี้เสร็จแล้ว ทางนั้นเป็นไง”ผมละสายตาออกจากกล้องจุลทรรศน์พลางหันไปถามยุที่กำลังง่วนกับการส่องกล้องจุลทรรศน์อีกเครื่อง


“อ่า เสร็จแล้ว...เหมือนผลที่ได้จะเป็นอย่างที่คาด ของสามล่ะ”


“เหมือนกัน ผลออกมาแบบนี้ถือว่าสำเร็จ”ผมบอกพลางยกยิ้ม


ในที่สุดงานวิจัยฉุกเฉินที่ส่งมาก็เสร็จในเวลารวดเร็วกว่าคาด


“ที่เหลือคือทดลองจริง”ยุพูดพร้อมกับหยิบแผ่นสไลด์ใสที่ภายในมีหยดยาสีเหลืองอ่อนหยดไว้ขึ้นมา


การวิจัยครั้งนี้เป็นการคิดค้นการรักษาโรคติดต่อของสัตว์ทะเลที่กำลังระบาดอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่พวกผมที่คิดค้นยารักษานี้


ตั้งแต่มีข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดก็ได้มีการกระจายข่าวและส่งทีมแพทย์หลายคนไปหาสาเหตุซึ่งก็หาไม่พบ นั่นทำให้ตัวอย่างเชื้อโรคถูกกระจายไปตามห้องวิจัยชื่อดังทั่วโลกเพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตครั้งนี้โดยเร็วที่สุด


“ดูเหมือนเราจะทำได้เป็นกลุ่มแรก”พูดจบก็อดยิ้มไม่ได้


“งั้นเหรอ...น่าดีใจแฮะ”


“วุธ...พิมพ์รายงายเสร็จก็ส่งข่าวไปบอกทางนั้นด้วยนะ”ผมบอกวุธที่กำลังนั่งพิมพ์รายงายจากยุอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์


“ให้พี่พลไปแจ้งไม่ได้เหรอครับ”วุธพูดโดยที่มือยังคงพิมพ์อยู่


“เฮ้ยๆ...อย่าโยนให้พี่สิน้อง เห็นไหมว่าพี่ทำงานสำคัญอะไรอยู่”คนถูกพาดพิงอย่างพี่พลถึงกับรีบออกปากกลัวว่าจะได้งานเพิ่ม


“เก็บล้างอุปกรณ์น่ะเหรอครับ”


“อย่าดูถูกเชียวนะ รู้ไหมว่าถ้าล้างไม่สะอาดอาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเลยนะ”


“พี่ก็แค่เอาเรียงเข้าตู้ล้างเท่านั้นนี่”วุธเถียงขาดใจ


“พอๆ...ฟ้า...ติดต่อทางนั้นด้วยว่าเราทำสำเร็จแล้ว”เพราะไม่ต้องการฟังทั้งคู่ถกเถียงกันไปมากกว่านี้ผมเลยเลือกให้ผู้ช่วยอีกคนไปทำแทน


“ได้ค่ะหัวหน้า”


ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังโซฟาสีน้ำเงินเข้มริมห้อง บนโซฟามีร่างของลูก้านอนเล่นแท็บเล๊ตอยู่พอเขาสัมผัสได้ว่าผมเดินมาก็ละสายตาออกจาจอเงยขึ้นมามอง


“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ”


“อืม...ครั้งนี้ไม่ได้ยากเท่าไหร่”


“จะกลับเลย?”


“ลูก้าว่าไงล่ะ”ผมถามกลับ


“อยากดำน้ำ”คำตอบนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาบางๆ


เป็นคำตอบที่สมกับลูก้าจริงๆ


“เอาสิ...ไหนๆก็ว่างไปดำน้ำกัน”


“พูดแล้วนะ”ดวงตาสีเงินทอประกายสุขสมพร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นแทนจะทันที


“แน่นอน...ไปกัน”


“อืม”แท็บเล๊ตในมือถูกวางไปบนโซฟาสีน้ำเงินก่อนจะลุกตามผมออกมาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข


ทุกครั้งที่ผมพาไปดำน้ำหรือว่ายน้ำลูก้ามักจะมีความสุขอยู่เสมอ


ความจริงก็ไม่ใช่แค่ลูก้าหรอกที่มีความสุข


ผมเองก็มีความสุขไม่ต่างกัน


ระหว่างเดินไปยังชายหาดเท้าที่ก้าวก็หยุดลงเมื่อเห็นฝ่ายควบคุมวิ่งกันให้วุ่นตั้งแต่บนหาดยาวไปถึงบนสะพานที่มีบ่อสัตว์น้ำเรียงรายอยู่


“เกิดอะไรขึ้น”แน่นอนว่าคำถามนั้นผมไม่หวังให้ลูก้าตอบ พวกเราเดินมาด้วยกันถ้ารู้ก็คงแปลก


“เหมือนกำลังเร่งรีบอะไรสักอย่าง”ลูก้าพูดเสริมพลางมองไปยังกลุ่มคนที่วิ่งวุ่นอยู่


“นั่นหัวหน้านทีธารนี่...หัวหน้าครับ”เสียงของโก้ รองหัวหน้าฝ่ายควบคุมของปายดังขึ้นพร้อมกับหันไปตะโกนบอกหัวหน้าของตัวเอง


“สาม?”ดูเหมือนคนที่วิ่งตามมาสบสมจะตกใจไม่น้อยที่เห็นผมอยู่ตรงนี้


“ปาย...”ยังไม่ทันได้เรียกชื่อจบลูก้าก็เดินมาขวางหน้าไม่ให้ปายเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้


“นายนี่จะหวงสามไปไหนนะ”ปายบ่นเมื่อเห็นท่าทางของลูก้า


“นายมันไม่น่าไว้ใจ”


“หึ...ของตัวเองก็ไม่ใช่”ปายย้อนกลับ


“ตอนนี้ยังแต่ต่อไปเป็นแน่”


“คิดงั้นเหรอ”


“แน่นอน”สายตาของทั้งคู่ที่จ้องราวกับศัตรูคู่แค้นทำให้คนมองอย่างผมส่ายหัวไปมา


“พอก่อน...มีเรื่องอะไรปาย ทำไมหน่วยควบคุมมาวิ่งเล่นแถวนี้”ผมยิงคำถามตรงๆ ปกติหน่วยควบคุมไม่มาอยู่แถวนี้หรอกแปลว่าถ้ามาคงมีเรื่องอะไรสักอย่าง


“มีการขอความช่วยเหลือจากเรือที่ประสบเหตุกลางทะเลเมื่อไม่กี่นาทีก่อน”


“ประสบเหตุ?”


“ใช่...เหมือนจะเจอฝูงวาฬกระแทกจนเรือเสียหาย”


“ลูกเรือปลอดภัยสินะ”ผมถามต่อ


“ลูกเรือน่ะปลอดภัยแต่สิ่งที่บรรทุกมาด้วยกลับตกทะเลไปน่ะสิ”ปายอธิบายหน้าเครียด


“บรรทุกอะไร...น้ำมัน?”


“ไม่ใช่...เรือนั่นบรรทุกสัตว์ทะเลดึกดำบรรพ์ไว้ ทางนั้นเลยต้องการให้คนที่อยู่ใกล้สุดซึ่งก็คือพวกเราไปช่วยจับสัตว์ทะเลพวกนั้น”


“พูดเป็นเล่น”จะให้จับสัตว์ทะเลที่หลุดไปแล้วในทะเลเนี่ยนะ


อยากจะขำให้กลิ้งตกทะเล


“จะพูดเล่นทำไม...เห็นว่าเรือนี่มาจากเขตแฟซิฟิกที่มีโรคติดต่อทางทะเลระบาดอยู่ แปลว่าอะไรนายคงเข้าใจสินะสาม”พูดจบดวงตาสีน้ำตาลก็หันมาสบอย่างจริงจัง


“...สัตว์ทะเลที่หลุดไปอาจมีเชื้อโรคอยู่”และถ้าเอาไปแพร่ให้ตัวอื่นละก็ได้ติดเชื้อการเป็นแถบๆแน่


“ตามนั้น...เราต้องรีบจับกลับมาให้ได้ เพราะงั้นขอแรงหน่อย”


“ผม?”


“กับนายด้วย”พูดกับผมเสร็จก็หันไปมองลูก้าที่อยู่ข้างๆ


“ลูก้า เอาไง”ผมหันไปถามความเห็น


“เราไม่ควรปล่อยไว้”ลูก้าหันมาบอก


“คิดเหมือนกัน”


“สรุปว่าตกลงนะ...รีบไปเรือกันเถอะ”


“ขอเวลาผม5นาที...เดี่ยวตามไปที่เรือ”ผมบอกปายก่อนจะวิ่งกลับไปยังห้องวิจัยโดยมีลูก้าวิ่งตามมาติดๆ พอมาถึงยังห้องหลายคนที่อยู่ก็หันมามองอย่างสงสัยเพียงแต่ผมไม่มีเวลาที่จะอธิบายอะไรเลยได้แต่หยิบยาที่พึ่งทดลองเสร็จวิ่งตรงไปยังเรือที่จอดรออยู่



(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)


แน่นอนว่าด้วยระยะทางทำให้ไม่สามารถใช้เวลา5นาทีเหมือนที่พูดไว้ได้ แต่ดูเหมือนปายจะรอผมและลูก้าอยู่ ทันทีที่เหยียบบนเรือปายก็สั่งให้ออกเรือโดยไม่รีรอ


“สัตว์ที่หลุดไปเป็นพันธุ์อะไร”ผมเดินไปถามข้อมูลจากหัวหน้าฝ่ายควบคุมอย่างปาย


“เรื่องนั้นการติดต่อถูกตัดไปก่อนแต่เหมือนจะเป็นออสตราโคเดิร์มนะ”


“หึ...”


“มีอะไรน่าขำเหรอสาม”ลูก้าที่ตามมาถามด้วยใบหน้างงๆ


“น่าขำสิ...สัตว์ที่อาจมีเชื้อโรคตอนนี้อยู่ในทะเลแถมดันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ก้นทะเลอย่างออสตราโคเดิร์มอีกต่างหาก”น่าขำจนอยากจะร้องไห้


ระดับน้ำที่ใช้ในการแล่นเรือคงไม่ใช่10-20เมตร ระดับน้ำที่วาฬอยู่คือประมาณ1,000เมตรการจะดำลงไปก้นทะเลในระดับที่ลึกกว่า1,000เมตรถือเป็นเขตอันตรายที่แสงสว่างส่องไปไม่ถึง


น้ำลึกขนาดนั้นสัตว์ที่ต้องจับดันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ก้นทะเล


แถมขนาดของมันยังมองเห็นง่ายซะเหลือเกิน


นี่ผมกำลังประชดอยู่นะ


ออสตราโคเดิร์ม เป็นปลาดึกดำบรรพ์ที่มีเกราะหุ้มอยู่ทั้งตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากนักล่าในก้นทะเลลึก ด้วยขนาดเพียงฝ่ามือหรือไม่เกิน30เซนติเมตรทำให้มันถูกมองข้ามจากนักล่าตัวใหญ่


ไม่มีอะไรยากไปกว่านี้แล้ว


“คิดจะให้พวกลูกน้องดำลงไปเหรอ”ผมหันไปถามปาย


“...นอกจากนั้นคงไม่มีทางเลือกอื่น”ปายนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา


“ได้พากันแย่น่ะสิ...ระดับน้ำขนาดนั้นไม่มีใครเคยดำลงไปหรอก ความมืดของก้นทะเลมนุษย์ปกติไม่มีทางมองเห็น”การจะดำลงไปในความลึกระดับนั้นจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญสูง


ขนาดผมยังไม่เคยดำลงไปลึกขนาดนั้นเลย


“มีวิธีอื่นจะเสนอรึเปล่าล่ะ...ตอนนี้ถ้าพวกมันถูกสัตว์อื่นกินไปแล้วเกิดแพร่เชื้อมันจะยิ่งควบคุมยากขึ้นไปอีก”


“ข้อเสนอน่ะมี...แต่ต้องถามข้อมูลมากกว่านี้ก่อน”


“ว่ามา...”


“หัวหน้า ถึงแล้วครับ”เสียงตะโกนของโก้หนึ่งในลูกน้องของปายดังขึ้นขัดจังหวะ


เรือขนาดกลางของพวกเราเข้าไปจอดเทียบกับเรือขนาดใกล้เคียงกันอีกลำ บนเรือนั่นมีคนอยู่หลายสิบคนที่กำลังทำหน้าเหมือนคงกำลังหมดหวัง ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะทำหน้าแบบนั้น...ถ้าเรื่องสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่อาจมีเชื้อระบาดอยู่รู้ถึงหูพวกองค์กรสิ่งแวดคงได้มีบทลงโทษไม่น้อยแน่


“ก่อนอื่นผมของถามว่าทำไมถึงได้นำสัตว์ที่อาจมีเชื้อบรรทุกมากับเรือด้วย”ผมไม่รอแม้จะเอ่ยทักทายรีบตรงเข้าไปหาคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า


“การทำยารักษาจำเป็นต้องมีการทดลองจริง ถ้าขืนรอให้นำยาไปทดลองคงจะกินเวลามากดังนั้นทางเบื้องบนเลยมีคำสั่งให้นำสัตว์ในเขตที่มีการแพร่ระบาดส่งให้กับสถาบันวิจัยทั่วโลก...ความจริงทางเราก็จะส่งให้กับพวกคุณเหมือนกัน”


“...แบบนี้นี่เอง”เข้าใจล่ะว่าทำไมถึงต้องพาสัตว์พวกนี้มา


เราจะปล่อยเวลาให้เสียไปไม่ได้ การจะรอให้สร้างยาได้แล้วส่งไปยังพื้นที่แพร่ระบาดเพื่อทำการทดลองว่าใช้ได้หรือไม่นั้นกินเวลาเกินไป และถ้าเกิดใช้ได้กว่าจะทำยาตัวเพิ่มก็ยิ่งเสียเวลามากขึ้นไปอีก


“เดี๋ยวพวกเราจะพยายามลงไปจับออสตราโคเดิร์มให้แต่ไม่รับประกันว่าจะจับได้ครบไหม”ปายพูดต่อ


“เอ่อ...เกี่ยวกับเรื่องเราเกรงว่าจะไม่ได้มีแค่ออสตราโคเดิร์มที่พวกคุณต้องช่วยจับ”


“จะบอกว่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ตกทะเลไปไม่ได้มีแค่ออสตราโคเดิร์มงั้นเหรอ”ผมแทบจะตะโกนออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั่น


“คะ...ครับ”


“มีอะไรอีก”


“พิคายา...”อีกฝ่ายพึมพำเสียงเบาราวกับไม่อยากพูดชื่อนั้นออกมา


“พิคายา...ให้ตายเถอะ นี่มันยิ่งกว่าออสตราโคเดิร์มอีกนะ”ผมละอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆเลย


ออสตราโคเดิร์มยังมีขนาดประมาณ30เซนติเมตรซึ่งก็ถือว่าเล็กแล้วสำหรับการมองหาด้วยตาในทะเลอันกว้างใหญ่แต่พิคายามีขนาดเล็กกว่าอีกหลายเท่าคือมีขนาดตัวเพียง5เซนติเมตรเท่านั้น


คิดดูสิว่าจะมองหาสัตว์ขนาดเล็กเท่านั้นได้ยังไงในทะเลที่กว้างเป็นหมื่นๆกิโล


“...แล้วก็มีฮัลลูซิจีเนียอีกครับ”


“...”ผมถึงกับพูดไม่ออก ดวงตาสีน้ำตาลของผมเบิกกว้างทันทีที่อีกฝ่ายพูดต่ออีก


“สาม...ฮัลลูซิจีเนียนี่ผมเคยได้ยินมา เห็นว่าเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่มีหนามบนหลังถึง7คู่...ถึงจะมีหนามเยอะขนาดนั้นแต่ขนาดตัวมันน่ะ...”


“0.5มิลลิเมตรถึง3เซนติเมตร”ผมพูดต่อสิ่งที่ลูก้าค้างไว้


พิคายาว่าตกใจแล้วเจอฮัลลูซิจีเนียยิ่งตกใจกว่าอีก


นี่มันรวมสัตว์ดึกดำบรรพ์ยุคแคมเบรียนรึไง


“สาม”ปายเรียก


“สัตว์เล็กขนาดนั้นโอกาสหาเจอแทบเป็นศูนย์”


“แต่จะปล่อยเอาไว้...”


“ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”


“อืม...เห็นบอกว่ามีแผนอะไรนี่”


“ก็มีอยู่แต่ขอถามข้อมูลอีกหน่อย...พวกสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ล่วงไปในทะเลมีอะไรใส่ไว้สินะครับ”ผมหันกลับไปถามเจ้าหน้าที่คนเดิม


“ใส่กล่องใสไว้ครับ...กล่องนั่นมีระบบล๊อคอยู่ต่อให้โดนกระแทกก็ไม่เปิดแน่นอน”อีกฝ่ายอธิบาย


อย่างน้อยก็อยู่ในกล่องอย่างที่คาดนึกว่าต้องงมเข็มในมหาสมุทรซะแล้ว


แบบนี้ค่อยง่ายหน่อย


“แล้วบริเวณที่ตกลงไปล่ะ”


“บริเวณนั้นครับ...ตกไปได้เกือบชั่วโมงแล้ว”


“เกือบชั่วโมงเหรอ...ลงไปลึกแน่...ปาย”


“พูดแผนของนายมาเลย”


“จะทำตามงั้นสิ”


“ก็ดีกว่าไม่มีแผนละกัน”


“เป็นหัวหน้าแต่ไม่มีแผนนี่แย่นะ”


“ใครมันจะคิดได้เร็วเหมือนนายเล่า...บอกมาได้แล้ว”ปายเร่ง


“ถ้าสิ่งที่ตกลงไปคือกล่องเราก็หาได้ง่ายขึ้นแต่ขอบเขตการค้นหาก็จะกว้างหน่อยเพราะกระแสน้ำอาจทำให้กล่องถูกพัดไปค่อนข้างไกล...ผมเสนอให้แบ่งกันทำงานเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกดูตั้งแต่ผิวน้ำไปจนถึงระดับความลึก50เมตร กลุ่มที่2ตั้งแต่50เมตรไปจนถึง80เมตร...”


“ระดับน้ำมันตื้นไปรึเปล่า น่าจะหาในระดับที่ลึกกว่านั้น”ปายพูดแทรก


“กล่องขนาดประมาณไหนครับ”ผมหันไปถามอีกรอบ


“ประมาณนี้ครับ”อีกฝ่ายบอกรูปร่างโดยใช้มือทั้งสองข้างช่วย ขนาดนั้นประมาณเครื่องซีพียูปกติหนึ่งเครื่องได้


“จากที่ผมคาดคิดว่ายังไม่น่าลงไปลึกขนาดนั้นแต่เพื่อความแน่ใจผมกับลูก้าจะเป็นกลุ่มที่3จะลงไปหาในระดับความลึกมากกว่า80เมตรให้”


“แค่สองคน?”


“ใช่...ผมไม่ได้บอกว่าคนอื่นประสบการณ์ไม่พอหรือไม่เหมาะสม เพียงแต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินผมกับลูก้าสามารถกลับขึ้นมาได้โดยมีเปอร์เซนต์ความปลอดภัยมากกว่า”ผมอธิบายต่อ


“สาม...”


“ไหวนะลูก้า”ผมหันไปมองลูก้า


“แน่นอน”


“เคยดำลึกสุดเท่าไหร่”


“ไม่รู้สิ ผมไม่เคยวัดแต่ลึกพอดู”


“โอเค...มีชุดกับถังออกซิเจนใช่ไหม”ผมหันไปถามปาย


“อืม...มีอยู่ท้ายเรือ”


“บอกให้ทุกคนทำตามนั้น พวกเราต้องรีบหน่อย”


“เข้าใจแล้ว”


หลังจากคุยจบผมก็รีบวิ่งไปจัดการเปลี่ยนชุดและอุปกรณ์ต่างๆ ถังออกซิเจนถูกปรับให้มีขนาดเล็กกว่าปกติแต่มีปริมาณอากาศมากกว่าถังขนาดใหญ่ เมื่อผมจัดการทุกอย่างเสร็จก็ออกมายังส่วนท้ายเรือที่ตอนนี้มีเหล่าลูกน้องปายกำลังดำลงไปอยู่


“ลูก้า ไม่เปลี่ยนชุดแน่นะ”ผมหันไปถามอีกรอบ


“ไม่เปลี่ยน...แบบนี้สบายกว่า”


“รู้ใช่ไหมว่าเราต้องหาอะไร”


“อืม...กล่องใสที่มีสัตว์ตัวเล็กอยู่ข้างใน”


“ดี...นี่ลูก้า”ผมมองไปรอบๆก่อนจะเข้าไปปะชิดตัวอีกฝ่าย


“อะไร”


“ห้ามกลับร่างโนเสาร์ถ้าผมไม่บอกนนะ”ผมกระซิบต่อ


“เข้าใจแล้ว”


“และถ้ากลั้นหายใจไม่ไหวให้บอกผมจะให้ออกซิเจน”


“สามจะจูบผมเหรอ”


“ไม่ได้พูดสักคำ”ผมหันไปบ่นเสียงดัง


ประโยคไหนที่สื่อความหมายว่าจะจูบกัน


“ก็บอกว่าจะให้ออกซิเจน”


“แค่ที่หายใจต่างหาก...เลิกเล่นก่อน ไปกันได้แล้ว”


“อืม”ลูก้าพยักหน้าก่อนจะค่อยๆลงใบยังทะเล


“ปาย...ถ้ามีท่าไม่ดีเรียกคนอื่นให้ขึ้นเรือซะ”ผมบอกพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีกลุ่มเมฆสีเทาเคลื่อนตัวมา


“คนอื่นที่ว่ารวมพวกนายสองคนด้วยนะ”


“ผมไม่ใช่ลูกน้องนายนะ”ผมบอกยิ้มๆ


“คิดจะจัดการคนเดียวเหรอ ครั้งก่อนก็ทีแล้ว...แบบนี้ยุบฝ่ายควบคุมไปรวมกับฝ่ายวิจัยเลยดีกว่ามั้ง”


“ไว้จะลองเอาไปเสนอที่ประชุมดูนะ”ผมพูดติดตลก


“ติดเครื่องสื่อสารไร้สายไปแล้วใช่ไหม”


“อืม”ผมพยักหน้าก่อนจะลงไปในน้ำบ้าง


ลูก้าลอยคอรออยู่พอผมพยักหน้าให้อีกฝ่ายก็มุดลงไปใต้น้ำทันที ผมเองก็ดำลงไปตามหลังลูก้าไป...ระยะห่างที่ทิ้งกันนี่คงเป็นความห่างของความสามารถในน้ำสินะ


ทั้งที่ร่างกายเป็นมนุษย์เหมือนกันแต่ลูก้ากลับเคลื่อนไหวในน้ำได้คล่องกว่าบนบกซะอีก


ระดับน้ำที่เริ่มลึกขึ้นเริ่มทำให้การมองเห็นแคบลงไปเรื่อย...เมื่อผ่านระดับ80เมตรมาโลกใต้ทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีเทา ฝูงปลาขนาดใหญ่สีเงินแหวกว่ายผ่านกระแสน้ำเป็นภาพชวนมองเพียงแต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาจะไปหลงกับวิวพวกนั้น


“สาม...ได้ยินสินะ...ตอนนี้เราเจอกล่องออสตราโคเดิร์มแล้วในระดับน้ำลึกประมาณ25เมตรห่างจากตัวเรือไปประมาณ200เมตร ตอนนี้มีการติดต่อมาว่าหน่วย2เจอกล่องใสแล้วแต่เพราะเริ่มมีกระแสน้ำเลยต้องใช้เวลาอีกนิด ฝนทำท่าจะตกแล้วพวกนายควรรีบขึ้นมา”เสียงจากเครื่องสื่อสารไร้เสียงทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนผิวน้ำที่เกิดความสั่นไหวขึ้น


ด้วยระดับความลึกนี้แค่ฝนตกไม่สามารถส่งมาถึงผมได้แต่ถ้าเป็นพายุก็ไม่แน่


เครื่องมือสื่อสารไร้สายมีข้อดีคือเราสามารถติดต่อกับคนด้านบนได้โดยมีข้อเสียคือไม่สามารถตอบได้เพราะปากกำลังหายใจด้วยออกซิเจนอยู่


ลูก้า


ผมหันซ้ายขวามองไปรอบๆเพื่อหาแผ่นหลังที่เมื่อครู่ยังเห็นอยู่แต่ตอนนี้กลับหายไปจากสายตาอย่างสิ้นเชิง


จะว่าไปผมยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับลูก้าให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยนี่นา


พวกเรายังไม่มีสัญญาณที่ใช้ใต้น้ำรวมถึงอีกหลายๆอย่าง


ฮืม


คิ้วของผมเริ่มขมวดแน่นเมื่อเห็นอะไรบางอย่างว่ายขึ้นมาจากก้นทะเล เส้นผมสีฟ้าแซมแดงอันเป็นเอกลักษณ์นั่นทำให้ผมยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ลูก้าว่ายขึ้นมาพร้อมกับกล่องใสที่ภายในมีพิคายาตัวเล็กใส่อยู่


พอลูก้าว่ายมาตรงหน้าผมก็ทำหน้าโกรธพลางชี้ไปยังตัวอีกฝ่ายสลับกับกล่องใสด้านข้างเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมไม่พอใจที่เขาไปจัดการคนเดียวทั้งที่พวกเราเป็นคู่หูกัน


แบบนี้ก็เหมือนผมไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลยน่ะสิ


ลูก้าเองยกยิ้มขึ้นก่อนจะส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าพูดอะไรไม่รู้เรื่อง


ลูก้า


ท่าทางนั่นยียวนจนผมอดไม่ได้ที่จะยกเท้าถีบอีกฝ่ายแรงๆจนลอยไปแต่ไม่ไกลมาก


“สามตอนนี้มี...”อยู่ๆเสียงจากเครื่องสื่อสารไร้สายก็หายไป


หรือว่าจะเสีย


ไม่ก็อยู่ในระดับน้ำที่มากเกินกว่าเครื่องจะทนไหว


นิ้วผมชูขึ้นด้านบนเป็นสัญญาณบอกให้พวกเราว่ายขึ้นไปได้แล้วซึ่งลูก้าก็พยักหน้าก่อนที่พวกเราจะว่ายขึ้นไปด้านบนด้วยกัน ยิ่งใกล้ผิวน้ำกระแสน้ำก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆแปลว่าด้านบนต้องกำลังเกิดฝนตกและอาจพ่วงด้วยพายุขนาดย่อม


ลูก้า


พึ่บ


เหมือนลูก้าจะได้ยินที่ผมเรียกเขาเขยับเข้ามาใช้มือข้างนึงกอดเอวผมไว้ก่อนจะค่อยๆพาขึ้นไปด้านบนต่อ กระแสน้ำขนาดนี้ถ้าไม่อยู่ด้วยกันมีสิทธิ์ปลิวไปคนละทางได้


สัมผัสของกระแสน้ำที่เปลี่ยนแปลงทำเอาผมถึงกับเบิกตากว้างใต้หน้ากาก ความรู้สึกเหมือนโดนดูดนี่คือน้ำวนอย่างไม่ต้องสงสัย
สาม


ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธีอยู่ๆก็เหมือนได้ยินเสียงของลูก้า พอหันไปมองดวงตาสีเงินนั่นก็กำลังสบมา สายตานั่นกำลังบอกให้ผมตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับสถานการณ์นี้


สิ่งที่ลูก้าคิดกับสิ่งที่ผมคิดรู้สึกจะตรงกันสินะ


ผมพยักหน้าส่งไปให้เล็กน้อยนั่นทำให้ลูก้าส่งกล่องใสมาให้ผมถือก่อนร่างนั้นจะเปลี่ยนจากมนุษย์เป็นไดโนเสาร์ร่างสีฟ้าลายแดงขนาดใหญ่ยักษ์ ด้วยร่างขนาดใหญ่ของลูก้าสามารถผ่านกระแสน้ำวนไปได้อย่างไม่ยากเย็นโดยมีผมถูกปากเรียวขนาดใหญ่คาบไว้


ความจริงก็อยากจะเกาะหลังมากกว่าแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เวลามาเรื่องมาก


กรรรรรร~


ร่างของลูก้าโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำพร้อมกับเสียงคำรามสูง สายฝนด้านบนดูจะค่อยๆสงบลงเช่นเดียวกับหมู่เมฆสีเทาที่สลายไปอย่างเชื่องช้า


บริเวณที่เราโผล่ขึ้นมาคือด้านข้างของเรือทั้งสองลำที่จอดเคียงข้างกันอยู่


“นั่นอะไรน่ะ”ไม่รู้ว่าเป็นลูกน้องของปายหรือพนักงานบนเรือที่ส่งเสียงร้องตกใจขึ้น


“หัวหน้านทีธารกำลังจะถูกกินแล้ว”


เฮ้ย...ใครถูกกินกัน


“สาม”เสียงของปายตะโกนพร้อมชะโงกหัวลงมาหาผม


“แค่ก...ผมไม่เป็นไร”ทันทีที่ดึกสายออกซิเจนออกผมก็ตะโกนตอบอีกฝ่ายไป


“ไม่เป็นอะไรที่ไหนเล่า...ตัวนั่นมัน...”


“หัวหน้าออกคำสั่งได้ครับ”โก้บอกพร้อมกับเหล่าลูกน้องที่เล็งกระบอกปืนสีดำมายังลูก้าในร่างไดโนเสาร์


“เดี๋ยวๆๆ...ห้ามยิง ห้ามยิงเด็ดขาดนะ นี่ลูก้า”ผมรีบโบกมือบอกปายโดยไม่สนว่าท่าทางของตัวเองมันจะน่าเกลียดขนาดไหน
ตราบเท่าที่ผมยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายลูก้า


“ลูก้า?...ก็รู้ว่าเป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์แต่ไม่ใช่ไดโนเสาร์บกเหรอ”น้ำเสียงงงๆนั่นทำให้ผมรู้ว่าถึงปายจะรู้ว่าลูก้าเป็นใครแต่ก็ไม่รู้ว่าร่างจริงของเขาคืออะไร


จะว่าไปก็มีไม่กี่คนที่เคยเห็นลูก้าในร่างนี้


“เขาเป็นไดโนเสาร์น้ำ...ห้ามยิงเด็ดขาดเลย”ผมย้ำอีกรอบ


“...เข้าใจแล้ว...ห้ามยิง”ปายหันไปสั่งลูกน้องที่เหลือ


“เฮ้อ...ลูก้าปล่อยผมได้แล้วมั้ง”ผมหันไปบอกเสียงสั่น พอทุกอย่างจบผมก็พึ่งสังเกตว่าสภาพตัวเองที่ถูกฟันคมกริบคาบถังออกซิเจนอยู่ในท่าทิ้งตัวต่องแต่งนี่มันไม่น่าดูเอาซะเลย


งี๊ดดด~


ลูก้ายอมทำตามที่บอกพาผมไปวางลงยังบันไดขึ้นเรือก่อนจะกลับร่างมนุษย์ท่ามกลางความตกใจของหลายๆคนที่มองอยู่


“ไม่อายเหรอลูก้า”ผมหันไปถามเพราะดูอีกฝ่ายไม่สนใจเท่าไหร่ว่าจะมีคนมองหรืออะไร


“ไม่นี่...สามไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม ผมไม่รู้จะคาบยังไงเลยได้แค่นี้”ลูก้าพูดพลางไล่มองร่างกายผมว่ามีอาการบาดเจ็บตรงไหนบ้าง


“ผมไม่เป็นไร...ลูก้าทำดีแล้ว...ขอบคุณที่ช่วยนะ”ผมบอกด้วยรอยยิ้ม


“ไม่ว่ากี่ครั้งผมก็จะช่วย”หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นราวกับตอบสนองกับคำพูดนั่นโดยไม่รู้ตัว


หลังจากขึ้นไปผมก็จัดการหยดยาที่พึ่งทดลองเสร็จลงไปแล้วนำสัตว์ดึกดำบรรพ์พวกนั้นไปตรวจอย่างแน่นอนยังศูนย์วิจัยสัตว์ทะเล จากการทดลองจริงเชื้อโรคที่แพร่อยู่ได้หายไปตามคาดพวกผมที่คิดค้นยารักษาได้เป็นที่แรกเลยต้องวุ่นกับการทำยานั่นในปริมาณมาก


การจะทำยาให้เพียงพอกับสัตว์ในบริเวณนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายจึงได้มีการเปิดเผยข้อมูลยาเพื่อให้ทางสถาบันวิจัยอื่นๆช่วยทำยาตัวนี้ขึ้นมาในเวลาพร้อมๆกัน


โรคระบาดในมหาสมุทรแปซิฟิกถูกควบคุมและรักษาเสร็จสิ้นในเวลา1เดือน


ผมดีใจที่เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีแต่ก็มีหลายอย่างที่ติดอยู่ในหัว ไม่ว่าจะสลัดยังไงก็ไม่ออก


ตอนนี้ผมมันอ่อนแอ


มีแต่ต้องให้ลูก้าช่วย


ผมเคยคิดว่าถ้าเป็นเรื่องในน้ำผมสามารถทำได้แต่มันไม่ใช่


มันคงได้เวลาที่ผมจะเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังสักทีเพื่อที่ครั้งหน้าผมจะเป็นฝ่ายช่วยลูก้าบ้าง

......................................................................

มาต่อแล้วค่าาา

แต่งเสร็จมาได้สักพักแต่ยุ่งๆ เลยไม่ได้ลงให้อ่านกันสักที

พัฒนาของทั้งคู่กำลังค่อยเป็นค่อยไปกันค่ะ คนอ่านก็อย่าพึ่งรีบร้อนกันน้า 555

หลายคนกำลังรอฉากต่อสู้มันส์ๆ รับรองว่าอีกไม่นานจะได้เห็นฉากต่อสู้ยาวแน่ค่ะ

ลูก้าตอนแรกเราวางให้เป็นพวกเนือยๆ แบบไม่ค่อนสนใจอะไรแต่พอแต่งได้สักพักกลับติดสามแจซะอย่างงั้น แต่งเองก็ชอบเอง ความจริงลึกๆ แล้วเราอาจจะชอบผู้ชายแบบนี้เลยแต่งออกมาละมั้ง มโนไปอีก

ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์และทุกๆ กำลังใจนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า

ปล.พรุ่งนี้ก็เป็นงานหนังสือแล้วใครสนใจภาค1และภาค2สามารถไปหาซื้อกันได้นะคะ ติดตามทางเพจเราก็ได้จะทยอยลงให้ทราบค่ะว่ามีเรื่องอะไรอยู่บูธไหนบ้าง

---มุมให้ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์---

วันนี้ขอนำเสนอหนอนในยุคแคมเบรียน ฮัลลูซิจีเนีย (Hallucigenia) หนอนทะเลที่มีเดือยแหลมเจ็ดคู่ไว้ป้องกันตัวจากนักล่า ซึ่งมีขนาดประมาณ 0.5 - 3 ซ.ม. กินพวกซากสัตว์และอาศัยอยู่ที่ก้นทะเล

เครดิต https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cryptomnesia&month=02-01-2009&group=10&gblog=18และหนังสือสัตว์ในยุคแคมเบรียน

ปล. เว็บไทยบอยใส่รูปไม่ได้ค่ะT-T

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
สามอย่าให้ลูก้ารอนานนะ รีบมาเป็นคู่ของลูก้าเร็วๆนะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
สามจะเริ่มจริงจังกับการเป็นคู่หูแล้วววว
ลูก้าน่ารักเหมือนเดิมมมเลยย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
สามหนีไม่รอดหลอกนะยังไงก็ต้องมีคู่

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ลูก้าเขามีคู่แล้วน๊าพี่สาม และดูท่าคู่ของน้องก็หนีไม่พ้นหรอก  :katai3:
 :3123:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ฮัลลูซิจีเนีย นี่กลุ่มไหนเก็บได้ค่ะ?

ออฟไลน์ XXX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao6: :hao6: หุหุหุ อย่าให้ลูก้ารอนานนะสาม

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ต่อไปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบสามเวอร์ชั่น bara  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด