อุบายผูกหัวใจ บทพิเศษ : วาเลนไทน์กับเธอที่รัก [14/02/2018] หน้า 6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อุบายผูกหัวใจ บทพิเศษ : วาเลนไทน์กับเธอที่รัก [14/02/2018] หน้า 6  (อ่าน 29387 ครั้ง)

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
รู้สึกว่าบางฉากบางตอนสมควรจะร้องไห้เลยด้วยซ้ำ ปลาโดนหลอกโดนว่าแรงๆอยู่หลายครั้ง และก็เจอเรื่องแย่ๆมาตลอดไหนจะเรื่องน้องยังมาเจอคนที่โกหกเอารัดเอาเปรียบ ปริ้นปร้อนตอแหลอย่างกลอนอีก แต่เป็นว่าก็โดนหายโกรธง่ายๆ หรือเปลี่ยนเป็นว่าปลารู้สึกหัวร้อนแทนที่จะรู้สึกจะร้องไห้แทน เราอ่านเรายังร้องเลย คนอะไรนิสัยห่วยแตกสิ้นดี ุเรศ นี่ว่าจะไม่พิมพ์ละนะ แต่เหมือนนิสัยนี่จะอยู่จนจบเรื่องเลยรึป่าวคะ จะได้เลิกอ่าน ถ้าเน้นไปที่ คุณพฤษกับน้องปลา นี่เราจะโอเคมากค่ะ รำคาญกลอน รำคาญตัวปัญหาค่ะ ดูเหมือนนักเขียนจะชอบตัวละครตัวนี่มากมองว่ามันน่าเอ็นดูรึยังไง?  เรามองว่าห่วยค่ะนิสัยแย่ 
พล็อตเรื่องดีนะคะ ถ้าจะเน้นไปที่พระเอกเลี้ยงเด็กเลยก็ดีค่ะ น่าตื่นเต้นดี

ขอตอบว่า กลอนเป็นตัวละครที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องค่ะ ซึ่งเรากำหนดให้มีนิสัยขี้เผือก สอดรู้ และชอบจุ้นจ้านค่ะ จะว่าเราชอบน้องกลอนก็กึ่ง ๆ นะ คือถ้าไม่ตัวละครตัวนี้  นิยายเรื่องนี้ก็ไม่เกิดเหมือนกัน จริง ๆ เราไม่ได้ตั้งใจเขียนให้กลอนเป็นตัวร้ายนะแต่ผู้อ่านส่วนใหญ่เกลียดหลานกลอนทั้งนั้น  ปลื้มใจเลยค่ะ 

เราไม่แน่ใจว่าคุณ JanLec อ่านถึงไหนแล้ว แต่เหมือนเพิ่งเริ่มอ่าน (หรือเปล่านะ) ขอให้ลองอ่านดูค่ะและขอบคุณค่ะที่เปิดเข้ามา

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
คือคุณแม่นี่หวงมากเกินไปรึเปล่า

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
บทพิเศษ สองเราใต้สายนที



“น้าฤทธิ์ ผมได้เด็กมาใหม่พาไปไว้ที่ห้องน้าแล้วนะครับ”

พฤทธิกรขมวดคิ้วฉับกับคำพูดแปลกๆของหลานชาย “เด็กอะไรของแก”

“ผมเห็นช่วงนี้น้าเครียด ๆ เลยหาเด็กมาให้ช่วยคลายเครียดไง อย่ารุนแรงมากนะครับ น้องเขายังใหม่”

“ไอ้...”อีกฝ่ายตัดสายไปก่อนที่เขาจะได้ส่งเสียงด่า ครั้นโทรกลับเจ้าหลานชายตัวดีก็ชิงปิดเครื่องไปอีก เขาจึงต้องเปลี่ยนแผนกลับไปที่คอนโด ยกนาฬิกาขึ้นดูถึงได้รู้ว่านี่มันห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว กว่าเขาจะถึงห้องคงสักเที่ยงคืน ซึ่งนั่นคงดึกเกินไปที่จะไล่เด็กคนนั้นกลับบ้าน

สงสัยคืนนี้คงต้องให้นอนค้างที่ห้องไปก่อน พฤทธิกรคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ

ทว่าเมื่อได้เปิดประตูห้องพักคอนโดเข้าไป กลับพบคนที่ไม่คาดว่าจะได้เจอเสียอย่างนั้น ความรู้สึกที่ได้เห็นเด็กหนุ่มในที่พักของตัวเองมันสับสนปนเปไปหมด เขาชะงักขณะที่ในสมองพยายามทำความเข้าใจ เหมือนได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ แต่ไม่ได้ให้ความสนใจนัก สองเท้าก้าวไปหาอีกฝ่ายเพื่อมองหน้าให้ชัด

“เด็กของกลอน?”

เขาเห็นเด็กหนุ่มทำท่าไม่เข้าใจคำถามจึงเอ่ยขยายความต่อไปว่า “ฉันหมายถึง... กวีวัธน์เป็นคนพาเธอมา”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะส่งเสียงตอบตามมา

“เจ้าบ้านั่น!!!”เขาอยากจะบีบคอเจ้าหลานชายตัวแสบนั่นนักที่ยุ่มย่ามไม่เข้าเรื่อง จากนั้นจึงหันไปถามเด็กหนุ่มเมื่อนึกขึ้นได้

“ทานอะไรมาหรือยัง”

“คุณกวีวัธน์พาไปทานมาแล้วครับ”

เออ... ยังดี ยังคิดดูแลไม่ใช่ปล่อยให้หิ้วท้องรอเขาสามสี่ชั่วโมง

“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำแล้วตามเข้าไปในห้อง”เขาเอ่ยบอกก่อนสาวเท้าเดินตรงเข้าไปในห้อง ยืนนิ่งหมุนไปหมุนมาพยายามทำใจให้สงบอยู่พักใหญ่กว่าจะตัดใจเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ทว่าตอนที่เปิดประตูออกมา หัวใจของเขากลับต้องเต้นโลดขึ้นอีกครั้ง เขาอยากหมุนตัวหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ แต่โชคยังดีที่ตั้งสติทันจึงยังรักษามาดไว้ได้

“ไม่มีชุดนอนเหรอ”ชายหนุ่มพยายามถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด

“ไม่มีครับ”

เมื่อได้รับคำตอบ เขาจึงบังคับร่างกายให้ก้าวเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เลือกหยิบชุดนอนที่ซักสะอาดแล้วส่งไปให้

“เอาไปเปลี่ยน”

คล้อยหลังเด็กหนุ่ม เขากลับเข้าไปในห้องที่เพิ่งเดินออกมาอีกครั้งเพื่อหยิบเครื่องนอนอย่างผ้าห่ม นำกลับมาวางไว้บนเตียง ขณะเดียวกันก็ผ่อนลมหายใจยาวเพื่อระงับอาการหัวใจเต้นรัว

พฤทธิกรไม่ได้เจอเด็กหนุ่มมาสองปี ไม่คาดคิดว่าอาการเช่นนี้จะยังมีอยู่พลางใช้ผ้าขนหนูขยี้ศีรษะเช็ดผมที่เปียกชื้นอย่างรุนแรงเนื่องจากหวังว่าการกระทำนั้นจะดึงความสนใจของตนไปได้บ้าง

เมื่อเขาก้าวเท้าขึ้นเตียงนอน เด็กหนุ่มที่หลานชายพามาก็กลับเข้ามาเช่นเดียวกัน

“นั่นผ้าห่มของเธอ”เขาพูดและต้องเอ่ยปากเร่งเมื่ออีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่กับที่ “รีบขึ้นมาสิ ฉันจะปิดไฟแล้ว”

พฤทธิกรรีบปิดไฟทันทีที่เด็กหนุ่มพาร่างมาอยู่บนเตียงด้วยเพราะกลัวว่าใบหน้าของตัวเองจะออกอาการให้ฝ่ายนั้นเห็นพิรุธ กระนั้นเขากลับสัมผัสได้ว่าปภินวิชยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่

“จะนั่งอยู่อย่างนั้นอีกนานไหม ถ้าไม่อยากนอนในห้องก็ออกไปข้างนอก”

ไม่รู้ว่าเสียงพูดของเขากระด้างห้วนเกินไปหรือเปล่า เด็กหนุ่มถึงยอมล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว พฤทธิกรนอนฟังเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายกระทั่งมันทอดยาวสม่ำเสมอ จึงพลิกตัวหันกลับไปมองปภินวิชซึ่งนอนหงายหลับตานอนนิ่ง เขาเท้าแขนข้างหนึ่งยันตัวให้สูงขึ้น ในห้องมืดสนิทแต่ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนว่าเห็นใบหน้าของคนที่นอนอยู่ข้างกันได้อย่างชัดเจน

“จำกันไม่ได้เลยเหรอเนี่ย”

เขาบ่นพึมพำด้วยความเสียดาย มองใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่นานจนเริ่มง่วงจึงได้วางศีรษะลงกับหมอนและหลับตาลงบ้าง
.
.
.


พฤทธิกรพยายามปั้นหน้านิ่งขณะมองเด็กหนุ่มซึ่งใบหน้าแดงเถือกกำลังเดินตัวแข็งทื่อผ่านหน้าเขาไป “เปิดน้ำลงอ่างเลย ฉันจะแช่น้ำสักหน่อย” เขาพูดสั่งพลางเดินตามไปหยุดยืนใต้เรนชาวเวอร์ เห็นฝ่ายนั้นเปิดน้ำลงอ่างแล้วยังมีทีท่ารีรออยู่ด้านนอกห้องฝักบัว ชายหนุ่มจึงต้องเอ่ยปากเร่งอีกรอบ

“รีบเข้ามาสิ”

ห้องน้ำส่วนตัวของพฤทธิกรถูกออกแบบให้แยกส่วนระหว่างอ่างอาบน้ำและห้องฝักบัวแต่ทั้งสองจุดห่างกันไม่ไกล ที่เรียกว่าห้องฝักบัวเพราะมันถูกกั้นล้อมรอบด้วยกระจกใส ติดตั้งเรนชาวเวอร์ไว้ด้านบน ใช้ก๊อกน้ำเดี่ยวเป็นตัวผสมน้ำซึ่งเดินท่อน้ำร้อนจากเครื่องทำน้ำร้อนตัวเดียวกับที่ใช้สำหรับอ่างอาบน้ำ

พื้นผิวในห้องฝักบัวเป็นพื้นกระเบื้องเรียบสีน้ำตาล แต่ช่องทางเดินระหว่างห้องฝักบัวและอ่างอาบน้ำตกแต่งด้วยก้อนหินกรวด ปูสลับกับกระเบื้องทางเดิน ถัดจากพื้นที่อาบน้ำเป็นห้องกระจกและอ่างล้างหน้าที่มีประตูเชื่อมกับห้องเก็บเสื้อผ้าซึ่งเป็นประตูที่เปิดออกไปอย่างเดียว ในขณะที่ประตูที่เขาและเป็นปภินวิชเดินเข้ามาเป็นประตูที่เชื่อมกับห้องนอนเป็นประตูปกติที่ทำได้ทั้งเปิดเข้าและออก

เด็กหนุ่มยังมีอาการเก้ๆกังๆ พอเห็นแบบนั้น พฤทธิกรก็เริ่มจะตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง แต่ยามที่ได้เห็นใบหน้าเขินอายนั้นกลับรู้สึกมีความสุขมากกว่า

“ตกลงวันนี้จะได้อาบไหม”เขาเอ่ยถามซ้ำทั้งที่ใจเต้นแรง ปภินวิชไม่ยอมเงยหน้ามองเขาและไม่ได้ก้มหน้ามองต่ำไปกว่าหน้าอก ใบหน้างอหงิกไม่ชอบใจยังขึ้นสีเรื่ออยู่ตลอดเวลา จากนั้นเจ้าตัวจึงหยิบฝักบัวสายอ่อนขึ้นมาเปิดน้ำ สายน้ำเย็นเฉียบราดรดตัวเขาจนขนลุกซู่

“น้ำเย็นเกินไปแล้ว”พอเขาบอกเจ้าตัวก็ปรับอุณหภูมิของน้ำ คราวนี้มันร้อนจี๋ราวกับพยายามเอาคืนที่โดนแกล้ง

“โอ้ย ร้อนเกินไปแล้ว”เขาสะดุ้งถอนตัวหนี

“อาบเองซะตั้งแต่ทีแรกก็หมดเรื่องแล้วแท้ๆ”เด็กหนุ่มบ่นพึมพำออกมาให้ได้ยิน เขาจึงแสร้งถอนหายใจ

“ที่กลอนเคยว่าเกี่ยวกับนิสัยของเธอ ฉันไม่เคยเชื่อหรอกนะ แต่มาเห็นแบบนี้แล้วฉันก็เริ่มเชื่อนิดๆแล้วล่ะ”

ปภินวิชตวัดสายตามองเขาด้วยความเคืองขุ่น “ผมรู้จักบุญคุณคน และไม่ได้คิดจะเอาเงินของนายท่านไปเฉยๆด้วย”

“นั่นสิ แล้วเธอจะคิดมากอะไร ก็แค่ทำงาน คิดซะว่ากำลังอาบน้ำให้เด็กอนุบาลก็ได้”เขาพูดปลอบโน้มน้าว ทว่าเด็กหนุ่มยังพ่นลมหายใจและเบือนหน้าหนี เขาก็รู้ละนะว่าคำพูดของเขามันแปลกๆ แต่ช่วงเวลาดีๆแบบนี้เขาควรที่จะปล่อยผ่านไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าปล่อยให้ปภินวิชใช้ชีวิตและทำงานไปตามปกติ นั่นก็เท่ากับเขาเสียเวลาหนึ่งปีนี้ไปฟรีๆนะสิ

เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูท่าว่าคงจะทำใจได้แล้วละมั้ง เพราะเขาเห็นว่าฝ่ายนั้นเริ่มสนใจกับการปรับระดับน้ำแล้ว

“ยื่นมือมาสิครับ จะได้ลองดูว่าน้ำร้อนเกินไปหรือเปล่า”น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งไร้อารมณ์

“อืม ประมาณนี้แหละ”จากนั้นเขาจึงยืนนิ่งให้อีกฝ่ายใช้น้ำรดตัว และฟอกสบู่ เขามองตามท่าทางนิ่งเฉยตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อฝ่ายนั้นจงใจละเลยบางจุด

“ตรงนี้ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย”เขาบอกพร้อมชี้มือ เด็กหนุ่มมองตามมือของเขาก่อนจะเงยหน้าพรวดขึ้นมาถามซ้ำ ใบหน้าใสแดงเห่อไปถึงใบหู

“ทำเองไม่ได้หรือครับ”

“ตอนที่พ่อบ้านของฉันอาบน้ำให้เขาก็ทำให้ทุกจุดนะ” เรื่องนี้พฤทธิกรไม่ได้โกหก เขาเคยมีพ่อบ้านมาช่วยอาบน้ำให้จริงๆ แต่มันเป็นเรื่องก่อนที่เขาจะอายุห้าขวบ ส่วนพ่อบ้านที่ว่าก็คือพี่เลี้ยงของเขานั่นแหละ

“จะลังเลอะไรนักหนาก็แค่ติ่งเนื้อธรรมดา”พูดจบเขาก็คว้ามือของเด็กหนุ่มให้มาวางบนติ่งเนื้อที่ว่านั่น แต่ติ่งเนื้อของเขาก็แปรผันตรงตามขนาดตัวนั่นแหละ อีกฝ่ายทำท่าจะชักมือออกแต่เขายังบังคับฝืนให้ลากมือไปตามความยาว

ถึงพฤทธิกรจะเป็นผู้ชายที่อายุใกล้จะสี่สิบแล้ว แต่เมื่อโดนกระตุ้นเร้าโดยตรงแบบนี้ อารมณ์ปรารถนากลับลุกโชนขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ยิ่งได้เห็นใบหน้าแดงก่ำที่จดจ้องมองติ่งเนื้อซึ่งค่อย ๆ พองตัวและแข็งแน่นด้วยอาการตะลึงงันแล้ว อารมณ์เบื้องต่ำกลับยิ่งพวยพุ่งออกมาไม่หยุด

“ชอบเหรอ มองตาไม่กะพริบเลย”

“ป... เปล่าครับ”คนตอบเสียงสั่นเหมือนได้สติรู้ตัวพยายามจะดึงมือออกให้ได้ ทั้งยังพยายามหลบเลี่ยงสายตา

พฤทธิกรไม่ปล่อยให้เด็กหนุ่มหนีไปได้ เขาใช้มืออีกข้างรั้งเอวอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วช้อนใบหน้าของปภินวิชให้เงยขึ้น นึกอยากกดจุมพิตลงไปบนริมฝีปากแดงฉ่ำนั่นสักครั้ง แต่ก็ยั้งตัวเองไว้และใช้เพียงปลายนิ้วโป้งไล้ไปตามริมฝีปากได้รูป พร้อมกับขยับมือให้เร็วขึ้น ไม่ช้าไม่นาน หยาดน้ำขาวขุ่นก็ทะลักไหลพุ่งออกมาให้เลอะเปรอะเต็มฝ่ามือ

“ทำให้ไหม”ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มยังวางมือบนส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของเด็กหนุ่ม

“ไม่ต้องหรอกครับ”ปภินวิชสะบัดตัวออกทันควัน เขาเปิดน้ำล้างมือด้วยท่าทีเมินเฉยมีเพียงสีผิวบนหน้าที่บ่งบอกความรู้สึกจริง ๆ ของเจ้าตัว

หลังล้างตัวเสร็จ เขาก็เดินออกไปหย่อนตัวลงอ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำในห้องน้ำของพฤทธิกรทำมาจากหินอ่อน เขาไม่ได้เลือกมันเพราะคุณสมบัติพิเศษอื่นใด แต่ยกการตัดสินใจให้มัณฑนากร หลังเห็นแบบที่ส่งมาให้กับราคาของตกแต่งที่ดูสมเหตุสมผลกัน เขาจึงเซ็นอนุมัติให้หาอ่างรุ่นนี้มาติดตั้งได้

มันกว้างพอที่จะให้เขาลงไปพิงได้สบายๆ และกว้างพอที่จะดึงใครอีกสักคนให้ลงมาแช่พร้อมกัน

เพียงแต่อีกคนที่ถูกดึงลงมา ร่วงลงมาในอ่างอย่างไม่ทันตั้งตัว น้ำอุ่นร้อนจึงกระเซ็นออกไปเยอะ

“ทำอะไรครับเนี่ย”ปภินวิชถามเสียงขุ่น

“ก็อยากให้เธอลงมานวดให้ด้วย”

“บอกดีๆก็ได้ครับ อีกอย่างผมอยู่ข้างบนคงจะถนัดกว่า”

“เอ้าเรอะ ขอโทษทีนะ ไหนๆก็ลงมาแล้วก็นวดไปทั้งแบบนี้แล้วกัน”

เด็กหนุ่มหน้าหงิก “ขยับหันหลังมาสิครับ”

“ฉันนั่งอย่างนี้ถนัดกว่า”

“แล้วผมจะนวดให้อย่างไรล่ะครับ”

“นวดตรงนี้ก็ได้”เขาคว้าจับมือของเด็กหนุ่มให้ไปวางยังจุดเดิมที่อีกฝ่ายเคยนวดเคล้นมาก่อน

“ท...ทำเองเถอะครับ”ปภินวิชบอกเสียงสั่นก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกจากอ่างหินอ่อน เดินดุ่ยๆออกไปนอกห้องน้ำ ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ซึ่งแขวนอยู่ที่ราว นำมาพันรอบเอวแล้วเดินตามออกไป
.
.
.


“อาบน้ำพร้อมกันก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”พฤทธิกรพูดบอกเมื่อดันร่างเด็กหนุ่มมาหยุดยืนที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำ เขาเปิดตู้เก็บของด้านบนพร้อมมองหาแปรงสีฟันให้ปภินวิช แกะด้ามใหม่ออกจากแพ็กและยื่นส่งให้

“แต่ห้องน้ำข้างนอกก็มีนี่ครับ แยกกันก็ได้เถอะ”เด็กหนุ่มรับมันมาแต่กลับวางไว้กับเคาน์เตอร์ จากนั้นจึงหยิบแปรงสีฟันของอีกฝ่ายมาบีบยาสีฟันใส่

“เนี่ยอยากมีโมเมนต์นี้มาตั้งนานแล้ว”ชายหนุ่มพูดด้วยอาการกระดี๊กระด๊าจนปภินวิชต้องเหล่ตามอง “ถ้าอยากมีโมเมนต์นี้ทำไมไม่รีบแต่งงานล่ะครับ”

“ถ้าฉันแต่งงานไป เราก็ไม่ได้มารักกันน่ะสิ”

คำพูดนั้นทำให้คนฟังแก้มร้อนจึงต้องกลบเกลื่อนด้วยการนำแปรงสีฟันใส่เข้าปาก ขยับแปรงสีฟันโดยไม่คิดจะพูดคุยกับอีกฝ่ายอีก กระทั่งเขาบ้วนน้ำล้างปากชายหนุ่มร่างสูงจึงบ้วนปากอย่างเร็วรี่เช่นเดียวกัน

“ไหนมาดมหน่อย ปากหอมหรือยัง”คำพูดของพฤทธิกรทำให้ปภินวิชยิ้มขำ กระนั้นกลับยื่นหน้าไปหาอีกฝ่ายแต่โดยดีหายจากอาการขัดเขินแง่งอนเมื่อก่อนหน้า ปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงกว่าแนบริมฝีปากประกบทับลงมาอย่างแผ่วเบา เผยอริมฝีปากให้คนตรงหน้าส่งปลายลิ้นเข้ามาคลุกเคล้ารุกราน อารมณ์รัญจวนแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย สองมือจึงถูกส่งขึ้นคล้องรอบคอของร่างสูงใหญ่ไว้เป็นหลักยึด

ฝ่ามือของพฤทธิกรลากสอดเข้าไปอยู่ใต้ชายเสื้อของเด็กหนุ่มคนรัก ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียน จากนั้นจึงพามือลงไปต่ำลอดผ่านขอบกางเกงเอวยางยืด ขยำสะโพกหนั่นเสียเต็มมือ ปภินวิชจึงสะดุ้งผละถอย

“คุณฤทธิ์”เด็กหนุ่มร้องดุตาเขียวแต่คนถูกว่ากลับยักไหล่ไม่สะทกสะท้าน รูดถอดกางเกงของร่างในอ้อมกอดพร้อมถลกเสื้อยืดคอกลมที่ปภินวิชสวมอยู่ออกทางศีรษะ

เด็กหนุ่มจึงเหลือเพียงกางเกงชั้นใน

ตอนที่ชายหนุ่มเกี่ยวนิ้วกับขอบกางเกงชั้นใน เจ้าของอาภรณ์ชิ้นนั้นจึงร้องออกมาว่า “ผมจัดการเองได้ครับ” เด็กหนุ่มหมุนตัวหันหลัง ยืนทำใจอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะปลดอาภรณ์ออกได้

ปภินวิชโดนอีกฝ่ายรวมเข้ากอด แผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาสัมผัสกับแผงอกตึงแน่นโดยไร้อาภรณ์ขวางกั้น หัวใจของเขาจึงเต้นดังโครมครามเมื่อรับรู้ได้ถึงผิวเนื้อร้อนผ่าวทุกสัดส่วนซึ่งกำลังแนบชิดราวกับเป็นเนื้อเดียว

“ต... ต้อง... ไป... ทำงานนะครับ”ปภินวิชเอ่ยเตือนด้วยเสียงตะกุกตะกัก และต้องย่นคอหนีเมื่ออีกฝ่ายขบกัดใบหู ก่อนจะถูกรุกรานด้วยปลายจมูกโด่งที่พานให้ขนลุกซู่

“ตกลงว่าอาบน้ำพร้อมกันเลยเนอะ”

อีกฝ่ายไม่ได้พูดแต่ปากเปล่า กลับลากมือลงไปรุกรานแถวท้องน้อยจนเขาต้องเกร็งแขม่ว เขาคว้ามือของพฤทธิกรไว้ “ถ้ายืน... อยู่อย่างนี้ เมื่อไหร่จะได้อาบน้ำละครับ”ปภินวิชกลั้นใจหันไปบอก ผละออกห่างและรีบก้าวเท้าเร็ว ๆ เข้าไปในห้องฝักบัว

ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องเดินตามเข้ามาตอนที่เขากำลังเปิดฝักบัวราดรดตัว สายน้ำเย็นฉ่ำจนคล้ายจะดับความรู้สึกแปลกประหลาดให้จางลงได้ ทว่าเมื่อร่างกายได้สัมผัสกันอีกครั้ง ความร้อนระอุจากอารมณ์ปรารถนาพลันพวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันช่วย”

คนพูดไม่ได้รอให้เขาตอบรับ มืออุ่นร้อนกระตุ้นเร้าเด็กหนุ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงลำท่อนแข็งตัวซึ่งเสียดสีอยู่แถวสะโพกด้านหลัง เขาจึงพลิกตัวหันหน้าเข้าหา ข่มบังคับความเขินกระดาก เอื้อมมือไปจับท่อนเอ็นแข็งร้อนพร้อมกับรูดรั้งปลอบประโลมให้ดั่งที่ชายหนุ่มทำให้ตน

ปภินวิชโดนเชยใบหน้าให้รับจูบในจังหวะที่ฝ่ามือของเขาและชายหนุ่มกำลังทำหน้าที่ของมัน ความกระสันซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่าง เสียดเสียวและสุขสมจนต้องละจากจูบเพื่อเปลี่ยนมาหายใจทางปาก

“เร็วอีกนิด”

เด็กหนุ่มขยับมือเร่งความเร็วตามที่โดนสั่ง ทว่าปลายทางที่อีกฝ่ายมอบให้มาถึงอย่างรวดเร็วจนร่างกายชาวาบไร้เรี่ยวแรง ส่งผลให้มือข้างนั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ อีกฝ่ายจึงวางมือทับบนหลังมือพร้อมบังคับให้เขาขยับ ไม่ช้าไม่นานพฤทธิกรก็คว้าจับจุดหมายได้เช่นเดียวกัน

สายน้ำที่เปิดทิ้งไว้ชำระคราบขาวขุ่นให้จางหายไปอย่างรวดเร็ว

พฤทธิกรปิดก๊อกน้ำและกดครีมอาบน้ำมาถูทำความสะอาดร่างกายให้เด็กหนุ่มซึ่งยังหลุบสายตามองแต่แผ่นอกของเขา

“มองแต่ข้างล่างเนี่ย อยากทำอะไรเหรอ”

ปภินวิชเหลือบสายตาขึ้นมามองแต่กลับไม่ได้พูดตอบอะไร พฤทธิกรจึงต่อประโยคไปว่า “ไม่ตอบแสดงว่าตกลงนะ” คนฟังถึงเบือนหน้าหนี “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ”

พฤทธิกรถึงกลับชะงักงันไปชั่วครู่

“ที่อยากทำไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นหรอกนะ เพราะอยากทำกับคุณเฉย ๆ แล้ว... ก็เพราะฮอร์โมนของวัยรุ่นด้วย”ปภินวิชเหล่มองด้วยอาการอยู่ไม่สุข

ชายหนุ่มแนบจูบลงไปก่อนจะพูดว่า “รออีกนิดนะ ครั้งแรกของเรา ฉันอยากให้มันพิเศษที่สุด”

ปภินวิชพยักหน้ารับ สอดแขนกอดรัดร่างหนากว่าไว้

“แล้วยังต้องเป่ายิ้งฉุบอยู่หรือเปล่า”พฤทธิกรสัพยอก เพียงแต่คนถูกถามกลับกลอกตาคิดอย่างจริงจัง “ถ้าเจ็บ ผมจะเป็นฝ่ายกลับตำแหน่งมาทำให้คุณเอง หรือถ้าคุณเป็นฝ่ายรับก็บอกผมได้นะ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องอาย”

ชายหนุ่มถึงกลับหัวเราะแห้งแล้งออกมา
.
.
.


พื้นกระเบื้องเย็นเฉียบและอากาศเย็นยะเยือกในห้องน้ำทำให้เขาขนลุก ปภินวิชเดินไปเปิดน้ำร้อนลงอ่างแล้วหันไปบอกกับชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่างว่า

“คุณฤทธิ์รีบอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวผมออกไปรอข้างนอก”

“อย่าเพิ่งไปซี ช่วยถอดเสื้อผ้าหน่อย”ชายหนุ่มกางแขนทำหน้าอ้อนยามกล่าวบอกหนุ่มคนรัก เห็นอีกฝ่ายย่นจมูกทำหน้าคล้ายหมั่นไส้จึงรีบพูดอีกว่า “เนี่ยเสื้อผ้าวันนี้ถอดยากมาก”

“เมื่อเช้ายังใส่เองได้เลย”

“เพราะตอนเช้าเธอยุ่งอยู่กับการทำอาหารหรอก ฉันเลยไม่อยากรบกวน นั่นสิเนอะใส่เองได้ก็ต้องถอดเองได้”พฤทธิกรพูดพร้อมปลดกระดุมเสื้อสูททั้งเม็ดที่กลัดไว้ด้านหน้าและที่ปลายแขน หน้าเง้าด้วยอาการงอน ส่วนปภินวิชอมยิ้มยืนมองไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ กระทั่งชายหนุ่มแกล้งทำเป็นติดแขนเสื้อถอดสูทตัวนอกไม่ได้อย่างน่าตลก

“โอ๊ย ๆ ติด ๆ ปลาช่วยหน่อย”

เด็กหนุ่มหัวเราะก่อนเข้าไปช่วยถอดสูทชิ้นนั้นออกไปแขวนไว้บนราว

“ช่วยปลดเนกไทให้หน่อยสิมองไม่เห็น”คนพูดเอียงคอจงใจยื่นอกมาหาจนปภินวิชต้องจำใจตอบรับ “ครับ เดี๋ยวผมช่วยถอดเสื้อผ้าให้นะครับนายท่าน”ได้ยินคำตอบแบบนั้นพฤทธิกรถึงกับยกยิ้มรับด้วยความชอบใจ คนตรงหน้าช่วยเขาถอดอาภรณ์ทุกชิ้นจนต้องเอ่ยแซว

“ไม่เขินแล้วเหรอ ตอนนั้นยังหลับตาปี๋อยู่เลย”

เด็กหนุ่มทำเพียงส่งเสียงฮึโดยไม่ยอมเอ่ยตอบอะไร หยิบเสื้อของพฤทธิกรมาไว้ในมือและทำท่าจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ ทว่าร่างกายของเขากลับถูกคว้าจับไว้ ยังไม่ทันร้องประท้วงชุดนอนที่สวมอยู่ก็ร่วงกองไปกับพื้นเสียแล้ว

“คุณฤทธิ์ทำอะไรเนี่ยผมอาบน้ำแล้วนะ”

“อาบแล้วก็อาบอีกได้ ที่พาเข้ามาเนี่ยอยากให้มาอาบน้ำเป็นเพื่อนนะ”

“เป็นเด็กหรืออย่างไรครับถึงต้องมีคนอาบน้ำเป็นเพื่อน”

ขณะที่พูดจากโต้ตอบกันอยู่นั้น ปภินวิชก็โดนดันให้เดินเข้าไปในตู้อาบน้ำ ถูกชายหนุ่มเปิดน้ำราดตัวโดยไม่ถามความคิดเห็น

“งั้นไม่ต้องอาบเป็นเพื่อนก็ได้ อาบให้ฉันหน่อยแล้วกัน”พูดพลางยื่นฝักบัวไปให้ด้วยใบหน้าระรื่นพานให้คนมองรู้สึกฉิวปนหมั่นไส้

“ไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่อายบ้างหรือไง”เด็กหนุ่มพูดบ่น พอเห็นสายตาวิบวับก็หลุบตามองแผ่นอกกว้าง ยกสายฝักบัวอาบน้ำขึ้นสูง ให้น้ำรดตัวชายหนุ่มตั้งแต่หัวไหล่ลงมา ก่อนต้องขยับถอยหลังเมื่อคนตรงหน้าก้าวเท้าเขยิบเบียดเข้าหาพลางร้องเสียงหลง

“จะเข้ามาใกล้ทำไมล่ะครับ”

“แล้วจะกลัวอะไรล่ะ”

คนถูกถามอ้าปากพะงาบ ๆ ร่างกายเบียดแนบกับผนังด้านหลังถูกกักไม่ให้ขยับหนีโดยท่อนแขนของชายหนุ่ม “ไหนคุณฤทธิ์บอกว่า จะรอโอกาสพิเศษไงครับ”

“ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

คนฟังฉุนกึก รู้แล้วว่าอีกฝ่ายแค่แกล้งแต่เขาเหมือนโดนหยาม เขาก็ผู้ชายเหมือนกันเหอะถึงจะอ่อนกว่ายี่สิบปี ถึงจะไม่เคยมีแฟน แต่ไอ้เรื่องแบบนี้มันอยู่ในสัญชาตญาณ ปภินวิชมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าอย่างมุ่งมาด

“ไม่แช่น้ำแล้วหรือครับ”

พฤทธิกรเลิกคิ้วมองนัยน์ตาสีดำสนิทที่จ้องตอบกลับมา แววตาแฝงประกายท้าทายจนต้องอมยิ้ม เขาโคลงศีรษะรับ เปิดประตูห้องฝักบัวออกไปหย่อนเท้าลงอ่างซึ่งมีปริมาณน้ำสูงเกือบเต็ม เขาปิดก๊อกและหันไปมองร่างเพรียวบางกว่าที่เดินตามมาหย่อนตัวลงน้ำเหมือนกัน

ปภินวิชทำหน้าเฉยทั้งที่ผิวแก้มขึ้นสีแดง ขยับมานั่งซ้อนอยู่บนตักจงใจเบียดเสียดสีผิวเนื้อเปลือยเปล่าให้แนบชิดกัน พลางใช้มือวักน้ำขึ้นราดรดไหล่ของเขาพร้อมลากมือถู

“ทำแบบนี้เดี๋ยวก็หยุดไม่อยู่หรอก”พฤทธิกรเอ่ยเตือน

“ทำอะไรหรือครับผมแค่ช่วยอาบน้ำให้คุณเท่านั้นเอง”เอียงคอพูดตอบพลางทำตาใสไม่รู้เรื่อง ขยับมือบีบนวดไหล่แข็งของชายหนุ่มพร้อมกับขย่มสะโพกถูกไถจุดไวสัมผัสช่วงล่างจนน้ำในอ่างกระเพื่อมเป็นระลอก

“ผมนวดให้แบบนี้ไม่ดีหรือครับ”

พฤทธิกรต้องรีบจับยึดไม่ให้ปภินวิชขยับตัวได้อีก มือเรียวบางแสนซนก็เปลี่ยนที่มายุ่งวุ่นวายตุ่มเนื้อบนอกของเขา

“อึก!”เขากัดฟันพยายามข่มอารมณ์ “ถ้ายังไม่หยุดล่ะก็ เกิดอะไรขึ้นจะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ”

“เอ๋... อะไรเหรอ แค่อาบน้ำจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ”ปภินวิชถามกลับมาหน้าซื่อ ดูท่าเจ้าตัวจะสนุกสนานกับการยั่วอารมณ์เขาเหลือเกิน

พฤทธิกรดึงโน้มต้นคอของอีกฝ่ายเข้ามารับจูบ เด็กหนุ่มคนรักยอมเปิดริมฝีปากให้เขาส่งปลายลิ้นเข้าไปคลุกเคล้าโดยง่าย ทั้งยังโรมรันตอบสนองแต่แบบนี้เหมือนจะเข้าทางเขาเสียมากกว่า ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังสนใจแต่การรุกไล่ มือของเขาก็ลากสำรวจไปทั่ว

เขารู้สึกว่าปภินวิชผอมไปหน่อยแต่ผิวเรียบเนียนลื่นไม่ต่างจากผิวผู้หญิง ซ้ำสะโพกแน่นเต็มไม้เต็มมือ

“คุณฤทธิ์!!!”เด็กหนุ่มแหวเสียงดัง ผละตัวออกห่าง “บีบเบา ๆ หน่อยสิครับ ก้มผมไม่ใช่หมอนยัดนุ่นนะ จะได้บีบแรงขนาดนั้นแล้วไม่รู้สึกอะไร”

“โอ๋ ๆ ขอโทษครับ”เขารีบกล่าวพร้อมยิ้มประจบดึงปภินวิชซึ่งยังมีสีหน้าบึ้งตึงถึงเข้ามากอด พลางลูบไล้มือเพื่อปลุกเร้าร่างกายคนรักอีกหน เด็กหนุ่มจึงตอบสนองด้วยการลดมือไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของเขาปลุกเร้าจนต้องหอบหายใจ

พฤทธิกรจึงไม่อาจปล่อยให้คนรักคุมเกมได้ง่าย ๆ เขาแนบจูบลงไปบนริมฝีปากยั่วเย้า มือข้างหนึ่งเคล้นคลึงยอดอกของปภินวิช อีกข้างบดขยี้ปลายยอดที่อยู่ใต้น้ำสลับกับการสาวรูด กระนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้หยุดมือ ความเร็วในการรูดรั้งเพิ่มขึ้นจนเขาต้องเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ความซ่านเสียวแล่นพล่านไปทั่วก่อนจะแตกพร่างและเต็มไปด้วยความสุขสม

เด็กหนุ่มคนรักเอนตัวนอนหอบหายใจอยู่บนอก   

เขานั่งพักอยู่ครู่หนึ่งจึงดันปภินวิชออกห่าง ลุกขึ้นจากน้ำเดินไปหยิบผ้าขนหนู พันกายตัวเองไว้ผืนหนึ่งและถืออีกผืนกลับมายังอ่างน้ำร้อน เมื่อกางผ้าออก เด็กหนุ่มคนรักก็ลุกขึ้นมาจากน้ำปล่อยให้เขาจัดการคลุมผ้าขนหนูให้

แก้มทั้งสองข้างของปภินวิชเป็นสีแดงก่ำจนเขาอดใจไม่ไหวต้องกดจมูกลงไป อีกฝ่ายจึงแตะจูบที่ริมฝีปากของเขาเช่นกัน แล้วกระโดดกอดคอเกี่ยวขาทั้งสองข้างเข้ากับเอวของเขาปล่อยให้เขาอุ้มพาออกจากห้องน้ำ

ชายหนุ่มพาร่างที่เกาะเขาไว้แน่นมายังห้องแต่งตัว “ปล่อยก่อน แต่งตัวก่อนนะ”

“เอ๋!!!”

ได้ยินเสียงร้องด้วยความแปลกใจจึงเลิกคิ้วถาม ทว่าเด็กหนุ่มคนรักกลับร้องว่า “โธ่” ออกมาเพียงคำเดียว


-จบบทพิเศษ-

   

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
บทพิเศษ วาเลนไทน์กับเธอที่รัก



เขามีนัดกับคนรักที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปีไปทานข้าวฉลองวันวาเลนไทน์ปีแรกด้วยกัน หลังจองโรงแรมสั่งอาหารล่วงหน้าเรียบร้อยจึงโทรแจ้งเลขาว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะหยุดงาน จากนั้นอีกประมาณไม่ถึงนาที เด็กหนุ่มคนรักก็เปิดประตูห้องทำงานของเขาเข้ามาหน้าตาตื่น

“คุณฤทธิ์”ร้องเรียกพร้อมเดินตรงเข้าไปหา

“ทำไมต้องบอกพี่ก้อยไว้ก่อนว่าจะหยุดล่ะครับ”

“ก็พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องโทรบอกไง และเผื่อมีแจ้งนัดหมายอะไรเข้ามา คุณก้อยจะได้ปฏิเสธไปเลยด้วย”

“แต่ไปบอกพี่ก้อยแบบนั้น พี่เขาก็รู้หมด”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“ก็คุณฤทธิ์ไม่ใช่คนที่โดนแซวนี่นา”ปภินวิชหน้างอ

“งั้นเดี๋ยวฉันเรียกคุณก้อยเข้ามาคุยให้แล้วกัน เอาไหม”

“นั่นก็ไม่ดีเหมือนกัน ไม่รู้ไม่สน คืนนี้กินข้าวเสร็จแล้วก็รีบกลับเลยด้วย”พูดจบก็สะบัดหน้าเดินกระแทกส้นเท้ากลับออกไป พฤทธิกรยังยกยิ้มมองตามแผ่นหลังเล็กบางที่ลับสายตาไปเมื่อประตูถูกปิดลงพร้อมคิดอยู่ในใจว่า ไม่มีทางได้กลับง่าย ๆ แน่

ชายหนุ่มไม่ได้จองโต๊ะในร้านอาหารแต่จองห้องสวีตของโรงแรมพร้อมอาหาร ตอนไปถึงที่หมายปภินวิชถึงกับตวัดสายตามองเขาตาเขียว พฤทธิกรรีบโอบเอวกอดประจบไม่อยากให้คนรักขุ่นเคืองจนเสียบรรยากาศ

“ก็จองไปแล้วก่อนที่เธอจะเข้ามาบอก ถ้ายกเลิกก็น่าเสียดาย อีกอย่างมันค่อนข้างเป็นส่วนตัว ฉันไม่ได้คิดปิดบังการคบหาของเราหรอกนะ แต่ถ้าคนรู้จักหรือนักข่าวสังคมมาเห็นมันจะมีแต่เรื่องวุ่นวาย”

เมื่อบอกเหตุผลออกไปเด็กหนุ่มก็ยินดีพยักหน้ารับ “แต่ทานเสร็จ กลับเลยนะครับไม่ค้าง”

“แต่นี่วันพิเศษทั้งที แล้วไม่ได้ทำทุกวันอย่างที่เคยพูดด้วย”

“ช่วยไม่ได้ คุณฤทธิ์ไม่ว่างเองนี่นา”ปภินวิชลอยหน้าลอยตาพูดตอบ ชายหนุ่มร่างสูงจึงงับจมูกที่เชิดขึ้นด้วยความมันเขี้ยว ทำให้คนโดนกัดฟาดมือใส่ทันควันพร้อมกระซิบพูดเสียงเบา “อายพี่พนักงานเขาบ้าง”

“เขาไม่เอาไปพูดหรอกน่าไม่ต้องห่วง”พฤทธิกรกระซิบบอก โอบประคองพาปภินวิชไปนั่ง

โต๊ะทานอาหารสองที่นั่งตั้งอยู่ริมระเบียง  ข้างหน้าต่างกระจกใสทั้งบาน ทิวทัศน์ด้านนอกเป็นกรุงเทพยามค่ำคืนที่พวกเขาเคยเห็นจนชินตา ดังนั้นพฤทธิกรจึงสั่งให้บริการปิดม่านไปเสีย

“มีแต่ให้เปิดม่านไว้ ดูวิวไปทานไปจะได้เจริญอาหาร”

“ก็ไม่อยากให้คนตรงหน้าหันไปมองทางอื่น”

เด็กหนุ่มทำสีหน้าไม่ถูก ไม่ใช่แค่คำเกี้ยวพานที่ทำให้เขาเก้อเขินแต่ยังมีนัยน์ตาประกายระยับนั่นด้วย จึงได้ทำเหมือนแสลงแสร้งกลบเกลื่อนอาการหน้าร้อนผ่าว หลุบสายตาสำรวจมองจานช้อน แก้วเทียนซึ่งมีเปลวไฟเต้นระริกอยู่บนโต๊ะและพูดว่า

“เมื่อไหร่จะได้กินเนี่ยเริ่มหิวแล้วนะ”

พฤทธิกรยกมือขึ้นเรียกบริกรให้เสิร์ฟอาหาร

ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแจ็กเกตสีดำและกางเกงผ้าขายาวสีดำจึงวางตะกร้าขนมปังลงบนโต๊ะ ตามด้วยเนยสีเหลืองในถ้วยเล็ก ๆ ถัดมาเป็นจานสีขาวที่มีอาหารถูกวางตกแต่งอย่างสวยงามอยู่ตรงกลางอีกใบ

“อะไรน่ะครับ”ปภินวิชเอ่ยถาม ของในจานมองคล้ายเนื้อบดวางอยู่ใต้ผักตกแต่งซึ่งถูกหั่นเป็นเส้นและไข่ปลาสีส้ม

พฤทธิกรจึงพยักพเยิดให้บริกรกล่าวอธิบาย ชายคนนั้นจึงแนะนำชื่ออาหารและส่วนประกอบซึ่งมันคือเนื้อปลาแซลมอนรมควันบดละเอียด ด้านบนเป็นสลัดปนไข่ปลาแซลมอน

“ถ่ายรูปได้ไหมครับ”เด็กหนุ่มถามขึ้นอีกครั้งด้วยอาการเก้ ๆ กัง ๆ  หันมองทั้งบริกรหนุ่มและชายคนรักที่เป็นเจ้ามือ เมื่อคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยักหน้า เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปอาหาร เสร็จเรียบร้อยก็ยังนั่งนิ่งรอ

“หิวไม่ใช่เหรอ ทานสิ”

“คุณฤทธิ์ทานก่อนสิครับ”

เมื่อโดนเกี่ยงกลับมา ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้ามือจึงหยิบมีดและส้อมขึ้นมาเริ่มทานอาหาร บริกรหนุ่มถอยห่างออกไปอีกเว้นระยะไม่ให้พวกเขารู้สึกอึดอัดจนเกินไปนัก

หมดจานแรก ก็มีจานที่สองตามมาแต่คราวนี้ปภินวิชไม่ได้ถามชื่อหรือขอถ่ายรูปแล้ว เพราะรู้สึกว่าการทำอย่างนั้นมันดูน่าประหลาดเนื่องจากเขาไม่ได้ตั้งใจรีวิวอาหารเสียหน่อยแต่ที่ถ่ายรูปไว้ เขาต้องการเก็บเป็นที่ระลึกเท่านั้น หลัง ๆ จึงมีความสุขกับการกินเสียมากกว่า อาหารแต่ละจานนั้นมีปริมาณน้อย ไม่ทำให้อิ่มตื้อจนทานจานต่อไปไม่ได้ และเมื่อหมดจานของหวาน ปภินวิชคิดว่ายังทานต่อได้อีกนิดหน่อยด้วยซ้ำ

บริกรออกจากห้องไปพร้อมจานเปล่า บนโต๊ะเหลือแค่เครื่องดื่มสองแก้วและตะกร้าขนมปัง ระหว่างมื้อนั้น พฤทธิกรไม่ได้ชวนคุยมากมายนอกจากถามว่าอร่อยไหม หรือรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง

“ไม่ดื่มเหรอ”พฤทธิกรพูดถาม เพราะบนโต๊ะมีแก้วไวน์ตั้งอยู่แต่เด็กหนุ่มเอาแต่ดื่มน้ำเปล่า

ปภินวิชสั่นศีรษะ

“ดื่มเถอะ ฉลองไง”ยกแก้วชูขึ้นเป็นเชิงเชิญชวน คนตรงหน้ายอมยกแก้วขึ้นจิบแต่เขามีแผนที่จะมอมเหล้าจึงคะยั้นคะยอให้ดื่มอีก

“กลับกันหรือยังล่ะครับ”

“จะรีบกลับไปไหนล่ะ บ้านไม่หนีไปไหนหรอก”

เด็กหนุ่มย่นจมูกและหลบตาหนีอีกแล้ว แสงไฟสีส้มนวลทำให้มองเห็นไม่ชัดว่าอีกฝ่ายหน้าแดงหรือเปล่า แต่ท่าทางนั้นดูขัดเขินชัดเจน เขามองดูด้วยรอยยิ้ม

“มองอะไรเล่า ไม่เคยเห็นหรือไง”ปภินวิชถามเสียงเบาที่แฝงไปด้วยความแง่งอน

พฤทธิกรไม่ตอบ มองใบหน้าคนถามต่ออีกครู่หนึ่งจึงได้ส่งเสียงพูดชวนคุยเนื่องจากปภินวิชรบเร้าให้กลับคอนโดอีกแล้ว ถึงจะอยู่ด้วยกันตลอดแต่บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ เสียหน่อย ที่สำคัญเขาอุตส่าห์แจ้งเลขาบอกลาหยุดไว้แล้วด้วย

“มาเล่นเกมกันดีกว่า”

ปภินวิชเลิกคิ้วมอง


“เกมถามตอบคล้าย ๆ ทรูออร์แดร์ (True or Dare) แต่ถ้าคำถามไหนไม่อยากตอบก็ให้ดื่มไวน์แทน”

“ฮึ ไม่เห็นน่าเล่นเลย”ปภินวิชตอบออกมาทันควันก่อนจะอุบอิบพูดประโยคถัดไป “แล้วผมก็นึกคำถามอะไรไม่ออกด้วย”โดนจ้องด้วยแววตาแบบนั้น ใครจะคิดอะไรออกแค่ปั้นหน้าไม่ให้เขินก็ลำบากแล้ว เด็กหนุ่มได้แต่คิดอยู่ในใจ

“แต่ไวน์ขวดนี้ยังไม่หมด งั้นนั่งรอจนกว่าฉันจะดื่มหมดก่อนแล้วกัน”พูดจบพฤทธิกรก็ยกแก้วขึ้นจิบ ซึ่งเท่าที่ปภินวิชเห็น ชายหนุ่มยกขึ้นจิบแบบจิบนิดเดียวจริง ๆ อย่างนี้เขาอาจจะต้องนั่งรอจนเช้ากว่าจะได้กลับไปนอน

“อย่างนี้ผมไปนอนรอแล้วกัน”ปลายเสียงสะบัดเหมือนเริ่มไม่ค่อยพอใจ

“ถ้าเธอขึ้นไปนอนรอบนเตียง ฉันจะถือว่าเธอให้ท่าและฉันจะใช้บริการห้องนี้ให้คุ้ม”

คำขู่ของชายคนรักทำให้เขาอ้าปากค้าง จากนั้นก็พ่นลมหายใจออกมา เบือนหน้าหนีไปพักหนึ่งก่อนจะหันกลับไปหา “ผมเล่นก็ได้”ยกขวดสีชาซึ่งของเหลวภายในพร่องลงไปเล็กน้อย เทใส่แก้วของอีกฝ่ายจนเกือบเต็ม ส่วนแก้วของตนเทเครื่องดื่มไปแค่ครึ่งแก้วเท่านั้น

“ของคุณฤทธิ์เต็มแก้ว ของผมครึ่งแก้ว โอเคไหมครับ”เด็กหนุ่มเคยดื่มเหล้าและเคยเมาหัวราน้ำมาแล้ว เขาจึงรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนคอแข็ง ที่ไม่อยากดื่มเพราะไม่อยากเมาให้ชายคนรักได้เห็น แล้วก็ไม่คิดว่าตอนที่เมาตัวเองจะดูน่ารักแบบในละครหรือนิยายด้วย แล้วถ้าเกิดเมาแล้วอ้วกเรี่ยราด ความทรงจำในวันวาเลนไทน์คงจะเป็นอะไรที่น่าอนาถ

“ได้ ให้เธอถามก่อน”

“อืม”ปภินวิชนิ่งคิด มันควรเป็นคำถามที่ยาก ๆ หรือจะถามเรื่องวิชาการความรู้รอบตัวดีนะ

“อย่าถามคำถามที่เน้นความรู้นักนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะถามเธอเกี่ยวกับข้อกฎหมาย การบริหารหรือไม่ก็หลักการการตลาด”

โดนพูดดักทางเสียก่อน เด็กหนุ่มถึงกับทำหน้าตูม “คุณฤทธิ์เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วกี่คนครับ”

“ถามเรื่องผู้หญิงในอดีตเธอจะไม่เสียใจเหรอ”

“ผมนับเป็นคำถามนะ”

“ได้”

“ไม่เสียใจหรอก มันก็แค่อดีต”ปภินวิชยักคิ้วพร้อมรอยยิ้ม “แต่ถ้าอนาคตข้างหน้าผมจับได้ว่าคุณนอกใจ ไปยุ่งกับผู้หญิงหรือผู้ชายคนอื่น ผมไม่เอาไว้แน่ ผมจะเอามีดไปเจี๋ยนตอนที่คุณหลับแล้วก็สับให้เป็ดกิน”

ชายหนุ่มหัวเราะ ไม่ได้นึกกลัวนักเพราะเหตุการณ์นอกใจอย่างนั้นมันจะไม่มีเกิดขึ้น เขาเองต่างหากที่ควรจะกลัวว่า ถ้าเด็กหนุ่มคนรักเติบโตและมีอายุมากขึ้นกว่านี้ อาจจะไปตกหลุมรักผู้หญิงหรือผู้ชายคนอื่น

“งั้นบ้านเราต้องไม่เลี้ยงเป็ด”

“ใช่ประเด็นซะที่ไหน คุณฤทธิ์ตอบมาได้แล้วครับ”

พฤทธิกรทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะแปดเก้าคน”

“โหเยอะอะ คุณฤทธิ์มีแฟนกี่คนกันเนี่ย”

“สอง แต่สองคนที่เป็นแฟนกลับไม่เคยทำอะไรเลย”

“นอกใจอย่างงั้นเหรอ”

“ถึงตาฉันถามแล้ว”

เด็กหนุ่มหน้ามุ่ย

“แล้วเธอล่ะ มีแฟนมาแล้วกี่คน”

“ไม่เคยมีครับ ผมยังเด็กอยู่”

“สิบเก้าจะยี่สิบแล้ว ไม่เด็กแล้ว”พฤทธิกรรีบบอกอย่างร้อนตัว คนฟังจึงหัวเราะเสียงดังออกมา “ถ้าพ่อแม่ของผมยังอยู่คุณไม่ได้แอ้มผมหรอก”

“ถ้าพ่อแม่เธอยังอยู่เธออาจได้เป็นแฟนฉันมาตั้งนานแล้วก็ได้”

“หือ”ปภินวิชมีสีหน้าแปลกใจ

“ตกลงเราสองคนเจอกันครั้งแรกเมื่อไหร่ครับ”

“ฉันนับเป็นคำถามนะ”เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเขาจึงบอกว่า “ประมาณสามปีก่อนที่ร้านกาแฟ”

“ที่ผมเคยไปทำงานพิเศษนะเหรอ”

“ถ้าอยากรู้คำตอบก็ดื่มให้หมด”ชายหนุ่มชี้นิ้วไปยังแก้วทรงสูงที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเจ้าของคำถาม

“งั้นคุณฤทธิ์ก็ถามมาสิครับ”

“ตอนที่ฉันจูบเธอครั้งแรกรู้สึกยังไง”

“อ๊ะ เรื่องตั้งนานแล้ว ใครจะไปจำได้กัน ตกลงคุณฤทธิ์หมายถึงร้านที่ผมไปทำงานพิเศษนะเหรอ”ปภินวิชเปลี่ยนไปถามเรื่องที่ตัวเองสงสัยอย่างรวดเร็ว

“ใช่”

“คุณกลอนเล่าว่า ผมเคยเก็บกระเป๋าเงินไปคืนคุณ จริงหรือเปล่าครับ”

“ดื่มสิ”

เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจพร้อมยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด “ตอบมาได้แล้วครับ”

“จริง”พฤทธิกรพูดตอบพร้อมยกขวดเติมเครื่องดื่มลงในแก้วที่ว่างเปล่า

“ผมไม่เห็นจำได้เลย”

“ถามฉันหรือเปล่า”เขาเลิกคิ้วพร้อมรอยยิ้มบาง เจ้าของใบหน้าใสจึงย่นคิ้วและยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม

“คงเพราะเมื่อก่อนฉันใส่แว่นมั้ง”

คิ้วของปภินวิชยังขมวดเป็นปมอยู่เช่นเดิม ใส่แว่นกับไม่ใส่แว่นหน้าตาจะต่างกันจนจำไม่ได้เชียวเหรอ

“ตอนนั้นเราเคยคุยกันไหมครับ”

พฤทธิกรเทของเหลวสีแดงลงในแก้วของคนช่างสงสัยอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม

“คุย เราคุยกันถูกคอมากด้วย”

“จริงดิ”เขาไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายหล่อเหลาดูดีขนาดพฤทธิกร ถ้ามาที่ร้านและสนิทถึงขั้นคุยกันถูกคอ เขาควรต้องจำได้สิ

“นี่เป็นคำถามหรือเปล่า”

“ขี้งกจัง”เด็กหนุ่มบ่น “คุณฤทธิ์ก็ถามมาบ้างสิครับ”

“ระหว่างการที่ฉันใช้ปากทำให้กับแบบสอดใส่ อย่างไหนเธอรู้สึกดีกว่ากัน”

คนถูกถามหน้าแดงเพราะเผลอคิดถึงช่วงเวลานั้นอย่างไม่อาจห้าม ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า มันควรจะเอามาถามโต้ง ๆ แบบนี้เหรอ “ฮึ่ย!!! คุณฤทธิ์! ทะลึ่ง! ถามออกมาได้ยังไง”

“นับเป็นคำถามนะ”

คนฟังตีสีหน้าบึ้งตึง ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดอีกครั้ง “ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

เมื่อปภินวิชลุกขึ้นยืน พิษของแอลกอฮอล์ในร่างกายจึงออกอาการทันทีทั้งที่ดูเหมือนว่าจะดื่มไปไม่เยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะยกดื่มรวดเดียวติด ๆ กันหลายแก้ว เขาทรงตัวไม่อยู่จนต้องใช้มือเท้ากับโต๊ะกันตัวเองล้ม พฤทธิกรก็รีบลุกขึ้นมาช่วยพยุงเขาไว้

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เพราะคุณฤทธิ์แหละ”ทั้งที่โดนพูดพาลใส่แต่ชายหนุ่มร่างสูงกลับหัวเราะออกมา “เดี๋ยวช่วยพาไปเข้าห้องน้ำ”พร้อมพาคนรักเดินตรงไปยังห้องน้ำ เมื่อถึงจุดหมายยังถามซ้ำว่า

“ให้เข้าไปช่วยประคองไหม”

“ไม่ต้องเลยครับ”ปภินวิชรีบปิดประตู หลังทำธุระเสร็จเปิดประตูออกมาด้านนอก ยังเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนรออยู่

“กลับบ้านกันเถอะ”ปภินวิชเอ่ยชวนเสียงอ้อน

“ไวน์ยังไม่หมดเลย”พฤทธิกรโอบร่างเด็กหนุ่มเข้าหาตัว ก้มหน้าใช้จมูกแตะหน้าผากพลางประคองให้กลับไปนั่งที่โต๊ะด้วยกัน คราวนี้เขารั้งร่างคนรักให้ทรุดนั่งบนตัก พยักพเยิดให้เห็นว่ายังเหลืออีกตั้งเกือบครึ่งขวด

“เอากลับบ้านไม่ได้หรือครับ เก็บไว้ดื่มวันหลัง”

“ทำไมวันนี้งอแงจัง”

“ผมไม่อยากหยุดงานพรุ่งนี้ ถ้าหยุดละก็ต้องโดนแซวแน่ ๆ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย เรื่องปกติของคนรักกัน”

“ก็ผม... เขิน”ปภินวิชพูดเสียงเบา

“เพราะน่ารักอย่างนี้สิถึงโดนแซว”ชายหนุ่มยืดตัวพลางเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ แตะจูบที่ริมฝีปากสีอ่อนหยอกเย้าล่อลวง ทว่าเด็กหนุ่มคนรักกลับผละตัวออกห่าง แล้วเอี้ยวตัวไปดึงแก้วเครื่องดื่มมาส่งให้

“ดื่มสิครับ จะได้หมดเร็ว ๆ”

“หยิบแก้วของเธอมาด้วย ถ้าอยากให้หมดเร็ว ๆ ต้องช่วยกันดื่ม”

ปภินวิชหน้างออีกแล้ว หยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาเทเครื่องดื่มใส่จนเกือบเต็ม งานนี้มันต้องเมากันไปข้าง ถึงแม้ดีกรีของไวน์จะน้อยกว่าเหล้ากลั่น แต่ถ้าให้ซัดโฮกแบบนี้อย่างไรก็ต้องเมา เด็กหนุ่มคิด ก่อนยกแก้วขึ้นดื่มเขาจึงถามว่า

“คุณฤทธิ์เรียกให้พี่พุฒิกับพี่ธนามารับหรือยัง”

“หมดขวดแล้วค่อยโทรตามก็ได้ ดื่มแค่นี้ฉันไม่เมาหรอก”

คนฟังพยักหน้า “หมดแก้วนะครับ”

“ได้”พฤทธิกรยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดอย่างที่เด็กหนุ่มต้องการ จากนั้นจึงบ่นพึมพำ “เสียรสชาติ”

ปภินวิชเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย

“ดื่มไวน์ให้อร่อยมันต้องค่อย ๆ จิบ”เขาพูดพร้อมยื่นแก้วให้เด็กหนุ่มเติมเครื่องดื่ม ร้องบอกว่าพอเมื่อเห็นว่าปภินวิชเติมเครื่องดื่มลงไปประมาณหนึ่งในสามของแก้ว แกว่งแก้วไวน์เบา ๆ เพื่อให้ไวน์สัมผัสกับอากาศ จากนั้นสูดกลิ่นหอมของไวน์และยกขึ้นจิบทีละนิด

“ถ้าอย่างนั้นก็นำกลับไปดื่มที่บ้านสิครับ จะได้ค่อย ๆ ละเลียดดื่ม”

“ก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ พอเปิดขวดไวน์แล้วมันก็อยู่ได้อีกไม่กี่วันเท่านั้น”

ปภินวิชถอนหายใจเฮือก

“ฉันมีวิธีดื่มอีกวิธี เธออยากรู้ไหม”

“ครับ?”เด็กหนุ่มตอบรับพร้อมอาการสงสัย

พฤทธิกรยกแก้วขึ้นดื่มและโน้มศีรษะของคนรักลงมาหา แนบริมฝีปากประกบทับพลางดันตัวให้อีกฝ่ายเอนลงเพื่อรับของเหลวในปาก เขาผละออกห่างจากริมฝีปากคู่นั้นเพื่อไล้เลียดูดซับเครื่องดื่มสีแดงซึ่งไหลเป็นทางไปตามคอเรียวระหง

“เป็นยังไง อร่อยไหม”

เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบคำถาม ริมฝีปากที่เผยอเอ่ยเรียกชื่อเขาเสียงระทวย ซบศีรษะเข้ากับซอกคอพร้อมจับมือของเขาไปวางแปะอยู่ที่กึ่งกลางลำตัว “รับผิดชอบเลยด้วย”

“ได้สิ”พฤทธิกรยิ้มรับคำ ปลดตะขอกางเกงของคนบนตักเพื่อสอดมือเข้าไปเคล้นคลึงส่วนอ่อนไหวที่แข็งตัว เขาลูบไล้บดขยี้ส่วนปลายยอดจนเริ่มมีน้ำไหลเยิ้ม

“ไปที่เตียงดีกว่า”

ถึงอยากเอ่ยขัดแต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีทางสงบอารมณ์ปรารถนาของตัวเองลงได้ถ้าไม่ได้รับการปลดปล่อย ปภินวิชจำต้องเออออปล่อยเลยตามเลย กระนั้นก็ไม่วายเอ่ยย้ำขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงกำลังช่วยเขาถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ ก่อนถูกพาเดินมาที่เตียง “รอบเดียวพอนะครับ”

“ก็ได้ แต่เธอต้องอยู่ข้างบน”พฤทธิกรดึงให้ปภินวิชนั่งคร่อมอยู่บนตัก “และต้องขยับเอง”

ปภินวิชหน้าง้ำ

“ไม่อย่างนั้นต้องตามใจฉัน”ชายหนุ่มกระตุ้นด้วยการใช้มือคลึงที่ส่วนอ่อนไหวของคนรัก

“คุณฤทธิ์อะ”

“นี่วันวาเลนไทน์นะ ต้องทำกิจกรรมที่คนรักกันเขาทำกันสิ”ไม่พูดแต่ปากเปล่ายังยื่นหน้าไปขบกัดติ่งเนื้อบนแผ่นอกตรงหน้า มืออีกข้างก็เริ่มนวดคลึงปากทางเข้าด้านหลัง

“ถ้าไม่มีเจลผมไม่ทำนะ”

พฤทธิกรจึงดันตัวปภินวิชให้นั่งลงกับเตียง ลุกเดินไปหยิบถุงยางและเจลหล่อลื่นในลิ้นชักของตู้ซึ่งตั้งอยู่ในห้อง

“โห เตรียมพร้อมขนาดนี้ยังมาหลอกล่ออย่างโน้นอย่างนี้อีก”

“เพราะฉันไม่อยากฝืนใจเธอต่างหาก”เขาวางของทั้งหมดลงข้างตัวเด็กหนุ่มคนรัก จากนั้นจึงปลดกระดุมถอดเสื้อของตัวเองออก ทรุดตัวลงนั่งแล้วใช้วงแขนรั้งร่างคนรักเข้ามาชิด

“ถ้าไม่อยากฝืนใจ งั้นวันนี้ก็ต้องไม่ทำสิครับ”

“เธอไม่ชอบเมกเลิฟกับฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ”น้ำเสียงที่ใช้พูดเศร้าสร้อยลงอย่างเสแสร้ง

“อย่ามาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จหน่อยเลย”ปภินวิชพูดดุ

คนโดนจับได้จึงส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเงียบเสียงจ้องใบหน้าเนียนใส เด็กหนุ่มจึงเบ้ปากและโถมตัวเข้ากอด “ถ้าผมอยู่ข้างบน พอเสร็จรอบนึงแล้วต้องกลับเลยด้วย”

“อืม”

หลังจากได้ยินคำตอบรับ ปภินวิชจึงก้มหน้าปลดตะขอกางเกงของชายหนุ่ม หัวใจเริ่มเต้นแรงตึกตักขณะคว้าจับแท่นเอ็นอุ่นร้อนของชายคนรักด้วยมือข้างหนึ่ง ขยับเพียงไม่กี่ครั้งมันก็แข็งตัว เขาใช้ปากทำให้อย่างที่อีกฝ่ายเคยทำให้เขาแต่เพราะขนาดของมันและความไม่คุ้นชิน เด็กหนุ่มจึงไอสำลักออกมาหลังจากทำให้ไปได้ไม่นาน

“ขอโทษครับ”ปภินวิชพูดหลังจากที่พฤทธิกรพยุงรั้งเขาขึ้นมาพร้อมช่วยลูบหลังจนเป็นปกติ

“ไม่ต้องคิดมาก”จบคำพูดปลอบแล้ว ตามมาด้วยจุมพิตนุ่มนวลอ่อนโยนที่ราวกับกำลังบ่งบอกว่าเพียงแค่เด็กหนุ่มคิดอยากทำให้เขามีความสุข ตนก็ดีใจมากแล้ว

ปภินวิชหยัดตัวยืนด้วยเข่ากางขาคร่อมร่างของชายคนรักไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายสอดนิ้วเพื่อเตรียมความพร้อมของช่องทางด้านหลัง

“อ๊ะ!”หลุดเสียงครางออกมาเมื่อถูกกระตุ้นจากภายในซ้ำ ๆ ครู่หนึ่งต่อมาชายคนรักก็ถอนนิ้วมือออกพร้อมช่วยประคองสะโพกให้เขาหย่อนตัวลงทับแท่งเอ็นที่แข็งตัวชูชัน เด็กหนุ่มช่วยจับท่อนลำเพื่อจรดส่วนปลายเข้ากับช่องทางร่วมรัก ก่อนจะต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงอาการจุกแน่นที่กำลังเผชิญ

“ค่อย ๆ ขยับ”พฤทธิกรเอ่ยบอก พลางช่วยกระตุ้นที่จุดไวสัมผัสบนแผ่นอก เด็กหนุ่มจึงกดตัวลงอย่างเชื่องช้ากระทั่งท่อนลำอุ่นร้อนเข้าไปได้จนหมด บั้นท้ายกดทับกับหัวเข็มขัดเนื่องจากอีกฝ่ายยังสวมอาภรณ์ชิ้นล่างไว้ กระนั้นเมื่อชายหนุ่มคนรักย้ายมือมาเคล้นขยำที่ส่วนกลางลำตัว บดขยี้อย่างหนัก ความซ่านเสียวก็กระตุ้นร้องให้เขาขยับตัว

เขายกตัวขึ้นและกดสะโพกลงไป แม้จะสัมผัสถึงความเย็นของโลหะทุกครั้งที่ขยับตัวแต่ความเร่าร้อนของร่างกายดูเหมือนจะมีผลมากกว่า ปภินวิชเร่งความเร็วการควบขยับด้วยหวังคว้าจับปลายทางความสุขสมอันพร่างพรายที่เคยพบเจอ ร่างกายเครียดขึงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เคลื่อนผ่าน จนในที่สุดเด็กหนุ่มก็ถึงจุดหมายปลายทางตามที่หวัง

เขาเอนตัวพิงร่างชายคนรักปล่อยให้อีกฝ่ายดอมดมขบกัดผิวเนื้อกระทั่งความเหนื่อยล้าเบาบางลงแล้วถึงได้รู้สึกตัว เขาถูกจับพลิกให้นอนหงาย มองส่วนที่เครียดแข็งชูชันถูกถอนออกจากร่างกาย ชายหนุ่มลุกขึ้นถอดกางเกงและสวมถุงยาง ก่อนจะหันกลับมาหาอีกครั้ง

“คุณฤทธิ์”ปภินวิชเรียกเสียงอ่อนพร้อมเอ่ยบอก “ไม่ต้องรอบเดียวก็ได้ครับ” เพราะรอบเดียวของชายคนรักคือการเร่งเร้าจนเกือบถึงจุดหมาย ก่อนหยุดชะงักให้ได้พักและกระตุ้นซ้ำอีกครั้ง แม้มันจะปะปนไปด้วยหลากหลายความรู้สึกทั้งสุขสมและทรมาน แต่ที่สำคัญคือเหนื่อยมาก

“เธอพูดเองนะ”อีกฝ่ายพูดพร้อมจรดส่วนปลายสอดใส่เข้ามา

ปภินวิชพยักหน้ารับอย่างทำใจ ไม่ว่าอย่างไรพรุ่งนี้เขาและท่านประธานก็คงต้องหยุดงานอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ไว้ครั้งหน้าเขาวางแผนใหม่ ไม่ว่าวาเลนไทน์ปีต่อ ๆ ไปจะตรงกับวันอะไร เขาจะบอกให้ชายคนรักพาไปฉลองในคืนวันเสาร์เท่านั้น!!!

ถึงกระนั้น ในเช้าถัดมาปภินวิชยังคงต้องนอนแบ็บอยู่บนเตียงของโรงแรมพร้อมอาการปวดเมื่อยอยู่ดี



-จบบทพิเศษ-

*//แจ้งข่าวค่ะ
คาดว่า E-Book จะวางจำหน่ายที่ Meb ประมาณวัน 1 มีนาคม 2018 ค่ะ อย่างไรต้องขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการสนับสนุนค่ะแต่ถ้าสนใจเฉพาะตอนพิเศษบทอื่น ๆ สามารถติดตามได้ที่ Readawrite ค่ะ//*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2018 19:50:22 โดย ตีสี่ »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :haun4:
นายท่านครึมๆนี่ก็หื่นเาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
นายท่านผู้เงียบขรึม...ที่ไหนล่ะ เจ้าเล่ห์มาก55 อยากรู้เรื่องลูกจังอยากเห็นเขาช่วยกันดูแลลูก ส่วนเรื่องลูกของชานี่ยังไงอยากรู้ แลเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยเรา ขอบคุณผลงานดีๆนะคนเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ sarawutcom

  • เน็ตดีแทค 10 เม็ก 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-27
    • http://www.sarawutcomputer.com/
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด