
Cr.Pic [เจ้าจุก ป่วนบ้าน]
ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ อุ้มรัก’S l “15”เกือบเดือนแล้วที่น้ำเหนือกลับมาที่บ้าน และก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วเหมือนกันที่น้องเลิฟยังอยู่ในตู้อบที่โรงพยาบาล เพราะน้ำหนักของเจ้าตัวน้อยยังไม่ถึงเกณฑ์พอจะให้กลับบ้านมาได้ ในทุกวันน้ำเหนือจะไปอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลเจ้าตัวน้อย ทั้งให้นม อุ้มให้ความอบอุ่น พูดเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง และก็ขอพรทุกวัน ขอให้น้องเลิฟสุขภาพแข็งแรง ได้กลับบ้านเสียที
วันนี้น้ำเหนือก็มาอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงเช้าหลังจากไปส่งฝาแฝดที่โรงเรียนแล้ว เจ้าตัวน้อยของน้ำเหนือยังนอนหลับอยู่ในตู้อบ น้ำเหนือมองเห็นได้ผ่านกระจกห้อง พอเห็นว่าน้องเลิฟยังนอนหลับอยู่น้ำเหนือก็เลยไม่เข้าไปข้างใน ปล่อยให้ตัวน้อยได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
“ไม่เข้าไปข้างในเหรอคะ” พยาบาลที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีร้องถามเมื่อเห็นน้ำเหนือทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง
“เขาหลับอยู่ ปล่อยให้เขานอนก่อนดีกว่าครับ ผมค่อยเข้าไปอีกที” น้ำเหนือตอบ
แม้จะมาโรงพยาบาลทุกวันแต่ในแต่ละวันน้ำเหนือเข้าไปหาน้องเลิฟไม่กี่ครั้ง สัมผัสลูกไม่บ่อยนักเพราะน้ำเหนือกลัวว่าน้องเลิฟจะเจ็บ หรือช้ำได้ถ้าหากเขาจับหรือเล่นด้วยบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีทางทำให้ลูกเจ็บแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กลัวอยู่ดี
“ถ้าจะเข้าไปข้างในตอนไหนก็บอกได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณนะครับ” น้ำเหนือยิ้มตอบ พลางมองเข้าไปในห้อง ตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ตรงนี้สามารถมองเห็นน้องเลิฟได้อย่างชัดเจน
มองไปก็ยิ้มไป ยิ้มกับท่าทางของเจ้าตัวน้อย ไม่รู้ว่านอนหลับฝันดีหรือว่าฝันถึงอะไรกันแน่ สองขา สองแขนปัดป่ายไปมา ดีที่พยาบาลใส่ถุงมือถุงเท้าให้เจ้าตัวน้อย ไม่อย่างนั้นน้ำเหนือคิดว่าลูกสาวของเขาได้มีรอยเต็มหน้า เต็มขาแน่ ถ้าจะขยับขาขยับมือเก่งขนาดนี้
“มาแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ” เสียงทักที่ดังขึ้นเรียกสายตาของน้ำเหนือจากลูกสาวให้หันมามองได้
“หมอซี... สวัสดีครับ” น้ำเหนือทักอีกฝ่าย
“สวัสดีครับ ไม่เข้าไปข้างในเหรอครับ”
“อีกสักพักครับ ตอนมาผมเห็นเขาหลับอยู่ก็เลยยังไม่อยากจะเข้าไปกวน เอาไว้รอเขาตื่นก่อนดีกว่าครับผมค่อยเข้าไป”
“ถ้าอย่างนั้น... หมอรบกวนเวลาสักครู่ จะได้คุยเรื่องน้องด้วยเลยครับ” หมอซีพูด ก่อนจะเดินนำน้ำเหนือไปที่ห้องตรวจเมื่อน้ำเหนือพยักหน้ารับคำ
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ หรือว่าเลิฟเป็นอะไรหรือเปล่า” พอถึงห้องของหมอซีน้ำเหนือก็ถามออกไปทันทีด้วยความเป็นกังวล
อีกฝ่ายส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม “ไม่ได้เป็นอะไรครับ หมอแค่จะบอกว่าเมื่อเช้าก่อนคุณน้ำเหนือจะมา พยาบาลชั่งน้ำหนักของน้อง ตอนนี้น้องเลิฟหนักตามเกณฑ์แล้วล่ะครับ ระบบการหายใจของน้องก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แต่หมออยากจะให้อยู่ดูอีกสักสองสามวัน ถ้าทุกอย่างยังคงที่แบบนี้หมอก็ให้กลับบ้านได้ครับ”
“จริงเหรอครับ... จริง ๆ นะครับคุณหมอ” น้ำเหนือตาโตด้วยความตื่นเต้นกับข่าวที่ได้ยิน เพราะมันช่างน่ายินดีเสียเหลือเกิน
“จริงครับ แต่ต้องเป็นไปตามที่หมอบอกนะ ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน ไม่ป่วย ไม่เป็นไข้ น้ำหนักตัวคงที่หรือเพิ่มมากขึ้นก็หมดห่วงครับ พากลับบ้านได้ แต่ถ้าหากน้ำหนักตัวเกิดลดลงกว่าวันนี้หมอก็คงจะไม่สามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้นะครับ”
น้ำเหนือพยักหน้ารับคำพูดของหมอซี "ครับ ผมเข้าใจ อย่างน้อยเลิฟแข็งแรงกว่าเดิมแค่นี้ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ”
“น้องเลิฟแข็งแรงมากครับ คงเพราะคุณแม่ของเธอเข้มแข็ง ลูกสาวถึงได้เข้มแข็งตามคุณแม่แบบนี้” หมอซีพูดยิ้ม ๆ ความเข้มแข็งคงถ่ายทอดจากน้ำเหนือไปยังลูกสาวตัวน้อย
ทั้ง ๆ ที่น้องเลิฟคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อยอีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจบ้าง แต่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ไม่กี่สัปดาห์ร่างกายของเจ้าตัวน้อยก็แข็งแรงขึ้น คงเพราะได้กำลังใจดีจากคนในครอบครัว
“ถ้ายังไงวันที่จะมารับน้องกลับบ้าน หมอจะให้ทางคุณหมอเด็กมาอธิบายวิธีการดูแลอีกทีนะครับ น้องคลอดก่อนกำหนดการดูแลเอาใจใส่ยังไงก็ต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าปกติ จะได้ไม่ป่วยบ่อย เพราะไม่อย่างนั้นคงได้พาน้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นแน่นอนครับ”
“ได้ครับ ยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับ” น้ำเหนือยกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่าย
“เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วล่ะครับ เรื่องที่หมอจะคุยด้วยก็มีเท่านี้แหละครับ เชิญคุณน้ำเหนือตามสบายเลยครับ”
น้ำเหนือยกมือไหว้คุณหมออีกรอบก่อนจะเดินออกจากห้องกลับไปทางเดิม ลูกสาวตัวน้อยตื่นนอนแล้ว ตอนนี้กำลังดูดนมที่พยาบาลป้อนอยู่ เป็นน้ำนมของมัมมี๊ที่ปั๊มแช่เอาไว้ให้ น้ำเหนือไม่ได้เข้าไปในระหว่างที่พยาบาลกำลังป้อนนมน้องเลิฟ แม้ทางพยาบาลจะหันมาพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เข้ามาได้ เขาไม่อยากเข้าไปขัดเวลาลูกดูดนม รอจนเจ้าตัวน้อยอิ่มน้ำเหนือถึงได้เดินเข้าไป
“วันนี้ทานนมได้เยอะกว่าทุกวันเลยค่ะ แข็งแรงขึ้นเยอะเลย” พยาบาลพูดกับน้ำเหนือก่อนจะส่งน้องเลิฟให้น้ำเหนืออุ้ม
“จริงเหรอครับ ขอบคุณนะครับ” น้ำเหนือรับมา จับลูกน้อยให้ฟุบอยู่กับอกของตัวเอง ใช้มือข้างหนึ่งรองก้นเจ้าตัวน้อยเอาไว้ อีกข้างก็คอยจับประคอง ใบหน้าของน้องเลิฟซบกับกลางอกของคนเป็นแม่ใกล้ตำแหน่งหัวใจ
“คุณหมอแจ้งแล้วใช่ไหมคะเรื่องน้ำหนักตัวของน้องถึงเกณฑ์แล้ว”
“ครับ ผมเพิ่งไปคุยกับคุณหมอมา ผมต้องขอบคุณมากเลยนะครับที่ช่วยดูแลน้องเลิฟอย่างดีแบบนี้” น้ำเหนือเอ่ยขอบคุณจากใจจริง ถ้าหากไม่ได้เหล่าคุณหมอ พยาบาลในห้องนี้ลูกน้อยของเขาก็คงจะไม่แข็งแรงเร็วขนาดนี้
พยาบาลเดินเลี่ยงไปแล้วเพื่อให้น้ำเหนือได้มีเวลาอยู่กับลูกสาวคนเล็ก มัมมี๊คนเก่งกอดประคองลูกสาวตัวน้อยเอาไว้พร้อมกับร้องเพลงกล่อมเบา ๆ เพื่อให้น้องเลิฟหลับสบาย
“คนเก่งของมัมมี๊ อีกไม่นานก็จะได้กลับบ้านแล้วนะคะ ดีใจไหมเอ่ยคนเก่ง” ก้มลงจูบเบา ๆ ที่กระหม่อมของลูกสาว ใบหน้าของน้ำเหนือมีแต่รอยยิ้ม ยิ้มทั้งริมฝีปาก และดวงตา “อดทนอีกนิดเดียวนะคะ มัมมี๊ก็จะอดทน มัมมี๊อยากนอนกอดหนูทั้งวันเลย แข็งแรงแบบนี้นะคะจะได้รีบกลับบ้านกัน”
น้ำเหนืออุ้มน้องเลิฟต่ออีกสักพักจนแน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยหลับสนิทแล้วจึงส่งต่อให้กับพยาบาลพาไปนอนในตู้อบต่อก่อนที่น้ำเหนือจะเดินออกจากห้อง เปลี่ยนมายืนเกาะกระจกดูแทน
“อ้าว... กลับมาแล้วเหรอลูก พ่อนึกว่ายังอยู่โรงพยาบาลเสียอีก” เสียงของพ่อสินธรเอ่ยทักเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วหันไปเห็นลูกชายนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เฉลียงริมสระว่ายน้ำ จึงเดินมาหา
“พ่อกลับมาแล้วเหรอครับ” น้ำเหนือเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยิ้ม วางหนังสือลงข้าง ๆ เมื่อพ่อสินธรเดินมานั่งด้วย “ผมเองก็เพิ่งกลับมาได้ไม่นานครับ อยากให้ลูกนอนเยอะ ๆ จะได้แข็งแรง”
“แล้วเจ้าเลิฟเป็นยังไงบ้างล่ะ วันนี้พ่อก็ว่าจะแวะไป กลับมาอาบน้ำอะไรก่อนแล้วค่อยออกไป”
พอได้ยินคำถามนั้นน้ำเหนือก็ยิ้มกว้างทันที “แข็งแรงมากครับพ่อ น้ำหนักก็เป็นไปตามเกณฑ์แล้ว ถ้าน้ำหนักไม่ลง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยอีกสองวันก็กลับบ้านมาได้แล้วล่ะครับ คุณหมอเขาอยากให้อยู่ดูให้แน่ใจก่อนแล้วถึงจะให้กลับบ้าน”
เป็นคำตอบที่น่ายินดี เมื่อได้ฟังพ่อสินธรก็ยิ้มไปกับลูกชาย ยกมือวางบนศีรษะของน้ำเหนือแล้วโยกเบา ๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู “ดีแล้วล่ะลูก ดีแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ เลยนะ”
“ใช่ครับ ผมดีใจมากเลย อยากให้ลูกกลับมาอยู่บ้านเร็ว ๆ ไม่อยากเห็นแกนอนอยู่ในตู้อบแบบนั้นเลยครับ เห็นแล้วก็น่าสงสาร”
“หลานตานี่เก่งจริง ๆ เลยนะ เข้มแข็งกันทุกคนเลย” พ่อสินธรพูด พลางนึกไปถึงหลานชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วย “ลูกพ่อก็เก่ง ผ่านเรื่องร้าย ๆ มาได้ตลอด หลังจากนี้พ่อเชื่อว่าจะมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาหาลูกนะ”
“ครับพ่อ ผมก็คิดแบบนั้นครับ” น้ำเหนือพยักหน้ารับ
จริงอย่างที่พ่อสินธรพูด พวกเขาทุกคนเข้มแข็งกันมาก ตั้งแต่ตอนฝาแฝดแล้ว สองแสบเองก็เข้มแข็งที่อดทนไม่ยอมจากเขาไปไหนในตอนที่เกิดเรื่องอันตราย น้องเลิฟเองก็เข้มแข็ง ทั้งอดทนทั้งต่อสู้จนร่างกายแข็งแรงขึ้นแบบนี้
“แล้วนี่ควอตซ์กับสองแสบยังไม่กลับมาเหรอ” ถามไปถึงลูกเขยแล้วก็หลานตัวแสบทั้งสองคน
“ยังครับ อ่ะ... น่าจะมาแล้วล่ะครับ เจ้าแพนเค้กส่งเสียงเห่าอยู่นั่น” น้ำเหนือตอบก่อนจะเปลี่ยนคำตอบอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงเจ้าแพนเค้กเห่าอยู่ตรงหน้าบ้าน “เพื่อนเล่นกลับมาแล้ว คงออกไปต้อนรับนั่นแหละครับ ผมไปดูหน่อยดีกว่า พ่อไปอาบน้ำก่อนเถอะครับจะได้สบายตัว”
“โอเคลูก เดี๋ยวพ่อมา” พ่อสินธรลุกเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง
ส่วนน้ำเหนือก็เดินออกไปหน้าบ้าน จริงดังที่คาด พ่อลูกกลับมาถึงแล้ว เห็นเจ้าสองแสบวิ่งหัวเราะชอบใจเข้ามากอดเจ้าซามอยด์ตัวขาวที่ตอนนี้โตจะทันฝาแฝดแล้ว น้ำเหนือหัวเราะเมื่อน้องเดียร์โดนเจ้าแพนเค้กใช้จมูกดุน ๆ จนล้มไปกับพื้นแล้วก็โดนเจ้าตัวขาวเลียแขนเลียขา ส่วนพี่ฮาร์ทที่เห็นน้องชายโดนแพนเค้กแกล้งก็เข้าไปช่วย สุดท้ายตัวเองก็กลายเป็นเหยื่อให้แพนเค้กแกล้งแทน
“อะไรกัน สองคนยังสู้เจ้าแพนเค้กตัวเดียวไม่ได้เลย” สุดท้ายควอตซ์ที่ยืนมองอยู่นานก็ต้องเข้าไปช่วยเจ้าตัวแสบ ควอตซ์หิ้วเจ้าตัวแสบทั้งสองคนขึ้นจนขาลอยจากพื้น ทั้งสองคนก็ไม่มีกลัวหรือตกใจอีกทั้งยังหัวเราะชอบใจอีกด้วย “เข้าไปสวัสดีมัมมี๊ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยมาเล่นกับแพนเค้กต่อ”
ฝาแฝดวิ่งมาที่บ้านหลังจากที่แด๊ดดี๊ปล่อยตัวให้ลงมายืนกับพื้นแล้ว เจ้าตัวแสบยิ้มกว้างเมื่อเห็นมัมมี๊ยืนรออยู่หน้าประตูบ้าน ยกมือไหว้สวัสดีมัมมี๊กันอย่างพร้อมเพียง
“มัม ๆ สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ” น้ำเหนือยิ้มรับ ย่อตัวลงรับฝาแฝดที่โถมตัวมากอดเต็มรัก “เอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องนั่งเล่นก่อนครับแล้วค่อยออกมาเล่นกับแพนเค้ก”
“ครับผม” ทั้งสองรับคำก่อนจะพากันวิ่งเข้าไปในบ้าน ไม่นานก็พากันวิ่งดุ๊ก ๆ กลับมา
เจ้าแพนเค้กเองก็เหมือนกับรู้เพราะมายืนรอที่บันไดเลย พอเห็นฝาแฝดวิ่งออกมาก็วิ่งนำไปที่สนามหญ้าโดยมีฝาแฝดวิ่งตามไป
“กลับมาถึงนานแล้วเหรอครับ” ควอตซ์เอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้าน
“สักพักแล้วล่ะครับ นั่งเล่นอยู่ตรงสระแต่ได้ยินเสียงเจ้าแพนเค้กเห่าก็เลยเดาว่าพี่กลับมากันแล้วเลยออกมาดูนี่แหละครับ” น้ำเหนือตอบ หยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่บนแขนของควอตซ์มาถือเอาไว้เอง ก่อนจะส่งต่อให้เมดที่เดินออกมา
“แล้วเลิฟเป็นยังไงบ้างครับ” ควอตซ์ถาม จับมือน้ำเหนือมากุมแล้วพาเดินไปที่สนามหญ้าที่ลูกชายฝาแฝดวิ่งเล่นอยู่
“แข็งแรงดีครับ น้ำหนักถึงเกณฑ์แล้วด้วย ถ้าแข็งแรงดีแบบนี้อีกสองวันก็กลับบ้านได้แล้วล่ะครับ” ไม่ว่าจะพูดอีกกี่รอบน้ำเหนือก็ยิ่งกว้างทุกครั้งที่ได้พูดถึง
ควอตซ์เองพอได้ฟังคำตอบแบบนั้นก็หยุดเดิน หันมามองน้ำเหนือทันที ดวงตาสีสวยทั้งสองข้างเป็นประกาย “จริง ๆ นะเหรอ”
“จริงสิครับ อีกสองวันเราไปรับลูกกัน”
คนตัวสูงคว้าตัวน้ำเหนือมากอดทันทีด้วยความยินดี ออกแรงรัดตัวคนรักเอาไว้อุ้มน้ำเหนือขึ้นจนเท้าลอยจากพื้นแล้วพาหมุนไปรอบ ๆ น้ำเหนือก็ได้แต่กอดรอบคอของควอตซ์เอาไว้ หัวเราะกับท่าทางของแด๊ดดี๊ ควอตซ์เองก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“พี่ดีใจจริง ๆ ที่ได้ยินแบบนี้” ควอตซ์วางน้ำเหนือลงยืนที่พื้นอีกรอบ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย เขายังคงกอดเอาไว้แบบนั้น
“ครับ ผมก็ดีใจเหมือนกัน” น้ำเหนือเกยคางเอาไว้ที่ไหล่กว้าง สองมือโอบแผ่นหลังกว้าง ๆ ของคนรักเอาไว้ เขาลูบหลัง โยกตัวเหมือนเวลากอดฝาแฝด “ดีใจมาก ๆ เลยครับ”
“เป็นข่าวที่ดีที่สุดเลยครับ ดียิ่งกว่าผลประกอบการของบริษัทได้กำไรกว่าปีก่อน ๆ อีก”
น้ำเหนือหัวเราะ ลูบหลังของควอตซ์ไปมา “ครับ เป็นข่าวดีมากจริง ๆ ครับ”
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาควอตซ์เองก็ไปที่โรงพยาบาลทุกวัน ไปจับมือจับแขนลูกสาวคนเล็กแล้วร้องบอกให้รีบกลับบ้าน ทุกครั้งที่เข้าไปในห้องนั้นน้ำเหนือจะเห็นดวงตาเศร้า ๆ ของควอตซ์ นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ผู้ชายที่เข้มแข็งอย่างควอตซ์อ่อนไหว บางครั้งเวลาที่ไปเห็นน้องเลิฟไม่สบาย ร้องไห้งอแง ควอตซ์จะแอบไปที่อื่น และน้ำเหนือก็จะเห็นไหล่ทั้งสองข้างของควอตซ์สั่นไหว แด๊ดดี๊ของเด็ก ๆ กำลังร้องไห้
น้ำเหนืออยากเข้าไปปลอบ แต่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายเองก็คงไม่อยากให้เขาเห็นช่วงเวลานั้น น้ำเหนือเลยได้แต่ยืนมองแผ่นหลังกว้าง ๆ ที่ดูเหงาและเศร้าสร้อยนั้น ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา น้ำเหนือรู้ดีว่าควอตซ์ยังรู้สึกผิดและโทษตัวเองอยู่ทุกครั้งที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเครียดจัด และคลอดน้องเลิฟก่อนกำหนด ทำให้น้องเลิฟต้องอยู่ในตู้อบแบบนั้น
แต่ทุกครั้งที่เขาจะพูดเรื่องนี้ คนตัวสูงก็มักจะยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่องทุกครั้งไป น้ำเหนือเลยไม่อยากพูดถึงอีก เพราะกลัวจะไปกระตุ้นความรู้สึกของควอตซ์มากขึ้น แต่น้ำเหนือเชื่อว่าถ้าน้องเลิฟแข็งแรงและออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ความรู้สึกผิดของควอตซ์ก็จะดีขึ้นจนจางหายไปแน่นอน
“พี่ดีใจที่สุดเลย”
“แด๊ด ๆ มัม ๆ กอดด้วย กอดด้วยครับ” เสียงสองแสบดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหาโดยมีแพนเค้กวิ่งตามมาด้วย
ฝาแฝดกางแขนออกกว้างตอนวิ่งเข้ามา ให้ควอตซ์กับน้ำเหนือต้องผละออกจากกันแล้วหันไปรับเจ้าตัวน้อยมากอดแทน
ทั้งสองคนคว้าตัวฝาแฝดขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบ ๆ เหมือนเล่นเครื่องเล่น ทั้งพี่ฮาร์ทแล้วก็น้องเดียร์หัวเราะชอบใจที่ได้เล่นแบบนี้ มีเสียงเห่าของแพนเค้กเป็นคู่ประสานด้วย ควอตซ์ยกตัวพี่ฮาร์ทขึ้นสูงแล้วพาหมุนไปเรื่อย ๆ น้ำเหนือเองก็จับตัวน้องเดียร์หมุนเหมือนกัน ทั้งสองคนชนกันเบา ๆ จนต้องหยุดหมุนแล้วทิ้งตัวลงกับสนามหญ้า ฝาแฝดนอนแผ่อยู่บนตัวพวกเขาหัวเราะลั่นด้วยความสนุก ส่วนเจ้าแพนเค้กก็วิ่งวนไปรอบ ๆ ตัวพวกเขาทั้งสี่คนแล้วเห่า สลับกับเข้ามาเลียหน้าเลียแขน
ภาพของทั้งสี่คนอยู่ในสายตาของพ่อสินธรที่เดินมายืนตรงเฉลียงใกล้ ๆ กับจุดที่พวกน้ำเหนือเล่นกัน พ่อสินธรทอดสายตามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข เขาดีใจที่ลูกชายคนเดียวของเขาได้เจอคนดี ๆ อย่างควอตซ์ ได้มีครอบครัวที่มีความสุขแบบนี้
“คุงตา ๆ คุณตา” ฝาแฝดพากันประสานเสียงเรียกเมื่อเงยหน้าไปเห็นคุณตายืนมองอยู่
พ่อสินธรเดินเข้ามาหา น้ำเหนือกับควอตซ์ดันตัวลุกขึ้นนั่งปล่อยสองแสบให้วิ่งไปหาคุณตาที่กำลังเดินมา แรงปะทะของสองแสบแม้จะไม่มากแต่พอมาพร้อม ๆ กันและไม่ได้ระวังตัวเท่าไหร่ก็ทำเอาเซได้ไหมเหมือนกัน
“ว่ายังไงเรา สนุกเลยสิ ตาได้ยินเสียงดังไปถึงในบ้านนั่น” คุณตาเองก็ทิ้งตัวลงนั่งบนสนามหญ้าเหมือนกัน รับสองแฝดที่ขยับมานั่งตัก
“สนุกครับ พี่ฮาร์ทวิ่ง ๆ กับแพนเค้ก สนุกมาก” พี่ฮาร์ทเริ่มเล่า
“ใช่ครับ น้องเดียร์ก็วิ่ง ๆ สนุกมากเลยเนอะ”
พี่ฮาร์ทพยักหน้ารับคำของน้องชายก่อนจะเล่าให้คุณตาฟังต่อ “แด๊ด ๆ กับมัม ๆ ก็มา พี่ฮาร์ทเห็นกอดกัน หมุน ๆ ด้วย”
“น้องเดียร์ก็เห็น น้องเดียร์กับพี่ฮาร์ทเลยวิ่งไปหาแด๊ด ๆ มัม ๆ ด้วย บอกกอดกัน ๆ กอดแน่นเลย”
“แด๊ด ๆ อุ้มพี่ฮาร์ทหมุน ๆ สูง ๆ ด้วยครับ สนุกเลย”
น้องเดียร์พยักหน้ายืนยันอีกเสียงว่าสนุกจริง ๆ “มัม ๆ ก็อุ้มน้องเดียร์หมุน สนุกเลยครับ แล้วก็ชนกัน ล้มเลย อิอิ”
“ช่าย ๆ ล้มเลย แต่ไม่แรงนะ ไม่เจ็บ ๆ ไม่เจ็บเลยครับ” พี่ฮาร์ททำสีหน้าจริงจัง ยกมือขึ้นโบกส่ายหน้าไปมาตอนบอกว่าไม่เจ็บ เพราะกลัวว่าคุณตาจะเป็นห่วงที่บอกว่าล้ม
พ่อสินธรหัวเราะชอบใจกับท่าทางของหลานชาย ควอตซ์กับน้ำเหนือเองก็เหมือนกัน เวลาเห็นเจ้าสองแสบทำหน้าตาขึงขังจริงจังแล้วมันทั้งน่ารักน่าเอ็นดูไปหมด
“ไม่เจ็บกันเนอะ”
ทั้งพี่ฮาร์ทแล้วก็น้องเดียร์พยักหน้ารับ “ไม่เจ็บครับ สนุกมาก ๆ เลย”
ทุกคนยิ้ม หัวเราะ มีความสุขกับช่วงเวลาที่ดีแบบนี้ น้ำเหนืออยากจะให้น้องเลิฟได้กลับมาบ้านเร็ว ๆ เขาเชื่อว่าความสุขมันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกแน่นอน
❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈
มาอัปแล้วจ้า ตอนนี้มีข่าวดีมาฝาก น้องเลิฟจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เย่~~ ดีใจ ๆ ทุกคนก็ดีใจกันหมดเลย โดยเฉพาะแด๊ด ๆ ที่ดีใจมาก ๆ ดีใจที่สุด เพราะลึก ๆ แล้วแด๊ดก็ยังโทษตัวเองอยู่เสมอว่าที่น้องเลิฟต้องคลอดก่อนกำหนดเป็นเพราะตัวเอง พอได้ข่าวว่าน้องเลิฟแข็งแรงจนจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ดีใจที่สุดเลย ฉากนี้เหมือนเป็นฉากตอนจบของเรื่องเลยเนอะ ทุกคนแฮปปี้ วิ่งเล่นในสวน สนุกสนานเฮฮา ยิ้มแย้ม ฮา แต่ยังไม่จบค่า ไม่ต้องห่วง ยังมีอีก ยังมีอีก
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ ^^
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่ควอตซ์น้องเหนือน้อยใจแย่เลย รักพี่ควอตซ์เมนต์ รักน้องเหนือเมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ