#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 224222 ครั้ง)

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อึดอัดแทนกลับมาอยู่ด้วยกันได้แล้ว :ling1: :pig4:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อึดอัดกับความหน่วงนี้จังถ้ายังรักกันก็ปรับความเข้าใจกันเถอะพูดให้ชัดให้เคลียร์หรือไม่ก็ทำให้มันจบๆไป

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ งานยุ่งมาก พลังงานชีวิตใช้แบบหนักหน่วง ต้องขอโทษนะคะที่มาช้าถึงขนาดนี้ ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วค่ะ และจะลงให้ในสัปดาห์หน้า นี่คือคำสัญญาที่เชื่อมั่นได้ค่ะ  โปรดเชื่อเรานะคะ :mew3: ถ้าตอนนี้มีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าตอนสุดท้ายและจากนั้นจะลงตอนพิเศษให้อีกหนึ่งตอนนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามนักเขียนวินัยติดลบคนนี้นะคะ รัก  :กอด1: เจอกันสัปดาห์ค่ะ
++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 70 Still falling for you.

And just like that
และเพราะเป็นแบบนั้น

All I breathe
ทุก ๆ ลมหายใจฉัน

All I feel
ทุก ๆ ความรู้สึก

You are all for me
เธอคือทั้งหมดสำหรับฉัน

I’m in
ฉันก็เอาด้วย

And just like that
และเพราะเป็นแบบนั้น

All I breathe
ทุก ๆ ลมหายใจฉัน

All I feel
ทุก ๆ ความรู้สึก

You are all for me
เธอคือทั้งหมดของฉัน

No one can lift me, catch me the way that you do
ไม่มีใครสามารถดึงฉันไปได้ คว้าฉันไว้ได้อย่างที่เธอทำ

I’m still falling for you
ฉันยังตกหลุมรักเธออยู่ดี


        สายตาที่สบมองกันนั้นต่างคนต่างนิ่งไปชั่วขณะ รอบข้างเหมือนหยุดนิ่งจนลืมไปเสียว่าตอนนี้อยู่ท่ามกลางเสียงเพลงและผู้คนมากมายที่กำลังดื่มและสนุกกับบรรยากาศกันอยู่ กว่าจะรู้ตัวว่าต้องหยุดมองก็ตอนที่เก้าเรียกขึ้นมา

“พาย...มึงเป็นไร” เก้าถามขึ้น พระพายจึงละสายตาและเบี่ยงตัวไปข้าง ๆ เพื่อที่จะไม่หันไปเผชิญหน้ากับพิธานอีก

“เปล่า” ตอบสั้น ๆ ก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่ม

“ไม่มีอะไรแน่เหรอ” เก้าว่าพลางหันไปมองยังที่พิธาน พระพายจึงหันไปมองแต่ก็พบว่าพิธานไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว รู้สึกหายใจหายคอโล่งขึ้นทันที

“นั่นสิพระพาย ท่าทางแปลก ๆ” ไคถามขึ้นบ้าง

“มองหาอะไรเหรอ” จู่ ๆ มีเสียงเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับเสียงร้องตกใจของเก้าที่ดังขึ้น

“เฮ้ย มาได้ไงวะ” เก้าร้องเสียงดังอย่างไม่คาดคิดว่าจะมาเจอพิธานในคืนนี้ ทันใดนั้นความไม่พอใจฉายขึ้นบนหน้าของเก้าอย่างชัดเจน

“อ้าว พิธาน” ไคนั้นคือเหรียญอีกด้านของเก้า คือดีใจที่ได้เห็นพิธานมายืนอยู่ตรงนี้ ด้านพระพายรู้สึกเหมือนตัวชาไปซีกหนึ่ง

“นั่งด้วยได้ไหม” พิธานเอ่ยขอไค โดยไม่ได้หันมามองพระพายเลยแม้แต่น้อย

“ได้สิ” ไคว่า เก้าอ้าปากจะห้ามแน่นอนว่าไคชิงเอามือปิดปากเก้าได้ทันเวลา เสียงอู้อี้ออกจะดังเพราะเจ้าตัวไม่ยอมแต่ไคก็กระซิบอะไรสักอย่างที่หูเก้า จากท่าทีที่ขัดขืนกลับหยุดชะงักทันควัน

“ดีมาก” ไคพูดพร้อมยิ้ม เก้าเหมือนจะหน้าตึงอย่างคนข่มความเกรี้ยวกราดไว้ พิธานนั่งลงข้างไคและมองแต่ไคไม่มองไปทางไหนแม้กระทั่งพระพายเองก็ตาม

“ไปไหนมา ไม่เจอหน้าเลย” ไคถาม ในขณะนั้นมีพนักงานเสิร์ฟมาชงเครื่องดื่มให้พิธาน

“มีเรื่องต้องทำเยอะ โทษทีที่ไม่ได้บอก” พิธานว่า

             พระพายรู้สึกว่าตัวเองชาไปมากกว่าครึ่งตัวแล้ว มือนั้นบีบแก้วเหล้าแน่นก่อนที่จะกระดกดื่มรวดเดียวทั้งที่พนักงานเพิ่งชงให้หมาด ๆ และเข้มข้นมากพอสมควร เก้าที่ไม่อยากจะฟังการพูดคุยของสองเพื่อนรักจึงกระเถิบมานั่งกับพระพายและชงเหล้าให้มือระวิงเพราะพระพายเหมือนเปิดโหมดปิดกั้นการรับรู้ของตัวเองในตอนนี้ พิธานกับไคนั่งคุยกัน ส่วนมากจะเป็นไคถามเสียมากกว่าแม้พิธานไม่ได้พูดมากมายแต่ก็มีการตอบโต้อยู่พอสมควร

“พาย ไอ้พายโว้ย เบา ๆ หน่อย” เก้าเริ่มปราม เพราะห้าแก้วติดในระยะเวลาไม่ถึงสิบห้านาที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพระพายไม่มีสติเหมือนเดิมแล้ว

“พระพาย...รีบกินไปไหน” ไคถาม พิธานจึงหันไปมองพระพายก็คราวนี้

“เพราะมึงนั่นแหละ” เก้าโยนความผิดให้พิธานทันที

“อะไร” พิธานถามกลับพลางมองหน้าเก้าด้วยสายตาออกจะเย็นชา

“ถ้ามึงไม่มานั่งตรงนี้ ไอ้พายมันก็ไม่เฮิร์ทขึ้นมาหรอก”

“ทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้นล่ะ” พิธานถาม พลางมองหน้าพระพายที่จ้องมองพิธานกลับ คำพูดมากมายที่เหมือนจะหลุดออกมาแต่พระพายก็ยับยั้งมันได้ทัน เขาจะไม่พูดมันออกมา

“สบายดีใช่ไหม” พิธานที่นั่งตรงข้ามพระพายเอ่ยถามออกมา

“สบายดี” ตอบพลางมองไปทางอื่น

“สบายตรงไหน หน้ามึงเศร้าซะขนาดนี้” เก้าแทรกขึ้นมา พระพายตวัดตามองเก้า

“มีเรื่องจะคุยด้วย...ขอเวลาสักนิดได้ไหม”

พิธานเอ่ยขึ้น นี่เป็นสิ่งที่พระพายที่กำลังกรึ่ม ๆ ไม่ทันนึกว่าจะต้องทำอย่างไร การมาเจอหน้ากันตอนนี้ เวลานี้และนี่หมายถึงอะไร หรือหมายถึงการพูดคุยถึงสิ่งที่ต่างคนต่างอยากรู้ ใช่เรื่องจะไปต่อหรือพอแค่นี้หรือเปล่า มันถึงเวลาที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว

“ได้สิ”

            พระพายลุกขึ้น เซไปหน่อยแต่ถือว่ายังประคองสติตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ตอบตกลง เพราะนี่อาจจะเป็นจุดสุดท้ายของเส้นทางนี้แล้ว ต้องดึงสติให้มากพอที่จะพูดจาและอาจจะมีความกล้าเนื่องจากฤทธิ์เหล้ามากพอที่จะรับฟังเรื่องที่อาจจะเจ็บปวดในต่อจากนี้ไป

             เดินกันออกมาจากร้านที่ผู้คนแออัด พิธานแหวกผู้คนออกให้อย่างง่ายดายเพราะสายตาที่อย่างบอกนัยทีว่าให้ออกห่างจากตัวเขา ทั้งสองออกจากผับจนมาถึงหน้าร้าน จากนั้นพิธานเดินนำไปยังลานจอดรถอีกฝั่ง ที่ห่างออกไปสักหน่อย

“ขึ้นรถเหรอ” พระพายถาม

“คิดว่าสะดวกกว่าที่นี่” พิธานว่า พระพายจึงต้องยอมขึ้นรถไป

        พิธานขับรถออกจากลานจอดรถ ขับรถด้วยพวงมาลัยมือเดียว อีกมือจิ้มโทรศัพท์ทำอะไรสักอย่าง พระพายไม่อยากมองพิธานในตอนนี้เพราะความรู้สึกเดิม ๆ เริ่มหลั่งไหลมากขึ้นจึงจำต้องมองไปข้างทางที่รถติดพอสมควร

        แม้จะนึกไม่ออกเลยสักนิดว่าทำไมถึงยอมมานั่งบนรถกับพิธานเช่นนี้ ตามมาแบบไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้ อาจจะเพราะมันถึงเวลาที่ต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่องสักที จะได้ไปทำอะไร ๆ กับชีวิตต่อจากนี้ หากจะต้องจบจริง ๆ พระพายจะได้ตัดใจอย่างจริงจัง เนื่องด้วยทุกวันนี้เหมือนจะตัดใจจากพิธานแต่แท้จริงแล้วไม่เลยสักนิด ยังคงคิดแต่เรื่องของพิธานเสมอแต่แค่ไม่ฟูมฟายและพยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งอย่างที่บอกกับตัวเองไว้ เป็นการไม่คาดหวังแต่ลึก ๆ ยังคงคาดหวังอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

        ความรู้สึกที่คุ้นเคยอบอวลอยู่ภายในรถ แม้จะไม่มีเสียงพูดคุยใด ๆ กันเลยแต่พระพายกลับรู้สึกได้อย่างนั้น กลิ่นน้ำหอมของพิธานที่พระพายชอบเสมอ บรรยากาศที่น่าจะตึงเครียดแต่กลับเบาสบาย ความรู้สึกวูบโหวงที่เหมือนอะไรขาดหายไปนั้นดูจะฟูพองขึ้น รู้สึกหัวใจเต้นเร่ารัวเร็วราวกับเริงร่าที่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ในรถคันนี้อีกครั้งหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดในรอบสามเดือนที่ผ่านมา

        ขับรถออกมาประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งที่สถานที่ที่มาขับมานั้นไม่ได้ไกลจากผับมากเท่าที่ควรแต่เพราะรถติดเสียมากกว่า พิธานเลี้ยวเข้าโรงแรมทางซ้ายมือ แสงไฟด้านหน้าประดับไว้ไม่มากไปไม่น้อยไป ช่างละลานตาน่ามอง จอดรถเรียบร้อยก็เดินลงมาโดยไม่เอ่ยพูดอะไรกับพระพาย เดินนำเข้าไปยังล็อบบี้อย่างเงียบเชียบ

“นั่งรอตรงนี้” พิธานว่าและเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานต้อนรับอยู่สองคน มาถึงตรงนี้พระพายถึงจะกระจ่างว่าพิธานที่จิ้มมือถือบนรถนั้นคือน่าจะกำลังจองโรงแรม...

“ไปกันเถอะ” พิธานเดินมาพร้อมคีย์การ์ดในมือและเดินนำพระพายขึ้นลิฟต์ แตะคีย์การ์ดเพื่อให้ลิฟต์นำทางไปยังชั้นที่ระบุไว้ในคีย์การ์ด

        พระพายเดินงงตามพิธานจนเข้าไปถึงในห้อง เป็นการพูดคุยที่ลงทุนมากพอสมควรเมื่อเข้ามาในห้อง เพราะราคาห้องนี้ต่อคืนน่าจะครึ่งหมื่นในความคิดของพระพาย

“ไปล้างหน้าก่อนไหม” พิธานบอก พระพายพยักหน้าและรีบเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็เป็นการตั้งสติ อยู่บนรถผ่อนคลายก็จริงแต่เมื่อมาอยู่ตรงนี้เริ่มจะวางตัวไม่ถูก ไม่เจอหน้ากันเลยตั้งสามเดือน แล้วมาเจอกันและต้องพูดคุยกัน จู่ ๆ ก็ดันรู้สึกสติจะหลุดขึ้นมา

        พระพายเปิดน้ำในอ้างล้างหน้า กวักน้ำล้างหน้าตัวเองอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เขาต้องตั้งสติและพร้อมจะพูดคุยกับพิธาน เมื่อรู้สึกว่าเข้าที่เข้าทางพระพายจึงเอื้อมมือคว้าผ้าผืนเล็กที่น่าจะวางไว้เพื่อเช็ดมือแต่กลับเอามาเช็ดหน้าแทน เช็ดไปพลางมองตัวเองในกระจกเงา

        จ้องใบหน้าตัวเองราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน จ้องมองเข้าไปลึก ๆ และพูดกับตัวเองในใจว่าหากก้าวออกจากห้องน้ำ สิ่งที่ต้องเผชิญคือพิธาน คนที่ทั้งเฝ้ารออยากเจอและทั้งไม่อยากจะเจอหน้าในคราวเดียวกัน มันเป็นความสับสนที่พระพายเองก็ไม่เข้าใจตัวเองมากนัก

        เมื่อเผชิญหน้ากันอย่างตรง ๆ ต่อจากนี้คือสิ่งที่จะตัดสินเรื่องราวทั้งหมด ว่าจะจบแล้วจริง ๆ หรือเรื่องราวมันจะดำเนินต่อไป พระพายนั้นชั่งใจมาตลอดสามเดือน เขารู้ว่ายังรักและต้องการพิธานอยู่แต่เพราะความกลัวที่จะเสียใจ หากวันใดวันหนึ่งจะมีวันที่ต้องแยกจากกันอีก แต่คำพูดของหลวงตาที่บอกครั้งล่าสุดที่เจอกันคือ ให้ใช้ชีวิตกับปัจจุบัน ไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องที่ยังไม่มาถึงเพราะจะทุกข์ใจเสียเปล่า นั่นคือความจริง เรื่องในอนาคตเขาเองก็ไม่ควรไปนึกถึงเพราะไม่รู้ว่ามันจะเกิดหรือไม่เกิด ดังนั้นพระพายเริ่มให้คำตอบกับตัวเองได้บ้างแล้ว

        แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช่พระพายทั้งหมดที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง ท่าทีและความรู้สึกของพิธานเองก็จะเป็นตัวตัดสินในคำตอบของพระพายเช่นกัน ตอนนี้จึงต้องตั้งสติพร้อมรับกับเรื่องราวทั้งหมด หากพิธานต้องการหยุดทุกอย่าง พระพายก็ต้องยอมรับมันให้ได้ การเคารพการตัดสินใจของพิธานเป็นเรื่องที่สมควรทำ เหมือนที่พิธานเองก็ยอมรับความต้องการของเขาแม้ว่าตอนนั้นเจ้าตัวสีหน้าจะเจ็บปวดมากก็ตาม

        ใช้เวลาไม่นานนักพระพายก็ออกมาจากห้องน้ำ โดยที่พิธานนั่งอยู่ตรงสตูลปลายเตียง นั่งนิ่ง ๆ มองไปยังข้างหน้าซึ่งมันไม่มีอะไรจะให้มองทั้งนั้นนอกจากกำแพงและรูปตกแต่ง เนื่องจากทีวีถูกวางไว้หน้าประตูทางเข้า ซึ่งออกแบบไว้เป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีในขนาดกะทัดรัด

“จะเข้าห้องน้ำไหม...” การเริ่มต้นพูดกันมันเหมือนในช่วงแรกที่เจอกัน วางตัวไม่ค่อยจะถูกเท่าไหร่หนัก

“ไม่...มานั่งสิ” พิธานขยับตัวและตบลงตรงที่นั่งข้าง ๆ

             นั่งใกล้กันขนาดนี้ ยิ่งรู้สึกคันยุบยิบในอก ความรู้สึกบางอย่างมันกระจายอยู่รอบตัว ความคิดถึงพุ่งขึ้นมาจนพระพายต้องหายใจค่อย ๆ ช้า ๆ พระพายหันมองพิธานที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ใบหน้าด้านข้างนั้นช่างชวนให้คิดถึงมากจริง ๆ บรรยากาศรอบตัวพิธานไม่ได้เปลี่ยนไปเลย พิธานยังคงเป็นพิธานแต่สิ่งที่สัมผัสได้คือความผ่อนคลาย พิธานที่ดูนุ่มนวลขึ้นนิดหน่อยจากที่รู้สึกได้

              พิธานขยับตัวหันมามองหน้าพระพายตรง ๆ สายตาทั้งสองสบมองกัน อาการคันยุบยิบในอกค่อย ๆหายไป แต่เป็นอาการแน่นขึ้นมาแทน สายตาที่มองนั้นลึกเข้ามา การมองแบบทะลุปรุโปร่งนี้มันดูคุ้นเคยสำหรับพระพาย

“ขอโทษที่มาให้เจอหน้า” น้ำเสียงนั้นรู้สึกผิดโดยไม่ได้ประดิษฐ์ใด ๆ

“ไม่ต้องขอโทษหรอก...ไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่เหรอ” พระพายว่าพลางหลบสายตานั้น เพราะที่ผ่านมาพิธานไม่มาเจออย่างที่สัญญากันไว้ ครั้งนี้คงเป็นความบังเอิญมากกว่า

“แล้วถ้าบอกว่าตั้งใจล่ะ” พระพายที่ได้ยินถึงกับต้องหันเหสายตามามองพิธาน

“หมายความว่าไง”

“ที่สัญญากันไว้..ฉันทำมันจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด” คำพูดที่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก

“ไม่เจอหน้ากัน คือนายไม่เจอหน้าฉัน...แต่ฉันเจอหน้านาย...ทุกวัน” เมื่อได้ยินอย่างนั้นถึงกับหายใจสะดุด

“แอบตามผม...เหรอ” ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่ ทุกวัน ออกจากห้องไปออฟฟิศ กลับเข้าห้อง ไปบ้านพี่กล้วย และไปวัด...ไปกับปอด้วยในบางครั้ง” พระพายสะดุ้งตัวเมื่อชื่อเลขาปอถูกเอ่ยขึ้นรวมถึงสถานที่ที่เขาวนเวียนอยู่เป็นประจำ

“ได้ยังไงกัน” นี่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าโดนพิธานสะกดรอยตามเสียขนาดนั้น

“นายไม่ค่อยระวังตัวเอง ไม่สังเกตรอบข้าง...แบบนี้มันน่าเป็นห่วงนะ” พิธานว่า สายตานั้นออกจะตำหนินิด ๆ

“แล้วจะทำแบบนั้นไปทำไม” พระพายก้มหน้าลง

“ฉันเปลี่ยนใจจากนายไม่ได้” คำพูดที่ทำเอาพระพายรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ

“มันไม่เคยเปลี่ยนได้ตั้งแต่วันที่เราคุยกันวันนั้น ฉันไม่เคยเลิกคิดถึงนาย ทุก ๆ วันของฉันมีแต่เรื่องของนาย” ยิ่งได้ยินพระพายยิ่งรู้สึกใจสั่น...มันไม่ต่างกับเขาเลยสักนิด

“ฉันเฝ้ามองนายทุกวัน ทุกครั้งที่นายเดินเหม่อ มีครั้งหนึ่งนายเดินออกจากออฟฟิศแล้วเดินสะดุดฟุตบาธ..ฉันก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าที่เหม่อนายอาจจะกำลังคิดถึงฉัน” ยังคงอ่านเขาออกได้เสมอ นี่คือพิธานตัวจริงเสียงจริง

“ฉันรู้ นายอาจจะไม่พร้อมที่จะคุย..แต่ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วพระพาย ฉันคงอยู่ในสภาพนี้อีกนานกว่านี้ไม่ได้ ฉันกลัวฉันจะเป็นบ้าไปเสียก่อน” พระพายเงยหน้าสบตาของพิธานที่ดูจะหวาดหวั่นวูบหนึ่งในดวงตานั้น

“สามเดือนที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเวลาไหนที่ไม่คิดถึงนาย” น้ำเสียงอ่อนลงราวกับรำพึงรำพันกับตัวเอง

        พระพายเงียบไป เขาเริ่มมือสั่นนิด ๆ เพราะท่าทีของพิธานนั้นล้วนแล้วแต่เป็นความจริง พิธานพูดความจริงกับเขาและความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้ต่างกันกับพระพายเลยสักนิด แต่ดูเหมือนพิธานจะเป็นมากกว่าเขา คงเพราะครั้งสุดท้ายที่คุยกันเป็นเขาเองทำให้พิธานรู้สึกเสียใจไป

        พิธานลุกขึ้นและนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของพระพาย จ้องมองที่มือของพระพายราวกับอยากจะจับมือแต่ก็ไม่กล้า ดูลังเลใจคงเพราะกลัวพระพายจะไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัว พระพายเองก็มองอย่างลุ้นในใจว่าพิธานจะตัดสินใจทำอย่างไร..ในที่สุดพิธานก็เลือกที่จะกุมมือพระพายขึ้นมา พระพายหายใจสะดุดเมื่อโดนสัมผัส...ฝ่ามือของพิธาน ความอุ่นนิด ๆ จากมือนั้นคือสัมผัสที่คิดถึง..พระพายคิดคำว่าคิดถึงกับพิธานหลายครั้งแล้วทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง

“พระพาย...มันจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” พิธานจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพระพาย

        ความวูบไหวในดวงตาของพิธานนั้นแจ่มชัด มันชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังขอร้องอย่างแท้จริง พระพายเองก็ไม่อาจจะละสายตาไปจากพิธานได้ในตอนนี้ ทั้งสองจ้องมองกันอยู่อย่างนั้น พระพายเองก็พูดอะไรไม่ออก เพราะเมื่อได้ยินคำพูดของพิธาน คนพูดน้อยที่พรั่งพรูออกมาเสียขนาดนั้นก็ทำเอาไปไม่ถูกเหมือนกัน

“ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำลงไป มันทำนายเสียใจและนายอาจจะเริ่มไม่มั่นใจในตัวฉันแล้ว เรื่องโอกาส...ฉันเองก็ไม่กล้าขออะไรอีกแล้ว แต่ฉันมีสิ่งที่ต้องบอกนาย ฉันไม่เคยบอกนายมาก่อน”

“ฉันรักนายพระพาย...”

        พระพายชะงักไปกว่าเดิม คำว่ารักที่แม้แต่เขาเองบอกแค่ทางจดหมายแต่ไม่ได้บอกต่อหน้า คำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากพิธานตอนนี้ ในวันนี้ ทำเอาร่างกายของพระพายเบาหวิว ริมฝีปากนั้นเหมือนจะสั่นจนต้องเม้มริมฝีปาก...พิธานบอกว่ารักเขา

“ฉันเป็นคนโง่ ที่พอเสียนายไปถึงจะเพิ่งรู้ตัวเอง ว่าความรู้สึกที่มีกับนายมันมากกว่าการชอบกัน รู้ตัวช้าจนเกือบจะไม่ได้บอกนายไปแล้ว”

“ผม...” พระพายพูดไม่ออก เขาจ้องมองพิธานที่ยิ้มออกมานิด ๆ

“ฉันแค่อยากบอกนาย ไม่ได้ต้องการเอาคำนี้มารั้งนายไว้ ถ้านายยืนยันว่าจะจบ ฉันก็พร้อมจะเข้าใจ....แม้ว่าจะเจ็บมาก ฉันก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของนาย”

“แต่ฉัน...รักนายมากจริง ๆ รัก..จนเหมือนจะหายใจไม่ออก ทุกครั้งที่ฉันแอบตามนาย ฉันเหมือนจะตายทุกที” พิธานหัวเราะหึราวกับสมเพชตัวเองที่อ่อนแอขนาดนี้และแววตานั้นดูฉ่ำวาวขึ้น เหมือนพิธานมีน้ำตาเคลือบนัยน์ตานั้นไว้

         ฝ่ามือนั้นบีบมือของพระพายขึ้นมาระดับหนึ่ง คงกำลังพยายามอดกลั้นความเสียใจไว้ พิธานดูอ่อนแอมากกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกันมา เหมือนการมาในวันนี้ของพิธานเตรียมพร้อมจบทุกอย่าง คงเพราะไม่แน่ใจว่าตัวพระพายนั้นจะตอบรับกับความรู้สึกเหล่านี้หรือไม่

“คุณถามใช่ไหม ว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” พระพายเริ่มพูดบ้าง

“ใช่”

“แล้วถ้าผมบอกว่ามันจะไม่กลับไปเหมือนเดิมล่ะ”

             พระพายเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ พิธานดูชะงักไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น แปลว่าความหวังของพิธานจะจบลงตรงนี้หรือ พิธานนิ่งจนแทบจะไม่ได้หายใจ พิธานแทบจะหยุดหายใจไปแล้ว...

Lyrics Still falling for you by Ellie Goulding.



ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยยยยยยยังพูดไม่หมดใช่ไหมพระพาย ต้องมีต่อสิ พิธานทุ่มสุดตัวแล้ว(รึยังนะ555) รีบๆหวานกันเถอะ รรรรรรร

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ตัดซะงั้น......รอตอนต่อไปที่พระพายจะเดินหมากต่อ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ค้างงงงงมากจะตอบให้เสร็จเลยก็ไม่ได้

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ค้างงงงงงง

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
นี่คือผลจากการกระทำและคำพูดในวันนั้นนะพิธาน
พระพายถ้าอยู่โดยไม่มีพิธานแล้วไม่มีความสุขก็ลองให้โอกาสตัวเองอีกครั้งนะ
***น้อยครั้งนะที่คนเราพอแยกกันแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เราเชื่อว่าทั้งสองคนจะมีความสุขอีกครั้งแน่นอน  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้ำตาจะไหลเลย มาอัพแย้ววววว :sad4:

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 o22  เราน่าจะขาดใจตายก่อนพิธาน   :ling2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปวดตับแบบต่อเนื่องต่อไป  :katai1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เพราะจะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิมใช่มั้ยย  ใจจะขาดแทนแล้วนะคะ :hao5:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
รอตอนจบเลยจะได้เสียน้ำตาทีเดียว  :o12:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เฮ้อ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ มาลงตามสัญญาแล้วนะคะ ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ตอนจบของนิยายเรื่องนี้ที่อยู่กับเรา(นักเขียนเอง) มายาวนานมาก ไม่คิดว่าจะกินเวลานานขนาดนี้ ทั้งที่จะเขียนเล่นแท้ ๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่านทุกคน ทั้งที่คอมเมนต์ก็ดี เข้ามาอ่านก็ดี ติดตามถามไถ่กันมาเสมอ ขอบคุณที่อยู่กันมาจนถึงตรงนี้ค่ะ ขอบคุณที่ส่งพิธานและพระพายมาถึงฝั่ง เฝ้าติดตามพวกเขาทั้งสองมาโดยตลอด ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ สัปดาห์หน้าจะมาลงตอนพิเศษเป็นการอำลา ฉะนั้นอย่าเพิ่งแจ้งย้ายกระทู้ก่อนนะคะ  :katai2-1: ไว้เจอกันค่ะ  :กอด1:

+++++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 71 I love you.

So I’m gonna love you
เช่นนั้น ฉันจะรักเธอ

Like I’m gonna lose you
ให้เหมือนว่าฉันจะสูญเสียเธอไป

I’m gonna hold you
ฉันจะโอบกอดเธอไว้

Like I’m saying goodbye wherever we’re standing
ให้เหมือนว่าเราจะจากลากัน ไม่ว่าเราจะอยู่ในแห่งหนใด

I won’t take you for granted ’cause we’ll never know when
ฉันจะไม่ทำให้เธอเป็นสิ่งไร้ค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลย

When we’ll run out of time so I’m gonna love you
ว่าเมื่อไหร่เวลาจะสิ้นสุดลง เช่นนั้นฉันจะรักเธอ

Like I’m gonna lose you
ให้เหมือนว่าฉันจะสูญเสียเธอไป

I’m gonna love you like I’m gonna lose you
ฉันจะรักเธอ เหมือนว่าฉันจะเสียเธอไป


Lyrics: Like I’m gonna lose you by Meghan Trainor.





“แล้วถ้าผมบอกว่ามันจะไม่กลับไปเหมือนเดิมล่ะ”

        พระพายเอ่ยออกไป สายตานั้นจ้องมองพิธานที่นิ่งไปแล้ว นิ่งจนพระพายก็ต้องนิ่งตาม แววตานั้นประกายความหม่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะก้มหน้าลงเพราะคงรู้ตัวดีว่าได้แสดงสีหน้าที่ผิดหวังอยู่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกมา

“ฟังก่อนสิ” พระพายเอ่ยขึ้น พิธานจึงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งอย่างพร้อมที่จะรับฟังต่อ

“มันไม่มีทางเหมือนเดิมหรอก....เพราะการห่างกับคุณครั้งนี้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะ”

“รู้ว่าอะไร ๆ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในวันข้างหน้า ในขณะที่ผมกลับไม่อยากให้มันเปลี่ยน...แม้กระทั่งอยากจะเปลี่ยนใจไม่ให้โอกาสคุณอีก แต่ผมก็ยังทำมันไม่ได้เลย”

“หมายความว่า...” พิธานคิดว่าตัวเองหูฝาดจนต้องถามขึ้น

“ผมไม่อยากหลอกตัวเอง ผมยังลืมคุณไม่ได้ ยังอยากเจอ อยากอยู่ด้วยกัน ทำใจไม่ได้ที่ต้องเป็นแบบนี้ ทั้งที่ผมก็กลัวจะเจ็บอีก ผมกลัวทุกอย่าง แต่ผมก็ยังปล่อยตัวเองจากคุณไปไม่ได้”

        ความรู้สึกของพระพายกับพิธานไม่ต่างกันเลยสักนิด ต่างคนต่างยังคงต้องการอีกฝ่ายอยู่เต็มหัวใจ แม้จะมีความสับสนลังเลและความกลัวอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกนั้นเหมือนกันแทบจะไม่มีจุดต่างกันเลยสักนิด

“สามเดือนมานี้ ผมเหมือนมีอะไรขาดหายตลอดเวลา ตอนแรกก็พอจะเข้าใจว่ามันเป็นอาการเหงาที่น่าจะเพราะเพิ่งเลิกกับใครหรืออะไรสักอย่าง แต่นานวันมันไม่ทุเลาลงเลย กลับมีแต่จะมากขึ้น....ผมเอาแต่คิดถึงเรื่องคุณ ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าห้ามคิด...แต่ทำไม่ได้เลยสักที”

“จนในที่สุดผมเลือกที่จะเอาความสุขตัวเองเป็นที่ตั้ง ผมจะไม่หลอกตัวเองว่าผมยังอยากไปต่อกับคุณ”

“นาย...จะกลับมาใช่ไหม” พิธานถาม คราวนี้ความหวังเอ่อล้นไปทั้งตัว พระพายพยักหน้ารับ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ส่งมาให้

“เรา...จะกลับมาอยู่ด้วยกันใช่ไหม...นายจะอยู่ข้างฉันอีกครั้ง...ใช่ไหม”

“ใช่....”

พระพายยืนยันอีกครั้ง พิธานยิ้มออกมา เป็นยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่พระพายเคยเห็นมา ก่อนที่จะดึงพระพายมากอดไว้แน่น แน่นมากราวกับจะยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือจินตนาการที่เขาคิดไปเอง

        ความโหยหาที่พระพายมีมาโดยตลอดแทบจะทุเลาลงทันทีที่ได้กอดพิธานไว้ หัวใจเต้นแรงอย่างมีชีวิตชีวาจนเจ็บไปหมด เขารู้ดีว่าพิธานคือสิ่งเดียวที่เติมเต็มเขาที่สุดแล้วในตอนนี้ เวลานี้ ไม่อาจจะหาใครมาแทนที่ได้ พิธานคือคนเดียวที่พระพายอยากอยู่เคียงข้าง

“และอะไรที่บอกว่าจะไม่เหมือนเดิมล่ะ” พิธานถามทั้งที่ยังกอดอยู่อย่างนั้น พระพายจึงผละออกจากอ้อมกอดของพิธาน เพื่อทำความเข้าใจถึงเรื่องนี้

“การคบของเราครั้งนี้...มันจะไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว ความสัมพันธ์ของเราจะเปลี่ยนไป”

        จากที่ดีใจเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น มาถึงตอนนี้พิธานหายใจสะดุดเล็กน้อย ตั้งใจฟังในสิ่งที่พระพายกำลังจะบอกต่อจากนี้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่สามารถคาดเดามันได้เลยสักนิด

“ผมอาจจะเปลี่ยนไป คุณเองก็อาจจะเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ของเราจะไม่เป็นแบบอย่างที่ผ่านมา...เราต้องมีข้อตกลงกันใหม่”

“บอกมาสิ”

“ต่อแต่นี้ไป มีอะไรอยากให้พูดกันตรง ๆ เพราะที่เราคิดว่ารู้ดีอยู่แล้ว แต่บางครั้งเราอาจจะไม่รู้เลยสักนิด” ได้ยินเช่นนั้นก็นึกไปถึงคำพูดของตัวเองที่คิดว่าพระพายเข้าใจเขาดีถึงความรู้สึกของเขา

“ผมไม่อยากให้ทั้งคุณและผมคาดหวังกันและกันมากขนาดนั้น มันเป็นการกดดันจนเกินไป” พิธานพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

“และอีกเรื่อง....” พระพายเงียบไปครู่หนึ่ง พิธานที่ไม่แม้แต่จะขยับตัวเพื่อตั้งใจฟังในสิ่งที่พระพายจะพูดต่อจากนี้

“ความเชื่อใจและความมั่นใจของผมลดลงไปมากหลังจากที่เราทะเลาะกัน...ผมไม่รู้วิธีที่จะดึงมันกลับมาได้”

“ฉะนั้นต่อจากนี้ไป ผมอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคาดหวังเหมือนเมื่อก่อน”

        พิธานเข้าใจถึงพระพายที่ตอนนี้กำลังอธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง เมื่อก่อนการคบหาของเขากับพระพายมันเริ่มต้นแบบผิด ๆ ไม่มีความเข้าใจใด ๆ กันมาตั้งแต่ต้น แต่ระหว่างที่คบหากันต่างหากที่ค่อย ๆ ถักทอหล่อหลอมความรู้สึกของพวกเขาไว้ด้วยกัน เป็นความผูกพันและลึกซึ้งขึ้นมาอย่างไม่คิดว่าจะมีอิทธิพลได้มากขนาดนี้

        นั่นหมายความว่าเรื่องในครั้งนั้นได้ทำลายความรู้สึกของพระพายไปเยอะ นี่คือสิ่งที่ไม่อาจจะกลับมาดั่งเดิม ความรู้สึกที่เสียไปย่อมเรียกกลับคืนมาไม่ได้ พิธานเองก็ต้องยอมรับเรื่องนี้ให้ได้

“นายจะบอกว่า นายอาจจะไม่ใช่พระพายคนเดิม...ถูกต้องไหม” พิธานหาข้อสรุปให้

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมเองก็บอกไม่ได้ แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันจะไม่เหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมา..ผมอาจจะไม่ใช่แฟนที่คุณคาดหวังไว้อีกต่อไปก็ได้”

“นายคิดว่านายเปลี่ยนแค่คนเดียวเหรอ” พิธานถามขึ้นมาบ้าง พระพายเอียงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

“ช่วงที่ไม่เจอกัน ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ฉันเริ่มมองว่าทุกอย่างไม่ได้หมุนรอบตัวฉัน ความลำพองใจของฉันมันเป็นปัญหา จนตอนเมื่อเสียนายไป ฉันพบว่ามันยิ่งเป็นปัญหามากกว่าเดิม เพราะความเอาแต่ได้ของฉันเอง”

“ฉันบอกกับตัวเองทุกวัน หากฉันมีโอกาสอีกสักครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ให้มันเป็นเหมือนครั้งก่อน ฉันจะรักษาความเป็นตัวเองที่ดีไว้ อะไรที่คิดว่าไม่ดีฉันจะลดทอนมันลง ฉันต้องกอบกู้ความรู้สึกของนายที่ฉันทำมันพังลงไป”

“หากนายบอกว่านายเริ่มไม่มั่นใจในตัวฉัน ฉันก็จะทำทุกอย่างให้นายกลับมาเชื่อใจฉันแม้จะแค่นิดหน่อยก็ถือว่าพอแล้ว นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้ไป”

“เรื่องแฟนที่ดีหรือไม่ดีนั้น ฉันไม่อยากให้นายคิดมากกับเรื่องพวกนั้น แค่นายเป็นนาย...นายที่ยังอยากอยู่เคียงข้างฉัน หันไปทุกครั้งยังเจอนายอยู่ตรงนี้เสมอ...เท่านั้นมันก็ดีมากพอแล้ว”

        ไม่รู้ว่าคำพูดพวกนี้มันจะเป็นจริงอย่างที่พิธานบอกหรือไม่ แต่พระพายกลับรู้สึกว่าคือคือคำสัญญาที่พิธานตั้งใจมีให้กับเขา ความรู้สึกที่ส่งผ่าน ทางสายตา สัมผัส ทุกอย่าง บ่งบอกว่าพิธานตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริง ๆ

“ครั้งนี้...มันจะดีกว่าครั้งที่แล้วใช่ไหม”

“ไม่รู้เหมือนกัน...แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุด” ไม่อาจจะรับปากได้ อนาคตไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“แล้วถ้าหาก....วันใดวันหนึ่ง เราจะต้องแยกจากกันล่ะ” พระพายถามขึ้นมา เป็นอนาคตที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น

“ฉันไม่รู้หรอก มันเป็นอนาคต แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำคือฉันจะรักนาย อยู่กับนาย ทำให้ทุกวันเหมือนเป็นวันสุดท้ายที่เราจะรักกัน เพราะหากเราจบกันจริง ๆ ฉันจะไม่เสียใจเพราะฉันได้รักนาย ดูแลนายอย่างดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำแล้ว มันคุ้มค่าและจะไม่เสียดายอีกต่อไป” พระพายยิ้มออกมา ความรู้สึกวางใจนี้ทำให้เขารู้ดีว่าเขาเองก็ต้องพยายามในส่วนของตัวเองเช่นกัน

“ผมเอง...ก็จะพยายามไปกับคุณนะ”

        ทั้งสองยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่ต่างคนต่างเข้าใจดีว่าต่อจากนี้ไปจะมีเรื่องราวอีกมากมายที่อาจจะเข้ามา มันไม่ใช่จุดจบแต่มันเพิ่งเริ่มต้นอย่างแท้จริงต่างหาก พิธานดึงพระพายที่นั่งบนสตูลอยู่ด้วยกันให้ขึ้นไปบนเตียงก่อนที่จะกอดไว้พร้อมล้มตัวเองและกอดพระพายให้ล้มลงนอนด้วยกัน

“เดี๋ยว!!” พระพายร้องขึ้นมาเพราะไม่ทันตั้งตัว หน้าซุกกับแผ่นอกของพิธานเพราะแรงกอดของอีกฝ่าย

“ไม่ทำอะไร....แค่อยากนอนกอด” ได้ยินแบบนั้นก็พอเข้าใจ แต่ใจหนึ่งก็ผิดหวังไปสักนิด คิดว่าพิธานจะทำอะไรแบบนั้นเสียอีก

“ผิดหวังเหรอ” พิธานถามขึ้นมา

“อะไร..”

“คิดว่านายผิดหวังเพราะอยากทำอะไรมากกว่านี้” พระพายอมยิ้มนิด ๆ แต่แน่นอนว่าพิธานไม่เห็น

“กับเรื่องแบบนี้ทำไมคุณรู้ทันผมตลอดล่ะ”

“ลืมไปแล้วเหรอ ฉันเป็นคนทำให้นายเป็นแบบนั้นเอง”

“ผมคงเป็นแบบที่คุณต้องการมากไปหน่อย”

“แบบนั้นแหละดีแล้ว แต่ตอนนี้ฉันคิดถึงนายมาก อยากกอดเอาไว้แบบนี้อีกสักพัก”

ไม่ใช่แค่พิธานที่เป็นแบบนั้น พระพายเองตอนนี้ก็ฝังหน้าลงบนแผ่นอกพิธานเสียแนบชิด...คิดถึงความรู้สึกนี้ไม่ต่างกันเลย

“รู้ไหม ตั้งแต่นายออกจากห้อง ฉันนอนหลับไม่สนิทเลยสักคืน”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” เสียงอู้อี้ถามออกมา พิธานยิ้มออกมานิด ๆ เพราะรับรู้ถึงการสูดลมหายใจเข้าออกของพระพายจนรู้สึกอุ่น

“ใช่...ทุกคืนนี้ชอบตื่นมากลางดึก ลืมตามาแล้วไม่เจอนายนอนข้าง ๆ เจ็บจนนอนต่อไม่ได้เลย”

“ขอโทษนะ” พระพายถอยใบหน้าออกมาเล็กน้อย รู้สึกว่านี่เป็นความผิดของเขาอย่างช่วยไม่ได้

“ขอโทษทำไม ฉันสิคนต้นเรื่องทั้งหมด” พูดไปพลางกอดพระพายไว้อยู่อย่างนั้น

“ผมคิดว่าคุณจะยอมแพ้แล้วเสียอีก” พระพายบอกจากใจจริง

“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”

“ผมคิดว่าคุณจะไม่ยอมตอนที่เจอกันที่บ้านพี่กล้วย..เอาจริง ๆ ผมแอบหวังว่าคุณจะโวยวายและลากผมกลับ ใช้กำลังบังคับผมด้วยความเกรี้ยวกราด” ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากพิธาน หัวเราะเสียงแผ่ว แต่ไหล่สั่นจนรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวคงกำลังตลกมากกับสิ่งที่ได้ยิน

“ชอบแบบนั้นก็ไม่บอก นั่นมันทางของฉันเลยนะ”

“แล้วทำไมไม่ทำล่ะ” พระพายดันตัวเองออกมาเพื่อจะมองใบหน้าของพิธาน

“เคยบอกไม่ใช่เหรอ ไม่อยากบังคับนายอีกแล้ว..ฉันไม่อยากทำให้นายรู้สึกว่าฉันทำร้ายนายมากไปกว่านี้แล้ว”

“ผมเลยเข้าใจไปอีกแบบว่าคุณไม่ต้องการผมอีกแล้ว คุณคงมีคนใหม่มาแทนที่ผมแล้ว” นึกถึงตอนที่ตัวเองคิดแบบนั้นแล้วเจ็บปวด หากเป็นอย่างนั้นจริงพระพายคงช้ำในตายก็ได้

“ระหว่างรอนี่ทรมานมาก เลยยิ่งเข้าใจตัวเองว่าฉันรักนายมากขนาดไหน รัก.....รักจนนึกไม่ออกว่าถ้านายจากฉันไปฉันจะอยู่ได้ยังไง”

        ความรู้สึกที่เหมือนกันเสียหมดนี้ มันยืนยันกับพระพายได้ว่าเขาคิดไม่ผิดที่ให้โอกาสตัวเองและพิธานอีกครั้ง คำว่ารักที่ได้ยินแล้วนุ่มฟูทั้งอก รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งกาย จนแสบจมูกเหมือนน้ำตาทำท่าจะไหลเพราะความดีใจนี้ พระพายสุดจมูกฟุดฟิดเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

“อย่าร้องไห้” พิธานรีบห้ามขึ้นมาทันที ดวงตาฉ่ำวาวนั้นเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมารอมร่อ

“ทำไมล่ะ” พระพายถามทันที ปากเบะนิด ๆ เพราะพยายามกลั้นน้ำตา

“เวลานายร้องไห้กับอะไรแบบนี้ฉันทำตัวไม่ถูก”

“ยังไงล่ะ จะบอกว่าใจคอไม่ดีเวลาผมร้องไห้เหรอ”

“คงจะใช่...วันนั้นที่นายร้องไห้ ฉันเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ทั้งที่ตอนฉันฟาดฉันตีจนช้ำเลือด น้ำตาไม่เคยไหลแท้ ๆ”

“ตกใจเหรอ”

“อืม ถ้าร้องแบบนั้นไม่เอาแล้ว”

“แต่นี่ไม่ใช่แบบนั้นนะ...เพราะผมดีใจต่างหาก”

“กลายเป็นคนขี้แยไปแล้วเหรอ” พิธานล้อเลียนทางสายตา พระพายจึงรีบกลืนมันลงทันที

“พอเลย ไม่ร้องแล้ว” พระพายว่าพลางค้อนไปวงใหญ่

“อย่าร้องเลย..ฉันไม่ชินกับมัน แต่ถ้าร้องตอนทำเรื่องนั้นค่อยว่ากันอีกที” ได้ยินเช่นนั้นถึงกับต้องหัวเราะออกมา

“ว่าแต่ผม..คุณเองก็คิดเถอะ”

“คิดทุกอย่างที่เป็นนาย ตอนหลับ ตอนตื่น กินกาแฟ กินข้าว ยันไปถึงตอนล่ามโซ่นาย” พระพายอมยิ้มจนแก้มพอง

“มากจัง...ผมก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน”

“และแบบเดียวกันไหม” พิธานถามพลางยิ้มกริ่ม

“เหมือนกันเด๊ะ”

“เราเหมือนกันจนน่าตกใจ” พิธานว่า

“เราคงเหมาะสมกันละมั้ง” พระพายว่าพลางยิ้มจนตาหยี

“เหมาะกว่านี้ไม่มีแล้วล่ะ”

        พิธานยิ้มให้พระพาย เป็นยิ้มสว่างจ้ามากสำหรับพระพาย สายตาที่มองกันนั้นต่างสะท้อนใบหน้าซึ่งกันและกัน ราวกับมีแรงดึงดูดประหนึ่งแม่เหล็กต่างขั้ว พิธานเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากของพระพายแผ่วเบา....ความรู้สึกคิดถึงจับใจแผ่ซ่านไปทั้งอก รอยจูบที่ห่างหายมานานกว่าเกือบสี่เดือน นับตั้งแต่พระพายออกจากห้องไปจนถึงตอนนี้

        จูบที่ไม่ได้รุกล้ำใด ๆ เป็นจูบละมุนนุ่มนวลที่พระพายได้แต่หลับตาพริ้ม ซึมซับมันจนใจเต้นรัว ดีใจจนไม่รู้จะต้องทำอย่างไรที่ได้มาอยู่ในอ้อมกอดของพิธานอีกครั้งหนึ่ง พิธานพร่ำจูบจนพระพายต้องเม้มปาก

“จะจูบแบบนี้อีกนานไหม” พระพายว่า

“อยากได้จูบแบบไหนล่ะ” พิธานถาม

“อ่า...คุณก็รู้นี่”

“ไม่ใช่ตอนนี้...ตอนนี้มันเวลาหวานแหววต่างหาก”

“มีกับเขาด้วยเหรอ” ได้ยินแบบนั้นแล้วก็ต้องขำ

“มีสิ..ให้นายใจเต้นเป็นสาวน้อยบ้าง”

        พระพายหัวเราะตัวโยนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองคนนอนเล่นกัน พูดคุยกัน มีแกล้งกันไปมาบ้างอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวเลยสักนิด เพราะเวลานี้พิธานคิดถึงเสียงหัวเราะและมุกตลกของพระพาย อีกทั้งอยากมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่เขาแสนจะโหยหามาตลอด

“อ่อ..มีอะไรจะบอก...” พระพายพูดขึ้น

“หืม” พิธานก้มลงมองพระพายที่อมยิ้ม

“ผมรักคุณนะ”

        พิธานตาค้างไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเหมือนเห็นริ้วแดง ๆ แถวติ่งหู...พิธานเขินกับคำว่ารักของพระพายจนเก็บอาการไม่ทันและพระพายก็ได้เห็นมันเต็ม ๆ แต่จะไม่ล้ออย่างเด็ดขาด เพราะเอ็นดูพิธานที่ตอนนี้คงดีใจกับคำนี้อยู่

“ไม่คิดว่าจะได้ยินจริง ๆ” พิธานยิ้มออกมา

“ผมเองก็ไม่เคยพูดให้ได้ยิน มีแค่ข้อความบนกระดาษแถมตอนนั้นมันบรรยากาศหดหู่ไป”

“ขอบคุณจริง ๆ” พิธานว่าก่อนที่จะก้มลงจูบหน้าผากพระพายหนัก ๆ

        พระพายหัวเราะออกมานิด ๆ ก่อนที่จะกดตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของพิธานซุกใบหน้าฝังบนอกของพิธาน เพื่อกลบความอายของตัวเองที่พูดคำนั้นออกมา ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ทั้งสองคนจะไปได้ไกลสักแค่ไหน แต่อย่างที่พิธานพูดเอาไว้ การทำทุกวันให้เหมือนวันสุดท้าย รักกัน ดูแลกัน ใส่ใจให้แก่กัน ทำตามหัวใจคือการอยู่เคียงข้างกันและกัน ใช้เวลาให้กันและกันอย่างเต็มที่ หากวันใดวันหนึ่งจะต้องแยกจากกัน จะไม่มีวันเสียใจและเสียดายในสิ่งที่ผ่านมา เพราะการอยู่ด้วยกันในตอนนั้นมันเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ซึ่งคงต้องปล่อยให้มันเป็นโชคชะตาหรืออะไรก็แล้วแต่บันดาลไปในวันข้างหน้า

             แต่ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมั่นได้มากที่สุด คือทั้งสองเป็นของกันและกัน คู่เสมือนที่ต่างเติมเต็มให้กันและกัน ไม่อาจจะมีใครที่เหมาะสมซึ่งกันและกันได้มากไปกว่านี้แล้ว จากนี้ไปเชื่อมั่นว่าทั้งคู่จะมีความเข้าใจและมีความสุขกับรักที่เริ่มใหม่ในแบบฉบับของพวกเขาเอง...



-The end-



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nolnalnew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew5:ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้นะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
จบอย่างหวานๆซึ้งๆทะลึ่งๆอบอุ่นๆ มันดีต่อใจจริงๆ กลับมาคบกันอีกคราวนี้คงนิรันดร์ เพราะเขาดูรักกันมากจริงๆ และก็เป็นคู่ที่เคมีกันอย่างที่พิธานบอก 555 สนุกกมากกกกเรื่องนี้ ชอบมากๆ ถ้ายังไงก็แอบขอตอนพิเศษด้วยนะคะ 55555 คงคิดถึงเรื่องนี้มากอ่ะ กลับมาอ่านอีกรอบแน่นอน ขอบคุณนะคะที่แต่งและมาต่อจนจบ แต่งเก่งจริงๆค่ะ มีทุกอารมณ์ ทุกโหมด รอตามผลงานเรื่องต่อไปค่ะ :)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ยาวนานมากจริงๆสำหรับพิธานและพระพาย
เป็นเรื่องที่ติดตาม และลุ้นทุกอาทิตย์ว่าจะใาอัพมั๊ยน้า จนเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ไปเลย 5555555
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะคะ จากตอนแรกที่เข้ามาหวังเสพความความหืดหาดโดยเฉพาะก็กลายเป็นชอบบทชอบตัวละคร ชอบอารมณ์ของเรื่องไปโดยปริยาย 5555

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จบแล้ว ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หูยยยย โซ่แส้กุญแจมือมาทั้งเรื่องจบกันด้วยรถน้ำตาลคว่ำฉบับปับปี้เลิฟซะงั้น 55555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
หวานๆ :-[ :-[

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
คู่กัน ตัดกันไม่ขาดเนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด