#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 240307 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ยังคงหน่วงต่อไป

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฟิฟตี้เฉดออฟเกรย์ภาคพระพายงี้เหรอ

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ได้บทเรียนความรักกันทั้งคู่เลยย  กลับมาจับมือแล้วก้าวข้ามปัญหาไปด้วยกันเถอะนะเหมาะสมกันขนาดนี้แล้ว :hao5:

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ค้างอ่ะจบดื้อๆเลย

ออฟไลน์ minicabbage

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หน่วงอีกแล้ว รอเขาคืนดีกัน :katai1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :call: :call: :call: พระพายจงมา  o18 o18 o18

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ  :o8: มาช้ามากๆ ต้องขออภัยนะคะ ช่วงที่ตั้งใจจะอัพบอร์ดกลับมีปัญหาขึ้นมา เลยปล่อยไปและก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องอัพ โชคดีที่บอร์ดกลับมาใช้ได้แล้ว ขอบคุณแอดมินทุกท่านที่ช่วยดูแลพื้นที่ให้เราเสมอมานะคะ

ตอนนี้ตอนที่ 68 หากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดใดๆ ก็ขออภัยด้วยนะคะ อีก 3 ตอนก็จะจบลงแล้วค่ะ เศร้าเหมือนกัน แต่งานเลี้ยงย่อมมีการเลิกราและเราตั้งใจจะลงตอนพิเศษให้หลังจากที่ลงจบค่ะ ขอบคุณมากจริงๆที่ยังติดตามกัน ทั้งที่เราเองก็ไม่ค่อยมีวินัยที่ดีในการอัพแต่ก็ยังไม่ทิ้งไปไหน ขอบคุณจากใจค่ะ  :กอด1: ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ  :bye2:

++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 68 Into the new chapter.

This is not a, this is not a swan, swan song
นี่ไม่ใช่ ไม่ใช่บทเพลงอำลา

This is not a, this is not a swan, swan song
นี่ไม่ใช่ ไม่ใช่บทเพลงอำลา

We just gotta, we just gotta hold on tonight
พวกเราแค่ต้องอดทนให้ผ่านพ้นไปในคำคืนนี้

This is not a, this is not a swan song, swan song, swan dive
นี่ไม่ใช่บทเพลงอำลา ไม่ใช่การด่ำดิ่งลงเหว

Yeah, it’s a new life
ใช่ นี่คือชีวิตบทใหม่




“ผมจะไม่กลับไป...”    

        คำตอบนั้นทำพิธานหูดับไปชั่วขณะ รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว พยายามจ้องมองพระพายด้วยสายตาที่เหมือนจะเบลอไปสักหน่อย เขามองพระพายเริ่มไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก

“พระพาย....”

             พิธานเอ่ยชื่อนั้นออกมา อ้าปากจะพูดต่อก็ไม่ออก ใบหน้านั้นราวกับตั้งสติไม่ทัน ด้านพระพายนั้นปวดหนึบในอกที่เห็นพิธานดูจะตกใจและเหมือนสติหลุดไปกับพูดของเขา เขารู้ดีถึงความทรมานนี้และเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พิธานเป็นแบบนี้

“ผมยังไม่พร้อมในตอนนี้ ผมเลยไม่อยากกลับไป” พระพายบอกถึงเหตุผลที่ตัดสินใจไปแบบนั้น พิธานดูเหมือนจะประมวลผลอยู่ครู่หนึ่งถึงจะเริ่มเข้าใจว่าหมายถึงอะไร

“ไม่พร้อม...แค่ตอนนี้ใช่ไหม” ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจนักว่าที่เข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่

“ไม่รู้ว่าแค่ตอนนี้หรือตลอดไป ผมไม่รู้” พระพายก้มหน้าลง

“หมายความว่า...นายยังให้โอกาสฉันอีกสักครั้งใช่ไหม” พิธานถามย้ำถึงความเข้าใจของตัวเอง

“ไม่รู้ ผมคงให้คำตอบไม่ได้” พระพายยังคงตอบเช่นเดิม

“พระพาย...นายไม่ได้รักฉันแล้วเหรอ” พิธานถามออกมา

            พระพายชะงักทันที ก็เพราะรักอยู่จึงเป็นเช่นนี้ หากไม่รักเขาจะไม่มานั่งฟังและเปิดโอกาสให้พิธานมานั่งอยู่ตรงนี้หรอก...แต่ก็ไม่คิดจะบอกให้พิธานรู้ เวลานี้ นาทีนี้พระพายยอมรับว่าใจอ่อนลงมากทั้งที่จะตั้งใจตัดทุกอย่างให้จบแต่เพราะอะไรบางอย่างที่พระพายไม่อยากลับไป เขาต้องการความเข้มแข็งมากกว่านี้

“รู้ไหมว่าที่คุณทำกับผม มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องไม่น่าเจ็บปวดสำหรับคนอื่น แต่สำหรับผมมันไม่ใช่”

“ผมเจ็บ ผมอ่อนแอกว่าที่ตัวเองคิดไว้ และนั่นทำให้ผมไม่แน่ใจว่าหากเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วผมจะก้าวเดินต่อไปได้หรือเปล่า”

“ถ้าถามหาโอกาส....ผมจะให้โอกาสคุณ ไปทบทวนสิ่งที่คุณขออีกครั้ง ว่าคุณอยากมีผมจริง ๆอย่างที่บอกรึเปล่า” ประโยคนี้ดั่งเป็นน้ำที่รดลงบนต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวให้ชุ่มชื้นขึ้น

“และผมขอโอกาสที่จะทบทวนตัวเองอีกทีเช่นกัน เพราะผมเริ่มไม่แน่ใจในอะไรหลายอย่าง ในระหว่างนี้ผมขอให้เราอย่าเจอกัน”

            แต่แล้วก็น้ำที่รดลงมาก็หยุดชะงัก พิธานก้มหน้าลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น มันเป็นความหน่วงที่บรรยายไม่ถูก เหมือนจะได้รับโอกาสแต่ก็ถูกลิดรอนเอาความหวังที่คิดว่าจะมีออกไปเยอะจนเหลือน้อยนิดเช่นกัน

“ต้องห่างกัน...อีกนานแค่ไหน” พิธานถามถึงระยะเวลา

“จนกว่าเราทั้งคู่มีคำตอบ”

“ไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจนเลยเหรอ” จะอีกกี่ปีกี่เดือนกันที่ต้องห่างกันเช่นนี้

“มันจะมีวันหนึ่งที่จะดึงคุณกับผมเข้าหากันเอง...ถ้าตอนนั้นเรายังเป็นของกันและกันจริง ๆ” ฟังดูกำกวมและไม่แน่ชัด อย่างไรพิธานก็ต้องยอมรับในจุดนี้แต่เรื่องไม่เจอหน้ากันนี่ยากเกินไป

“ถ้านายต้องการอย่างนั้นฉันก็จะยอม แต่อย่างน้อยให้ฉันได้เจอนายสักหน่อยไม่ได้เหรอ” พิธานว่า หากเขาจะต้องไม่เห็นหน้าพระพายอีกครั้ง คงจะทนไม่ไหวอีกแล้ว

“เรากลับไปสู่จุดเริ่มต้นมันน่าจะดีกว่านะ” พระพายว่า นี่คือสิ่งเดียวที่พระพายคิดว่าเหมาะสมที่สุด ต่างคนต่างกลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน

 “แบบนี้มัน....”

“ใช่ นี่คือการห่างกันสักพักอย่างที่คุณขอ”   

            มันคือคำขอของพิธานก่อนหน้านั้น นี่คือสิ่งที่พิธานขอเช่นกัน พระพายจึงให้ตามคำขอ รู้ดีว่าพิธานพยายามจะบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดมันออกมาแต่สำหรับพระพาย การที่พิธานพูดออกมาเช่นนั้นแปลว่าเขาเองก็คิดมันอยู่ไม่มากก็น้อย ถึงได้พูดมันออกมา

             นี่จะเป็นการพิสูจน์ตัวเองของพิธานว่าต่อจากนี้ไปหากไม่มีเขาอยู่ข้างกายอีกแล้ว พิธานจะยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า หากไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างเช่นแรกคบพิธานยังอยากจะต้องการเขาอยู่อีกหรือไม่และตัวพระพายเองก็ต้องมาถามตัวเองใหม่เช่นกัน ว่าหากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพิธาน เขาจะยังรักพิธานอยู่หรือเปล่า นี่คือการเดิมพันของทั้งสองคน

             พิธานที่ได้ยินแบบนั้น ความเด็ดขาดและแน่วแน่ทำให้พิธานไม่กล้าที่จะขอร้องอะไรอีก ความหวังเหมือนจะริบหรี่แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลยสักนิด ตอนนี้หากเปอร์เซ็นต์มีแค่หนึ่งมันก็ยังมีความหวังอยู่ดีสำหรับพิธาน มันคือสิ่งที่สมควรจะได้รับแล้วในตอนนี้

              ต่างคนต่างเข้าใจในความต้องการของแต่ละฝ่าย พระพายต้องการถามตัวเองและพิธานเองก็ต้องถามตัวเองในสิ่งที่ร้องขอไปเช่นกัน แต่การที่จะไม่ได้เจอหน้าพระพายนี่เป็นสิ่งเดียวที่พิธานหนักใจ....เขาไม่อยากที่จะไม่เห็นพระพายอีก แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจตามความต้องการของพระพาย

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่ให้นายเห็นหน้าฉันอีก ตามที่นายขอ จนกว่าจะถึงวันที่เราจัดการกับความรู้สึกได้” พิธานยอมรับและยอมจำนนกับข้อเสนอเหล่านั้น

“ขอบคุณ”

            พระพายลุกขึ้น เซนิดหน่อยแต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้ พิธานรีบลุกเพราะกลัวพระพายจะล้มลงไป อยากจะเข้าไปจับแต่ก็ต้องชะงัก พระพายนั้นเหมือนจะถอยหลบแต่ลึก ๆ แล้วแค่ไม่อยากให้ใกล้ชิดกันกว่านี้เพราะกลัวใจตัวเองเหมือนกัน

“นี่มือถือนาย...ฉันชาร์จแบตเตอรี่ให้แล้ว” พิธานดึงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางแกงแล้วยื่นให้ พระพายรับมันไว้เพราะนี่คือสิ่งจำเป็นที่พระพายไม่ได้แตะมาหลายวันแล้ว

            พิธานเดินตามพระพายออกไปยังวงเหล้า ทุกคนต่างนั่งกันตัวเกร็งเพราะก็แอบลุ้นว่าทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร พี่กล้วยเจ้าของบ้านใช้ความกล้าหาญแหวกทะลุปล้องถามด้วยความรวดเร็ว

“เป็นไง” ถามสั้น ๆ ได้ใจความ

“ผมจะกลับแล้ว โทษทีที่รบกวน” พิธานบอกเช่นนั้นก่อนจะหันไปมองพระพายที่นั่งลงแล้วยกแก้วดื่มด้วยความรวดเร็วโดยไม่คิดจะมองพิธานอีก

“ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าทำให้พี่เขาเป็นห่วง” พิธานพูดเท่านั้นก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้าน เมื่อพิธานออกไปแล้วพระพายจึงวางแก้วลง

“น้องพาย....ไหวไหม” พี่อีกคนถามขึ้น พระพายก้มหน้าลง พยายามอดกลั้นตัวเองไว้หลังจากที่เจอพิธานและตอนนี้เจ้าตัวก็ทำตามที่เขาขอไว้แล้วคือการจะไม่เจอหน้ากันอีก

        ต่อจากนี้ไปพระพายจะต้องกลับเข้าสู่ชีวิตปกติ ทำงาน อยู่กับเพื่อนฝูงและถึงเวลาที่ต้องกลับห้องของตัวเองเนื่องจากตอนนี้เขาพักอยู่กับอัทธ์และเลขาปอตามที่เพลงขวัญขอ แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว กลับเข้าสู่วงจรชีวิตเมื่อก่อน ตอนก่อนที่จะเจอพิธาน

        พิธานที่เดินออกมาจากบ้านของพี่กล้วย ย่างก้าวนั้นออกจะเชื่องช้าไปสักหน่อยจนมาถึงหน้ารั้วบ้าน หันหลังมองกลับเข้าไปอีกครั้งพลางถอนหายใจ นี่คือสิ่งที่เขาทำดีที่สุดแล้วอย่างนั้นหรือ

        ไคที่นั่งรออยู่ในรถเมื่อเห็นพิธานเดินออกมาด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ค่อยออก เหมือนจะเศร้าก็ไม่เหมือนจะดีใจก็ไม่ใช่อยู่ดี พิธานเดินขึ้นมาบนรถนั่งลงและปิดประตูก่อนที่จะพิงเบาะพลางถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“โอเคไหม”

             ไคถามทันที อย่างน้อยก็อยากรู้สถานการณ์ต่อไปนี้ว่าจะเป็นอย่างไร อีกทั้งต้องไปรับมือกับเก้า แฟนของเขาที่ขู่ฆ่าเขาทุกวันเนื่องด้วยตามหาตัวพระพายไม่เจอ เก้ายังคงโมโหในทุก ๆ เรื่องมาทุกวันและพาลเขาทำตัวลำบากไปด้วย

“เราต้องห่างกันสักพัก เขาอขแบบนั้น”

“อย่างนั้นเหรอ”

“ห้ามเจอหน้ากันจนกว่าจะแน่ใจว่าต้องการจะคบกันต่อไปจริง ๆ” พิธานบอกตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม

“ห้ามเจอหน้าเลยเหรอและอีกนานแค่ไหนกันล่ะ”

             แค่ฟังก็สงสารพิธานแล้ว นี่คงจะยอมจนไม่รู้จะยอมยังไงแล้ว เป็นพิธานที่ทำได้ทุกอย่างเพียงเพื่อขอให้พระพายกลับมาจริง ๆ ถอดเขี้ยวเล็บออกแบบทันควันและไม่ลังเลเลยสักนิด

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“จะไหวเหรอ”

“ไม่ไหวก็ต้องไหว”

“กลับไปตั้งหลักกันก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

        ไคขับรถกลับไปยังคอนโด โดยที่พิธานไม่พูดอะไรเอาแต่เงียบและหลับตาลง ไม่รู้ว่าหลับไปหรือแค่พักสายตา ไคใช้เวลาในการขับไม่นานนักก็มาถึง วันนี้เก้าออกไปสังสรรค์กับคนในออฟฟิศทั้งสองจึงไม่ได้เจอกันในวันเสาร์อาทิตย์นี้ ไคจึงตั้งใจว่าจะอยู่กับพิธานในวันสองวันนี้เพื่อดูท่าทีว่าเพื่อนของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

         เมื่อมาถึงทั้งสองก็ขึ้นไปห้อง พิธานดูนิ่งไปและเหมือนจะคิดอะไรอยู่สักอย่างเพราะเหม่อลอยมาตลอดตั้งแต่ขึ้นลิฟต์จนเดินมาถึงห้อง

“จะทำอะไรต่อ” ไคถาม ทั้งสองต่างมาหยุดอยู่หน้าห้อง

“ไม่รู้เหมือนกัน คิดไม่ออก”

“ไม่ได้หมายถึงเรื่องพระพาย หมายถึงตอนนี้จะทำอะไร นอนหรือยังไง”

“ยังไม่อยากนอน”

“ถ้าอย่างนั้นกินเบียร์กันหน่อยไหม” พิธานหันมองหน้าไคก่อนที่จะพยักหน้านิด ๆ อย่างเห็นด้วย

“เดี๋ยวลงไปซื้อ สิบนาทีเดี๋ยวมา”

        ไคลงไปยังร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ใกล้คอนโดแค่เดินก็ไปถึง พิธานจึงเดินเข้าไปในห้อง เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเพื่อให้สดชื่นกว่านี้สักหน่อยและนั่งรอไคกลับมาจากซื้อเบียร์

         ไคไปนานกว่าสิบนาทีที่บอก เสียงออดดังขึ้นหลังจากผ่านไปสิบห้านาทีแล้ว พิธานเปิดประตูพบว่าไคหิ้วถุงมาเต็มสองมือเลยทีเดียว

“ช้าไปหน่อย โทษที”

“อะไรเยอะแยะ” พิธานว่าพลางดึงถุงมาช่วยหิ้ว

“เลือกไม่ถูก เลยหยิบมั่วเอา”

             เบียร์ที่หยิบมาเยอะหลายกระป๋องพร้อมหลากยี่ห้ออีกทั้งขนมขบเคี้ยวหลายชนิด ไคนำเบียร์ส่วนหนึ่งไปแช่จากนั้นทั้งสองก็นั่งลงตรงโซฟานั่งเล่น เปิดภาพยนตร์จากช่องสตรีมต่างประเทศชื่อดัง เปิดเพื่อไม่ให้เงียบเหงาจนเกินไป

             พิธานดื่มเบียร์ด้วยความล่องลอย ไคเชื่อว่ายังคงตั้งสติในเรื่องของพระพายไม่ได้อย่างแน่นอน พิธานที่ดูอ่อนแอแบบนี้ ทำเอาวางตัวลำบากเหมือนกัน ถ้าท่าทีโหดร้ายเมินเฉยแบบแต่ก่อนนั้นยังจะรับมือง่ายเสียกว่าสำหรับไค

“ไหวใช่ไหมพิธาน” ไคเปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง พิธานเงียบไป

“บอกไม่ถูก ไม่เคยตกอยู่ในสภาพนี้มาก่อน” ไม่ใช่แค่ตัวไคที่รับมือไม่ได้ ตัวพิธานเองก็เช่นกันที่ไม่อาจจะจัดการความรู้สึกของตัวเองที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ได้

“จะบังคับก็ไม่ได้” ไคว่าพลางดื่มเบียร์เข้าไปอึกใหญ่

“ถ้าทำได้ก็คงจะดี แต่ถ้าทำไปเขาก็จะหายไปอีก ครั้งนี้จะตามหายากกว่าเดิม”

“ยอมถึงขนาดนี้เลยนะ” ไคเหล่มองพิธาน

“ไม่คิดเหมือนกันว่าจะยอมได้จนถึงขนาดนี้” พิธานเองยังไม่คาดคิดว่ามาวันนี้ วันที่เขาทุ่มเททุกอย่างให้กับความรักที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเขา

“พอเห็นเป็นแบบนี้เพื่อนฉันก็ดูเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง” พิธานหันมอง

“สงสัยใช่ไหม ทำไมถึงพูดแบบนี้”

“เพราะที่ผ่านมาพิธานเหมือนยืนอยู่เหนือห่วงโซ่อาหารที่จะไม่มีทางพลาดท่าอะไรได้ง่าย ๆ  ดูเหนือคนอื่นจนหลงคิดว่านายจะเป็นแค่ผู้ล่าเท่านั้น” พิธานที่ได้ยินจึงหัวเราะหึขึ้นมาทันที

“แต่พอมาวันนี้ ก็มีวันที่นายพลาดท่าตกหลุมที่เรียกว่าความรักเหมือนคนอื่นเขา เลยได้เห็นว่าพิธานก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง” ไคว่าพลางยกเบียร์ดื่ม

“อย่าเรียกว่าพลาดท่าเลย เรื่องพระพายคือความตั้งใจแต่แค่มาไกลกว่าที่คิดไว้มาก”

“แล้วนี่บอกความรู้สึกจริง ๆ กับเขาหรือยัง”

        สิ่งหนึ่งที่พิธานไม่ได้บอกไปเลยคือความรู้สึกที่เขามีต่อพระพาย ตอนแรกก็ตั้งใจจะบอกก่อนจะหันหลังออกมา แต่ใจหนึ่งกลับคิดว่าหากบอกออกไปคงจะสร้างความลำบากใจให้พระพาย เพราะไม่อาจจะรู้ได้ว่าตอนนี้พระพายรู้สึกอย่างไรกันแน่ เหมือนจะอ่านออกแต่ก็ดูไม่ออกเสียทีเดียว แววตาว่างเปล่าที่เจือความสั่นไหวอยู่ นั่นจึงทำให้พิธานตัดสินใจจะไม่พูดออกไป

“ยัง...”

“ทำไมไม่บอกไปเลยล่ะ รออะไรอยู่” สีหน้าที่ไม่เข้าใจในตัวเพื่อนแสดงออกมาอย่างชัดเจน

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ต้องมีโอกาสที่เหมาะกว่าวันนี้”

“พิธาน....ดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ” ไคที่พอจะเข้าใจถึงพิธานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ว่าเหมือนยังมีความหวังอยู่ ไม่ยอมแพ้และใจเย็นไม่หุนหันพลันแล่นอย่างที่คิดว่าจะต้องทำ

“คงเป็นเพราะพระพายไปจากฉัน เลยตาสว่างขึ้นเยอะ” ว่าพลางยกยิ้มมุมปาก เป็นการยิ้มเยาะเย้ยตัวเองที่มานึกได้เอาตอนนี้

“ยอมใจจริง ๆ...ความรักทำให้คนยอมกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ” ไคพูดพลางหยิบขนมอบกรอบเข้าปากเคี้ยวกรวบ ๆ

 “หรือว่านายไม่เป็น”

             พิธานถามขึ้น รู้สึกโล่งอกไปพอสมควรที่ได้มานั่งคุยเปิดอกกับไค อาจจะด้วยความตั้งใจของเขาถือว่าบรรลุผลไปได้ระดับหนึ่ง ตอนนี้จึงมีความผ่อนคลายลงไปสักหน่อย เขาเชื่อว่าวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปจะต้องมีความหวังมากกว่าวันนี้ การพูดคุยกับไคอย่างสบาย ๆ จึงเป็นเรื่องที่พิธานคิดว่าเหมาะสมที่สุดที่จะทำตอนนี้

“เป็นสิ” ไคตอบอย่างรวดเร็ว

“แต่ไม่ใช่ทั้งหมด” ไคหัวเราะทันทีที่ได้ยินพิธานพูดอย่างนั้น

“บางอย่างก็ไม่อยากให้รับรู้เยอะ กลัวจะวิ่งหนีไปเสียก่อน” บางครั้งหากเก้ารับรู้ความเป็นเขาเยอะก็กลัวจะหนักใจและเปลี่ยนใจไปเสียก่อน

“ยังไงก็เถอะ อย่าเป็นเหมือนฉันก็พอ แล้วจะมาเสียใจเอาทีหลัง” ได้ฟังคำเตือนจากเพื่อนสนิทไคก็มีฉุกคิดเหมือนกัน

“จะค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน” ไคว่า

“เรื่องของนายไม่ได้ทำความเข้าใจยาก แค่ต้องอธิบายให้กับคนขี้โวยวายแบบนั้นเข้าใจ นั่นคือปัญหา” ยิ่งฟังยิ่งอยากหัวเราะ พิธานดูจะเหม็นขี้หน้าเก้ามากจริง ๆ

“ถามหน่อย...ไม่ชอบเก้ามากขนาดนั้นเลยเหรอ”

             ไคใช้โอกาสที่พิธานเปิดช่องว่างนี้ถามเรื่องของเก้าทันที เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะมานั่งถามอะไรแบบนี้กับพิธานได้ พิธานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบ

“ไม่ได้เกลียดหรอก แค่เป็นประเภทที่ไม่ชอบเท่าไหร่”

“ยังไงล่ะ”

“พูดเยอะไม่ว่า แต่ไม่ชอบความน่ารำคาญแบบนั้น หัวร้อนง่ายเกินไป ดูวุ่นวาย” แหละนั่นคือความเป็นเก้าอย่างสังเขปที่ไคหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

“ลืมไป นายชอบอะไรที่ดูเรียบ ๆ แต่ไม่ธรรมดา”

            ไครู้ดีว่าทำไมตอนนั้นพิธานถึงเปิดใจให้พระพายโดยไม่ทันรู้ตัว เพราะพิธานแพ้ทางคนแบบนี้ คนที่เหมือนจะยอมแต่ไม่ยอม คงเพราะเป็นพวกซาดิสก์เลยชอบคนประเภทมาโซคิสม์ซึ่งเป็นพวกย้อนแยง ปากบอกว่าไม่แต่การกระทำสวนทาง บ้างก็บอกยอมแต่ท่าทีกับไม่ยอมอย่างที่บอก พิธานชอบนักกับคนแบบนี้ แต่อาจจะมีมากกว่าเรื่องนั้นคือพระพายเป็นคนน่ารักและมีมิติในตัวเอง

“เอาเถอะ พรุ่งนี้จะดีกว่าเดิม” ไคว่า ก่อนจะชนกระป๋องกับพิธานเป็นการให้กำลังใจ

“อืม ต้องดีกว่านี้” พิธานพูดก่อนจะยกดื่ม

        ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร แต่เชื่อว่ามันจะดีขึ้นกว่านี้หากทั้งเขาและพระพายใช้เวลาในการไตร่ตรองถามตัวเอง พิธานเชื่อมั่นว่าเขายังคงมีความหวังอย่างแน่นอน แต่คงต้องใช้เวลาในการตัดสินเท่านั้น การเจอกันและการตกลงกันครั้งนี้ ไม่ใช่การจากลาเพื่อเป็นจุดจบ นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะเจอกับพระพาย พิธานเชื่ออย่างนั้น การกลับมาเจอกันอีกครั้ง มันจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้คงต้องให้เวลาทำงาน ให้ทุกอย่างหมุนผ่านไปจนกว่าวันนั้นจะมาถึง....


Lyric: Swan Song by Dua Lipa.



   









ออฟไลน์ ladiiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คือลืมเนื้อหาเก่าไปแล้ว กลับมาแล้วงง ต้องย้อนกลับไปอ่านของเก่าเลยทีเดียว ><

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ท้องเต็มไปด้วยมาม่าหมดแล้วค่ะคุณณณ
อยากกินของหวานแล้วววววววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ท่าทางจะหน่วงจิต หน่วงใจกันไปอีกนาน  :เฮ้อ: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำไมดีใจที่พระพายใจแข็ง ได้บทเรียนแสนแพงเลยคราวนี้คุณพิธาน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1:  ขอร้องนะคะ ได้โปรดมาลงเร็วกว่าเดิมได้ไหมคะ มาม่าทั้งเดือนกดรีเฟรชทุกวันเลย  :ling2:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
พระพายใจแข็งมากลูก หนูทำดี
ช่วงนี้กรรมตามทันสินะคุณพิธาน
....

แต่ก็สู้ๆ นะ อยากให้กลับมาหวานเหมือนเดิมแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
หน้าที่เดียวของเราตอนนี้คือเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามมาอ่านเรื่อยๆ ..

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ สวัสดีในวันหยุดของทุกคนนะคะ (และวันหยุดของเราเช่นกันค่ะ) ตอนที่ 69 มาแล้วนะคะ อีกสองตอนก็จบแล้วล่ะค่ะ...ยิ่งใกล้จะจบแล้วก็ยิ่งรู้สึกเหงาๆแหะ  :mew2: อาจจะเพราะเรื่องนี้การอัพค่อนข้างยาวนานกว่าเรื่องที่แล้วมาก เลยรู้สึกว่าอยู่กันมานานมากจริงๆ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ยังขอบคุณเสมอนะคะที่อยู่ด้วยกันมาถึงขนาดนี้ กำลังใจ คอมเมนต์ของทุกคนคือแรงใจของเราจริงๆค่ะ สำหรับตอนนี้หากมีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ ตอนนี้คิดว่าทุกคนคงกำลังติดตามข่าวพายุใหญ่ที่กำลังขึ้นฝั่งในประเทศญี่ปุ่น เราเองก็ของส่งกำลังใจให้ทุกคนที่นั่นและคนอ่านทุกท่านเองก็เช่นกัน ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ  :mew1: เจอกันตอนหน้าค่ะ

++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 69 Facing you.

I was so scared to face my fears
ฉันหวาดกลัวเหลือเกิน ที่ต้องเผชิญหน้ากับความหวาดหวั่นของตัวฉัน

Cause nobody told me that you’d be here
เพราะไม่มีใครบอกฉันว่าเธอจะมาที่นี่

And I swore you moved overseas
และฉันก็จำได้แม่นว่าเธอนั้นได้จากไปไกลโพ้นทะเลแล้ว

That’s what you said, when you left me
เธอบอกแบบนั้นเอง ตอนที่เธอทิ้งฉันไป


        หลังจากวันนั้นที่พิธานได้เจอกับพระพาย พิธานก็ทำตามสัญญา คือไม่เจอหน้ากันอย่างที่ขอไว้ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความปกติประหนึ่งทั้งสองไม่เคยเจอกันมาก่อนและเวลามันผ่านมาแล้วจนเกือบจะสามเดือน

             ตั้งแต่ได้โทรศัพท์คืนพระพายก็รีบโทรหาเก้า รายนั้นแทบจะกินหัวพระพายทันทีที่ได้ยินเสียงและสาดคำบ่นอีกมายมายก่ายกอง แต่เพราะต่างคนต่างยุ่งกับงานและเก้าเองก็ใช้เวลาไปกับไคเยอะ เวลาจึงไม่ค่อยตรงกัน การนัดเจอกันจึงค่อนข้างจะยาก แม้เก้าจะบ่นว่าวันหยุดอยากอยู่คนเดียวบ้าง อยากเจอเขาบ้างแต่ทุกครั้งที่โทรไปไคจะอยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ....ดีใจที่เก้าดูมีความสุขและรู้สึกเหงาขึ้นมานิด ๆ ที่เขาต้องอยู่คนเดียวแบบนี้

             พระพายย้ายกลับมาอยู่ห้องพักของตัวเองที่อยู่มาตลอดก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับพิธาน คิดถูกแล้วที่ไม่ยอมคืนห้องนี้ไปเพราะสุดท้ายแล้วพระพายก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี่ตัวคนเดียวเหมือนเดิม ห้องที่ดูเงียบเหงา เหมือนจะไม่คุ้นชินเท่าไหร่นักทั้งที่ห้องนี้เป็นห้องที่พระพายอยู่มานานมากแล้วก็ตาม อาจจะเพราะความรู้สึกข้างในจิตใจที่ทำให้รู้สึกเช่นนี้

             กิจกรรมเพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่างของพระพาย คือการไปหาหลวงตาที่วัด ไปด้วยตัวเองในบางครั้ง เพราะจะมีบางทีที่พระพายกับเลขาปอนัดกันมาวัดเป็นครั้งคราว อย่างน้อยการมาหาหลวงตาพระพายจะจิตใจสงบมากขึ้น ได้คำสอนไปเยอะแยะและฟังเรื่องราวที่หลวงตาเล่าซึ่งน่าสนใจและรู้สึกดีที่ได้ฟัง

             แต่จะมีบางครั้งหากกลับมาอยู่ในห้องที่เงียบเชียบและใช้เวลากับตัวเอง พระพายมีความรู้สึกอย่างหนึ่งขึ้นมาเสมอคือความรู้สึกเหมือนกำลังว่ายน้ำในท้องทะเลที่คลื่นสูงและมองไม่เห็นชายฝั่ง เคว้งคว้างลำพังอย่างบอกไม่ถูก บางวันเหมือนอยากจะตะโกนออกไปว่าไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แล้ว เหมือนระบบความคิดเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับมาอยู่คนเดียวอย่างจริงจัง ทำไมถึงรู้สึกเหมือนภายในร่างกายขาดแหว่งหายไป

             เคยบอกเล่าหลวงตาถึงความรู้สึกนี้และท่านก็ให้คำสอนมามากมาย ทำให้พระพายปรับตัวเองได้เยอะขึ้นและสิ่งหนึ่งที่ท่านสอนคือการไม่โกหกตัวเอง ให้ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง...พระพายพยายามโกหกตัวเองว่าไม่ได้คิดถึงพิธานมาโดยตลอด แต่เมื่อหลวงตาบอกเช่นนั้น พระพายจึงต้องยอมรับและต้องอยู่กับมันให้ได้โดยไม่เป็นทุกข์

             วันนี้เป็นวันเสาร์ พระพายเลิกงานก็กลับมายังห้องอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา กลับมาก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเปิดทีวีดู กิจวัตรประจำวันนั้นเรียบง่ายและไม่มีอะไรให้ทำมากมายนัก นอกจากวันดีคืนดีพี่กล้วยชวนไปกินเหล้าที่บ้านบ้างเป็นครั้งคราว

             พระพายทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ฟังเสียงหัวเราะจากทีวีที่ผ่านเข้าหูซ้ายออกหูขวา ไม่รู้ทำไมเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม รู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก

             และอีกเรื่องที่พระพายหนักใจกับตัวเองคือ ต้องยอมรับว่าหลังจากอยู่ตัวคนเดียวนั้นพระพายมีความต้องการทางร่างกายอย่างที่มนุษย์ทั่วไปพึงจะมีแต่มันกลับมากกว่าตอนก่อนที่ยังไม่เคยรู้จักพิธาน

              การช่วยตัวเองแบบธรรมดานั้นแทบจะไม่รู้สึกดีมีแค่บางทีที่พอจะถูไถเอาได้ พระพายลองหลายวิธีเท่าที่จะทำได้ตั้งแต่ลองซื้อเซ็กส์ทอยมาใช้และรวมถึงอะไรที่คิดว่าพอจะทำให้ไม่อัดอั้นทา’ร่างกาย แต่มันก็ช่วยได้แค่ผิวเผิน...เขากลายเป็นคนที่ไม่สามารถมีชีวิตเซ็กส์อย่างปกติได้อีกแล้ว เรื่องนี้พระพายได้แต่จนปัญญาที่จะแก้ไขและเรื่องที่จะไปหลับนอนกับผู้หญิงคือตัดไปได้เลย เขาไม่สามารถทำมันได้อีกแล้ว มันเหมือนฝืนตัวเองและอึดอัดใจหากต้องไปทำแบบนั้น...นี่คือผลกระทบหลังจากที่พิธานเปิดโลกใหม่ให้เขา พระพายนอนคิดอย่างล่องลอย แต่จู่ ๆ กลับมีเสียงเรียกเข้าดังจากโทรศัพท์มือถือ หยิบมาดูก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นเก้านั่นเอง

“ว่าไง”

“อยู่ไหน จะออกไปข้างนอกรึเปล่า” ถามแบบไม่มีทักทายอะไรใด ๆ

“ไม่นะ อยู่ห้อง”

“ไปเที่ยวกัน”

“เดี๋ยว..กะทันหันไปแล้ว”

“ก็กูว่างแล้ว เดี๋ยวกูไปรับ” เก้าว่า

“ตั้งแต่มีรถนี่ห้าวเหลือเกินนะ” เก้าเพิ่งออกรถเมื่อสองสัปดาห์ก่อน คงกำลังมันมืออยากขับเยอะ ๆ

“จะมารับกี่โมง” พระพายถาม

“นี่ติดไฟแดงอยู่ อีกครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง”

“ทำไมไวจังวะ” พระพายรีบลุกขึ้นทันที

“ไปนั่งเล่นรอที่ห้องมึงก็ได้”

“งั้นวางก่อน จะไปอาบน้ำแต่งตัว”

        มารับแบบไม่บอกกล่าวกันก่อน พระพายจึงต้องรีบไปอาบน้ำทันที ออกมาก็เร่งเป่าผมให้แห้ง ไม่ทันจะใส่เสื้อผ้าเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“อะไรจะเร็วขนาดนี้” พระพายจึงไปเปิดประตูพบว่าเก้ายืนอยู่และไม่ใช่แค่เก้าคนเดียว ไคก็ยืนอยู่ด้วยเช่นกัน

“อ้าว คุณไคก็มาด้วยเหรอ” พระพายว่าและก็เปิดประตูให้ก่อนที่จะรีบไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ ปล่อยให้ทั้งสองคนทำตัวตามสบายกันเอง

“ไม่ต้องรีบหรอกพระพาย” ไคว่า

“กูหิวว่ะพาย มีอะไรให้กินไหม” เก้าถามพลางเดินเข้าหาตู้เย็น

“ในตู้เย็นมีขนมอยู่” พระพายตะโกนออกมาจากห้องน้ำ

“ไปกินข้าวกันก่อนนะมึง” เก้าเคี้ยวขนมไปพูดไป พระพายที่แต่งตัวเสร็จเลยจึงเดินออกมา

“ว่าแต่จะไปไหนวะ” พระพาย

“ไปนั่งกินเหล้าฟังเพลง” เก้าว่า

“ให้กูไปด้วยจะดีเหรอ” พระพายว่า เขาอาจจะไปเป็นก้างขวางคอทั้งสองก็ได้

“มึงเพื่อนกูนะพาย” เก้าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น

“พระพายก็เพื่อนฉันเหมือนกัน” ไคพูดพร้อมยิ้ม แม้ว่าเขากับพิธานไม่รู้จะออกหัวออกก้อยแต่ไคยังคงดีกับเขาเหมือนเดิม

“งั้นก็ไปกัน”

        ทั้งสามคนออกจากห้อง แน่นอนว่าเก้าเป็นคนขับโดยที่มีไคนั่งข้างหน้าด้วย คอยกำกับบอกการขับเพราะเก้ายังมือใหม่เพิ่งหัดขับรถได้ไม่นาน

“พูดมากจังมึง” เก้าบ่นไปขับไป

“ก็เป็นห่วง กลัวไปเสยตูดรถคนอื่นเขา” ไคว่า

        พระพายนั่งฟังทั้งสองคนถกเถียงเรื่องขับรถจนมาถึงร้านอาหารที่ใกล้บาร์มากที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินไปอีกนิดหน่อย ไคบอกว่าจะได้จอดรถไปเลยทีเดียวไม่ต้องวนไปหาที่จอดรถหลายที่เนื่องจากเจ้าของรถมือใหม่ยังจอดรถเข้าซองไม่ถนัดนัก

        ร้านอาหารกึ่งบาร์ที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะนี่เป็นวันเสาร์อีกทั้งละแวกนี้เป็นย่านศูนย์รวมบาร์ผับชื่อดัง ทั้งสามคนยืนรอโต๊ะอยู่พักใหญ่ กว่าจะได้โต๊ะก็ปาไปเป็นครึ่งชั่วโมง

“มึงเลือกร้านอะไรวะไค รอนานโคตร” เก้าบ่นหลังจากที่นั่งลง

“เอาน่า บ่นมากเป็นคนแก่ไปได้” ไคว่าก่อนที่จะเริ่มสั่งอาหารทันที พระพายตามใจทั้งสองเพราะที่สั่งมาก็กินได้ทุกอย่าง

        รอโต๊ะว่านานแล้วแต่รออาหารนานกว่า เนื่องจากคิวที่ล้นหลามจนตอนนี้ทางร้านจึงต้องตั้งป้ายหยุดรับลูกค้าชั่วคราว เก้านั่งบ่นไปเรื่อยโดยที่ไคก็ปรามบ้างหัวเราะบ้าง พระพายรู้สึกได้ว่าเก้านั้นบ่นไปเรื่อยแบบมีที่มา เหมือนจะยังประหม่าหรือไม่คุ้นชินที่มีไคอยู่ข้าง ๆ จึงหาเรื่องกลบเกลื่อนความรู้สึกและเหมือนไคเองก็รู้ถึงเรื่องนี้เหมือนกัน การปรามที่ไม่จริงจังกลับเห็นเป็นเรื่องสนุกมากกว่า

        กว่าอาหารจะมาก็นาน เมื่อมาถึงก็รีบกินอย่างหิวโหย แม้ไคจะบอกว่าได้จองโต๊ะที่ผับไว้แล้วก็ตามที ใช้เวลาไม่นานเท่ากับการรออาหาร ตอนนี้ทั้งสามคนก็อิ่มจนต้องหยุดทุกอย่าง

“อิ่มขนาดนี้กูจะกินเหล้าไหวไหมวะ” เก้าบ่นขึ้น

“นั่งสักพักก่อนก็ได้” ไคว่า

“ว่าแต่พระพายเถอะ สบายดีใช่ไหม” หลังจากมื้ออาหารจบก็ถือโอกาสนี้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ

“ก็ดีครับ งานยุ่งมาก” พระพายตอบคำถามของไค

“นั่นสิ ดูเหนื่อย ๆ”

“แต่เรื่องเที่ยวนี่ไม่เหนื่อยเหมือนที่เห็นนะ” พระพายบอกพร้อมหัวเราะ

“คุณไคสบายดีไหม” พระพายถามกลับบ้าง

“ก็ดี ไม่ได้แย่” ไคว่า

“พูดแบบนี้เหมือนมึงมีปัญหาอย่างนั้นแหละ” เก้าแทรกขึ้น

“ถามว่ามีไหมก็มีนะ”

“กูไม่ยักจะรู้” เก้าหล่มองทันที

“ก็ไม่ใช่เรื่องตัวเองเสียทีเดียว เป็นเรื่องของพวกเพื่อน ๆ มากกว่า” ไคว่า

“เพื่อนมึง...คนไหน” เก้าถาม พระพายนั่งฟังและนั่นทำให้รู้สึกว่าบทสนทนากำลังจะดึงเข้าสู่สิ่งที่พระพายเริ่มคิด ไคอาจจะเอ่ยถึงเพื่อนสนิทของเขา คนที่วิ่งวนอยู่ในหัวเขามาสามเดือนแล้ว...

“ก็....พิธาน พวกเพื่อน ๆ บ่นกันว่าหนักใจกับเขา” และสิ่งที่พระพายกลัวก็เป็นความจริง เรื่องของคนที่พระพายไม่ได้ยินมาพักใหญ่แล้ว เมื่อได้ยินชื่อนั้นก็รู้สึกเหมือนหัวใจแกว่งทันที

“มันทำไม ตายห่าไปแล้วเหรอ” เก้าหน้าตึงทันทีที่พูดถึงพิธาน

“ไม่ตายหรอก แต่หายตัวไปเสียมากกว่า”

“ใครอุ้มมันไปฆ่าแล้วรึเปล่า” เก้าว่าพลางยิ้มสะใจ

“ดูหนังมากไปแล้ว” ไคว่าพลางจิ้มหน้าผากเก้า

“สรุปมันยังไง” เก้าถามต่อ และแน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ได้มองมาที่พระพายที่ทำเหมือนไม่สนใจ และมองไปทางอื่นอย่างไม่อยากรับรู้เท่าไหร่ แต่กระนั้นก็ยังได้ยินอยู่

“ก็หายไปไหนไม่รู้ ขนาดอยู่ห้องตรงข้ามกันยังไม่ค่อยเจอเลย”

“ไปหาแฟนใหม่แล้วสิท่า” เก้าว่าพลางยักไหล่และเมื่อมาถึงจุดนี้จึงเพิ่งตระหนักได้ว่าเป็นคำพูดที่ไม่ควรจะพูดต่อหน้าพระพาย ไคตำหนิเก้าด้วยสายตาแทบจะทันที

“เอ่อ...พาย กูไม่ได้จะ....” เก้ารีบหันไปหาพระพายแล้วแก้ตัวทันที

“อะไร...” พระพายหันมาถามอย่างไม่เข้าใจ

“มึง...ไม่เป็นไรใช่ไหม” เก้าถาม

“ไม่เลย” พระพายว่าและดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ ทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร แม้คำว่าพิธานไปมีแฟนใหม่มันเหมือนจะรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก

“นั่นสินะ ไม่เห็นต้องไปสนใจคนแบบมัน” เก้าว่า

“พระพาย...ตอนนี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ไคถามด้วยความเป็นห่วง

“ผมปกติดีครับ มีเหงาบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น”

             ถือว่าเป็นการพูดความจริงแค่ส่วนหนึ่ง เพราะที่เหลือที่ไม่ได้บอกคือผลกระทบมากมายที่เกิดกับตัวเขา เรื่องเหงามันน้อยนิด แต่เรื่องที่เหมือนขาดหายอะไรไปสักอย่างที่คือเรื่องใหญ่ คงอาจจะเพราะการกลับมาอยู่ตัวคนเดียวหลังจากที่เอาใจไปผูกกับคนอื่นมานานพอสมควรแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจให้ชินได้เลย

“เหงาก็หาคนคุย” เก้าว่า

“มึงพูดเหมือนหาง่าย” พระพายว่า

“ถ้าพร้อมก็มองหาคนใหม่นะ” ไคว่าพร้อมยิ้ม

“ครับ”

นั่งคุยถึงเรื่องอื่นไปสักพักพวกเขาก็ออกจากร้านอาหารและไปยังผับที่อยู่ใกล้ ๆ แทน เดินไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

        ระหว่างทางที่เดินพระพายพยายามจะไม่นึกถึงคำพูดของเก้ากับไค แต่ยิ่งได้ยินคำว่าหาคนใหม่ ยิ่งรู้สึกวูบไหวในใจ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจกับตัวเองเลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป แม้จะยังรู้สึกมากมายเหมือนเดิม แม้จะยังคิดถึงอยู่เต็มหัวใจแต่เพราะกลัวที่จะต้องกลับไปแล้วจะเป็นเช่นเดิมอีก การกอบกู้ความรู้สึกให้เป็นดั่งเดิมช่างยากเย็นสำหรับพระพาย

        ยังจำตอนที่คุยกันบ้านพี่กล้วยได้ แม้จะเมาแต่เขาก็จำได้หมด ไม่อาจจะโกหกตัวเองได้เลยว่าลึก ๆ ก็คาดหวังว่าพิธานจะไม่ยอม ฟาดงวงฟาดงาเพื่อจะไม่รับข้อเสนอที่ว่าจะไม่เจอหน้ากัน แค่กลับผิดคาดเมื่อพิธานยอมรับทุกอย่างที่ขอแม้กระทั่งจะไม่เจอหน้ากันก็ยอม เอาจริง ๆ ก็อยากให้พิธานเป็นพิธานเหมือนในตอนแรกที่เจอกัน คือการใช้กำลังบีบบังคับและไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม....นี่เขากลายเป็นมาโซคิสม์เต็มตัวทั้งการถูกกระทำทางร่างกายและจิตใจไปแล้วหรือ ทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ให้ตัวเองไปพร้อม ๆ กันเพราะหลงคิดว่ามานานว่าเป็นพวกชอบความเจ็บปวดแค่เรื่องบนเตียง ที่ไหนได้กับทางความรู้สึกก็เป็นไปด้วย

        ผ่านมาแล้วเกือบสามเดือน พิธานเงียบหายไปและเขาเองก็ไม่ได้ติดต่ออะไร ระยะเวลาคิดทบทวนและห่างกันสักพักที่ไม่มีการกำหนดเวลาใด ๆ ต่อกัน ไม่รู้จะอีกนานแค่ไหนและอาจจะนานเกินไปจนพิธานคงจะมีใครใหม่อย่างที่เก้าว่า

        พอคิดขึ้นมาอย่างนั้นจู่ ๆ ก็ปวดหนึบขึ้นมาในอกราวกับถูกกดทับโดยสิ่งที่มองไม่เห็น พระพายมั่นใจว่าความเจ็บปวดมันหายไปพักหนึ่งแล้วแต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เก้าพูดและนึกตามขึ้นมา...มันกลับเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง พระพายบีบเค้นแถวอกราวกับจะทำให้ความเจ็บปวดคลายลงซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลยแต่ก็ทำมันอยู่ดี

        เข้ามาในผับที่มีผู้คนพลุกพล่านสมกับเป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดของทุกผู้ทุกคน โต๊ะที่ไคจองไว้อยู่ด้านใน ไคบอกว่ามีแค่พวกเขาเพราะไคไม่ได้ชวนกลุ่มเพื่อนมา

“ไม่มาก็ดี เพื่อนมึงวุ่นวายชิบหาย” เก้าบ่นทันที ล่าสุดที่ได้ดื่มกับเจ้าพวกนั้นน่ารำคาญเพราะเอาแต่แหย่เขาตลอด

        ไคสั่งเครื่องดื่มมา พระพายนั่งดื่มทันทีเพราะหลัง ๆ มานี้ไม่ค่อยได้มานั่งดื่มท่ามกลางบรรยากาศอย่างนี้ จะมีแค่วงเหล้าเคล้าปิ้งย่างบ้านพี่กล้วยก็เท่านั้น พอได้มาเจอแสงสีเสียงเช่นนี้ก็เลยสนุกมากขึ้น...อย่างน้อยก็ถมความรู้สึกโหวง ๆ กลวง ๆ ในใจได้สักหน่อย

        ทั้งสามคนนั่งดื่มฟังเพลงกันสนุกสนาน สาว ๆ แถวนั้นเหล่มองมาเยอะพอสมควร น่าจะมองไคก่อนเป็นอันดับแรกเพราะดูโดดเด่นกว่าใครเพื่อน เก้าไม่ได้หึงหรือไม่พอใจใด ๆ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ถูกมองแค่ไหนไคก็ไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นอยู่ดี ไม่ใช่มั่นใจจากการเป็นแฟนกันแต่มั่นใจจากการที่เจ้าตัวไม่คิดจะมองอะไรแล้วนากจากเขา จนเก้าเริ่มชักสีหน้ารำคาญหน่อย ๆ แล้ว พระพายได้แต่หัวเราะ ทั้งสองคนเป็นมวยที่ถูกคู่อย่างแท้จริง ไคที่ไม่ว่ายังไงก็กำราบเก้าได้ทุกมุมอย่างอยู่หมัด

        ดื่มไปมองอะไรไปเรื่อย ในบาร์ไม่ได้มืดขนาดนั้น แสงไฟดิสโก้วับแวมพวกนั้นพอจะสาดส่องไปให้เห็นในทุกมุมแต่เป็นครั้งคราวและระยะเวลาสั้น ๆ  พลันสายตาเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่...คือคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าสามเดือนแล้ว

        พิธานนั่งอยู่ที่โต๊ะตรงมุมอีกฝั่ง ครั้งแรกพระพายคิดว่าเขาตาฝาดเสียอีกแต่กลับไม่ใช่ เมื่อไฟวิววับส่องไปตรงนั้นอีกครั้งก็ยืนยันกับตัวเองได้ว่าพิธานนั่งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ไม่รู้ว่าเพิ่งมาหรือมานานแล้ว พระพายก็ไม่อาจรู้ได้แต่ที่แน่ ๆ หัวใจเหมือนหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ไม่แน่ใจว่ามันคือความรู้สึกอะไรกันแน่ ดีใจที่ได้เห็นหรือใจเสียที่มาเห็นในที่แบบนี้ พระพายสับสนอยู่ไม่น้อย

        พระพายไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าสายตาของตัวเองจ้องมองไปยังพิธานอย่างไม่ละสายตา ทันใดนั้นพิธานก็หันมาเจอพระพาย ในที่สุดทั้งสองก็สบตากัน...สายตานิ่ง ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ภาพรวมนั้นดูคุ้นตาเหมือนครั้งที่พิธานนัดเจอเขาหลังจากมีความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือนี่จะเป็นการดึงดูดให้เจอกันอย่างที่พระพายเคยพูดไว้ก่อนหน้านั้นและต่อจากนี้ต้องทำอย่างไรต่อไป หรือต้องปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น...

Lyrics: When we ware young by Adele.





ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
รักกันอยู่..ทำไมต้องทรมานตัวเองน้า..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
กลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะนะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ความรู้สึกของคนเรามันย้อนแย้งนะ เข้าใจยากจริง ๆ พระพายก็เหมือนกันต้องการอะไรทบทวนให้ดี ๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ระทมกันไปเรื่อย ๆ  :hao5:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อะๆ อีก2ตอนจะจบแล้ว ก็จะรอดูทั้งคู่คืนดีกันละกันนะ

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
รอดูกันต่อไป :ruready

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
วางแผนกันมาแล้วสินะ ดีไม่ดีให้คนมาจีบพิธานเลยมั้ย เดวพระพายเมาก็เข้าหาพิธานเองแน่ๆโดนบิ้วมาแล้วนี่
อย่าทำได้มั้ยอ่ะ ไม่รุ้ทำไมยังไม่อยากให้คืนดีกันนอกจากทนเฉยๆไม่เห้นพิธานทำอะไรเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คิดถึง2คนนั้นแล้วง้อกันไปถึงไหนแล้วนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด