Home * Mate ll ต้นไม้...นายหน้า ตอนที่ 22 (210222)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Home * Mate ll ต้นไม้...นายหน้า ตอนที่ 22 (210222)  (อ่าน 27178 ครั้ง)

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อารายกันนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
นางงอนแล้ว1

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โอ้ยค้ำจุน อะไรกันเนี่ย แค่เขาไม่ยอมเอาเสื้อมาห่ม ก็จะไปฟ้องแม่เลยหรือ อิอิอิ
คิดถึงไรท์มากมาย ช่วงโควิด รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อย่างอนกันอีกนะ อ่านแล้วใจไม่ดี ค้างด้วยกันที่บ้านจุนนั่นแหละเปล

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เอ๋าวววว !!! จุนเอ้ยยยย เดี๋ยวเปก็คิดไปไกลอีก

 :กอด1:  :กอด1: / รออ่านเสมอค่า  :L1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

และ

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
HomeMate
Casting : Jun x Pae
Writer : Kajidrid

Home*Mate [21]


นายค้ำจุนพูดคำไหนคำนั้นเสมอครับ เขาบอกว่าจะทำอะไร เขาก็จะทำตามนั้น แต่นายค้ำจุนไม่รู้หรอกครับว่าในโลกนี้มีอะไรอีกมากมายหลายสิ่งนักที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา

แม่ เขา จัด ห้อง นอน รอ ผม
ฮ่าๆๆๆ ผมล่ะอยากระเบิดเสียงหัวเราะแห่งความสะใจให้ดังก้องโลก แต่พอดีเป็นคนมีมารยาทครับ เลยเก็บไว้หัวเราะทีหลัง มันจะได้เสียงดังกว่านี้

ลูกชายเจ้าของบ้านหน้าเป็นตูดตอนที่แม่เขากวักมือเรียกผมไปทักทายอย่างเอ็นดู พลางชี้ชวนอวดโอ่ห้องนอนที่แม่จัดเตรียมไว้ให้ จริงๆ ห้องนี้มันก็มีตัวตนอยู่นานแล้วแหละครับ แต่ไม่มีใครใช้งานเลย ตอนที่จุนพาผมมาค้างรอบที่แล้ว แม่ก็นึกสงสารแขกบ้านแขกเมืองอย่างผมที่ต้องจำใจนอนที่คับแคบกับคนใจจืดชื่อว่าค้ำจุน แม่ก็เลยสั่งฟูกนอนมาสำรองไว้ให้ แล้วก็แถ่นแท้นนนนนนนน! ติดแอร์

ผมตื่นเต้นมากที่จู่ๆ ก็มีห้องนอนเป็นของตัวเอง ก็เลยประกาศเจตนารมตัวเองออกไป แม้ว่ามันจะขัดกับแผนหลักของนายค้ำจุนก็ตาม

“ผมค้างนะ ต้นกลับไปก่อนได้เลย
หรือถ้าต้นไม่กลับ ก็นอนห้องนี้กับผม” พูดจบก็อุ้มกระเป๋ามาจัดแจงวางของกองไว้ตรงนั้นหย่อม ตรงนี้หย่อม ทำให้ห้องมันดูรกๆ เข้าไว้ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน

โรงเรือนแคคตัสของนายค้ำจุนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจนผิดหูผิดตาครับ แต่พื้นที่ข้างรั้วมีต้นมีกลุ่มต้นไม้เล็กๆ ที่ใบถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ชมพู ขาว เหลือง ชวนให้สนใจและดึงดูดให้เดินไปทิ่มหน้ามอง

“ต้นอะไรอ่ะคุณ”  ผมถามคนที่ผมเชื่อในความเชี่ยวชาญของเขาที่สุด รายนี้ก็เหมือนมีสัมผัสกลิ่นเสือก ถึงได้มายืนรอให้ผมเอ่ยถาม

“บอนสี”

“อ่อ....”

“เคยรู้จักหรอ”

“จริงๆ ก็ไม่ แต่ชื่อฟังดูคุ้นๆ หน้าตามันก็คุ้นๆ นะ”

“ก็ควรจะคุ้นนะ ที่บ้านคุณก็มี”

“จริงดิ! แพงป่ะ? ขโมยพ่อไปขายดีกว่า” ผมหยอกเล่นแล้วก็ชวนเขาหัวเราะ แต่คำตอบจริงจังของเขาทำเอาไม่อยากแค่หยอกเล่นเลยครับ เขาบอกผมว่า

“ถ้าสีด่างสวย พันธุ์หายากหน่อยก็หลักแสน”

โอ้!
พี่พ่อผมเลี้ยงไว้ที่บ้านน่าจะโคตรธรรมดาแหละครับ จำไม่ได้เลยว่ามันมีสีชมพูพาสเทลแซมซะดูหรูหราเหมือนพวกนี้

ผมพยักหน้ารับรู้แล้วถอยหลังออกห่างจากกลุ่มบอนสี ด้วยกลัวตัวเองเอาสารเคมีใดๆ มาทำให้น้องปนเปื้อนจนกลายพันธุ์ไป อีกอย่างคือกลัวตัวเองซุ่มซ่ามไปทำต้นไม้เสียหายแล้วจะไม่มีปัญญาชดใช้ครับ

“แล้ว....นี่อ่ะคุณ” ผมถามเขาอีกรอบระหว่างทางที่พยายามเดินให้ทันยาดาที่ไปไกลสุดโรงเรือนแล้ว แต่ตาเจ้ากรรมก็โดนเตะเป็นว่าเล่น

“Black cardinal ชื่อไทยก็กุมารดำเรียกทรัพย์
กอนี้สวยนะคุณ 3,000 เอง”

พูดตัวเลขหลักพันแต่ใช้คำว่าเอง ... อวดรวยหรอวะเฮ้ย!

ผมเหล่มองเขาแล้วก็มองต้นไม้ที่มือยังชี้อยู่อีกรอบ อือออ สวยว่ะ ชอบ แต่สามพันแหนะ   
ผมเหล่มองเขาแล้วก็มองต้นไม้อีกรอบ สวยว่ะ ชอบ อยากได้

“คุณลดให้ผมได้เท่าไหร่” ผมโพล่งสิ่งที่ผุดขึ้นในหัวออกไปแล้วก็มองเขาเต็มตา

“คุณจะซื้อหรอ?” นายค้ำจุนถาม น้ำเสียงดูตกใจมากครับ

“อื้อ ลดให้หน่อยสิ ลูกค้าคนอื่นคุณยังลดให้เลย
ขอสัก... ครึ่งนึงอ่ะ พันห้า”

นายค้ำจุนหัวเราะเย้ยฟ้าเลยครับ เขามองหน้าผมทิ้งท้ายแล้วก็เดินไปหารวมกลุ่มกับยาดา วงสนทนาทางนั้นเสียงดังขึ้นนิดหน่อย หากตั้งใจฟังผมก็คงพอจับใจความได้ว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ผมสนใจอยู่แต่ไอ้เจ้ากุมารนี่แหละครับ

กิจกรรมฟูใจของยาดาผ่านไปด้วยดีครับ ดูเหมือนเจ้าตัวได้เลือกได้ในที่สุดว่าจะใช้ไม้พันธุ์ไหน ไซส์ไหนสำหรับทำเป็นของชำร่วยงานแต่งบ้าง นายค้ำจุนเป็นผู้ช่วยที่ดีมากครับ สาสามารถบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละสายพันธุ์ได้เป็นอย่างดี  ผมเองก็โล่งใจไปด้วยที่ยาดาไม่เลือกเอาเจ้ามิกกี้เมาส์มาเป็นหนึ่งในต้นไม้ของชำร่วย แม้จะมันดูน่ารักทั้งรูปลักษณ์และชื่อ แต่หนามมันละเอียดและปักคานิ้วได้ลึก ทำให้เจ็บๆ คันๆ ได้นาน บางคนที่โดนหนามมันตำก็ถึงขั้นกลัดหนองก็มีครับ

ตอนแรกผมก็เหมือนกับยาดาที่หลงความน่ารักของมันหลอกเอา แต่นายค้ำจุนเป็นคนเบรกไว้และให้ข้อมูลเพิ่ม เสริมด้วยประสบการณ์ลูกค้ารายอื่น

“ฮาโวเทียกับกุหลาบหินนี่แหละเหมาะสุดแล้ว
เคยมีลูกค้าสนใจตระกูลแมม ทางนี้ก็คัดให้แต่ต้นที่เลี้ยงมาเกิน 1 ปีเตรียมไว้ สรุปก็มาเท เนอะจุนเนอะ เค้าบอกว่าหาซื้อตามตลาดนัดไหนๆ ก็มี”  นายต้นสนเล่าเรื่องราวของตัวเองและเพื่อนรักขึ้นมาระหว่างที่มือก็คัดกลุ่มกุหลาบหินไว้สำหรับจับลงกระถางสำหรับงานแต่งยาดา

“ตอนนั้นโคตรโกรธอ่ะ เนอะจุนเนอะ” ต้นสุนขอเสียงสนับสนุนจากเพื่อนรัก แต่ก็ได้แค่อาการพยักหน้าเนือยๆ ส่งกลับมาครับ  นายค้ำจุนขยับมือคล่องกว่าปาก ส่วนต้นสนก็คือขั้วตรงข้าม

“ผมนะ อยากยึดมัดจำด้วยซ้ำ แต่ไอ้นี่มันเสือกใจดีไม่เลือก ก็เลยไม่เอาเรื่องอะไร ไอ้จุนมันบอกว่าแมมทรงสวย เค้าไม่เอาเราก็เลี้ยงต่อให้สวยกว่าเดิมแล้วก็ขึ้นค่าตัว”

อื้อมมม นับว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาดครับ ผมมองเจ้าของไอเดียบรรเจิด แล้วก็มองหันไปฟังไอ้ต้นต่อ

“แล้วแม่งก็เสือกเป็นตามนั้น แมมจนนกล็อตนั้นหมดไปนานแล้ว เนอะจุนเนอะ”

“เหลือต้นนึง พอดีมันติดดอกสีชมพูจากแม่พันธุ์มันมาด้วยเลยเก็บไว้ ดีนะที่ออกดอกให้เห็น ไม่งั้นก็ขายหมูเหมือนกัน” ครั้งนี้นายค้ำจุนเป็นคนเล่าบ้างครับ ยาดาหันขวับไปฟังจนคอแทบหัก ส่วนวราห์ดูเหมือนจะแค่ฟังสร้างบรรยากาศเฉยๆ มือยังไม่พักจากการถ่ายรูปต้นไม้รอบๆ ตัวเลย

“หือ อยากเห็นเลย ว่าแมมที่จุนกับต้นบอกว่าฟอร์มสวยนี่จะหน้าตายังไง” ยาดาไม่น่าจะแค่อยากเห็นหรอกครับ ผมว่าอยากได้ รายนี้ถวายหัวให้นายค้ำจุนไปหมดแล้วถ้าเป็นเรื่องแคคตัส

“อ่อ อยู่ที่คอนโดน่ะ เอาไปอยู่ด้วยเพราะรักมาก  ให้ดอกสวยมาก สีชมพูมีสีขาวแซมเล็กๆ  จริงๆ ผมผสมจนได้เมล็ดแล้วนะ กำลังจะเตรียมเพาะเมล็ดแต่ก็โดนกินไปซะก่อน เสียดายมาก”

“โหยยย นกกินหรอ แย่มาก กินไม่รู้จักเลือกเลย เอ๊ะ หรือว่ามันรู้จักเลือก ก็เลยกินแรร์ไอเท็มกันนะ?” ยาดาส่งมุก แน่นอนว่าว่าที่สามีเขาช่วยขำครับ ไอ้ต้นก็ขำตามประสาคนมีเซนส์เข้าสังคม คนที่ไม่ขำคือผม เพราะกูเองแหละที่เป็นคนแดกเมล็ดแมมที่คุณค้ำจุนเขารักมากกกกก

ส่วนคนเปิดเผยความลับที่ควรจะรู้กันแค่ 2 คนแม่งก็นั่งยกมุมปากเย้ยหยันใส่ผมอย่างยียวน

Home*Mate

ว่าที่บ่าวสาวกลับไปพร้อมกับบะหมี่ทำมือเจ้าเด็ดของจังหวัดที่แม่นายค้ำจุนไปซื้อมาให้ บอกว่าในชีวิตนี้ต้องได้ลองกินสักครั้ง แล้วจะกินจริงจังอีกกี่ครั้งก็แล้วแต่จะตัดสินใจ ยาดากับวราห์ดูอารมณ์ดีกันมากเพราะภารกิจเลือกสายพันธุ์ต้นไม้สำหรับเป็นของชำร่วยแล้วเสร็จ ไหนจะของกินร้านท้องถิ่นติดมือกลับไปอีก

ค่ำนี้ ผมเองก็ได้กินเส้นบะหมี่ทำมือที่แม่นายค้ำจุนภูมิใจนำเสนอเหมือนกัน เด็ดจริงครับ นุ่มหนึบและเส้นกลมเล็กแบบที่ชอบด้วย

เมื่อกินเสร็จ การแย่งกันเก็บล้างก็เกิดขึ้นเป็นศึกระหว่างพวกผม 3 คนครับ คนชนะครั้งนี้ก็คือเจ้าของบ้านอย่างนายค้ำจุนนั่นเอง ผมกับไอ้ต้นก็เลยขึ้นมาจัดเตรียมที่นอนกัน แต่สุดท้ายก็เหมือนผมทำอยู่คนเดียวแหละครับ เพราะไอ้ต้นบอกว่าจะไปหาอะไรสักอย่างที่ห้องนอนนายค้ำจุน

ไม่นานเขาก็โผล่หน้ามา พร้อมกับโน้ตบุ้คและกล้องดิจิทัล จะว่าไป วันนี้นายต้นสนดูง่วนกับกล้องตลอดทั้งวันเลยหว่า

“ทำอะไรอ่ะ อัพเพจหรอ”

“อื้อ ลงรูปไม้ใหม่ด้วย เรียกกระแสหน่อย ให้จองไว้ก่อน ยังไม่ขาย”

“มีงี้ด้วยหรอ มีแต่คนเค้าอยากรีบๆ ขาย เอาเงินไว้ก่อนกันทั้งนั้น” ผมบอกตามที่คิด นอนคว่ำระนาบเดียวกับนายต้นสนเพื่อดูรูปที่เขาถ่าย

ฝืมือดีนี่หว่า ผมไม่ได้ชมแค่ในความคิดหรอกนะครับ ผมเอ่ยปากชมนายต้นสนไปตรงๆ หมอนี่ก็ทำเป็นหัวเราะเขินอยู่แป๊บนึง ผ่านไปสักพักก็รำแพนหางโชว์ผมซะเลย

เขาอวดต้นนั้นต้นนี้ เล่าที่มาได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ทุกอย่างที่นายต้นสนเล่ามักจะเรื่องนายค้ำจุนปนมาเกินครี่งเสมอ

ดูเหมือนทุกเรื่องราวนายต้นสนคนนี้ จะมีนายค้ำจุนเป็นส่วนผสมหลัก

.

แล้วตัวละครหลักก็โผล่หน้ามาที่ห้องนอนแห่งนี้ครับ นายค้ำจุนเปิดประตูผึงแล้วก้าวฉับๆ เข้ามานั่งตรงกลางระหว่างผมกับนายต้นสน แน่นอนว่าเขาใช้เท้าแหวกหาที่ว่างสำหรับตัวเองได้อย่างช่ำชอง ดีนะที่ไม่เหยียบหลังผมเอา

“นั่งดีๆ สิมึงน่ะ” นายต้นสนดุเพื่อนที่มากระแซะหาพื้นที่ว่างอย่างรำคาญ ผมขยับตัวเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เล็กน้อย แต่ก็ยังนอนยืดหลังมองคอมฯ อยู่แบบเดิม ผมไม่รู้ว่านายค้ำจุนเบียดเพื่อนเขาท่าไหน แต่สุดท้ายเขาก็แทรกกลางได้เต็มตัวแหละครับ

“มึงได้แต่งรูปก่อนป่ะเนี่ยไอ้ต้น”

“เปล่าอ่ะ กูว่าแสงวันนี้สวยแล้ว ไม่ต้องแต่งหรอก”

“เออ สวยจริง เฮ้ย! ต้น เซ็ทนี้ยังไม่ขายนะเว้ย”

“กูรู้ ลงเป็นน้ำจิ้มไงมึง ห่า ขายแต่ไม้เดิมๆ ลูกค้าหายหมด กูบอกให้มึงอัพรูปตัวมึงลงบ่อยๆ หรือตอบแชทบ่อยๆ ก็ไม่คิดจะทำ ยังจะมาขัดลาภอีก ห่า”

“กูจะเสร่อลงรูปกูทำไม คนเขามาซื้อต้นไม้ก็ต้องส่องต้นไม้สิวะ”

ผมแอบกระตุกยิ้มเพราะพบคนโง่ 1 อัตราครับ มีใครจับคนโง่ได้พร้อมมั้ยครับ?

“วุ! ทีเรื่องอะไรแบบนี้ล่ะคิดไม่เป็น
“เนอะเปเนอะ”

“อื้อ” เมื่อถามผม ผมก็ต้องตอบสิครับ นายค้ำจุนหันขวับมองผมอย่างสงสัย ผมเลยลอยหน้าลอยตาสนใจรูปที่นายต้นสนกำลังทยอยอัพโหลดขึ้นเพจร้านต้นไม้ของพวกเขาครับ

“อะไรอ่ะ มีความลับหรอ
ยิ้มอะไรกันอ่ะคุณ
เฮ้ย! ทำงี้กับผมไม่ได้นะ ยิ้มอะไรกัน หรือว่านินทาผมอยู่
ไอ้ต้น! นินทาไรกูให้เปฟัง เรื่องเลอะเทอะไม่ต้องเลยนะ”

“โอ้ยยย! กูไปอาบน้ำแล้ว! มึงลงรูปต่อให้เสร็จด้วย แบ่งเป็นเซ็ทตามสายพันธุ์นะมึง ไม่ใช่อายุ ต้นไหนหวงก็ไม่ต้องลง จะได้ไม่มาโวยวายใส่กูอีก” สาดอารมณ์รำคาญเหลือทนใส่เพื่อนแล้วก็ลุกเดินปึงปังออกจากห้องไปครับ แต่แป๊บเดียวก็โผล่หน้ากลับเข้ามาใหม่

“กูไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาค้าง ยืมของมึงหมดเลยนะ”

พอนายต้นส้นออกจากห้องไป นายค้ำจุนถึงนึกขึ้นได้ว่านอนเบียดผมอยู่ เราเพิ่มช่องว่างระหว่างกันอีกนิด แต่ก็ยังคงนอนขนานกันระหว่างที่นายค้ำจุนทำตามที่เพื่อนสั่งงานไว้

ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่ได้สนใจด้วยว่านายต้นสนอาบน้ำเร็วหรือช้า รู้แค่ว่าเวลาเดินช้ากว่านี้หน่อยก็ดี

2 พ่อค้าใช้เวลาลงรูปต้นไม้เตรียมขายและตอบแชทลูกค้าขาประจำอยู่จนถึงห้าทุ่มกว่าครับ ส่วนตัวผมกลิ้งขึ้นที่นอนมาพักสายตาก่อนพวกเขานานแล้ว ผมนอนหลับตาแต่ว่ายังไม่หลับ นอนฟังพวกเขาเถียงกันบ้าง ปรึกษากันบ้าง ผมรับรู้ได้ถึงความสนิทและไว้เนื้อเชื่อใจกันของพวกเขา

พลันความคิดเจ้ากรรมก็หยิบเอาความรู้สึกของนายต้นสนขึ้นมา ตามมาด้วยความรู้สึกของนายค้ำจุนที่ผมได้ยินมากับหูตัวเองตรงๆ แบบทางอ้อม

ดูเหมือนพวกเขาจะชอบผมกันทั้งคู่ และดูเหมือนจะทำความเข้าใจกันได้แล้วในเรื่องที่ชอบผมกันทั้งคู่ พวกเขาสามารถเป็นเพื่อนกันต่อได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ หรือว่าความรู้สึกชอบที่มีให้ผมมันจะแค่อาการประเดี๋ยวประด๋าว เหมือนกับอุปทานหมู่

ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย แต่ผมไม่หาคำตอบหรอกครับ ผมยังไม่พร้อมผชิญความจริงหน้าใหม่

“เปหลับแล้วมั้ง ห้าทุ่มกว่าแล้วมึง นอนเถอะ” เสียงนายต้นสนฉุดกลับเข้าห้องนอนเล็กๆ แห่งนี้

“เออ ง่วงเหมือนกัน ไปนอนเถอะต้น”

“มึงก็กลับห้องไปดิ กูจะได้นอน”

“มึงไปนอนห้องกูดิ”

“แต่...”

“เปนอนคนเดียวได้ มึงอ่ะไปนอนห้องกูดีกว่า”

“ดีกว่ากับใครวะ”

“กับกูนี่แหละ”

“นี่...มึงหึงกูกับเปหรอไอ้จุน”

“อืม กูหึง”

“ไอ้เหี้ยยยยยย มึงอย่ามาบอกกับกูตรงๆ แบบนี้ดิ แบบนี้ชกกันดีกว่า กูไม่อยากเป็นที่ปรึกษาความรักมึงหรอกนะ”

“ทีมึงยังบอกชอบเค้าให้กูรู้เลย”

“ก็ตอนนั้นกูบอกเพราะกูไม่รู้ว่ามึงก็ชอบนี่หว่า”

“จะรู้หรือไม่รู้ความรู้สึกกู มึงก็บอกกูได้ทุกเรื่อง เหมือนกับที่กูก็บอกมึงทุกเรื่อง ไม่ว่าจะไม่รู้หรือรู้ความรู้สึกมึง ถ้าต้องมีความลับต่อกัน กูคงให้มึงเป็นเพื่อนเหมือนเดิมไม่ได้”

“มึงนี่มัน....น่ารักชิบหายเลยวะไอ้จุน
ไป! นอน!”

ออกไปสักทีเถอะไอ้พวกนี้ กุอายชิบหายแล้วเว้ย!

กำลังจะตัดสินใจลืมตาเพื่อคลายอาการตกใจ ไฟในห้องนี้ก็ดับลงทันทีตามเสียงปิดสวิทช์ ผมเลยรู้สึกปลอดภัยในการลืมตามากกว่าเดิม แต่ยังไม่ทันได้คลายจังหวะใจเต้นโครมของตัวเอง พลันแก้มก็ถูกอังเบาๆ และเกลี่ยไปมาอย่างอ้อยอิ่ง

ด้วยความอยากรู้ว่าใครคือผู้กล้า ผมจึงลืมตาผึงขึ้นมอง แต่สิ่งที่เห็นแค่ก็เงาใครสักคนที่ผ่านพ้นประตูห้องออกไป แสงจากข้างนอกหรี่ลงตามช่องประตูที่บีบมุมแคบขึ้นจนกระทั่งปิดสนิททั้งบาน

Cut

แนะนำให้ย้อนไปอ่านตอนที่แล้วหน่อยนะคะ น่าจะต่อกันไม่ติด เพราะเราเว้นไป 4 เดือนเลยทีเดียว
ตอนหน้า จะมอบให้เป็นของขวัญส่งท้ายปีค่ะ
 :mc4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ yut1402

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอรอรอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ธ่อออ ..........    ต่อหน้า ดิ จุน พูดดดดดต่อหน้า  :hao7:  :hao7:
ว่าแต่อะไรน๊อที่โดนแก้ม  o13

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
HomeMate
Casting : Jun x Pae
Writer : Kajidrid

Home*Mate [22]

แก้มกูเสียพรหมจรรย์อีกครั้งให้ใครวะเนี่ย?
ผมแบกความสงสัยข้ามคืนมาจนถึงเช้าวันนี้ ทั้งที่อาหารเช้าน่าอร่อยฝีมือแม่นายค้ำจุนละลานตาตรงหน้า ผมก็ไม่มีอารมณ์เอนจอยอีทติ้งเลยครับ

“จะแปดโมงแล้ว ไม่หิวหรอเป” ไอ้ต้นถามขึ้นกลางสำรับเช้า เขาคงสังเกตผมมาสักระยะแล้ว
“หรือแพ้ไข่เป็ด” เขาถามยังพยายามแงะหาเหตุแห่งการนั่งเงียบๆ งงๆ ของผมครับ

“ไม่แพ้ กินได้หมดแหละ แค่เลือกไม่ถูกว่าจะจ้วงจานไหนก่อน” ผมโม้ไปส่งๆ ทำตัวเป็นสายตะกละกลบอาการตัวเอง  นายต้นสนรับหน้าที่นักแนะนำอาหารทันทีครับ เขาตักไข่เป็ดต้มมาใส่ในจานข้าวผมฟองนึง ตามด้วยการเลื่อนถ้วยน้ำปลาที่ใส่หอมซอยและพริกมาให้ใกล้ผมมากขึ้น พร้อมกับย้ำคำชวน

“ต้องกินนะ โดยเฉพาะน้ำจิ้ม เด็ดมาก ถึงเครื่องสุดไรสุด ผมเคยขอสูตรแม่ไปทำกินเองที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้ตามนี้ ไม่รู้ปรุงรสผิดตรงไหน

คนช่างพูดก็พูดได้สมบทบาทมากครับ ผมพยักหน้าพร้อมเบิ่งตาโตแล้วก็กินไข่เป็ดต้มราดน้ำจิ้มดาวเด่น อร่อยจริงๆ ครับ อร่อยมาก แต่ก็ไม่ทำให้ผมละสายตาจากการลอบสังเกตท่าทางนายค้ำจุนได้เลย

กูต้องเสียแก้มให้มือไอ้หมอนี่แน่ๆ
คนที่ลูบแก้มผมเมื่อคืนไอ้คนนี้แน่ๆ
นี่ไม่ใช่การคาดเดาที่เอนเอียงหรอกครับ เขาเคยทำแบบนี้กับแก้มผมมาแล้ว ทำไมเขาจะไม่ทำอีก

ผมไม่คิดว่านายต้นสนจะมาฉวยโอกาสกับร่างกายผม แม้เขาจะเปิดเผยความรู้สึกชอบให้ผมรู้ตรงๆ แล้วก็ตาม เพราะเขาไม่เคยแสดงกิริยาแบบนั้นมาก่อน แตะตัวเอยไรเอยยังไม่เคยทำ

เพราะฉะนั้น ไอ้คนฉวยโอกาส ต้องเป็นนายค้ำจุนแน่ๆ

“เอ้ออคุณ” ผมโพล่งขึ้นดื้อๆ ทำให้ตกเป็นศูนย์กลางทางสายตา แต่ผมไม่หวั่นไหวหรอกครับ ผมจ้องตานายค้ำจุนแล้วก็ตีหน้าซื่อถาม
“เมื่อคืนไปนอนกันตอนไหนอ่ะ แล้วใครปิดไฟห้องให้ผมหรอ
จริงๆ เปตั้งใจจะปิดไฟก่อนนอนช่วยแม่ประหยัดนะครับ แต่เหมือนจะเพลียแดดไปหน่อย ก็เลยหลับไปก่อน”

“ผมเอง” นายค้ำจุนตอบตรงๆ ทำเอาใจผมกระตุกรัวขึ้นมาทันที เพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบเร็วแบบนี้

ทำไมแม่งไม่สะทกสะท้านเลยวะ
หรือว่ามั่นใจมากว่าผมหลับ เลยคิดว่าผมไม่มีทางรู้แน่ๆ ว่าถูกแต๊ะอั๋ง
หรือไม่ การลูบแก้มคนอื่นก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรกับเขา

“อ่อ....งั้นก็... ปิดให้เพราะงกล่ะสิ ใช่มะ?
ไงก็...ขอบคุณนะ” ผมยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็กินข้าวต่อ แม่งอร่อยทุกอย่างเลยว่ะ ไม่น่าต้องมานั่งคิดมากเรื่องนี้เลยจริงๆ ทำเอาอาหารเสียอรรถรสหมด

.

งานพ่อค้าแคคตัสยังไม่จบลงครับ พวกเขาทำงานกันอย่งาคึกคักมากจริงๆ สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ตอนนี้พวกเขา 2 คนมาจ่อมอยู่ที่โรงเรือนแคคตัสเพื่อไลฟ์ขายต้นไม้ ซึ่งมันเป็นกิจกรรมที่ผมสามารถช่วยเขาอยู่เบื้องหลังได้ แม้จะทุลักทุเลมากก็ตาม เพราะอย่างน้อยผมก็ยกกระถางต้นไม้มาโชว์ที่โต๊ะกลางโรงเรือน เพื่อให้ 2 พ่อค้าเค้าแนะนำได้แหละครับ ส่วนคนชี้เป้าว่าพ่อค้าอยากให้ช่วยยกกระถางไหนก็คือแม่นายค้ำจุนครับ

ใช้แรงงานอยู่ดีๆ หน้าที่แอดมินตอบคำถามลูกเพจก็โยนมาลงหัวครับ นายต้นสนขอให้ผมคอยพิมพ์ตอบที่ลูกเพจถามในไลฟ์ครับ ซึ่งมันก็ไม่ยากแม้ว่าผมจะไม่รู้ราคาแต่ละต้นเลย เพราะก็แค่พิมพ์ตามที่เขาพูดในไลฟ์แหละครับ อ้อ! จะยากก็ตรงที่เขียนชื่อสายพันธุ์มันไม่ค่อยถูก ก็ชื่อมันสุดแสนจะสะกดยากนี่ครับ

“ราคาแอริโอคาร์ปัส เมื่อกี้ 1500 บาทนะครับ ไม่ใช่ 150 บาท ขอโทษลูกค้าด้วยนะครับ แอดมินเพิ่งทำงานวันแรกครับ
แอดมินพิมพ์แก้ราคาด้วยนะครับ ถ้าลูกค้ากดซื้อที่ราคา 150 บาท ผมจะหักเงินค่าจ้างคุณนะครับ”

โหดแท้วะ!
ผมค้อนใส่ แต่ก็รีบพิมพ์ราคาใหม่ลงไปทันที ก่อนที่จะมีลูกค้ามือไว FC มาก่อนผมพิมพ์เสร็จ เพราะผมกลัวโดนหกค่าจ้างครับ แม้จะเพิ่งรู้เมื่อกี้ว่าได้ค่าจ้างก็เถอะ

การไลฟ์ขายต้นไม้แบบปุบปับของ 2 พ่อค้านี่ทำเงินได้หลายหมื่นเลยนะครับ ผมเห็นการจองต้นไม้ของสาวกพวกเขาแล้วก็อึ้งเหมือนกัน

“ไม้สวยก็เรื่องนึง พ่อค้าหล่อก็อีกเรื่องนะเป เรื่องใหญ่กว่าด้วย
ผมเคยไลฟ์คนเดียว ยอดมานิดหน่อยเอง เพราะลูกค้าที่ชอบไม้ผมส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย หน้าตาหล่อๆ ของผมก็เลยไม่มีผล”

“ส้นตีนเถอะต้น ลูกค้าไม้กูก็ซื้อเพราะชอบต้นไม้กูเถอะ” มีคนร้อนตัวครับ นายต้นสนหันมาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับผมและแม่ของนายค้ำจุน ส่วนคนร้อนตัวกำลังไถโทรศัพท์ดูยอดโอนแล้วก็ง่วนกับการจับคู่คนสั่งซื้อกับต้นไม้ที่ขายออกอยู่ครับ

ข่าวดีก็คือ ไอ้เจ้ากุมารดำเรียกทรัพย์ที่ผมเผลอไปสบตากับมันเข้าก็ขายออกเช่นกันครับ มันไม่ได้โชว์ตัวด้วยซ้ำ แต่มีคอมเมนต์ถามว่ามีมั้ย และผมตอบกลับไปว่ามีครับพร้อมบอกราคา ทางนั้นก็จองทันที และน่าจะโอนเงินมาแล้วด้วย วัดจากการที่นายค้ำจุนบอกกับแม่ของเขาว่าขายกุมารไปแล้วนะ

“เฮ้ย ต้น มาดูนี่หน่อยดิ” นายค้ำจุนเรียกเพื่อนรักไปจ่อตากับหน้าจอโน้ตบุ้คใกล้ๆ พวกเขาสุมหัวกันแป๊บนึงก็หันมามองแม่นายค้ำจุนด้วยแววตาฉงน

“แม่” นายค้ำจุนตะโกนเสียงดังทันทีที่เพื่อนรักเขาคอนฟิร์มบางย่าง
มันมาหรอ”

ผมยอมรับว่าไม่เข้าใจคำถามอันไร้ที่มาของนายค้ำจุน แต่ผมก็รู้ตัวทันทีว่าเรื่องนี้ผมเป็นคนนอกที่ควรหุบปากให้สนิท เพราะแม่นายค้ำจุนกลับเข้าใจข้อสงสัยของลูกชายทันที

“ใช่ อยู่บ้านป้าน่ะ”

“แล้วมันสาระแนมาซื้อไม้จุนทำไม อยากเอาเงินฟาดหัวกันหรอ ขอเถอะว่ะ เงินก็เงินโกงแม่ไป”

“จุน.....ไม่เอาน่าลูก
พี่เค้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย”

“แม่!!” น้ำเสียงนายค้ำจุนโมโหมากเสียจนสรรพเสียงทั่วบริเวณนี้เงียบสนิท แม้แต่เสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับขี่ผ่านไปมายังไม่มี

“เราคุยกันแล้วนะจุนว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก
ไม่อายเปลรึไง อยากให้เพื่อนรู้หรอว่าเราไม่รู้จักโต”

“แม่!!!!”

“บ่ายแล้วนี่นะ ไปกินข้าวกินปลากันเสีย แล้วก็กลับ
เดี๋ยวรถติดนะถ้าออกจากที่นี่เย็น ไปกัน เปล ต้น”

สารภาพเลยครับว่าผมไม่ขยับตัวตามที่ผู้ใหญ่เรียก แต่ผมกลับหันมองนายค้ำจุนที่ยืนโกรธแม่จนหน้าเบ้บูดไปหมด เมื่อเขาไม่ขยับ ผมก็เลยต้องขยับตัวก่อน

“ต้น ช่วยแม่จัดสำรับข้าวละกัน เดี๋ยวเรา....ช่วยจุนเก็บของเอง” ผมส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือประกอบคำสั่งแกมขอร้อง

“อ่อ....อื้ออออ ฝากด้วยนะเป
ไปกันครับแม่ เดี๋ยวต้นช่วย เราต้องอุ่นแกงอะไรมั้ยครับ”


คำถามเกี่ยวกับอาหารดังห่างออกไปตามระยะห่างที่นายต้นสนกับแม่ทิ้งไว้ พอทั้งบริเวณเหลือกันแค่ 2 คน ผมก็ทำตามที่ลั่นวาจา ใช่ครับ เก็บของ

เจ้าของโรงเรือนแคคตัสเตะเศษดินเศษหินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่ครู่หนึ่งก็นั่งลงที่เก้าอี้ที่รูปร่างเหมือนขอนไม้

“แม่ก็เป็นงี้ตลอด
รักมันมากกว่าลูก”

ต้องตอบอะไรมั้ยวะเนี่ย? ผมสงสัยอยู่คนเดียว ไม่ได้ตอบโต้คำพึมพำของนายค้ำจุน

“ไอ้นั่นก็กวนตีน มันเหลี่ยมจัดจะตาย แม่มองมันไม่ออกหรอก”

ผมก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดีครับ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“แม่ง.....เฮงซวย!”

ผมเก็บของมารวมๆ กันและจัดแบ่งสัดส่วนให้ง่ายสำหรับการหอบหิ้ว เมื่อรู้สึกว่ามันน่าจะหยิบยกได้ง่ายแล้วก็เอ่ยชวนเขา

“กินข้าวกันเถอะ”

“..........” เขาเงียบใส่ มองหน้าผมแบบไม่สบอารมณ์ แต่ผมรับรู้ได้ว่าเขาไม่ได้ไม่สบอารมณ์กับผม เขาแค่ยังสลัดความอารมณ์เสียออกไปไม่ได้ 

ผมยื่นมือไปจับประสานกับมือเขา มองหน้าแล้วยิ้มชักชวนอีกครั้ง

“กินข้าวกัน”

“ไม่หิว”

“ผมรู้ว่าคุณอารมณ์เสียเพราะห่วงแม่ แม่คุณก็น่าจะรู้เหมือนกัน แต่ถึงจะรู้ว่าคุณอารมณ์เสียเพราะเป็นห่วง แม่ก็ยังอยากให้คุณกินข้าว เพราะงั้นก็ไปกินข้าวกัน แค่กินข้าว มันไม่ได้ทำให้ความห่วงแม่จนอารมณ์เสียลดลงหรอก”

“...........”

“ผมรู้ว่าผมพูดอะไรก็ดูไร้สาระไปหมดเพราะคุณกำลังอารมณ์ไม่ดี แต่เราไปกินข้าวกันเถอะ
คุณลองหายใจยาวๆ เก็บของพวกนี้ให้เรียบร้อย แล้วก็กินข้าว
แล้วพอเราขับรถกลับคอนโด ระหว่างขับรถ คุณอาจจะคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ขึ้นมาแล้วก็อารมณ์เสียอีก แต่อย่างน้อยนะจุน.... คุณจะไม่หิวจนอารมณ์เสียกว่าเดิม”

“...........”

“ผมไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้คุณต้องฉุนเฉียวขนาดนี้
แต่ถ้าลองทำตัวปกติด้วยการเริ่มกินข้าวเพราะถึงเวลากิน คุณอาจจะรู้สึกดีเร็วขึ้นก็ได้
.....นะ....”

เขาสูดลมหายใจเข้าจนตัวยืดขึ้น แล้วก็ผ่อนลมหายใจจนไหล่ห่อ นายค้ำจุนบีบมือผมกลับแล้วก็พยักหน้า เราช่วยกันหอบข้าวของสำหรับการไลฟ์ขายของกลับไปเก็บในรถ แล้วก็ไปร่วมวงกินข้าว

แม่นายค้ำจุนไม่ได้ดุลูกชายในเหตุที่ขึ้นเสียงใส่เมื่อกี้ ผู้หญิงใจดีคนนี้ยังตักข้าว ตักกับข้าวให้ลูกชายของเธอเหมือนเดิม และก็ยังดูแลเพื่อนของลูกชายด้วยความใจดีเหมือนเดิม

.

แม้นายค้ำจุนจะเงียบใส่แม่ แต่ก็ยอมรับของกินที่แม่ตระเตรียมไว้เป็นของฝากโดยไม่โต้เถียงใดๆ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมเป็นคนรับของกินน่าอร่อยเหล่านี้ไว้แล้วพูดขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจไปหมดแล้ว

เราเดินทางออกจากบ้านที่ราชบุรีของนายค้ำจุนด้วยสายตาเศร้าหมองของพลขับ คนที่นั่งข้างๆ อย่างผมอดทนกับบรรยากาศอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องเอ่ยปากถาม

“คุณ.....ทำไมตะโกนใส่แม่แบบนั้นล่ะ
เกี่ยวอะไรกับ....คนที่มาซื้อต้นไม้หรอ”

“อือ” เขาตอบรับในที่สุดหลังจากที่ขับรถเงียบๆ อยู่นาน

“ลองเล่าให้ผมฟังก็ได้นะ เผื่ออารมณ์ดีขึ้น”

“........”

“ยังไงเราก็อยู่ด้วยกัน”

“ฮึ....แค่เพราะอยู่ด้วยกัน ผมก็เลยเล่าอะไรๆ ให้คุณฟังได้หรอ
ถ้าผมจะเล่าอะไรให้ใครฟัง หรือใช้ใครเป็นเครื่องมือระบายความโกรธแค้น มันไม่ใช่เพราะอยู่ด้วยกันหรอกเปล
คุณจะได้ฟังเรื่องของผม เพราะคุณเป็นคนสำคัญมากต่างหาก

“.........”

“ทีนี้ คุณคิดว่าผมควรเล่าอะไรให้คุณฟังเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้นมั้ยล่ะ
.....ตอบสิ......”

ผิดคาดแฮะ ทำไมกลายเป็นผมที่ต้องมีซีนอารมณ์แทนล่ะ
ถ้าเขารู้สึกทุกข์ ก็แค่ปรับทุกข์กับผมสิ แค่นั้นเอง ง่ายจะตาย ไม่เห็นต้องถามอะไรชวนสับสนแบบนี้เลย

บรรยากาศในรถเงียบต่ออีกพักใหญ่ จนกระทั่งนายค้ำจุนเลี้ยวรถเข้าปั๊มยอดฮิต แล้วจอดหน้าร้านกาแฟ เขาหันมองผมแล้วก็พยักหน้าชักชวนให้ลงจากรถ

แอร์ในร้านกาแฟน่าจะทำให้ความหัวร้อนของเขาลดลงแล้วแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่หันมาถามผมว่าจะดื่มเครื่องดื่มเมนูไหน แล้วก็จัดการสั่งให้ พร้อมกับบอกให้ผมเลือกโต๊ะนั่งรอ

กาแฟดำคนละแก้ววางอยู่ตรงหน้าเราทั้งคู่ นายค้ำจุนเหม่อมองวิวด้านนอกอยู่พักใหญ่โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ แต่ผมกลับไม่รู้สึกอัดอัดจนอยากลุกหนีไปจากความเงียบนี้

จนกระทั่งกาแฟพร่องลงไปครึ่งแก้ว นายค้ำจุนก็ยกโทรศัพท์แนบหู ผมหันมองความเคลื่อนไหวเล็กน้อยนั้นแล้วก็หันไปมองวิวที่ไม่ได้มีอะไรน่าชมสักนิดเหมือนเดิม

“จุนขอโทษครับแม่”

เก่งมาก ค้ำจุน
ผมเอ่ยชมเขาอยู่ในใจ รู้สึกได้ว่าตัวเองผมยิ้มนิดหน่อย ผมแก้อาการดีใจของตัวเองด้วยการยกกาแฟขึ้นมาดูดยาวๆ  นายค้ำจุนเองก็คงเขินนิดๆ ถึงได้แก้อาการด้วยการดูดกาแฟให้มันยาวกว่าผม

“ขอบคุณนะ” เขาแตะไหล่ผมแล้วบอกเบาๆ จากนั้นก็เดินออกจากร้านไป พอลับตาเขาแล้วผมก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างรู้ตัวทุกอณู

-คุณจะได้ฟังเรื่องของผม เพราะคุณเป็นคนสำคัญมากต่างหาก-

วันนี้ เวลานี้ ผมยังไม่ได้รับรู้เรื่องราวของเขาเพิ่ม เท่ากับว่าผมยังไม่ได้เป็นคนที่สำคัญมากสินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนสำคัญของเขาอยู่แล้ว ผมพอใจแล้วที่เราเป็นคนที่อยู่ด้วยกัน

Home*Mate

ดูเหมือนกระแสความขุ่นเคืองอยู่ฝ่ายเดียวของนายค้ำจุนจะอันตรธานไปแล้วครับ เขากลับมาคุยโทรศัพท์กับแม่เขาเหมือนเดิม น้ำเสียงกลับเป็นลูกชายซึนๆ ของคุณแม่ช่างห่วงเหมือนเดิมแล้ว แต่กว่าเขาจะกลับไปหวานชื่นกับแม่เขาเหมือนเดิมก็อาทิตย์กว่าแหนะครับ นายคนนี้ขี้งอนน่าดู

ส่วนผมนั้น ก็ยังเป็นผู้ชายที่รักพ่อกับแม่แบบห่างๆ อยู่เหมือนเดิม อาจเป็นเพราะผมชินกับการอยู่ตัวเอง ในแบบที่ตัวเองยอมรับจะอยู่แล้วด้วยล่ะมั้ง ผมก็เลยไม่มีอาการโฮมซิก

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับพี่สาวผมครับ อย่างน้อยๆ เจ๊ป๋อมก็มาระรานผมทางไลน์บ่อยๆ เรื่องที่ชวนคุยก็เรื่องไปหาพ่อกับแม่ที่อ่างทองแหละครับ

ผมไม่ใช่คนที่ทำให้ทริปไปอ่างทองมีปัญหาสักนิด ปัญหาหนึ่งเดียวก็คือเจ๊ป๋อมเคลียร์งานไม่ได้เอง จนเวลามันล่วงเลยมาถึงเสาร์-อาทิตย์นี้ ที่ถึงจุดลงตัวในที่สุด

“อื้อคคุณ เสาร์-อาทิตย์นี้ผมจะไปอ่างทองนะ” ผมบอกเจ้าของห้องร่วม รายนี้ละสายตาจากเหล่าต้นอ่อนของอะไรสักอย่างแล้วเงยหน้ามองผม

นายค้ำจุนวางอุปกรณ์ดูแลต้นไม้ไว้ที่ระเบียง ส่วนตัวเองเดินเข้าห้องมาเพื่อถามเพิ่ม

“ไป 1 คืน 2 วันหรอ อ่างทองหรอ ไปกันกี่คนล่ะ”

“ก็ 2 คนสิ ผมกับเจ๊ป๋อม อ้อ!  ถ้าคุณอยากไปด้วยก็ 3 คน
เจ๊ป๋อมฝากชวนน่ะ” ผมบอกเพิ่มหลังจากเห็นสีหน้าเขาลังเลตอนได้ยินผมกึ่งบอกกึ่งชวนกลายๆ

“ผม...ไปได้หรอ เกรงใจบ้านคุณ”

“โอ้ย ไม่ต้องเกรงใจหรอก ห้องหับเยอะแยะบ้านที่อ่างทองน่ะ ใหญ่กว่าบ้านคุณที่ราชบุรีอีก”

“เท่านี้ก็ต้องเอามาอวดรวย อ่อ....ลืมไปว่าผมเช่าห้องลูกเศรษฐีอยู่”

“ไม่ช่ายยยยย!!!” ผมแก้ตัวเสียงยาว แต่พอเห็นว่าเขายิ้มล้อเลียนอยู่ ผมก็เบาใจ ตอนแรกก็กลัวเขาคิดว่าผมอวดรวยเหมือนกันแหละครับ

“งั้น ผมขอไปด้วยนะ ต้องคอนเฟิร์มกับพี่ป๋อมใช่มั้ย เดี๋ยวผมคุยเอง” บอกจบก็ปรี่ไปเข้าห้องนอนตัวเอง สัมภาระดำรงชีพของเขาอยู่ห้องนั้นครับ รวมถึงเตียงนอน ที่นอน หมอน ผ้าห่ม แต่ก็บ่อยครั้งที่เขาชอบมาขอนอนห้องผม เหตุผลที่ยกมาก็ต่างออกไปทุกวัน ส่วนที่ใช้บ่อยสุดก็คือ ประหยัดไฟ

ผมไลน์บอกพี่สาวตัวเองว่าค้ำจุนจะไปด้วย แต่เจ๊ก็ไม่อ่านข้อความผมครับ ผมก็เลยเดาเอาว่าน่าจะคุยโทรศัพท์กับนายค้ำจุนอยู่

ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง เจ้าของร่วมห้องนี้ก็ออกมาครับ เหงื่อแตกออกมาเชียว แล้วไม่เสือกเปิดแอร์ล่ะนั่น

เขายิ้มให้แล้วก็มานั่งเบียดผมที่โซฟา ซีรีส์จาก Netflix ที่ผมกำลังดูอยู่ก็เลยถูกละเลยกะทันหัน

“คุยแล้ว ไปด้วย
พี่คุณบอกว่าพ่อคุณชอบต้นไม้ เอาต้นไหนไปฝากดีล่ะ คุณเลือกสิ ผมให้
อือออ พวกไม้มงคลมั้ย จริงๆ อยากเอาบอนสีไปให้ แต่ว่ามันอยู่ราชบุรีน่ะสิ จะไปเอาก็.... 2-3 วันนี้งานแน่นเลย ผมลาไม่ได้แหง อืมมม เอาไม้โขดดีมั้ย พอมีที่ห้องพอดี ฟรองซัวร์ก็ได้นะ”

ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมยิ้มระหว่างที่เขามาปรึกษาเรื่องหาต้นไม้ไปฝากพ่อ พอเขาหันมองเพื่อขอคำตอบ ผมก็เสทำเป็นครุ่นคิดแล้วก็ตกลงยกฐานะฟรองซัวร์เป็นต้นไม้ฝากพ่อ

ไอ้หล่อฟรองซัวร์ที่อยู่ประดับระเบียงเล็กๆ ของห้องนี้มานาน ได้ฤกษ์ออกเรือนแล้วครับ


Cut


มาแล้วค่าาาาาาา
สารภาพว่าตอนนี้ไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเขียนนิยาย แต่เหมือนเขียนไดอารี่ของคุณเปลมากกว่า เพราะชีวิตเธอช่างราบเรียบเสียเหลือเกิน  :katai5:

พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โห.. คิดถึงอ่ะ จุนจะไปบ้านพ่อแม่เป
สงสัยไปฝากตัวทำคะแนน
ขอให้โชคดี มีลูกซองเป็นของแถมนะจุน
 :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1

อุ้ยยยยแหม่ๆๆๆๆ  :katai2-1:  :katai2-1: ก้าวหน้าอีกขั้น จะได้แนะนำตัวว่าพ่อตาแล้วเนอะจุน ลนใหญ่นะเรา  o13

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
สนุกค่ะ รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
แวะมาบอกคุณนักเขียนว่ายังรออยู่นะคะ
 :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด