มันแค่อยู่ลึกลงไป........ไม่ได้ลืม ไม่ได้หายไปไหน
ไม่ได้เจอ ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากเจอ
การอยู่กับปัจจุบัน ทำให้เราอยู่ได้บนโลกใบนี้ได้ดีที่สุด
“โอ๊ย !!!!! เชี่ยเซ็น อีกแล้วนะมึง กูเจ็บจริงนะเว่ย” ผมโดนมันตบหัวจนหัวจะกลายเป็นลูกบาสอยู่แล้วเนี่ย
“โทษกูได้เหรอครับเพื่อนศิน กูเรียกมึงแล้ว แต่มึงนั่งเหม่อเอง แล้วมึงเป็นไรนักหนา ตั้งแต่กลับมาเรียนเนี่ย มึงเหม่อตลอด คิดถึงใครเหรอ?”
“ขี้เสือกวะ!” ผมเก็บเศษกระดาษใบเล็กๆที่เก็บได้เมื่อกี้ใส่เป๋าเกง...ผมชอบประโยคที่เขาเขียนไว้นะ ตรงดี
“แน่ะ ไม่ปฏิเสธกูซะด้วย...... เอานี่แล็คเชอร์กูปีที่แล้ว น่าจะมีประโยชน์กับมึงบ้าง” ผมรับแล็คเชอร์ก็เปิดดูผ่านๆ มันต้องเป็นประโยชน์สำหรับผมมากแน่ๆ เห็นมันเพี้ยนๆ ขี้เสือกแบบนี้ แต่มันเรียนเก่งนะครับ เรียนเก่งด้วยสมองที่พ่อแม่มันให้มา ส่วนความขยันนี่ก็พอไปวัดไปวาได้บ้าง
“ตกลงมึงคิดถึงใครวะ? ...................................บอกดิ กูอยากรู้”
“สักเรื่องไม่เสือกได้ไหม?”
“น่าจะไม่ได้วะ............ใคร บอกกูมาเร็ว”
“ไอ้เซ็น....”
“ถ้าไม่อยากให้กูกวน มึงก็บอกมาดิ” ผมก็พอจะรู้นะครับว่ามันขี้เสือก แต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายขนาดนี้
“แล้วนี่มึงจะขยับมาชิดกูทำไม ถอยออกไปดิ คนมองกันทั้งโรงอาหารแล้วเนี่ย”
“ดีสิ ....มึงรู้ไหมตอนนี้สาวๆเค้าชอบให้ผู้ชายกินกันเอง ฮอตนะมึง ”
“ไอ้เหี้ยเซ็น ถอยออกไป ” มันไม่ยอมลุก ผมเลยยกขาจะเตะ นั่นแหละครับ มันถึงยอมย้ายก้นไปนั่งที่ของมันได้
“หวงตัวจริงนะมึง แม่ง”
“แล้วนี่ถ่อมาถึงนี่ มีธุระอะไร ถ้าแค่เอาแล็คเชอร์มาให้ กูได้รับแล้ว ขอบใจ แล้วมึงก็กลับไปได้แล้ว”
“กูว่าจะชวนมึงเที่ยวเย็นนี้ซะหน่อย...............ห้ามปฏิเสธเว่ย กูรับกับคำปฏิเสธมึงไม่ได้อีกแล้ว มึงปฏิเสธกูมาทุกครั้งเลย.....กูก็น้อยใจเป็นนะ”
“แต่กูต้องไปรับฝ้ายวะ” ผมปฏิเสธมันไปแบบไม่เต็มเสียงเท่าไร เพราะผมบอกปัดมันมาหลายครั้งแล้ว แต่ผมไม่อยากไปจริงๆนิ
“อีกละ....เอะอะๆก็ฝ้ายๆ!!! เมียหรือแม่วะถึงต้องดูแลกันขนาดนี้ หรือง่อยแดก ทำไรเองไม่เป็นต้องให้มึงไปคอยปรนนิบัติ”
“เบาหน่อยมึง.....ที่มึงด่าอยู่อ่ะ แฟนกู”
“ก็มันจริงนี่หว่า มึงอยู่กับฝ้ายตลอดเลยกูชวนไปไหนด้วยกันก็ไม่เคยไป”
“กูก็แค่อยากดูแลเขาให้ดีเท่านั้นเอง”
“แล้วกูที่เป็นเพื่อนมึงอ่ะ ไม่ต้องเห็นหัวกันเลยใช่ไหม.....แม่ง กูละเกลียดไอ้คนเห็นเมียดีกว่าเพื่อน”
“กูว่าก็ถูกนะ....เมียทำอะไรได้ด้วยตั้งเยอะ ส่วนเพื่อนก็งั้นๆแหละ หึหึหึ”
“เหี้ยศิน....มึงนี่ แม่ง....” ขึ้นครับ มันขึ้น หน้าแดง คอแดงไปหมด
“มึงงอนกูป่ะเนี่ย?”
“น้อยใจเว่ย ไม่ได้งอน”
“เออๆ เด๋ยวกูบอกฝ้ายก่อนละกัน”
“ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ที่รู้คือ กูจะลากมึงไปกับกูให้ได้ คอยดู”
“ขนาดนั้นเชียว”
“เชี่ยศิน กูจริงจัง” การทำลายอวัยวะภายในกลายเป็นเรื่องจริงจังไปแล้วครับ
"กูขึ้นเรียนก่อนละ ยังไงเดี๋ยวกูโทรบอกตอนเรียนเสร็จ มึงก็กลับไปเรียนได้ละ"
ไม่อยากขัดใจมันมากครับกับไอ้นี้ พลังบ้าของมันเยอะกว่าคนธรรมดาทั่วๆไปเยอะมาก
มันทำได้ทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆเพื่อให้มันได้ในสิ่งที่ต้องการ
"แล้วจะไปไหนกัน?"
"ไม่รู้วะไอ้เลกับไอ้บีนเลือก มึงกับกูมีหน้าที่ติดสอยห้อยตามแล้วก็ไปนั่งหล่อๆก็พอละ แต่มันบอกไว้ว่าร้านนี้อย่างแจ่ม เพิ่งเปิดได้ไม่นานหลังปิดปรับปรุงมาซักพักละ"
ผมกับไอ้เซ็นแยกย้ายกันไปเรียน
ผมต้องกลับมาเรียนปีสามใหม่ เพื่อนๆก็ขึ้นปีสี่ตามระเบียบ
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผมเป็นคนเริ่ม เพราะฉะนั้นผมไม่มีสิทธิ์มานั่งคิดเสียดายหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้นกับเรื่องทั้งหมด
พ่อบอกผมไว้อย่างนั้น และผมก็เห็นด้วยกับพ่อ ผมไม่มีสิทธิ์
เรียนเสร็จผมก็โทรไปบอกฝ้ายว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน
เธอก็ไม่ได้ห้ามหรือถามอะไร แค่บอกว่าอย่าดื่มมาก อย่ากลับสว่าง ขับรถระวังๆ และสุดท้าย เธอบอกว่า เธอรักผมมาก
จริงๆฝ้ายไม่เคยห้ามผมเรื่องดื่มกินเที่ยวกับเพื่อนเลย ผมเองทั้งนั้นที่ไม่อยากไป เลยยกเธอมาอ้าง ฝ้ายไม่งอแง ไม่เอาแต่ใจเหมือนอย่างก่อนแล้ว อาจเป็นเพราะเราต่างคนต่างโต ต่างคนต่างผ่านอะไรมาเยอะเหลือเกิน
บางอย่างผ่านมา ก็เพื่อให้ผ่านไป
แต่บางอย่างผ่านมา กลับไปยอมผ่านไป มันยังติดลึกตรงไหนก็ไม่รู้ ถ้าไม่ลองค้นดีดี ก็อาจจะหาไม่เจอ
ผมลงมาจากตึกเรียนก็เห็นเพื่อนๆรอกันอยู่แล้ว
พวกมันดูเหมือนมั่นใจมากว่าผมจะไปด้วย และพวกมันก็คิดถูก บอกแล้วไง ผมไม่ชอบขัดใจไอ้เซ็น ไอ้เพื่อนเทวดา
อีกอย่างผมไม่ค่อยสนิทกับรุ่นน้องที่เรียนด้วยเท่าไร อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่าผมคือรุ่นพี่ พวกเขาคือรุ่นน้อง มันเลยมีความเกรงใจหรือเส้นบางๆกั้นไว้ อีกอย่างเกิดจากตัวผมเองนี่แหละที่พอเรียนเสร็จก็ขอตัวกลับบ้านก่อน ไม่เคยได้ไปนั่งคุยนั่เล่นด้วยกันหรอก แต่เวลามีงานกลุ่มหรือรายงานเรา พวกเขาก็ช่วยผมดีกันทุกคน
แต่ทุกอย่างที่พูดมา ยกเว้นไอ้มอสคนเดียว น้องรหัสไอ้เซ็น
และคืนนี้มันก็ขอตามผมไปด้วย บอกว่าอยากกินของฟรีจากพี่รหัส
"มึงพาไอ้ลิงหน้ากวนตีนนี่มาด้วยทำไม?"
"โห พี่เซ็น ผมน้องรหัสพี่นะ ให้เกียรติกันหน่อยดิ"
"กวนตีนละไอ้มอส ให้ดิ้นตาย กูเกลียดขี้หน้ามึงจริงๆไอ้มอส นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นน้องรหัสกูนะ กูซ่อมมึงจนต้องย้ายคณะแล้วแหละ"
"แต่พี่ก็ไม่ทำใช่ไหมละ?"
"หยุดกัดกันเหอะ กูเบื่อคู่พวกมึงละ นี่ถ้าผัวเมียนะ กูว่าลูกพวกมึงดกกว่ากล้วยอีกวะ......ไอ้มอสขอไปด้วย "
"ก็ดี ไปเยอะตัวหารก็เยอะ แดกได้เยอะ" ไอ้เลลุกยืนนำทีม
"อ้าว พวกพี่ไม่ได้จะเลี้ยงผมหรอกเหรอ?"
"แดกเองก็จ่ายเองดิ.....พวกกูใช่ญาติผู้ใหญ่ทีต้องมานั่งเลี้ยงมึงไหมละ?"
"โห พี่เลใจดำวะ ผมเคยช่วยพี่จีบเพื่อนผมนะ....ถึงสุดท้ายพี่จะจีบไม่ติดเองก็เหอะ"
"ติดกับเชี่ยมึงสิ ก็เขาดันไปชอบมึงซะนิ" ผมหันไปมองหน้าไอ้มอส ที่เดินเคียงๆกัน
"ผมเปล่าแย่งนะพี่....ผู้หญิงมาชอบผมเอง...แล้วผมก็ไม่ได้สานต่อด้วย ของพี่ของเชื้อ ผมไม่ยุ่ง"
"ก็ดี"
ไอ้เลก็สนิทกับผมมากเหมือนกัน เพื่อนในกลุ่มกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง
มันเป็นหนึ่งในคนปากแข็งมากถึงมากที่สุดที่ผมรู้จัก
เช่นเรื่องเลี้ยงน้องอะไรแบบนี้ ผมเห็นมันพูดแบบนี้ทีไร พอถึงตอนต้องจ่ายตังค์ก็เห็นจ่ายให้น้องๆด้วยทุกที ปากดีเพื่อให้ตัวเองดูเลไปทำไมก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจคนอย่างมันเหมือนกัน
กลุ่มผมไปกันทั้งหมดห้าคน
มีผม ไอ้มอส ไอ้เซ็น ไอ้เล แล้วก็ไอ้บีน สนิทๆกันทั้งนั้น
ร้านที่เรามาเป็นร้านนั่งเพื่อดื่มจริงๆ ดื่มแบบเต็มรูปแบบ ค่าเหล้า ค่านู่นนี่คงสูงมาก
ผมชักเสียดายเงินแล้วสิ เงินหายากครับ
"พวกมึงกูว่าร้านแพงไปวะ เปลี่ยนร้านเหอะ" ผมเสนอความคิด และดูเหมือนผมจะกลายเป็นตัวประหลาดทันทีที่พูดจบ
"ที่ไหนสนุก ที่นั่นมีบีนครับ เชื่อกูไอ้ศิน ร้านนี้เด็ด" ดูเหมือนทุกคนจะเห็นด้วยกับไอ้บีน
"แต่กูว่าคงแพงมาก"
"พี่ศิน เดี๋ยวส่วนของพี่ ผมจ่ายให้เอง ส่วนส่วนของผมรบกวนพี่รหัส พี่เล แล้วก็พี่บีนช่วยจ่ายให้ผมด้วยนะครับ"
"งั้นมึงเอาตีนพวกกูสามคนไปดื่มแทนละกัน"
น้ำน้อยแพ้ไฟฉันใด คนอยากดื่มน้อยย่อมแพ้คนอยากดื่มมากฉันนั้น
เพราะพวกมันสี่ตัวเดินหาที่นั่งกันแล้ว
เอาาวะ ค่อยไปหยอดกระปุกเพิ่มเอาละกัน