“อะไร?” งงกันสิครับ จู่ๆ มันก็ยื่นโทรศัพท์มันเองมาตรงหน้าผม
“เบอร์โทรมึง”
“ขอกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอครับ”
“อยากได้ก็ขอ มันก็แค่นั้นป่ะ” นั่นสินะครับ คุณเต้ยเป็นแบบนี้เสมอ สมองและการกระทำจะไปพร้อมๆกัน ผมอิจฉามันมาก เพราะการกระทำและความคิดของผมมักจะสวนทางกันบ่อยเกินไปแล้ว
ผมยิ้มและหัวเราะออกมาเสียงดังกับความความคิดง่ายๆและการกระทำง่ายๆของคนตรงหน้า ผมอยากเป็นแบบนี้บ้าง แต่ข้อจำกัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็เลยได้แต่นั่งหัวเราะและยิ้มยินดีกับคนตรงหน้าที่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นอย่างเต็มที่
แม่ม!! จ้องหน้ากูอีกละ
ผมเลยเสมองรอบตัวแทนที่จะมองคนตรงหน้า ตอนนี้ใต้ตึกเรียนของผมแทบจะร้างคนเต็มทีแล้ว เหลือแค่เด็กที่ทำกิจกรรมอยู่บ้าง ก็เลยไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั่งอยู่ตรงข้างหน้าผมนี่แหละ
“แล้วนี่คุณจะมานั่งรอกับผมทำไมเนี่ย กว่าแฟนผมจะเลิกก็อีกตั้งนาน” ยุงเยอะจังวะ
“ก็บอกไปแล้วนิว่าจะจีบ มึงรอแฟน กูรอมึง ....” ผมไม่เข้าใจตรรกะความคิดของมันเลยจริงๆ
“ถามจริงเหอะ นี่คุณไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอที่มาบอกว่าจะจีบผม ทั้งๆที่รู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว นี่ยังจะมานั่งรอผมกับแฟนอีก คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องไม่ดีอยู่เหรอ? ”
“มึงพูดมาตรงๆก็ได้ว่าเรื่อง เหี้ยๆ กูแมนพอ รับได้”
“อย่ามาประชดผม ตอบมา” การคุยของเราเหมือนไม่จริงจังแต่ก็จริงจัง จะว่าคุยเล่นๆก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เหมือนกำลังหยั่งเชิงกันมากกว่า..........จับยุงกินผิดไหมครับ แม่ง ดูดกูจนเลือดจะหมดตัวอยู่แล้ว ผมปัดมือบนหัวไปมา
“ถ้ามึงใจแข็งพอ ถ้ามึงมั่นคงพอ ถ้ามึงไม่หวั่นไหวกับกู แล้วแฟนมึงเชื่อใจมึงมากพอ กูก็แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ เพราะงั้นอะไรคือสิ่งที่กูต้องรู้สึกผิด”
“อะไรๆ!!!! “ จู่ๆมันเดินมาข้างหลังผม อย่าบอกว่าจะเข้ามาเตะผมนะ
“หึหึหึ” ผมแหงนหน้ามองมันแล้วยิ้มจนตาปิดกันเลยทีเดียว
“ยิ้มอะไร?” มันถามเขินๆ หน้านี่ไม่รู้จะเก๊กหรือจะยิ้มดี
“ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไร คุณไปนั่งเหอะ” ก็มันมายืนปัดไม้ปัดมือไล่ยุ่งให้นะสิ ถึงมันจะทำหน้าเบื่อๆ แต่มือนี่แกว่งไม่หยุดเลย
ผู้ชายตัวโตๆมาทำอะไรแบบนี้ โคตรจะน่ารักเลยเหอะ
ยิ่งผู้ชายแบบคุณเต้ยที่เหมือนจะไม่สนใจใคร ไม่แคร์โลก มันก็เลยโคตรของโคตรๆน่ารัก นี่ถ้าผมไม่เกรงใจนะ ผมจับฟัดแก้มไปแล้ว ฟัดในความน่ารักของมันนะครับ ไม่ใช่เพราะอย่างอื่นเลย
มันยังไม่ยอมหยุด แถมยังทำเสียงจิ๊ะจ๊ะในคอเหมือนกับกำลังรำคาญ
แต่พอโดนผมมองเยอะๆ มันก็หลุดยิ้มออกมาจนได้ ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย!!!
ผมเลยยึดมือมันลงมาจับไว้
“ไปนั่งครับ เมื่อยมือหมดแล้ว” ผมเริ่มเกลียดตัวเองละ เพราะผมรู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลัง...........
“อืม” มันยอมกลับไปนั่งที่เดิม แล้วหน้ามันก็เริ่มกลับมาเป็นไอ้คุณเต้ยกวนตีนคนเดิม
ผมไม่ใช่สาวหรือผู้หญิงเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องมาเทคแคร์ผมขนาดนั้น แต่ผมก็ชอบนะที่มีคนมาดูแลแบบนี้
อีกใจหนึ่งผมก็กลัว กลัวจะหลงไปกับความใจดีของมัน กลัวลืมความเป็นตัวเอง
ให้มันเป็นคุณเต้ยที่กวนตีนแบบนี้แหละดีแล้ว
“ว่าไงบอล?” ผมพาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้นออกมาได้เพราะมีสายเข้าจากไอ้บอล
“พี่อยู่ไหน ผมไปหาได้ไหม?” มาให้พร้อมกันเลยไหมทั้งฝ้ายทั้งคุณเต้ยทั้งไอ้บอล นี่ผมฮอตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย
“กูยังอยู่มหาลัยเลย รอแฟนกลับบ้านพร้อมกัน....มึงมีไรเปล่า?”
“ความคิดถึงนี่ถือเป็นธุระรึเปล่าละ?”
“เอาสาระเลยมึง มีไรรึเปล่า?”
"ก็คิดถึงพี่จริงๆ แค่อยากเห็นหน้าบ้างเท่านั้นเอง"
"พรุ่งนี้กูว่าง ตอนเที่ยงกูไปรับมึงละกัน แล้วค่อยไปหาไรกินกัน" ผมได้ยินมันไชโยเสียงดังมาก จนต้องยกโทรศัพท์ห่างจากหู
แต่เสียงก็ยังลอดออกมาได้
คุยกันอีกนิด ผมก็วาง
"โคตรตอแหล"
"ไปด่าไอ้บอลมันทำไมครับ" บ้าเปล่า จู่ๆก็ไปด่าคนอื่น
"ด่ามึงนั่นแหละ"
"อ้าว...ฮ่าๆๆๆๆๆ" แล้วผมก็ขำก๊ากออกมา
"หยุดขำแล้วเอาเบอร์มึงมาได้แล้ว"
"ไปขอจากไอ้มอสเอาเองนะครับ...คุณเต้ย"
"ถ้ามันถามนะ กูจะบอกเลยว่าขอเบอร์มึงเพราะกูจะจีบ..." แม่ม แพ้อีกละ
ผมฉกโทรศัพท์มันมาแล้วกดเบอร์ตัวเองก่อนคืนมันไป
"นั่นเบอร์กู" มันยิงเข้าเครื่องผม
พอได้เวลาผมก็ไปรับฝ้ายที่ตึกคณะ
มาถึงก็คนเริ่มทะยอยลงมาบ้างแล้ว
ผมเลยลงจากรถ ฝ้ายจะได้เห็นได้ง่ายๆ
พอผมเห็นเธอเดินมา ก็เดินเข้าไปช่วยถือของมีทั้งกระเป๋า ชีท หนังสือ กระเป๋าเล็กๆ
ผู้หญิงนี่แข็งแรงดีนะครับ ถือของหนักๆขนาดได้ทุกวัน โดยเฉพาะกระเป๋า
"เห็นไหมรอนานเลย ฝ้ายบอกแล้ว่าไม่ต้องรอก็ได้"
"ก็ผมห่วงของผมนิ....แล้วนี่ฝ้ายหิวไหม?"
"นิดหน่อยค่ะ...แล้วศินกินไรยัง"
"เรียบร้อยแล้ว...งั้นผมพาฝ้ายไปหาไรกินก่อนไปส่งบ้านนะ"
เดินมาถึงรถพอดี ไอ้คุณเต้ยก็เปิดประตูลงรถพอดี วิชาคำนวณมันคงได้เอ คำนวณได้แม่นมาก
ฝ้ายหันมองหน้าผมงงๆ
"อ้อ นี่เพื่อนผมเอง มันมารอเป็นเพื่อนผม ชื่อเต้ย.......ส่วนนี้ฝ้าย แฟนผมเอง"
"หวัดดีครับ เราเต้ยนะ"
"ดีคะ ฝ้ายค่ะ"
"ฝ้ายสวยเหมือนที่มึงคุยไว้เลยวะ" มันหันมาคุยกับผมก่อนจะหันไปยิ้มให้ฝ้าย
"ขอบคุณค่ะ...แล้วนี่เต้ยกินไรรึยังค่ะ"
"อ่อ...ไปกินกับ ศินเรียบร้อยแล้ว" ผมเริ่มร้อนๆหนาวๆเพราะไม่อยากไว้ใจไอ้บ้านี่เลย
"ฝ้าย งั้นขึ้นรถดีกว่า จะได้ไม่ดึกมาก"
"งั้นเต้ยนั่งหน้ากับศินดีกว่าคะ ฝ้ายนั่งหลังเอง"
"ฝ้ายนั่งหน้าดีแล้วครับ ตุ๊กตาหน้ารถสวยๆน่าจะดีกว่า มึงว่าไหมศิน" มันเรียกชื่อผมทีไรนี่เสียวสันหลังวาบทุกที
"ขึ้นรถเหอะ ยังไงก็ได้"
"ฝ้ายไม่เคยเห็นเต้ยมาก่อน รู้จักกันนานแล้วเหรอค่ะ "
"ก็นานนะ แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร"
"อ้อ....แล้วนี่เต้ยเรียนคณธไรค่ะ"
ทั้งคู่คุยกันเหมือนมากันสองคน
ผมกลายเป็นหมาหัวเน่าสนิท
กินข้าวเสร็จผมก็ไปส่งฝ้ายที่บ้าน
"วันหลังเต้ยมาอีกนะค่ะ คุยสนุกดี"
"อยากคุยกับเราวันไหนก็บอกผ่านไอ้ศินละกัน แล้วเราจะมานะ"
"ได้ค่ะ....ศินขับรถดีๆนะ ถึงแล้วโทรบอกฝ้ายด้วย....ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับวันนี้ รักศินที่สุดเลย....จูุบ ไปนะค่ะ"
พอฝ้ายลงจากรถผมถึงหันไปมองคนข้างหลัง
เห็นมันนั่งกอดอกมองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว
"ขึ้นมานั่งข้างหน้าเลยคุณ ผมไม่ใช่คนขับรถ" มันก็ไม่เถียง ลงรถ แล้วก็ขึ้นรถภายในเสี้ยววิ
"จะให้ผมไปส่งที่ไหน บ้านหรือคอนโด"
"ขืนกลับบ้าน ป้าบ่นจนหูกูไม่กระดิกแน่ที่กล้าเบี้ยวอาหารมื้อเย็น"
"ก็สมควร...ตกลงว่าให้ผมไปส่งคอนโด"
"อื้ม"
"ว่าไงมอส..............จะให้กูกลับตอนนี้เนี่ยนะ มึงก็รู้ว่ากูไม่มีรถ....................งั้นมึงก็มารับกู.......................ป้าโกรธกูมากเลยเหรอ...............เออๆ เดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ มึงเตรียมตัวจ่ายค่าแท๊กซี่ให้กูด้วย บานแน่ ....................เออๆเด๊่ยวกูรีบไป
จอดตรงนี้เลยมึง กูต้องกลับบ้าน"
"เกิดไรขึ้นทำไม" ผมตีไฟเลี้ยวจอดรถข้างทางตามที่มันบอก แต่นี่ทันจะสามทุ่มแล้ว
"ป้าโกรธกูมากที่เบี้ยวมื้อเย็น บอกว่าถ้ากูไม่กลับบ้านคืนนี้ จะไม่ทำกับข้าวปีนี้ทั้งปีเลย"
"แล้วคุณจะไปแท็กซี่เหรอ?"
"ก็กูไม่มีรถ ไอ้มอสก็ไม่ยอมมารับ "
"บ้านอยู่ไหน" มันบอกที่ตั้งบ้าน โห ไกลเลยนะนั่น
แล้วแท็กซี่จะยอมไปเหรอ
"งั้นกูลงนะ มึงก็ขับรถดีดีละ"
"เดี๋ยวครับ ผมไปส่งเอง"
"โอเค ไปกันเลย" มันแทบจะแทรกประโยคผมขึ้นมาเลย
ใช้เวลาสี่สิบนาทีในการเดินทางก็มาจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง
"บ้านลุงกับป้ากู หรือพ่อแม่ไอ้มอสนั่นเอง" มันเดินนำผมเข้าบ้าน
ในหัวนี่ก็เตรียมคำพูดแก้ตัวไม่ให้ป้ามันโกรธ
ว่างครับ ว่างมาก
ไม่มีใครอยู่เลย
"สงสัยคงขึ้นนอนกันหมดแล้ว"
"ก็ไหนบอกว่าป้าคุณโกรธมาก ผมนี่เตรียมคำอธิบาย แก้ตัวมาเต็มหัวเลย"
"ป้าแกเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว มึงอย่าสนใจเลย" อะไรของมันวะ
"งั้นกูกลับละ"
"ดึกแล้ว นอนนี่ดีกว่า กูเป็นห่วง"
"ผมขับได้"
"งั้นก็ตามใจ..ถ้ามึงกลัวกูมากขนาดนั้น"
"ใครกลัวคุณ?"
"ก็มึงไง ถ้าไม่กลัว มึงคงไม่ติดอะไรที่จะค้างที่นี่"
"จะใช้มุกนี้กับผมเหรอ? "
"นอนนี่เหอะ ดึกแล้ว หรือไม่กล้าจริงๆ "
"นำไปสิ" ผมรู็สึกเหมือนตัวเองโดนหลอกไงไม่รู้