Rule #15: Be proud of who you are.
“Happy Birthday to you~”
น้องโชเป่าเทียนวันเกิดเมื่อเพลงจบลง เด็กชายชูมือขึ้นให้ป๊ะป๋าอุ้มแล้วหอมแก้มบิดาฟอดใหญ่
“ป๊ะป๋ามีความสุขมากๆนะฮะ ทุกคนก็มีความสุขมากๆนะฮะ”
ถึงแม้จะเป็นวันเกิดของตัวเอง แต่เด็กน้อยไม่ได้คิดถึงแค่ความสุขของตัวเอง ขวัญข้าวนึกภูมิใจในตัวน้องโชแทนผู้ใหญ่ที่เลี้ยงเด็กน้อยให้มีหัวใจกว้างขวางแบบนี้
เค้กถูกตัดแบ่งให้พวกผู้ใหญ่ตามลำดับอาวุโส เจ้าของงานตัวน้อยวิ่งวุ่นแจกจานเค้กเพื่อรับศีลรับพรจากคนเฒ่าคนแก่ด้วยรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้า
“พี่ข้าว พี่ข้าวจะกินกับอานายหรือจะเอาอีกชิ้นฮะ”
น้องโชถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงคนทั้งสอง แต่ยังไม่ทันทีขวัญข้าวจะตอบ ร่างที่ยืนอยู่ข้างเขาก็ตอบแทนเสียก่อน
“อาทานกับพี่ข้าวก็ได้ครับคนเก่ง เป็นเด็กดี สุขภาพแข็งแรงนะครับ”
“ฮะ!”
น้องโชยิ้มกว้างรับคำอวยพรแล้ววิ่งกลับไปเอาเค้กที่บิดากำลังตัดไปให้แขกคนอื่นๆต่อ
“ขวัญไม่ค่อยชอบขนมฝรั่งใช่มั้ยล่ะ กินกับฉันนี่แหละจะได้ไม่เสียดาย”
เจ้านายของเขาเอ่ยอย่างรู้ทัน ใช้ส้อมตัดเอาเค้กสีเหลืองนวลที่มีกลิ่นสัปปะรดลอยออกมาไปจ่อที่ริมฝีปากรูปประจับนุ่มหยุ่นที่เขาเพิ่งได้ลิ้มรสไปเมื่อครู่เพียงไม่กี่วินาที ขวัญข้าวอ้าปากรับ รู้สึกเขินอายเล็กน้อยแต่คิดว่าภายในความมืดแบบนี้คงไม่มีใครเห็นพวกเขา
“อร่อยมั้ย?”
“ครับ”
ร่างเล็กยิ้มให้คนป้อนที่ตักเค้กกินเองคำนึง ก่อนจะตักมาป้อนเขาอีกครั้งด้วยส้อมคันเดิม แม้จะรู้สึกขัดเขิน แต่ขวัญข้าวก็ต้องยอมรับว่าหัวใจของเขาในตอนนี้พองโตจนแทบคับอก
“บัดสี”
เสียงแหลมของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น ขวัญข้าวและจอมทัพหันไปทางต้นเสียงอย่างตกใจ หญิงสาวคนหนึ่งในชุดราตรีและเครื่องเพชรหรูหราไม่เข้ากับงานวันเกิดเด็กเจ็ดขวบกอดอกมองพวกเขาด้วยสีหน้าขยะแขยง
“นี่คุณ...”
จอมทัพขมวดคิ้ว ไม่คุ้นหน้าผู้หญิงที่กำลังยืนประณามพวกเขาอยู่ในตอนนี้
“น่ารังเกียจ เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆมายืนป้อนเค้กกันกลางงานแบบนี้ ทุเรศที่สุด”
ขวัญข้าวยืนตัวลีบเล็กอยู่ด้านหลังของจอมทัพที่ก้าวเข้ามาบังคนรักไว้ บรรดาแขกเหรื่อในงานที่ได้ยินเสียงเริ่มหันมาสนใจพวกเขา เช่นเดียวกับครอบครัวของจอมทัพที่มีสีหน้าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“คุณ!”
จอมทัพจะขยับเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้า แต่ถูกขวัญข้าวกอดแขนไว้แน่น เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายมีเรื่องกับผู้หญิงต่อหน้าน้องโช
“ทำไม? จะทำอะไรฉัน? รู้เอาไว้ซะด้วยว่าฉันเป็นภรรยาของคุณสุชาติ ญาติสนิทของคุณแขไข คนงานต่ำๆอย่างพวกแกฉันออกปากท่านก็เฉดหัวทิ้งแล้ว!”
การแต่งกายของจอมทัพในตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดฟรีจากงานอะไรซักอย่างของบริษัทและกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ส่วนขวัญข้าวนั้นยิ่งกว่าเด็กกะโปโลในชุดไปรเวทเพราะเชื่อคำของเจ้านายที่ว่าเป็นแค่งานวันเกิดเล็กๆ หากจะให้พูดกันตรงๆบริกรของงานนี้ยังแต่งตัวดูมีคลาสกว่าพวกเขามากนัก ร่างเล็กจึงพอจะเข้าใจได้ว่าคุณตู้เพชรเคลื่อนที่ตรงหน้าไปได้ความคิดนี้มาจากไหน
“ใช่ ฉันเป็นเจ้าของงานนี้ ฉันจะเฉดหัวใครออกจากงานก็ได้”
คุณนายแขไขเอ่ยเสียงเย็นหลังจากที่เช็คจนแน่ใจแล้วว่าจักรภัทรอุดหูลูกชายของตัวเองไว้แน่นดีแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงสนับสนุนจะคนที่ไม่คาดคิด ริมฝีปากสีแดงสดของหญิงสาวยิ่งเหยียดยิ้มกว้าง
“รวมทั้งผู้หญิงหิวเงินไร้วุฒิภาวะอย่างเธอ ออกไปจากงานของหลานชายฉันเดี๋ยวนี้!”
คำด่าของหญิงชราทำเอาจอมทัพหลุดขำพรืดออกมา
“แม่ครับ เขาพูดภาษาคนได้รึเปล่า ผมว่าเรียกกรมปศุสัตว์มาจัดการดีมั้ยครับ?”
ร่างสูงหยอก เรียกเสียงหัวเราะจากคนในงานได้เป็นอย่างดี
“มะ..แม่?”
หยิงสาวหันมองหญิงชราในชุดผ้าไหมราคาแพงและชายหนุ่มในเสื้อยืดฟรีสีซีดสลับไปมาอย่างสับสน
“อ้าว ไม่เข้าใจภาษาคนจริงด้วย? จะให้ฉันเอาเชือกมาร้อยห่วงที่จมูกแล้วจูงไปมั้ย?”
คุณแขไขท้าวสะเอวอย่างไม่พอใจ น้องโชที่โดนอุดหูแน่นเห็นคุณย่าท้าวสะเอวก็รีบชี้ให้ป๊ะป๋าของตัวเองดู
“คุณย่าโกรธแล้วฮะ”
จักรภัทรพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับลูกชาย
“ยังไม่ไปอีก ต้องเอาน้ำมนต์มาสาดมั้ย”
หญิงชราแค่ขยับเข้าใกล้ หญิงสาวในชุดราตรีก็สะดุ้งโหยงอย่างตกใจแล้ว
“เชอะ..ที่..ที่ฉันมาเพราะสามีไม่ว่างหรอกนะ ไม่งั้นฉันไปดินเนอร์ที่มิลานแล้ว” ใบหน้าสวยสะบัดอย่างไม่สำนึก คว้าแขนของน้องขุนศึกที่ยืนอยู่ใกล้ๆแล้วกระชากอย่างแรง
“ไอ้ศึก! กลับ!”
เด็กชายไม่พูดไม่จา พยายามดึงแขนออกจากมือของหญิงสาว แต่เมื่อโดนเล็บยาวๆจิกครูดจนได้เลือดซิบ เด็กชายก็ยอมเดินตามด้วยไม่อยากเจ็บตัวมาก
“ปล่อยเด็ก พรุ่งนี้ฉันให้คนไปส่งได้ ส่วนเธอ มาทางในไปทางนั้นก่อนที่ฉันจะให้คนมาโยนเธอออกไป”
คุณแขไขก้าวเข้ามาช่วยเด็กชาย หญิงสาวที่โดนไล่เชิดหน้า กระแทกส้นเท้าเดินออกจากงานไป แขไขส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ หันไปหาขุนศึกที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆถึงแม้จะไม่พูดอะไร
“พ่อเราแต่งงานใหม่อีกแล้วเหรอ”
เด็กชายพยักหน้าเงียบๆ
“คืนนี้นอนที่นี่ละกัน มานี่มา เดี๋ยวป้าไปทำแผลให้”
“ป๊ะป๋า น้องโชเป็นเด็กไม่ดีเหรอฮะ ทำไมมีแม่มดมางานวันเกิดน้องโชด้วย”
เด็กชายเงยหน้าขึ้นถามบิดา เรียกเสียงหัวเราะจากแขกเหรื่อกับความใสซื่อของเด็กชายได้อีกระลอก จักรภัทรมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะอุ้มลูกชายไปอธิบายสถานการณ์ให้ฟังในบ้าน
“เชิญทุกคนตามสบายนะ อยากกินอะไรเพิ่มได้เลยนะ”
บิดาของจอมทัพเอ่ยขึ้นในที่สุดเพื่อสลายบรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่ ชายชราเดินมาหาลูกชายคนเล็กกับขวัญข้าวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“พาน้องไปพักก่อนไป ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วน่ะ”
ขวัญข้าวเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองยังคงตัวสั่นกอดแขนจอมทัพไว้แน่น ร่างสูงพยักหน้า กล่าวขอบคุณบิดาแล้วพาคนรักเข้าไปในบ้าน
“ขอโทษนะครับ ที่ผมทำให้งานวุ่นวายไปหมดเลย”
ขวัญข้าวเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อพวกเขากลับเข้ามาในห้องนอนของจอมทัพ ร่างสูงขมวดคิ้ว ดึงคนรักที่มีสีหน้าเศร้าสร้อยให้นั่งลงบนบนเตียงข้างเขา
“ขวัญ เมื่อกี้ขวัญไม่ผิดอะไรเลยนะ อย่าโทษตัวเองแบบนั้นอีกนะเข้าใจมั้ย”
ร่างเล็กพยักหน้า แต่ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เชื่อสิ่งที่เขาพูดสักนิด จอมทัพถอนหายใจ คุกเข่าลงบนพื้นตรงหน้าคนที่ก้มหน้างุดอย่างไม่สบายใจ กุมมือเล็กที่วางอยู่บนตักของคนคิดมากไว้หลวมๆ
“ขวัญ ขวัญอายเหรอที่มีฉันเป็นแฟน?”
“มะ…ไม่ใช่นะครับ!”
ขวัญข้าวส่ายหน้าพรืดอย่างตกใจ จอมทัพกระตุกยิ้มจางอย่างเอ็นดู
“ถ้าเราเป็นผู้ชายกับผู้หญิง คนอื่นคงจะไม่รังเกียจที่เรากินเค้กชิ้นเดียวกัน ขวัญกำลังคิดแบบนั้นอยู่ใช่มั้ย?”
ดวงตากลมโตไหววูบ บ่งบอกว่าสิ่งที่ร่างสูงพูดตรงกับสิ่งที่เขาคิด
“ขวัญ...”
ชายหนุ่มไล้นิ้วหัวแม่มือวนบนหลังมือเล็กอย่างทะนุถนอม
“ต่อให้เราเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย คนที่เขาอยากเห็นคนอื่นทรมาน อยากขุมหลุมฝังคนอื่นให้ตัวเองดูสูงขึ้น เขาก็จะหาเรื่องมาทำให้เรารู้สึกแย่อยู่ดี”
ขวัญข้าวเม้มปาก เขารู้ว่าเขาไม่ควรคิดมาก แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องเมื่อครู่เขาก็มีส่วนผิดด้วยหรือไม่
“ฉันรู้นะว่าขวัญชอบโทษตัวเองเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ฉันขอนะขวัญ....” จอมทัพยกมือเรียวขึ้นประทับจุมพิตลงไปบนหลังมือขาว “อย่าคิดว่าความรักของเราเป็นเรื่องผิดเลยนะ”
คำพูดหวานเลี่ยนที่หากได้ยินจากปากคนอื่นคงทำให้เขารู้สึกขนลุก แต่พอคนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่เขาแอบรักมานานกว่าหนึ่งปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดมักจะทำให้เขาหน้าแดงเสมอ
ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้ ขวัญข้าวหลับตาลงตามสัญชาตญาณ ริมฝีปากรูปกระจับเผยออ้าเล็กน้อยเตรียมรอรับสัมผัสจากร่างสูงอย่างเต็มใจ
ก็อกๆๆ
“พี่ข้าว อานาย มาเล่านิทานให้น้องโชฟังหน่อยสิฮะ”
เสียงร้องเรียกของหลายชายจากด้านนอกทำให้คนทั้งสองผละออกจากกันแทบจะในทันที
“ครับ ไปรอที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวอาตามไป”
จอมทัพตะโกนตอบ
“โอเคฮะ ไปกันเถอะฮะพี่ศึก”
ประโยคหลังอีกฝ่ายน่าจะพูดกับน้องขุนศึกที่อยู่ด้วยกัน ขวัญข้าวแล้วจอมทัพลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมตัวไปที่ห้องของเจ้าของวันเกิดตามสัญญา
“ผู้หญิงคนนั้น...เป็นแม่เลี้ยงของน้องขุนศึกสินะครับ”
ขวัญข้าวอดสงสารเด็กชายไม่ได้ ตอนเขาเห็นแผลที่แขนของขุนศึกเขายังรู้สึกเจ็บแทนแต่เด็กชายกลับไม่ร้องออกมาสักแอะ ราวกับว่าถูกปฎิบัติด้วยแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
“อือ พ่อของขุนศึกเป็นญาติห่างๆฝ่ายแม่น่ะ เอาเข้าจริงแม่ก็ไม่ชอบได้ยุ่งกับบ้านนั้นเขาหรอก เปลี่ยนเมียบ่อยอย่างกับกระดาษทิชชู่ แถมแต่ละคนนิสัยก็ไม่ไดเข้ากับหน้าตาเล้ย” ร่างสูงถอนหายใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะสงสารขุนศึกแม่คงไม่คุยกับอาสุชาติด้วยซ้ำ”
ทั้งสองเปิดประตูห้องของน้องโชออก เจ้าของห้องกำลังหัวเราะคิกคักดูรูปในหนังสือนิทานที่ได้มาใหม่เป็นของขวัญกับขุนศึกที่นั่งอยู่ข้างๆ แขนของเด็กชายพันผ้าก๊อซขาวไว้เป็นทางยาว
“มาแล้วเจ้าตัวแสบ ไหนอยากให้าอ่านเล่มไหนว่ามา”
ร่างสูงกระโดดขึ้นบนเตียงของหลานชายที่หวีดร้องอย่างสนุกสนาน ขวัญข้าวอมยิ้ม ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆคนรักที่รับหนังสือมาจากหลานชาย
“เริ่มละนะ อะแฮ่มๆ”
จอมทัพเล่นใหญ่ทำท่ากระแอมกระไอ น้องโชหัวเราะคิกคัก ขยับเข้ามาใกล้อาของตน ไม่ลืมที่จะดึงเพื่อนรุ่นพี่ให้ขยับตามมาด้วย
“กาลครั้งหนึ่ง นานนนนนนมาแล้ว...”
“....แล้วเจ้าหญิงกับเจ้าชายก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป จบ”
จอมทัพปิดหนังสือนิทานพร้อมรอยยิ้มกว้าง วางหนังสือไว้บนโต๊ะหัวเตียงของน้องโช
“อานายฮะ”
ร่างเล็กที่่กอดตุ๊กตาฟังนิทานตาแป๋วเรียกเสียงเบา
“ครับ?”
เจ้าของชื่อขานรับตามเสียงเรียก
“อานายก็จะอยู่กับพี่ข้าวอย่างมีความสุขตลอดไปใช่มั้ยฮะ? พี่ข้าวเป็นเจ้าหญิงของอานายรึเปล่า?”
ขวัญข้าวสะอึกกับคำถามใสซื่อของเด็กน้อย แต่จอมทัพกลับตอบอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ใช่ครับ”
บางที่เลขาตัวน้อยก็สงสัยว่าคำว่าอายเคยอยู่ในสารบบของเจ้านายของตัวเองหรือไม่
“ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ข้าวยังเรียกอานายว่าคุณจอมทัพล่ะฮะ?”
ร่างเล็กถามต่ออย่างไม่เข้าใจ
“นั่นสินะครับ เป็นแฟนกันก็ต้องเลิกเรียกคุณจอมทัพได้แล้วเนอะ”
ชายหนุ่มรีบพยักหน้าเห็นดีเห็นงามกับหลานชาย ขวัญข้าวอดรู้สึกหมั่นไส้คนโมเมไม่ได้
ที่น้องโชพูดก็มีเหตุผล...
แต่ว่าเขาเพิ่งเลื่อนสถานะตัวเองขึ้นมาเป็นคนรักของอีกฝ่ายได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ!
“ละ..แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะครับ”
ขวัญข้าวหลบสายตาคาดหวังของคนรักแล้วถามเสียงสั่น
“เรียกพี่นายให้ฟังหน่อยสิขวัญ”
รอยยิ้มของชายหนุ่มและดวงตาใสแจ๋วของเด็กทั้งสองทำให้ขวัญข้าวรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลังชนฝา ร่างเล็กหลุบตาลงมองผ้าห่มลายสัปปะรดของน้องโช ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
“พะ..พี่นาย”
“….น้องโชปิดไฟนอนได้แล้วนะครับคนเก่ง อาพาพี่ข้าวไปนอนก่อน”
ขวัญข้าวที่ยังก้มหน้างุดร้องเหวอออกมาเมื่อถูกร่างสูงช้อนตัวขึ้นอุ้มต่อหน้าเด็กทั้งสอง ร่างเล้กรีบคว้าคอของคนรักไว้เพราะกลัวตก จอมทัพวางร่างของเลขาตัวน้อยลงบนเตียงของตัวเองทันทีที่มาถึงห้อง สีหน้าของชายหนุ่มในตอนนี้ทำให้ขวัญข้าวรู้สึกอยากจะซักหน้าลงบนหมอนแล้วปล่อยให้เตียงดูดเขาหายไป
“ขวัญ เรียกอีกสิ”
“พี่นาย...อ๊ะ”
ชายหนุ่มก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวเนียนอย่างลุ่มหลง
“เรียกอีก”
“พะ…อ๊ะ…พี่นาย”
ความรู้สึกอุ่นชื้นที่ดูดดุนผิวกายขาวเนียนบริเวณซอกคอทำให้ขวัญข้าวหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ดูเหมือนจอมทัพจะสนุกสนานเกินกว่าจะหยุดอยู่แค่นี้
“หวานไปหมดเลยขวัญ ฉันคลั่งขวัญจะตายอยู่แล้วรู้มั้ย”
เสียงทุ้มพึมพำอย่างลุ่มหลง ผิวกายเนียนนุ่มของคนรักยิ่งทำให้เขาอยากได้อีกเรื่อยๆ แต่จอมทัพรู้ดีว่ามันยังเร็วเกินไป เขาไม่ต้องการให้ขวัญข้าวคิดวาเขาอยากได้อีกฝ่ายแค่เพราะร่างกาย
“คุณ..คุณจอมทัพ..ฮะ...”
ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อติ่งหูเย็นถูกขบเบาๆ
“เรียกพี่นายสิ” เสียงของจอมทัพแหบพร่าด้วยแรงอารมณ์
“พี่นาย...”
จะเรียกแบบไหนเขาก็โดนหม่ำทั้งนั้นแหละ!
ขวัญข้าวร้องประท้วงในใจ แต่ก็ปล่อยให้จอมทัพซุกไซร้ทำความรู้จะกับผิวกายที่ร่างสูงยังคงเข้าใจว่าตัวเองไม่เคยสัมผัสต่อไป
นุ่มอย่างที่คิดไว้ ลื่นอย่างที่ฝันไว้
จอมทพไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกในเวลาอันแสนสั้นแบบนี้
“ขวัญ ทำไมฉันถึงเสพติดขวัญแบบนี้นะ”
ร่างสูงตวัดโอบแขนรอบเอวบางเข้ามาในอ้อมกอด ร่างเล็กๆของเลขาตัวน้อยแทบจะจมหายเข้าไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่ขวัญข้าวกลับไม่รู้สึกอึดอัด ตรงกันข้าม เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“พอ…แล้วเหรอครับ?”
ขวัญข้าวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงประหม่า
“อือ…ถ้ามีความสุขกว่าฉันต้องตายแน่ๆเลย”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากริมฝีปากที่แนบอยู่กับหลังคอของเขา ขวัญข้าวหน้าแดงก่ำกำลังแรงสั่นจากเสียงของร่างสูง ร่างเล็กพยายามข่มตาลง แต่ยังคงไม่สามารถจมสู่ห้วงนิทราได้อย่างเจ้านายที่หลับสนิทไปแล้ว อาจเป็นเพราะลึกๆในใจของขวัญข้าว เขายังคงกลัวว่าหากเขาหลับไปจริงๆ เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาจะกลับไปอยู่ในห้องนอนของตัวเอง และกลับไปเป็นเลขาที่ได้แต่แอบมองเจ้านายของตัวเองอยู่ห่างๆคนนั้นอีกครั้ง
------------
คู่นี้ก้หวานไม่เกรงใจดราม่าคู่หลักแล้วเว้ยยยยย ให้เกียรติคุณเมฆนิดนึงลูก55555
