Rule#18 Be the prize in gambling.
สุดท้ายพวกเขาจึงกลับมาที่บ้านของขวัญข้าว จอมทัพทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มขนาดเล็กของคนรัก แล้วดึงเอาร่างนุ่มนิ่มของเจ้าของห้องลงมานอนทับบนตัวแล้วกอดไว้แน่น
“คุณจอมทัพ นอนคนเดียวจะสบายกว่ามั้ยครับ”
ขวัญข้าวถาม แต่ชายหนุ่มส่ายหน้าปฎิเสธ
“ไม่เอาอ่ะ ไม่มีขวัญแล้วฉันนอนไม่หลับ”
"อย่าพูดแบบนั้นสิครับ เอาอย่างนี้นะครับ ผมจับมือคุณไว้แบบนี้ ดีมั้ยครับ?"
ขวัญข้าวนั่งลงบนพื้นข้างเตียงแล้วยื่นมือให้อีกฝ่ายกุมไว้ จอมทัพฮึดฮัดเล็กน้อย แต่ก็ยอมแต่โดยดี ไม่นานนักร่างสูงก็ผล็อยหลับไป คิดว่าเมื่อคืนคงจะนอนไม่หลับอย่างที่ว่าไว้จริงๆ
"ข้าว...อุ๊ย..."
มารดาของเขาที่เดินขึ้นมาตามสะดุดกับภาพกุกกิ๊กของลูกชาย หญิงวัยกลางคนอมยิ้มให้กับลูกชายที่ยิ้มเจื่อนๆให้ ขวัญข้าวเป็นเด็กขี้อาย เธอจึงไม่อยากให้ลูกชายรู้สึกอึดอัด
"แม่ทำกับข้าวไว้แล้วนะจ๊ะ ถ้านายตื่นก็พากันลงไปกินซะล่ะ"
"ขอบคุณครับแม่"
ขวัญข้าวพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจเนื่องจากโดนคนรักจับมือไว้แน่นจนไม่สามารถไปไหนได้ ร่างเล็กเกยคางลงบนแจนของตัว นั่งมองใบหน้ายามหลับสนิทของคนรักที้เขาคุ้นเคย
"ขวัญ ฉันขอเสื้อขวัญตัวนึงได้มั้ย?"
จู่ๆคนที่ทานอาหารเช้าอยู่ก็พูดขึ้น ขวัญข้าวมีสีหน้าประหลาดใจกับคำขอพิลึกพิลั่นนั้น
"ทำไมเหรอครับ?"
"คือ...ฉันอยากมีกลิ่นของขวัญไว้นอนกอดตอนกลางคืนน่ะ"
คนถูกถามยิ้มเผล่อย่างเขินอาย ขวัญข้าวอึ้งไปเล็กน้อยอย่างไม่รู้จะตอบอะไร ก่อนจะพยักหน้าอายๆ ก้มลงทานอาหารเช้าต่ออย่างเงียบเชียบ หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกไปทำงานตามปกติ แต่รอยบุบที่ข้างรถทำให้ขวัญข้าวอดคิดไม่ได้ว่าหากรถคันนั้นชนแรงมากกว่านี้จอมทัพจะเป็นอย่างไร
พวกเขามาถึงบริษัทก่อนเวลาทำให้ไม่มีคนเข้ามาทำงานมากนัก
"ขวัญ มานี่หน่อย ฉันมีอะไรให้ดู"
ยังไม่ทันจะได้ไปที่ห้องจอมทัพก็เรียกให้คนรักตามไปเสียแล้ว ขวัญข้าวเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยสีหน้าสงสัย จนกระทั่งพวกเขามาถึงห้องเก็บเอกสารซึ่งเป็นห้องที่อัดแน่นไปด้วยเอกสารของบริษัทที่ไม่มีใครคิดจะหยิบไปดู เพราะตอนนี้งานทุกอย่าง
อยู่ในคอมพิวเตอร์หมดแล้ว
"คุณจอมทัพอยากได้เอกสารอะไรเหรอครับ?"
ขวัญข้าวถามอย่างงุนงง แทนคำตอบ จอมทัพดึงแขนเรียวให้ก้าวตามเข้าไปในห้องเก็บเอกสารที่จุคนได้เพียงสองคนแบบเบียดๆเท่านั้น ก่อนจะดึงประตูปิด
"คุณจอมทัพ ทำอะไรครับเนี่ย?"
ขวัญข้าวขยับตัวอย่างอึดอัด
"ก็หาที่ส่วนตัวให้เราเวลาทำงานไง"
ร่างสูงยิ้มอวดฟันขาวอย่างภาคภูมิใจ ต้องยกให้ชายหนุ่มจริงๆเรื่องการสรรหาสถานที่แบบนี้ก่อนจะคิดเรื่องงาน
“แต่ ถ้าเกิดมีคนมาเอาเอกสาร....”
“ไม่มีหรอก เดี๋ยวนี้ใครเขาใช้เอกสารกระดาษกัน ถึงมีเขาก็ปริ๊นท์ใหม่จากไฟล์ในคอมอยู่ดีนั่นแหละ”
ร่างสูงให้เหตุผลหลังจากซักซ้อมมาอย่างดีเป็นเวลานาน ขวัญข้าวอยากจะถอนหายใจกับความคิดแต่ละอย่างของคนรัก
“ครับๆ ถ้าอย่างนั้นเราออกไปได้รึยังครับ”
“เดี๋ยวสิ...”น้ำเสียงงอแงกับมาทันตาราวกับเสกได้ จอมทัพโอบเอวร่างที่อยู่ใกล้เขาจากความคับแคบของพื้นที่อยู่แล้วเข้ามาใกล้ ชนิดที่อีกนิดนึงขวัญข้าวก็จะปีนขี่คอเขาได้แล้ว “ทดสอบห้องก่อนสิ”
“…แค่นี้พอนะครับ”
ขวัญข้าวโน้มคออีกฝ่ายลงมาประทับริมฝีปาก ทว่าก่อนจะผละออกคนเจ้าเล่ห์ก็ใช้มือกดท้ายท้ายเขาไว้เสียนี่ พอขวัญข้าวจะเอ่ยประท้วงก็เสียรู้โดนลิ้นร้อนฉกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กจึงตกอยู่ในสถานะสมยอมแต่ไม่เต็มใจไปโดยปริยาย
จูบของจอมทัพทำให้ขวัญข้าวเคลิ้มตามไม่ยากนัก ในที่สุดเลขาตัวน้อยของเขาก็หลับตาพริ้ม จูบตอบโดยไม่มีเสียงบ่นใดๆเล้ดลอดออกมาจากริมฝีปากคู่สวยนั้น
“หยิบสรุปงบประมาณไตรมาสที่แล้วให้ผมด้วย”
เสียงเย็นๆอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้คนทั้งสองผละออกจากกันราวกับโดนไฟช็อต แต่นอกจากมธุวันจะไม่ละสายตาจากแท็บเลตในมือแล้ว ยังเอ่ยเตือนเพื่อนร่วมงานของตนด้วยน้ำเสียงไม่เปลี่ยนแปลง
“เนคไทค์เบี้ยว”
ขวัญข้าวก้มลงมองเครื่องแบบของตัวเองแล้วจัดให้เข้าที่เข้าทางเช่นเดียวกับเจ้านาย ก่อนจะรีบหยิบเอกสารส่งให้เลขารุ่นพี่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ
โดนโกรธแน่ๆ
“ขอบคุณ”
แต่สิ่งที่มธุวันพูดมีเพียงแค่นั้น ก่อนที่ร่างโปร่งจะหันหลังเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง
“เห็นมั้ยครับโดนคุณมธุวันเห็นเลย คุณมธุวันจะต้องโกรธผมแล้วแน่ๆ”
ขวัญข้าวเอ่ยอย่างเป็นกังวล คนที่เขาไม่อยากให้ให้เห็นที่สุดดันเป็นคนมาเจอพวกเขาเสียอย่างนั้น สิ่งที่เขาอยากจะเป็นมากที่สุดคือการเป็นสุดยอดเลขาที่เป็นมืออาชีพในทุกสถานการณ์อย่างคุณมธุวัน และทำให้คนที่เชื่อในตัวเขาถึงขั้นเลือกเขาจะผู้สมัครนับร้อยมาฝึกด้วยตัวเองภูมิใจว่าเลือกคนไม่ผิด
แต่ตอนนี้อีกฝ่ายคงจะคิดไปแล้วว่าเขาเป็นพวกแยกแยะเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวไม่เป็น
“อย่างห่วงเลยขวัญ ถ้าจะมีใครที่ไม่ต้องกลัวว่าคุณหมอกจะไม่ชอบในบริษัทนี้ก็น่าจะเป็นขวัญนี่แหละ”
จอมทัพยิ้มอย่างไม่สำนึก
“ทำไมล่ะครับ?” ขวัญข้าวถามอย่างไม่เข้าใจ
“ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าขวัญเป็นคนโปรดของคุณหมอกเขา”
ร่างสูงว่าอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร จูงมือคนรักออกมาจากห้องเอกสาร แต่ขวัญข้าวที่ได้ยินประโยคนั้นเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปช่วงหนึ่ง ไม่รับรู้สภาพแวดล้อมใดๆทั้งสิ้น
“พี่สองครับ ผมถามอะไรหน่อยสิ”
ขวัญข้าวโพล่งขึ้นระหว่างมื้ออหาร วันนี้จอมทัพต้องไปประชุมนอกสถานที่ ทำให้เขาสามารถลงมาทานอาหารกลางวันกับพนักงานรุ่นพี่ได้เหมือนตัวเองเคยทำ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากชามก๋วยเตี๋ยวทั้งที่ยังมีเส้นบะหมี่คาอยู่ในปาก
“อะไออ๋อ?”
“คุณมธุวันเขามีคนโปรดด้วยเหรอครับ?”
สองกลืนบะหมี่ลงคอก่อนจะตอบคำถามด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
“ก็ข้าวไง”
“ฮะ? ทำไมถึงมีแต่คนพูดแบบนั้นล่ะครับ”
ขวัญข้าวถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่ว่าใครที่เขาลองถามก็มีแต่คนพูดอย่างนั้นกันทั้งนั้น
“ก็มันจริงนี่”รุ่นพี่ของเขาว่า “ข้าวลองคิดดูนะว่ามีซักกี่คนบริษัทที่คุณมธุวันไม่ดุจนร้องไห้เวลาทำงานพลาด”
“แต่….แต่คุณมธุวันก็ดุผมนะครับ”
ขวัญข้าวเถียงเสียงอ่อน ถึงแม้ว่ามธุวันจะเป็นคนดุอยู่แล้ว แต่เขาสัมผัสได้ว่าตลอดเวลาที่อีกฝ่ายสอนงานเขา เลขารุ่นพี่ไม่เคยอารมณ์เสียที่จะต้องสอนเรื่องเดิมให้เขาฟังหลายต่อหลายรอบ หรือช่วยแก้เอกสารที่เขาไม่เข้าใจ ขอแค่เขาถาม มธุวันจะตอบ แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายก็ทำแบบนั้นกับพนักงานทุกคน
“ข้าวไม่สังเกตเหรอว่าตอนที่ข้าวฝึกงานกับคุณมธุวัน จู่ๆพนักงานในบริษัทก็เอ็นดูข้าวซะงั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ข้าวก็อยู่ที่นี่มาตั้งนาน พวกนั้นน่ะก็แค่อยากให้คุณมธุวันเอ็นดูเหมือนกันแค่นั้นแหละ”
ขวัญข้าวนึกย้อนไปถึงช่วงที่พนักงานทุกคนทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม ซื้อขนมมาฝากและถามเขาเสมอว่าอยากได้อะไรมั้ย ทีแรกขวัญข้าวแค่คิดว่าทุกคนคงเริ่มคุ้นเคยกับเขามากขึ้นก็เท่านั้น
“แล้ว...ทำไมถึงเป็นผมล่ะครับ?”
ขวัญข้าวถามอย่างไม่เข้าใจ สองหัวเราะ ดึงแก้มป่องๆของคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองน่ากอดน่าฟัดแค่ไหนอย่างมันเขี้ยว
“ก็ดูตัวเองสิขวัญ หน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้ใครที่ไหนจะไม่เอ็นดู”
“อะแฮ่ม!”
เสียงกระแอมกระไอของคนที่เพิ่งบึ่งรถกลับมาจากการประชุมดังขึ้น ขวัญข้าวสะดุ้ง แต่คนที่บิดแก้มเขาไปมาอย่างสนุกสนานไม่ยอมปล่อย ทำเอาคนขี้หวงหน้าถมึงทึงขึ้นมาทันที
“ขวัญ! นอกใจฉันเหรอ?!”
“ไอ้ไออ้อ๊ะอ่อยอั๊บ!อ้วยอ้วยยย(ไม่ใช่ซะหน่อยครับ!ช่วยด้วยยย)”
ขวัญข้าวโวยวาย เจ็บแก้มก็เจ็บแต่คนรักที่งอนเขาผิดเวลาดันไม่ช่วยอะไรเขาสักนิด ส่วนพี่สองก็ดึงไปสิ ดึงจนแก้มเขายืดเป็นมาร์ชเมโล่วแล้ว
“ไม่เอาแล้ว! พี่สองใจร้าย”
ขวัญข้าวที่หนีจากกรงเล็บของมารร้ายได้รีบเข้าไปหลบหลังคนรัก กว่าที่สองจะทำให้เลขาตัวน้อยยอมกลับมานั่งกับเขาได้ต้องเอาขนมหวานมาล่อให้หายตื่น
หลังจากรู้เรื่องของเขากับจอมทัพ ความสัมพันธ์ของสองกับคนรักของขวัญข้าวก็ดีขึ้นตามลำดับจนถึงขั้นที่ทั้งสองเม้าท์เรื่องของขวัญข้าวต่อหน้าเขาแล้ว ถึงแม้จะดีใจที่คนทั้งคู่เข้ากันได้ดี แต่ขวัญข้าวก็อดรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนรุมรังแกไม่ได้
“ผมบอกแล้วว่าข้าวน่ะเป็นคนโปรดของคุณมธุวัน”สองยังคงไม่จบประเด็นนี้
“อ้าว นี่ขวัญไม่รู้เหรอ?”
จอมทัพหันไปหาร่างเล็กที่นั่งงับข้าวต้มมัดที่พี่สองซื้อมาง้อ ขวัญข้าวส่ายหัว เคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มป่องพองกลมน่าหอมให้ช้ำในสายตาของร่างสูงยิ่งนัก
“จะรู้ได้ยังไงล่ะครับคุณจอมทัพ ขนาดเรื่องที่คุณมธุวันกับท่านประธานกิ๊กกั๊กกัน รายนี้ยังไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย”สองหัวเราะ
“เอ่อ...นั่นน่าจะเป็นเพราะสองคนนั้นเขาไม่ได้มีอะไรมากกว่าล่ะมั้งครับ”
จอมทัพขมวดคิ้ว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องนั้นเป็นข่าวลือ ถึงแม้ความใกล้ชิดของสองคนนั้นมักจะทำให้เขารู้สึกตงิดใจก็ตาม
“พนันกันมั้ยล่ะครับ?”
สองยิ้มท้าทาย ซึ่งจอมทัพไม่ใช่คนที่จะโดนท้าแล้วจะถอยง่ายๆ
“ถ้าผมชนะผมจะได้อะไร?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว สองนิ่งคิด ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะค่อยๆปรากฎขึ้นบนริมฝีปาก
“ผมมีวีดีโอที่ข้าวหัดอ่านนิทานภาษาอังกฤษให้ลูกผมฟัง....” สองหัวเราะหึๆ “...ใส่ที่คาดผมหูกระต่ายสีชมพูด้วย”
ขวัญข้าวสามารถเห็นได้จากดวงตาของร่างสูงว่าสมองของอีกฝ่ายโดนชัตดาวน์ไปตั้งแต่คำว่าหูกระต่ายแล้ว
“ตกลง!”
“แต่ถ้าผมชนะ คุณห้ามแตะต้องข้าวหนึ่งวัน”
สิ่งที่ควรจะเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับคนปกติกลับทำให้จอมทัพสะอึก สีหน้าลังเลของร่างสูงยิ่งทำให้สองได้ใจ
“แต่ถ้าคุณไม่กล้า....”
“ใครบอกว่าผมไม่กล้า”จอมทัพไม่ยอมโดนลูบคมง่ายๆ จ้องตอบอีกฝ่ายอย่างขึงขัง
“แล้ว...เราจะรู้ได้ยังไงครับว่าใครชนะ”
ขวัญข้าวถามขึ้นอย่างสงสัย แทนคำตอบ ดวงตาสองคู่หันกลับมามองเขาพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ร่างเล็กเสียวสันหลังวาบ
"ขวัญ ไปสิ"
"เอ๊ะ ทำไมต้องเป็นผมล่ะครับ"
ขวัญข้าวโอดครวญ แต่คนรักและเพื่อนร่วมงานทั้งหลายที่บังเอิญได้ยินเรื่องการพนันของคนทั้งคู่กลับไม่สนใจ ผลักเลขาตัวน้อยเบาๆให้เซออกไปจากซอกหลืบที่พวกเขาแอบดูอยู่
“อ๊ะ"
ราวกับรู้คิว ร่างเล็กเซเข้ามาในวงแขนของเลขาที่มีรายได้สูงที่สุดในบริษัทอย่างพอดิบพอดี
“ระวังหน่อยสิ"
เสียงเย็นดุ ยังไม่ทันจะได้ทรงตัวดีมธุวันก็ปล่อยเขาให้ยืนเองเสียแล้ว
"ขะ..ขอโทษครับคุณมธุวัน อ๊ะ..ดะ...เดี๋ยวก่อนครับ!”
ขวัญข้าวรีบเรียกคนที่กำลังจะเดินต่อไว้ ร่างโปร่งยอมหยุดเดินตามคำขอแต่ไม่ได้หันกลับมา แต่นั่นก็ถือว่าเป็นความเมตตามากกว่าที่คนอื่นในบริษัทได้รับแล้ว
ก็ขวัญข้าว...เป็นคนโปรดของมธุวันนี่นะ
“คะ...คือ...."
“ผมไม่มีเวลาทั้งวัน”
มธุวันเอ่ยอย่างเริ่มหมดความอดทน ทั้งจอมทัพ สอง และพนักงานคนอื่นๆลอบกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัวว่างูจงอางที่กำลังจะกัดหัวหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยแล้วสะบัดไปมาจนเลือดสาด
“คุณมธุวันกับท่านประธานเป็นอะไรกันเหรอครับ?"
ขวัญข้าวกลั้นใจถามออกไป เพราะเรื่องบ้าๆอย่างการโต้เถียงกันเป็นเด็กๆของคุณจอมทัพกับพี่สองทำให้เขาต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้
"ผมว่ายังไงก็กินกันอยู่ชัวร์" สองเอ่ยอย่างมั่นใจ
“เหอะ อย่างคุณหมอกน่ะอาเชษฐ์เอาไม่อยู่หรอก”จอมทัพก็มั่นใจไม่แพ้กัน
มธุวันหันกลับมาอย่างช้าๆ ขวัญข้าวนึกถึงฉากสยองขวัญในหนังที่ตัวเอกซึ่งไม่รู้เวลาที่ควรจะหนียืนประจันหน้ากับฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้ารอเวลาตายขึ้นมา
ฮือ คุณจอมทัพไม่รักผมแล้วใช่มั้ยครับถึงได้ส่งผมมาตายแบบนี้
"เรื่องบนเตียงของผม มันไปหนักส่วนไหนของคุณ”
เสียงเย็นเยียบเอ่ยลอดไรฟัน พร้อมกับรังสีสังหารที่แผ่กระจายจนคนที่แอบมองอยู่ขนลุกเกรียว ไม่ต้องพูดถึงขวัญข้าวที่ดูใกล้จะเป็นลมเมื่อเห็นคนมธุวันสาวเท้าเข้ามาใกล้ ร่างเล็กถอยกรูดชิดกำแพงอย่างหวาดกลัว แต่กลับนึกขึ้นได้เมื่อมธุวันตบมือลงบนกำแพงข้างศีรษะของเขา ว่านั่นทำให้เขาหมดทางหนีทีไล่ไปโดยปริยาย ร่างโปร่งโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาสีเทาฟ้ามีแววสนุกสนานอยู่ในที
“แต่จะให้บอกก็ได้นะ..."
“จะ..จริงเหรอครับ..."
ขวัญข้าวเอ่ยเสียงแหลมเล็ก แทบจะสิงเข้าไปในเนื้อปูนเมื่อรู้สึกลมหายใจอุ่นๆที่รินรดต้นคอ ริมฝีปากเรียวแสยะยิ้ม ก่อนที่นิ้วหัวแม่มือจะแตะลงบนริมฝีปากรูปประจับของเลขารุ่นน้องแล้วนวดคลึงเบาๆให้เผยออ้าเล็กน้อย
“แต่มีข้อแลกเปลี่ยน...."
คุณจอมทัพช่วยด๊วยยยยยยย
"พอ!!!แยกๆๆๆๆๆ"
จอมทัพที่ทนดูคนรักของตัวเองโดนปีศาจน้ำแข็งปู้ยี่ปู้ยำไม่ไหวกระโดดเข้ามาแยกทั้งสองคนอย่างทันท่วงที ร่างสูงกอดคนรักไว้แน่นอย่างหวงแหนแถมยังส่งสายตาอาฆาตให้กับคนที่เขาเคยแอบชอบ
“หึ...."
มธุวันกระตุกยิ้มมุมปาก หมุนตัวเดินจากไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหยุดอีกครั้งเมื่อเดินผ่านจุดที่สองกับพนักงานคนอื่นกำลังซ่อนตัวอยู่
"ถ้ายังไม่อยากรู้ว่าผมมีอิทธิพลกับการจ้างงานของพวกคุณมากแค่ไหน ผมแนะนำให้พวกคุณกลับไปทำงาน”
เหล่าพนักงานที่อยากรู้อยากเห็นเมื่อครู่สลายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยหวาดกลัวเกินกว่าจะรู้ถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของปีศาจตนนี้
และแล้วตำนานของปีศาจน้ำแข็ง ก็ถูกเล่าขานกันปากต่อปากอีกเรื่องหนึ่ง เพิ่มความน่าสะพรึงกลัวให้กับมธุวัน อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
------------------
โธ่วหนูขวัญ
อยูกับใครก็โดนงาบเนอะลูกเนอะ