"ข้าว มาช่วยแม่ทำน้ำปลาหวานมา ป่านนี้พ่อกับนายเก็บมะม่วงหมดตอนแล้วมั้งเนี่ย"
หญิงวัยกลางคนหัวเราะ หลังจากมาส่งคนรักจอมทัพที่เห็นบิดาของเขากำลังจะเดินไปเก็บมะม่วงหลังบ้านจึงรีบอาสาช่วยอย่างแข็งขัน นี้ก็หายกันไปนานพอสมควรแล้ว
"ครับแม่"
ขวัญข้าวเดินไปล้างมือเพื่อมาช่วยมารดาทำน้ำปลาหวานในครัว ร่างเล็กเปิดประตูตู้เย็นมองหาน้ำตาลปี๊บ แล้วหันกลับมาเจอหญิงที่ให้กำเนิดเข้ามายืนกอดอกอยู่ที่เคาท์เตอร์ครัว
"ข้าว แม่ถามเราจริงๆเถอะ ทำไมถึงไม่ย้ายไปอยู่กับเขาล่ะ?"
"ครับ?" ขวัญข้าวเอียงคออย่างไม่เข้าใจ
"ที่นั่นใกล้กว่าบ้านเรา เดินทางก็สะดวกกว่า แถมยังไม่ต้องให้นายเขาเหนื่อยขับรถรับส่งลูกไปมาด้วย เท่าที่ดูแม่ว่านายเขาก็อยากให้ลูกไปอยู่ด้วยนี่ ทำไมถึงไม่ไปอยู่กับเขาล่ะ?"
"ถ้าผมไปใครจะอยู่ดูแลแม่ล่ะครับ?"
ขวัญข้าวว่า พ่อกับแม่เขาก็เริ่มมีอายุแล้ว จะให้อยู่กันแค่สองคนเขาก็ไม่สบายใจ
อีกอย่าง เขาไม่เคยนอนนอกบ้านมากไปกว่าการเข้าค่ายหรือตอนที่ไปค้างห้องจอมทัพเลย
"ถ้าอย่างนั้นก็กลับมาเยี่ยมแม่ซักอาทิตย์ละครั้ง โทรมาหาแม่บ่อยๆก็พอแล้ว แม่กับพ่อดูแลตัวเองได้จ้ะ"หญิงวัยกลางคนลูบศีรษะของเขาอย่างเอ็นดู "ลองไปคิดดูแล้วกันนะ แม่เห็นสีหน้านายเขาดูเพลียมากเลย แม่ไม่อยากให้เกิดอะไรบนถนน"
ขวัญข้าวพยักหน้ารับ จังหวะเดียวกับที่จอมทัพและบิดาของเขากลับมาพร้อมมะม่วงหลายลูก
"ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวดึกกว่านี้รถจะติด"
จอมทัพยกมือไหว้ทั้งบิดาและมารดาของเขา ก่อนจะยิ้มให้กับขวัญข้าว นั่นเป็นครั้งแรกที่ร่างเล็กเห็นรอยคล้ำใต้ตาของคน
รัก จะว่าไปช่วงที่เขาเจ็บมือร่างสูงก็แทบไม่ยอมให้เขาแตะงานเอกสารเลย คงจะเพลียสะสมมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
"ฉันไปนะขวัญ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามารับไปกินข้าวเช้าที่ร้านโจ๊กที่ขวัญอยากกินข้าวๆบริษัท ดีมั้ย?"
"ครับ ขับรถดีๆนะครับ"
ขวัญข้าวเดินออกมาส่งคนรัก หลังจากได้ยินที่แม่พูด ขวัญข้าวก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างไรบอกไม่ถูก
ก่อนที่จอมทัพจะเปิดประตูเข้าไปในรถ ขวัญข้าวก็เขย่งเท้าขึ้นโน้มคออีกฝ่ายลงมาประทับจุมพิตที่ข้างแก้มของคนรัก
"ถึงแล้วโทรมาหาผมด้วยนะครับ"
"อื้อ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ไปนะ"
จอมทัพหอมแก้มเขาคืนฟอดใหญ่ ก่อนจะสตาร์ทรถ ขวัญข้าวยืนมองรถของอีกฝ่ายขับออกไปจนลับสายตาด้วยความกังวล ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไป
"ข้าวๆ ตื่นเร็วลูก!"
เสียงของมารดาดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าที่ทำให้ขวัญข้าวตื่นจากห้วงนิทรา
"มีอะไรครับแม่"
ขวัญข้าวถามเสียงสะลึมสะลือ เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา อีกห้านาทีจะถึงเวลาตื่นของเขา แต่วันนี้เป็นวันพระ คาดว่ามารดาน่าจะออกไปซื้อของมาใส่บาตรแล้วอยากให้เขาไปทำบุญเป็นเพื่อน
"แม่ไปตลาดมา แม่ค้าที่ตลาดบอกว่าเมื่อกี้มีรถชนหน้าหมู่บ้าน เป็นรถสปอร์ตสีดำแบบที่นายขับเลยลูก แม่ไม่สบายใจเลย
ข้าวโทรหานายหน่อยได้มั้ย?"
ขวัญข้าวตาสว่างแทบจะในทันทีที่ได้ยินดังนั้น ร่างเล็กรีบกดโทรออกหาเบอร์ของจอมทัพทันทีแต่ไม่มีใครรับสาย ขวัญข้าวลองโทรอีกสามสี่ครั้งรวมถึงโทรศัพท์ห้องแต่ยังคงไม่มีการตอบรับจากหมายเลขนั้น
"เขาไม่รับครับแม่" ขวัญข้าวหันมาหามารดาที่มีสีหน้าวิตกพอสมควร
"แม่ว่าไปดูที่โรงพยาบาลกันมั้ย แม่ได้ยินว่าคนขับทั้งสองคนโดนหามไปส่งโรงพยาบาลข้างบ้านเรา"
"ครับ"
ขวัญข้าวรีบแต่งตัวด้วยจิตใจว้าวุ่น ตลอดทางจากบ้านไปโรงพยาบาล ขวัญข้าวพยายามโทรหาจอมทัพบนรถแท็กซี่แต่ยัง
คงไม่มีใครรับสาย
"เป็นไงบ้างข้าว?"
มารดาของเขาถามเป็นระยะ ขวัญข้าวทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างเป็นกังวล ได้แต่ภาวนาขออย่าให้สิ่งที่เขากลัวเป็นจริงเลย
"ขอโทษนะครับ ผมเป็นคนรู้จักของคนที่ถูกรถชนก่อนหน้านี้ เป็นผู้ชายอายุสามสิบปีชื่อจอมทัพ..."
"บอกแล้วไงว่ายี่สิบเก้า ขวัญจะรีบให้ฉันแก่ไปไหนเนี่ย"
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ขวัญข้าวแทบจะตะกายปีนเคาท์เตอร์ไปคีย์ข้อมูลเพื่อหาว่าร่างสูงอยู่ที่ไหน แต่เสียงของคนรักที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เขาและมารดาหันขวับไปเสียก่อน
"คุณจอมทัพ! เป็นอะไรมากมั้ยครับ? บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
ขวัญข้าวรีบปรี่เข้าไปหาจอมทัพทันทีที่เห็นร่างสูงในสภาพที่ไม่มีบาดแผล แต่กระนั้นก็ยังสำรวจหมุนซ้ายหมุนขวาจนจอมทัพที่เริ่มเวียนหัวต้องจับอีกฝ่ายไว้
“ฉันไม่เป็นไรขวัญ ฉันโอเค”
“แต่…แม่บอกว่ารถชน...”
“คนขับเขาย้อนศรแล้วหลับในด้วยน่ะ ตอนนั้นฉันกำลังจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านเลยไม่ทันมอง แต่โชคดีที่เขาชนข้างรถค่อนไปด้านหลัง ฉันเลยไม่เป็นไร หัวกระแทกกับกระจกนิดหน่อย” ร่างสูงชี้หน้าผากที่บวมเป็นรอยช้ำเล็กน้อยของตน “คนที่หนักน่ะคืออีกคันต่างหาก รถไม่มีถุงลมนิรภัย เลยหน้ากระแทกพวกมาลัยเลือดอาบเลย ฉันแค่พาเขามาส่งโรงพยาบาลก็เลยมาลองเช็คให้เสร็จๆ แต่หมอบอกว่าไม่มีอะไร”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะจ้ะ ว่าแต่รถเป็นยังไงบ้าง”มารดาของขวัญข้าวถามขึ้้น
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมมีประกัน”จอมทัพยิ้ม
“แล้วทำไมคุณถึงได้มาเช้านักล่ะครับ ปกติยังไม่ตื่นเลยไม่ใช่เหรอ?”
ขวัญข้าวถามคนรักเมื่อนึกขึ้นได้ จอมทัพเกาแก้มเขินๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอายๆ
“ฉันนอนไม่หลับ...ฉันคิดถึงขวัญ”
“….”
ขวัญข้าวหันไปมองมารดาที่ยิ้มเขินแทนลูกชาย ก่อนจะหันกลับมาหาคนรัก
“ถ้าอย่างนั้นไปนอนพักที่บ้านผมก่อนซักงีบนะครับ จะได้ไม่เพลีย วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญ ไม่ต้องเข้าเช้ามากก็ได้ครับ”
---
สั้นมาก555555
จะรีบมาต่อเน้
