Rule#5 No one else matters.
"อือ..."
ขวัญข้าวรู้สึกตัวตื่นขึ้นพร้อมความเจ็บระบมที่ช่วงล่างของลำตัว ร่างเปลือยเปล่าขยับตัวลุกขึ้น ทว่าท่อนแขนแข็งแรงที่พาดอยู่ที่เอวทำให้เขาชะงักค้าง ขวัญข้าวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก หันไปมองเจ้านายของตนที่ยังคงนอนหลับสนิทโดยใช้เขาเป็นหมอนข้าง
ทำลงไปจริงๆด้วย....
ร่างเล็กซุกหน้ากับฝ่ามือ ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองปล่อยอารมณ์ให้ครอบงำเหตุผลได้ถึงขนาดนี้
ต้องรีบออกไปจากที่นี่
ขวัญข้าวงัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของเจ้านายอย่างระมัดระวัง แล้วรีบเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ ร่างที่เจ็บระบมไปทั้งตัวหันไปมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักสุดหรูนั้น ขวัญข้าวหยุดแวะที่ล็อบบี้ของโรงแรม ความเป็นเลขาที่ถูกปลูกฝังมาอย่างดีทำให้เขาไม่สามารถละเลยหน้าที่ของตัวเองได้
"ช่วยเอาอาหารเช้ากับยาแก้ปวดหัวขึ้นไปที่ห้อง754ด้วยครับ"
จอมทัพพลิกกายไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตื่นขึ้นเต็มตาเมื่อรู้สึกว่าเตียงที่นอนอยู่นั้นไม่ใช่ของตน ร่างสูงเด้งตัวขึ้นจากเตียงก่อนจะหงายหลังตึงกลับลงไปจากความปวดจี๊ดที่หัว จอมทัพนอนนิ่งอยู่นานก่่อนจะค่อยลุกกลับขึ้นมานั่งอีกครั้ง ร่างสูงพยายามเค้นความจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่จำได้เพียงว่าตนโทรชวนรองประธานบริษัทซึ่งเป็นญาติผู้น้องมาดื่มเหล้าย้อมใจหลังจากถูกมธุวันหักอก และคลับคล้ายคลับคลาถูกใครบางคนหิ้วขึ้นมาที่ห้องแห่งนี้ ก่อนที่เขาจะได้ปลดปล่อยอารมณ์กับคนที่เขาจำไม่ได้แม้แต่ใบหน้า
ทั้งที่อุตส่าห์คิดว่าหากชวนเมฆามาดื่มและหลีกเลี่ยงการไปที่ผับบาร์จะช่วยให้เขาไม่ให้แสดงนิสัยเก่าๆที่เมาแล้วมักจะ...คึกคะนองกว่าปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาโดนน้องเทเสียอย่างนั้น
ทั้งที่ตั้งแต่เมื่อตอนที่ตั้งใจว่าจะจีบมธุวันมา ร่างสูงรักษากฎเกณฑ์ของตัวเองที่จะไม่ยุ่งกับใครได้อย่างดีมาโดยตลอด ไม่คิดเลยว่าเมื่อถูกอีกฝ่ายหักอกจะทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้
ไม่สิ...ต้องบอกว่า เมื่อถูกอีกฝ่ายชี้ทางสว่างให้คงจะถูกกว่า
เพราะตอนนี้จอมทัพรู้แล้วว่า คนที่นั่งอยู่ในหัวใจของเขาด้วยรอยยิ้มน่ารัก สีหน้าอ่อนโยน และความทุ่มเทที่มีให้กับเขาไม่หยุดหย่อน ไม่ได้ชื่อมธุวัน
เขาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะโง่เง่าได้ขนาดนี้ ทั้งความรู้สึกผิด ความโมโหตัวเอง และความอับอายทำให้ร่างสูงตัดสินใจออกมาหาเหล้ากิน โดยคิดว่าจะสะสางความรู้สึกของตัวเองทีหลัง
แต่ตอนนี้ เขาไม่กล้าจะไปสู้หน้ากับขวัญข้าวหลังจากที่นอนกับใครไม่รู้ในขณะที่เมาจนไม่รู้เรื่องหรอกนะ
จอมทัพกลอกตามองเพดานสีขาวสะอาดตา นึกถึงภาพเหตุการณ์ในความฝันเมื่อคืนพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เขาฝันเห็นขวัญข้าว
เขาฝันเห็นร่างบอบบางขาวนวลเนียนที่มักจะซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อทำงานแขนยาวที่ดูอย่างไรก็เหมือนเด็กขโมยชุดพ่อมาใส่เล่นนั้น หน้าท้องแบนราบและยอดอกสีชมพูน่าลิ้มลอง พร้อมทั้งใบหน้าแดงก่ำที่แม้จะดูหวาดกลัว แต่กลับดูเชิญชวนอย่างน่าประหลาด
นี่จิตใต้สำนึกของเขา อยากจะทำให้ชวัญช้าวที่แสนไร้เดียงสาแปดเปื้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?
จอมทัพเริ่มรู้สึกว่าเขาควรนัดพบจิตแพทย์เสียแล้ว
เขาไม่รู้หรอกนะว่าคนที่เขานอนด้วยเป็นใคร แต่เขาก็แอบรู้สึกผิดที่ใช้อีกฝ่ายโดยที่เห็นเพียงแต่ใบหน้าแดงก่ำและเรือนร่างที่บิดเร่าไปด้วยรงอารมณ์ใต้ร่างเขาของขวัญข้าวเท่านั้น แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยคนที่ได้เห็นด้านป่าเถื่อนและชอบตักตวงอย่างไม่รู้จักอิ่มของเขาไม่ใช่ขวัญข้าวตัวจริง เพราะเขาไม่รู้ว่าคนที่ดูบอบบางราวกับแก้วเจียระไนอย่างขวัญข้าวจะสามารถรับมันได้มากแค่ไหน
คิดถึงขวัญจัง...
ร่างสูงสะบัดหัวไล่ความคิดที่เขามีเป็นปกติ แต่วันนี้มันกลับทำให้เขารู้สึกกระดากอายอย่างบอกไม่ถูก จอมทัพค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สมองปลอดโปร่งขึ้น เมื่อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเมื่อคืนที่ถูกพับเป็นระเบียบวางไว้ให้ที่เก้าอี้ข้างเตียง ร่างสูงก็เดินออกมาจากห้องนอน จอมทัพขมวดคิ้วเมื่อพบกับชุดอาหารเช้าและยาแก้ปวดหัว
โชคดีนะเนี่ยที่ดูเหมือนเขาจะถูกคนดีๆหิ้วขึ้นมา
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ร่างสูงก็ยังคงเช็คกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตัวเอง เมื่อเห็นว่าทุกอย่างยังอยู่ครบ นักธุรกิจหนุ่มจึงนั่งลงแล้วเริ่มทานอาหารเช้าเล็กน้อยเพื่อที่จะได้กินยาแก้ปวดหัว ก่อนจะกดโทรศัพท์ในห้องเพื่อให้โรงแรมช่วยเรียกแท็กซี่กลับคอนโดของตน
จอมทัพยังคงลังเลระหว่างการเดินเข้าไปหาขวัญข้าวพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่และขนมกองโต และการทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในหัวใจของเขาในช่วงเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ไม่ได้เจอกัน สุดท้ายเขาก็เลือกอย่างหลัง ด้วยเหตุผลอันเรียบง่ายที่ว่า
เขาปอดแหก
เขาไม่รู้ว่าขวัญข้าวรู้สึกยังไงกับเขา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเห็นเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นแค่เจ้านายที่ไม่ได้เรื่องและทำให้ร่างเล็กต้องคอยดูแลอยู่เสมอ เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามทั้งที่ตอนที่เขาจีบมธุวัน จอมทัพไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ แถมยังไม่เรื่องเมื่อคืนเป็นชนักติดหลัง
ขุดหลุมฝังตัวเองแล้วมั้ยล่ะไอ้จอมทัพ
“ขวัญยังไม่เข้าเหรอ?”
เมื่อมาถึงที่ทำงาน สิ่งแรกที่จอมทัพสังเกตเห็นคือความว่างเปล่าที่โต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าห้องทำงานของเขา ร่างสูงถามพนักงานที่เดินผ่านไปมา แต่ก็ได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ายัังไม่เห็นเลขาของเขาตั้งแต่เช้า ซึ่งผิดวิสัยของขวัญข้าวเป็นอย่างมาก ร่างสูงจ้องโทรศัพท์อย่างเป็นกังวล ไม่มั่นใจว่าควรจะโทรหาอีกฝ่ายดีหรือไม่
“ขอโทษนะครับที่มาสาย”
แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น จอมทัพเงยหน้าขึ้นจากจออย่างตกใจ
“เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ ทำไมวันนี้ถึงมาสายล่ะ?”
“ผม…ไม่สบายนิดหน่อยน่ะครับ”
ขวัญข้าวยิ้มอย่างอ่อนเพลีย รู้สึกโล่งใจที่ดูเหมือนว่าจอมทัพจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย จอมทัพลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินดังนั้น มือใหญ่ยกขึ้นเตรียมจะวางบนหน้าผากของเลขา ก่อนที่มือนั้นจะชะงักกึกกลางอากาศ ปกติจอมทัพไม่เคยคิดมากเวลาแตะเนื้อต้องตัวขวัญข้าว และขวัญข้าวไม่เคยว่าอะไรเขา แต่วันนี้ร่างสูงกลับรู้สึกเขินอายที่จะแตะหน้าผากของอีกฝ่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เป็นเอามากนะเรา...
ฉับพลันร่างสูงก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง รอยรักสีกุหลาบกระจายทั่วต้นคอขาวเนียนโผล่บนเสื้อทำงานของขวัญข้าว ร่างสูงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะล้มตึงลงไปบนพื้น ขวัญข้าวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบประคองเจ้านายไว้อย่างเป็นห่วง
“นั่งก่อนมั้ยครับ ผมว่าคุณดูซีดๆนะครับ”
จอมทัพพยักหน้า ปล่อยให้คนตัวเล็กประคองเขากลับไปนั่ง ทั้งที่สายตาของชายหนุ่มไม่อาจละไปจากต้นคอขาวที่มีรอยตำหนินั้นได้เลย
มันเป็นใคร?!
“ขวัญ เมื่อคืนขวัญได้ไปไหนรึเปล่า”
ร่างสูงถามขึ้นก่อนจะห้ามตัวเองไว้ได้ทัน ขวัญข้าวชะงัก หลบสายตาเขาอย่างมีพิรุธ ก่อนจะตอบกลับมา
“ไม่นี่ครับ ผมก็กลับบ้านกับพี่สองเหมือนทุกวัน”
ภาพร่างเล็กที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้กับพนักงานฝ่ายบุคคลย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ จอมทัพกัดฟันกรอด เตือนตัวเองไม่ให้ทำตัวมีพิรุธให้ร่างเล็กผิดสังเกต
“กลับบ้านแล้วไม่ได้ออกไปไหนเลยเหรอ?”
“ไม่ครับ”ร่างเล็กยืนยัน ยังคงไม่ยอมสบตาเขา
ดังนั้น ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือเจ้าของรอยพวกนี้ คือไอ้พนักงานชีกอที่ชอบมาวอแวกับขวัญของเขาตลอดเวลาคนนั้น!!
จอมทัพเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้ ว่าความรู้สึกหวงขวัญข้าวจนอยากจะล่ามโซ่ขังเอาไว้ในห้องของตัวเอง ไม่ใช่ความรู้สึกเป็นห่วงตามประสาพี่ชายที่เอ็นดูน้องอย่างที่เขาเข้าใจ
จอมทัพไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าตัวเองเป็นคนขี้หวงขนาดนี้...
“คุณจอมทัพครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ”
ขวัญข้าวเหลือบมองคนที่จู่ๆก็เหม่อไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่อย่างเป็นห่วง หรือว่าคุณจอมทัพจะยังเมาค้างจากเมื่อคืนอยู่กันนะ?
“เดี๋ยวก่อนขวัญ” จอมทัพเอ่ยรั้งตัวคนที่กำลังจะเดินออกไปไว้ก่อนจะรู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไป คนถูกเรียกหันกลับมารอฟังคำสั่ง ร่างสูงอึกอัก ไม่รู้ว่าคนจะพูดอะไรออกไปในตอนนี้ “ฉันเห็นร้านอาหารเปิดใหม่ใกล้ๆนี่ เที่ยงนี้ไปกินข้าวกันมั้ย?”
ขวัญข้าวเม้มปากแน่นจนแทบเป็นเส้นตรง หลุบตาลงต่ำราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง จอมทัพไม่แน่ใจว่าเกิดอะรขึ้นภายในหัวของร่างเล็ก จนกระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ผม..ผมมีนัดกับพี่สองแล้ว ขอโทษนะครับ”
จอมทัพพยักหน้า รู้สึกไม่ถูกชะตากับพนักงานฝ่ายบุคคลที่เขาไม่เคยพูดคุยด้วยจริงจังคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ไอ้หมอนั่นจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ เซ้นส์ของเขาบอกว่าอย่างนั้น
-----
เมตตาคุณจอมทัพด้วยเถิดเจ้าค่ะ
รู้สึกพระเอกแต่ละคนนี่น่าตบทั้งนั้นเลย55555
สั้นๆแต่ฉันรักเธอ(?)
มาต่อแล้วนะ ดุ๊กดิ๊กๆ
ขอบคุณที่รอค่า