พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|  (อ่าน 89406 ครั้ง)

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หมูจะไปอะไรกับชะนีนั่นนักหนา
ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร

รำคาญพวกผู้ชายที่ไม่เด็ดขาดกับเรื่องแบบนี้จริง ๆ

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
หูยยยย ชอบนิยายฟีลนี้ รุกเด็กกว่าแล้วรัก ฝ่ายรับมากๆ เนี่ย ปลื้มมมม
อยากรู้แล้วว่าน้องหมูปิดบังอะไรไว้. ติดตามๆๆๆ

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 9



            [พาร์ตของหมู]



            ...ผมเป็นผู้ชายที่รักจริงครับ...รักแล้วก็คือรักเลย...



            พี่ศิลาถูกพากลับไปที่ห้องโดยมีพี่เสากับพี่นนท์เฝ้าอยู่ พี่ศิลามีแค่รอยช้ำและที่สลบไปก็เพราะหิวข้าว ส่วนผมตอนนี้กำลังยืนอยู่ในห้องสีดำ...น้องไม่ใช่เดอะเฟคสำหรับพี่ค่ะ...ไม่ใช่แล้วครับ ยังจะมาเล่นมุขอีก (ก็ผมรู้สึกว่ามันเครียดอ่า) ผมยืนเผชิญหน้ากับแววตาคมตรงหน้าที่ไม่มีใครกล้ายุ่งย่ามด้วย พี่ชายทั้งสองคนของพี่หมวยเล็กนั่นเองครับ



            ‘เฮียใหญ่’ กับ ‘เฮียกลาง’



            “ยังดีที่หมวยเล็กไม่ได้มีแผลเลือดออกอะไร ไม่งั้นมึงจะโดนเละกว่านี้แน่ ๆ ไอ้หมู” เสียงเข้มของเฮียใหญ่ที่เป็นแชมป์มวยเก่าพูดขึ้นพร้อมกับมองผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกดีใจที่เฮียใหญ่ไม่ได้ฟาดหมัดหนักมาใส่ผม



            “แต่สำหรับกูแค่มีรอยก็ไม่ได้!” เสียงเข้มที่ดูอารมณ์ร้อนตามสไตล์ของเฮียกลางดังขึ้นพร้อมกับกระบอกปืนสั้นที่จ่อมาที่หน้าผากของผม (เฮียกลางเก่งยิงปืนครับ) ดูสิพี่ชายของพี่ศิลาแต่ละคนทำเอาผมแทบจะหัวใจวาย ผมควรจะสะดุ้ง...ครับ   ผมก็กลัวถ้าเป็นเมื่อก่อนแต่เพราะพี่หมวยเล็กทำให้ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น



            “ใจเย็นกลาง” เฮียใหญ่พูดเสียงเข้มเรียบ ๆ แต่แววตาดุดันของเฮียกลางกำลังจ้องผมนิ่ง



            ปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้าผากของผมไม่ได้ทำให้จิตใจของผมหวั่นไหว..เพราะถ้าหวั่นแค่นี้ ผมจะปกป้องพี่หมวยเล็กได้ยังไง นั่นแหละคือสิ่งที่เฮียใหญ่สอนผมมา



            “ถ้ามึงดูแลหมวยเล็กไม่ได้ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับหมวยเล็กอีก” เฮียกลางพูดเสียงเรียบ



            ผมมองด้วยแววตามุ่งมั่นทำให้เฮียใหญ่ที่กอดอกดูอยู่ยกยิ้ม



            “ผมยังยืนยันคำเดิมครับ ว่าผม...รักพี่หมวยเล็กจริง ๆ และพร้อมจะให้ทุกอย่างเพื่อพี่หมวยเล็ก” น้ำเสียงจริงจังไม่มีล้อเล่นทำให้เฮียกลางยิ้มมุมปาก เฮียกลางลดปืนลง ผมรู้ครับว่านั่นปืนจริงและรู้ว่าเฮียแกพร้อมจะยิงผมทุกเมื่อ ถ้าหมวยเล็กของพวกเขาเจ็บ แต่เวลาเฮียขู่แบบนี้เกือบทำผมฉี่จะราด...



            “เห็นมึงพูดหนักแน่นแบบนี้ก็ดี...แต่ถ้ามีเรื่องให้หมวยเล็กเจ็บตัวแบบนี้อีก...แล้วมึงดูแลไม่ได้ รู้นะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง ไอ้หมูย่าง...” ผมชอบชื่อหมูกรอบของพี่ศิลามากกว่าแฮะ...หมูย่างดูเกรียมไป... เฮียกลางพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง รู้สึกว่าเฮียกลางจะเป็นคนออกไปเคลียร์กับไอ้พวกหน้าจรวดให้ไม่กล้ามายุ่งกับพี่ศิลาอีก ตอนนี้เหลือแค่ผมกับเฮียใหญ่ ความกดดันของผมยังไม่หมดใช่ไหมครับ



            “มึงก็รู้ว่ากลางมันเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว มันก็หยอกมึงไปงั้นแหละ” เอาปืนมาจ่อนี่เรียกหยอกเหรอครับ...พี่ชายของว่าที่เมียผมโหดทุกคน



            “เรื่องนี้ไม่ได้บอกถึงหูป๊าและกูเชื่อว่าหมวยเล็กก็คงไม่อยากให้ป๊ารู้ด้วย มึงก็ไม่ต้องบอกว่ากูกับกลางมาหาหมวยเล็ก เพราะถ้าป๊ารู้ว่าหมวยเล็กมีรอยช้ำ มึงไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเห็นหน้าหมวยเล็กอีก”



            “ครับ...ผมทราบดี” ผมพยักหน้า เฮียใหญ่มองผมก่อนจะถอนหายใจ



            “แล้วนี่มึงทำไมไม่บอกความจริงกับหมวยเล็ก สารภาพรักรึยัง มัวทำอะไรโง่ ๆ อยู่?” ผมยิ้มแห้ง ๆ ...ถ้าคำว่ารักมันพูดง่ายเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ศิลา ผมก็บอกไปแล้วสิครับ แต่พอเจอหน้าหวาน ๆ ทีไร ใจผมแม่งสั่นแปดจุดเจ็ดริกเตอร์ทุกที ผมมันป๊อดทุกทีที่อยู่ต่อหน้าพี่ศิลา...



            “ไอ้ป๊อดเอ๊ย! กูจะบอกมึงให้นะว่าน้องกูไม่ชอบคนโกหก รีบบอกไปเหอะว่ามึงเป็นใคร เพราะแม้แต่กูก็จะช่วยมึงไม่ได้ ไอ้หมวยเล็กเวลาโกรธใครมันเอาจริงนะ” เฮียใหญ่เตือนสิ่งที่ผมรู้ดี ก็พี่ศิลาเพิ่งบอกมาเมื่อวานนี่เองว่าเกลียดคนโกหก ถ้าหลอกพี่เขา...



            “ก็ตอนแรกผมอยากเข้าหาพี่เขา...ในฐานะที่เป็นไอ้หมูที่แข็งแกร่งแล้วนี่ครับ” ผมบอกออกไปตรง ๆ ทำให้เฮียใหญ่เลิกคิ้วขึ้น เฮียใหญ่เอามือมาตบที่ไหล่ของผม...ผมกดดันมาก เฮียใหญ่ของว่าที่เมียของผมเชียวนะครับ



            “ไอ้หมูกูจะบอกอะไรมึงให้นะ น้องกูมันไม่ได้มองคนที่ภายนอก...ทำไมมึงไม่บอกมันไปว่ามึงหลงรักมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่บอกมันไปล่ะว่า...จากไอ้หมูที่เคยอ่อนแอ เปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งเพราะหมวยเล็ก ....ทำไมมึงจะคว้าใจน้องกูไม่ได้ ใจกล้าหน่อยสิวะ กูให้โอกาสมึงแล้วนะ ทำให้น้องกูมันเห็นสิว่า มึงรักมันแค่ไหน ...ถ้ามึงยังช้ากูจะไม่ให้มึงยุ่งกับ   หมวยเล็กอีกนะ ไอ้หมู” เฮียใหญ่พูดรัว ๆ ออกมาก่อนจะตบบ่าของผมอีกครั้งและเดินออกไปจากห้อง...



            ผมยังได้ไปต่อ...ความรักของผมยังคงดำเนินต่อ ผมคงต้องทำอะไรให้มันชัดเจนมากกว่านี้แล้วสิ!



            พอพูดถึงหลงรักพี่ศิลาตั้งแต่ตอนไหน...ทำเอาผมนึกไปถึงตอนที่เข้ามาหาเฮียใหญ่ครั้งแรกเลยล่ะครับ ตอนที่ผมมาฝึกเรียนมวยและเหมือนเฮียใหญ่จะรู้ว่าผมแอบมองหมวยเล็ก น้องชายคนเล็กของตระกูลดังบ่อย ๆ (ผมไม่ใช่โรคจิตนะ แอบมองเฉย ๆ...นั่นเรียกว่าโรคจิตครับไอ้หมู)





            |ย้อนไปตอนที่อยู่ที่ค่ายมวย|



            “ถ้ามึงล้มกูได้ กูจะให้โอกาสมึงจีบน้องกู เอาไหม” นั่นคือคำที่เฮียใหญ่บอกผม โอกาสมาแล้ว! ทำไมคนอย่างผมจะไม่รีบคว้า แต่บอกเลยครับว่า...โคตรเลวร้าย ให้ผมที่ตอนนั้นยังไม่ได้แข็งแกร่งหรือมีทักษะอะไร...ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเท่าไหร่ วัน ๆ ก็เรียนแต่พิเศษ (ที่มาสมัครเรียนมวยเพราะแอบตามพี่ศิลามา) แถมคนที่ผมกำลังจะประลองด้วยคือ พี่ชายคนโตของพี่หมวยเล็ก...แชมป์ระดับจังหวัด แถมกำลังจะแข่งระดับประเทศ...น็อคเป็นน็อคสู้เพื่อรักเว้ย!



            พลั่ก!! ตุบ ตุบ ตุบ.
..กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บอกเลยว่าเฮียใหญ่เอาจริงสุด ๆ หมัดแต่ละหมัดที่ปล่อยออกมาโคตรหนัก ...ผมคิดว่าผมจะตายแน่ ๆ



            “มึงแพ้แล้วไอ้สัดเอ๊ย” เฮียใหญ่ว่าและจะหยุด แต่ผมเอื้อมไปจับขาของเฮียไว้



            “ไม่ครับ..เฮีย ผมยังไม่แพ้” ผมพยายามจะลุกทั้ง ๆ ที่เลือดเต็มปาก เฮียใหญ่เลยนั่งยอง ๆ มองผม



            “มึงยังจะต่อยกับกูอีกเหรอ สภาพนวมขนาดนี้?”



            “ครับ! ยังไงผมก็ต้องยืนอยู่ข้างพี่หมวยเล็กให้ได้...เพราะงั้นผมยังไม่ยอมแพ้” ผมบอกด้วยความมุ่งมั่นและไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดไปนั่นทำให้เฮียใหญ่กระตุกยิ้มพอใจ



            “กูชักจะถูกชะตากับไอ้ว่าที่น้องเขยโง่แต่รักจริงซะแล้วสิ...”



            ....และนั่นก็คือประโยคที่ทำให้ผมได้ไฟเขียวจากพี่ชายคนโตของบ้านและพี่ชายคนรอง...



            ...ทีนี้ก็เหลือแต่พี่หมวยเล็กเท่านั้นแหละครับ...แต่สภาพของผมตอนนี้นวมมาก เฮียใหญ่ให้คนมาทำแผลให้ผมโดยตอนนี้ผมมีแต่ผ้าพันแผลเต็มหน้าเหลือไว้แต่ตรงตา...ช้ำในไปหมด แต่เฮียใหญ่ไม่ได้ต่อยอะไรที่ถูกที่สำคัญของผม เหมือนแกจะรู้ ใบหน้าหล่อของผมมีเพียงรอยช้ำแต่คนพันก็พันซะหมดหน้าเชียวครับ



            กลับบ้านไปแม่ของผมอาจจะกรี๊ดตกใจก็ได้...แต่ก็ถือว่าคุ้มถ้าหากผมจะได้เข้าไปหาพี่หมวยเล็กของตระกูลนี้ที่กำลังอยู่ปี 1 คณะวิศวะ ผมแอบมองพี่เขามาตั้งหลายปีตั้งแต่ตอนเล็ก ๆ ที่เจอกันที่สวนสาธารณะ พี่เขาใส่ชุดมีกระโปรงเหมือนผู้หญิงเลยแต่ผมรู้ว่าพี่เขาเป็นผู้ชายแถมยังยิ้มหวานให้ผมที่นั่งรอแม่อยู่คนเดียวอีกและผมก็ได้ยินป๊าเรียกชื่อพี่เขา...นั่นแหละครับคือครั้งแรกที่ผมเจอ พี่หมวยเล็ก...หลังจากนั้นผมก็แอบมองพี่เขาห่าง ๆ...แล้วรู้อะไรไหมครับว่าที่ผมอยากเรียนหมอก็เพราะมีพี่ศิลาเนี่ยแหละเป็นแรงบันดาลใจ...ไว้จะเล่าต่อในโอกาสหน้าละกัน (รอรู้พร้อมกับพี่ศิลาตอนที่ผมจีบพี่เขาติดแล้ว)



            ผมนั่งอยู่เก้าอี้แถวทางเข้าสนามมวยด้วยความเจ็บกรามชะมัด...กำลังคิดว่าจะหาข้ออ้างกับแม่ยังไงดี ก็ต้องตาโตกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อร่างบางผิวขาวเนียนอยู่ในชุดกางเกงกีฬาขาสั้นขาบานหน่อย     วิ่งเข้ามาพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง ผมหน้าที่ยาว ๆ ถูกยางมัดรวบเป็นจุกเล็ก ๆ



            เชรด...พี่ศิลาตัวเป็น ๆ ในระยะใกล้เลนส์สายตาของผม...เชี่ย บอกทีว่านี่ผู้ชายคณะวิศวะ....เห็นขาพี่ศิลาแล้วตัณหาเกิดขึ้นมาทันที โคตรน่า...น่ารักครับ...พี่ศิลากำลังจะวิ่งเข้าไปในสนามมวย คาดว่าน่าจะมาหาพี่ชายของตัวเองแหละ ไม่คิดว่าจะได้เจอ...ใจสั่นเหี้ย ๆ ไอ้หมูมึงหายใจเข้าลึก ๆ.....



            พี่ศิลาชะงักกึกมองผมที่นั่งมีผ้าพันแผลปิดหน้าปิดหน้า...เฮ้อ รู้สึกดีที่มีผ้าปิดหน้าไว้ ก็ยังไม่พร้อมจะเจอหน้าพี่เขาตรง ๆ นี่ ต้องเอาแบบแต่งตัวหล่อ ๆ ก่อน



            “เชี่ย...หึ ในสนามมวยมีมัมมี่ด้วย...มึงไปต่อยกับใครมาวะ โหดเชี่ย ๆ” ...พระเจ้า....พี่ศิลาพูดกับผม  อยากจะกระโดดเต้นท่าดึงดาวสักสองสามที...(มึงใจเย็น ๆ นะครับไอ้หมู)



            “เออ...คือ” จะบอกยังไงดีว่า เฮียใหญ่ของพี่แหละต่อยกับผมมา...



            “เจ็บมากไหมวะ กูไม่เคยเห็นมึง เด็กใหม่เหรอ ใส่ชุดนักเรียนด้วยเนี่ยนะ?” พี่ศิลามองผมอย่างสำรวจ พี่ครับ...สายตาของพี่กำลังทำให้ผมละลาย...แววตาหวานที่จ้องผมอยู่ทำเอาใจผมเริ่มเต้นแรง...



         ...ก็คนที่ผมชอบมาตลอดกำลังคุยกับผม...



            มือเรียวจะยื่นมาแตะหน้าผากผม ผมเลยชะงักออก...ตกใจครับ มือสวยชะมัด...มองระยะใกล้สวยหมดทุกอย่าง ได้แต่เคยมองระยะไกลพอมองใกล้ ๆ จิตใจแม่งฟุ้งซ่าน



            “ท่าทางจะโดนต่อยหนัก พันแผลหมดจนเหลือแค่ตาเนี่ยนะ...ตามึงคมชะมัดว่ะ” พี่ศิลาว่าพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง อยากจะบอกพี่ศิลาเหมือนกันว่าพี่ตาหวานมาก...แต่อาจจะโดนต่อยกลับมาก็ได้ บ้านนี้ท่าทางจะหมัดหนักทั้งบ้าน....ผมไม่เสี่ยงดีกว่า



            “แบมือมา” ผมทำหน้าเอ๋อ “เอ๋า! ยื่นมือออกมาดิวะ” พี่ศิลาดุขึ้น ผมเลยรีบแบมืองง ๆ



            ก่อนจะมองท็อฟฟี่ช็อกโก้ในมือที่ถูกวางลงโดยพี่ศิลาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง...เหมือนกับตอนเด็กที่เจอพี่เขาไม่มีผิด พี่เขาก็เอาท็อฟฟี่ให้ผมแบบนี้แหละ



            “ยังไงมึงก็สู้ ๆ ละกันนะ สักวันมึงจะต้องเข้มแข็งได้เหมือนนักมวยคนอื่น สู้ ๆ!” พี่ศิลาบอกแค่นั้นและเดินหายเข้าไปหาพี่ชายของตัวเองในสนามมวยด้านใน



            ทิ้งให้ผมมองท็อฟฟี่ช็อกโก้ในมือตัวเองอย่างอึ้ง ๆ ...แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ดูมีอะไรมาก...แต่สำหรับผมบอกเลยครับว่า มันคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ผมสู้ต่อ....รอผมก่อนนะครับพี่ศิลา ผมจะไปหาพี่เอง



            และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้โอกาสเข้าไปหาพี่หมวยเล็กของผม ผมตัดสินใจจะไปสารภาพรักกับพี่ศิลาแล้วล่ะครับ! เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!....ถ้าผมยังทำอะไรโง่ ๆ ไม่พูดไปสักที ผมอาจจะไม่มีโอกาสเข้าใกล้พี่ศิลาอีกก็ได้....



            .....................

            .....................

            .....................


             มีต่อด้านล่างค่ะ
......................

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ต่อจากด้านบน......




            [พาร์ตของศิลา]




            ผมลืมตาขึ้นในห้องของผม ผมลุกขึ้นนั่งโดยมีไอ้เสาเข้ามาพยุงช่วย แอบปวดตามตัวนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก เพราะผมไม่ใช่คนที่อ่อนแอแบบนั้นซะหน่อย...ที่สลบไปเพราะหิวจัด



            “ตื่นแล้วเหรอวะ ไอ้เชี่ยกูตกใจหมด...เป็นไงปวดหัวไหม” ไอ้เสาถามขึ้นมาทันที ผมบิดตัวนิดหน่อยเพื่อไล่ความปวดเคล็ด ๆ ผมส่ายหน้า



            “ไอ้หมูล่ะ” นั่นคือคำถามแรกของผม...ก็ผมเห็นมันคนสุดท้าย ผมเองก็แปลกใจอยู่ที่เอ่ยถึงชื่อมันคนแรก



            “แหม ถ้าไอ้หมูกรอบมันมาได้ยินคงจะดีใจที่มึงเอ่ยชื่อมันเป็นคนแรก” ไอ้เสาล้อ



            “ไอ้สัด...กูก็ถามดู เห็นมันต่อยไอ้หน้าจรวดจนนวม” ผมว่า ไอ้เสากับไอ้นนท์มองหน้ากัน



            “มีอะไรรึเปล่าวะ” ผมถามพวกมันที่ทำหน้าเลิกลักใส่กัน...อะไรของพวกมึง



            “น้องหมูกรอบมันไปซื้อข้าว / มันกลับหอ” เสียงไอ้เสาตอบพร้อมกันกับไอ้นนท์ที่ตอบมาเหมือนกัน แต่แม่ง...มันสองคนตอบคนทิศคนละทาง



            “อะไรของพวกมึงสองคนตกลงน้องมันไปไหน?”



            “จริง ๆ มันไม่ได้บอกพวกกูอ่ะ” ไอ้เสายอมรับออกมา แปลกไหมที่ผมรู้สึกกังวลว่า...กลัวไอ้หมูมันจะคิดมากว่าเป็นความผิดของมันที่ไม่มารับผมแล้วเจอคู่อริเก่า



            นี่ผมกลายเป็นคนคิดมากแทนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ไม่ใช่หรอก ผมว่าผมคิดมากอาจจะเป็นเพราะมันเป็นเรื่องของไอ้หมูก็ได้...เชี่ยยย มึงคิดอะไรอยู่ครับศิลา



            “ป๊าไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?” ผมถามขึ้น



            “ไม่ พวกกูรู้ว่ามึงคงไม่อยากให้ป๊ารู้ก็เลยไม่มีใครบอก” ไอ้เสาว่า จริงครับ...ผมไม่อยากให้ป๊าเป็นห่วงผม แค่นี้ผมก็เสี่ยงที่จะไม่ได้เรียนวิศวะอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่มีไอ้เสาเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมมาเรียนด้วยก็คงไม่ได้มาเรียนคณะนี้



            “กูไม่เป็นอะไรมากหรอก แผลก็ไม่ได้มีอะไร พวกมึงกลับไปพักผ่อนเหอะ ไปหากินข้าวกินปลาไป” ผมบอกไอ้เสากับไอ้นนท์ที่ยืนมองผมอยู่เหมือนมาเฝ้า



            “จะให้พวกกูกลับได้ไงวะ แล้วใครจะดูแลมึง มึงแหละสัดยังไม่ได้กินไรเลย” ไอ้เสาเอามือเท้าเอว เสียงโทรศัพท์ของไอ้เสาดังขึ้น มันเอามาดูก่อนจะมองหน้าผม



            “มึงอยากกินอะไรไหมล่ะ พวกกูจะซื้อมาให้” เสาถามอีกรอบ จริง ๆ...อยากกินข้าวหมูแดงอ่า....



            “ไม่ล่ะ กูมีข้าวในตู้เย็นอยู่ พวกมึงกลับเหอะพรุ่งนี้เจอกัน” ผมยืนยัน ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็เลยพยักหน้าเข้าใจ



            “เออ ๆ ถ้ามึงว่างั้นก็เอาตามนี้ ยังไงช่วงนี้อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างน้อยก็ต้องไปกับกู หรือไม่ก็ไอ้นนท์ ....หรือไม่ก็ไอ้หมูกรอบ ห้ามไปไหนคนเดียวนะ เข้าใจป่ะ” ไอ้เสาว่ายาว ๆ ออกมา ผมยิ้ม



            “เออ ทราบแล้วไอ้สัดเสา” ไอ้เสากับไอ้นนท์เดินออกจากห้องไปพร้อมกัน



            เสียงประตูที่ปิดลงทำให้ผมถอนหายใจเบา ๆ มองกระจกตรงหน้า ก็เห็นรอยช้ำที่มุมปากนิดหน่อย ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ไม่ได้รับสายจากไอ้หมูตั้ง 10 สาย...เชี่ย มันโทรมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยตอนที่กำลังต่อยกับพวกนั้นแหง ๆ ที่มันกระหน่ำโทรมา ผมมองเบอร์ตรงหน้าและกำลังจะเลื่อนมือกดโทรออกหามัน...แต่ก็ชะงักและโยนโทรศัพท์ลงเตียงเหมือนเดิม



            กูเป็นอะไรวะ...ตื่นมาคนที่นึกถึงก็เป็นไอ้เชี่ยหมูกรอบ...หรือผมจะอารมณ์เสียที่มันไม่พาผมไปกินข้าวก็เลยแบบว่านึกถึงมันคนแรก...



            ติ๊งต๊อง เสียงกริ่งหน้าห้องของผมดังขึ้น ทำให้ผมลุกขึ้นไปเปิดโดยที่ไม่ได้ดูช่องประตูเล็ก รึว่าแต่เป็นพวกไอ้เสากับไอ้นนท์ลืมของ



            “พวกมึงลืมอะ...ไอ้หมูกรอบ??” ผมเงยหน้าขึ้นก็เจอหมูที่ยืนถือถุงข้าวอยู่...อึ้ง ผมอึ้งครับ ไม่คิดว่าจะเป็นมันมายืนอยู่หน้าห้องของผม หมูยิ้มพร้อมกับชูถุงข้าว



            “ผมซื้อข้าวหมูแดง กับบะหมี่หมูแดงมาฝากครับ...ไม่รู้ว่าพี่อยากกินอันไหนก็เลยซื้อมาสองอัน” ไอ้หมูยื่นมาให้ผม ผมรับมาดูมันซื้อมาเยอะมาก ผมเหลือบมองมือของไอ้หมูที่ช้ำด้วย...ต่อยแรงขนาดไหนกันวะ จนมือของตัวเองช้ำ มันยื่นของอีกถุงมาให้ผมด้วย เยอะแยะไปหมด...



            “อะไร” ผมถามถึงถุงกระดาษสีน้ำตาลอีกใบ



            “เอาไว้เป็นของกินเล่นครับ พี่ศิลาน่าจะชอบ” ไอ้หมูยิ้ม “ทานเยอะ ๆ นะครับ” เขาบอกและกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป เดี๋ยว...แปลกที่มันไม่วอแวกับผม เห็นมันทำท่าแบบนี้แล้วผมรู้สึกกังวลยังไงไม่รู้สิ



            “เดี๋ยวไอ้หมู”



            “ครับ?” หมูหันมาเลิกคิ้วให้ก่อนจะตาโต



            “มึงซื้อมาตั้งเยอะกูกินไม่หมดหรอกนะ มาช่วยกูกินเลย เชี่ย...ยิ้มทำไมวะ” ผมพูดยังไม่ทันจะจบไอ้หมูก็ยิ้มกว้างออกมา เห็นยิ้มของมันแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยแฮะ...อย่างน้อยก็ดูเหมือนมันไม่เครียด



            “ก็พี่ศิลากำลังชวนผมกินข้าว...” มันเกาแก้มตัวเองนิด ๆ “ดีจังที่ซื้อมาเยอะ”



            “พูดมาก จะกินไม่กิน”



            “กินสิครับ! มาผมช่วยถือนะ มันร้อน” ไอ้หมูมาหิ้วถุงข้าวแทนผมและเปิดประตูห้องของผมให้ผมเดินเข้าไปก่อน ทำตัวประดุจนี่เป็นห้องมันเอง...เหอะ ๆ ไอ้นี่แม่งอารมณ์เปลี่ยนเร็วชิบ แต่เห็นมันอารมณ์ดีผมก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย...ผมว่าผมเริ่มจะเป็นประสาทแล้ว



            ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารส่วนจานชามทั้งหมด ไอ้หมูเสนอตัวว่าจะหาเอง ผมเอามือเท้าคางมองมันที่เปิดข้าวใส่จานให้ผมอยู่...ดูทุ่มเทดีเนอะ



            “อย่าจ้องผมสิครับ ผมเขิน” หมูกระตุกยิ้มขี้เล่นตามประสามัน ผมว่ามันอ่ะไม่เขินหรอก...แต่คนที่เขินน่าจะเป็นผมที่โดนมองคืน...เชี่ย กูจะเขินทำบ้าอะไร คิดไรของกูครับศิลา....



            “พี่ไม่เจ็บตรงไหนมากใช่ไหม ผมขอโท...”



            “ถ้ามึงพูดเรื่องนี้อีกกูจะจับมึงโยนออกไปนอกห้อง” ผมพูดทำให้หมูหุบปากทันที “มันไม่ใช่ความผิดมึงหรอก มันเป็นจังหวะไอ้พวกหาเรื่องมันพอดี เพราะงั้นไม่ต้องมาขอโทษกูให้เรื่องมันจบ ๆ ไป”



            หมูเลื่อนข้าวหมูแดงมาให้ผมตรงหน้าพร้อมกับบะหมี่หมูแดง...มันจะขนซื้อมาทำไมเยอะแยะเนี่ย เห็นผมเป็นพวกกินเยอะเหรอ...แต่จริง ๆ ก็กินเยอะนะ



            “ว่าแต่ทำไมมึงถึงมาหากูได้ ไหนว่าไปส่งน้องชมพู่ของมึง?” ผมถามก่อนจะชะงักกับคำตอบ



            “ชมพู่ไม่ใช่ของผมครับ คนที่จะเป็นของผมได้ คือพี่ศิลาเท่านั้น...” จึก...มันพูดเชี่ยแบบนี้อีกแล้ว



            แล้วทำไมปากของผมต้องยิ้มฟะ...หยอดจนผมจะกร่อนหมดแล้ว



            “คือผมไม่ได้ไปส่งชมพู่ครับ ผมให้เธอกลับกับเพื่อนของเธอเอง...ผมโทรหาพี่แล้วพี่ไม่รับ รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงพี่มาก พี่ศิลา...อย่าไปไหนคนเดียวอีกนะ” ผมมองมือของมันที่เอื้อมมากุมมือของผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ พูดเหมือนผมอ่อนแอมาก ผมก็ปกป้องตัวเองได้...แต่แปลกที่ผมเลือกที่จะไม่สะบัดมือของมันออก



            มือหนาของไอ้หมูมันใหญ่กว่ามือของผมมาก...เพิ่งจะสังเกตเห็นอีกแล้ว แถมทำไมมันอบอุ่นแบบนี้นะ...ผมชักมือกลับเหมือนได้สติทำให้หมูยอมยกมือออกจากผม



            “มึงก็คิดมาก กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ก็เห็นอยู่ว่ากูสู้พวกมันได้...” ผมบอกแต่แววตาเข้มที่มองอย่างเป็นห่วงจริง ๆ ทำให้ผมถอนหายใจ



            “เออ กูรู้ละ จะไม่ไปไหนคนเดียว” หมูยิ้มออกมาและพยักหน้าเหมือนดีใจที่ผมยอมฟังมัน...



            แล้วกูจะฟังมันทำไมวะ...



            “ผมอยากพูดชัด ๆ กับพี่ศิลาว่า ชมพู่เป็นแค่เพื่อนโรงเรียนเดียวกันกับผม ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมแม้แต่นิดเดียว ที่ผมไปส่งเธอก็เพราะแม่ของเธอบอกมาน่ะครับ...ผมไม่อยากให้พี่ศิลาเข้าใจผิด ผมผิดเองแหละที่ไม่ปฏิเสธเธอให้ชัดเจน ต่อไปนี้พอแล้วครับ ยังไงพี่ศิลาก็คือคนที่สำคัญที่สุดของผม” ผมที่นั่งฟัง...ภายในใจกับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด...ไอ้นี่แม่งอธิบายจริงจังจนผมขนลุก



            “เออรู้แล้ว มา ๆ กินเหอะ เดี๋ยวก็เย็นกันหมดพอดี ว่าแต่มึงจะกินไร” ผมละสายตาจากไอ้หมูแล้วมามองอาหารตรงหน้า ข้าวหมูแดง เย้ ๆ 



            “พี่เลือกก่อนเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้”



            “มึงเลือกก่อน มึงซื้อมา”



            “ไม่ครับผมให้พี่ก่อน” เออเจริญล่ะครับ...เถียงกันไปกันมา สรุปแม่งไม่ต้องกินทั้งสองคนเลยไหม



            “เออ งั้นกูเอาข้าวหมูแดงละกัน มึงเอาบะหมี่ไป” สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนออกคำสั่งกับไอ้คนที่มันนั่งยิ้มเอาแต่มองผมตาปริบ ๆ ผมตักข้าวหมูแดงกินด้วยความอร่อย...รสชาติร้านดีมันดีจริงอ่ะ!



            “อร่อยไหมครับ?” ไอ้หมูที่คีบเส้นบะหมี่กินถามผมขึ้น...จริง ๆ บะหมี่ก็น่ากินอ่า..



            “อร่อย” ผมว่า “มึง เส้นบะหมี่อร่อยป่ะ ชิมหน่อยดิ” ไอ้หมูไม่ลังเลที่จะเลื่อนชามมันมาให้ผม  ผมเลยหยิบตะเกียบจากมือของมันมาอย่างไม่ได้คิดอะไร และตักเส้นกิน โห เส้นนุ่มมาก ร้านนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยอ่ะ! ผมเคี้ยวตุ้ย ๆ เวลากินผมมักจะกินแบบไม่ค่อยสนใจแบบนี้แหละ ประมาณว่าของกินอยู่ตรงหน้าผมก็จะกินมันอย่างมีความสุข ผมเงยหน้ามองหมูที่มองอึ้งและหน้าแดง...มันหน้าแดงทำไม?



            “เป็นอะไรของมึง?”



            “พี่ศิลากินตะเกียบอันเดียวกับผม...” หา? ผมเลิกคิ้วมองตะเกียบในมือของตัวเองก่อนจะปล่อยมันคืนชามไอ้หมู เมื่อมันพูดประโยคต่อมา



            “เหมือนผมกับพี่จูบกันทางอ้อมเลย” จูบทางอ้อมเชี่ยไรไอ้หมูกรอบ....



            “ไอ้เชี่ยหมู นี่ความคิดมึงเหรอไอ้เชี่ย” ผมด่าไม่จริงจังเรียกเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้าได้ทันที



            “ฮ่า ๆ! ผมสบายใจจังที่เห็นพี่ด่าผมแบบนี้” อ้าว ไอ้นี่แม่งโรคจิตได้อีก ชอบให้คนด่า....



            ผมกินข้าวของตัวเองต่ออย่างไม่สนใจสายตาเข้มที่มองผมไปด้วยกินไปด้วย ระวังบะหมี่จะติดคอนะไอ้หมูกรอบ...พอกินเสร็จอิ่ม ผมก็เอื้อมไปหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลอีกใบที่ไอ้หมูมันเอาให้ผม



            “แล้วอันนี้อะไรวะ” ผมถามและค้นดู ก่อนจะมองสิ่งที่อยู่ในถุงอย่างแปลกใจ “เฮ้ย ท็อฟฟี่ช็อกโก้ แม่งไม่เห็นมันนานแล้วนะเนี่ย” ผมหยิบกล่องท็อฟฟี่ช็อกโก้ที่ผมชอบกินออกมาวางบนโต๊ะ มันเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ คล้ายน้ำตาลก้อน แต่มันเป็นช็อกโก้เหนียวหนึบเคี้ยวนุ่มอร่อยเพลิน (ให้ค่าโฆษณาผมด้วยนะครับ)



            “มึงไปหาซื้อจากไหนวะ กูไม่ได้กินมาสักพักละ” ผมหยิบออกมาดูหนึ่งชิ้น



            “ซื้อจากที่ไหนไม่สำคัญหรอกครับ...แค่รู้ว่ามันเป็นของที่พีศิลาชอบ ผมก็หามาให้พี่ได้..” ไอ้หมูพูดทำให้ผมที่กำลังหลี่ตาข้างหนึ่งมองท็อฟฟี่ตรงหน้า มองหมูอย่างสงสัย



            “มึงรู้ได้ไงว่ากูชอบ?...” มันชะงัก



            “พี่ศิลาครับ...พี่เคยให้ท็อฟฟี่อันนี้กับใครไหม” มันไม่ได้ตอบคำถามผม แต่กลับถามมาอีกแต่ดูเหมือนไอ้หมูมันจะกลืนน้ำลายฝืน ๆ ทำหน้าเหงื่อตก



            “เคย ก็ให้หลายคนอ่ะ ทำไม?” ผมตอบกลับตามความจริง เพราะผมมักจะพกท็อฟฟี่อันนี้เป็นประจำก็ชอบเอาไปแจกพี่ชายผมเป็นประจำ...



            “ให้ที่สนามมวยอ่ะ” ไอ้หมูพูดต่อผมเลยนึกตามพร้อมกับมองแววตาเข้มตรงหน้า...เอ๊ะ เดี๋ยว ทำไมไอ้หมูรู้จักสนามมวย!! แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมเคยไปสนามมวย...



            ผมวางท็อฟฟี่ลงกล่องพร้อมกับทุบโต๊ะทำเอาไอ้หมูที่นั่งตรงหน้าแอบสะดุ้ง



            “มึงรู้ได้ยังไงว่ากูเคยไปสนามมวย...” ผมถาม หมูสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ



            “บอกก่อนได้ไหมว่าถ้าเล่าแล้ว...จะไม่โกรธ” มีมาตั้งเงื่อนไขกับผมเหรอ ไอ้เชี่ยหมู...บอกเลยว่ามาถามแบบนี้มันต้องมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกผมแน่ ๆ



            “กูจะโกรธมึงแน่นอน!” ผมตอบ ไอ้หมูสะดุ้งเฮือกอีกรอบ “ถ้ามึงไม่บอกกูตอนนี้กูจะโกรธมึงจริง ๆ”



            “...............”



            “พูดมาสิวะ” ผมมองมันที่ทำหน้าตื่นเต้นสุด ๆ จะพูดอะไรของมึงไม่ทราบ



            “พี่ศิลาครับ คือว่า...”



            “ว่า?” ผมรอฟังมันก็ทำท่าอ้ำอึ้ง อ้าวไอ้สัด กูก็ลุ้นจะฟังอยู่นะเฟ้ย



            “...............” ลีลามาก มันลีลา ผมอยากจะกระโดดถีบ ก่อนจะตาโตกับสิ่งที่ออกมาจากปากของไอ้หมู



            “ผมรักพี่ศิลาครับ รักมานานแล้วด้วย...และไม่คิดจะเปลี่ยนใจจากพี่หมวยเล็กตรงหน้าด้วย”



            “ผมคิดถึงพี่ทุกคืน ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงเสมอ...แอบตามพี่ไปสนามมวย ขอแค่เห็นหน้าพี่ก็น่าจะพอใจ แต่ผมรับรู้ว่า ยิ่งใกล้...ความรู้สึกของผมก็ยิ่งมาก ยิ่งอยากครอบครอง....”



            ผมที่กำลังจะกินน้ำก็ชะงักอึ้งแดกไป คำที่มันสารภาตรง ๆ แบบปุ๊ปปั๊ปทำเอาผมอึ้งแล้ว



            แต่คำว่าหมวยเล็กที่มันใช้ทำให้ผมเงิบไปอีก คำว่า มานานแล้วก็เหมือนกัน เงิบ....และคำสุดท้ายยิ่งอยากครอบครอง!! เหี้ยยยยยยยยยยย....ผมไม่ได้ใสซื่อนะโว้ย รู้นะว่ามันหมายถึงอะไร (หมายถึงอะไร?)



         ...กูจะทำหน้ายังไงใส่มันล่ะครับคราวนี้ ต่อยมันสักหมัดดีไหม แก้อาการเงิบ...





.............................+++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ตามอ่านเรื่องนี้นะคะ เยิฟฟฟ ไรท์เองก็ขัดใจกับชะนีในเรื่องที่มาเกาะเเกะน้องหมูเหมือนกันค่ะ 555 เดี๋ยวจะให้พี่ศิลาเป็นคนจัดการเองงงง ^^
 :กอด1: :กอด1: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2017 18:03:40 โดย vampire_rose »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พูดความจริงไปเลย หมูย่าง เอ๊ย.....หมูกรอบ
อ้ำอึ้ง ไม่พูดซักที ก็เหมือนโกหก ล่ะนะ
เรื่องชมพู่ ก็เหมือนกัน ปฏิเสธให้ชัดเจน
ชมพู่ ให่แม่พูดให้หมูรับส่งตัวเอง
เพื่อให้หมูเกรงใจผู้ใหญ่ ไม่น่ารัก ขี้โกงนี่ ใช้เล่ห์กล กับหมู
แต่พออ่านถึงตอนข้าวหมูแดง บะหมี่หมูแดง
คนอ่านหิวติดหมัดขึ้นมาเลย
หมูซื้อที่ร้านไหน จะตามไปซื้อบ้าง
หมวยเล็กยังว่าอร่อยเลย  อยากกิน  :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
โอ้ยยยยน ลุ้นนนนน อยากอ่านต่อล้าวววววว
น้องหมูย่างรีบสารภาพได้แล้ววว อยากรู้ปฏิกิริยาหมวยเล็ก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ถ้ายังป๊อด ได้เป็นหมูย่างจริงๆแน่
 :pig4:

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
เรื่องยังไม่กระจ่าง

ติดตามกันต่อไป

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
แววกลัวเมียมาแต่ไกลน้องหมู

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 10



                  [พาร์ตของศิลา]



            ทุกอย่างเงียบกริบ...ผมมองหน้าไอ้หมูที่สารภาพออกมาหน้ามันแดงไปหมดจนถึงหู บ่งบอกว่ามันค่อนข้างรวบรวมความกล้ามากเหมือนกัน บอกเลยว่า...เงิบมาก ผมนั่งมองหน้าของมันสักพักก็เหมือนจะจำแววตาคม ๆ คู่นี้ขึ้นมาได้ลาง ๆ พอพูดถึงขึ้นมาก็ทำให้นึกย้อนไป...



            “อย่าบอกนะว่าคนที่นั่งอยู่หน้าสนามมวยตอนนั้นคือ มึง?” หมูตาโตและพยักหน้ารวดเร็วราวกับดีใจมากที่ผมจำได้...จริง ๆ กูจำไม่ได้ต่างหาก...แต่แววตาแพรวพราวของเขาที่มันสะท้อนออกมา ผมจำได้นะ



            ...แววตามุ่งมั่น มัมมี่ที่นั่งอยู่หน้าสนามมวย ฮ่า ๆ! ผมพอจะจำได้ว่า อวยพรให้มันสู้ ๆ ด้วย...อยากจะบอกว่าสภาพของผมตอนนั้น แม่งเป็นอามวยเล็กมาก ทั้งขาว ทั้งตัวเล็ก...เป็นสภาพของผมที่ไม่ค่อยอยากจะจำเท่าไหร่ (ก็ผมอยากเข้มแข็งนี่ครับ ก็ผมเป็นผู้ชาย เลยไม่ค่อยชอบเห็นรูปลักษณ์ของตัวเองที่มันขาว ๆ ตัวเล็ก) อุตส่าห์จะเป็นเล่นฟิตกล้ามกับเฮียใหญ่ที่ค่ายมวย แต่ฟิตเท่าไหร่ กล้ามผมก็ไม่ขึ้นสักนิด



            “กูถามจริงเหอะ อะไรทำให้มึงเลือกที่จะ...ตกหลุมรักกูแบบนี้ กูไม่เห็นว่าตัวเองจะมีอะไรที่มันน่าดึงดูดตรงไหน?” หรือจริง ๆ ...กูมีอะไรน่าดึงดูดวะ



            หมูเหมือนคลายอาการเกร็งนิดหน่อย ที่เห็นผมพูดดี ๆ กับมัน ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดไม่ฟังเหตุผลคนซะหน่อย ถ้ามันอยากอธิบายผมก็จะฟังมันอยู่นี่ไง



            “ก็อาจจะเป็นอย่างที่พี่ศิลาเคยบอกว่า...ถ้าหัวใจมันเลือกแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ ผมเลือกที่จะรักพี่แล้ว....เพราะงั้นมันก็แปลว่ารัก” เชรด...พอได้พูดออกมาแล้วดูเหมือนไอ้หมูจะพูดคล่องเชียวนะ



            ไอ้อาการอายของมึงไปไหนแล้ว!!



            “งั้นที่มึงมาหากูที่คณะ แล้วมาถามหาหมวยเล็ก...ก็คือกูเหรอ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่พอจะรู้คำตอบ  ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะใครล่ะครับไอ้ศิลา...



            “ใช่ครับ” เชี่ย...งั้นที่มันบอกว่าหน้าสวย ริมฝีปากเล็ก...กูเหรอ กูไม่ได้หน้าสวยนะ!...(ยอมรับความจริงเถอะครับไอ้ศิลา)



            “.........”



            “พี่ไม่โกรธผมใช่ไหม” มันถามอ้ำอึ้ง ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจมัน แค่มันสารภาพรักกับผม แล้วผมจะไปโกรธมันทำไม เดี๋ยว...หรือจริง ๆ ผมต้องโกรธ ผู้ชายมาสารภาพรักนะเว้ย!...



            แปลกมากที่ผมกลับไม่รู้สึกตกใจมาก...ก็แค่เงิบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจความรู้สึกของไอ้หมู



            “...........”



            “พี่ศิลา....” ไอ้หมูทำเสียงเศร้าขึ้นมาทันที หน้าตาเหมือนหมูย่างกรอบเกรียมเชียว...



            “มึงยังยืนยันที่จะจีบกูต่อใช่ไหม?” ผมถามหลังจากที่เงียบมานาน หมูทำหน้าตาเลิกลักและรีบพยักหน้า ไอ้เชี่ยนี่....ทำตัวปกติเป็นไหม



            “แน่นอนครับ!”



            “ไม่ว่ายังไงมึงก็จะจีบกูให้ติดใช่ไหม?”



            “แน่นอนครับ!”



            “มึงคิดดีแล้วใช่ไหม”



            “แน่นอนครับ!!” ไอ้หมูรับปากอย่างหนักแน่น ผมพิงเก้าอี้มองไอ้ผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายที่เป็นถึงเดือนแพทย์ แต่มันไม่ได้นิสัยใสซื่อกลับเจ้าเล่ห์ ขี้ตื้อ แถมยังมาสารภาพกับผมว่า แอบมองผมมานานแล้ว



            ผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง...เหมือนกับผม



            “ถ้ามึงอยากจีบก็จีบไปละกัน” ผมบอกเรียกความสนใจของหมูให้หันมามองตาโตเท่าไข่ห่าน ไอ้เชี่ยนี่ก็ทำหน้าโอเวอร์ตลอด



            “พี่ศิลาพี่พูดว่า...ให้ผมจีบพี่ต่อเหรอ”



            “เออ” ผมบอกและก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า...กูพูดเชี่ยอะไรออกไป ไอ้ศิลาครับมึงพูดอะไรเนี่ยยยยยย....



            “จริง ๆ ผมก็จีบพี่มาสักพักแล้วนะครับ ทำไมพี่ไม่ยอมคบสักที” จีบพ่อง...กูยังเห็นมึงไปกับน้องชมพู่อยู่เลยไอ้สัด...(เริ่มพาล)



            “ลีลาการจีบมึงห่วยเอง ช่วยไม่ได้” คำตอบของผมเรียกเสียงหัวเราะของหมูเบา ๆ



            “อาจจะจริงที่พี่ว่า” เปล่า...ลีลาการจีบมึงโออยู่...แต่ไม่โอตรงไปกับผู้หญิงคนอื่นนี่แหละ ฟาย...



            “พี่ศิลาเหมือนด่าผมในใจเลย” เออ กูด่า..



            “ทำไมพี่ถึงให้ผมจีบต่อ แสดงว่าพี่ใจอ่อนกับผมแล้วใช่ไหมครับ” น้ำเสียงดีใจกรุ่มกริ่ม



            “เปล่า กูรำคาญ ขี้เกียจพูด” ผมตอบออกไปแบบว่า...ปากหมาสุด หมูชะงักนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้ม  นี่ถือเป็นข้อดี      ของมันรึเปล่านะ ที่ไม่ว่าอะไรก็จะยิ้ม



            “มีเรื่องจะพูดกับกูแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถาม ไอ้หมูก็พยักหน้า ผมเลยโยนท็อฟฟี่ให้มันกิน ไอ้หมูก็เอาไปแกะกินเงียบ ๆ ราวกับรู้ว่าผมไม่ต้องการจะพูดอะไรต่อกับมัน



            ผมกับมันนั่งกินท็อฟฟี่อย่างเงียบ ๆ....เหมือนต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง



            “พี่ศิลาพรุ่งนี้อยากมาหาพี่ที่คณะแต่ว่า...ผมมีซ้อมดาวเดือน”  หลังจากที่เงียบไปสักพักมันก็พูดขึ้น ผมเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ก็มองหน้ามัน



            “มึงใกล้จะแข่งแล้วนี่ แข่งวันไหนนะ?”



            “มีเดินแบบโชว์รอบแรก มะรืนครับ” มันบอก ก็ใกล้แล้วนี่หว่า “พี่จะไปดูผมไหม”



            “ไป ไอ้เสาน่าจะลากไปด้วย” ผมบอก



            “ถ้าพี่เสาไม่ลากไปด้วย พี่คิดจะไปเชียร์ผมไหม”



            “กูก็ไปดูน้องคณะกูอยู่ไง” ผมว่าพลางแกะขนมกิน มันไม่อ้วนหรอกครับ...แค่ลงพุง ฮ่า ๆ!



            “ต้องไปดูผมสิ...นะ นะ อยากได้เสียงเชียร์จากพี่ศิลา” ทำเป็นเด็กอนุบาลไปได้ สาวเชียร์มึงออกจะเยอะ กรี๊ดทีหอประชุมแทบแตก...จะให้กูไปกรี๊ดด้วยเหรอ(?)



            “นะครับ” ไอ้นี่ตื้อได้น่ารำคาญมาก...แต่ผมก็แพ้ทางลูกอ้อนเชี่ย ๆ แบบนี้ตลอด



            “เออ ๆ วุ่นวายตลอดมึงนิ กลับหอมึงไปได้แล้วไป ดึกแล้ว” ผมมองนาฬิกาและไล่ไอ้หมูที่ทำเนียนจะไม่กลับห้องมัน อย่าได้ใจให้มันมาก...กูให้โอกาสมึงจีบต่อไม่ได้ให้โอกาสมึงมาทำหน้าทะเล้น



            “กะจะแอบเนียนซะหน่อย ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าโหดสิครับ...พี่ก็รู้ว่าพี่ศิลาหน้าไม่โหด” ไอ้นี่เดี๋ยวปั๊ดจับหัวโขกผนังหรอก!! ไอ้หมูยิ้มและช่วยเก็บพวกจานชามไปไว้ให้ในครัว ตอนแรกมันจะล้างด้วย ผมก็เลยไล่มันกลับไปซะ หาข้ออ้างตลอด....ไอ้นี่แม่งบ้า....



            ..................

            ..................





            |วันเดินโชว์ตัว ก่อนการประกวดจริง 1 วัน|



            “ใครว้า บอกกูว่าแม่งไม่อยากมาหรอก...แต่ลากกูมาเองเชียว” ไอ้เสาที่อยู่ในชุดนักศึกษาเต็มยศพร้อมหน้าที่ถูกแต่งนิด ๆ รู้สึกว่าแก้มไอ้เสาชมพูอ่อนเชียวครับ มันยืนเท้าเอวมองผมล้อ ๆ



            “ไอ้สัดเสาพูดมาก”



            “ถามจริง นี่มึงกับน้องยังไม่คบกันอีกเหรอวะ?” ผมมายืนอยู่แถวหน้าหอประชุมที่กำลังจะมีการเดินโชว์ตัวเพื่อที่จะเข้าสู่งานจริงวันพรุ่งนี้ อ้อ...ลืมบอกไปครับว่า การแสดงของไอ้หมูอ่ะ มันบอกว่ามันขอซ้อมเองไม่ต้องให้ผมไปช่วยแล้ว เห็นมันบอกอยากเซอร์ไพร์...ผมหวังว่ามันจะไม่ไปทำให้ตัวเองขายหน้าพรุ่งนี้หรอกนะ...



            “ยัง...”



            “เอ๋า กูเห็นมึงกับน้องความสัมพันธ์ดีขึ้นนะ ทำไมยังไม่คบอีก?” ไอ้เสาว่าเหมือนพวกทำตัวเป็นพ่อสื่อชักนำ ดูมึงจะส่งเสริมให้กูได้กับผู้ชายจังนะ!



            “ทำไมมึงดูส่งเสริม อยากให้กูได้กับมันนักเหรอ”



            “มึงรู้ตัวรึเปล่าว่า มึงดูเป็นตัวเองมากกว่าเดิม เวลาอยู่กับไอ้น้องหมู” ผมที่มองเข้าไปตรงประตูของหอประชุมก็ชะงัก...เป็นตัวของตัวเองเหรอ? ผมเงยหน้ามองไอ้เสาที่ยิ้มให้ผม



            “มึงหมายความว่าไง เป็นตัวของตัวเอง”



            “ก็ปกติมึงอ่ะ ชอบทำเป็นเถื่อน ทั้งที่แม่งไม่ได้เถื่อนอะไรกับเขาเล๊ย” พูดว่าผมแต่ไอ้เสามันก็ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ย...บอกเลยนะครับว่า ไอ้เสาตอนนี้ออร่าดึงดูดผู้ชายมาก หึหึ...ผมว่าไอ้สัดนนท์ใกล้จะมีงานเข้าแล้วล่ะ เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าเวลาไปไหนมาไหนกับไอ้เสา ผู้ชายมันหันมามองด้วย ฮ่า! ท่าทางมันจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ



            “แต่เวลามึงอยู่กับไอ้น้องหมู มึงได้เป็นตัวของตัวเองดีว่ะ อย่างน้อยก็สบายใจใช่ไหมล่ะที่ได้อยู่กับน้องมัน” ไอ้เสาพูดพล่ามเหมือนให้ผมคิด...สบายใจเหรอ ตอนที่อยู่กับมันก็เอาแต่พูดจาด่ามัน...แต่ทุกครั้งที่ด่ามันก็เอาแต่ยิ้มตอบกลับมา



            ...จนผมคิดว่าไอ้นี่บ้า...ยอมให้ผมด่าอยู่ได้ แถมไล่ก็ไม่ไป



            เสียงกรี๊ดในหอประชุมทำให้ผมกับไอ้เสาโผล่หน้าไปดู พวกผมเลือกที่จะอยู่แถว ๆ ข้างหลังก็มองเห็นบนเวทีชัดเจนเหมือนกัน ส่วนสาว ๆ พากันอยู่ข้างหน้ากันและกรี๊ดชนิดว่าหอประชุมจะแตก แต่ละคณะก็มีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ที่ดูจะเด่นกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ครับ ไอ้หมู เดือนแพทย์นั่นแหละ แค่มันเดินออกมาส่งยิ้มมุมปาก สาวก็ร้องกรี๊ดจนแทบจะแดดิ้น



            แต่ที่พีคกว่านั้นคือ ไอ้หมูสายตายาวขนาดนั้นเหรอ ถึงได้เห็นผมยืนอยู่แถวไกล ๆ มันยกมือโบกให้ผม ทำเอาสาว ๆ หันมามองกันพรึบ...เชี่ย กูไม่อยากโดนผู้หญิงของมึงทั้งหลายรุมนะครับเฮ้ย



            “โห ต้องการประกาศชัด ๆ ว่าไอ้หมูมันสนใจมึง ฮ่า! น้องเด็ดขาดว่ะ ชอบ ๆ” ไอ้เพื่อนของผมนี่ก็ดูจะเป็นฝ่ายสนับสนุนดีมาก



            “กูจะโดนแฟนคลับมันรุมน่ะสิไม่ว่า กูจะออกไปข้างนอกละ” ผมบอก แต่ไอ้เสาคว้ามือของผมไว้ก่อน



            “อ้าว ๆ อย่าทิ้งกูสิ”



            “เสา นนท์ซื้อชานมไข่มุกมาให้” ยังไม่ทันจะอ้าปาก ไอ้สัดนนท์ที่ดูจะเทคแคร์ดูแลไอ้เสาอย่างดี เดินมาพร้อมกับชานมไข่มุกเจ้าโปรดของไอ้เสา



            “ไอ้สัด! ใครให้มึงมาวะ” ไอ้เสาหันไปด่าแต่มือมันอ่ะรับชานมไข่มุกมาดูดจ๊วบ ๆ แล้ว ว่าแต่กูไม่ยอมรับไอ้หมู มึงเองก็ไม่ได้ต่างหรอกครับ...อ้าว แล้วกูจะโยงเรื่องตัวเองไปใส่ไอ้เชี่ยหมูกรอบทำไมเนี่ย



            “มึงมาก็ดีไอ้นนท์ เมื่อกี้มีผู้ชายมองไอ้เสาด้วย”



            “อะไรนะ! จริงเหรอเสา มันเป็นใคร?” ไอ้สัดนนท์ทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันทีทันใด



            “ไอ้เชี่ยศิลา! อะไรของมึงไอ้เหี้ยนนท์! ผู้ชายเชี่ยไรจะมามองกู อย่าบ้าจี้ไปหน่อยเลย” ไอ้เสาหันมาด่าผมก่อนจะไปประจันหน้ากับไอ้นนท์ ก็มันอยากพูดกวนผมดีนัก หึหึ แอบแกล้งมันนิดหน่อย



            ผมเดินหนีจากเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มทั่วหอประชุมออกมาข้างนอก เฮ้อ ค่อยหายใจโล่งหน่อย อยู่ในนั้นค่อนข้างอึดอัดมาก ปกติผมเองก็ไม่ค่อยชอบที่ที่มันมีคนเยอะ ๆ อยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ได้มาดูไอ้หมูอย่างหวังว่าผมจะเข้าไปเลย...อ้าว เชี่ย ผมไม่ได้จะมาดูไอ้หมูกรอบซะหน่อย...เถียงกับตัวเองให้ได้อะไรขึ้นมาวะ ระหว่างที่ผมกำลังยืนพึมพำอยู่กับตัวองผมก็แอบได้ยินเสียงของผู้หญิงสองคนคุยกัน ด้วยความอยากรู้ (เผือกแหละ ง่าย ๆ) จริง ๆ จะไม่อยากรู้ แต่น้ำเสียงของเธอเหมือนกับน้องชมพู่เด๊ะ...ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมจำได้ ก็ผมเคยได้ยินทางโทรศัพท์ตอนเธอพูดแทรกไอ้หมูยังไงล่ะ



            ผมเดินไปตรงแถวเสาที่บังตัวผมมิด ผมเหลือบมองน้องชมพู่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาฟิตมาก กับเพื่อนสาวของเธออีกคนหนึ่ง ทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัยมาก จากความรู้สึกของผมอ่ะนะ



            “นี่ แกเอาจริงเหรอย่ะ ชมพู่ ทำแบบนี้ไม่คิดว่าหมูจะเป็นอะไรเหรอ พรุ่งนี้เขาประกวดดาวเดือนนะ” เพื่อนสาวของเธอพูด



            “ก็ใช่น่ะสิ ไม่เป็นไรหรอก ยานั่นก็แค่ช่วยให้มีอารมณ์ ขืนชักช้ากว่านี้ก็ไม่มีโอกาสกันพอดี หมูยิ่งไปติดพันอยู่กับพี่วิศวะคนนั้นแจอยู่ ฉันไม่ยอมหรอก!” ผมที่แอบฟังอยู่ก็ได้ยินชัดเจน



          ...เชี่ย ยามีอารมณ์เชี่ยไรวะ ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ??



            “แล้วแกแน่ใจได้ยังไงย่ะ ว่าหมูเขาจะกินยาที่เธอใส่ แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าหมูเขาจะมาติดกับเธอ ฉันว่าเธอทำแบบนี้มันแรดไปนะย่ะ” เพื่อนของน้องชมพู่ว่าเตือนสติ แต่ถามว่าเจ้าหล่อนฟังไหม?



            “ฉันเอาไปแอบใส่ในแก้วน้ำดาวเดือนที่เป็นชื่อของหมูเรียบร้อย แล้วฉันก็จะเข้าไปหาหมูเอง เขาจะได้ออกมากับฉันยังไงล่ะ เขาต้องทนไม่ได้แน่ ๆ ฉันสวยรึยัง” ผมได้ยินก็ตาโต เมื่อกี้น้องชมพู่บอกว่า ใส่ในแก้วน้ำไอ้หมูเหรอ เชี่ย...มึงอยู่ในอันตรายซะละ เล่นจับกันแบบนี้เลยเหรอวะ



            ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้นตอนนี้ ขาของผมวิ่งไปที่ห้องพักของพวกดาวเดือนทันที ทำไมผู้หญิงต้องอยากได้มึงขนาดนี้วะ...มึงแม่ง...ไม่เห็นจะดีอะไร ทำไมผู้หญิงต้องแย่งวะ!! ผมบ่นในใจไปตลอดทาง สองเท้าก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องพัก ผมเปิดประตูเข้าไปทุกคนมองกันพรึบ



            “พี่นางฟ้าสวัสดีครับ” ไอ้พวกรุ่นน้องดาวเดือนเรียกผมตามฉายาที่เจ้นิ่มตั้งให้ แต่ผมไม่มีเวลาจะสนใจ



            “ไอ้หมูอยู่ไหน” ผมถามหาคนที่ผมอยากเจอ



            “เห็นถือแก้วน้ำแล้วเดินไปทางนู่นค่ะ” น้องดาวแพทย์ปี 1 เพื่อนของไอ้หมูชี้ไปอีกห้อง ผมเลยรีบวิ่งเข้าไป ประตูที่เปิดออกเรียกความสนใจของไอ้หมูที่อยู่ในช่วงพักเพื่อที่จะขึ้นเดินโชว์ตัวอีกรอบ หมูหันมามองผมอึ้ง ๆ ในมือของมันถือแก้วน้ำอยู่



            “พี่ศิลา? มาหาผมเหรอครับ” ไอ้หมูยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น...ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง!



            “ใช่ กูมาหามึง” ผมตอบ ทำเอาพวกเดือนที่อยู่ในห้องเดินออกไปเหมือนอยากให้ผมอยู่กับไอ้หมูกันตามสบาย แต่ไอ้คนตรงหน้าผมทำหน้าตาอึ้งสุด ๆ



            “ว้าว พี่กำลังทำให้ผมอึ้งนะเนี่ย...” ผมหายใจหอบนิดหน่อยเนื่องจากวิ่งมาไกลเหมือนกัน ไอ้หมูกำลังจะยกน้ำขึ้นดื่ม ผมตาโตและรีบดึงมาจากมือของมัน



            “กูหิว เอามานี่” ไอ้หมูเองก็ไม่ได้ขัดใจผม เขายอมให้ผมแต่โดยดี ผมเผลอดูดน้ำในแก้วจนหมด หมดจริง ๆ....พลางนึกขึ้นได้ว่า...น้องชมพู่ใส่ยาไว้นี่หว่า...



            ชิบหายแล้ว....ไอ้ศิลา ผมกินยาปลุกอารมณ์ เหี้ยยยยย....กูลืมไปเลยยยย ดูดกินไปหมดแล้ว



            “หิวน้ำอีกเหรอครับ?” ไอ้หมูเลิกคิ้วขึ้นมองผมที่ทำคิ้วขมวด



            “เปล่า” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรนี่หว่า....หรือยาจะไม่มีผลกับผมวะ ถ้างั้นก็ดีเลยแค่ไอ้หมูไม่กินก็ดีแล้ว



            “มึงไปกินน้ำแก้วอื่นก็แล้วกัน กูกินของมึงหมดละ” ผมบอก หมูยิ้ม



            “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิวอยู่แล้ว พี่ศิลากินเถอะ...” หมูจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ “พี่รู้ไหมว่าตอนที่ผมเห็นพี่ ผมโคตรดีใจเลยอ่ะ” มันดูดีใจมากจริง ๆ



            “เออ...มึงจะต้องขึ้นเวทีอีกรอบใช่ไหม ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” ผมพูดจบเสียงประกาศเรียกรวมก็ดังขึ้น ไอ้หมูยื่นหน้ามาใกล้ผม เชี่ย...ตกใจหมด



            “เดี๋ยวเย็นนี้รอกลับพร้อมผมนะ จะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ นะครับ รอผมนะ...” มันทำหน้าอ้อน        คิดว่ามึงน่ารักมากเหรอ....



            “เออ ๆ รู้แล้ว ไปได้แล้ว” ผมไล่ หมูยิ้มกว้างและเดินออกไปจากห้องนี้ ผมถอนหายใจเล็กน้อยมองแก้วในมือที่ไม่เห็นจะมีปฏิกิริยาไรสักนิด





            ผมยืนรอไอ้หมูอยู่หน้าหอประชุม ส่วนไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ขอตัวกลับไปก่อนผมแล้ว ตอนแรกไอ้เสาจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมครับ แต่ไอ้สัดนนท์ทำท่าเหมือนไปกินรังแตนมายังงั้นแหละ ไอ้เสาเลยต้องรีบพากลับเดี๋ยวจะไปต่อยกับใครเขาได้ ผมที่ยืนรออยู่ก็เห็นน้องชมพู่เดินมาด้วยความมาดมั่น น้องเดินผ่านผมไปแต่เห็นเหมือนสายตาของเธอเหลือบมองผมนิดหนึ่ง ผมมองเธอที่เดินเข้าไปหาหมูที่กำลังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวที่เปิดประตูไว้ เธอเอามือไปลูบไล้แขนของไอ้หมู



            ...เดี๋ยวกูจะเอาไม้หน้าสามไปฟาด...ฟาดใครดี ระหว่างไอ้หมูกรอบ กับน้องชมพู่ ฮ่า ๆ ล้อเล่นน่า ผมไม่ใช่คนโหดซะหน่อย...แต่ก็ไม่แน่ถ้าเธอยังเกาะแกะแขนของไอ้หมูอยู่ ดูเหมือนเธอจะทำหน้าตาแปลกใจหน่อย ๆ ที่ไอ้หมูเหมือนไม่รู้สึกอะไรและสะบัดมือน้องชมพู่ออก



            ...ก็แหงล่ะคนที่กินยานั่นคือผมนี่ ไม่ใช่ไอ้หมู คิดจะจับเดือนแพทย์คิดง่ายเกินไปแล้วน้อง...



            ผมมองดูอยู่ก็แอบขำ พอเห็นไอ้หมูกำลังจะเดินออกมา ผมเลยหมุนตัวจะวิ่งออกไปรอแถวหน้าคณะ เดี๋ยวมันจะได้ใจว่าผมมารอมัน แต่ก็ไม่ทันระวังชนกับน้องปี 1 ผู้ชายที่เดินมาพอดี



            ปึ่ก



            “ขอโทษครับพี่” น้องมันยกมือไหว้ ผมเลยโบกมือพลางว่าไม่เป็นไร แต่จู่ ๆ ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนร่างกายกำลังจะละลายขึ้นมาซะงั้น....เชี่ย



            “พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้น้องมันถามอีกรอบเมื่อเห็นผมจับที่ใจของตัวเองที่มันรู้สึกสั่นขึ้นมา



            ....อย่าว่ายากำลังแสดงอาการนะ....เหี้ยแล้วครับ ไอ้ศิลา น้องคนที่เดินชนผมกำลังจะมาแตะผมแต่มือของมันก็โดนกันโดยมือหนาซะก่อน



            ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาอีกข้างของไอ้หมูคว้าเอวของผมไว้ประชิดตัวของมัน ทำให้ผมหันหน้าไปชนกับไหล่ของไอ้หมูพอดีเป๊ะ...คราวนี้ร่างกายของผมร้อนกว่าเดิมอีก....



            “พี่ศิลาเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าแดงขนาดนี้?” ผมกำลังจะตอบก็สบตากับแววตาเข้ม และเสียงของน้องชมพู่ที่เดินตามมามองผมอึ้ง ๆ



            “หมู หมูไม่ได้กินน้ำเหรอ” เธอถามเหมือนปล่อยไก่ชัด ๆ หมูหันไปมองด้วยแววตาดุ



            “ชมพู่ว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้กินน้ำ ทำไม?...” ดูเหมือนไอ้หมูจะไม่ได้โง่แฮะคราวนี้...ผมจะดันตัวของตัวเองออกจากไอ้หมูเพราะ ผมรู้สึกว่าผมร้อน...แถมผมยังได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของไอ้หมูที่มันเหมือนกระตุ้นยังไงก็ไม่รู้ เชี่ยมาก....



            “เราบอกชมพู่ชัด ๆ ไปแล้วนะ ว่าคนที่เรารักคือพี่ศิลาเท่านั้น!” ระหว่างที่ผมกำลังรู้สึกลมหายใจร้อนก็ต้องเบิกตากว้างกับประโยคชัดเจน ที่ทำเอาคนที่อยู่บริเวณนั้นมองอึ้ง บางคนก็ปิดปากกรี๊ด



            ...เหี้ยยยย กูกรี๊ดด้วยได้ไหม...มึงมาสารภาพอะไรตรงนี้วะ...ไอ้หมูกรอบ น้องชมพู่ก็อึ้งไปและดูไม่พอใจมากด้วย



            และนั่นยังไม่ถึงช่วงพีคเพราะสิ่งที่ทำให้เหล่ากระเทยและสาว ๆ ที่น่าจะชื่นชอบเรื่องพวกนี้กรี๊ดกันยกใหญ่ เมื่อร่างของผมถูกไอ้หมูอุ้มลอยอย่างง่ายดายในท่าอุ้มเจ้าหญิง....เชรด ไอ้หมูกรอบบบบ มึงทำอะไรของมึงงงงงงงง.......



            กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด แก!!!! เดือนแพทย์กับนางฟ้าประจำกองประกวดแหละ เสียงพวกนี้เป็นเสียงของเจ้นิ่มที่เป็นแกนนำ...เออ เจ้เชียร์ออกนอกหน้ามาก



            “ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกูลง...ทำอะไร....วะ” ผมด่าแต่ก็ชะงักกับแผงอกที่มันเด่นชัดแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาของไอ้หมู มันเป็นเพราะยาใช่ไหม....ทำไมกูถึงมองว่ามันโคตรหล่อเลย เท่ด้วย....



            “ไม่ครับ ผมจะไม่ปล่อยพี่เด็ดขาด”



            หมูไม่ได้สนใจคนที่มองเราอยู่ทั้งนั้น เขาอุ้มผมมาที่รถราวกับรู้ว่าน้องชมพู่ทำอะไรลงไป แอบรู้สึกดีที่ไอ้หมูมันไม่โง่...แต่ตอนนี้คนที่กำลังจะแย่ก็คือผมครับ...แม่ง ร้อนไปหมดทั้งกายแล้ว ต้องทำยังไงถึงจะหาย หมูจับผมเข้าไปนั่งในรถดี ๆ ก่อนเขาจะมาขึ้นฝั่งคนขับ



            “เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปส่งหอนะ เป็นยังไงบ้างครับ ผมไม่คิดว่าชมพู่จะกล้าใช้ยาแบบนี้” หมูจะเอื้อมมือมาแตะผมก็ชะงัก กลิ่นน้ำหอมในรถแม่ง...กวนใจผมมาก กลิ่นมันเป็นกลิ่นเดียวกับเสื้อของไอ้หมูตอนนั้นที่อยู่ในโรงยิม



            “แล้วนี่พี่รู้ได้ยังไงว่าเธอใส่ยาให้ผม”



            “กูได้ยินพอดี” ไอ้หมูยิ้มเหมือนดีใจที่ผมสนใจเรื่องของมัน...กูบอกว่าได้ยินพอดี ไม่ได้สนใจเว้ย...



            “ผมว่าพี่เอาผ้าเย็นเช็ดหน้าก่อนดีไหมครับ” ไอ้หมูเอื้อมมือไปเบาะด้านหลังทำให้ตัวของมันใกล้กับผมมาก ผมสูดกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของไอ้หมู...กลิ่นมันกวนใจผมมาก....ผมว่าอยู่แบบนี้แม่งอันตราย



            ผมดันไอ้หมูที่กำลังควานหาผ้าออก ก่อนผมจะข้ามไปนั่งเบาะด้านหลังแทน



            “กูจะไปนอนด้านหลัง” ผมนอนลงเบาะหลังและพูดประโยคที่ทำให้ไอ้หมูหันมามองงง ๆ



            “ไอ้เชี่ยหมู กูขอเสื้อนักศึกษามึงได้ไหม กูจะเอามาปิดหน้า”



            “ครับ? เสื้อนักศึกษา” มันชี้เสื้อที่มันใส่อยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าผมแม่งพูดอะไรออกไป เริ่มรู้สึกว่ามันมั่วไปหมดแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ผมรู้แค่ว่าตอนนี้อยากได้กลิ่นของไอ้หมูใกล้ ๆ



            “เออ ถอดมาสิวะ” ไอ้หมูทำหน้าเอ๋อแดกไปเรียบร้อยแถมมันยังหูแดงอีก



            “ครับ ๆ” ไอ้หมูถอดเนคไททิ้งไว้ข้างเบาะและถอดเสื้อนักศึกษาเหลือเพียงแค่กางเกงโชว์ซิกแพคอยู่ เออ...แม่งไอ้หุ่นดี มันยื่นเสื้อมาให้ผมด้วยอาการเหวอปนเขินตามสไตล์มัน



            ผมรับมาปิดหน้าตัวเองไว้เหมือนต้องการให้ทุกอย่างสงบ...แต่ผมว่ามันเชี่ยมาก ไหงยิ่งได้กลิ่นใจยิ่งสั่นวะ แต่เสื้อไอ้หมูมันหอมจริง ๆ แหละ...



            “ผมจะพาพี่กลับไปส่งหอนะครับ พี่ศิลา ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ” มึงจะช่วยกูเหรอ...ไอ้สัด อย่าฝันว่าจะได้แตะต้องกู...



            “เออ” ผมตอบกลับเรียบ ๆ ไอ้หมูก็สตาร์ทรถขับกลับไปที่หอของผม



            “กลิ่นของผมช่วยพี่ได้เหรอ” มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปสิวะ...ถามมาก



            “ไม่ได้”



            “อ้าว แล้วเอาไปปิดหน้าไว้ทำไมครับ ฮ่า ๆ น่ารักว่ะ” ไอ้หมูหัวเราะเหมือนไม่ต้องการให้ผมคิดฟุ้งซ่านตามยาที่กำลังออกฤทธิ์ เออ..ความคิดดีใช้ได้



            แต่สติของผมเริ่มจะหลุด ๆ ลอย ๆ ซะแล้ว มันเริ่มจะอึดอัดบริเวณส่วนล่าง เหี้ยยยย... นี่กำลังคิดว่าถ้าไอ้หมูกินน้ำเข้าไป แม่ง...เสร็จน้องชมพู่แน่ ๆ! ดีจริง ๆ ที่ผมเป็นคนกิน...ผมกำลังทำเพื่อไอ้หมูเหรอ ปกป้องมันเนี่ยนะ...ศิลามึงใกล้บ้าแล้วนะครับ



            “กูชอบนะ” ผมพูดแผ่วเบาแต่ทำเอาไอ้หมูที่ขับรถอยู่ถึงกับเบรกกะทันหัน ผมรู้สึกง่วงชิบ...



            “ว่าอะไรนะครับ!?”



            “ชอบกลิ่นน้ำหอมมึง มันหอมดี....” ผมพูดแค่นั้นก่อนผมจะเผลอหลับไปซะงั้น....ยาบ้าบอไรวะ เดี๋ยวร้อนวูบวาบ เดี๋ยวง่วง...เออ ดี ๆ ให้กูนอนไปแล้วก็ค่อยตื่นมาพรุ่งนี้เช้าละกัน ยาหมดฤทธิ์พอดี....







                     “พี่ศิลา...พี่ศิลา...อ้าว หลับแล้วเหรอครับ....”

                    “กอดเสื้อของผมไว้แบบนั้น พี่กำลังยั่วผมอยู่รู้รึเปล่า.....”

                    “เดี๋ยวสักพักพี่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครับ แล้วตอนนั้นผมจะอยู่ข้าง ๆ พี่ศิลาเอง...”






................................................+++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักกกก ^^ เห็นคนชอบน้องหมูกับพี่ศิลาก็ปลื้มเเละดีใจมากเลยค่าาาา

จากใจไรท์   LOVE YOU จุ๊บ   :L1: :pig4: :pig4:

#เห็นคนอ่านบอกเห็นพี่ศิลากินข้าวหมูเเดงเเล้ว หิว  ตอนเเต่งไปไรท์หิวไปเหมือนกันค่ะ555555 // คิดถึงร้านที่เคยไปกิน ข้าวหมูเเดงกับบะหมี่หมูเเดง อร่อยจริง ๆ ค่ะ  :กอด1: :L1:  #ที่พี่ศิลาหลับไปก็เพราะได้กลิ่นหอมจากเสื้อของหมูเพื่อให้ช่วยผ่อนคลายค่ะ เเต่ไม่รู้จะช่วยหรือจะกระตุ้นกันเเน่ 555555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-04-2017 22:12:38 โดย vampire_rose »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ว่าและ ชมพู่ไม่ใส แต่ชี เล่นไสย
คราวนี้หมูเลยประกาศชัดๆไปเลย
ว่าชอบพี่ศิลา เท่านั้น แอร๊ยยยย ฟินนนนน สิ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
จัดการนางมารร้ายนั่นด้วยนะหมูกรอบ
เอาให้หนัก
ไม่งั้นไม่ยอม

ชั่วจริง ๆ

 :z6: :z6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อ้าว ยาปลุกทำไมกินละง่วง  :ruready

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
 :mc4: :กอด1: :pig4:

ยกป้ายไฟเชียร์น้องหมูกรอบ

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อเร็วๆนะค่ะชอบมากๆเลยสนุกๆ :mew1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 11



             [พาร์ตของศิลา]



            ร้อน...ผมร้อนวูบวาบไปหมด โคตรจะไม่สบายตัว ก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงอะไรเย็น ๆ ที่สัมผัสโดนหน้าผากของผม ทำให้ผมบรือตามองคนที่อยู่ตรงหน้า...



            “พี่ศิลา เป็นยังไงบ้างครับ? รู้สึกดีขึ้นไหม” ผมจะบอกว่า...ผมปวดตรงส่วนล่างไปหมด มันอึดอัด



            เชี่ย...แม่ง ผมค่อย ๆ ลุกนั่งพิงผนังเตียง หายใจหอบ...



            “กี่ทุ่มแล้ว มึงกลับไปเถอะไป พรุ่งนี้มีประกวดดาวเดือนนะ” ผมไล่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หมูจะยื่นผ้ามาเช็ดหน้าของผม ผมเลยรีบปัดมือหนาตรงหน้าออกอย่างไม่ได้ตั้งใจ...ก็พอมันโดนผมนิดเดียว ผมก็รู้สึกอยากปลดปล่อย....ยานี้แม่งร้ายชิบหาย



            เพี๊ยะ!! ผมชะงักเช่นเดียวกันกับหมู



            “กูขอโทษ...แต่มึงช่วยออกไปก่อนได้ไหม มึงก็รู้ว่ากูโดนยาอยู่” ผมไล่อีกรอบ ก่อนจะเบิกกว้างเมื่อไอ้หมูขึ้นมาบนเตียงของผม           



            “พอแล้วครับ พี่ศิลา ไม่ต้องทนแล้ว ผมจะช่วยเอง” ผมตาโตเพราะไอ้หมูกำลังจะเลื่อนมือมาสัมผัสกางเกงของผม ไอ้เชี่ย...ไม่



            “อย่านะเว้ย!! ไอ้เชี่ยหมู ปล่อยกูไว้เดี๋ยวก็หายเอง!!”



            “เชื่อผมนะ ผมไม่ทำอะไรนอกจากใช้มือ” ไอ้หมูจับขอบกางเกงผมไว้...เป็นสถานการณ์ที่อันตรายสำหรับผมมาก!!....เอาแล้วไอ้ศิลาเอ๊ย...หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ ๆ



            “นะครับ ใช้แค่มือ” ถึงมันจะบอกแบบนั้น...ความรู้สึกอายก็กระหน่ำเข้ามาหาผม



            “ไม่...ยะ...อย่า ไอ้หมูกูโกรธมึงจริง ๆ นะ!!” ผมพยายามดันแผงอกตรงหน้าของไอ้หมูที่ใส่เสื้อนักศึกษาของมันแล้ว...แต่เสือกไม่ติดกระดุมเสื้อ มือของผมสัมผัสโดนหัวใจของไอ้หมูที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่งบ่งบอกว่ามันก็...ตื่นเต้นเหมือนผม...ตื่นเต้นเชี่ยไรครับไอ้ศิลา....กูแค่โดนยาไม่ได้รู้สึกอะไรซะหน่อย



            “จะโกรธผมก็ได้ครับ...แต่ผมจะไม่ยอมให้พี่ทรมานแบบนี้” ไอ้หมูรูดซิบลงอย่างไม่รอ ผมตัดสินใจจะยกเท้าถีบก็ชะงักกับแววตาเข้มที่จ้อง...อยากถีบมาก แต่ก็กลัวตัวของมันจะช้ำ กลัวมันจะไปประกวดดาวเดือนไม่ได้....คิดเชี่ยอะไรในหัวมากมายจนมันมึนไปหมด ผมใกล้เป็นบ้าแล้วครับ ใกล้แล้ว...



            “ถ้าพี่จะถีบก็ควรจะถีบตอนนี้นะครับ...” หมูเลื่อนมือมาปลดกางเกงของผมลง เผยให้เห็นบ็อกเซอร์ตัวจิ๋ว...เออ มึงจะบรรยายละเอียดทำไมวะศิลา....ทันทีที่มันสัมผัสบริเวณตรงส่วนนั้นของผม



            เหี้ย...เสียวมาก



            “อะ...อย่า กูบอกว่าไม่...อื้อ” โคตรจะรู้สึกดีเลยครับ....ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นระริก                               
   โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย....ความกระดากอายกำลังเกิดขึ้นกับผม



            “อ๊ะ!!..” ผมเอามือปิดปากตัวเองที่เผลอส่งเสียงสยิวกิ้วอะไรของกูออกมา...เชี่ย เชี่ยยยยย....หมูเลื่อนมือมาขยับเบา ๆ คลายความปวดให้ผม เห็นหน้ามันใสซื่อแบบนี้แม่งร้ายชิบหาย...ทำไมมันดูชำนาญจังวะ รู้สึกดีชะมัด....



            “อา...เดี๋ยว ไอ้เชี่ยหมู...หยุดนะเว้ย!! ไม่เอาปล่อยกู” ผมสะดุ้งโหย่งเพราะไอ้หมูกำลังจะใช้ปาก... ไอ้เหี้ยไหนบอกว่าแค่มือ!!!



            “หยุด อา...หยุด”



            “ผมจะช่วยทุกทางให้พี่สบายตัว แต่ผมจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้แน่นอนครับ” ไอ้หมูพูดอย่างลูกผู้ชาย...ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นไอ้เชี่ย...



            “กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!! มึงไม่รังเกียจ...”



            “ผมจะรังเกียจสิ่งที่เป็นของผู้ชายที่ผมรัก...ทำไมล่ะครับ” ผมนิ่งไปทันทีกับประโยคตรง ๆ ของไอ้หมูที่มักชอบพูดประจำ และผมก็มักจะไม่สนใจด่ามันกลับ...แต่แปลกที่ตอนนี้ใจของผมมันดันเต้นโครมครามขึ้นมาซะได้



            “จะหลับตาก็ได้นะครับ ถ้าไม่อยากเห็นผมทำให้” เสียงเข้มที่ดังเข้าโสตประสาทพร้อมกับความรู้สึกเสียวพุ่งพล่าน ผมหลับตาปี๋และเผลอใช้มือไปกำผมของไอ้หมูไว้ด้วย



            ผมรู้สึกว่าตัวเองอยากจะปลดปล่อยให้ได้....ไอ้เชี่ยหมูแม่ง!!!!....เก่งมาก เก่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้ ราวกับหัวสมองของผมถูกล้างและเคลิ้มไปตามแรงสัมผัสของไอ้หมูที่กดริมฝีปากของมันครอบครองผมช้า ๆ.....



            นี่เหรอความรู้สึกเวลาผู้ชายช่วยกันสัมผัส...มันรู้สึกดีมากจริง ๆ ผมว่าผมต้องใกล้บ้าแล้วแน่ ๆ...



            สติของผมที่ล่องลอยอยู่แล้ว ล่องลอยอย่างสมบูรณ์ ผมจำได้ว่าตัวเองเสร็จไปสองรอบ...ต่อหน้าไอ้เชี่ยหมูด้วย และผมก็หลับไปทันทีด้วยความไม่รู้เรื่อง...และมึนกับฤทธิ์ยาที่เริ่มหมดทำให้หลับไปอย่างง่ายดาย....



            .................

            .................





            ติ้ด ติ้ด ติ้ด... เสียงนาฬิกาปลุกดังเข้ามาในโสตประสาทผม ทำให้ผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่เอื้อมมือไปปิด



            “ง่วงชิบ...” ผมพลิกตัวนอนหงายก่อนจะเอามือกุมหัวตัวเองเหมือนความทรงจำมันขาด ๆ หาย ๆ  กูกลับมาอยู่ห้องได้ไงวะ...ชุดนอนของผมที่ใส่อยู่ทำให้ผมเริ่มตระหนักและจำได้ชัดเจนว่า....



            เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อวาน!!!....เหี้ยยยย....ผมมองรอบตัวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของไอ้หมู แต่ผมก็เหลือบไปเห็นโน้ตใบเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือของไอ้หมู ผมเลยหยิบมาดู



            [ ผมต้องไปกองประกวดดาวเดือนตั้งแต่เช้า ผมเลยออกไปก่อนนะครับ โจ๊กอยู่บนโต๊ะผมเทใส่ชามให้แล้ว เย็นนี้มาดูตอนผมแสดงด้วยนะครับ

                                                                                                    |หมูรักพี่ศิลา|                           ]





            ผมอ่านข้อความก็หน้าร้อนวูบกับคำที่มันวงเล็บไว้ท้ายสุดอย่างหน้าไม่อาย...  |หมูรักพี่ศิลา| ไอ้เชี่ยหมูใช้ซะคล่องปากเชียวนะ ทีก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะกล้าพูด....



            ผมรู้ว่าเมื่อวานไม่ได้มีอะไรเกิดเลยไปมากกว่าการสัมผัส...ไอ้หมูช่วยทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้นแค่สัมผัส....แต่แค่ทำแค่นั้นผมก็ไม่รู้จะไปสู้หน้ามันยังไงแล้ว โอ๊ย....ตอนเจอหน้ามันผมจะไปปั้นหน้ามันใส่ยังไงล่ะ แกล้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีไหม ปล่อยผ่านไป....



            สัมผัสของมันผมยังรู้สึกอยู่เลย....โว้ยยยยย!!!!...กวนใจกูชะมัด!



            ผมดึงผมของตัวเองด้วยความหงุดหงิด...หรือว่าเขินกันแน่วะ โว้ยยยยย...



            “ไอ้เหี้ยศิลา! มึงจะนอนเอาโล่เหรอวะ” เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงโวยวายของไอ้เสาทำให้ผมหลุดจากภวังค์ที่กำลังคิดถึงไอ้หมู...เปล่า!! กูไม่ได้คิดถึงมันซะหน่อย...



            ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอไอ้เสาที่อยู่ในเสื้อนักศึกษาพร้อมสายสะพายรองเดือนเต็มยศ



            “อ้าว? มึงยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ ไอ้หมูฝากกูมาดูมึง น้องมันดูเป็นห่วงเป็นใยมึงดีชิบหาย” ไอ้เสาดันหลังผมเข้าไปในห้องและทิ้งตัวลงโซฟา



            “ไอ้หมูบอกให้มึงมาดูกูเหรอ?”



            “เออ มันเห็นกูตอนเข้าไปกองประกวดแหละ นี่ถ้ามันไม่แต่งหน้าอยู่ มันคงจะมาหามึงถึงหออ่ะ”



            “เอ้า สัดไปอาบน้ำสิวะ! เดี๋ยวจะได้ไปมหาวิทยาลัยพร้อมกูเลย” ไอ้เสาไล่ ผมก็เลยเดินเอ๋อ ๆ ไปที่ห้องน้ำ แสดงว่า...ไอ้หมูมันไม่ได้เล่าอะไรให้เพื่อนผมฟังใช่ไหม...



            ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึง 5 นาที (พอดีเป็นคนสะอาดเลยอาบน้ำเร็ว แฮะ ๆ) ผมใส่ชุดนักศึกษาผูกไทเรียบร้อยก็มานั่งลงตรงโต๊ะอาหารที่ไอ้หมูมันเตรียมโจ๊กไว้ ไอ้เสาก็นั่งเลื่อน ๆ โทรศัพท์ของมันไป สักพักมันก็เงยหน้ามองผมเหมือนอยากจะพูดอะไร



            “มีอะไร?” ผมถาม ไอ้เสาเลยยื่นโทรศัพท์มันให้ผมดู



            “มึงกับน้องหมูดังละนะ” หือ? ดังเชี่ยไรวะ....ผมเอามาดูก็เห็นรูปภาพของไอ้หมูที่อุ้มผมในท่าเจ้าหญิงท่ามกลางประชาชีเกือบแสนคน (เวอร์) ก็นับว่าค่อนมหาลัยเลยก็ว่าได้....เชรด ใครถ่ายวะ แต่แคปชั่นที่บ่งบอกว่าใครเป็นคนลงก็ชัดเจนมากเมื่ออ่านมันแล้ว ‘เดือนแพทย์กับนางฟ้าประจำกองประกวด’ นี่มันพวกเจ้นิ่มชัด ๆ



            แถมผมยังดูยอดไลค์ที่พุ่งถล่มถลายไปถึงสามหมื่นกว่า...ผมไม่กล้าที่จะเลื่อนดูคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา ก็เลยยื่นคืนให้ไอ้เสามัน มันกระตุกยิ้มล้อ



            “มึงไม่รอดจากน้องแน่ ๆ กูว่า ฮ่า ๆ! เตรียมรับมือน้องมันดี ๆ เหอะไอ้ศิลา” นี่มึงไม่คิดจะช่วยเพื่อนสักนิดใช่ไหม....ไอ้เพื่อนชั่วววว....โยนเพื่อนให้ผู้ชายได้ไงวะ แถมยังเด็กกว่าอีก



            “เหอะ ที่ไม่รอดอ่ะ มันต่างหาก ถ้าป๊ากูรู้จะไม่บ้านแตกเหรอวะ” ผมพึมพำพลางเขี่ยโจ๊กในชามมากิน แต่คำพูดของผมก็เรียกความสนใจจากไอ้เสา



            “เชรดดดด....นี่มึงพูดว่ารู้หูป๊า! แสดงว่ามึงก็คิดเรื่องของน้องแล้วใช่ไหม วะฮ่า!” ไอ้เสาทำท่าตื่นเต้นขึ้นมาทันที ผมเลยชะงัก...เออว่ะ เมื่อกี้ผมบอกว่าถ้าป๊ารู้เรื่อง...



            ตอนแรกผมก็ไม่เคยคิดหรอกไอ้เรื่องที่ไอ้หมูมาตามจีบผม แถมยังตื้อจนน่ารำคาญ..(รำคาญจริงรึเปล่า) โดนผมด่ายังไงไล่ยังไงก็ไม่ไป....เรื่องเมื่อวานมันกำลังทำให้ความคิดของผมสับสนเหมือนเรียบเรียงไม่ได้



            “กูว่าป๊ามึงน่าจะรับได้ เพราะมึงเป็นหมวยเล็ก” ไอ้เสาให้กำลังใจ...กูไม่ได้คิดจะพาไอ้หมูไปแนะนำตัวกับป๊าซะหน่อย!



            “มึงอย่ามามโนแทนป๊ากูได้มะ” ผมว่าและเลิกให้ไอ้เสาพูด แต่กลับกลายเป็นผมเองที่นั่งคิดคนเดียวเงียบ ๆ



            ...ถ้าหากผมจะคบกับไอ้หมู...ก็แค่สมมตินะ!! ผมก็ไม่รู้ว่าจะรอดด่านป๊ากับเฮียใหญ่แล้วก็เฮียกลางไปรึเปล่า....ไอ้หมูน่าจะไม่ไหวแน่ ๆ...เหี้ยยยยยยยย....กูคิดอะไรอยู่ ไม่ ๆ ไม่ใช่



            ผมสะบัดความคิดของตัวเองด้วยความหงุดหงิดทันที....



            ..........................

            ........................



            บ่าย 4 โมงเย็น



            ผมเดินวนเวียนอยู่แถว ๆ หลังเวทีด้วยความไม่กล้าสู้หน้าของไอ้หมู...จริง ๆ ผมมาตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าเข้าไป เชี่ยศิลามึงกลายเป็นคนป๊อดตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ....ผมเม้มปากตัวเองนิด ๆ ก็ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงใส่มันดี ทั้ง ๆ ที่ด่ามันไปเยอะ ไล่มันก็บ่อย แต่กลับยอมให้มันทำเรื่องเมื่อคืน เขินเชี่ย ๆ!



            ไอ้เสามันหายไปสแตนบายหลังเวทีแล้วล่ะครับ ผมมองหลังเวทีสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป ไอ้หมูที่ยืนเด่นเป็นสง่าออร่าจับ...คือแบบว่า เชี่ย.....โคตรพ่อโคตรแม่ของความหล่อ....ขอใช้คำนี้ ไอ้หมูอยู่ในชุดตัวพระเอกที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเพชรแพรวพราว ผมดำตัดกับใบหน้าคมเข้มของมันมาก ชุดก็ทำให้มันดูเด่นมากกว่าเดิม ผมเชื่อว่าวันนี้หอประชุมได้แตกแน่ ๆ ถ้าไอ้หมูมันออกไปโชว์....ตื่นเต้นแทนมันจัง เหมือนไอ้หมูจะประสาทไวมากเพราะมันหันขวับมามองผมอึ้ง ๆ



            ...ทำไมมันชอบทำหน้าอึ้งเวลาเห็นผมวะ...



            “พี่ศิลา!” พวกคนอื่นหันมาหาผมหมดเมื่อไอ้หมูในชุดหล่อเดินก้าวดุ่ม ๆ มาหาผมด้วยท่าทางดีใจออกนอกหน้าจนเจ้นิ่มที่เติมแป้งให้เดือนอยู่ยิ้มกรุ่มกริ่ม แถมคนอื่นก็พากันยิ้มเขิน



            คือเชี่ยอะไร.....



            “จะเรียกอะไรเสียงดังวะ” ผมว่าเรียบ ๆ แต่สายตาไม่รู้จะเอาไปมองที่ไหนดี มองหน้าไอ้หมูก็ไม่อยากสบตา...มองชุดก็แม่งเท่อีก...มองตีนมัน เดี๋ยวจะหาว่ากวนตีนมันอีกล่ะ....



            “มองหน้าผมสิครับ ขอกำลังใจหน่อย” เสียงเข้มดังระยะใกล้ทำให้ผมผงะ...เหมือนผมเริ่มเสียศูนย์



            “นู่น คนรอให้กำลังใจมึงเยอะแยะ” ผมส่งสายตาไปทางข้างนอกเหล่าแฟนคลับพวกดาวเดือนรอกรี๊ดกันเต็มที่ หมูกระตุกยิ้ม



            “ก็กำลังใจจากคนตรงหน้ามันสำคัญ...” คำพูดเชี่ยทำให้คนหวั่นไหวมากี่คนแล้วไอ้สัด “ทำหน้าเหมือนด่าผมอีกละ ฮ่า ๆ...” ทำไมผมต้องแพ้ไอ้ลูกอ้อนบ้าบอของมันทุกทีวะ...



            “สู้ ๆ ละกัน”



            “ครับ? >0< อีกทีได้ไหม” ไอ้หมูที่หัวเราะอยู่ก็หยุดชะงักและเอียงหูมาใกล้ผม “เสียงดนตรีมันดัง  พี่ศิลาว่าอะไรนะ” ไอ้นี่....น่ากระโดดถีบชะมัด



            “กูบอกว่าสู้ ๆ ละกัน” ผมพูดเสียงเบาแต่ไอ้หมูก็ยิ้มกว้าง ผมว่ามันต้องได้ยินแล้วรอบแรกแต่แกล้งผมชัวร์!



            “อย่าละสายตาจากผมนะครับ เพราะการแสดงนี้...ผมอยากให้พี่ดูมัน มองมาที่ผมด้วยนะ ห้ามละสายตานะ!!” ไอ้หมูย้ำอีกครั้งก่อนมันจะวิ่งไปรอตรงที่ปล่อยตัว ไอ้นี่มันประสาทแหง ๆ ....



            การแสดงของไอ้หมูมันจะมีอะไรพิเศษใส่ไข่ขนาดไหนกัน...เหอะ ถ้าทำขายหน้าผมจะแอบหัวเราะเลยคอยดู...ผมเดินออกมาจากหลังเวทีและมานั่งอยู่ใกล้แถว ๆ เจ้นิ่ม โดนพวกเจ้แกกวักมือเรียกมาแหละ



            “นี่เตรียมไปซื้อดอกกุหลาบรึยังจ๊ะ น้องศิลา...” เจ้นิ่มสะกิดผมยิก ๆ ระหว่างที่การแสดงของคณะอื่นเริ่ม ผมมองพวกแฟนคลับที่พากันถือดอกกุหลาบแบบว่า เหมามาทั้งฟาร์มเลยเหรอ...คือว่า มันเยอะมาก!!



            “ซื้อทำไมครับเจ้?”



            “เอ้า! แฟนประกวดทั้งทีทำไมไม่มีล่ะจ๊ะ โถ่วถัง...น้องหมูของพี่จะไม่น้อยใจเหรอ” คำว่าแฟนของเจ้ที่บอกออกมาทำเอาผมเกือบหงายหลักตกเก้าอี้.....ผมยังไม่ได้คบกับมันซะหน่อย!!



            “ไม่ใช่ซะหน่อยเจ้”



            “แหม ๆ บอกไว้เลยนะ ถ้าไม่รีบแสดงความเป็นเจ้าของ โดนชะนีคาบไปจริง ๆ นะคะ บอกเลยว่ายืนรอต่อแถวเป็นขบวนรถไฟ...” เจ้นิ่มแอบกระซิบกับผม ทำให้ผมแอบชะงักไป...ก็จริงครับ คนที่สนใจไอ้หมูมีเยอะมากพอสมควร แถมยังสนใจแบบอยากได้มาเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีก!



            ผมไม่ได้ตอบอะไรพวกเจ้เพราะพวกเจ้แกพากันกรี๊ดหนุ่ม ๆ เดือนที่อยู่กลางเวทีซะแล้ว ไอ้เดือนคณะของผมมันโชว์การเล่นกีตาร์เรียกคะแนนจากสาว ๆ ที่ชอบการเถื่อนได้เต็มที่ เออ...ดี ๆ ช่วยเป็นชื่อเสียงให้คณะวิศวะด้วยนะไอ้น้องเดือนวิศวะ และก็มาถึงการแสดงของไอ้หมู....ทันทีที่มันเดินออกมาในชุดตัวพระเอกก็เรียกเสียงกรี๊ดจนหอประชุมจะแตกได้กระหึ่มไปทั่ว รอยยิ้มมุมปากกับสายตาของมันที่กำลังมองหน้าใครสักคน...และมันก็มาหยุดอยู่ที่ผม...ไอ้เชี่ยมองไปทางอื่นสิวะ....



            “โอ๊ยยย อยากโดนน้องหมูจ้องบ้าง” เจ้กระเทยที่นั่งข้างผมเอามือทาบอกของตัวเอง เพลงดนตรีไทยเดิมที่ไอ้หมูใช้ซ้อมกับผมดังขึ้น ผมมองท่ารำของมันอึ้ง ๆ ...มันรำไม่ค่อมจังหวะรำถูกเป๊ะ



            “กรี๊ดดดดดด บทเกี้ยวพระนางด้วยค่า!! อยากไปเป็นนางเคียงคู่กับพระราม!!”



            “รักความเป็นไทยสุด ๆ นี่แหละว่าที่สามีในอนาคต” และอีกหลายเสียงที่ตะโกนสลับไปมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม....ผมมองมันอย่างละสายตาไม่ได้อย่างที่ไอ้หมูมันบอกจริง ๆ ทำไมมันรำได้ดีขนาดนี้วะ ทั้ง ๆ ที่ตอนฝึกก็ไม่ได้ขนาดนี้นี่.....เพลงที่จบลงหมูก็โค้งตัวขอบคุณและจับไมค์ไว้ในมือ



            “ขอบคุณสำหรับเสียงปรบมือนะครับ...แต่ผมยังมีอะไรเล็ก ๆ ที่ผมอยากจะถือโอกาสมอบมันให้กับคนสำคัญของผม” เสียงทุ้มดังละมุนเรียกสายตาทุกคนให้มองไปบนเวที....มันจะพูดอะไรวะ ผมมองสายตาของมันที่มองมาที่ผม แววตาที่จริงจังมาก



            “ผมอยากขอพูดเหตุผลที่ผมอยากมาเรียนหมอครับ...จากใจจริงเลยนะครับ เพราะ...” ทุกคนที่อยู่ด้านล่างก็เงียบกริบโดยอัตโนมัติอย่างรอฟัง ผมเองก็รอฟังเหมือนกัน...



            “การเป็นหมอ คือการช่วยชีวิตคน...เพราะผมอยากดูแลชีวิตของคนที่ผมรักที่สุดด้วยตัวของผมเอง ผมเลยเลือกที่จะเรียนหมอ....และเขาคนนั้นก็เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ผมเข้มแข็งและขยันเรียนสอบเข้าที่นี่ด้วยคะแนนติดอันดับต้น ๆ” ทุกคนที่ฟังอยู่อึ้งไปตาม ๆ กันกับน้ำเสียงมุ่งมั่นที่เต็มไปด้วยความจริงจังที่ผมเองก็สัมผัสได้ ก่อนผมจะเบิกตากว้างเมื่อประโยคต่อไปถูกพูดขึ้น



            “พี่ศิลาครับ...” มันเรียกผมทำไม... “ผมอยากจะบอกพี่ว่า....คบกับหมอมันดีนะ....” อึ้งและเอ๋อแดก....



            “ถ้าผมได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยพี่ช่วยยิ้มหวาน ๆ ให้ผมดูหน่อยนะ ขอบคุณครับ”



            อ้าว เหี้ยยยย...เกี่ยวอะไรกับยิ้มหวานกูเล่า....เหมือนมันพูดมั่นใจราวกับตัวเองจะได้เป็น ไอ้มั่นหน้า!!



            กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงกรี๊ดทะลุหอประชุมดังขึ้นเมื่อหมูโค้งขอบคุณ  ส่วนผมก็เงิบไปอีกรอบ....คนเป็นหลายพันนะเว้ย...แล้วดูสิ่งที่ไอ้หมูมันพูด ผมรู้สึกว่าหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นมา คราวนี้ร้อนจริง ๆ ไม่มีแก้ตัว....     กูอายคนโว้ย ทำอะไรไม่ถูกด้วย ได้แต่นั่งอยู่เก้าอี้ของตัวเองเงียบ ๆ ผมเหลือบมองไอ้เสาที่อยู่ข้างเวทีโบกไม้โบกมือยกนิ้วเยี่ยมใส่ไอ้หมู...ไอ้เพื่อนเวร ช่วยย้ำกูจังงงงง.....





            ....และผลการตัดสินก็ออกมา ถามว่าใครล่ะครับที่คว้าตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยไป ก็จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ ‘ไอ้หมู เดือนแพทย์ ควบด้วยตำแหน่งใหม่คือ เดือนมหาวิทยาลัย’ ที่กวาดคะแนนจากรรมการและสาว ๆ ไปเพียบ แถมดอกกุหลาบยังถือจนจะไม่ไหว ส่วนคนที่ได้รองเดือนก็เป็นคณะวิศวะไอ้โชที่ยังรักษาตำแหน่งเดียวกันกับไอ้เสาไว้ได้ รองเดือน ไม่มีใครคัดค้านอะไรที่ไอ้หมูได้ตำแหน่งเพราะ หน้าตาของมัน โปรไฟล์ของมันก็เหมาะที่จะเป็นเดือนมหาลัยแหละถูกต้องที่สุด...หมูตอนรับสายสะพายมันเอาแต่ยิ้มกว้างและมองมาที่ผม ผมว่าผมเสี่ยงโดนแฟนคลับไอ้หมูกระทืบชะมัด กูกลัวนะเฮ้ย ผู้หญิงรุมกระทืบกูขึ้นมามึงจะรับผิดชอบไหมมมมม......



            .....................

            .....................



            หลังจากจบงานประกวดผมออกมารับโทรศัพท์ของป๊าที่โทรมาสักพักและป๊าก็วางสายไป ผมทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อย ก่อนไอ้หมูจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินถือถุงขนมกับดอกกุหลาบมาเพียบ บอกเลยว่ามันหล่อออร่ากระจายมาก จะว่าไปไอ้เสาแม่งหายหัวไปไหนของมันวะครับ



            “พี่ศิลา รอนานไหมครับ” ใครรอมึงวะ...กูออกมาโทรศัพท์ต่างหาก ผมไม่ได้ตอบแต่เดินไปทางที่จอดรถ หมูก็ยิ้มและเดินตาม



            “ได้ฟังแล้วใช่ไหมว่า ทำไมผมถึงอยากมาเรียนหมอ” ไอ้หมูพูดพลางเอาพวกของใส่หลังรถ เขาปิดลงแล้วหันหน้ามาหาผม ผมมองสายสะพายที่มันเข้ากับไอ้หมูจริง ๆ แหละ



            “ก็ได้ยิน หูไม่ได้ตึงซะหน่อย ดีใจด้วยละกัน” ผมตอบ แต่รอยยิ้มของไอ้หมูตรงหน้ามันช่างขัดหูขัดตามาก...! ก็มันเหมือนมีออร่าวิ้ง ๆ มันเดินเข้ามาหาผมที่ยืนพิงรถอยู่



            “อะไร”



            “ขอรอยยิ้มหวาน ๆ ด้วยครับ มาทวง” ผมเลิกคิ้ว...เออว่ะ มันบอกว่าอยากได้รอยยิ้มของผมนี่....จู่ ๆ มาบอกให้ยิ้มให้ดูมันก็เหวอแปลก ๆ สิ....ใครจะยิ้มออกวะ



            หมูเหลือบสายตาเหมือนมองว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม มองแบบนั้นทำไมวะ...ผมสะดุ้งเมื่อไอ้หมูเอาแขนข้างหนึ่งขึ้นมาบังกันผมไว้พร้อมกับใบหน้าคมที่ก้มมาใกล้ผม



            “มึงทำเชี่ย...” กว่าจะรู้ริมฝีปากหนาก็ก้มลงมาประกบกับริมฝีปากของผมซะแล้ว จูบเบา ๆ แต่เกือบดึงสติของผมให้หลุดได้ง่าย ๆ ผมผลักมันออก หมูยกยิ้ม



            ไหนมึงบอกขอยิ้มหวาน ๆ จากกู....นี่มันจูบชัด ๆ ไอ้เชี่ยหมูกรอบบบบ.....มันผละออกจากผมเหมือนรู้ว่ากำลังจะโดนกำปั้นจากผม



            “ก็กลัวว่าพี่ศิลาจะไม่อยากยิ้ม เลยขอเปลี่ยนเป็นจูบแทน หวานเหมือนกัน” มันพูดขี้เล่นแต่ผมถึงกับเหวอ...ไอ้เชี่ยยยยย



            ปึ่ก! ผมชกไหล่มันไปหนึ่งที...แต่แม่งไอ้หมูดันยิ้มพอใจ ไอ้เหี้ยกลัวกูสักนิดบ้างก็ได้



            “พี่ศิลา พี่เป็นกาวเหรอ” ผมเลิกคิ้วกับไอ้หมูที่ยังคงเอามือกั้นผมไว้ระหว่างรถ เออ...หวังว่าจะไม่มีใครเดินผ่านมาแถวนี้นะครับ ท่านี้แม่งทำให้คนอื่นเขาพากันคิดไปไกลแล้ว (คิดอะไรเหรอ)



            “กาวอะไรของมึง”



            “ก็ทำไมผมถึงได้ติดพี่ขนาดนี้ล่ะ...”
เชรด...ไอ้เดือนมหาลัยมันติ๊งต๊องงงงงงง...เอาตำแหน่งมันคืนไปได้เลยครับบบบ มุขเชี่ยไรของมัน....



            แต่ปากของผมมันกลับหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้....ไอ้ศิลาครับมึงหลุดยิ้มแล้ว....



            “มุขเชี่ยมาก....” เชี่ยจนผมเขินได้ ไอ้หมูลุคเสื้อนักศึกษาเต็มยศมันไม่ดีต่อใจของผมเลย....ไม่ดีเลยจริง ๆ  หมูยิ้มทะเล้นอยู่ตรงหน้าผมและไม่มีท่าทีว่าจะเอาหน้าออกไปไกล ๆ ผมเลย



            เมื่อกี้ป๊าของผมโทรมาหาผมครับ ว่าพรุ่งนี้ให้กลับบ้านไปหาหน่อย ผมเองก็กำลังว่างด้วยจนกว่าจะเปิดเทอมอาทิตย์หน้า....ผมมองไอ้คนตรงหน้านิ่ง ๆ



            “ไอ้เชี่ยหมู”



            “ครับผม” มันจะทำเสียงหวานอ้อนทำไมวะ...



            “ว่างไหมพรุ่งนี้”



            “สำหรับพี่ศิลาผมว่างตลอด 24 ชั่วโมง” ไอ้ขายหม้อ...



            “พรุ่งนี้ไปบ้านกลับกูหน่อย”



            “ครับ ห๊ะ!!...อะไรนะครับ” ไอ้หมูทำตาโตเท่าไข่ห่าน...เวอร์ตลอดกาล       



            “พรุ่งนี้กูจะกลับบ้านไปหาป๊า ไปกับกูหน่อย.....” ผมมองไอ้หมูที่ทำท่าค้างไปและเปลี่ยนเป็นเหงื่อตก แต่มันก็พยักหน้าตกลงกับผม....มึงกลัวป๊ากูเหรอ?? ทำไมต้องเหงื่อตกขนาดนั้น





..................................................................+++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^ :L1: :กอด1: :กอด1: :pig4:

+++ ขอพักเบรกให้น้องหมูได้หายใจ เตรียมตัวเจอกับป๊าของพี่ศิลาก่อนนะคะ ^________^ +++

>>>  ตอนต่อไปจะเอานนท์กับเสา เข้ามาโชว์ความกวนน่ารัก ๆ  ก่อนที่จะกลับมาคู่หลักที่กำลังจะเจองานใหญ่ (หมูจะไปเจอป๊าของว่าที่เมียในอนาคตละค่ะ ไม่รู้ว่าจะงานนี้หมูกรอบ จะเป็นหมูเเผ่นไหม55555) <<<

​## ส่วนตอนต่อไป ใครรอหวีดคู่นนท์เสาก็เตรียมตัวดี ๆ ไว้เลยค่าาา ^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมูกรอบ หมวยเล็ก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พาไปเปิดตัวว่างั้น?
น้องหมูจะรอดกลับมาไหมเนี่ย หมวยเล็กอย่าไปแกล้งน้องสิครับ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :impress2:



โอ้ยยยยยยยย อิจ !!!

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
สู้ๆฮะ น้งหมูกรอบ ^^

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
หมวยเล็กจะพาไปเปิดตัวกับพ่อหรือ???? :3123: :3123:


 o13 o13 o13

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรีดดดดดดจะพาไปเจอพ่อแล้วววววว...มาต่อเร็วๆอีกนะค่ะ :heaven

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 12



             [พาร์ตของเสา]   


            ความรักระหว่างผู้ชายก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายอะไร ผมชินแล้วกับการเห็นพวกคู่รักชายรักชายแบบนี้ เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเริ่มยอมรับกันมากขึ้น แต่ก็ไม่คิดหรอกครับว่าวันหนึ่งมันจะเกิดขึ้นกับตัวของผมเอง....



            ผมเป็นรองเดือนของมหาวิทยาลัย ที่ไม่รู้ว่าได้มาได้ยังไง เหอะ ๆ จริง ๆ คนที่จะลงประกวดตอนแรกไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นไอ้สัดนนท์...แต่เพราะไอ้นี่มันดันไปมีเรื่องกับเดือนคณะเกษตร หน้าตาไอ้นนท์มันไปกวนส้นตีนของเขาก่อนแถมมันยังเป็นคนที่ไม่ยอมใครอีก พอมีเรื่องต่อยกันก็เลยต้องมีการเปลี่ยนตัวเดือนที่เพิ่งคัดเลือกไป พูดแล้วก็อยากจะขำดัง ๆ เลยกลายเป็นผมแทนที่ไปเป็นตัวแทนเดือนคณะวิศวะแล้วผมก็คว้าตำแหน่งรองเดือนมหาลัยมาครอง โฮะ ๆ....ผมหล่อล่ะสิ



            ผม ไอ้ศิลา และไอ้สัดนนท์เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน ส่วนมากพวกผมก็ไปด้วยกันนี่แหละครับ แต่หอผมจะใกล้กับหอของไอ้นนท์มากกว่าก็เลยไปเล่นแถวหอมันบ่อย แต่ไอ้นี่ชอบหิ้วผู้หญิงกลับมาด้วย พักหลัง ๆ ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปหามันที่หอสักเท่าไหร่ และก็มาตอนนี้อีกที่ไอ้ศิลามันดันมีเด็กปี 1 คณะแพทย์มาตามต้อย ๆ เห็นละขำหน้าไอ้ศิลามากตอนที่น้องมันเดินเข้ามาบอกว่า มาหาหมวยเล็ก ฮ่า ๆ



            อย่าเอาไปบอกมันนะว่าผมแอบนินทามัน...



            ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระชิว ๆ ไปวัน ๆ....



            แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งชีวิตของผมจะเปลี่ยนไป...ถ้าวันนั้นผมไม่นึกขยันอยากอ่านหนังสือเรียนขึ้นมา ถ้าไม่นึกบ้าโทรไปหาไอ้ศิลาแล้วมันไม่อยู่จนต้องไปเอาชีทที่ห้องไอ้นนท์ เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น...แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อเวลาและจังหวะมันลงตัวราวกับถูกกำหนดไว้แล้ว...



            ...จุดเริ่มต้นที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม...



            ..........

            ..........



            เนื่องจากความว่างสุด ๆ ของผม จึงทำให้นึกอารมณ์ขยันจะทำการบ้านในชีทขึ้นมา ยังไม่ทันจะเปิดเทอมอาจารย์ก็สั่งมาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะครับ พวกคณะวิศวะอย่างเรา ๆ ก็ขยันตั้งใจเรียนนะครับ โฮะ ๆ ผมโทรหาไอ้ศิลาหลายรอบแต่ก็ไม่ติดสักที...ไอ้นี่มันหายหัวไปไหนวะ หรือจะอยู่กับน้องหมู หึหึ ยังไม่ทันที่ผมจะโทรอีกรอบโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น



            +จี+ เธอเป็นดาวแพทย์แถมยังเป็นดาวมหาลัยอีก แฟนของผมเองล่ะครับ...แต่ถ้าจะให้พูดให้ถูกคือ แฟนปลอม ๆ สงสัยกันใช่ไหมล่ะครับ...



            “ไงจ๊ะ คนสวยของเสา”



            (“ฉันกลัวนะย่ะ...เสา ฉันว่าเราเลิกแสดงละครแบบนี้ดีไหม”) จี เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของผมเองแหละครับ พอดีมีช่วงที่เธอประกวดดาวเดือนถูกโรคจิตมารังควาน ผมเลยประกาศว่าคบกับจีเพื่อปกป้องเธอ ถามว่าผมชอบจีไหม...ชอบนะ   เธอเป็นคนที่สวยนิสัยดี แถมยังคอยดูแลผมอีก เธอแอบชอบไอ้เดือนคณะเกษตรที่ไอ้สัดนนท์ไปมีเรื่องด้วยนั่นเหละครับ



            “เลิกได้ไง เดี๋ยวเธอก็โดนโรคจิตรังควาน...แล้วนี่ไอ้เดือนนั่นมันไม่คุยกับเธอเลยเหรอ”



            (“คุยอะไรล่ะ...เขาไม่เคยจะเห็นฉันด้วยซ้ำมั้ง...นี่เสา คุณแม่ฉันชวนทานข้าวด้วยนะ เฮ้อ...แม่คงคิดว่าเรารักกันมาก ๆ แน่เลยอ่ะ ฉันไม่อยากให้นายเข้ามาอยู่ในการจับคู่ของครอบครัวฉันเลย...แค่นี้นายก็ช่วยปกป้องฉันมาก ๆ แล้ว”) จีว่ายาว ๆ ผมเลยหัวเราะ



            “ยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะเลิกกันเลย...อย่าเพิ่งคิดมากเลยน่า งั้นฉันวางสายก่อนนะพอดีจะขับรถไปเอาชีทซะหน่อย” ผมบอกอย่างนึกขึ้นได้เมื่อมองนาฬิกาของตัวเอง



            (“อืม ขับรถดี ๆ นะ บาย”) เธอวางสายไป ก็อย่างที่บอกไปแหละครับ...ผมกับจีเป็นคนรู้จักกันและผมก็เป็นแฟนกับเธอเพียงเพราะไม่อยากให้ไอ้พวกโรคจิตมาตามจี ซึ่งเรื่องนี้เองไม่มีใครล่วงรู้นอกจากผมกับจีเท่านั้น





            ผมกดสายไปหาไอ้ศิลาอีกครั้ง ก่อนจะรู้ว่ามันอยู่กับไอ้น้องหมู โอ๊ย...ผมไปซื้อหวยตอนนี้ทันไหม ถ้าจะเดาแม่นขนาดนี้ ผมเลยต้องขับรถมาที่หอของไอ้สัดนนท์ที่อยู่ไม่ห่างจากผมมากนัก ผมบอกไอ้ศิลาว่าจะมาเอาชีทกับไอ้นนท์แทน



            ผมเดินขึ้นไปหอสุดหรู ผมเข้าหอนี้ได้สบาย ๆ เพราะแต่ก่อนมาบ่อยก็มาปลุกไอ้นนท์ไปเรียนทุกเช้าแหละครับ ก็มันเล่นกกสาวซะดึก กว่าจะตื่นมาเรียนได้...เป็นภาระผมสุด ๆ บางทีมาก็เจอผู้หญิงนอนที่ห้องมันอยู่ก็มี เสียสายตาสุขภาพจิตสุด ๆ ...ไอ้เจ้าชู้เข้าสันดาน ขอนินทามันสักหน่อย แล้วนี่ก็เห็นว่าเพิ่งเลิกกับน้องกุ๊ก ผมว่ามันน่าจะดูรักน้องคนนี้นะเพราะเห็นเหมือนจะรักกันนาน แต่ไหงมาเลิกกันซะงั้น แถมมันยังดูซึมกับการเลิกครั้งนี้อีกด้วย สงสัยจะรักน้องมันจริงล่ะมั้ง...อันนี้ผมก็ไม่รู้



            นินทามาซะนาน! และผมก็มาหยุดอยู่หน้าห้องมัน ผมกดกริ่งหน้าห้องอยู่สองสามครั้ง ไร้เสียงตอบรับจากไอ้สัดนนท์...ผมเลยล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองหยิบคีย์การ์ดสำรองของไอ้นนท์ออกมา (ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมมี  ก็มันแหละครับชอบตื่นสาย เลยเป็นภาระของผมต้องมาปลุก มันเลยให้ไว้นานแล้ว)



            “ไอ้สัดนนท์?...” ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มันมืด...อย่าบอกว่ามันนอนแล้ว นอนไวไปป่ะ?



            ผมเดินเข้าไปในห้องนอนของเขาก็เจอมันนอนคว่ำหน้าอยู่ ผมเอามือจิ้มหลังมัน จึก ๆ....มันยังหายใจอยู่ใช่ไหมวะ



            “ไอ้เชี่ยนนท์...” ผมเรียกอีก



            “หือ?...” มันรับรู้เสียงเรียกของผมละ “ใคร...”



            “กูเอง” ผมตอบและรู้สึกว่าได้กลิ่นเหล้าหึ่งมาจากไอ้นนท์ “มึงไปดื่มมาเหรอ เชี่ยเหม็นเหล้าชิบ”



            ผมเอามือปิดจมูก “กูมาเอาชีทไปลอก...มึงเก็บไว้ไหนวะ” ผมว่าพลางค้นแถวโต๊ะเขียนหนังสือของไอ้นนท์ โดยที่ไม่รู้ว่านนท์เหลือบมองด้วยความเมา



            “มึงเก็บโต๊ะได้สถุนมาก สัด....อยู่ไหนวะ...” ผมยังคงรื้อ “เจอแล้ว!....เหี้ยอะไร!!” ผมหยิบชีทมาวางบนโต๊ะก่อนจะตกใจเมื่อจู่ ๆ ไอ้นนท์ก็มายืนอยู่ข้างหลังผมและกอดผมไว้จากด้านหลัง



            ประโยคที่ไอ้นนท์พูดออกมาทำให้ผมเบิกตากว้าง



            “อย่าทิ้งนนท์ไปนะ...กลิ่นหอมเหมือนชานมไข่มุกเลย” ห๊ะ..กูคนครับไม่ใช่ชาไข่มุก หอมเหมือนชานมไข่มุก พ่อง.....อย่าบอกนะว่ามันคิดว่าผมเป็นแฟนเก่ามัน ไอ้เชี่ย กูไม่ได้ตัวเล็กขนาดที่มึงจะจำผิดนะเว้ย (จริง ๆ มึงตัวผมผอมโปร่งมากไอ้เสา)



            “ไอ้สัดนนท์ปล่อยกู! กูเสาเว้ย” ผมดันมันออกอย่างแรงจนไอ้นนท์เซออก มันมองหน้าผมด้วยความเมา กูว่ามันเริ่มจะบรรยากาศทะแม่ง ๆ แล้ว



            ผมกำลังจะหมุนตัวหนี ไม่เอาชีทแม่งแล้ว...แต่ทว่าก็ช้ากว่าไอ้คนร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามจากการเล่นฟิตเนส





            พรึบ! ตุบ! ผมโดนกระชากแขนและโดนเหวี่ยงลงเตียง...ย้ำว่า เหวี่ยง





            “ไอ้เหี้ย!! มึงจะทำอะไรไอ้สัดนนท์! กูเพื่อนมึงนะ” ผมโวยพร้อมกับใช้เท้าถีบไอ้คนตรงหน้าที่ก้าวขึ้นมาบนเตียง ....เหี้ยยยยยยย กูขยับไม่ได้เลย



            ดูจากแอลกอฮอล์ที่อยู่ในตัวของไอ้นนท์แล้ว ไม่น่าจะมีสติ...ผมว่ามันกำลังนึกถึงแฟนเก่าจนเห็นภาพหลอนแล้วล่ะมั้ง





            “กูเสานะ! ไอ้สัดฟังกู...ปล่อยนะเว้ย!!” ผมสะดุ้งเมื่อถูกมือหนากระชากเสื้อช็อปที่ใส่อยู่ กระดุมเสื้อกู.....หยุดนะเว้ย





            “เสา...” ไอ้นนท์เรียกชื่อของผม “เสา...” เรียกแล้วก็ได้สติสิวะ แต่เปล่าเลยไอ้นนท์ไม่มีสติและไม่รู้ว่าพูดคำว่าอะไรออกมาด้วยซ้ำ





            “เออ กูเสามึงปล่อยกู....ไอ้สัดดดดด....ฮะ!!....” ผมเบิกตากว้างแทนที่มันจะหยุดยุ่งย่ามกับเสื้อผ้าผม บัดนี้มันกลับกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากตัวของผมอย่างง่ายดาย



            ผมเป็นผู้ชายสูงโปร่งที่ไม่ได้มีแรงมากมายอะไร แล้วจะเอาอะไรไปผลักคนตรงหน้าที่สูงและหนาทึบกว่าผมมาก



            ผมมองอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเองเมื่อริมฝีปากหนาของคนที่เป็นเพื่อนสนิทของผมที่ไปไหนมาไหนด้วยกันกำลังจูบบดขยี้ริมฝีปากของผมที่กำลังสั่นระริกขึ้นมา ผมพยายามจะดิ้นออกแต่เขาก็ขบกัดริมฝีปากของผมไว้ ผมกัดปากจนปากของผมเลือดออกแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมถอนจูบออก กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฟุ้งเต็มปากของผม



            “อ๊ะ!!...” ผมสะดุ้งเฮือก...กับร่างกายของไอ้นนท์ตรงหน้าที่ปรากฏต่อสายตาของผม



            ไม่ใช่แค่ตัวของมันที่ใหญ่และหนากว่าผม...แต่ตรงไอ้นนท์น้อยของมัน....ก็ใหญ่กว่าผมมาก



            ชิบหายแล้ว...เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!





            ผมรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น...และผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันรู้สึกดีมากกับสัมผัสตรงหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เหมือนผมกำลังเมาไปพร้อมกับมันเลยแฮะ...ไอ้นนท์เลื่อนกายเข้ามาหาผมช้า ๆ มันกำลังโอบกอดผมภายใต้ร่างของมัน ทุกอย่างกำลังเริ่มปะทุคละคลุ้งไปด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความต้องการความปรารถนา ร้อนแรงจนไม่อาจลืม



            แปลกที่ผมไม่รังเกียจไอ้นนท์แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับจะแตกสลายตรงนี้ซะให้ได้...มันเมาและผมเชื่อว่ามันจำไม่ได้ จำไม่ได้ว่ามันกอดใคร เพราะมัน...เอ่ยชื่อที่ไม่ใช่ชื่อของผม แต่กลับเป็นชื่อของผู้หญิงคนล่าสุดที่มันเพิ่งเลิก....เหอะ กูทำไมไม่ต่อต้านมันวะ....แค่ไอ้นนท์กอดผมไว้ด้วยสองมือของมันกลับทำให้ผู้ชายแมนอย่างผมไขว่เขว



            มันเป็นเรื่องเหี้ย ๆ ที่หัวใจของผมโง่เอง....ผมเกลียดคนเจ้าชู้ ไม่รักจริง....



            ....แต่ผมกลับยอมให้คนแบบนั้นทำเรื่องอย่างว่ากับผมไปแล้ว.....



            ไอ้เสา...มึงมันง่ายชะมัดเลย...ผมบ่นให้ตัวเองในใจ...





            .........

            ........



            ผมดันตัวเองลุกขึ้นมองไอ้นนท์ที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ มันหลับลึกครับ ยิ่งถ้าเมาแล้วมันไม่ตื่นง่าย ๆ หรอก กว่าจะตื่นก็วันพรุ่งนี้นู่น...ผมมองผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ รอยเลือดที่เปื้อนอยู่ทำเอาผมสะอึก...เชี่ยยย T_T แสบแปล๊บขึ้นมาทันที ผมก้าวลงจากเตียงเบา ๆ มองนาฬิกาที่มันตี 2 แล้ว ผมจะลุกขึ้นก็ต้องล้มลงข้างเตียง ความเจ็บปวดรวดร้าวเกิดขึ้น....ไอ้ห่าสัดนนท์!           ไอ้เหี้ย...เอวกู...ฮือออ...



            ผมกัดฟันคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างลวก ๆ และคว้าชีทที่วางอยู่บนโต๊ะของไอ้นนท์ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยที่ลืมดูว่าตัวเองลืมนาฬิกาไว้ตรงที่นอนของไอ้นนท์



            ....ก็แค่เมา แล้วเผลอมีอะไรกันมันก็ไม่เห็นมีอะไรต้องจำ ก็แค่ทำเป็นลืม ๆ ไปซะ....



            ผมบอกตัวเองในระหว่างที่เดินออกมาจากหอของไอ้นนท์ ผมบอกกับตัวเองไว้แล้วว่า ‘จะลืม’



            แต่ผมกลับไม่รู้เลยว่า...ชีวิตของผมต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว.....



            ไม่เหมือนเดิม.....



            ..............

            ..............



            ผมตัดสินใจเลิกกับจีแล้วนะครับ น่าแปลกที่เธอเป็นคนมาขอเลิกเองและดันเป็นจังหวะที่ผมกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแออยู่ด้วย....นี่มันปัญหาอะไรจะรุมเร้าขนาดนี้วะ จะว่าผมผูกพันกับจีไหมก็ผูกพันนะ คนมันอยู่ดูแลกันมาเกือบปีนิครับ ผมคบกับจีตั้งแต่ปี 1 ตอนเป็นดาวเดือนเหละ...เฮ้อ ถึงจะรู้ว่าเป็นการคบแบบมีเงื่อนไข แต่ยังไงจีก็คือเพื่อนผู้หญิงที่น่ารักที่สุดของผม เลิกกันก็แอบใจหายเหมือนกัน



            ผมลากไอ้ศิลาออกไปร้านโฮะร้านเหล้าประจำเพื่อดื่ม...แต่โลกแม่งดันกลมเจอกับไอ้ห่านนท์ได้  มันกำลังนัวเนียกับสาวเชียว...โคตรเหี้ย บอกเลยว่าผมรู้สึกไม่อยากมอง...ไม่อยากมอง....จนกำแก้วแตกคามือ เหอะ แก้วร้านนี้บางชิบ (ก็มึงกำเองนะครับไอ้เสา) แถมไอ้ศิลาดันไปทะเลาะกับน้องหมูว่าที่ผัวมันอีก ไม่รู้น้องมันโผล่มาจากไหน แต่ดันมาเจอตอนที่ผมดึงไอ้ศิลามากอดพอดี มันก็เลยเข้าใจผิด



            ....ผมเหี้ยใช่ไหม...ยอมผู้ชายไม่พอ ยังมาทำให้เพื่อนตัวเองทะเลาะกับว่าที่ผัวอีก



            เฮ้อ...ผมไปส่งไอ้ศิลาที่หอ มันทำหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดที่ไล่น้องหมูไป ผมว่ามันเมาด้วยแหละนะ บวกกับเห็นน้องผู้หญิงที่มาเกาะแกะไอ้น้องหมู คงทำให้อารมณ์ขึ้นชั่ววูบ ต่างคนต่างเถียง...อันนี้จากการเดาของผมอ่ะนะครับ (ในฐานะคนชอบเผือก โฮะ ๆ)



            ผมกลับมาหอของตัวเองด้วยความเหนื่อย...และยังแสบ ๆ ช่วงล่างชะมัด แต่เดาว่าอีกไม่กี่วันก็คงหายล่ะมั้งนะ ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะมองถุงเซเว่นที่ไอ้สัดนนท์มันซื้อมาฝากคราวก่อน ผมเห็นมันแขวนอยู่หน้าห้องผม...แสดงว่ามันมาที่หอของผมใช่ไหม



            ของทุกอย่างในถุงเซเว่นเป็นของกินที่ผมชอบทั้งหมด...แต่จะบอกว่าสิ่งที่หายไปของผมคือ นาฬิกาเรือนแพงที่แม่ซื้อให้ผม ผมดันลืมไว้ที่ห้องของไอ้นนท์ซะได้ แถมผมยังไม่กล้าไปถามเอาคืนตอนนี้ด้วย มันก็ไม่เห็นจะพูดอะไร...หรือผมลืมไว้ที่อื่นวะ



            ผมจะทิ้งตัวลงนอนก็สะดุ้งกับเสียงกดกริ่งหน้าห้อง (?) ใครมาวะ...ผมเดินไปส่องดูก่อนจะผงะออกจากประตู ก็คนที่อยู่หน้าห้องของผมคือ...ไอ้สัดนนท์!...มันไม่ได้ไปไหนกับสาวของมันต่อเหรอ



            “ไอ้สัดเสาอยู่ในห้องใช่ไหม” มันถามข้ามประตูเข้ามา “เปิดประตูให้กู”



            “ทำไมกูต้องเปิด ยามวิกาลแล้วเว้ย คนจะนอน”



            “ปกติกูก็เข้าห้องมึงบ่อย เปิด” ก็ตอนนี้มันไม่ปกติ....



            “วันนี้กูจะนอน..มีเชี่ยอะไรว่ามา” ผมยังยืนยันและแอบส่องไอ้นนท์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง...เห็นหน้ามันแล้วแม่ง....ไม่สบอารมณ์กับตัวเอง



            “มือมึง...” ผมเงียหูฟัง...ทำไมพวกมึงไม่เปิดประตูคุยกันครับ...พวกห้องข้าง ๆ คงอยากจะตะโกนด่าพวกผมแบบนี้ กูจะไม่ยอมให้มันเข้ามาในห้องกูเด็ดขาด!



            “........”



            “เจ็บมากไหม กำแก้วหาอะไร” กำเพราะเห็นเหี้ย....เหอะ



            “ไม่เจ็บ มึงกลับไป ๆ จะมาพูดแค่นี้ใช่ไหม?”



            “มึงรู้ไหมว่าทำไมกูเลิกกับกุ๊ก” จู่ ๆ ไอ้นนท์ก็พูดขึ้น...กุ๊กก็แฟนคนล่าสุดที่มันเลิก...ที่มึงเรียกชื่อเขาแล้วพูดว่า กุ๊กนนท์ขอโทษนะ....เชี่ย กูจะไปจำทำไมวะ



            “ไม่รู้และก็ไม่อยากจะรู้”



            “แต่กูอยากบอก” โอเค กูพร้อมจะเสือก....ผมตะแคงหูฟังสิ่งที่ไอ้นนท์จะพูด ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเลิก ทั้ง ๆ ที่ดูจะคบได้นานแท้



            “กูไม่รู้สึกอะไรกับเขา...” เหี้ย....มันแม่งเลว “นกเขากูไม่ขัน และไม่ได้รู้สึกอะไร กุ๊กเลยเลิกกับกู”



            ประโยคต่อมาทำให้ผมชะงักกึก... ฮ่า ๆ ไอ้สัดนนท์เสื่อมสมรรถภาพไปแล้ว...แต่เดี๋ยว...ทำไมมันใส่ผมไม่ยั้ง นั่นเรียกว่าไม่ขันเหรอ ไอ้ฟายยยย...เกือบทำกูน็อค....และผมก็ชะงักอีกรอบ





            “จนกระทั่งวันที่กูเมา....คนนั้นคือมึงใช่ไหม คนที่ทำให้กูรู้สึกได้มากขนาดนั้น



            นี่มันวันอะไรของกู....และไอ้นนท์จะมายืนพล่ามอะไรหน้าห้องของผมมมมมม



            “อะไร กูไปเอาชีทแล้วก็กลับ” นิ่งไว้เสา นิ่งไว้...



            “เหรอ แล้วผ้าปูที่มีเลือดล่ะ” ผมส่องดูหน้าไอ้นนท์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง คำพูดของมันทำเอาคนที่เดินผ่านมองด้วยความสนใจ



            “แล้วกระดุมเสื้อช็อปของมึงที่หลุดอยู่หนึ่งเม็ดในห้องกูล่ะ” ไอ้นี่...อธิบายละเอียดยิบ



            “กระดุมคนอื่นรึเปล่า? อย่ามามั่วกับกูไอ้สัด” ผมว่า



            “ร่างกายมึงโอเครึเปล่า ทำไมไปกินเหล้าเยอะขนาดนั้นวะ” ไอ้สัดนนท์เหมือนไม่ได้ฟังคำที่ผมปฏิเสธสักนิด กลับถามอันอื่นมาแทน ไอ้ฟายยยย...



            “กูไม่ได้เป็นอะไร” ผมเหมือนได้ยินเสียงมันถอนหายใจ



            “เอาเถอะ กูซื้อชานมไข่มุกมาฝากอยู่หน้าห้อง มาเอาไปกินด้วย” เดี๋ยวนะครับ...ชานมไข่มุกตอนนี้? ผมเหลือบมองเวลาที่มันจะ 4 ทุ่มแล้ว เชรด...มันไปซื้อมาจากไหนวะ



            “เอามาทำไม”



            “มาเอาไปกินกูวางไว้ตรงนี้ กูกลับละ” ไอ้นนท์ว่า ผมแอบส่องดูมันว่าไปจริงป่ะวะ



            “อ้อ นาฬิกาของมึง...ไปเอาเองที่ห้องกู ถ้าอยากได้มันคืน เวลาไหนก็ได้แล้วแต่มึงสะดวก”



               “กูรอมึงตลอดอยู่แล้ว...” ไอ้นนท์พูดแค่นั้นและเดินออกไปจากหน้าห้องของผม





            เชี่ย...นาฬิกาลืมไว้ห้องไอ้สัดนนท์จริงด้วย แล้วทีนี้ผมจะไปเอายังไงล่ะ ยิ่งเป็นนาฬิกาที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญอยู่ ผมเขย่งเท้ามองลอดช่องเล็กของประตู พอเห็นว่าไม่มีใครยืนอยู่ก็แง้มประตูออกไปดูก็เจอแก้วชานมไข่มุกกับกล่องยาเล็ก ๆ ผมหยิบมาส่องดูกล่องยา



            ...มีพวกยาแก้ปวด กับพวกพลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผลชุดเล็กแบบพกพา...



            มันซื้อมาให้ผมเหรอ...ก็ซื้อมาให้มึงแหละไอ้เสาก็มึงถืออยู่ ผมจะมาเถียงกับตัวเองทำบ้าอะไร



            ผมหยิบชานมขึ้นมาแล้วยิ้มเมื่อได้กลิ่นหอม ๆ ของชา....



            ผมยิ้มเพราะเห็นชานมไข่มุก ใช่ครับ...ยิ้มเพราะเห็นชาไข่มุก ผมจัดการเอาชานมไข่มุกไปแช่ไว้ในตู้เย็น ผมถ้ากินเข้าไปตอนนี้ได้ไปตีกับเหล้าที่ผมเพิ่งไปอาบ...เอ๊ย ไปดื่มมาแน่ ๆ









........................................+++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

55555555555บอกเลยว่า นนท์ก็ไม่ธรรมดาาาาา ความเถื่อนของคณะวิศวะเเบบว่าไม่ธรรมดา ><  #เอาคู่รองมาคั่นให้น้องหมูไปพักหายใจเตรียมตัวไปเจอป๊าของพี่ศิลาค่ะ 5555555  :pig4: :pig4: :L1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ฮือออ นกเขาไม่ขัน  :laugh: จะสงสารก็สงสาร จะขำก็ขำ แล้วคือมาขันกับเสาคืออาร๊ายยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด