say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท18 l “จีบอยู่... รู้เปล่า?”* * * ต่อค่ะ 100% * * *
เสียงเพลงแนว Easy Listening ดังอยู่ภายในห้องพักของเดียร์ เจ้าตัวนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานตรงมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น เสียงเพลงดังออกมาจากลำโพงที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ดังคลอเพื่อไม่ให้ภายในห้องเงียบจนเกินไป แต่เจ้าของห้องกลับไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าต่างงานทิ้งเอาไว้ เสียงก๊อกแก๊กดังมาจากโซนห้องครัวบ่งบอกว่าในนั้นมีคนอยู่ เดียร์เดินลากรองเท้าสลิปเปอร์ออกมา ในมือมีแก้วนมเย็นๆ กับจานใส่ผลไม้ เดินกลับมายังโต๊ะทำงานแล้ววางทุกอย่างลงข้างๆ เครื่องคอมพิวเตอร์
มือคว้าตุ๊กตาแมวน้ำมากอดเอาไว้หลังจากนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ถอดที่คาดผมออกแล้วจัดการคาดอีกรอบเมื่อมีผมปรกหน้าปรกตา ใกล้ถึงกำหนดส่งงานแล้วเขาเลยต้องมานั่งทำแบบนี้ อาจารย์ให้ลองออกแบบบ้านหลังเล็กๆ ดู เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดตัวอาคารไม่เกิน 10 x 10 เมตร พื้นที่ใช้สอยภายในสามารถจัดสรรได้อย่างอิสระ เพราะเดี๋ยวเทอมสองจะมีทำงานร่วมกับรุ่นพี่ปีสี่ แล้วจะต้องมีออกแบบบ้านอาจารย์ก็เลยให้ฝึกคิด ฝึกทำเสียตั้งแต่เทอมนี้
จริงๆ แล้วกำหนดส่งงานนี้คือในอีกสามวันข้างหน้า แต่ว่าก็ยังมีงานอื่นอยู่อีก ซึ่งทำเป็นงานกลุ่มให้ออกแบบพื้นที่แห่งความสงบ แล้วจะต้องตัดโมเดลด้วย เดียร์เลยคุยกับทัชและหินผารวมถึงเพื่อนคนอื่นในกลุ่มว่าให้แต่ละคนเร่งทำงานเดี่ยวให้เสร็จก่อน จะได้มีเวลาไปช่วยทำงานกลุ่มได้อย่างเต็มที่
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นเรียกให้เดียร์หันมามองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง พอเห็นว่าเป็นเพื่อนซี้ทั้งสองทักมาก็ละมือจากคอมฯ มากดพูดคุยโต้ตอบกัน งานของแต่ละคนก็ใกล้เสร็จเข้าไปทุกที ของเดียร์เองก็เหมือนกัน เขาวางพื้นที่ใช้สอยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่ามันสมควรหรือเปล่าแต่ก็ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถของเขาจะทำได้แล้ว เหลือแค่เอ็กพอร์ทออกมาแต่งแปลนรวมถึงจัดเพลทให้สวยงามเพื่อเตรียมส่ง
KAN
นอนหรือยังเดียร์เลื่อนนิ้วไปกดดูข้อความที่รุ่นพี่ข้างห้องส่งมา เหลือบตามองเวลาที่แสดงอยู่ตอนนี้เลขข้างหน้าเป็นเลขหนึ่ง เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่มาได้เกือบชั่วโมงแล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่นอน
_Dearยังครับ ยังนั่งทำงานอยู่เลย
พี่ทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่นอน?
[/i]
กดส่งข้อความตอบกลับไป และทันทีที่กดส่งก็ขึ้นว่าอ่านแล้วทันที เดียร์เลยตัดสินใจนั่งรอข้อความตอบกลับมาโดยไม่ได้กดออก ผ่านไปไม่ถึงนาทีโทรศัพท์ในมือก็สั่นหน้าจอสว่างขึ้นพร้อมกับข้อความของกันต์ที่ตอบกลับมา
KAN
ทำงานเหมือนกัน
งานใกล้เสร็จหรือยังเงยหน้ามองงานของตัวเองเพื่อประเมิน ก่อนจะจิ้มโทรศัพท์ตอบกลับไป
_Dearก็ใกล้แล้วครับ แปลนเหลือเก็บรายละเอียดแล้วก็เอาไปจัดเพลทครับ
[/i]
KAN
เปิดประตูด้วย_Dearห๊ะ?
อะไรครับ
[/i]
คราวนี้ข้อความไม่ขึ้นว่าอ่านแล้ว อีกฝ่ายเงียบหายไป เดียร์ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างงงๆ กับข้อความล่าสุดที่อีกฝ่ายส่งมา และในเมื่อไม่เข้าใจ ถามแล้วก็ไม่อ่านไม่ตอบก็เลยวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะตั้งใจจะทำงานต่อ แต่ยังไม่ได้ทันได้เริ่มเสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน เดียร์หันไปมองก่อนจะหันกลับมามองโทรศัพท์ของตัวเองพลางนึกไปถึงข้อความเมื่อครู่ ตากลมโตขึ้น เจ้าตัวรีบเดินไปที่ประตูส่องจนแน่ใจว่าคนด้านนอกเป็นใครถึงได้เปิดประตู
“ทำไมช้า”
ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ตอนมองอีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้เอ่ยเชิญ คนตัวสูงที่หอบโน้ตบุคมาด้วยมองหาทำเลที่นั่งของตัวเองก่อนจะเลือกที่นั่งเป็นที่พื้นหน้าโซฟา วางโน้ตบุคไว้บนโต๊ะกาแฟ หาปลั๊กมาเสียบชาร์จไฟเรียบร้อย
“เดี๋ยวนะพี่...” เดียร์เดินมานั่งที่โซฟาใกล้ๆ อีกคน “นี่พี่ทำอะไร”
“ก็ทำงานไง” กันต์ตอบ “ไม่ไปทำงานต่อล่ะ เดี๋ยวไม่เสร็จนะ”
“ไม่ใช่สิพี่... ผมหมายถึงพี่... มา...”
“ก็มาทำงานไง”
“ห้องพี่ก็มีไหมล่ะครับ”
“ไม่มี” กันต์ตอบทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ
“ห๊ะ... ไม่มีอะไร ไม่มีเน็ต ไม่มีไฟ” เดียร์ได้แต่ทำหน้างง
“ไม่มีเดียร์”คนฟังชะงักไปเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน แถมยังรู้สึกว่าแก้มของตัวเองมันร้อนวูบวาบไปหมดเชื่อว่ามันจะต้องค่อยๆ แดงขึ้นแน่นอน ยิ่งเมื่อเห็นสายตาพราวระยับของคนที่นั่งอยู่ข้างล่างเดียร์ก็ยิ่งมั่นใจ
“ผ ผมไปทำงานก่อนดีกว่า... พี่จะนั่งทำงาน ก ก็แล้วแต่พี่ละกันครับ” เดียร์รีบลุกไปที่โต๊ะทำงานทันที ได้ยินเสียงหัวเราะของคนขี้อ่อยดังตามหลังมา
แม้จะนั่งอยู่หน้าคอมฯ แต่สมาธิของเดียร์ไม่ได้จดจ่ออยู่ที่งานเลย จิตใจของเขามันเตลิดเปิดเปิงไปหมดเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของอีกฝ่าย ตั้งใช้เวลาตั้งสติอยู่นานถึงจะสามารถลงมือทำงานต่อได้
ทั้งเดียร์และกันต์ต่างก็นั่งทำงานของตัวเองเงียบๆ ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนสมาธิกัน มีเพียงเสียงเพลงที่เป็นเหมือนตัวเชื่อมพวกเขาเอาไว้ แม้จะนั่งเงียบๆ ทำงานไปแต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร อีกทั้งยังรู้สึกดีที่มีคนอยู่ด้วย
กันต์ละมือจากโน้ตบุคของตัวเองก็ตอนที่เวลาล่วงเลยมาจนถึงเลขสาม งานของเขาคืบหน้าไปบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะอะไรเพราะเอาจริงๆ ตั้งแต่มานั่งทำงานอยู่ในห้องนี้แม้ใจจะสงบลงแต่ดวงตากลับคอยแต่เหลือบมองคนที่นั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะ งานเลยเดินไปได้นิดเดียว
“เดียร์ เสร็จหรือยัง” กันต์ส่งเสียงถามคนที่ขยับคอไปมา คงจะล้าจากการทำงาน
“จะเสร็จแล้วล่ะครับ” อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมส่งเสียงหาว
“เหลือเกินยี่สิบเปอร์เซ็นต์ไหม” เขาจัดการปิดโน้ตบุคของตัวเองแล้วลุกไปหาอีกคน
“ก็... ประมาณนั้นครับ”
“อย่างนั้นค่อยทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้ ไม่ได้ส่งพรุ่งนี้ใช่ไหม นี่ตีสามกว่าแล้วพรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง”
เดียร์หันมองเวลา แอบตกใจนิดหน่อยที่เวลาล่วงเลยมาดึกขนาดนี้แล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำถึงแค่ตีสองเท่านั้นแล้วก็ไปนอนไม่คิดว่านี่ตีสามกว่าแล้ว
“งานส่งวันศุกร์ครับ ภายในเที่ยงคืนวันศุกร์ ส่วนพรุ่งนี้ผมมีเรียนบ่ายครับ” เดียร์ตอบคำถาม
เรื่องการส่งงานนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องแปลกของคณะเขา งานทั้งหมดอาจารย์ให้อัปโหลดส่งทางเว็บไซต์ของรายวิชา ซึ่งทางอาจารย์ได้สร้างหน้าสำหรับส่งงานเอาไว้แล้ว วิธีส่งงานก็อัปโหลดงานทั้งหมดลงในเว็บไซต์ของตัวนักศึกษาเอง ซึ่งนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ทุกคนจะต้องมี แล้วก็คัดลอกลิ้งค์ที่ลงงานเอาไว้มาใส่ไว้ในหน้าส่งงานของเว็บไซต์รายวิชา ซึ่งกำหนดส่งคือไม่เกินเที่ยงคืนของวันสุดท้ายที่อาจารย์กำหนด และค่อยปริ้นงานส่งอีกรอบในวันที่มีเรียนวิชานั้นๆ
“อย่างนั้นเอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้ วันนี้ดึกมากแล้วไปนอนเถอะ ตาแดงไปหมดแล้ว” กันต์ว่าพลางมองสำรวจใบหน้าของน้องตัวเล็ก
เดียร์พยักหน้ารับ เขาเองก็เห็นด้วยเพราะตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองง่วงมากๆ จนตาจะปิดอยู่แล้ว “ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น แล้วพี่...”
“เดี๋ยวพี่จะกลับห้องแล้วล่ะ ปิดคอมแล้วก็ไปนอนเถอะ”
เดียร์หันกลับไปกดเซฟงานของตัวเองก่อนจะจัดการปิดคอม เขาตั้งใจว่าจะเดินไปส่งอีกคนที่หน้าประตูก่อนแล้วค่อยไปนอนแต่กลับเป็นโดนกันต์ไล่ให้เข้าห้องไปนอน ไม่ไล่เปล่าแต่พาเขาเดินมาส่งถึงเตียงนอน
“เดี๋ยวพี่ปิดไฟข้างนอกให้เอง นอนไปได้แล้ว”
“อ่า... ครับ ขอบคุณนะครับ” เดียร์พยักหน้ารับ แม้ในใจจะอยากลุกไปส่งอีกฝ่ายก็ตามแต่พอหัวถึงหมอนตาก็จะปิดให้ได้ เพราะอย่างนั้นเขาเลยได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ปิดตาลงตอนที่กันต์ดึงผ้ามาห่มให้ “ฝันดีนะครับพี่กันต์...”
“ฝันดีครับ” กันต์ตอบกลับ ดึงตัวเองที่ไม่รู้ว่าเผลอตัวโน้มลงไปใกล้เดียร์ตอนไหนให้กลับมายืนตรง เขาผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อนึกได้ว่าเกือบจะทำเรื่องไม่สมควรอย่างก้มลงไปจูบหน้าผากอีกฝ่าย มองดูจนแน่ใจว่าน้องตัวเล็กหลับไปแล้วจึงได้เดินออกจากห้องนอน จัดการปิดไฟ ปิดประตูให้เรียบร้อย สำรวจภายในห้องว่าทุกอย่างปิดหมดและเรียบร้อยดี จึงได้หอบโน้ตบุคของตัวเองกลับห้อง
และคราวนี้... เขาก็สามารถนั่งทำงานได้แล้ว มีทั้งกำลังใจจากการไปนั่งมองน้องตัวเล็กมา และสมาธิอย่างเต็มที่เพราะไม่ต้องนึกถึงน้องตัวเล็กหรือแอบเหลือบตาไปมองน้อง
เดียร์ขยับตัวตื่นในตอนสายของวันเหมือนเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่จะรู้สึกตัวตื่นเอง เจ้าตัวซุกหน้าลงกับหมอนอย่างเกียจคร้าน นอนนิ่งๆ ต่ออีกห้านาทีก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยหน้าตางัวเงียผมชี้ฟูไม่เป็นทรงเพราะเพิ่งตื่นนอน เดินลากขาเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นให้เดียร์ที่กำลังจะเตรียมชุดเพื่ออาบน้ำชะงัก เจ้าตัวเดินมาคว้าโทรศัพท์ไปกดดู เป็นการแจ้งข่าวภายในกลุ่มชั้นปี อาจารย์ประจำวิชาในบ่ายนี้ไม่มา งดการเรียนการสอนในคลาสนี้ พอเห็นแบบนั้นคนที่กำลังจะไปอาบน้ำก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงต่อทันที งานยังไม่ทำหรอก ยังไม่ขยันขนาดนั้นนอนเล่นอีกสักรอบแล้วค่อยลุกขึ้นมาทำ ไหนๆ วันนี้ก็ว่างทั้งวันแล้ว
นอนกลิ่งไปกลิ่งมาสุดท้ายก็เผลอหลับไปอีกรอบตื่นมาอีกทีก็เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว คราวนี้ไม่มีอาการง่วงงุน เจ้าตัวลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงไปซื้ออาหารเช้าที่รวมยอดกับอาหารกลางวันที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กับคอนโด ซื้อของกินเล่นมาอีกสองสามอย่างปิดท้ายด้วยชานมเย็นอีกหนึ่งแก้ว
กลับขึ้นมาถึงห้องก็จัดการกับอาหารกลางวันก่อนเป็นอันดับแรก ขนมไทยที่แวะซื้อมาจากร้านประจำก็ถูกจัดการไปหนึ่งอย่าง เหลือข้าวเหนียวสังขยา กับสาคูมะพร้าวอ่อนที่เก็บเอาไว้ก่อน เอาไว้ค่อยเอามากินตอนหิวๆ ระหว่างนั่งทำงาน เช็คโซเชียลมิเดียอีกนิดหน่อย เห็นเพจของมหา’ลัยแชร์รูปเขากับพี่คนข้างห้องอีกแล้ว เป็นภาพตอนที่พวกเขาไปเจอกันที่ห้าง ทั้งๆ ที่ก็อยู่กันตั้งเยอะแยะแต่ทำไมถึงมีแค่ภาพคู่เขากับกันต์ก็ไม่รู้ แถมยังมีภาพตอนเลือกหนังสือด้วย ไม่รู้ว่าใครแอบถ่ายแล้วแอบถ่ายมาได้ยังไงโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย
แถมยังมีคนแชร์แล้วก็คอมเมนต์อีกเพียบ อ่านไปก็แก้มร้อนไป ยิ่งบวกกับภาพที่เห็นรวมกับนึกย้อนไปตอนนั้นก็ยิ่งทำให้แก้มร้อนจนต้องรีบปิดเพราะไม่อย่างนั้นสติได้หลุดอีกแน่นอน
ตอนนี้เลยมานั่งตั้งสมาธิก่อนจะเริ่มลงมือทำงานต่อจากเมื่อคืน เปิดโปรแกรมสำหรับแต่งรูปขึ้นมาเพื่อเอาแบบแปลนที่เขาออกแบบไว้มาทำแปลนพรีเซนต์ เหลือแค่ตรงนี้ก็เรียบร้อยทั้งๆ ที่ควรใช้เวลาไม่นานก็เสร็จแต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะเขามัวแต่เลือกรูปแมททีเรียลมาใส่ในแปลน รวมไปถึงหาแปลนต้นไม้มาใช้ตกแต่งบริเวณรอบๆ ตัวบ้านอีก เลยกลายเป็นว่าเดียร์ใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายในการทำพรีเซ็นนี้
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น เดียร์ที่เพิ่งทำงานเสร็จพอดีก็หันไปหยิบมากดดู เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กทักมา
T_ouch
ทำงานเสร็จกันยังวะHINPHA
เสร็จแล้ว มึงกับเดียร์เสร็จยังT_ouch
เพิ่งเสร็จตอนทักพวกมึงนี่แหละ_Dearเพิ่งเสร็จเหมือนกัน เหลือเอาไปปริ้นกับอัปส่งอาจารย์นี่แหละ
[/i]
HINPHA
จะฝากกูไปปริ้นร้านไหม เดี๋ยวกูจะออกไปปริ้นแบบให้พี่ป่าด้วย
เห็นเร่งทำแบบจนไม่ได้นอน กูเลยว่าจะไปช่วยT_ouch
พวกพี่เขามีงานเยอะเหรอวะ?HINPHA
พวกปีสามเขามี pin-up วันศุกร์ ต้องมี mass model ไปด้วย_Dearpin up กันทุกคนเลยป่ะวะ?
[/i]
HINPHA
ทุกคนเลย
กูไปช่วยพี่ป่าก่อน พวกมึงจะให้กูปริ้นงานให้เลยก็ส่งเข้าเมล์มานะ แล้วไลน์บอกกูด้วยเดียร์วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จัดการเอ็กพอร์ทงานออกมาแล้วกดเซฟให้เรียบร้อย ระหว่างรอเครื่องคอมฯ ปิดตัวก็อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงคนที่อยู่ห้องข้างๆ ไม่รู้ว่าทำงานไปถึงไหนแล้ว หลังจากที่ยกโน้ตบุคมาบุกห้องของเขาจนกลับไปอีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดต่อมา ไม่ว่าจะเป็นการโทร หรือส่งข้อความมา เป็นไปได้ว่ากำลังยุ่งกับการทำงานอยู่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะได้กินอะไรหรือยัง ได้นอนบ้างหรือเปล่า งานจะเหลือเยอะไหม
นั่งคิดไปคิดมาก็ชักจะฟุ้งซ่าน สุดท้ายก็ตัดสินใจคว้าโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์มาถือแล้วเดินออกจากห้อง หันมองประตูห้องข้างๆ ก่อนจะเดินเลยไปที่ลิฟต์ ไม่นานหลังจากนั้นมือทั้งสองข้างของเดียร์ก็เต็มไปด้วยของกินทั้งคาวหวาน รวมไปถึงน้ำเย็นๆ
กดกริ่งหน้าห้องไปแล้ว ยืนรอให้ประตูห้องนั้นเปิดออก แต่ทุกอย่างยังเงียบสงบก็เลยกดไปอีกรอบ คราวนี้เหมือนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง ไม่กี่อึดใจประตูห้องของกันต์ก็เปิดออกโดยเจ้าของห้องเอง คนตัวสูงท่าทางอ่อนเพลียทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ยังดูดีอยู่แท้ๆ
“ตั้งแต่เมื่อคืน... พี่ได้นอนหรือยังเนี่ย ผ่านไปยังไม่ครบวันดีทำไมพี่เป็นซอมบี้ขนาดนี้เนี่ย” เดียร์ทักพลางมองสำรวจคนตรงหน้าไปด้วย
กันต์ส่ายหน้าก่อนจะพยักหน้า จนเดียร์ได้แต่ทำหน้างง “ยังไงกันแน่ครับ ตกลงได้นอนหรือไม่ได้นอน”
“นอนไปพักหนึ่ง แต่ตอนไหนไม่รู้จำไม่ได้แล้ว” กันต์ตอบก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินหายไปในห้องนอน ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่ซับหน้าบนใบหน้า คงไปล้างหน้าให้ตื่นนอนมา
“ผมรู้มาว่าวันศุกร์พวกพี่มีส่งงานกัน ผมเลยเดาว่าพี่น่าจะยังไม่ได้กินอะไร”
“อือ... ก็ยังไม่ได้กินนะ”
“ผมซื้อของกินมาให้เต็มเลย แต่พี่กินข้าวก่อนแล้วกันนะ ผมไม่รู้ว่าพี่ชอบกินอะไรเลยซื้อข้าวมันไก่มาให้” เดียร์พูดก่อนจะเดินไปหยิบจานชามในครัว จัดการเทข้าวมันไก่ใส่จานให้เรียบร้อยแล้วยกมาให้คนที่ยังนั่งทำหน้าง่วงอยู่ตรงโซฟา
“กินข้าวก่อนครับ”
“อือ...” กันต์ตอบรับเบาๆ ก่อนจะเริ่มลงมือจัดการกับข้าวมันไก่ตรงหน้า
“งานพี่เหลือเยอะไหม” เดียร์ถามพลางหันไปมองกองงานของอีกฝ่าย เห็นเศษกระดาษชานอ้อยกับไม้บัลซ่าวางเกลื่อนพื้น
“เหลือตัดโมเดล พี่เพิ่งทำแปลนพรีเซนต์เสร็จ” คนตอบก็ตอบไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเพราะกำลังจัดการกับอาหารตรงหน้าอยู่
“ผมช่วยไหม”
“งานเสร็จแล้วเหรอถึงจะมาช่วยพี่น่ะ” คราวนี้กันต์เงยหน้าขึ้นมองคนอาสา
เดียร์พยักหน้าหงึกหงัก “เสร็จแล้วครับ วันนี้อาจารย์ยกคลาสผมก็เลยนั่งทำจนเสร็จแล้ว ให้ผมช่วยตัดโมเดลไหม ตอบแทนที่พี่เคยไปช่วยงานผมไง”
“ถ้าอยากช่วยก็ช่วย”
“รับรองผมไม่ทำงานพี่พังแน่นอน มา... เดี๋ยวผมเก็บให้” เดียร์คว้าจานข้าวมันไก่ที่หมดเกลี้ยงแล้วของอีกคนมา “พี่จะพักก่อนไหม เดี๋ยวค่อยลุกมาทำต่อหน้าตาพี่โทรมมาก อ่อ... พี่ปริ้นแปลนให้ผมก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมนั่งตัดให้ก่อน จะได้ไม่เสียเวลา”
“อือ” กันต์พยักหน้ารับ ตอนนี้สมองของเขาไม่สามารถสั่งการได้เต็มที่ เลยได้แต่พยักหน้าเออออไปตามอีกฝ่าย
คนตัวสูงลุกไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะสั่งปริ้นแบบแปลนออกมา
“โห... พี่มีเครื่องปริ้นเอสามด้วยเหรอ” เดียร์ถามพลางนั่งยองๆ มองเครื่องปริ้น
“ใช่ หลังๆ งานมันใหญ่ใส่เอสี่ไม่พอ พี่เลยซื้อเครื่องนี้มาเลยจะได้ไม่ต้องออกไปหาปริ้นข้างนอกเวลาด่วนๆ ถ้าจะใช้มาใช้ของพี่ก็ได้” กันต์ตอบ พลางรวบกระดาษขนาดเอสามที่ออกมาจากเครื่องปริ้นขึ้นไปตรวจดู
“ตอนนี้พวกพี่ทำโครงการ mixed use กันอยู่ใช่ไหมครับ”
“อือ... เอาเท่าที่ตัดไหวนะ ไม่ต้องเร่งตัดทั้งหมดหรอก เอาแค่ชั้นล่างที่เป็นอาคารจอดรถกับห้างก่อนก็ได้ พี่ใช้กระดาษอาร์ตนะมันมันกรีดดีๆ ล่ะเข้าใจไหม ระวังโดนมีดคัตเตอร์บาดด้วย”
“ผมตัดหมดเลยได้ไหม” เดียร์เงยหน้าขึ้นถาม
“ก็ได้ ถ้ามั่นใจว่าไม่พังนะ” กันต์ยิ้ม ยกมือขึ้นยีผมน้องตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่พื้น “พี่ขอนอนแป๊บเดียว เดี๋ยวมาช่วย”
เดียร์พยักหน้ารับ “นอนไปเลยพี่ ฝันดีครับ”
“ครับ...”
กันต์ไม่ได้เดินไปไหนไกล เขาไม่ได้เข้าไปนอนในห้องนอน แต่นอนอยู่ตรงประตูห้องนอนที่เขาเอาผ้ามาปูเป็นที่นอนเอาไว้เวลาทำงานแทน เจ้าของห้องซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนนุ่มก่อนจะหลับตาลง เพราะทำงานมาทั้งคืนแทบไม่ได้พัก ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็หลับสนิท
เดียร์หันมามองคนหลับ หยิบโทรศัพท์มาเปิดเพลงบรรเลงคลอให้เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนเขาก็เริ่มลงมือช่วยทำงานโดยการตัดแปลนที่อีกฝ่ายปริ้นให้ออกมาเป็นชั้นๆ ก่อน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วเพราะเดียร์ไม่ได้สนใจ เขากำลังตั้งสมาธิกับการตัดกระดาษอาร์ตเขาทำพังไปสองสามชิ้นแล้วเพราะตอนตัดด้านที่เนื้อมันเงาก็เผลอกรีดคัตเตอร์เกินจนเป็นลอย พอพลิกใช้ด้านหลังก็วางแปลนผิดด้าน เลยใช้ไม่ได้อีก เขาเลยตั้งใช้สมาธิมาเป็นพิเศษเพราะงานก็ไม่ใช่งานของตัวเอง จะทำชุ่ยๆ แค่พอส่งก็ไม่ได้ แล้วจากที่ไปส่องงานของเจ้าของห้องมา เดียร์ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเนี้ยบมาก งานตัดโมเดลทุกชิ้นแทบมองไม่เห็นรอยกาว เข้ามุม 45 องศาด้วยอีก
เพราะตั้งสมาธิกับการตัดโมเดลเดียร์จึงไม่รู้ว่าคนที่นอนหลับไปร่วมชั่วโมงนั้นตื่นขึ้นมาแล้ว กันต์นอนกระพริบตาเมื่อปรับสายตาและเรียกสติของตัวเอง เจ้าตัวยกมือขึ้นลูบหน้ารู้สึกสดชื่นขึ้น คงเพราะได้นอนหลับสนิทแม้ว่าจะไม่ได้หลับไปนานมากก็ตามที อดแปลกใจกับเสียงบรรเลงที่ได้ยินไม่ได้ จำได้ว่าเขาไม่ได้เปิดเพลงที่สำคัญไม่เคยฟังเพลงบรรเลงแบบนี้ด้วย แต่พอสายตาไปปะทะกับใครอีกคนที่นั่งหันหลังให้อยู่ก็เข้าใจทันทีว่าเสียงเพลงนั้นมาจากไหน
มือคว้าโทรศัพท์มากดดูเวลา ก่อนจะปัดหน้าจอเพื่อเปิดโหมดกล้องถ่ายรูป จัดการถ่ายเบื้องหลังของน้องตัวเล็กเอาไว้ ยิ้มชอบใจกับภาพบนจอ
“อ้าว... ตื่นแล้วเหรอครับ” เดียร์เงยหน้าขึ้นมองเมื่อมีเงามาบดบังพร้อมสัมผัสหนักๆ ที่หัว
“อือ ทำถึงไหนแล้ว” กันต์ถาม ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ น้องตัวเล็ก
เจ้าตัวรีบเอาไม้บัลซ่าที่ตัดอย่างเรียบร้อยมาอวดทันที “นี่... ผมตัดแปลนให้แล้ว สวยใช่ไหมล่ะ ฝีมือๆ”
กันต์หัวเราะ รับกระดาษอาร์ตที่ตัดเป็นรูปร่างตามแบบแปลนมาดู “เก่งมาก แล้วนี่แปลนใหญ่เสร็จหมดแล้วเหรอ”
“แฮ่... ยังครับ เพิ่งตัดไปได้แค่สี่ชั้นเอง มันตัดยากอ่า... ผมทำเป็นรอยไปตั้งหลายอัน” เจ้าตัวยู่หน้างอแงทันที
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นรอยก็เป็นสิ”
“ฮื่อ... มันไม่สวยน่ะสิ ผมเห็นนะงานของพี่เนี้ยบหมดเลย ไม่มีรอยขีดข่วนเลย ถ้าผมเอาอันที่ไม่สวยมาใช้ด้วย งานพี่ก็เละหมดสิ ดีไม่ดีพี่ต้องตัดใหม่ แบบนั้นก็เท่ากับว่าผมไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
เดียร์ส่ายหน้า “ได้ไง ผมตั้งใจจะมาช่วยนะ ไม่ได้มาเพิ่มงานให้พี่”
“ก็แค่มานั่งอยู่ตรงนี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว...” กันต์พูด หันไปยิ้มให้กับน้องตัวเล็กที่มองมาอย่างงงๆ
“พี่มีกำลังใจลุยงานเต็มที่แล้ว”************************************************
อะไรคือการพี่อ่อยน้องหนักขนาดนี้อ่ะ? หูย... ที่ห้องตัวเองไม่มีเดียร์ เลยต้องมาอยู่ห้องนุ้งเขางี้เหรอ แถมยังแอบมองเขาอีกต่างหาก อยากจะหูยให้ยาวเป็นหางว่าวเลยจ้า แล้วอะไรคือการที่นุ้งไปหาพี่ที่ห้องแบบนั้นคะลูก นี่คือจะไปช่วยพี่เขาทำงานใช่ไหม? ไม่ได้ไปอ่อยพี่เขาเนอะ ฮ่าาาาา
ยังไงฟางฝากเจ้านุ้งกับพี่กันต์เอาไว้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ ^^
ปอลอ. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายของฟางจ้า ขอบคุณนะคะ
ปล. เหตุการณ์รับน้อง การเรียนการสอน รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่ใส่ในนิยาย บางส่วนฟางเอามาจากชีวิตจริงที่ฟางได้เจอมาตอนเรียน บางส่วนฟางแต่งเติมเสริมขึ้นมาเอง และได้รับการอนุญาตจากทาง รศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่กันต์น้อยใจแย่เลย รักพี่กันต์เมนต์ รักน้องเดียร์เมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ