say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
บท17 l “พี่ตัวโต”* * * ต่อค่ะ 100% * * *
“มึง... ดูอารมณ์ดีแปลกๆ ไหมวะ กูรู้สึกมาหลายวันแล้วว่ามึงแปลกๆ อ่ะ” ทัชถามพลางมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะกันไปมองหินผาและฮาร์ทเพื่อถามความคิดเห็น
วันนี้พวกเขามารวมตัวกันที่ห้องของเดียร์เพื่อทำอะไรกินกัน ฉลองที่คะแนนสอบกลางภาคออกมาเป็นที่น่าพอใจ แล้วมันก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อเจ้าเพื่อนสนิทสมัยเด็กเอาแต่ฮัมเพลงงุ้งงิ้งๆ อยู่แบบนั้น จะบอกว่ามันดีใจที่ได้คะแนนสอบดีก็คงจะไม่ใช่ เพราะเขาไม่เห็นมันจะแสดงอาการอะไรตอนที่อาจารย์ประกาศคะแนนเลย และความรู้สุกมันคงไม่ดีเลย์จนเพิ่งมารู้สึกดีใจเอาตอนนี้หรอก
"หือ... กูก็ปกตินี่ ไม่ได้แปลกอะไรตรงไหนเลย" เดียร์ก้มหน้าสำรวจตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนที่มองมาที่เขา
“แปลก!” สองเสียงของฮาร์ทกับทัชประสานกันเป็นเสียงเดียว
“แปลกยังไงอ่ะ” เดียร์ถามหน้าซื่อ เพราะเขาไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าตัวเองแปลกยังไง
“นายดูอารมณ์ดีมาก มากเกินกว่าปกติเสียอีก บางทีอยู่ๆ ก็ฮัมเพลงขึ้นมาเหมือนกับมีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ” ฮาร์ทเป็นคนตอบคำถามของแฝดตัวเอง
เขาเองก็สังเกตมาหลายวันแล้วว่าแฝดของเขาดูแปลกไป ดูอารมณ์ดีเกินกว่าเหตุ บางวันอยู่ๆ ก็ฮึมเพลงขึ้นมาเสียอย่างนั้น จะว่าไปก็ดูอารมณ์ดีตั้งแต่กลับมาจากไปกับรุ่นพี่คนนั้นเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา
“ตั้งแต่ไปกับพี่คนนั้นมา ก็ดูจะอารมณ์ดีมาก” ฮาร์ทพูดข้อสันนิษฐานของตัวเอง
คำพูดที่ทำเอาเดียร์ชะงักไปเมื่อได้ยิน ท่าทางมีพิรุจชันเจนจนทัชดีดนิ้วถูกใจ “มึงมีพิรุจ! มึงว่างั้นไหมวะหิน”
หินผาไม่ตอบอะไรแต่ก็พยักหน้ารับ เขาพอรู้ว่าเพื่อนคนนี้อารมณ์ดีเรื่องอะไร เพราะพี่คนนั้นก็อารมณ์ดีไม่ต่างกัน ส่วนถ้าถามว่าเขารู้ได้ยังไงก็เพราะว่าพี่กันต์เก็บความดีใจเอาไว้ไม่มิด โทรหาเพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มแล้วนัดเจอกันที่ร้านอาหาร แล้วบังเอิญเขาได้ติดสอยห้อยตามพี่ชายไปด้วยเลยได้รู้มาว่า น้องตัวเล็กที่เคยได้ยินพี่กันต์พูดถึงบ่อยๆ ก็คือเดียร์ เพื่อนใหม่ของเขา และได้รู้มาว่าพี่ตัวโตที่ทัชเคยเอ่ยแซวเพื่อนตัวเล็ก ก็คือพี่กันต์นั่นเอง อย่างนั้นก็คงไม่แปลกอะไรถ้าเพื่อนใหม่ของเขาจะดูอารมณ์ดีขนาดนี้
ก็ได้เจอคนที่อยากเจอกันมาตลอดนี่นะ...“มึงชอบทำเป็นอมพะนำ รู้อะไรมาอีกแล้วใช่ไหมมึงอ่ะ” ทัชเปลี่ยนเป้าหมายจากเพื่อนตัวเล็กเป็นเพื่อนใหม่แทน หรี่ตามองหินผาอย่างจับผิด
คนโดนจับผิดหัวเราะขำ พลางส่ายหน้า “อะไรของมึงเนี่ย”
“ก็มึงอ่ะชอบรู้อะไรดีๆ มาแล้วก็เก็บเงียบตลอด ตั้งแต่ตอนรับน้องแล้วนะมึง เรื่องพี่วินงวินัยงี้ เหตุการณ์นู้นนี่นั่นงี้”
“ก็ไม่อะไร... แค่รู้มาว่าก็มีใครอีกคนอารมณ์ดีไม่ต่างจากเดียร์ก็แค่นั้นเอง”
คราวนี้ไม่ใช่แค่ทัชที่ให้ความสนใจกับหินผา แต่รวมไปถึงเดียร์และฮาร์ทด้วยที่หันไปมองหินผา เจ้าตัวไม่ได้พูดหรืออธิบายอะไรเพิ่มเติมแต่ส่งยิ้มอย่างเจาะจงตัวบุคคลให้กับเดียร์ แล้วคนอารมณ์ดีก็พอจะประติดประต่อเรื่องราวได้ คราวนี้ละยิ้มแก้มแทบแตก จนคนที่อยากรู้อย่างทัชต้องหันมาล็อคคอเพื่อนตัวเล็กแล้วเค้นคอถาม แม้ว่าจะไม่ค่อยได้อะไรก็ตามที
แล้วสุดท้ายอาหารมื้อนี้ทัชก็ไม่ได้คำตอบอะไรจากเดียร์เลยสักอย่างเดียว สุดท้ายเจ้าตัวก็เลยเลิกล้มความตั้งใจแล้วกลับห้องตัวเองไปหลังจากที่ช่วยกันเก็บล้างจานชามเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ในห้องของเดียร์จึงเหลือเพียงเจ้าของห้องและพี่ชายฝาแฝดแค่สองคนเท่านั้น
“คืนนี้นอนนี่ไหม” เดียร์ถามพี่ชายฝาแฝด ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไปอาบน้ำ
ฮาร์ทหันมามองก่อนจะพยักหน้ารับคำชวนของน้องชายแล้วหันกลับมาสนใจสารคดีสัตว์โลกน่ารักต่อ ปล่อยให้น้องชายเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วเขาจึงเข้าไปอาบน้ำบ้างเมื่ออีกฝ่ายเดินออกมาเรียก
แสงไฟภายในห้องมืดลงแล้วเพราะเจ้าของห้องกดปิดไฟเพื่อเตรียมเข้านอน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี และคนข้างๆ เองก็ยังไม่หลับเช่นกัน
“สรุปอารมณ์ดีเรื่องอะไร” ฮาร์ทถามฝาแฝดของตัวเอง เขาเองก็นึกแปลกใจกับความอารมณ์ดีของน้องชายฝาแฝดอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนักเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของเดียร์ แต่วันนี้หลังจากได้ดูท่าทางของน้องชาย และหินผาที่เอาแต่ยิ้มแล้วก็พูดจาแปลกๆ นั่นเขาก็เลยนึกสงสัยขึ้นมาจนต้องเอ่ยถามแบบนี้
“นายจำพี่ตัวโตได้ไหม” เดียร์ถามกลับ ระหว่างพวกเขาไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ถามก็จะไม่บอก หรือว่าถ้าตัวเองยังไม่อยากบอกก็จะไม่บอก พวกเขารู้เรื่องราวของกันและกัน แต่จะไม่บังคับหรือก้าวก่ายกัน
“จำได้ คนที่ช่วยนายไว้ตอนหนีเที่ยวตอนเด็กๆ เจ้าของพวงกุญแจที่นายพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา” ฮาร์ทตอบ
“อือ! นั่นแหละ เราจะบอกว่า... เราเจอพี่ตัวโตแล้วล่ะ” น้ำเสียงก็บ่งบอกได้เลยว่าเจ้าตัวดีใจมากแค่ไหน
ฮาร์ทหันไปเปิดไฟตรงหัวเตียงทันทีที่ได้ยินน้องชายพูด หันมามองหน้าเดียร์ที่ยังเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เลิก
“เจอ!” ฮาร์ททวนคำ “เจอกับพี่ตัวโตคนนั้นน่ะนะ”
เดียร์พยักหน้ารับ “ใช่แล้วล่ะ พี่ตัวโตคนนั้นนั่นแหละ”
“เจอได้ยังไง” ฮาร์ทถาม เขารู้ว่าน้องชายของเขาอยากเจอกับพี่ตัวโตคนนั้นมาก ถึงแม้จะไม่พูดไม่บอกแต่ตั้งแต่เด็กๆ แล้วถ้ามีโอกาสก็จะแวะไปที่ร้าน ร้องถามหาพี่ตัวโต หรือแม้แต่ตอนเผลอๆ ก็ชอบเอาพวงกุญแจที่พี่เขาให้มานั่งดู พอโตขึ้นก็ไม่ค่อยพูดถึง แต่ฮาร์ทก็รู้ว่าถ้าเป็นไปได้ เดียร์ก็อยากเจอกับพี่คนนั้นอีกครั้ง
“เราไปร้านคุณลุงมา ร้านที่เราไปกันตอนเด็กๆ ร้านที่ทำแพนเค้กคุณหมีน้อยของโปรดของเราน่ะ” เดียร์เริ่มเล่า “แล้วเราก็ได้เจอกับพี่ตัวโต ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าจะได้เจอ แล้วก็ได้รู้จัก”
“ทำไม”
“พี่ตัวโตเป็นคนใกล้ชิดเรามากกว่าที่เราคิดอีก ตลกมากเลยล่ะ” เดียร์หันมามองหน้าพี่ชายฝาแฝด
“ใครจะไปคิดว่าพี่วินัยหน้าเหี้ยมคนนั้นที่สั่งลงโทษเรา ก็คือพี่ตัวโต”ฮาร์ทชะงักกับคำตอบของเดียร์ หันมองหน้าแฝดของตัวเองเหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า “ว่ายังไงนะ... จะบอกว่าพี่ตัวโตคือพี่กันต์คนนั้นน่ะเหรอ”
“ใช่! พี่กันต์คือพี่ตัวโต” เดียร์ยืนยันอีกรอบ “ตอนเรารู้นะตกใจมากเลยล่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่กันต์คือพี่ตัวโตอ่ะ”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าเขาคือพี่ตัวโตน่ะ”
“ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอก แต่พี่ที่ร้านคุณลุงน่ะเล่าให้ฟัง เราก็เลยรู้แล้วพอเราถามพี่กันต์พี่เขาก็บอกว่ารู้อยู่แล้วว่าเราคือเด็กคนนั้น แต่แค่ไม่รู้จะบอกเรายังไงก็เลยไม่ได้บอกเรา”
ฮาร์ทพยักหน้ารับ “แล้วทำไมต้องอารมณ์ดีขนาดนั้นด้วยที่รู้ว่าพี่เขาคือพี่ตัวโต”
“อ่า... ฮ้าว... เราง่วงแล้วอ่า... นอนดีกว่าเนอะ” อยู่ๆ คนที่เล่าเรื่องราวได้เป็นฉากเป็นตอนเมื่อครู่ก็อ้าปากหาวออกมา ขยับตัวมุดเข้าผ้าห่ม การกระทำที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเปลี่ยนเรื่อง
“ทำมาเปลี่ยนเรื่องนะเดียร์”
“เราง่วงจริงจริ๊ง” เสียงสูงกว่าปกติ เจ้าตัวยกผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองแล้วหลับตาเพื่อตัดบทสนทนา
ฮาร์ทได้แต่ส่ายหน้ากับท่าทางของน้องชาย เอื้อมมือไปขยี้ผมน้องชายแรงๆ อย่างมันเขี้ยวปนหมั่นไส้
“พี่กันต์” เสียงหวานเอ่ยเรียกพี่ชายตัวสูงที่ยืนพิงรถอยู่ตรงที่จอดรถบริเวณหน้าอาคารเรียน ให้คนที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องสาวคนสวยกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหา เจ้าตัวกระโดดมาหาพี่ชายตัวโตแล้วกอดแขนของพี่ชายเอาไว้ “มารับน้องแพรจริงๆ ด้วย”
“ก็ต้องจริงสิคะ พี่บอกแล้วนี่ว่าจะมารับพาไปซื้อหนังสือน่ะ” กันต์ยกมือขึ้นยีผมน้องสาวของตัวเอง เมื่อเช้าน้องแพรโทรมาถามว่าตอนเย็นเขาว่างหรือเปล่า อยากให้พาไปซื้อหนังสืออ่านนอกเวลาเพื่อเอามาใช้ทำรายงานส่งอาจารย์
“อ๋อ พี่กันต์คะ นี่น้องเลิฟค่ะ เพื่อนในห้องของน้องเอง พอดีน้องกับน้องเลิฟทำรายงานคู่กันก็เลยว่าจะไปช่วยกันดูหนังสือน่ะค่ะ” น้องแพรแนะนำสาวน้อยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ให้กันต์ได้รู้จัก
กันต์เลื่อนสายตาไปมองคนตรงหน้าก่อนจะยกมือรับไหว้เมื่ออีกฝ่ายยกมือไหว้สวัสดีเขา ก่อนจะหันกลับมามองน้องสาวตัวเองที่พูดเล่าให้ฟัง “น้องเลิฟอายุห่างกับน้องแพรสองปีค่ะ เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน”
“ค่ะ พี่ว่าเราไปคุยต่อกันบนรถดีกว่าเนอะ ถ้าออกช้ากว่านี้เดี๋ยวรถจะติดเอา” กันต์บอกกับน้องสาวของตัว แล้วจึงหันไปหาเพื่อนของน้องสาว “ไปครับน้องเลิฟ”
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าตัวยิ้มกว้างน่ารักมาให้ ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วจึงเดินมาขึ้นรถของกันต์
ตลอดทางจากโรงเรียนมัธยมของน้องแพรไปจนถึงห้างสรรพสินค้ากันต์ได้แต่นั่งฟังน้องสาวตัวเองพูดเสียงเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังบ้าง เรื่องเพื่อนให้ฟังบ้าง ชวนน้องเลิฟพูดคุยตลอดทาง มีหันมาถามความคิดเห็นของคนที่ทำหน้าที่ขับรถบ้างเป็นระยะ เพราะกลัวว่าพี่ชายของเธอจะเหงา
กันต์ขับรถวนหาที่เจออยู่เกือบสิบนาทีในที่สุดก็ได้ที่จอด ทั้งสามคนพากันเดินเข้าไปห้างสรรพสินค้า ก่อนอื่นเลยก็ไปร้านหนังสือ จุดประสงค์หลักของกรมาห้างในครั้งนี้ก็เพื่อให้น้องแพรได้เลิกหนังสือไปใช้ทำรายงาน กันต์แยกไปอีกโซนเพื่อดูหนังสือเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรม ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสาม กำลังมีทำโปรเจคอาคารสูง กับ อาคาร Mixed Use เขาเลยว่าจะลองมาดูหนังสือเกี่ยวกับพวกอาคารสูงดูเสียหน่อย
อาคาร Mixed Use คือ อาคารเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน ซึ่งในหนึ่งอาคารนั้นจะมีทั้งเพื่ออยู่อาศัย เพื่อใช้ในเชิงพาณิชยกรรม เรียกง่ายๆ ว่า อาคารประเภทนี้จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า สำนักงาน รวมไปถึงส่วนที่พักอาศัยอย่างพวกคอนโดฯ รวมอยู่ด้วย เป็นการใช้งาน ใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด
“พี่กันต์คะ น้องแพรดูเสร็จแล้วนะ” น้องแพรเดินเข้ามาหา ในมือถือหนังสืออ่านนอกเวลามาคนละเล่มกับน้องเลิฟ
“โอเคค่ะ เอามาค่ะเดี๋ยวพี่ไปจ่ายเงินให้” กันต์บอก เขาหยิบหนังสือเล่มที่เล็งเอาไว้มาจากชั้นวางหนังสือแล้วจึงแบมือไปตรงหน้าน้องสาวเพื่อรอรับหนังสือ “ของเราด้วยนะ”
“เอ๋... ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่เป็นไร เอามาเถอะเดี๋ยวพี่ออกให้แลกกับบางอย่างที่พี่อยากจะขอ” กันต์บอกยิ้มๆ
“อะไรคะพี่กันต์ จะจีบเพื่อนน้องเหรอ!” น้องแพรทำตาโตทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
กันต์หัวเราะ ยกมือขึ้นเคาะหัวน้องสาวเบาๆ อย่างหยอกล้อ “ไม่ใช่แล้ว พี่แค่จะฝากน้องเขาช่วยเป็นเพื่อนกับน้องแพรไปนานๆ ไงคะ”
“ฮือ... พี่กันต์อ่ะ” น้องแพรได้แต่กอดอกทำแก้มพอง ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่กันต์มักจะห่วงน้องสาวกลัวว่าจะไม่มีเพื่อน เพราะน้องแพโตกว่าเพื่อนในชั้นสองสามปีกันต์เลยเป็นห่วงมาตลอด ตั้งแต่น้องเริ่มเข้าเรียนชั้นประถม
กันต์ไม่ได้พูดอะไรแต่เอื้อมมือไปหยิบหนังสือในมือของเพื่อนน้องสาวมาถือเอาไว้เองแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงินค่าหนังสือทั้งสามเล่ม หนังสืออ่านนอกเวลาของสองสาวราคาเล่มละไม่เกินสองร้อยบาท แต่ของกันต์นี่สิ เล่มเดียวก็เข้าหลักพันไปแล้ว
“อยากไปไหนกันต่อคะ” กันต์ถามหลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือแล้ว
“แพรอยากกินไอติมค่ะ ไปกินกันนะคะ เลิฟไปด้วยกันนะเดี๋ยวให้พี่กันต์ไปส่งที่บ้าน” น้องแพรพูดกับพี่ชายก่อนจะหันไปชวนเพื่อนสนิท
แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าพร้อมยิ้ม “ไม่เป็นไร พอดีพี่ชายเรามารับ นี่ก็มาถึงแล้วด้วยเราเลยจะขอตัวก่อน แพรไปกับพี่ชายเถอะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ แล้วพี่ชายอยู่ไหนให้เราเดินไปส่งไหม”
“ไม่เป็นอะไร เอาไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ” เลิฟยกมือบ๊ายบายก่อนจะหันมายกมือไหว้กันต์ “ไปก่อนนะคะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับหนังสือ”
“เอาไงเรา จะไปกินไอติมไหมคะ” กันต์หันมาถามน้องสาวหลังจากยืนส่งเพื่อนสนิทของน้องแพรแล้ว
“ไปค่ะ ไปกันนะ” ไม่พูดเปล่าแต่เจ้าตัวจับแขนพี่ชายแล้วพาเดินไปยังร้านขายไอศกรีมทันที กันต์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเดินตามน้องสาวสุดที่รักของตัวเองไป
เขากวาดสายตาไปรอบๆ ระหว่างรอน้องแพรต่อแถวซื้อเพื่อดูจำนวนคนที่กำลังต่อแถวสั่งไอศกรีมอยู่ มีไม่เยอะเท่าไหร่คงรอไม่นาน แต่ตอนที่กำลังจะละสายตากลับก็ต้องหยุดนิ่งเสียก่อนเมื่อกันต์สังเกตุเห็นใครบางคนที่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ระหว่างต่อแถวซื้อไอศกรีม
ขาทั้งสองข้างก้าวตรงไปข้างหน้า มือหนายกขึ้นสัมผัสที่ผมนุ่มของคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู่จนอีกฝ่ายสะดุ้งตกใจเงยหน้าขึ้นมอง แต่พอเห็นว่าเป็นเขาก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“พี่กันต์... มาทำอะไรครับเนี่ย” เดียร์ถาม
“มาส่งน้องสาวซื้อหนังสือ แล้วพอดีเขาอยากกินไอติมก็เลยพามาต่อแถวซื้อ ว่าแต่เราเถอะทำไมมาอยู่คนเดียวล่ะ” กันต์ถามกลับ ปกติเขามักจะเห็นน้องตัวเล็กอยู่กับเพื่อนๆ ตลอดเวลาออกมาข้างนอกแบบนี้
“วันนี้ผมจะกลับบ้านครับ แล้วพอดีน้องสาวผมมาแวะที่นี่ก็เลยมาแวะรับด้วยเลย” เดียร์ตอบเสียงใส ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปสั่งไอศกรีมเพราะถึงคิวพอดี กันต์เลยถอยออกมาเพื่อที่จะได้ไม่บังคนอื่น
พอเดียร์สั่งเสร็จก็ขยับมายืนข้างๆ เขาระหว่างรอพนักงานทำไอศกรีม “พี่มาถึงนานแล้วเหรอ”
“ก็สักพักใหญ่แล้วล่ะ รอน้องสาวซื้อไอติมเสร็จก็คงกลับ” กันต์หันมาตอบน้องตัวเล็ก
“คนไหนน้องพี่อ่ะ สวยไหมๆ คนไหนเหรอ” เดียร์ทำตาวิววับตอนกวาดสายตามองแถวข้างหน้า ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นผู้หญิงในชุดนักเรียนเดินยิ้มหวานเข้ามาหา เธอทีดวงตาที่กลมโต ผมยักศกสีน้ำตาล
“สั่งเสร็จแล้วเหรอคะ” กันต์หันไปถามน้องสาวตัวเอง แบบที่เดียร์ก็หันขวับมามองคนพูดทันที คราวนี้ตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินคนตรงหน้าพูดจาคะขาเสียน่ารัก
“เรียบร้อยแล้วค่ะ น้องแพรสั่งให้พี่กันต์ด้วยนะ จะได้ไม่แย่งน้องแพร”
“พี่ไม่แย่งของน้องหรอกค่ะ” กันต์ยกมือยีผมน้องสาวตัวเองอย่างมันเขี้ยว “น้องแพร นี่เดียร์ เป็นรุ่นน้องที่คณะพี่เองค่ะ ส่วนนี่น้องแพร น้องสาวพี่เอง”
“สวัสดีค่ะพี่เดียร์” น้องแพรยกมือไหว้สวัสดีคนตรงหน้าแบบที่เดียร์ก็รับไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ
“ส.. สวัสดีครับ” เดียร์ยิ้มให้น้องแพรก่อนจะหันมามองพี่ชายของน้อง “น้องสาวพี่สวยมากเลยอ่ะ”
กันต์ดันน้องแพรให้หลบหลังตัวเอง ยกมือกอดอกหรี่ตามองคนที่มาชมน้องสาวเขาซึ่งๆ หน้า เดียร์ได้แต่ทำตาปริบๆ ก่อนจะส่งเสียง แฮ่... ออกมา
น้องแพรหัวเราะคิกคัก ชะโงกหน้าออกมาจากหลังพี่ชาย “ขอบคุณค่ะ แพรโสดจีบได้นะ”
คราวนี้คนเป็นพี่ชายหันมามองน้องสาวตัวเองตาขวาง ยกนิ้วชี้ไปทางเดียร์ที่ยืนยิ้มอยู่
“จีบไม่ได้ หวง คนนี้ของพี่ค่ะ พี่จีบอยู่”ไม่ใช่แค่เดียร์ที่ตาโตแต่น้องแพรก็ทำตาโตด้วยเช่นกัน เจ้าตัวรีบขยับออกจากหลังพี่ชายมายืนมองสองคนสลับกันไปมา “พี่กันต์จีบพี่คนนี้อยู่เหรอคะ อ๋อ! พี่น้องตัวเล็กเหรอคะ”
กันต์พยักหน้ากับคำถามของน้อง พอได้ยินแบบนั้นน้องแพรก็ร้องอ๋ออีกรอบ พยักหน้ากับตัวเองเหมือนรับรู้ หันไปหาคนที่พี่ชายกำลังจีบอยู่แล้วยิ้มหวานให้ “อย่างนั้นห้ามจีบแพรแล้วค่ะ แพรยกพี่ชายให้”
“เอ่อ...” เดียร์ได้แค่เกาคอเกาหัวอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไรดี จะขอบคุณก็แปลกๆ จะปฏิเสธก็ไม่ใช่ เลยได้แต่หัวเราะแหะๆ
“หึ... ได้ไอติมแล้วไปเอาได้แล้วมั้งเดี๋ยวก็ละลายอดกินหรอก” กันต์ยกมือขึ้นยีผมน้องตัวเล็ก นึกตลกสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายในตอนนี้
“อ่า... ครับๆ เอ่อ... อย่างนั้นผมกลับเลยนะ”
"อือ เอาไว้คิดถึงมากๆ จนทนไม่ไหวแล้วเดี๋ยวโทรหา" กันต์พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ เหมือนกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่คนฟังทั้งสองคนนี่ตาโตไปแล้ว แก้มของเดียร์ขึ้นสีระเรื่อ เจ้าตัวหันซ้ายหันขวาเหมือนหาทางไปไม่ถูกก่อนจะรีบตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์เพื่อรับไอศกรีมก่อนจะเดินดุ่มๆ หนีไปทันที ส่วนตัวคนพูดก็ยืนหัวเราะขำ
“อารมณ์ดี อารมณ์ดีเชียวนะคะพี่กันต์” น้องแพรยิ้มทะเล้นใส่ “พี่คนนี้นี่เองที่พี่กันต์พูดถึงบ่อยๆ พี่เขาน่ารักดีนะคะ”
กันต์ยกมือวางบนผมของน้องสาวก่อนจะถามยิ้มๆ “ผ่านไหม พี่สะใภ้คนนี้น่ะ”
น้องแพรชูมือขึ้นทั้งสองข้าง “ผ่านค่ะ น้องแพรให้สิบเต็มสิบไปเลย พี่สะใภ้คนนี้แพรชอบค่ะ”
พี่ชายหัวเราะออกมาเบาๆ “อย่างนั้นก็นี่แหละพี่สะใภ้ของเรา ไป... ไปเอาไอติมได้แล้วเดี๋ยวจะได้กลับบ้านกัน”
“โอเคค่า” เจ้าตัวรับคำก่อนจะเดินไปรับถ้วยไอศกรีมมาสองถ้วย ส่งถ้วยหนึ่งให้กับพี่ชาย แล้วสองพี่น้องก็พากันเดินไปเรื่อยๆ เพื่อกลับไปที่รถและเตรียมตัวกลับบ้าน
************************************************
มาอัปแล้วคร้าหลังจากหายไปนาน ไปปั่นงานหลักมาจ้า งานเยอะมาก บวกกับออกบูธแล้วก็ย้ายคอนโดด้วยก็เลยยุ่งๆ ไปหมดไม่ได้มาอัปเลย นี่ก็เพิ่งจะปั่นเสร็จสดๆ ร้อนๆ งานเผาตลอดฟาง แฮ่... ตอนนี้ตัวละครออกเพียบ คุ้นๆ ชื่อกันบ้างไหมคะ ฮี่ๆๆ พี่นี่ก็นะ กับน้องสาวก็ยังหวง จีบไม่ได้นาจา คนนี้พี่จีบอยู่จ้า ใครก็จะมาจีบ มาชอบไม่ได้ พี่เขาจองเอาไว้แล้วจ้า
ยังไงฟางฝากเจ้านุ้งกับพี่กันต์เอาไว้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ ^^
ปอลอ. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายของฟางจ้า ขอบคุณนะคะ
ปล. เหตุการณ์รับน้อง การเรียนการสอน รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่ใส่ในนิยาย บางส่วนฟางเอามาจากชีวิตจริงที่ฟางได้เจอมาตอนเรียน บางส่วนฟางแต่งเติมเสริมขึ้นมาเอง และได้รับการอนุญาตจากทาง รศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่กันต์น้อยใจแย่เลย รักพี่กันต์เมนต์ รักน้องเดียร์เมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ