15
ใกล้คลอด
อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงกำหนดคลอดคนท้องหกเดือนกว่าแบกท้องใหญ่เดินไปเดินมาหน้าห้องน้ำอยู่นานสองนาน ห่วงปัฐวีที่แพ้ท้องแทนเมียไม่หายเสียที วันนี้อาเจียนตั้งแต่เช้าจนไม่ได้ไปทำงานทำการ บางครั้งก็อยากกินของเปรี้ยวๆ แล้วกินทีกินแทนข้าวเลยก็ว่าได้ จนแก้วอดแซวไม่ได้ว่าฝาแฝดออกมาจะต้องแสบมากแน่ๆ ปัฐวีถึงแพ้ท้องแทนหนักขนาดนี้ เตย์ชินเองก็เคยพูดว่าเจ้าแฝดอาจจะเอาคืนพ่อที่เคยรังแกแม่ของพวกเขาไว้เยอะ
“คุณปัฐ คุณโอเคมั้ยครับไปหาหมอมั้ย”
กานดาถามพร้อมกับช่วยพยุงปัฐวีที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรยมานั่งบนเตียง
“ไม่ต้องหรอก ยังไหวอยู่”
“งั้นนอนพักนะครับ เดี๋ยวดาไปทำซุปมาให้ทานลองท้อง”
ปัฐวีพยักหน้ารับรู้ก่อนจะค่อยๆ ปิดตาลง ถึงจะไม่ได้ท้องเองแต่ก็รับรู้ถึงความทรมานของคนท้องเวลาแพ้ท้องล่ะนะ เกิดมาเพิ่งจะเคยรู้ว่าผัวแพ้ท้องแทนเมียได้ด้วย
กานดาเข้าครัวเตรียมของทำซุปให้กับปัฐวี แต่เมื่อนกเดินผ่านมาเห็นก็รีบปรี่เข้าไปห้ามทันทีด้วยความเป็นห่วง
“คุณดาทำอะไรคะเนี่ย”
นกรีบหยิบของออกจากมือคนท้องทันทีก่อนจะจูงมือกานดานมานั่งลงที่เก้าอี้
“ดาจะทำซุปให้คุณปัฐครับ สงสารคุณปัฐตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลยมีแต่อ้วก”
“งั้นเดี๋ยวป้าทำเองค่ะ คุณดาออกไปรอที่ห้องรับแขกนะคะ”
“งั้นดาฝากหน่อยนะครับ”
ว่าจบกานดาก็แบกท้องโตออกจากห้องครัวมานั่งรอที่ห้องรับแขกอย่างว่าง่าย
“อ้าวดาทำไมมานั่งอยู่นี่คนเดียว”
“พี่เดียร์”
เดียร์หิ้วถุงพลาสติกหลายถุงที่ล้วนมีแต่ของบำรุงคนท้องทั้งนั้น แถมยังมีกางเกงยางยืดตัวใหม่มาให้น้องชายด้วย ได้ยินกานดาบ่นๆ ว่าตัวที่ใส่อยู่เริ่มคับแล้วเพราะท้องใหญ่ขึ้นทุกวัน วันนี้พี่ชายอย่างเดียร์ก็เลยจัดการลากเตย์ชินไปซื้อของให้น้องก่อนจะให้เตย์ชินกลับไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล
“รอป้านกทำซุปให้คุณปัฐครับ”
“อ้าวคุณปัฐไม่ได้ไปทำงานหรอ”
“ไม่ครับลุกขึ้นมาอ้วกตั้งแต่เช้า”
กานดาหน้าเบ้ลงทันที
“ตอนที่แม่ท้องดาพ่อก็เป็นแบบคุณปัฐนี่แหละ แต่แม่เอาบ๊วยให้พ่อกินทุกครั้งเวลาพ่อมีอาการน่ะ น่าจะใช้ได้นะลองดู”
เดียร์เล่าให้ฟัง คนท้องตาโตอย่างหาทางออกได้
“แล้วดาต้องไปหาซื้อที่ไหนเนี่ย”
“ชินมันจะเข้ามาที่นี่ตอนเย็นเดี๋ยวพี่ฝากชินแวะซื้อที่ซุปเปอร์มาให้นะ”
“ครับพี่เดียร์”
กานตอบรับก่อนจะยิ้มบางให้พี่ชาย
“ไหนดูสิหลานพี่โตขนาดไหนแล้ว”
“ดื้อมากใครแตะท้องเป็นต้องดิ้นแข่งกัน”
กานดาเปิดเสื้อขึ้นเผยให้เห็นท้องกลมโตที่เริ่มจะมีรอยแตกจางๆ ที่หน้าท้อง เดียร์มองก่อนจะลองเอามือแตะที่ท้องโตเบาๆ
“ทักทายกันหน่อยหลาน”
สิ่งมีชีวิตภายในท้องโตเริ่มขยับไปมาเบาๆ ใต้ฝามือ เดียร์เงยหน้าสบตากับน้องชายก่อนจะยิ้มออกมาแล้วสัมผัสลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ดูเจ้าเด็กแฝดจะรู้ว่าคุณลุงมาทักทายเริ่มดิ้นแรงขึ้นจนกานดาหนิ่วหน้าเจ็บ
“เจ็บมากมั้ยดา”
เดียร์ละมือออกอย่างเป็นห่วงน้อง
“นิดหน่อยครับ พี่เดียร์ดาปวดหลัง”
“งั้นเอนหลังหน่อยมั้ย มาพี่ช่วย”
เดียร์หยิบหมอนมาเทินกันให้สูงก่อนจะค่อยๆ พากานดาขยับตัวเอนหลันบนโซฟาตัวยาว
“ดีขึ้นมั้ย”
“ครับ...โอ๊ะ! พี่เดียร์ๆ!”
จู่ๆ กานดาก็ร้องเรียกเดียร์อย่างตกใจ คนพี่รีบถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรเจ็บท้องหรอ”
“เปล่าครับ...พี่เดียร์ดูนี่สิ”
กานดายกมือจากหน้าท้องออกเผยให้เห็นหน้าท้องที่เริ่มนุูนขึ้นมาเป็นรูปฝ่าเท้าเล็กจางๆ เดียร์ตาโตตื่นเต้นรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวีดีโอไว้
“โหหลานลุงแข็งแรงจังเลยนะ”
เดียร์ยื่นมือไปสัมผัสรอยฝ่ายเท้าเล็กเบาๆ อย่างตื่นเต้นดีใจ
“เมื่อไหร่จะคลอดพี่อยากอุ้มหลานใจจะขาด”
“กำหนดคลอดเดือนมกราครับวันที่20”
“อีกตั้งสามเดือน”
เดียร์ทำหน้าเซ็ง รออีกตั้งสามเดือนเชียวนะกว่าจะได้เห็นหน้าหลานใจขาดพอดี ตอนนี้เดียรสั่งให้ที่โรงงานทำเปลไม้สำหรับฝาแฝดสองคนไว้กะว่าจะเอามาเซอร์ไพรส์น้องชายตอนคลอด
ดาวานให้นกเอาซุปขึ้นไปให้ปัฐวีแทนเพราะตอนนี้รู้สึกปวดหลังจนไม่อยากลุกไปไหนเลย แก้วเองวันนี้ก็เข้าโรงพยาบาลไปตรวจงานหลังจากที่ให้เตย์ชินดูแลแทนมาหลายปี เย็นนี้ก็คงจะกลับมาทานข้าวพร้อมกัน มีเพื่อนทานข้าวด้วยกันหลายๆ คนก็ดีคนท้องจะได้ไม่เหงา ยิ่งได้พี่ชายมาอยู่ด้วยทั้งวันแบบนี้ยิ่งมีหายเหงา มีเรื่องเล่าสมัยเล็กจากพี่ชายเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย ยิ่งรู้ว่าเดียร์จะพากลับบ้านที่แม่ฮ่องสอนหลังจากที่ดาคลอดยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่
ตกเย็นเตย์ชินและแก้วกลับมาที่บ้านพร้อมกันในขณะที่แม่บ้านกำลังเตรียมตั้งโต๊ะอาหารค่ำ ปัฐวีวันนี้มีแต่นอนซมทั้งวันมีซุปตกถึงท้องไปแค่หน่อยเดียว ดีหน่อยที่ทานได้ไม่อ้วกทิ้งอีก กานดาเดินขึ้นไปตามปัฐวีให้ลงมาทานข้าวเย็น แต่กลับเห็นปัฐวียืนอยู่ที่ระเบียง
“ทำอะไรครับคุณปัฐ”
“คิดอะไรนิดหน่อย”
กานดาเดินมายืนข้างๆ ร่างสูงก่อนจะถามอย่างอยากรู้
“คิดอะไรครับ”
“เรื่องที่ไอ้ชินมันพูดน่ะ ที่บอกว่าเจ้าแฝดกำลังล้างแค้นฉันที่เคยรังแกดา...”
ร่างสูงเงียบลง กานดากลั้นขำกับความคิดของปัฐวี ไม่คิดว่าปัฐวีจะเก็บมาคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้
“คุณปัฐแค่แพ้ท้องแทนดานะครับ คิดอะไรไปถึงไหนเนี่ย”
“ก็มันน่าคิดนี่”
นอกจากจะแพ้ท้องแทนแล้วเดี๋ยวนี้ยังขี้น้อยใจอีกด้วยนะ
“เรื่องมันผ่านมาแล้วนะครับคุณปัฐ ลืมๆ มันไปเถอะอย่าเก็บมาคิดเลยนะ”
กานดาเขย่งตัวจูบที่ปลายคางปัฐวีก่อนจะยิ้มให้บางๆ ปัฐวีอมยิ้มก่อนจะดึงกานดามากอดโดยที่มีท้องโตขวางกั้น
“ขอบคุณนะ...ขอบคุณที่ทนคนอย่างฉัน ขอบคุณที่มีเจ้าแฝดให้ฉันด้วย”
มื้อเย็นผ่านไปได้ด้วยดี ปัฐวีไม่มีทีท่าว่าจะอาเจียนออกมาทานข้าวได้สบาย คนรอบข้างก็โล่งอกไม่ต้องคอยห่วง พอทานข้าวเสร็จแก้วก็ขอตัวไปพักส่วนดาก็ชวนเดียร์ออกไปนั่งทานขนมต่อข้างนอกที่ศาลาในสวนหลังบ้านที่กลายเป็นที่ประจำของสองพี่น้องไปแล้ว
“พี่ถามอะไรหน่อยสิ ทำไมดาถึงได้เปลี่ยนใช้ชื่อกานดาล่ะดูผู้หญิงมากเลยพี่สงสัยนานแล้วไม่ได้ถามสักที”
เดียร์ถามขึ้นก่อนจะหยิบขนมเข้าปากเคี้ยวตุ้ยรอฟังน้องเล่า
“ดาก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าใครตั้งให้ รู้ตัวอีกทีก็ถูกเรียกว่ากานดามาตลอดตั้งแต่เด็กจนโตแล้วครับ”
“อ๋อ แล้วดารู้มั้ยว่าชื่อไอแปลว่าอะไร”
เดียร์ถามน้องกลับก่อนจะจิ้มขนมทองหยอดใส่ปากน้องบ้าง
“ไม่รู้ครับ”
“ไอภาษาญี่ปุ่นแปลว่ารักครับ เพราะพี่รักหนูมาก”
เดียร์ยิ้มเท้าคางมองหน้าน้อง ชื่อไอ เดียร์เป็นคนตั้งให้เพราะรักน้องมากกว่าสิ่งไหนบนโลกใบนี้
“ขอบคุณนะครับพี่ชายที่แสนดีของดา”
ร่างสูงสองคนยืนมองสองคนพี่น้องนั่งคุยกันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่ศาลา จากระเบียงห้องนอน ปัฐวีเท้าแขนกับขอบระเบียงมองคนท้องที่คุยจ้อไม่หยุดปาก เสียงหัวเราะร่าเริ่งของสองพี่น้องดังไปทั่วพลอยให้คนได้ยินอดยิ้มตามไม่ได้
“แกรู้มั้ยว่าเปอร์เซ็นที่ดาจะท้องคือหกสิบสี่สิบเท่านั้นนะ ทำอีท่าไหนวะถึงได้ฝาแฝดมาเลย”
เตย์ชินเองก็ยืนมองคนรักที่วันนี้ดูสดใสมากกว่าทุกวัน พูดกับปัฐวีแต่ไม่ได้หันไปมอง
“ก็หลายท่านะ”
“ไอ้เวร! ฉันได้หมายความแบบนั้น”
ปัฐวียิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมองเตย์ชิน
“คงเป็นโชคดีของฉันล่ะมั้ง มีเมียที่น่ารักเก่งรอบด้านแล้วยังมีเจ้าแฝดมาให้ฉันอีก”
“โคตรโชคดีเลย...ไม่น่าเชื่อนะว่าดาจะทำให้แกคนเดิมกลับมาได้”
เตย์ชินแตะไหล่น้องชายยิ้มมุมปากอย่างนึกขำ ไม่คิดว่าคนอย่างปัฐวีจะยอมสยบให้กับเด็กหน้าตาซื่อๆ คนนี้ได้
“นั่นสิ...รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว...หยุดโดยไม่รู้ตัวเลยว่ะ”
“ปัฐช่วงที่ดากำลังท้องเข้าเดือนที่เจ็ดเดือนที่แปดนี่ ถ้าดามีอาการท้องแข็งแปลกๆ รีบพาไปโรงพยาบาลเลยนะ ถึงดาจะแข็งแรงฟื้นตัวได้ดีแต่ฉันก็อดห่วงไม่ได้”
“อาการแบบนี้มันทำไมวะ”
ปัฐวีถามอย่างกังวน
“มันคือสภาวะครรภ์เป็นพิษมักจะเกิดขึ้นกับท้องแรก แต่แกไม่ต้องกังวนหรอก มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ช่วงนั้นก็คุมเรื่องโปรตีนที่ให้ทานทุกวันแล้วกันอย่าให้ทานมากไป และพาไปตรวจความดันตามนัดด้วยล่ะ อย่าลืมว่ายังดาก็ไม่ใช่ผู้หญิงอะไรมันจะเกิดขึ้นก็ได้”
“ขอบใจที่เตือน”
เขาจะไม่ยอมให้ดาเป็นอะไรไปแน่ๆ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี ปัฐวีเชื่ออย่างนั้น
“คุณทำแบบนี้กับโยได้ยังไงคะ มำไมถึงตอบแทนโยด้วยการมีคาอื่น!”
เดียร์นั่งมองตัวละครที่เป็นนางเอกร้องไห้ฟูมฟายเพราะแฟนแอบไปมีชู้ เดียร์ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมนางเอกถึงต้องฟูมฟายขนาดนั้น ก็แค่คนเลวๆ คนนึงตัดออกไปจากชีวิตซะไม่เห็นยาก เริ่มต้นใหม่หาผู้ชายที่มันดีกว่านี้
“ทำไรอ่ะ”
“ซักผ้า...”
เดียร์ตอบเตย์ชินที่เดินมานั่งข้างๆ ก่อนจะแกะส้มเข้าปากไม่สนใจคนข้างๆ
“ถามแค่นี้ทำกวนนะ...ป้อนบ้างสิ”
เตย์ชินเริ่มก่อกวนเดียร์ด้วยการอ้อนให้เดียร์ป้อนส้มเขาบ้าง เดียร์หันไปมองนิ่งๆ ก่อนจะเอาส้มยัดใส่ปากเตย์ชินแล้วหันมาสนใจทีวีต่อ เตย์ชินเบ้ปากใส่เดียร์ก่อนจะเคี้ยวส้มในปากที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดจนต้องหยีตา
“เดียร์ทำไมเปรี้ยวแบบนี้อ่ะ”
เตย์ชินฝืนกลืนส้มลงคอ
“อร่อยดี”
“ท้องหรือเปล่าเนี่ยกินเปรี้ยวขนาดนี้”
เตย์ชินเอ่ยเเซวก่อนจะกระเซ้าด้วยการเอนไหล่ไปชนไหล่เดียร์
“อืม...ท้อง”
หันขวับมองคนผมยาวข้างๆ ทันที นี่อย่าบอกนะว่าเดียร์ท้องได้เหมือนน้องดาน่ะ
“ท้องอืด...ไม่ได้ขี้ตั้งแต่เมื่อวาน”
“เดียร์!”
เตย์ชินหน้าเหวอในความกวนของเดียร์ก่อนจะเรียกชื่อเดียร์เสียงดัง เดียร์ขำออกมาเบาๆ ที่เห็นหน้าของเตย์ชินเมื่อกี้นี้ เตย์ชินเบะปากใส่เดียร์ก่อนจะนั่งดูวีทีเป็นเพื่อนคนข้างๆ
“ถ้าผมแอบมีคนอื่นแบบในหนังบ้างคุณจะทำยังไง”
เตย์ชินตั้งคำถามกวนประสาตเดียร์ อยากจะรู้ความคิดของเดียร์ว่าจะหึงเขาบ้างไหม
“ก็ลองดูสิ”
เดียร์หันไปยิ้มมุมปากให้
“คุณจะทำอะไรผม”
“จะเอาหนังยางรัดไข่นายแล้วเอาหนังสติ้กยิงซ้ำ! ทำหมันถาวรแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ”
“เดียยยยร์~”
นอกจากจะไม่มีความหึงหวงออกมาให้ได้ยินแล้ว ยังมีแต่ความโหดร้ายที่มอบให้ไม่เคยเปลี่ยน แต่ถึงอย่างนั้นก็รักมากล่ะนะ
ช่วงใกล้กำหนดคลอดแบบนี้ปัฐวียิ่งไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับกานดาเท่าไหร่ เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีแบบนี้การจัดเตรียมงานประมูลเครื่องเพชรของบริษัทยิ่งวุ่นวายกว่าจะเคลียร์งานเสร็จกลับบ้านก็ตีหนึ่งตีสองแทบทุกวัน คนท้องช่วงนี้ก็ยิ่งกินเก่งพี่ชายอย่างเดียร์ก็ซื้อขนมประเคนให้น้องทุกวันไม่มีขาด ดูแลดียิ่งกว่าสามี สนใจน้องมากกว่าแฟนก็เดียร์นี่แหละ
“ดาพี่มีอะไรมาเล่าให้ฟัง”
คนพี่พูดขึ้น คนน้องก็หันไปมองอย่างสนอกสนใจ
“เรื่องอะไรครับ”
“วันก่อนมีโรงเรียนประถมโรงเรียนนึงพาเด็กไปเข้าค่ายลูกเสือ”
“แล้วยังไงต่อครับ”
“แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...เด็กทุกคนตายหมดเลย!”
เดียร์ทำน้ำเสียงจริงจังพาให้คนน้องตกใจในสิ่งที่ได้ยิน ในหัวคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าทมันอาจจะเป็นสิ่งเล้นลับหรือะไรสักอย่างในค่ายลูกเสือแน่ๆ
“ทำไมตายล่ะครับ!?”
“ผ้าพันคอ...”
“...”
กานดานิ่งลงทันทีที่ได้ยิน มีแต่คนพี่ที่นั่งขำคิกคักกับมุกของตัวเองที่เอามาเล่นกับน้อง
“พี่เอามุกนี้มาจากไหน?”
“ชินพาเล่นฮ่าๆ ไม่ฮาหรอ”
“อย่าไปเล่นกับใครนะครับ ให้ดาเป็นคนสุดท้ายที่รับรู้ว่ามีมุกแบบนี้อยู่บนโลก...”
31 ธันวาคม วันสิ้นปี เป็นวันที่บริษัทจัดงานประมูลขึ้น มีผู้มาร่วมงานมากมายทั้งเซเลป ไฮโซ รวมถึงลูกค้าของบริษัท ที่มาเข้าร่วมประมูลอย่างล้นหลาม ทุกคนที่มาร่วมงานต่างล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการได้ยลโฉมเครื่องเพชรชุดพิเศษที่ลือกันว่าน้ำงามที่สุดแห่งปีเพราะได้เพชรสีฟ้าที่หายากมาประดับตรงใจกลาง ‘กานดา’ คือชื่อของเพชรชุดนี้ปัฐวีเองที่เป็นคนตั้ง
แก้ว กานดา เตย์ชิน และเดียร์เองก็มาร่วมยินดีกับงานประมูลในครั้งนี้ของปัฐวี การแบกท้องโตใกล้คลอดมางานกลายเป็นที่สนใจของคนในงานเป็นอย่างมาก มีคนยินดีก็ต้องมีคนนินทา แต่กานดาไม่สนใจสิ่งเดียวที่กานดาสนใจที่ร่างสูงบนเวทีต่างหาก แววตาและรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้ขณะประกาศชื่อเครื่องเพชร ชื่อของภรรยาที่เป็นส่วนหนึ่งของการประสบความสำเร็จในครั้งนี้
เครื่องเพชรถูกตั้งโชว์กลางเวทีสู่สายตาของผู้ร่วมงาน ทุกสายตาต่างถูกดึงดูดมาสู่ใจกลางอย่างเพชรสีน้ำเงินดั่งต้องมนต์สะกด ราคาประมูลครั้งนี้สูงมากที่สุดในประวัติการณ์ของการประมูลในรอบหลายๆ ปี ทุกคนต่างเสนอราคาแข่งกันสูงลิบลิ่วเพื่อให้ได้มาครอบครอง...
หลังจากจบงานที่ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของบริษัท ปัฐวีพากานดามาฉลองความสำเร็จนี้กันสองคนพร้อมกับฉลองวันสิ้นปีไปพร้อมๆ กัน ปัฐวีจองโต๊ะบนด่านฟ้าของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนเพื่อจะมาฉลองกับกานดา สถานที่ถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีสวยงามทั้งด่านฟ้ามีเพียงโต๊ะเดียวที่ตั้งอยู่ริมระเบียงกระจก ทุกอย่างดูลงตัวเหลือเพียงการมาของปัฐวีและกานดาเท่านั้น
ผ้าสีขาวถูกปิดตากลมโตไว้เพื่อไม่ให้เห็นเซอร์ไพรส์ที่ปัฐวีเตรียมไว้ ร่างสูงประคองคนท้องโตอย่างระมัดระวังมายังด่านฟ้า
“ถึงหรือยังครับคุณปัฐ”
กานดาถามเมื่อหยุดนิ่ง
“ถึงแล้ว”
ปัฐวีแกะผ้าปิดตาออก ดวงคากลมลืมขึ้นมองสิ่งรอบกายก่อนจะระบายกว้างออกมา
“ชอบมั้ย”
“ชอบครับชอบมากเลย ทำไมไม่เคยบอกเลยล่ะครับว่าจะพามาที่นี่”
กานดาหันไปถามร่างสูงข้างๆ ที่เอาแต่ยิ้ม
“ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์หรอ”
พูดแค่นั้นก็จูงมือกานดาไปยังโต๊ะก่อนจะยกเก้าอี้ให้คนท้องนั่ง พนักงานทยอยยกอาหารมาเสิร์ฟ เมนูที่ปัฐวีเลือกสรรมาเพื่อกานดาโดยเฉพาะ ต้องคอยคุมเรื่องอาหารที่กานจะต้องทานเข้าไปในแต่ละมื้อเป็นอย่างดี ทำหน้าที่สามีเต็มความสารมารถ
พอทานเสร็จปัฐวีพากานดามายังระเบียงกระจกแข็งแรงที่ยื่นออกจากตัวตึก อีกไม่กี่นาทีก็จะผ่านพ้นปีนี้ไป ปัฐวีกอดกานดาไว้จากด้านหลังก่อนจะกระซิบข้างหูพร้อมกับนับถอยหลัง
“5 4 3 2 1...”
วี๊ดดดด!~ ปุ้ง! ปุ้ง!
พลุไฟดวงใหญ่หลากหลายสีแผ่กระจายความสวยงามบนท้องฟ้าให้สว่างไสวสู่สายตาคนมองให้ตื้นตันมีรอยยิ้มฉายบนใบหน้า
"แฮปปี้นิวเยียร์นะดา"
--------------------
มีใครทีมหน้ากากทุเรียนมั้ยคะ? 555+ ไม่เกี่ยวกันนะ
ตอนนี้ก็ไม่มีอะไร มุมน่ารักๆ ฉบับสามีขี้น้อยใจ คิดมาก หุหุ คู่อีพี่ก็สายฮาค่ะ 555+ มุกแป็กก็ช่วยขำๆ ให้พี่เค้าหน่อยเนาะ
ปล. อย่าลืมช่วงถามตอบของเมียบำเรอนะคะ มีคำถามอะไรทิ้งไว้ได้เลย เพราะว่า นี่ถึงตอนปัจจุบันที่อ้อนลงไว้อีกเว็บนึงแล้ว ตอนหน้าก็จบ แล้วก็ตินพิเศษท้ายเรื่องหนึ่งตอน แล้วก็ทำการปิดเรื่อง ต้องใช้เวลาในการปั่นตอนจบสักสี่ห้าวัน กลัวเบื่อเลยจะเอาถามตอบมาเล่น555+
ปล.2 ในส่วนของตอนพิเศษที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ติดตามได้ในเพจ Meemii lion นะคะ เอาไว้เวลาคิดถึงน้องดาอ้อนจะลงให้อ่านในเพจ คืนนี้ฝันดีค่า