มิ้นมาโพสต์ ตอนพิเศษให้แล้วน้า
อืมพี่เคท ตอนพิเศษนี่ ยาวได้ใจมากอ่ะ เรียกว่าภาคต่อได้เลยมั้ง
มาแล้วจ้า เพิ่งหายจากอาการตะขาบกัด มือไม่บวมแล้วล่ะ แต่แผลนี่สิ มันเป็นแผลเป็นนูนขึ้นมาตรงที่ถูกกัดอ่ะค่ะ แล้วมันคัน
แรกๆ พี่เคทก็พอห้ามใจได้ไม่ให้เกา แต่พอมันคันมากๆ ก็เลยขอเกาหน่อยน่า เกาอีกนิด คราวนี้เป็นเรื่องเลย ตรงแผลมัน
ถลอกปอกเปิก ช้ำเลือดช้ำหนองเลยอ่ะ แง้ ไม่น่าซนเลยช้าน แถมลืมกินยาตามเวลาด้วย ฮือ
.............................................
แต่ก็นะ ไหนๆ สัญญาว่าจะลงตอนพิเศษ ก็เลยเอามาลงให้ตามที่บอกไว้ นะคะ ล่าช้าไปหน่อย เพราะยังไม่หายป่วย ไม่ว่า
กันนะคะ
...............................................
ตอนพิเศษ
“ผมกลับมาแล้วครับ”
ทันทีที่เปิดประตูบ้าน ผมก็ส่งเสียงเข้าไปก่อน เพื่อให้สามีสุดที่รักของผมได้รับรู้ว่า ณ ตอนนี้ ผมได้กลับมาถึงบ้านของเรา
สองคนแล้ว
ตั้งแต่เราสองคนปรับความเข้าใจกันได้เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมก็ย้ายจากเพนท์เฮ้าส์มาอยู่กับคุณสามีที่ห้องเช่า ยอมละทิ้งความ
สะดวกสบายทั้งหลายทั้งปวงมาอยู่กับชายหนุ่มอันเป็นที่รัก เนื่องจากว่าเขาของผมไม่ยอมย้ายตามผมไปอยู่เพนท์เฮ้าส์ด้วยกัน
แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของเคน เขาไม่ใช่ผู้ชายนักฉวยโอกาส ที่จะอาศัยความรักความภักดีที่ภรรยา
ที่แสนจะร่ำรวยมีให้เพื่อตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัว เขายังเป็นชายหนุ่มที่เจียมตัว พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี แม้ว่าผมจะเสนอให้
เขาไปอยู่ด้วยกัน เพื่อที่เขาจะได้มีความสะดวกสบายขึ้น แต่เขาก็ปฏิเสธ โดยบอกว่า เขาอยู่ที่นี่สบายใจกว่า และไม่อยากให้
ใครมองว่า เขาเกาะเมียกิน
เมื่อเขาไม่ยอมไปอยู่ที่เพนเฮ้าส์ ผมก็เลยย้ายข้าวของบางส่วนมาอยู่กับเขาที่ห้องเช่าเสียเลย ห้องที่เล็กแคบอยู่แล้ว พอมีข้าว
ของเครื่องใช้ของผมใส่เข้าไป ก็เลยแคบไปถนัดตา แต่ผมกลับมีความสุขมากกว่าที่จะต้องอยู่ห้องกว้างใหญ่เพียงลำพัง โดย
ที่สามีอยู่อีกที่หนึ่ง
ตอนแรกเคนเป็นกังวลใจ เมื่อผมอ้อนขอมาอยู่ด้วย เขากลัวว่าผมจะลำบาก เพราะบ้านเช่าของเขาทั้งแคบ ทั้งร้อน และไม่มี
ความสะดวกสบาย แถมสภาพแวดล้อมก็ไม่ชวนให้อยู่อาศัยเท่าไหร่ ทั้งเปลี่ยว ทั้งลึก คุณหนูลูกคนรวยอย่างผม คงอึดอัด
และไม่มีความสุข แต่ผมก็ยืนยันกับเขาว่าผมอยู่ได้ ที่ผ่านมาผมก็เคยมาอยู่ด้วยกันกับเขาช่วงหนึ่ง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่น่าอยู่
เหมือนบ้านผม ทว่าสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้เลวร้าย การมีเขาอยู่ด้วย ช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่น สดชื่น เต็มไปด้วย
กลิ่นไอของความรัก ผมมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆเขา
ในที่สุดเคนก็เลิกคัดค้านผม และยอมตามใจให้ผมมาอยู่ด้วย เพราะผมได้แสดงเจตนารมณ์อันแน่แน่วว่า เขาอยู่ไหน ผมอยู่
ด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ในเมื่อเขาไม่อยู่กับผม ผมก็ต้องมาอยู่กับเขา เราเป็นสามีภรรยากัน ผมไม่มีวันแยกจากสามีสุดที่
รักของผมเด็ดขาด เคนโต้เถียงไม่ได้ ก็เลยไม่ว่าอะไรผมอีก แถมยังทำตัวน่ารัก ด้วยการเรียนรู้บทบาทการเป็นสามีที่ดี นอก
จากจะช่วยผมทำการบ้าน ตอนกลางคืนแล้ว เขายังพยายามแบ่งเบาภาระด้วยการช่วยทำงานบ้านอีกด้วย
ทว่าผู้ชาย ยังไงก็เป็นผู้ชายวันยังค่ำ เคนไม่เก่งเรื่องการบ้านการเรือนเหมือนผม เขาซักผ้าไม่สะอาด กวาดบ้านไม่เกลี้ยง ฝุ่น
และหยากไย่ ยังคงมีอยู่ให้เห็นประปราย อาหารก็ทำไม่อร่อย แถมซ้ำยังทำถ้วยชามแตกอยู่เรื่อยๆ จึงเป็นหน้าที่ศรีภรรยา
อย่างผมที่ต้องรับอาสาทำแทน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน
วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากผมงับประตูบ้านเรียบร้อย ผมก็เดินตามหาเคน ซึ่งไม่ต้องใช้เวลานานมาก เพราะห้องแคบๆ เดินไม่กี่
ก้าว ก็เห็นกันแล้ว ผมไปเจอเคนอยู่หน้าเตาแก๊ส เขากำลังลงมือทำอาหารอยู่ รอบตัวเขา มีกองผัก ถุงพลาสติก กระดาษ
เปลือกไข่กระจายเกลื่อน สามีสุดที่รัก กำลังพยายามทำอาหารให้ผมทานอยู่แน่ๆ คิดแล้วก็ปลื้มกับความพยายามของเคนยิ่ง
นัก แต่ผมกินอาหารไหม้ๆ กับข้าวเค็มไปหวานไปไม่ได้รส ไม่ได้อีกแล้ว
“เคนครับ ทำอะไรอยู่”
ผมย่องไปด้านหลังเขา แล้วโอบเอวเขาไว้แนบแน่น แนบหน้าลงกับแผ่นหลังของเขา ได้กลิ่นเหงื่อจากตัวของเคน มันเป็น
กลิ่นที่กระตุ้นกำหนัดชะมัดยาด ได้กลิ่นแล้วเกิดอารมณ์จัง
“กลับมาแล้วเหรอครับเคลวิน เหนื่อยไหมคนดี”
สามีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนผมเคลิ้ม เขาเอี้ยวตัวมาหาผม และจุ๊บที่หน้าผากผมทีหนึ่ง ผมรู้สึกขนลุก ร่างกายเริ่มมี
ปฏิกิริยา เลยกอดเขาแน่น พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง ด้วยกลัวว่าจะห้ามใจไม่อยู่แล้วเผลอจับเขากดลงกับพื้น แทนที่
จะได้กินข้าว จะกลายเป็นกินเคนแทน
“เหนื่อยนิดหน่อย แต่กลับมาบ้าน แล้วได้เจอเคน ผมก็หายเหนื่อยแล้ว”
ตอบเสียงอ้อน พลางเอาจมูกถูไถ กับจมูกของสามี อยากจะแสดงให้เขารู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน ยิ่งนานวัน ผมก็ยิ่งรักเขามาก
ขึ้นทุกที จนตระหนักแก่ใจตัวเอง ว่าชาตินี้ผมคงขาดเขาไม่ได้อย่างแน่นอน
“วันนี้ทำอะไรให้ผมกินเหรอครับ”
“ผมกำลังจะทอดปลาครับ คิดว่าง่ายที่สุดแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด”
เขาบอกผมเสียงอ่อยๆ ผมชะโงกข้ามไหล่เขาไปดูที่กระทะ เห็นปลานิล ตัวใหญ่อยู่ในน้ำมันที่ท่วมมาเสียครึ่งกระทะสี
เหลืองน้ำตาล แต่หนังลอกเว้าๆแหว่งๆ ติดอยู่ตรงก้นกระทะและตะหลิว ที่ฝาผนังมีคราบน้ำมันกระเซ็นเป็นจุดๆ
“ใช้ไฟแรงมากไปหรือเปล่า ระวังมันจะไหม้เอานะครับ”
ผมก้มลงหมุนปุ่มปิดแก๊สที่เขาเปิดจนแรงมากไปอยู่ในระดับไฟกลางๆ จากนั้นก็ยืดตัวขึ้น มองสำรวจไปทั่วตัวเขา อย่างที่
ผมคิดไม่ผิดเลย มีรอยแดงๆ อยู่ตรงแขน ของเขาหลายแห่ง เหมือนโดนน้ำมันกระเด็นใส่ พอลองจับมือของเคนขึ้นมาดูก็
เห็นนิ้วชี้กับนิ้วกลางมีพลาสเตอร์ผันแผลปิดไว้ เป็นพลาสเตอร์อันใหม่ รวมกับรอยเก่าๆ ที่เกิดขึ้นจากการถูกมีดบาดเมื่อทำ
กับข้าว ก็ครบ สิวนิ้วพอดี ผมถึงกับน้ำตาซึม เมื่อเห็นความลำบากกายที่สามีได้รับ จากการพยายามทำตัวเป็นพ่อบ้านให้กับ
ผม
เคนคงเห็นว่าผมทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ เขาก็ยกมือขึ้นมาลูบที่ใบหน้าผม ผ้าพันแผลที่ติดนิ้ว ลากไปตามแก้ม มันดู
สากๆ ยิ่งทำให้ผมอยากจะร้องไห้มากขึ้น เคนต้องเจ็บตัวเพราะผม ช่างน่าสงสารจริงๆ
“อย่าขี้แยสิ มันทำให้ผมรู้สึกผิดนะครับ ดูสิ แม้กระทั่งหน้าที่พ่อบ้านที่ดี ผมก็ทำไม่ได้”
ว่าจะไม่ร้องแล้วนะ พอได้ยินคำพูดจากปากเขาแบบนี้ ผมก็ทนไม่ไหว น้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมผวาเข้ากอดเขา
แน่น แล้วพูดเสียงเครือ
“เคนเป็นพ่อบ้าน เป็นสามีที่ดีที่สุดแล้วครับ แค่รักผม ผมก็พอใจแล้ว เรื่องงานบ้านงานเรือน ผมทำเองได้ครับ ผมปรนนิบัติ
เคนได้”
“แต่ผมไม่อยากเอาเปรียบเคลวินนะ เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ผมก็อยากแบ่งเบาภาระของเคลวินบ้าง คุณไปทำงานมาทั้ง
วัน กลับมาเหนื่อยๆ แล้วผมจะนั่งอยู่เฉยๆ รอให้คุณทำกับข้าว และทำความสะอาดบ้านให้ผมได้อย่างไร”
คำพูดของเขาทำให้ผมชื่นหัวใจยิ่งนัก โดยเฉพาะคำว่า เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว มันทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด นั่นสินะ
เราอยู่กันเป็นครอบครัวแล้ว เขาเป็นสามี ผมเป็นภรรยา เคนพยายามทำหน้าที่พ่อบ้าน เพื่อเอาใจผม ทำให้ผมมีความสุข แล้ว
ผมล่ะ จะทำเพื่อสามีสุดที่รักไม่ได้เชียวหรือ ยังไงก็ตาม งานบ้านงานเรือน มันเหมาะกับผมมากกว่าเขาอยู่แล้ว ถึงจะไปทำ
งานมาเหนื่อยแค่ไหน กลับถึงบ้าน ผมก็พร้อมที่จะทำหน้าที่แม่บ้านให้เขาอยู่ดี
“ผมเต็มใจครับเคน ผมอยากทำอาหารให้คุณทาน อยากทำบ้านของเราให้เรียบร้อยสะอาดสะอ้าน เพราะมันเป็นบ้านของเรา
สองคนครับ”
--------------------
TBC