Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ  (อ่าน 272332 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
รักที่ต้องการเวลาจริงๆ

เล้งมีความพยายามมากจริงๆ อย่างน้อยเล้งก็พิสูจน์ตัวเอง
อิงน่าสงสารนะ เจอทั้งสองฝั่ง รักทั้งคู่ด้วย

เล้งต้องบอกอิงก่อนนะ อย่างน้อยที่ว่าเล้งจะไม่ยุ่ง แต่อิงยุ่งได้น่ะ จะได้เป็นจริงบ้าง

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ขอบคุณทุกคนนที่เป็นกำลังใจให้นังเล้งจ้า คนเขียนก็มีกำลังใจด้วยเหมือนกัน อิอิ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
29th Step : เงื่อนไขของช่องว่าง
[Ing]




ถึงตอนนี้ความรักของผมกำลังมีปัญหา แต่จะให้เอาแต่กังวลจนไม่สนใจอะไรเลยก็คงไม่ได้

อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผมก็จะเรียนจบแล้วครับ ดังนั้นสิ่งที่ผมควรสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่องเรียน

ผมตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่หอเพื่อจะได้มีสมาธิและทำงานได้สะดวกมากขึ้น ถ้ายังอยู่ใกล้ไอ้เล้งความคิดของผมก็มักจะหวนไปนึกถึงมันและเรื่องปัญหาที่เรากำลังเผชิญจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรกันพอดี

หลังจากเกิดเรื่องขึ้นได้ไม่กี่วัน พี่อุ้มก็ติดต่อมาให้กำลังใจอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำนัก ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจที่หนักอึ้งของผมรู้สึกดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาด

อาจเป็นเพราะสายใยของพี่น้อง

ถึงแม้แม่จะต่อต้าน แต่พี่อุ้มกับอ้อนยอมรับ ผมก็เบาใจได้พอสมควร ทว่าหลังจากพาไอ้เล้งไปเจอกับแม่ในฐานะคนรักอย่างเปิดเผย กำลังใจที่เคยมีก็พังทลาย

แม่มีท่าทางปฏิเสธการมีตัวตนของไอ้เล้งอย่างชัดเจนจนผมปวดใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายก็ได้แต่พูดขอร้องอย่างหมดทางและมันก็ไม่ได้ผลอะไรอยู่ดี

"อิงคิดว่า...ใครกันแน่ที่รักและหวังดีกับอิงมากกว่ากัน"

"แม่ก็รู้ว่ามันคนละเรื่อง เทียบกันไม่ได้"

"เฮอะ!"

ในวันนั้นจบลงที่แม่ไม่คุยกับผมอีก จนท่านขึ้นรถแท็กซี่ไป ผมก็เดินกลับมาหาไอ้เล้ง แล้วเราสองคนก็กลับมาที่คอนโดด้วยท่าทางที่พยายามให้เป็นปกติ และปลอบใจกันและกัน

ไม่เป็นไร...

ชีวิตไม่ได้เคลื่อนไปด้วยความรักเพียงอย่างเดียว ผมยังมีหน้าที่และบทบาทอื่นที่ต้องดำเนินต่อไป

ผมเก็บความทุกข์ใจที่เติบโตขึ้นในใจเอาไว้ แล้วกลับไปที่หอของตัวเอง หลังจากใช้เวลาราวหนึ่งอาทิตย์ ผมก็กลับมาใช้ชีวิตประจำวันกับไอ้เล้งที่คอนโดเหมือนเดิมพร้อมกับรับรู้เรื่องราวที่มันทำเพื่อความรักของเราระหว่างนี้ไปด้วยครับ

ผมค่อนข้างกังวลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันอยากทำอะไรก็ตามใจ แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ผมก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยแก้ไข

มีคนเคยบอกว่าผมเป็นคนดื้อด้าน หัวแข็ง แต่แม่เป็นมากกว่าผมเสียอีก

ผมไม่คิดว่า การที่ไอ้เล้งไปช่วยงานที่ร้านจะทำให้แม่เปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แต่ก็คงดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

นอกจากเราสองคนจะคุยกันทุกวัน แล้วมันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอิ่มอุ่นให้ฟัง ผมก็ยังรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทางน้องสาวตัวดีที่โทรศัพท์มารายงานเป็นระยะอีกด้วยครับ

ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรคืบหน้าอย่างที่ผมคิด แต่มันยังยิ้มได้และมีความสุขดี ผมก็พอใจ
นึกไม่ถึงว่าคนขี้เกียจและเป็นคุณชายไม่เอาการเอางานอะไร จะทุ่มเททำงานได้แบบนี้

"กูโอเค พี่อิงไม่ต้องเป็นห่วงนะ"

ไอ้เล้งมักจะบอกผมแบบนั้นเสมอ ถึงผมจะไม่ได้เชื่อคำพูดนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้ก็ทำให้เผมตอบรับอย่าง่ายดาย

ผมรักไอ้เล้งมาก

ถึงจะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นมาตอนไหน ทำไม และเพราะอะไร แต่ผมจะไม่ยอมทิ้งมันไป

บางที...นี่อาจจะเป็นบททดสอบความจริงใจของเราสองคนก็ได้
ทุกปัญหาต้องมีทางแก้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เราสองคนยังหาไม่เจอเท่านั้นเอง

หลังจากไอ้เล้งไปทำงานที่ร้านอิ่มอุ่นในเวลาว่างได้ระยะหนึ่ง บางวันผมก็จะไปด้วยหรือไม่ก็ไปรับกลับ โดยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแม่ยังไม่ดีขึ้น แต่ผมก็ยังหวังว่า...สักวันท่านจะเข้าใจและยอมรับได้

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่สัปดาห์ของการสอบปลายภาตและเป็นการสอบครั้งสุดท้ายของผมในชีวิตนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว ด้วยเหตุนี้ผมเลยย้ายกลับไปอยู่หอของตัวเองอีกครั้ง

ผมมองใบหน้าของไอ้เล้งที่ส่งยิ้มบางมาให้ ตอนที่มันขับรถมาส่งผมที่หอพัก ก่อนจะคว้าลำคอของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วเราสองคนก็จูบกัน

ขอเวลาอีกนิดเดียว...

หลังการสอบเครั้งนี้สิ้นสุดลง ผมจะต้องหาทางออกกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เพื่อความรักของเรา


.........


ผมผ่านการสอบวันแรกมาได้ห้าวันแล้วครับ วันนี้ก็มาสิงอ่านหนังสืออยู่ที่หอสมุดของมหาวิทยาลัยกับไอ้กลมตั้งแต่เช้า จนพระอาทิตย์ตกดินเราสองคนก็ไปหาอะไรกินเป็นมือเย็นด้วยกันต่อ

"แม่งเยอะฉิบหาย กูจะจำหมดได้ไงวะ"

"อ่านหลายรอบก็จำได้เองนั่นแหละ"

ไอ้กลมถอนหายใจ ก่อนจะทำหน้าเบื่อใส่ผมที่กำลังตักข้าวกินไปเรื่อย ตอนนี้ก็ประมาณสองทุ่มแล้วครับ แต่บริเวณหอพักก็ยังเต็มไปด้วยนักศึกษาที่เดินไปมาเป็นระยะ

"อ่านรอบเดียวกูก็จะตายและ น่าเบื่อโคตร"

"กูก็เบื่อ อีกไม่กี่วันก็เรียนจบแล้ว ทนไปเถอะ"

"เออ ว่าแต่มึงจบแล้วเอาไงต่อวะ มีที่ไหนติดต่อมายัง"

"เดือนหน้ากูมีสัมภาษณ์ แล้วมึง?"

"กูยังว่ะ ไว้รอเรียนจบจะพักสักเดือนสองเดือนแล้วค่อยหางานทำ"

"อืม"

ผมส่งรีซูเม่ไปหลายบริษัทเมื่ออาทิตย์ก่อนครับ แล้วก็มีติดต่อมาหลายที่เหมือนกัน

ผมคุยกับไอ้กลมคลายเครียดไปเรื่อยระหว่างมื้ออาหาร ก่อนเสียงโทรศัพท์มือถือของผมจะดังขึ้น แล้วก็ต้องยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นชื่อของคนติดต่อมา

"ไง"

[มึงไม่ได้อยู่หอเหรอ]

"ทำไม"

[กูมาหาเนี่ย รออยู่หน้าห้อง]

ผมนึกแปลกใจแต่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งของตัวเองทันที โดยไม่ได้สนใจสีหน้างุนงงของไอ้กลมนัก

"เออ เดี๋ยวกูไป"

ผมตัดสายแล้วหันมามองไอ้กลมที่กำลังมองผมอยู่เช่นเดียวกัน

"กูกลับห้องก่อน ไอ้เล้งมา"

"อ้าว! เดี๋ยวกูไปส่ง"

"อืม"

หลังจากออกจากร้านอาหารตามสั่ง ผมก็ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของไอ้กลมมาที่หอพักที่ แล้วรีบขึ้นไปที่ห้องของตัวเองทันที ก่อนจะเห็นไอ้เล้งกำลังนั่งพิงประตูเล่นโทรศัพท์อยู่

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเดินไปหา นึกแปกลใจที่มันมา ทั้งที่เราสองคนตกลงเรื่องนี้กันเอาไว้แล้ว ถ้าผมสอบเสร็จเมื่อไหร่ค่อยเจอกัน เพราะอยู่กับมันทีไร ผมอ่านหนังสือสอบได้ไม่เต็มที่นัก

"เล้ง"

ไอ้เล้งเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ผมถอนหายใจ แล้วไขกุญแจห้อง หลังจากที่ประตูเปิดออก ผมก็ดึงอีกคนเข้ามาข้างในทันที

ผมลอบถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ตอนนี้รู้สึกสับสนอารมณ์ของตัวเอเล็กน้อยครับ ระหว่างดีใจกับขุ่นเคือง

ดีใจ...ที่มันมาหา เพราะผมก็คิดถึงมันเหมือนกัน แล้วก็ขุ่นเคือง...ที่มันจะมาก่อกวนสมาธิของผมเนี่ยแหละ

ไอ้หมาเล้งเอ๊ย!

"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ"

ไอ้เล้งมองผมอย่างสงสัย ผมไม่ได้ตอบอะไร นอกจากโยกหัวของมันไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้

"พี่อิง..."

"ก็บอกแล้วไงว่าจะอ่านหนังสือสอบแล้วยังมากวนอีก"

ผมส่งสายตาดุใส่ แต่คนที่ได้รับไม่สะทกสะท้านอย่างเคย ไอ้เล้งที่ทำหน้ามุ่ยใส่ก็เข้ามากอดผมเฉย

"ก็...คิดถึงมึงอ่ะ"

ผมมองคนที่กอดผมอย่างแปลกใจนิดหน่อย อันที่จริงตั้งแต่เริ่มคบกันผมก็พอสังเกตว่าไอ้เล้งมันขี้อ้อนอยู่พอสมควร แถมหลังจากที่มันสารภาพว่ารักผม ก็เพิ่มระดับความออดอ้อนให้ผมใจสั่นไปอีกหลายเท่า

ว่างเมื่อไหร่ก็อ้อน เผลอตอนไหนก็เข้ามากอด เวลาจะนอนก็ชอบยั่วให้จูบอีกต่างหาก แถมยังบอกรักให้ผมเขินอยู่เรื่อย

"อะไรของมึงเนี่ย"

ผมว่าเสียงเบื่อแต่ในใจกำลังรู้สึกดีมากเลยครับ ไออุ่นและกลิ่นกายที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายวัน ทำให้ผมต้องก้มลงไปจูบที่ขมับของมันเบาๆ พลางกอดตอบคนกวนใจไปด้วย

"อืม...อยากเจอมึง"

ผมมองคนที่ยังซุกหน้าเข้ากับไหล่ของผม เสียงงึมงำกับอ้อมแขนที่แน่นขึ้น ทำให้ผมยกยิ้มออกมา

"แล้วนี่แดกไรมาหรือยัง"

ไอ้เล้งคลายอ้อมแขนของตัวเองออกทันที ก่อนมองผมด้วยสีหน้าเหมือนสัตว์เลี้ยงเจอเจ้าของ ซึ่งมันก็น่าหมั่นเขี้ยวและชวนให้เอ็นดูไม่น้อย

"ก็...กินแล้ว แต่ถ้ามึงทำ กูก็จะกินอีกอ่ะ"

"แดกเยอะพุงออกแล้วเนี่ย"

ผมว่าพร้อมกับบีบหน้าท้องราบเนื้อนิ่มของมัน ไอ้เล้งชักสีหน้าออกมาพร้อมกับตีมือของผมไปด้วย

"ความผิดมึง เสือกทำอร่อยเอง"

ผมมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ แล้วเปลี่ยนเป็นสายตาจริงจังขึ้น

"แล้วตกลงที่มาหากูเนี่ย มีอะไรหรือเปล่า"

"ก็คิดถึง อยากเจอไง"

"เออๆ แล้วนี่ยังไปชวยงานที่ร้านอยู่หรือเปล่า"

เพราะอยุ่ในช่วงสอบและไอ้เล้งก็มีอิทธิพลต่อสมาธิของผมเป็นอย่างมาก ทำให้ช่วงนี้ผมไม่ได้คุยกับมันนัก

"ไม่ได้ไปมาหลายวันแล้ว ก็จะสอบแล้วด้วย เลยว่าจะอ่านหนังสือ"

ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจสุดๆ ไอ้เล้งที่เกลียดการอ่านหนังสือเนี่ยนะ? หรือว่าการที่มันไปช่วยงานที่ร้านจะเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของมันไปด้วย?

"มึงไม่สบายหรือเปล่า"

ผมยกมือขึ้นอังหน้าผากของมันด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เล้งส่งสายตาไม่พอใจมาให้พร้อมกับปัดมือของผมออก

"กวนตีนนะ"

ผมหัวเราะเบาๆ แล้วดึงมันมานั่งบนเตียง ก่อนจะหันไปเปิดโทรทัศน์ให้อีกฝ่ายดู

"แล้วจะมาค้างกี่วัน มะรีนนี้กูมีสอบ"

"รู้แล่วน่า ไม่ต้องไล่ กูกลับพรุ่งนี้"

ผมลอบยิ้มออกมา ก่อนจะมองเวลาที่นาฬิกา แล้วกลับมาสนใจคนที่นั่งหน้าหงิดหน้างออยู่

"ไปซุปเปอร์กันไหม กูว่าจะแดกสุกี้รอบดึกหน่อย"

ไอ้เล้งหันสายตาขุ่นเคืองมามองอย่างประหลาดใจ ก่อนนัยน์ตาสีดำจะเป็นประกาย แล้วมันก็ลุกขึ้นทันที

"ไปดิ"

ผมมองคนที่เดินมาจับแขนของผมเอาไว้แล้วลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เราสองคนจะออกจากห้องเพื่อไปหาวัตถุดิบสำหรับมื้อดึกกัน

ผมไม่ได้อยากกินอะไรหรอก ก็แค่เห็นมันงอน เลยอยากง้อมันนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ


.........


ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


"ลูกชิ้นนี่อร่อยว่ะ มึงกินยัง"

"อืม"

"มึงจะกินนี่เปล่า"

"ไม่"

"อ่าฮะ งั้นกูกินนะ"

ไอ้เล้งตักเกี๋ยวกุ้งชิ้นสุดท้ายด้วยรอยยิ้ม ผมนั่งมองคนตรงหน้าที่ยังปากไม่ว่างแล้วอมยิ้มออกมา

เพราะผมเพิ่งกินข้าวไป สุกี้รอบดึกตอนสี่ทุ่มเลยกินพอเป็นพิธีเท่านั้น ต่างจากไอ้เล้งที่ดูจะเต็มที่กับอาหารมื้อนี้มาก ผมก็คอยเติมของใส่หม้อ บางทีก็ลวกส่งให้มันกินไปเรื่อยครับ

ผมชอบเวลาแบบนี้นะ บรรยากาศเอื่อยเฉื่อยที่ได้นั่งมองรอยยิ้มของมันไปเรื่อย โดยไม่ต้องคิดอะไร นอกจากปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น

อยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป...

เราสองคนใช้เวลามื้อดึกราวชั่วโมง ก่อนจะเก็บล้างอุปกรณ์จนเสร็จ เวลาก็เดินมาถึงเที่ยงตืน

ผมมองไอ้เล้งที่ตอนนี้นอนกลิ้งอยู่บนเตียง แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวโยนใส่หัวของมันเล่น ไอ้เล้งไม่ได้โวยวายอะไร นอกจากดึงผ้าเช็ดตัวมาถือไว้แล้วลุกขึ้นนั่ง

"ไปอาบน้ำ"

"อืม"

ไอ้เล้งขย้บลุกจากเตียง แต่ไม่ได้เดินเข้าห้องน้ำอย่างที่ผมเข้าใจ แต่กลับเดินมาหาผมแทน

"อาบน้ำด้วยกัน"

ผมเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ ทว่าผมยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ก็โดนอีกฝ่ายดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำด้วยกันแล้วครับ

ผมถอนหายใจออกมา ห้องน้ำที่หอพักไม่ได้กว้างเหมือนที่คอนโด จะขยับไปทางไหนก็ลำบากเพราะความคับแคบ แถมตอนนี้ยังมีผู้ชายสองคนยืนแบียดก็ยิ่งเคลื่อนไหวลำบาก

อาจเป็นเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสองคนเปลือยกายต่อกัน ผมเลยไม่ได้รู้สึกอายหรือตื่นตกใจที่ได้เห็นร่างกายไร้สิ่งปกปิดของคนตรงหน้า ทว่าสัมผัสที่ลูบไล้เพื่อชะล้างความสกปรกให้แก่กันก็ทำให้จังหวะหัวใจของผมสั่นไหวไม่น้อย

ฝ่ามือของไอ้เล้งที่ลากผ่านจากหัวไหล่มายังหน้าอกผ่านมาถึงหน้าท้อง รวมถึงสายตาสีดำของมันที่มองมา ทำให้ร่างกายของผมร้อนชึ้นทั้งที่ยังมีสายน้ำชโลมอยู่ ลมหายใจร้อนของเราสองคนเคลื่อนผ่านความชื้นชวนให้ความรู้สึกปั่นป่วน

"...ยั่ว?"

ผมสบตากับคนที่กำลังล้างตัวให้ ไอ้เล้งยกยิ้มโดยไม่ได้ตอบรับอะไร ก่อนจะหันไปหยิบผ้าเช็ดตัว หลังจากร่างกายของเราสองคนสะอาดเรียบร้อย ผมมองการกระทำของอีกฝ่ายไม่วางตา

"เล้ง..."

ผมเคลื่อนใบหน้าเข้าหาแล้วกดริมฝีปากลงบนผิวแก้มชื้นอย่างอดใจไม่ไหว ปลายจมูกคลอเคลียสูดดมกลิ่นกายกระตุ้นอารมณ์ราวกับคนกำลังเมา ทว่าเมื่อผมกำลังจะสัมผัสกลีบปากล่อสายตาตรงหน้าก็โดนผลักออก

"หึ! พี่อิงหื่นว่ะ"

ไอ้เล้งว่าเสียงเข้ม ทั้งที่สายตากำลังทอแววยิ้ม ผมลอบถอนหายใจออกมา ทั้งที่ตอนนี้อยากจะกัดริมฝีปากสีอ่อนนั้นแรงๆ สักหลายๆ ที

"ไอ้เล้ง"

ผมส่งสายตาดุใส่เล็กน้อย แล้วเดินออกจากห้องน้ำที่คับแคบ โดยที่มีคนช่างยั่วเดินเกาะไหล่ออกมาด้วย แล้วผมก็ต้องเอี้ยวใบหน้าไปมองเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงของคนที่อยู่ข้างหลัง

"พี่อิง คืนนี้กอดกันนะ"


.........


ผมไม่ได้ช่ำชองเกี่ยวกับกิจกรรมบนเตียงนัก แล้วก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองลีลาดีจนทำให้ใครติดใจ อีกทั้งยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายกับใครนอกจากผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้

ไอ้เล้ง...

"อื้อ...อิง"

เสียงครางที่ดังขึ้น ยามที่ผมประทับสัมผัสไปทั่วร่างกาย นัยน์ตาฉ่ำอารมณ์ที่ส่งผ่านมาให้ และอ้อมแขนที่กอดรัด ก็พอจะทำให้ผมมั่นใจว่า ทำให้คนใต้ร่างมีความสุขได้

ผมก้มลงจูบที่ริมฝีปากยั่วใจที่หลอกล่อให้หลงใหล ปลายลิ้นที่ตวัดรับกวาดไปทั่วโพรงปากของกันและกัน ทำให้ผมเมาจนไร้สติ ยิ่งย้ำสัมผัสมากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับทกอย่างรอบตัวของผมไร้ตัวตน

มีเพียงคนตรงหน้าเท่านั้นที่ผมต้องการ...

"อ...อิง เสียวว่ะ"

 เสียงของไอ้เล้งเหบพร่า เมื่อผมกำลังสอดปลายนิ้วไปในช่องทางด้านหลัง คิ้วเรียวขมวดแน่นและใบหน้าเแดงซ่านบิดเบี้ยวขึ้น เมื่อผมเร่งจังหวะสัมผัสระหว่างที่เตรียมทางให้เราสองคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

"อืม"

ผมขยับนิ้วเร็วขึ้นและเพิ่มจำนวนอย่างควบคุมอารมณ์ โดยที่มืออีกข้างก็ปลุกปั่นส่วนกลางลำตัวของมันเพื่อลดอาการเครียดเกร็งของร่างกายไปด้วย

ไม่ใช่แค่มันที่อึดอัด ผมก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน

ผมมองใบหน้าแดงก่ำที่เปื้อนเหงื่อไม่วางตา ก่อนจะก้มลงจูบไอ้เล้งอีกครั้งพร้อมกับส่งผ่านเนื้อร้อนที่อยากจะระเบิดเต็มแก่เข้าไปในร่างกายของคนตรงหน้า

เสียงร้องดังอู้อี้พร้อมกับอ้อมแขนที่รัดผมแน่น และเมื่อความทรมานในช่วงแรกพ้นผ่าน ความหฤหรรษ์ทีรอคอยก็มาเยือน

"อ๊ะ! อ่า...เร็วอีก"

"อื้ม"

เสียงของร่างกายที่มอบความรู้สึกให้กันดังไม่หยุด และดำเนินต่อไปราวกับหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ ไฟราตะยังคงลุกโชนเผาผลาญหัวใจและร่างกายให้มอดไหม้และหลอมละลาย

"อ...อิง อิง"

เราสองคนกอดกันไม่ห่างพร้อมกับเคลื่อนไหวร่างกายเข้าหากันเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและปลดปล่อยอารมณ์ด้วยรอยยิ้ม

"กู...รักมึง"

"อืม...รักมาก"

ผมจูบลงที่แก้มพราวเหงื่อ ก่อนจะสบนัยน์ตาสีดำที่สะท้อนอารมณ์อย่างรักใคร่และมอบสัมผัสที่เร่าร้อนจนอีกฝ่ายปลดเปลี้ยงทุกความรู้สึกด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจนใกล้ฟ้าสาง


.........


วันนี้ผมสอบวันสุดท้ายในตอนบ่ายครับ หลังจากเวลาสามชั่วโมงที่กดดันผ่านไป ผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"เฮ้ย! คืนนี้ไปเลี้ยงฉลองกัน"

ผมหันไปมองกลุ่มเพื่อนที่ยืนรวมตัวกัน ก่อนไอ้กลมจะหันมามองผมเป็นเชิงถามความคิเดห็น

"อืม"

หลังจากที่นัดแนะเวลาและสถานที่เรียบร้อย ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อคนนิสัยไม่ดีของผม

เสียงสัญญาณดังอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะตัดไป ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย และเมื่อติกต่อไปอีกครั้งและอีกครั้ง ผลลัพธ์ก็เป็นเหมือนเดิม

เกิดอะไรขึ้น...

ผมได้แต่มองสิ่งที่อยู่ในมือของตัวเองอย่างสงสัย ไอ้เล้งเป็นคนติดโทรศัพท์มือถือมาก แทบจะไม่ห่างจากตัวเลย บางครั้งยังเอาไปเล่นตอนจะอาบน้ำด้วยซ้ำ และการที่มันไม่รับสายเลยไม่ใช่เรื่องปกติ

"พวกมันเรียกไปคุยกันตรงนู้นว่ะ"

ผมปรายตามองไอ้กลมเล็กน้อย แล้วพยักหน้ารับพร้อมกับเลื่อนปลายนิ้วไปยังแอพพลิเคชั่นส่งข้อความทันที

-คืนนี้เจอกัน-


.........


ในงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม ทว่าจิตใจของผมไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะยังติดต่อกับคนที่อยากคุยมากที่สุดในตอนนี้ไม่ได้ จนกระที่ทั่งโสตประสาทในร่างกายจะหนุดทำงานกะทันหัน เมื่อมีข้อความหนึ่งส่งมาถึง ผมรีบออกจากงานแล้วเดินทางมายังคอนโดที่คุ้นเคยอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผมใช้คีย์การ์ดที่มีอยู่เปิดประตูตรงหน้าออกและเมื่อเข้ามาข้างใน ก็เจอแต่ความเงียบที่ต้อนรับ

ผมเดินวนจนทั่วด้วยความรู้สึกกระวนกระวายเหมือนคนบ้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อคนที่ตามหา แต่สิ่งที่ผมหวังก็ไม่เกิดขึ้น

"โธ่เว้ย!!!"

ผมสบถกับตัวเองอย่างโมโหและใจเสียในคราเดียวกัน ก่อนจะจำใจกลับไปอ่านข้อความที่ได้รับซ้ำไปซ้ำมาราวกับการกระทำนั้นจะทำให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้น

แต่...ก็มีดแปดด้าน

-พี่อิง เราแยกกันสักพักนะ เอาไว้อีก 3 ปีค่อยเจอกัน ขอโทษ รักมึงนะครับ-

เล้ง....

ห่างกันสักพัก?! สามปี?!

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!

.

.

.


Next step loading...


ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เล้ง ทำตามที่บอกแม่อุ่นไว้
ที่เจออิง เพื่อสั่งลาสินะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
สงสารทั้งคู่เลยยย ฮืออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
สู้ๆนะสามปีแป๊บเดียว

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
3ปี ไม่ได้ 3เดือน
เล้งงงงง...

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อือ จะร้องไห้

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เงิบสิพี่อิงอุตส่าห์ตั้งใจให้พ้นการสอบ  3 ปีเลยนะ

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
3ปีเอ๊งง เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะ  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :sad4: :hao5:
แบบว่า มาอธิบายให้พี่อิงฟังก่อนได้ไหมเล้ง

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ค้างสุดติ่งกระดิ่งแมวอ่ะ อ๊ากกกกก  :a5: :a5:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ห่างกันแค่ไม่กี่วันพี่อิงก็แย่ล่ะนี่ตั้ง 3 ปีเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อย่างน้อยก็บอกพี่อิงก่อนสิเล้ง  :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
3 แี แป๊บเดียวเอง,,,

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
อาทิตย์นี้คงไม่ได้ลงนะคะ แต่เจอกันอาทิตย์หน้าแน่นอนจ้า
เป็นกำลังใจให้อิงอิงผู้น่าสงสารด้วยน้าาาาา

ปล. ตอนหน้าเจออิงอิงจ้า

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
30th Step : ห่างกันสักพัก
[Ing]




ผมนั่งรอไอ้เล้งที่ห้องทั้งคืนแต่มันก็ไม่มา

ผมติดต่อไปทุกช่องทางที่สามารถทำได้แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สมองของผมว่างเปล่าไปหมด พอจะตามหาผ่านเพื่อนของมัน ก็ดันไม่มีใครรับสายของผมสักคน

ไอ้พวกเหี้ย!

ผมได้แต่สบถอย่างหงุดหงิด ไอ้เล้งต้องไปอยู่กับเพื่อนของมันสักคนแน่ แต่ผมไม่เข้าใจงว่า ทำไมมันต้องทำแบบนี้

ผมไม่รู้จะหันไปทางไหนต่อ ก่อนความคิดหนึ่งจะเข้ามา ผมรีบติดต่อไปหาน้องสาวของตัวเองทันที

"อ้อน!"

[อิงอิง โทรมาอะไรแต่เช้าเนี่ย]

เสียงบ่นงึมงำเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ทำให้ผมขมวดคิ้วออกมา แต่ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจเวลานักหรอกเพราะมีเรื่องที่ให้ความสำคัญมากว่า

"เจอเล้งบ้างหรือเปล่า"

[ฮะ? พี่เล้งเหรอ? ไม่นะ มีอะไรอ่ะ]

"ก็มันหายไปน่ะสิ"

ผมบอกด้วยน้ำเสียงร้อนใจ อ้อนก็คงรู้สึกได้ถึงได้ปรับน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติและจริงจังขึ้น

[หายไป? โดนลักพาตัวเหรอ?!]

"เปล่า มันเพิ่งส่งข้อความาบอกว่าให้ห่างกันสามปี พี่งงไปหมดแล้วเนี่ย"

[พี่เล้งบอกเลิก?]

"อ้อน!!!!"

ผมตวาดใส่ปลายสายด้วยความไม่พอใจ ทั้งที่พยายามจะไม่คิดแบบนั้นแต่การกระทำของมันก็ไม่ต่างจากการบอกเลิกหรือเปล่า

มันจะเลิกกับผมเหรอ?!

แต่ว่า...มันก็บอกว่าแต่สามปีไมาใช่หรือไง?

ผมนั่งขบคิดมาหลายชั่วโมงด้วยความสับสนจนปวดหัวไปหมด

[อิงอิงใจเย็นๆ นะ พี่เล้งส่งข้อความว่าไงบ้าง]

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างระงับอารมณ์ ก่อนจะอ่านข้อความของไอ้เล้งที่ทำให้หัวใจของผมเจ็บร้าวอย่างไม่เต็มใจนัก

"มันขอแยกกันสักพัก เอาไว้อีกสามปีค่อยเจอกัน"

[อ่าฮะ มันต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เลย ไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม]

"เปล่า"

[เกิดอะไรขึ้นกันนะ ว่าแตา....ก็ไม่เห็นพี่เล้งมาช่วยงานที่ร้านตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนแล้วนะ]

"มันจะสอบเลยอ่านหนังสือ"

ผมบอกไปทั้งที่ไม่เชื่อสิ่งที่มันบอกเลยสักนิด คนอย่างไอ้เล้งอยากอ่านหนังสือ?! ก็เหมือนหิมะจกกลางฤดูร้อนนั่นแหละครับ

[แล้วเพื่อนพี่เล้งอ่ะ]

"ติดต่อไม่ได้ แม่งต้องรวมหัวกันแน่"

พอคิดมาถึงตรงนี้ผมก็หงุดหงิดหนักกว่าเดิม

[แสดงว่าคงอยู่กับเพื่อน อิงอิงก็ลองไปดักดูสิ]

"พี่ไม่รู้จักที่อยู่ไอ้พวกนั้น"

ผมคงเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ไม่รู้เรื่องเพื่อนของมันเลย นอกจากหน้าตากับชื่อ ก็ไม่คิดหรอกว่าจะต้องข้องเกี่ยวอะไรกันนัก หลังจากนี้ผมจะตามสืบประวัติทุกคนอย่างละเอียดเลยล่ะครับ

[แล้วที่พี่เล้งน่าจะไปบ่อยๆ อิงอิงลองไปดูหรือยัง]

ผมนึกทบทวนคำพูดของอ้อน ก่อนจะมีความคิดบางอย่างขึ้นมา

"อืม ขอบใจนะอ้อน แค่นี้ก่อน"

[อ่า...มีอะไรก็โทรมาแล้วกันนะ]

"อืม"

ผมตัดสายของอ้อน แล้วพยายามปรับอารมรณ์ให้เป็นปกติ ตอนนี้ผมพอจะรู้แล้วว่าจะทำยังไงต่อไปดี


.........


ถึงผมจะไม่รู้ว่าเพื่อนของมันอยุ่ที่ไหนบ้าง แต่ก็มีสถานที่หนึ่งที่ผมมั่นใจว่าจะต้องได้เจอเพื่อนของมันสักคนแน่

ผับ K

สถานบันเทิงที่เมื่อก่อนผมเคยมาดักเจอไอ้เล้ง แล้วผมก็มารู้อีกทีว่า ไอ้แชมป์เพื่อนของมันเมีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่

ผมมองผู้คนที่รายล้อมอย่างไม่ชอบใจนัก แล้วยิ่งเวลาที่อารมณ์ไม่ปกติก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวที่ต้องมาอยู่ในที่แบบนี้

เสียงเพลงดังลั่นผสานกับการสังสรรค์ ผมเดินผ่านไปยังเคาท์เตอร์บาร์ เมื่อเห็นบาร์เทนเดอร์หันมาสนใจ ผมก็ถามสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ทันที

"แชมป์ที่เป็นหุ้นส่วนที่นี่มาหรือยัง"

พนักงานไม่ได้ตอบในทันที เขาทำหน้าสงสัยพลางมองผมครู่หนึ่ง แล้วส่งยิ้มบริการมาให้

"คุณแชมป์ยังไม่มาครับ"

"แล้วจะมาเมื่อไหร่"

"ผมก็ไม่ทราบหรอกครับ"

ผมพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่ทางเลือกเดียวก็คือการรอเท่านั้น

"เอ่อ...จะรับเครื่องดื่มอะไรรอไหมครับ"

"เอาน้ำเปล่าแล้วกัน"

ผมจำใจนั่งรอที่บาร์อย่างช่วยไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมต้องมาดักรอเจอใครแบบนี้ ตอนที่รอเล่นงานไอ้เล้ง ผมก็เผชิญเหตุการณ์แบบนี้อยู่เหมือนกันครับ

หลังจากได้น้ำเปล่าอย่างที่ต้องการ ผมก็ไม่ได้สนใจคนรอบตัวที่มาวุ่นวายนัก นอกจากส่องสายตาฝ่าผู้คนในความืดสลัวของผับเพื่อหาตัวไอ้แชมป์

ผมรอไปเกือบจะสองชั่วโมงก็ยังไม่เห็นคนที่อยากเจอ แล้วในชณะที่เกือบจะตัดใจกับความพยายามในวันนี้ ผมก็เห็นคนที่รอคอยผ่านสายตาพอดี ก็พอจะจำได้ว่า พวกไอ้เล้งมันชอบนั่งแถวไหน แล้วคนที่มีหุ้นส่วนก็คงจะหาที่นั่งทำเลดีได้ไม่ยาก

ผมรีบลุกจากที่ของตัวเองแล้วเดินตรงไปหาเป้าหมายที่เพิ่งจะจับจองโซฟาชุดในมุมดีที่สุดของผับอยู่

"ไอ้เล้งอยู่ไหน"

คำถามของผม ทำให้อีกฝ่ายหันมามองในทันที ไอ้แชมป์ทำสีหน้าแปลกใจอย่างชัดเจน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากที่ผมรู้สึกหมั่นไส้

"ไงผัวไอ้เล้ง"

ก็ดูปากมันสิ...

"อย่ากวนตื่น มันอยู่ไหน"

ผมถามเสียงเข้ม มันก็ตีหน้าไม่ทุกข์ร้อนและไม่สนใจอารมณ์ของผม ถึงจะไม่ได้สนิทสนมอะไร แต่ผมก็เดานิสัยของมันได้ครับ

"จะเอาเท่าไหร่"

"หืม?"

ผมทำหน้าหงุดหงิดออกมา ก่อนจะพ่นลมหายใจอย่างระบายอารมณ์ที่คุกรุ่นขึ้น

"ข่าวของไอ้เล้ง มึงจะเอาเท่าไหร่"

ไอ้เล้งเคยบอกผมว่า เพื่อนของมันคนนี้เป็นพวกหน้าเลือดและเห็นแก่เงินครับ ทุกอย่างที่มันจะทำย่อมมีเงินเป็นตัวขับเคลื่อน แล้วตอนนี้ผมก็ร้อนใจจนไม่อยากจะเล่นแง่หรือคิดแผนการอะไรให้หนักสมองมากไปกว่านี้

ไอ้แชมป์หัวเราะเบาๆ ก่อนที่มันจะโบกมือไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ผมได้แต่ขมวดคิ้วมอง

"เฮ้ยๆ กูไม่ขายข่าวเพื่อน"

ผมมองท่าทีของมันอย่างไม่ชอบใจนัก แต่ก็พยายามข่มอารม๊ณ์เพื่อรับมือเต็มที่

"หึ! แล้วมึงจะเอายังไงวะ"

"ไปถามแม่มึงสิ"

"ไอ้เหี้ย!"

ผมสบถออกมาพร้อมกับกระชากคอเสื้อของมันอย่างไม่พอใจ คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ แต่คนตรงหน้าก็ยังกวนประสาทแถมยังย้อนด้วยประโยคที่ควรเรียกเลือดออกจากปากอีกด้วย

"เรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวกับแม่มึง"

“หมายความว่ายังไง”

“ไม่รู้สิ กูบอกได้แค่นี้”

ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ ไอ้แชมป์ไม่ได้มีท่าทางตระหนกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มันยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

แม่อย่างงั้นเหรอ...

ผมเริ่มขบคิดและเรียบเรียงเหตุการณ์ ถึงจะรู้สึกขัดใจแต่ก็คงป่วยการจะเค้นคออีกฝ่ายต่อ

"แล้วตกลงมันอยู่ไหน"

"มันสบายดี มึงไม่ต้องห่วง"

ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่คำตอบที่ได้รับก็พอให้หัวใจที่ร้อนรุ่มลดอุณหถูมิลงได้บ้าง ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่คิดสนใจคู่สนทนาก่อนหน้านี้อีก

ถึงจะไม่เข้าใจอะไรนักแต่ก็คงต้องลองกลับไปถามแม่อย่างที่มันบอกดูก่อน ถ้าไม่ได้เรื่องค่อยมาเค้นคอกับมันอีกทีก็ได้


.........

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


ตอนนี้เวลาเกือบห้าทุ่มแล้วครับ ผมเดินมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของตัวเองที่มีป้าย 'อิ่มอุ่น' ติดอยู่

ป่านนี้่แม่คงเข้านอนแล้ว ผมโทรศัพท์ไปหาน้องสาวที่คงจะยังไม่นอน เพราะไม่ได้เอากถุญแจบ้านติดมือมาด้วย หลังจากยืนรอได้เพียงไม่นาน อ้อนก็เปิดประตูออก

"อิงอิง"

ผมแค่พยักหน้ารับเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่รีบร้อน

"แม่นอนหรือยัง"

"นอนแล้ว"

"อืม"

ผมถอนหายใจอีกรอบ ถ้าการถอนหายใจสามารถบั่นทอนอายุได้จริง ผมก็คงจะตายภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ

"แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น เจอพี่เล้งหรือยัง"

"ยังไม่เจอ แต่มันคงอยู่กับเพื่อน"

"อืม ไปพักก่อนเถอะ สภาพดูแย่มากเลย"

อ้อนส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินดึงมือของผมไปส่งที่ห้องนอน เมื่อเข้ามาในห้อง ผมก็นั่งลงบนเตียงราวกับคนหมดแรง

"หิวหรือเปล่า เดี๋ยวอ้อนทำอะไรให้กินไหม"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวได้นอนก็ดีขึ้นเอง"

"อืม อ้อนไม่กวนและ"

ผมพยักหน้าให้น้องสาวที่กำลังเดินออกไป และเมื่อประตูห้องนอนปิดลง ผมก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า ทว่ายังไม่ทันได้ทิ้งอารมณ์ที่คั่งค้างในใจ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของผมก่อน

"อ้อลืมบอกไปอย่าง"

ผมเลิกคิ้วมองน้องสาวที่ส่งยิ้มร่ามาให้อย่างแปลกใจ ก่อนจะอมยิ้มออกมา เมื่อเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นอย่างสดใส

"คิดถึงอิงอิงนะ"

"ไปนอนได้แล้วไป"

อ้อนยังคงมีใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ก่อนจะปิดประตูห้องนอนของผมอีกครั้ง แล้วความเงียบรอบตัวก็รายล้อม ผมหันไปมองหน้าต่างที่ฉายวิวกลางดึกอย่างไม่สบายใจนัก

พรุ่งนี้...คงจะดีกว่าวันนี้


.........


ผมตื่นแต่เช้ามืด อันที่จริงก็นอนไม่ค่อยหลับหรอกครับ สมองที่ควรพักผ่อนกลับครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด พอผมรู้ตัวอีกที แสงแดดของวันใหม่ก็สาดเข้ามา

ผมเดินลงไปยังชั้นสองของบ้าน แล้วก็เห็นแม่กำลังเตรียมของใส่บาตร แม่มักจะใส่บาตรทุกวันพระครับ ท่านมองผมอย่างแปลกใจ

"กลับมาเมื่อไหร่"

"เมื่อคืนครับ"

ผมเดินมาช่วยแม่จัดของ ก่อนที่เราสองคนจะเดินไปที่หน้าร้าน ผมมองไปที่ถนนใหญ่ที่มีรถยนต์วิ่งผ่านไปมา ก่อนจะหันไปมองแม่ที่ยืนอยู่ข้างกัน

ความสงสัยและคับข้องใจก่อตัวขึ้นจนแน่นอก แต่ผมก็ยังไม่กล้าพูดอะไรออกไป มีแต่ความเงียบที่เชื่อมต่อระหว่างเราสองคน

"นิมนต์เจ้าค่ะ"

ผมกลับไปสนใจพระภิกษุที่มาบิณฑบาตร ก่อนจะช่วยแม่ใส่บาตร หลังจากรับศีลรับพรแล้ว เราสองคนก็เดินกลับเข้าไปในร้าน

"กลับมาบ้าน ไม่มีเรียนเหรอ"

"สอบเสร็จแล้วครับ"

แม่หันมามอง ก่อนจะส่งยิ้มมาให้เล็กน้อยพร้อมกับที่เราสองคนเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านด้วยกัน

"ก็เรียนจบแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

"ดีเลย อีกสองวันพี่อุ้มก็หยุดยาว ไม่ได้เจอหน้าพร้อมกันนานแล้ว"

ผมมองท่าทางอารมณ์ดีของแม่แล้วลอบถอนหายใจออกมา ตอนนี้ผมกำลังชั่งใจว่าควรจะพูดสิ่งที่ค้างคาในใจออกไปดีไหม

"อิงอิงมีอะไรหรือเปล่า"

"แม่"

ผมสบสายตาอ่อนโยนของคนตรงหน้าอย่างหนักใจ ทุกครั้งที่ผมรู้สึกมีปัญหาในใจไม่เคยมีสักครั้งที่แม่จะมองไม่ออก เพียงแต่ท่านจะเอ่ยปากถามหรือเปล่าเท่านั้น

"ไอ้เล้งหายไป"

แม่ไม่ได้มีท่าทีอะไรกับสิ่งที่ผมบอก ท่านหันไปเปิดโทรทัศน์ดูข่าวรอบเช้าอย่างเป็นปกติ

"งั้นเหรอ"

ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ถึงจะไม่อยากทำลายยรรยากาศที่ดูจะดีกว่าทุกครั้งที่เจอกันในระยะนี้ แต่ในเมื่อเริ่มต้นแล้วก็ต้องเดินต่อ

"แม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหมครับ"

"อืม"

ผมรู้สึกแปลกใจเพราะคาดไม่ถึงว่าแม่จะยอมรับออกมาง่ายๆ ผมขมวดคิ้วออกมา ถ้าหากเป็นคนอื่น ผมคงจะตวาดใส่ด้วยความไม่พอใจแล้ว

"นี่มันเรื่องอะไรกันครับ"

แม่ยังคงมีสีหน้าปกติ ก่อนจะกล่าวบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่เล่นงานหัวใจของผมเข้าอย่างจัง

"เล้งบอกแม่ว่าจะขอพิสูจน์ตัวเอง ไมยุ่งกับอิงสามปี"

ไอ้หมาเล้ง!

ผมได้แต่ต่อว่าอีกฝ่ายในใจ ทั้งที่บอกว่าจะแก้ปัญหาไปด้วยกัน แต่มันกลับทำบ้าอะไรไม่ปรึกษาผมสักคำ

"ถ้าทนไม่ไหวก็เลิกกันไปสิ"

"แม่"

ผมโอดครวญออกมาอย่างจนปัญญาแต่แม่ก็มองมาด้วยสายตาเรียบเฉยเท่านั้น ผมจะตั้งหลักได้มากกว่านี้ ถ้าเข้าใจและเตรียมใจมาก่อน และแน่นอนว่าผมคงไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่

"อิงจะไปคุยเรื่องนี้กับมันใหม่"

"ถ้าอิงไม่ยอมรับเรื่องนี้ ก็อย่าหวังว่าแม่จะยอมรับเรื่องของอิงเลย"

ผมพุดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงมองแม่ที่ส่งสายตาจริงจังกลับมา และก็เป็นผมที่ยอมแพ้ก่อน แล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างไร้ทางสู้

"ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปได้ แม่จะยอมรับเรื่องของอิงกับเล้งใช่ไหม"

"ก็...คงงั้นมั้ง"

ผมหลับตาอย่างรวบรวมสติ ก่อนจะมองแม่ที่นั่งอยู่ข้างกัน แล้วเข้าไปกอดอีกผ่ายอาไว้เต็มอ้อมแขน ท่านมีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักไสอะไร

"ขอบคุณครับแม่ที่ให้โอกาส"

"หึ! แต่ระหว่างนี้อิงก็ห้ามปิดกั้นตัวเองนะ"

ผมมองแม่อย่างไม่เข้าใจ ท่านก็ผ่อนลมหายใจออกมา แล้วมองผมด้วยสายตากดดัน

"ยังไงแม่ก็อยากได้ลูกสะใภ้ผู้หญิงนะ"

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร แต่ชวนคุยเรื่องอื่นแทน ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอนของตัวเอง แล้วก็ต้องชะงักผีเท้าเล็กน้อย เมื่อเห็นน้องสาวนั่งเเงียบอยู่ตรงบันได

"มานั่งอะไรตรงนี้"

"ก็มาแอบฟังไง จะให้เสนอหน้าออกไปได้ไง"

"ย้ยอ้อน!"

ผมส่งสายตาดุใส่ แต่น้องสาวตัวดีก็ไม่เคยจะสนใจ แล้วเดินลงบันไดสวนทางกับผมไปอย่างร่าเริง

"อิงอิงก็พยายามเข้าล่ะ อ้อนอยากได้พี่สะไภ้หล่อแล้วก็รวยนะ ว่างๆ จะได้เอาไปเดินควงเล่นได้ด้วย"

ผมหันไปจะคว้าตัวอีกฝ่ายมาลงโทษ แต่ยายตัวแสบก็รีบวิ่งหนีไปเสียก่อน ผมได้แต่มองตามด้วยสายตาเอือมระอาแต่ก็อบอุ่นใจในคราวเดียวกัน ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนของตัวเองต่อ

ถึงแม้ทุกอย่างจะไม่คลี่คลายอย่างที่ต้องการแต่ก็นับว่าดีขึ้นจากเดิมมาก ตอนนี้ก็แค่ไปหาไอ้หมาเล้งเท่านั้น

ผมเดินเข้าห้อง ก่อนจะพุ่งตัวไปบนเตียงนอน สองวันที่ผ่านมาผมเครียดมากเกินไป พอความกังวลคลายลงก็เริ่มง่วงขึ้นมาเลยล่ะครับ


.........


ผมเดินทางมามหาวิทยาลัย S ในเวลาเช้า อาจจะเป็นเพราะความตกใจและเรื่องอะไรหลายอย่าง ผมถึงเพิ่งนึกได้ว่าสามารถมาดักเจอมันที่ห้องสอบได้ เพราะผมรู้ตารางสอบของมันครับ

ผมมองไปยังตึกเรียนคณะบริหารที่มีนักศึกษาขวักไขว่ ก่อนจะก้มลงมองเลขที่ห้องสอบของไอ้เล้งอีกครั้ง

ผมนั่งรออยู่ราวครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มมีนักศึกาษาบางส่วนมายืนรออยู่ที่หน้าห้องสอบ จนกระทั่งเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบห้านาทีก่อนะเช้าห้องสอบ ผมก็เจอคนที่ทำให้ผมร้อนใจมาหลายวัน

ผมไม่ได้ทักมัน ทำเพียงแค่จ้องมองเท่านั้น ก่อนจะข่มใจของตัวเองเอาไว้อย่างเต็มที่เมื่อสายตาที่คุ้นเคยส่งเข้ามาประสานกัน

ไอ้เล้งไม่ได้ส่งยิ้มให้อย่างทุกที ใบหน้าที่ผมเคยสัมผัสและประทับจูบอยู่บ่อยครั้งไม่แสดงอารมณ์อะไร มันมองผม ก่อนจะหันไปสนใจเพื่อนสนิทของตัวเองที่เดินมาด้วยกัน

เราสองคนกำลังทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน

ผมได้แต่มองอีกฝ่ายไม่ละสายตา จนกระทั่งมันเดินเข้าห้องสอบไป ถึงอยากจะเข้าไปกระชากตัวมันแล้วเขย่าแรงๆ อย่างระบายอารมณ์ที่ทำเรื่องไม่เข้าท่าขึ้น แต่ผมก็เคารพในการตัดสินใจของมัน ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องต่อสู้ไปด้วยกัน

ผมถอนหายใจแล้วเดินออกมาจากตึกของคณะบริหารที่ตอนนี้กำลังมีการสอบอย่างไม่รีบร้อนนัก

ในโลกที่เทคโนโลยีทันสมัยขนาดนี้ ถึงจะไม่ได้พูดคุยกัน ก็ยังมีอีกหลายช่องทางที่ทำให้ผมหายคิดถึงมันได้

ห่างกันสามปี...แต่เราไม่ได้เลิกกันสักหน่อย

ผมเชื่อว่าเราสองคนต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้แน่

ก็เพราะว่าเรารักกันไงครับ

.

.

.


Next steop loading...



ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ห่างกันสามปี สู้ๆ นะทั้งคู่  :serius2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ให้ห่างกันสามปี แล้วห้ามพี่อิงปิดกั้นตัวเองกับสาวๆคนอื่น แถมหลังสามปีก็ยังไม่แน่ว่าคุณแม่จะยอมรับเล้งรึเปล่า
ก็เหมือนบังคับให้เลิกกันนั่นแหละ
คุณแม่ใจร้ายจัง
แต่อิงอิงกับเล้งที่ยอมทำตามความต้องการของคุณแม่ ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้วแหละ
สู้ๆนะทั้งสองคน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2017 17:14:18 โดย Himbeere20 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด