29th Step : เงื่อนไขของช่องว่าง
[Ing]
ถึงตอนนี้ความรักของผมกำลังมีปัญหา แต่จะให้เอาแต่กังวลจนไม่สนใจอะไรเลยก็คงไม่ได้
อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผมก็จะเรียนจบแล้วครับ ดังนั้นสิ่งที่ผมควรสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่องเรียน
ผมตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่หอเพื่อจะได้มีสมาธิและทำงานได้สะดวกมากขึ้น ถ้ายังอยู่ใกล้ไอ้เล้งความคิดของผมก็มักจะหวนไปนึกถึงมันและเรื่องปัญหาที่เรากำลังเผชิญจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรกันพอดี
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นได้ไม่กี่วัน พี่อุ้มก็ติดต่อมาให้กำลังใจอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำนัก ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจที่หนักอึ้งของผมรู้สึกดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาด
อาจเป็นเพราะสายใยของพี่น้อง
ถึงแม้แม่จะต่อต้าน แต่พี่อุ้มกับอ้อนยอมรับ ผมก็เบาใจได้พอสมควร ทว่าหลังจากพาไอ้เล้งไปเจอกับแม่ในฐานะคนรักอย่างเปิดเผย กำลังใจที่เคยมีก็พังทลาย
แม่มีท่าทางปฏิเสธการมีตัวตนของไอ้เล้งอย่างชัดเจนจนผมปวดใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายก็ได้แต่พูดขอร้องอย่างหมดทางและมันก็ไม่ได้ผลอะไรอยู่ดี
"อิงคิดว่า...ใครกันแน่ที่รักและหวังดีกับอิงมากกว่ากัน"
"แม่ก็รู้ว่ามันคนละเรื่อง เทียบกันไม่ได้"
"เฮอะ!"
ในวันนั้นจบลงที่แม่ไม่คุยกับผมอีก จนท่านขึ้นรถแท็กซี่ไป ผมก็เดินกลับมาหาไอ้เล้ง แล้วเราสองคนก็กลับมาที่คอนโดด้วยท่าทางที่พยายามให้เป็นปกติ และปลอบใจกันและกัน
ไม่เป็นไร...
ชีวิตไม่ได้เคลื่อนไปด้วยความรักเพียงอย่างเดียว ผมยังมีหน้าที่และบทบาทอื่นที่ต้องดำเนินต่อไป
ผมเก็บความทุกข์ใจที่เติบโตขึ้นในใจเอาไว้ แล้วกลับไปที่หอของตัวเอง หลังจากใช้เวลาราวหนึ่งอาทิตย์ ผมก็กลับมาใช้ชีวิตประจำวันกับไอ้เล้งที่คอนโดเหมือนเดิมพร้อมกับรับรู้เรื่องราวที่มันทำเพื่อความรักของเราระหว่างนี้ไปด้วยครับ
ผมค่อนข้างกังวลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันอยากทำอะไรก็ตามใจ แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ผมก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยแก้ไข
มีคนเคยบอกว่าผมเป็นคนดื้อด้าน หัวแข็ง แต่แม่เป็นมากกว่าผมเสียอีก
ผมไม่คิดว่า การที่ไอ้เล้งไปช่วยงานที่ร้านจะทำให้แม่เปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แต่ก็คงดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
นอกจากเราสองคนจะคุยกันทุกวัน แล้วมันก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอิ่มอุ่นให้ฟัง ผมก็ยังรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทางน้องสาวตัวดีที่โทรศัพท์มารายงานเป็นระยะอีกด้วยครับ
ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรคืบหน้าอย่างที่ผมคิด แต่มันยังยิ้มได้และมีความสุขดี ผมก็พอใจ
นึกไม่ถึงว่าคนขี้เกียจและเป็นคุณชายไม่เอาการเอางานอะไร จะทุ่มเททำงานได้แบบนี้
"กูโอเค พี่อิงไม่ต้องเป็นห่วงนะ"
ไอ้เล้งมักจะบอกผมแบบนั้นเสมอ ถึงผมจะไม่ได้เชื่อคำพูดนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้ก็ทำให้เผมตอบรับอย่าง่ายดาย
ผมรักไอ้เล้งมาก
ถึงจะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นมาตอนไหน ทำไม และเพราะอะไร แต่ผมจะไม่ยอมทิ้งมันไป
บางที...นี่อาจจะเป็นบททดสอบความจริงใจของเราสองคนก็ได้
ทุกปัญหาต้องมีทางแก้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เราสองคนยังหาไม่เจอเท่านั้นเอง
หลังจากไอ้เล้งไปทำงานที่ร้านอิ่มอุ่นในเวลาว่างได้ระยะหนึ่ง บางวันผมก็จะไปด้วยหรือไม่ก็ไปรับกลับ โดยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแม่ยังไม่ดีขึ้น แต่ผมก็ยังหวังว่า...สักวันท่านจะเข้าใจและยอมรับได้
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่สัปดาห์ของการสอบปลายภาตและเป็นการสอบครั้งสุดท้ายของผมในชีวิตนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว ด้วยเหตุนี้ผมเลยย้ายกลับไปอยู่หอของตัวเองอีกครั้ง
ผมมองใบหน้าของไอ้เล้งที่ส่งยิ้มบางมาให้ ตอนที่มันขับรถมาส่งผมที่หอพัก ก่อนจะคว้าลำคอของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้แล้วเราสองคนก็จูบกัน
ขอเวลาอีกนิดเดียว...
หลังการสอบเครั้งนี้สิ้นสุดลง ผมจะต้องหาทางออกกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เพื่อความรักของเรา
.........
ผมผ่านการสอบวันแรกมาได้ห้าวันแล้วครับ วันนี้ก็มาสิงอ่านหนังสืออยู่ที่หอสมุดของมหาวิทยาลัยกับไอ้กลมตั้งแต่เช้า จนพระอาทิตย์ตกดินเราสองคนก็ไปหาอะไรกินเป็นมือเย็นด้วยกันต่อ
"แม่งเยอะฉิบหาย กูจะจำหมดได้ไงวะ"
"อ่านหลายรอบก็จำได้เองนั่นแหละ"
ไอ้กลมถอนหายใจ ก่อนจะทำหน้าเบื่อใส่ผมที่กำลังตักข้าวกินไปเรื่อย ตอนนี้ก็ประมาณสองทุ่มแล้วครับ แต่บริเวณหอพักก็ยังเต็มไปด้วยนักศึกษาที่เดินไปมาเป็นระยะ
"อ่านรอบเดียวกูก็จะตายและ น่าเบื่อโคตร"
"กูก็เบื่อ อีกไม่กี่วันก็เรียนจบแล้ว ทนไปเถอะ"
"เออ ว่าแต่มึงจบแล้วเอาไงต่อวะ มีที่ไหนติดต่อมายัง"
"เดือนหน้ากูมีสัมภาษณ์ แล้วมึง?"
"กูยังว่ะ ไว้รอเรียนจบจะพักสักเดือนสองเดือนแล้วค่อยหางานทำ"
"อืม"
ผมส่งรีซูเม่ไปหลายบริษัทเมื่ออาทิตย์ก่อนครับ แล้วก็มีติดต่อมาหลายที่เหมือนกัน
ผมคุยกับไอ้กลมคลายเครียดไปเรื่อยระหว่างมื้ออาหาร ก่อนเสียงโทรศัพท์มือถือของผมจะดังขึ้น แล้วก็ต้องยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นชื่อของคนติดต่อมา
"ไง"
[มึงไม่ได้อยู่หอเหรอ]
"ทำไม"
[กูมาหาเนี่ย รออยู่หน้าห้อง]
ผมนึกแปลกใจแต่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งของตัวเองทันที โดยไม่ได้สนใจสีหน้างุนงงของไอ้กลมนัก
"เออ เดี๋ยวกูไป"
ผมตัดสายแล้วหันมามองไอ้กลมที่กำลังมองผมอยู่เช่นเดียวกัน
"กูกลับห้องก่อน ไอ้เล้งมา"
"อ้าว! เดี๋ยวกูไปส่ง"
"อืม"
หลังจากออกจากร้านอาหารตามสั่ง ผมก็ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของไอ้กลมมาที่หอพักที่ แล้วรีบขึ้นไปที่ห้องของตัวเองทันที ก่อนจะเห็นไอ้เล้งกำลังนั่งพิงประตูเล่นโทรศัพท์อยู่
ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเดินไปหา นึกแปกลใจที่มันมา ทั้งที่เราสองคนตกลงเรื่องนี้กันเอาไว้แล้ว ถ้าผมสอบเสร็จเมื่อไหร่ค่อยเจอกัน เพราะอยู่กับมันทีไร ผมอ่านหนังสือสอบได้ไม่เต็มที่นัก
"เล้ง"
ไอ้เล้งเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ผมถอนหายใจ แล้วไขกุญแจห้อง หลังจากที่ประตูเปิดออก ผมก็ดึงอีกคนเข้ามาข้างในทันที
ผมลอบถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ตอนนี้รู้สึกสับสนอารมณ์ของตัวเอเล็กน้อยครับ ระหว่างดีใจกับขุ่นเคือง
ดีใจ...ที่มันมาหา เพราะผมก็คิดถึงมันเหมือนกัน แล้วก็ขุ่นเคือง...ที่มันจะมาก่อกวนสมาธิของผมเนี่ยแหละ
ไอ้หมาเล้งเอ๊ย!
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ"
ไอ้เล้งมองผมอย่างสงสัย ผมไม่ได้ตอบอะไร นอกจากโยกหัวของมันไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
"พี่อิง..."
"ก็บอกแล้วไงว่าจะอ่านหนังสือสอบแล้วยังมากวนอีก"
ผมส่งสายตาดุใส่ แต่คนที่ได้รับไม่สะทกสะท้านอย่างเคย ไอ้เล้งที่ทำหน้ามุ่ยใส่ก็เข้ามากอดผมเฉย
"ก็...คิดถึงมึงอ่ะ"
ผมมองคนที่กอดผมอย่างแปลกใจนิดหน่อย อันที่จริงตั้งแต่เริ่มคบกันผมก็พอสังเกตว่าไอ้เล้งมันขี้อ้อนอยู่พอสมควร แถมหลังจากที่มันสารภาพว่ารักผม ก็เพิ่มระดับความออดอ้อนให้ผมใจสั่นไปอีกหลายเท่า
ว่างเมื่อไหร่ก็อ้อน เผลอตอนไหนก็เข้ามากอด เวลาจะนอนก็ชอบยั่วให้จูบอีกต่างหาก แถมยังบอกรักให้ผมเขินอยู่เรื่อย
"อะไรของมึงเนี่ย"
ผมว่าเสียงเบื่อแต่ในใจกำลังรู้สึกดีมากเลยครับ ไออุ่นและกลิ่นกายที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายวัน ทำให้ผมต้องก้มลงไปจูบที่ขมับของมันเบาๆ พลางกอดตอบคนกวนใจไปด้วย
"อืม...อยากเจอมึง"
ผมมองคนที่ยังซุกหน้าเข้ากับไหล่ของผม เสียงงึมงำกับอ้อมแขนที่แน่นขึ้น ทำให้ผมยกยิ้มออกมา
"แล้วนี่แดกไรมาหรือยัง"
ไอ้เล้งคลายอ้อมแขนของตัวเองออกทันที ก่อนมองผมด้วยสีหน้าเหมือนสัตว์เลี้ยงเจอเจ้าของ ซึ่งมันก็น่าหมั่นเขี้ยวและชวนให้เอ็นดูไม่น้อย
"ก็...กินแล้ว แต่ถ้ามึงทำ กูก็จะกินอีกอ่ะ"
"แดกเยอะพุงออกแล้วเนี่ย"
ผมว่าพร้อมกับบีบหน้าท้องราบเนื้อนิ่มของมัน ไอ้เล้งชักสีหน้าออกมาพร้อมกับตีมือของผมไปด้วย
"ความผิดมึง เสือกทำอร่อยเอง"
ผมมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ แล้วเปลี่ยนเป็นสายตาจริงจังขึ้น
"แล้วตกลงที่มาหากูเนี่ย มีอะไรหรือเปล่า"
"ก็คิดถึง อยากเจอไง"
"เออๆ แล้วนี่ยังไปชวยงานที่ร้านอยู่หรือเปล่า"
เพราะอยุ่ในช่วงสอบและไอ้เล้งก็มีอิทธิพลต่อสมาธิของผมเป็นอย่างมาก ทำให้ช่วงนี้ผมไม่ได้คุยกับมันนัก
"ไม่ได้ไปมาหลายวันแล้ว ก็จะสอบแล้วด้วย เลยว่าจะอ่านหนังสือ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจสุดๆ ไอ้เล้งที่เกลียดการอ่านหนังสือเนี่ยนะ? หรือว่าการที่มันไปช่วยงานที่ร้านจะเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของมันไปด้วย?
"มึงไม่สบายหรือเปล่า"
ผมยกมือขึ้นอังหน้าผากของมันด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เล้งส่งสายตาไม่พอใจมาให้พร้อมกับปัดมือของผมออก
"กวนตีนนะ"
ผมหัวเราะเบาๆ แล้วดึงมันมานั่งบนเตียง ก่อนจะหันไปเปิดโทรทัศน์ให้อีกฝ่ายดู
"แล้วจะมาค้างกี่วัน มะรีนนี้กูมีสอบ"
"รู้แล่วน่า ไม่ต้องไล่ กูกลับพรุ่งนี้"
ผมลอบยิ้มออกมา ก่อนจะมองเวลาที่นาฬิกา แล้วกลับมาสนใจคนที่นั่งหน้าหงิดหน้างออยู่
"ไปซุปเปอร์กันไหม กูว่าจะแดกสุกี้รอบดึกหน่อย"
ไอ้เล้งหันสายตาขุ่นเคืองมามองอย่างประหลาดใจ ก่อนนัยน์ตาสีดำจะเป็นประกาย แล้วมันก็ลุกขึ้นทันที
"ไปดิ"
ผมมองคนที่เดินมาจับแขนของผมเอาไว้แล้วลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เราสองคนจะออกจากห้องเพื่อไปหาวัตถุดิบสำหรับมื้อดึกกัน
ผมไม่ได้อยากกินอะไรหรอก ก็แค่เห็นมันงอน เลยอยากง้อมันนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ
.........