Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Between us...รักข้างเดียว ►[End] - หนังสือ พร้อมส่งค่ะ  (อ่าน 277448 ครั้ง)

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

*****************************************************************************************

Between us ... รักข้างเดียว


เพราะมันต้องการสั่งสอนคนเลวอย่างผม เลยทำให้เราสองคนได้รู้จักกัน
อยู่ด้วยกัน มีอะไรกัน
แต่...ไม่ได้รักกัน (มั้ง)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

:-Content-:
► 1st Step : เพื่อนรักหักอกโหด
► 2nd Step :ผู้ชายซึนเดเระ 
► 3rd Step :พลังของหนุ่มแว่น
► 4th Step :งานเลี้ยง สระว่ายน้ำ และสายที่ไม่ได้รับ 
► 5th Step : แพ้ทาง
► 6th Step : คนที่แสนกวนใจ
► 7th Step : ความจริง
► 8th Step : ตัดสินใจ 
► 9th Step : ลูกชายคนกลาง
► 10th Step : ความรู้สึกที่ผลิบาน 
► 11th Step : วันแว่นแตก 
► 12th Step : มนุษย์แฟน 
► 13th Step : ความรักของคนรอ
► 14th Step : หมอกของความหวังหรือควันของความหวาน  ]
► 15th Step : หลังสายฝนคือลมเพชรหึง
► 16th Step : น้ำผึ้งขม
►17th Step : งอนเองก็ต้องง้อเอง
►18th Step : ร้านอิ่มอุ่น
►19th Step : อิทธิพลของความรู้สึก
►20th Step : การเดินทางของเราสองคน
►21st Step : ถึงจะไม่ชัดแต่ก็สัมผัสได้
►22nd Step : ประกาศตัว
►23rd Step : เพื่อนของแฟนก็คือเพื่อนของเรา
►24th Step : เพราะเกี่ยวกับความรัก
►25th Step : เมื่อมีรัก มักต้องมีอุปสรรค
►26th Step : หัวใจที่ต้องฝ่าฟัน
►27th Step : เส้นทางที่มีแต่หนามกุหลาบ
►28th Step : รักที่ต้องการเวลา
►29th Step : เงื่อนไขของช่องว่าง
►30th Step : ห่างกันสักพัก
►31st Step : คำสัญญาที่ให้กับคนสำคัญ
►32nd Step : ชีวิตที่ยังเติมไม่เต็ม
►33rd Step : เปลี่ยนแปลงแต่ไม่เปลี่ยนใจ
►34th Step : พบกันใหม่อีกครั้ง
►35th Step : ท่วงทำนองรักในต่างแดน 
►36th Step : มิตรภาพและการจากลา 
►37th Step : สิ้นสุดสู่จุดเริ่มต้น 
►38th Step : ความรักที่เดินไปด้วยกัน 



:mc4: หนังสือ - พร้อมส่ง

สามารถสั่งจองและติดตามรายละเอียดได้ที่ >Marionetta's shop<





 :z13: Recommend
 :กอด1:แอบมารัก...ก็ไม่บอก
 :กอด1:PLAYBOY LOVER 
 :กอด1:Between us... รักเลื่อนขั้น

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2019 14:53:47 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ Between us ... รักข้างเดียว ♥ ►
«ตอบ #1 เมื่อ12-12-2016 13:11:11 »

1st Step : เพื่อนรักหักอกโหด
[Leng]


 

ผมชอบผู้ชายครับ

ผมเริ่มรู้ตัวตอนอายุสิบหก ทั้งที่มีผู้หญิงที่สวยและน่ารักเข้ามาจีบแล้วก็อ่อยอยู่หลายคน แต่ผมกลับไม่สนใจ สายตาเจ้ากรรมก็พลันจะมองเพื่อนผู้ชายเสียอย่างนั้น

ถึงผมจะแอบลอบมองผู้ชายหุ่นดีหน้าตาดีอย่างสงบไปเรื่อย แต่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่ผมจะมองบ่อยที่สุด มองทุกวันทุกเวลาเท่าที่ตัวเองจะสามารถทำได้ นับเป็นอาหารตาจานหลักที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อจิตใจสูงสุด

ตอนแรกผมก็คิดว่า เพราะมันดูดีจนน่าอิจฉาเลยเผลอมองอยู่บ่อยๆ แต่พอมองไปมองมาก็ชักรำคาญพวกผู้หญิงที่เข้ามาใกล้มัน

"กูว่าจะเลิกกับแอมมี่แล้วว่ะ เบื่อ"

"เออ"

ดี! มึงเลิกไปเลย แล้วมาคบกับกูแทน

ผมก็ได้แต่เพ้อเจ้อกับตัวเองอยู่ในใจเท่านั้นล่ะครับ ตอนนั้นผมเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น ความรู้สึกชื่นชมแปรเปลี่ยนเป็นความชอบ ก่อนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดจะก่อให้เกิดความรู้สึกพิเศษที่อาจจะเรียกว่า...รัก

"มึงนั่งรอแป๊บ กูไปเข้าห้องน้ำก่อน"

"กินเสร็จ ก็ขี้ต่อเลยเหรอ"

"เดี๋ยวมึงโดน"

"ฮ่าๆ"

ผมอมยิ้มเดินออกมาจากโรงอาหาร จริงอยู่ว่าเรื่องชอบผู้ชายด้วยกันน่ากลุ้มใจและเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิต เพราะผมต้องคอยปิดกั้นตัวเอง ไม่ให้แสดงออกไป และสิ่งที่น่ารันทดยิ่งไปกว่านั้น คือความรักต้องห้ามดันมาผลิบานกับเพื่อนสนิทของตัวเอง แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สิ่งย่ำแย่ที่สุดหรอกครับ

"อ้าว ทำไมมายืนอยู่นี่วะ"

ผมมองเพื่อนสนิทที่ยืนทำท่าไม่พอใจอย่างสงสัย มีนถอนหายใจแรงอย่างระบายอารมณ์

"ก็กูเจอไอ้เหี้ยพวกนั้นแล้วหงุดหงิด แม่งเสือกมาขอนั่งด้วย กูเลยรีบลุกออกมา เหี้ย! นึกแล้วขยะแขยงว่ะ ไอ้พวกตุ๊ดเกย์เนี่ย"

"เออ"

ผมเดินไปขึ้นห้องเรียนแล้วพูดคุยกับมีนเป็นปกติ ทั้งที่ในใจหนักอึ้ง สิ่งที่ทำให้ปวดใจไม่ใช่ความรักที่สังคมไม่ยอมรับ หากแต่เป็นตัวตนที่คนสำคัญรังเกียจ


..........


"อ่า....อ๊ะ!..สุดยอดค่ะ...เล้ง...ไม่ไหวแล้ว!"

ผมเหงื่อโซมไปทั่วร่าง ทั้งที่ภายในห้องนอนกำลังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ถึงแม้จะไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษจนนึกรำคาญเสียงหวานบาดหูนั่น แต่ผมก็เร่งจังหวะของตัวเองให้เร็วและรุนแรงขึ้น เพียงไม่นานปลายทางของความใคร่ก็จบลง ผมสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วลุกขึ้นจากเตียงมาใส่เสื้อผ้า

"อื้อ จะรีบไปไหนล่ะคะ อยู่ด้วยกันก่อนสิ"

"อยากกลับห้องตัวเองมากกว่า"

ผมตอบอย่างไม่แยแส ก่อนจะเดินออกจากห้องพักของเธออย่างไม่สนใจ หลังจากนั้นผมก็กดโทรศัพท์มือถือเพื่อแชร์คลิปที่เพิ่งอัดเสร็จเข้ากลุ่มไลน์ของเพื่อนสนิทที่มีสมาชิกอยู่สามคนครับ

-ไอ้เล้ง!!!! มึงสอยดาวนิติมาจนได้นะมึง ไอ้เหี้ย!!!!-

นั่นเป็นข้อความของไอ้เป้ บ่างช่างยุที่ชอบท้าทายผมบ่อยๆ แล้วผมก็ชอบรับคำท้าของมันเป็นประจำด้วยครับ

-เหลืออีกกี่คณะวะ-

ส่วนนี่เป็นข้อความของไอ้แชมป์ มันเห็นคนอื่นเป็นแค่หมากในเกมกระดาน ไม่สนใจใครมากไปกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง

พวกเราทั้งสามคนไม่อาจเรียกว่าเพื่อนรักได้เต็มปาก เพราะสามปีที่พวกเราคบกันมา ส่วนใหญ่จะต่างคนต่างอยู่มากกว่า ถ้าหากไม่มีเรื่องที่ต้องใช้ประโยชน์จากอีกฝ่าย ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์แบบหลวมนี้ก็ทำให้ผมสบายใจดีครับ

-หมดแล้วไอ้เหี้ย อู้ว...ขาวว่ะมึง-

ไอ้เป้ตอบออกมาพร้อมกับสันตานสถุลของมัน ผมถอนหายใจเล็กน้อย พร้อมกับขึ้นไปบนรถเพื่อขับกลับคอนโดฯ ก่อนจะส่งข้อความทิ้งท้าย แล้วเลิกสนใจเสียงข้อความที่ดังขึ้นในโทรศัพท์มือถืออีก

-โอนเงินให้กูก่อนเที่ยงด้วยไอ้สัตว์-


..........

 
ผมทนคบอยู่กับดาวคณะนิติศาสตร์อยู่อีกสองสามวันก็บอกเลิกครับ แน่นอนว่าสาวเจ้าเธอร้องไห้ฟูมฟายแล้วตบหน้าผมฉาดใหญ่ แต่ผมไม่สนใจเพราะเริ่มชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว

อันที่จริงผมก็ไม่ได้พิศวาสอะไรเธอนัก แต่เพราะมันเป็นเกมที่ผมต้องชนะเพื่อเอาเงินแสนมาครอง ภารกิจที่มาจากคำท้าและคำพูดพล่อยๆ ของไอ้เป้ ผมใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งปี ก็สอยดาวทุกคณะให้มานอนครางใต้ร่างได้สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมดจดครบทุกชั้นปีหรอกนะครับ ผมเหมามาคณะละคนเท่านั้น แค่นี้ชื่อเสียงของผมก็กระฉ่อนแล้ว

ความเลวของผมที่ฟันดาวคณะทั่วมหาวิทยาลัยทิ้งอย่างเลือดเย็น ทำให้ผมเป็นที่สนใจของผู้หญิงเป็นเท่าตัว มีทั้งเกลียดชัง หวาดกลัว และท้าทาย จนเกิดเป็นประเด็นที่ว่า จะมีใครสามารถทำให้ผมสยบได้

เล้ง...มังกรไร้รัก

แต่ผมรู้ตัวเองดีมานานแล้วว่า ผมพ่ายแพ้ให้กับใคร เพราะความรู้สึกที่เก็บเอาไว้ในใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ที่ผ่านมาผมจะมีอะไรกับผู้หญิงมาหลายคนก็ตาม

ช่วงเวลาที่พ้นผ่าน ผมอาจจะไม่ได้คิดถึงตลอดเวลาแต่ก็ไม่เคยหายไปจากหัวใจ

ตอนนี้ก็ผ่านมาสามปีแล้ว หลังจากจบชั้นมัธยม ผมกับมีนเรียนอยู่คนละมหาวิทยาลัยกันครับ เลยไม่เจอกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้ามีเวลาว่างก็จะนัดเจอกัน...เหมือนวันนี้

"ไงวะ"

ผมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังนั่งดูหนังอยู่ แล้วส่งยิ้มให้มีน ก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อวันนี้มันไม่ได้มาคนเดียวอย่างทุกที

"เอ่อ....นี่กั้ง แฟนกู"

ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงทุกคนที่ผมบอกเลิกกทันหันในทันทีเลบครับ!!!

ไอ้เหี้ยมึน! มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง! ไอ้สุดที่รักสารเลว!

ผมได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ แต่สีหน้าคงช็อกสนิท ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออก ภายในใจได้แต่ภาวนาว่า สิ่งที่เกิดชึ้นก็แค่ฝันร้าย ภาพหลอน หูฝาดหรือเข้าใจผิด

"หวัดดีครับ พี่เล้ง"

ผมยังไม่สามารถรับความจริงได้ แต่ก็ยังฝืนยิ้มส่งให้แฟนของเพื่อนทั้งที่น้ำตาตกใน ถึงแม้ไม่อยากจะมองหน้า แต่ก็อดพิจารณาอีกฝ่ายไม่ได้ ผู้ชายคนนี้มีดีอะไรถึงคว้าหัวใจของเพื่อนที่ผมเฝ้ารักมาหลายปีได้

กั้งเป็นผู้ชายผิวขาวรูปร่างผอมบางหน้าตาไม่ได้โดดเด่นหรือน่ารักเหมือนผู้หญิง ซึ่งเทียบกับผมแล้ว... หึ! ก็ยังห่างชั้นกันเยอะครับ แต่ถึงอย่างนั้นผู้ชายหน้าตาธรรมดาที่สามารถมองผ่านไปอย่างไม่มีใครสนใจกลับคว้าหัวใจหนุ่มหล่อในดวงใจของผมไปได้

โลกนี้มันเกิดอะไรขึ้น!!!

ผมไม่อยากให้มีนอึดอัดหรือกังวลใจ แต่ผมเองก็ไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้ ถ้าหากแฟนของมันเป็นผู้หญิง ผมคงไม่ปวดใจจนแทบระเบิดแบบนี้

ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ถ้ามึงจะกลับลำ ทำไมไม่บอก กูอุตส่าห์ละเมอว่าจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของมึง แล้วไหนกลายเป็นไอ้หน้าจืดท่าทางซื่อบื้อได้วะ!

มีนส่งสีหน้าไม่ค่อยสบายใจออกมา ก่อนที่กั้งจะรีบอ้างว่ามีนัดกับเพื่อนแล้วรีบออกไปจากร้าน ตอนนี้เลยเหลือแต่ผมกับมีนแค่สองคนเหมือนทุกทีที่นัดเจอกัน แต่บรรยากาศต่างไปจากเดิม

"กูขอโทษว่ะเล้ง มึงคงรังเกียจกู ทั้งที่เมื่อก่อนพวกเราก็ไม่ชอบเรื่องแบบนี้กัน แต่กูก็ดันกลายมาเป็นแบบนี้เสียเอง"

"กูเปล่า กูแค่ตกใจ"

แล้วอันที่จริงก็มีแต่มึงนั่นแหละที่เอาแต่ด่าพวกรักร่วทเพศ ไม่ใช่กูเว้ย!

"แล้วมึง...จะยัง..."

"มีน ไม่ว่าจะยังไง กูกับมึงก็ยังเป็นเพื่อนกัน...เสมอ"

ถึงแม้ว่ากูจะอยากเป็นมากกว่านั้นอยู่ฝ่ายเดียวก็เถอะ...

"กูขอบใจว่ะ มึงเป็นเพื่อนรักของกูจริงๆ"

ผมมองใบหน้าซึ้งใจและคลายกังวลของมีนด้วยความรู้สึกเหมือนคนหมดแรง แต่ก็ยังส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับมิตรภาพของเพื่อนที่ไม่มีวันเปลี่ยนไป


..........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 11:38:56 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ♥ Between us ... รักข้างเดียว ♥ ►
«ตอบ #2 เมื่อ12-12-2016 13:15:43 »

 
 
"ไอ้เหี้ยเล้ง เมาแล้วมึง"

ผมไม่ได้สนใจเสียงของไอ้แชมป์ ที่ถึงจะพูดปรามแต่ก็ยังส่งแก้วเหล้ามาให้ผมอยู่ดี

"แม่งทำตัวเหมือนอกหักเลยว่ะ หรือว่าไปหลงรักใคร แล้วโดนปฏิเสธมาวะ"

"จะมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธกูวะ"

กูแค่โดนผู้ชายหักอกจนแตกละเอียดต่างหาก!

ผมมองไอ้เป้ที่นั่งยักไหล่ แล้วส่องสาวของมันต่อ ผมเจอมาหลายคนแล้วครับ ผู้หญิงที่ปากบอกว่าไม่อยากยุ่ง เล่นตัว จีบยาก แต่พอรุกหนักหน่อย สุดท้ายก็ไม่พ้นมือของผมอยู่ดี ในเมื่อผมมีอุปกรณ์ประจำตัวมาเต็มกำลัง ทั้งหน้าตา ฐานะ ความรักที่สามารถล่อลวงได้จากสิ่งที่เห็นภายนอก ก็สามารถซื้อมาด้วยเงินได้ไม่ยากหรอกครับ

เมื่อนึกถึงความรัก ก็วกมาคิดถึงเพื่อนรักที่เพิ่งพิฆาตใจของผมไปเมื่อกลวงวันนี้ หรือนี่จะเป็นผลจากบาปกรรมที่ผมทำเอาไว้

ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ....เฮ้อ

"เล้งขา ดีใจจังที่ได้เจอ"

ผมเลื่อนสายตาไปมองเล็กน้อย เมื่อได้กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง อีกทั้งหน้าอกนุ่มนิ่มที่เบียดเข้าหาอย่างเชิญชวน แต่ตอนนี้ผมอยากอยู่อย่างสงบกับแก้วเหล้าของตัวเองมากกว่า

"เล้ง..."

"ออกไป อย่ามายุ่ง"

คงเพราะน้ำเสียงห้วนและใบหน้าไม่รับแขกของผม เลยทำให้เธอคนนั้นยอมถอยออกไป แต่ก็ยังแอบอ่อยด้วยการหอมแก้มของผมทิ้งท้าย ก่อนเสียงหมาในปากของไอ้เป้จะทำงาน

"ไอ้ห่า! น่าเสียดายว่ะ ของน่าแดกหย่อนถึงปากเสือกเลือกเหล้าเฉย ไม่โง่นี่ทำไม่ได้เลยนะเนี่ย"

"มึงก็ไปเคลมต่อไป หึ...กูจะรอดูว่ามึงจะได้หอยหรือแห้ว"

""ไอ้สัตว์แชมป์ ปากดี แข่งกับกูดีกว่า"

"เกมที่รู้ผลแพ้ชนะอยู่แล้ว กูไม่เสียเวลาเล่นหรอกว่ะ แต่ถ้ามึงจะจ้างกูเล่นสักห้าหมื่นก็โอเค"

"ไอ้หน้าเงิน"

ผมฟังไอ้แชมป์กับไอ้เป้กัดกันแบบไม่ค่อยสนใจนัก เสียงเพลงในผับเป็นแค่เสียงอะไรบางอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง ผมนั่งกินดื่มไปเรื่อย โดยไม่ได้สนใจว่าใครจะไปไหนอะไรยังไง ตอนนี้ก็ชักอยากกลับไปนอนที่คอนโดฯแล้วครับ

"เฮ้ย กูไปละ"

ผมลุกขึ้นด้วยความมึน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายค่อยว่ากันทีหลังได้ครับ เพราะไอ้แชมป์มันสนิทกับเจ้าของ

"มึงขับรถไหว?"

ผมพยักหน้าให้ไอ้เป้ แล้วเดินออกมาจากโต๊ะฝ่าผู้คนที่เต้นกระแซะกันเต็มทางเดินไปยังห้องน้ำ ยังไงก็ขอล้างหน้าล้างตาก่อนครับ เผื่อจะได้สร่างเมาเร็วขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ถึงที่หมาย ผมก็ถูกมือของใครสักคกระชากไปอีกทาง

ผมถูกพามาอยู่ที่มุมหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าตรงไหน แล้วก็ต้องแปลกใจนิดหน่อยที่พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักมาก่อนเป็นคนฉุดผมมา

"ไอ้เหี้ย มึงแน่นักใช่ไหม ถึงได้กล้าทำแบบนี้!"

"ฮะ?"

ผลั่วะ

แต่ยังไม่ทันได้ไขความกระจ่าง ผมก็โดนต่อยจนหน้าหัน รสเลือดแผ่ซ่านไปทั่วปาก ผมตั้งใจจะสวนคืน แต่ก็ถูกคนแปลกหน้าคว้ามือเอาไว้ก่อน

"อะไรของมึงวะ!"

"มึงกล้าดียังไงมาฟันเพื่อนกูแล้วทิ้ง!"

หลังจากนั้นผมก็ถูกต่อยท้องจนทรุด ถึงตอนนี้จะไม่รู้อะไรแน่ชัด แต่ก็เข้าใจสาเหตุเบื้องต้นแล้ว ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะรู้ตัวเองดีว่าผิด

"หึ!"

ผมถูกเตะเข้าที่สีข้างอีกที ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไป ลมกลางคืนโชยผ่าน เสียงเพลงจากผับดังแว่ว แค่ทว่าผมก็นั่งกุมท้องหอบหายใจเพื่อข่มความเจ็บของตัวเองอยู่เพียงลำพังได้ไม่นาน ผู้ชายคนเดิมก็เดินกลับมา แล้วดึงผมให้ลุกขึ้น

"กูว่าแค่นี้มันยังน้อยไป ได้ยินว่ามึงสันดานเย่ เที่ยวฟันผู้หญิงไปทั่ว หึ! กูจะสั่งสอนมึงเอง"


 ..........

 
ผมุถูกพามาที่ไหนสักแห่งโดยไม่ได้โต้ตตบขัดขืนเพราะไม่มีแรงจะฝืน สมองก็ยังไม่ค่อยแล่นและคิดอะไรไม่ออก นอกจากจะตกอยู่ในสภาวะช้ำรักทางใจแล้ว ร่างกายก็น่วมไม่แพ้กันครับ

"กลัวจนพูดอะไรไม่ออกเลยหรือไง"

มันผลักผมให้ล้มไปบนเตียงเต็มแรง แล้วตามขึ้นมาล็อกคอของผมต่อด้วยท่าทางมุ่งร้าย ถึงในใจผมจะกังวลกับสวัสดิภาพของตัวเอง แต่เวลานี้ผมโดนพิษรักและน้ำเมาเล่นงานจนไม่อยากสนใจ อะไรจะเกิดก็ช่างมัน ก่อนสัญชาตญาณของการเอาตัวรอดจะสั่งให้ร่างกายของผมทำงาน เมื่อลมหายใจติดขัด

"...ปล่อย"

มันจะฆ่าผมจริงหรือเนี่ย!

"พูดอะไรโง่ๆ กูจะสั่งสอนมึงไอ้ชั่ว"

มันบีบคอจนผมแทบจะหมดสติ แล้วยอมให้ผมโกยเอาอากาศเข้าปอดในที่สุด ก่อนที่ผมจะสุะดุ้ง เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่ปะทะแถวซอกคอและความเจ็บที่เกิดจากการกัด

ทั้งที่ควรจะผลักไสให้สุดแรงและดิ้นหนีเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยำแย่และอันตรายต่อตัวเอง แต่ผมก็ดันเผลอจินตนาการว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนสนิทที่ตัวเองรักขึ้นมา

ถ้าหากว่า...เราสองคนได้มีอะไรกันจริง มันจะเป็นยังไง ถึงผมจะชอบเพศเดียวกันแต่ก็ไม่เคยนอนทอดกายให้ผู้ชายคนไหนมาก่อน นึกไม่ออกว่าเซ็กส์ของมีนจะเป็นยังไง เด็กคนนั้นจะรู้สึกยังไง เวลาที่ถูกเพื่อนสนิทของผมโอบกอด

จะรู้สึกรุ่มร้อน เสียวซ่าน แล้วก็รุนแรงแบบนี้หรือเปล่า จูบของมีนจะชวนมึนงง อีกทั้งยังหายใจไม่ออกแบบนี้ไหม

ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมดจนผมต้องหลับตาลง แล้วเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่ามีนมาอยู่ตรงหน้าแล้ว!

"อ่า..."

"รู้สึกดีหรือไง"

ผมได้แต่ตกตะลึงจนไม่ได้ตอบอะไร แล้วดึงคอของมีนเข้ามาจูบอีกครั้งอย่างที่ใจต้องการ ความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้เหมือนจะปริแตกออกมาทีละน้อย ก่อนที่ผมจะหลับตาพริ้มอย่างพอใจ เมื่อร่างกายและความรู้สึกกำลังถูกเติมเต็ม

"...ไอ้สัตว์"

เสียงทุ้มต่ำที่แหบพร่าแว่วเข้ามาเหมือนเสียงลม ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไป โดยที่ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากนัก มันทั้งเจ็บทั้งอึดอัด แต่ถ้าเป็นมีน...จะยังไงก็ช่างเถอะ ผมทนได้

"อื้อ....มีน"


.........

 
ผมรู้สึกตัวแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาทันที ก่อนจะกุมหน้าผากของตัวเอง เมื่อรู้สึกปวดหัว แล้วพลิกตัวให้นอนได้ถนัดขึ้น ผมตั้งใจจะกอดหมอนข้าง แต่กลับคว้าอะไรสักอย่างมาแทน เปลือกตาที่หนักอึ้งถึงได้เปิดขึ้นเต็มที่

"เฮ้ย!"

หมอนข้างกลายเป็นผู้ชายแก้ผ้าได้ยังไงวะ!

"มึงจะแหกปากทำไม กูจะนอน"

ผมขมวดคิ้ว แล้วมองคนตรงหน้าให้ชัดๆ อีกครั้ง สภาพของตัวเองตอนนี้ไม่ต้องให้ใครมาบอก ผมก็พอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

"มึงเเป็นใครวะ"

กูอุตส่าห์เก็บรักษาประตูหลังไว้ให้เพื่อนสุดที่รักของกูยิงคนแรก แล้วมึงโผล่มาจากไหนเนี่ย!

คนตรงหน้าขยับตัว แล้วทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ออกมา ก่อนจะส่งสายตาไม่พอใจมาให้ต่อ

"มึงตื่นแล้วจะไปไหนก็ไป น่ารำคาญ"

ถึงมันจะบอกแบบนั้นแต่ผมไม่ได้ปล่อยให้มันนอนต่อหรอกครับ ผมกระชากไหล่ของคนตรงหน้าแล้วบีบแน่น มันปัดมือของผมออก แล้วแค่นยิ้มออกมา

"อะไรวะ จะมาเรียกร้องให้รับผิดชอบหรือไง ฝันไปเถอะว่ะ"

มันผลักหัวของผมจนหน้าหงาย แล้วมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ผมก็ถอนหายใจออกมา ที่จริงก็รู้สึกตกใจล้วก็โมโหอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้โกรธมากเพราะงงมากกว่า

"เปล่า เมื่อคืนกูเมา ช่างแม่ง"

ผมทำสีหน้าไม่สนใจ แล้วเสยผมที่ไม่เป็นทรงของตัวเองพลางจะลุกขึ้นจากเตียง แต่ก็โดนอีกคนกระชากแขนจนล้มหมดท่าหน้าซบตรงเป้าของมันพอดี

"ไอ้เหี้ย! มึงจะทำอะไร! จะยั่วกูหรือไงวะไอ้สัตว์!"

"เปล่า แล้วดึงกูมาทำไม จะไปแล้ว"

กูชักจะหงุดหงิด เริ่มเพลียกับมึงแล้วนะเนี่ย!

"นี่มึงไม่สำนึกเลยใช่ไหม ต้องให้กูสั่งสอนอีกใช่ไหม ฮะ?!"

มันตะคอกใส่หน้าผมด้วยท่าทางเอาเรื่อง ผมก็ทำหน้าเบื่อหน่ายออกมา ถึงจะไม่รู้ว่ามันพล่ามอะไร แต่เพราะท่าทางไม่เข้าตาของผม อีกฝ่ายเลยผลักผมให้นอนไปกับเตียงแล้วคร่อมตัวผมเอาไว้ด้วยท่าทางข่มขู่

"โดนแบบนี้ครั้งเดียว ความชั่วของมึงคงไม่สะเทือนสินะ หึ! กูจะกระแทกแรงๆ จนกว่ามันจะหมดเอง"

อะไรของมันวะ....?

.

.

.


Next step loading...

 

Marionetta ::: ดีค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว แฮะๆ
มีอะไรสามารถแนะนำและติชมเข้ามาได้ค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามและคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ขอบตุณค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 11:38:16 โดย marionatte »

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โห เด็ดแฮะ แอบติดใจเล้งรึเปล่าเนี่ย 555555

ออฟไลน์ Lay Kin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
2nd Step : ผู้ชายซึนเดเระ
[Leng]




"ทำหน้าตาท้าทายกู คงคิดว่ากูไม่กล้าหรือไงวะ! กูจะทำให้มึงเอากับผู้หญิงที่ไหนไม่ได้อีกเลย"

พอมันพล่ามคนเดียวจบ ก็ก้มลงมาจูบผมต่อทันทีครับ ผมก็ไม่ทันได้ทำอะไร แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร หรือว่าเพราะผมชอบผู้ชายแถมคนตรงหน้าที่ไม่รู้จักนี่ก็หน้าตาดีหุ่นเจ่มอยู่เหมือนกัน

"หึ! ไอ้สันดาน กูจูบแค่นี้ก็เคลิ้มเลยหรือไง"

หลังจากนั้นมันก็ไม่รอให้ผมตอบอีกครอบ แล้วก้มลงมาจูบผมเหมือนต้องการเอาชีวิตต่อ แต่ครั้งนี้ถึงจะไม่รุนแรงจนเจ็บปาก ทว่าก็ทำให้หายใจไม่ทันมากกว่าเดิม

"มึงมันเลว คิดว่าความรู้สึกคนอื่นเป็นของเล่นหรือไง"

มันต่อว่าผมไปเรื่อย แต่ก็ไซ้คอของผมไปด้วย บางครั้งก็ดูดบางครั้งก็กัด ใจหนึ่งก็คิดจะขัดขืน แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดี เมื่อคืนนี้ผมจำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้รับรู้ทุกสัมผัสทุกความรู้สึกครับ

"มึงคงยั่วคนอื่นไปทั่ว กูจะสั่งสอนมึง มึงทำเพื่อนกูเจ็บ มึงก็ต้องเจ็บด้วย ไอ้เหี้ยเล้ง"

มันด่าผมต่อเหมือนคับแค้นใจมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แล้วก้มลงกัดหน้าอกจนผมต้องร้องออกมา ก่อนปลายลิ้นที่ตวัดไปมาจะดูดเม้มจนเสียวไปหมด

เอาเถอะ...เชิญมึงตามสบาย ถึงกูเจ็บ กูก็ฟินว่ะ

"กูจะ..."

"สรุปว่ามึงชื่ออะไร"

มันเงยหน้าจากหน้าท้องของผม โดยที่มือสากนั้นลากมาจับน้องชายของผมเอาไว้ ใบหน้าคมคายที่แต้มเลือดฝาดตรงข้างแก้มจางชวนมองไม่น้อย ริมฝีปากบางที่มันวาวจากรอยจูบคลี่ยิ้มเย็น

"อิง แล้วกูจะทำให้มึงหายชั่วให้ได้"

ก็ดี...ถ้ามึงทำให้กูเลิกรักคนที่ไม่ควรรักได้ กูจะให้รางวัลมึง!

ผมตอบรับในใจ ก่อนจะโดนบังคับแกมยินยอมเล็กน้อยให้กล่อมน้องชายของมันด้วยปาก ผมเคยแต่โดนผู้หญิงทำให้ครับ พอมาทำเองแล้วรู้เลยว่าไม่มันเหมือนที่เจ้าหล่อนแสดงสีหน้าเคลิบเคลิ้มออกมา

"หึ! ร่านจริงๆ นะมึง อ่า..."

ผมเลิกสนใจคำพูดพล่ามของมันแล้วครับ แม่งไม่สร้างสรรค์สักอย่าง ปากก็ต่อว่าถากถาง แต่มือไม่ปล่อยแถมยังครางไม่หยุดเนี่ย คืออะไร?

"พอแล้ว ไม่ได้เรื่องว่ะ ผู้หญิงหลงอะไรมึงวะเนี่ย"

มันดันหน้าของผมออก แล้วกดให้ผมนอนคว่ำหน้าลงไปกับเตียง ผมไม่เห็นหรอกว่ามันแสดงสีหน้ายังไง แต่น้องชายของมันทื่ผมเพิ่งเล้าโลมละเลงลิ้นไปก็จวนเจียนจะแตกอยู่แล้ว ก่อนที่ผมจะต้องครางออกมา เมื่อบั้นท้ายที่ถูกบีบขย้ำเมื่อครู่กำลังถูกอีกคนรุกราน ความรู้สึกจุกแน่นเจ็บเสียดมาเต็ม ไม่มีเบิกทางห่าอะไรเลยครับ แม่งจะยัดใส่อย่างเดียว

ตอนนี้ผมเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองที่เหมือนตุ๊กตาหายใจได้ขึ้นมาในทันที เมื่อคืนมันก็คงจะดันทุรังใส่เข้ามา แต่เพราะผมเมาเลยไม่รู้เรื่องอะไร แต่ก็พอจำได้ลางๆ ว่า มันต้องการแก้แค้นเรื่องผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วย

"มึงใส่ถุงหรือเปล่าวะ"

ทุกครั้งที่ผมมีอะไรลึกซึ้งก็ป้องกันตลอดครับ ไม่อยากมีลูกโดยที่ไม่รู้ตัว ถึงแม้ผู้ชายด้วยกันจะไม่ท้อง แต่เรื่องความปลอดภัยและโรคที่ไม่คาดฝันก็มองข้ามไม่ได้

"นี่มึงคิดว่ากูเป็นโรคหรือไงวะ!"

มันตวาดผมเสียงดัง พร้อมกับตบก้นของผมเต็มแรง ความรู้สึกแสบและเห่อร้อนบริเวณที่ถูกทำร้าย ทำให้ผมต้องห่อปากด้วยความเจ็บ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักทับซ้อนมาเต็มแผ่นหลัง แล้วลมหายใจอุ่นก็เคลื่อนผ่านข้างแก้ม ไอ้อิงขบที่ใบหูของผม พร้อมกับเสียงทุ้มห้วนที่เย็นเยียบ

"เมื่อคืนกูก็ไม่ได้ใส่ หลังจากเอามึงเสร็จ ถ้ากูไปหาหมอแล้วเป็นอะไร มึงตาย"

มันใช่ทางแก้ปัญหาหรือไงวะ...

หลังจากนั้นไอ้อิงก็ดันน้องชายของตัวเองให้มุดเข้ามาในถ้ำลับของผมได้สำเร็จครับ ช่วงเวลาของความเจ็บร้าวถูกกลบด้วยความเสียวสะท้านในที่สุด ตอนนี้มันกระแทกใส่จนผมตัวสั่นคลอน ก่อนจะจับผมพลิกนอนหงาย แล้วดึงใบหน้าของผมเข้ามาจูบอย่างต่อเนื่อง

"อื้อ"

"ไอ้สัตว์เล้ง...เรียกชื่อกู เมื่อคืนมึงทำกูโมโหมากนะไอ้เหี้ย"

มันสั่งผมแล้วก็กระแทกใส่ไม่หยุด ผมสบตากับไอ้อิง และเมื่อคนตรงหน้าส่งสายตาเร่งรัดออกมา ผมก็เลยตามใจคนทำเสียวอย่างว่าง่าย

"อ่า...อิง อิง"

"หึ! ไอ้ชั่ว"

ไอ้อิงยกยิ้มที่มุมปาก แล้วก้มลงมาจูบผมแบบลืมตายอีกครั้ง ก่อนที่เราสองคนจะปลดปล่อยโซ่อารมณ์ที่ตึงแน่นให้ขาดสะบั้นไปพร้อมกัน


..........


ผมรู้สึกเหมือนตัวเองน็อตหลุด พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่ายังนอนอยู่บนเตียงหลังเดิมในสภาพที่ยับเยินยิ่งกว่าหลายชั่วโมงก่อน ตอนนี้ผมทั้งปวดหัว มึนหัว เหมือนตัวเองจะไม่สบายครับ

"เฮ้ย! อย่ามาป่วยตายที่ห้องกู แดกซะ"

ไอ้อิงเดินเข้ามา พร้อมกับส่งข้าวต้มกลิ่นหอมและยาสองสามเม็ดมาให้ผม ถึงจะไม่ค่อยอยากอาหารแต่ก็จำใจกินไปจนหมดเพราะรสชาติอร่อยกว่าที่คิดเอาไว้ แล้วกลืนยาตาม

"กี่โมงแล้ว"

"จะห้าโมงเย็นแล้ว"

"อืม"

ที่จริงวันนี้ผมมีเรียนครับ แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะผมก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้นัก มีหน้าที่เรียนให้จบก็พอ แต่ผมห่วงสุดสวยของผมมากกว่าครับ ถ้าโดนคนไม่ดีลวนลาม ผมคงโมโหแน่

"รถกู"

ไอ้อิงที่กำลังเก็บชามข้าวต้มหันมามอง มันทำหน้าไม่พอใจกึ่งรำคาญออกมา ถ้าผมมีแรงลุกและไม่ได้กลายสภาพเป็นผักเหี่ยวอยู่แบบนี้ ก็คงต้องทำร้ายร่างกายมันสักอย่าง ข้อหากวนประสาททางสายตา

"ถ้าไม่มีปัญญาไปเอาเอง ก็เอากุญแจมา ทำไมกูต้องช่วยไอ้ชั่วแบบมึงด้วยวะ"

"ไม่ต้องลำบากคนดีอย่างมึงหรอกไอ้สัตว์ เดี๋ยวกูไปเอาเอง"

กูขอเอาคืนหน่อยเถอะ แม่ง!

"นี่มึงกล้าปฏิเสธความช่วยเหลือของกู? มึงอยากนอนตายคาห้องนักใช่ไหมวะ! มึง..."

ไอ้อิงเข้ามากระชาาไหล่ของผม ก่อนจะเขย่าแรงๆ จนผมอยากจะขย้อนของเก่าออกมา ผมขมวดคิ้ว พลางใช้แรงของคนป่วยยกมือชึ้นปิดปากคนที่ด่าอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ แล้วพูดเสียงแห้ง

"อยู่ในกระเป๋ากางเกง"

ไอ้อิงหยุดพูดทันที ถึงอย่างนั้นสายตาแข็งกระด้างก็จ้องผมเขม็ง มันปัดมือของผมออกพลางพึมพำอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้สนใจ แล้วเดินไปเอากุญแจรถตามที่ผมบอก ก่อนที่มันจะหันสายตามาปะทะกับผมที่มองตาม พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรออกมา

"ไอ้..."

ไอ้อิงคงสาปแช่งอะไรผมอีกรอบพลางเดินออกไปจากห้อง หลังจากที่มีความเงียบเป็นเพื่อน ผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมมองบรรยากาศรอบตัว แล้วเพิ่งสังเกตว่า สถานที่ที่ต้องเสียเอกราชนั้นเป็นแค่ห้องของหอพักธรรมดา ซึ่งต่างจากจินตนาการอันไกลโพ้นที่ผมเคยวาดฝันเอาไว้

ทั้งที่ใจนึกอยากจะสำรวจให้ทั่ว แต่ร่างกายและฤทธิ์ของยาก็ทำให้ผมเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นเจ้าของห้องกำลังนั่งมองอยู่ นัยน์ตาสีดำวาววับ

"มึงไม่คิดจะลุกไปไหนเลยใช่ไหม นอนเป็นคุณชายง่อยแดกอยู่ได้ กูจะได้หาเชือกมาผูก ดีเหมือนกันจะได้ไม่เที่ยวมั่วไปทั่ว"

ไอ้โรคจิต!

ผมรีบลุกขึ้นทันที ทั้งที่ยังมึนค้างและสติยังมาไม่ต่อยครบ ถึงผมจะเชื่อว่ามันไม่น่าจะทำจริง แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงกับคำขู่ของมันสักเท่าไหร่ครับ

"หึ!"

ไอ้อิงแค่นเสียงทิ้งท้าย ก่อนจะสะบัดก้นเดินออกไป หลังจากที่เห็นผมลุกมาในสภาพเกือบเปลือย ตอนนี้ผมมีเพียงบ็อกเซอร์หนึ่งตัวห่อหุ้มน้องชายเอาไว้ครับ

ผมเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างไม่ค่อยปกตินัก อาการหลังกิจกรรมบนเตียงยังคงมีผลต่อประตูหลังที่เพิ่งโดนยิงไปติดกันหลายนัดอยู่

ผมพาตัวเองมายืนอยู่ในห้องน้ำขนาดเล็กที่หมุนตัวก็เจอเครื่องทำน้ำอุ่น อ่างล้างหน้า และชักโครกในระยะไม่ถึงสามก้าว กระจกเงาที่แขวนอยู่เหนืออ่างล้างหน้าสะท้อนใบหน้าตื่นนอนที่คุ้นเคยผิดแต่ร่องรอยบางอย่างที่แต่งแต้มอยู่ทั่วร่างกาย

ความรู้สึกตอนนี้ปนเปจนผมไม่อาจระบุได้ชัดเจน แต่ก็พอจะรู้ตัวดีว่าไม่ได้เสียใจ โกรธเคือง หรืออะไรในทำนองของสาวบริสทุธิ์ที่ถูกแย่งพรหมจรรย์อย่างไม่เต็มใจ ทว่ากลับเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่ลึกในใจถูกเปิดออก และผมก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร

ผมอาบน้ำสระผมพลางปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปเรื่อย ถ้าเข้าใจไม่ผิด ไอ้อิงก็คงจะทำความสะอาดตัวผมไปบ้างแล้ว เพราะไม่มีคราบอะไรที่ติดค้างอยู่ พอนึกถึงมันผมก็แปลกใจ เพราะไม่เข้าใจเจตนาของมันเลย

เดิมทีผมคิดว่าไอ้อิงจะขับไล่ไสส่ง ซึ่งปากของมันก็ว่าแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ถีบหัวโยนออกจากห้องอะไร แถมยังหาข้าวหายามาให้กินอีก แล้วไหนจะมาเช็ดตัวให้ด้วย ดูแล้วมันขัดแย้งกันยังไงชอบกลครับ

ผมปิดน้ำแล้วเตรียมตัวจะออกจากห้องน้ำ แต่เมื่อมองหาผ้าเช็ดตัวไม่เจอ ก็เพิ่งสำนึกได้ว่า พลาดไปแล้ว

ห้องน้ำเล็กเท่ารูหนู คงไม่มีตู้ใส่ผ้าเช็ดตัวให้หยิบใช้หรอก

ผมถอนหายใจ แล้วเปิดประตูแง้มออกมา ก่อนจะมองหาเจ้าของห้องที่กำลังยืนทำอะไรสักอย่างอยู่

"กูไม่มีผ้าเช็ดตัว"

ไอ้อิงหันมามอง แล้วทำหน้าไม่พอใจที่ผมเริ่มชินตาออกมา

"คิดว่ากูจะให้มึงใช้ของส่วนตัวของกูหรือไง"

ผมกลอกตาอย่างนึกเซ็งจัด ในเมื่อมันไม่ให้ความร่วมมือ ผมก็คงต้องหน้าด้านไปหยิบเสื้อผ้าที่มันเขี่ยทิ้งเป็นกองขยะตรงมุมห้องแทน แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะชีเปลือยเดินออกไปหรอกนะครับ ผมยังมีบ็อกเซอร์อยู่ ทว่าเมื่อผมเปิดประตูห้องน้ำอีกครั้งพร้อมกับร่างกายที่ชุ่มน้ำ อะไรหลายอย่างก็ปะทะใส่หน้าราวกับลูกกระสุน

"แม่ง! น่ารำคาญ"

ผมมองไอ้อิงที่เดินห่างออกไป แล้วมองสิ่งของที่มันประเคนมาให้ แล้วนึกประหลาดใจขึ้นมาอีกรอบ

แล้วไหนบอกว่า ไม่ให้ใช้ไงวะ...


..........

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 11:57:29 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


ผมเดินออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งในสภาพเสื้อกล้ามสีเก่ากับกางเกงยางเยืดเปื่อย แล้วมองไอ้อิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมขนาดสองที่นั่ง บนโต๊ะตัวนั้นมีชามสองใบวางอยู่ครับ

"ยืนทำเหี้ยอะไร! จะต้องให้กูจุดธูปเชิญมึงมาแดกข้าวหรือไงวะ"

พูดกับกูดีๆ บ้างไม่ได้หรือไงวะ...

ผมก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจ ไม่กล้าพูดออกไปหรอกครับ เดี๋ยวมันสวนกลับด้วยกำลัง ตอนนี้ผมคงรับมือไม่ไหว

ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วมองชามข้าวต้มกลิ่นหอมที่ผมจำได้ว่าเพิ่งกินไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"มองอะไร แดกไปสิ หึ! หรือต้องให้กูป้อน"

ผมเป็นคนมีมารยาทนะครับ จะให้มานั่งกินแบบไม่สนใจใครก็ใช่เรื่อง แต่ในเมื่อเจ้าของห้องสั่งให้กินได้ ผมก็จะไม่เกรงใจ

"อร่อยว่ะ ซื้อจากที่ไหนวะ"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันเพื่อหวังคำตอบ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือใบหน้าเหยียดหยามที่มีรอยยิ้มตรงมุมปากคล้ายกับตัวร้ายในละครหลังข่าว ซึ่งมันเป็นใบหน้าที่ชวนหมั่นไส้มากจริงๆ ครับ

"หึ! ใครจะไปบอกมึง"

ผมน่าจะรู้อยู่แล้วว่า มันคงไม่คิดพูดคุยกับผมดีนักหรอก ตั้งแต่เจอกันก็มีแต่คำต่อว่าประชดประชันนับไม่ถ้วน ผมเลยก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายที่นั่งมองผมอยู่ คือ...ผมตั้งใจว่าจะทำเป็นไม่รู้สึกอะไรแล้วนะครับ แต่เวลาโดนจ้องมองแบบไม่ละสายตาเนี่ย ก็ไม่ไหวเหมือนกัน

"แล้วมึงไม่กิน?"

"ใครจะไปอยากแดกร่วมโต๊ะกับคนอย่างมึง"

เอาเข้าไป...

"แล้วมึงตักมาทำไมสองถ้วย"

"เรื่องของกู มึงเสือกทำไม"

โอเคครับ ผมไม่ยุ่งแล้ว

ผมใช้เวลาไม่นานก็กินหมดครับ อร่อยมาก ในขณะที่ผมกำลังปิดจ็อบท้องของตัวเองด้วยน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ชามข้าวต้มที่ไม่มีใครแตะต้องก็เลื่อนมาตรงหน้า พร้อมกับคำพูดราบเรียบที่แฝงไปด้วยน้ำเสียงบังคับชัดเจน

"แดกซะ"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วมองชามข้าวต้มกับใบหน้าจริงจังของไอ้อิงสลับกันอย่างไม่เข้าใจ

"เอ่อ..."

"ทำไม? เมื่อกี้ยังบอกอร่อยไม่ใช่หรือไง"

"แต่กูอิ่มแล้ว"

"อย่าให้กูพูดซ้ำ"

ไอ้คนแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรกันครับ เผด็จการ? บ้าอำนาจ? ผิดปกติ? ชอบใช้ความรุนแรง? ซาดิสต์? จิดเสื่อม? เฮ้อ...ผมเลือกไม่ถูก งั้นขอยกนิยามทั้งหมดให้มันเลยแล้วกัน

ผมถอนหายใจออกมา อันที่จริงก็พอจะกินได้อยู่หรอกครับ ข้าวต้มแค่นี้ไม่ได้เกินกำลังกระเพาะหนุ่มหล่ออย่างผมอยู่แล้ว แต่บรรยากาศเหมือนโดนแม่บังคับให้กินผักเนี่ย มันทรมานใจชะมัด

ความเงียบเคลื่อนที่ผ่าน ไอ้อิงก็นั่งกอดอกมองผมกินไม่วางตา ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังโดนพิพากษาแล้วนั่งกินข้าวมื้อสุดท้ายย้อมใจเลยครับ

ผมเลื่อนสายตาลอบมองมันระหว่างกินไปด้วย ไอ้อิงก็ไม่ได้หลบตาอะไร จนเป็นผมเองที่เบือนสายตาหนี ตอนนี้ผมนั่งกินข้าวต้มไปด้วยพร้อมกับคิดเรื่องของตัวเองต่อจากนี้ไปด้วยครับ

จากเท่าที่สมองจะจดจำได้ ดูเหมือนไอ้อิงจะรู้จักผมในระดับหนึ่ง แต่ผมกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยสักอย่าง ผมควรจะถามข้อมูลเพื่อเก็บเป็นความทรงจำของการเสียตัวให้ผู้ชายครั้งแรกหรือเปล่า เผื่อเวลาใครถามจะได้บอกไปอย่างมั่นใจว่า ใครที่ทำแต้มได้คนแรก แต่...มันก็คงจะไม่ตอบแถมด่ากลับให้เสียอารมณ์มากกว่า เอาเป็นว่าจะจำชื่อเอาไว้อย่างเดียวก็แล้วกัน ถ้าลืมก็บอกไอ้คนที่ถามว่า กูยังซิงอยู่เว้ย!

ตอนนี้ก็จบประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับมันแล้ว ต่อไปนี้หลังจากกินข้าวต้มเสร็จจะทำอะไรต่อ

อืม...ผมควรจะบอกขอบคุณที่มันพาผมมาเสียตัวแล้วก็เลี้ยงข้าวสองมื้อ หรือทำเนียนรอมันเผลอแล้ววิ่งออกจากห้อง โธ่เอ๊ย! ถ้าตอนนี้เป็นฉากมันนอนหลับแล้วผมตื่นมาใส่เสื้อผ้าพาตัวเองที่ร่างกายถูกย่ำยีออกจากห้อง ก็ไม่ต้องมาคิดมากหาวิธีให้ยุ่งยากแล้ว

"เป็นหมาหรือไงวะ คาบช้อนอยู่ได้"

เอ่อ...หมามันคาบช้อนด้วยหรือวะ?

ผมไม่ได้เถึยงแต่ก็ยอมเอาช้อนที่เผลอคาบเอาไว้ตอนที่คิดอะไรเพลินออก ตอนนี้ข้าวต้มที่กำลังจะหมดก็ไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่เร่งให้สมองน้อยๆ ของผมหาวิธีออกไปจากห้องนี้

"ถ้ามึงยังเอาแต่คาบช้อนไม่เลิก กูจะจับกรอกปาก แม่ง! เสียเวลาว่ะ"

แล้วมึงจะมานั่งดูกูแดกทำไมครับ จะไปไหนก็ไปสิโว้ย

ผมก็ตอบรับคำต่อว่าของมันด้วยการตักข้าวต้มกินต่อด้วยความเร็วเท่าเดิม แถมยังคาบช้อนแกว่งเล่นกวนประสาทมันไปครับ

"ไอ้เล้ง!"

ไอ้อิงลุกชึ้นกำลังจะเล่นงานผมด้วยกำลัง ทว่าเสียงระฆังหมดยกแรกของผมกับมันก็ดังขึ้น ซึ่งก็คือเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของผมเองครับ

ไอ้อิงกระแทกตัวนั่งลงอย่างหงุดหงิด ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ที่โต๊ะกาแฟ ผมเพิ่งจะเห็นว่าที่นี่มีมุมครัวขนาดเล็กใกล้ระเบียงอยู่ด้วย แล้วถ้าผมไม่ได้ตาฝาด ผมเห็นหม้อใบหนึ่งวางอยู่บนเตา และเมื่อผมหันกลับไปมองเจ้าของห้อง ก็ต้องตกใจเล็กน้อย เมื่อมันกำลังมองผมเหมือนเจ้ากรรมนายเวนทวงแค้นอยู่ ใบหน้าหล่อที่บึ้งตึงนั้นมีรอยเลือดฝาดที่ข้างแก้ม ในชั่วขณะหนึ่งที่เห็นภาพนผมเผลอคิดไปว่า...มันดูน่ารักดีเหมือนกัน แต่ผมก็ต้องรีบปัดความคิดเพ้อเจ้อออกไป ก่อนจะรีบย้ายตัวเองไปรับสายที่ระเบียง

"ไรวะ"

[ไอ้เหี้ยเล้ง มึงหายหัวไปไหน เพื่อนเป้เป็นห่วง]

"ห่วงเหี้ยอะไรของมึง"

[ก็วันนี้มึงไม่มาเรียน ที่จริงเมื่อคืนกูเห็นรถมึงจอดอยู่ที่ร้าน คิดว่าโดนผู้หญิงหิ้วไปรุมโทรมแล้ว]

"เพ้อเจ้อ"

กูแค่โดนผู้ชายลากมาเอาแค่นั้นเอง!

"แล้วมึงเพิ่งโทรหากูตอนนี้?"

[ก็กูเพิ่งว่าง]

เจริญจริงๆ เพื่อน...

"ถ้ากูโดนฆ่า มึงคงเจอศพกูขึ้นอืด"

[ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วง กูจะทำเรื่องวิ่งเต้นจับคนร้ายแล้วเรียกค่าจ้างจากครอบครัวมึง]

"ไอ้สัตว์"

ผมพูดคุยกับมันเล็กน้อย ก่อนจะกดวางสาย และเมื่อกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ผมก็เดินไปหาไอ้อิงที่กำลังล้างชามข้าวต้มอยู่ตรงมุมครัว ตอนนี้ผมเห็นชัดแล้วว่าข้าวต้มแสนอร่อยมาจากไหน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะพูดกันท่าผมเอาไว้ทำไม

"กูกลับก่อน"

"ใครบอกให้มึงกลับได้"

เฮ้ย! ไอ้บรรยากาศเหมือนฆาตกรโรคจิตฆ่าหั่นศพนี่คืออะไร แล้วมีดที่วางอยู่ตรงสองนาฬิกาจะอยู่ใกล้มือของมันมากไปไหม

"เอ่อ...ข้าวต้มอร่อยดีนะ มึงทำเองเหรอ"

"มึงจะพูดซ้ำซากทำไมวะ ไอ้ปัญญาอ่อน"

อ้าว...

ตอนนี้ผมก็เลยยืนทำตัวไม่ถูกครับ ครั้นจะวิ่งหนีไปเลย ก็กลัวมีดวิ่งตามมาปักหลัง ผมเลยได้แต่ยืนง่อยรอมันทำความสะอาดมุมครัวกะทัดรัดของมันไป

"กูไปได้ยัง"

ไอ้อิงหันมามอง มันทำหน้าเหมือนผมเป็นแมลงสาบที่กำลังไต่ผนัง ก่อนจะกอดอกยืนพิงอ่างล้างจานอย่างวางท่า

"คิดจะแดกฟรีแล้วหนีเหรอ มึงคงฟันผู้หญิงไปทั่วแล้วทิ้งอย่างไม่รับผิดชอบแบบนี้สินะ"

ไอ้สัตว์อิงครับ...กูแค่แดกข้าวต้มที่มึงยัดเยียดให้ ส่วนมึงแดกกูครับ!

"แล้วจะเอายังไงวะ!"

ผมชักจะหมดความอดทนกับท่าทีเหมือนภรรยากระแหนะกระแหนสามีของมันเต็มทน เป็นแค่ผู้ชายคนแรกของกูอย่ามาเรื่องเยอะจะได้ไหมวะ!

"กล้าขี้นเสียงใส่กู?"

ไอ้อิงกระชากคอเสื้อกล้ามของผมเข้ามาใกล้อย่างหาเรื่องด้วยความไวแสงเลยครับ คนรักสงบอย่างผมเลยถอนหายใจอย่างระบายอารมณ์ แล้วมองหน้าไม่พอใจของมันไป

"กูแค่ถาม ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว พรุ่งนี้กูมีงานต้องส่งแต่เช้า แล้วกูก็ยังไม่ได้ทำเหี้ยอะไรเลย กูจะกลับได้หรือยัง"

ไอ้อิงมองผมนิ่งอยู่พักหนึ่งแล้วดันผมออก ผมจับคอเสื้อกล้ามให้เข้าที่ พลางมองคนตรงหน้าที่บ่นงึมงำเดินออกไป ก่อนที่มันจะปากญแจรถใส่หน้าผากของผมเต็มแรงเลยครับ

"อู้ย...เจ็บ"

"อยากไสหัวไปก็เชิญ กูไม่ขับไปส่งแล้ว"

ไอ้อิงเดินหน้ามุ่ยนั่งลงที่โซฟาเดี่ยว แล้วกดเปิดโทรทัศน์ดูเฉย โดยไม่ได้หันมาสนใจไยดีอะไรผมอีก ตอนนี้ความขุ่นเคืองทุเลาลงจนเหลือแต่ความคิดบางอย่างที่เปล่งประกายอยู่ในใจ

ไอ้เหี้ยอิง ที่แท้มึงก็เป็นพวกซึนเดเระนี่เอง

.

.

.


Next step loading…




Marionetta ::
: ดีค่ะ! มาต่อตอนใหม่แล้วค่ะ
พี่อิงหนุ่มซึนกับพี่เล้งหนุ่มมึนเป็นยังไงบ้างคะ อิอิ ยังไงก็ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2016 11:58:40 โดย marionatte »

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
มันจะไปรักกันตอนไหน อีกคนมึนอีกคนซึน โอ๊ย!! ฉันจะบ้า555

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
3rd Step : พลังของหนุ่มแว่น
[Leng]


 

ถึงแม้เหตุการณ์ในวันนั้นจะผ่านมาสักพักจนเหมือนเป็นแค่ความฝัน แต่ทว่าความจริงก็ยังมีเพียงหนึ่งเดียว!

มีนสุดที่รักมีแฟนเป็นผู้ชาย!!!

โอ้ มาย ก็อด!

[โทษทีว่ะ พอดีกั้งไม่ค่อยสบาย กูต้องอยู่ดูแล]

"อืม ไม่เป็นไร กูเข้าใจ"

[เอาไว้คราวหน้านะมึง]

"เออๆ"

ผมได้แต่ยืนฟังเสียงสัญญาณที่ตัดไปด้วยความไม่สบอารมณ์ ภายในใจก็กำลังต่อว่าไอ้หน้าซื่อที่ต้องแอบร้ายลึก มันต้องสำออยป่วยเพื่อไม่ให้มีนมาเดตกับผมแน่

กูประมาทมึงเกินไปสินะ ไอ้กั้งจืด!

ผมก็ว่าไปนั่น คนเป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกัน คนที่เป็นแค่เพื่อนคิดไม่ซื่ออย่างผม ถึงจะสนิทสนมแค่ไหนก็ต้องทำใจ แบบนี้เขาถึงมีเพลงเพื่อนกับแฟนแทนกันไม่ได้ใช่ไหม เศร้าว่ะครับ

ผมได้แต่ถอนหายใจทิ้ง แล้วมองตั๋วหนังสองใบที่ซื้อเตรียมเอาไว้ แอบเนียนซื้อที่นั่งสวีตไว้ด้วย แต่ไม่นึกเลยว่าแผนจะมาล่มแบบนี้ แล้วทีนี้ผมจะเอายังไงต่อดี

ทว่าในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรกับตัวเองไปเรื่อย แรงกระชากตรงหัวไหล่ก็ทำให้ผมต้องหลุดจากภวังค์ แล้วหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ

ไอ้แว่นหล่อนี่ใครวะ?

"ทำหน้ากวนตีนกู อยากมีเรื่องใช่ไหมวะ"

อ้าว...ไอ้อิง

ผมมองใบหน้าของคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ คนหน้าตาดี ทำอะไรก็ดูดีครับ ถึงปากจะไม่น่าคบ แต่หนุ่มแว่นเร้าใจก็ไม่เลว

"หึ! อย่าคิดว่ากูไม่กล้า เจอที่ลับตาคนเมื่อไหร่ มึงโดนแน่ ไอ้เล้ง"

ขอต่อยให้แว่นแตกทีนึงเถอะ!

"แล้วทำไมมึงใส่แว่น สายตาสั้น?"

ไอ้อิงมองผมครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปทางอื่น ผมก็เตรียมใจรับคำถากถางตามสไตล์ไอ้อิงจิตผิดปกติ แต่ครั้งนี้มันกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาอีกรอบ

"ก็...สั้นห้าร้อยกว่า"

เฮ้ย! มันตอบเหมือนคนปกติด้วยว่ะ?

"แล้วคราวนั้นมึงใส่คอนเทคเลนส์เหรอ"

ผมรีบถามต่ออย่างกระคือรือร้น ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากครับ เหมือนเพิ่งเห็นลูกตัวเองพูดได้ครั้งแรก

"มีสมองก็คิดเองสิวะ"

เออ...

จะว่าไปแล้วตั้งแต่ครั้งนั้น ผมก็ไม่ได้ติดต่อพบเจอกับมันอีกเลยครับ จนเผลอคิดไปว่าชาตินี้คงไม่มีวันที่เราสองคนต้องมาเจอกันแล้วด้วยซ้ำ

"แล้วมึงมากับใคร"

"มาคนเดียว"

พอนึกถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกช้ำใจครับ ผมก็แค่คนถูกทิ้งที่ไม่มีใครเหลียวแล

"มาคนเดียวแล้วทำไมต้องซื้อตั๋วสองใบ ถ้าเงินเหลือนักก็เอาไปบริจคมูลนิธิไป"

แม่งเห็นด้วยหรือวะ ผมคงดูถูกพลังของมนุษย์สี่ตามากเกินไป

"ที่จริงนัดเพื่อนเอาไว้ แต่มันติดธุระกะทันหันเลยมาไม่ได้"

ในเมื่อคนที่นัดไว้ไม่มา ตั๋วหนังสองใบนี้ก็ไม่มีความหมาย ถ้าจะให้เข้าไปดูคนเดียวก็ไม่ไหวครับ สุดท้ายก็คงต้องตัดสินใจทิ้งไปหรือไม่ก็เก็บเอาไว้เตือนหัวใจตัวเอง

ต่อไปนี้ผมคงต้องเตรียมเผื่อใจให้มากกว่านี้ เพราะมีนไม่ใช่คนพิเศษของผมเพียงคนเดียวอีกต่อไป อันที่จริงแล้วผมต่างหากที่ไม่ใช่คนพิเศษของมันอีกต่อไป

ยิ่งคิดก็ยิ่งห่อเหี่ยวใจ...

"หนังเข้ากี่โมง"

ผมมองไอ้อิงที่ยังยืนอยู่ตรงหน้า ผมเกือบลืมไปแล้วว่ายังมีผู้ชายคนแรกยืนอยู่ด้วย มัวแต่อินกับบทคนอกหักมากไปหน่อย

"ก็อีกสิบนาที"

"อืม งั้นไปได้แล้ว"

ฮะ...?

ผมมองไอ้อิงอย่างไม่เข้าใจ ส่วนคนถูกมองก็ทำหน้ารำคาญใจแบบทุกทีออกมา

"แล้วมึงจะยืนทำหน้าโง่อีกนานไหม กูจะรู้ไหมว่าดูโรงไหน คิดว่าทำแบบนี้แล้วน่ารักหรือไงวะไอ้สัตว์"

มาเป็นชุดเลยว่ะครับ...

"มึงจะดูเป็นเพื่อนกูเหรอ"

"หึ...กูดูเป็นผ้วมึงมั้ง"

ผมก็ทำหน้าเอ๋อแต่ไม่อยากพูดอะไรที่ดูเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายสาดพายุคารมเข้ามาอีก ผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าหากไอ้อิงจะไม่มีใครคบ ก็ปากรั่วชั่วร้ายแบบนั้น แต่ละประโยคที่พ่นอกมา ใครจะไปทนฟังครั้บ

ถึงคำพูดกัาทางของมันจะมีปัญหา แต่การที่มันยอมดูหนังเป็นเพื่อนผม ก็พอจะลบล้างความน่าเบื่อของมันไปได้บ้าง


..........

 
"ที่นั่งแบบนี้ มึงแน่ใจว่านัดเพื่อนมาดู"

ไอ้อิงหันมามองผมเขม็ง เมื่อเราสองคนได้ลงจอดยังตำแหน่งที่นั่งสวีตเป็นที่เรียบร้อย มันคงคิดว่าผมนัดผู้หญิงมานั่งเร้าอารมณ์มากกว่า

"อืม ก็ที่นั่งแบบนี้มันเป็นส่วนตัวแล้วก็นั่งสบายกว่า"

นี่เป็นข้ออ้างที่ผมเตรียมเอาไว้ เวลามีนถามครับ แต่ตอนนี้ก็เอามาใช้ตอบไอ้อิงได้ด้วยเช่นเดียวกัน

"หึ! อย่าให้กูจับได้นะมึง"

ถ้ามึงจับได้แล้วจะทำไมวะ?

ผมอยากจะถามกลับ แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่รู้จักกัน ทำให้ผมรู้ว่า มันกวนตีนคนอื่นได้ฝ่ายเดียวครับ ถ้าใครไปกวนตีนมัน ไอ้อิงจะองค์ลงขึ้นมาทันที

"ว่าแต่มึงมาทำอะไรวะ"

ตอนนี้เราสองคนกำลังนั่งดูหนังตัวอย่างอยู่ครับ ไอ้อิงก็หันมามองผมด้วยสายตาเย็นชาไม่สนสภาพอากาศที่หนาวในโรงหนังเหมือนเคย

"เกี่ยวอะไรกับมึง"

ผมก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมา นอกจากหน้าตากับรูปร่างแล้ว ไอ้อิงก็ไม่มีอะไรน่าคบเลยครับ ผมเลยเลิกสนใจมัน แล้วหันมาดูหน้าจอยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าต่อ

หนังที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้สนุกดีเหมือนกันครับ เรื่องนี้ผมไม่ได้สนใจดูตั้งแต่แรก แต่มีนบอกว่าอยากจะมาดู ก็เลยเนียนหาเรื่องชวนมันมาดูด้วยกัน ถึงแม้มันจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ผมก็ยังอยากใกล้ชิดกับมันเหมือนเมื่อก่อนอยู่ดี บางทีรสนิยมทางเพศที่เปลี่ยนไปอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราเดินหน้าไปมากกว่าเดิม...มั้ง

"ป็อปคอร์น"

ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างกัน ไอ้อิงก็มองมาด้วยสายตานิ่งเฉย ก่อนที่ผมจะส่งสิ่งที่มันต้องการไปให้ แต่พอผ่านไปสักพัก...

"น้ำ"

อะไรของมึงครับเนี่ย!?

ผมก็หันไปมองไอ้อิงอีกรอบ คราวนี้มันวางป็อปคอร์นไว้อีกฝั่ง แล้วหันมาสนใจแก้วน้ำที่ผมกำลังถืออยู่

"ชักช้าว่ะ"

ผมได้แต่มองไอ้อิงที่ดึงแก้วน้ำของผมไปดูดต่อหน้าตาเฉย ท่าทางปกติและเป็นธรรมชาติจนเกินไป ทำให้ผมรู้สึกตงิดขึ้นมาในใจ

ก่อนหน้านี้ผมก็ถามมันแล้วว่าจะซื้ออะไรเข้าไปกินไหม แต่มันก็ปฏิเสธ แล้วพล่ามถึงความรังเกียจที่มีต่อผมเหมือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้คือ...ฟาดของกินกูหมดแล้วเว้ย!

ไอ้คนแบบนี้...ถ้าไม่เกรียนสุดติ่งก็ต้องมีปมตอนเด็กแน่นอนครับ

ผมก็มองด้วยคววามเซ็งครับ ในโรงหนังไม่ควรส่งเสียงดังเลยปล่อยให้มันทำตามใจ แล้วกลับมาสนใจเนื้อเรื่องชวนติดตามอย่างจนใจ


..........

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5

 
หลังจากใช้เวลาอยู่ในโรงหนังชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ผมก็ย้ายตัวเองมาอยู่ที่ร้านหนังสือกับไอ้อิงครับ แน่นอนว่าผมโดนบังคับให้มา

ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในร้านแบบไม่ได้สนใจอะไรนัก หนังสือกับผมไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อกันสักเท่าไหร่ครับ เราคบค้าสมาคมกันเฉพาะยามจำเป็นจริงๆ เท่านั้น

น่าเบื่อเว้ย!

ผมอยากจะกลับไปนอนเล่นที่คอนโดเต็มแก่ แต่ก็ไม่กล้าไปเร่งไอ้อิงที่พร้อมจะระเบิดอารมณ์ใส่ผมตลอดเวลา ผมเลยตั้งใจยืนมองมันเป็นการกดดันทางอ้อมแทนครับ

วันนี้ไอ้อิงใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยืนส์สีซีดที่แสนจะธรรมดา แต่ก็ออกมาดูดีตามรูปร่างของผู้สวมไส่ แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมในวันนี้ ก็คงเป็นแว่นสายตานั่นแหละครับ

ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของไอ้อิงที่กำลังก้มอ่านหนังสืออะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะรู้สึกใจเต้นระรัวขึ้นมา เมื่อสายตาคมกริบที่ซ่อนอยู่หลังกรอบเลนส์จะเลื่อนมามอง นัยน์ตาที่เย็นชากับเว่นสายตาที่เลื่อนตกลงมาเล็กน้อยชวนโมเอะ

ไอ้เหี้ยอิง! มุมนี้แจ่มมาก! ไม่เสียแรงที่กูยอมเสียตัวให้!

"มองไรวะ"

"ก็มองไปเรื่อย มึงเลือกได้ยัง"

ไอ้อิงไม่ได้ตอบอะไร นอกจากหยิบหนังสือที่มันเลือกดูก่อนหน้านี้มาเล่มหนึ่ง แล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ หลังจากนั้นผมก็เดินตามหลังมันเหมือนลูกเป็ดตามแม่เป็ดต่อไปครับ

กูวิ่งหนีไปเลยดีไหมวะ...

"เฮ้ย! ไอ้เล้ง"

เสียงทักที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันไปมอง ก่อนที่สายตาจะเป็นประกาย เมื่อเห็นไอ้โจ้เดือนคณะของผมเดินเข้ามาหา มันเป็นผู้ชายอีกคนที่ผมแอบใช้เป็นอาหารตาหล่อเลี้ยงหัวใจอยู่ครับ

นอกจากหน้าตาโดดเด่นกับหุ่นราวกับนายแบบเกรดเอแล้ว ไอ้โจ้ก็มีบุคลิกที่อบอุ่นกับท่าทางที่เป็นกันเองด้วยครับ อีกทั้งยังมีรอยยิ้มพิมพ์ใจชวนมอง ถือว่าเป็นอาหราตาระดับพรีเมียมเลยทีเดียว

"แล้วมึงมาทำไรวะ"

"กูมาเดินเล่น กะว่าจะหาของกินแถวนี้"

คือ...มันต้องอย่างนี้สิครับ! ตอบให้ตรงคำถาม ไม่ใช่กวนตีนกลับเหมือนใครบางคน

"อืม"

"ไปกินด้วยกันป่ะ พอดีกูมาคนเดียว"

ผมก็นึกลังเล เพราะการนั่งกินข้าวไปมองหน้าคนหล่อไปก็น่าสนใจจนยากที่จะปฏิเสธ เสียแต่ว่าวันนี้ผมไม่ได้มาคนเดียวแล้ว

"ไอ้เล้ง รถมึงจอดชั้นไหน"

ไอ้อิงถามผมเสียงนิ่ง ก่อนจะมองไอ้โจ้เล็กน้อย แล้วหันมาสนใจผมต่อ

"ชั้นห้า"

"เอากุญแจรถมึงมา"

ผมก็งงอยู่นะครับ แต่ก็ยอมทำตามที่มันบอกไป ไอ้อิงก็คว้ากุญแจรถแล้วชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปเฉย

"เฮ้ย!"

ผมมองตามไปแบบคนงงกับชีวิต ดูเหมือนไอ้โจ้เองก็คงงงเหมือนกัน ผมเลยส่งยิ้มให้มันเล็กน้อย

"กูขอตัวก่อน ไว้ค่อยเจอกัน"

"อืม ไว้เจอกัน"

ผมรีบวิ่งตามไอ้อิงที่ไม่ได้เดินเร็วอย่างที่คิด ก่อนที่เราสองคนจะมายืนอยู่หน้าลิฟต์ แล้วผมก็หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างกัน

"อะไรของมึงเนี่ย"

"ยุ่งอะไรด้วยวะ"

"ก็มึงเอากุญแจรถกูไป"

"แล้วมึงส่งให้กูทำไม"

"ก็..."

ผมก็ถอนหายใจออกมา พลางมองไอ้อิงที่กำลังตอกย้ำความด๋อยของผมอย่างเย้ยหยัน ถือว่าคราวนี้เป็นความผิดของผมเองก็ได้ที่ดันซื่อบื้อโชว๋โง่ออกไปแบบนั้น

"แล้วมึงไม่ได้เอารถมาเหรอ"

"หึ! กูไม่ได้รวยมีรถขับอย่างมึง"

ผมก็ได้แต่มองสีหน้าหาเรื่องของมันโดยไม่ได้โต้ตอบอะไร ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้ามาในลิฟต์ แล้วมันก็โยนกุญแจรถคืนให้ผมครับ

"ขับรถไปส่งกูเลยไอ้สัตว์"

กูเป็นคนรับใช้มึงไง? สั่งอยู่ได้!

ผมก็ได้แต่จิ๊จ๊ะกับตัวเองอยู่คนเดียวครับ ถ้าโวยวายอาจจะโดนมันกระทืบทิ้งได้ ลานจอดรถก็เปลี่ยวชวนให้ลองตีนเล่นเพลินแบบไม่มีใครสนใจด้วย

เอาเถอะ...วันนี้กูยอมมึงเพราะเว่นของมึง รู้เอาไว้ด้วย!


..........

 
เมื่อเราสองคนเดินมาหยุดตรงรถยนต์คันสวยของผม ไอ้อิงก็มองเล็กน้อยพลางตีหน้ายุ่งออกมา แล้วเมินใส่ตามสไตล์ของมัน ผมก็ไม่ได้ใส่ใจครับ มันจะชักสีหน้าบ่อยจนมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าก็ไม่เกี่ยวกับผม

ปกติรถยนต์ของผมจะมีตุ๊กตาหน้ารถเป็นผู้หญิงครับ ส่วนเพื่อนของผมเกือบทุกคนก็มีรถยนต์ส่วนตัวขับกันเอง วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่คนนั่งข้างผมเป็นผู้ชาย

ผมไม่ได้เปิดเพลงฟัง แล้วมันก็นั่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ผมมองมันเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจถนนข้างหน้า

"ให้ไปส่งที่ไหน"

"ห้องกูไงไอ้โง่"

เดี๋ยวกูก็ถีบมึงลงข้างทางนี่แหละ ไอ้เหี้ย!

ผมก็ทำตัวเก่งอยู่แค่ในใจคนเดียวเท่านั้นแหละครับ เอาเข้าจริงก็กลัวตัวเองนั่นแหละจะโดนเล่นงาน เรื่องชกต่อยทำร่ายร่างกายคนอื่นไม่ใช่แนวของผมหรอกครับ

"มึงมีรถกี่คันวะ"

"สองคัน คันนี้ชื่อบันนี่ ส่วนอีกคันชื่อแฟร์รี่"

"ทำไมต้องตั้งขื่อ ปัญญาอ่อนหรือไง"

"มึงไม่รู้หรือไง การตั้งชื่อคือการให้ความสำคัญ สิ่งไหนที่กูใส่ใจก็จะเรียกชื่อ"

"งั้นเรียกกูว่าพี่อิง"

"ฮะ?"

ผมหันไปมองไอ้อิงด้วยความงงกับการเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ส่วนมันก็มองมาด้วยท่าทางจริงจังในมาดหนุ่มแว่นขรึมทรงเสน่ห์ครับ

"กูอยู่ปีสี่"

"อืม"

ผมก็ได้แต่ตอบรับไปตามเรื่องตามราว ก่อนที่เราสองคนจะไม่ได้พูดอะไรอีกจนกระทั่งผมขับรถมาถึงหน้าหอพักของไอ้อิง

"เอามือถือมึงออกมา"

"อะไรวะ"

"กูสั่ง เอาออกมา"

ผมก็บ้าจี้ยอมมันครับ ก็พอจะรู้ว่าไอ้อิงจะทำอะไร แต่ก็เล่นตัวนิดหน่อยให้มันด่า หลังจากนั้นมันก็บังคับแลกเบอร์โทรศัพท์กับผมครับ

"ถ้ากูโทรไปไม่รับ เจอดีแน่"

"แล้วมึงจะโทรมาทำไมวะ"

"ไม่ใช่เรื่องของมึง"

"ถ้ากูไม่รับ ก็ไม่ใช่เรื่องของมึงเหมือนกัน"

"ไอ้เล้ง!"

"ทำไมวะไอ้อิง!"

ทันทีที่ผมพูดจบ ไอ้อิงก็กระชากคอเสื้อของผมเข้ามาใกล้ และก่อนที่ผมจะทันได้เข้าใจอะไรก็โดนจูบไปแล้ว!

"เมื่อกี้กูบอกให้มึงเรียกกูยังไง"

ผมเบิกตากว้างประสานกับสายตาภายใต้กรอบแว่นวาววับดูน่ากลัว ทว่าในขณะเดียวกันดวงตาคู่นั้นที่สะท้อนภาพของผมชัดเจนก็น่าหลงใหลจนไม่อยากเบือนหนี

"ไอ้..."

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบดีด้วยซ้ำ ผมก็โดนไอ้อิงปล้นจูบอีกครั้ง ถึงจะเป็นเหมือนจูบสั่งสอนตามฉบับผู้ชายซาดิสต์แต่ก็ไม่ได้รุนแรงจนเจ็บปากอย่างที่คิด ในทางกลับกันริมฝีปากที่บดเบียดและปลายลิ้นที่แทรกเข้ามาก็ทำให้ผมเคลิ้มไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อใบหน้าได้สัมผัสกับความเย็นของกรอบเว่นโลหะก็ทำให้รู้สึกระทวยยิ่งกว่าเดิม

"หึ! หาเรื่องเองนะมึง"

ไอ้อิงดันกรอบแว่นสายตาของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเดินลงออกจากรถไป ผมก็ปรับลมหายใจของตัวเอง แล้วมองตามแผ่นหลังที่หายเข้าไปในหอพัก

ผมยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะขับรถกลับคอนโดของตัวเอง  ความรู้สึกวาบหวามที่เปื้อนอยู่เต็มริมฝีปากยังติดแน่นอยู่ในใจ จะว่ายังไงดีล่ะ...ผมก็หาเรื่องจริงๆ นั่นแหละ

แหม...ก็ผมอยากจูบกับหนุ่มแว่นนี่หว่า
.

.

.

Next Step Lpading…

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เล้งมีความร้ายกาจ5555555
พี่อิงน่ารักกซึนไปอี้กก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เล้งมีความอ่อย  :katai2-1:

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เดาว่าชื่อเรื่อง'รักข้างเดียว'นี่มาจากฝั่งอิงใช่ไหม
แบบว่าอิงแอบชอบเล้งแต่หาเรื่องเค้าตลอดงี้ เพราะฐานะต่างกันสินะ ก็ต้องคอยติดตามตอนต่อไป อิอิ :hao7:
เล้งแอบชอบมีน แต่ตอนนี้เหมือนจะลืมมีนแล้วเพราะมีหนุ่มแว่นมาคอยป่วน :hao6:
อยากบอกว่าอิงนี่สเป็คเลยอะ หนุ่มแว่นแถมซึนอีก กรี๊ดดด :-[
ชอบอิงมาก มาต่อเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อร๊ายยยยยยยยยยยยย สนุกอะ  :impress2: :impress2: :impress2:
รอติดตามค่าาาาาา
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ฟินมากก  พี่อิงหนุ่มแว่นสายซึน เล้งก็พร้อมจะอ่อยพี่อิงตลอดๆ
คำพูดกับการกระทำตรงข้ามกัน ทำให้ความโหดกลายเป็นความมุ้งมิ้งขึ้นมาทันที


ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
นังเล้งงงง นังแรดดดดดดด 55555555
สนุกอ่ะ ชอบมาก หานิยายถูกใจเจอแล้ว เฮ้ๆๆ :katai2-1:
ขอติดแฮชแท็ก #ทีมพี่อิง ข่ะ หนุ่มแว่นสายซึน ฮ่าาาา  :hao6:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
สนุก~~~
ขอบตุณค่ะ ^^

เล้งมีความร้ายกาจ5555555
พี่อิงน่ารักกซึนไปอี้กก
พี่เล้งชอบยั่ว อิอิ

เล้งมีความอ่อย  :katai2-1:
จากนี้ไปก็จะอ่อยไปเรื่อยๆ จ้า 555

เดาว่าชื่อเรื่อง'รักข้างเดียว'นี่มาจากฝั่งอิงใช่ไหม
แบบว่าอิงแอบชอบเล้งแต่หาเรื่องเค้าตลอดงี้ เพราะฐานะต่างกันสินะ ก็ต้องคอยติดตามตอนต่อไป อิอิ :hao7:
เล้งแอบชอบมีน แต่ตอนนี้เหมือนจะลืมมีนแล้วเพราะมีหนุ่มแว่นมาคอยป่วน :hao6:
อยากบอกว่าอิงนี่สเป็คเลยอะ หนุ่มแว่นแถมซึนอีก กรี๊ดดด :-[
ชอบอิงมาก มาต่อเร็วๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ จะเป็นยังไงต่อต้องติดตามต่อไปนะคะ

อร๊ายยยยยยยยยยยยย สนุกอะ  :impress2: :impress2: :impress2:
รอติดตามค่าาาาาา
 :mew1: :mew1:
ขอบคุณค่ะ ^^

ฟินมากก  พี่อิงหนุ่มแว่นสายซึน เล้งก็พร้อมจะอ่อยพี่อิงตลอดๆ
คำพูดกับการกระทำตรงข้ามกัน ทำให้ความโหดกลายเป็นความมุ้งมิ้งขึ้นมาทันที


พี่อิงไม่โหด เค้าแค่ขี้อายแบบรุนแรง อิอิ

นังเล้งงงง นังแรดดดดดดด 55555555
สนุกอ่ะ ชอบมาก หานิยายถูกใจเจอแล้ว เฮ้ๆๆ :katai2-1:
ขอติดแฮชแท็ก #ทีมพี่อิง ข่ะ หนุ่มแว่นสายซึน ฮ่าาาา  :hao6:
ขอบคุณค่ะ ^^

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
4th Step : งานเลี้ยง สระว่ายน้ำ และสายที่ไม่ได้รับ
[Leng]



ผมเรียนอยู่คณะบริหารชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยเอกชนครับ อย่าหาว่าผมหัวไม่ดีจนสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐไม่ติดเลย ผมก็แค่มีเงินเลยเลือกเรียนอะไรที่สบายกว่า

"ไอ้เล้ง มึงทำรายงานมาเปล่าวะ"

ผมหันไปมองไอ้เป้ที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งด้วยกันที่โต๊ะใกล้กับตึกคณะแบบไม่ค่อยได้สนใจนัก

"เพิ่งทำเสร็จเมื่อเช้า"

ผมยื่นรายงานที่ทำอย่างรวดเร็วในเวลาหนึ่งชั่วโมงให้ไอ้เป้ดู มันพลิกหน้ากระดาษพร้อมกับชักสีหน้าใส่ทันที

"นี่มึงก็อปแล้ววางอีกแล้วเหรอ"

"แล้วไงวะ ข้อมูลก็ถูกต้อง มึงคิดว่าอาจารย์จะอ่านหรือไงวะ ก็แค่ดูผ่านๆ"

"แม่ง! หน้านี้ยังติดชื่อเว็บอยู่เลยเถอะไอ้สัตว์"

"เฮ้ย! ไหนดูดิ"

ผมรีบแย่งรายงานของตัวเองมาดู แล้วพบว่าเนื้อหาที่คัดลอกแล้ววางในโปรแกรมเวิร์ดดันติดที่อยู่เว็บมาด้วยครับ

"กูมีแหล่งอ้างอิงไง ไม่ได้มโนมาเอง"

"แถไปได้ เรื่องของมึงเถอะ"

ไอ้เป้ทำหน้าเหนื่อยใจ ก่อนจะเลิกสนใจผมแล้วกลับไปแชทกับสาวของมันต่อแทน ผมเองก็หาอะไรเล่นไปเรื่อย

"ไง"

เสียงของไอ้แชมป์ที่ทักขึ้น ทำให้ผมหันไปมองเล็กน้อย มันยังนั่งไม่ทันถึงห้านาที ก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา พร้อมกับยื่นรายงายเล่มหนึ่งมาให้ครับ

"นี่ครับพี่แชมป์"

"ดีมากไอ้ลูกหมา เอารางวัลมึงไป"

"ขอบคุณครับ"

หลังจากนั้นรุ่นน้องปริศนาก็เดินจากไปพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งที่ไอ้แชมป์ควักให้เมื่อครู่ พวกเราไม่ค่อยแปลกใจกับพฤติกรรมของมันเท่าไหร่หรอกครับ

เราสามคนเวลาทำงานก็คนละสไตล์ครับ ผมเป็นพวกเสร็จเร็วไว้ก่อน ส่วนใหญ่ก็หาจากกูเกิ้ลแล้วเอามาทั้งดุ้นแปะให้มันดูเยอะเข้าไว้ เรียกสั้นๆ ว่า มักง่าย ส่วนไอ้เป้จะทำออกมาดีหน่อย มีการจัดแต่งประโยค เนื้อหาไม่เยอะแต่ก็เก็บประเด็นได้เกือบหมด ถือว่าเป็นรายงานระดับต่ำทั่วไป สุดท้ายก็ไอ้แชมป์...มันไม่เคยทำเอง มันเคยบอกผมว่าเสียเวลา มีเงินก็จ้างคนอื่นทำไปไม่ใช่หน้าที่ของมัน ผู้บริหารที่ดีต้องฉลาดเรื่องใช้เงินกับคนทำนองนั้น เอาเป็นว่ากลุ่มของผมไม่มีใครสนใจเรื่องการเรียนสักเท่าไหร่ ขอจบเอาวุฒิก็พอ เพราะพวกเราก็มีเส้นทางอาชีพรองรับให้ทำอยู่แล้ว

"พี่เล้งคะ"

ผมหันไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินเข้ามานั่งข้างกัน เธออยู่ในชุดนักศึกษารัดรูปเน้นทรวดทรง ก่อนที่เธอจะคล้องแขนของผมเอาไว้อย่างสนิทสนม

ใครวะ?

"ทำไมทำหน้างงอย่างนั้นล่ะคะ กิ๊ฟไง รุ่นน้องพี่ซิม"

อ้อ...รุ่นน้องไอ้ซิม

แรมความจำเรื่องผู้หญิงของผมค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าเรื่องผู้ชายหน้าตาดีหุ่นโดนใจล่ะก็ เร็วยิ่งกว่าสี่จีครับ

"แล้วมีอะไรเหรอ"

ผมมองกิ๊ฟที่ส่งยิ้มหวานอย่างให้ท่าแบบไม่ค่อยสนใจนัก อย่าหาว่าผมมองโลกในแง่ร้ายเลย ผู้หญิงส่วนใหญ่ของที่นี่ก็เน้นเรื่องกิจกรรมบนเตียงมากกว่าการเรียนครับ มีแต่ลูกคนรวย ถ้าไม่มีเงินก็หาวิธีดันตัวเองเข้าไป ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ได้รับความสนใจหรือถูกมองในสถานะที่ต่างออกไป

"วันนี้พี่เล้งว่างไหมคะ วันนี้วันเกิดกิ๊ฟค่ะ เลยอยากชวนพี่เล้งไปด้วย"

"ทำไมชวนแต่ไอ้เล้งล่ะครับ น้องกิ๊ฟคนสวย"

ไอ้เป้เสือกขึ้นมาแล้วครับ

"แหม...ก็ชวนพี่เป้ด้วยค่ะ พี่แชมป์ด้วยนะคะ"

"ไม่รับปากว่าจะไป"

ไอ้แชมป์ไม่ค่อยสนใจงานรี่นเริงทำนองนี้ครับ ผิดกับไอ้เป้ที่ชื่นชอบมาก ส่วนผมยังไงก็ได้ เบื่อๆ ว่างๆ ก็โอเคครับ

"แล้วจัดที่ไหน"

ที่จริงแล้วผมอยากถามว่ามีคนหล่อไปเยอะหรือเปล่ามากกว่า แต่ก็ยังไม่กล้าแสดงตัว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาแกรนด์โอเพนนิงครับ

"จัดที่โรงแรม M ค่ะ กิ๊ฟเหมาโซนบาร์ริมสระว่ายน้ำเอาไว้ ไปนะคะพี่เล้ง"

"ก็ได้"

"เย้! ดีใจจังเลย มารับกิ๊ฟที่ห้องด้วยนะคะ จุ๊บ"

ผมก็ตกใจนิดหน่อยครับ ไม่ได้หนังหน้าหนาจนไม่รู้สึกอะไร พร้อมกับมองรอยยิ้มหวานของกิ๊ฟที่หย่อนกระดาษใบหนึ่งใส่กระเป๋าเสื้อของผม แล้วเดินสวยออกไป

"อ่อยไม่เกรงใจใคร"

ผมมองไอ้เป้ที่พูดแซวออกมา แล้วหยิบการ์ดที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์มือถือของกิ๊ฟออกมาดู

"ไอ้เล้ง ถ้าคืนนี้ไม่ได้น้องกิ๊ฟ ก็ควายเลยนะมึง"

ผมมองไอ้เป้เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร คืนนี้ผมไม่ได้หวังอะไรมาก แค่มีอาหารตาให้เชยชมก็โอเคแล้วครับ


..........

 
ผมไปรับกิ๊ฟที่ห้องของเธอตอนสี่โมงเย็น ก่อนที่เราสองคนจะถึงโรงแรมตอนหนึ่งทุ่มตรง พวกเราไม่ได้เสียเวลาระหว่างการเดินทางหรอกนะครับ แต่ดันใช้เวลาแต่งตัวให้เจ้าของวันเกิดนานไปหน่อย

งานเลี้ยงวันเกิดไม่ได้มีอะไรต่างจากที่คิดเอาไว้ครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อน รุ่นพี่ และรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าก็มีผู้ชายหน้าตาดีอยู่หลายคนให้มองแบบเพลินๆ

"เฮ้ย! มึงมาจริงหรือวะ ไม่นึกว่ากิ๊ฟจะกล้าไปชวน"

"ก็ว่างพอดี"

ภาพลักษณ์ของผมเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยากครับ แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมวางตัวสูงส่งอะไร เพียงแต่ว่าน้อยคนจะมีความมั่นใจมากพอที่จะเข้าหา เพราะข่าวฉาวของผมที่เน้นคั่วผู้หญิงเกรดเอ ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองดีพอก็ไม่กล้ามาเสนอตัวให้ผมรู้จักหรอกครับ

ถึงแม้จะมีผู้ชายหน้าหล่อให้ลอบมองรายทาง แต่โดยรวมแล้วงานเลี้ยงก็เป็นไปด้วยความน่าเบื่อ เพราะผมเริ่มเอียนกับบรรยากาศของงานไฮโซที่เจอจนชินตา นอกจากจะอวดรวยใส่กัน ก็ดื่มกินเต้นไปตามประสา

ตอนแรกผมคิดว่าไอ้เป้ที่ทำท่าทางสนใจจะมาร่วมงานด้วย แต่สุดท้ายมันก็เบี้ยวครับ โดยมีข้ออ้างว่าติดสาว ส่วนไอ้แชมป์ก็ไม่เสียเวลาอันมีค่าของมันมางานแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากกิ๊ฟจะมีข้อเสนอหรือแรงจูงใจมากพอให้ไอ้หน้าเลือดมันกอบโกย

ภายในงานก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาพูดคุยกับผมครับ นอกจากจะมีผู้หญิงไม่กล้าเข้าหาแล้ว ผู้ชายบางคนก็หมั่นไส้แกมอิจฉาผมจนไม่อยากเสวนาด้วย ตอนนี้ผมเลยเป็นชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยวพลางเกี้ยวผู้ชายที่สนใจด้วยสายตาไปเรื่อย

"พี่เล้งมาเต้นด้วยกันสิคะ"

"พี่เต้นไม่เป็น"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกิ๊ฟสอนให้ก็ได้ค่ะ"

หลังจากนั้นกิ๊ฟก็มาเต้นยั่วผมครับ บางทีเธออาจจะจินตนาการว่าผมเป็นเสาให้เธอได้รูดเล่น น้องเขามาเต็ม ผมก็เลยต้องตอบสนองไปบ้างด้วยการโอบเอวและซบซอกคอกรุ่นกลิ่นน้ำหอมหรูของเธอไปตามหน้าที่

"พี่เล้งเตรียมของขวัญอะไรให้กิ๊ฟคะ"

เสียงหวานแผ่วและรอยยิ้มสวย ทำให้คนฟังเพ้อได้ไม่ยาก แต่ใช้กับผมไม่ค่อยได้ผลครับ แต่ก็ยอมรับว่าน่าฟังชวนมองอยู่ไม่น้อย

"ไม่ได้เตรียม ก็เพิ่งรู้"

"งั้น...คืนนี้กิ๊ฟขอของขวัญเป็นพี่เล้งนะคะ"

ผมสบสายตาหยดย้อยอย่างสื่อความหมายของกิ๊ฟครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวลงจูบปากของเธอเป็นคำตอบ หลังจากนั้นเสียงฮือฮารอบตัวก็ดังขึ้น

"โห! เกรงใจกันบ้าง"

"แน่จริงก็เล่นหนังสดโชว์เลย"

เสียงโห่แซวดังมาจากรอบทิศทาง กิ๊ฟหน้าแดงจนต้องเข้ามาซบอกของผมเอาไว้อย่างเขินอาย ส่วนผมก็ทำหน้าปกติตามแบบผู้ชายมาดเท่ไม่แคร์สื่อครับ

หลังจากนั้นเพียงไม่นานบรรยากาศก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนกิ๊ฟก็กอดเอวคล้องแขนผมอย่างเป็นเจ้าของเป็นที่เรียบร้อย

"พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน"

"ค่ะ มาเร็วๆ นะคะ"

ผมเดินแยกออกมาจากงานเลี้ยงที่เปิดเพลงอย่างสนุกสนาน แล้วมาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่สั่นและส่งเสียงอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู

ไอ้อิง...

ผมนึกลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็กดรับ แล้วก็ต้องรีบดึงออกจากหูทันที เมื่อเสียงตะคอกที่คุ้นเคยดังลั่น

[ไอ้เหี้ยเล้ง! ทำไมเพิ่งรับสายวะ! กูบอกแล้วใช่ไหม ถ้ามึงไม่รับสาย เจอดีแน่!]

"ก็รับแล้วนี่ไง"

[ไอ้สัตว์! กูโทรไปหลายรอบแล้ว ตอนนี้มึงอยู่ไหน!]

"โรงแรม M"

[เออ!]

แล้วไอ้อิงก็ตัดสายไปครับ ผมก็ยังงงอยู่ แต่ก็ไม่อยากคิดอะไรมาก นึกว่าคนบ้าโทรมากวนก็แล้วกัน จากนั้นผมก็เดินกลับเข้างานเลี้ยง

"พี่เล้งทางนี้ค่ะ จะได้เวลาเป่าเค้กแล้ว"

ผมก็รีบเดินมายืนอยู่ข้างกิ๊ฟ ไฟที่จัดไว้รอบบริเวณถูกดับลงเกือบหมด ก่อนจะมีเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้น พร้อมกับเคักขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาวางไว้ตรงโต๊ะยาวด้านหน้า

กิ๊ฟยืนยิ้มแล้วหลับตาเหมือนกำลังอธิษฐานบางอย่าง ก่อนจะเป่าเทียนทั้งหมดดับพร้อมกับเสียงแสดงความยินดี

"สุขสันต์วันเกิด"

"ขอบคุณค่ะพี่เล้ง"

ผมมองรอยยิ้มหวานของกิ๊ฟ ก่อนที่เพื่อนของเธอจะเร่งให้ตัดเค้กแบ่งกัน ผมก็ยืนหลบมุมออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้น เมื่อมีใครสักคนขว้างเค้กก้อนหนึ่งใส่หน้าผม

"เฮ้ย!"

ตู้ม!

ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เรื่องที่ถูกเค้กปาใส่หน้าก็ไม่เท่าไหร่ เรื่องที่ถูกผลักจนหงายหลังล้มก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องตกน้ำคงปล่อยให้ผ่านเลยไปไม่ได้!

ผมว่ายน้ำไม่เป็นครับ!

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5

"อ่ะ..."

ผมรู้สึกหนาวไปหมดเหมือนตัวเองกำลังหายใจไม่ออก ประสาทสัมผัสรอบตัวก็หยุดทำงานไปกะทันหัน ความหวาดกลัวและตกใจทำให้ผมตะเกียกตะกายเอาตัวรอดตามสัญชาตญาน แต่เหมือนร่างกายของผมจะมีลูกตุ้มถวงเอาไว้

 "เลิกดิ้นได้แล้วไอ้สัตว์"

เสียงทุ้มที่ดังข้างหูพร้อมกับอ้อมแขนที่เข้ามาหา ทำให้ผมรีบกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่นในทันที ตอนนี้ผมไม่ได้ยินอะไร นอกจากลมหายใจที่เป่ารดต้นคอ ก่อนที่ผมจะรีบสูดอากาศเข้าปอด เมื่อตัวเองกลับมานอนหมดสภาพอยู่บนบกในที่สุด

รอดตายแล้ว...

"พี่เล้ง!"

"ถอยออกไป"

ผมปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมีใครสักคนเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ และเมื่อร่างกายของผมเริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น

"ว้าย!"

ไอ้อิงกำลังต่อยใครสักคนอยู่ครับ โดยที่มีคนยืนดูแล้วก็ช่วยกันจับเอาไว้ ผมเองก็เลยต้องรีบลุกไปช่วยห้ามอีกแรง ดูก็รู้แล้วครับว่ามวยคนละรุ่น

"พอ..."

"มันเป็นคนผลักมึงตกน้ำ!"

ผมก็มองผู้ชายที่ไม่รู้จักอีกรอบที่ตอนนี้ใบหน้าบวม แถมยังเลือดกบปากจนดูไม่ได้ ผมก็รู้สึกโกรธนะครับ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ใครมีเรื่องกัน

"พอได้แล้วน่า...พี่อิง"

"ฮี่ย! ที่แบบนี้ เสือกจะมาเป็นคนดี"

ไอ้อิงฮึดฮัดออกมา แต่ก็ยอมหยุดตามคำพูดของผม ส่วนไอ้คนที่เล่นงานผมก็ถูกใครสักคนพาหลบออกไป กิ๊ฟวิ่งเข้ามาหาผม ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความตกใจและเสียใจ เธอรีบเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผมทันที

"พี่เล้ง ไม่เป็นไรนะคะ กิ๊ฟขอโทษค่ะ"

"ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของกิ๊ฟนี่"

"เขาเป็นแฟนเก่ากิ๋ฟค่ะ พยายามมาง้อแต่กิ๊ฟไม่สนใจ ไม่นึกว่าเขาจะ..."

 ทว่าในขณะที่กิ๊ฟกำลังเช็ดหน้าและกล่สบโทษตัวเองอยู่ ไอ้อิงก็กระชากแขนของผมออกมา ก่อนจะเขวี้ยงผ้าเช็ดตัวไปอีกทางแบบไม่สนใจใคร

"กลับได้แล้ว แม่ง!"

 
..........

 
"รถมึงจอดไหนวะ"

"ชั้นบีสอง"

ไอ้อิงก็กดลิฟต์ไปยังชั้นที่ผมบอก โดยที่มือของมันยังคว้าแขนของผมเอาไว้ ผมมองใบหน้าหงุดหงิดเหมือนผู้หญิงในวันแดงเดือด ก่อนที่เราสองคนจะมาหาน้องแฟร์รี่สุดสวยที่ผมจอดไว้

"กุญแจ"

ผมก็ส่งกุญแจที่เปียกให้มันแต่โดนดีครับ ก่อนจะเดินมายังตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับแย่างรู้งาน ตอนนี้กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือเปียกไปหมด

ผมมองไอ้อิงที่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อคนที่ลอบมองอยู่หันมา

"หึ! ดูไม่ได้"

ไอ้อิงถอดเสื้อยืดที่เปียกของมันออกมา ก่อนจะจับเป็นก้อนมาเช็ดหน้าให้ผมต่อ ผมก็ขัดขืนเล็กน้อย เพราะมันกดแรงจนหายใจไม่ออกครับ

"พอแล้ว เดี๋ยวเช็ดเอง"

ไอ้อิงก็ยอมครับ มันปล่อยมือจากก้อนเสื้อที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นผ้าเช็ดหน้าให้ผมจัดการเองแต่โดยดี ทั้งที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาหื่นเลยสักนิด แต่ผมก็แอบเนียนสูดกลิ่นเสื้อของมันไปครับ

ทั้งที่เปียกแบบนี้ แต่ทำไมหอมวะ..

หลังจากฟินกับกลิ่นหนุ่มหล่อที่ติดเสื้อมาเต็มที่ ผมก็มองท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์กล้ามเนื้อกำลังดีของคนขับเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังใบหน้าที่กำลังมองถนนข้างหน้าอยู่

"มึงมาได้ยังไงวะ"

"นั่งแท็กซี่มา"

"แล้วมึงมาทำไม"

ไอ้อิงก็ขมวดคิ้วพลางหันมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจถนนยามค่ำคืนต่อ

"ก็มึงไม่รับสาย กูก็เลยจะมาจัดการมึง"

"ฮะ?"

แค่นี้เนี่ยนะ...?

อาจเป็นเพราะสีหน้างุนงงของผมที่แสดงออกไปอย่างชัดเจน ไอ้อิงเลยหยิบโทรศัพท์มือถือของมันออกมากดอะไรสักอย่าง ขณะที่รถจอดติดไฟแดง แล้วยื่นมาให้ สิ่งที่ผมเห็นเป็นรูปที่ผมกำลังจูบกับกิ๊ฟที่ริมสระว่ายน้ำเมื่อชั่วโมงก่อนครับ ตอนนี้ก็มีคนกดไลค์กดแชร์แสดงความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน

"เอ่อ...แล้วไง"

"ไอ้เล้ง!"

ผมก็เบ้หน้าออกมา แก้วหูแทบลั่นครับ พื้นที่ก็มีอยู่แค่นี้ จะตะโกนทำไมวะ...

"ก็แค่มีคนถ่ายไปลง กูไม่สนใจหรอก"

"มึงไม่อาย?"

"ก็แค่จูบ"

"มึงนี่มัน!"

ไอ้อิงทำหน้าไม่พอใจใส่ แต่เพราะยังขับรถอยู่ก็เลยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ผมก็มองวิวข้างทางไปอย่างสบายอารมณ์แต่ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ตอนนี้อยากอาบน้ำมาก

"ว่าแต่ทำไมวันนี้มึงไม่ใส่แว่น"

"ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง คินนี้กูจะสั่งสอนมึง!"

ผมก็ได้แต่มองสีหน้าอารมณ์เสียของมัน ก่อนจะมองเส้นทางที่ไม่ได้มุ่งหน้าสู่คอนโดฯ ของผม อันที่จริงไอ้อิงก็ไม่รู้ว่าผมพักที่ไหนอยู่ดีนี่หว่า แล้วทำไมมันไม่ถาม?

"หึ! ที่แบบนี้ เงียบไปเลยนะมึง"
 
ผมลอบมองไอ้อิงอีกครัง ก่อนความคิดบางอย่างจะวิ่งเข้ามา แล้วกลับไปสนใจภาพข้างทางที่ผ่านสายตาไปอย่างรวดเร็วแทน

หรือว่า...มันตั้งใจจะพาผมไปห้องมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ววะ

.

.

.

Next step loading...

 
Marionetta ::: สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาต่อแล้วจ้า ^^
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ยังไงก็ฝากพี่อิงกับพี่เล้งด้วยค่ะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
หง่ะ อยากอ่านต่อแล้ววววว   :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
คนสายซึน คนสายอ่อย 5555555
ว่าแต่ใครช่วยเล้งขึ้นจากน้ำนะ? อิงหรอ?

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จะสงสารเล้งดีไหมที่ต้องทนกับปากร้ายๆที่ไม่ตรงกับความรู้สึกของอิง แต่เวลาโดนว่าแรงๆก็ดูไม่โกรธนี่นะ ส่วนอิงนี่ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเล้งแอบฟินทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน :hao7:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
:บทลงโทษที่เล้งแสนฟิน
ถูกใจเขานั่นแหละ 555

หง่ะ อยากอ่านต่อแล้ววววว   :hao7: :hao7:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

:pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ ^^

คนสายซึน คนสายอ่อย 5555555
ว่าแต่ใครช่วยเล้งขึ้นจากน้ำนะ? อิงหรอ?
พี่อิงนั่นแหละค่ะ อิอิ

จะสงสารเล้งดีไหมที่ต้องทนกับปากร้ายๆที่ไม่ตรงกับความรู้สึกของอิง แต่เวลาโดนว่าแรงๆก็ดูไม่โกรธนี่นะ ส่วนอิงนี่ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเล้งแอบฟินทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน :hao7:
เล้งชอบให้พี่อิงด่าค่ะ เอิ๊กๆ


ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
5th Step : แพ้ทาง
[Leng]


 
ทั้งที่คิดว่าจะถูกหนุ่มสี่ตาที่คืนนี้ไม่ได้ใส่แว่นลงโทษด้วยความฟิน แต่เพราะมันมีธุระด่วนออกไปข้างนอกกะทันหัน คราวนี้ผมถึงรอดตัวไปอย่างน่าเสียดาย และด้วยความเพลียจากเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ผ่านมา พอผมอาบน้ำเสร็จก็เผลอหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว ก่อนที่ผมจะตื่นขึ้นมาอีกทีจากแรงถีบของคนที่นอนอยู่ข้างกัน

"ไสหัวไปได้แล้ว"

ผมก็งัวเงียลืมตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพราะเท้าที่ดันก้นของงผมให้ออกจากเตียงอย่างแข็งขัน ทำให้คนขี้เซาอย่างผมลุกไปอาบน้ำอย่างจำใจ และเมื่อออกมาจากห้องน้ำ ไอ้อิงก็เขวี้ยงเสื้อผ้าของมันชุดหนึ่งมาให้อย่างพวกไร้อารยธรรม

ไอ้เหี้ยเอ๊ย! คิดจะสั่งสอนคนอื่น ก็หัดอบรมมารยาทตัวเองบ้างเถอะ!

ผมก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจ แล้วใส่เสื้อผ้าของมัน ก่อนจะมองเจ้าของห้องที่ตอนนี้กลับไปจำศีลกับกองผ้าห่มบนเตียงอีกรอบ

อะไรวะ! ทำไมมึงนอนต่อได้ แต่กูนอนต่อไม่ได้?

"เฮ้ย! ตื่นดิ"

ผมเดินไปดึงผ้าห่มของมันออก ก่อนจะลากคนที่นอนสบายออกจากเตียง ใบหน้าหล่อที่ยับเยินจากการนอนมองผมด้วยความไม่พอใจ

"ยุ่งไรวะ กูจะนอน"

"กูตื่น มึงก็ต้องตื่น อย่ามาเอาเปรียบ"

"น่ารำคาญว่ะ วันนี้กูว่าง ส่วนมึงมีเรียนไม่ใช่หรือไงวะ แม่ง!"

ผมมองไอ้อิงด้วยความแปลกใจและสงสัย ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะรู้ประวัติของผมดีเกินคาด ขนาดผมเองยังจำตารางชีวิตของตัวเองไม่ค่อยได้เลยครับ

"มึงว่างก็ไปส่งหน่อย"

ไอ้อิงทำหน้ายุ่งใส่ แต่ก็ยังฝืนแรงเกาะเตียงแน่นเป็นตุ๊กแก ผมก็เลยต้องเริ่มงัดกลยุทธ์ขั้นต่อไป

"นะครับพี่อิง ไปส่งหน่อย"

งานนี้ถ้าใช้ไม้แข็งไม่ได้ ก็ต้องลองใช้ไม้อ่อนดู ไม่ว่ายังไงก็ต้องขัดขวางการนอนของมันให้ได้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร นอกจากความสะใจครับ

ผมทำหน้าอ้อนแบบที่ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะมองแล้วเป็นยังไง ไอ้อิงทำเสียงไม่พอใจ แต่ก็ยอมลุกออกมาจากเตียงในที่สุด

"หึ!"

ไอ้อิงแค่นยิ้มตรงมุมปาก ก่อนจะเข้ามาบีบหน้าของผมแรงๆ ทีหนึ่ง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมก็ได้แต่นวดหน้าของตัวเองคลายความเจ็บไปครับ ผมว่ามันต้องซาดิสม์อ่อนๆ แน่

ผมรอมันอาบน้ำแต่งตัวอยู่ไม่นาน เราสองคนก็เดินออกมาจากห้อง ผมมองไอ้อิงที่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เหมือนเคย แล้วนึกแผนการบางอย่างขึ้นมาในใจ

"ไปคอนโดกูก่อน แล้วค่อยไปมอ"

"เออ"

ผมส่งกุญแจของน้องแฟร์รี่ไปให้ มันก็บ่นเหมือนตาแก่อีกนิดหน่อย แล้วทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ผมแต่โดยดี


..........

 
ท้องถนนในช่วงเร่งด่วนค่อนข้างติดขัด แต่คนอารมณ์ร้อนอย่างไอ้อิงก็ไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิดอะไร ก่อนที่มันจะขับรถไปถึงคอนโดฯ ของผมตอนเกือบเก้าโมง

"เข้ามารอในห้องดิ"

ไอ้อิงไม่ได้ตอบรับอะไร แค่ก็ยอมลงมาจากรถ ก่อนที่เราสองคนจะเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน ทันทีที่ผมแตะคีย์การ์ดใช้งานลิฟต์เสร็จ ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา

"พี่อิงกดชั้นด้วย ขอดูโทรศัพท์ก่อน"

"เยอะนะมึง"

ไอ้อิงบ่น แต่ก็ทำตามที่ผมบอก ผมก็ลอบมองคนที่ยืนหลังตรงมองตัวเลขของชั้นที่เพิ่มขึ้นแบบไม่สนใจใคร

นอกจากไอ้อิงจะรู้ที่อยู่ของผมแล้ว มันก็ยังรู้ชั้นที่ผมอยู่ด้วย แบบนี้มันก็คงรู้ว่าผมอยู่ห้องไหนด้วยแน่เลยครับ

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ผมก็ชะลอฝีเท้าของตัวเอง แล้วปล่อยให้ไอ้อิงเดินนำไปอย่างแนบเนียน และเมื่อมันหยุดเท้าแล้วมองมาทางผมที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าที่นิ่งเฉยเหมือนรูปปั้นก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

"ถ้ามึงเดินล้มหน้าทิ่ม กูจะกรทืบซ้ำ"

"ก็มองทางอยู่"

ไอ้อิงก็สะบัดเสียงใส่ผมอีกรอบ ก่อนจะยืนรอผมเปิดประตูห้อง แล้วเดินตามเข้ามา ผมก็เก็บโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งส่งข้อความไปบอกโดดเรียนกับเพื่อนในกลุ่มใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม

เรื่องเรียนช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมสนใจเรื่องของคนตรงหน้ามากกว่า ผมอยากจะรู้ว่ามันรู้เรื่องส่วนตัวของผมมากแค่ไหน ทั้งที่ผมเพิ่งรู้จักมันเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเอง

ถ้ามันไม่เอาแต่ด่าแล้วพาลใช้อารมณ์กับผมอยู่เรื่อย ผมคงคิดว่ามันเป็นแฟนคลับของผมแน่


..........


คอนโดฯ ของผมอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางกรุง มีการตกแต่งที่ทันสมัยและมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ผมก็ลดระดับความหรูหราของมันด้วยข้าวของที่วางเกะกะอย่างไร้ระเบียบ ส่วนที่ดูดีที่สุดก็คงเป็นห้องครัวที่ไม่ได้ใช้งานอะไร นอกจากล้างแก้วล้างจานในบางครั้ง ถึงอย่างนั้นผมก็จ้างแม่บ้านมาดูแลเรื่องความสะอาดและเสื้อผ้าทุกอาทิตย์นะครับ

ไอ้อิงทำท่าทีเหมือนไม่ได้สนใจอะไร แต่ผมว่ามันกำลังเก็บข้อมูลครับ เพราะสายตาของมันกวาดมองจนผมที่จับผิดอยู่สังเกตได้

"เมื่อกี้เพื่อนเพิ่งส่งข้อความว่ายกเลิกคลาสแล้ว"

ผมตอแหลใส่อย่างเป็นธรรมชาติ ไอ้อิงก็มองผมเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

ผมเดินเข้าห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ส่วนชุดที่ใส่มาก็โยนใส่ในตะกร้ารอแม่บ้านเอาไปซักครับ หลังจากนั้นผมก็เดินออกมานั่งข้างแขกคนพิเศษ แล้วเริ่มแผนการขั้นต่อไปอย่างใจเย็น

"พี่อิง มึงเรียนที่เดียวกับกูเหรอ"

ผมไม่มั้นใจว่ามันจะตอบคำถามไหม แต่ถ้าอยากรู้เรื่องของมัน ก็ต้องเตรียมรับมือปากของมันครับ

"ก่อนจะถามอะไร มึงควรหาน้ำมาเสิร์ฟแขกที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งมึงไม่ใช่หรือไง"

โดนกัดไปหนึ่งที

"ก็ไม่ใช่คนรับใช้เลยไม่รู้"

มันกัดมา ผมก็กัดตอบครับ ไอ้อิงตาวาวขึ้นมาทันที ซึ่งเป็นสัญญานเตือนว่ามันกำลังจเกลายร่าง แต่ผมจะมาป๊อดตอนนี้ไม่ได้ ถึงแม้จะเจอกรงเล็บตะปบหรือโดนกัดจนจมเขี้ยว ผมจะต้องง้างปากหมาของมันให้คายสิ่งที่ผมต้องการออกมาให้ได้!

"ไอ้เล้ง!"

"เอาน้ำเย็นใช่เปล่า เดี๋ยวหยิบมาให้"

ผมไม่ได้กลัวมันหรอกนะครับ แต่การศึกบางครั้งก็ต้องรู้จักหลบหลีกเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมกว่า...เชื่อเถอะ

"เสืร์ฟน้ำแล้ว จะตอบได้ยัง"

ไอ้อิงไม่ได้สนใจแก้วน้ำเย็นที่ผมไปยกมาให้ แต่ใช้สายตาคมกริบที่วันนี้มีแว่นกรอบโลหะประดับมองเหมือนกับกำลังประเมินท่าทีของผมอยู่

"มึงจะอยากรู้ไปทำไม สนใจกู?"

"ถ้าไม่สนใจจะถามทำไม"

"หึ! ถ้าอยากรู้นัก ก็หาคำตอบเอาเองดิ"

ปากเสียแล้วยังจะเล่นตัวอีก ถ้าไม่หล่อกูไม่ทนหรอกนะเว้ย!

"พี่อิงบอกหน่อย วันหลังจะได้ไปหาเวลาอยากเจอไง"

ขั้นแรกก็งัดลูกอ้อนมาใช้ครับ เพราะดูเหมือนพอจะได้ผลอยู่บ้าง เห็นได้จากผลลัพธ์ก่อนหน้านี้

"กูไม่อยากเจอมึง ไม่ต้องเสนอหน้ามาให้เสียสายตา"

ผมคำนวณไว้แล้วว่า มันจะต้องตอกกลับ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมยังมีขั้นต่อไป นั่นคือการหลอกล่อให้คายความลับออกมา

"แล้วที่คณะมีผู้หญิงสวยๆ บ้างเปล่า"

"ไอ้เหี้ย! นี่ต่อหน้ากูเลยนะ ถ้ากูเจอที่มอกูแต่ไม่ได้มาหากู มึงโดน!"

ไอ้อิงผลักผมจนหัวทิ่ม พร้อมกับมองมาอย่างคาดโทษ ผมก็ได้แต่เบ้หน้าใส่แล้วมองคนตรงหน้าอย่างใช้ความคิด

สรุปว่าอยู่คนละมหาวิทยาลัยกัน แล้วมันมารู้จักผมได้ยังไงวะ...

"ก็พี่อิงไม่บอก ถ้ากูไปหาแต่ไม่เจอมึง แล้วดันจีบผู้หญิงแถวนั้นติด ก็ช่วยไม่ได้"

"ไอ้เล้ง!"

"ความผิดมึงนะพี่อิง"

ผมสบตากับไอ้อิงที่จ้องผมเขม็ง ก่อนที่ผมจะเลิกคิ้วขึ้นกวนเส้นประสาทเพื่อให้มันเผยความจริงออกมา

"กูอยู่เศรษฐศาสตร์ มอ A"

เหนื่อย! กว่าจะได้แต่ละคำตอบ ต้องล่อหลอกอย่างกับป้อนข้าวเด็กเลยเว้ย!

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมก็รู้เรื่องของมันบ้างแล้ว ที่เหลือก็แค่ถามเรื่องที่มันรู้เกี่ยวกับผมครับ

"แล้วพี่อิงรู้จักกูได้ไง"

"ทำไมกูต้องตอบมึง น่ารำคาญ"

ผมมองไอ้อิงที่ทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ออกมา ก่อนที่มันจะยกแก้วน้ำที่ถูกเพิกเฉยก่อนหน้านี้ขึ้นมาดื่มราวกับไม่อยากเสวนากับผมอีก แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ

"คงรู้จากเพื่อนคนนั้นใช่เปล่า ชื่อไรวะ"

"คนอย่างมึงไม่มีสิทธิ์พูดถึงเพื่อนกู"

มันองค์ลงแล้ว!

ผมมองท่าทางจริงจังและสีหน้าไม่พอใจของไอ้อิงเล็กน้อย ก่อนจะทำหน้าไม่สนใจออกมา

"ตามใจ กูก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าใครเป็นใคร เอาไปงั้น ขี้เกียจจำ"

"ไอ้เหี้ย!"

ผลั่วะ!

ไอ้อิงต่อยผมทันที ผมก็ชักสีหน้าออกมา พร้อมกับมองคนที่แสดงสีหน้าโกรธเคืองชัดเจน ถึงตอนนี้จะรู้สึกเจ็บแต่ก็ต้องข่มอาการไว้ก่อนครับ

"แต่ถ้าบอกว่าเป็นใคร กูจะไปขอโทษ"

"ไม่จำเป็น! คนอย่างมึงไม่ต้องมายุ่งกับฝ้ายอีก!"

เอาล่ะครับ คราวนี้ก็ได้ชื่อของผู้หญิงที่เป็นผู้จุดชนวนความสัมพันธ์ของผมกับมันสักที ว่าแต่...ฝ้ายไหนวะ? ผ้าฝ้าย? ปุยฝ้าย? ใยฝ้าย? แต่ผมก็ไม่คุ้นสักฝ้ายอยู่ดี ถ้าพูดออกไปว่าไม่เคยได้ยิน ผมคงโดนอีกหมัดแน่ ท่าทางจะเป็นคนสำคัญของมันด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่ฉุนขาดต่อยผมทันทีแบบนี้

หรือว่าจะเปันเพื่อนที่มันแอบรักอยู่วะ?

น่าจะใช่...ถ้ามีใครพูดถึงมีนไม่ดี ผมก็คงจะโมโหอยู่เหมือนกัน

"ก็ได้ ต่อไปนี้จะไม่ยุ่งกับเพื่อนมึงอีก"

"ไม่ใช่แค่เพื่อนกู มึงต้องเลิกยุกับผู้หญิงคนอื่นด้วย"

"อะไรวะ ไม่เห็นเกี่ยว"

เรื่องเพื่อนของมัน ผมก็เข้าใจนะครับ แต่เรื่องที่ว่าผมจะคบหรือนอนกับใครก็เป็นสิทธิ์ของผมไม่ใช่หรือไง

"ไอ้เล้ง! ที่กูพูดมามึงไม่สำนึกเลยใช่ไหม มึงสนุกนักหรือไงที่เล่นตลกกับความรู้สึกของคนอื่น!"

ไอ้อิงตวาดผมเสียงดัง ผมก็ชักสีหน้าออกมา ก่อนจะเบือนหน้าหนีแบบไม่สนใจ

"อย่ามาโทษกู เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกว่ะ"

"นี่มึง!"

ไอ้อิงเข้ามาบีบกรามของผมแน่น ก่อนจะส่งสีหน้าเหยียดหยามออกมาอย่างดูแคลน ผมขมวดคิ้วเพื่อข่มความเจ็บจากฝีมือของคนตรงหน้า

"มึงจำเอาไว้นะ ถ้ากูรู้ว่ามึงยังฟันผู้หญิงทิ้งเล่น กูจะเอามึงให้หมดสภาพจนไปเอากับใครไม่ได้อีก!"

ผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเยือกเย็นและสายตาเอาจริงจนน่ากลัว ทำให้ผมนึกหวั่นใจว่าคิดผิดหรือเปล่าที่จะเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมก็ก้าวเข้ามาจนไม่สามารถถอยหลังได้แล้ว

ผมโดนหมายหัวเป็นที่เรียบร้อย

"เจ็บ"

"หึ!"

ไอ้อิงแค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะปล่อยมือที่ทำหน้าที่ข่มขู่ผมด้วยกำลังจนปวดไปหมดออก ผมเบ้หน้าออกมาพลางมองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ จริงอยู่ว่าผมเป็นคนไม่ดี อาจจะมีคนเกลียด คนไม่ชอบ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอใครมาคุมแบบนี้

ไอ้อิงถอนหายใจออกมาเหมือนต้องการลดอารมณ์ที่เดือดพล่านเมื่อครู่ให้เย็นลง มันมองผมนิ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวของผมเบาๆ เหมือนหยอกเล่น ท่าทีที่ผ่อนคลายลงของมัน ทำให้ผมหายใจคล่องขึ้น

"กูหิวแล้ว มึงไม่หิว?"

"หิว แต่เจ๋บปาก"

"แล้วที่นี่มีอะไรบ้างหรือเปล่า"

"ไม่มี มึงลองไปดูเอาเองแล้วกัน"

ไอ้อิงก็ไม่ได้ตอบรับอะไร นอกจากลุกขึ้นเดินไปทางห้องครัวอย่างไม่รีบร้อน ผมก็มองตามพลางขบคิดอยู่ในใจ

จะเอายังไงกับคนแบบนี้ต่อดีวะ...

 
.........

 
"เอาคีย์การ์ดมา กูจะลงไปซื้อของข้างล่าง"

"เอาเงินด้วยเปล่า"

"ไอ้สัตว์ อย่ากวนตีนกู"

ก็แค่ถาม...

ผมก็ตอบกลับมันในใจ พร้อมกับส่งสิ่งที่มันต้องการไปให้ ตอนนี้หมดอารมณ์ปะทะคารมที่อาจจะบานปลายเป็นการใช้กำลังแล้วครับ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมีสิ่งที่สงสัยอยู่

ผมมองไอ้อิงที่เดินพ้นจากประตูห้องออกไป ก่อนจะนอนเล่นบนโซฟา ความเจ็บที่ร้องบอกตรงมุมปากไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าไหร่นัก บางทีผมอาจจะชินกับการโดนผู้หญิงตบมาหลายคน เรื่องแค่นี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร

โดยรวมแล้วผมก็รู้เรื่องบางส่วนที่สมควรรู้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่เรื่องที่มันรู้เรื่องส่วนตัวของผม

ผมไม่ได้ปิดบังเรื่องส่วนตัวหรอกนะครับ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องของคนอื่นแบบนี้ ถ้าหากไม่ได้สนใจมากเป็นพิเศษ

ถ้าคิดอย่างพิจารณาอีกครั้ง คำว่า 'สนใจ' ก็ไม่ได้มีความหมายในแง่ดีเสมอไป อาจจะสนใจเพราะ 'ชอบ' หรือ 'เกลียด' ก็ได้ แต่ผมว่าไอ้อิงคงเป็นอย่างหลังอยู่แล้ว มันคงหาประวัติและวางแผนมาก่อนจะลากผมไปอัดในคืนนั้น

"เฮ้อ..."

เมื่อเดือนก่อนผมยังลัลล้าอย่างสบายใจอยู่เลย แต่ตอนนี้เหมือนตัวเองกำลังอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น

คิดถึงมีนว่ะ...

อยู่ดีๆ ผมก็คิดถึงเพื่อนสุดที่รักขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไร สุดท้ายโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือ ก็ถูกวางไว้ที่โต๊ะรับพแขกแทน

ผมหลับตาลงพร้อมกับปล่อยให้ความเงียบขัดเกลาจิตใจให้สงบ ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเปิดประตูอีกครั้ง ไอ้อิงคงกลับมาแล้ว

ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นมา เพราะตอนนี้อยากนอนอยู่นิ่งๆ มากกว่าในขณะที่ผมกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ก็รู้สึกว่ามีใครอีกคนกำลังยืนมองอยู่ ผมก็เลยนึกสนุกทำเป็นนอนหลับเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร หวังว่ามันคงจะไม่ปลุกผมด้วยฝ่าเท้าอย่างเมื่อเช้าหรอกนะครับ

ผมก็นอนรออย่างแอบลุ้นไปด้วย ก่อนจะตัวแข็งขึ้นเล็กน้อย เมื่อความเย็นและความแสบตรงมุมปากก่อตัวขึ้น ผมนึกอยากลืมตามองใจจะขาดแต่ก็อดใจเอาไว้ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องแอบลืมตาขึ้นมานิดนึงครับ

ไอ้อิงกำลังทำแผลให้ผม

เพราะปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย เลยเห็นภาพตรงหน้าไม่ค่อยชัด แต่ท่าทางอ่อนโยนและสีหน้าที่ดูตั้งใจแบบนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเวลาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะรีบปิดเปลือกตาให้สนิทพร้อมกับรับรู้ถึงสิ่งรอบข้างได้อีกครั้ง เมื่อความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ลูบหัวของผมเบาๆ

ผมรู้สึกเกร็งจนหายใจติดขัด แต่ถ้าผมตื่นตอนนี้สัมผัสที่ได้รับก็จะหายไปทันที จากมือที่ลูบหัวคงกลายไปตบหหัวเทนแน่ครับ

ผมกลั้นใจรอจนกระทั่งรู้สึกว่าไอ้อิงเดินห่างออกไปแล้ว ก่อนจะลืมตาขึ้นมาทันที แล้วขมวดคิ้วออกมา

มึงเป็นคนยังไงกันแน่?

 
..........

 
กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยออกมาจากห้องครัวกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะให้ร้องโวยวาย ผมเลยลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สดชื่นและชะล้างความสับสนบางอย่างออกไป

ผมมองใบหน้าของตัวเองในกระจกเงา ก่อนจะยกมือสัมผัสกับพลาสเตอร์ที่ติดอยู่ตรงมุมปาก

อืม...เอายังไงดีวะ

ทันทีที่ผมได้เผชิญหน้ากับไอ้อิงอีกครัง ผมควรจะทำท่าทียังไงกับการทำแผลคร้งนี้

ทำหน้าตกใจแล้วขอบคุณมันอย่างนั้นเหรอ? แต่มันเป็นคนต่อยผมนะครับ ถึงแม้ผมจะหาเรื่องมันก่อนก็ตาม

ถ้ามันจะทำเมินไม่สนใจ ผมก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับรอยแผลนี้นัก แต่ไอ้การที่ทำร้ายร่างกายกัน แล้วมาดูแลทีหลังเนี่ย ผมวางตัวไม่ถูกเลยจริงๆ

ผมเดินออกมาจากห้องนอน ในจังหวะเดียวกับที่ไอ้อิงเดินออกมาจากห้องครัวพอดี มันมองผม ก่อนจะแสดงสีหน้าไม่พอใจเหมือนเคย

"แดกข้าว"

ผมก็เดินตามไอ้อิงไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะนั่งมองชามข้าวต้มปลาท่าทางน่ากินที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วเริ่มคลายบรรยากาศชวนอึดอัดด้วยการให้มันด่าเพื่อลดช่องว่างของเราสองคนาง

"ข้าวต้มอีกแล้วเหรอ มึงทำเป็นอยู่อย่างเดียวหรือไง"

"ทำอะไรไม่เป็นอย่าเสร่อมาบ่น แดกไป"

ผมมองใบหน้าดุของไอ้อิงเล็กน้อย ก่อนจะตักข้าวต้มขึ้นมากินต่อ ผมไม่รู้หรอกว่ามันทำอาหารเก่งหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมติดใจรสชาติข้าวมต้มฝีมือของมันแล้วครับ

ใครจะไปคิดล่ะว่า...คนอย่างมันจะทำอาหารอร่อย
 
"เจ็บปากก็แดกแบบนี้ไปก่อน วันหลังจะทำของที่ชอบให้"

มันจะทำกับข้าวให้ผมกินอีก?!

ผมเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที แต่ไอ้อิงไม่ได้สนใจผมครับ มันก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มของตัวเองไปเงียบๆ แล้วตอนนี้ผมคิดว่าได้เวลาของผมแล้วมั้ง

"พี่อิง...ขอบคุณที่ทำแผลให้"

นัยน์ตาสีดำหลังกรอบแว่นเลื่อนขึ้นมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะหลุบลงต่ำอย่างไม่สนใจเช่นเดิม

"กูแค่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำเท่านั้น"


.

.

.

Next step loading...

Marionetta :::
มาต่อแล้วค่ะ ขอบตุณที่ติดตามนะคะ ดีใจมากเลย ตอนหน้าเจอกับพี่อิงจ้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z6: โดนสักทีดีไหมสายซึน

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
พี่อิงนี่น่ารักแบบแปลกๆอะ  :hao4: :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด