รีปริ๊น+พรีออเดอร์ วิศวะขาโหดVsเกษตรฯตัวร้าย ภาค 1+2 [ป๋าโหดXคนดำ] (1.10.60)P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รีปริ๊น+พรีออเดอร์ วิศวะขาโหดVsเกษตรฯตัวร้าย ภาค 1+2 [ป๋าโหดXคนดำ] (1.10.60)P.12  (อ่าน 138750 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ธามจัดการเพื่อนบ้างก็ดีนะ เหอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เหอ ๆ งานมาอีกล่ะค่ะท่าน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หายไปไหน :z3: :z3: :z3:
มาต่อเถอะคิดถึง :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ สาววายผู้ลึกลับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 26

เลิกรา เลิกรัก ชัดเจน เจ็บปวด...


 


20.00 น.

            {ไอ้แทน ทำไมโทรหาถึงไม่ติด ?!}

            “โทษทีว่ะ แบตหมด...”

            {แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน กูบอกแล้วไงว่ากูจะไปหา !}

            “พอดีกูต้องกลับบ้านต่างจังหวัดแบบเร่งด่วน แล้วแบตก็หมดพอดีเลยไม่ได้โทรบอกมึง ขอโทษจะ...ซี๊ด...จริง...”

            ผมซี๊ดปากออกมาเบาๆ เมื่อตอนนี้ไอ้ทิมมันก็ลังนั่งทำแผลให้ผมอยู่ที่หอ ซึ่งสภาพค่อนข้างหนักพอสมควร มีคิ้วแตก ปากแตก แล้วก็แผลบนใบหน้ากับตามตัวอีกนิดหน่อย และไอ้ทิมเองก็ตกใจมากหลังจากที่เจ้าตัวมาหาผมที่หอ เพราะช่วยกันทำโครงการส่งก่อนออกฝึกงาน เลยถือโอกาสใช้มันทำแผลให้ซะเลย

            “อยากหาเรื่อง...”

            “ชู่ว์ ~” ผมเอาโทรศัพท์ออกไปใกลๆ ก่อนจะชู่ว์เสียงใส่มันเพื่อบอกให้เงียบ ก่อนจะเอาโทรศัพท์กลับมาแนบหูใหม่ ไอ้ทิมมันก็ยอมเงียบๆ แล้วเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดแผลให้ผมเบาๆ

            {เป็นอะไร ?}

            “เปล่าๆ ยุงกัด บ้านนอกยุงมันเยอะ”

            {ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดแล้ว ?}

            “เออ อยู่แล้ว...อ๊ะ...!” ผมปัดมือไอ้ทิมออกเมื่อมันเช็ดบริเวณคิ้วของผมจนตัวเองเผลอร้องออกมาเพราะแสบสุดๆ ก่อนจะมองหน้ามันอย่างหาเรื่อง คนทำเลยได้แต่ยักไหล่ให้

            {ยุงกัด ?}

            “อะ...เออ เดี๋ยวกูต้องวางแล้ว ยุงแม่งเยอะ แล้วช่วงนี้มึงก็ไม่ต้องมาหากูที่หอซักพักนะ เพราะกูจะอยู่กับครอบครัวซัก 2-3 วัน ถ้ากลับแล้วจะบอก”

            {ไอ้แทน...!}

            “แค่นี้นะ กูเข้าบ้านแล้ว”

            {ดะ...!}

            ติ๊ด !

            ผมตัดสายทิ้ง ก่อนจะถอนหายใจ พลางคว้าสำลีในมือของไอ้ทิมมา ซึ่งมันก็ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องวันนี้นัก ก่อนที้เจ้าตัวจะหันไปสนใจโน๊ตบุ๊ค มือก็กดคลิ๊กไปเรื่อย เหลือเพียงผมเป็นคนนั่งทำแผลให้ตัวเอง

            ติ๊ง ~

            “หือ...” ผมชะเง้อมองโทรศัพท์ตัวเองที่มีไลน์เข้ามา ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าไอ้ทิมมันมองอยู่ ผมจึงเบือนหน้าหนีแล้วทำแผลให้ตัวเองต่อ

            ติ๊ง ~

            ...

            “มึงทะเลาะกับไอ้ธาม ?” อยู่ๆ ไอ้ทิมที่นั่งอยู่ไม่ห่างก็ถามขึ้น ผมจึงมองหน้ามันแล้วส่ายหัวเล็กน้อย

            “เปล่า”

            “แล้วโกหกมันทำไม”

            “กูไม่อยากให้มันรู้ว่าโดนเพื่อนมันยกพวกมารุมกระทืบ” ผมตอบไปตามความจริง ก่อนจะชำเลืองหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับไปแล้ว และไม่มีไลน์ใหม่เข้ามาแล้วด้วย

            “ทำไมวะ มันจะได้จัดการให้ ไม่ดีหรือไง”

            “ไม่ใช่เรื่อง เรื่องของกูเดี๋ยวกูจัดการเอง”

            “ตามใจ”

            ไอ้ทิมมันพูดแค่นั้นก่อนจะหันไปสนใจกับหน้าจอโน๊ตบุ๊คต่อ ผมที่กำลังเก็บเศษสำลีใส่ถุงก็มองโทรศัพท์ตัวเองไปซักพัก ก่อนจะตัดสินใจคว้ามันแล้วลุกขึ้นออกมาที่นอกระเบียง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของไอ้ทิมเบาๆ ก่อนที่ตัวเองจะเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมา

           

            Time : ไอ้แทน

            Time : มึงโกรธกู...

           

            ผมอ่านข้อความก่อนจะถอนหายใจ แล้วพิมพ์ตอบกลับ

 

            Tan : กูไม่ได้โกรธ

 

            และการตอบของผม ไม่นานนักก็ขึ้นอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนที่แชทจากอีกฝ่ายจะถูกส่งกลับมาทันที

 

            Time : ไม่จริง

            Time : กูขอโทษ ที่พูดไม่คิด

            Time : (สติ๊กเกอร์ร้องไห้)

 

            “ไอ้บ้า...” ผมบ่นออกมา ก่อนจะตัดสินใจกดโทรกลับหาไอ้ธาม ซึ่งไม่นานนักปลายสายก็รับ ก่อนที่ตัวเองจะเลือกกรอกเสียงตัวเองลงไปก่อน “มึงเป็นอะไร”

            {มึงมากกว่ามั้งที่เป็น มึงโกรธกู}

            “กูจะโกรธมึงเรื่องอะไรห๊ะ ?”

            {ก็เรื่องที่กูพูดไม่คิดวันนี้ไง}

            “...” ผมเงียบไปกับประโยคของไอ้ธาม ยอมรับว่าตอนแรกก็โกรธ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้จะโกรธอะไรแล้ว และโกรธไปก็เท่านั้นด้วย “กูไม่ได้โกรธอะไรจริงๆ”

            {ไอ้แทน กูขอโทษ เมื่อเช้ากูหงุดหงิดจริงๆ ที่กูลุกไปรับโทรศัพท์ตอนนั้นคือแม่กูโทรมา เขาบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านอาทิตย์หน้า แล้วอยู่ๆ มึงก็มาทำอารมณ์เสียใส่กูอีก กูก็เลยพูดแบบนั้นออกไป กูแคร์มึงนะ ไม่งั้นกูไม่รู้สึกผิดขนาดนี้หรอก}

            “...” ผมเงียบไปกับคำอธิบายของมัน ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อหรืออย่างไร แต่ไม่เข้าใจมากกว่า จนเสียงจากปลายสายต้องพูดขึ้นมาอีกรอบ แต่คราวนี้กับออกไปทางข่มขู่ซะมากกว่า

            {ไอ้เหี้ยมืด ถ้ามึงไม่เชื่อกู กูจะไปหามึงเดี๋ยวนี้แหละ}

            “กูบอกว่ากูอยู่ต่างจังหวัด”

            {หึ...}

            เสียงเค้นจากปลายสายทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แอบดีใจเล็กน้อยกับคำอธิบายของมัน แต่วันนี้ก็มีเรื่องมากเกินไป จนไม่รู้จะแสดงความรู้สึกมีความสุขออกมายังไง ได้แค่เพียงยิ้มออกมากับตัวเองเล็กน้อยเท่านั้น “แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไมห๊ะ แม่กลับบ้านก็ดีแล้วไม่ใช่งั้ย ?”

            {ดีเหี้ยไร ถ้าเขาอยู่บ้าน กูก็เอามึงเข้าบ้านไม่ได้ดิ}

            “ก็ไม่ต้องเอาเข้า”

            {ไม่ !}

            “งั้นก็มาอยู่กับกูที่หอ”

            {หอมึงเก็บเสียงไม่ได้}

            “เออ งั้นไม่ต้องมา ดีละ กูจะได้พักบ้าง !”

            {มึงมะ...เฮ้ย แปปนะสายซ้อน} อยู่ๆ ไอ้ธามมันก็หยุดคำพูดของตัวเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่เสียงจากปลายจะดังกุกกัก และเจ้าของโทรศัพท์ก็กรอกเสียงลงมาอีกครั้ง {ช่างแม่ง}

            “เอ้า ไม่รับงั้ย”

            {ไม่}

            “ใครโทรมาล่ะ ?”

            {เฟิร์น} ชื่อของคนที่ไอ้ธามพูดออกมา ทำให้ผมเผลอหายใจผิดจังหวะขึ้นมาทันที และเหมือนปลายสายพอจะรู้ เลยพูดขึ้นต่อ {ไม่มีอะไรหรอก}

            “แล้วทำไมไม่รับวะ เพื่อเขามีธุระสำคัญ”

            {กูบอกไม่มีก็ไม่มีไง}

            “น่ารักดีเนอะ...”

            {หุบปากดิ}

            “...” ผมเงียบไปเมื่อไอ้ธามมันอยู่ๆ ก็พูดกับผมเสียงนิ่งและแฝงไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะได้ยินเสียงสบถจากปลายสายเบาๆ และเสียงถอนหายใจออกมา พร้อมกับคำพูดที่ทำเอาผมใจเต้นแรงขึ้นเป็นเท่าตัว

            {มึงไม่ใช่เพื่อนกู มึงไม่จำเป็นต้องมายอคนอื่นให้กูฟังเพื่อให้กูสนใจหรอก มึงเป็นแฟนกู มึงควรจะห้ามกู หวงกู หึงกูไม่ใช่หรือไง}

            “...”

            {ไอ้เหี้ยมืด...}

            “อะไร”

            {คิดถึง}

            “...” ผมเงียบไปกับคำพูดนั่นก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยและหันออกไปทางนอกระเบียง ก่อนจะต้องตกใจเมื่อมองไปข้างล่างก็เห็นว่าคนที่พูดกับผมอยู่ในสาย ตอนนี้กำลังยืนมองมาที่ตัวเองที่อยู่สูงกว่า “อะ...ไอ้ธาม...!”

            {ไหนว่าไปต่างจังหวัดไง}

            ผมขยับตัวถอยหลัง เพื่อหลบสายตานั่น เพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะเห็นบาดแผลของตัวเอง ก่อนจะหยุดชะงักเพื่อให้มองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าหอเล็กน้อย พลางพูดเสียงเบา “ทำไมมึงถึงอยู่ที่นี่วะ...”

            {ก็กูตั้งใจมาหามึง}

            “...”

            {กูขึ้นไปหาได้มั้ย ?}

            “ยะ...อย่า !” ผมพูดเสียงตะกุกตะกัก ซึ่งปลายสายเงียบไปทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำที่เริ่มจะไม่พอใจ

            {ทำไม ?}

            “กูต้องรีบทำงานส่ง ถึงมึงขึ้นมากูก็ไม่ค่อยได้คุยกับมึงอยู่ดี”

            ผมพูดอธิบายไป พลางมองร่างที่อยู่ห่างออกไป ที่ตอนนี้เจ้าตัวเงยหน้ามองมาที่ผมไม่วางตา ก่อนที่คำพูดของมันจะทำให้หัวใจผมกระตุกเล็กน้อย {กูเป็นตัวกวนมึงมาสินะ ถึงขนาดกับโกหกกูว่าไปต่างจังหวัดเลยน่ะ...}

            และผมก็ตอบได้แต่เพียงแค่...

            “อืม”

            {...}

            “กูขอเวลาสองสามวัน ถ้ากูทำเสร็จแล้วเดี๋ยวกูจะบอก”

            {...}

            “ไอ้ธาม...”

            {อืม งั้นถ้าทำเสร็จแล้วก็บอกกูแล้วกัน งั้นกูกลับแล้ว}

            “...”

            {แค่นี้นะ}

            เสียงจากฝ่ายตรงข้ามดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่สายจะตัดไป ผมจึงมองร่างของไอ้ธามที่อยู่ข้างล่างเงียบๆ ซึ่งตอนนี้เจ้าตอนตัวขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเจอมัน แต่ผมรู้ว่าถ้ามันเห็นสภาพผมตอนนี้เจ้าตัวคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่ และการลากคนอื่นมายุ่งกับเรื่องของตัวเองมันก็ไม่ใช่งานถนัดของผมนัก ตอนนี้เลยคิดได้อยู่แค่เพียงอย่างเดียว

            เมื่อไหร่แผลจะหายซักทีวะ..

           

     

                                 

# วันอาทิตย์

23.40 น.

            “ไอ้ทิม มึงจดที่ไหนไว้บ้างวะ ?”

            “นี่ไง” ไอ้ทิมมันว่าก่อนจะยื่นกระดาษที่จดชื่อสถานที่ กับเบอร์โทรไว้ที่ที่พวกจะติดต่ขอฝึกงานไว้ ก่อนที่ผมจะรับมาพลางมองรอยปากกาที่อยู่บนกระดาษเพียงน้อยนิด พลางบ่นออกมา

            “แม่งหากันแทบตายได้แค่นี้...”

            “เออ ได้แค่นี้กูบุญหัวละ” มันตอบกลับมาก่อนจะทำท่าโงนเงน คาดว่าเจ้าตัวก็คงจะเหนื่อยเหมือนกัน เพราะพอกลับมาจากทำงานก็มาช่วยกันทำงานบวกกับการหาที่ฝึกงานควบคู่ไปด้วยจนแถบไม่มีเวลาพัก เพราะอีกเดี๋ยวผมก็ต้องไปฝึกงานจริงๆ แล้วตอนสิ้นเทอมสองในอีกแค่เดือนกว่าๆ แต่ปัญหาคือยังหาที่ลงฝึกไม่ได้นี่สิ “คืนนี้กูขอนอนนี่นะ เหนื่อยว่ะ”

            “เออๆ ตามสบาย”

            ผมพูดออกมาก่อนจะจัดการเก็บเศษกระดาษ และของกินกระจุกกระจิก ทั้งถ้วยมาม่า ขนม น้ำที่เกลื่อนอยู่เต็มห้อง และเพิ่งเริ่มเก็บได้เพียงแปปเดียว เสียงโทรศัพท์ของตัวเองก็ดังขึ้นซะก่อน จนผมต้องเลิกการกระทำของตัวเองและเปลี่ยนเป็นรับโทรศัพท์แทน จนมันแทบจะเป็นเรื่องปกติของช่วงสองสามวันนี้มาแล้ว

            “ไง...”

            {ทำอะไรวะ}

            “ทำงานแหละ กำลังเก็บของ”

            {เสร็จแล้ว ?}

            “ยัง”

            ผมตอบกลับไปก่อนจะเดินออกมานอกระเบียง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไอ้ธามมันไม่งี่เง่า ยอมทำตามคำขอของผมแต่โดยดี ไม่บุกรุก ไม่โวยวาย และยอมทนอยู่เฉยๆ ไม่มาหาเกือบสี่ห้าวัน ที่มหาลัยก็ไม่มายุ่งวุ่นวาย อาจจะมีมารอหน้าคณะบ้าง แต่ผมก็หลบมันตลอด ไปเรียนบ้างไม่ไปบ้าง จนตอนนี้แผลบนใบหน้าของผมแทบจะเป็นปกติ       

            {หายโกรธยังวะ...}

            “กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ”

            {ถ้าไม่โกรธแล้วมึงจะหลบหน้ากูทำไม}

            “ไม่ได้หลบ มันไม่เจอเองต่างหาก”

            {ไอ้แทน มึงโกรธอะไร ก็บอกมาตรงๆ ดิวะ เลิกหลบหน้าซักที !} เสียงของไอ้ธามเริ่มหงุดหงิด และมันก็ฉุดอารมณ์ผมตามไปด้วย

            “กูก็บอกอยู่ว่าไม่ได้หลบ มึงพูดจาไม่รู้เรื่องั้ย !”

            {ไม่ได้หลบเหี้ยอะไร ไป ม.ก็ไม่เจอ ไปหาที่หอก็ไม่ได้ กูอยากเจอมึงจะแย่อยู่แล้ว !}

            “...”

            {แม่งเป็นอะไรก็พูดมาตรงๆ ดิวะ ทำแบบนี้กูทรมานนะไอ้เหี้ยมืด...}

            ไอ้ธามมันพูดเสียงเบา แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้า ผมไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไงตอนที่ไม่เจอกัน ได้ยินเพียงแค่เสียงของกันเท่านั้น แต่ผมเองก็ยอมรับได้เลยว่าตัวเองก็คิดถึงมันมากพอที่จะอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ

            “ก็จะเลิกหลบแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ก็เจอกันแล้ว มึงนี่แม่ง พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง !”

            {...} อยู่ๆ ไอ้ธามก็เงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแตกต่างจากผมที่เริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมา {จริง ?}

            “เออ เลิกงี่เง่าซักที แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่ ม. !”

            {งั้นกูไปหาตอนนี้...!}

            “พรุ่งนี้ !”

            {เออ ก็ได้วะ เดี๋ยวกูจะจัดให้คุ้มกับที่มึงหนีกูเลยคอยดู !}

            “เหอะ คิดว่าทำได้ก็ลองดู !” ผมพูดกับมันด้วยท่าทีหมั่นไส้กับคำพูดนั่น ก่อนจะแอบหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะจากปลายสาย ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา “เออ แค่นี้แหละ เจอกันพรุ่งนี้”

            {เออ คิดถึงว่ะ}

            “ก็ไว้เจอกันพรุ่งนี้ไง”

            {อืม}

            “งั้นแค่นี้นะ กูจะนอนแล้ว”

            {โอเค งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน}

            “...”

            {คิดถึงนะ เหี้ยมืด J}

            “อะ...!”

            ติ๊ด !

            อยู่ๆ ไอ้ธามก็ตัดสายไป เหลือแต่ผมยิ้มให้กับโทรศัพท์ของตัวเองเล็กน้อยราวกับคนบ้า ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องที่รกสุดๆ ของตัวเอง แม้กระทั่งเตียงยังแทบไม่เหลือที่ว่างสำหรับนอน จนสองสามวันมานี่ตัวเองนอนที่พื้นตลอด หนังตาก็รู้สึกหนักขึ้นมา โดยที่ตอนนี้ไอ้ทิมถอดเสื้อล้มตัวลงนอนกับพื้นเรียบร้อย ผมจึงเดินเข้ามาในห้องและข้ามตัวมันไป และไม่รู้จะเรียกว่าความซวยหรือเปล่า เมื่อถ้วยมาม่าที่กินกันทิ้งไว้ ถูกวางอยู่ในที่ที่ไม่สามารถมองเห็นและมันก็ดันไปดึงดูดตีนผมเข้าพอดี

            โผล๊ะ...

            และมันจะเฉยๆ มาก ถ้าไม่ติดว่าองศาที่ถ้วยมาม่านั่นล้มไปดันไปตรงกับลูกรักของตัวเอง

            ...

            “เหี้ย หมอนกู !!!”

 

 

 

            ...

            ครืดดดด ~

            “...”

            ครืดดดด ~

            “งืม...”

            แอ๊ดดดด ~

            ผมกำชับของอุ่นๆ ในอ้อมกอดตัวเอง ซึ่งรู้สึกได้ว่าของสิ่งนั้นขยับเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะต้องลืมตาตื่นใจหายวาบทันทีเมื่อมีแรงฉุดกระชากแรงๆ จนร่างของตัวเองลุกขึ้นนั่งตามแรงนั่น พร้อมกับเสียงๆ หนึ่งที่ดังก้องเข้ามาในหู จนตัวเองตื่นเต็มตา

            “ไอ้เหี้ยแทน !!!”

            “อะ...!”

            ไอ้ธาม !!

            ผมพยุงตัวลุกขึ้นตื่นเต็มตา พลางมองไอ้ธามที่ตอนนี้กำลังจับแขนผมไว้แน่นด้วยความงุนงงว่ามันเข้ามาในห้องผมได้ไง และคงไม่ใช่การฝันไปแน่นอน เพราะความเจ็บที่เริ่มจะแล่นแปล๊บขึ้นมาที่ช่วงแขน ก่อนจะเห็นว่าอีกคนที่เคยอยู่ในอ้อมกอดของผมจะค่อยๆ สลึมสลือตื่นลุกขึ้นมาพลางมองพวกผมสองคนที่กำลังยืนอยู่ ก่อนที่มันเหมือนจะจับต้นชนปลายได้เลยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พลางมองผมกับไอ้ธามที่ตอนนี้สีหน้าแตกต่างกันสิ้นเชิง จนผมต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา

            “ไอ้ทิมกลับไปก่อน”

            “แต่...”

            “เออ กลับไปก่อนเถอะ”

            ไอ้ทิมมันเงียบไปซักพัก พลางมองไอ้ธามที่ตอนนี้แสดงสีหน้าโมโหออกมาสุดขีด ก่อนจะยอมตอบออกมาเบาๆ “โอเค เจอกันพรุ่งนี้”

            ว่าจบคนตรงหน้าก็เดินไปคว้าเสื้อของตัวเองที่ถอดอยู่ แล้วออกไปจากห้องของผมทันที จนตอนนี้เหลือแค่เพียงผมกับไอ้ธามเท่านั้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่มาเจอกันท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ก็ไม่ดีใจนักหรอก

            “เจ็บ ปล่อย” ผมมองหน้ามัน พลางพยายามแกะมือของไอ้ธามที่จับแขนของตัวเองออก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม แถมยังบีบแขนผมแรงกว่าเดิม “ไอ้ธาม กูเจ็บ !”

            พลั๊ก !

            ร่างผมล้มไปกองกับพื้นเมื่อไอ้ธามมันผลักผมแรงๆ ตามด้วยร่างหนาที่ตรงปี่เข้ามาหาผมทันทีโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่มันจะนั่งลงยองๆ พร้อมกับเอื้อมมือมาบีบคางผมจนปวด “ตอนเอากับไอ้เหี้ยนั่นร้องเจ็บแบบนี้หรือเปล่า !?”

            “...!”

            “นี่เหรอวะ คนที่ว่าบอกมีงาน ให้กูมาหาไม่ได้ แต่เสือกนอนกกผู้ชาย เอากันไปกี่รอบแล้วล่ะ ?”

            “ไอ้ธาม !!”

            “มึงมันทรยศว่ะ”

            “ไอ้ธาม อย่าดูถูกกู !”

            “หึ !”

            ไอ้ธามมันปล่อยคางผมออก ก่อนจะลุกขึ้นมองมองด้วยสายตาเหยียดหยาม พลางดุนกระพุงแก้มตัวเองไปมา ผมเองก็ได้แต่เงยหน้ามองมันไม่วางตา ความรู้สึกตอนนี้คือจุก เจ็บ กับทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้า ก่อนจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีเองแล้วพูดกับมันเสียงเรียบ “ถ้าคุยกันดีๆ ไม่ได้ก็กลับไป กูไม่อยากคุยกับคนไม่มีเหตุผล”

            “คิดจะคุยเรื่องอะไร คุยว่ามึงเอากับใครมากี่คนแล้วเหรอ ไอ้เหี้ยแซ็กส์ได้ไปหรือยังล่ะ แล้วไหนจะไอ้แม็กกับเพื่อนมึงอีก นี่กูคงรวมอยู่หนึ่งในนั้นสินะ”

            “...”

            “จะร่านไปถึงไหน !”

            “เออ !” ในที่สุดผมตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทนกับคำดูถูกดูแคลนของไอ้ธาม มันไม่คิดจะฟังเหตุผลของผมเลยซักนิด “กูก็เป็นคนแบบนั้นแหละ ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกยุ่งกับกูไปซะ !”

            “ไอ้แทน !”

            “กลับไปได้แล้ว กูไม่อยากเห็นหน้ามึง กูหลบหน้ามึงขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรือไง ว่ากูกำลังเขี่ยมึงทิ้ง คนรองรับอารมณ์กูมีอีกเยอะ มึงไม่จำเป็นซักนิด” ผมลุกขึ้น ก่อนจะมองหน้าไอ้ธามที่ตอนนี้กำมือแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ผมเองก็ไม่ต่างกันนัก อะไรที่ทำให้มันเป็นคนคิดว่าผมจะเอาคนอื่น ทั้งๆ ที่ผมก็มีแค่มันคนเดียว “กูบอกให้กลับไป !!”

            ผมตะโกนใส่มันอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับหลังหันและเดินออกจากห้องของผมไปทันที เหลือแต่ผมที่ยังยืนนิ่งหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำด้วยความโกรธ

            ปั้ง !

            “แม่งเอ๊ย !”

            ผมสบถออกมา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงกับสถานการณ์ที่รวดเร็วนั่น ใจนึงก็พยายามจะใจเย็นแล้ว เพราะเข้าใจว่าตัวเองก็ผิด ในสถานการณ์ที่ไอ้ธามมันเห็นผมกับไอ้ทิม ก็ไม่แปลกที่มันจะคิดไปไกล มันเคยบอกว่าผมไม่ไว้ใจมัน แต่มันมากกว่าที่ไม่เคยคิดจะไว้ใจผมซักนิด แถมยังไม่ฟังกันอีก และไหนจะคำดูถูกที่เจ็บแสบนั่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะคิดฆ่ามันให้ตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้คือมันไม่ใช่ไง ผมก็ยอมให้มันทุกอย่าง อย่างที่ไม่เคยยอมให้ใคร แล้วทำไมมันยังเชื่อใจผมอีกวะ

            ทั้งๆ ที่เหมือนทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย...

            เหมือนทุกอย่ากำลังจะลงตัว...

            ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ?

            “ต้องให้กูทำยังไงวะ...”

            ผมพูดออกมาเบาๆ พลางขยี้หัวตัวเอง ราวกับว่ากำลังระบายเรื่องต่างๆ ที่กำลังถาโถมเข้ามาในคราวเดียว จนตัวเองตั้งตัวรับไม่ทัน และความสุขที่คิดว่าเหลืออยู่ก็หายไปซะดื้อๆ จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเริ่มตั้งรับจากตรงไหนก่อนดี ก่อนที่ผมจะเลือกคว้าโทรศัพท์จากข้างตัวขึ้นมา ซึ่งหน้าจอก็โชว์สายที่ไม่ได้รับจากไอ้ธาม และเวลาที่บ่งบอกว่าตอนนี้เที่ยงคืนกว่าๆ

            เที่ยงคืน...

            ‘เจอกันพรุ่งนี้...’

            ...

            “โธ่เว้ย !”

            ผมสบถออกมา ก่อนจะกดเข้าไลน์อย่างเผลอตัวราวกับไม่มีอะไรทำ ซึ่งแชทของไอ้ธามตอนนี้ถูกเลื่อนไปอยู่ล่างๆ แล้ว เนื่องจากช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาผมก็มันโทรคุยกันมากกว่าจะเป็นการแชท และคนส่งเกมก็ค่อนข้างจะเยอะพอสมควร ก่อนที่มือตัวเองจะไปโดนแชทๆ หนึ่งเข้า ผมที่กำลังจะกดออกก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นเจ้าของแชทนั้นส่งรูปหนึ่งที่แสนจะคุ้นตามาให้ พร้อมกับข้อความชวนอ้วก

           

            Buffalo Taro : ใจของพี่ ขอมอบให้น้องแทนบ้างได้มั้ยครับ จะช่วยรับไปดูแลได้หรือเปล่า ♥

            Buffalo Taro: รูปภาพ (สร้อยกับจี้รูปเฟือง)

 

            จี้รูปเฟือง...

            ผมขยายรูปภาพที่พี่แซ็กส่งมาพลางอ่านข้อความไปด้วย พร้อมกับการมองสร้อยที่คอตัวเอง ซึ่งมันแตกต่างกันเล็กน้อยตรงสีและเลขสองหลักที่สลักอยู่บนจี้ ก่อนที่ผมจะนึกได้กับคำว่า ‘เกียร์’ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงจัดการเข้ากูเกิลและเสิร์ชหาทันที

 

            - ความภาคภูมิใจของชาววิศวะ...

            - หัวใจของเด็กวิศวะ...

            - ยอมแล้วทูนหัว อยากมีผัวเป็นวิศวะ...

            - เกียร์อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่เกียร์ ฝากเกียร์ไว้กับใคร ฝากหัวใจไว้กับคนนั้น...

             

            หัวใจผมเต้นแรงไม่เป็นซ่ำ พลางกำจี้บนคอตัวเองแน่น ทั้งๆ ที่สายตาก็ไล่อ่านข้อความไปเรื่อยๆ ในใจก็เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งความหมายของของสร้อยที่มันให้มา และความรู้สึกของมันที่มีให้ผม

            ทั้งๆ ที่ชัดเจนขนาดนี้ ทำไมผมโง่อยู่ตั้งนานวะ !

            ผมกดโทรศัพท์หาสายที่เคยโทรเข้ามาล่าสุดทันที ในใจก็ภาวนาให้มันช่วยรับสายผม และดูเหมือนคำขอของผมจะเกิดผล เมื่อไม่นานนัก เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้น ผมจึงลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นทันที ความโกรธเคืองที่เคยมีให้กับมันหายไปหมดสิ้น ณ ตอนนี้ แค่อยากให้มันมั่นใจ เชื่อใจ และเข้าใจถึงความชัดเจนของผมบ้างเท่านั้น

            {ว่า ?}

            “มึงอยู่ไหน ?!”

            {บ้าน}

            “เดี๋ยวกูไปหาได้มั้ย !”

            {...}

            “ไอ้ธาม !”

            {อืม อยากมาก็มา...}

            “ได้ แล้วเจอกัน !”

            ผมกดวางสายทันที ก่อนจะรีบคว้าเสื้อกับกางเกงมาสวมใส่แบบรวกๆ โดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบหนังยางเส้นโปรดของตัวเองติดมือมาด้วย และรีบออกจากหอมาทันที ถึงจะออกยากหน่อยเพราะเลยเวลาสำหรับเข้าออกมาแล้ว แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับผมนัก ไม่นานแท็กซี่ที่ผมเลือกในการเดินทางก็มาจอดหน้าบ้านของไอ้ธามอย่างปลอดภัย ผมที่กำลังตื่นเต้นก็รีบควักเงินจ่ายและลงจากรถ ก่อนจะเห็นว่าประตูหน้าบ้านของไอ้ธามไม่ได้ล็อกไว้ ตัวเองจึงถือวิสาสะเข้าไปทันที ในใจก็คิดว่าควรจะพูดกับมันยังไง ควรจะปรับความเข้าใจกับมันยังไง และบอกมันยังไงว่าผมเองก็ให้หัวใจมันไปแล้วเหมือนกัน

            ผมเองก็รักมันมากเหมือนกัน

            “หือ...”

            รองเท้าผู้หญิง...

            ...

            หัวใจผมรู้สึกรนขึ้นมาทันที เมื่อเห็นแบบนั้น ก่อนจะพยายามคิดว่าไม่มีอะไร จึงเดินเข้าไปในบ้านที่มืดสนิทอย่างช้าๆ มีเพียงแสงไฟสลัวๆ เท่านั้น ที่เป็นตัวนำให้ผมก้าวเท้าตัวเองขึ้นไปที่ชั้นสอง ก่อนที่หัวใจตัวเองจะตกวูบลงมาทันที ที่ได้ยินเสียงที่ดังเล็ดลอดออกจากห้องๆ หนึ่ง ในทิศทางที่คุ้นเคย ที่คาดว่าน่าจะปิดไม่สนิท พร้อมกับการกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างฝืดคอ

            “อ๊ะ...อ๊ะ...ธะ...ธาม...”

            “...”

            “เฟิร์นเสียว...เสียวจัง...เลย...อ๊า ~”

            ผมชะงักการเดินของตัวเอง รู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดเท้า ในใจก็เต้นแรงไม่เป็นส่ำ สมองก็พยายามหักห้ามตัวเองให้หยุดเดินและออกไปจากตรงนี้ซะ แต่เหมือนร่างกายจะไม่ทำตามเท่าไหร่นัก จนในที่สุดร่างกายหนักๆ ของตัวเองก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูที่ถูกแง้มไว้เล็กน้อย มือก็ผลักเข้าไปทั้งๆ ที่ใจสั่งห้ามอยู่ตลอด

            “อ่าส์...”

            ...

            ร่างของผู้หญิงที่กำลังขึ้นขย่มอยู่ช่วงกลางลำตัวของผู้ชายที่ผมรู้จักดี ถ้าเป็นคนอื่นผมคงจะตื่นเต้นที่ได้ดูหนังสด แต่พอเป็นคนๆ นี้แล้ว ร่างกายของผมกับชาไปชั่วขณะ มีเพียงความเจ็บจี๊ดในใจเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้น ก่อนที่เสียงหวีดเบาๆ จากร่างเล็กที่หันมาเห็นผมที่ยืนรบกวนเวลาสุขสมของทั้งคู่อยู่พอดี จนเจ้าตัวรีบรนรานหยุดการกระทำของตัวเองและคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ และลงไปจากร่างหนา ซึ่งคนที่ผมตั้งใจจะมาหา มันเองก็หันมามองผมเช่นกัน แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าตกใจหรืออะไรออกมา ก่อนที่ร่างที่เปลือยเปล่าจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาผมที่ยืนนิ่งอยู่ พร้อมกับคำพูดที่ฉุดให้ผมหลุดออกจากภวังค์พร้อมกับหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

            “เบื่อแล้วว่ะ...”

            “...”

            “เลิกกันเถอะ”

 


- แทน –

ก็ไว้เจอกันพรุ่งนี้ไง

 

Thank You !

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อ่านจบนี่ร้องดังมากว่า ไอ้เชี้ย ขอโทาคะ คือ แม่งชั่วอะ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ธามไม่น่าทำอย่างงี้นะ แต่ก็สะใจสมน้ำหน้าว่ะแทน  :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แทน น่าโมโหมาก มีอะไรไม่พูด
ถูกเพื่อนๆ ธามรุมทำร้ายก็เงียบ
เกิดเหตุเหยียบถ้วยมาม่า ล้มก็ไม่อธิบาย
ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ จะว่าโมโหที่ธาม ด่า ดูถูก
น่าที่จะพูดให้รู้เรื่อง ก็ไม่พูดอีก
ธาม ที่พูดอะไรไม่คิด มาง้อก็ทำตัวซื่อบื้อ
ไม่ชอบแทน ที่เป็นแบบนี้
พอรู้ความหมายเกียร์ เข้าใจธาม
แทนที่จะพูดทางโทรศัพท์ ก็ไม่พูด
ธาม ก็รีบมีอะไรกับเฟิร์นประชดทันที
คราวนี้ เลิกกันไปจริงๆ เลย
ไม่รู้จะสงสาร หรือสะใจกับทั้งคู่ดี
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อย่าไปเอามันเลยผู้ชายแบบธาม ไม่เคยนึกถึงใจคนอื่นเลยคิดตื้นๆตลอด

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1: :katai1: :katai1:โอ๊ยบีบำหัวใจมาก
เพื่อนธารเป็นคนทำให้เรื่องแย่แน่นอน
เอาคืนแบบเจ็บๆเลยนะแทน :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รักกันขนาดไหน ถ้าเจอคาตาว่าเอากับคนอื่นอยู่งี้ คงรีเทิร์นยากแล้วมั้ง
แทนผิดจริงที่มีไรไม่อธิบาย ไม่พูดเอาแต่เก็บเงียบ
แต่ธามทำแรงไปป่าวอะ แล้วที่บอกว่ารักมากมายนั่นเชื่อได้แค่ไหน
สงสารแทนมากกว่าอะ ธารแม่งใจร้ายเกินไปว่ะ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ธามไม่เคยเชื่อใจแทน ฟังคนอื่นมากกว่าฟังแทน ในขณะที่แทนมีอะไรก็ไม่พูดกับธาม สรุปผิดทั้ง 2 ฝ่าย แต่ธามนายเอาคืนแทนมากเกินไป ไม่สมควรทำกันแทนแบบนี้ สงสารแทน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z6: สักร้อยทีให้ธาม

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
 :katai4: :katai4: :katai4:
อีธาม อีเลววววววว ไม่เคยเชื่อใจแทนเลย สงสารแทน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
แทนก็ไม่พูดอะไรเลยมัวแต่เก็บไว้ไม่อธิบายอะไร ธามนี่ก็ไม่คิดอะไรเลยการดึงคนที่จะทำให้ชีวิตยุ่งยากอย่างเฟิร์นมาเกี่ยวมันมีอะไรดีขึ้นได้ ไร้สาระจริง

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังรออยู่เน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อ้าวเฮ้ย. เป็นยังงี้ได้ยังไง

ช่วงนี้ซดมาม่ากัน

 :ling3:  :ling3:  :ling3:  :ling3:

ออฟไลน์ สาววายผู้ลึกลับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 27

ให้ไปแล้ว ไม่รับคืน...



 

[Time : Say]

            “พอแล้ว”

            ผมพูดขึ้นพลางผลักร่างเล็กที่พยายามเข้ามาคลอเคลียตัวเองออก ซึ่งตอนนี้ไอ้แทนได้ออกไปจากบ้านของผมแล้ว เหลือเพียงผมกับเฟิร์นเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่เดิม จะบอกว่าไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดแบบนั้นออกไปก็ไม่ได้ เพราะรู้ตัวดีว่าอารมณ์ล้วนๆ ที่เป็นสาเหตุ และตัวเองเจ็บปวดไม่ต่างกันนัก ตั้งแต่ตอนที่มันโกหกว่าไปต่างจังหวัดเพื่อหลบหน้าผม ซึ่งตอนนั้นก็พยายามทำตัวเองให้ใจเย็นแล้ว เพราะคิดว่ามันคงมีเหตุผล แต่พอมาเห็นว่าเจ้าตัวนอนกอดกับผู้ชายอารมณ์ของผมก็พลุ่งพล่านขึ้นอีก ทั้งๆ ที่ใจอยากจะเจอให้ไวที่สุด คิดถึงมันที่สุด และไหนจะใบหน้าที่แสดงออกว่าไม่รู้สึกหึงหวงอะไรตอนเห็นผมกับเฟิร์นแค่นั้นก็เป็นตัวฉุดอารมณ์ผมจนกู่ไม่กลับ

            มันแถบจะไม่รู้สึกอะไรเลย

            “อะไรกันธาม เพิ่งเริ่มไปแปปเดียวเองนะ แล้วตัวเองก็ยังไม่เสร็จเลยไม่ใช่หรือไง ?”

            ว่าจบมือเล็กๆ นั่นก็คว้าเข้าที่แก่นกายของผม จนตัวเองเลยได้แต่ปัดมือนั่นออก พลางมองใบหน้าที่แสดงสีหน้าขัดใจเล็กๆ นั่น เธอจึงยอมถอยห่างออกไป แล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ยอมรับครับว่าเฟิร์นมาไล่ตามตื๊อขอผมคืนดีได้ซักพักแล้ว แต่ตอนนี้ผมมีไอ้แทนอยู่เลยไม่ได้คิดอะไร

            ก็บอกแล้วว่าผมจริงจังกับมัน

            “เดี๋ยวไปส่ง”

            “นี่ธาม สรุปเราจะกลับมาคืนดีกันไม่ได้จริงๆ เหรอ เฟิร์นรักธามนะ”

            “...”

            “ถึงธามจะเคยคบผู้ชายก็ไม่เป็นไร เฟิร์นรับได้ ยังไงเมื่อก่อนธามก็เคยรักผู้หญิง แค่กลับมาเป็นแบบเดิมไม่อยากหรอก และตอนนี้ธามก็โสดแล้วนี่”

            “...”

            “แล้วเลิกกับเขาแล้วใช่มั้ยล่ะ”

            เลิก...

            ‘เลิกกันเถอะ’

            ผมถอนหายใจออกมา ไม่ได้ตอบรับกับคำพูดอะไรของเธอทั้งนั้นพลางค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงท่ามกลางเสียงเรียกเล็กๆ ตัวเองเลยไม่สนใจได้แต่เดินเข้ามาในห้องน้ำ และจัดการกับอารมณ์ที่ค้างคาอยู่ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าระหว่างทำผมคิดถึงใคร นึกถึงใบหน้าของใคร ซึ่งไม่นานนักอารมณ์ความอึดอัดของตัวเองก็ถูกปลดปล่อยออกมา

            “ไอ้แทน...”

            ผมหอบหายใจแรงๆ พลางหลับตาลง แล้วคิดทบทวนคำพูดกับการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่ายังไงผมก็ปล่อยมันไปไม่ได้จริงๆ ต่อให้จะต้องเห็นแก่ตัวยังไงก็ตาม

            เลิกกันแล้วงั้นเหรอ ?

            “ใครจะไปยอมเลิกกัน...”

 

 

 

            ผมขับรถมาส่งเฟิร์นที่บ้าน ซึ่งเธอก็อิดออดพอสมควรที่ผมบอกให้กลับ สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องยอม เพราะผมบอกว่าไม่งั้นจะทิ้งไว้ที่บ้าน ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่หลังจากเลิกกันไปที่เธอไปหาผมถึงบ้าน และมันก็ดันเข้ากับสถานการณ์พอดี เธอเลยตกเป็นแค่ ‘เครื่องมือ’ ของคนเลวๆ อย่างผมเท่านั้น

            บอกแล้วว่าผมมันไม่ใช่คนดี ก็แค่เห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น...

            “คราวหน้าไม่ต้องไปที่บ้านแล้วนะ”

            “ทำไมล่ะ ก็เฟิร์นอยากเจอธามนี่ อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม”

            “หุบปากดิ น่ารำคาญ !”

            “ธาม !” ผู้หญิงตรงหน้าทำหน้าบึ้งทันที ผมเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความอารมณ์เสีย ก่อนจะปลดล็อกประตู แล้วปรับน้ำเสียงลง

            “ลงไปได้แล้ว”

            “...” คนตรงหน้ากัดปากตัวเองแน่น น้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองพลางเปิดประตูลงจากรถ และก่อนที่ประตูจะปิดลงผมก็ต้องถ้วงไว้

            “เดี๋ยว...” ร่างเล็กชะงักลงทันที พลางมองใบหน้าผมด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สายตาก็บ่งบอกเป็นถามว่าเรียกเธออีกทำไม ผมจึงค่อยๆ พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่คิดว่าจะได้พูดมันออกมา ไม่ว่าจะเป็นในตอนที่เคยคบกับเธอก็ตาม ซึ่งทำเอาน้ำตาของคนตรงหน้าที่กลั้นไว้ไหลออกมาทันที “ขอโทษ”

            “ฮึก...”

            “เข้าบ้านดีๆ”

            “อะ...อื้อ”

            คนตรงหน้าปาดน้ำตาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เหลือเพียงผมเท่านั้นที่ยังคงนั่งคิดอะไรอยู่ และเมื่อตั้งสติได้จึงจัดการออกรถและตรงไปที่ๆ หนึ่งทันที ซึ่งตอนนี้ตีสองเกือบตีสามแล้ว และการเคลียกับยามว่าจะเข้าไปเลยค่อนข้างยากนัก แต่เมื่อเขาเห็นผมก็ปล่อยเข้ามาทันที เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมบุกเข้ามาในหอตอนดึกๆ ดื่นๆ และเพียงแค่มองระเบียงที่เคยเห็นมันยืนคุยกับผมตัวเองก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ช่วงสี่ห้าวันมานี้ ผมมาเฝ้ามันแถบทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นไปก็ตาม และดีใจมากที่มันบอกว่าผมสามารถเจอมันได้แล้ว และต่อให้มันไปมีอะไรกับคนอื่นจริงๆ ตอนนี้ผมก็รับได้ อาจจะเป็นเพราะตัวเองที่ไม่ยอมชัดเจนซักที แต่ต่อจากนี้มันต้องมีแค่ผมเท่านั้น เพราะผมจะผูกมัดมันไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่ทำได้ ขอแค่มันอย่าปล่อยมือจากผม แสดงออกว่าหึง ว่าหวงผมซักนิด แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

            ทำไมวันพรุ่งนี้ที่ว่ามันถึงได้เป็นแบบนี้วะ...

            ภาวนาขอให้วันแย่ๆ ผ่านไปซักทีเถอะ

            ผมลงจากรถพลางเดินเข้ามาในหอ ที่ค่อนข้างมืดเล็กน้อย แต่เนื่องจากมันใกล้จะสว่างแล้วไฟบางดวงเลยถูกเปิดขึ้น ก่อนที่ตัวเองจะชะงักการเดินเมื่อเห็นร่างในเงามืด ก่อนที่ร่างนั้นจะเผยออกมา ทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของผมถูกฉุดขึ้นมา เลยได้แต่กำมือแน่นและพยายามเดินผ่านร่างนี้ไปให้พ้น ซึ่งเจ้าตัวเองก็เห็นผมเช่นกัน ก่อนที่ตัวเองจะต้องหยุดเดินเมื่อถูกเรียกชื่อ

            “ไอ้ธาม”

            “...”

            “กูมีแฟนแล้ว” คำพูดของเพื่อนไอ้แทน ที่ตอนนี้อยู่ห่างออกไปจากผมเล็กน้อย ซึ่งพวกเราต่างคนต่างไม่มองหน้ากัน เพราะไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้น และยิ่งมีเรื่องที่ทำให้จะมองหน้ากันไม่ติดมาก่อนหน้านี้ด้วย

            “บอกกูทำไม”

            “กูอยากให้มึงรู้ว่ากูกับไอ้แทนเป็นแค่เพื่อนกัน ที่เหลือมึงจะคิด หรือจะทำอะไร ก็อยู่ที่พวกมึงสองคนแล้ว กูจะไม่ยุ่ง”

            “...”

            “ถือว่าเคลียร์เรื่องของกูแล้วนะ”

            พูดจบร่างนั้นก็เดินออกไปทันทีส่วนตัวเองก็เผลอคายมือตัวเองออกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จะว่ารู้สึกเบาใจขึ้นก็คงจะใช่ แต่ก็ยังไม่ได้วางใจทั้งหมด ผมจึงรีบเดินไปที่ห้องของไอ้แทนทันที ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้ทิมเองก็คงจะเพิ่งออกมาจากห้องนี้ ก่อนที่ตัวเองจะยกมือขึ้นเคาะประตูตรงหน้าเบาๆ

            ไม่นานนักประตูห้องก็ถูกเปิดออก ราวกับว่าเจ้าของห้องไม่ได้อยู่ห่างจากประตูบานนี้นัก ตามมาด้วยเสียงของมันที่ดังขึ้น

            “ลืมอะไรอีกวะ...”

            “...”

            ประตูถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของไอ้แทนที่ตอนนี้ยังคงอยู่ในชุดที่มันใส่ไปที่บ้านผม โดยตอนนี้มันชะงักคำพูดตัวเอง เมื่อเห็นว่าผมไม่ใช่คนที่ตัวเองพูดถึง แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยนั่นกับไม่แสดงความรู้สึก หรือท่าทีอะไรในตอนที่เห็นผมซักนิด จนตัวเองรู้โหวงๆ ขึ้นมาในใจ

            “มีอะไร ?”

            “...” สีหน้าและท่าทีที่นิ่งเกินไปของไอ้แทนนั้น ทำเอาผมถึงกลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา ก่อนจะสังเกตได้ว่าใบหน้านั่นมีรอยแผลจางๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปทำอะไรไว้ และจากอารมณ์รุนแรงคราวก่อนเลยทำให้ผมมองข้ามมันไป

            “ถ้าไม่มีงั้นกูปิดนะ...”

            “เดี๋ยว” ผมรีบรั้งประตูไว้เมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะปิดจริงๆ ท่ามกลางสายตาที่แสดงความไม่เข้าใจ จนตัวเองได้แต่เรียกชื่อมัน เพราะไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อน “ไอ้แทน”

            แค่เพียงได้เห็นหน้ามัน ได้ยินเสียงของมัน ความรู้สึกผิดก็ขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ

            “มีอะไรก็ว่ามาดิ กูง่วง” มันว่าเสียงเรียบพลางเบือนหน้าหนี ยิ่งทำให้ผมเห็นบาดแผลบนหน้านั่นเริ่มชัดขึ้น และมันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้ในช่วงที่เจ้าตัวนั้นหลบหน้าผมแน่นอน

            “มึงไปโดนอะไรมา ?”

            “โดนอะไร”

            “นี่ไง...” ผมทำท่าจะเอื้อมมือไปแตะใบหน้ามัน แต่เจ้าตัวกลับเบือนหน้าหนีหลบมือของผม จนตัวเองต้องชะงักและชักมือกลับ พลางถามขึ้นใหม่ “มึงไปโดนอะไรมา ?”

            “กูก็ตีกับคนอื่นปกติ ตามประสากูไปเรื่อย”

            “ตีกับใคร”

            “...”

            “ไอ้แก๊บ !”

            ผมพูดชื่อหนึ่งขึ้นมา ซึ่งทำเอาเจ้าตัวแสดงสีหน้าออกมาเล็กน้อย และเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่ามันจะต้องไปมีเรื่องมาอีกแน่ๆ เพราะช่วงนี้เห็นว่าไอ้แก๊บเองก็มีแผลใหม่มาเหมือนกัน ซึ่งผมได้สนิทอะไรกับมันขนาดนั้นเลยไม่ได้สนใจเรื่องของมันนัก และมันก็ชอบเฟิร์นด้วย การที่ผมเลิกกับเฟิร์นไปยิ่งทำให้มันแสดงออกว่าไม่ชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่

            ดูเหมือนไอ้แทนจะไม่ได้ปฏิเสธอะไร ก่อนที่มันจะทำหน้าเซ็งๆ แล้วออกปากไล่ผมอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่แน่ใจ “มึงกลับไปได้แล้วไป”

            “ไอ้เหี้ยมืด”

            “จะเรียกทำไมนักหนาวะ น่ารำคาญ”

            “ทำไมมึงชอบหาเรื่องเจ็บตัวนักวะ !”

            “เรื่องของกู มึงจะมายุ่งทำไม” มันทำท่าทีรำคาญและแสดงสีหน้าออกว่าอยากจะไล่ผมให้ไปให้พ้นตาซักที

            “ไอ้แทน !”

            “เลิกพล่ามแล้วกลับไปซักทีเถอะว่ะ กูไม่มีอะไรจะพูดกับมึงแล้ว”

            “แต่กูมี !”

            “ก็รีบๆ พูดมาดิ”

            “กูรักมึง” ผมพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป ซึ่งไอ้แทนถึงกับเงียบไป ก่อนที่เจ้าตัวผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย พลางหันมามองหน้าผมแล้วพูดกลับมาเช่นกัน

            “เออ กูก็รักมึงเหมือนกัน” สิ้นคำพูดนั้นหัวใจของผมก็เหมือนกำลังลอยขึ้นสูง แต่ก็ต้องดิ่งลงกลับสู่ที่เดิมเมื่อมันพูดต่อ “ถามจริง มาพูดกันตอนนี้แล้วได้อะไรวะ ?”

            “...”

            “เลิกงี่เง่าแล้วกลับไปหาคนของมึงเถอะ”

            “ไอ้แทน กูมีมึงคนเดียว !”

            “เหอะ...อย่าพูดอะไรที่มันไม่ใช่ว่ะ” มันแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น ซึ่งตอนนี้ตัวเองก็ไม่ต่างกันนัก “กลับไปได้แล้ว กูง่วง !”

            “ไอ้แทน กูขอโทษ” ผมพูดขึ้นเสียงเบา ซึ่งมันเองก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา พลางเริ่มเปลี่ยนท่าทีเป็นมองหน้าผมจริงจัง

            “กูเองก็ขอโทษสำหรับทุกเรื่องเหมือนกัน”

            “มึงจะขอโทษกูทำไม เรื่องนี้กูผิด กูขอโทษจริงๆ มึงจะให้กูทำยังไงวะ มึงถึงจะยอมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

            “กูก็กำลังจะเป็นเหมือนเดิมอยู่นี่ไง”

            “...”

            “เป็นแค่ ‘คนรู้จักกัน’ เหมือนเดิม”

            “ไอ้แทน ไม่เอาดิ กูไม่อยากเลิกกับมึง !”

            คำพูดของผมทำให้คนตรงหน้าถึงกับแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย ปะปนกับความเจ็บปวดออกมา มือของเจ้าตัวก็เริ่มกำแน่น ราวกับกำลังระงับอารมณ์ของตัวเอง ก่อนที่คำพูดของมันก็ทำให้ผมรู้ว่าเจ้าตัวเองก็คงเจ็บไม่น้อยกับการกระทำไม่คิดของผม “เฮ้อ ไอ้ธาม...ตอนคบมึงก็บังคับกูให้คบ พอกูบอกเลิกมึงก็ไม่ยอมเลิก และเป็นคนบอกเองว่าถ้าเบื่อเมื่อไหร่มึงจะเป็นคนบอกเลิกกู แล้วตอนนี้คือมึงเบื่อกูแล้ว มึงบอกเลิกกูแล้ว มึงจะเอาอะไรอีกวะ”

            “...”

            “ทุกอย่างมึงเป็นคนกำหนดทั้งนั้น แค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง”

            “...”

            “หรือการเล่นกับความรู้สึกกูมันสนุกขนาดนั้นเลย ?”

            “ถ้าอะไรที่ทำให้มึงคิดว่ากูเล่นกับความรู้สึกมึง กูขอโทษ กูจะไม่แก้ตัว แต่กูขอให้มึงยกโทษให้กู”

            “กูไม่เคยโกรธเคืองมึงเลยนะไอ้ธาม เพราะกูรู้ไงว่าต้นเหตุระหว่างกูกับมึงมันก็ความผิดกูทั้งนั้น แต่ตอนนี้ก็ถือว่ากูชดใช้มาพอแล้วมั้ง ถ้ามึงอยากได้ที่ระบายใหม่ มึงก็ไปหาคนอื่นเถอะ มีคนอีกเยอะที่เต็มใจให้มึงน่ะ”

            “ไอ้แทน กูอยากให้มึงรู้ว่ากูจริงจังกับมึง”

            “...”

            “แล้วกูก็ไม่ยอมปล่อยมึงไปง่ายๆ ด้วย”

            “กูเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าถ้าตอนไหนที่มึงไปมีอะไรกับคนอื่นระหว่างที่คบกับกูถือว่าความสัมพันธ์ของเราจบลงทันที”

            “...”

            “ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็กลับไปว่ะ กูเบื่อที่จะคุยกับมึงเต็มทีแล้ว” ไอ้แทนมันทำท่าจะปิดประตู ซึ่งคราวนี้ผมก็ไม่ได้รั้งมันไว้เหมือนคราวก่อน เพราะไม่รู้จะพูดยังไง เพราะตัวเองทำลายทุกๆ อย่างเองแท้ๆ ก่อนที่ประตูนั่นจะชะงักลงและเปิดออกใหม่ เผยร่างของไอ้แทนที่มองมาที่ผมที่ยืนนิ่งอยู่ ราวกับว่าเจ้าตัวเพิ่งจะนึกอะไรได้ ก่อนที่มันจะเอื้อมมือปลดบางอย่างออกจากคอ พร้อมกับยื่นมันมาให้ผม “ของสำคัญของมึง กูขอคืน”

            ผมมองของที่ที่ยื่นมา ไม่เคยรู้สึกว่าทรมานเท่านี้มาก่อน ถ้ามันคืนให้ ก็แสดงว่ามันน่าจะรู้ความหมายของสร้อยแล้ว

            “กูให้มึงไปแล้ว กูไม่คิดจะเอาคืน”

            ไอ้แทนมันนิ่งไปซักพัก พลางมองของในมือตัวเองนิ่งๆ ก่อนจะเงยหน้ามองหน้าผมที่ยืนมองมันเช่นกัน ก่อนที่การกระทำของเจ้าตัวจะทำให้ผมรู้สึกเจ็บขึ้นมาเป็นเท่าตัว ซึ่งไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันจะเทียบเท่ากับความรู้สึกในตอนที่มันเห็นผมมีอะไรกับคนอื่น หรือตอนที่ผมบอกเลิกมันได้หรือเปล่า พร้อมกับของในมือนั่นที่หล่นลงพื้นไปพร้อมๆ กับหัวใจของผม

            “ถ้าไม่เอา...”

            “...”

            “งั้นกูทิ้ง”

           

 


- แทน –

ของสำคัญของมึง กูขอคืน


 

Thank You !

 

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
โอ้ยโอ้ย. ธามทำอะไรลงไปน่ะ ประชดกันแบบนี้

กู้คืนมาให้ได้นะ 

ธามแทน. ธามแทน.  ธามแทน

 :hao5:  :hao5:  :hao5:  :hao5:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สมน้ำหน้าอีธาม :hao7:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
พอกันทั้ง2คน ทำไมเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: สมน้ำหน้าธาม ซะจริง
นี่ถ้าใจเย็น ซักหน่อย ก็รู้เรื่อง
ทำประชดประชัน เอาหญิงทันที
พูดว่าเบื่อ พูดขอเลิกก่อน
โดยไม่ถามไถ่พูดจากันซะก่อน
เจ็บไปเลย ธาม
แต่แทน ก็เจ็บเหมือนกัน นี่สิ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เพราะความใจร้อน ไม่ฟังเหตุผล ไม่เชื่อใจ ขี้ประชดประชันของแกล้วนๆเลยธาม

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นายทำร้ายตัวเองชัดๆเลยนะ นายธาม....

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :hao5: อยากอ่านต่อแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด