Chapter 32
ระยะห่าง การรอคอย และความคิดถึง... “พรุ่งนี้มึงก็ไปฝึกงานแล้วดิ...”
“อืม”
“เซ็งว่ะ”
“แล้วมึงออกฝึกวันไหน”
“สามวันหลังจากมึง”
“...”
ตอนนี้ผมกับไอ้ธามอยู่ที่หอของตัวเอง โดยพวกเรานั่งอยู่ตรงข้ามกัน ตรงหน้าก็มีหม้อสุกี้ที่กำลังเดือดพร้อมกิน แต่กลับไม่มีใครที่ขยับเขยื้อนตักมันกินซักนิดหลังจากที่พูดถึงเรื่องฝึกงาน
“แล้วมึงกลับมาวันไหน ?”
“20”
“ก่อนกูอาทิตย์นึง...” ไอ้ธามมันพูดเสียงเรียบ ก่อนจะหยิบตะเกียบไปเขี่ยของในหม้อ พลางพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ติดต่อไม่ได้จริงๆ เหรอวะ...?”
“...”
“เออ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ใจร้ายว่ะ”
ผมยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะเริ่มตักของในหม้อนั่นมากิน ปากก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้ามึงเหงามึงเงี่ยนก็หาคนอื่นแก้ขัดไปก่อน”
“...”
“อะไร ?” ผมถามขึ้นเมื่อไอ้ธามมันหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเองแล้วมองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก
“จะให้หาจริง ?”
“ก็แล้วแต่มึง”
“ทำไมมึงแม่งเป็นแบบนี้ตลอดเลย”
“เป็นอะไร ?”
“...”
“อย่าลืมว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน กูห้ามอะไรมึงไม่ได้อยู่แล้ว”
“ห้ามได้ดิ กูให้สิทธิ์มึงเต็มร้อยเสมอไอ้แทน แต่มึงไม่เคยใช้เอง”
“...” และคราวนี้ก็เป็นฝ่ายผมที่เงียบ ตามด้วยสายตาของไอ้ธามที่แฝงไปด้วยความจริงจังในทุกคำพูดของตัวเอง ก่อนที่ร่างของผมจะค่อยๆ ขยับไปข้างหน้า มือก็ยกขึ้นจับใบหน้าของไอ้ธามเบาๆ แล้วทาบริมฝีปากตัวเองลงไปบนริมฝีปากที่ปิดสนิทนั่น ไอ้ธามจึงรีบเปิดปากและตอบรับจูบของผมแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม “งั้นกูขอสั่งห้ามไม่ให้มึงไปมีอะไรกับใครทั้งนั้นในระหว่างที่เราไมเจอกัน ถ้าเงี่ยนนักก็ชักว่าวรอ และถ้าเหงาก็นั่งดูการ์ตูนไป”
“...”
“โอเคมั้ย J”
“หึ...มันก็ต้องโอเคอยู่แล้ว J”
“ถ้าเป็นเด็กดีเดี๋ยวให้รางวัล”
“เช่นว่าคืนนี้เราจะมีอะไรกันใช่มั้ย ?”
“ฝัน !”
ผมผละออกจากร่างของไอ้ธาม ก่อนจะมองมันด้วยสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดเล่นของคนตรงหน้า ซึ่งมันก็นั่งหัวเราะทันทีที่เห็นท่าทางของผม ผมเลยได้แต่เลิกสนใจมันแล้วหันมาสนใจกับอาหารตรงหน้าแทน ซึ่งไอ้ธามก็ไม่ต่างกันนัก ก่อนที่คำพูดของมันจะทำเอาผมหน้าขึ้นสี “ว่าที่แฟนใคร น่ารักจริงๆ”
“ระ...รู้ได้ไงว่าเป็นว่าที่แฟน บางทีตอนกลับมา กูอาจจะกลับมาพร้อมแฟนใหม่ก็ได้”
“ไอ้เหี้ยมืด”
“ใครจะไปรู้ แถวที่กูไปฝึกงานอาจจะมีสาวๆ สวยๆ ตรงสเป็คกูอยู่เยอะก็ได้นะ J”
“หึ...” คนตรงหน้าเค้นเสียงเล็กน้อยกับท่าทีของผมและคำพูดต่อไปของไอ้ธาม ก็ทำให้ผมปรับสีหน้าจากยิ้มๆ เป็นหงุดหงิดทันที “งั้นเดี๋ยวกูจะไปไล่งาบสาวในสเป็คมึงให้หมดเลยดีมั้ย”
“ห้าม !”
“นี่หวงสาวในสเป็ค หรือหวงกู J”
“ชิส์ !” ผมจิ๊ปากใส่มัน ก่อนจะเลิกพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งไอ้ธามก็ยังคงเป็นผู้ชนะตามเคย โดยที่เจ้าตัวหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ หยุดลง ซึ่งผมก็ไม่ต่างนัก ราวกับว่ามีเรื่องที่สมควรจะจริงจังในตอนนี้ ไอ้ธามมันจึงวางตะเกียบแล้วเอื้อมมือมาจับมือผมที่อยู่ตรงข้าม
“กูคงคิดถึงมึงมากว่ะ”
“อืม”
“หยวนๆ หน่อยไม่ได้หรือไง แบบแค่ไลน์หากันก็ได้”
“...”
“มึงแม่ง...”
“กูก็ไม่ต่างจากมึงหรอกน่า...” ผมพูดขึ้น เพราะไม่รู้หรอกว่าระยะเวลาที่ห่างกันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างและก็ยอมรับว่ากลัวเหมือนกันว่าอีกคนอาจจะเปลี่ยนไปจากตอนนี้ แต่ก็ทำได้แต่รอเวลาที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น ต่อให้ผลเป็นยังไงก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี “บางทีถ้าถึงตอนนั้นมึงอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับกูแล้วก็ได้”
“...”
“ถ้าจากกันแบบนี้มันก็น่าจะโอเคกว่าใช่มั้ยล่ะ”
“มึงคิดว่ากูจะเลิกรักมึงง่ายขนาดนั้นเลย ?”
“ใครจะไปรู้วะ”
“กูมากกว่ามั้งที่ต้องกลัว”
“อืม กูก็ไม่ได้รับปากว่าถ้ากูกลับมาแล้วกูจะยังรักมึงอยู่” ผมพูดด้วยท่าทีจริงจัง ก่อนจะพยายามปรับน้ำเสียงให้กลับมาเป็นปกติ เมื่อเริ่มเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก “มึงอย่าทำเหมือนห่างกันเป็นปีสองปีดิ แค่ไม่กี่เดือนเอง แม่ง !”
“มันก็นานอยู่ดีล่ะ ไม่กี่เดือนของมึงน่ะ”
“เออน่า อย่าบ่น”
“แล้วจะให้อยู่เฉยหรือไง ก็มึงเพิ่งบอกเองว่ามึงจะไม่เหมือนเดิม”
“กูหมายถึงว่า ‘อาจจะ’ เข้าใจมั้ย ?”
“อืม”
“ไม่เอาหน่าไอ้ธาม ~” ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งทำสีหน้าไม่ดีนักโดยเข้าทางด้านหลัง พลางย่อตัวลงนั่งยองๆ แล้วยกแขนขึ้นคล้องคอของคนที่นั่งอยู่ โดยมือข้างหนึ่งก็แกล้งล้วงเข้าไปในสาบเสื้อยืดของมันพลางสะกิดเข้าที่ตุ่มไตที่อยู่ด้านในนั่น “จะนอยน์ทำไมห๊ะ ?”
“ทำแบบนี้นี่ไม่อยากกินต่อ ?”
“หืม J”
“มึงนี่มันชอบอ่อยจริงๆ”
“ก็โสดอยู่ เลยอ่อยได้”
“อ่อยแล้ว อยากเอาด้วยมั้ยล่ะ ?”
“ก็บอกแล้วไง ไม่นิยมทำกับคนที่ไม่ใช่แฟน”
“หึ...”
ผมหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อสามารถแกล้งไอ้ธามได้ ก่อนจะเลิกเล่นและทำท่าจะเอามือตัวเองออกแล้วลุกขึ้น แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น เมื่อไอ้ธามมันจับแขนของผมที่คล้องคอมันไว้แน่นไม่ให้ลุก ผมเลยได้แต่พยายามดึงอยู่แบบนั้น จนในที่สุดคนตรงหน้าก็จับแขนผมอ้อมหัวตัวเองแล้วหมุนตัวหันหน้าเข้าหากัน พลางดึงร่างที่ทำท่าจะลุกของผมจนเสียหลักล้มลง “ทำอะไรเนี่ย !?”
“จัดการคนขี้อ่อย J”
“...!”
“มามะ...สุกงสุกี้ไม่ต้องกินแล้วเนี่ย”
“ยะ...อย่านะเว้ย ไม่งั้นกูโกรธ !”
“หืม พูดอะไร ไม่เห็นได้ยิน J”
“ไอ้ธาม !” ผมมองมันแบบไม่พอใจทันที ก่อนที่คนตรงหน้าจะยิ้มแบบชั่วร้ายพลางโน้มหน้าเข้ามาใกล้ จนตัวเองได้แต่เบี่ยงหลบ มันเลยกดจมูกตัวเองมาที่แก้มผมแรงๆ “ไอ้บ้านี่ !”
“จะไปฝึกงานทั้งทีต้องให้กูทำป้ายห้อยให้มั้ย ว่ามีผัวแล้ว ?”
“ไม่จำเป็น !”
“หึ...อย่าให้รู้ว่าไปแอบอ่อยใครแล้วกัน”
“ถ้ากูอ่อยแล้วมึงจะทำไมห๊ะ !?” ผมมองหน้าไอ้ธามอย่างหาเรื่อง เมื่อมันมองมาแบบจับผิด จนใบหน้านั่นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีหน้าดุๆ ขึ้นทันที จนตัวเองต้องพูดขึ้นใหม่อีกครั้ง “เออๆ จะไปอ่อยใครได้วะ อย่าทำเหมือนกูจะดึงดูดคนอื่นได้ทุกคนดิ๊ !”
“มึงมันชอบดึงดูดตัวผู้”
“เหอะ L !”
ผมสะบัดแขนออกจากมันก่อนจะทำท่าลุกขึ้นเพื่อนหนีร่างตรงหน้า แต่ไอ้ธามมันก็ฉุดร่างผมให้ล้มลงอีกครั้งแถมยังนั่งลงบนตักของมันพอดิบพอดีอีกต่างหาก
เหี้ย !
“ปล่อย !”
“ไม่”
“กูหิว ปล่อยเดี๋ยวนี้ !”
“แต่กูไม่หิวแล้วว่ะ...”
“ไม่หิวก็เรื่องของมึง...อ๊ะ...!” ผมร้องออกมา เมื่อไอ้ธามมันล้วงมือเข้าไปในเสื้อของผม พลางใช้นิ้วบี้ที่ยอดอกตัวเองแรงๆ “อะ...ไอ้ธาม จะกินสุกี้...อื้อ...!”
“สุกี้ไว้ที่หลังก็ได้” ไม่ว่าเปล่าคนที่ผมนั่งทับอยู่ก็ซุกไซร้ลงมาที่ซอกคอของตัวเองทันที มือก็เริ่มอยู่ไม่สุกนอกจากจะล้วงเข้าไปในเสื้อแล้ว กางเกงก็เริ่มจะโดนรุกรานเข้ามาเรื่อยๆ
จะมากไปแล้วนะเว้ย !
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่แฟนอย่ามาทำลุ่มล่าม !” ผมพูดเสียงแข็งพลางจับมือของไอ้ธามที่ยุ่มย่ามกับกางเกงผมไว้แน่น พลางหันไปมองค้อนๆ ใส่คนที่ผมนั่งทับอยู่ และดูเหมือนคำพูดของผมจะไม่เป็นผลนัก เมื่อมันยังคงลวนลามผมไม่เลิก “ไอ้เหี้ยธาม...อ๊ะ...!”
“ก็บอกว่าเดี๋ยวในอนาคตก็เป็นไง...”
“ไม่ได้บอกซัก...หน่อย...!”
“ว่าไงนะ ?”
อยู่ๆ ไอ้ธามก็ทำเสียงเข็งขึ้นมา พลางหยุดการกระทำของตัวเองซะดื้อๆ ดูแล้วก็คงจะไม่พอใจกับคำพูดผมนัก “กะ...ก็ตอนนี้มันยังไม่ใช่อนาคตนี่หว่า !”
“แล้วไม่อยากรู้หรือไง ว่าแฟนในอนาคตตัวเองประสิทธิภาพดีแค่ไหน ?”
“ใครจะไปอยากรู้วะ...อะ...!”
“ทดลองฟรีไม่คิดตังค์ ถ้าใช้แล้วติดใจยินดีอยู่เคียงข้างตลอดชีวิต J”
“อะ...ไอ้บ้า” ผมด่ามันด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีกับคำพูดนั่น ในใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนที่จะต้องเลิกเขินแล้วหันมาพยายามทำให้มันเลิกยุ่งกับร่างกายของตัวเองต่อ “ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย อะ...ไอ้...!”
“หืม ?”
“อ๊ะ...อื้อ...” ผมครางเสียงกระเส่าเมื่อมันลูบวนอยู่บริเวณหน้าอก ส่วนอีกข้างก็ขย้ำกลางกายของผมเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ “พะ...พอแล้วไอ้ธาม พรุ่งนี้กูต้องเดินทางไกล...”
ผมพูดออกมาตามความจริง เพราะผมได้ลงฝึกงานไว้ที่ต่างจังหวัด ซึ่งไกลจากกรุงเทพพอสมควร และการเดินทางก็หลายชั่วโมงเลยไม่อยากเสียแรงกับอะไรไร้สาระนัก และดูเหมือนคราวนี้ไอ้ธามจะยอมหยุดการกระทำของตัวเองง่ายๆ พลางปล่อยผมให้เป็นอิสระทันที ตัวเลยเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ และไม่คิดว่าความดื้อด้านของมันจะอ่อนลงได้มากขนาดนี้
“...”
“ป้ะ กินสุกี้กัน” ผมลุกขึ้นออกจากตักของมัน พลางเดินกลับที่ แต่ก้าวเพียงไม่กี่ก้าวไอ้ธามก็เอื้อมมือมาจับมือผมไว้ จนผมที่ยืนอยู่ต้องก้มมองหน้ามันอีกครั้ง “เป็นอะไรอีกห๊ะ ?”
“แม่ง...คิดถึงว่ะ”
“กูยังไม่ไปเลย มึงจะรีบคิดถึงไปไหน แล้วอีกอย่าง ถึงกูไม่ได้ไปฝึกงาน มึงก็ต้องไปอยู่ดี ยังไงก็ต้องห่างกัน”
“อย่างน้อยกูก็ต้องแว๊บไปหามึงป้ะ แต่นี่อะไร มึงสั่งห้ามติดต่อ มันทรมาณนะเว้ย !”
“มึงนี่ก็ชอบทำเหมือนขาดกูไม่ได้”
“เออ ก็ขาดไม่ได้ไง” เสียงของไอ้ธามที่พูดขึ้นทันทีแบบไม่ลังเล ทำให้ผมถึงกับเงียบไป พลางได้แต่คิดว่าตัวเองทำเกินไปจริงๆ หรือเปล่า แต่อย่างว่า ยังไงตอนนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจกับความรักในแบบของผมกับมันอยู่ดี และตัวเองก็ยอมรับว่าทรมาณไม่ต่างจากมันนัก แต่แค่ผมอยากรู้ว่าตัวเองจะขาดมันไม่ได้จริงๆ หรือเปล่า ระยะห่างที่เกิดขึ้น เวลาไม่ที่เจอกัน มันอาจจะทำให้รู้ก็ได้ว่าผมหรือมันต่างต้องการกันและกันมากแค่ไหน ในใจก็ภาวนาว่าถ้าถึงตอนนั้น ขอให้ต่างคนต่างไม่เปลี่ยนใจแค่นั้นก็คงพอแล้ว
ก็บอกแล้วว่าผมก็ไม่อยากเริ่มรู้สึกใหม่กับใครที่ไม่ใช่มันนักหรอก...
“อยากรู้ป้ะ ว่าทำไมกูถึงห้ามไม่ให้มึงติดต่อ”
“ถามขนาดนี้ก็ต้องอยากรู้แล้วล่ะ ทำไม ไหนบอกมาดิ”
“กูกลัวคิดถึงมึงไง” ผมว่าก่อนจะนั่งลงยองๆ ตรงหน้าไอ้ธาม พลางมองด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งมันเองก็หน้าขึ้นสีเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะพูดต่อ “ถ้ามึงติดต่อไป กูต้องไม่เป็นอันทำงานและต้องอยากลงมาหามึงบ่อยๆ แน่ๆ ก็รู้อยู่ว่าที่ฝึกงานกูมันไกล ถ้ามัวแต่เดินทางไปกลับ ก็ไม่ต้องฝึกหรอกงานน่ะ ออกจากมหา’ลัยแล้วไปนอนอยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า”
ไอ้ธามมันนิ่งไปกับคำพูดของผม ซึ่งสีหน้าดีขึ้นจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เจ้าตัวยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายที่จะเผยความประหม่า “บอกแล้วให้ลาออกแล้วมานอนเฉยๆ เป็นเมียกูก็ไม่เชื่อ...”
“ก็บอกว่าไม่ชอบนอนอยู่เฉยๆ อยากได้เมียที่รักสบายก็ไปหาที่อื่น !”
“พูดเล่นนิด พูดเล่นหน่อยทำเป็นเคือง มึงนี่เริ่มจะมีนิสัยเหมือนแม่กูละ ขี้งอนเป็นผู้หญิง”
“แต่กูไม่ใช่ผู้หญิง กูมีคว... !” ผมสะบัดมือมันออก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วกลับไปนั่งที่ตัวเองจริงๆ ได้ซักที ก่อนจะจัดการกินของตรงหน้าหลังจากที่ปล่อยให้มันอยู่ในหม้อซะนาน ซึ่งไอ้ธามก็ได้แต่นั่งหัวเราะกับคำพูดของผมก่อนหน้านี้ จนตัวได้ชำเลืองมองมันค้อนๆ อยู่หลายหน เจ้าตัวก็ไม่สะทกสะท้านกับสายตาของผมแม้แต่นิด ได้แต่นั่งกินแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว “กินเสร็จก็กลับไปได้แล้ว วันนี้กูจะนอนเร็ว”
“ไม่กลับ”
“เอ๊ะ !”
“ขอนอนนี่”
“ไม่ !”
“นะไอ้แทน ขอนอนด้วยวันนึง เดี๋ยวก็ต้องห่างกันแล้ว”
“...”
“นะ”
“มึงนี่มัน...!” ผมทำท่าจะอ้าปากด่ามัน แต่ก็ไม่รู้จะด่ายังไง เพราะไอ้ธามมันเกินเยียวยา “เออ ตามใจ แต่พรุ่งนี้ถ้ากูตื่นก่อน กูก็ไปก่อนนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะมึงไม่มีทางตื่นก่อนกูอยู่แล้ว”
“รู้ได้ไง ?”
“รู้แล้วกัน J”
# หัวลำโพง
6.30 น.
ตอนนี้ผมกับไอ้ธามมันมานั่งรอรถไฟที่หัวลำโพงกันเรียบร้อย พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบขนาดกลางของผมโดยที่ตอนนี้ไอ้ธามมันนั่งหาวไม่หยุด เนื่องจากวันนี้ผมไม่ได้ตื่นก่อนมันจริงๆ เพราะเจ้าตัวนั้นไม่ยอมนอนเลย จนผมได้แต่มองมันเซ็งๆ กับไอ้อาการฝืนสังขารนั่น
งี่เง่าจริงๆ
“ง่วงนักก็กลับไปนอน เดี๋ยวกูรอคนเดียวได้ อีกครึ่งชั่วโมงเอง”
“ไม่อ่ะ...”
“ไอ้ธาม ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้นักวะ”
“ทำอะไร กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย...” มันว่าพลางหาวออกมา ดวงตาก็แดงก่ำแบบคนอดหลับอดนอน ซึ่งผมก็ได้แต่มองหน้ามันเซ็งๆ ซึ่งเจ้าตัวก็น่าจะรู้ว่าผมไม่พอใจกับเรื่องอะไร จนตัวเองต้องพูดขึ้นเสียงเบา “ถ้ากูหลับกูก็ได้อยู่กับมึงแปปเดียวดิ...”
“...”
“รถไฟมึงน่าจะมาซักหกโมงเย็นเนอะ”
“บ้า...” ผมพูดก่อนจะผลักหัวของมันเบาๆ ในใจก็อ่อนลงเล็กน้อยกับเหตุผลงี่เง่านั้น และอีกสามวันไอ้ธามเองมันก็จะออกฝึกงานเหมือนกัน หวังว่าเจ้าตัวจะไม่มานั่งฟรุ่งซ่านแบบนี้หรอกนะ “เดี๋ยวกูไปซื้อผ้าเย็นให้ มึงรออยู่นี่...”
“ไม่ต้อง”
“เอ๊ะ มึงนี่ยังไง !”
“รออยู่ด้วยกันที่นี่แหละ อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเอง”
“มึง...!”
“ได้อยู่ด้วยกันอีกแค่ครึ่งชั่วโมงเอง...”
ไอ้ธามมันใช้ดวงตาแดงๆ นั่นมองใบหน้าของผมไม่วางตา ซึ่งเจ้าตัวก็ยังแสดงอาการหาวออกมาเรื่อยๆ จนผมได้แต่ถอนหายใจกับความดื้อด้านของมัน และไม่นานนัก ดูเหมือนว่าเวลาครึ่งชั่วโมงของไอ้ธามมันจะเร็วอย่างที่ว่างจริงๆ เมื่อตอนนี้รถไฟขบวนของผมได้มาจอดเทียบสถานีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคนที่มาส่งก็จับมือผมไว้แน่นแม้แต่ตอนขึ้นรถไฟ เจ้าตัวก็จะตามขึ้นไปส่ง จนผมต้องห้ามไว้ เพราะดูเหมือนว่าถ้าปล่อยให้ขึ้นไป มันคงจะติดสอยห้อยตามผมไปถึงที่หมายแน่ๆ
“ส่งแค่นี้แหละ มึงกลับไปนอนพักได้แล้วไป”
“...”
“อย่างอแง”
“มึงอย่าพูดเหมือนกูเป็นเด็กๆ ดิ๊ !”
“ก็มึงทำตัวเป็นเด็ก” ผมว่าก่อนจะยกมือผลักหัวที่โงนเงนนั่นเบาๆ ซึ่งไอ้ธามมันก็ทำหน้ามุ่ยนิดๆ ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายเข้าสวมกอดร่างนั่น โดยไม่สนใจสายตาของคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มมองมาทางพวกเรา ไอ้ธามเองก็เช่นกัน มันยกแขนขึ้นเพื่อโอบกอดผมไว้ “เป็นเด็กดี เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว”
“ก็บอกว่าอย่าทำเหมือนกูเป็นเด็กไง...”
“หึ...ถ้าไม่ใช่เด็ก ก็หัดเลิกทำตัวดื้อด้านแล้วกลับไปนอนพักได้แล้ว !” ผมว่าก่อนจะผละร่างออกจากมัน ซึ่งคนตรงหน้าก็ทำหน้าไม่พอใจนิดๆ ราวกับไม่อยากปล่อย ผมเองที่คิดว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้ต้องไม่ได้ไปจากมันแน่ๆ เลยได้แต่ตัดบทแล้วเลือกที่จะบอกมันอีกครั้ง “งั้นกูไปละ
“อืม”
“แล้วเจอกัน” ผมลูบหัวมันหนึ่งครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินขึ้นรถไฟ ก่อนที่ตัวเองจะต้องหัวใจเต้นแรงขึ้นมาเป็นเท่าตัวเมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างหลังตะโกนขึ้นเสียงดัง
“กูรักมึงนะไอ้เหี้ยมืด !”
“อะ...ไอ้บ้า !”
ผมหันไปด่ามันครั้งสุดท้าย ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวเดินขึ้นรถไฟด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยที่หันมองมาที่ผม จนตัวเองได้แต่พยายามหลบหน้าหลบตาและหาที่นั่งของตัวเอง เมื่อเก็บสัมภาระและนั่งที่ตัวเองแล้วก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะควักโทรศัพท์พร้อมกับของที่เตรียมมาด้วยออกมาจากกระเป๋ากางเกง และสวมมันเข้าที่คออย่างสื่อความหมาย มือก็กดพิมพ์บางอย่างลงบนโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะเลือกถอดซิมออกจากเครื่องและปล่อยให้มันปิดตายอยู่แบบนั้น โดยตอนนี้มีเพียงผมกับของที่อยู่บนคอและข้อความสุดท้ายเท่านั้นที่เป็นตัวสื่อกลางระหว่างพวกเราในระหว่างที่อยู่ใกลกัน
‘สร้อยจี้รูปเฟือง’
“แล้วเจอกันไอ้ธาม...”
Tan : รักมึง
......................................................
Special Talk Talk : วิศวะขาเม้าท์
Member 1 : ดีใจเว้ยยย ฝึกงานเสร็จซักที ! (1 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : ดีใจด้วย กูรู้สึกเหมือนกูโดนกดขี่ ฮื้อ ~ (4 คน อ่านแล้ว)
Member 1 : ทำไมวะ (5 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : เขาใช้กูเยี่ยงทาส เงินก็ไม่ได้ เซ็งสัสๆ (7 คน อ่านแล้ว)
Member 1 : สม 555555+(9 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : พวกมึงอยู่ไหนกันวะ ตอนนี้กูอยู่ ม. แม่งไม่เจอใครเลย (11 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : คงจะเจอ วันนี้เขาก็ต้องนอนอืดอยู่บ้านสบายๆ หนึ่งวันก่อนดิวะ เหนื่อยมาตั้งสามเดือน ใครไปก็บ้าแล้ว !(15 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : อ้าว งั้นกูก็บ้าดิ... (16 คน อ่านแล้ว)
Many member : เออ ! (16 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : อะไรวะ แม่ง (19 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : 55555+ รีบกลับบ้านมานอนเถอะ (20 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : เฮ้ยยย กูเจอเพื่อนที่บ้าเหมือนกับกูแล้ว !(21 คน อ่านแล้ว)
Member 1 : หือ ใคร ? (22 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : ไอ้ธาม ตอนนี้มันอยู่ ม. ว่ะ แถมยังถือดอกไม้ช่อใหญ่มาด้วย... (23 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : เข้าไปทักดิ J (25 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : ไม่อ่ะ ไม่กล้า เหมือนมันกำลังมองหาใครนี่ล่ะ มันมีแฟนแล้วเหรอ ? (28 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : น่าจะมีแล้ว ก็ที่ช่วงนึงเขาพูดกันว่ามันตามง้อเมียไง (32 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : อ๋อ งั้นกูไม่ทักน่ะดีละ ปล่อยให้มันไปหาเมีย ท่าทางจะคิดถึงกันน่าดู อิจฉาพวกมีแฟนจังเลยยย ~ (33 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : มาเป็นแฟนกูมั้ย ? (33 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : อะ...ไอ้บ้า ! (34 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : พวกมึงเล่นอะไรกัน (35 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : 55555+ (35 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : ว่าแต่ดีโชคดีเนอะ ที่เราฝึกงานแค่สามเดือน (33 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : นั่นดิ บางคณะแม่งก็ฝึกนานเกิ๊น (34 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : พวกอุตสหกรรมป้ะ ที่ฝึกตั้งหกเดือน (34 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : เหี้ย ขนลุกเกรียว (36 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : นาน เป็นกูคงเฉาตายคาที่ฝึกงาน (36 คน อ่านแล้ว)
Member 4 : เออจริง จะออกไปไหนก็ลำบาก ทำแต่งาน เวลาจะชักว่าวยังไม่มี (37 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : แม่งจิตตก... (39 คน อ่านแล้ว)
Many member : …
Member 1 : แค่นั้นยังจิ๊บๆ อย่างเรานี่สบายๆ ไปเลย แม่งมีหนักกว่านั้นอีก (41 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : หือ คณะไหน...? (41 คน อ่านแล้ว)
Member 5 : พวกเกษตรฯ ไง แม่งฝึกกันเก้าเดือน (40 คน อ่านแล้ว)
Member 3 : โหดสัส ! (41 คน อ่านแล้ว)
Member 2 : ร้องเหี้ยหนักมาก... (42 คน อ่านแล้ว)
ธาม : พวกมึงว่าไงนะ ใครฝึกเก้าเดือน !(44 คน อ่านแล้ว)
Many member : …
ธาม : กูถามว่าใครฝึกงานเก้าเดือน !(46 คน อ่านแล้ว)
Many member : เด็กเกษตร... (49 คน อ่านแล้ว)
ธาม : ...
Many member : …
.
.
.
ธาม : เหี้ย นี่กูต้องชักว่าวรออีกแล้วเหรอวะ คิดถึงจะตายแล้วเนี่ย !(62 คน อ่านแล้ว)
Many member : …
Special Talk Talk : วิศวะขาเม้าท์ [END]
- แทน –
แล้วเจอกัน
Thank You !