รีปริ๊น+พรีออเดอร์ วิศวะขาโหดVsเกษตรฯตัวร้าย ภาค 1+2 [ป๋าโหดXคนดำ] (1.10.60)P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รีปริ๊น+พรีออเดอร์ วิศวะขาโหดVsเกษตรฯตัวร้าย ภาค 1+2 [ป๋าโหดXคนดำ] (1.10.60)P.12  (อ่าน 139362 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โอ๊ยยยยย อ่านแล้วปวดใจ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ฮือออ มันผิดที่ต่างคนต่างไม่ยอมคุยดีดี แทนก็ปิดธาม เพราะห่วงความรู้สึกธาม ส่วนธามแม่งก็ชอบคิดไปเองแล้วประชด พอประชดเสร็จก็ต่างคนต่างเจ็บปวด แง๊

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
หน่วงเหลือเกินนนน
แต่สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่คิดถึงใจคนอื่น
คนอื่นที่ว่าก้คนที่คัวเองรักแท้ๆเลย
เอาให้จำว่าทำแบบนี้ผลมันเป็นยังไง
รออค่าา

ออฟไลน์ Dangdang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z3: My god มันหน่วงหัวใจมากอ่านไปเหมือนจะหายใจไม่ออก
ทำดีแล้วแทน ใจแข้งไปนานๆนะ ให้ธารได้คิดบ้าง อย่าเอาแต่ใจตัวเอง
รอตอนต่อไปนะค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:เป๋นกำลังใจให้คนเขียน


ออฟไลน์ สาววายผู้ลึกลับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 28

อย่าคิด อย่าหนี และวิธีเด็ดขาด...

 


            “ไอ้แทน ทำอะไรวะ ?”

            “ปั่นโปรเจ็คดิ”

            “แหม ขยัน”

            “เออ”

            ผมพูดกลับเพื่อนร่วมคณะที่เดินเข้ามากวนตัวเองที่กำลังนั่งอาศัยไวไฟที่มหา’ลัยทำโครงการอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึก จะไม่ให้ขยันได้ไง ขี้เกียจมานั่งปั่นตอนท้ายๆ เสร็จแล้วจะได้ทำเรื่องออกฝึกงานซักที เบื่อมหา’ลัยละเนี่ย

            ผมควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะกดหาคนที่ทำงานคู่กับตัวเอง เพราะดูแล้ว สมองแบบผมคงทำงานอะไรที่เป็นหลักการไม่ได้หรอก

            “อยู่ไหนวะ ?” ผมกรอกเสียงลงไป หลังจากที่ปลายสายรับ

            {เออ โทษทีว่ะ ไปช้าหน่อย แวะไปที่ทำงานแปป}

            “เค กูนั่งทำรออยู่หน้าตึก รีบมา กูขี้เกียจละ”

            {ขี้เกียจก็หาอะไรเล่นรอ แค่นี้ละ เดี๋ยวกูรีบไป}

            “โอเค”

            ผมวางสายจากมัน ก่อนจะปิดจอโน๊ตบุ๊คลงและมานั่งเล่นตามที่มันว่าจริงๆ โดยการเลือกที่จะส่องโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่จะรู้สึกถึงเงามืดของคนบางคนมายืนทาบหัวไว้ ทำให้ผมที่นั่งก้มหน้าก้มตาต้องเงยหน้าขึ้นไปดู และมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่ผมคุ้นเคยดี แต่ไม่อยากจะเจอที่สุด

            ไอ้ธาม...

            มันยืนมองหน้าผมนิ่งๆ ซึ่งใบหน้าของเจ้าตัวมีรอยแผลเล็กน้อย ซึ่งนี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วหลังจากที่เกิดเรื่อง และช่วงนี้ผมก็ไม่ได้เจอมันบ่อยนัก แทบจะลาขาดกันเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีบ้างที่เจ้าตัวมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ จนผมไม่รู้จะหนีมันยังไงดี เลยได้แต่ทำตัวนิ่งๆ และพยายามเฉยๆ ใส่ไป ทั้งๆ ที่ในใจก็ร้อนรนไม่ต่างกันนัก ที่กลัวตอนนี้คือกลัวตัวเองจะใจอ่อนแล้วต้องกลับไปจุดเดิมๆ ซะมากกว่า

            จุดที่กลายเป็นได้แค่ที่ระบายความเงี่ยนของมัน...

            ครืดดดด ~

            และอยู่ๆ เสียงโทรศัพท์จากไอ้ทิมก็เหมือนเป็นตัวช่วยคลายความกดดันให้ผม ผมจึงรีบกดรับสายมันทันที “ว่าไง”

            {กูอาจจะไปช้าหน่อย มึงกลับหอก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูแวะปะ...}

            ติ๊ด !

            “เฮ้ย !” ผมร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆ ไอ้คนที่ยืนอยู่ ก็ทำตัวเสียมารยาทโดยการคว้าโทรศัพท์ของผมไปและกดวางสายของไอ้ทิมอย่าถือวิสาสะ ก่อนที่มันจะคว้าแขนผมพลางฉุดกระชากให้ลุกขึ้น “ไอ้ธาม มึงทำอะไรวะ !”

            “มากับกูหน่อย”

            “ไม่ !” ผมดึงแขนตัวเองออกทันทีที่มันทำท่าว่าจะลากผมให้เดินตาม พลางมองหน้ามันอย่างไม่พอใจ “มีอะไรก็พูดตรงนี้ กูไม่ไปไหนทั้งนั้น”

            “ไอ้แทน อย่าดื้อ !”

            “มึงไม่มีสิทธิ์มาสั่งกู อย่าลืมว่าเราแค่คนรู้จักกัน !”

            “...”

            “ปล่อย กูจะทำงาน !”

            ผมมองหน้ามันก่อนจะเบือนหน้าหนีและนั่งลงเหมือนเดิม พลางเปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊คขึ้นเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง ยอมรับว่าคิดถึงมันเหมือนกัน และยิ่งพอได้เห็นหน้าชัดๆ ได้ยินเสียงชัดๆ ยิ่งทำให้ความรู้สึกเดิมๆ เกิดขึ้นมา แต่อารมณ์โกรธเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ก็มากพอที่จะทำให้ผมมองข้ามความคิดถึงที่มีอยู่น้อยนิดนี่ไปได้ จะโทษมันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะผมก็ไม่ควรไปจริงจังตั้งแต่แรก อย่างที่บอก การเริ่มต้นของผมกับไม่ได้ดีนัก จะให้จบสวยมันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก

            ไอ้ธามมันแค่เงี่ยน ก็เลยเผลอมาเอาผมแค่นั้นแหละ

            ผมนั่งเงียบโดยไม่สนใจคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ ก่อนที่มันจะถอนหายใจออกมา และยอมเดินออกไปจากตรงนี้ ซึ่งผมก็โล่งอกเล็กน้อย ก่อนจะปิดจอโน๊ตบุ๊คลงเมื่อเห็นว่ามันเดินไปพ้นสายตาแล้ว และตั้งใจว่าจะโทรกลับหาไอ้ทิม...

            เดี๋ยวนะ...

            “อะ...ไอ้เหี้ยธาม !”

            โทรศัพท์กู !!

 

 

           

            ผมเดินมาที่ตึกวิศวะ ซึ่งนานแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่ ก่อนจะส่องสายตามองหาคนที่ช่วงชิงโทรศัพท์ของผมไป ถ้าไม่ติดว่าเป็นของสำคัญก็คงจะปล่อยไปได้อยู่หรอก และผมก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังถึงขนาดที่จะช่างแม่ง และไปซื้อใหม่ ก่อนที่ตัวเองจะสะดุ้ง เพราะนอกจากจะหาไอ้ธามไม่เจอแล้ว ยังต้องมาเจออีกคนที่ไม่อยากจะเจอเหมือนกันอีก

            “อ้าว น้องแทน”

            “เหี้ยอะไรนักหนาวะ” ผมบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองไอ้พี่แซ็กส์ที่กำลังเดินเข้ามาหา ซึ่งพี่มันทำหน้าเสียเล็กน้อย ท่าทางจะได้ยินสิ่งที่ผมพูด ได้ทีผมจึงถามมัน “เห็นไอ้ธามบ้างป้ะ ?”

            “เห็น”

            “อยู่ไหน !?”

            “เห็นขับรถออกไปแล้ว”

            “ได้ไงวะ !” ผมสบถเสียงดังพลางทำหน้าอารมณ์เสีย จนไอ้พี่แซ็กส์ถึงกับเผลอถอยหลังออกไป ก่อนที่มันจะเริ่มพูดจากวนประสาท

            “ถ้าแฟนไม่ไปส่งบ้าน ให้พี่ไปส่งแทนก็ได้นะ”

            “แฟนอะไร !?”

            “หือ...”

            “น่ารำคาญแม่ง !”

            ผมเดินออกจากตรงนั้นด้วยความหงุดหงิด พลางเหลือบไปเห็นกลุ่มของคนที่เคยมารุมผมเมื่ออาทิตย์ก่อนๆ ซึ่งก็ต้องแปลกใจที่ไม่เห็นไอ้เหี้ยแก๊บ ก่อนที่ตัวเองจะไม่สนใจแล้วเลือกที่จะเดินผ่านไปเฉยๆ แต่ก้าวไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว คนที่ทักผมก่อนหน้านี้ก็เดินตามมาติดๆ พร้อมกับยกแขนขึ้นคล้องคอผมอย่างถือวิสาสะ ผมจึงหันไปมองอย่างหาเรื่อง เจ้าตัวจึงรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน

            “ถ้าอยากเจอไอ้ธามก็ไปที่ร้านเหล้าด้วยกันดิ เดี๋ยวคืนนี้มันก็มา”

            “ใครบอกอยากเจอ”

            “เอ้า ก็เห็นถามหามัน”

            “ไม่ได้อยากเจอ แค่มีธุระ”

            “นั่นแหละ ไปด้วยกันนะครับ น้องแทน J”

            “ไม่ล่ะพี่ มีการมีงานต้องทำว่ะ”

            “ไปเถอะ คนอื่นก็ไป มันฝากมาชวนเนี่ย !” ไอ้พี่แซ็กส์มันขยั้นขยอผมไม่เลิกจนตัวเองเริ่มจะรำคาญขึ้นมา “ไปเถอะน้า ~”

            “ก็บอกไม่ไปไงวะ พี่แม่งพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องงั้ย หรือจะต้องให้พูดภาษาควายห๊ะ !?”

            “ฮื้อ ~”

            “น่ารำคาญจริง !” ผมเอาแขนมันออก ก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ ซึ่งมันเองก็ตีหน้าเศร้าส่งมาให้ผม พลางพูดคำพูดที่ทำให้ผมถึงกับนิ่งไป

            “ใช่ซี่ มีแฟนแล้วหนิ จะไปเที่ยวได้ไงล่ะ ~”

            “...”

            “ไม่ไปก็ไม่ไป แฟนหวงซะขนาดนั้นนี่เนอะ” มันพูดจาหยอกผม แต่ไม่รู้หยอกอีท่าไหน นอกจากจะทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นแล้วยังเผลอตอบตกลงไปแบบไม่ตั้งใจอีกด้วย

            “ร้านไหนว่ามา !”

            “J”

 

 

 

# 20.40 น.       

            ในที่สุดผมก็ติดกับดักมากับไอ้พี่แซ็กส์จนได้ ทั้งๆ ที่สัญญากับไอ้ทิมแล้วว่าจะนั่งทำโครงการด้วยกัน แต่ยังไงวันนี้ผมก็ตั้งใจจะแค่มาเอาโทรศัพท์คืนจากไอ้ธามเท่านั้นแล้วกลับ แต่ตอนนี้ก็ปาไปสองทุ่มเกือบจะสามทุ่มแล้วก็ยังไม่เห็นหัวมันซักนิด และที่น่าหงุดหงิดไปกว่านั้นคือนอกจากการตั้งใจจะนั่งรอคนเดียวของผม กลับมีไอ้พี่แซ็กส์เข้ามานั่งข้างๆ แถมมันยังยกมือขึ้นคล้องคอผมราวกับสนิทสนมกันมานาน พอเอาออกแม่งก็ยกขึ้นมาใหม่ จนตอนนี้ได้แต่ตัดรำคาญปล่อยให้มันทำตามใจไปแบบนั้น

            “เมื่อไหร่มันจะมา ?”

            “เดี๋ยวก็มา ไอ้ธามมันสายดึกอยู่แล้ว”

            “โห่ย ขี้เกียจรอแล้วเนี่ย !”

            “รอแฟนแค่นี้ทำบ่น มามะมากินนี่ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” ไอ้พี่แซ็กส์มันพูดจายียวน พลางจับแก้วเหล้าเข้ามาให้ผม ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ผมถึงได้มานั่งอยู่กับมันแค่สองคน ทั้งๆ ที่คนอื่นก็มากันเยอะแยะ ก่อนที่ผมจะไม่ขัดศรัทธา คว้าแก้วเหล้านั่นมากรอกใส่ปาก พลางแก้ต่างให้ตัวเองเสียงแข็ง

            “ใครแฟนมัน”

            “ห๊ะ ?”

            “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว”

            “เอ้า งอนกันอยู่ ?”

            “บอกว่าไม่ได้คบกัน พูดไม่รู้เรื่องงั้ย พี่แม่ง !”

            “โอเคๆ ไม่คบก็ไม่คบ” ไอ้พี่แซ็กส์มันทำหน้าเหวอ พลางพยักหน้าเออออตาม ผมเลยคว้าขวดเหล้ามาเทและกรอกใส่ปากโดยไม่เกรงใจเจ้าของทันที “งั้นแสดงว่าน้องแทนโสดอ่ะดิ ?”

            “อืม”

            “งั้นพี่จีบได้ป้ะ J”

            “ขอร้องพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย” ผมที่ตั้งใจกับการเทเหล้าก็เงยหน้ามองพี่แซ็กส์แบบจริงจัง พลางพูดขึ้นอีกครั้ง “ไอ้ธามมันแค่แกล้งผมเล่นเท่านั้น ผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรกัน ฝากแก้ข่าวให้ด้วย”

            “ใครแกล้ง”

            อยู่ๆ เสียงที่สามก็ดังขึ้น ทำให้ผมกับพี่แซ็กส์เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เป็นประเด็นในคำพูดของพวกผมที่ตอนนี้เจ้าตัวมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว มันมองผมนิ่งๆ สลับกับร่างพี่แซ็กส์จนอีกคนต้องค่อยๆ ยกมือออกจากคอผม พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอึดอัด “น้องแทน งั้นพี่ไปหาเพื่อนแล้วนะ”

            “อืม เดี๋ยวผมก็กลับแล้วเหมือนกัน”

            ผมตอบแค่นั้น พี่แซ็กส์จึงลุกขึ้นและเดินออกจากตรงนี้ทันทีโดยผ่านร่างของไอ้ธาม และเจ้าตัวก็ยังไม่ลืมหยุดเดินและตบบ่าผู้มาเยือนใหม่เบาๆ จนอีกคนต้องหันไปมองด้วยท่าทีหงุดหงิด พี่มันเลยรีบเดินไปที่อื่น จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับไอ้ธามสองคนเท่านั้น ตัวเองเลยลุกขึ้นยืนแล้วมองหน้ามัน

            “ขอโทรศัพท์คืน”

            “อยู่ที่บ้าน”

            “...” ผมมองหน้ามันด้วยความอารมณ์เสีย ก่อนจะจิ๊ปากออกมาด้วยความไม่พอใจ พลางเดินหนีร่างนั้นทันที

            ในเมื่อหมดธุระ ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้ว

            หมับ !

            อยู่ๆ แรงที่มาจากด้านหลังก็คว้าแขนผมแน่น และผิดคาดเมื่ออยู่ๆ ไอ้ธามมันก็ลากให้ผมเดินออกจากร้านด้วยความเร็ว ท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆ จนตัวเองตั้งตัวไม่ทัน เมื่อเดินออกมาข้างนอก ผมจึงรีบสะบัดแขนมันออก แล้วพูดเสียงดัง “เป็นบ้าอะไร !”

            “...”

            “ไอ้เหี้ยธาม !” ผมพยายามยื้อตัวเองสุดแรง เพราะนอกจากมันจะไม่ฟังผมแล้วเจ้าตัวยังคว้าแขนผมอีกครั้ง และลากให้เดินตาม จนกระทั่งมาถึงรถของมัน ซึ่งแรงจับยังคงไม่คลายลง จนในที่สุดผมก็ยอมแพ้ และก้าวตามมันไป

            “ขึ้นรถ”

            “ไอ้...!”

            “กูบอกให้ขึ้นรถไง จะเอาโทรศัพท์ไม่ใช่ ?”

            “ไว้เอามาให้พรุ่งนี้ที่ ม.” ผมว่าก่อนจะพยายามเอาแขนมันออก ไอ้ธามมันเลยได้แต่เบือนหน้าหนีพลางดุนกระพุงแก้มตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการเปิดประตูรถและทำท่าจะจับผมยัดเข้าไป “อะไรของมึงนักหนาวะ !”

            “หุบปาก ไม่งั้นกูจะเอามึงตรงนี้แหละ”

            “...!”

            “ขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวพาไปเอาโทรศัพท์”

            มันว่าเสียงเรียบพลางยืนขวางไม่ให้ผมหนีไปไหน จนในที่สุดตัวเองก็เลือกที่จะเข้าไปนั่งในรถอย่างหมดทางเลือก เพราะนอกจากพวกเราแล้ว ยังมีคนอื่นๆ อยู่มากพอสมควรที่มาเอารถตัวเอง และตอนนี้ทั้งผมและมันก็กลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นๆ ไปเรียบร้อยแล้ว อีกคนจึงปิดประตูให้และเดินอ้อมมาขึ้นฝั่งตัวเอง ก่อนที่มันจะออกรถ ซึ่งระหว่างอยู่บนรถทั้งผมและมันต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไร ในเมื่อมันบอกว่าจะพามาเอาโทรศัพท์ ผมก็จะมา ถ้าได้คืนแล้วจะได้จบๆ กันไปซักที

            ไม่นานนักรถของไอ้ธามก็มาจอดอยู่ที่ที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี และเป็นสถานที่ที่ผมไม่อยากจะมาที่สุดในเวลานี้ เจ้าตัวไม่รอช้ารีบลงจากรถ ผมเองก็เช่นกัน ก่อนที่มันจะเดินมาคว้าแขนผมอีกครั้ง ตัวเองเลยได้แต่เบี่ยงตัวหลบ มันจึงมองผมนิ่งๆ

            “ขึ้นไปเอามา เดี๋ยวรออยู่ข้างล่าง”

            “...”

            “เร็วๆ กูมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น”

            “ไอ้แทน อย่าดื้อ”

            “กูไม่ได้ดื้อ !”

            “มากับกูหน่อย กูสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”

            “กูยังเชื่ออะไรมึงได้อีกวะ”

            “...”

            ไอ้ธามมันเงียบเมื่อโดนผมตอกกลับไปแบบนั้น ซึ่งผมเองก็ไม่ต่างกันนัก ในใจรู้สึกเจ็บขึ้นมาพลางมองหน้ามันไม่ละสายตา ตอนนี้อยากจะหายไปจากตรงนี้เต็มที แค่เห็นบ้านมันที่ตัวเองเคยตั้งใจจะมาพูดความในใจ แต่ดันมาเจออะไรแบบนั้น แค่นี้ผมก็ไม่อยากแม้แต่จะก้าวเข้าไปแล้ว

            จะตอกย้ำกันไปถึงไหนวะ

            “รู้สึกแย่ว่ะ ปล่อยกูเถอะ อย่ามายุ่งกับกูเลย”

            “กูทำไม่ได้”

            “ต้องให้กูหนีไปให้พ้นหน้ามึงเลยมั้ย ถึงจะพอใจ ?”

            “อย่า...ไอ้แทน กูขอร้อง อย่าแม้แต่จะคิด”

            “เหอะ...” ผมเค้นเสียงออกมา พลางเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นสายตาที่แสดงออกมาว่าเจ็บปวดนั่น จนไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องล้อเล่นกันแน่ จนในที่สุดผมก็เลือกที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ขึ้นมาเอามาให้กู เดี๋ยวกูรออยู่ข้างล่าง”

            “...”

            “ไอ้ธะ...เฮ้ย !” ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ มันก็เข้ามาพลางจับตัวผมอุ้มขึ้นบ่า แล้วรีบพาเดินเข้าบ้านด้วยความเร็ว มือก็ทุบหลังมันเต็มแรงอยู่หลายที ก่อนที่ตัวเองจะต้องชะงักและหยุดนิ่งตัวแข็งทื่อเมื่อมันพาขึ้นบันได ทำให้รู้สึกเหมือหัวผมกำลังจะทิ่มลงกับพื้น “อะ...ไอ้ธาม ปล่อยกู !”

            “...” เจ้าตัวไม่ได้ตอบ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง มันจึงค่อยๆ วางผมลง ได้ทีตัวเองเลยเข้าไปกระชากคอเสื้อมันอย่างแรงด้วยความเหลืออด “กูก็ปล่อยแล้วไง”

            “กูแม่งโคตรเกลียดมึงเลยว่ะ ทำไมไม่ไปให้พ้นหน้าซักที !”

            “อืม กูรู้ว่ากูสมควรโดนเกลียด”

            “รู้แล้วมายุ่งกับกูทำไม บอกเลิกกูแล้วไม่ใช่หรือไง มายุ่งกับกูอีกทำไม !!”

            “จะต้องให้กูพูดยังไงวะ มึงถึงจะเข้าใจว่ากูก็ไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้”

            “...”

            “ต้องให้กูทำยังไง มึงถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

            “เอาโทรศัพท์กูคืนมา”

            “อะ...”

            “ไอ้ธาม เอาโทรศัพท์กูคืนมา กูไม่อยากคุยกับมึง มึงพูดไม่รู้เรื่อง”

            “...”

            “ถ้าไม่ให้ งั้นกูกลับ ถ้าอยากคืนเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืน” ผมพูดก่อนจะหันหลังเดินหนี มันจึงรีบคว้าแขนผมไว้ให้หยุด ผมจึงได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่แม้แต่จะมองหน้ามันด้วยซ้ำ ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ปล่อยออกและเลือกเดินเข้าไปในห้องตัวเอง ทำให้ผมรู้ได้ว่ามันเข้าไปเอาโทรศัพท์ให้ผม และก็เป็นไปตามคาดเมื่อมันเดินกลับมา พร้อมโทรศัพท์คุ้นตาในมือ ผมจึงยกมือขึ้นเพื่อที่จะขอคืน จะได้รีบๆ ออกไปจากที่นี่ซักที “เอามา...”

            คลิ๊ก ~

            ...

            “มึงมากกว่าที่พูดไม่รู้เรื่อง...”

            “อะ...ไอ้...” ผมมองมือตัวเองที่ตอนนี้ถูกกุญแจมือใส่ไว้เรียบร้อย โดยโยงไปหามือของอีกคนที่ถูกใส่ไว้เช่นกัน ก่อนที่สายตาคมกริบและคำพูดของไอ้ธามจะทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ

            “งั้นกูจะได้ใช้วิธีเด็ดขาดซักที”

            “ไอ้ธาม...!”

 

- ธาม –

ต้องให้กูทำยังไง มึงถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

..................................

สาววายผู้ลึกลับ Talk Talk

ขอบคุณที่อ่านนิยายของสาววายผู้ลึกลับค่ะ

ปล. สามารถติดตามข่าวสาร และให้กำลังใจกันที่เพจ สาววายผู้ลึกลับ https://web.facebook.com/YaoiMysteriousGirl/?ref=aymt_homepage_panel

ปอลิง. สุดท้าย อยากจะบอกว่า ใจเย็นๆ น้าาาา ทุกโคลนนนน 5555+

 

 

Thank You !

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ตกลงจะเข้าใจกันมั้ยขิงก็ราข่าก็แรง

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
 :katai4: :katai4: ลำไยมากอีธาม

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ทำขนาดนี้
ขอโทษซักคำนี่พูดไปยังอะธาม

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เอ้า...ทำตัวเองก็หาทางแก้ปัญหาเอาเองเถ๊อะะะะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ธามแม่ง น่ารำคาญวะ หึ๊ย ทำไรไม่คิด ความรู้สึก เสียไปแล้วไม่ได้คืนมาง่าย ๆ นะเว้ยเห้ย คิดง่ายไป เบื่อขี้หน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ธาม วิศวะขาโหด Vs แทน เกษตรฯ ตัวร้าย จริงๆ
แทน ไม่ยอมดีด้วยซักที ธามเลยออกแนวโหดใส่
คราวนี้จะพูดกันรู้เรื่องมั้ย หรือต้องพูดด้วยภาษากาย
ธาม ชอบนะ ไม่รู้แทน ชอบหรือเปล่า
แต่ เอ่อ.....คนอ่าน ช้อบ ชอบบบบบ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เกลียดธามอะ เคลียร์เรื่องเหี้ยๆที่ตัวเองทำก่อนดิ๊
มาวุ่นวายอะไรกับคนอื่น

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ๊ากกกกกกกก(พ่นไฟใส่อิธาม)แม่งปากเสียขั้นสุดเหอะ ทำไรตามอารมณ์ตัวเองตลอด เปนเรื่องที่รับไม่ได้มากเลยที่ไปมีอะไรกับเฟิร์นเนี่ย!
แทนก็เหมือนกัน ขัดใจจากตอนก่อนหน้าคือไม่ยอมอธิบายเรื่องทิมให้ธามเข้าใจ
แต่สุดท้ายก็อยากให้เขาคืนดีกันเร็วๆ เพราะอิคนอ่านนี่ใจร้อนรุ่มมากค่ะซิส!
เราที่เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวจนตามทันตอนล่าสุดก็ขอให้คนเขียนรีบมาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะพลีสสสส :monkeysad:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ทำไมไม่พูดกันตรงๆ นะ 

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ธามโคตรเอาแต่ใจตัวเองเลย

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จับอีธามทุ่มใส่กำแพง

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่รู้จะพูดอะไรเลย ธาม!!!   :katai1:

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ธามแม่ง ใช้แต่อารมณ์ ผิดสุดคือเรื่องนังเฟิร์นไรนั่นแหละ ธามใจร้ายมากกว่าที่คิด
ที่ทำๆ มา ติดลบหมดเลยอ่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ สาววายผู้ลึกลับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 29

ใจของกู ใจของมึง...

 
 

            “จะให้กูกลับหอได้ยัง ?”

            “...”

            “ไอ้ธาม !”

            “อีกเดี๋ยวดิ...”

            “...”

            “คิดถึง”

            “หุบปากพล่อยๆ ของมึงไปเถอะ” ผมพูดออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ โดยที่ตอนนี้ผมกับมันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น และตัวเองก็นั่งบนโซฟา ส่วนไอ้ธามนั่งอยู่บนพื้นตรงหน้า ซึ่งมือของพวกเรายังคงติดกันอยู่ “ปล่อยกูได้แล้ว กูต้องกลับไปทำงาน”

            “มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ ?”

            “เออ”

            “...”

            คำตอบที่ไม่ลังเลของผมทำเอามันถึงกับเงียบไป ซึ่งเจ้าตัวได้แต่มองหน้าผมนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไรต่อ จนตัวเองเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมา “มึงไม่คิดจะพูดอะไรแล้วใช่มั้ย ?”

            “ไม่ ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งแก้ตัว”

            “แล้วทำไมไม่แก้ตัวซะล่ะ”

            “กูทำผิดจริงๆ จะให้กูแก้ตัวอะไร”

            “หึ...” ผมเบือนหน้าหนีกับคำพูดนั่น ในใจก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะถามมันเสียงเรียบ “แล้วที่รั้งกูไว้แบบนี้เพื่อ ?”

            “ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอวะ ?”

            “ต้องมีดิ ถ้าไม่มี กูก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่เหมือนกัน”

            “กูไม่อยากปล่อยมึงไป”

            “งั้นมึงก็ควรถามความสมัครใจกูด้วย”

            “ถ้ากูถาม แล้วมึงจะอยู่มั้ยล่ะ”

            “...”

            “ว่าไง ?”

            “ไม่”

            “หึ งั้นกูไม่ถามหรอก”

            ผมถอนหายใจออกมา กับความดื้อด้านของไอ้ธาม พลางมองกุญแจมือที่พัธนาการมือของผมและมันอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะควักโทรศัพท์ที่เพิ่งได้คืนขึ้นมา และกดหาคนที่รอผมกลับไปทำงานด้วย เพราะรู้ว่ายังไงไอ้ธามคงไม่ปล่อยผมกลับไปง่ายๆ ซึ่งไม่นานนัก ปลายสายก็รับ

            {อยู่ไหน ?}

            “วันนี้กูคงไม่ได้ไปทำงานด้วยแล้วว่ะ”

            {อ้าว ทำไม ?}

            “มีธุรนิดหน่อย โทษที”

            {เออ งั้นเจอกันพรุ่งนี้}

            “เออ” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะตัดสายทิ้ง ซึ่งตอนนี้ล่วงเลยมาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ก่อนที่ตัวเองจะหันกลับไปมองหน้าไอ้ธามต่อ โดยที่เจ้าตัวก็ยังคงมองมาที่ผมไม่วางตา “จะเอาไง ?”

            “ดีกัน”

            “...”

            “มึงไม่ต้องกลับมาคบกับกูก็ได้ กูแค่ขอโอกาสเริ่มใหม่”

            “มึงเอาเวลามาตื๊อกูแบบนี้ กูว่ามึงไปหาเฟิร์นเถอะ ชีวิตจะได้มีความสุขซักที”

            “มึงรู้ได้ไงว่ากูจะมีความสุข ?”

            “...”

            “สรุปมึงจะไม่ยกโทษให้กูจริงๆ”

            “กูก็บอกว่ากูยกโทษให้มึงไปนานแล้ว มึงนี่แม่งพูดไม่รู้เรื่อง กูเริ่มอารมณ์เสียแล้วนะ” ผมยกมือขึ้นจิกกระชากเส้นผมของไอ้ธามจนเจ้าตัวเชิดหน้าตาม พลางร้องออกมา ก่อนที่ตัวเองจะกดเสียงต่ำพูดกับมัน “ปล่อยให้กูกลับได้แล้ว”

            “ไอ้แทน...”

            “ถ้ามึงยังพูดจาไม่เข้าหูกูอีก มึงโดนแน่ไอ้ธาม !”

            “จะใช้ความรุนแรงทำไมวะ”

            “มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไง !” ผมผลักหัวมันออก ก่อนจะยกมือข้างที่ถูกล็อกไว้ขึ้นมา ทำให้มือของอีกคนติดขึ้นมาด้วย “ปล่อยได้แล้ว กูจะกลับ ง่วง”

            “นอนนี่แหละ”

            ผมมองใบหน้าของไอ้ธามที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ ก่อนที่จะยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองเบาๆ เพราะไม่รู้จะพูดยังไงดี ยิ่งพูดก็เหมือนสร้างความกดดันให้ตัวเองเปล่าๆ เพราะนอกจากไอ้ธามจะไม่ฟังคำพูดผมแล้ว มันยังไม่สนใจความรู้สึกของผมด้วยซ้ำ ตอนนี้ที่ผมยังคุยกับมันได้ ยังมองหน้ามันได้เพราะผมพยายามจะไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดไปก็เท่านั้น ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องมานั่งเสียใจ คร่ำครวญเวลาแฟนมีชู้ และผมก็ทำใจไว้บ้างแล้วด้วย ว่ายังผมกับมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แค่ตัดขาดไปแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็จบแล้ว

            แต่ผมดันตัดมันไม่ขาดซักทีนี่สิ

            ปวดหัว...

            “ขอร้อง อย่าทำเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้กูกับมึงไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”

            “จะต้องให้กูทำไง”

            “ไม่ต้องทำเหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่อยู่เฉยๆ”

            “มึงก็รู้ว่ากูอยู่เฉยไม่ได้ ยิ่งมึงเป็นแบบนี้กูยิ่งอยู่เฉยไม่ได้ มึงไม่เข้าใจเหรอวะ !”

            “แล้วมึงทำแบบนั้นทำไม !” ผมเริ่มตะเบ็งเสียงออกมากับคำถามที่ตั้งขึ้นใจมานาน ในใจรู้สึกร้อนรนแปลกๆ ยิ่งมองหน้ามันยิ่งอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้เต็มที ก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกตาร้อนผ่าวขึ้นมา ราวกับว่าความรู้สึกที่อัดอั้นมานานกำลังใกล้จะถูกปลดปล่อย โดยตอนนี้พยายามผ่อนลมหายใจออกแรงๆ เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีนักการที่ผู้ชายคนนึงจะรู้สึกอยากจะ ‘ร้องไห้’ ขึ้นมา

            แม่งแย่สุดๆ

            “...”

            “ตอบดิ ทำไมทีอย่างนี้เอาแต่เงียบวะ ตอนทำลายใจกู ตอนบอกเลิกกูมึงพูดได้เต็มปากเต็มคำ แล้วตอนนี้จะมาขอให้กลับเป็นเหมือนเดิมทำไม มึงทำแบบนี้ทำไม !?” ผมผ่อนลมหายใจหนักๆ ออกมา ราวกับสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มถูกฉุดขึ้นสูง พลางเงยหน้าขึ้นหลับตาแน่น ในใจก็เต้นไม่เป็นส่ำด้วยความโกรธ “มึงมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวไอ้ธาม ต้องให้กูถ่างขาให้เอาครั้งสุดท้ายก่อนมั้ย ถึงจะยอมเลิกยุ่งกับกูดีๆ !”

            “มึงคิดว่ากูคบกับมึงเพราะแค่อยากเอาแค่นั้นจริงๆ เหรอ ?”

            “แล้วมันไม่ใช่หรือไง !”

            “เออ ไม่ใช่ กูไม่รู้หรอกว่ามึงจะเชื่อกูมั้ย แต่กูพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย ว่ากูรักมึงจริงๆ ไม่ใช่เพราะเงี่ยน ไม่ใช่แค่เพราะอยากเอา”

            “...”

            “ไอ้แทน มึงสำคัญกับกูที่สุดแล้วว่ะ...” ไอ้ธามมันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง พลางเอื้อมมือมาจับมือผม จนตัวเองเองได้แต่หายใจแรงๆ อยู่หลายครั้ง ราวกับไล่ความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ของตัวเองออก แล้วเบือนหน้าหนีสายตาตรงหน้า อาการเกร็งกร้ามเนื้อเกิดขึ้น เมื่ออาการไมเกรนของตัวเองเริ่มก่อตัวทีล่ะน้อย บวกกับอาการเครียดจากเรื่องตรงหน้ายิ่งทำให้มันดูเหมือนจะยิ่งรุนแรง

            “ปวดหัว ให้กูกลับเถอะ...” ผมพูดออกมาอีกครั้งเสียงเบา เหมือนใจกำลังจะขาด สมองเต้นตุบๆ จนปวดไปหมด “ปล่อยกูไปเถอะ...ฮึก...”

            “...”

            “ไอ้ธาม...”

            เชื่อว่าในชีวิตของคนเราจะมีอาการอ่อนแอซักครั้ง และมันมาก็มาถึงจุดสุดๆ ของผมแล้วจริงๆ เมื่อน้ำตาลูกผู้ชายของตัวเองค่อยๆ ไหลพรั่งพรูออกมา มือก็จึกหัวตัวเองแน่น ราวกับพยายามเอาความปวดร้าวภายในออกไป รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ ทรมานกว่าทุกครั้งที่เคยเจอเรื่องแย่ๆ ตัวสั่นเทาเพราะความรู้สึกที่หลากหลายที่โจมตีเข้ามา และยิ่งพยายามหยุดก็เหมือนมันจะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ร่างของตัวเองจะถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปแล้วสวมกอดไว้แน่น มือของไอ้ธามยกขึ้นลูบหัวของผมเบาๆ ซึ่งในใจของตัวเองก็พยายามจะขัดขืน แต่มือของคนตรงหน้าก็แข็งแกร่งพอที่จะกอบกุมความรู้สึกของผมได้เอาไว้ทั้งหมด ตามด้วยเสียงของอีกฝ่ายที่ดังขึ้นและกำลังหนักแน่นในคำพูดตัวเอง

            “กูยอมมึงได้ทุกอย่างไอ้แทน แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่กูยอมไม่ได้ ต่อให้มึงหรือใครๆ จะว่ากูเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือเลวขนาดไหนก็ตาม ขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้น...”

            “ฮึก...”

            “กูปล่อยมึงไปไม่ได้จริงๆ”

 

 

 

# หอชาย

            ในที่สุดไอ้ธามมันก็ยอมมาส่งผมที่หอ เพราะตัวเองยืนยันว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่ขอนอนที่นั่น จนในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี แต่ที่น่าหงุดหงิดตอนนี้คือพอมันมาส่งแล้ว ดันไม่ยอมกลับไปดีๆ นี่สิ “กลับไปได้แล้ว”

            “ลุกมากินยาก่อน”

            “วางไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวกูกินเอง”

            “ไอ้แทน ลุกขึ้นมากินยาเร็วๆ ไม่งั้นกูจะอยู่แบบนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่ามึงจะยอมกิน”

            “ทำไมชอบยุ่งกับชีวิตกูนักวะ !” ผมพูดก่อนจะพลิกตัวหนักๆ พร้อมกับดวงตาแดงก่ำของตัวเองหันไปมองหน้าไอ้ธามอย่างไม่พอใจ ก่อนที่มันจะถอนหายใจเบาๆ พลางถือแก้วน้ำกับยาลงนั่งข้างผมบนเตียง ตัวเองจึงรีบดันตัวลุกขึ้นและออกแรงทั้งหมดที่มีถีบมัน จนเจ้าตัวไถลลงไปนั่งยองๆ ข้างเตียง พลางจิ๊ปากออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร แล้วยื่นแก้วน้ำกับยาเม็ดมาให้ผม

            “กิน”

            “มึงมันน่าหงุดหงิด !” ผมว่าก่อนจะยอมรับแก้วกับยาเม็ดมา พลางเอาเข้าปากแล้วรีบๆ กลืนลงคง ก่อนจะยื่นแก้วน้ำคืนมัน ไอ้ธามมันก็รีบมารับไว้โดยเร็ว ก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนต่อ โดยหันหลังให้คนที่นั่งอยู่ และออกปากไล่ “มึงกลับไปได้แล้ว !”

            “...”

            “ไอ้ธาม !”

            ผมเรียกมันด้วยความแปลกใจ เมื่ออยู่ๆ คนที่เคยพูดมากก่อนหน้านี้อยู่ๆ ก็เงียบไป จนตัวเองต้องลุกขึ้นนั่งมอง ก่อนจะเห็นว่าร่างหนาของอีกฝ่ายตอนนี้ได้ล้มตัวลงนอนแผร่ลงกับพื้นเรียบร้อย ผมจึงมองร่างนั้นด้วยความโมโหในความดื้อด้านของมัน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเตะเข้าที่สีข้างคนที่นอนอยู่เต็มแรงจนเจ้าตัวร้องเสียงหลง

            “โอ๊ย !”

            “กูบอกให้กลับไปได้แล้ว !”

            “...”

            “ไอ้ธาม !”

            “...”

            ...

            “ไอ้เหี้ยธาม” ผมมองร่างที่ขดตัวหลังโดนเตะ ที่อยู่ๆ ก็แน่นิ่งไป พลางใช้เท้าสะกิดมันเบาๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงไม่ขยับ ผมจึงมองมันอย่างชั่งใจ พลางตะโกนใส่มันอีกรอบ “ไอ้ธาม มึงอย่ามาสำออย !”

            พลั๊ก !

            “โอ๊ย !”

            ในที่สุดมันก็เผยไต๋ออกมา เมื่อผมเตะมันอีกครั้ง จนเจ้าตัวพลิกกลับมานอนหงาย พลางหรี่ตามองหน้าผมด้วยสีหน้าเจ็บปวด ส่วนตัวเองก็ขมวดคิ้วมองมันด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก จนมันต้องดันตัวเองลุกขึ้นพลางเอื้อมมือมาจับมือผมที่ยืนอยู่เบาๆ ตามด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะ ‘อ้อน’ ของอีกฝ่าย ที่ทำให้หัวใจของผมแอบหวั่นไหวตามเล็กน้อย แต่ก็พยายามมองข้ามมันไป ก่อนที่จะเลือกยกมือชี้ไปที่ประตูห้องและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดครั้งสุดท้าย

            ...

            “กูบอกให้ออกไป !!”

 

 

           

# มหา’ลัย

            “ไอ้ธามมม มึงจะมาตามตื๊อกูทำไมทุกวันเนี่ย มันน่ารำคาญนะเว้ย !”

            “เรื่องของมึงดิ กูมีความสุข กูเลยทำ”

            “เห็นแก่ตัว !”

            “เออ”

            ผมจิ๊ปากใส่มันก่อนจะรีบเดินหนีคนที่ช่วงนี้ชอบตามมาตื๊อผมไม่เลิกมาสองสามอาทิตย์แล้ว จนตอนนี้ตัวเองเริ่มจะชินขึ้นมาบ้าง แต่ที่ด่ามันทุกวัน เพราะเพื่อให้พอเป็นพิธีกับไอ้อาการพูดไม่รู้เรื่องของเจ้าตัว และไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ทุกคนในคณะของผมและมัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...

            ‘ไอ้ธามตามง้อเมีย’

            เมียพ่องดิ !

            “ทำอะไรวะ ?” ไอ้คนที่เดินตามมา อยู่ๆ ก็ถามขึ้นเมื่อผมเดินหนีมันมาแถวบ่อโคลนหลังแปลง ที่ไม่ได้รับการปรับปรุง เลยมีน้ำเสียท่วมขลังอยู่พอสมควร และด้วยที่ไม่ค่อยมีคน ผมจึงเลือกที่จะเดินหนีมันมาที่นี้ โดยไม่คิดว่าเจ้าตัวจะยังคงตามมาเหมือนเดิม “ไอ้แทน”

            “...”

            “ไอ้แทน”

            “...”

            “ไอ้...”

            “เรียกทำไมนักหนา มีไรก็พูดๆ มา” ผมว่าก่อนจะควักมวนบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา ส่วนอีกข้างก็ควักอุปกรณ์จำเป็นอย่างไฟเช็คขึ้นมาและจุดสูบอัดควันเสียเข้าปอดระบายอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง พลางใช้เท้าเตะก้อนหินที่อยู่ตามริมบ่อเล่น ซึ่งมันเป็นบ่อดินตื้นๆ ที่เลยเข่าขึ้นมานิดหน่อย มีขี้โคลนรวมถึงขยะต่างๆ นาๆ ที่อยู่ข้างในพอสมควร ก่อนที่ตัวเองจะต้องหันไปมองคนข้างๆ ที่มันเดินเข้ามาหาพลางจับมือข้างที่คีบบุหรี่ของตัวเองไว้แน่น หลังจากที่มันลดลงมาเกือบครึ่งมวน “อะไร ?”

            “พอแล้ว”

            “ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วย ?”

            “ก็กูไม่อยากให้มึงอายุสั้น”

            “กูจะอายุสั้นหรือยาวไม่เห็นเกี่ยวกับมึงซักนิด !”

            “เกี่ยวดิ”

            “เกี่ยวตรงไหนห๊ะ !?”

            “ก็กูไม่อยากขึ้นชื่อว่า ‘โสดเมียตาย’ นี่หว่า”

            “อะ...ไอ้...!”

            “หึ J”

            “ไอ้บ้าเอ๊ย !” ผมสะบัดแขนออกจากมัน ซึ่งไอ้ธามมันก็แอบยืนหัวเราะอยู่เล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะเลือกทิ้งบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึงนั่นลงพื้น และไม่ลืมที่จะขยี้มันด้วยปลายเท้า ก่อนที่ตัวเองจะต้องชะงักตกใจเมื่ออยู่ๆ คนที่อยู่ด้านหลังก็เข้ามาสวมกอดผมไว้แน่น “เฮ้ย ไอ้ธาม !”

            “ไม่มีคน ขออยู่แบบนี้ซักพัก...”

            “...”

            “คิดถึงว่ะ”

            “บะ...บอกกูทำไม !?”

            “ก็คิดถึงมึง ถ้าไม่ให้บอกมึงแล้วจะให้ไปบอกหมาที่ไหนห๊ะ ?”

            “หน้าอย่ามึงไปบอกหมาก็ดีแล้ว !” ผมพูดเสียงดัง ก่อนจะพยายามแกะมือที่เป็นปลิงของมันออก ซึ่งไอ้ธามเองมันก็กำชับกอดของตัวเองไว้แน่นกว่าเดิม จนในที่สุดผมก็เลิกพยายาม แล้วพูดกับมันด้วยความเหนื่อยใจ “ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น”

            “เรื่องของคนอื่นดิ”

            “ก็เรื่องของคนอื่นที่ว่ามันเกี่ยวกับกูเนี่ย ปล่อยเดี๋ยวนี้ !”

            “ไอ้เหี้ยมืด...”

            “...”

            “ใจกูยังอยู่ที่มึงใช่ป้ะวะ ?”

            “ใจมึงก็อยู่ที่มึงดิ จะมาอยู่ที่กูได้ไง บ้าเปล่า”

            “ใครว่า กูให้มึงไปแล้วต่างหาก”

            “เสียใจว่ะ แต่กูทิ้งไปแล้ว” ผมพูดเสียงเรียบ พลางหันมองมันที่อยู่ด้านหลังเล็กน้อย พลางนึกถึงสร้อยรูปเฟืองที่ตัวเองเคยทิ้งไปเมื่ออาทิตย์ก่อนๆ และใครจะคิดว่าตอนนี้สร้อยเส้นนั้นมันก็ยังอยู่ที่ห้องผม เพราะหลังจากจบเรื่อง ไอ้ธามก็ไม่ได้เก็บสร้อยมันคืนไปจริงๆ และตอนเช้าผมก็เจอมันอยู่ที่หน้าห้องเหมือนเดิม เลยเลือกที่จะเก็บเอาไว้ก่อนเพราะอย่างน้อยก็คิดว่ามันเป็นของสำคัญของไอ้ธาม ถ้าหายไป กลัวเจ้าตัวจะนั่งร้องไห้เสียใจทีหลัง ผมไม่อยากมานั่งรู้สึกผิดนักหรอก       

            “ทิ้งเมื่อไหร่ ไหนหลักฐาน ?”

            “ก็ทิ้งไปแล้วไง วันนั้นมึงก็เห็น !” ผมพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด เมื่อเรื่องเก่าๆ เริ่มจะกลับเข้ามาในหัว ก่อนจะออกแรงแกะมือมันออกสุดแรง ซึ่งคราวนี้ไอ้ธามมันยอมปล่อยออกง่าย ผมจึงหันกลับไปมองมันด้วยสายตาหาเรื่อง ในใจก็คิดอยากจะเอาคืนเจ้าตัวขึ้นมา เลยควักหาเหรียญบาทที่มีอยู่น้อยนิดในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาหนึ่งเหรียญ พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงท้าทาย “ส่วนนี่ใจกู อยากได้มั้ยล่ะ ?”

            “แน่นอน” คนตรงหน้ามองของในมือผมพลางตอบออกมาอย่างไม่ลังเล ก่อนที่ตัวเองจะยิ้มเหยียดเล็กน้อย พลางพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะมองของในมืออย่างชั่งใจ สลับกับใบหน้าหล่อๆ ตรงหน้า ที่ตอนนี้แสดงสายตามุ่งมั่นออกมา จนผมอยากจะรู้ว่าเจ้าตัวจะแน่ซักแค่ไหน

            ผมทำท่าจะยื่นเหรียญให้มัน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดอะไร เลยได้แต่ยกมือขึ้นเพื่อรับไว้ แต่ก่อนที่มันจะไปสู่มือของไอ้ธาม ทิศทางของของที่ผมส่งไปก็เปลี่ยนไปทันที โดยผมเลือกที่จะโยนมันลงไปในบ่อน้ำโคลนที่อยู่ไม่ห่างนัก ซึ่งไอ้ธามมันก็มองตามไม่วางตา ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวน่าจะรู้แล้วว่าผมคงจะไม่ให้มันง่ายๆ “อยากได้นักก็ลงไปเอาดิ ‘หัวใจ’ ของกูน่ะ”

            “...”

            “หาเจอเมื่อไหร่ก็บอกกูด้วยแล้วกัน” ผมว่าแค่นั้นก่อนจะกลับหลังหันเดินหนีคนที่ตัวเองเพิ่งบอกให้ลงไปเอา ‘หัวใจ’ ของตัวเองขึ้นมาจากบ่อขี้โคลนนั่นอย่างนึกรำคาญ ซึ่งในใจก็ไม่ได้คิดจะให้มันลงไปเอาจริงๆ อยู่แล้ว แค่อยากตัดรำคาญซะมากกว่า และการลงไปหาเหรียญบาทเล็กๆ ในบ่อนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายซักนิด ออกจะเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำ แต่ถึงจะรู้ตัวว่ามันไร้สาระแต่ผมก็ดันไปท้าทายมันเข้าแล้วอ่านะ

            ถ้าทำจริงก็ถือว่าโง่แล้วแหละ...

            ...

            “โอ๊ย เหี้ย...!”

            เสียงสบถจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองแทบจะทันที โดยลืมไปว่าคนที่ตัวเองไปท้าทายมันดันขึ้นชื่อเรื่องความ ‘โง่’ ซะด้วย ก่อนจะเห็นว่าเป็นไปอย่างที่ตัวเองคิดจริงๆ เมื่อตอนนี้มีเพียงรองเท้านักศึกษาของไอ้ธามเท่านั้นที่อยู่ด้านบน ส่วนร่างโง่ๆ ของเจ้าตัวได้ลงไปอยู่ในบ่อเรียบร้อย พร้อมกับใจของผมที่ตกวูบไปที่ตาตุ่ม เมื่อเห็นว่าร่างของมันทรุดลงทันทีที่ลงไปได้เพียงนิดเดียว

            อะ...ไอ้...

            ...

            “ไอ้เหี้ยธาม !”

 


- แทน –

อยากได้นักก็ลงไปเอาดิ ‘หัวใจ’ ของกูน่ะ

 

Thank You !

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ง้อให้สำเร็จนะ ธามมมมมมม

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นการแสดงความรักกันแบบแปลกๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมั่นไส้ธาม แต่ก็ระอาแทน
แทน ใจแข็งนานไปปะ
ทั้งที่ตัวเองก็รักธาม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ถึงจะอยากให้ธามโดนเยอะกว่านี้
เพราะทำผิดขนาดนี้ยัฃไม่ยอมขอโทษเลยอะ
แต่แทนก้นะ รักเค้าแท้ๆ ทำไมใจแข็งขนาดนี้
เป็นดราม่าหน่วงๆ ขมปนหวานนิดๆ
รออค่าาา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ง้อต่อไปนะธาม

ออฟไลน์ สาววายผู้ลึกลับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Chapter 30

ยอมทุกอย่าง เพื่อเมียคนเดียว...
 


 

            ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าบ้านไอ้ธามโดยที่ลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปดีมั้ย หลังจากที่รู้ว่าวันนี้มันไม่ไปมหา’ลัย ซึ่งเหตุผลก็ไม่ต้องถามถึง เพราะหลังจากที่มันลงไปในบ่อขี้โคลน ใครจะรู้ว่าในนั้นมันมีเศษแก้วอยู่เต็มไปหมด เพราะมีพวกเด็กจังไรบางส่วนที่เห็นว่าเป็นบ่อถูกลืม เลยเอาของพวกนี้ไปทิ้งไว้ และคนที่เป็นผู้โชคร้ายก็ไม่ใช่ใคร ดันเป็นไอ้ธามที่ผมสั่งให้ลงไปในนั้นโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรก่อน

            ใช่ เรื่องนี้ผมผิดเอง แม้ว่าอีกคนมันจะโง่ไม่ต่างกันก็เถอะ... 

            “อ้าว พ่อหนุ่ม” ผมหันไปทางเสียงเรียกเสียงหวานของสาวมีอายุที่ตอนนี้ยืนถือถุงกับข้าวมาอยู่ยืนข้างๆ ผม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน

            “สวัสดีครับ”

            ผมยกมือไหว้ป้านวล ซึ่งแกก็ไหว้ตอบ พลางถามขึ้นเสียงใส “มาหาคุณธามเหรอคะ ?”

            “อ่า...”

            “งั้นพอดีเลย งั้นป้าฝากเอากับข้าวเข้าไปด้วยได้มั้ย แล้วอย่าลืมบอกให้กินยาด้วยนะคะ เพราะเจ้าตัวไม่ชอบกินยาเม็ด ถ้าดื้อจริงๆ ก็บดแล้วแอบใส่ลงไปในข้าวเลยค่ะ”

            “เอ๊ะ แต่ผม...”

            “ปกติเวลานี้ป้าต้องรีบไปรับหลานพอดีด้วย...” สีหน้าเธอสลดลงทันทีที่เห็นว่าผมเหมือนจะปฏิเสธ จนตัวเองเลยได้แต่ตกลงตามน้ำไป

            “งั้นเดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” ผมรับถุงกับข้าวมา ก่อนที่ป้านวลแกจะทำหน้าซึ้งใจ ผมจึงไหว้แกครั้งสุดท้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป และไม่ลืมที่จะขอบคุณผม

            “ขอบคุณนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าจะรีบกลับมาพร้อมขนมเยอะๆ เลย”

            สรุปเห็นว่าผมทำงานแลกขนมสินะ...

            ผมมองของในมือก่อนจะตัดสินใจผลักรั้วประตูบ้านแล้วเข้าไปข้างในทันที ซึ่งข้างในเงียบสนิท ราวกับไม่มีใครอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะเลือกเดินเข้าไปในครัวเพื่อที่จะเตรียมอาหารใหไอ้ธาม นั่นก็คือข้าวต้มที่ป้านวลซื้อมา ก่อนจะถือมันเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง และตรงไปห้องของเจ้าของบ้านอย่างคุ้นเคย ซึ่งประตูห้องของมันก็ไม่ได้ปิดสนิท ผมจึงผลักเข้าไปทันที ก็เห็นว่ามีเพียงเตียงใหญ่ๆ ยกชุดที่ไม่คุ้นตานัก คาดว่าไอ้ธามน่าจะเปลี่ยนเตียงในห้องตัวเอง และบนนั้นก็มีร่างที่คลุมผ้านวมผืนหนาโดยมีใบหน้าซีดๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่เท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา พร้อมกับเสียงหายใจที่ดังชัดกว่าปกติ 

            “ไอ้บ้าเอ๊ย...”

            ผมบ่นออกมาเบาๆ พลางมองร่างที่นอนซมเพราะพิษไข้อยู่บนเตียง ก่อนจะวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะวางของเล็กๆ พลางทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนที่นอนอยู่และเอื้อมมือไปอังหน้าผากของคนป่วยเบาๆ ซึ่งความร้อนจากร่างกายของมันมีมากอยู่พอสมควร ก่อนที่คนที่โดนสัมผัสจะทำหน้ามุ่ยนิดๆ แล้วพลิกตัวหนีมือของผมไปอีกทาง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอู้อี้

            “ผมยังไม่หิว ป้าไปรับหลานเลย...”

            “...”

            “ขอนอนพักแปป...”

            “โอเค งั้นกูไม่กวน...”

            พรึ่บ !

            อยู่ๆ ร่างที่เพิ่งบอกว่าจะนอนพักก็รีบพลิกตัวหันกลับมาทางเดิมทันทีที่ผมพูดขึ้น พลางถ่างตาแดงๆ ของตัวเองเพื่อมองหน้าผม ก่อนที่ร่างนั้นจะออกแรงที่ไม่น่าจะมีอยู่ของตัวเองพยุงตัวขึ้นและคว้าร่างของผมที่นั่งอยู่ข้างๆ เข้าไปกอด “เป็นอะไร ?”

            “คิดถึง”

            “...”

            “คิดถึงมึง ไอ้แทน”

            “อย่าปัญญาอ่อน เมื่อวานก็เจอกัน วันก่อนก็เจอกัน วันก่อนนู้นก็เจอกัน จะมาคิดถงคิดถึงอะไรห๊ะ ?!”

            “เอ้า ก็เขาบอกว่าถ้าคนเราใกล้จะตายจะคิดถึงคนที่ตัวเองรักที่สุด...”

            “มึงยังไม่ใกล้ตายไอ้เหี้ยธาม อย่ามาทำสำออย”

            ผมแกะมือมันออกหลังจากฟังคำพูดกวนประสาทของมัน ซึ่งแรงที่ไม่ค่อยมีอยู่แล้วเลยทำให้ผมออกจากอ้อมกอดนั่นได้อย่างง่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยืนมองหน้าคนป่วยตรงหน้า มันเลยได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาใหม่ “เออ กูลืมไป ต่อให้ไม่ใกล้ตายกูก็คิดถึงมึงอยู่ดี”

            “แล้วอยากตายเร็วๆ มั้ย เดี๋ยวกูจัดให้”

            “ไม่ดีกว่า”

            “เหอะ...” ผมเค้นเสียงก่อนจะสำรวจร่างที่นั่งอยู่ โดยโผล่พ้นผ้าห่มออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปเลิกผ้าขึ้นตรงช่วงเท้า ก็เห็นว่าตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงช่วงตาตุ่มของไอ้ธาม โดนพันไว้ด้วยผ้าก็อตสีขาวทั้งสองข้าง ซึ่งก็ไม่แปลกนัก เพราะค่อนข้างเป็นแผลฉกรรน์พอสมควร “เป็นไงบ้างวะ...”

            “ก็สดชื่น แจ่มใสดี J”

            “อย่ามากวนประสาท”

            “กูพูดจริง”

            “งั้นถ้ามึงไม่เป็นอะไรงั้นกูกลับ !”

            “เดี๋ยว !” ผมที่กำลังจะกลับหลังหันเดินหนีร่างที่ทำให้ตัวเองหงุดหงิด คนตรงหน้าก็รีบคว้าแขนไว้ทันที พลางเปลี่ยนคำพูดใหม่ “เออ จริงๆ กูเจ็บก็ได้ แล้วก็เซ็งมาก เพราะกูคงเดินไม่ได้หลายวัน แผลก็ห้ามโดนน้ำ ยาก็โดนฉีดหลายเข็ม เดี๋ยวก็ต้องไปฉีดอีก ทั้งยากันบาดทะยัก ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และไหนจะยาเม็ดมากมายที่ต้องกินทุกวันหลังอาหารอีก...”

            “...”

            “เพราะงั้นกูทรมานมาก มึงอย่าเพิ่งไปไหนเลยนะ อยู่กับกูก่อน...”

            “...”

            “นะ ไอ้แทน...”

            “แล้วใครสั่งให้มึงโง่ลงไปในนั้นห๊ะ !?”

            “...”

            “เออ กูสั่งเอง แล้วใครให้มึงเชื่อคำพูดกูวะ มีสมองหัดคิดบ้างดิ ถ้ากูสั่งให้มึงไปตายมึงจะไปมั้ย !”

            “ไม่”

            “...”

            “ถ้ากูตายแล้วมึงจะรักกับผีอย่างกูมั้ยล่ะ ?”

            “ไอ้ธาม มึงมันบ้า” ผมพูดออกมาเสียงเบา กับร่างที่ไม่สะทกสะท้านกับคำด่าของผม แถมยังพูดจาติดตลกไร้สาระอีกต่างหาก ซึ่งผมไม่ได้ตลกด้วยซักนิด ก่อนที่มันจะดึงร่างผมให้ไปนั่งลงข้างๆ ซึ่งผมเองก็ขยับตาแรงมันแบบไม่ขัดขืนอะไร ก่อนที่เจ้าตัวจะสวมกอดเข้าที่ร่างผมไว้แน่น       

            “มึงจะคิดมากทำไมวะ ?” ไอ้ธามมันถามพลางทำน้ำเสียงแบบไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ได้โกรธผมที่ทำให้มันเจ็บ แต่ผมนี่สิ รู้สึกผิดจนจะไม่รู้จะทำยังไงแล้ว “ที่กูลงไปไม่ใช่เพราะมึงสั่ง แต่เพราะหัวใจมึงอยู่ในนั้นต่างหาก กูเลยเลือกที่จะลงไปเอง”

            “...”

            “เพราะฉะนั้นไม่ใช่ความผิดมึง จบนะ”

            “หัวใจกูจะไปอยู่ในนั้นได้ไง หัวใจกูก็ต้องอยู่ตรงกูดิ...”

            “อ้าว งั้นกูก็ไม่ต้องไปหาแล้วดิ เพราะกำลังคิดเลยว่าถ้าหายจะลงไปหาใหม่ซักหน่อย J”

            “เหอะ...” ผมเค้นเสียงพลางหยิกแขนไอ้ธามแรงๆ กับคำพูดทีเล่นทีจริงนั้น ซึ่งมันก็ร้องเสียงหลง แต่ก็ไม่ได้คลายกอดลงแต่อย่างใด ก่อนที่ใบหน้านั่นจะเกยขึ้นบนคางของผม ตามด้วยคำพูดเบาๆ ที่ดังออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความจริงจัง

            “กูขอโทษไอ้แทน กูขอโทษจริงๆ”

            “กูก็บอกว่าไม่ได้โกรธมึงแล้ว”

            “แต่มึงเกลียดกู...”

            “...” ผมไม่ได้ตอบกับคำพูดที่แสดงออกมาในเชิงคำถามนั่น เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเกลียดมันจริงๆ หรือเปล่า แต่ทิฐิภายในใจก็ยังคงมีอยู่ เพราะผมบอกแล้วว่าผมยอมให้มันทุกอย่างแบบไม่เคยยอมให้ใครมาก่อน แต่การไปมีอะไรกับคนอื่นทั้งๆ ที่คบกับผมอยู่ มันเลยเป็นบ่อเกิดว่าผมควรจะจริงจังกับความรักระหว่างผมกับมันที่เป็นผู้ชายทั้งคู่แบบนี้ได้แค่ไหน บางทีวันหนึ่งผมอาจจะเบื่อมันแล้วกลับไปสนใจผู้หญิงเหมือนเดิมก็ได้ เพราะยังไงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ขึ้นชื่อว่าชอบผู้ชาย แต่แค่ไอ้ธามเป็นกรณียกเว้นที่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับใจผมเท่านั้น

            ก็แค่ผู้ชายอย่างมันคนเดียว...

            “มึงไม่จำเป็นต้องรีบหายเกลียดกูก็ได้ แต่กูแค่ขอโอกาสให้กูเริ่มใหม่ ขอแค่มึงเปิดใจให้กูอีกซักครั้ง และกูก็จะไม่สัญญว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นอีก แต่กูจะแสดงให้มึงเห็นในการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้”

            “...”

            “นะ ไอ้แทน”

            “เฮ้อ...ไอ้ธาม...” ผมเอนหัวพิงซบกับแผงอกของมัน ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นลูบหัวคนข้างหลังเบาๆ กับท่าทีที่เหมือนเด็กๆ แต่ความหนักแน่นในคำพูดนั้นเกินกว่าที่เด็กคนนึงจะพูดได้ ซึ่งไอ้ธามเองมันก็กำชับอ้อมแขนช่วงเอวของผมจนแน่น “กูไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดมึงแล้ว แต่แค่การกระทำของมึงเท่านั้น ที่ทำให้กูเริ่มลังเล ว่าระหว่างกูกับมึงมันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อทั้งมึงและกูก็เป็นผู้ชาย แล้วก็มีผู้หญิงไม่น้อยที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราแบบนี้ ใจมึงจะไม่คิดกลับไปชอบแบบเดิมเหรอ ?”

            “...”

            “ตอนนี้กูพูดได้เต็มปากเต็มคำนะว่ากูรักมึงมาก แต่ในอนาคตกูไม่รู้หรอก อาจจะเป็นกูก็ได้ที่เป็นฝ่ายเปลี่ยนใจก่อน มึงจะยอมรับกับความรักที่แม่งมีแต่ความลังเล ไม่มั่นใจแบบนี้ได้หรือไง ?”

            “เออ ต่อให้ในอนาคตมึงจะเปลี่ยนใจหรืออะไร กูก็ไม่โทษว่าเป็นความผิดมึงหรอก เพราะวันนี้กูเป็นฝ่ายที่ทำให้มึงลังเล มันก็ไม่แปลกอะไรที่ผลจะออกมาเป็นแบบนั้น แต่กูก็ยังขอยืนยันคำเดิม...”

            “...”

            “ยังไงกูก็ปล่อยมึงไปไม่ได้จริงๆ”

            “ต่อให้วันนั้นกูหมดใจแล้วอ่านะ ?”

            “เออ ไม่รู้หรือไง ว่ากูมันคนเห็นแก่ตัว”

            “เหอะ ก็รู้อยู่หรอก” ผมจิกหัวมันด้วยความมั่นไส้ ก่อนจะเอามือตัวเองลงมาไว้ที่เดิมโดยประสานกับมืออีกข้างไว้แน่น พลางถามคำถามที่ทำให้หัวใจตัวเองเต้นแรงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะคิดว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุด “แล้วถ้าวันหนึ่งมึงหมดใจก่อนกูล่ะ ?”

            “มึงก็รั้งกูไว้สิ” คำตอบของมันที่ดังขึ้นทันทีที่คำถามจบลง ไม่ได้ทำให้ผมคลายกังวลลงแม้แต่น้อย ได้แค่เพียงพยายามแสดงออกว่าไม่ได้รู้สึกอะไร

            “แต่กูไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว กูไม่ชอบรั้งคนที่ไม่มีใจไว้หรอก”

            “งั้นมึงก็หัดเห็นแก่ตัวได้แล้ว...” ไอ้ธามมันกำชับอ้อมแขนของตัวเองอีกครั้ง คางที่เกยอยู่บนไหล่ก็กดลงมาจนรู้สึกหนัก ก่อนที่คำพูดของมันจะทำให้ผมรู้สึก ‘หายกลัว’ ขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็แอบเจ็บใจกับคำพูดนั่น “หึงกูบ้าง หวงกูบ้าง ห้ามกูบ้าง ไม่มีใครเขาว่ามึงจุ้นจ้านหรอก”

            “ก็มันไม่ใช่นิสัยกู”

            “หึ...ปกติมันก็เป็นนิสัยของคนที่มีแฟนไม่ใช่หรือไง ?”

            “กูอาจจะไม่แสดงออกก็ได้”

            “งั้นก็หัดแสดงออกได้แล้ว...” ไอ้ธามมันปล่อยตัวผมออกก่อนจะจับผมให้พลิกกลับไปเผชิญกับหน้าซีดๆ ของมัน ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องเลยก็ได้ที่ผมได้มองหน้ามันชัดๆ และใกล้ๆ แบบนี้ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าตัวคิดถึงมันมากพอๆ กับคำพูดที่ออกมาบ่อยๆ จากปากของไอ้ธาม ก่อนที่คนตรงหน้าจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าผมเบาๆ ก่อนจะเหมือนจะมีแรงดึงดูบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าของผมและมันขยับเข้าหากันเรื่อยๆ จนในที่สุดริมฝีปากของเราสองคนก็สมผัสกัน เพียงเท่านั้นก็รู้แล้วว่าผมโหยหาร่างนี้แค่ไหน ก่อนจะยกมือขึ้นคล้องคอไอ้ธามและขยับตัวลุกขึ้นเล็กน้อย และเป็นฝ่ายรุกล้ำริมฝีปากของคนตรงหน้าเอง ลิ้นร้อนระอุของไอ้ธามเกี่ยวหวัดกับลิ้นของผมจนรับรู้รสและไอร้อนของฝ่ายตรงข้าม ตามด้วยคนตรงหน้าที่ทำเหมือนว่าจะพยายามดันร่างของผมออก แต่ตัวเองก็ยังดึงดันที่จะอยู่แบบนี้ และจับใบหน้าของมันไว้แน่นเพื่อให้ตอบรับจูบของตัวเอง ก่อนที่ไอ้ธามมันจะใช้แรงทั้งหมดผลักตัวผม จนตัวเองได้แต่มองหน้ามันอย่างไม่พอใจ กับการถูกขัดจังหวะครั้งนี้ พร้อมกับเสียงของไอ้ธามที่เป็นฝ่ายเหนื่อยหอบซะเอง อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ไข้ด้วย “พอแล้ว...แฮ่ก...”

            “มึงพูดคำว่าพอเป็นด้วยหรือไง”

            “จริงๆ กูก็ยังไม่พอหรอก แต่กลัวมึงติดไข้มากกว่า”

            “หึ...”

            “ไอ้แทน”

            “ว่า ?”

            “เป็นแฟนกันมั้ย ?”

            ผมมองหน้าไอ้ธามที่อยู่ๆ ก็ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง พลางคิดทบทวนทุกอย่าง ก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตานั่น “อีกสองอาทิตย์ทั้งกูและมึงจะออกฝึกงาน”

            “จะให้คำตอบตอนนั้น ?”

            “เร็วไปมั้ง” ผมหันกลับมองหน้ามันที่ทำหน้าไม่เข้าใจ ก่อนจะพูดต่อทำให้คนตรงหน้าทำหน้าตาตื่นเล็กน้อย “หลังจากกลับฝึกงาน”

            “นาน !”

            “หัดรอบ้างดิ บางทีระยะห่างของเราอาจจะทำให้กูกับมึงเข้าใจตัวเองมากขึ้นก็ได้”

            “ก่อนจะถึงวันนั้นกูคงทรมานตายแล้วมั้ง !”

            “มึงมีสิทธิ์ท้วงด้วยหรือไง ?”

            “ไม่”

            “เออ” ผมมองหน้ามันที่หน้าจ๋อยเล็กน้อย ในใจก็แอบหัวเราะกับท่าทีของมัน ก่อนจะปรับน้ำเสียงลงแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ลองดู ห้ามติดต่อ ห้ามเจอหน้า จนกว่าจะฝึกงานจบ ถ้าผ่านมันไปได้แล้วความรู้สึกของมึงกับกูยังเหมือนเดิมค่อยมาเริ่มกันใหม่”

            “ก็พอรับข้อเสนอได้อยู่ แต่ห้ามติดต่อห้ามเจอหน้านี้หมายความว่าไง ?”

            “ตามนั้น เพราะกูรู้ว่าความดื้อด้านของมึง คงไม่ยอมอยู่ห่างเฉยๆ ใช่มั้ยล่ะ” ผมตบใบหน้านั่นเบาๆ พลางมองอย่างรู้ทัน “แล้วมันก็ไม่ใช่ข้อเสนอ เพราะทุกอย่างอยู่ที่มึง กูไม่ได้บังคับ”

            “...”

            “กูเองก็ต้องทรมานเหมือนกันแหละหน่า” ผมพูดเบาๆ พลางทาบริมฝีปาลงบนหน้าผากของคนป่วยที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่ได้ออกปากท้วงอะไร “แต่กูยังไม่หายโกรธมึงหรอกนะ”

            “ไหนว่าไม่โกรธ”

            “ก็บอกให้แสดงออกไม่ใช่หรือไง ?”

            “...”

            “จริงๆ แล้วกูอยากฆ่ามึงมากกว่า” ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นบีบคางมันโดยออมแรงไว้เล็กน้อยเพราะเห็นแก่คนป่วย ก่อนจะนึกได้ว่าผมเอาข้าวมาให้มันกินนี่หว่า “แดกข้าวแดกยาได้แล้วมึงอ่ะ !”

            ฟรุ่บ !

            “เดี๋ยวดิ แม่งยังไม่หายคิดถึงเลย” คนตรงหน้าโน้มตัวเข้ามากอดเอวผมอีกครั้ง ด้วยความที่ท่านั่งของผมสูงกว่ามัน เลยทำให้เจ้าตัวซบใบหน้าร้อนๆ นั่น เข้าที่แผงอกของผมพอดี ผมเลยได้แต่พยายามดันหน้ามันออกโดยไม่สนใจกับสีหน้าอ้อนๆ นั่น

            แม่งแอบไปฝึกมาจากที่ไหนวะ !

            “อย่ามาดื้อ กินข้าวกินยาแล้วนอนพักได้แล้ว !”

            “...”

            “ถ้ามึงไม่ฟังกู กูจะหนีมึงเดี๋ยวนี้แหละ !”

            “อย่า...” เสียงของไอ้ธามดังขึ้นเบาๆ และแทนที่จะปล่อยผม มันกลับกำชับแขนของตัวเองให้แน่นขึ้น ราวกับว่าผมจะหนีหายไปจากมัน “มึงก็รู้ว่ากูยอมมึงได้ทุกอย่าง”

            “...”

            “กูรักมึงมากนะไอ้เหี้ยมืด กว่ากูจะรู้จักมึงได้ขนาดนี้ รู้มั้ยว่ากูต้องพยายามขนาดไหน...”

            “ห๊ะ ?”

            “แต่เรื่องกินข้าวกินยาขอพักก่อน กูเพิ่งกินข้าวกลางวันไปเอง ยัดไม่ไหวแล้วว่ะ”

            “หึ...”

            ไหนว่ายอมทุกอย่าง

            ยอมทุกอย่าง...

            ผมมองใบหน้าที่ซบอยู่บนอกตัวเองด้วยสายตาที่เผยแววชั่วร้ายออกมา ก่อนที่หัวใจก็เต้นแรงขึ้นด้วยความนึกสนุก แล้วค่อยๆ พยายามปรับน้ำเสียงให้นิ่งๆ สวนทางกับสิ่งที่คิดอยู่ภายในใจ พลางใช้มือเชยคางคนตรงหน้าขึ้น “ยอมทุกอย่างจริง ?”

            “อื้ม...”

            หึ...

            “งั้นช่วย...”

            “ยอมนอนเฉยๆ ให้กูเอาได้มั้ยล่ะ J”

            “...”

            “J”

            “หะ...”

            “ว่าไง ยอมได้ทุกอย่างจริงหรือเปล่า ไม่งั้นกูหนีนะ”

            “พูดจริงพูดเล่น ?”

            “หืมมม ?”

            “ไอ้เหี้ยมืด !”

            พรึ่บ !

            ผมผลักร่างของไอ้ธามนอนหงายราบไปบนเตียงทันที พลางย้ายตัวเองขึ้นค่อมร่างนั่น มือของคนที่โดนกระทำก็โดนกดไว้เหนือหัว ซึ่งแรงที่ไม่ค่อยมีของไอ้ธามเลยทำให้ผมจัดการมันได้ง่ายกว่าที่คิด “ว่าไง จะยอมหรือไม่ยอม”

            “...”

            “ถ้าไม่ งั้นกูกลับ...”

            “มึงจะให้กูตอบว่าไง กูมีสิทธิ์ปฏิเสธ ?”

            “มีดิ แค่มึงบอกว่าไม่” ผมมองหน้าไอ้ธามที่สีหน้าตกใจตอนแรกที่ค่อยๆ ปรับลง โดยไม่รู้ว่าเจ้าตัวพยายามแค่ไหนกับท่าทีนิ่งๆ นี่ แต่สิ่งเดียวที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป คือตอนนี้มันขัดขืนผมไม่ได้ ตัวเองเลยได้แต่ใช้มือลูบใบหน้าของมันเบาๆ แล้วกดจูบลงไปบนริมฝีปากนั่น “ว่าไง...”

            “กูบอกเลยว่าหน้าเซ็กซี่อย่างมึงมันเหมาะกับตำแหน่งเมียมากกว่าว่ะ...”

            “งั้นกูกลับ !” ผมแสร้างทำหน้าไม่พอใจ ก่อนจะถอยตัวออกมา และย้ายลงจากตัวคนตรงหน้าเมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะปฏิเสธ จนไอ้ธามต้องรีบลุกขึ้นแล้วคว้าแขนผมไว้ ผมเลยหันไปมองมันด้วยความไม่พอใจ “เหอะ ปากก็บอกรักกู ยอมได้ทุกอย่าง แม่งดีแต่ปากว่ะ !”

            “เดี๋ยวดิ !” ไอ้ธามมันท้วงขึ้นเมื่อผมทำท่าจะสะบัดแขนตัวเองออก ผมเองก็ไม่ยอมง่ายๆ มันเลยค่อยๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความลังเลอย่างชัดเจน “กูกลัวมึงติดไข้...”

            “กูแดกผักทุกวัน เพราะฉะนั้นกูแข็งแรง”

            “สรุปมึงจะทำจริงๆ ใช่มั้ย ?”

            “เออ”

            “...” อยู่ๆ ไอ้ธามมันก็นิ่งไป พลางมองผมไม่ละสายตากับท่าทางเอาแต่ใจของผม จนในที่สุดเจ้าตัวก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาเสียงเบา ทำให้ผมที่เป็นคนฟังแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “เออ อยากทำอะไรก็ทำ”

            “หะ...”

            “กูรักมึงมากจริงๆ ไอ้แทน...”

            “...”

            “วันไหนมึงเชื่อใจกูแล้วค่อยกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้”

            “มึงยอมกูจริงดิ...” ผมถามมันด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ ก่อนที่ไอ้ธามมันจะยิ้มเล็กน้อย พลางดึงใบหน้าผมเข้าไปแล้วทาบริมฝีปากลงมาเบาๆ ตามด้วยคำพูดของคนตรงหน้าที่ทำเอาหัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมาทันที

            “เมียขอแค่นี้ ทำไมจะยอมไม่ได้วะ J”

            “ไอ้บ้า...”

            “แต่ครั้งเดียวนะ จะไม่มีมีครั้งที่สอง” มันหุบยิ้มลง ก่อนจะปรับเป็นน้ำเสียงแข็งอย่างดื้อๆ ดูแล้วเจ้าตัวก็คงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ผมเลยได้แต่หัวเราะออกมา

            “ทำพูดดี อย่ามาติดใจแล้วขอให้กูทำให้บ่อยๆ แล้วกัน !”

            “นั่นสิ ไอ้ของแบบนี้ มึงก็เคยติดใจมาแล้วนี่เนอะ J”

            “ชิส์ !” ผมจิ๊ปากออกมา ก่อนจะผลักร่างนั้นให้ลงนอนด้วยความรวดเร็ว ซึ่งไอ้ธามมันก็ได้ได้ขัดขืนอะไร ก่อนที่คนตรงหน้าจะสะดุ้งเฮือกเมื่อผมดึงกางเกงนอนพร้อมกับกางเกงในของเจ้าตัวลงมาในทีเดียว

            เอาวะ ตอนแรกก็ว่าจะขอเล่นๆ พอได้จริงก็ถือว่ากำไรแล้วกัน J

            “ดะ...เดี๋ยวดิ มึงใจเย็น” ไอ้ธามมันว่าโดยมือนึงก็พยายามดึงกางเกงของตัวเองไว้ ผมเลยมองมันนิ่งๆ โดยไม่สนใจกับคำพูดนั่น ก่อนจะค่อยๆ ปลดกางเกงยีนส์ของตัวเองออก พลางจัดการกระตุ้นอารมณ์โดยการสาวแก่นกายของตัวเองเบาๆ ทำให้คนที่มองการกระทำของผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ สายตาก็จับจ้องมาที่ใบหน้าของผมไม่วางตา

            “อ่าส์...”

            “มึงแม่งเหมาะกับการเป็นเมียจริงๆ ด้วย...”

            “โทษที แต่วันนี้กูได้เป็นผัวว่ะ...”

            พรึ่บ !

            ผมดึงกางเกงไอ้ธามลงมาใหม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าตาตื่นอีกครั้งเพราะคว้าไว้ไม่ทัน “เห้ย ใจเย็น !”

            “นอกคว่ำดิ”

            “ไอ้เหี้ยมืด เอาจริงดิ ?”

            “กูบอกให้นอนคว่ำ”

            “...” ไอ้ธามมันมองผมด้วยสายตาหวั่นๆ ก่อนจะยอมนอนคว่ำตามคำสั่งแต่โดยดี โดยที่ตอนนี้ท่อนล่างของมันเปลือยเปล่าเรียบร้อยแล้ว มีเพียงท่องบนของผมและมันเท่านั้นที่ยังคงสภาพเดิม ผมจึงไม่รอช้าขึ้นค่อมระหว่างช่วงขาของร่างที่นอนอยู่ทันที ก่อนจะกดกลางกายของตัวเองที่เต็มไปด้วยอารมณ์เข้าไปทางช่องทางแคบๆ ของไอ้ธาม ซึ่งเจ้าตัวถึงกลับเกร็งกร้ามเนื้อแน่น “อั๊ก...!”

            “อ่าส์...”

            ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อค่อยๆ พยายามยัดส่วนปลายเข้าไป โดยได้ยินหอบหายใจของคนตรงหน้าอย่างชัดเจน จนตัวเองคิดว่าจะเลวเกินไปหรือเปล่าที่ทำกับคนป่วยแบบนี้ แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมก็มากเกินที่จะหยุดได้แล้วเหมือนกัน...

            ขอล่ะนะ...

            แอ๊ดดด ~

            “ธาม...”

            เสียงเปิดประตูห้องพร้อมกับเสียงหวานๆ ของผู้หญิงทำให้ทั้งผมและมันตกใจตามๆ กัน ก่อนที่ใบหน้าสวยๆ ของใครคนหนึ่งจะมองมาทางพวกเราด้วยสีหน้าตกใจกับสภาพ ณ ตอนนี้ ซึ่งทางพวกเราก็ไม่ต่างนัก ตัวแข็งทื่อหัวใจตกไปที่ตาตุ่มเป็นที่เรียบร้อย

            ผะ...ผู้หญิงที่ไหนมาหาไอ้ธาม !

            “...”

            “...!”

            ...

            คนตรงหน้าประตูที่มองมาที่พวกผมไม่วางตา ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ “ถ้าทำธุระเสร็จแล้ว ลงมาคุยกันหน่อยนะ”

            “มะ...”

            สีหน้าของผู้หญิงตรงหน้าค่อยๆ ปรับลงเป็นปกติ พลางมามาที่คนที่นอนอยู่ใต้ร่างผมโดยตอนนี้มันนิ่งไปอย่างผิดสังเกตจนหน้าเป็นห่วง ก่อนที่คำพูดสุดท้ายของคนที่ยืนอยู่จะทำให้ผมหัวใจแทบจะวายตายลงตรงนี้และคิดออกมาได้เพียงอย่างเดียว...

            ...

            “แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”

            สถานการณ์เหี้ยสุดๆ !!

 

 

- ธาม –

มึงไม่จำเป็นต้องรีบหายเกลียดกูก็ได้ แต่กูแค่ขอโอกาสให้กูเริ่มใหม่ ขอแค่มึงเปิดใจให้กูอีกซักครั้ง และกูก็จะไม่สัญญว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นอีก แต่กูจะแสดงให้มึงเห็นในการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้


 


Thank You !

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด