Tics... เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ตอนที่ 21 มาแล้วจ้าาาา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tics... เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ตอนที่ 21 มาแล้วจ้าาาา  (อ่าน 85884 ครั้ง)

ออฟไลน์ normalplayer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงเรื่องนี้จัง คนเขียนหายไปเลยง่ะ  :hao5: เศร้าใจ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
อ่านรวดเดียวจบเลย

รอติดตามนะครับ

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
จิตใจทำด้วยอะไร
น้องโบจะมีพีคไม๊
เมื่อไหร่ใครๆจะเข้าใจน้องซักที
น้องต้องเจ็บอีกนานแค่ไหน
หรือต้องเป็นอะไรไป คนรอบข้างถึงจะะเข้าใจซักที
สงสารหนักมาก

ออฟไลน์ chuxm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลั้นหายใจเกือบทุกตอนเลยอินมากก. รอมาต่อ :katai2-1: :katai3:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ชอบค่ะ จะมาต่อหรือเปล่าน้อออออ

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu

สอบก็เสร็จแล้ว
งานหนังสือก็ไปแล้ว
มิชชั่นคอมพลีท


งั้นเย็นนี้รีบปั่นดีกว่า :katai2-1:


เราเปลี่ยนนามปากกานะ เป็นเกียรติแก่android7

ต่อไปจะใช้ชื่อ
ヌガー
นูก้า

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เย้ ติดตามครับ

+1 ให้ครับ

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu

ขอตอบเม้นล่าสุดก่อนนะ อันเก่าๆ อย่าเพิ่งน้อยใจ มันเยอะอ่ะ

ถ้าพวกพี่มันได้รู้ว่าน้องต้องเจออะไรมาบ้าง จะสงสารเมตตาน้องมันบ้างไหมหนอ
อวยพรให้ออกตรงที่อ่านค่ะ พยายามเข้านะคะ
เดี๋ยวก็รู้ แต่เมื่อไหร่ไม่บอก รู้แล้วจะเป็นไงติดตามต่อนะจิ๊ ขอบพระคุณสำหรับคำอวยพร สาธุ99


อย่าว่าแต่เกลียดพระเอกเลย เกลียดมันทั้งแกงค์นั่นหละ
เกลียดพระเอกได้ แต่อย่าเกลียดนูก้าที่ช้าน้าาา


โอ๊ยไอ้ชั่ว เกลียดมันทั้งแก๊งค์อะ ชั่ว สารเลว เกลียดคนประเภทนี้ แต่คนอ่อนแอแม่งเป็นเหยื่อคนแข็งแกร่งกว่าตลอดเลย โบทนไม่ไหว ฆ่าตัวตายแม่ง ฮือออ แต่คิดอีกทีอย่าทำเลย สงสารตัวเอง แต่โบน่าสงสาร เจอมาเยอะมากอะ แต่เรื่องแบบนี้คนไม่เป็นก็ไม่เข้าใจโรคเนี้ย

สงสารโบ
นูก้าได้แรงบันดาลใจจากคนจริงๆ ที่เคยเจอนะ ทั้งคนที่เลวแต่กำเนิดแม้พ่อแม่สอนมาดี (ไปดูงานในทัณฑสถานได้ มีเยอะเลยพวกครอบครัวอบอุ่นแต่ทำตัวเองอ่ะ) ส่วนโรคของโบเนี่ยแถวบ้านมีคนเป็นแล้วเขาก็ถูกสังคมรังเกียจเพราะไม่เข้าใจ เลยอยากสะท้อนผ่านนิยายเรื่องนี้


ถ้ายังไม่ดีกันกูจะเลิกอ่านแล้วนะขี้เกียจ555555ล้อเล่นนนน แต่ถ้ารีบหน่อยก็ดีค่ะ ลำไยเพื่อนพระเอกกับนิสัยส้นตีนของพระเอกมากกกก มาต่อเร็วๆนะ เราก็อ่านหนังสือเหมือนกันแต่แค่อ่านวันละ2ชม.เอง ลองทำแบบนี้สิ มันเข้าหัวดีนะๆ ขอโทดสำหรับคำหยาบค่ะๆๆ :hao7:
อย่าน้าาา พี่แม็กเขาเลวไปงั้นเอง ตอนปรับความเข้าใจกันแล้วอาจจะน่ารักก็ได้นะ


ไม่อยากให้จบแบบhappyเลยค่ะ อยากให้กระอักเลือดตายอันทั้งแก๊งค์ แบบติดเชื้อโรค ตาย
โหดดด


เป็นนิยายที่ ถ้าจบ bad end จะดีใจกว่าค่ะ ทำใจให้รักกับน้องไม่ลง อยากให้อีแก็งค์มั่วๆนี่มันได้บทเรียนบ้าง ขัดใจอ่ะ เวลาอ่านเจอพระเอกแสนดัก็ดีไป เจอชั่วก็ชั่วไป  555555
ยังไม่ครึ่งเรื่องเลย ไม่ชั่วเท่าไหร่หรอกถ้าแทบกับพวกในสังคมจริงๆ ที่เห็นใครต่างพวกก็ยิงทิ้งอ่ะ ถึงแม็กจะชั่วแต่เขาไม่ฆ่าใครนะ เขาอาจจะปรับปรุงตัวได้ก็ได้นะ หุหุหุ


โบ ถ้าการสื่อสารด้วยการพูดมันติดขัด เพราะอาการของโรค
พูดไปก็เยิ่งทำทำให้คนฟังโกรธซะอีก
โบพูดให้น้อยลง แต่เขียนมันจะดีกว่ามั้ย
แบบเขียนโต้ตอบ เขียนบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ
เขียนบอกเล่าอาการของโรคที่เป็น แม็กก็ยังได้อ่าน
เขาฉลาด ให้เขาสืบค้นอาการของโรคเอง
แม็ก ก็ความอดทนต่ำ ได้อ่านอย่างน้อยก็พอเข้าใจโบ
มันจะดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะโบต้องติดแหง็กกับแม็กอยู่แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
นูก้าอยากสะท้อนให้ผู้อ่านได้รู้จักโรคนี้มากขึ้น อาการของโบก็อ้างอิงจากข้อมูลจริง โบไม่ได้มีปัญหาการสื่อสารด้วยคำพูด แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองเมื่อเผลอได้ จะเขียนไม่เขียนตอนเผลออาการก็แสดงออกมาอยู่ดี ส่วนว่าทำไมไม่บอกๆ ไปซะว่าป่วย อันนี้มีที่มาแต่ยังไม่บอก
อันนี้ใบ้ให้ ถ้าสมมติตัวเองมีโอกาสได้เจอคนที่เป็นโรคนี้โดยที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย แล้วเขาบอกว่าเขาป่วยคิดว่าคนอื่นจะเชื่อมากน้อยแค่ไหน ยังไงก็ติดตามต่อไป นูก้าพยายามแทรกความรู้ไปด้วย ถึงนิยายจะไม่สนุกแต่ได้ความรู้นะเออ^^


อีกนาน กว่าแม็กจะรู้ว่าน้องเป็นโรคนี้สินะ
รอๆๆ หุหุ


รอได้ค่ะ


มาอวยพรให้สอบได้คะแนนดี้ดีนะคะ
ขอบคุณค่าาา สาธุ99


สงสารน้องโบอ่ะ  :hao5:
งื้อออออ


เลวแม่งทั้งแก๊งจริงๆ ไม่สงสารน้องมันเลยหรอวะถามจริง มันไม่น่าแกล้งเลยอะ โอยยยยอิน เกลียดๆๆ
รอวันที่น้องแก้แค้น
มีเยอะแยะไปพวกชอบแกล้งคนอื่นอ่ะ ในโซเชี่ยลเห็นชัดๆ ก็พวกbullyในโรงเรียน แต่อีพวกนี้มันเป็นเด็กโข่งผสมอันธพาลไง เลยทวีความเลว


เรื่องจะพลิกไหมเะ อยากให้แม็ครู้ว่าน้องเป็นโรค วุ้ยยยย
รอต่อปายยยย


ตามๆๆ รอๆๆ 555
แสดงว่าเราคงมีภูมิคุ้มกันความดิบเถื่อนแอนด์ซาดิสต์สินะ
อ่านแล้วยังไม่รู้สึกเลยว่าเกลียดอีพี่แม็กซ์
แต่แอบอยากอ่านเรื่องของอีพี่เมษนะ
แก๊งค์นี้อ่านแล้วรู้สึกนึกถึง F4 เลย
แล้วพี่เมษก็เป็นฮานาซาว่า รุย แล้วอีพี่แม็กซ์ก็เป็นอีโดเมียวจิ 5555
เวอร์นี้ไม่เคยดู ส่วนตัวนูก้าชอบแนวซาดิสต์ไง (เจอเพื่อน จับมือๆ) แต่นี้ปรับซอฟลงเยอะเลยนะ กลัวรับกันไม่ได้


:pig4:
เจ้าาา


ถ้าอิฉันเป็นคอมโบคงหยิบมีดไล่แทงเรียงตัวไปแล้ว
ก็น้องเค้าไม่สู้อ่าาา


สนุกกกกกกกก
รอตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่าาา


อาจารย์หมอนิวโรมาแต่งนิยายเองเลยหรอครับ?
ป๊าววว ไม่ถึงขั้นอาจารย์หมอม้างงง แต่เคยเรียนนิวโร ไม่เป๊ะขออภัย


คิดถึงเรื่องนี้จัง คนเขียนหายไปเลยง่ะ  :hao5: เศร้าใจ
เขิล เค้ามาแล้วน้าาา


อ่านรวดเดียวจบเลย

รอติดตามนะครับ
อ่านถนอมๆ หน่อยสิ เค้าเขียนช้า ระวังค้างนะ


จิตใจทำด้วยอะไร
น้องโบจะมีพีคไม๊
เมื่อไหร่ใครๆจะเข้าใจน้องซักที
น้องต้องเจ็บอีกนานแค่ไหน
หรือต้องเป็นอะไรไป คนรอบข้างถึงจะะเข้าใจซักที
สงสารหนักมาก
เป็นเม้นที่ดราม่ายิ่งกว่านิยาย


กลั้นหายใจเกือบทุกตอนเลยอินมากก. รอมาต่อ :katai2-1: :katai3:
อย่าลืมหายใจนะ


ชอบค่ะ จะมาต่อหรือเปล่าน้อออออ
มาโล้วววว


เย้ ติดตามครับ

+1 ให้ครับ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
 
ไปอ่านต่อกันเล้ย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2017 09:36:01 โดย madmay »

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu


50%
Magnum


               “ผมไม่อยากกิน”

               นี่คือคำแรกที่ออกจากปากซีดหลังจากที่ผมปลุกมันมากินยา ตัวมันเหมือนจะร้อนกว่าเดิมนิดหน่อย ตาโตก็แดงช้ำ หน้าแดงตัวแดงเหลือแค่ปากที่ซีดสนิท มันสั่นน้อยๆ สองแขนกอดผ้าห่มแนบอกแต่ชุดนอนชุ่มไปด้วยเหงื่อ

               เรานั่งเล่นเกมจ้องตากัน ในมือยังกำเม็ดยากับแก้วน้ำอุ่นอยู่ บอกตรงๆ ว่าโคตรเกลียดเลยที่ต้องมาดูแลคนป่วยงี่เง่าแบบนี้ งี่เง่าแค่ไหนไปดู

               “หมอสั่งให้กินมึงก็ต้องกิน อย่าท่ามาก”

               “ไม่เอา” มันว่าเสียงอ่อยหน้ามุ่ย

               “อยากหายก็ต้องกิน กะอีแค่ยาสองสามเม็ดอย่าให้มันเป็นปัญหา”

               “ก็ผมไม่อยากกินนี่”

               “ไม่กินแล้วเมื่อไหร่มึงจะหาย!” กูชักจะมีน้ำโหแล้วนะ

               “ช่างผมสิ”

               ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจ มื้อก่อนๆ แม่งยังไม่งอแงแบบนี้นี่หว่า เป็นเหี้ยอะไรของมันวะ ผมรู้สึกถึงความกลัวที่มีต่อผมเหมือนเดิม แต่ก็ยังแสดงอาการต่อต้านทั้งๆ ที่ไม่กล้าสบตา เวลาเถียงมันก็ค่อยๆ ถอยไปชิดหัวเตียงทีละนิด

               นึกย้อนไปก่อนหน้า มันไม่มีปัญหากับยาสองสามเม็ดต่อมื้อเท่าไหร่ แค่ใช้เวลานานและหมดน้ำไปแก้วกว่าต่อเม็ด ผมคิดว่ามันเป็นคนกินยายาก สังเกตจากที่มันต้องเอายาเข้าปากทีละเม็ด ก็คงล้วยัดเข้าไปลึกๆ ดื่มน้ำตามด้วยหน้าเหยเก ...แล้วมันใช่เรื่องที่ผมต้องมานั่งพิจารณาความผิดปกติของมันไหม ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้มันหายไวๆ กไม่ต้องมานั่งทนเฝ้าหาข้าวหายาให้มันอย่างนี้หรอก

               ผมสูดหายใจลึกเต็มปอด พลางท่องไว้ว่ามันป่วยๆ คราวก่อนเล่นแรงไปจนมันไข้ขึ้นสูงร้องไห้จนตาบวม ผมต้องใจเย็นๆ เข้าไว้ เป็นอะไรขึ้นมาเดี๋ยวจะไม่ได้ค่าจ้างเอา “…กูจะพูดเป็นครึ่งสุดท้าย ...กินยา”

               “...”

               “คอมโบ”

               มันสะดุ้งเมื่อผมเรียกมันเสียงต่ำ หน้ารูปไข่กดลงชิดอกจนผมลงมาปรกหน้าทำให้ไม่สามารถเห็นหน้ามันได้ นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมเอ่ยชื่อมันตรงๆ ไม่ได้พูดแบบแซวๆ เหมือนทุกครั้ง แขนเล็กกอดผ้าห่มแน่นขึ้น ผมจับหน้ามันเงยขึ้นสบตา

               “อย่าให้กูต้องใช้กำลังนะ”

               “...” ลูกแก้วใสสั่นไหวทว่าคงความดื้อรั้นไว้เช่นเดิม ผมยื่นเม็ดยาจ่อหน้ามันที่ย่นคิ้วแหยงๆ มันหยิบไปหนึ่งเม็ดแต่ไม่ยอมเอาเข้าปากสักทีจนผมต้องกระตุ้นอีกครั้ง “แดกๆ ไปซะ กูขี้เกียจบังคับมึงแล้วนะ”

               “...”

               ร่างเล็กถอนหายใจ มันอ้าปากกว้างยัดยาเข้าไปลึกจนนิ้วชี้กับนิ้วโป้งที่คีบยาอยู่หายเข้าไปในปากทั้งหมด อีกมือรีบคว้าแก้วน้ำไปดื่มอึกๆ แต่แล้วกลับสำลักอย่างรุนแรง เม็ดยาหล่นออกมากองบนตักพร้อมน้ำไหลนองจนผ้าห่มเปียกเป็นดวง

               “แหวะ! แค่กๆๆ”

               มันโก่งคอเหมือนจะขย่อนของเก่าออกมาทั้งยังไม่หยุดไอ ผมตบหลังมันอั่กๆ จนมันปรับลมหายใจได้ใกล้เคียงปกติ น้ำหูน้ำตาไหลย้อยดูทุเรศ มันมองผมหวาดๆ ซึ่งผมเองก็พยายามทำใจให้เย็นที่สุดแม้ขมับจะปวดตุบๆ ก็ตาม

               “...ผมขอโทษ...” อ่า… เสต็ปเดิม

               “กูจะทำยังไงกับมึงดี หือ”

               ตากลมโตช้อนมองก่อนจะค่อยขยับตัวเอาหัวมาพิงแขนผมราวกับจะอ้อน สัมผัสได้ถึงความต่างของอุณหภูมิร่างกายเลยคิดว่าเพราะไข้สูงมันเลยมีท่าทางเหมือนลูกหมาอย่างนี้ แล้วมันก็บอกว่า “ผมกินยาไม่ได้หรอก พี่อย่าบังคับผมเลยนะ” พอเสนอให้บดจะได้กินง่ายขึ้นมันก็ไม่เอา

               “เหตุผล” ผมถามสั้นๆ

               “...ก็ ก็… ...” มันบ่นงุ้งงิ้งไม่รู้เรื่อง ผมขึ้นเสียงใส่ “พูดอะไรกูไม่ได้ยิน”

               เงียบไปพักหนึ่งกว่าจะได้คำตอบโคตรเด็กว่า “...มันขม” โอย คุยกับมึงกูโคตรอึดอัด

               “ยาก็ขมดิวะ ถ้ามึงไม่ลีลารีบๆ แดกไปซะมันก็ไม่ขมหรอก”

               “มันขมจริงๆ นะฮะ แค่วางไว้บนลิ้นก็จะอ้วกแล้ว”

               อันนี้ผมเดานะ คิดว่าเพราะป่วยแล้วอาการขมปากขมคอเบื่ออาหารคงเป็นสาเหตุหลัก ช่วงแรกที่ยังไม่มีไข้สูงมันยังพอกินยากินข้าวได้หมดถ้วยด้วยหน้าฝืนๆ แต่พอป่วยนานขึ้นลิ้นคงพังไปด้วย กับข้าวก็ว่าไม่อร่อยแล้วยาคงยิ่งเสริมความขมได้ทวีคูณ แต่ว่านะ มันไม่เว่อร์ไปหน่อยเหรอวะ

               “แต่ยังไงมึงก็ต้องกิน มียาฆ่าเชื้อด้วยหมอสั่งให้กินให้หมด หรือมึงอยากโดนบาดทะยักแดกตาย”

               แล้วเราก็เถียงกันอีกครั้ง ผมพยายามเสนอวิธีสารพัดถึงขึ้นว่าจะละลายน้ำผสมน้ำตาลเลยนะ มันเล่าว่ามันเคยลองแล้วแต่รสชาติกลับเลวร้ายกว่าเดิม คือกูก็ไม่รู้จะทำไงแล้วไง ห่านี่ก็ไม่ช่วยคิดด้วย ส่ายหัวอย่างเดียว ดูแลคนป่วยยากขนาดนี้เลยหรอวะ

               เอาล่ะ นี่คงจะถึงที่สุดสำหรับสถานการณ์นี้แล้วสินะ ผมเอายาที่ยังไม่ทันละลายจากบนที่นอนและอีกชุดในมือมาเข้าปากแล้วอมน้ำไว้ กระชากแขนคนที่กำลังจะล้มตัวนอนคลุมโปงขึ้นมาประจันหน้า ผมบีบแก้มป่องนั่นแล้วประกบปากทาบทับทันที ผมทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ใช้ลิ้นดันเม็ดยาเข้าไปในโพรงปากร้อนพร้อมปล่อยน้ำไปพอให้เม็ดยาสามารถไหลลื่นลงคอมันไปได้ มือที่บีบคางรู้สึกว่าลูกกระเดือกมันขยับเพื่อกลืนเรียบร้อยแล้ว กวาดลิ้นเช็คอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่ายาจะไม่ไปตกค้างในปากจึงถอนปากออก

               โอเค มิชชั่นคอมพลีท!

               เหนื่อยชิบหายกับการป้อนยาเด็กดื้อตรงหน้า ผมถึงกับถอนหายใจทิ้งตัวมือยันเตียงไปด้านหลัง คือมันเหนื่อยแบบเหนื่อยกายสิบเปอร์เซนต์ที่เหลือเหนื่อยใจล้วนๆ

               ไอ้เปี๊ยกนั่งเอ๋อตาจ้องผมค้าง สองมือยกไว้ตำแหน่งเดิมที่เคยเกาะไหล่ผม น้ำไหลเปียกตั้งแต่คางถึงชุดนอนหลุดลุ่ย รวมกับผมทรงกะลาครอบยุ่งเหยิงแล้วถ้าไม่นับความกวนตีนของมันก็เป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ได้ดีเหมือนกัน… อ่า ตัวมันแดงชะมัด

               เหอะ! มึงไม่ได้น่ารักสำหรับกูหรอก

               “พ… เมื่อกี้… จ... จ... ”

               ปากเล็กพูดตะกุกตะกักหน้าตื่น ยิ่งพูดหน้ามันยิ่งแดงจนผมนึกอย่างตลกว่ามันอาจจะระเบิดตัวเองได้ ไม่รู้ว่าไอ้ที่แดงเพราะไข้หรือเพราะเขิน อันไหนจะมากกว่ากัน ผมยิ้มขำเมื่อเลื่อนสายมาที่ปากผมแล้วยกมือปิดปากตัวเองก่อนจะกระแทกตัวลงกับที่นอนนุ่มดึงผ้าห่มเปียกชื้นคลุมมิดหัว

               ก็… อารมณ์ดีขึ้นนิดนึงล่ะนะ ฉะนั้นที่ทำกูวุ่นวายเมื่อกี้กูจะไม่เอาเรื่องแล้วกัน

               Rrrr

               “อืม ว่าไง” ผมรับสายหลังจากที่เห็นชื่อโชว์ว่า ‘ฟา’ เพื่อนสมัยเด็กของผม อาจจะฟังดูห้วนไปหน่อย แต่อยากจะบอกว่านี่น่ะ สุภาพที่สุดแล้ว

               ‘อื้ม เห็นว่าโดดเรียน ไปเถลไถลที่ไหนล่ะ’ ไม่แปลกใจที่ฟารู้ กลุ่มเราติดต่อกันเป็นระยะๆ ไม่ได้ถี่แต่ก็พอจะอัพเดตชีวิตประจำวันกันอยู่บ้าง และไอ้พวกนั้นคงบอกฟาว่าผมโดดเรียนมาเฝ้าไข้ไอ้เปี๊ยกนี่แน่

               “รับจ๊อบเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์น่ะ”

               ใช่… เหมาะมาก

               พูดไม่ทันขาดคำ คนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาก็มีลมหายใจสม่ำเสมอ ดึงผ้าห่มลงให้นิดนึงกลัวมันขาดอากาศตาย ผมมองไอ้ก้อนกลมๆ ใต้ผ้าห่ม มือยังกุมปากหลวมๆ อยู่เลย ดูยังก็ให้ความรู้สึกเหมือนหนูแฮมสเตอร์ ตัวเล็กๆ ตาโตๆ หลับง่ายแล้วก็โง่ นิยามตรงเป๊ะ จริงๆ แล้วมันไม่ได้ผอมกะหร่องแบบหนังหุ้มกระดูกหรอก แต่ที่ดูเหมือนผอมเพราะมันไม่มีเนื้อ มีแต่ไขมันเละๆ จับตรงไหนก็นุ่มนิ่มไปหมด แถมมีพุงหยุ่นๆ อีกด้วย มันเลยเหมือนแฮมสเตอร์ไง

               ‘เด็กที่ไหน น่ารักขนาดนั้นเลย’

               “ไม่ได้น่ารักหรอก แต่แม่เขาให้เยอะเลยช่วยดูให้ ...เออ ฟา ถามหน่อยดิ”

               ‘ว่า’

               “คนที่กินยายากเนี่ย มันเพราะอะไร” ผมเล่าให้ฟาฟัง เรียนพยาบาลน่าจะรู้เรื่องร่างกายมนุษย์ดีน่ะนะ ฟาฟังอย่างตั้งใจแล้วตอบมาว่า

               ‘อาจเพราะมี Threshold ต่ำล่ะมั้ง’

               “เอ่อ… มันคือ?” อะไรโฮๆ วะ ปลายสายหัวเราะคิกคักเมื่อผมงง บางครั้งฟาก็ชอบแกล้งผมโดยการใช้ศัพท์เทคนิคกับผม แต่ผมไม่เคยแก้แค้นด้วยศัพท์เทคนิคของผมนะ

               ‘ง่ายๆ ก็คือความเข้มข้นต่ำสุดที่ประสาทสัมผัสจะรับรู้ได้อ่ะนะ หู ตา จมูก ลิ้น ผิว แต่ละส่วนก็รับได้ไม่เหมือนกัน และแต่ละคนอาจจะมีระดับเทรสโฮลด์ (Threshold) ต่างกันได้ด้วย บางคนหูดี สมมติว่าแค่ระดับหนึ่งหรือสองก็ได้ยินแล้ว กับอีกคนที่หูไม่ดีเท่าก็อาจจะต้องใช้เสียงเข้มข้นถึงระดับห้ากว่าจะได้ยินก็ได้ อย่างน้องคนนั้นเขาคงมีเทรสโฮลด์การรับรสต่ำมาก คนอื่นต่อให้อมยาเม็ดไว้ในปากจนละลายอาจจะไม่รู้สึกขมเท่าไหร่แต่น้องเขาแค่วางไว้บนลิ้นแป๊บเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว ประมาณนี้น่ะ แม็กอย่าดุน้องเลย มันเป็นธรรมชาติเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก’

               “ได้ทีร่ายซะยาวเลยนะ ...ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแหละ แต่ก็จะพยายามใจเย็นละกัน เดี๋ยวมันจะไม่หายสักที”

               ‘จ้า แม็กของฟาเก่งอยู่แล้ว แค่เด็กกวนนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกเนาะ… โอเค เราวางก่อนนะ จะเข้าห้องสมุดแล้ว เจอกันนะ บาย’

               “อือ บาย”

               งี้นี้เอง ความรู้ใหม่ ถึงว่าคนกินจืดๆ นี่เขาอร่อยตรงไหน ผมนี่พริกอย่างน้อยหนึ่งช้อนเหอะกว่าจะแซ่บ งดแค่เค็มแค่นั้นเองเพราะฟาบอกว่ากินเค็มมากจะบวมน้ำ เดี๋ยวกล้ามหายหมด

               แต่ก็เหมาะกับมันดีนะ เรียนทำอาหารแล้วลิ้นทิพย์แบบนี้ ถึงว่าทำกับข้าวโคตรอร่อย ขนาดมะระยังไม่ขมได้นี่ก็สุดยอด… อะแฮ่ม ก็ ไม่ได้เลิศเลอหรอก แค่พอกินได้ล่ะน่า

               Rrrr

               ใครอีกวะ... อ๋อ

               “สวัสดีครับ” ท่านผู้มีอุปการะคุณ

               ‘น้องเป็นไงบ้างลูก’

               “หลับไปแล้วครับ”

               ‘แม่ฝากดูเรื่องยาด้วยนะ น้องเขากินยายาก เมื่อก่อนต้องขอยาน้ำของเด็กจากคุณหมอให้กินเลยล่ะ ไม่รู้ว่าตอนอยู่คนเดียวจะกินยาครบไหม แม่กลัวแกจะดื้อยา อ้อ! คือแม่จะโทรมาบอกว่าเดี๋ยวน้องหมิวเอารถไปให้นะครับ แม่ให้เบอร์แม็กไปแล้ว ถึงแล้วเขาจะโทรให้ลงไปเอากุญแจนะ’

               “ครับคุณน้า” มีรถใช้แล้วกู ยิ้มจนตึงแก้มเลย แต่ถึงคุณน้าจะใจดีแค่ไหนผมก็ยังไม่เรียกแม่หรอกนะ ส่วนเรื่องยา ผมรู้ซึ้งมาได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วครับ

               หมดธุระก็วางสายไป ผมนั่งเขย่าขาจ้องโทรศัพท์รอรถจ๋าโทรมา ผมไม่รู้เบอร์อะไรแต่ตั้งใจไว้ว่าทุกเบอร์แปลกที่โทรมาก่อนที่ผมจะได้รถ ผมจะพูดสุภาพด้วยเสียงที่หล่อที่สุด...

               Rrrr

               มาแล้ว!

               “ครั...”

               ‘สวัสดีค่ะ! คุณคือผู้โชคดี-’

               อีเวร! ทำไงถึงจะบล็อคเบอร์พวกนี้ได้วะเนี่ย

               Rrrr

               “อะไร” เชี่ย เสียงโคตรแข็ง ขออภัยปลายสายมา ณ ที่นี้ด้วย

               ‘ลงมาเอากุญแจ ฉันรีบ’

               ติ้ด

               โอ้ว เหวี่ยงพอกัน เสียงผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็น ‘น้องหมิว’ ที่ว่า งั้นก็ต้องเป็นน้องของไอ้เตี้ยใช่ไหม กวนตีนเหมือนกันอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าสองพี่น้องจะหน้าตาเหมือนกันไหม อยากเห็นหน้านักแต่แค่เห็นก็พอไม่ต้องถึงกับลงไม้ลงมือแบบไอ้เตี้ย ยังไงเขาก็เป็นเจ้าของรถนี่เนาะ

               เดินไปก็คิดไปในใจ พอถึงชั้นล่างหน้าตึกมีรถบีเอ็มสีควันบุหรี่เงาวับจอดขว้างประตูอยู่ จอดได้เปรี้ยวมากน้อง ถ้าไม่มีพื้นยกระดับคงเอาเข้ามาจอดในตึกแล้วใช่ไหม ข้างรถมีเด็กสาวใส่เสื้อมียี่ห้อกับกางเกงขาสั้นกุด หุ่นดีไม่เบา แม้จะไม่เท่าจีก็ตาม เธอยืนพิงรถคุยโทรศัพท์หันหลังให้ผม งั้นผมขอแอบฟังสักนิดก่อนแล้วกัน

               “โคตรเบื่อเลยแก ประสาทแล้วยังขี้โรคไม่เข้าเรื่อง เดือดร้อนคนอื่นตลอดอ่ะมันอ่ะ แม่ก็โอ๋มันเหลือเกิน เจ็บนิดเจ็บหน่อยทำสำออยเป็นง่อย ลำบากฉันต้องเอารถที่พ่อออกให้เป็นของขวัญวันเกิดมาให้มันใช้ แล้วคนขับเป็นใครไม่รู้ ...นั่นและแก ฉันก็ว่าผัวขายหมูมันมั้ง” นินทาแบบนี้กูเสียหายนะเว้ย

               “คอยดูนะถ้าพวกมันทำรถฉันเป็นรอย กูจะตบ- ว้าย!”

               เด็กสาวคุยอย่างออกรสออกชาติ มือไม้ร่ายรำประกอบการพูดโดยเฉพาะตบเมื่อกี้ ถ้าผมเข้าไปหาเร็วอีกนิดนี่เข้าเบ้าตาแน่นอน เล็บหล่อนก็ต่อยาวซะสวยเชียว เธอหันมาทางผมอย่างกะทันหันพอเห็นผมก็ร้องอย่างตกใจ

               “...เอ่อ แก เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ”

               เหอะ เป็นไงล่ะ เห็นหน้าผมแล้วมองค้างเลย หน้าตาก็ดีแต่พูดกูมึงแล้วมันดูขัดๆ ยังไงไม่รู้ มันก็ธรรมดาแหละถ้าจะพูด สำหรับผมขอแค่หน้าตาดี มีรู หุ่นได้ก็ได้หมด แต่ให้เป็นแม่ของลูกนี่ขอคิดดูก่อน ถึงจะเลวแต่ก็เลือกนะครับ

               “เอ่อ พี่… มีอะไรกันหมิวเหรอคะ” จริตใช้ได้ นับว่าอยู่เป็น ตาโตคล้ายไอ้เปี๊ยกช้อนมอง ตัวก้มเล็กน้อยโชว์ร่องอกอย่างแนบเนียน แถมแทนชื่อตัวเองพร้อมเป็นการตีสนิท เธอยังไม่รู้ว่าผมคือ ‘ผัวขายหมู’ ที่เพิ่งพูดถึง

               “ผมมาเอารถ” ผมบอกนิ่งๆ ก็อยากจีบอยู่แต่ดูง่ายและผมไม่มีอารมณ์ เดี๋ยวเธอก็มาหาเองแหละ พนันไหมล่ะ

               “อะ อ้อ พี่แม็กเหรอคะ ตัวจริงหล่อกว่าที่คุณแม่บอกเยอะเลยนะเนี่ย” นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมลอนยาวทัดหู ยืนบิดไปมานิดๆ ด้วยอิมเมจสาวน้อยขี้อายทว่าเชิญชวน ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ ก็ผมผ่านผู้หญิงมาเยอะไง “นี่ค่ะกุญแจ พี่แม็กดูแลดีๆ นะคะ คันเนี่ยหมิวรักมากแล้วก็หวงมากเลยนะ”

               “อือ”

               ผมรับกุญแจประดับด้วยพู่กระต่ายสีชมพูตัวเท่ากำปั้นมา อุตส่าห์ยืนส่งแต่เจ้าหล่อนก็ไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนสักทีจนผมต้องเอ่ยขึ้น “มีธุระอะไรอีกหรือเปล่า”

               “อ๊ะ ก็ ไม่มีอะไรค่ะ งั้นหมิวไปก่อนนะ”

               “กลับยังไง” ถามเป็นมารยาทน่ะ

               “ก็คงแท็กซี่ค่ะ หมิวขึ้นรถเมล์ไปเป็น แล้วก็ไม่ได้บอกให้คนขับรถที่บ้านมารับด้วย… หรือพี่แม็กจะไปส่ง...”

               จุดประสงค์เธออยู่ที่ประโยคหลังนั่นแหละ เอาเถอะ ถือว่าใช้รถเขางั้นผมจะเซอร์วิสนิดนึงแล้วกัน “งั้นเดี๋ยวเดินไปส่งปากซอย”

               “ก็ ได้ค่ะ”

               ชักจะรำคาญคำว่า ‘ก็’ ของเธอแล้วสิ

               ในซอยถนนเลนเดียวค่อนข้างแคบ เด็กสาวเดินฝั่งนอกแอบเบียดผมให้แขนชนกันเบาๆ ตลอดทาง หมิวยิ้มไม่หุบสงสัยจะถูกใจผมเอามากๆ ป้ายรถหน้าปากซอยมาถึงอย่างรวดเร็วเพราะผมจ้ำเต็มช่วงขาไม่สนว่าคนเตี้ยกว่าจะต้องวิ่งเหยาะๆ ตามก็ตาม อย่างที่บอก ผมไม่อยู่ในช่วงอารมณ์อยากยุ่งกับใครเท่าไหร่ ปิดประตูอัดหน้าไปทีเป็นการกำจัดตัวกวนไปหนึ่ง

               กลับมาที่ห้องไอ้แฮมสเตอร์ยังหลับอุตุอยู่ท่าเดิม ทีวีไม่มีรายการน่าสนใจ ช่องเคเบิ้ลมีแต่หนังเก่าๆ การ์ตูนก็ไม่สนุก ไหนๆ ก็ได้รถแล้ว ลองเครื่องสักหน่อยดีกว่า ว่าจะขับไปร้านหนังสือการ์ตูนหน้ามหาลัยแล้วค่อยจอดดีๆ เพราะตอนนี้หมิวมาส่งยังไงมันก็ยังอยู่อย่างงั้น อืม… แวะซื้อข้าวเลยก็ดี ธุระนู่นนี่กลับมาถึงเวลากินข้าวกินยาพอดี เอาตามนี้แหละ วางแผนในหัวแล้วก็คว้าพวงกุญแจกระต่ายขนฟูมาถือไว้ เอิ่ม… ต้องหาซื้อพวงกุญแจใหม่ด้วยสินะ



               “พี่แม็ก...”

               เสียงมันกระซิบข้างๆ ผมที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านฮันเตอร์อยู่ เสียงแหบอยู่แล้วจะกระซิบเพื่อ? เมื่อไม่ได้รับความสนใจจากผม
มันค่อยๆ กระดึ๊บๆ เข้าใกล้ มือเล็กสะกิดสะโพกเบาๆ ผมละสายตาจากหนังสือเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

               “ผมอยากไปเรียน ผมไปได้ไหม”

               มันขาดเรียนมาสองวันแล้วแต่แผลมันก็ยังไม่ดีขึ้น พอยาหมดฤทธิ์มันก็ครวญครางอย่างเจ็บปวดเหมือนเดิม แถมไข้ก็ไม่มีทีท่าจะลด สภาพแบบนี้ยังจะไปเรียนอีกหรือไง ผมยื่นคำขาดก่อนจะกลับไปอ่านฉากต่อสู้ของกอร์นต่อ

               “ไม่”

               “ทำไมอ่ะ” มีหน้ามาถาม

               “หนึ่ง มึงยังเจ็บแผลอยู่ สอง หวัดลงคอ สามไข้สูง แล้วมึงจะไปเรียนยังไงไหว จะคลานไปรึไง”

               “ผมเรียนได้...” มันว่าเสียงอ่อยแล้วบ่นอะไรพึมพำอีกไม่รู้ฟังไม่ทัน มือมันสะบัดตีหมอนดังปุ ปล่อยมัน งอแงยังไงกูก็ไม่ให้มึงไปเรียนหรอก

               “ผมจะเรียนไม่ทัน”

               ช่วงนี้มันใช้ไม้ตายนี้บ่อยมาก นั่นคือทำคิ้วตกช้อนตามอง อมแก้มเล็กน้อย และแทนที่มันจะถอยห่างเวลาผมหงุดหงิดอย่างเมื่อก่อน มันกลับเข้าประชิดแล้วใช้ส่วนของร่างกายส่วนใดส่วนนึง เช่นมือหรือหัวทุยๆ สัมผัสตัวผม บางครั้งก็จะนวดมือผมวนๆ ก็เพลินดีแต่ร้อนไปหน่อยเลยรู้สึกไม่สบายตัวนัก ผมปล่อยมันอ้อนงุ้งงิ้งสักพัก เมื่อไม่ได้รับการตอบรับมันก็เงยหน้ามองตรงๆ ทำหน้างอใส่ โคตรตลก สรุปมึงยังกลัวกูอยู่ไหมเนี่ย

               ถลึงตาใส่แล้วปรามมันไปเบาะๆ “อย่างี่เง่า สังขารจะไปไม่รอดเสือกดื้อไม่เข้าเรื่อง ช็อคคาห้องเรียนขึ้นมาคนอื่นเขาเดือดร้อน ถ้าอยากไปเรียนมึงต้องหายไข้ก่อนแล้วกูจะคิดดูอีกที” ผมตั้งเงื่อนไข แถมด้วยว่ากูก็ไม่ได้อยากโดดมาเฝ้ามึงนักหรอก นี่ฝากไอ้พอลเช็คชื่อให้นะ ไม่มีแล็ปก็ดีไปไว้รอลอกแลคเชอร์มันทีหลัง

               “ฮึ่ย!”

               ไอ้เปี๊ยกส่งเสียงอย่างขัดใจพลิกตัวหันหลังให้ผม เกี่ยวกับเรื่องเรียนเนี่ยไม่มีกลัวทั้งนั้น งี้ต้องตกลงกันหน่อยล่ะ

               “สามสิบเจ็ดจุดห้า ถ้าไข้สูงกว่านี้ก็ไม่ได้ไป”

               ร่างเล็กพลิกกลับอย่างไว หน้ามืดขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน “พี่จะบ้าเหรอ สามเจ็ดจุดห้าก็ปกติแล้ว” นี่ว่ากูบ้าเหรอ!

               “ก็ให้หายก่อนไงถึงจะเรียนได้”

               “ไม่เอา!... สี่สิบ”

               “โวะ! สี่สิบมึงช็อคอยู่โรง’บาลแล้ว อย่าเว่อร์ สามแปด”

               “พาราสิบเม็ดไข้ผมก็ไม่ลงถึงสามสิบแปดหรอก รอสามแปดเทอมนี้ผมก็ไม่ได้ไปเรียน” เยอะละๆ เริ่มกรุ่นๆ ละ

               “เอ๊ะ! มึงนี่ ป่วยแล้วซ่านะมึง กูซัดแม่งให้สลบไปจนกว่าจะหายไข้ดีไหมเนี่ย”

               “สามสิบเก้าจุดห้า! แล้วพูดเพราะๆ ด้วย! ผมยังไม่เคยพูดคำหยาบกับพี่เลยนะ”

               “บ่อยเหอะ กวนตีนอะไรกูบ้างล่ะถึงได้ง่อยอย่างนี้ไง ทำลืม หนี้เก่ายังอีกเยอะ หายดีแล้วกูจะทบต้นทบดอกทีเดียว” กวนโมโหได้ตลอด ที่เป็นแบบนี้ก็มึงทั้งนั้น ผมขึ้นคร่อมยึดแขนบางกับที่นอน พอถูกคุกคามมันเริ่มตื่น น้ำตาคลอโดยอัตโนมัติคงตกใจและหลาบกับบทลงโทษที่เคยโดน ปากที่พล่ามเถียงไม่หยุดเม้มแน่น แต่...

               “ส… สามสิบเก้านะฮะ...”

               “สามสิบแปดจุดห้าขาดตัว! ต่อรองอีกกูจะเอาแม่งให้นอนซมเป็นอาทิตย์เลยคอยดู”

               สงครามย่อมๆ จบลงที่ราคาประมูลสามสิบแปดจุดห้าองศาเซลเซียส ไข้ ณ ปัจจุบันมันสามสิบแปดจุดแปด ตราบใดที่ยังมีไข้สูงกว่าสามสิบแปดจุดห้าผมจะไม่อนุญาตให้ไปเรียน

               ผมจัดยาก่อนอาหารให้มัน มื้อนี้มันสามารถกระเดือกเม็ดยาลงไปโดยไม่อิดออดแม้จะทำหน้าพะอืดพะอมเต็มที่ก็ตาม ข้าวและยาหลังอาหารถูกจัดการจนเกลี้ยง คงอยากไปเรียนจริงๆ ถึงทำตัวว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ เม็ดสุดท้ายไหลลงคอไปอย่างยากลำบาก ตาใสเผลอมองสบผมหลังจากลดแก้วน้ำลง หน้ารูปไข่พลันแดงแปร๊ด ในหัวมันต้องฉายภาพการป้อนยาอย่างดูดดื่มตอนนั้นแน่ ทำหน้าตลกชะมัด

               นึกแล้วก็รู้สึกแปลกๆ ที่ไม่ได้รังเกียจคนตรงหน้าเท่าที่ควร คิดไปก็เปลืองสมอง ผมเก็บจานและแก้วไปกองที่อ่าง ไม่ล้างแน่นอน รอมันหายเดี๋ยวมันก็ล้างเองแหละ กลับมาเปิดทีวีแต่ตาจดจ่อกับฮันเตอร์ต่อบนเตียงข้างมัน ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้บทสนทนาระหว่างเรารอให้ถึงเวลานอนจึงปิดทีวีแล้วล้มตัวลงนอนเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนป่วยที่หลับไปก่อนนานแล้ว



ヌガ-です。
นูก้ามาต่อแล้ว

ขอบคุณสำหรับทุกเม้นและกำลังใจ นูก้าดีใจมากที่หลายๆ คนชอบ ตอบกันเยอะแบบนี้นี่อยากปั่นตลอด24ชม.เล้ย

อืม... จะเขียนตอนพิเศษวันสงกรานต์ดีมั้ยน้า
แต่กลัวสปอยล์อ่ะ
เอาดี ไม่เอาดี ตอบ!

ปล.รู้สึกภาษาแย่ลงไงไม่รู้ มันขัดๆ มั้ย แต่ไม่แก้หรอกขี้เกียจ555




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2017 18:12:09 โดย madmay »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ดูแลน้องให้มันดีๆหน่อยอิพี่แม๊ก
เฮ้ออออ ตอนนี้ชื่นมื่นดีงามไม่ดราม่า
สงครามน้ำลายเล็กๆให้ชุ่มชื่นหัวใจ
รอตอนต่อไปค่า
ปล. อยากได้ตอนพิเศษนะ
สงกรานต์ปีละครั้ง จัดให้เถอะค่า พลีส

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบอ่ะ สงสารน้อง โคตรน่าสงสารเลย รอต่อนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดูเหมือนจะดีขึ้นปะ
ความสัมพันธ์ของสองคน

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ลงตอนพิเศษวันสงกรานต์ เป็นเพื่อนแก้เหงาวันหยุดยาวน้าาาาาา

ทำตาใสๆ อ้อนนนนนนูก้าาาาาา

  :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:


ออฟไลน์ normalplayer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ในที่สุดก็มาต่อแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เย้ๆๆๆ
ดีใจได้อ่านพาร์ทอีพี่แม็กซ์แล้ว 555
แต่เหมือนว่าจะรู้สึกไปเองนะว่า
อีพี่แม็กซ์แลดูไม่ได้โหดร้ายเหมือนในสายตาน้องโบเลยอ่ะ
สรุปเราคิดไปเองใช่ไหมเนี่ย
แอบคิดว่าอยากให้ป้อนยาแบบนี้อีกหลายๆทีจริงๆ 555

รอตอนต่อจ้า จะเป็นไงต่อน้าาาา

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu


-ตอนพิเศษ-


เนื้อหาสปอยล์หนักมาก



               “เตี้ย เสื้อที่ซื้อวันก่อนอยู่ไหนวะ”

               หลังจากที่ร่างใหญ่เดินวนทั่วห้อง ไล่เปิดนู่นดูนี่มาสักพักก็ถามขึ้นเพราะหาสิ่งที่ต้องการไม่พบ มันคืดเสื้อสีแดงมีลายดอกชบาเลขาคณิตสีขาวซึ่งผมซื้อให้เขาตอนเราไปเที่ยวตลาดนัดใกล้มหาลัยในวันก่อน เขาถูกใจมากมาถึงห้องก็ลองใส่ทันทีแล้วสั่งให้ผมซักให้พร้อมเตรียมใส่เล่นวันสงกรานต์

               “โบซักให้แล้ว เดี๋ยวเอาให้ฮะ”

               วันนี้วันที่ 13 เมษายน ใช่แล้วฮะ วันสงกรานต์นั่นเอง วันที่ใครๆ ต่างรอคอยเป็นอันดับต้นๆ ในแต่ละปี เพราะเป็นวันหยุดยาวและจะได้สนุกสนานกับการเล่นน้ำกัน ไม่เฉพาะคนไทย ชาวต่างชาติเองก็แห่แหนกันมาเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ช่วงนี้ด้วย ...แต่สำหรับผม สงกรานต์ก็แค่วันวันหนึ่งเท่านั้น

               ผมไม่ชอบเล่นน้ำ มีไม่กี่ปีที่ผมจะไปเล่นสงกรานต์เหตุผลคือ หนึ่ง ผมไม่มีเพื่อนเล่น สอง ผมไม่อยากเป็นลมกลางงานเพราะอากาศหน้าร้อนกลางเดือนเมษายน และสุดท้าย สงกรานต์สมัยนี้เล่นกันแรงมากจนคิดว่ามันไม่ใช่การละเล่นอีกต่อไป สงครามต่างหากล่ะ สงคราม!

               แต่ผมกลับบ้านนะ ก็รดน้ำดำหัวตามประเพณี แม้จะเป็นครอบครัวนักธุรกิจแต่ผมไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่สายตรงทางฝั่งแม่ ฝ่ายพ่อเลี้ยงเขาก็ไม่ค่อยอยากเห็นหน้าผมเท่าไหร่ วันรวมญาติจึงไม่ค่อยมีผมปรากฎอยู่รูปถ่ายน่ะครับ ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะดราม่า

               สรุปคือ เกือบทุกสงกรานต์ผมมักจะขลุกอยู่แต่ในห้อง ไม่อยากออกไปให้เปียกเปล่าๆ ...ยกเว้นวันนี้

               “ไปแต่งตัวดิ”

               “ไมอ่ะ” ผมเอียงคอถามคนที่ใส่ชุดหล่อเซ็ทผมอย่างดี (เดี๋ยวเปียกก็เสียทรงแล้วไม่ใช่หรอ) พี่แม็กไม่ตอบแต่ชูปืนฉีดน้ำกระบอกเล็กกว่าบนหลังเขาขึ้น คิ้วหนากระดกหนึ่งข้างเป็นเชิงบอกว่า ‘มึงนั่นแหละ ต้องไปกับกู’

               “ไม่เอา ผมไม่เล่น พี่ไปเหอะ”

               “กูไม่ได้ถาม กูสั่งให้มึงไป”

               “ผมไม่ชอบอ่ะพี่ แถวนี้เล่นกันแรงด้วย เดี๋ยวผมทาครีมกันแดดให้แล้วกัน พี่ก็ไปสนุกกับเพื่อนๆ เนาะ”

               พี่แม็กพุ่งเข้ามาจับตัวผมแล้วจัดการลอกคราบผมจนเกือบโป๊ ดีที่มีชั้นในปกปิดอยู่ไม่งั้นผมคงอายจนระเบิดตัวทิ้งแน่ๆ ถึงจนเคยโป๊ต่อหน้าเขามาเยอะแต่หน้า ผมร้องอย่างตกใจ ไม่พอเขายังหิ้วผมด้วยแขนข้างเดียวมาหย่อนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า เขารื้อๆๆ ได้เสื้อสีขาวลายดอกไม้เล็กๆ กับกางเกงสีฟ้าอ่อนติดมือมา

               “ยกขา” เหมือนเด็กเลยอ่า พี่แม็กจัดเสื้อสวมหัวผมแล้วก้มมาถือกางเกงให้ นานๆ ทีจะเห็นมุมนี้ของเขาก็น่ารักดีนะ ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ผมอ่ะ

               ขณะก้าวขาลงไปผมก็พูดว่า “โบยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

               “ไม่ต้องอาบหรอก เดี๋ยวก็เปียกแล้ว”

               ผมยู่หน้าปากจู๋ นั่นก็ไม่นี่ก็ไม่ แต่เห็นอารมณ์ดีเลยไม่อยากขัดใจ กะว่าพอถึงจุดเล่นน้ำผมจะขอแอบไปหลบในห้างแถวนั้นรอดีกว่า เราผลัดกันทาครีม พี่แม็กหยิบหมวกหูแมวมาใส่บนหัวผมเป็นอันเสร็จสิ้นจึงออกเดินทาง

               “พี่แม็ก… โบไม่เล่นไม่ได้หรอ”

               “ทำไม สนุกจะตาย”

               “โบไม่ชอบอ่ะ แดดก็แรง เสียงดังหนวกหูอีกต่างหาก”

               “กูจะเล่นน้ำกับแฟนกู มึงมีปัญหาหรือไง”

               “...”

               คนบ้า!

               ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าเห่อแดงใต้ปีกหมวก มันเขินนะพูดได้ไงไม่อายเลย ผมถูกจูงมาที่ลานจอดรถ พอได้สติผมก็ถามเสียงดัง

               “พี่จะขับมอ’ไซค์เหรอ!”

               “เออ”

               “เดินไปก็ได้นี่ ใกล้ๆ แค่นี้เอง ขับรถมันอันตรายนะ”

               ผมโวยวาย ก็ไม่อยากนั่งกับพี่เขานี่ น่ากลัวจะตาย รถเครื่องแรงกับคนขับใจร้อนไม่ควรคู่กันอย่างยิ่ง ผมเข็ดหลาบกับการซ้อนท้ายท้านรกคราวล่าสุดมาก ตอนนั้นพี่เขาเกือบพาผมเสยท้ายปิ๊กอัพแล้ว แค่นึกก็ขนลุกแล้ว และการขับมอ’ไซค์เล่นน้ำเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวมาก ที่นี่เล่นก็แรงเข้าหูเข้าตามาเสียหลักรถอาจล้มบาดเจ็บกันได้แม้ว่าจะไม่ได้ขับเร็วก็ตาม

               “ไม่เอาแล้ว ไม่ไปด้วยแล้ว โบไม่ซ้อนพี่แล้ว หัวใจจะวาย”

               “กูขับช้าน่า รถติดงี้ขับเร็วได้ที่ไหน ขึ้นมาเร็วพวกนั้นรอแล้ว”

               พี่เขาดึงแขนผม ผมต้านไม่ไหวขาที่ตรึงกับพื้นลากไปตามแรงดึง ปากบ่นเขาหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการขับรถแต่คนฟังหาได้สนใจ ร่างแข็งแรงยกผมวางบนเบาะรถที่แม่ผมซื้อให้เขาเพื่อไว้ใช้รับส่งผมโดยเฉพาะ เขารีบนั่งหน้าแต่มือยังจับแขนผมไว้ เมื่อได้ที่พี่แม็กจัดแขนผมให้โอบรอบเอวหนา ผมชักกลับดิ้นจะลงให้ได้ ชุลมุนกันสักพักพี่เขาก็เอาเนคไทนักศึกษาตรงช่องเก็บของออกมามัดมือของผมไว้ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมอยู่ในท่ากอดเอวเขาอย่างแน่นหนาหมดสิทธิ์ดิ้นรนอีกต่อไป

               บรืน

               เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามต่ำก่อนจะเคลื่อนตัวออกสู่ถนนใหญ่ รถเยอะมากจริงๆ ผู้คนก็เช่นกัน เราไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคแต่ผมซึ่งซ้อนอยู่ด้านหลังถูกบดบังทัศนียภาพโดยแผ่นหลังกำยำจนเกือบมิดแทบไม่เห็นอะไรนอกจากท้องฟ้ากับด้านข้างรถเท่านั้น รู้แต่ว่า… เปียกโชกทั้งตัวตั้งแต่ปากซอยแล้วครับ

               “เปียกอ่ะ...”

               “กูจะพาไปแห่นางแมว”

               ไม่เอาาา!!!



               “ช้าว่ะมึง ไปแห่นางแมวถึงไหนวะ” นี่นัดกันใช่ไหมครับพี่เมษ แล้วให้ใส่หมวกหูแมวนี่ก็เพื่อการนี้ใช่ไหม ทำไมทุกคนต้องแกล้งผมด้วยอ่ะ! ผมมุ่ยหน้าอย่างเคืองๆ

               พี่แม็กยักคิ้ว ยังไม่แก้มัดให้ผม เขาคุยเรื่องสถานที่ต่อไปซึ่งเป็นจุดเล่นน้ำจุดใหญ่แห่งหนึ่ง มีคนไปรวมตัวกันเป็นพันๆ และมีคอนเสิร์ตกับปาร์ตี้โฟมด้วย เดาว่าคงไปหลี่หญิงกันล่ะสิ แต่พี่เมษมากับแฟนเขาคงไม่หรอกมั้งครับ พี่เมษก็เรื่องของเขาแต่คนของผมนี่สิ

               พี่เมษใส่หมวกให้แฟนสาวคนสวยแล้วพูดกับพี่แม็ก “พวกมึงนี่ซาดิสต์ไม่เปลี่ยนเลยนะ นี่” แล้วพยักเพยิดมาทางมือผมที่ถูกมัดไว้

               “เด็กมันดื้อ- โอ๊ย! เชี่ยนี่!” เขาเอื้อมมาเขกหัวผมเมื่อโดนงับแขนจนขึ้นรอย มือไม่มีก็ใช้ฟันนี่แหละ จากตำแหน่งนี้ผมยังฝังเขี้ยวกับกล้ามแน่นๆ พี่ได้อีกหลายรอย เอาสิ!

               “หึยยย น้องน่ารักอ่ะเมษ เค้าอยากได้อ่ะ” พี่เมษตอบแฟนเขาว่าให้ไปขอกับพี่แม็ก ถึงจุดนี้ผมถึงเริ่มเขินมุดหน้ากับหลังคนข้างหน้าหนีอาย เมื่อไหร่จะไปกันสักที คุยกันให้ตะวันตกดินเลยไหมไม่ต้องเล่นมันแล้ว น้ำอ่ะ

               “ไปๆๆ สายแล้วเดี๋ยวหาที่จอดยากนะมึง” พี่พอลตัดบทให้พวกเราเริ่มเคลื่อนขบวนกันได้แล้ว

               เราห้าคนอันได้แก่ผม พี่แม็กหนึ่งคัน พี่เมษกับแฟนซึ่งใส่หมวกหูแมวเหมือนผมหนึ่งคัน และพี่พอลนั่งไปเลยโสดๆ คนเดียว (สมน้ำหน้า) หมวกนี่คุณผู้ชายเขากะให้แฟนๆ ใส่เหมือนกันจะได้ดูเป็นแก๊งเดียว (เขาว่ามางี้) พี่เมษจะสนิทกับผมมากกว่าเพราะพี่พอลเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ ผมมักถูกมองด้วยสายตาอำมหิตและถูกถากถางเป็นประจำ แต่พี่แม็กก็จะ… คอยผสมโรงอยู่เรื่อยไป จนผมชักไม่แน่ใจว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ หรือเปล่า

               ตูม!

               “โอ๊ย!”

               นั่นไง ผมบอกแล้วว่าที่นี่เล่นแรง ผมโดนสาดน้ำจากข้างหลังเสียงดังอย่างกับโดนค้อนทุบ ผมจุกไปพักนึงกับชาไปทั้งหลัง คนขับที่ว่าขับช้าเพราะรถติดยังเซวิดจะรถล้มเลย

               “เฮ้ยโบ! เป็นไรป่าว” เขาหยุดรถหันมามองผม

               “เจ็บอ่า...” ผมว่าเสียงอ่อย

               “เฮ้ย! เล่นดีๆ หน่อยดิวะ คนเขาเจ็บเนี่ย ไอ้-”

               “ขอปะแป้งหน่อยค่าสุดหล่อ”

               “ชื่อไรค่ะ หล่อจังเลย”

               “สักแก้วไหมน้อง วู้ๆ!”

               พอจอดแล้วรอบตัวเราเหมือนอยู่กลางดงซอมบี้ พี่แม็กไม่ทันเตือนคนที่สาดน้ำใส่ผมจบดีก็มือมากมายเข้ามาทึ้ง… หมายถึงมาปะแป้งราดน้ำใส่ไม่หยุดยั้ง ผมกับเขาโดนทั้งแป้งทั้งน้ำจนหมดสภาพ เหล่าชายหญิงและเพศอื่นๆ เกี้ยวพาร่างใหญ่ในอ้อมกอดของผม อกแกร่งโดนแป้งลูบไล้ลามมาถึงหน้าท้อง บางคนมองออกทันทีว่าเมาแน่นอนก็แสดงน้ำใจยื่นแก้วเหล้ามาให้ ผมกอดพี่แม็กแน่นแต่ก็มีมือหลายข้างพยายามเอาแป้งมาป้ายแก้มผมอยู่ดี กว่าจะหลุดจากตรงนั้นได้พวกพี่เมษก็หายไปแล้ว

               “ไอ้พวกนั้นไปถึงไหนแล้ววะ เกาะดีๆ นะมึง กูจะเร่งละ”

               “ไม่เอาพี่! อันตราย”

               “ช้าก็เป็นแบบเมื่อกี้ไง กูรู้นะว่ามึงโดนลวนลามด้วย” พี่ก็เหมือนกันแหละ

               “ช่างเหอะ ขับช้าๆ นะ ...โบกลัว”

               อ้อนแบบนี้มีหรือจะรอด พี่เขาแพ้ลูกอ้อนผมพอสมควรเลยล่ะ เขาครางเสียงต่ำอย่างขัดใจแล้วยอมลดความเร็วลง

               เพราะขับช้าจึงโดนดักตลอดทาง หลังๆ พี่แม็กแทบไม่ได้ขับเลยฮะ ได้แต่เอาขาไถๆ ไปทีละนิด กว่าจะถึงจุดหมาย คนที่ถึงก็พอเห็นพวกเราถึงกับปล่อยฮาก๊ากใหญ่

               พี่พอลชี้หน้าพี่แม็กแล้วพูดว่า “เฮ้ย! มึง ไปทำไรมาว่า ฮ่าๆๆ สภาพมึงแบบ ขาวกว่าฉีดกลูต้าอีกมึง ฮ่าๆๆๆ”

               “ฮึ้ยเพื่อน ไม่เจอกันนาน ขาวขึ้นเยอะเลยมึง มีเคล็ดลับอะไรวะ คิกๆๆ” พี่แม็กเคยบอกว่าเกลียดเสียงหัวเราะของพี่เมษที่สุดเพราะงี้เองสินะ ผมสำรวจคนโดนรุมบ้างแล้วก็หลุดขำพรืดออกมา แต่ก็ต้องรีบปรับให้เป็นปกติเพราะสายตาทิ่มแทงที่ค้อนขวับตาเขียว พี่แม็กน่ะ เรื่องสีผิวล่ะอย่าแตะเชียวถ้าไม่อยากลงไปนอนวัดพื้น

               แต่มันตลกจริงๆ นะ ร่างหนาถูกทาด้วยแป้งดินสอพองทั่วทั้งตัวไม่เว้นเสื้อผ้าตั้งแต่หัวถึงเอว หน้าขาวแขนขาวแถมกางเกงยังโดน ผมเห็นมีสาวเสียงใหญ่ไหล่หนาพยายามเอามาป้ายเป้าเขาอยู่ ส่วนด้านหลังไม่โดนแป้งเพราะผมเกาะหลังเขาอยู่ ไม่แน่ว่าด้านหลังผมคงขาวไม่แพ้กัน โชคดีนะที่ใช้ตัวเขาบังหน้าไว้

               “แล้วคือ อย่างเหมือนฉีดสเปรย์ตอนมีอุบัติเหตุอ่ะ เชี่ยพอลมึงมาดูดิ ข้างหลังเป็นรูปไอ้เปี๊ยกเลยว่ะ”

               ผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วพี่แม็กก็จูงออกมาจากตรงนั้นเข้าสู่งานทันที สงสัยจะอายอ่ะครับ เขาใช้ปีนฉีดน้ำของตัวเองฉีดล้างหน้าล้างตัวให้ลดความขาวลงบ้าง หน้าบึ้งปากคว่ำอย่างงี้งอนชัวร์ ...แต่ก็น่ารักดีนะครับ

               “ยิ้มไร”

               ผมส่ายหน้า เห็นนะว่าหูแดง เวลาเขาเขินเขาจะแดงที่หูอย่างเดียว ผมชอบดูเวลาคนตัวโตงอนปากคว่ำคิ้วขมวด แขนแกร่งยกกอดอกสะบัดหน้าหนีเหมือนเด็กๆ ดูน่ารัก เฉพาะตอนงอนนะ ถ้าโกรธล่ะคนละเรื่องเลย

               “...”

               ผมเขี่ยแขนเขาเล่น เขาทำฮึดฮัดไม่มองหน้าผมจึงต้องง้อหน่อยไม่งั้นคงไม่ได้เล่นน้ำกันแน่ โดยการเอาหัวมุดซอกแขน มันคลายออกให้ผมมุดเข้าไปได้กลายเป็นผมหันหน้าเข้าหาเจ้าของวงแขนที่กอดไว้หลวมๆ นิ้วชี้ดันจมูกตัวเองขึ้นคล้ายจมูกหมูแล้วเผลอปากตลกๆ ท่าไม้ตายสำหรับการง้อคนตัวโตขี้ใจน้อยของผมเลยล่ะ และมันได้ผลทุกครั้งเสียด้วย เห็นไหมล่ะ พี่แม็กยิ้มแล้ว

               “อ้วนเอ้ย!” มือหนายีผมผมขณะยิ้มแข็งๆ แบบเก๊กๆ พ่อคุณก็กลัวเสียฟอร์มจริง “ยังไม่หยุดยิ้มอีก ขำไรนักหนาหาาา”

               “อ๊าาา อย่าน้าาา” อ๊าย! ผมจะงอนแทนแล้วนะ ก็พี่เขาเปิดเหม่งผมอ่ะ! พี่ก็รู้ว่าผมไม่อยากให้ใครเห็นเถิก มันน่าเกลียด แล้วผมที่เปียกน้ำพอเสยแล้วมันก็อยู่ทรงอย่างนั้นเลย ดินสอพองเริ่มแข็งทำให้การจัดทรงของผมเป็นไปอย่างยากลำบาก

               “สม! หมูเถิกเอ้ย”

               จ๊วบ!

               “เหี้ย อุ๊บ!”

               “ฮ่าๆๆๆ”

               แทนที่จะโกรธที่ผมหลุดคำนั้นไปหลังจากที่เขาจุ๊บหน้าผากผมเขากลับหัวเราะแทน เพราะเขารู้แล้วว่าผมป่วยจึงไม่ถือสาเป็นผมเองที่ไม่เคยชินเลยสักครั้งที่มีคำหยาบออกจากปาก

               “สวีทกันจริ๊งงง โลกนี้ไม่ได้มีแค่มึงสองคนนะเว้ย”

               “แต่มึงก็ไม่ได้อยู่ในโลกของกูเหมือนกันนะเชี่ยพอล” ง่ะ อย่าทะเลาะกันสิ

               พวกพี่พอลเดินมาสมทบพร้อมอาวุธบรรจุกระสุนมาเต็มแม็ก “ไปๆๆ ก่อนที่น้องโบของกูจะเปลืองตัวไปมากกว่านี้ มาค่ะน้องโบ ไปเล่นกับพี่ดีกว่า”

               “อย่ายุ่งกับแฟนกู อีปิ๊ ไปเล่นกับผัวมึงนู่น”

               “หยาบคายอีแม็ก กูชื่อปิง อีผี อีเลว” ครับ… นั่นแฟนพี่เมษเอง

               นานเลยครับกว่าจะฟาดฝีปากกันจนเป็นที่พอใจ ไม่ต้องห่วงฮะ เขาก็เป็นกันอย่างนี้แหละ ในที่สุดก็ได้เล่นน้ำเสียที มัวแวะนู่นเถียงนี่จนผมที่ไม่อยากมากลับรู้สึกอยากเล่นน้ำเร็วๆ ใจจะขาด ฟังเขากัดกันแล้วมึนหัว

               ปาร์ตี้นี่สุดเหวี่ยงจริงๆ ด้วย เครื่องเสียงดังมากเลย หัวใจผมสั่นตื้อไปหมดเลยฮะ ถึงเวลาดารานักร้องก็พ่นโฟมจำนวนมากจากบนเวที มันตื่นตาตื่นใจสำหรับคนโลกแคบแบบผม ปุยสีขาวพวยพุ่งราวกับก้อนเมฆบนท้องฟ้า พี่แม็กบอกว่าระวังอย่าให้เข้าตาเข้าปาก ผมที่แหงนหน้าชื่นชมมันไม่ทำตามเขาจึงยกมือมาป้องตาให้ผม

               เบื้องหน้าท้องฟ้าประดับปุยเมฆขาวที่โบยบิน ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองด้วยสีหน้าหงุดหงิดที่ผมไม่ฟังคำเตือนเขา ผมเห็นรัศมีสีทองประกายจากดวงอาทิตย์สะท้อนดวงตาดำขลับเป็นประกาย พี่เขาตาสวยมากเลย แต่คิ้วเข้มขับให้มันดูดุดันก้าวร้าว ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย ผมชอบที่เขาตัดผมสั้นเสมอ เพราะมันเปิดให้เห็นใบหน้าน่าหลงใหลได้ชัดขึ้น รู้สึกว่าระยะห่างของเราเริ่มลดลงทีละนิด อีกเพียงนิดริมฝีปากของเราก็จะสัมผัสกัน ราวกาลเวลาหยุดหมุน ไร้ซึ่งสรรพเสียงใดรอบกาย ...ไม่มีสิ่งใด...

               ปึ่ก!

               “อ๊ะ!”

               โลกส่วนตัวของผมถูกทำลายลงด้วยความแออัดของฝูงชน นี่เราเกือบทำเรื่องน่าอายกลางที่สาธารณะอีกแล้วไหมล่ะ โลกกลับมาโคจรดั่งเดิมอีกครั้ง ผมหันหลังหนีความอาย หน้าร้อนขนาดเอาน้ำฉีดยังไม่หาย หวังว่าจะไม่มีใครเห็นนะ

               “ทำอะไร ติงต๊อง หึหึ” เสียงหัวเราะต่ำทุ้มดังข้างหูผมยิ่งร้อนหน้ามากขึ้นกว่าเดิม แล้วตรงหน้าก็ปรากฎเป็นโฟมนุ่มๆ ก้อนใหญ่ มันสั่นไปมาตามแรงยกของพี่แม็ก ร่างใหญ่กอบกลุ่มโฟมด้วยสองมือโดยตัวเองซ้อนหลังผมกลายเป็นผมอยู่ในอ้อมแขนของเขาไปโดยปริยาย ผมไม่ทันรู้ตัวเลยว่าโฟมถูกปล่อยมาจนสูงเท่าเอวแล้ว เหมือนอยู่บนเมฆเลย คิกๆ

               คนอื่นๆ เต้นกระโดดไปมา บ้างก็เล็งปีนฉีดน้ำฉีดใส่รอบๆ บ้างก็ถ่ายรูปกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงคิดว่ามันไม่เห็นจะสนุกตรงไหน เสียงก็ดังคนก็เยอะหวิดจะเหยียบเท้ากันทุกครั้งที่ขยับตัว แต่นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมเทศกาลนี้ถึงเป็นที่ตั้งตาคอย ไม่ใช่เพราะเราได้เปียก ไม่ใช่เพราะเราต้องการเสียงเพลงดังๆ ท่ามกลางแดดร้อน แต่เพราะเราอยากทำกิจกรรมร่วมกับคนที่เรารักต่างหากล่ะ ไม่ว่าจะเพื่อน ครอบครัว… หรือคนรัก ขอแค่มีเขา จะเล่นน้ำ ปีนเขา เดินห้าง หรือซื้อของที่ตลาดมันก็กลายเป็นเรื่องสนุกและน่าจดจำได้ทั้งนั้น

               ขอบคุณนะฮะพี่แม็ก ผมดีใจที่มีพี่ แม้เราจะเริ่มกันได้ไม่ดี แต่อดีตผ่านแล้วก็ผ่านไป อะไรดีก็เก็บไว้ อะไรที่ผิดพลาดก็นำไปเป็นบทเรียน เหมือนเราที่เรียนรู้ซึ่งกันและกันจนมีวันนี้ เรื่องร้ายๆ ทั้งหลายผมอภัยให้ แต่ว่าพี่น่ะ ...อย่าทิ้งผมนะ

               ผมเอาฟองโฟมมาต่อกับของบนมือใหญ่ให้เป็นหูกระต่าย มันบิดเบี้ยวดูตลก ผมเป่าสุดแรงกลุ่มโฟมแตกกระจายลอยไปในอากาศ ผมหมุนด้วยฉีดน้ำใส่หน้าเขาระวังไม่ให้เข้าตาแล้วถามเขา

               “พี่แม็ก พี่รักผมไหม”

               “มันต้องเป็นมึงบอกรักไม่ใช่มาถามกูป่าววะ”

               “เหอะน่า ตอบดิ”

               สงกรานต์ปีนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย ไว้วันพรุ่งนี้ชวนพี่เขาไปไหว้แม่ผมกับแม่เขาดีกว่า

               …..

               ….

               ...

               ..

               .

               “เออ”

-----------------------------------------------------------------

ヌガ-です。
ตอนพิเศษแบบเผาๆ จากนูก้ามาเสิร์ฟแว้ววว
เลี่ยนว่ะ
อย่างที่บอก เนื้อหาตอนนี้โคตรสปอยล์ เรียกได้ว่าเป็นตอนหลังจบเลยก็ว่าได้
ตอนแรกจะเขียนตอนพิเศษแบบเครียดๆ แต่มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ สงกรานต์ก็ต้องหนุกหนานดิ
แต่ๆๆๆ เห็นหวานหยดแบบนี้ใช่ว่านูก้าจะไม่จบแบดเอนนะยะ ทุกอย่างเป็นไปได้ซัมเหมอ เพราะนี้เป็นตอนหลังจบ
อ่า พอพิมพ์ตอนพิเศษจบแล้วก็เกิดอาการอยากมีพาร์ทสอง
คือกะปล่อยตัวละครลับออกมาอีกสักตัวสองตัว ที่รักทุกท่านคิดว่าไง
เขียนต่อหรือพอแล้วสำหรับตอนพิเศษเพราะบ้างคนกลัวโดนสปอยล์ไง ถ้าไม่เอาก็จะไปแต่งเรื่องหลักต่อเลย
อันนี้แล้วแต่นะ (แต่เรื่องเวลาและความเร่งต้องแล้วแต่นูก้านะ เหอๆ)

ขอให้สนุกกับสงกรานต์ ใครมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายอย่าลืมกลับไปหาครอบครัวนะ
เดินทางปลอดภัย ระมัดระวังกันด้วย
แล้วพบกันใหม่

นูก้า


รอตอนต่อไปค่ะ
เอาตอนพิเศษไปก่อนนะ

ดูแลน้องให้มันดีๆหน่อยอิพี่แม๊ก
เฮ้ออออ ตอนนี้ชื่นมื่นดีงามไม่ดราม่า
สงครามน้ำลายเล็กๆให้ชุ่มชื่นหัวใจ
รอตอนต่อไปค่า
ปล. อยากได้ตอนพิเศษนะ
สงกรานต์ปีละครั้ง จัดให้เถอะค่า พลีส
ถ้าแค่นี้เรียกชื่นมื่น เจอตอนพิเศษหน่อยเป็นไง

ชอบอ่ะ สงสารน้อง โคตรน่าสงสารเลย รอต่อนะคะ
ชอบที่น้องน่าสงสาร? ได๊!

ดูเหมือนจะดีขึ้นปะ
ความสัมพันธ์ของสองคน
ดีๆ ร้ายๆ พอกล้อมแกล้ม

ลงตอนพิเศษวันสงกรานต์ เป็นเพื่อนแก้เหงาวันหยุดยาวน้าาาาาา

ทำตาใสๆ อ้อนนนนนนูก้าาาาาา

  :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:
จัดไป

ในที่สุดก็มาต่อแล้ว  :katai2-1:
มารัวๆ

เย้ๆๆๆ
ดีใจได้อ่านพาร์ทอีพี่แม็กซ์แล้ว 555
แต่เหมือนว่าจะรู้สึกไปเองนะว่า
อีพี่แม็กซ์แลดูไม่ได้โหดร้ายเหมือนในสายตาน้องโบเลยอ่ะ
สรุปเราคิดไปเองใช่ไหมเนี่ย
แอบคิดว่าอยากให้ป้อนยาแบบนี้อีกหลายๆทีจริงๆ 555

รอตอนต่อจ้า จะเป็นไงต่อน้าาาา
ฮึ๊ย ท่านช่างเฉียบแหลมนัก

:hao7:
:hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ตอนพิเศษแบบว่าดีอ่ะ น้องโบดูมีสีสันเลย เป็นแฟนกันด้วย เอาตอนพิเศษอีก อิอิ
ลุ้นตอนหลักต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โคตรน่ารักจนอยากให้รักกันเร็วๆ อ่านตอนนี้แล้วเขินบอกไม่ถูก :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ได้อ่านตอนพิเศษสปอยล์  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แม็กซ์ ใจดีกับโบ แล้ว
เป็นเพราะรู้ว่าโบเป็นโรคติ๊ก
แม็กซ์ ทำให้โบ ได้มารูจักโลกข้างนอกบ้าง
ไม่งั้นก็ต้องเก็บตัวอยู่คนเดียว
ไม่รู้เห็นโลกภายนอกเลย เพราะโรคของโบ
หวั่นมาม่า แม้จะอ่านตอนนี้แล้ว  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ normalplayer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แหม หวานกันซะอยากรู้เลยว่าไปเคลียร์กันอีท่าไหน :hao3:
ตอนแรกๆนี่รุนแรงกับน้องขนาดที่ว่าพี่แม็กโดนรุมด่า รุมแช่ง จากคนอ่านไปหลายดอกเลย

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอนสงกรานก็หวานกันดี เนื้อเรื่องหลักแม่งจะฆ่าก้นตาย55555 พี่มาต่อเร็วๆเลยน้าาา น้องรอนานมากกกกกกกกกก กอ.กยาวไปถึงเมกา สนุกไงชอบพี่แต่ง อ่านไปลุ้นไปจะได้กันตอนไหน เศร้าาาา รักนะรอเสมอ :mew1: :z2:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อื้ออออ ดีๆ
ค่อยรู้สึกว่าชีวิตโบก็มีเรื่องดีๆหน่อย
งั้นตอนหลักก้อ....
ทนหน่อยนะโบ ..(ยิ้ม)

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
งือออ อ่านแล้วติด รอนะฮะ  :hao7:

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ lovejinjunno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตอนพิเศษก็โอนะ น่ารักดี
แต่ปรับอารมณ์ไม่ทัน
เพราะตอนล่าสุดยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย
เลยอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ
เหมือนอ่านข้ามตอนไปไกลยังไงไม่รู้อ่ะ 555

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
น้องนางแอบด่า แล้วพอเห็นว่าหล่อก็อ่อยเบาๆ

พี่แม็กะคอมโบพอคบกันนี่สวีทน่าดู

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด