Tics... เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ตอนที่ 21 มาแล้วจ้าาาา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tics... เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ตอนที่ 21 มาแล้วจ้าาาา  (อ่าน 85766 ครั้ง)

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
เก็บกระทู้ไว้  ------โมดุฯ
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2019 19:52:30 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
Re: Tics... ผมไม่ได้ตั้งใจ
«ตอบ #1 เมื่อ19-09-2016 16:51:12 »

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ใดๆ
และมีคำหยาบ ถ้อยคำ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมากมาย

-0-

               เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นเต็มสนามเด็กเล่นของโรงเรียนแห่งหนึ่งดังแซงแซ่ภายใต้ท้องฟ้าที่ค่อยๆ ถูกย้อมด้วยสีส้มอมม่วง เด็กประถม อนุบาลต่างจับกลุ่มเล่นกันตามจินตนาการ กลุ่มหนึ่งเล่นจระเข้กินคนมีสี่คน กลุ่มหนึ่งเล่นตีจับกันกลางสนามโล่งเจ็ดแปดคน บ้างก็จับคู่เล่นของเล่นที่ตนเตรียมมาจากบ้าน รวมแล้วมีเกือบสามสิบคนต่างชั้นต่างอายุกระจายอยู่ทั่วสวนสนุกย่อมๆ กว้างเท่าสนามฟุตบอลของโรงเรียนเอกชนชั้นนำแห่งนี้ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

              ทุกเย็นหลังเลิกเรียนผมมักจะมารอแม่ที่นี่กับเพื่อนๆ ชั้นเดียวกัน นี่เป็นหน้าร้อนที่ 13 ของผม ผมและเพื่อนๆ เพิ่งจะได้เลื่อนชั้นจากเด็กประถมเป็นมัธยมต้นได้สองอาทิตย์แล้วสำหรับเปิดเทอมภาคฤดูร้อน มันตื่นเต้นน่าดูที่เราจะได้เปลี่ยนเครื่องแบบชุดใหม่ ได้นั่งเรียนในห้องใหม่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนผมกับเพื่อนเคยมองดูอย่างชื่นชม... ว้าว ดูพี่ๆ พวกนั้นสิ พวกเขาดูเป็นผู้ใหญ่จัง และในที่สุดผมก็จะได้เป็นผู้ใหญ่อีกขั้นเช่นพวกเขา แต่แม้ว่าเราจะได้เป็นนักเรียนม.ต้น เราก็ยังคงติดการเล่นที่สนามเด็กเล่นแห่งนี้เช่นเคย ผมว่ามันคงเป็นไปอีกสักพักก่อนที่เราจะเลิกสนใจวิถีแบบเด็กๆ เพราะเราจะเติบโตขึ้นในไม่ช้า

               “โบๆ ตาหน้าโบเป็นแทนเราได้ป่าว พ่อเรามารอแล้ว”

               “อื้ม ได้สิ”

               เด็กหญิงผมเปียบอกกับผม พอจบตานี้ผมต้องลงไปเป็นจระเข้แทนเธอ มิน่าล่ะ รู้สึกตาขยิบยิบๆ แม่ก็มาช้ากว่าทุกที เวลาเดินไปเรื่อยๆ จำนวนคนในสนามก็หายไปทีละคนๆ ส่วนใหญ่เหลือแต่พวกเด็กผู้ชายที่ตั้งใจกลับช้าเพราะอยากเตะบอลกันมากกว่า อันที่จริงผมก็อยากเล่นกับเด็กเพศเดียวกันนะ แต่ว่าผมตัวเล็กและนุ่มนิ่มเกินไปที่จะเล่นอะไรแรงๆ จึงเลือกที่จะอยู่กลุ่มผู้หญิงมากกว่า จนพวกเด็กผู้ชายล้อว่าตุ๊ดบ้างล่ะ เป็นกระเทยบ้างล่ะ และมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ แต่จะว่าผมก็ไม่ได้ ก็ผมกลัวเจ็บนี่ ดูสิ เตะอัดหลังกันตรงๆ แบบนั้นเดียวก็ได้ไปให้หมอเย็บแผลให้หรอก

               “เห้ยตุ๊ดโบ เก็บบอลให้หน่อยดิ๊”

               หนึ่งในนั้นตะโกนบอกผม ผมไม่สนฉายาแปลกๆ นั่นหรอกก็ผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่านี่ ผมหยิบบอลที่กลิ้งมาหยุดข้างเท้าขึ้นมา ใจอยากลองเตะกลับไปเท่ๆ แต่คิดดูอีกทีเดินเอาไปให้ดีกว่า กลัวหน้าแตกครับ

               เหมือนบอลในมือไหวๆ แปลกๆ รู้สึกถึงแรงดึงของมุมปากแต่แล้วมันก็หยุดไป แล้วเจ้าของบอลก็พูดถึงมันให้ผมได้สงสัยอีกครั้ง “เป็นไรวะ ทำท่ายึกยักๆ อย่างกับสันนิบาต กวนตีนรึไงตุ๊ด” ผมส่ายหัวงงๆ แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าคำที่ผมคิดว่าชั่วชีวิตจะไม่พูดมันแน่กลับหลุดออกมาจากปาก

               “K”

               “!?...”

               เอ๋? เมื่อกี้ผมพูดอะไรหรือเปล่า... นะ คนอื่นๆ มองอึ้งๆ เด็กผู้หญิงในกลุ่มผมสองสามคนกอดอกหน้าบู้แบบโกรธสุดๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำอะไรให้พวกเธอไม่พอใจ แต่แล้วก็ได้รู้สาเหตุในที่สุด

               “โบพูดคำหยาบ เราจะไม่ให้โบเล่นด้วยอีกแล้ว เพราะแม่เราไม่ให้เล่นกับคนพูดไม่เพราะ”

               “ใช่ คนพูดคำหยาบเป็นคนนิสัยไม่ดี” เธอเสริมจบก็วิ่งไปหาผู้ปกครองที่มารับพอดี ผมเห็นเธอทำคิ้วขมวดชี้นิ้วมาที่ผมขณะพูดกับผู้ใหญ่แจ้วๆ ผมเลิกสนแล้วยื่นบอลส่งให้เพื่อนผู้ชายแทนและเขาก็รับไปก่อนจะหันหลังกลับไปเล่นกันตามเดิม

               ทิ้งผมไว้ที่กลางลานนั่น...

               ปริ้นๆ !

               อ่า มาซะที ไม่บอกก็ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยถามก็ได้ รีบกลับดีกว่าวันนี้การบ้านเยอะเสียด้วยสิ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:19:43 โดย madmay »

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
Re: Tics... ผมไม่ได้ตั้งใจ
«ตอบ #2 เมื่อ19-09-2016 16:51:57 »

-1-

               ร้อน... ร้อนจะตายอยู่แล้ว อากาศร้อนอบอ้าวราวกับนั่งอยู่ในหม้อสุกี้ก็ไม่ปาน หน้าร้อนครั้งที่19 ของผม ผมและเพื่อนร่วมรุ่นปี1 ของคณะคหกรรมยังคงนั่งเรียงแถวบนอัฒจันทร์อย่างช่วยไม่ได้ วันนี้มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะคหกรรมและวิศวะ เป็นศึกศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งการแข่งนอกจากจะวัดกันที่ความสามารถด้านกีฬาแล้วอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกองเชียร์ ...ยิ่งเยอะยิ่งดี แล้วผู้โชคร้ายที่ต้องนั่งอัดกันเป็นปลากระป๋องอยู่บนนั้นกว่าร้อยชีวิตก็พวกผมปี1 นี่ไง

               บนอัฒจันทร์ที่จุนักศึกษามากมายกลางแดดร้อนและอุณหภูมิที่พุ่งสูงไร้ลมพัดพาเป็นดั่งนรกสำหรับผมที่ไม่ถูกกับอากาศร้อนแบบนี้ เคราะห์ซ้ำตำแหน่งที่ผมนั่งดันไปตรงรูโหว่ของหลังคาทำให้แดดส่องลงมาแผดเผาผมได้อย่างสะดวก ณ ตอนนี้ผมอาจจะยังมีสติครบถ้วน แต่ก็คงอีกไม่นาน นึกดีใจล่วงหน้าว่าถ้าล้มพับไปก็จะได้ไปนอนชิลๆ ในเต้นท์พยาบาลแล้ว แต่เวลานี้ต้องแหกปากร้องเพลงเชียร์ที่เนื้อหาไม่มีความหมายเสียก่อน

               “นกบวกนก เป็นนกบวกนก วู้ๆ ! นกบวกนก เป็นนกอะไร วู้ๆ !”

               อดทนไว้ๆ ครึ่งหลังแล้ว ขอร้องล่ะ ผมแสร้งทำป่วยไม่เป็นเสียด้วย ถ้าไม่เป็นลมก็ขอให้เกมจบเร็วๆ ทีเถอะ ทำไมต้องมาแข่งกีฬากันตอนหน้าร้อนด้วยนะ เคยถามคนเล่นคนเชียร์กันบ้างมั้ย อ๋อ แหงล่ะ พวกคนคิดกิจกรรมมันนั่งในร่มกันหมดนี่ พอๆ อย่าเครียด ไม่งั้นมันจะ...

               “อ๊ะ! นี่นายนั่งดีๆ สิ” นั่นไง ไม่รู้ส่วนไหนไปโดนเธอเข้าเหมือนกันผมไม่ทันสังเกต

               ผมมีอาการกระตุกแบบนี้มาตั้งแต่ขึ้นม.ต้น จนตอนนี้เข้าปี1 เวลาเผลอร่างกายมันมักจะเคลื่อนไหวแปลกๆ ไปเอง บางครั้งก็ควบคุมได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่หรอกครับ เช่นพวกแขน ไหล่ คอ หรือแม้แต่ใบหน้าก็จะเกิดอาการกระตุกไปมา ขยิบตา ทำเสียงหายใจแปลกๆ เหมือนสะอึกหรือสูดน้ำมูกก็มี แต่ที่มันรบกวนชีวิตผมที่สุดคงจะเป็นอาการสบถคำหยาบออกมาโดยไม่รู้ตัว ผมเกลียดการพูดหยาบคายมาก ยิ่งหลุดออกมาจากปากตัวเองยิ่งเกลียด

               พ่อกับแม่เองก็เกลียด ผมโดนดุทุกครั้งที่เกิดอาการ บางคนก็ว่าเป็นสันนิบาต เคยไปหาหมออยู่ครั้งหนึ่งหมอว่าผมน่าจะเป็นโรค Tics disorder แต่พอดีมันอยู่ในกลุ่มจิตเวชซึ่งพ่อแม่ผมรับไม่ได้อย่างยิ่ง วันนั้นหมอโดนไปเยอะเลยครับ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้หาหมออีกเลย พ่อบอกให้ผมหัดควบคุมตัวเอง ตอนนั่งดูทีวีหรือกินข้าวด้วยพ่อมักจะถือไม้เรียวไว้ตลอด ถ้าผมมีอาการตรงไหนก็จะใช้ไม้นั่นเคาะตรงนั้น แรงหน่อยก็ตรงปากนี่แหละครับ ไม่มีออมแรงเลยล่ะครับ ยิ่งไม่ใช่พ่อแท้ๆ ด้วย (เขาเป็นพ่อเลี้ยงครับ พ่อแท้ๆ ผมเสียไปตั้งแต่เล็กๆ  แล้วแม่ก็แต่งงานใหม่กับเขาครับ มีน้องชายอีกคน)

               เห้อ ร้อนชะมัด รีบๆ เตะให้จบเสียทีสิ แกล้งแพ้ไปเลยก็ได้ยังไงก็ไม่ได้อะไรนอกจากถ้วยโหลๆ อยู่แล้วนี่ ในโลกนี่มีสองสิ่งที่ผมเกลียดสุดๆ  หนึ่งคือคนพูดหยาบ กับอีกอันก็กีฬานี่แหละครับ คิดไปก็ชักจะมึนหัว คาดว่าจะได้เป็นลมแดดสมใจเร็วๆ นี้ ในลานสายตาอันพร่ามัวผมเห็นในสนามกำลังขอเวลานอก ฝ่ายตรงข้ามขอเปลี่ยนตัวนักกีฬา อ๊ะ นั่นพี่คนที่ยิงประตูเก่งๆ นี่ ถูกเปลี่ยนออกเหรอ แต่ดูหน้ายิ้มๆ นั่นคล้ายจะบอกว่าฉันออมมือให้นะ อุตส่าห์เปลี่ยนตัวเก็งออกให้แล้วนะ ครึ่งหลังยิงให้ได้ล่ะคหกรรม อะไรแบบนั้นเลย แล้วพี่เขาก็เดินไปคุยกับสาวๆ เต้นท์พยาบาล กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลย...

               “นี่นาย! บอกว่านั่ง... พี่คะๆ  คนนี้เป็นลมค่า!”

               โหวกแหวกอะไรกัน ปวดหัวชะมัดเลย อยากพักสายตา ขอหลับไปเลยได้ไหมนะ แอบงีบตอนนี้เขาจะว่าหรือเปล่า

               รู้สึกตัวลอยหวือเหมือนเหาะได้ แล้วหูก็ได้ยินแต่เสียงลมอู้ๆ  ปรือตามองรอบๆ มีแต่หมอกขาวเต็มไปหมด นี่ผมได้เป็นลมสมใจแล้วใช่ไหม?

               “พยาบาล! มีคนเป็นลม เฮ้ย หลีกทางหน่อยๆ ”

               เพราะมีคนมุงอยู่รอบสนามตรงส่วนที่คั่นระหว่างอัฒจันทร์ของผมกับเต้นท์พยาบาลอยู่การขนย้ายจึงทำได้อย่างยากลำบาก รุ่นพี่ที่อุ้มผมอยู่ตะโกนขอทางคอเอ็นขึ้นปูดแต่เสียงภายนอกดังเกินไปจึงไม่มีใครได้ยิน

               อึก... อยากอ้วก ผมเอามือปิดปากกันของเก่าย้อนออกมาตามกลิ่นเปรียวที่ตีจุกคอ ผมดิ้นจะลงไม่อยากให้ของเสียเลอะตัวทั้งผมและพี่คนที่อุ้ม

               “เฮ้ยน้อง! อย่าดิ้น” ไม่ทันแล้ว เพราะผมทำตามอำเภอใจพี่เขาจึงตั้งตัวไม่ทันทำผมหลุดมืองานนี้ได้มีวัดพื้นแน่

               “!!!”

               เอ๋? ไม่เจ็บ... เปิดตามองข้างหนึ่ง ด้านบนไม่ใช่พี่คณะคนเมื่อกี้ แต่เป็นใบหน้าหล่อเหล่า ผิวสีแทนคนเข้ม ดวงตาสีท้องฟ้าเที่ยงคืนลึกล้ำใต้คิ้วขมวดมุ่นจ้องมองที่ผม ปากบางขยับพูดอะไรบางอย่างแต่สมองผมเกินประมวลได้ เขายืดตัวขึ้นทำให้ผมลอยสูงขึ้นตามแล้วแหวกทางโดยใช้เสียงทุ้มกังวานนำไป เพราะตัวสูงใหญ่จึงง่ายต่อการสังเกต คนรอบด้านจึงเปิดทางให้เขาพาผมมาส่งที่เต้นท์พยาบาลได้โดยสวัสดิภาพ พี่คนนี้… เท่จัง  ใช่นักกีฬาวิศวะที่เปลี่ยนตัวออกหรือเปล่านะ ช่างเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว หูอื้อๆ ได้ยินแต่เสียงหัวใจสูบฉีดรัวในอก แล้วความมืดก็เข้าครอบงำราวกับทีวีถูกปิดสวิทช์ไปทันที



               พอฟื้นมาพิธีก็ปิดจบไปแล้ว ตามคาดครับ วิศวะได้แชมป์ปีนี้ไป ที่จริงคณะผมก็เก่งนะแต่ไม่ค่อยเห็นซ้อมกันเท่าไหร่ ผมยังนั่งเหม่ออยู่ข้างสนามมองดูเหล่านักศึกษาเก็บข้าวของกันขะมักเขม้น ปี1 เข้าแถวเรียงกันอยู่หน้าอัฒจันทร์คงกำลังเช็คชื่อเตรียมกลับหอกันแล้วล่ะครับ

               “น้องๆ  น้องอยู่หอไหน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” รุ่นพี่คณะที่อุ้มผมถาม

               “ห... หอนอกครับ แถว...”

               “อ้าว แถวนั้นเองเหรอ พอดีเลย” แล้วพี่เขาก็หันไปเรียกใครบางคน “เฮ้ยแม็ก! มานี่ดิ๊”

               อ่า เงยหน้านานมึนหัวอีกแล้วสิ ผมก้มหน้ามือกุมหัวไว้ กะจะดูเสียหน่อยว่าพี่เขาเรียกใครมา ได้แต่ฟังบทสนทนาสรุปว่าผมต้องกลับกับใคร “น้องเขาอยู่แถวหอมึงเลย มึงไปส่งด้วยแล้วกัน เดี๋ยวน้องกลับกับมันนะ” หันมาพูดประโยคหลังกับผมเสร็จก็จากไป แล้วก็ตามนั้น ผมต้องกลับกับพี่ที่ชื่อ แม็ก ครับ เขามาช่วยพยุงแขนผมเดินไปทั้งยังก้มหน้า

               ขึ้นรถได้ก็ฟุบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง เงยไม่ไหวแล้วครับ แล้วก็เป็นสภาพนี้ตลอดทางจนพี่เขาย่อนผมไว้หน้าป้อมยามหอแล้วบึ่งจากไปทันที มีน้ำใจให้สุดหน่อยก็ไม่ได้ โถ่

               แต่ว่านะ เขาก็ยังเท่อยู่ดี ...ชอบ ซะแล้วสิ



               ผ่านไปอีกหนึ่งวันอันปกติของผม ที่ปกติคือการที่ผมนั่งเรียนคนเดียว กินข้าวคนเดียว กลับหอก็คนเดียวนั่นแหละครับ ยังจำปมด้อยของผมได้อยู่ใช่ไหมครับ ในสังคมจริงคนที่เข้าใจภาวะที่ผมเป็นอยู่นั้นน้อยจนแทบไม่มี คนที่เข้าใจก็มักจะมองด้วยความสงสารซึ่งผมไม่ต้องการ มันบั่นทอนจิตใจผมเสียยิ่งกว่าพวกที่ทำท่ารังเกียจเวลาเห็นผมสะบัดแขนสะบัดคอเสียอีก

               พูดมาเสียยืดยาวจนจะจบตอนแล้วผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นา ครับ ผมชื่อคอมโบ มักถูกเรียกสั้นๆ ว่าโบ ถึงตรงนี้ผมสะกิดใจอยู่อย่างทำไมสมัยนี้วัยรุ่นชื่อมีชื่อน่ารักๆ สองพยางค์ก็ไม่รู้ ทีไอ้คนที่มีสองคำอยู่แล้วกลับไปลดเหลือคำเดียวเสียนี่ จะเอาไงกันแน่ ช่างเถอะ

               ผมเป็นลูกคนเดียวครับ (ไม่นับน้องคนละพ่อนะ)  พ่อ(ใหม่)กับแม่ทำงานบริษัทมีหน้ามีตาพอสมควร เรื่องที่ผมเป็น Tics disorder เลยเป็นความอัปยศของตระกูลสำหรับพวกเขา ถูกหมางเมินและสายตาที่มองอย่างผิดหวังทำผมเจ็บปวดอยู่เหมือนกัน อยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเช่นแต่ก่อนที่ผมจะผิดปกติ เป็นครอบครัวสุขสันต์ที่พ่อแม่ประคบประหงมอย่างเอ็นดู ทางเดียวที่ฝันผมจะเป็นจริงก็คงต้องหายจากโรคบ้าๆ นี่เสียก่อนล่ะมั้ง

               คอผมสะบัดสองสามทีก่อนที่จะควบคุมได้ดั่งเดิม ผมเดินเตร่ไปเรื่อยอย่างไม่รู้จะทำอะไร ยังไม่รู้สึกอยากกลับหอเท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยจึงเลือกหาที่สงบๆ นั่งเล่นมือถือ รอสักหกโมงค่อยกลับก็ได้

               มองหาที่เหมาะสุดท้ายก็มาถึงม้าหินอ่อนข้างสนามฟุตบอลที่จัดเข้าชุดเรียงรอบๆ สนามใต้ร่มไม้สี่ห้าชุด ผมเลือกตัวที่ไกลผู้คนที่สุดแล้วนั่งลงหยิบหนังสือนิยายออกมาอ่าน เวลาโพล้เพล้ใกล้อาทิตย์ตกทำให้แสงแดดอ่อนแรงลง ลมพัดเย็นสบายเคล้าเสียงคนในสนามแว่วเป็นพักๆ ไม่ทำให้ผมเสียสมาธิเท่าใดนัก ไฟกิ่งข้างม้าหินกระพริบสองสามทีก่อนที่แสงสว่างจะถูกจุดขึ้นช่วยไม่ให้สายตาผมเสียไปมากกว่านี้

               ยิ่งจมดิ่งไปกับตัวหนังสือมากมายก็ยิ่งตัดขาดจากโลกภายนอก รู้ตัวอีกทีนาฬิกาข้อมือก็ดังปิ๊บๆ บอกเวลาหกโมงพอดี ได้เวลากลับแล้วสิ ผมยัดหนังสือลงเป้ก่อนสะพายมันขึ้นบ่าเตรียมตัวกลับ แล้วก็มีความรู้สึกว่าอะไรบางอย่างมาชนที่เท้าจึงก้มลงไปดู

               อ๊ะ! เดจาวู

               “เฮ้ย! เก็บบอลให้หน่อยดิ”

               มองลูกบอลสีขาวดำในมือสลับกับต้นเสียง พลันนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อสมัยก่อนที่เป็นจุดเริ่มต้นอาการแปลกๆ ของผม ...เอ๋ นั่นพี่นักบอลคนนั้นนี่

               หล่อไร้ที่ติเหมือนเดิมเลยครับ ลุคแบดบอยเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาปล่อยชายโชกเหงื่อดูเร้าใจจนหน้าผมเห่อแดง ยกตำแหน่งมายไอดอลให้เลยครับ หวา ๆๆ มาทางนี้แล้ว

               “เฮ้ย บอลน่ะ”

               ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์แหนะ ตื่นเต้นที่ได้คุยกันจะๆ ผมเพ่งสมาธิไปยังทุกส่วนของร่างกายพยายามไม่ให้มันเคลื่อนไหวโดยไม่ได้ตั้งใจให้ขายหน้า เม้มปากไว้ก็น่าจะช่วยได้อยู่

               ส่งบอลให้อย่างสั่นๆ ก้มหน้าคางชิดอก บอลลอยออกจากมือไปเห็นเขากับเพื่อนเดินกอดคอกลับไปในสนามผมถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ไม่วายดันได้ยินบทสนทนาที่ไม่คิดจะปิดบังของพวกเขา

               “มึง ไอ้เด็กนั้นมันเป็นอะไรวะ ทำท่าอย่างกับผีเข้า” คนที่กอดคอพี่แม็กอยู่พูด

               “โคตรหลอนเลยว่ะ สะบัดคอซะกูนึกว่าจะหักแล้ว แถมคุยกับตัวเองอีก” พี่อีกคนที่ยืนรอในสนามเสริม แล้วพี่แม็กก็สรุปได้ค่อนข้างถูกทีเดียว

               “สงสัยสันนิบาตกินมั้ง กูเคยไปส่งมันอยู่ทีก็งี้” แล้วผมก็ตกเป็นหัวข้อสนทนาของพวกเขาต่อไป

               อ่า… เจอคนที่ชอบนินทาเราแบบนี้ก็น้อยใจอยู่หรอก แต่ผมก็ทำเฉยๆ ไปซะ ใครๆ ก็พูดกันอย่างนี้ทั้งนั้นไม่เห็นแปลก แต่ความชอบก็ยังเท่าเดิมนะ ผมชอบสไตล์พี่เขา แล้วจะให้คนท่าทางแบบนั้นมาพูดหวานๆ มันก็ไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ เอาล่ะ กลับดีกว่าเรา



               เที่ยงนี้ก็กินข้าวคนเดียวเช่นเคย ถ้าถามว่าเหงามั้ยเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหงา แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะต่างจากคนอื่น เป็นของประหลาดที่ใครๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่ในความเหงาผมกลับยินดีเล็กๆ ที่สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จะกินก็ไม่ต้องรอเพื่อนมาให้ครบก่อนถึงจะกินได้ กลับบ้านก็ไม่ต้องคอยใคร อยากไปไหนก็ไม่ต้องบอก ในมือถือผมมีอยู่แค่สิบกว่าเบอร์เท่านั้น มีแค่พ่อ แม่ ญาติ อาจารย์ที่ปรึกษากับเบอร์ฉุกเฉินต่างๆ และเบอร์โรงพยาบาลประจำเท่านั้น ...ผมพยายามมองแง่ดีเข้าไว้

               “วันนี้ขนมปังก็พอมั้ง” ผมพึมพำกับตัวเอง วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า นี่ก็กินร้องท้องรอเวลาเหมาะๆ ค่อยกลับไปหาอะไรหนักๆ ใส่แถวหอดีกว่า “อ๊ะ!”

               เจออีกแล้ว ผมมองทะลุผนังกระจกของร้านสะดวกซื้อเข้าไปเจอกับร่างสูงของพี่แม็ก ผมรีบผลักประตูเข้าไปแล้วยืนงงสับสนทิศทางชั่วขณะ เขายืนหันหลังให้ผมห่างไปแค่สองเมตรเท่านั้น ผมกะจะอ้อมไปทางชั้นตู้แช่แล้วจู่ๆ เขาก็หันกลับมา

               โป๊ก!

               โอยยย ผมกรีดร้องไม่มีเสียง เพราะตกใจที่พี่เขาหันกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว ผมเลยย่อตัวหลบหลังชั้นตามสัญชาตญาณ ผลคือหัวไปโขกกับชั้นแขวนที่ยื่นออกมาพอดี แรงขนาดว่าชั้นมันไหวจนเกือบล้มเลยต้องเอามืออีกข้างที่ไม่ได้กุมหัวมาจับไว้

               “นี่ เป็นอะไรหรือเปล่า”

               สะดุ้งเลยทีนี้ อุตส่าห์หลบแล้วพี่จะอ้อมมาหาผมทำไมครับ!

               ผมลุกเต็มความสูง (แต่ยังอยู่แค่ไหลเขา) อยากทักออกไปแต่ปากมันเอาแต่พะงาบๆ อย่างเดียว อ๊า! พี่อย่าขมวดคิ้วสิ

               “มีไรกันวะ” อ้ากกก! มากันทำไมเยอะแยะครับ เพื่อนเขาที่เล่นบอลด้วยกันวันนั้นมากันครบสองคนเลย กลายเป็นว่าผมตกอยู่ในดงยักษ์สามตน ข้างหน้ามีพี่แม็กกับเพื่อนหน้าฝรั่งๆ ปิดทางหนีด้านหลังผมด้วยพี่ยักษ์หน้าเกาหลี

               “ได้ยินเสียงเหมือนใครชนอะไรเลยมาดูน่ะ” พี่แม็กบอกกับเพื่อน “อ้าว ไอ้น้องสันนิบาตนี่หวา”

               ปากเสีย นึกในใจครับ ไม่กล้าพูดไปหรอก กลัวโดนตี แต่คำนั้นมันคงออกทางสีหน้ามากไปหน่อยจนผมเริ่มได้กลิ่นหายนะลางๆ แล้วล่ะ

               “เฮ้ย! ชักสีหน้าใส่หมายความว่าไงวะ อยากมีเรื่องหรอ” พี่เขาเดินเข้ามาจะผลักไหล่ผม แล้วผมดันมือกระตุกไปปัดมือพี่เขาพอดี เสียงเนื้อกระทบกันดังเพียะ

               งานนี้ไม่ได้ตายดีแน่

               ยักษ์แม็กโกรธจนหน้าดำกว่าเดิม ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เรื่องเล็กๆ แค่นี้กลับทำเป็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ ลุคพี่เขาเหมือนคนที่สามารถเอามีดมาแทงคนได้แค่เพราะมองหน้ากันอยู่แล้ว และคงจะเอาแต่ใจน่าดูด้วย ได้ข่าวว่าชอบมีเรื่องกับคณะอื่นไม่ก็สถาบันอื่นอยู่บ่อยๆ ผมเตรียมตัวเจ็บไว้แล้วครับ

               “เฮ้ย! มึงกล้าเหรอวะ ตัวเล็กแล้วอย่าคิดว่ากูจะไม่ต่อยมึงนะเว้ย”

               “แม็กๆ ออกไปก่อนเหอะว่ะ คนมองแล้ว”

               ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย ผมคงรอดแล้วล่ะ สำหรับวันนี้นะ แต่เปล่า ผมคิดผิดเพราะมือหนาหนักราวคีมเหล็กคว้าต้นแขนผมลากออกไปด้วย

               เดี๋ยวๆๆ นี่ยังไม่จบเหรอ! ปล่อยผมไปเถอะพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ

               แล้วพวกเขาก็ลากผมไปทางหลังอาคารที่ปลอดผู้คน พี่แม็กเปลี่ยนตำแหน่งจากมือจับแขนเป็นเอาแขนหนีบหัวผมไว้เพราะเมื่อกี้ผมเกือบดิ้นหลุดแล้วเชียว ความแนบชิดทำให้ผมได้กลิ่นเหงื่อผสมโคโลนของเขาเต็มๆ ทำเอาผมเคลิ้มไป… เดี๋ยวๆๆ นี่มันใช่เวลามั้ย จะตายอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก

               ปึก!

               ผมถูกผลักติดกำแพง ไหล่บางเจ็บจนคิดว่ามันหักไปแล้ว มือหนายังบดผมกับกำแพงอยู่ด้วยหน้าถมึงทึง เพื่อนของเขายืนไม่ทุกข์ร้อนอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้เขาจัดการผมเพียงลำพัง

               “มึงจะเอาไงฮะ!”

               “...” ผมส่ายหน้ารัว ๆ

               “เก่งนักก็อย่าทำเป็นกลัวดิ ที่กูใจดีด้วยวันนั้นมันตามหน้าที่หรอกเว้ย อย่าคิดว่าจะมาทำเหลิงกับกู”

               “...” ผมส่ายหัวให้แรงขึ้นอีกเป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้เจตนาเช่นนั้นจริง ๆ

               “เฮ้ย พูดดิ!” ไม่! พูดไม่ได้ ถ้าอ้าปากออกไปตอนนี้ผมได้หลุดอะไรที่ไม่สมควรออกไปแน่

               “จะเอาไง สัส!”

               “สัส”

               “...”

               ชิบหายแล้ว ผมเผลอพูดตามเขา คำอื่นมีตั้งเยอะแยะทำไมต้องคำนี้ตอนนี้ด้วย โถ่เอ้ย!

               เงียบกันหมด คงไม่นึกว่าผมจะพูดคำนี้สินะ บางครั้งผมก็เป็นแบบนี้แหละครับ ได้ยินอะไรก็จะพูดตามหรือเวลาอ่านหนังสือก็จะพูดประโยคที่ชอบออกมาซ้ำๆ สี่ห้ารอบเลยก็มี

               สถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุดแล้วครับ

               ผัวะ!

               ผมหน้าหันตามแรงกำปั้นที่ฟาดลงมา ได้กลิ่นคาวคลุกเต็มปากและชาไปทั้งซีกหน้า มึนจนเห็นแสงวาบๆ เหมือนดาวเต็มไปหมด

               เพื่อนของเขาเข้ามารั้งตัวออกไป ร่างผมร่วงลงกับพื้นเมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระ แล้วคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นเพื่อยุติเหตุการณ์ “พอแล้วมึง ถ้าเป็นเรื่องขึ้นมามึงโดนพักการเรียนเลยนะ” อีกคนเสริม “ปล่อยไอ้นี่ไปเหอะแม็ก อย่างที่ไอ้พอลบอก อาจารย์สั่งห้ามมึงมีเรื่องชกต่อยอีกเด็ดขาดนะเว้ย นึกถึงอนาคตไว้บ้าง” เป็นห่วงผมกันทุกคนเลยนะ

               นับเป็นโชคดีอันน้อยนิดของผมที่เขายอมเชื่อเพื่อนขอเขา “เออๆๆ ครั้งนี้มึงรอดไปนะไอ้เตี้ย” แล้วพวกเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจผมที่นั่งกองอยู่ที่เดิม

               ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยังไม่ทันสุดลมดีพี่แม็กก็หันกลับมา ผมสะดุ้ง

               “แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปฟ้องอาจารย์วะ” ไม่ๆๆ ไม่ฟ้องแน่นอนครับ ปล่อยผมไปเถอะ

               “จริง แล้วไม่ใช่แค่มึงที่ซวย พวกกูต้องโดนด้วยแน่” พี่หน้าฝรั่งชื่อพอลเอะใจแล้วหันไปถามพี่เกาหลี “เอาไงวะเมษ กูไม่อยากซวยกับไอ้แม็กว่ะ”

               พี่เมษนึก ระหว่างที่พวกเขาคุยกันผมค่อยคลานเลียบกำแพงไปอย่างเงียบๆ เรื่องอะไรจะอยู่รอให้เขายำล่ะครับ

               ไปได้ไม่ถึงสามเมตรคอเสื้อก็ถูกดึง ตัวผมลอยขึ้นมากประจันหน้ากับพี่แม็กอีกครั้ง (ยังไงพี่นี่ก็หล่อเลวดีนะครับ) เสื้อบาดรัดคอ ตัวคู้เหมือนแมวถูกหิ้ว เมื่อไหร่จะเลิกสนใจผมสักทีครับ

               “...”

               “...”

               เราจ้องตากันห่างเพียงคืบ ต่างแค่แววตาของผมนั้นเต็มไปด้วยความกลัวและไม่ไว้ใจ ส่วนฝ่ายตรงข้ามแฝงด้วยนัยไร้ความหมายราวกับกำลังนึกคิดอย่างระวัง แล้วเขาก็ตัดสินใจบางอย่าง

               “มึง… แก้ผ้าออกซะ”

               “!”

               “ถอดเสื้อผ้าออก เร็ว!” ตกใจ ส่วนสองคนด้านหลังกลับยิ้มให้กันและทำสีหน้าเข้าอกเข้าใจความคิดระดับเด็กประถมแกล้งกันของชายคนนี้เสียนี่ บ้าแล้ว อยู่ๆ จะมาสั่งคนอื่นเปลือยกลางแจ้งอย่างนี้ได้ยังไง ถึงจะปลอดคนก็เถอะ

               “...” ผมส่ายหัวน้ำตาพาลจะไหล มือกุมเสื้อแน่นบ่งบอกว่าผมจะไม่ทำตามที่เขาสั่งเด็ดขาด

               “ถอดๆ เหอะน่า เราแค่จะถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์เฉยๆ กันนายเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอาจารย์ไง” พี่พอลเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ขอโทษ น้ำเสียงใจดีไม่ได้ช่วยให้ความหมายที่สื่อดูดีขึ้นเลยครับ

               “พ… พี่ ปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่บอกใครหรอก ผมสาบาน” เสียงผมสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาร่วงเผาะ แทนที่จะสงสาร สภาพผมตอนนี้คงไปจุดสวิทช์พวกเขาเข้า

               “แม่ง เสียเวลา กูรีบไปซ้อมบอลอยู่ มา ไม่ถอดกูถอดเอง!” พี่เมษกระชากเสื้อด้านหนึ่งจนกระดุมหลุดกระเด็นไปหนึ่งเม็ด

               “ไม่นะ! พี่ อย่าทำผม ผมไหว้ล่ะ อย่าทำผมเลย!”

               “พอลเตรียมกล้อง” พี่แม็กดึงเสื้อของผมที่เหลือจนท่อนบนเปลือยเปล่าแล้วบอกพี่พอลซึ่งรับคำอย่างดี “คร้าบ ๆ”

               ผมยกแขนบังหน้านองน้ำตาของตัวเอง ปล่อยพวกเขายืนมองร่างผอมแห้งขาวซีดไป เสียใจมาก คิดว่าโตๆ กันแล้วน่าจะหลุดพ้นจากการกลั่นแกล้งบ้าๆ นี่เสียที และถึงผมจะดูประหลาด แต่พวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับผมแบบนี้นะ

               “ฮึก ฮือ...”

               “กางเกงด้วย”

               “อย่า...” มือเล็กปัดป้องอย่างอ่อนแรง พี่แม็กล้วงกระเป๋าหยิบเอาสิ่งหนึ่งขึ้นมา

               แกรก...

               เสียงใบมีดเคลื่อนบาดลึกกรีดหัวใจให้สั่นไหว เขายกมันขึ้นที่ระดับสายตาของผม คัตเตอร์อันใหญ่แบบที่ใช้ในงานช่างมีความเงางามดูใหม่และน่าจะคมมากๆ คมพอๆ กับดวงตากร้าวที่ปราศจากความลังเลใดๆ ...เขาไม่แคร์ถ้าจะแทงผมให้ตายตรงนี้ด้วยซ้ำ

               อย่างไรก็แล้วแต่ ผมยังรักชีวิตอยู่ มือสั่นเทาแก้เข็มขัดอย่างยากลำบาก ปลดกระดุมรูดซิบและปล่อยกางเกงแสลกสีดำร่วงลงไปกองกับพื้นตามแรงโน้มถ่วง ในใจพร่ำปลอบตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็จบแล้ว ให้มันแล้วๆ กันไปซะ จะได้รีบๆ กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมไง

               “เจ้าสีขาวตัวน้อยนั่นด้วยครับคุณหนู”

               “!...”

               “ถอดเลย ถอดเลย ถอดเลย ถอดเลย...”

               เสียงเชียร์ประกอบกับปรบมือให้จังหวะราวกับมันสนุกหรรษาเสียจริง… ใช่ สนุกมากสำหรับพวกเขา แต่ผมนั่นรู้สึกตรงข้าม

               นิ้วเกี่ยวขอบชั้นในร่นลงช้าๆ ผมสะอื้นไห้หนักขึ้นแทบหายใจขัด กางเกงชั้นในถูกดึงลงจนถึงเข่า ผมอยู่ในสภาพชีเปลือยหมดตัวแบบนี้เขาคงพอใจแล้วสินะ

               “ยกขาซิ” พี่แม็กมาดึงกางเกงในผมลอดขาไปทีละข้าง เสื้อผ้าที่เหลืออยู่มีเพียงถุงเท้าคู่เดียวเท่านั้น ผมเอามือปิดส่วนนั้นไว้ด้วยความอายพลางมองพวกเขาสนุกสนานกับชั้นในของผม ดูท่าเรื่องน่าอายนี่จะทำให้พี่แม็กลืมความโกรธเมื่อก่อนหน้าไปหมดแล้ว

               “ดูดิ เกงในโคตรเห่ยเลยว่ะ ฮ่าๆๆ เด็กน้อยชะมัด”

               “มาๆๆ ถ่ายรูปๆ” พี่พอลยกมือถือขึ้นนับหนึ่งสองสาม ผมก้มหน้างุดทำเป็นเช็ดน้ำตาเพื่อปิดบังใบหน้าให้มากที่สุด แต่พี่แม็กไม่พอใจเลยสั่งว่า “เฮ้ย เอามือออก ถ่ายรูปก็มองกล้องด้วยดิวะ เออๆ นั่นแหละ เอาล่ะ ชูสองนิ้วด้วย สองข้างเลยเร็ว” ผมทำตามทุกประการแล้วก็ได้ยินเสียงชัตเตอร์สองสามที พวกเขาผลัดเปลี่ยนกันสั่งให้ผมทำท่าน่าอายๆ อีกพักหนึ่ง

               “รู้ใช่มั้ยว่าถ้าปากโป้งแล้วรูปพวกนี้มันจะไปอยู่ที่ไหน” เขาเอารูปให้ผมดู ผมพยักหน้าช้าๆ แล้วพวกยักษ์ใจร้ายก็แยกย้ายไป ทิ้งผมไว้เพียงลำพัง

               “ฮึก… ฮึก...” ผมใส่เสื้อผ้ากลับทีละชิ้น เสื้อกระดุมขาดชำรุดทำให้ต้องใช้มือจับไว้ตลอดทาง

               ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย ทั้งๆ ทีผมชอบพี่ แต่พี่กลับ...

               ผมเสียใจมากนะ เสียใจจริงๆ ที่เกิดมาเป็นแบบนี้

               ผมไม่ได้อยากเกิดมาตัวเล็ก

               ผมไม่ได้อยากอ่อนแอ

               และไม่ได้อยากมีปมด้อยแบบนี้… เสียหน่อย

               แผลที่ปากเริ่มเจ็บระบม แสบตาแสบจมูกเพราะร้องไห้หนัก คงต้องแวะซื้อยาไว้เผื่อไข้ขึ้นดีกว่า ผมไม่อยากขาดเรียนในวันรุ่งขึ้น อ่า… แต่ถ้าไปเรียนก็ต้องใส่แมสก์ปิดแผลเขียวช้ำที่หน้าไว้ด้วย ทำใจให้สบายเถอะ มันก็แค่เด็กๆ แกล้งกันอย่างเคย

               ก็ได้แต่หวัง… ว่าเขาจะรักษาสัญญา อย่าทำให้ชีวิตผมแย่ไปกว่านี้อีกเลย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:20:22 โดย madmay »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Tics... ผมไม่ได้ตั้งใจ
«ตอบ #3 เมื่อ19-09-2016 17:17:54 »

สงสารคอมโบจังเลย หวังว่ารูปที่ไอ้พี่พวกนั้นบังคับถ่ายไปจะไม่หลุดนะ

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
Re: Tics... ผมไม่ได้ตั้งใจ 2 25/9/59
«ตอบ #4 เมื่อ25-09-2016 10:39:20 »

-2-

               แค่กๆ

               จริงตามคาด วันรุ่งขึ้นผมมีไข้ทันทีแต่ยังฝืนมาเรียนจนได้ ก็วันนี้บ่ายมีภาคปฏิบัตินี่ครับ หายไปครั้งนึงคะแนนผมฮวบเลยนะ แถมเป็นงานกลุ่มด้วย ถ้าคาบนี้ผมไม่มีกลุ่มคาบต่อๆ ไปจะลำบากเอา

               ผมไอติดๆ กันมาพักใหญ่ เจ็บคอเจ็บท้องแทบหมดแรงทั้งที่พยายามไอให้เบาที่สุดแต่ก็ยังหยุดไม่ได้ ผู้หญิงแถวหน้าเหลือบมองค้อนๆ อย่างรำคาญ ก็จะให้ทำไงอ่ะ ไม่ได้อยากไอเสียหน่อย

               แค่กๆๆ โอ้ย ปวดท้อง...

               ผมพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนเพลียเลยฟุบหน้าลงกับโต๊ะ สัมผัสของแผ่นไม้เย็นช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่เพียงแค่นั้นก็พาผมจมดิ่งสู่ห้วงนิทราได้แทบจะทันทีที่ปิดเปลือกตาลง

               “โบ… โบจ้ะ”

               แรงเขย่าเบาๆ ปลุกผมให้ตื่นขึ้น ลืมตาแสบพร่าขึ้นมาก็พบกับ บัว เด็กเรียนแถวหน้าที่เป็นคนเดียวที่คุยกับผม ...แต่เมื่อกี้เธอจับโดนไหล่ข้างที่เจ็บของเรานะ

               “ตอนบ่ายโบอยู่กลุ่มเรานะ คนอื่นเขาจับกันลงตัวหมดแล้วล่ะ” อ่า… ผมเป็นตัวแถมอีกแล้วสิเนี่ย ผมครางตอบรับไปเช่นทุกครั้ง

               มันจะมีอยู่แทบทุกทีใช่ไหมครับ คนที่ดีเลิศเหนือมนุษย์ ผมเรียกว่า ‘นางฟ้าประจำห้อง’ คนเหล่านี้จะมีเพียงน้อยนิดในรุ่น พวกเธอจะเป็นคนสวย เรียนเก่ง พึ่งพาได้ จิตใจดีงามโอบอ้อมอารีและพูดจากกิริยางดงามเกินคนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการแอ๊บหรือไม่ก็ตาม ขอดีที่ผมมองเห็นประโยชน์นั่นคือกลุ่มของพวกเธอจะอุดมไปด้วยเศษเหลือที่ไม่มีใครเอาอย่างผมนี่แหละครับ ผมออกจะเฉยๆ กับคนเหล่านี้ ต่างจากคนอื่นที่ต่อหน้าปากหวานชมสารพัดแล้วไปนินทาลับหลังกันมากกว่า… คนมันดีเกินยังไงก็โดนหมันไส้

               บัวชวนผมกินข้าวซึ่งผมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเพราะเดี๋ยวกินเสร็จก็ต้องไปที่ห้องครัวเลย ผมเก็บของเงียบๆ พวกของบัวยืนรออยู่ข้างๆ ส่วนบัวแม่พระของสัตว์โลกก็ช่วยผมเก็บปากกาด้วยครับ ผมเปิดแมสก์ออกนิดนึงเพื่อระบายลมร้อนด้านในขณะที่ได้ยินเพื่อนกลุ่มหนึ่งแซวผมกับบัว

               “วี้ดวิ้ว! รักกันจริงเว้ย”

               “ฮั่นแน่ๆ”

               “คู่เบี้ยนๆ”

               และอื่นๆ

               นอกจากจะมีนางฟ้ามันก็ต้องมีซาตานหรือพวกเด็กเกรียนเรียนพอได้แต่ชอบทำตัวเรียกร้องความสนใจแบบนี้เสมอ แต่ผมชินแล้วล่ะ เป็นห่วงก็แต่นางฟ้าที่เงียบไป กลัวเธอจะกระดากอายกลายเป็นรังเกียจจนพาลให้เลิกรับผมเข้ากลุ่มมากกว่า

               เอ่อ ดูท่าจะไม่เป็นเช่นนั้น จากที่บัวยิ้มให้อายๆ พร้อมแก้มขึ้นสีชมพู… อย่าบอกนะ

               “โบ มีคนมาหา”

               ผมละสายตาจากหน้าแดงๆ ของบัวไปทางเพื่อน (ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้) คนหนึ่งที่ยื่นหน้าเข้ามาบอกจากนอกประตู จากคำบอกเล่าของเขาไม่มีข้อมูลใดๆ ให้ผมเดาได้เลยว่าใครกันที่ต้องการพบผม

               “บัวไปก่อนเลยก็ได้” ผมบอกเธอกลัวจะรอผมคุยกับแขกนาน นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วถ้าไม่รีบไปจองที่คนจะเยอะเสียก่อนแล้วจะหาที่นั่งลำบาก บัวทำตามนั้น เธอล่วงหน้าไปพร้อมเพื่อนสายเรียนอีกสามสี่คน ผมสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าแล้วเดินไปตามทิศที่เขารออยู่

               ผมคงก่อกรรมไว้มากในชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงต้องพบแต่เรื่องแย่ๆ มากมาย ยิ่งโตก็ยิ่งเจอ โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรใหม่ของผม

               ผมพยายามแล้ว พยายามลืมเรื่องเมื่อวานไปเสีย อุตส่าห์คิดแง่ดีว่ามันจะจบแค่นั้น แต่ก็เปล่า ผมคิดว่ามันจะไม่จบลงง่ายๆ และอิสระจะหายไปจากชีวิตผมตราบใดที่เขายังไม่ปล่อยผมไป

               ร่างสูงใหญ่ราวยักษ์เฝ้าประตูทั้งสามยืนตระง่านรอผมที่หน้าห้อง หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ มือเท้าเย็นและสั่นอย่างกับไข้ขึ้น ความเย็นไล่จากปลายเท้าส่งกระแสไฟช็อตสมองให้ชา ผมถอยหนีโดยไม่รู้ตัวแต่มือแกร่งคว้าต้นแขนดึงเข้าอย่างรวดเร็วจนหน้าผมกระแทกกับอกผายนั่นเต็มๆ

               “ไปกินข้าวกับพี่มั้ยครับ… น้องโบ

               “พ… พี่แม็ก...”



Magnum’s part

               สวัสดี ผมแม็กนัม เรื่องแนะนำตัวห่าเหวอะไรนั่นข้ามๆ ไปก่อนแล้วกัน พอดีผมไม่ช่างประดิษฐ์คำพูดเท่าไหร่ เอาเป็นว่าผมเป็นคนใจร้อนและนักเลงมาก และเอาแต่ใจสุดๆ งานอดิเรกนอกจากเตะบอลก็เรื่องวิวาทนี่แหละ อ่านๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็รู้กำพืดกันเองนั่นแหละ ทั้งผมทั้งไอ้พอลไอ้เมษเลย

               เอาล่ะ ผมจะเล่าส่วนที่เป็นมุมมองของผมบ้าง เมื่อวันกีฬามหา’ลัยพวกผมเป็นตัวเก็งลงแข่งด้วย และตามคาด อีกฝ่ายถูกพวกผมยิงไม่ยั้งจนแต้มถอยห่างเรื่อยๆ โค้ชจึงให้ผมออกเพื่อที่แต้มจะได้ไม่น่าเกลียดกว่านี้ ก็ผมมันพวกชอบเด่น พวกไอ้พอลไอ้เมษก็เหมือนกัน เด่นกันทั้งเรื่องดีและไม่ดีจนอาจารย์พากันกุมขมับ ก็การเป็นจุดสนใจมันได้ใจสาวนี่หว่า

               ผมกับไอ้พอลน่ะได้ทั้งชายทั้งหญิงขอแค่ถูกใจ ส่วนไอ้เมษเมื่อก่อนก็เหลวไหลตามสันดานแต่ตั้งแต่มันมีเมีย (แฟนนั่นแหละ ถือว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่มันคบโดยยังไม่เอากัน) มันสงบเสงี่ยมขึ้นเยอะ แต่ก็ยังไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเดิมแค่มันจะไม่แตะเรื่องชู้สาวให้เมียมันเสียใจอีก ยอมใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ

               กำลังหม้อสาวพยาบาลอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะแว่วๆ แทรกเสียงเชียร์ของฝูงชนมา เห็นเพื่อนต่างคณะซึ่งเคยเรียนห้องเดียวกันสมัยม.6 หน้าตาตื่น ในอ้อมแขนมีร่างเล็กใส่ชุดปี1 ท่าทางร่อแร่ มันพยายามจะฝ่าดงกองเชียร์เข้ามาแต่ก็ไม่สำเร็จซ้ำไอ้เด็กนั่นก็ดิ้นจนหลุดมือ ผมรีบพุ่งไปหาและรับมันไว้ได้พอดีก่อนจะใช้ร่างสูงใหญ่แหวกทางออกพามันมาถึงเต้นท์พยาบาลได้สำเร็จ ตากลมโตมองผมอย่างโรยแรง ปกติผมไม่ทำตัวเป็นฮีโร่หรอก แต่พอดีสาวเยอะเลยอยากทำคะแนนเสียหน่อยเท่านั้นเอง และก็เสร็จโจร หนึ่งแต้มสำหรับสาวคัพดี

               แข่งจบผมขึ้นไปรับรางวัลและยืนกุมเป้ารอประธานกล่าวปิดงานอย่างเซ็งๆ อยากกลับจะแย่ เพิ่งได้เบอร์คนใหม่มาคนนึงด้วย แต่แทนที่ผมจะได้รีบกลับโดยมีสาวทรงโตซ้อนท้าย ไอ้เพื่อนคหกรรมคนเดิมกลับใช้ให้ผมไปส่งไอ้เด็กปี1 นั่นเสียนี่ ชักจะไม่ชอบหน้ามันแล้วสิ ถึงมันจะน่ารักก็เถอะ

               เหตุการณ์ต่อมาผมเจอมันอีกตอนซ้อมบอล เชื่อมั้ย ผมขนลุกเลยแม้มองมันจะที่ไกลๆ เห็นมันนั่งอ่านหนังสือคนเดียวแล้วก็พึมพำเป็นบางครั้ง แขนยกขึ้นยกลง สะบัดคอสะบัดมืออย่างกับผีเข้า ท่าทางนั้นโคตรน่าขยะแขยงเลยว่ะ

               และการพบกันล่าสุด ผมว่ามันต้องกวนตีนผมแน่ๆ สงสัยอยากโดน มาทำเก่งปากดีกับผมมันไม่ได้ตายดีอยู่แล้ว ตัวเท่าลูกแมวยังกล้ามาท้าทายก็จะจัดให้ เอาให้สมใจไปหลายๆ ดอก ทีงี้มาทำน้ำตาตก เฮอะ! เสียใจ กูไม่หลงกลหน้าซื่อๆ ของมึงหรอก

               พวกผมจัดการจนหนำใจและมั่นใจว่ามันจะเข็ดหลาบไม่กล้าหือกับผมอีกถึงได้ปล่อยมันไป (จริงๆ ก็คือทิ้งนั่นแหละ) ถามว่าสงสารมั้ย สภาพมันก็น่าสงสารอยู่หรอก แต่สำหรับผม ไม่ ตกเย็นก็ยังไปเล่นบอลกันตามปกติ

               “เฮ้ยพอล มึงส่งรูปไอ้เปี๊ยกนั่นมาดิ๊” กลับหอผมอาบน้ำเตรียมนอน ระหว่างซับผมให้แห้งผมก็โทรหาไอ้พอล ไม่รู้นึกไงจู่ๆ ถึงอยากเห็นรูปแก้ผ้าของมัน ไม่นานนักรูปถ่ายนับสิบรูปก็เด้งขึ้น

               เปิดไปก็ขำไป หน้าแม่งโคตรตลก ตัวขาวๆ แห้งๆ ชูสองนิ้วทั้งน้ำหูน้ำตานองหน้า เชี่ย ขี้มูกย้อยอีกต่างหาก ...ไอ้เจี๊ยวโคตรเล็กเลย ฮ่าๆๆ ผมเปิดดูไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน ก็แค่ถ่ายไว้แบล็กเมล์มันนั่นแหละ กันมันไปฟ้องอาจารย์ ไม่ได้กลัวนะแต่ผมขี้เกียจฟังพวกหัวหงอกนั่นเทศน์อีกต่างหาก พูดได้เรื่องเดิมๆ เป็นชั่วโมง

               เปลี่ยนจากคุยโทรศัพท์เป็นแชทกันในกลุ่มแทน ก็เรื่องไอ้เด็กนี่แหละ

               -เมษ: มึงว่ามันจะกล้าไปฟ้องจารย์ป่าววะ

               -พอล: จะกล้า? กูว่าหน้าอย่างมันแค่ขู่เฉยๆ ไม่มีรูปพวกนี้มันก็ไม่กล้าหรอกว่ะ

               -เมษ: แล้วมึงถ่ายเพื่อ?

               -พอล: สนุก

               ผมอ่านของพวกมันไป มีอะไรจะพิมพ์แทรกเข้าไปตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมผมถึงได้แต่จ้องบทสนทนาค้างอย่างเดียว ในหัวก็มีแต่ใบหน้าน่ารักเปื้อนน้ำตาของไอ้เด็กเปรตนั่น เสียงสั่นๆ อ้อนวอนให้หยุด ตัวสั่นระริกเหมือนลูกแมวขี้กลัว และกางเกงในตัวจิ๋วที่เคยอยู่ในมือผม...

               -พอล: แม็กเงียบวะ?

               “...”

               -ผม: มึง

               คิดไว้ว่ามันจะต้องไปแล้วไปลับจากชีวิต ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อการนั้นไม่ใช่หรอ กลับเป็นผมเสียเองที่ดึงมันกลับเข้ามาในวงจรอีกครั้ง

               -ผม: กูอยากเล่นกับมันอีกสักหน่อยว่ะ

               จุดรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อจินตนาการว่าถ้าเจอกันอีกครั้งมันจะทำหน้ายังไง จะเล่นด้วยนานๆ เลยอย่าเพิ่งหนีไปก่อนซะล่ะ

               ...แค่คิดก็สนุกแล้ว


50%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:20:49 โดย madmay »

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ใจร้ายอ่ะ พ่อแม่ก็ใจร้าย ลูกตัวเองเป็นแบบนี้ก็ไม่รักษา อาการก็แย่ไปอีกแล้วก็มาตีลูก

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมาก มาต่อด่วนๆเลยค่ะพี่คนเขียน เราจะตายแล้วววววว :katai1: :katai4: คนเขียนช่วยเอาจำนวนตอน แล้วก็เปอร์เซ็นที่อัพขึ้นตรงชื่อด้วยได้ไหมคะ แบบRe:Tics...เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ SM 20+++ อัพตอนที่ 2 100%  แบบนี้อะค่ะ ได้ไหมจะได้รู้ว่ามากี่ตอนแบ้ววว :hao3: :mew1: :o8:

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
สนุกมาก มาต่อด่วนๆเลยค่ะพี่คนเขียน เราจะตายแล้วววววว :katai1: :katai4: คนเขียนช่วยเอาจำนวนตอน แล้วก็เปอร์เซ็นที่อัพขึ้นตรงชื่อด้วยได้ไหมคะ แบบRe:Tics...เชี่ย! ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ SM 20+++ อัพตอนที่ 2 100%  แบบนี้อะค่ะ ได้ไหมจะได้รู้ว่ามากี่ตอนแบ้ววว :hao3: :mew1: :o8:

อ้าว นึกว่าพิมพ์แล้วซะอีก โทษทีๆ ครบ100แล้วจะแก้ให้นะจ้ะ เย็นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:39:30 โดย madmay »

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
อ้ายลูกบอลที่โบเก็บมันมีอะไรอ่ะป่าว สงสัย
จะแกล้งน้องโบ เดี่ยวก็ได้หลงหรอก ฮ่าๆๆ
เอาอีกๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
ต่อ




COMBO’s part



               “พ… พี่แม็ก...”

               คนที่มาหาผมคือพี่แม็ก!? ไม่นะ! ผมจะไม่ยุ่งกับพี่แล้ว เรื่องมันแล้วก็ให้แล้วไปสิ พี่จะมาตามรังควาญผมทำไม

               “ไงครับน้องโบ” พี่… รู้ชื่อผม… แล้วรู้ได้ไงว่าผมอยู่นี่

               “ป่ะ ไปกินข้าวกันดีกว่าพี่หิวแล้ว” เขากอดคอพาผมไป

               เวลาเดินผ่านกลุ่มสาวๆ จะได้ยินเสียงกรี้ดกร้าดตามมาเสมอ พี่เขาทำเป็นขออนุญาตเพื่อนผมว่าขอยืมผมไปกินข้าวก่อนนะ แค่นี้พวกเธอก็รีบตอบรับทันควันทั้งๆ ที่ไม่เคยสนใจผมแท้ๆ คนดังนี่ครับ

               “ผม… ผมนัดเพื่อนไว้-”

               “อย่าลีลา มึงคิดว่ากูอยากกินข้าวกับมึงนักรึไง” ไม่ทันเอ่ยจนจบเขาก็แทรกขึ้นมาด้วยเสียงรอดไรฟันให้ได้ยินกันแค่สองคน แรงรัดที่คอเพิ่มขึ้นจนน่ากลัวคอเล็กๆ ของผมจะหักทำให้ผมเงียบปากไว้

               ใช่ ผมไม่ควรพูดอะไรไปมากกว่านี้ และต้องระวังตัวให้มากๆ อย่าเผลอปล่อยแขนขาหรือปล่อยปากพ่นคำสบถใส่เขาอีกเด็ดขาด

               ผมถูกลากมาถึงโรงอาหาร ดูเหมือนพวกเขาจะมีโต๊ะประจำอยู่ถึงได้ก้าวฉับๆ ไปนั่งโดยไม่สนรอบข้าง แต่ผมไม่นั่งด้วยหรอกนะ ขาเตรียมหนีทันทีที่เขาปล่อยมือ

               พี่แม็กล้วงเอามือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาจิ้มๆ ที่จอสักพักหน้าจอก็ปรากฎรูปๆ หนึ่งขึ้นมา รูปที่ผมอยากให้มันหายไปมากที่สุด ก่อนที่เขาจะพูดลอยๆ “กูอยากกินผัดพริกแกง”

               “?”

               “กูเอาข้าวมันไก่”

               “บะหมี่ต้มยำหมูรวม”

               แล้วก็สั่งกันรัวๆ ผมยืนงง พอเห็นผมนิ่งไปทั้งสามก็หันมาจ้องผมจนสะดุ้ง พี่แม็กถลึงตาใส่ “ไปสั่งสิ” ก็ไม่มีใครบอกนี่ผมจะรู้กับพวกพี่มั้ยเล่า!

               “อย่ามาชักสีหน้าใส่ อยากโดนอีกหรือไง”

               “ป เปล่า เปล่าครับ” ลิ้นพันกันแทบสำลัก ผมรีบหมุนตัวไปทันทีที่พี่เขาปล่อยมือ แต่… “พี่ครับ… เงิน-”

               “มึงก็จ่ายสิ โง่!”

               เฮ้อ… ทำไมต้องเป็นผมที่เจอแต่เรื่องร้ายๆ กะจะหนีไปแต่นึกถึงรูปถ่ายอุจาดตานั่น… ถ้ามีใครเห็นล่ะก็ พ่อเอาผมตายแน่

               โชคดีที่คนไม่เยอะ ผมเลือกที่จะสั่งของพี่แม็กก่อนเพราะคิดว่าเขาน่าจะใจร้อนที่สุด แล้วค่อยไปสั่งข้าวมันไก่ให้พี่ฝรั่ง แล้วก็บะหมี่ แม่ครัวก็เป็นใจทำเสร็จไว้ใช้ได้ ผมจ่ายเงินแล้วยกจานไปเสิร์ฟแล้ววิ่งกลับไปสั่งอีกร้านต่อ เหนื่อยมากครับ หัวเริ่มมึนสงสัยไข้จะขึ้นอีกแน่

               จานสุดท้ายถูกวางตรงหน้าพี่เมษ ผมหมดทั้งแรงหมดทั้งเงิน ไม่เหลือสำหรับของตัวเองเลยครับ จะทวงก็ไม่กล้าเลยได้แต่นั่งดูพวกเขากินกันอย่างหิวโหย

               แค่กๆ

               ตะครุบปากแทบไม่ทัน สายตาอำมหิตสามคู่จ้องมาเป็นตาเดียว “ห้ามไออีก สกปรก ถ้ากูเห็นนะ...” เขาชี้หน้าคาดโทษ หลังจากนั้นผมก็นั่งสูดหายใจเข้าลึกๆ กลืนก้อนลงคอไปตลอด 15 นาทีเพื่อกลั้นไม่ให้ไอออกมา

               เวลาแห่งความทรมานก็สิ้นสุด พวกเขากินเสร็จและใช้ผมเอาจานไปเก็บ ผมว่าเก็บจานแล้วก็จะเลยไปตึกปฏิบัติการเลยแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน

               “เฮ้ย ไอ้เปี๊ยก ใครให้มึงไปวะ” ทำไมไม่พูดเพราะๆ เหมือนเวลาอยู่กับผู้หญิงบ้าง

               ย้อนกลับมาแบบป่วยๆ พยายามไม่ต่อต้านเพราะแค่เดินตามเขาให้ทันผมก็จะตายแล้วครับ อย่าพูดถึงเรื่องให้ไปเถียงด้วยเลย “ตามกูมา”

               สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียว ที่ที่เขาพามาคือห้องน้ำเก่าหลังตึกที่สกปรกจนไม่มีใครเฉียดมาใกล้แม้แม่บ้านทำความสะอาด อย่าบอกนะว่าจะให้ผมล้างห้องน้ำน่ะ

               ปัง!

               สะดุ้งตกใจ พี่เมษปิดประตูเสียงดัง ห้องทั้งห้องเหลือเพียงแสงสลัวจากภายนอกลอดผ่านบานเกล็ดระบายอากาศเท่านั้น ใจเต้นด้วยความตื่นกลัวกับสิ่งที่จะตามมา ภาพเมื่อวานฉายซ้ำในหัวยิ่งทำให้หวาดวิตกเพิ่มขึ้นอีกสองเท่า

               “ถอดกางเกงออก”

               “!”

               และแล้วก็เป็นคำสั่งนั้น ครั้งนี้ผมทำตามอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากถูกซ้อมอีก ลมหายใจผะผ่าวขาดห่วงเป็นระลอกสะอื้น ผมร้องไห้อีกแล้ว แต่จะพยายามร้องเงียบๆ กลัวเขาจะรำคาญแล้วทำร้ายผมอีก

               เพราะสั่นไปหมดและดวงตาพร่ามัวด้วยหยาดน้ำผมจึงแก้กางเกงออกไม่ได้เสียที เขาคงรำคาญถึงได้จิ๊ปากอย่างหงุดหงิดแต่นั่นกลับทำผมสั่นหนักยิ่งกว่าเดิม พี่พอลทนไม่ไหวช่วยแก้เข็มขัดและกางเกงให้จนท่อนล่างเหลือแต่ชั้นในตัวเดียว

               “โว้! โคตรเขียวเลย เจ็บมากป่าววะ” พี่เมษกระชากแมสก์ออก เขาจับหน้าผมไปหมุนดู จงใจกดนิ้วลงบนแผลช้ำที่มุมปาก ผมเจ็บจนร้องอื้อ

               “ฮือ...”

               “เงียบ! น่ารำคาญ รีบๆ ถอดเกงในมา กูมีเรียนต่อ”

               ผมร้องไห้อย่างเดียว กลัวเขาต่อยก็จริงแต่มันหยุดไม่ได้ พี่พอลดึงชั้นในผมลงและถอดออกไป อากาศเย็นปะทะผิวกายร้อนระอุของช่วงล่างที่เปลือยเปล่าและอ่อนปวกเปียก พี่เมษยังไม่ปล่อยหน้าผมผมจึงเหมือนถูกแขวนคอไว้ ผมเห็นพี่แม็กกับพี่พอลวิจารณ์กางเกงในสีขาวของผมอย่างสนุกปาก

               “อ่อนชะมัด ใส่กางเกงในอย่างกับเด็ก”

               “จืดสนิทเลย กางเกงแบบนี้สาวๆ ที่ไหนจะมาสนใจ สีขาวอีกต่างหาก”

               “ตัวแม่งโคตรเล็กเลยว่ะ”

               “ก็เจี๊ยวมันมีแค่นั้นมันก็ต้องไซส์นี้แหละมึง ฮ่าๆๆ”

               “เฮ้ย นี้มึงเรียนมหา’ลัยแล้วจริงเหรอวะ”

               น่าเกลียดที่สุด! คนปกติที่ไหนจะเอากางเกงในคนอื่นไปดึงเล่นแบบนี้บ้าง พวกเขาผลัดกันดึงไปดึงมา แย่งกันราวกับมันเป็นของเล่น มันเหมือนการทำลายศักดิ์ศรีให้ย่อยยับ เกลียดอะไรกันถึงต้องทำกันขนาดนี้ด้วย

               “ไอ้อ่อน มึงจะไปไหนก็ไป แต่นี่...” เขาโบกมันในอากาศก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไป “กูขอละกัน... และครั้งหน้า เอาตารางเรียน เบอร์โทรเบอร์ห้องมาให้กูด้วย”

               “บายนะไอ้เปี๊ยก”

               “...”

               ผมก้มหน้ากัดปาก ลืมความเจ็บครั้งก่อนไปแทบทั้งหมด พวกเขาเรียงแถวยีหัวผมแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป อีกครั้งที่ผมต้องถูกทิ้งให้จัดการตัวเองเพียงลำพัง

               ข้างล่างมันโล่งแปลกๆ แม้จะมีกางเกงตัวนอกมิดชิด ผมเปิดก๊อกขึ้นสนิมรอน้ำสีโคลนใสขึ้นก็วักใส่หน้าอย่างรุนแรงคล้ายจะระบายความอัดอั้นในใจ

               เอาเถอะ มันผ่านไปแล้ว… อีกครั้งหนึ่ง ยังไงซะชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ผมยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอีกมาก จะมาใส่ใจกันเรื่องแกล้งกันในโรงเรียนแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวังซ้ำซาก กับการเรียนต้องทำให้ดีที่สุด เหตุการณ์ต่างๆ มันแค่ผ่านมาและผ่านไปเท่านั้น พอพวกเขาเบื่อ เดี๋ยวก็เลิกไปเองนั่นแหละ



               “โบเป็นอะไรหรือเปล่า เราไม่เห็นโบมาทานข้าวด้วยเลย แล้วทำไมตาแดงๆ ล่ะจ้ะ ไข้ขึ้นเหรอ”

               ผมมาทันเช็คชื่อพอดี รู้สึกร่างไร้เรี่ยวแรงและดวงตาเหมือนมีน้ำรื้นอยู่ตลอดเวลา บัวที่จองที่นั่งไว้ให้ถือวิสาสะทาบมือกับหน้าผากผม ผมชักตัวหลบบอกเบาๆ ว่าไม่เป็นไร เธอหน้าเสียเล็กน้อย แต่ผมยังไม่พร้อมจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ ขอแค่ครองสติให้อยู่รอดจนหมดคาบก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดทีหลัง

               มันเป็นแล็บที่ต้องยืนตลอดครับ ความรู้สึกโล่งๆ จึงยิ่งชัดเจน สมาธิผมไปอยู่ที่นั่นเสียเป็นส่วนใหญ่จึงเผลอลืมควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไป บวกกับความเครียดที่เพิ่มขึ้น อาการเลยออกมากตามมา รู้ตัวอีกทีตรงหน้าผมก็มีแต่วัตถุดิบหกกระจัดกระจายแล้วครับ

               “นี่เธอ! ทำดีๆ หน่อยสิ เละเทะหมดแล้ว” เพื่อนในกลุ่มว่าให้จนได้ พวกเขาขนของหนีห่างไปอีก เหลือเพียงบัวที่ยังยืนข้างผมไม่ไปไหน ผมดีใจที่อย่างน้อยข้างๆ ก็ไม่ได้ว่างเปล่าไปเสียหมด แต่คงจะดีกว่าถ้าเธอจะห่างๆ ผมบ้าง ไม่อยากให้ถูกมองไม่ดีด้วย

               ในที่สุดก็ได้กลับเสียที ผมทั้งปวดหัวปวดแผลเจ็บคอแสบตาสารพัดไปหมด อยากล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลยได้ยิ่งดี แต่อย่างที่บอก ผมยังมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

               เวลาเจ็บป่วยผมจะคิดถึงแม่ อยากไปนอนกับแม่ซึ่งก็ทำอยู่เสมอ แต่ผมจะกลับไปโดยมีแผลแบบนี้ไม่ได้ ไม่อยากให้เป็นห่วง แถมถ้าพ่อเห็นแม่เองก็ต้องโดนดุพร้อมกับผมด้วยเช่นกัน

               กลับถึงห้องโดยสวัสดิภาพ จับการอาบน้ำกินยาแล้วกระแทกตัวลงกับที่นอนพร้อมที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราตั้งแต่หกโมงครึ่ง

               หลับตาลงสักพักก็กลับลืมขึ้น ผมจัดกระเป๋าสำหรับเรียนพรุ่งนี้อย่างที่ทำเป็นประจำก่อนนอน เพื่อที่ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องรีบเร่งหาชีทเรียน ไม่ลืมที่จะหยิบตารางเรียนเทอมนี้ใส่แฟ้มไปด้วย เดี๋ยวค่อยไปถ่ายเอกสารที่ห้องสมุด…

               อ่า… จริงหรือเนี่ย ผมทำตามที่เขาสั่งจริงๆ ด้วยแฮะ...

               ขาหมดแรงเสียดื้อๆ สงสัยเพราะปวดท้องที่ไอกับกลั้นหัวเราะมากไปแน่ๆ ผมทรุดกองกับพื้นข้างๆ โต๊ะเขียนหนังสือ ในใจคิดถึงวันพรุ่งนี้ว่าควรจะเตรียมกางเกงในไปสองตัวดีไหมนะ… ให้ตายสิ ขำชะมัด ผมเริ่มพูดไม่เพราะแล้วสิ

               “หึ… ฮะๆ ฮ่าๆๆ ฮะ ฮึก ฮือ...”



++++++++++20++++++++++++++++++20++++++++++++++20+++++++++SMMMMMMM

แหม พอจั่วหัวว่าSM 20+ นี่ตามมากันเต็มเลยนะยะ 555


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:38:43 โดย madmay »

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ว้ายยย ชั้นชอบจัง5555555 แต่เกรียจอีแม็กตอนมันขู่น้องง่ะ ถ้าน้องช้ำใน หรือ ซึมเศร้ามาทำไงห๊าาาาา :m31: :angry2: มาต่อไวน้าาาา อันนี้คนเขียนจะอัพทุกวันหรือตามใจฉัน พะเจ้าคะ เราจะได้ตามอ่านถูก555555 เขียนต่อไวๆน้าเรารออ่าน จุ้บ :impress2: :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จะเอาไปดมก็บอกมาเตอะ ฮ่าๆๆๆ
แอบสงสารโบจัง
ใช่เลย อิอิ ดีน่ะแวะมาอีกรอบ

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
มันจะต้องมีวันที่คอมโบจะแก้แค้นชิมิ แม่ยกคนนี้พร้อมหนุนหลังเอาคืนไอ้สามตัวนั้น ฮึ่มๆ  :z6: :z6:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คือสงสารโบมากๆเลยอ่ะ น่าสงสารตั้งแต่เป็นTic disorderแล้ว ยังต้องมาเจอคนเลวๆแบบแม๊กและผองเพื่อนอีก
ก็สงสัยนะว่าคนเลวๆแบบแม๊กและผองเพื่อนโดนเลี้ยงมายังไงให้ชั่วเพียวๆ รังแกคนอ่อนแอกว่ามันสนุกนักหรอ?

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
ว๊าาาา วันนี้ไม่ทันอ่ะ งานล้น พรุ่งนี้จะรีบๆๆๆๆปั่นให้เลย(แต่เสร็จรึป่าวอีกเรื่อง555)
ส่วนตัวเราชอบแนวดราม่านะ smด้วย รู้สึกว่าแนวนี้จะลื่นปรื้ดๆในสมองเราดี
เคยคิดนะว่าไอ้พระเอกที่มันเลวเสมอต้นเสมอปลาย เลวได้ใจ ชั่วแต่เด็กยันโต สันดานชั่วช้าสามานเข้ากระดูกดำแบบไร้เหตุผลมันเว่อร์ไปเว้ย คนจริงที่ไหนจะเลวโดยไม่มีสาเหตุได้ขนาดนั้น พ่อแม่ก็เลี้ยงดีบ้านไม่มีปัญหามึงเอาปมที่ไหนมาทำตัวโหดร้ายกับนายเอกวะ(คะ) ชั่วชีวิตชั้นจะไม่เขียนพระเอกชิงนรกเกิดแบบนั้นแน่นอน
แต่ๆๆๆๆมันก็ พลิก!!!!
แมมมมมมมมมมม่ง มีจริงดิ๊!!!
เฮ้ย! นี่เกิดเป็นคน? โอ้วววว โลกยิ่งอยู่ยากขึ้นทวีคูณเมื่อชั้นเจอคนเลวววววว อย่างไร้ที่มาจริงๆ อะเมซิ่ง


สรุป! เลยยอมให้พระเอกของเราเลวถึงแก่น+คุณเพื่อนที่แน่นอนว่าคบกันได้นิสัยมันต้องเหมือนกันอยู่แล้ว ทีนี้ล่ะ ชั้นจะได้ปู้ยี่ปู้ยำน้องคอมโบได้อย่างสะดวกใจไม่ต้องกังวลว่ามันจะไม่สมจริง

บ่นยาวว่ะ
เอาเป็นว่าเราจะอัพแบบตามใจ(งานประจำ)ละกัน วันไหนเคสน้อยก็จะได้ยาวหน่อยมากระท่อนกระแท่นบ้างอย่าว่ากันนะ
ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่ต้องการคนโลกสวย เราจะได้ดาร์กถึงขิงไม่มีเกรงใจใครนะจ้ะ
อ้อๆ ขาดไม่ได้เลยคือตัวละครดัดแปลงมาจากชีวิตจริง เขาเหล่านี้เป็นเคสที่เคยผ่านตามา ลักษณะอาการค่อนข้างอิงความจริง+ใส่ไข่เติมแป้งนิดหน่อย ต้องขอบคุณพวกเขาและขอให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นพบแต่ความสุขตลอดไปด้วย
แล้วเจอกันนะยะหมู่สู รอนะ เค
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:42:20 โดย madmay »

ออฟไลน์ mamaree

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :impress3: :a5: :z13: มาได้แล้วค้าาา  รอรอรอ

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu
คือ เกิดไรขึ้นไม่รู้ เมื่อวานพิมพ์ไว้ตั้งยืดยาวพอจะอัพปุ้บ
เอ๊าว นางอัพซิม4จีค่า ปิดระบบชั่วคราว วันหยุดอยู่หอไม่มีไวไฟ ต้องลักที่ทำงานใช้
ไม่เป็นไร เราพิมพ์ไว้แล้วในไดรฟ์
เอ๊าววววว นางไม่เซฟ ไม่มีเนทไม่เซฟ ลืมเซฟออฟไลน์ไว้ด้วย
เช็ดโด้โคอาล่ามาช
พิมพ์ใหม่...
นี่ใช้เนทได้ก็ลงเลยนะนี่

แก้เคล็ดด้วยตอนหวานๆ(?) เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง


-3-


               “ไหน”

               คำสั้นๆ เพียงคำสั้นๆ เพียงพยางค์เดียวแค่อธิบายความต้องการของเขาได้ทั้งหมด วันนี้เขาใช้ให้คนอื่นมาตามผมไปหาเขาที่คณะวิศวะครับ มาถึงปุ้บก็เห็นเขานั่งอยู่กับพี่สองคนนั้นเหมือนเดิม ไม่มีใครคบอีกแล้วหรือไง หรือว่าศีลเสมอกันจริงๆ ถึงจะคบกันได้

               ผมเอาสำเนาตารางเรียนพร้อมข้อมูลติดต่อวางบนมือที่แบรอโดยสายตายังคงจดจ้องจอมือถือตัวเอง ทำเหมือนไม่ใส่ใจผมแต่ถ้าผมขัดใจนิดเดียวคงได้เจ็บตัวอีกแน่

               “...วันพุธหยุด?”

               “...”

               “เฮย”

               “ค ครับ!” อะไรอ่ะ พูดด้วยก็ไม่บอกใครจะไปรู้เล่า พี่เขามองตาขุ่นเริ่มอารมณ์เสียนิดๆ

               “ดี พุธกับเสาร์อาทิตย์ไปห้องกู”

               “ฮะ?”

               “จิ๊!” อะไรอีกล่ะ อยู่ๆ ก็โมโห ผมงงผมก็ถาม เดี๋ยวพอไม่รู้ก็โดนอีก เอาใจยากจริง

               “ทำหน้า ไม่พอใจไงวะ”

               “เปล่าครับ!”

               และตามนั้น… แย่หน่อยคือวันนี้เป็นวันศุกร์ เพราะฉะนั้น นรกของผมมันจะเริ่มวันพรุ่งนี้...

               พี่แม็กสั่งให้ผมไปเก็บของที่จำเป็นหลังเรียนเสร็จแล้วเขาจะวนไปรับที่หอ อย่างน้อยก็ยังใจดีไปรับล่ะนะ แต่ว่า… ทำไมผมต้องไปอยู่กับเขาด้วยล่ะ แล้วเพิ่งมาเอะใจด้วยนะ สงสัยเพราะไข้ยังไม่หายสมองเลยช้าอย่างกับตัวสล็อตขนาดนี้

               เหลือเวลาอีกพอสมควรก่อนจะถึงเวลานัด แต่เพื่อความปลอดภัยผมลงไปรอพี่เขาเลยดีกว่า พาดกระเป๋าบนบ่าแล้วก็ไปรอที่ด้านหน้าตึก ผมคิดถูกแล้วล่ะที่ลงมารอเลย

               “เฮ่ย”

               นั่นไง นั่งก้นยังไม่ทันอุ่นพี่แม็กก็เรียกมาก่อนนัดตั้งสิบนาทีครับ พี่เขาเอาคันเดิมที่เคยมาส่งผม มันเป็นมอไซต์คันใหญ่ๆ เท่มากๆ เลย เข้ากับบุคลิกของพี่เขาสุดๆ ผมเดินไปด้วยความมึนๆ อึนๆ พอไปยืนข้างรถแล้ว...

               ขึ้นไงอ่ะ

               คือรถมันสูงเลยเอวผมไปอีกอ่ะครับ แล้วผมก็หาที่เหยียบไม่เจอ ก้มๆ เงยๆ หาทางขึ้นอยู่พักนึง เห็นสายตาพี่เขามองแบบ…

               “มึงทำอะไร”

               ผมกระพริบตาปริบๆ มองเขาสลับกับเบาะสูง ยอมรับว่าเตี้ยแต่ไม่เคยรู้สึกเป็นปนด้อยจนกระทั่งมาเจอรถพี่นี่แหละ

               “จิ๊! ไมโง่งี้วะ”

               “อ๊ะ!”

               พี่แม็กลงมาแล้วหิ้วแขนผมจนลอยคร่อมเบาะได้ ทำเหมือนผมเป็นเด็กเลย จัดการเรียบร้อยก็วาดขาตามมาแล้วพุ่งทะยานออกไปทันที แรงส่งทำผมเกือบตกรถ เพื่อความปลอดภัยจึงจับชายเสื้อคนตรงหน้าไว้ให้มั่น กลัวว่าเขาจะหันมาดุเหมือนกันนะ แต่กลัวตกมากกว่า



MAGNUM’s part



               “อ๊ะๆๆ พี่แม็ก”

               “อ้า อ้าาา”

               “จะถึงแล้ว เร็วอีกๆ อ๊าาา”

               อ้า… เสร็จอีกหนึ่งน้ำ ผมถอนตัวออก พลิกตัวนอนหงายข้างดิวเดือน(สักคณะ)ที่หมดแรงไปแล้ว… ครับ อ่านไม่ผิดหรอก เดือนนี่แหละ ผมมันได้ทั้งชายหญิงขอแค่หน้าดีก็พอ ลมหายใจปรับสู่ปกติในไม่ช้า ผมหายเหนื่อยเร็วแบบนี้แหละครับ ได้ออกแรงแล้วรู้สึกสดชื่นพาลให้อารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง

               หลังจากกลับห้องมาผมจัดแจงถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำเช่นทุกครั้ง ตอนถอดกางเกงเผอิญล้วงไปเจอกางเกงตัวน้อยในกระเป๋า

               “ลิงไอ้เปี๊ยกนี่หว่า… เอามาไมวะกู” บ่นกับตัวเอง ไม่เข้าใจว่ายังเก็บไว้ทำไม ทิ้งไปซะก็สิ้นเรื่อง ไอ้อ่อนนั่นคงไม่ตามไปคุ้ยเอามาใส่หรอก

               นึกแล้วก็ขำ มันต้องเรียนคาบบ่ายด้วยอาการลมเย็นฉิวๆ แม่งจะทำหน้ายังไงวะ โยนผ้าชิ้นน้อยในมือไปสักที่หนึ่ง ผมเปลี่ยนเป้าหมายมานั่งลงบนเตียง ห้องกูไมรกงี้วะ ช่างแม่ง หยิบโทรศัพท์มาเลื่อนๆ ดู รูปไอ้เด็กนั่นแก้ผ้าทำผมขำได้เสมอ ดูๆ ไปมันน่ารักนะ น่ารักแบบผู้ชายตัวเล็กๆ ไว้ผมทรงกะลา ไม่ได้แบ๊วสาวแตกแบบตุ๊ดเท่าไหร่ ถ้ามันหุ่นดีแล้วก็แต่งตัวเป็นคงจะป๊อบน่าดู… แต่สภาพนี้ ผู้หญิงคงไม่เอา

               แต่ถ้าผู้ชายน่ารักก็ต้องดิว ของเขาขึ้นชื่ออยู่ ยกหูกริ้งเดียวก็ผูกโบว์ใส่พานถวายตัวถึงที่เลย

               นอนมองเพดานว่างเปล่า แต่แปลกที่ยังนึกถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่ยังติดอยู่ในหัว สงสัยดูรูปมันบ่อยจนหลอน นอนคิดไปคิดมาไม่ยักง่วงเสียที น่าเสียดายที่วันนี้ลืมถ่ายคอลแลกชั่นใหม่… 

               จะถ่ายทำไมให้เสียเวลา ก็แค่ให้มันมาอยู่นี่เสียเลยก็สิ้นเรื่อง ทีนี้อยากให้มันทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ แถมยังได้คนใช้ส่วนตัวด้วย มันเรียนคหกรรมงานบ้านงานเรือนมันคงถนัดอยู่แล้ว ห้องกูจะเอี่ยมก็คราวนี้ล่ะ ฮ่าๆๆ

               “อืม พี่แม็ก กอดหน่อยสิครับ”

               ยั่วขนาดนี้อีกรอบดีมั้ยเนี่ย อ่า… ต้องทำห้องให้รกที่สุดไว้ต้อนรับมันดีกว่า ว่าแล้วก็จัดไปอีกหลายยก จนดิวสลบคาอกไปนั่นแหละ แล้วทิ้งทั้งถุงยาง ทิชชู่ ขยะต่างๆ เอาให้เกลื่อน พรุ่งนี้มันต้องมา เรื่องตารางเรียนมันผมสืบมาแล้วแต่อยากแกล้งให้มันเตรียมเอง

               จะสนุกขนาดไหนกันนะ ชักรอไม่ไหวแล้วสิ



50%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:42:42 โดย madmay »

ออฟไลน์ princeofdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมพี่แม็กซ์ทำแบบนี้อ่าแกล้งเขาระวังหลงรักเน้อ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เอาอีกๆๆๆๆ
ต้องมีช่วงโบเอาคืนบ้างล่ะน่ะ
ลุ้นต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ SUPERMUAY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เรื่องเหมือนจะเศร้า. แต่ทำไมเล่าแล้วขำ.
 :hao6:

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อะไรคือความสั้นนี้ น้ำตาจิไหล กราบละค่ะรีบมาต่อเถอะะะ ค้างมากกก ขอหนักๆ5555555 :hao7: สู้ๆนะจ๊ะเป็นกำลังใจให้ พักผ่อนมั่งน้า จะได้มีแรงมาแต่งต่อ :z2: :z13:

ออฟไลน์ madmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • twitter.com/gaa_nu


วันนี้งานน้อยเลยนั่งปั่นทั้งเช้าเลย สบายจายยยย หัวหน้าก็ไม่อยู่555 ที่จริงเรื่องนี้ดราม่ากว่าครึ่งนะ เพียงแต่วิธีเล่าออกมาจากมุมมองของคอมโบเนี่ยดูไม่เศร้าสุดๆ เพราะแม้ชีวิตจะบัดซบแค่ไหนแต่ภายในโบเป็นคนเข้มแข็งมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะมองแบบเฉยๆ ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็จะสุภาพเสมอ อย่างตอนเด็กถูกเพื่อนทิ้งนางก็พอจะโอเค ตอนเรียนไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร แค่มีกลุ่มทำงานก็พอ และจริงๆ นางไม่ใช่คนยอมใครมีเวลาเอาคืนแน่นอน แต่อะไรทนได้ก็จะทนจนถึงที่สุด ส่วนอิแม็กและผองเพื่อน… มันเป็นสันดาน





ต่อ50%

               ทุ่มกว่าแล้วผมเพิ่งถึงหอพี่แม็ก ที่ช้าเพราะพี่แกวนไปเอาของที่คณะ (รับผมก่อนเพื่อจะได้ให้ผมขนของล่ะสิ) ก็กล่องลังหนึ่งใบใหญ่ๆ เขาให้ผมอุ้มมาตลอดทาง ของมันไม่ได้หนักถึงขั้นยกไม่ไหวแต่ก้นกล่องมันไม่ได้ยึดไว้และจะอ้าออกตลอดผมจึงต้องใช้แขนสั้นๆ โอบให้รอบกล่องนั่นซึ่งลำบากเหลือเกิน

               คลิก

               “เข้าไปแล้วเก็บห้องให้กูด้วย” สั่งๆๆ

               ช็อค! ในห้องเบื้องหลังประตูสีขาวสะอาดที่ผมถูกผลักเข้ามามันตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง เกินคำว่ารก และรังหนูอาจจะน่าอยู่กว่าเสียด้วยซ้ำ ผมมองพื้นห้องที่เต็มไปด้วยเศษขยะนานาประเภททั้งกระดาษ ถุงขนม เสื้อผ้าใส่แล้วและยัง… เศษซากน่าขยะแขยงพวกนั้น นี่มีปาร์ตี้เซ็กส์หมู่กันหรือไง! ตัวผมไม่ได้ใสซื่อเดาเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ออกหรอกนะ แต่จะให้ดีผมไม่อยากรู้เสียจะดีกว่า

               “กูจะลงไปซื้อเบียร์ มึงจัดการให้เสร็จก่อนกูมาแล้วกัน”

               ปัง!

               เขาปิดประตูเสียงดังไม่เกรงใจชาวบ้าน ปล่อยผมยืนเคว้งท่ามกลางภูเขาขยะ หวังว่าจะไม่มีงูนะ เอากล่องว่งลงบนโต๊ะตัวที่เหลือเนื้อที่มากที่สุดแล้วเท้าเอวมองห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีห้องน้ำ เตียงและครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยจานกองพะเนิน

               จะเริ่มจากตรงไหนดีเนี่ย… ไม่มีเวลามาคิดแล้ว!



               20 นาทีผ่านไป

               ได้ยินเสียงคนคุยกันที่หน้าประตู อย่าบอกนะว่าเขากลับมาแล้ว ไม่น่าใช่ เพราะเขาไปคนเดียวนี่ เอ๊ะ! หรือพี่อีกสองคนนั่นมาด้วย

               “เฮ้ย เสร็จยังวะ พวกกูจะแดกเหล้ากัน” ทำไมต้องเรียกแบบนั้นตลอดเลย ผมมีชื่อนะ

               โชคดีที่ผมเร่งมือทำจนเกือบเสร็จ ขยะทั้งหลายย้ายไปอยู่ในที่ๆ มันควรอยู่ แม้จะไม่ได้กวาดถูอย่างดีแต่ก็จัดๆ ไปเท่าที่เวลาอำนวยก็ทำให้ดูสะอาดตาขึ้นจนพี่พอลร้อง “สุดยอดดด มึงๆๆ กูขอดูรูปbeforeใหม่ดิ๊ แม่งเอี่ยมอย่างกับไม่ใช่ห้องมึงอ่ะแม็ก” อย่าเพิ่งออกไประเบียงละกัน พอดีผมเอาจานใช้แล้วไปยัดไว้… ไม่น่าเชื่อว่าจะดองไว้ขนาดนั้นบางใบราขึ้นด้วยครับ แต่ได้ออกแรงให้เหงื่อออกก็ดี ผมรู้สึกว่าจมูกโล่งขึ้นแถมสดชื่นขึ้นด้วย คงจะหายไข้แล้ว

               “สมแล้วที่เรียนคหกรรม มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนดี” คหกรรมไม่จำเป็นต้องทำงานบ้านเก่งทุกคนนะครับ มันมีตั้งหลายสาย

               “น้องโบ เอาของพวกนี้จัดใส่จานแล้วยกมาที่โต๊ะด้วยนะครับ” พี่เมษ เกือบดีแล้วครับ ถ้าพี่จะช่วยผมด้วย ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว

               ผมแกะถุงกับแกล้มจัดใส่จานแล้วยกไปเสิร์ฟตรงโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง เงี่ยหูฟังพักนึงไม่มีใครเอาอะไรเพิ่มผมเลยผละไปล้างจานต่อที่ระเบียง พวกเขาคุยกันดังมากจนผมเกรงใจชาวบ้านแทน ยิ่งเวลาผ่านไปเหมือนยิ่งเมา

               หอบกองจานชามเข้ามาเก็บให้เรียบร้อย หันมาดูอีกทีแทบเข่าอ่อน ห้องที่ผมอุตส่าห์จัดระเบียบไว้กลับมารกในพริบตาด้วยกระป๋องเบียร์ ทิชชู่ เศษอาหารเกลื่อนไปหมด

               เฮ้อ ถอนหายใจเบาๆ เอาถุงพลาสติกที่ใส่ของมาสะบัดสองสามทีให้มันพอง ผมค่อยๆ เก็บขยะจากนอกสุดไปเงียบๆ ไม่ให้รบกวนพวกเขา แล้ววนเข้ามาใกล้วงเรื่อยๆ

               ดีมาก คุยไปเถอะไม่ต้องสนใจผมน่ะดีแล้ว

               “เฮย”

               “ค ครับ!” ตกใจหมด ช่วงนี้ขวัญเกินไปแล้ว

               “จะเที่ยงคืนแล้วมึงไปอาบน้ำไป”

               “...?” ใจดีแปลกๆ นะฮะ พี่แม็กบอกเสร็จก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อ นาฬิกาบนผนังบอกเวลาอีกประมาณสิบกว่านาทีจะเที่ยงคืนอย่างเขาว่า นี่กินกันนานมากเลยนะครับ หน้าเริ่มแดงๆ กันแล้วด้วยสงสัยจะเมา ผมเองก็วุ่นกับห้องเขาจนลืมเวลาเหมือนกัน

               เก็บกวาดขยะล็อตสุดท้ายแล้วก็ไปเตรียมอุปกรณ์จากกระเป๋า เข้าห้องน้ำไปแล้วจัดการตัวเองอย่างพิถีพิถันโดยไม่กลัวไข้กลับ

               ซ่า...

               ก๊อกๆๆ

               เสียงเคาะประตูลอดสายน้ำกระทบหูให้ได้ยิน ผมหมุนก๊อกเบาน้ำเพื่อรอฟังชัดๆ

               “เฮ้ยมึง ออกมาเดี๋ยวดิ๊” ไม่คิดจะเรียกชื่อกันจริงๆ เหรอ ผมปิดน้ำแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเผื่อเขามีอะไรเร่งด่วนถึงได้ทุบประตูรัวๆ มัวใส่เสื้อผ้าจะไม่ทันการ

               “ครับ?”

               ออกมาก็เจอทั้งสามคนยืนขวางเต็มประตู หน้าแต่ละคนเยิ้มมากเลย ตาปรือเริ่มพูดอ้อแอ้ไม่เป็นคำกันแล้ว แว้บหนึ่งที่เห็นดังนั้น ผมกวาดสายตามองหามือถือของแต่ละคน เห็นเครื่องหนึ่งบนพื้นข้างกระป๋องเบียร์เปล่าๆ ใต้โต๊ะ อีกเครื่องที่ปลายเตียง ก่อนที่จะเจอเครื่องสุดท้ายสติผมก็ถูกดึงกลับมาด้วยบทสนทนาของทั้งสาม

               “กูบอกแล้วมึงจ่ายกูกับไอ้แม็กมาเลยไอ้เมษ”

               “ไรว๊าาา มึงหารกันเลย”

               “อย่าลีลาเชี่ยเมษ แพ้แล้วอย่าพาล กูบอกมึงแล้ว ไอ้เตี้ยมันกลัวกูจะตาย ถ้าเรียกนะไม่ทันใส่เสื้อผ้ามาแน่นอน ฮ่าๆๆ”

               หมายความว่าไงน่ะ งงได้ไม่นานผมก็เข้าใจทุกอย่างด้วยประโยคของพี่แม็ก นี่เขาพนันกันว่าผมจะออกมาด้วยสภาพไหนงั้นเหรอ ผมเหลืออดแล้วนะ!

               “เอาไปๆ ” พี่เมษควักแบงค์แดงให้พี่แม็ก “แต่กูไม่จ่ายมึงไอ้ฝรั่งหัวK มึงบอกว่ามันจะแก้ผ้าออกมาไม่ใช่ไม่ใส่เสื้อผ้า”

               “ไรวะ มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละมึงจ่ายมาเลย” ช่วงที่เขาสองคนหันไปเถียงกันผมก็เจอมือถือเครื่องสุดท้ายในกระเป๋ากางเกงพี่เมษแล้ว

               คำนวณแผนการในหัวรอจังหวะที่จะตอบโต้บ้าง แต่คนที่ยังขวางอยู่หน้าประตูนี่สิ

               พี่แม็กนับเงินเสร็จก็หันาสนใจผมอีกครั้ง เห็นผมยืนก้มหน้ากัดริมฝีปากล่างกำหมัดแน่นเขาจึงพูดขึ้นอย่างหยอกล้อว่า “อะไรๆ โกรธเหรอจ้ะหนูน้อย”

               “!” มือหนาจับหน้าผมเงยขึ้นสบกับเขา แล้วก็ต้องผงะเมื่อเจอกับสายตาที่เปลี่ยนไปของผม ผมรู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นเกลียดชังที่ผ่านทางสายตาจนร้อนผ่าว แม้แต่น้ำที่คลอหน่วยก็ร้อนราวกับน้ำต้มเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้มากขนาดนี้ โมโหเลือดขึ้นหน้าเป็นอย่างไรผมรู้แล้ว

               “อะไร คิดจะสู้หรือไง มึงไม่สนแล้วใช่มั้ยว่ากูจะปล่อยรูปทุเรศๆ นั่น- อั่ก!”

               โครม!

               แรงฮึดจากไหนไม่รู้สั่งให้ผมชกเต็มแรงเข้าที่กลางอกแน่น เขาเซเล็กน้อยผมอาศัยจังหวะนั้นดึงกางเกงเขาไว้แล้วเอาหัวดันให้เสียศูนย์จนล้มลงเสียงดังสนั่น อีกสองคนหันมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นแต่สมองที่ถูกครอบงำด้วยน้ำเมาทำให้เคลื่อนไหวได้ช้ากว่าผม

               ผมพุ่งตัวผ่านพวกเขา เป้าหมายคือโทรศัพท์สองเครื่องนั่น คำนวณระยะทางในหัวเพื่อหาทางที่ใกล้ที่สุด มือถือเครื่องแรกที่อยู่บนเตียงผมได้มันมาแล้ว ขณะที่ผมไปถึงอีกเครื่องหนึ่งพวกเขาก็เริ่มตั้งหลักได้แล้วกรูกันมาทางผมทันที ดูท่าจะสร่างกันเต็มตาเลยล่ะ แต่ก็ยังช้าไป สองเครื่องนั้นอยู่ในมือผมแล้ว ผมไม่สนเครื่องที่อยู่ในกระเป๋าพี่เมษ มันเสี่ยงเกินไป และความเป็นไปได้ที่จะมีรูปของผมมันน่าจะอยู่ที่ของพี่พอลกับพี่แม็กมากกว่า

               ซ่า!

               ผมไปที่อ่างล้างจานเปิดก๊อกจนสุดอุดรูแล้วโยนมือถือสองเครื่องนั้นลงไป ทันมองเห็นฟองอากาศผุดออกมาจากอุปกกรณ์สี่เหลี่ยมนั่นแล้วยิ้มให้ตัวเอง ในหัวโล่งพอๆ กับหัวใจที่เบาหวิวจนน่าใจหาย ไม่นานพวกเขาก็มาถึงตัวผม และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปผมก็คำนวณไว้แล้วเช่นกัน

               ผัวะ!

               “แม่งเอ้ย! โทรศัพท์กู! พังหมดแล้ว” พี่พอลครวญคราง ส่วนเจ้าของอีกคนก็กำลังยุ่งกับการทุบผมกับพื้น

               ฮ่าๆ สำเร็จ

               “เปิดไม่ติดเลยแม็ก”

               พี่แม็กผลักผมทิ้งไกลๆ ตัวแล้วไปดูใจโทรศัพท์ตัวเอง ฮ่าๆๆ ตลกดี น่าซีดกันเป็นแถวเลย ท่าทางร้อนรนนั่นถูกใจผมที่สุด โดนซ้อมอีกก็ไม่เป็นไรถ้าได้เห็นภาพหายากเหล่านี้อีกครั้ง รู้แล้วล่ะว่าการแกล้งคนอื่นมันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง

               “มึง!!!”

               “อ๊า!!!” เจ็บ! พี่แม็กจิกหัวผมลากไปทางระเบียง ตัวผมครูดกับพื้นจนแสบผิว ผ้าเช็ดตัวหลุดไปตอนไหนไม่รู้ทำให้ตอนนี้ผมเหลือเพียงตัวเปล่าๆ ความสะใจเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นหวาดระแวง ณ อารมณ์ชั่ววูบนั้นผมลืมคิดไปว่าถ้าพวกเขาไม่พอใจผมคงจะโดนหนักขึ้น

               เขาเลื่อนประตูดัง ครืด แล้วโยนออกไปนอกระเบียงทั้งที่ตัวล่อนจ้อน พอตัวผมพ้นเขาก็เลื่อนมันปิดลงกลอนข้างในทันที

               “พี่! พี่เปิด ให้ผมเข้าไปนะ!”

               “มึงอยู่นั่นแหละ กล้ามากนะมาพังโทรศัพท์กู!”

               “พี่ พี่! ผมขอโทษ พี่เปิดประตูหน่อย ผมขอโทษ!” ผมทั้งดึงทั้งเขย่าประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย ข้างในห้องพี่แม็กกับพี่พอลมองผมราวกับจะสาปให้ตาย พี่เมษยังคงพยายามซ่อมมือถือให้เพื่อนต่อไป แต่เพราะไม่ใช่รุ่นกันน้ำ พอแกะฝาออกมาจึงมีน้ำไหลออกมานองพื้น

               พี่แม็กกลับมานั่งยองตรงข้ามผม เสียงเย็นชาลอดกระจกฟังดูอู้อี้แต่กลับบาดลึกถึงขั้วหัวใจ “ถ้าเสียงดังข้างห้องจะได้ยินเอานะ”

               “พี่… ฮือ… ผมขอโทษครับ ให้ผมเข้าไปเถอะนะ” ผมอ้อนวอนเสียงอ่อน ผมร้องไห้และขอร้องซ้ำๆ ลดเสียงลงเรื่อยๆ เพราะกลัวว่าข้างห้องจะได้ยินแล้วออกมาดูอย่างเขาว่า จนเหลือเพียงเสียงสะอื้น ผมพนมมือขอให้ยกโทษด้วยภาษากาย ตาก็สอดส่ายกลัวใครจะเห็นผมในสภาพเปลือยเปล่า ผิวขาวตัวความมืดยามราตรี ที่ห้องด้านขวาผมเห็นแสงไฟสว่างพรึบจึงทุบกระจกเบาๆ ทั้งน้ำตาอีกครั้ง

               “...”

               แต่เขากลับกระชากม่านปิดตัดขาดจากผม ผมถอยตัวชิดระเบียงที่เป็นปูนทึบครึ่งล่างแล้วกอดเข่าชิดอกแน่น แม้จะเป็นชั้นสี่แต่เนื้อที่ปิดทึบสูงเพียงหัวเข่าหากยืนขึ้นคนด้านล่างก็เห็นได้ชัดเจน ห้องข้างๆ ปิดไฟไปแล้วแต่ก็ยังวางใจไม่ได้

               ความใจกล้าเมื่อตอนนั้นหายไปในพริบตา ผมกลับมาเป็นไอ้อ่อนขี้กลัวเหมือนเดิม กอดเข่าฟังเสียงคนด้านในผสมเสียงสะอื้นของตัวเอง คืนนี้ลมพัดแรงจนใจสะท้าน ภาวนาให้เขายังคงเหลือความเมตตา แล้วผมจะสัญญาว่าจะไม่ดื้ออีก ผมจะยอมทำทุกอย่าง ขอร้อง ผมกลัวพี่แล้วจริงๆ...

               “K… สัตว์… ไอ้สัตว์ ฮึก ฮือ...”



100%


ต่อไปจะหยาบขึ้นและnc

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 12:43:26 โดย madmay »

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากกก อึดอัดอ่ะอยาดจะไปตบหน้าอี3ตัวนั้น ทำร้ายน้องอีกละ แล้วจะรักเมื่อไหรละเนี้ยยยย สู้ๆนะคะคนเขียน รอต่อปุยยย :z2: :z13:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ GGamy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แนวใหม่จริงๆึ่ะ นายเอกก็น่าสงสารเหลือเดิน  :katai1:

ออฟไลน์ Dark_Sky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai1: :katai1: น้องโบบบบบบบโอ๋เอ๋นะลูกกก
อิพี่แม็กน่าตืบให้จมทำกับน้องแบบนี้ได้เยี่ยงไรเจ้าคะ :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 728
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
มาต่อไวๆ ติดหนักมากกก

 :ling1:  :ling1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มาต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด