(ต่อนะคะ)
การเดินทางมาลอนดอนของพวกเราครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นจนกระทั่งถึงวันกลับ เจมส์และดาสพาเรามาส่งที่สนามบินด้วยตัวเองและสัญญาว่าถ้ามีเวลาจะแวะไปเที่ยวที่เมืองไทยบ้าง ถุงของฝากมากมายถูกหิ้วกันคนละถุงสองถุงไปยังบริษัทเพื่อแจกจ่ายให้พนักงานทุกคน
ไม่อยากบอกว่าทุกคนต่างพร้อมใจกันละมือออกจากงานที่ทำเพื่อมาต่อแถวรับของฝากจากประธานกันอย่างพร้อมเพรียง
ตั้งใจทำงานกันจริงๆ
ไม่ใช่แค่ของฝากพนักงานเท่านั้นที่ผมซื้อมาแต่ยังมีของฝากให้พ่อกับแม่ของต้นว่านด้วย ถึงแม้จะถูกอีกฝ่ายปฏิเสธว่าไม่ต้องลำบากแต่คิดเหรอว่าผมจะยอมรามือง่ายๆ...ไม่มีทาง
สุดท้ายต้นว่านก็รับของฝากไปในที่สุด
นอกจากของฝากของให้คนแล้ว ผมยังซื้อของฝากให้สุนัขทั้งสี่ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรืออาหารสำเร็จรูป ตอนขากลับนี่ต้องใช้เวลาขนนานพอดูเลย ช่วงนี้ผมสามารถให้อาหารพวกมะนาวได้แล้วจึงไม่ต้องรอให้ต้นว่านมาทำให้ในช่วงเช้า แต่ยังไงตอนเย็นผมก็ยังให้ต้นว่านจัดการอยู่ดี
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพวกมะนาวถึงดูจะชอบอาหารที่ต้นว่านทำนัก ทั้งๆ ที่ก็แค่ตักใส่ชามเหมือนกัน มีแค่ต้นสนตัวเดียวที่ดูจะติดผมมากกว่าตัวอื่นที่ติดต้นว่านแจ
หงิ๋ง~
นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี
ต้นสน สุนัขขนสีดำสนิทมาคลอเคลียบริเวณขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้เห็นภาพของผมร้องลั่นพร้อมกระโดดหนีแล้วแน่ๆ แต่พอโดนเข้าหลายๆ ครั้ง ก็เหมือนจะรู้สึกชินขึ้นมา
“ไง...ไม่ไปวิ่งเล่นแล้วเหรอ” ผมถามพลางลูบเส้นขนสีดำสนิทนั่นเบาๆ
ดูเหมือนอาการกลัวสุนัขจะหายไปแล้ว แต่ต้องเป็นสุนัขที่บ้านเท่านั้นนะ ต้นสนส่งเสียงครางเบาๆ เป็นการตอบ ก่อนจะนอนลงกับพื้นข้างๆ โซฟาที่ผมนั่งอยู่ ประตูกระจกด้านข้างถูกเลื่อนเปิดไว้เพื่อให้สุนัขสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระรวมถึงให้ลมเย็นพัดเข้ามาด้วย
ครืดดดด~
เสียงสั่นเพียงครั้งเดียวแล้วหายไปเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้า ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความนั้นอ่าน รูปภาพและข้อความที่ส่งมาทำให้ผมต้องหรี่ตาลงก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ! อีกแล้วนะต้นว่าน เกรงใจกันตลอด” ผมถอนหายใจเมื่อเห็นรูปภาพงานเลี้ยงที่มีเค้กเขียนว่า ‘สุขสันต์วันเกิดต้นว่าน’ อยู่บนนั้น พร้อมกับเพื่อสนิทอีกสี่คน
ก็ว่าอยู่ที่ขอลางานทั้งๆ ที่เป็นพวกเอาการเอางานขนาดนั้น
ขนาดเป็นแฟนกันแล้วยังเกรงใจไม่เข้าเรื่องอีก
ถ้าเพื่อนต้นว่านไม่ส่งข้อความมาบอกผมคงนั่งอยู่เฉยๆ ไปจนหมดวันโดยที่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นสำคัญของต้นว่านแน่...ยังถือว่าโชคดีที่รู้ตอนนี้
“ไม่ยอมบอกกันแบบนี้ จะเซอร์ไพรซ์ให้หนักเลย” ผมพึมพำพร้อมยกยิ้มขึ้น
ถ้าต้นว่านบอกกันสักหน่อย ของขวัญที่ได้คงจะไม่ได้มากมายอะไรเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ แต่นี่ไม่ยอมบอกกันแบบนี้ผมก็โมโหนิดๆ เหมือนกัน ผมหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลา 11 โมงอย่างครุ่นคิด กว่าที่ต้นว่านจะกลับมาคงประมาณ 4-5 โมงเย็น ดังนั้นผมยังมีเวลาเหลือค่อนข้างเยอะสำหรับเตรียมงานวันเกิดให้
“เอาล่ะ ไปห้างดีกว่า” พูดจบก็จัดการเรียกให้ต้นสนออกไปอยู่ข้างนอกรวมกับแม่และพี่น้องตัวอื่น ก่อนจะขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล
ผมมีของหลายอย่างที่ตั้งใจจะซื้อแต่ด้วยความสามารถในการถือของที่มีจำกัดเลยต้องซื้ออย่างรอบครอบ ไม่งั้นคงหอบกลับไม่ไหว ความจริงจะให้ทางห้างมาส่งก็ได้แต่ส่วนมากมักจะส่งเป็นเวลากว่าจะได้ของครบคงพรุ่งนี้ ของขวัญประมาณ 3-4 อย่างถูกเลือกซื้ออย่างดีก่อนจะบอกให้พนักงานห่อให้อย่างสวยงาม เมื่อจัดการพวกของขวัญเสร็จแล้ว ผมก็ลงมายังชั้นล่างที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดกลาง ตั้งใจจะทำอาหารเย็นเลี้ยงต้นว่านด้วยตัวเอง ครั้งก่อนที่ทำให้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะชอบมากจนอดไม่ได้ที่จะทำบ่อยๆ
“อย่างแรกที่ต้องทำคือเค้ก...” วันเกิดก็ต้องมีเค้กสิ
ถึงอีกฝ่ายจะกินมาแล้วก็ไม่สนหรอก จะให้กินจนกว่าจะหมดเลยคอยดูสิ
นี่เป็นการลงโทษที่ไม่ยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิด
มีแฟนที่ไหนไม่ให้ของขวัญวันเกิดกันบ้างล่ะ
นอกจากเค้กและขนมหวานอีกสองสามอย่างที่คิดจะทำก็ยังมีพวกอาหารคาวอย่างเนื้ออบมะเขือเทศ มันบดอบผักโขม ซุปข้าวโพด และสลัดปลาแซลม่อน ถึงแม้จะทำหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้ทำจานใหญ่มากเพราะว่ากินกันแค่สองคน ถ้าเหลือทิ้งมันจะดูไม่ดี
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ผมก็ไม่รอช้ารีบจัดการเตรียมของทุกอย่างที่จะทำโดยเริ่มจากของที่ต้องใช้เวลาเยอะๆ อย่างเนื้ออบมะเขือเทศก่อน เมนูนี้ใช้เวลาอบค่อนข้างนาน ต้องใช้ความร้อนต่ำเพื่อให้เนื้อนุ่มและอร่อย ต่อมาก็ทำเค้กและคุ๊กกี้อีกสองสามชนิด ระหว่างที่อบอยู่ก็เปลี่ยนมาทำมันบดกับซุปข้าวโพด
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น ผมก็เร่งมือขึ้นเล็กน้อยเพราะยังไม่ได้จัดโต๊ะ กว่าจะจัดโต๊ะ วางอาหาร และวางของขวัญก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีที่ต้นว่านยังไม่กลับมาถึงบ้าน
“วันนี้กินช้ากันหน่อยเนอะ เดี๋ยวมีของดีให้ด้วย” ผมก้มลงไปบอกสุนัขทั้งสี่ตัวที่นอนอยู่ทั้งบนและล่างของโซฟายาว
วันนี้ผมทำเนื้ออบสำหรับสุนัขที่ไม่ใส่พวกเครื่องปรุงเตรียมไว้ รอให้ต้นว่านมาเราจะได้กินฉลองด้วยกัน
“เอาล่ะ...ปิดไฟดีกว่า” ผมจัดการดับไฟที่สว่างอยู่แล้วเดินไปหลบที่ห้องครัว
จะให้เปิดเข้ามาเห็นแบบปกติก็ไม่สนุกน่ะสิ
แกร็ก!
“พี่ใบไผ่ผมกลับมา...อ๊ะ ทำไมไฟในบ้านยังไม่ได้เปิด?” เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอกับห้องอันมืดสนิท มีเพียงแค่สุนัขทั้งสี่ตัวที่วิ่งออกไปต้อนรับอย่างคุ้นเคย
เจ้าของบ้านอย่างผมได้แต่แอบมองผ่านชั้นวางหนังสือที่อยู่ติดกับห้องครัวอย่างตื่นเต้น
หวังว่าต้นว่านจะยังไม่เปิดไฟนะ
“ไงมะนาว ต้นสน ต้นโมก ราตรี เจ้าของบ้านของพวกเธอไปไหนหื้อ” ต้นว่านถามพลางก้มลงไปเล่นกับสุนัขทั้งสี่ตัว ไม่นานเขาก็เดินไปทางสวิทซ์ไฟ และนั่นทำให้ผมรีบวิ่งออกไปพร้อมกระโดดกอดคออีกฝ่ายไว้แน่น...
ขืนเปิดไฟก็อดเซอร์ไพรซ์สิ
“เฮ้ย! พี่ใบไผ่?” เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ทันทีว่าเป็นใคร
“ทำไมถึงรู้” นึกว่าจะไม่รู้ซะอีก
“กลิ่นของพี่ไง แล้วสัมผัสของพี่ผมจำได้”
คำพูดหวานๆ นั่นทำให้ผมได้แต่ซุกหน้าลงที่ไหล่ของอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย
ไปหัดพูดคำหวานๆ พวกนั้นมาจากไหนกันนะ
“ว่าแต่พี่ทำอะไร ถึงได้อยู่มืดๆ แบบนี้” อีกฝ่ายถามต่อโดยที่มือทั้งสองข้างเริ่มโอบเอวผมช้าๆ
“ก่อนที่พี่จะตอบ เรามีอะไรจะบอกพี่ไหม” ผมถามเผื่อว่าต้นว่านจะยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิด
“บอก...เรื่องอะไรครับ”
จากที่ฟังคงไม่คิดจะบอกจริงๆ สินะ
“วันนี้วันเกิดต้นว่านนี่”
“พี่รู้ได้ยังไง?” อีกฝ่ายนิ่งไปสักพัก ก่อนจะถามกลับ
“แล้วทำไมเราไม่บอกพี่ล่ะ”
“ถ้าผมบอกพี่ก็ต้องหาของขวัญอะไรให้ผมอีก ผมเกรงใจ แล้วก็...”
“แล้วอะไร?”
“แค่ผมมีพี่อยู่ข้างๆ ก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว”
คำตอบที่ได้ยินทำให้ผมหลุดยิ้มกว้างออกมา “ขอบคุณต้นว่าน สุขสันต์วันเกิดนะ” ผมกระซิบบอก
“ครับ ผมดีใจที่ได้ยินจากพี่”
“แต่พี่โกรธเราอยู่นะที่ไม่ยอมบอกกันแบบนี้”
หมดเวลาโรแมนติกแล้วนะต้นว่าน
“พี่...”
“ทั้งโกรธและก็เสียใจมาก เราเป็นแฟนของพี่เพราะงั้นการที่จะรู้วันเกิดแฟนมันก็เป็นเรื่องปกตินี่ ถ้าพี่ไม่รู้จากเพื่อนเรา ถามหน่อยว่าต้นว่านจะบอกพี่ไหม” ผมถามเสียงแข็งก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟแล้วยืนจ้องต้นว่านเขม็ง
“ผมเกรงใจพี่”
“ตอบไม่ตรงคำถาม”
“พี่ใบไผ่”
“แปลว่าคงไม่คิดจะบอกพี่สินะ” พูดจบก็แกล้งทำหน้าเศร้า
“ผมขอโทษ ผมแค่ไม่อยากให้พี่ต้องวุ่นวายทำอะไรให้ผม” อีกฝ่ายแก้ตัวพร้อมมองมาด้วยสายตาที่สั่นระริก
“งั้นนี่ถือเป็นการทำโทษละกัน” ผมบอกยิ้มๆ
“ทำโทษ?”
“มาสิ...ทางนี้” พูดจบผมก็ดึงแขนต้นว่านให้เดินตามไปที่ห้องครัว
บนโต๊ะมีอาหารและกล่องของขวัญอยู่เต็มโต๊ะ ต้นว่านที่เห็นแบบนั้นก็รีบหันกลับมามองอย่างไม่เชื่อสายตา
“พี่ใบไผ่...”
“ห้ามบ่นพี่ด้วย คนที่ผิดคือเราที่ไม่ยอมบอก ถ้าบอกพี่ก่อนพี่คงไม่ทำเยอะขนาดนี้หรอก” ผมรีบพูดแทรกก่อนต้นว่านจะบ่นเสียก่อน
“ถึงอย่างนั้นนี่มันก็มากไป”
“พี่ไม่สน ของขวัญพวกนี้เอากลับไปให้หมดด้วย”
“พี่...”
“ไม่ฟังแล้วๆ มากินกันดีกว่า มีเค้กด้วยนะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง
“พี่ให้ผมมากไปแล้ว” ต้นว่านพึมพำเบาๆ ทว่าสายตาที่ประสานมานั้นทอประกายดีใจจนผมต้องส่งยิ้มกลับไปให้
“พี่จะให้มากกว่านี้อีกต้นว่าน จะให้จนกว่าเราจะรู้ว่าถ้ายังขืนเกรงใจไม่เข้าเรื่องครั้งหน้าคงไม่ใช่ของเล็กๆ พวกนี้ที่จะได้กลับไป”
ใช่...ถ้ากล้าปิดบังอะไรผมอีก คราวหน้าจะไม่ใช่พวกของราคาไม่กี่พันพวกนี้แน่
“ขอบคุณครับพี่ใบไผ่”
“อืม คราวหน้าต้องบอกพี่นะ”
“ครับ จะบอกแน่นอน”
“ดีมาก” แบบนี้สิน่ารัก
“พี่ใบไผ่”
“หืมม์?”
“ผม...ผมขอจูบพี่ได้ไหม”
“ฮะ?”
“ผมอยากจูบพี่จัง” คำของร้องแกมวิงวอนทำเอาใบหน้าผมขึ้นสีอย่างรวดเร็ว
“...อยากทำก็ทำสิ” ก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อย
“พูดแล้วนะ...”
“อืม...” คำพูดที่กำลังจะเอ่ยถูกกลืนหายไปเพราะสัมผัสอันร้อนรุ่มที่คนตรงหน้ามอบให้
มันไม่ได้รุนแรง ตรงกันข้ามมันกลับอ่อนโยนจนผมต้องยกมือขึ้นโอบคออีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นเพื่อตอบรับสัมผัสนั้นมากกว่าเดิม งานวันเกิดผ่านไปอย่างเงียบๆ ทว่าเปี่ยมไปด้วยความสุขและความทรงจำ
ผมจะจำไว้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของต้นว่าน
คอยดูเถอะ...ปีหน้าผมจะจัดงานให้ใหญ่กว่านี้แน่นอน
..............................................................................
-Rewrite- >> มารีไรท์ต่อค่ะ อีกไม่กี่ตอนจะรีไรท์จบแล้วจะมาอัพตอนพิเศษให้อ่านกันนะคะ
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นมีเรื่องแจ้งสำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามเพจเรานะคะว่าเราจะงดอัพนิยาย2อาทิตย์เนื่องจากต้องจัดการงานและสอบปลายภาคให้เสร็จ
ใครที่ไม่ได้ตามเพจสามารถเข้าไปตามได้นะเวลามีเรื่องอะไรเราจะแจ้งในเพจค่ะ >>
nicedogสำหรับตอนนี้ถือเป็นตอนส่งท้ายก่อนจะหยุดอัพเลยแต่งให้ยาวหน่อยซึ่งก็ยาวตามที่คาดไว้555
เนื้อเรื่องอาจดูดำเนินเร็วไปบ้างแต่ก็จะพยายามแต่งให้ออกมาดีที่สุดค่ะ
หลายคนต่างเริ่มเปลี่ยนอยากให้ต้นว่านเป็นฝ่ายรับเนื่องจากความน่ารักและพี่ใบไผ่ที่ชอบแหย่เหลือเกิน
อยากบอกตรงๆนะคะว่าคิดฉากncคู่นี้ไม่ออกจริงๆว่าจะไปในทิศทางไหน
ดังนั้นไม่แน่ว่าอาจไม่มีฉากนั้นจนจบเรื่องเลยค่ะ 555
ถือเป็นแนวใสๆไปละกันเนอะ
ไว้เจอกันใหม่ในตอนต่อไปนะคะ
อย่าพึ่งลืมกันนะะะ
บ๊ายบาย
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪