ตอนที่ 28
“เดินวนหาอะไรอยู่ ทำไมไม่มานอนสักที” แพทริกแทบหลุดหัวเราะกับท่าทางนั้นหากแต่ต้องกลั้นเอาไว้แล้วเอ่ยถามอีกคนเสียงเรียบ
หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยกานต์รักก็เอาแต่พยายามทำนู้นทำนี่ ตั้งแต่การอาบน้ำแต่งตัวที่ดูเหมือนจะช้ากว่าทุกวัน จากนั้นก็เดินวนอยู่ทั่วห้องไม่ยอมเฉียดเข้ามาใกล้เตียงเลยแม้แต่น้อย
“รัก...รักหานามบัตรของลูกค้าอยู่ครับ คือ ลูกค้าให้มาแต่จำไม่ได้แล้วว่าเอาไว้ไหน”
คำตอบที่ฟังปราดเดียวก็รู้ว่าคือข้ออ้าง กานต์รักไม่ได้ออกไปร้าน ช่วงนี้ยังคงต้องอยู่ที่นี่ห้ามออกไปไหนหรือแม้กระทั่งติดต่อสื่อสารกับใคร การหานามบัตรของลูกค้าในเวลานี้ดูจะไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผล
“ลูกค้าคนไหน เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องหาเบอร์ให้”
“เอ่อ...รักจำชื่อไม่ได้ด้วยครับ” เอ่ยตอบพร้อมทั้งหัวเราะแห้งๆจนคนมองได้แต่ส่ายหน้า
“จะขึ้นมาดีๆหรือจะให้ฉันลงไปอุ้ม”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ ดวงตาคมหรี่มองจนคนถูกถามเม้มปากเข้าหากันก้มหน้ามองพื้น ดูเหมือนการพยายามถ่วงเวลาจะไม่มีความหมายอีกต่อไป
“ถ้าฉันลงไปอุ้มคืนนี้ไม่ต้องนอน”
เอ่ยกระตุ้นอีกนิดจนคนร่างเล็กมองมาตาตื่นรีบก้าวเท้าเร็วๆมาหยุดอยู่ข้างเตียง ก่อนขาเล็กจะก้าวขึ้นมาแล้วคลานเข่ามานั่งทับขาอยู่ข้างตัว
“มีอะไรกันมากี่ครั้งแล้ว ยังไม่ชินอีกหรือไง” ริมฝีปากเล็กถูกขบกัดเนื่องจากความประหม่า
เรื่องที่แม้แต่ตัวกานต์รักเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ด้วยเพราะรู้อยู่แล้วว่าคืนนี้ต้องโดนอะไรจึงขัดเขินกับการจะก้าวขึ้นเตียงจนต้องเดินเป็นหนูติดจั่นไปทั่วห้อง
“รักก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไม” เอ่ยตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ขนาดนี้แล้วยังเขินฉันอยู่อีกหรือ” ใบหน้าเล็กพยักรับหงึกหงัก ก้มหน้าลงมองเพียงตักของตัวเองอยู่อย่างนั้นกระทั่งข้อนิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้นสบตา
“หรือว่าฉันยังทำไม่บ่อยพอจะให้นายเลิกเขิน”
“บ่อยแล้วครับ” ปากเล็กขยับตอบทันควัน
หากให้นับคืนที่ไม่มีอะไรกันยังนับได้ ทุกวันนี้ในยามเช้านั้นกานต์รักแทบคลานลงจากเตียง พอตกกลางคืนอีกคนก็จะค่อยๆเข้ามาตะล่อมจนต้องเคลิ้มตามก่อนจะโดนรวบหัวรวบหางไปตามระเบียบ
แม้ช่วงก่อนหน้าแพทริกจะงานยุ่งจนห่างหายจากเรื่องนี้ไปบ้างแต่ก็ยังตอดเล็ดตอดน้อยไม่หยุด
“อาจจะบ่อยไม่พอ”
“บ่อยพอแล้วครับ รักเขินของรักเองไม่เกี่ยวกับเรื่องบ่อยไม่บ่อยสักหน่อย” เอ่ยตอบทั้งยังสั่นหน้าปฏิเสธ
หากให้อีกฝ่ายขยันมากกว่านี้จะเป็นกานต์รักนี่แหละที่จะแย่เอา
“ถ้าบ่อยแล้วก็ต้องชิน”
แพทริกพูดพร้อมทั้งเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรินรด กานต์รักมองใบหน้าคมที่มีระยะห่างเพียงน้อยตาปริบ หัวใจดวงน้อยเริ่มทำงานหนักแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามไม่ผละออก
พยายามต่อสู้กับความขัดเขินของตัวเองอย่างหนัก
“ระ รักพยายามอยู่ครับ”
คำตอบนั้นทำให้แพทริกยกยิ้ม นึกเอ็นดูคนรักของตัวเองก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นกระทั่งริมฝีปากบางเฉียดกัน
คราวนี้ดวงตาโตปิดลงเปลือกตาสีอ่อนสั่นระริก ชายหนุ่มนิ่งมองชั่วครู่ก่อนจะทาบทับสัมผัสลงไป
ตอนแรกกานต์รักนั่งตัวแข็งทื่อก่อนจะค่อยๆโอนอ่อนผ่อนความเกร็งลงด้วยเพราะสัมผัสอันอ่อนโยน เรียวปากร้อนขบเม้มไล้เลียละเลียดอย่างใจเย็น สัมผัสคุ้นเคยที่ทำให้อบอุ่นหัวใจเช่นทุกครั้ง ก่อนปากเล็กจะเป็นฝ่ายขยับเปิดทางให้อีกคนเข้ามาเกาะเกี่ยวความหอมหวานด้วยความเต็มใจ
ความนุ่มหยุ่นสัมผัสเข้ากับลิ้นเล็กดูดดึงรุกไล้แผ่วเบา จากความตื่นกลัวเล็กๆก็กลายเป็นธรรมชาติที่ทำให้กานต์รักตอบสนองเรียกเสียงแห่งความพึงพอใจจากลำคอแกร่ง จูบที่หอมหวานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน
“อื้อ อืม...” เสียงครางหวานดังขึ้นในลำคอ
มือหนาขยับมาวางบนเอวเล็กก่อนจะไล้ไปมาบางเบา เสื้อนอนตัวใหญ่ถูกเลิกขึ้นไปกองบนแผ่นท้องแบนราบก่อนแพนทริกจะสอดมือเข้าไปตามแนวสันหลังแล้ววกกลับมายังเอวคอด ฟ้อนเฟ้นเบาๆเรียกเสียงครางฮือให้ได้ยิน
กว่าจะทันรู้ตัวเพราะมัวเมาอยู่กับจูบดูดดื่มร่างบางก็โดนดันให้เอนลงนอนราบ เสื้อนอนหลุดออกจากตัวเป็นอย่างแรก ตามมาด้วยกางเกงที่หลุดไปพร้อมกันทั้งชั้นนอกและชั้นใน
“คะ คุณแพท”
เสียงเอ่ยเรียกชื่อนั้นสั่นพร่าเมื่อร่างสูงผละออกไปจัดการกับตัวเองให้ร่างกายซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน ยามอีกคนทาบทับลงมาทุกสัดส่วนจึงแนบชิดไร้สิ่งขวางกั้นชวนให้สะเทิ้นอายจนต้องเบือนหน้าหลบสายตา
ลำคอบางระหงถูกจู่โจมเชื่องช้า ยามสัมผัสได้ถึงปลายจมูกโด่งที่มีลมหายใจร้อนคลอเคลียกานต์รักก็ขยับเอียงเปิดทาง ลิ้นหนาเปียกชื้นจึงค่อยๆและเล็มขบเม้มให้เสียงครางเล็กๆดังหลุดรอด ขณะที่เรือนกายบางก็ถูกสำรวจโดยฝ่ามือใหญ่ซึ่งลากไล้ไปทั่ว
ทุกอย่างถูกโหมกระหน่ำด้วยแรงอารมณ์ แผ่นอกบางสะท้านไหวเมื่อใบหน้าคมเลื่อนลงไปหาเม็ดตุ่มไตทั้งสอง อุณหภูมิเย็นฉ่ำที่กระทบกายแปรเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าวจนเหงื่อไหลซึม ยามปลายลิ้นชื้นแฉะตวัดเลียบางอย่างที่ชูชันความเสียวกระสันก็แล่นเล่นงานจนกานต์รักครางก้อง
“อื้อ อ๊ะ คะ คุณ แพท อึก”
ริมฝีปากแสนร้ายกาจกำลังเล่นงานให้ร่างเล็กนอนบิดเร่า ราวกับจะบิดตัวหนีแต่ความต้องการกลับทำให้เผลอแอ่นอกเข้าหาให้อีกคนได้ดูดกลืนกันมากกว่าเดิม
จังหวะลิ้นดุนดันดูดดึงถี่รัว จากซ้ายไปขวาสลับกันอย่างไม่น้อยหน้า ด้วยเพราะความเสียวซ่านมือเล็กที่กำแน่นอยู่ข้างตัวจึงยกขึ้นมาสอดเข้าหากลุ่มผมหนา ขยุ้มมันแน่นระบายความรู้สึกเกินต้านทานอีกทั้งยังดึงเข้าหาโดยไม่รู้ตัว
ยามเม็ดสีสวยถูกปล่อยให้เป็นอิสระร่างเล็กก็นอนหอบตัวอ่อน ก่อนแผ่นทองแบนราบจะหดเกร็งยามลิ้นร้อนไล้เลียเลื่อนต่ำลงไป และยิ่งยามอีกคนไล้วนอยู่แถวแอ่งสะดือมือที่สอดรับเข้ากับกลุ่มผมหนายิ่งกำแน่น
กระทั่งพึงพอใจแพทริกก็ผละออกไล้ลงต่ำไปยังจุดอันตรายที่ทำให้คนใต้ร่างถึงกลับเกร็งสั่น ยามบางอย่างกำลังถูกประคองด้วยฝ่ามือร้อนใบหน้ายิ่งแทบมอดไหม้ เปลือกตาสีอ่อนหลับลงปี๋ไม่กล้ามอง
“อ๊ะ อ๊า อึก”
เพียงแค่ปลายลิ้นที่ตวัดเลียเสียงครางด้วยความเสียวกระสันก็หลุดออกมาให้ได้ยิน มันมากเกินกว่าทุกๆส่วนที่ถูกสัมผัส มือบางละจากหัวของอีกคนมากำผ้าปูที่นอนแน่นจนมันแทบขาดคามือ จากด้านบนสู่ด้านล่างอย่างเชื่องช้าแต่กลับสร้างความปั่นป่วนได้อย่างร้ายกาจ
ไม่ว่าจะกี่ครั้งแพทริกก็เล่นงานกานต์รักด้วยความเสียวจนแทบจะทะลัก คนตัวโตเก่งกว่าที่กานต์รักจะรับมือไหว เพียงแค่ลิ้นนุ่มหยุ่นที่เล่นงานก็ทำเอาเรือนกายบางอ่อนระทวย ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว
“อื้อ อ๊ะ อ๊าส์ คุณแพท”
และมันก็มากขึ้นจนสะโพกเล็กแอ่นสะท้านเมื่อกลางกายถูกครอบครองด้วยความร้อนนุ่มของโพรงปาก กานต์รักบิดตัวเร่า เป็นไปอย่างไม่อาจควบคุม สองมือจิกผ้าปูเตียงจนมันยับย่นในฝ่ามือ ขณะที่แพทริกก็ปรนเปรอมากขึ้น...และมากขึ้น
เสียงการครอบครองดังขึ้นให้ได้ยินแต่ความเสียวซ่านก็มากล้นเกินกว่าจะเขินอาย ยิ่งยามอีกคนห่อปากตวัดปลายลิ้นเลียกานต์รักยิ่งแทบทนไม่ไหว
“คุณแพท อื้อ อึก รัก...”
เสียงครางหวานที่คนฟังพึงพอใจยิ่งกระตุ้นให้แพทริกเร่งจังหวะให้ถี่ขึ้น แก่นกายสีสวยในการครอบครองเริ่มแสดงอาการไม่อาจกลั้น
“ใกล้ อื้อ อ๊ะ ใกล้แล้ว คะ ครับ ฮื่อ”
เมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้นจนแทบจะแตะจุดสูงสุดเสียงหวานก็เอ่ยบอกสั่นพร่า ปากร้อนและสะโพกบางขยับสอดรับกันเป็นจังหวะยิ่งพาให้ทุกอย่างพังทลาย ยามแพทริกดูดหนักๆอีกเพียงไม่กี่ครั้งร่างเล็กก็เกร็งกระตุกสะท้านเยือกปลอดปล่อยความต้องการ และทุกหยาดหยดก็ถูกดูดกลืนลงลำคอแกร่งอย่างไม่รังเกียจ
“คะ คุณแพท...แฮก” คนนอนหอบเอ่ยเรียก
“หืม?”
“ให้...ให้รักทำให้บ้างนะครับ”
กานต์รักไม่เห็นแก่ตัวที่จะเป็นคนถูกปรนเปรออยู่ฝ่ายเดียว เสียงเล็กเอ่ยบอกแหบพร่าแม้จะต้องกลั้นใจเอ่ยประโยคแสนน่าอาย หากแต่คนที่ขยับตัวมาทาบทับให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันก็ทำเพียงยกยิ้มพร้อมทั้งกดจูบลงมาหนักๆ
“เอาไว้วันหลังฉันจะให้นายจัดการเต็มที่ วันนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันแล้วกัน”
เข่าหนาดันขาเรียวด้านล่างให้แยกออก บางอย่างที่ตื่นตัวแนบชิดจนริมฝีปากเล็กถูกขบกัดเข้าหา ก่อนมือหนาจะเอื้อมไปหยิบอะไรบางอย่างที่วางอยู่ใต้หมอน
“คะ คุณแพทเตรียมเอาไว้เมื่อไหร่กันครับ”
เจลหล่อลื่นขวดใสที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ดวงตาโตเบิกกว้าง ไม่คาดคิดว่าอีกคนจะเตรียมการเอาไว้จนมีของแบบนี้อยู่ใต้หมอนทั้งที่ห้องนี้เป็นห้องของกานต์รักเอง
“หึ”
คนถูกถามไม่ได้เอ่ยตอบทำเพียงแค่เปิดฝาออกแล้วชโลมเจลเนื้อใสลงบนนิ้วก่อนเรือนกายสูงใหญ่จะผละลงไปตาม ยามนี้ตำแหน่งใบหน้าของอีกคนจึงอยู่ในที่ที่มองเห็น
อะไรๆได้อย่างชัดเจน แม้กานต์รักจะเขินอายเพียงใดแต่ยามมือหนารั้งขาทั้งสองข้างให้แยกกว้างกว่าเดิมก็ยอมขยับตามโดยง่าย เปิดเปลือยร่างกายทุกส่วนให้อีกคนได้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง
ใบหน้าคมขยับเข้าใกล้ ทอดสายตามองช่องทางสีกุหลาบที่ขมิบเชื้อเชิญด้วยสายตาวาววับก่อนจะแนบริมฝีปากลงไปแผ่วเบา
“คะ คุณแพทครับ”
เสียงเอ่ยเรียกด้วยความตกใจดังขึ้น ในอกของคนโดนกระทำทั้งพองโตทั้งสะเทิ้นอาย หลากหลายความรู้สึกตีรวนจนเปล่งเสียงออกมาได้แค่ชื่อ
คนถูกเรียกไม่ได้เอ่ยถามหากแต่ไล้มือไปตามโคนขาอ่อนเรื่อยมากระทั่งถึงตำแหน่ง นิ้วมือแกร่งที่ชุ่มไปด้วยสารหล่อลื่นลูบไล้อยู่ปากทางเข้า ไม่นานนักก้านนิ้วเรียวยาวนั้นก็ค่อยๆสอดเข้าไป
“อึก”
ความคับแน่นที่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่เคยชินส่งผลให้กานต์รักกัดปากแน่น ยิ่งยามรับรู้ว่านิ้วแกร่งเคลื่อนเข้ามาในร่างลึกขึ้นเรื่อยๆความรู้สึกยิ่งมากตาม
กระทั่งเข้ามาจนสุดแพทริกก็ค่อยๆสาวนิ้วเข้าออกเชื่องช้า หมุนวนควานหาถูกจุดอย่างรู้ดีจนกายบางสั่นไหว จนเมื่อร่างเล็กเริ่มปรับตัวได้จำนวนนิ้วก็ถูกเพิ่มมากขึ้น
“อ๊า อ่ะ อะ อื้อ อึ๊”
เสียงชื้นแฉะกระทบเป็นจังหวะดังก้องไปทั่ว กานต์รักไม่อาจทำอะไรได้นอกจากนอนส่งเสียงครางอย่างหอบโยน ยิ่งยามนิ้วที่สามถูกเพิ่มเข้ามาและจังหวะรัวเร็วนั้นไม่ยอมปรานีเสียงร้องน่าอายยิ่งดังขึ้น
“คุณแพท อึก อะ เข้ามา อ๊า เข้ามาเถอะครับ”
หากนานกว่านี้ไม่พ้นว่าคงทนไม่ไหวปลดปล่อยความต้องการออกมาอีกรอบจึงเอ่ยร้องขอ ประโยคที่ทำให้คนฟังยอมทำตามผละนิ้วออกก่อนจะขยับไปทาบทับตำแหน่งเดิม
แพทริกหยิบขวดเจลเทใส่มือแล้วชโลมลงบนส่วนใหญ่โต มือหนาชักรูดเตรียมความพร้อมไม่กี่ครั้งก่อนจะขยับถูไถไปกับช่องทางเล็กให้อีกคนหลุดเสียงร้อง
“อื้อ อึก”
ยามแก่นกายใหญ่เคลื่อนเข้าสู่ความคับแน่นกานต์รักก็ทำได้เพียงยกมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง จิกเล็บลงบนลาดไหล่กว้างกลั้นเสียงคราง
“อืม”
ยามเมื่อฝากฝังตัวตนเข้าไปในร่างของกานต์รักได้จนหมดกรามแกร่งก็บดเข้าหากัน ความอุ่นร้อนตอดตุบจนความเสียวกระสันแล่นไปทั่ว เสียงครางหวานแผ่วเบาดังขึ้นอยู่ข้างหู กระทั่งเมื่อรู้ว่าร่างเล็กพรั่งพร้อมสะโพกสอบจึงเริ่มขยับ
“อ๊ะ อา อะ อ๊า”
แพทริกขยับเชื่องช้าอยู่เพียงไม่กี่ครั้งก็ทนความต้องการของตัวเองไม่ไหว มือหนากระชับสะโพกบางสั่นระริกเข้าหาตัว แปรเปลี่ยนจังหวะเป็นเร่าร้อนจนเตียงสั่นไหวจนเกิดเสียง
“คุณแพท ฮึก คุณแพทครับ”
ความเสียวซ่านเกินกว่าจะรับไหวทำให้กานต์รักน้ำตาซึม ขณะที่เล็บก็จิกครูดไปตามแผ่นหลังกว้าง ริมฝีปากบวมเจ่อขบกัดซอกคอแกร่ง ระบายความเสียดเสียวอย่างไม่อาจกลั้น
“กานต์รัก...”
ช่องทางเล็กบีบแน่นจนเสียงทุ่มครางต่ำ แพทริกกัดฟันกรอดกระทั้นกายเข้าหาหนักหน่วงอย่างไม่ยอมแพ้ ร่างบางโยกไหวสั่นคลอน เตียงลั่นเสียดสีดังเอี๊ยดอ๊าด แต่ยามนี้ร่างสูงไม่มีทางสนใจ ทำเพียงแค่ตรอกตรึงเข้าหาหนักๆจนคนใต้ร่างดิ้นพล่าน
“ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ ฮึก อ๊า ไม่ไหว แล้ว ครับ”
เสียงหวานเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังขึ้นบ่งบอกความต้องการ และแพทริกก็ไม่รอช้าสวนสะโพกเสยเข้าหารุนแรง ช่องทางอุ่นร้อนตอดตุบถี่รัวบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังจะทนไม่ไหว
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกกายดังหยาบโลนหากแต่เสียวซ่านไปทั่วร่าง ก่อนจังหวะสุดท้ายแพทริกจะกระทั้นกายเข้าลึก กระแทกจุดกระสันจนร่างเล็กกระตุกเฮือกปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนหมด ไม่ต่างจากความใหญ่โตที่กระตุกอยู่ในตัวก่อนความอุ่นร้อนจะถูกฉีดพ่นเข้ามา
“อืมห์...”
“แฮกๆ”
เสียงหอบหายใจดังขึ้นจากคนใต้ร่าง มือเล็กอ่อนแรงจนผล็อยทิ้งลงบนข้างตัว ใบหน้าที่ซบอยู่กับซอกคอแกร่งก็พับอ่อน ความร้อนยังคงตราตรึงอยู่ทุกส่วนบนร่างกาย
“รอบเดียวก็ไม่ไหวแล้วรึไง”
ท่อนแขนแข็งแรงโอบกระชับร่างเล็กให้เอนนอนลงกับหมอน ทอดมองใบหน้าชื้นเหงื่อพร้อมทั้งยกยิ้มก่อนจะใช้มือเสยผมที่ปรกตามกรอบหน้าออกไปให้
ดวงตาโตค่อยๆปรือขึ้นมองคนพูดอย่างเหนื่อยอ่อน
“รัก...ขอพักก่อนครับ”
รู้ดีว่ารอบเดียวไม่เคยพอสำหรับคนตัวโตหากแต่ความเหนื่อยที่ได้รับทำให้ต้องร้องขอ บางอย่างในร่างกายกำลังขยับขยายขึ้นมาอีกรอบ กานต์รักรับรู้ถึงมันได้อย่างชัดเจน
“ให้พัก5นาที”
“อื้อ”
กานต์รักรีบหลับตาลงเอาแรง ห้านาทีที่ร่างสูงก็ไม่ได้ปล่อยให้พักเฉยๆ กดจูบบ้าง หอมแก้มบ้าง หาเศษหาเลยไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า และเมื่อครบเวลาพักไม่ขาดไม่เกินก็เริ่มต้นบทรักรอบใหม่ในทันที
กว่าจะได้นอนกานต์รักก็จำได้เพียงว่าถูกอีกคนอุ้มไปอาบน้ำแต่งตัว จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าโดนกินไปกี่รอบ ปลดปล่อยออกมาเท่าไหร่ เหนื่อยล้าจนเมื่อร่างกายสัมผัสเตียงอีกครั้งสติก็ดับวูบ
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
ยามเที่ยงที่อีกคนยังคงสลบไสลแพทริกก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องคนสนิท เมื่อมีธุระต้องออกไปจัดการข้างนอกจึงแปะโน้ตเอาไว้ข้างหัวเตียงแล้วกดจูบคนนอนหลับทิ้งท้ายก่อนออกมา
จังหวะการเดินมั่นคงเกิดเป็นเสียงสะท้อนในความเงียบบนทางเดินสู่ห้องอันเหน็บหนาว เรือนร่างสูงใหญ่สวมชุดสีดำสนิททั้งตัวกลืนเข้ากับบรรยากาศรอบๆให้ทุกอย่างแลดูถมึงทึง ลูกน้องหน้าห้องโค้งคำนับให้ผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพียงเมื่อชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ยามเมื่อประตูเหล็กถูกเปิดเข้าไปและปิดลงราวกับนั่นคือมัจจุราชที่กำลังเดินเข้าไปตัดสินชีวิตผู้กระทำผิด
ร่างกายสะบักสะบอมถูกขึงด้วยโซ่เส้นใหญ่ทั้งมือและข้อเท้า ยามเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาดวงตาแดงก่ำก็เบิกขึ้นมอง แพทริกจ้องอีกฝ่ายกลับด้วยสายตานิ่งเรียบ ยิ่งเมื่อภาพกานต์รักทับซ้อนขึ้นมากรามแกร่งยิ่งบดเข้าหากัน
“ไอ้แพทริก”
“ไง...”
ร่างสูงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าห่างกันด้วยระยะเพียงหนึ่งก้าว จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเคียดแค้น ใบหน้าคมดุทอความหน้ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหน
ศัตรูคู่แค้นแสนยาวนาน เซบาสเตียน เจมส์ ดิคเคอร์ตัน
“...”
“กลัวหรือ?” เสียงทุ้มเอ่ยเยาะพลางใช้มือบีบปลายคางจนคนเจ็บเบ้หน้าหลุดเสียงร้อง “รู้ความผิดดีนะว่าแกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”
“...”
“ทุกครั้งสิ่งที่แกทำฉันไม่ถือสาเพราะรู้ว่าแกมันเล่นอะไรเป็นเด็ก ไม่พอใจอะไรก็ทำลายฟาดงวงฟาดงา...ฉันไม่เคยคิดจะสนใจก็แค่จัดการเอาคืนเล็กๆน้อยๆตามประสา...กระทั่งวันนี้”
“อึก...” แรงบีบตรงปลายคางนั้นเพิ่มมากขึ้นจนใบหน้าโชกเลือดบิดเบ้
“ฉันจำได้ว่าเคยพูดไปครั้งหนึ่ง”
“...”
“แกจะทำอะไรก็ได้ฉันไม่ว่า...แต่อย่ายุ่งกับคนในครอบครัวฉัน”
“หึ เมียตุ๊ดของมึงน่ะเหรอ”
ผลั๊วะ
สิ้นคำพูดนั้นมือใหญ่ก็ละออกก่อนจะออกหมัดกระแทกใส่ปากคนพูดด้วยความรวดเร็วและรุนแรงจนอีกฝ่ายหน้าหัน เลือดซึมจากมุมปากมากกว่าเดิม
“กูใจดี ให้โอกาสมึงมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ยังไม่สำนึก”
แพทริกขยับหยัดกายขึ้นตรง ยื่นมือไปด้านข้างให้คนสนิทรู้งานหยิบอะไรบางอย่างวางบนฝ่ามือให้เรียบร้อย
ด้านคมของมันแปลบปลาบต้องแสงไฟสะท้อนสายตาคนมอง
“กูต่างหาก...ที่ให้มึงรอด มาจนทุกวันนี้” อีกฝ่ายยังไม่สำนึกแม้จะกลัวแทบขาดใจ
“เหรอ? แล้วตอนนี้มึงมีปัญญาทำอะไรได้”
“...”
“เรื่องธุรกิจจะเล่นสกปรกยังไงก็ได้ แต่เรื่องที่มึงร่วมมือให้คนมาฆ่าเมียกู...กูไม่ยอม”
ปลายมีดส่วนแหลมจี้เข้าสัมผัสผิวเนื้อคอของคนที่โดนจับขึงจนอีกฝ่ายตาเหลือกดิ้นลนลาน แพทริกไม่ผ่อนแรง กดมันเข้าไปอีกนิดจนเลือดค่อยๆไหลซึมออกมาจากบาดแผล
ที่เลือกไม่ใช่ปืนเพราะมันง่ายดายเกินไป เขาอยากให้มันทรมานอย่างที่สุด
“ร้องขอสิ ขอให้กูไว้ชีวิต” ความหวาดกลัวจับจิตอยู่ในดวงตาคู่นั้นแพทริกเห็นมันอย่างชัดเจนและนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
วินาทีที่กานต์รักกลัวก็คงรู้สึกอย่างนี้ และวินาทีที่เขากลัวจะเสียคนรักไปก็ไม่ต่างกัน
“อย่า...”
“แค่นี้เหรอ” ใบหน้าคมแสยะยิ้มมองปลายมีดที่กดลงไปเรื่อยๆกับท่าทางหอบหายใจของคนตรงหน้า
“แพทริก”
น้ำเสียงนั้นอ่อนแรง ความเจ็บมากขึ้นจนเสียงร้องโหยหวนเริ่มดังออกจากปาก เสียงโซ่กระทบกันดังก้องไปทั่วเมื่อร่างกายที่ถูกพันธนาการไว้ดิ้นรนสุดแรง
“อ๊ากกกกก อึก แพ...”
“หมดเวลาของมึงแล้ว...เซบาสเตียน”
ฉึก!
ปลายมีดแหลมแทงทะลุคอจนคนที่ไม่มีโอกาสได้ร้องขอตาเหลือกโพรง ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อแพทริกจัดการลงน้ำหนักทีเดียวอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมมองสบตาที่เหลือกด้วยความทรมานก่อนจะลงน้ำหนักกดมีดลากลงผ่านตามแนวหลอดลม เลือดมากมายกระฉูดออกมาจนเลอะไปตามมือและตัว ร่างกายนั้นกระตุกสั่นรุนแรงก่อนจะค่อยๆแน่นิ่งไป...
แพทริกจ้องมองภาพนั้นนิ่งด้วยความไม่รู้สึก ก่อนมือหนาจะผละมือที่ชุ่มไปด้วยเลือดออกจากมีดให้มันปักอยู่อย่างนั้น
เขายังโหดร้ายได้มากกว่านี้อีกเยอะ...
“นายครับ” ผ้าผืนใหญ่ถูกยื่นมาให้ ชายหนุ่มรับมันมาแล้วใช้เช็ดไปตามมือและแขนช้าๆ
“จัดการให้เรียบร้อยแล้วส่งชิ้นส่วนกลับไปให้คนของดิคเคอร์ตัน”
เอ่ยพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะโยนผ้าซับเลือดทิ้งมองสภาพศพเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหมุนกายออกจากห้อง
ผู้นำและหัวหน้าของดิคเคอร์ตันไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ก็เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความหมายอีกต่อไป แพทริกไม่เสียเวลาปล่อยให้ทุกอย่างยืดเยื้อ
การจัดการที่ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้”
เสียงฝีเท้าที่ย่ำมาหยุดอยู่ตรงหน้าทำให้คนร่างเล็กที่นั่งยองๆทำอะไรอยู่กับดินเงยขึ้นมอง มือบางเปรอะไปด้วยดินสีดำอีกทั้งตามกรอบหน้ายังเต็มไปด้วยเหงื่อจนแพทริกต้องนั่งลงแล้วเช็ดมันออกให้แผ่วเบา
ท่าทางเหมือนเด็กหนีไปเล่นซนที่ไหนมาทำให้ชายหนุ่มนึกเอ็นดู
“คุณแพทกลับมาแล้วหรือครับ รักปลูกดอกไม้อยู่ว่าจะทำเป็นแนวทางเดิน ตอนนี้เพิ่งปลูกได้ครึ่งหนึ่งเอง สวยไหมครับ?” รอยยิ้มหวานระบายกว้างบนใบหน้า เอ่ยตอบคนรักซึ่งนั่งยองๆอยู่ข้างกันเสียงใส
“อืม...แต่นี้ก็เย็นแล้ว เข้าบ้านเถอะพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ”
“แต่รักยังสนุกอยู่เลยครับ”
“อย่าให้ฉันต้องทำโทษเด็กดื้อ”
คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กดื้อทำหน้ามุ้ยน้อยๆก่อนจะยอมหันไปรับผ้าจากคนดูแลมาเช็ดมือเมื่อรู้ว่าอีกคนไม่ยอมให้ทำต่อแน่นอน
“พรุ่งนี้รักจะทำให้เสร็จ” ร่างเล็กเอ่ยบอกความตั้งใจ เป็นการเปรยกลายๆว่าร่างสูงห้ามเอ่ยห้าม
“เป็นเด็กดื้อจริงๆ”
เสียงทุ้มเอ่ยพูดก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนพลางยื่นมือส่งให้กานต์รักแล้วออกแรงดึงให้อีกคนลุกตาม เพราะกิจกรรมร้อนแรงทำให้ใบหน้าหวานเบ้บิดเล็กน้อยยามขยับตัว
“รักไม่ได้ดื้อนะครับ”
“เนี้ยแหละที่เขาเรียกว่าดื้อ”
นิ้วมือแกร่งคีบปลายจมูกเล็กบิดไปมาเบาๆให้คนดูแลทั้งหลายมองภาพนั้นด้วยความขัดเขิน การหยอกล้อที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าคมดุและเรือนร่างสูงใหญ่กลับทำให้ชายหนุ่มดูอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มุมที่เกิดขึ้นกับเพียงกานต์รัก
“อื้อ คุณแพท” ร่างเล็กเอียงใบหน้าหนีหากแต่กลับหลุดหัวเราะน้อยๆ
“เข้าบ้านกันเถอะ เย็นแล้ว”
คราวนี้กานต์รักไม่อิดออด ทำเพียงยิ้มรับก่อนจะเดินตามคนตัวโตเข้าไปในตัวบ้านอย่างว่าง่าย
“แม่ว่าจะไปตามอยู่พอดีเลย ขลุกอยู่ในสวนตั้งแต่เมื่อบ่ายแล้ว”
“กำลังเล่นซนได้ที่เลยครับ”
คนตัวโตเอ่ยบอกให้คนโดนกล่าวหาราวกับเป็นเด็กเงยหน้าขึ้นมอง กำลังจะอ้าปากปฏิเสธว่าตนไม่ใช่เด็กซักหน่อยที่จะได้เล่นซนไปทั่วหากแต่คนเป็นแม่ก็เอ่ยขึ้นก่อน
“ถ้าไม่สบายขึ้นมาแม่ก็ฝากแพทจัดการหน่อยแล้วกัน”
“ไม่มีปัญหาครับ”
“ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยซะ จะได้ลงมาทานข้าวเย็นกัน”
กานต์รักได้แต่ยืนนิ่งฟังคนทั้งสองที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่สนใจกันสักนิดอยู่อย่างนั้น ดวงตาโตกวาดมองแม่และคนรักสลับไปมาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเลยสักคน กระทั่งพูดเสร็จผู้เป็นแม่ก็เดินผ่านไป
“ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้ว” มือเล็กถูกคว้าไปกุมเอาไว้ก่อนร่างสูงจะเดินนำให้กานต์รักต้องก้าวเท้าตาม
“พอมีคุณแพทแม่ก็ไม่สนใจรักเลย”
เสียงเล็กเอ่ยกระเง้ากระงอด แม้คนฟังจะไม่ได้หันกลับมามองด้านหลังแต่ก็เดาได้เลยว่าใบหน้าหวานกำลังแสดงสีหน้าอย่างไร
“ก็เพราะนายดื้อ”
“รักบอกว่ารักไม่ดื้อ รักไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ”
“เด็กไม่ดื้อที่ไหนหนีไปซนในสวนทั้งวัน ให้ฉันพูดไหมว่าคนดูแลบอกให้เข้าบ้านกี่รอบแต่ไม่ยอมเข้า”
ทุกความเคลื่อนไหวของกานต์รักไม่มีอะไรที่แพทริกไม่รู้ และประโยคนั้นก็ทำให้คนตัวเล็กปิดปากฉับอย่างไม่อาจเถียงต่อ
ก็มันกำลังเพลินนี่นา อยากทำให้เสร็จเสียวันนี้เลยด้วยซ้ำ