เอาตอนที่เก้ามาส่งค่ะ ^^EP.9
“ไอ้พลัมน้ำอัดลมหมดแล้วลงไปซื้อมาดิ๊”
“กูทำงานอยู่มึงไม่เห็นหรือไงไอ้ป๋วย”
“นี่มึงลืมหน้าที่ของตัวเองไปแล้วหรือเยี่ยงไร”
ผมเขวี้ยงดินสอใส่ไอ้ป๋วยที่กระแดะเอามือทาบออกทำหน้าตกใจโอเวอร์จนอยากจะแจกถีบให้มันอีกสักป้าบ เห็นผมโดนไอ้วิทย์ใช้ให้เป็นคนออกค่าของกินให้หน่อยนี่สั่งกันจัง แม่งสั่งกันไม่ดูกระเป๋าตังค์กูเลย ตอนนี้ผมกำลังทำงานอยู่ที่ห้องของไอ้ป๋วย ตอนก่อนมาถึงนั้นไอ้วิทย์มันโทรสั่งให้ผมซื้อพวกน้ำอัดลมขนมมากินเล่นระหว่างทำงานไปแล้วรอบนึง แต่พอนั่งไปได้ชั่วโมงกว่าๆ…
ขนมที่ซื้อมาก็หมด…ตัวแดกหลักคือไอ้วิทย์กับไอ้ป๋วย
ไอ้วิทย์มันเลยใช้ให้ผมลงไปซื้อมาเพิ่ม ผมเลยต้องจำใจเดินลงไปซื้อขนมมาเพิ่มจากเซเว่นที่อยู่ไม่ไกลหอไอ้ป๋วยเท่าไรนัก และคราวนี้น้ำอัดลมดันหมดทั้งๆที่เพิ่งทำงานมาได้แค่สองชั่วโมง!
และผมก็เพิ่งเดินลงไปซื้อมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว!
ผมจะไม่โวยวายอะไรเลยถ้าห้องของไอ้ป๋วยมันอยู่ชั้นหนึ่ง…
แต่นี่!
ห้องของไอ้ป๋วยมันเสือกอยู่ชั้นห้า! แถมยังอยู่ห้องริมสุด แล้วแม่งหอมันดันไม่มีลิฟท์!
แม่งงงงง เข้าใจไหมว่ากูก็เมื่อยเป็นไอ้พวกห่านนนนน
“ไอ้พลัมลงไปซื้อน้ำมาเร็วววว กูอยากกินเปปซี่” ไอ้ป๋วยเข้ามาเขย่าแขนผมทำอย่างกับเด็กเวลาอ้อนขอของเล่นกับพ่อแม่ แต่โทษทีเหอะ เห็นหน้ามึงแล้วกูอยากถีบมากกว่าที่จะใจอ่อน
“กูเพิ่งลงไปมาเมื่อกี๊”
“เมื่อกี๊ที่ไหน ตั้งครึ่งชั่วโมงที่แล้ว” ไอ้ป๋วยแย้ง
“กูเมื่อย”
“โฮ่ พลัมอ่า ลงไปซื้อให้หน่อยยยย”
“งั้นมึงลงไปกับกู”
“ไม่!”
“งั้นกูก็ไม่ลง”
“ไอ้วิทย์ ดูไอ้พลัมดิ๊ แม่งไม่ยอมลงไปซื้อน้ำอ่ะ”
ไอ้ป๋วยหันไปฟ้องไอ้วิทย์ที่กำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ไม่ไกล ซึ่งไอ้วิทย์ก็เพียงแค่หันมามองแวบนึงก่อนที่หันกลับไปพิมพ์งานต่อ
“ไอ้วิทย์” ไอ้ป๋วยทำเสียงงอแงซึ่งไม่ได้เข้ากับหนังหน้าที่ราวกับอยู่ปีสี่ของมันเลย
“โอ๊ย รำคาญโว้ย ไอ้ป๋วยมึงเลิกปัญญาอ่อนสักที”
ไอ้แมวเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะพิมพ์รายงานหันมาโวยใส่ไอ้ป๋วยที่นอกจากมือจะไม่ทำงานแล้ว ยังเสือกทำตัวแบ็วรบกวนชาวบ้านเขาอีก
“อะไรไอ้แมว มึงจะบอกว่ามึงไม่อยากแดกเปปซี่หรือไง เมื่อกี๊กูยังเห็นมึงบนว่าอยากกินอยู่เลย” ไอ้ป๋วยพูด
“อยาก! แต่มึงก็เลิกทำตัวแบ๊วสักทีเหอะค่ะ มันรบกวนสมาธิกูอย่างแรง”
“ไอ้แมว!”
“มึงเงียบ” ไอ้แมวสั่งเสียงโหด ไอ้ป๋วยหุบปากฉับไม่กล้าแย้งอะไรออกมาอีก
“แล้วไอ้พลัม”
“เกี่ยวอะไรกับกูอีกอ่ะ”
“มึงลงไปซื้อน้ำมาเดี๋ยวนี้”
“ห๊ะ!? ทำไมกูต้องลงไปด้วย?”
“หน้าที่มึง ลงไป ณ บัดนาว!”
“หน้าที่กูคือออกค่าของกินนะ ไม่ใช่ลงไปซื้อให้สักหน่อย เอาตังค์กูไปแล้วให้ไอ้ป๋วยไปซื้อมาก็ได้” ผมบอก ขี้เกียจลงไปอ่ะเข้าใจไหม กูเชื่อว่าพวกมึงก็ขี้เกียจถึงได้ใช้ให้กูลงไปยิกๆอยู่นี่ไง
“หน้าที่ในการทำงานของมึงในวันนี้คืออะไร?” ไอ้แมวถามผม
“รวบรวมงานจากพวกมึง”
“ถูก แล้วตอนนี้พวกกูยังทำไม่เสร็จเพราะฉะนั้นตอนนี้มึงว่างสุด”
“ไอ้ป๋วยก็ว่าง”
“มันไม่ว่างแต่เสือกทำตัวว่าง” ไอ้แมวพูดพร้อมกับหันไปจิกตาใส่ไอ้ป๋วย ซึ่งไอ้ป๋วยก็ได้ยิ้มแหะๆส่งมาให้ไอ้แมว
“สรุปคือยังไงก็ก็ต้องลงไปซื้อให้พวกมึงใช่ไหม?”
“ถูก!!!”
คราวนี้ไม่ใช่แค่ไอ้แมว แต่อีกสี่ชีวิตที่เหลือแม่งประสานเสียงกันขึ้นมาเป็นเสียงเดียวจนผมได้แต่ถอนหายใจอย่างจำยอม
“โอเคๆ” ผมถอนหายใจยอมแพ้ ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์เดินไปใส่รองเท้าที่หน้าห้อง
“ไอ้พลัมกูขอฟุตลองสองอันนะ อยากแดก” ไอ้โต๋ตะโกนสั่ง
“กูขออิชิตันด้วยนะ จะเอามาลุ้นเบ้น” ไอ้ปิ๊งเพื่อนผู้หญิงอีกคนตะโกนเสริมขึ้นมา
ไอ้ห่า แดกขวดเดียวคงจะได้หรอกเบ้นมึงอ่ะ ถ้าได้นี่โชคคงจะเข้าข้างมึงแบบสุดๆ
“กูอยากกินเลย์อ่ะ ซื้อมาเพิ่มด้วยนะ” ไอ้วิทย์สั่งแต่มือก็ยังคงพิมพ์งานอยู่
“กูขอเปปซี่ขวดใหญ่ล่ะกัน น้ำแข็งด้วยนะ” อันนี้ไอ้แมว
“กูเอา-”
“พอ!” ไอ้ป๋วยกำลังจะอ้าปากสั่งด้วยอีกคนแต่ผมรีบยกมือห้ามเอาไว้ก่อน ไอ้พวกนี้หนิ เห็นกูเป็นเบ๊ของพวกมึงกันเลยใช่ไหมเนี่ย!
“อะไรไอ้พลัม กูยังไม่ได้สั่งเลยนะ” ไอ้ป๋วยรีบแย้งขึ้นมา แต่ผมเลือกที่จะเมินมันแล้วเดินออกจากห้องมาเลย ก็เพราะมันนั่นที่ทำให้ผมโดนจิกหัวใช้ลงมาซื้อของอยู่เนี่ย ไอ้ตอนเดินลงมันยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไรหรอก แต่ตอนขึ้นนี่สิ…แค่เดินขึ้นเฉยๆก็ว่าเหนื่อยแล้ว แต่นี่ยังต้องแบกของกินทั้งหลายที่พวกเจ้านายสั่งอีก เหนื่อยเชี่ยๆอ่ะบอกเลย
ผมเดินฝ่าแดดร้อนนรกแตกของเมืองไทยไปที่เซเว่นที่เพิ่งจะมาไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ผมว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่พวกมันไม่ยอมลงมาซื้อของก็เพราะแดดที่กำลังส่องเปรี้ยงลงมาจนหัวผมแทบไหม้นี่แหละ
พอเข้ามาในเซเว่นได้ก็ถึงแอบปาดเหงื่อ หยิบตะกร้าแล้วเดินไปหยิบพวกขนมกับเครื่องดื่มใส่ไปไม่ยั้งพวกแม่งจะได้ไม่โหยหวนอยากแดกกันอีก ขณะที่กำลังเลือกๆของกินอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมา
Rrrrrrr Rrrrrrr
‘ไอ้พี่เหม’
ผมแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ไอ้พี่เหมมันโทรหาผม…
ลังเลอยู่แปปนึงก่อนที่จะตัดสินใจกดรับ
“ว่าไงพี่” ผมถือโทรศัพท์ไว้ในมือข้างนึงส่วนอีกข้างก็เลือกรสเลย์ของไอ้วิทย์ไปด้วย
(อยู่ไหน?)
“หอเพื่อน”
(ทำงานเหรอ?)
“อื้ม”
(ไม่ใช่ว่ากำลังอยู่ในเซเว่นเหรอ?)
ผมชะงัก ไอ้พี่เหมมันรู้ได้ไงว่ะ?
“พี่รู้ได้ไง”
ผมหันซ้ายหันขวาพยายามมองหาพี่มัน พอมองออกไปข้างนอกก็พบกับไอ้พี่เหมมันกำลังยืนมองมาที่ผมในมือถือโทรศัพท์อยู่
พี่มันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะ?
“พี่มาอยู่นี่ได้ไง?” ปากถามออกไปพร้อมกับความคิดที่อยู่ในหัว
(หึหึ แอบตามมึงมา)
“พูดจริง?”
(ล้อเล่น คอนโดกูอยู่ตรงข้ามนี้เอง กำลังจะออกไปหาอะไรกินก็เห็นมึงเข้าพอดี) ไอ้พี่เหมบอกพร้อมกับเดินเข้ามาข้างใน พอเดินเข้ามาถึงตัวผมพี่มันก็วางสายผมเลยเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงบ้างก่อนที่หันไปเลือกเลย์ต่อ
“ทำไมซื้อเยอะจัง?” ไอ้พี่เหมถาม
“เพื่อนแม่งใช้”
“อู้งานหรือไงถึงได้โดนใช้มา”
“ใช่ที่ไหนล่ะ แม่งงงงง ผมแค่ลืมว่าพวกมันนัดทำงานวันนี้ พวกมันก็เลยลงโทษผมโดยการให้ออกค่าของกินกับโดนใช้ให้ลงมาซื้อของเนี่ย แล้วห้องแม่งก็อยู่ตั้งชั้นห้า หอก็ไม่มีลิฟท์ เมื่อกี๊ผมก็ลงมาแล้วรอบนึง นี่ก็โดนใช้ลงมาอีกล่ะ” เผลอระบายออกมาให้พี่เหมฟัง พี่มันก็แค่รับฟังยิ้มๆ เอื้อมมือมายีหัวผมเบาๆ
“แล้วมึงลืมวันนัดได้ยังไงล่ะ?”
“ก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“เพราะกู?”
“เพราะมัวแต่…” คิดเรื่องของคุณมึงนั่นแหละครับถึงเลืมเรื่องงานไปซะสนิท…ใครจะไปกล้าบอกว่ะ!
“มัวแต่?”
“ไม่มีอะไร แล้วนี่พี่กำลังจะออกไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ? มายืนคุยกับผมแบบนี้ไม่หิวหรือไง?”
“หิว…แต่เห็นหน้ามึงก็อิ่มแล้ว” มือที่กำลังจะหยิบเลย์รสบาร์บีคิวชะงัก หันไปหาไอ้พี่เหมที่กำลังมองมาที่ผมพร้อมกับยิ้มหล่อมาให้
เออ หล่อจริงนั่นแหละ
แต่เพิ่งรู้ว่าไอ้พี่เหมแม่งก็เล่นมุขเสี่ยวๆแบบนี้เป็นด้วย…แล้วทำไมผมถึงได้เผลอใจเต้นไปกับมุขเสี่ยวๆของพี่มันได้ว่ะเนี่ย!?
“หึหึ ทำหน้าเอ๋อแบบนี้หมายความว่าไงหืม?” ไอ้พี่เหมเอื้อมมือมายีหัวผมอีกครั้ง
“เอ๋ออะไรของพี่ ผมออกจะหล่อ” ผมบอกพร้อมกับปัดมือไอ้พี่เหมออก ซึ่งพี่มันก็ไม่ได้ว่าอะไรยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ครับๆ หล่อครับ” ผมเลิกสนใจไอ้พี่เหมเดินไปดูขนมอย่างอื่นแทน แต่พี่มันก็ยังเดินตามมาอยู่ดี
“พี่จะตามมาทำไมเนี่ย?” ผมหยุดเดินแล้วหันไปถามไอ้พี่เหม
“กูจะไปกับมึง”
“ไปกับผม? ไปไหนอ่ะ?”
“ก็ไปหอเพื่อนมึงไง”
“เฮ้ย! พี่จะไปทำไม?”
“ก็อยากอยู่กับมึง”
ตาย…
ผมนี่แหละตาย…ไอ้พี่เหม! ได้ทีนี่ขยันหยอดกูจัง!
เห็นแบบนี้กูก็อายเป็นนะครับ
“พี่จะไปทำไม พวกผมทำงานกันอยู่นะ”
“จะบอกว่ากูไปรบกวนพวกมึงใช่ไหม?” ไอ้พี่เหมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
เอ่อ…
นี่ไอ้พี่เหมแม่งกำลังน้อยใจผมใช่ไหม?
หึหึ ตลกชะมัด ไม่คิดว่าไอ้พี่เหมก็มีมุมแบบนี้เหมือนกัน
“มึงยิ้มอะไร?” ไอ้พี่เหมถามหน้าบึ้ง
“ก็ตลกพี่นั่นแหละ น้อยใจผมเหรอ?”
“น้อยใจอะไร? เปล่าสักหน่อย”
“แน่ใจเหรอ?”
“เออ”
“คือมันเป็นห้องเพื่อนผมไง จะพาพี่ไปด้วยผมก็เกรงใจมันแถมพี่เองก็ไม่รู้จักกับเพื่อนผมเดี๋ยวจะกลายเป็นพี่อึดอัดขึ้นมาเสียปล่าๆ”
“…”
“พี่เหม…”
“…” ไอ้พี่เหมยังคงเงียบ
“…”
“…”
“เมื่อก่อนตอนที่พี่เอาแต่สนใจเพื่อนผมก็รู้สึกแบบเดียวกับพี่ตอนนี้นี่แหละ” ผมบอก ก่อนที่จะเดินไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์เพราะคิดว่าของในตะกร้าตอนนี้ก็เยอะพอแล้วคงจะพอยาไส้ของพวกมันได้บ้างล่ะ
หมับ…
แต่ไอ้พี่เหมมันรั้งแขนของผมเอาไว้ซะก่อน…
“ขอโทษ…”
ไอ้พี่เหมพูดออกมาเสียงเบา ผมหันกลับไปมองก็พบว่าพี่มันกำลังมองมาที่ผมสายตาแสดงออกถึงความรู้สึกผิด ใบหน้าตอนนี้เป็นใบหน้าที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นจากพี่มัน…
ใบหน้าเหมือนกับคนที่กำลังอ้อนวอนให้ยกโทษให้…
ทันทีที่ผมเห็นใบหน้านั่นใจผมมันก็อ่อนยวบลงอย่างง่ายดาย…
‘มึงรู้ไหมว่ากูรู้สึกผิดมาตลอด…’
คำพูดของไอ้พี่เหมเมื่อสองวันก่อนที่สนามเด็กเล่นย้อนกลับเข้ามาในหัว ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะที่ผมพูดออกไปเมื่อกี๊ก็แค่ก่ะจะพูดตอบกลับไปเล่นๆเพราะเห็นว่าพี่มันที่เอาแต่เงียบแค่นั้นเอง ไม่คิดเลยว่าไอ้พี่เหมมันจะจริงจังขนาดนี้ ผมค่อยๆดึงแขนข้างที่ถูกไอ้พี่เหมจับอยู่ออก พี่มันหน้าเสียพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรผมก็เอื้อมมือไปจับมือของพี่มันเอาไว้ซะก่อน…
ไอ้พี่เหมมองหน้าผม ผมเลยส่งยิ้มไปให้พี่มัน…
“บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้โกรธอะไรพี่…”
“…”
“เพราะฉะนั้นเลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้ว”
“พลัม…” ไอ้พี่เหมกระชับมือผมแน่นขึ้น
ผมยิ้มให้พี่มันอีกครั้งก่อนที่จะจูงมือพี่มันไปจ่ายตังค์ ตอนนี้ไอ้พี่เหมไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆที่เดินตามผมต้อยๆเลยสักนิด
“จ่ายตังค์ให้ผมด้วย” ได้ทีเลยใช้ให้พี่มันจ่ายตังค์แม่งเลย เพราะแค่ขนมรอบเช้ากับที่ลงมาซื้อไปเพิ่มเมื่อกี๊ก็ทำเอากระเป๋าผมแฟบไปหลายร้อยบาท ไอ้พี่เหมมันก็ไม่ได้แย้งอะไรยอมควักกระเป๋าตังค์ขึ้นมาจ่ายให้อย่างงายดาย
“นี่พี่จะไม่แย้งอะไรหน่อยเหรอ?” ถามเพราะเห็นว่าพี่มันยอมจ่ายให้ง่ายเกิน
“อยากให้กูแย้งไหมล่ะ?”
“ไม่อ่ะ” ผมรีบตอบทันที
“หึหึ มึงนี่มัน…”
“ทำไม? ผมทำไม?” แม่งต้องด่าว่าผมเห็นแก่เงินผมแน่ๆ
“…”
“บอกมาสิพี่เหม”
“น่ารักชะมัด…”
ผิดคาด…นอกจากจะไม่ด่าผมแล้วยังพูดอะไรที่ทำให้ใจผมแอบเต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย…
ไอ้พี่เหมมมมมมมม มึงพูดอะไรเกรงใจพนักงานผู้หญิงตรงหน้าด้วย!
แล้วนี่เจ๊จะหน้าแดงทำไม?
กูนี่ควรจะเขิน…แต่แม่งงงงง เขินจริงๆนั่นแหละ
ไอ้พี่เหมวันนี้มึงแอทแทคใส่กูหลายรอบล่ะ
“ฮู้ววววว พูดอะไรของพี่เนี่ย? จ่ายตังค์ไปเลยไป” ไอ้พี่เหมยิ้ม ยื่นตังค์ไปให้กับพนักงาน
“ไอ้พลัม…” ไอ้ป๋วยกระซิบข้างผมเสียงเบาในขณะที่ผมกำลังรวมไฟล์งานที่เพื่อนๆทยอยส่งมาให้แล้วบางส่วน
“ทำไม…พี่เหมคนดังของวิศวะถึงได้มากับมึงได้?”
ผมติดสินใจพาไอ้พี่เหมมาหอไอ้ป๋วยด้วย พอมาถึงห้องพวกมันก็ตะลึงกันไปตามๆกัน ใครจะไปคิดล่ะว่าจู่ๆผมจะพาพี่มันมาด้วย ไอ้พี่เหมพออยู่ต่อหน้าเพื่อนผมพี่มันก็เงียบไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่เอ่ยปากขออนุญาตไอ้ป๋วยเจ้าของห้องเท่านั้น ส่วนไอ้ป๋วยมันก็พยักหน้าแบบเอ๋อๆส่งมาให้ ไอ้พี่เหมแยกตัวออกไปนั่งโซฟาที่อยู่ไม่ไกลจากที่พวกผมสุมหัวทำงานกันมากนัก ไอ้ป๋วยพอเห็นว่าผมแยกตัวออกมาจากไอ้พี่เหมแล้วก็รีบกระโดดมานั่งข้างๆแล้วกระซิบถามทันที
“บังเอิญเจอกัน”
“แล้วเขาก็ตามมึงมาเนี่ยนะ?”
“มึงก็ไปถามพี่มันเองสิ”
“ใครจะไปกล้าว่ะ นิ่งซะขนาดนั้น” ไอ้ป๋วยพูดพลางแอบเหลือบมองไปทางไอ้พี่เหม ผมเองก็เพิ่งจะสังเกตว่าไอ้พี่เหมเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ไม่สนิทพี่มันจะนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดอะไรมากเลยทำให้ดูเข้าหายาก แต่เวลาที่อยู่กับผมพี่มันก็ขยันกวนตีน ขยันหยอดผมจัง ไม่เห็นเหมือนตอนนี้เลยสักนิด ผมเหลือบมองไอ้พี่เหมซึ่งพี่มันก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี มียักคิ้วจึกๆส่งมาให้ผมแล้วก้มลงไปเล่นโทรศัพท์ต่อ
“ไอ้เหี้ย เท่สัด…” ไอ้ป๋วยพูดออกมาเบาๆ มันเองก็เห็นช็อตยักคิ้วเมื่อกี๊
ผมเลิกสนใจไอ้ป๋วยก้มหน้าทำงานต่อ มันเองก็ย้ายกลับที่ไปทำงานของตัวเองเหมือนกัน
พวกเรานั่งทำงานกันไปเงียบๆ มีพูดคุยปรึกษากันบ้างตรงส่วนที่ไม่แน่ใจจนกระทั่งเที่ยงกว่าไอ้ป๋วยก็บ่นหิวจนทุกคนต้องหยุดมือแล้วหาอะไรกินกัน ทุกคนลงความเห็นว่าให้ลงไปซื้อที่ร้านข้าวใต้หอข้างล่างขึ้นมากินข้างบนนี้เพื่อประหยัดเวลาและไม่ยุ่งยากด้วย แต่คราวนี้ไอ้โต๋กับไอ้ปิ๊งมันอาสาลงไปซื้อมาให้ บอกสงสารผมที่ขึ้นลงหลายรอบแล้ว
แหม กูประทับใจจัง…แต่ทีเมื่อกี๊ล่ะสั่งไม่เกรงใจกูเลยนะ…
“พลัม”
ไอ้พี่เหมเรียกผมเลยหันไปมอง พี่มันกวักมือเรียกให้ผมเข้าไปหา ลังเลอยู่แปปนึงก่อนที่จะลุกเดินไปหา
“มีอะไรเหรอพี่?” ผมถาม
“มานั่งนี่มา” ไอ้พี่เหมตบที่นั่งข้างๆตัวเองเป็นสัญญาณว่าให้ผมนั่งลงตรงนี้ ผมเหลือบมองเพื่อนที่เหลืออยู่ในห้อง ไอ้วิทย์กับไอ้แมวกำลังจมอยู่กับหน้าจอคอมของตัวเองส่วนไอ้ป๋วยกำลังมองมาที่ผมกับไอ้พี่เหมแต่ผมหาได้สนใจสายตาของมันหย่อนตัวลงนั่งข้างไอ้พี่เหม
“พี่อึดอัดป่าว?” ผมถามเพราะว่าตั้งแต่พี่มันเข้ามาในห้องไอ้ป๋วยก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย
“ไม่หรอก นั่งดูมึงทำงานเพลินดี”
“ทำเป็นพูดไป มาช่วยผมทำเลย”
“งานมึงไม่ใช่เหรอ?”
“งานผมแต่พี่ก็ช่วยได้นะ”
“เรื่องสิ”
“อะไรว๊า”
“หึหึ ทำๆไป จะเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?” ไอ้พี่เหมหัวเราะเอามือมาบีบจมูกผมเบาๆ
“ฮื่อออ ปล่อยเลย” ผมจับมือไอ้พี่เหมออก พี่มันก็หัวเราะในลำคอเหมือนกับสะใจที่แกล้งผมได้
“อะแฮ่ม!” ไอ้ป๋วยกระแอมไอขึ้นมา พอหันไปมองก็พบว่าไอ้วิทย์กับไอ้แมวที่ตอนแรกจมอยู่กับหน้าจอคอมกำลังมองมาที่ผมกับไอ้พี่เหม ไอ้วิทย์ทำหน้าประหลาดๆเหมือนจะกำลังอึ้งอยู่ก็ไม่เชิง ส่วนไอ้แมวก็ทำหน้าแปลกๆ เหมือนจะเขินๆชอบกล หน้ามันแอบแดงเล็กน้อย ส่วนไอ้ป๋วยนี่ทำหน้าทำตาล้อเลียนส่งมาให้ผมเต็มที่
เดี๋ยวๆ
“พวกมึงเป็นอะไรกัน?” ผมถาม
“เปล๊า!” พวกมันสามตัวตอบพร้อมกันเป็นเสียงเดียว
“ทำหน้าแปลกๆกันนะพวกมึง”
“ทำหน้าแปลกอะไร? พวกกูก็ทำหน้ากันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้วนี่” ไอ้ป๋วยตอบ
มึงนั่นแหละตัวดีเลยไอ้ป๋วย
“ทำไมกูรู้สึกว่ามึงดูเคะขึ้นว่ะไอ้พลัม?” ไอ้แมวบอก
เคะ?
“เคะอะไรของมึงว่ะไอ้แมว?”
“หึหึ” ไอ้พี่เหมหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
“อะไรพี่? เข้าใจที่ไอ้แมวมันพูดเหรอ?”
“เปล่า”
“โกหก บอกมาเลยนะว่ามันหมายความว่าไง”
“ไม่บอก แต่กูเห็นด้วยกับน้องแมวนะ”
น้องแมว?
“ทำไมเรียกไอ้แมวว่าน้องอ่ะ?”
“ก็น้องแมวเป็นน้อง”
“แล้วผมล่ะ?” ทำไมไม่เห็นเรียกน้องเลย…
“มึงก็พิเศษกว่าคนอื่นไง…กูยิ้มแบบนี้ให้มึงคนเดียวนะ” พูดแล้วพี่มันก็ส่งยิ้มที่ไม่ใช้ยิ้มมุมปากหรือแสยะยิ้มแบบที่ไอ้พี่เหมมันชอบยิ้มเป็นประจำ แต่เป็นยิ้มที่ทั้งแววตาและริมฝีปากยิ้มตามไปด้วย
เป็นยิ้มที่สื่อให้รู้ถึงความรู้สึกของไอ้พี่เหมได้เป็นอย่างดี…
‘รัก’ยิ้มของพี่มันทำให้ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆนะ…
“เหี้ยยยย”
“กูเขินแทน…”
เสียงแรกเป็นของไอ้ป๋วย เสียงที่สองเป็นของไอ้แมว ส่วนไอ้วิทย์ไม่ได้พูดอะไรแต่มองจากสีหน้ามันแล้วก็คงจะแอบตะลึงอยู่ไม่น้อย
ส่วนผมน่ะเหรอ?...
นั่งหน้าร้อนอยู่นี่ไง…
ไอ้พี่เหม…มึงขยันอ่อยกูเกินไปไหมสาดดดดดดดดด
แม่งงงงงง เห็นแบบนี้กูก็หวั่นไหวเป็นนะครับ…
TBC. N.EP
------------------------------------------------------------------------->TALKKKKKKKKKKKKK : อ่อย อ่อยเข้าไป อ่อยได้อ่อยดี เดี๋ยวอิพลัมมันก็ยอมเป็นแฟนเองนั่นแหละ
NAY_Y_Story เข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจค่ะ เจอกันตอนหน้าค่า ^^