หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.10 10/05/59 [P.6]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.10 10/05/59 [P.6]  (อ่าน 28445 ครั้ง)

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59
«ตอบ #90 เมื่อ02-04-2016 14:48:16 »

มาแล้วจ้าาาาา หายไปนานเลย ยังมีใครรออิพลัมกับพี่เหมอยู่บ้างไหมเนี่ย?555 ตอนนี้จะเฉลยอดีตอิพี่เหมแล้วน๊าาาา ฝากตอนที่ 7 ด้วยเน้อ ^^




EP.7






Hem Talk :


“…ระหว่างผมกับพี่เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า?”



พลัมถามผม สายตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงใจ สงสัย อยากรู้

ผมยิ้มให้มัน ก่อนที่จะถาม

“อยากรู้เหรอ?”

พลัมไม่ตอบแต่พยักหน้ารัวๆแทน จนผมอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้

“อยากรู้อะไรขนาดนั้น”

“ก็พี่ทำเหมือนรู้จักผมเลยนี่น่า มันก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดานั่นแหละ” พลัมบอกพร้อมกับยัดหมวกกันน็อคใส่มือผมแรงๆคล้ายกับหมั่นไส้

หึหึ

เด็กจริงๆ

ผมแขวนหมวกกันน็อคไว้กับแฮนด์ก่อนที่จะลงมายืนข้างๆรถ มองตรงไปที่พลัม มันเองก็กำลังมองมาที่ผม เราสองคนจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้นพักนึงราวกับว่ากำลังแข่งกันอยู่ว่าใครจะเป็นฝ่ายที่หลบตาก่อน แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายหลุดยิ้มออกมาแล้วเสหน้าหลบออกมาก่อน

“ยิ้มอะไร?” พลัมถาม

“ยิ้มให้มึงนั่นแหละ”

“ยิ้มให้ผม? ยิ้มทำไม?”

“ก็อยากยิ้ม”

“กวนตีน” ผมยกนิ้วชี้หน้าพลัมเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าพูดไม่เพราะกับผม แต่เจ้าเด็กนั่นก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสมองไปทางอื่น

“อยากรู้เหรอ?” ผมเลยไม่ได้สนใจแล้วตั้งคำถามกับมันแทน

“…”

“ว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า…”

“…อื้ม” พลัมตอบออกมาเบาๆ







6 ปีก่อน


ชื่อจริงของผมคือเหมันต์…

ที่บ้านชอบเรียกชื่อจริงมากกว่าที่จะเรียกชื่อเล่น…

ไม่ได้หล่อ หน้าตาดีมีเงินเหมือนในตอนนี้…

เมื่อก่อนผมผอมอย่างคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายหน้าก็เต็มไปด้วยสิวจนมีแต่คนบอกว่าผมอาจจะไม่ใช่ลูกจริงๆของพ่อก็ได้

เพราะพ่อผมหน้าตาดี…

พี่ชายผมเองก็หล่อ…

มีแต่ผมนี่แหละที่หน้าตาด้อยที่สุดในครอบครัว…

เมื่อก่อนนี้ผมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแถบชานเมือง ช่วงนั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ย่ำแย่ของบ้านผมเลยก็ได้ พ่อกับแม่ต่างก็มัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้กัน แถมยังชอบทะเลาะกันบ่อยๆให้ผมเห็นอีกต่างหาก พี่ชายผมก็ดีหน่อยพอขึ้นมหาลัยก็ออกไปอยู่หอเลยไม่ต้องกลับบ้านมาเจอพ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวันแบบนี้

ทุกๆวันพ่อกับแม่จะชอบทะเลาะกันโดยไม่ได้สนใจเลยว่าผมที่เป็นลูกนั้นจะรู้สึกอย่างไร กลับมาจากโรงเรียนก็ไม่มีใครอยู่บ้าน พอตกดึกทั้งคู่กลับบ้านก็จะชอบหาเรื่องมาถกเถียงกันราวกับว่าวันนึงถ้าไม่มีเรื่องเถียงกันสักเรื่องจะนอนไม่หลับ

แรกๆผมก็พยายามที่จะห้ามไม่ให้ทั้งสองคนทะเลาะกันแต่ก็โดนตะคอกใส่กลับมาว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก ช่วงหลังๆมานี้เวลาที่ทั้งสองคนทะเลาะกันผมก็จะปล่อยไป เพราะอีกเดี๋ยวก็หยุดเถียงกันไปเอง



จากตอนแรกที่ผมรู้สึกแย่เวลาที่เห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน มันกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเฉยชาและเคยชิน



ตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่ชั้นม.2พอดี เรียกได้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เกเรียน แอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่โดยที่ไม่ให้พ่อกับแม่รู้

แต่ความลับไม่มีในโลก…

แม่จับได้ว่าผมแอบสูบบุหรี่…

เธอเข้าไปทำความสะอาดห้องของผมแล้วก็เจอเข้ากับบุหรี่ที่ผมแอบซ่อนเอาไว้ วันนั้นทันทีที่ผมกลับมาจากโรงเรียนก็โดนซักเรื่องนี้ซะยกใหญ่จนผมเผลอหลุดปากออกไปอีกว่ากินเหล้าด้วย

“เหมันต์! ทำไมลูกถึงได้ทำตัวเหลวไหลแบบนี้!”

แม่ตะโกนใส่เขาด้วยความโกธร

เขาเองก็อารมณ์ร้อนไม่แพ้ผู้เป็นแม่

“ผมจะทำตัวแบบไหนมันก็เรื่องของผม! แม่จะมาสนใจทำไม!? ปกติก็ไม่เห็นจะสนใจเลยนี่ว่าผมจะเป็นตายร้ายดียังไง วันๆก็เอาแต่ทะเลาะกับพ่อ!”

“เหมันต์!!”

แม่โกธรมาก…

เธอขว้าไม้แขวนเสื้อที่อยู่ใกล้มือที่สุดในตอนนั้นฝาดมาที่ผมทันที…

เพี๊ยะ!

ผมเจ็บจนอยากจะร้องไห้…

แต่คำสอนของพ่อเมื่อสมัยเด็กๆก็ผุดขึ้นมา

‘เราเป็นลูกผู้ชายต้องเข็มแข็ง ห้ามร้องไห้ให้ใครเห็นเด็ดขาด’

ผมได้แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้ แม่ที่เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไปก็รีบปล่อยไม้แขวนทิ้งรีบเขามาดูแขนผมที่ขึ้นแนวไม้แขวนเสื้อแนวใหญ่

เลือดซิบเล็กน้อยตามรอยแนวที่ถูกฝาดลงมา

ถึงแม้ว่าผมจะเคยถูกแม่ตีมาบ้างเพราะความดื้อตามประสาเด็ก…

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่แม่ตีผมด้วยอารมณ์โกธร ไม่ถามเหตผลผมเลยว่าทำไมผมถึงได้ทำตัวแบบนั้น…

ผมรู้ว่าผมทำตัวแย่ เป็นลูกที่ไม่ดี แต่นั่นก็เพราะผมอยากจะให้พวกท่านหันมาสนใจผมบ้าง…

ไม่ใช่เอาแต่ทะเลาะทุกวี่ทุกวันจนลืมไปแล้วว่าบ้านหลังนี้ยังมีผมอยู่อีกคน…

“เหมันต์แม่ขอโทษ…” แม่ลูบที่รอยแนวเบาๆราวกับกลัวว่าผมจะเจ็บ มือของเธอสั่นเทา น้ำตาคลอหน่วย แต่อารมณ์น้อยใจในตอนนั้นทำให้ผมสะบัดมือของแม่ออก หันหลังวิ่งออกไปจากบ้านทันที

“เดี๋ยวก่อนเหมันต์!”

ผมไม่ฟังเสียงเรียกของแม่ วิ่งออกจากบ้านไปให้ได้ไกลที่สุด ไกลเท่าที่จะทำได้…



ผมไม่อยากอยู่แล้วบ้านแบบนี้…



ไม่อยากอยู่แล้ว…



รู้สึกตัวอีกทีผมก็มาอยู่หน้าสวนสาธารณะของหมู่บ้านแล้ว รู้สึกเจ็บแปลบๆที่เท้า พอก้มลงไปมองก็พบว่าตัวเองวิ่งออกมาทั้งที่ไม่ได้ใส่รองเท้า…

แต่วินาทีนั้นผมไม่สนใจหรอกว่าแผลที่เท้าจะเป็นอย่างไร…เพราะตอนนั้นผมเจ็บที่ใจต่างหาก…

หยาดน้ำตาค่อยๆไหลรินออกมาจากดวงตาของผม…นึกน้อยใจในครอบครัวของตัวเอง

ทำไมผมต้องเกิดมาในครอบครัวแบบนี้ด้วย…

หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ มันเหมือนทุกอย่างที่อั้นอั้นมานานได้ปะทุออกมา ผมปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะยกมือเช็ด

ใครจะเห็นน้ำตาผมก็ไม่สนแล้วตอนนั้น…

ขอแค่ให้ผมได้ร้องไห้ออกมาบ้าง…

จึกๆ

แต่จู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนมีใครมากระตุกชายเสื้อนักเรียนของผมเบาๆ พอหันกลับไปก็พบเข้ากับ

ไอ้เด็กข้างบ้าน…

ผมไม่รู้จักมันหรอก รู้แค่ว่ามันเป็นลูกของคนข้างบ้านแล้วก็อายุน้อยกว่าผมปีนึง เคยเห็นมันแค่ไม่กี่ครั้งเอง

ให้ตายสิ…

ทำไมต้องเป็นมันที่มาเห็นผมในสภาพนี้ด้วยนะ…

“พี่เป็นอะไรอ่ะ? ร้องไห้ทำไม?”

“เสือก!” อดไม่ได้ที่จะตะคอกกลับไป ไอ้เด็กข้างบ้านสะดุ้งโหยงตกใจเสียงตะคอกของผม แต่มันก็ยังทำหน้ากวนตีนหยักไหล่อย่างไม่แคร์ เป็นผมเองที่ต้องเดินหนีมัน…

ผมเดินเข้าไปในสวนสาธารณะหย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่งตัวหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่ สายลมเย็นๆที่พัดมาทำให้ใจของผมเย็นลง

“ผู้ชายอะไรขี้แยจัง?”

เสียงไอ้เด็กบ้ายังตามาหรอกหลอน กำลังจะหันไปเอ่ยปากด่าเจ้าตัวกลับรีบกระโดดมานั่งข้างผมแทน

“มานั่งข้างกูทำไม? ลุกออกไป!”

“ไม่”

“อย่าหาว่ากูไม่เตือน” ผมกดเสียงลงเผื่อหวังให้มันจะกลัวแล้วยอมทำตาม แต่แทนที่มันจะกลัวแบบที่ผมหวังเอาไว้มันกลับยิ้มใส่ผมซะงั้น

“ผมไม่กลัวหรอก…”

“…”

“เพราะหน้าตาของพี่ตอนนี้มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด…”

“…”

“พี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่แบบนี้…แล้วผมจะไปกลัวพี่ได้ยังไง?” ไอ้เด็กข้างบ้านยิ้มให้ผมเหมือนกับเข้าอกเข้าใจผมดี จนผมเผลอโมโหขึ้นมาจนเผลอตะโกนใส่ไอ้เด็กข้างบ้านที่นั่งอยู่ข้างๆ

“อย่างมึงจะมาเข้าใจอะไรกู! บ้านมึงรักกันดีนี่! ลองมาเป็นกูสิ! แล้วมึงจะไม่พูดแบบนี้!”

พอพูดเสร็จก็ได้สติ ผมไม่ควรจะมาพาลแบบนี้…

เด็กนี่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย…

ลูบหน้าลูบตาให้อารมณ์เย็นลงแล้วเอ่ยปากขอโทษไอ้เด็กข้างบ้านที่ดูจะเสียขวัญที่ผมโมโหใส่

“ขอโทษ…กูไม่ควจจะมาพาลใส่มึง…”

“มะ…ไม่เป็นไร ผมเองก็ผิดที่ทำเหมือนรู้ดี…ผมน่ะได้ยินบ่อยๆนั่นแหละ…เวลาที่บ้านพี่ทะเลาะกัน”

“…”

“แม่บอกไม่ให้ไปสนใจ แต่ผมก็อดไม่ได้…เวลาที่ผมเห็นพี่เดินออกจากบ้านด้วยสีหน้าที่อมทุกข์แบบนั้นผมอยากจะเข้าไปคุยกับพี่ บอกว่าผมยังเป็นเพื่อนคุยให้พี่ได้นะ…”

“…”

“แต่ผมก็ไม่กล้า…ได้แต่คอยดูพี่อยู่ห่างๆ แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเห็นพี่ร้องไห้…ปกติต่อให้พี่ถูกดุถูกว่ามาแบบไหนพี่ก็ไม่เคยร้องไห้…”

“…”

“ผมเลยตัดสินใจได้ทันทีว่าวันนี้แหละจะต้องเข้าไปคุยกับพี่ให้ได้”

ไอ้เด็กข้างบ้านมันลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินมายืนอยู่ตรงหน้าผม…แล้วค่อยๆเอื้อมมือมารั้งตัวผมเข้าไปกอด…



ทันใดนั้นน้ำตาที่เคยหยุดไหลไปแล้วก็พลั่งพลูออกมาอีกครั้ง…



ผมร้องไห้…แต่กลับไม่มีเสียงสะอื้น…



“ร้องออกมาให้พอเลยนะพี่…แล้วหลังจากนี้พี่ต้องสัญญากับผมว่าจะไม่ร้องไห้อีก…”

ไอ้เด็กข้างบ้านลูบหลังเขาเบาๆเหมือนเป็นการปลอบ

ผมซุกหน้าลงกับหน้าท้องของไอ้เด็กข้างบ้าน

ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ…

ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกไม่ชอบใจมัน…แต่ก็อยากจะขอบคุณมันไปในคราวเดียวกันด้วย…

ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันในเวลาแบบนี้…









“พี่ต้องไปขอโทษแม่ของพี่ด้วยรู้ไหม”

ไอ้เด็กข้างบ้านที่ถามชื่อมาแล้วว่าชื่อพลัมบอกกับผมขณะที่เราสองคนกำลังเดินกลับบ้าน สรุปแล้วผมก็นั่งร้องไห้เป็นเด็กๆให้เด็กพลัมคอยปลอบซะนาน กินเวลาไปก็เกือบสองชั่วโมง

“ทำไมกูต้องขอโทษด้วย?”

“เอ้า! ก็พี่ทำให้เขาเป็นห่วง ก็ต้องไปขอโทษเขาสิ”

“เขาน่ะเหรอจะมาเป็นห่วงกู?” ถามไอ้เด็กพลัมพร้อมกับยิ้มสมเพชให้ตัวเอง

“เป็นห่วงสิ ท่านน่ะพยายามจะวิ่งตามพี่นะ แต่วิ่งไม่ทันผมเลยวิ่งตามมาแทนไง” พลัมบอก ส่งยิ้มมาให้ผม

น่าแปลกที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ผมยังรู้สึกไม่ชอบในรอยยิ้มของมันอยู่เลย…

แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มที่ไอ้เด็กพลัมส่งมาให้นั้นเป็นกำลังใจให้กับผมได้เป็นอย่างดี…

“ก็ได้…”

“หืม?”

“กูขะไปขอโทษแม่”

“ดีมากๆ” ไอ้เด็กพลัมตบหลังผมปุบๆ จนผมต้องโบกหัวมันไปทีนึง

พลั่ก!

“โอ๊ย!"

“ลามปามนะมึง”

“แหะๆ”

เราสองคนเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่รั้วบ้านผม…มองเข้าไปในตัวบ้านก็พบกับรถเก๋งของพ่อ…

แม่คงจะโทรบอกพ่อสินะ…

ถ้าแค่แม่คนเดียวผมยังพอจะสู้หน้าไหว…แต่ถ้าพ่ออยู่ด้วย…

“ไม่เป็นไรพี่…ผมยังอยู่ข้างๆพี่นะ”

เสียงไอ้เด็กพลัมดังขึ้นข้างตัวทำให้ผมต้องหันไปมอง สายตามันส่งกำลังใจมาให้ผมจนผมต้องยิ้มน้อยๆส่งไปให้มัน

“มึงกลับบ้านไปได้แล้ว…”

“แต่…”

“กูไม่เป็นไรหรอกเชื่อใจกูสิ”

“…”

“กูสัญญากับมึงแล้วไงว่าจะไม่ร้องไห้อีก”

“…ก็ได้”

ไอ้เด็กพลัมตอรับเสียงละห้อยค่อยๆหันหลังเดินกลับบ้านไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองผมอยู่ดี จนผมต้องโบกมือไล่มันนั่นแหละถึงได้ยอมเข้าไปในบ้านดีๆ



ถึงเวลาที่ผมต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวของตัวเองแล้วสินะ…



“เหมันต์! ลูกหายไปไหนมา? แม่เป็นห่วงแทบแย่”

แม่รีบโผเข้ามากอดผมทันทีที่ผมเดินเข้ามาในบ้าน เหลือบมองไปทางด้านหลังแม่ก็เห็นพ่อนั่งตีหน้าขรึมอยู่บนโซฟา

“เมื่อกี๊เจ็บไหมลูก? ฮึก แม่ขอโทษนะ”

แม่ผละออกจากอ้อมกอดถามผมด้วยสีหน้าห่วงใย หยดน้ำตาไหลออกมาทั่วใบหน้าที่แก่ชราไปตามกาลเวลาความห่วงใยของแม่ส่งผ่านมาจนผมรู้สึกได้

นี่ผมมองข้ามสิ่งสำคัญไปได้ยังไง…

น้ำตาพาลจะไหลอีกครั้ง แต่ก็สัญญากับไอ้เด็กพลัมเอาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้อีกเลยพยายามกลั้นเอาไว้

“เหมขอโทษนะครับแม่…”

ผมบอกแม่พร้อมกับยกมือขึ้นพนมกราบลงไปบนอกของท่าน

“เหมันต์…”

“เหมขอโทษ…ที่เป็นลูกที่ไม่ดีของแม่กับพ่อ…”

“…”

“ขอโทษสำหรับที่ผ่านมา…ทุกๆอย่าง”

“...”

“ขอโทษจริงๆครับ”

แม่คว้าตัวผมเข้าไปกอดแน่น น้ำตาของแม่ซึมลงมาบนไหล่จนผมรู้สึกได้

“แม่เองก็ต้องขอโทษเหมันต์เหมือนกัน แม่…ฮึก แม่เองก็เป็นแม่ที่ไม่ดี” ผมซุกหน้าลงกับไหล่บางของแม่ นานแค่ไหนแล้วนะที่แม่ไม่ได้กอดผม…

นานจนผมลืมไปแล้วว่ากอดจากครอบครัวเป็นอย่างไร…

“เหมันต์”

เสียงพ่อเรียกดังขึ้นมา

แม่ผละกอดออกแต่น้ำตายังคงไม่หยุดไหลจนผมต้องเอื้อมมือไปเกลี่ยให้ท่านเบาๆ

“หยุดร้องได้แล้วครับแม่”

“ฮึก เหมันต์ แม่ขอโทษจริงๆนะลูก”

“ครับ”

ผมตอบรับคำแม่ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆพ่อบนโซฟา



เพี๊ยะ!



“คุณตบลูกทำไม!?”

ผมยกมือขึ้นกุมใบหน้าซีกซ้ายที่โดนพ่อตบ นึกน้อยใจพ่อขึ้นมาชั่ววูบแต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองท่านก็ต้องชะงัก

บนใบหน้าของพ่อเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา…

พ่อที่ไม่เคยร้องไห้ให้ผมเห็นเลยสักครั้ง…

กำลังร้องไห้ต่อหน้าผม…

“คราวหลังอย่าหุนหันออกไปแบบนั้นอีก! ถ้าเกิดแกเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะทำยังไง!?”

“…”

“พ่อกับแม่เป็นห่วงแกมากนะรู้ไหม!?”

สภาพของพ่อตอนนี้ยังสวมสูทเต็มยศอยู่เลย…แสดงว่าท่านต้องรีบขับรถมาทันทีที่แม่โทรไปบอก…

“ขอโทษ…ขอโทษครับพ่อ…”

ยกมือกราบลงไปที่อกของพ่อด้วยอีกคน

พ่อคว้าตัวผมเข้าไปกอดก่อนที่ท่านจะพูดต่อ

“คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ พ่อเป็นห่วงแกมากรู้ไหม…”

“ครับ…”

“เหมันต์…”

“ครับ?”

“ที่ผ่านมาพ่อขอโทษนะ…พ่อเองก็เป็นพ่อที่แย่…วันๆเอาแต่ทำงานจนละเลยต่อครอบครัว”

“…”

“จนมารู้สึกตัวก็ตอนที่แม่โทรไปบอกว่าแกหุนหันออกจากบ้านไปนั่นแหละ…”

“…”

“ตอนนั้นหัวใจของพ่อตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เอาแต่คิดว่าถ้าแกเป็นอะไรขึ้นมาพ่อจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย…”

“…”

“พ่อขอโทษจริงๆนะ…”

“ฮึก แม่ก็ด้วย”

แม่เขามาสวมกอดผมด้วยอีกคน



นี่ผมทำอะไรลงไป…ทั้งๆที่ผมมีครอบครัวที่รักผมถึงมากมายขนาดนี้อยู่แล้ว…



แต่กลับเอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง ตัดพ้อ หาว่าพวกท่านไม่รัก ไม่สนใจผมจนเผลอทำในสิ่งที่แย่ๆลงไป



ถ้าวันนี้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น…



ถ้าวันนี้ผมไม่ได้เจอกับไอ้เด็กพลัม…



ผมก็คงจะไม่ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่ไม่ได้สัมผัสมานานแบบนี้…



ต้องขอบคุณมึงจริงๆนะ ไอ้เด็กพลัม…






หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันน้อยลงพวกท่านเปลี่ยนมาใช้เหตุผลคุยกันแทนการเอาแต่ตะคอกกันไปมา จนช่วงหลังๆพวกท่านก็ไม่เคยทะเลาะกันอีกเลย พอชายผมที่ทราบเรื่องก็ดีอกดีใจใหญ่ เพราะพี่มันเองก็อยากให้พ่อแม่เลิกทะเลาะกันได้สักที พักหลังๆมานี้พี่มันถึงกลับบ้านมากินข้าวที่บ้านบ่อยขึ้นจนพ่อกับแม่ยิ้มหน้าบานเพราะปกติแล้วพี่ชายผมมันจะไม่ค่อยกลับมาบ้านสักเท่าไรเหตุผลก็เพราะพ่อกับแม่เอาแต่ทะเลาะกันนั่นแหละ

ส่วนผมกับไอ้เด็กพลัมหลังจากนั้นก็เจอกันเกือบทุกวัน ผมพามันมาแนะนำให้พ่อกับแม่แล้วก็พี่ชายรู้จักจนมันกลายเป็นลูกรักของบ้านผมไปอีกคน เข้าออกบ้านผมได้ราวกับบ้านของตนเอง

ถึงแม้ว่าผมจะเรียนคนละโรงเรียนกับไอ้เด็กพลัม แต่แทบจะทุกวันหลังเลิกเรียนไม่ผมก็ไอ้เด็กพลัมจะต้องไปหมกอยู่บ้านใครคนใดคนหนึ่ง ไม่เล่นเกมส์ ก็อ่านการ์ตูน ดูบอลตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไป แต่จนถึงทุกวันนี้มันก็ยังไม่รู้ชื่อเล่นของผม เพราะที่บ้านจะเรียกผมด้วยชื่อจริง ส่วนชื่อเล่นส่วนใหญ่เพื่อนผมจะเป็นคนเรียกซะมากกว่าแถมมันก็ยังไม่เคยเจอเพื่อนผมเลยด้วย

ผมก็ไม่ได้อยากจะปิดบังนะ…

แต่ผมก็ชอบเวลาที่มันเรียกผมว่า ‘พี่เหมันต์’ ซะด้วยสิ

ผมสนิทกับมันจนกระทั่งรู้ว่ามันชอบแล้วก็ไม่ชอบอะไร

สนิทจนกระทั่งกลายเป็นรักไปเมื่อไรก็ไม่รู้…



ผมรักไอ้เด็กพลัม…


ผมไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง…

รู้แค่ว่าผมรักมันมากๆ มันเป็นคนที่ช่วยให้ชีวิตของผมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง…

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ผมไม่อยากจะให้อภัยตัวเองเกิดขึ้น…

ตอนนั้นผมขึ้นชั้นม.3แล้ว ส่วนไอ้เด็กพลัมก็อยู่ม.2 ช่วงนั้นผมกำลังติดเพื่อนสุดๆ เพื่อนชวนเที่ยวไหนผมไปหมด แต่ก็ไม่ได้กลับไปกินเหล้าสูบบุหรี่อีกเพราะผมสัญญากับครอบครัวเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำอีก พ่อบอกว่าไว้รอให้อายุถึงก่อนค่อยว่ากัน

มีอยู่วันหนึ่งที่เพื่อนในกลุ่มมันชวนไปเที่ยวหัวหินกันยกกลุ่มเพราะเห็นว่าใกล้จะเรียนจบแล้วเลยอยากจะไปเที่ยวด้วยกันสักครั้ง
ผมตื่นเต้นมาก…

ผมไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบค้างคืนกับเพื่อนมาก่อน ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นและดีใจมากเกินไปจนไม่ทันได้สังเกตุท่าทีที่เปลี่ยนไปของไอ้เด็กพลัม…

ช่วงนี้ไอ้เด็กพลัมดูซึมๆ พูดน้อยลง แถมยังมาบ้านผมบ่อยขึ้นแต่ว่าผมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไรเพราะชอบไปหมกอยู่บ้านเพื่อนอีกคนมากกว่า

ผมได้คุยกับมันน้อยลงจากที่อาทิตย์นึงเจอกันเกือบทุกวันกลับกลายเป็นว่าเจอกันแค่ครั้งสองครั้ง

จนกระทั่งก่อนวันเดินทางไปหัวหิน…

ไอ้เด็กพลัมมันมาหาผมที่บ้าน ตอนนั้นผมก็มัวแต่ยุ่งกับการจัดกระเป๋าอยู่เลยไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายนักบอกให้มันนั่งรอในห้องนั่นแหละ

“มึงมาหากูมีอะไร?” ผมถามพร้อมกับจัดกระเป๋าไปด้วย ไอ้เด็กพลัมมันไม่ยอมเข้ามาในห้องหยุดยืนอยู่แค่ประตูห้องนอนของผม

“พี่เหมันต์…”

“หืม?”

“คือ…ผมมีเรื่องจะบอกพี่…”

“อะไรเหรอ?”

“คืออีกสองวัน-”


Rrrrrrrr Rrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นขัดจังหวะ ผมมองหน้าไอ้เด็กพลัมเป็นเชิงว่าขอรับโทรศัพท์ก่อน มันก็พยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงอนุญาติ
พอรับก็ปรากฏว่าเป็นเพื่อนของผมในกลุ่มคนนึงมันอยากให้ผมไปเป็นเพื่อนซื้อของเตรียมเดินทางพรุ่งนี้ด้วย ผมก็ตกลงไปเพราะเห็นว่ากระเป๋าของตัวเองก็จัดใกล้เสร็จแล้ว

“เมื่อกี๊มึงจะพูดว่าอะไรเหรอ?” ผมถามไอ้เด็กพลัมหลังจากที่วางสายแล้ว

“…”

“หืม ว่าไง?”

“เปล่าครับ…”

“เอ้า มึงหนิ อ้ำๆอึ้งๆแล้วก็บอกว่าไม่มีอะไร งั้นเอาไว้ค่อยคุยกันก็แล้วกัน เดี๋ยวกูจะออกไปห้างอยากกินอะไรไหม? เดี๋ยวซื้อมาฝาก”

ไอ้เด็กพลัมส่ายหน้า ผมเลยเดินไปกอดคอมันพาเดินลงไปชั้นล่างหลังแล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกมันก็กลับบ้านของมันไปส่วนผมก็นั่งรถออกไปหาเพื่อนที่ห้างตามที่นัดกันไว้

วันรุ่งขึ้นผมก็ออกเดินทาง

ตลอดทริปการเที่ยวนี้ผมสนุกมาก
 
พวกผมใช้เวลาในการเที่ยวทั้งหมดสามวัน พอวันที่สามก็นั่งรถตู้กลับบ้านกัน

พอกลับถึงบ้านก็รีบเอาสัมภาระไปเก็บแล้วหยิบของฝากที่ซื้อมาจากหัวหินก่ะว่าจะเอาไปให้ไอ้เด็กพลัมแต่ก็สวนเข้ากับแม่ที่กำลังออกมาจากห้องครัวพอดี

“อ้าวเหมันต์จะรีบไหนล่ะลูก?”

“จะรีบเอาของฝากไปให้พลัมมันน่ะแม่” ผมตอบ

“นี่เหมันต์ยังไม่รู้เหรอ?”

“เรื่องอะไรเหรอครับแม่?”

“ก็บ้านของน้องพลัมเค้าย้ายบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว น้องพลัมไม่ได้บอกลูกเหรอ?”



ทันทีที่ได้ยินคำพูดของแม่ เหมือนกับเวลาได้หยุดเดินไปชั่วขณะ



ผมยืนนิ่งหัวใจหวูบโหวง ภาวนาให้แม่พูดล้อเล่นกับเขา



“พลัม…ย้ายบ้านไปแล้วเหรอครับ?...”

“ใช่จ่ะ เห็นน้องพลัมบอกว่าเพราะงานของทางบ้านเลยทำให้ต้องย้ายไป แต่ก็ยังอยู่ในกรุงเทพนี่แหละแต่น้องพลัมเขาก็ไม่ได้บอกว่าย้ายไปอยู่ตรงไหนนะ”

แต่คำภาวนาของผมก็ไม่ได้เป็นจริง เมื่อแม่ยืนยันมาอีกครั้ง ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองวิ่งออกไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่หน้ารั้วบ้านพลัม มองเข้าไปก็ไม่เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่เคยวางอยู่หน้าบ้านแล้วเป็นสัญญาณตอกย้ำให้ผมรู้ว่าพลัมย้ายบ้านไปแล้วจริงๆ



‘พี่เหมันต์…’

‘หืม?’

‘คือ…ผมมีเรื่องจะบอกพี่…’

‘อะไรเหรอ?’

‘คืออีกสองวัน-’



คำพูดของไอ้เด็กพลัมเมื่อสามวันที่แล้วย้อนกลับเข้ามาในหัว

ทำไม…

ทำไมตอนนั้นผมถึงไม่ฟังในสิ่งที่พลัมมันกำลังจะพูด…

ทำไมผมถึงไม่ได้สังเกตุเลยว่าหมู่นี้ไอ้เด็กพลัมมันดูแปลกไป…

ทำไมผมถึงไม่ได้สังเกตุเลย…



ว่าวันนั้นไอ้เด็กพลัมมันทำหน้าเศร้าขนาดไหน…



“เหมันต์…”

เสียงแม่ดังขึ้นเบาๆข้างตัวผม ท่านคงจะวิ่งตามผมออกมา

“เหมันต์…ร้องไห้ทำไมลูก…”

ฝ่ามืออุ่นของแม่ลูบใบหน้าของผมเบาๆ ตอนนั้นเองที่ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าน้ำตาตัวเองกำลังไหล…

“แม่…ผมมันแย่มาก…พลัมพยายามจะบอกผม แต่ผมไม่ได้ใส่ใจจะฟังเค้า…”

“เหมันต์ไม่ผิดหรอกลูก น้องพลัมเค้าก็คงจะไม่ได้ว่าอะไรเหมันต์หรอก”

“ผม…”

“…”

“…อยากเจอพลัม”

อยากเจอมากจริงๆ…

อยากเจอ อยากคุยด้วย อยากขอโทษที่ไม่ได้ฟังมันสิ่งที่มันอยากจะพูด…

กูขอโทษนะพลัม…

ขอโทษที่ผิดสัญญากับมึง…

สัญญาที่ว่ากูจะไม่ร้องไห้อีก แต่ตอนนี้กูห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้จริงๆ…








หลังจากที่พลัมย้ายบ้านไปได้ไม่นานบริษัทของพ่อผมก็ประสบความสำเร็จใหญ่โตจนกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ พวกเราสามคนย้ายออกจากบ้านหลังนั้นมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่กว้างขวางกว่าเดิม

แต่ผมก็ไม่เคยมีความสุขเลย…

หลังจากนั้นก็ผ่านมา 5 ปี ผมกับพลัมก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย แต่ในใจของผมไม่เคยลืมมันได้เลยสักวัน พยายามจะมองหามันท่ามกลางผู้คนมากมายในกรุงเทพ แต่ก็ไม่เคยได้เจอ…

ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย…

แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่ามันจะมีความบังเอิญเกิดขึ้น

จนกระทั่งผมขึ้นมหาวิทยาลัยปีสอง

คำปราถนาของผมก็เป็นจริง…

วินาทีที่ผมเห็นมันมาตะโกนบอกรักหน้าลานวิศวะ ผมจำมันได้ทันที…

แม้ว่ามันจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ตาม…

แต่ผมก็ไม่เคยลืมใบหน้าของคนที่มอบชีวิตใหม่ให้ผม ใบหน้าของคนที่ผมรักมาตลอด 5 ปี…

แต่พลัมมันจำผมไม่ได้…

ก็ไม่แปลกหรอก ผมเปลี่ยนไปมาก พอขึ้นม.ปลายผมก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้นจนตอนนี้ผมหล่อขึ้น สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าแค่ปีสองปีก็อาจจะพอจำได้บ้าง แต่ผมกับมันไม่ได้เจอกันถึง 5 ปีเต็ม แถมมันก็ไม่รู้จักชื่อเล่นผมด้วย มันจะจำผมไม่ได้ก็ไม่แปลก แต่ใจมันก็แอบหวังให้มันจำผมได้บ้างสักนิดก็ยังดี

ส่วนพลัมมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย พลัมมันก็ยังเป็นพลัมอยู่วันยังค่ำ…



ผมตัดสินใจแล้ว…



คราวนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยให้มันหายไปจากชีวิตของผมอีกเด็ดขาด…



ผมขอสัญญาเลย…






TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->






TALKKKKKKKKKKKKK : บอกตรงๆเลยค่ะว่าไม่ถนัดเขียนดราม่า555 ต้องเข้าใจเนอะว่าตอนนั้นพี่เหมยังเด็กเลยเผลอทำตัวไม่ดีลงไป ขี้น้อยอกน้อยใจ5555 อดีตของพี่เหมก็เปิดเผยออกไปแล้วจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรต่อไปน๊าาาา รอติดตามกันต่อไป

เรื่องนี้คงมีแค่สิบกว่าตอนจบดังนั้นเนื้อเรื่องหรือความสัมพันธ์ของตัวละครมันอาจจะดำเนินเร็วไปบ้าง อาจทำให้เสียอรรถรสในการอ่านนิดหน่อย ต้องขออภัยคนอ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ช่วงนี้ก็จะอัพช้าหน่อยงานเยอะมากจริงๆค่ะ
ช่วงนี้คนเขียนต้องสตรอง!555


NAY_Y_Story

แปะเพจจ้า เข้าไปกดถูกใจ ติดตาม พูดคุย หรือทวงนิยายได้ที่เพจนี้เลยเน้อ

เจอกันตอนหน้าค่าาาา ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2016 16:35:47 โดย NAY_nay »

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #91 เมื่อ02-04-2016 15:06:15 »

นี่ขนาดไม่ถนัดเขียนดราม่าน้ำตาเรายังไหลเลย อ่อนไหวง่ายเหลือเกินเรา ฮือออออ พี่เหมสมัยก่อนนี่แบบ... เราก็เข้าใจอารมณ์ประชดพ่อแม่นะ สงสารพี่เหมมม แต่พี่ยังโชคีมากนะคะที่พี่ได้เจอน้องพลัมแล้วพ่อกับแม่พี่ก็รักพี่มากจริงๆ ทุกอย่างมันเลยดีขึ้นได้แบบนี้ แต่เราว่าพี่ก็ทำตัวเองอ่ะ ไม่สนใจน้อง เป็นไงล่ะ พอเสียเขาไปก็เพิ่งมาเสียใจ นี่พี่มีโอกาสอีกครั้งแล้วก็รักษาน้องพลัมไว้ดีๆนะคะ คราวนี้ถ้าหลุดมือไปอีกพี่อาจจะไม่ได้คืนแล้วนะคะ  :mew6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #92 เมื่อ02-04-2016 15:07:06 »

แล้วพี่เหมจะบอกน้องไหมนี่ หรือจะพยายามกระตุ้นให้น้องนึกได้แทน

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #93 เมื่อ02-04-2016 15:36:11 »

น้ำตาไหลกับอดีตของพี่เหมเลย  :hao5:

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #94 เมื่อ02-04-2016 15:55:43 »

ชีวิต ดราม่า มากค่ะพี่เหม

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #95 เมื่อ02-04-2016 15:55:59 »

อดีตผ่านไปแล้ว....เริ่มต้นใหม่นะ...พี่เหมันต์ เอาใจช่วยคะ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #96 เมื่อ02-04-2016 16:00:37 »

พี่เหมก็เคยมีอดีตที่น่าสงสารเหมือนกัน แต่ห่างหายกันไป 5 ปี  พี่เหมคงต้องหาทางกระตุ้นให้น้องพลัมจำพี่เหมันต์ให้ได้เร็วๆ

แนะนำว่าพี่เหมคงต้องต้องลองเรียกตัวเองว่าพี่เหมันต์ เผื่อน้องมันจะระลึกได้   

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #97 เมื่อ02-04-2016 16:02:02 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #98 เมื่อ02-04-2016 19:58:28 »

เริ่มใหม่พี่เหม จีบน้องพลัมให้ติดนะ :ped149: :ped149:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #99 เมื่อ02-04-2016 21:08:32 »

ซึ้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
« ตอบ #99 เมื่อ: 02-04-2016 21:08:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #100 เมื่อ02-04-2016 22:05:32 »

อ่านตอนนี้น้ำตาจะไหล  :mew4:  พี่เหมมมมมมมมม เชียร์พี่ละค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #101 เมื่อ02-04-2016 23:18:29 »

ปัญหาครอบครัวพี่เหมแก้ได้ด้วยน้อง(แบบโครตอ้อมๆ)


แอบดีใจ~

ออฟไลน์ Lonelyนู๋โรนลี่

  • ฉุด กระชาก ลากถู พาเข้า.....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #102 เมื่อ03-04-2016 01:05:13 »

โอโหพี่เหมมม
เปลี่ยนไปขนาดนั้น ก็ไม่แปลกหรอกจำไม่ได้อยู่แล้ว
ถ้าพลัมรู้จะน้อยใจไหมเนี่ย ตอนนั้นพี่เหมไม่ฟังนี่นาา

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #103 เมื่อ03-04-2016 03:56:49 »

 :mew3:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #104 เมื่อ03-04-2016 06:04:31 »

สุดยอดเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #105 เมื่อ03-04-2016 08:43:41 »

แบบนี้จีบให้ติดไว้ๆ นะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #106 เมื่อ03-04-2016 12:11:48 »

น้องพลัมเด็กชายข้างบ้านนิเอง

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #107 เมื่อ03-04-2016 13:51:40 »

 :hao5:

ออฟไลน์ daadaadaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #108 เมื่อ03-04-2016 17:28:52 »

สงสารพี่เหมในอดีตมากๆ
หวังว่าพลัมจะจำพี่เหมได้

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #109 เมื่อ04-04-2016 10:24:29 »

เขามีอดีตร่วมกันแบบนี้นี่เอง โหยยยย พี่เหมจะบอกพลัมไหมอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
« ตอบ #109 เมื่อ: 04-04-2016 10:24:29 »





ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.7 02/04/59 [P.4]
«ตอบ #110 เมื่อ04-04-2016 20:47:28 »

พี่เหมต้องง้อน้องน่ะตัวเองติดเพื่อนจนลืมน้องเองช่วยไม่ได้ 5555ถือว่าที่น้องจำตัวเองไม่ได้เป็นบทเรียนและการเอาคืนเล็กๆแล้วกันเน๊อะ

ออฟไลน์ NAY_nay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #111 เมื่อ05-04-2016 01:26:04 »

มาแล้วจ้าาาา สั้นๆค่ะตอนนี้ เป็นตอนปรับความเข้าใจกัน ไปอ่านกันได้เล๊ย ^^




EP.8





“พี่เหม…”

“…”   

“พี่เหม”

“…”

“ไอ้พี่เหม!”

ผมตะโกนเรียกไอ้พี่เหมเสียงดังเมื่อเห็นว่าพี่มันนิ่งไปไม่ยอมบอกอะไร ท่าทางพี่มันดูเหม่อๆ คิดอะไรอยู่ว่ะ?

“ว่าไง?”

“ยังจะมาถามอีก ตกลงพี่กับผมเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า? แล้วพี่เป็นอะไรจู่ๆก็เงียบไป”

ไอ้พี่เหมยิ้มให้ผม

วันนี้พี่มันเป็นอะไรว่ะ? จะยิ้มบ่อยเกินไปล่ะ

“พลัม…”

“?”

“กูดีใจชะมัด…”

“อะไรของพี่?” ยิ้มให้ผมแล้วก็มาบอกว่าดีใจเนี่ยนะ!? พี่มึงเมากาวหรือเปล่าครับ?

หมับ!

“เฮ้ย! ทำไรของพี่เนี่ย!?”

จู่ๆไอ้พี่เหมมันก็ดีงตัวผมเข้าไปกอด พยายามจะพลักออกแต่ก็ไม่เป็นผล พี่มันกอดผมแน่นมาก…

แล้วคือแบบตอนนี้มันเป็นช่วงเย็นพอดีไง เป็นช่วงที่คนเค้ากำลังออกจากหอไปหาอะไรกินกันพอดีดังนั้นการที่ไอ้พี่เหมมันยืนกอดผมอยู่นี่เลยกลายเป็นเป้าสายตาให้คนที่ผ่านมาผ่านไปมองกันสนุกเลย

“พี่เหม…ปล่อยผมก่อน คนเค้ามอง”

“ก็ปล่อยให้มองไปสิ”

โฮ่ย! ทำไมพี่มึงหน้าด้านจังครับ

“ไม่เอา ปล่อย-”

“กูกับมึงเคยรู้จักกันมาก่อน” ไอ้พี่เหมกระซิบเสียงเบาข้างหูผมทำให้ผมที่กำลังจะเอ่ยปากบอกให้พี่มันปล่อยชะงักทันที

“…จริงเหรอ?” ผมถาม

“อื้ม”

ไอ้พี่เหมถอดกอดออกไป ก่อนที่จะถามออกมา

“ไปเดินเล่นกันหน่อยไหม?”

ไม่ต้องรอให้ผมตอบไอ้พี่เหมก็จับมือผมแล้วออกแรงดึงให้เดินตามไปด้วยกัน เราเดินกันไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นจนกระทั่งพี่มันพาผมไปแวะตรงสนามเด็กเล่นเล็กๆที่อยู่ในละแวกนั้น มีเด็กที่กำลังเล่นอยู่ในนั้นประมาณสี่ถึงห้าคน ไอ้พี่เหมจูงมือผมไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งที่ไม่ไกลจากชิงช้ามากนัก พี่มันนั่งลงผมก็เลยนั่งลงตาม

โดยที่พวกเรานั้นยังไม่ได้ปล่อยมือออกจากกัน…

“เมื่อกี๊ที่พูดหมายความว่ายังไงเหรอ?” เป็นผมที่อดถามออกมาไม่ได้ เพราะไอ้พี่เหมมันเอาแต่มองไปข้างหน้าไม่คิดจะพูดอะไรเลยสักคำ

“ก็ตามที่ได้ยินนั้นแหละ”

“ตอนไหนเหรอ? พี่บอกได้หรือเปล่า?” ผมถามเพราะนึกไม่ออกจริงๆว่าเคยรู้จักกับไอ้พี่เหมตอนไหน

“…ตอนที่กูกำลังแย่ล่ะมั๊ง แล้วตอนนั้นมึงก็เข้ามาช่วยกูเอาไว้ได้พอดี”

“…”

“ถึงแม้ว่ามึงแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็เถอะ”

“อ้าว”

ยังไงว่ะ? ไหนพี่มันบอกว่าผมเคยช่วยมันไว้ แต่ก็บอกว่าผมแทบไม่ได้ทำอะไร งงสัดๆ?

“แต่คำพูดกับรอยยิ้มของมึง…”

“…”

“เคยช่วยกูเอาไว้จริงนะ”

“คำพูด? รอยยิ้ม?”

“หึหึ นึกไม่ออกจริงๆเหรอ?”

“ก็นึกไม่ออกนี่ไงถึงได้ถาม”



เป๊าะ!



“โอ๊ย!”

ไอ้พี่เหมมันดีดหน้าผากผม! อะไรของพี่มัน? นี่กูทำอะไรผิดครับ?

“พี่ดีดหน้าผากผมทำไมเนี่ย?” ถามพร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ

“อยากดีด”

ฟวยยยยยยย!

“งั้นถ้าผมอยากต่อยพี่มั่งคงจะไม่เป็นไรสินะ”

“ลามปามนะมึง”

กึก!

คุ้น…

ทำไม…จู่ๆผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเคยได้ยินประโยคแบบนี้มาก่อนเลยนะ…

หรือไอ้พี่เหมมันจะเคยพูดกับผมมาก่อน?

“เป็นอะไร?” ไอ้พี่เหมถามเมื่อเห็นว่าผมเงียบไป

“พี่เคยพูดประโยคอะไรทำนองนี้กับผมหรือเปล่า?”

ไอ้พี่เหมชะงัก และถ้าผมไม่ได้ตาฝาดไปเมื่อกี๊ผมเห็นแววตาของพี่มันแสดงออกถึงความดีใจออกมาวูบหนึ่ง…

“อื้ม กูเคยพูดกับมึง”

“จริงเหรอ? ทำไมผมจำไม่ได้เลยว่ะ?”

“ไม่แปลกหรอก ก็กูเปลี่ยนไปมาก”

“งั้นพี่ก็บอกมาสักทีสิว่าเราเคยรู้จักกันได้ยังไง” ผมบอกเพราะเห็นว่าไอ้พี่เหมมันไม่ยอมพูดวามจริงออกมาสักมี อ้อมไปอ้อมมาอยู่นั่นแหละ

“กูกลัวมึงจะโกรธกู…ถ้ามึงรู้ความจริง”

ไอ้พี่เหมพูด สีหน้าไม่ได้ยิ้มอีกต่อไป…แต่กลับแสดงออกถึงความกังวล…

“หึหึ พี่เคยทำอะไรไม่ดีกับผมไว้หรือไง?” พยายามพูดติดตลก บีบมือพี่มันเบาๆเพื่อให้พี่มันคลายความกังวลลง

“มึงยังจำผู้ชายที่ชื่อเหมันต์ได้ไหม?”



เหมันต์…



อย่างงั้นเหรอ?...



ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ…



พี่ชายข้างบ้านที่ผมอยากเป็นเพื่อนด้วยมาโดยตลอด…คอยเป็นห่วงพี่เค้าเวลาที่ครอบครัวของเขาทะเลาะกัน เพราะเวลาที่ครอบครัวของเค้าทะเลาะกันนั้น พี่เหมันต์จะทำหน้าเศร้า…แววตาของเขาไม่สดใสจนผมอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้…

“พี่จะบอกว่า…”

“…”

“พี่คือ..."

"..."

"พี่เหมันต์?”

“ใช่แล้วล่ะ”

“…”

“ชื่อจริงของกูคือเหมันต์”

“พี่ล้อผมเล่นหรือเปล่า?...”   

“กูไม่ได้โกหก”

“ล้อเล่นแบบนี้ผมโกรธนะพี่เหม”

ก้มหน้าหลบสายตาของไอ้พี่เหม รู้สึกได้เลยว่าเสียงของตัวเองกำลังสั่น ความทรงจำเมื่อห้าปีที่แล้วย้อนกลับมาในหัวราวก็เครื่องเล่นที่ถูกกรอกลับ



ตอนนั้น…



ผมรู้สึกดีกับพี่เหมันต์มากๆ…

ผมก็บอกไม่ถูกหรอกว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร…

รู้แค่ว่าผมเป็นห่วงพี่มันเวลาที่ครอบครัวของเขาทะเลาะกัน…

รู้สึกดีที่พี่มันมันยิ้มให้…

รู้สึกดีเวลาที่พี่เหมันต์ลูบหัว…

รู้สึกน้อยใจที่พี่มันให้ความสนใจกับเพื่อนมากกว่าผม…

ผมเพิ่งมาเข้าใจเอาตอนหลังว่าความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า…

ผมอาจจะชอบพี่เหมันต์ไปแล้วก็ได้…

แต่รู้ตัวว่าชอบแล้วยังไงล่ะ? ยังไงผมกับพี่มันก็ไม่มีทางมาเจอกันได้อีกอยู่ดี…ผมเลยพยายามมองข้ามความรู้สึกนั้นไปแล้วหันมาสนใจผู้หญิงแทน และมันก็ได้ผล…

ผมลืมความรู้สึกนั้นไปได้และเริ่มมีแฟนตอนม.5 ซึ่งนั่นก็คืออิ้ง แน่นอนว่าผมกับอิ้งจบกันไม่สวย แต่ก็ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้ผมลืมความรู้สึกชอบนั้นไปได้



แต่ตอนนี้…



ความรู้สึกนั้นกลับถูกดึงกลับขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อเหมันต์…



“กูไม่ได้ล้อเล่น” พี่เหมย้ำ

“...”

“พลัม…”

“จริงเหรอ?...”

“…”

“พี่คือพี่เหมันต์จริงๆเหรอ?”

“อื้ม”

“…”

“มึงโกธรกูหรือเปล่า…ที่ตอนนั้นกูไม่ได้สนใจฟังในสิ่งที่มึงกำลังจะบอก ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของมึงเลย…”

ยอมรับว่าตอนนั้นผมรู้สึกแย่มาก…พี่เหมันต์ที่ปกติจะรีบกลับบ้านมาเล่นกับผมติดเพื่อนจนแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่บอกว่าครอบครัวของเรากำลังจะย้ายบ้าน…ผมช็อคมากตอนที่ได้ยินแม่บอก



ไม่อยากจากกับพี่เหมันต์…



นั่นเป็นความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมา…แต่ผมก็แย้งอะไรไม่ได้จึงพยายามไปบ้านพี่เหมันต์บ่อยๆเพราะอยากจะอยู่กับพี่มันให้นานขึ้น แต่กลับไม่เจอ…

เพราะพี่มันเอาแต่ไปอยู่ที่บ้านเพื่อน…

เจอหน้ากันทีก็กลายเป็นแค่คำทักทายถามไถ่กันแค่นั้น…

จนกระทั่งก่อนที่พี่เหมันต์จะเดินทางไปเที่ยวหัวหินซึ่งตรงกับวันที่ผมย้ายบ้านพอดี ผมพยายามที่จะไปบอกพี่เค้าแต่พอเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูตื่นเต้น ดีใจของพี่เหมันต์ที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนนั้น



ผมก็บอกไม่ลง…



เพราะเรื่องของผมมันอาจจะทำให้พี่เหมันต์หมดสนุกก็ได้…



“ผม…ไม่ได้โกธรพี่เลย…”

ใช่…ผมก็ไม่เคยโกธรพี่มันเลย…เพราะผมก็เป็นฝ่ายผิดเองด้วยที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพี่เหมันต์ตั้งแต่แรกแถมยังจากมาโดยที่ไม่ได้บอกลาเลยสักคำ

“…”

และยิ่งพอห่างกันแล้วผมกลับรู้สึก

คิดถึง…

“แต่ผมรู้สึกคิดถึงพี่เหมันต์มากๆเลยต่างหาก…”

“พลัม…”

“ผมได้แต่คิดว่าทำไมตอนนั้นผมถึงไม่ยอมบอกพี่ไปนะ…”

“…”

“ถ้าผมบอกพี่ออกไป…บางทีตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้จากกันแบบนี้ก็ได้”

“…”

“แต่ก็ได้แต่คิดไง พราะมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว…”

“…”

“ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาเจอพี่อีกครั้ง…พี่เหมันต์”

ไอ้พี่เหมค่อยดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้งและคราวนี้ผมก็ไม่ได้พลักออกแต่อย่างใด…

“กูขอโทษนะ…ที่ตอนนั้นทำตัวไม่ดีกับมึง”

“…ก็จริงนั่นแหละ”

“หึหึ มึงรู้ไหมว่ากูรู้สึกผิดมาตลอด…”

“…”

“ตอนที่เห็นมึงอีกครั้งตอนที่มาสารภาพรักกับกูตอนนั้นกูดีใจโคตรๆ อยากจะเข้าไปคว้าตัวมึงมากอดแบบนี้แต่ทำไม่ได้ เพราะกูรู้ว่ามึงคงจำกูไม่ได้หรอก” พี่เหมพูด ผมแอบยิ้มกับคำพูดของพี่มัน

“พี่หล่อขึ้นตั้งเยอะ…”

“หึหึ”

“มิน่าล่ะว่าทำไมพี่ถึงตอบตกลงคบกับผมง่ายๆ ตอนนั้นเล่นเอาผมงงไปหมด”

“ตอนนี้ก็หายงงแล้วไง”

“ปล่อยผมได้แล้ว”

ไอ้พี่เหมยอมปล่อยผมง่ายๆ แต่ก็มิวายคว้ามือผมมากุมเอาไว้เหมือนเดิม ปลายนิ้วเรียวยาวของพี่มันเกลี่ยมือผมเล่นเบาๆ ผมมองไปที่มือของผมกับไอ้พี่เหมที่จับกันอยู่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะพยายามทำเป็นไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ในใจลึกๆของผมมันก็ร่ำร้อง…

…ว่าต้องการเจอกับพี่เหมันต์อีกครั้ง

ไม่คิดว่าบทจะเจอก็เจอได้ง่ายๆ



ทั้งตกใจ…



และก็ดีใจชะมัด…



“นี่พลัม…” เสียงไอ้พี่เหมเรียก ผมเลยหันไปมองก็พบว่ามันกำลังมองมาที่ผมอยู่

“หืม?”

“มึงพอจะรู้ความรู้สึกของกูที่มีต่อมึงใช่ไหม?”

“…”

“แล้วมึงล่ะรู้สึกยังไงกับกู?”

“ผมเอง…ก็ยังไม่รู้หรอก…ถึงแม้ว่าเราจะเคยรู้จักกันมาก่อนแต่นั่นมันก็นานมากแล้วนะ ถ้าในฐานะพี่เหมไม่ใช่ฐานะพี่เหมันต์ ผมเองก็เพิ่งจะรู้จักพี่ได้แค่อาทิตย์กว่าเอง”

“ก็จริงของมึง”

“แต่ว่านะ…ที่ผมยอมให้พี่จีบ…ยอมให้จับมืออยู่แบบนี้ อีกไม่นานผมก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับพี่ก็ได้”

“หึหึ อย่าพูดให้ความหวังกูสิ”

“เปล่าสักหน่อย”

เพราะผมเองก็เคยชอบพี่ต่างหากล่ะ ความรู้สึกเมื่อตอนนั้นมันยังไม่ได้หายไปจากใจของผมหรอกนะ…

“กลับกันได้แล้วมั๊งพี่ นี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว”

ผมบอก ไอ้พี่เหมก็พยักหน้าตกลงก่อนที่จะเดินมาส่งผมที่หน้าหอเหมือนเดิม พอมาถึงหอพี่มันค่อยยอมปล่อยมือของมันออกจากมือผม

“พลัม” พอผมจะหันหลังเดินขึ้นหอไอ้พี่เหมก็เรียกเอาไว้อีก

“หืม?”

“กูรักมึงนะ”

“พะ พูดอะไรของพี่เนี่ย!?”

จู่ๆไอ้พี่เหมก็บอกรักผมเล่นเอาผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่รีบเดินเข้าไปเอามือปิดปากพี่มันไว้ แต่ไอ้พี่เหมก็เอามือของผมที่ปิดปากตัวเองอยู่ออก ก่อนที่จะพูดต่อ



“มึงเองก็รีบๆรักกูได้แล้ว”



ไอ้พี่เหมพูดยิ้มๆพร้อมกับเอามือลูบหัวผมเบาๆ แล้วผละออกเดินตรงไปที่รถของตัวเองแต่ก็ยังหันมายิ้มให้ส่งท้ายก่อนที่จะสตาร์ทรถขับออกไป ปล่อยให้ผมยืนนิ่งไม่ได้ขยับไปไหนพร้อมกับใบหน้าที่เห่อร้อนจนตัวเองยังรู้สึกได้

นี่ผมต้องหน้าแดงแน่ๆเลย…

ไอ้พี่เหมใครใช้ให้มึงแอทแทคใส่กูวววววววว!




TBC. N.EP ------------------------------------------------------------------------->





TALKKKKKKKKKKKKK : ตอนนี้สั้นมากกกกก พอดีคนเขียนง่วงนอนมาก เบลอๆ แต่ก็อยากแต่งให้จบตอนเลยไม่อยากค้าง ก็เลยได้ออกมาเท่านี้ เป็นตอนปรับความเข้าใจไปแล้วกันเนอะ5555 ตอนนี้ก็เฉลยความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายไปแล้วนะคะ ตอนต่อๆไปทั้งสองก็จะเริ่มสวีทวีดวิ้ว(คือไร?)กันมากขึ้น555

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงตอนล่าสุด เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนออกมาได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ อาจจะยังออกมาได้ไม่ดีเท่าไรนักแต่คนเขียนก็จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ กราบงามๆอีกสักครั้ง U.U


NAY_Y_Story

แปะเพจ

เจอกันตอนหน้าค่าาาา ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2016 00:16:38 โดย NAY_nay »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #112 เมื่อ05-04-2016 01:52:38 »

ใจตรงกัน

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #113 เมื่อ05-04-2016 07:01:21 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #114 เมื่อ05-04-2016 08:46:08 »

รับรักพี่เหมเร็ว ๆ นะ  :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #115 เมื่อ05-04-2016 08:53:53 »

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #116 เมื่อ05-04-2016 08:57:55 »

นั่นนนน น้องพลัมไปไหนไม่รอดแน่ๆ มาเจอกับรักแรกทั้งที่ยังลืมเขาไม่ลงแบบนี้อ่ะ แอร๊ยยยยย พี่เหมคะ รุกเต็มสปีดได้เลยค่ะ ฮืออออ นี่คือให้ความหวังมากๆ พี่เหมไปไหนไม่รอดแน่ๆ ความจริงเขาก็ยังรักกันอยู่เนอะ พัดอีกนิดถ่านไฟเก่าก็ลุกพรึ่บ 555555 เราไม่ต้องกังวลแล้วมั้งคะว่าพี่เหมจะไม่ได้ใจน้องไป แต่น้องพลัมควรแก้แค้นพี่เหมอีกเล็กน้อยนะคะที่ตอนนั้นกล้าเมินน้องได้ อิอิ แต่ตอนนี้เรามีความสุขอ่ะค่ะ ดีใจที่เขาจำเรื่องที่ผ่านมาได้กัน ฮือออออ แบบนี้ไม่ใช่เนื้อคู่แลวจะเป็นอะไรร  :mew3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #117 เมื่อ05-04-2016 10:17:45 »

อ่านทีเดียว 4ตอนรวด แอร๊ยยยย ฟินเว่อร์
ในที่สุดน้องพลัมก็จำพี่เหมได้แล้ว  :-[

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #118 เมื่อ05-04-2016 11:55:52 »

พลัมยอมเป็นแฟนพี่เค้าเถอะ 555

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: หัวใจ ♥ ไวต่อรัก : EP.8 05/04/59 [P.4]
«ตอบ #119 เมื่อ05-04-2016 12:56:37 »

พี่เหมบอกรักไปแล้วอะ อิย๊ะะะะ เขิลลลลล

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด